แปง Mode :“ไอ้แปงมึงจะโทรไปปลุกกูตื่นมามหา’ลัยทำไมแต่เช้าวะ กูได้ข่าวว่าเรียนสิบโมงเหอะ”
“มึงจะบ่นให้ได้อะไรขึ้นมา ไหนๆมึงก็มาแล้ว”
“กูรู้ แต่กูไม่เข้าใจว่ามึงจะรีบมาทำไม เอ...หรือว่ามารอดักเจอใคร...”
“ดะ...ดักรอใครอะไร ทำไมกูต้องมาดักรอใคร”
“หึหึ มีความลับอะไรที่ยังไม่ได้บอกกูรึเปล่าไอ้แปง...”
“ความลับอะไรของมึง...ไม่มี๊ ไม่มี” เสียงจะสูงไปไหนวะกู
“เหรอ...อ้าวเฮ่ย นั่นพี่ไทม์นี่หว่า”
“ไหน!” เอิ่ม...นี่กูพลาดแล้วใช่มั้ย!
“ฮ่าๆๆ หันขวับเชียวนะมึง แล้วบอกไม่มีอะไร ถุย”
“ไอ้เหี้ย! หลอกกู”
“ช่วยไม่ได้ อยากปากแข็งมีความลับกับเพื่อนเอง...จะบอกให้เอาบุญนะว่าเรื่องมึงน่ะกูรู้หมดแล้ว”
“ได้ไง!”
“แม่มึงบอกกูเองแหละ”
“...แล้วมึง...คิดว่าไง...”
“กูก็ไม่รู้นะว่ามึงตัดสินใจอะไรไปแล้ว แต่กูก็จะบอกอะไรให้อย่างนึงเป็นข้อมูลเสริมเผื่อมึงยังไม่รู้ พี่ไทม์น่ะเค้าแอบชอบมึงมาตั้งนานแล้วแหละ”
“แล้วมึงรู้ได้ไง...”
“มึงคงไม่สังเกต ไม่สิ มึงน่ะเป็นประเภทไม่เคยสังเกตอะไรอยู่แล้ว เลยไม่รู้ล่ะสิว่าเมื่อช่วงเทอมที่แล้วพี่ไทม์น่ะจะมานั่งอยู่หน้าตึกคณะเราแทบทุกวันเลยแหละ ตอนแรกกูก็ไม่รู้หรอกนะว่าพี่เค้ามาทำอะไร แต่มีอยู่วันนึงพี่เค้าเดินมาถามกูเรื่องมึง กูเลยถึงบางอ้อว่าที่แท้เค้ามานั่งมองเพื่อนกูนี่เอง”
“...ทำไมกูไม่เห็นรู้เรื่องเลยวะ แล้วก็มึง ทำไมไม่บอกกู”
“ก็บอกแล้วว่ามึงมันโง่เองที่ไม่รู้จักสนใจคนรอบข้าง แล้วที่กูไม่ได้บอกมึงก็เพราะพี่เค้าสั่งห้ามไว้ กูก็เลยได้แต่เงียบๆไป”
“เค้าห้ามแล้วมึงจะฟังเค้าทำไม เค้าเป็นพ่อมึงเหรอ”
“แหมมึงไม่ใช่ก็เหมือนใช่ล่ะวะ พี่เค้าเป็นใครแล้วกูเป็นใคร กูยังต้องการที่เรียน ต้องการอนาคตดีๆนะเว่ย”
“อ้อเหรอ...”
