ตอนที่ 24 : ความสุขตรงนี้
ปัณณ์คลี่ยิ้มบาง เมื่อเห็นสายตาของกลุ่มเด็กสาวโต๊ะข้างๆ ความสนใจในตัวพายุมองเห็นชัดเจน
“ยิ้มอะไร”
“ไม่มีอะไร”
“บอกมาเร็ว”
“จะอยากรู้ไปทำไม”
“ก็กูอยากรู้ว่าอะไรทำให้มึงยิ้มได้ กูหรือเปล่า” พายุใช้สายตาล้อเลียนคนรัก
“จะว่าใช่ก็ใช่” ปัณณ์ยักคิ้ว ก่อนใช้สายตาส่งไปยังโต๊ะข้างๆ เพื่อบอกเป็นนัย “น้องเขามองมึง”
“หึงกูเหรอ” คนถามตาวาววับ รอยยิ้มร้ายกาจแตะแต้มที่มุมปาก
“หึงทำไมวะ กูไม่ได้ปัญญาอ่อน”
พายุถอนใจเสียงดัง ทำหน้าเซ็ง “มึงมีแฟนหล่อ มึงควรหึง”
“มึงจะบอกว่ากูไว้ใจมึงไม่ได้ว่างั้น” ปัณณ์ยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม ไม่มีความรู้สึกอย่างที่พายุถามแม้แต่น้อย
“ เฮ้ย! ไม่ใช่” พายุรีบแก้ตัว “มึงไว้ใจกูได้”
“มึงเจ้าชู้”
“กูเปล่า” เสียงคนเคยเจ้าชู้อ่อย
“แน่ใจนะ กูให้มึงตอบใหม่” ปัณณ์เอนหลังพิงพนัก จ้องตาคนทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“เฮ้อ” พายุถอนใจยาว “รักเพื่อนสนิทมีข้อเสียอยู่ข้อเดียว แม่งรู้ทุกอย่าง”
ปัณณ์หัวเราะเบาๆ ขำสีหน้าของอีกฝ่าย
“แต่กูพูดจริงนะ ที่ผ่านมากูอาจดูไม่จริงจังกับเรื่องนี้ มันเป็นเพราะกูยังไม่เคยรักใครจริง”
“มึงอย่าคิดจะบอกรักกูในร้านกาแฟ”
“เห็นมะ กูบอกแล้วว่ารักเพื่อนสนิทมันไม่ดีอย่างนี้ รู้ทันกูไปหมด”
“ฮ่าๆ” ปัณณ์หัวเราะดังขึ้น เมื่อเห็นสีหน้าของพายุ เจ้าตัวทำหน้าเซ็งขั้นสุด ที่พูดเกริ่นนำมาอย่างดีแต่ถูกเขาขัดคอ
“มึงไม่ชอบให้คนตามหึงไม่ใช่เหรอ แบบนี้ไม่ดีหรือไง”
“ใช่กูไม่ชอบ และใช่กูเคยคิดว่ามันดี แต่ตอนนี้สงสัยกูจะเป็นโรคจิต ถึงอยากให้มึงหึงสักนิดก็ยังดี”
“มึงอยากให้กูตามติดมึงทุกชั่วโมง อยากให้กูเช็คโทรศัพท์มึงหรือไงวะ” ปัณณ์พูดถึงข้อเสียของการหึงหวง เผื่อพายุจะลืมไป
พายุล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกง หยิบโทรศัพท์ออกมาวางลงตรงหน้าปัณณ์ “มึงอยากเช็คก็ตามใจ กูไม่มีความลับกับมึง”
“กูไม่เช็ค” ปัณณ์ผลักโทรศัพท์คืน
“ส่วนเรื่องตามติด ถ้ามึงตามกูจริงจะถือเป็นพระคุณมาก”
“ไอ้บ้า มึงก็พูดเกินไป” ปัณณ์หมดคำพูด เขาทำเสียงดุแต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยความสุข สัมผัสได้ถึงความรักจากคำพูดและสายตาที่พายุสื่อออกมา เพราะแบบนี้เขาถึงไม่เคยหึงหวงพายุเลย
“ใครวะ” ปัณณ์ละสายตาจากหนังสือบนชั้นหันไปมอง เห็นพายุขมวดคิ้วเข้าหากัน จ้องมองหน้าจอโทรศัพท์
“มีอะไรเหรอ”
“ไม่รู้ใครแอดมา ชื่อแปลกๆ หน้าก็ไม่คุ้น กูไม่รู้จัก” พายุส่งโทรศัพท์ให้ปัณณ์ดู
“ก็ลองถามดู” ปัณณ์พูดเสียงเรียบ สีหน้าปกติ
“ไม่ล่ะ กูไม่รู้จัก” พายุเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า “มึงเลือกหนังสือต่อเถอะ เดี๋ยวกูเดินรอ”