พอรู้แบบนี้แล้วเหตุการณ์ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกันมันก็แวบขึ้นมาในหัวผมเลยครับ ถ้าจะแอบมองกันมานานขนาดนั้นก็คงไม่แปลกหรอกนะที่จะรู้ประวัติผมดีขนาดนี้ แต่จะว่าไปเท่าที่จำได้ตอนนั้นไอ้พี่ไทม์มันก็กำลังจะบอกแล้วนี่นะว่ารู้จักผมได้ไง แต่ผมดันไม่อยากรู้ไปซะก่อนเพราะมัวแต่ช็อกกับตำแหน่งลูกชายท่านอธิการบดีอยู่
เอ...อย่างแบบนี้ก็หมายความว่าตอนที่เจอกันครั้งแรก ที่ทะเลาะกัน ที่ทำเหมือนไม่รู้จักกันมาก่อน ไอ้พี่ไทม์มันก็เล่นละครใส่ผมน่ะสิ เฮ้อ คิดแล้วก็ขำนะครับ หน้าด้านแล้วยังบ้าอีกต่างหาก
“เหวยๆ นั่งยิ้มคนเดียวก็เป็นด้วยเว่ยเฮ่ย...”
“เออ เรื่องของกู มึงอะหุบปากไปเลยไป๊”
.
.
“ไอ้แปง เดินเร็วๆสิวะ กูหิวข้าว กูอยากแดกข้าว”
ไอ้พีชนี่ก็ตลอดอะ กูก็รีบสุดแล้วเนี่ยโรงอาหารคงไม่หนีมึงไปไหนหรอก แม่งอย่าให้กูขายาวแบบมึงบ้างก็แล้วกัน
“กูก็เดินเร็วได้แค่นี้แหละไอ้พีช มึงหิวมากก็เล็มหญ้าแถวนี้ไปพลางๆก่อนไป๊”
“ปากคอช่างร้ายกาจนะไอ้แปง”
“เรื่องของกู”
ผมก็เดินด่ากับไอ้พีชมาตลอดทางจนถึงหน้าคณะแต่อยู่ดีๆไอ้พีชมันก็หยุดเดินซะงั้นอะ
“อ้าว นั่นมันพี่ไทม์นี่หว่า มายืนหลบมุมคุยโทรศัพท์กับใครหว่า...”
แล้วแม่งจะเหล่ตามามองกูทำไมไอ้พีช ผมหันไปมองตามมันแล้วก็ต้องใจเต้นเมื่อเห็นคนที่ไม่ได้เจอหน้าไม่ได้ติดต่อกันมาเป็นอาทิตย์
“มองกูแบบนั้นเดี๋ยวก็ทิ่มตาบอดเลยนี่ไอ้พีช”
“โอ๊ะๆ ไปแล้วมึง พี่ไทม์มึงเดินไปนู่นและ ตามปะๆ”
“จะ...จะตามไปทำไมเล่า”
“ปากว่าอย่างแต่ใจนี่คงไปแล้วสิไอ้แปงเอ๋ย”
อย่ามาทำเป็นรู้ใจกูไปหน่อยเหอะ ถึงจะทำใจมาบ้างแล้ว แต่พอมาเจอเข้าจริงๆ
กูก็ยังไม่พร้อมเว่ย!!“มึงจะรอให้พี่เค้าเข้ามาคุยก่อนไม่ได้แล้วนะเว่ยไอ้แปง”
“เออ กูรู้” เพราะกูเป็นคนขอเวลาคิดเองกูก็ต้องเดินไปบอกเค้าเองสิ
.
.