“มึงไปร้านอื่นก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวเสร็จแล้วกูโทรถาม”
“ดูไปเถอะ มึงดูหนังสือ ส่วนกูจะดูมึง ไม่เบื่อเหมือนกัน”
ปัณณ์อดหน้าแดงไม่ได้ พายุอาจไม่รู้ แต่ใจของเขาพองโตเสมอ เมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้ของอีกฝ่าย การแสดงออกถึงความรักแม้จะเล็กน้อยแค่ไหนก็ทำให้คนถูกรักอิ่มเอิมใจได้ ไม่มีใครเบื่อฟังหรอก รวมถึงเขาด้วย
“สวัสดีครับ” ปัณณ์เผลอเงี่ยหูฟัง เมื่อโทรศัพท์ของพายุดังขึ้นหลังจากผ่านไปไม่นาน
“เพื่อนของปุ๊ก? อ๋อครับ”
“ครับ ผมเห็นแล้ว”
“ไม่ได้ลืมกดครับ แต่ผมขอถามแฟนนิดว่าอนุญาตให้รับแอดไหม” ปัณณ์ก้มหน้าซ่อนยิ้ม
“ครับ สวัสดีครับ” พายุหัวเราะขำเมื่อฝ่ายโน้นรีบปฏิเสธบอกว่าไม่ต้องก็ได้ ก่อนวางสายไป
“สงสัยจะกลัวมึงไปเอาเรื่อง”
“กูจะไปเอาเรื่องทำไม”
“ครับคุณแฟน กูรู้แล้วว่ามึงไม่หึง” พายุลูบหัวปัณณ์ ยิ้มให้ทั้งปากและตา “อย่าสนใจเลย มึงเลือกหนังสือต่อเถอะ เดี๋ยวไม่ทันไปดูหนัง”
“อืม” ปัณณ์พยักหน้า หันกลับมาใช้เวลากับหนังสือตรงหน้า ในสมองไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้อีกเลย เขาไว้ใจพายุ
“นาราทางนี้” ปัณณ์ยกมือโบกเรียก เมื่อเห็นนาราเดินเข้ามาในร้าน พวกเขานัดทานข้าวมื้อเย็นด้วยกัน
“มากันครบทีมเลย” นารานั่งลง ส่งยิ้มให้กับทุกคน
“นัดเจอนาราใครจะไม่มา” นนท์ส่งยิ้มตาหวาน แต่ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อมือใหญ่ทาบลงบนต้นคอ
“สบายดีกันนะ”
“สบายดี แล้วนาราเป็นไงบ้าง” ปัณณ์ถามด้วยความเป็นห่วง ถึงเรื่องจะผ่านมาได้สักพักแล้ว
“เราสบายดี เดี๋ยวนี้ก็ห่างๆ กันแล้ว” นาราไม่เอ่ยชื่อ แต่ทุกคนรู้ดีว่าหมายถึงใคร “แต่ที่โทรนัดออกมาเนี่ย นอกจากจะคิดถึงแล้ว เรามีเรื่องจะบอก”
“เรื่องอะไรเหรอ” นนท์ตาโต ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ที่จะบอกก็คือ..” นาราหยุดพูด มองปัณณ์ด้วยรอยยิ้มซนๆ “คือปัณณ์ตกกระป๋องแล้วนะ”
“เอ๋” นนท์ทำหน้างง หันไปมองปัณณ์ ก่อนอุทานออกมา “นาราจับได้ว่าไอ้พายุมีคนอื่นเหรอ”
“คนอื่นพ่องสิ” นนท์หัวคะมำเมื่อเจ้าของชื่อยื่นมือมาผลักหัวแรงๆ
“ร้อนตัว กูว่าจริงแน่ๆ” นนท์กล้าพูดแต่ไม่กล้าสู้ ขยับตัวไปใกล้ไผ่ ให้มั่นใจว่าจะมีเกราะกำบัง
“ไม่ใช่ ไม่ใช่” นารารีบปฏิเสธ อมยิ้มเขิน หน้าขึ้นสีแดงเรื่อ “เรามีคนที่ชอบแล้ว”
“จริงเหรอนารา!” ปัณณ์ยิ้มกว้าง ตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้ยิน
“อืม จริง”
“เล่าเลยนารา” นนท์เร่ง เรื่องแบบนี้ต้องสัมภาษณ์
“ไม่มีอะไร หลังๆ พอไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกับเอย เราก็เลยห่างๆ กับเพื่อนคนอื่นด้วย พี่เขาคงเห็นว่าเราดูเหงาๆ เลยเข้ามาทัก” คนเล่าเขินจนหน้าแดง
“พี่เขา รุ่นพี่ซะด้วย” นนท์พลอยตื่นเต้นไปด้วย
“อืม ชื่อพี่อาร์ม อยู่ปีสี่แล้ว คณะเดียวกัน”
“นาราแอบชอบเหรอ พี่เขารู้หรือยัง” นนท์ยังเป็นผู้สัมภาษณ์ต่อไป
“พี่อาร์มชอบเราก่อน แต่เราก็ชอบเหมือนกัน”
“ดีใจด้วยนะนารา” ปัณณ์พูดด้วยความจริงใจ
“ขอบใจ”
“อย่าลืมพามาเจอ นาราต้องพาแนะนำให้คนในกลุ่มรู้จัก ถ้าไม่ผ่านจะบังคับให้เลิก” ปัณณ์พูดติดตลก เขาอยากให้นารารู้ว่ายังมีเพื่อน มีคนที่สนใจและเป็นห่วงนาราจริงๆ
“ได้เลย” นารายิ้มกว้าง เธอเข้าใจความหมายของปัณณ์
“ยินดีด้วยนะ” พายุพูดขึ้นบ้าง “ต่อไปผมจะได้ไม่ต้องหึงนาราอีก”
“แหม” คนพูดลากเสียงยาว ส่งสายตาค้อนพายุ “มาหึงอะไรเรา เราชอบปัณณ์ก่อนแท้ๆ ยังไม่พูดเลย”
“หึๆ เรื่องนี้ผมไม่ขอโทษนะ”
“ดูนะปัณณ์ ดูพายุพูดกับเรา” นาราหันไปฟ้อง แกล้งทำสีหน้างอน
“อย่าไปสนใจเลย สั่งอะไรมาทานดีกว่า นาราอยากกินอะไรผมเลี้ยงเอง”
“เย่ ปัณณ์น่ารักที่สุด” นารายื่นมือไปจับมือปัณณ์ ได้ยินเสียงกระแอมกระไอจากคนนั่งข้างๆ เรียกเสียงหัวเราะจากเธอได้
“ขี้หวงจริงๆ “ นาราเอามือออก หันไปแลบลิ้นใส่พายุ ปัณณ์มองด้วยรอยยิ้ม เขาเป็นห่วงนาราอยู่มาก เห็นแบบนี้ค่อยสบายใจ
“ขอโทษนะคะ มีลูกค้าฝากมาให้ค่ะ” พนักงานยื่นกระดาษใบเล็กให้พายุ ชี้มือไปยังโต๊ะที่ตั้งอยู่ไม่ห่าง ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มส่งยิ้มให้โดยไม่หลบ
“โห ผู้หญิงเดี๋ยวนี้น่ากลัวจัง”
“นาราก็เป็นผู้หญิง” ไผ่หัวเราะ เมื่อได้ยินคำพูดของผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม
“เราลืมตัว” นารายิ้มเขินเมื่อโดนทัก
“เขียนว่าอะไรวะ” นนท์ชะโงกหน้าไปดูกระดาษในมือของพายุ “สมัยนี้ไวสมกับเป็นสี่จี ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลง เบอร์กับไลน์มาเลย”
“มึงนี่ไม่ลดลงเลย” ไผ่โคลงศีรษะ
“มึงพูดดีๆ ไอ้ไผ่ กูอยู่ของกูเฉยๆ” พายุร้อนตัว
“โห พายุเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยเหรอ” นาราทำตาโต “กลัวอะไร ปัณณ์ออกจะใจดี”
“ไม่ได้กลัว แค่เกรงใจ”
“จ้า”
“เอาไงวะ สาวเจ้ายังมองมาอยู่เลย” นนท์เหลือบตาไปมอง
“ไม่เอาไง กูยิ้มขอบคุณไปแล้ว ไม่ตอบก็สิ้นเรื่อง”
“เฮ้อ จีบผู้ชายสักคน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ เล่นตัวกันสุดๆ”
“เดี๋ยว เอาไงกันแน่นารา เมื่อกี้ยังบอกสมัยนี้ผู้หญิงน่ากลัวอยู่เลย” นนท์อดขำไม่ได้
“นั่นแหละ เราเคยจีบผู้ชายมาก่อนไง เลยเข้าใจ” นาราใช้หางตามองปัณณ์ ให้รู้ว่าเธอหมายถึงใคร
“อย่ามองผมแบบนั้น” ปัณณ์ยิ้มกว้าง รู้ว่านาราแกล้งแหย่เล่น
“หยุดคุยก่อน เดินมาแล้ว” นนท์รีบบอก เมื่อเห็นหญิงสาวคนดังกล่าวเดินตรงมาที่โต๊ะ