ช่วงบ่ายวันนี้ผมไม่มีเรียนแล้วพอกินข้าวเสร็จไอ้เพื่อนพีชมันก็เลยขอตัวกลับหอไปนอนต่อโดยมันอ้างว่าเมื่อเช้าโดนผมปลุกก่อนเวลา มันยังนอนไม่ครบสิบชั่วโมง เออก็เอากับมันสิครับ
ส่วนผมน่ะเหรอ ก็เดินเล่นไปเรื่อยเปื่อยแหละครับ..คือยังไม่อยากกลับหอน่ะ เพราะว่ามันแบบ...เออ กลับไปก็ไม่รู้จะทำอะไร ห้องก็ยังรกๆ ไม่ค่อยเป็นที่เป็นทาง สามวันมานี่ก็ไปอาศัยนอนกับพวกเพื่อนชั้นบนเอาน่ะ ทำคนเดียวมันเหนื่อยต้องค่อยๆทำครับ
เดินไปเดินมาก็กลับมาตายรังอยู่หน้าคณะตัวเอง นั่งไปได้ซักพักเห็นไอ้พี่ไทม์เดินมากับผู้หญิงคนนึง...เอ่อ แต่ขอโทษเหอะครับ ผู้หญิงเค้าเป็นโรคติดต่อทางผิวหนังรึไง พี่ถึงได้เดินห่างกับเค้าขนาดนั้น
จะว่าไป...บางทีการที่พี่ไทม์ทำตัวติดกับผมเดือนนึงเต็มๆอาจจะทำให้ผมมองข้ามความจริงอะไรบางอย่างไป...โลกนี้ไม่ได้มีแค่ผมกับพี่ไทม์...ทั้งๆที่พี่เค้าก็มีสิทธิ์เลือก และก็คงจะเลือกคนที่ดีกว่าผมได้เพราะไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาหรือหน้าที่การงานของพี่ไทม์ ก็เรียกได้ว่าคงเป็นที่หมายตาของใครหลายคน...แต่...เค้าก็ยังเลือกผม...
แล้วผมจะมัวลังเลอะไรอยู่ล่ะ
ผมรีบลุกจากที่นั่งแล้วแอบเดินตามหลังพี่ไทม์ที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องคณบดีไปติดๆ มัวแต่คิดอะไรอยู่นะถึงได้ไม่รู้เนื้อรู้ตัวขนาดนี้
กึกอยู่ดีๆไอ้พี่ไทม์มันก็หยุดเดินทำเอาผมที่เดินตามหลังมาเบรกแทบไม่ทัน
นี่ถ้าเป็นรถยนต์คงได้เสยตูดกันไปแล้วเหอะ!“แปงจะคิดถึงพี่บ้างมั้ยนะ...อยากจะรู้จริงๆ” หึ คิดถึงสิ คิดถึงมากๆด้วย
“อยากรู้ก็รีบหันหลังมาสิ...ไอ้พี่ไทม์”
“...แปง”
อะไรมันจะตกใจขนาดนั้น คนพูดก็เขินเหมือนกันนะเฮ่ย
“อือ...แปงเอง คิดว่าใครล่ะ คุณผู้หญิงคนสวยเมื่อกี๊หรอ”
“มันไม่ใช่แบบนั้นนะแปง คือแพรเค้าเป็นลูกเพื่อนพ่อพี่ แล้วพ่อก็แค่ให้พี่เดินพามาส่งที่คณะนี้เฉยๆ”
“ไม่ได้อยากรู้ซะหน่อย จะมาอธิบายทำไม”
“ก็พี่ไม่อยากให้แปงเข้าใจผิด”
“ก็ไม่ได้เข้าใจอะไรผิดนี่...แปงมีตาแล้วแปงก็มองเห็น เดินห่างกันซะขนาดนั้น...”
“โอเคครับ ไม่เข้าใจผิดก็ดีแล้ว ว่าแต่แล้วเมื่อกี๊แปงจะบอกอะไรพี่ครับ”
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรต่อไอ้พี่ไทม์ก็จูงมือผมหลบผู้คนมาที่มุมๆหนึ่งของคณะ
เฮ้ย...มึงจะลากกูไปไหนเนี่ย
“ขอโทษนะครับที่ลากมาแบบนี้แต่พี่อยากให้มันเป็นเรื่องส่วนตัวนิดนึง...”
“...โอเค แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน” เพราะผมก็ไม่ได้อยากตกเป็นเป้าสายตาใคร
“...ว่าไงครับคนดี คิดถึงพี่บ้างมั้ย...”
ไอ้พี่ไทม์ก้มลงมากระซิบที่ข้างหู ทำเอาผมขนลุกเกรียวตัวแข็งทื่อ แม่ง แล้วแบบนี้ใครมันจะไปพูดออกวะ
“...อือ...”
“อือเนี่ยมันแปลว่าอะไรครับ”
“...อือ...คิดถึง...”
“แล้วให้พี่รอนานขนาดนี้ แปงได้คำตอบที่จะบอกพี่รึยังครับ”
“...ได้แล้ว...”
“...ครับ แล้วยังไงต่อครับ”
“คือ...” เอาวะ ไหนๆก็ต้องพูดอยู่แล้ว จะมัวถ่วงเวลาไปเพื่ออะไร
“...แปงลองนั่งคิดทบทวนเรื่องของเราดูแล้ว...พี่ไทม์เป็นคนแรกที่กล้าเดินมาบอกความรู้สึกกับแปงตรงๆ...พี่เป็นคนแรกที่ทำให้แปงเปิดใจและรับรู้ความรู้สึกของคนรอบข้างมากขึ้น...พี่เป็นคนแรกที่ทำให้แปงต้องไปแอบนั่งยิ้มคนเดียวในห้องแบบไม่มีเหตุผล...พี่เป็นคนแรกที่ทำให้แปงเหงาได้เพียงแค่ไม่ได้อยู่ข้างๆกัน...และสุดท้าย...พี่เป็นคนแรกที่ทำให้แปงรู้สึกว่าการชอบใครซักคนมันเป็นยังไง...แปง...แปงชอบพี่ไทม์”
พูดไปแล้ว กูพูดออกไปแล้ว โว้ยยย กูพูดไปได้ยังง๊ายยย แม่ง...เขินว่ะ!!
“...ขอบคุณครับแปง ขอบคุณสำหรับคำตอบ”
“...”
“แปงครับ...คบกับพี่นะ...”
“...”
“แปงครับ...อย่าเงียบสิ”
“...”
แม่ง จะให้กูตอบอะไรอีกล่ะ พูดออกไปขนาดนั้นแล้วเรื่องคบกันยังจะต้องมาถามอีกเรอะ แค่นี้ก็เขินจนหน้าจะไหม้อยู่แล้ว ไม่เห็นใจหรือว่าแกล้งกันอยู่นะ...
“อืม...ถ้าไม่ตอบงั้น...”
ไม่ต้องรอให้พูดจบว่าถ้าไม่ตอบมันจะทำอะไรเพราะไอ้พี่ไทม์มันโน้มหน้าลงมาประกบจูบกับผมอย่างรวดเร็วก่อนจะอาศัยช่วงที่ผมเผลอสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากก่อนจะตวัดกวาดไปทั่ว ทำเอาผมเข่าอ่อนหมดเรี่ยวแรงต่อต้านเลยได้แต่เลยตามเลยยอมให้คนตรงหน้าจูบจนพอใจ
“อื้อ...อือ...แฮก...ไอ้พี่ไทม์บ้าทำอะไรน่ะ” งือ กว่าจะปล่อย กะจะจูบกูให้ขาดอากาศหายใจตายไปเลยใช่มั้ย
“เอ้า ก็เห็นยืนเงียบไม่ตอบพี่ก็เลยนึกว่า...
“ว่าอะไร...” ทำหน้าแบบนี้แม่งต้องคิดอะไรเข้าข้างตัวเองอยู่แน่ๆอะ!
“ก็นึกว่าน้ำท่วมปากจนพูดไม่ออก พี่ก็เลยอาสาช่วยสูบออก” แหม ถ้ารู้ว่าสูบดีอย่างนี้จะเรียกผู้ว่ากทม.มารับไปสูบแถวดอนเมือง โว้ย...ไม่เกี่ยวกันแล้วโว้ยย!!“หน้าด้าน!”
“ฮ่าๆ ก็แปงอยากทำตัวน่ารักทำไมล่ะ พี่ก็อดใจไม่ไหวน่ะสิ ยิ่งไม่ได้เจอกันตั้งเป็นอาทิตย์...พี่ยังอยากทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ”
“งะ...เงียบไปเลยไป๊ ไอ้โรคจิต”
“ฮ่าๆ เขินหรอครับที่รัก”
“ไม่ได้เขิน ไม่ได้อะไรทั้งนั้น แล้วใครที่รักใครอย่ามามั่วเลยนะ”
“ครับๆ ไม่เขินก็ไม่เขิน อย่าเพิ่งงอนพี่สิครับเด็กน้อย”
“อะไรใครเด็กน้อย พี่ไทม์สิคนแก่ แก่ แก่ แก่”
“หึหึ ว่าพี่แบบนี้คงลืมไปแล้วสินะครับว่าเด็กดื้อต้องเจอแบบไหน”
“มะ...ไม่เอานะ ไอ้พี่ไทม์ แปงไม่เล่นนะ” ถอยเลยสิกู ไม่ลืมหรอก ให้ตายก็ไม่ลืมว่าเคยโดนอะไร
“ไม่ทันแล้งมั้งครับ...”
“อ๊า...งือ...ไอ้พี่ไทม์...อ๊า...ฮ่าๆๆ...ไม่เอา...อ๊าฮ่าๆ” แล้วก็เสร็จมันอีกจนได้ งืออออ
“...อยากให้ปล่อยขอหอมสองที”
“...ขี้โกง...อ๊ะ...ฮ่าๆ....ตลอด...”
“แล้วยอมมั้ยล่ะ...หืม...ยอมมั้ยครับ...เร็วๆ ไม่งั้นพี่ไม่ปล่อยจริงๆนะ”
“ยะ...ยอม...ยอมก็ได้... ฮ่าๆๆ...”
ฟอดแล้วผมก็ต้องยอมให้ไอ้พี่ไทม์มันลวนลามอีกตามเคยให้ตายสิ เฮ้อ…แต่ก็เอาเถอะครับ เดี๋ยวอีกหน่อยก็คงจะชินไปเอง...ล่ะมั้ง...
อ่านะ...เรื่องของน้ำท่วมมันก็ผ่านไปแล้วแต่เรื่องของผมกับไอ้พี่ไทม์นี่สิมันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น เรื่องราวความรักของคนสองคนไม่มีใครรู้หรอกครับว่ามันจะเกิดขึ้นกับใคร ที่ไหน หรือเมื่อไหร่เหมือนกับเรื่องราวของผม ที่ผมเองก็ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่ามันจะมาพร้อมกับน้ำ และถ้าต่อไปจะมีใครมาถามว่าเราสองคนรักกันได้ยังไงเพราะอะไรผมก็คงจะตอบได้เต็มปากเต็มคำแหละครับว่า...
Flood เพราะน้ำมันท่วม!>>>>>>>> THE ENDวู้ววว มันจบแล้ว มันจบลงแล้ววววว ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี เพราะคนเขียนก็ใจหายเหมือนกัน แต่จะยืดกว่านี้ก็กลัวจะไม่ได้มาต่อ 555 แต่...แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ รับรองจะมีตอนพิเศษมาให้ได้เชยชมกันเป็นแน่แท้ แต่เมื่อไหร่นั้น ต้องดูตามสถานการณ์ค่ะ ช่วงนี้เวลามันไม่แน่ไม่นอน งานท่วมหัว เอาตัวไม่รอด ใกล้สอบอีก ยังไงก็ต้องขอขอบคุณทุกแรงกำลังใจที่ติดตามอ่านกันมาตั้งแต่เปิดเรื่องจนถึงตอนนี้นะคะ ติบ้างชมบ้างอะไรกันบ้างก็จะเก็บไปปรับปรุงแก้ไขในงานเขียนต่อๆไปค่ะ สุดท้ายนี้ก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไรนอกจากขอบคุณอีกครั้งสำหรับการติดตาม แล้วเจอกันในตอนพิเศษนะคะ
ป.ล. 30ธันวานี้คนเขียนมีสอบตรงค่ะ อยากได้มากกกที่นี้ ช่วยอวยพรให้ด้วยนะคะ อิอิ
ป.ล. 2 ลองๆรีเควสกันมาได้ว่าอยากได้อะไรประมาณไหนกับตอนพิเศษ ถ้าจัดได้ก็จะจัดให้ค่า