“โห ใจกล้าสุดๆ” นาราพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนรีบปิดปากเมื่อคนที่พูดถึงหยุดยืนอยู่ข้างโต๊ะ
“สวัสดีค่ะ” เสียงกังวานใสมาพร้อมกับรอยยิ้มหวาน
“สวัสดีครับ” พายุทักทายกลับ เห็นชัดว่าหญิงสาวต้องการทักทายเขา
“ชื่อครีมนะคะ เป็นเจ้าของกระดาษแผ่นเมื่อกี้”
“ครับ” พายุตอบรับสั้นๆ
“ครีมพนันไว้กับเพื่อนว่าถ้าชวนคุณไปนั่งที่โต๊ะได้ มื้อนี้ครีมไม่ต้องจ่าย ช่วยหน่อยได้ไหมคะ” รอยยิ้มที่หญิงสาวส่งให้พายุชวนหลงไหลไม่น้อย
สีหน้าของคนในโต๊ะแตกต่างกันออกไป นาราตาโต ไผ่กับนนท์ยิ้มขำ ขณะที่ปัณณ์มองนิ่ง เขารอฟังจนจบก่อนคลี่ยิ้มออก มองหญิงสาวที่ยืนอยู่
“คงไม่ได้ครับ”
“คะ?” สายตาถูกเปลี่ยนมามองที่เขาแทน
“ผมพูดว่าให้ไปไม่ได้ครับ”
“ทำไมคะ” คนถามมีสีหน้างงงัน
“เพราะแฟนไม่อนุญาตครับ ผมไม่ให้ไป” ปัณณ์พูดด้วยน้ำเสียงปกติ ใบหน้าติดรอยยิ้ม แต่คนฟังหุบยิ้ม หน้าเสีย ก้าวถอยหลังสองสามก้าวออกห่างจากพายุ
“อ่า..ขอโทษด้วยค่ะ” จากสีหน้า ปัณณ์เดาว่าเรื่องมีแฟนคงไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เรื่องที่เขาเป็นผู้ชายต่างหากที่ทำให้อีกฝ่ายหน้าเสีย
“ไปก่อนนะคะ”
“ครับ”
“เจ๋งที่สุดเลยปัณณ์” นาราชอบใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“อะไรมึง หึงเหรอ” นนท์แหย่เพื่อน เขาไม่เคยเห็นปัณณ์เป็นแบบนี้มาก่อน
“อืม หึง” ปัณณ์พยักหน้า หางตาเห็นคนที่นั่งเคียงข้าง ยิ้มจนหน้าบาน
“ปัณณ์มันรักกู”
“เอาใหญ่นะมึง ขี้อวดฉิบหาย” นนท์มองค้อนเพื่อนด้วยความหมั่นไส้
“ต่อไปนี้กูห้ามไม่ให้มึงแจกเบอร์แจกไอดีไลน์กับใคร เข้าใจไหม” ปัณณ์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใช้สายตาดุๆ มองพายุ
“ครับผม” สายตาของพายุเป็นประกาย สีหน้ามีความสุขจนเขาแอบลอบยิ้ม
ปัณณ์ไมได้หึง เขาไม่มีความรู้สึกนั้นแม้แต่น้อย แต่เพื่อตอบแทนสิ่งที่พายุทำให้ เขาจึงอยากแสดงออกให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาก็รักเช่นกัน การเอาใจเขามาใส่ใจเรา ให้ความสำคัญกันบ้าง ทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่รู้ว่าอีกฝ่ายชอบ ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย เมื่อเทียบกับสีหน้ามีความสุขของพายุแล้ว ปัณณ์คิดว่ามันคุ้มค่า
“ปัณณ์”
“หือ”
“กูรักมึง”
“แค่กๆ แม่ง! มึงจะมาบอกอะไรกันตอนนี้” เสียงนนท์โวยวายลั่นโต๊ะ ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของทุกคน
ปัณณ์ยิ้มบาง ความรักเป็นเรื่องของใจก็จริง แต่การกระทำก็สำคัญไม่น้อย การแสดงออกว่ารักจะทำให้ความรักยิ่งเติบโต ดูแลความรู้สึกของกันและกัน นั่นคือสิ่งที่ปัณณ์ต้องการทำ ความสุขเกิดขึ้นได้ทุกที่ ตรงนี้ก็เช่นกัน
✪✣✤✥✦TBC✥✤✥✦✧✪
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin