รอยชัง
'คู่ชีวิต'
หากเราตั้งคำถามว่าทำไมคนเราถึงรักกันได้ บางครั้งบางทีมันก็ไม่สามารถตอบออกมาเป็นคำพูดได้ ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นที่ใจ เราใช้ใจรัก ใช้ใจสัมผัส ใช้หัวใจผูกพัน ใช้ใจเรียนรู้ซึ่งกันและกัน จนเกิดเป็นความรักขึ้นมา เราต่างฝ่ายต่างรับรู้ว่าอีกคนคือความรัก คือคนที่เราอยากใช้ชีวิตคู่ร่วมกันจนแก่เฒ่า คือคนที่อยากฝากผีฝากไข้ตอนที่ชีวิตคู่ดำเนินไปจนวันสุดท้ายของชีวิต คนหนึ่งคนเพียงคนเดียวที่ทำให้เรามีความสุข มีความทุกข์ ทำให้เรารัก ทำให้เราเกลียด ทำให้เราหัวเราะ หรือบางทีก็มีน้ำตาในเวลาเดียวกันได้
เราเรียกคนคนนั้นว่า 'คนรัก' หรือเรียกได้อีกอย่างว่า 'คู่ชีวิต'
"ป .. ปาา" เสียงเล็กพยายามเรียกปะป๊าตามที่จอมขวัญสอน เจ้าตัวเล็กทั้งสองตอนนี้อายุใกล้จะครบหนึ่งขวบแล้ว แต่ยังพูดได้แค่อ้อแอ้ออแอ ยังไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำๆได้เลย คุณหมอบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติของเด็กวัยแรกเริ่ม อายุหนึ่งขวบขึ้นไปเด็กๆจะเริ่มจดจำคำที่มีความหมายได้ไม่กี่คำ ถ้าหากพูดได้เกินสิบคำนั้นถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดี
"ปะป๊าลูก .. ปะป๊า .. ปะป๊า" จอมขวัญหอมนิ้วเล็กให้ชื่นใจ หอมไปคุยไป ลูกๆของเขาตากลมโต ตัวขาวจั๊วะ คนพี่ตัวเล็กน่ารัก คนน้องจ้ำม่ำน่าฟัด แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
"ม้า .. มะ" คนพี่ชอบพูดคำว่า ม้า มะ ตามที่เขาเคยสอนว่า หม่าม้า เรียกแม่ทั้งวันไม่ยอมห่าง
"จ๋า .. หม่ำๆ" ส่วนคนเล็กนั้นก็ชอบจำแต่คำขอหม่ำข้าว ชอบเหลือเกินนะครับลูกชาย หม่ำทั้งวันจนตัวอ้วนไปหมดแล้ว
ตอนนี้จอมขวัญย้ายกลับมาอยู่เกาะได้สองเดือนกว่าแล้ว ในบ้านตอนนี้มีพี่เลี้ยงเด็กเพิ่มมาหนึ่งคน มีป้านวล เขา พี่วิน ลูกๆอีกสอง และเจ้าแมวหง่าวตัวเดิม เจ้าลิขิต
อยู่ที่นี่จะว่าสบายก็สบาย จะว่าลำบากก็ลำบาก ตอนแรกๆที่ลูกยังไม่ชิน ก็พากันร้องไห้งอแงทั้งวัน เป็นเหตุที่อัศวินต้องรับหมอเข้ามาพักที่เกาะสองอัตรา สร้างที่พักและคลินิกไว้เพื่อความสะดวกสบายของคนงาน และครอบครัว
จอมขวัญกลายเป็นนายหญิงของเกาะนี้ไปแล้ว แม้ว่าจะไม่ค่อยได้ออกไปข้างนอก แต่พวกคนงานที่เคยทำงานด้วยกันก็มีซื้อของใช้ ของบำรุงมาฝากบ้าง ชื่อเสียงของจอมขวัญเป็นที่รู้กันไปทั่วว่าเป็นคนรักของนายอัศวิน แถมลูกๆทั้งสองคนของนายก็น่ารักน่าชังเสียจนเป็นที่เอ็นดูกันไปทั่วทั้งเกาะ
"วันไหนต้องไปในเมืองซื้อของให้ลูกแล้วล่ะ" จอมขวัญเอ่ยกับพี่เลี้ยงคุณหนูทั้งสอง เธอชื่อ นา อายุยี่สิบตอนปลาย เป็นหลานของป้านวล นาจะคอยทำหน้าที่หลายๆอย่าง รวมถึงการให้น้ำนมของเด็กๆด้วย ตอนนี้ลูกๆสามารถดื่มเองจากขวดหรือแก้วได้แล้ว จอมขวัญจึงสลับให้ดื่มนมผงอย่างดีกับน้ำนมของพี่นาปั๊มใส่ขวดไว้ ลูกๆจะได้รับสารอาหารที่มีคุณค่าได้มากที่สุด
"น้องขวัญจะไปเองหรือคะ ใช้ให้คนงานไปให้ก็ได้นี่" คนตรงหน้าไม่อยากให้เขาออกไปข้างนอกบ่อยๆ เหมือนกับที่พี่วินเองก็เคยบอก
"เดี๋ยวขอดูก่อนแล้วกันว่าขาดอะไรบ้าง พี่นาช่วยขวัญนึกด้วยนะครับ" จอมขวัญตอนนี้อายุใกล้จะยี่สิบแล้ว โตเป็นหนุ่มน้อยน่ารักแบบที่คนเห็นก็ต้องนึกว่าผู้หญิงกันทั้งนั้น
"ได้ค่ะ เอ่อ เย็นนี้ป้านวลจะทำแกงส้มที่นายชอบ น้องขวัญจะเอาอะไรอีกไหมคะ พี่จะได้ไปบอกป้าให้" พี่นาเอ่ยถาม จอมขวัญนึกอยากทานไข่ลูกเขย
"ไข่ลูกเขยก็ได้ครับ เก็บไว้ทานพรุ่งนี้ด้วย" จอมขวัญเสนอ เขาเล่นกับลูกๆในห้องต่อก่อนที่พี่นาจะขอตัวออกไปข้างนอก
ตอนนี้ลูกๆของเขามีห้องส่วนตัวแล้ว ในห้องตอนนี้มีเปลสองหลัง เบาะอีกคนละอัน ทั้งห้องปูด้วยฟูกนิ่มให้ลูกๆได้คลานเล่นไปทั่ว ทั้งยังมีหนังสือเพลง ของเล่นเสริมทักษะต่างๆ
ช่วงนี้เจ้าลิขิตถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้ามาวุ่นวายในห้องสักพักเพราะน้องเวย์ป่วยค่อนข้างบ่อย อุณหภูมิห้องยังต้องปรับให้พอดีไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป ไม่อย่างนั้นถ้าลูกป่วยขึ้นมาจะลำบาก
อากาศช่วงปลายปีไม่ค่อยดีนัก บนเกาะอากาศหนาวเย็นเพราะล้อมรอบไปด้วยน้ำและผืนป่า จอมขวัญโทรคุยกับคุณแม่ท่านบ่อยๆ ทางนั้นเองก็หนาวมากเช่นกัน บางวันก็สิบกว่าองศาได้ จำได้เมื่อก่อนตอนที่อยู่ลำปาง พอหน้าหนาวพ่อก็จะใส่เสื้อกันหนาวให้ขวัญ นอนกอดขวัญ ทับด้วยผ้าห่มอีกสองผืนหนาๆเพราะขวัญเป็นคนขี้หนาว
"แอ๊ .. ม้าหม่ำๆๆ .. อื้อ .. ไป .. หม่ำๆ" เจ้าตัวเล็กค่อยๆคลานมาหาเขา จอมขวัญอุ้มลูกขึ้นมา หอมแก้มนิ่มๆอีกหนึ่งทีอย่างรักใคร่ก่อนจะพามานั่งที่เก้าอี้ประจำตัว น้องวาใส่เสื้อสีแดงสด ส่วนน้องเวย์ใส่เสื้อสีฟ้า ต่างคนพอนั่งประจำที่ได้ ข้าวต้มใส่ตับบดบล็อคโคลี่ละเอียดจึงถูกยื่นให้เด็กน้อยที่เตรียมจะเล่นอาหารกันเต็มที่แล้ว
"หม่ำเยอะๆนะลูก อย่าทานหกนะครับ" จอมขวัญบอก ลูกๆยิ้มกว้าง ต่างคนต่างตักอาหารเข้าปากไปเงียบๆ ตอนนี้จอมขวัญกำลังหัดให้ลูกเลิกดูดขวดนมอยู่ จะให้ดื่มเฉพาะเวลาจะนอนเท่านั้น โตขึ้นจะได้ไม่ติด
..........
อัศวินเร่งทำงานให้เสร็จทันห้าโมงครึ่ง ช่วงเย็นเป็นเวลาของเขากับครอบครัว เขาคิดถึงเมีย คิดถึงลูกๆใจจะขาด ทุกวันก่อนจะมาทำงานตอนเช้าก็ต้องขอกำลังใจจากคนรัก พอกลับถึงบ้านเขาก็ต่างดูแลถามไถ่ ไม่อยากให้ชีวิตคู่จืดชืด อัศวินเองกลัวว่าจอมขวัญจะเบื่อหรือเปล่า เพราะตนต้องทำงานทุกวัน บางวันก็กลับดึกดื่นจนไม่มีเวลาให้ ที่เขาห่วงมากกว่าก่อนเพราะตอนนี้ความสัมพันธ์มันไม่เหมือนเดิมแล้ว เขากับจอมขวัญเป็นสามีภรรยากันแล้ว จะให้มาต่างคนต่างใช้ชีวิตก็ไม่ได้
"นาย เย็นนี้รีบกลับบ้านหรือเปล่าครับ" น้อยถามคนที่กำลังนั่งทำงาน
"จะว่ารีบก็รีบ ทำไมวะ" ถามคนที่นั่งอยู่บนโซฟา
"พอดีวันนี้วันเกิดไอ้พงษ์ แต่ถ้านายไม่ว่างผมจะบอกมันเอง" พงษ์เป็นคนงานตำแหน่งพอๆกับน้อย อยู่ที่นี่มาก็นานอยู่
"เออ ฝากด้วย ถ้าขอเมียได้จะออกมานั่งด้วยสักชั่วโมง" อัศวินเอ่ย อย่างไรก็ต้องกลับเข้าบ้านก่อน จะไปไหนค่อยว่ากันอีกที
"นายนี่ผัวตัวอย่างจริงๆ รักเมียมากจนผู้หญิงบนเกาะเสียใจหมดแล้ว" อัศวินส่ายหัวให้กับคำที่เหมือนจะชม
"กูรักจอมขวัญ ผิดตรงไหนวะ" เขาเลิกคิ้ว ก็รักเมียคนนี้ รักแค่คนเดียว แล้วใครจะทำไม
"ก็เปล่าาา" น้อยทำเสียงสูง "ดีใจแทนจอมขวัญมันเท่านั้นแหละครับบบบบ" ล้อนายเป็นเรื่องที่น้อยถนัดอยู่แล้ว
ตกเย็นพอเข็มสั้นถึงเลขห้า เข็มยาวถึงเลขหกปุ๊บ อัศวินก็รีบขี่รถกลับบ้านโดยทันทีไม่ต้องรอให้ใครบอก พอกลับมาถึงบ้านเขาก็ต้องอาบน้ำแต่งตัวก่อน เพราะจอมขวัญไม่ยอมให้เขาเข้าไปเล่นกับลูกๆแน่ๆ ถ้าไม่ชำระร่างกายให้เรียบร้อย
"ไหนมาให้ปะป๊าหอมสิครับ" เขาคว้าคนพี่มาหอมซ้ายหอมขวา เจ้าตัวเล็กหัวเราะคิกคักเพราะโดนหนวดคุณพ่อที่เพิ่งขึ้นตำแก้มน้อยจนต้องย่นคอหนี
"ปา .. ป้ะ" เจ้าคนเล็กคลานอ้อแอ้มาเกาะขา อัศวินเลยอุ้มทั้งคนพี่คนน้องมากอดหอมให้ชื่นใจ แก้มนิ่มหอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นนมและแป้งเด็ก จอมขวัญเพิ่งจะอาบน้ำเปลี่ยนแพมเพิร์สให้ลูกไปเมื่อไม่นานมานี้
"ปะป๊า .. ไหนลองว่าสิครับ" อัศวินจุ๊บแก้มนิ่ม
"ป๊ะ .. ปาาา อาาา" คนพี่พยายามเอ่นตาม เสียงเล็กอืออาน่ารักน่าชัง
"ปา .. หม่ำ .. ไป" ส่วนเจ้าตัวเล็กก็เอ่ยแต่คำที่เจ้าตัวอยากเอ่ย จอมขวัญส่ายหัว วันนี้ทานทั้งวันแล้วยังจะขอหม่ำอีก
"ไม่หม่ำแล้วครับ ง่วงกันหรือยังหืม" จอมขวัญเอื้อมมือรับตัวคนน้องมากอดไว้ เจ้าตัวเล็กทำตาปริบๆเหมือนจะอ้อนเอาอะไรอยู่ตลอดเวลา
"มะ .. มะะ" จอมขวัญฟัดแก้มเจ้าตัวเล็กจนหนำใจ ทำไมลูกๆเขาถึงน่ารักกันขนาดนี้น้า
"ขวัญครับ" อัศวินเรียกคนข้างๆ
"ครับ"
"คืนนี้คนงานมีเลี้ยงวันเกิด พี่.."
"ไปเถอะครับ ขวัญไม่ว่าหรอก พี่วินโตแล้วนะ โตกว่าขวัญตั้งกี่ปีหืม" จอมขวัญยิ้มให้คนตัวโต ไม่จำเป็นเลยที่ต้องขอกัน คนงานก็รู้จักกันหมด จะให้มานั่งหึงหวงขวัญคงไม่ทำ แต่ถ้าเป็นเรื่องห่วง คงจะห่วงเรื่องที่เมาแล้วขี่รถกลับมากกว่า
"แต่พี่ไม่อยากทำอะไรโดยที่ไม่ถามเราก่อน เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไร เราจะไม่ปิดบังซึ่งกันและกันนะ จำได้ไหม" อัศวินกุมมือเล็กลูบเบาๆไม่ให้จอมขวัญกังวล
"จำได้ครับ ขอบคุณด้วยที่พี่วินให้เกียรติขวัญ" จอมขวัญยิ้มรับ เขาเป็นคนที่โชคดีที่สุดที่ได้สามีเก่งและดีขนาดนี้
"อืออ .. มะ" กำลังจ้องตากันและกันอย่างลึกซึ้ง แต่เขาสองคนคงลืมไปว่าในห้องตอนนี้มีใครอยู่ด้วยอีกสองคน
"สงสัยจะง่วงแล้วครับ ให้ลูกนอนเถอะ เราจะได้ไปทานข้าวกัน" เด็กๆเริ่มคอพับแล้ว จอมขวัญจัดที่ทางก่อนจะวางลูกลง พลางหอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่อย่างรักใคร่
"ครับ" อัศวินพาลูกคนโตไปนอนบนที่นอน จูบเบาๆที่หน้าผากก่อนจะออกมาด้านนอกพร้อมกับคนรัก
...........
คืนนั้นจอมขวัญนอนรอจนหลับไปก่อน ตอนแรกเขาเองว่าจะรอจนอีกคนกลับมา แต่พอหัวถึงหมอน ความง่วงมันก็ครอบงำ เขามารู้สึกตัวอีกทีตอนที่สัมผัสเย็นๆไล้เข้ามาภายในเสื้อนอนลายหมี
"พี่วิน.." ครางรับพลางขยับตัวหนีสัมผัสแปลกๆนั้น
"ที่รักจ๋า" อัศวินกระซิบเสียงพร่า เขากลับมาสักพักแล้ว แต่เห็นว่าจอมขวัญกำลังนอนอยู่ เขาเลยเข้าห้องน้ำจัดการตัวเองให้เรียบร้อย
"ครับ .. เมาหรือเปล่า" ถามพลางกระเถิบชิดร่างใหญ่ให้เขากอดได้สะดวกขึ้น
"ฟอด ครับ เมานิดหน่อย" หอมแก้มนิ่มเบาๆให้พอชื่นใจ
"แล้วกลับมาอย่างไรครับ" จอมขวัญเป็นห่วง
"ค่อยๆขี่รถมาครับ ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ถึงบ้านแล้วไงครับ" อัศวินลูบหน้าท้องเนียนเบาๆ
"รีบนอนเถอะครับ พรุ่งนี้ตื่นเช้านะ" เมื่อครู่เขาคว้านาฬิกามาดู ก็เกือบๆจะห้าทุ่มแล้ว
"ยังไม่ง่วงเลย" มือหนาไล้ลงต่ำ จอขวัญแขม่วท้องแน่น พอจะรู้ว่าพี่เขาต้องการอะไร
"แต่น้องง่วง" เขาเอ่ยเสียงติดง่วงจริงๆ
"พี่ทำเอง .. นะ .. ขวัญนอนไปก่อนก็ได้" กางเกงนอนตัวบางถูกรั้งลงก่อนที่ความใหญ่โตจะถูไถไปที่ร่องลึก
"อ๊ะ .. รอบเดียวนะครับ" จอมขวัญอยากจะปฏิเสธ แต่ความต้องการของสามี ก็มีแค่เขาเท่านั้นที่จะสนองให้ได้
พวกเขากอดกันอย่างแนบแน่น มือหนาประสานมือเล็ก สะโพกสอบกระแทกถี่รัวจนในที่สุดทั้งสองก็ถึงปลายทางแห่งความสุข
อัศวินพาจอมขวัญไปล้างตัวก่อนจะพากันกลับมานอนอีกรอบ
.. ความรักของเขาทั้งสองคนนับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆไม่มีวันที่จะลดน้อยลงได้เลย ..
..........
หนึ่งปีต่อมา
.
.
จอมขวัญในชุดไทยสวยงามกำลังร้องไห้ด้วยความดีใจ วันนี้เป็นวันแต่งงานของเขา ของเขากับพี่วิน แต่กลับไม่มีใครบอกเขาเลยสักคน พี่วินก็โกหกเขาให้มาที่ลำปางบอกว่าต้องมางานอะไรสักอย่างกับคุณแม่ แล้วเขาก็เชื่อ เชื่อมาโดยตลอดจนกระทั่งได้เข้ามาเห็นป้ายพิธีวิวาห์ของ อัศวิน และ จอมขวัญ แล้วเขาที่ไม่เคยตั้งตัวมาก่อนจะรับไหวได้อย่างไร เคยคิดอยู่บ้างว่าเราจะมีวันนั้นไหม วันที่ได้แต่งงานกันเหมือนคนรักทั่วไป วันที่เราได้จูงมือกันเข้างานพิธีวิวาห์ จะต้องทำอย่างไรในเมื่อตอนนี้สิ่งที่เคยคิดปรากฎอยู่ตรงหน้า จะทำอย่างไรเมื่อมันตื้นตันจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาแห่งความดีใจตอนนี้ได้
"ไม่ร้องสิครับ เดี๋ยวไม่น่ารักนะ" อัศวินใช้นิ้วโป้งเช็ดน้ำตาออกจากแก้มเนียน บรรยากาศในงานตอนนี้มีแค่ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนสนิท เป็นงานเล็กๆที่อัศวินใช้เวลาเตรียมตัวมาเป็นเดือนๆเพื่อวันนี้วันเดียว วันที่จะทำให้คนรักของเขามั่นใจ
"พี่วิน .. อึ่ก .. โกหกขวัญทำไม" จอมขวัญสะอื้นงอแง เขาโกรธ งอน แต่ก็ดีใจที่โดนเซอร์ไพรส์ขนาดนี้
"พี่ขอโทษคนดี ไม่เอาไม่ร้อง วันนี้วันดีนะครับ ไม่ร้องนะ" อัศวินดึงร่างเล็กมากอด ก่อนจะจูบซับน้ำตาให้ จอมขวัญเคยขี้แยอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยน
"แม่เป็นคนจัดการเอง มันถึงเวลาสมควรแล้วไม่ใช่หรือลูก คบกันมาก็นาน มีลูกกันถึงสองคน แต่งงานกันสักทีให้แม่ชื่นใจเนอะลูกเนอะ" อำพรลูบหัวเล็ก หล่อนแค่อยากให้ลูกๆได้ทำสิ่งที่เหมาะสมและถูกต้อง ไม่อย่างนั้นชาตินี้ก็คงตายตาไม่หลับเป็นแน่
จอมขวัญพยักหน้าเข้าใจ เขาไม่ได้รังเกียจ ไม่ได้ไม่อยากแต่ง เพียงแค่ตกใจและตื้นตันใจกับสิ่งที่ได้รับ ตอนนี้ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า มีทั้งคุณแม่พ่อโสภณพี่วินัยพี่อัจและคนอื่นๆที่จอมขวัญรู้จัก มันเซอร์ไพรส์มากที่ชีวิตคนอย่างเขาจะได้รับโอกาสอะไรดีๆแบบนี้ ลูกๆตอนนี้นั่งอยู่ในอ้อมกอดพ่อเขาและพี่อัจ เด็กๆเองก็เหมือนจะยิ้มดีใจและร่วมยินดีไปกับการแต่งงานของพวกเขาครั้งนี้ด้วย
"เริ่มพิธีกันเถอะลูก" อำพรเอ่ยเปิดพิธี
การแต่งงานของพวกเขาทั้งสองคนเป็นไปอย่างเรียบง่าย ผู้ใหญ่ของแต่ละฝ่ายค่อยๆผูกข้อมือให้ทั้งสองคน กล่าวคำอวยพรที่เคยกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ก่อนที่จะให้ทั้งสองคนแลกแหวนแทนใจซึ่งกันและกัน
"พี่รักขวัญนะครับ" คนตัวโตบรรจงสวมแหวนทองเกลี้ยงฝังเพชรขัดด้านเรียบอย่างดีให้คนตัวเล็กตรงหน้า เขาก้มจูบเบาๆที่นิ้วนางข้างซ้าย ให้คนรักรู้ว่าชีวิตนี้จะไม่มีวันทอดทิ้ง "คนดีของพี่" สวมกอดคนรักและหอมกระหม่อมเล็กอีกครั้งให้ชื่นใจ
จอมขวัญยิ้มทั้งน้ำตา ในที่สุดเขาก็มีวันนี้ วันที่มีเจ้าของอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
"สวมแหวนให้พี่เขาสิขวัญ" โสภณลูบหัวลูกคนเล็ก ที่เขาคอยประคบประหงมเลี้ยงดูลูกมาได้จนถึงวันนี้ ในที่สุดลูกก็มีคนที่ดีมารับไปดูแลต่อ เขาดีใจที่คนคนนั้นเป็นคุณอัศวิน ต่อจากนี้ไปเขาเองก็ไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้ว จอมขวัญมีชีวิตที่ดีแล้วจริงๆ
จอมขวัญบรรจงสวมแหวนให้คนรัก เป็นแหวนทองเกลี้ยงฝังเพชรเช่นกันเพียงแต่วงใหญ่กว่า พอสวมเสร็จเจ้าตัวก็ถูกคนตรงหน้าดึงเข้าไปสวมกอดอย่างแรง แก้มนิ่มก็ถูกหอมซ้ำๆจนแก้มช้ำไปหมด ทุกคนในงานต่างพากันตื้นตันใจกับคู่รักคู่นี้ ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะเป็นผู้ชายกับผู้ชาย แต่ก็รักกันไม่น้อยไปกว่าคู่ชายหญิง ความรักที่บริสุทธิ์นั้น ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน ขอแค่รักกันด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ มันก็ถือว่าเป็นความรักที่สวยงามได้อย่างไม่มีข้อเปรียบเทียบ
ปลายปากกาจรดชื่อเซ็นสลักไว้บนกระดาษแผ่นสำคัญ ใบทะเบียนสมรสตรงหน้าตอนนี้เป็นชื่อของทั้งสองคนเรียบร้อย ในทางนิตินัยนั้นจอมขวัญถือเป็นภรรยาของอัศวินอย่างถูกต้องสมบูรณ์ ตอนนี้จอมขวัญไม่ใช่จอมขวัญคนเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่เป็น นาย จอมขวัญ จารุพงษ์ไพศาล ไปเรียบร้อย
พิธีสำคัญๆในช่วงเช้าเสร็จหมดแล้วเรียบร้อย ตอนนี้ทั้งจอมขวัญและอัศวินเปลี่ยนชุดสบายๆเตรียมตัวลงมาทานอาหารเย็นร่วมกับญาติๆ ระหว่างที่เปลี่ยนชุด อัศวินก็สังเกตเห็นคนที่ยังสะอื้นไม่ยอมมองหน้าเขาอยู่ เด็กน้อยของเขาช่างขี้แยเสียเหลือเกิน
"ยังจะร้องไห้อยู่อีก" อัศวินเดินเข้ามาสวมกอด หอมกระหม่อมเล็กให้ชื่นใจ
จอมขวัญยิ่งมีคนปลอบก็เหมือนยิ่งยุให้อยากร้องเข้าไปอีก เขาพลิกตัวกลับมาสวมกอดคนตัวโตไว้ น้ำตาหลั่งไหลพรั่งพรูจนเลอะเสื้ออัศวินไปหมด
"เด็กดีเสียใจอะไรครับ หืม" จับให้คนตัวเล็กผละออก มือหนาเช็ดน้ำตาให้คนตรงหน้า
"ไม่ได้เสียใจครับ" จอมขวัญรีบส่ายหน้า "ขวัญดีใจต่างหาก"
เอ่ยออกไปพลางกอดคนรักไว้แน่น
"ดีใจก็ยิ้มเยอะๆสิที่รัก ร้องไห้แบบนี้พี่นึกว่าใครเสีย โอ้ย" ถูกทุบเข้าที่อกทันทีที่แกล้งหยอก "รุนแรงตลอด"
"ใครเสียล่ะครับ พูดจา!" จอมขวัญผละเดินไปที่หน้ากระจก "ตาบวมหมดเลย"
"เห็นไหม ก็น้องเล่นร้องไม่หยุดแบบนี้" อัศวินเดินมาหอมกระหม่อมคนรัก "ล้างหน้าล้างตาหน่อยไหม เดี๋ยวค่อยลงไปก็ได้" เอ่ยกับจอมขวัญและเจ้าตัวก็พยักหน้าทันที
งานเลี้ยงในตอนเย็นไม่ได้มีอะไรพิเศษมากมายนัก หน้าบ้านถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีอาหารบุฟเฟต์ที่สั่งมาจากโรงแรมมากมาย ทุกคนนั่งทานอาหารพูดคุยกันอย่างมีความสุข ทั้งอัศวินและจอมขวัญเองก็ไม่ค่อยได้เจอโสภณกับวินัยนานแล้ว
"เมื่อไหร่มึงจะมีลูกวะ" อัศวินถามเพื่อนรักที่นับวันยิ่งออร่าความเมียยิ่งออกหนามาก
"พ่อมึง! กูไม่มีมดลูก" ยอมรับเต็มปากเต็มคำว่าเป็นฝ่ายถูกกระทำ
"หึ เพื่อนกู" อัศวินส่ายหัว "พี่ภณรักมันไปได้ไง ผมยังไม่เข้าใจ" ถามอีกคนที่นั่งดื่มอยู่ข้างๆ
โสภณหันมองคนรักที่ทำหน้าว่า ถ้ามึงไม่ตอบดีๆ คืนนี้มึงอดแน่
"ก็รักเพราะมันน่ารักนี่แหละนาย พี่ไม่ได้รักมันเพราะลีลาดีหรอก"
อั่ก
เต็มๆ โดนชกมาที่แขนเต็มๆ
"พวกมึงแม่ง" วินัยชี้หน้าเรียงคนก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปาก
"ชอบไหมขวัญ ดิบๆแบบนี้" อัศวินหันมาจับมือคนรักที่กำลังเล่นกับลูกๆ
"จะดีเหรอครับ ขวัญตายแน่" จอมขวัญส่ายหัวดิก ต่อยเอย ด่าเอย เขารับไม่ไหวหรอก
"มึงก็หวานๆของมึงไปเถอะ เหมือนพวกกูแหละ พอหวานๆมันก็รับไม่ได้ จะอ้วกว่ะ" ทำหน้าขยะแขยงจนทุกคนต้องหัวเราะออกมาเสียงดัง
"อ้วก .. แหวะ" จู่ๆเด็กน้อยข้างๆก็เอ่ยออกมา พาให้ผู้ใหญ่ในวงตกใจกันไปหมด ตอนนี้เด็กน้อยเริ่มพูดได้มากขึ้น จากที่เคยพูดเป็นคำๆก็เพิ่มเป็นสองคำ ประโยคที่พูดได้ก็มี หนูหิวข้าว หรือ หนูอยากเล่น เริ่มจำและเอ่ยเลียนแบบเวลาได้ยินผู้ใหญ่พูด
"อ้วกเลอะครับลูก เหม็น เลยต้องแหวะ" จอมขวัญอธิบายกับเจ้าคนเล็ก ส่วนคนพี่ยิ้มตาแป๋ว ทานขนมอย่างเอร็ดอร่อย
"หม่าม้า ~ กอดด" เจ้าตัวเล็กเริ่มออดอ้อน พอขนมหมดน้องเวย์ก็อ้อนคุณแม่ให้คุณแม่อุ้ม
"ฮึบ ไหนคนดี ง่วงหรือยังลูก" หอมแก้มนิ่มของเจ้าตัวเล็ก อยู่บ้านนี้ใครๆก็รุมล้อม เดี๋ยวคนนั้นขออุ้ม เดี๋ยวคนนี้ขออุ้ม ลูกคงเพลีย โชคดีมีคนคอยดูแลเยอะ จอมขวัญเลยไม่ต้องเหนื่อย
"ยานนน ~ เวย์ไม่ง่วน" ตัวเล็กส่ายหน้าดิก ซบหน้าบนอกหม่าม้าอ้อน
"เมื่อไหร่ลูกจะพูดงองูได้ก็ไม่รู้ พูดทีไรออกเป็นนอหนูหมดเลย" คำว่า กุ้ง ลูกก็พูดว่า กุ้น แก้ไม่หาย
"เดี๋ยวโตก็คงหายเอง ตอนเด็กขวัญยังเคยเรียกพ่อว่าบ้านเลย" พอโสภณพูดจบ ทุกคนก็ขำพรืดกันเป็นแถวๆ จอมขวัญอมยิ้มด้วยความเขิน จริงอย่างที่พ่อบอก ตอนเด็กๆเขาเคยเรียกพ่อว่าบ้าน พอโตมาก็ไม่ชอบให้พ่อเล่าเรื่องนี้เลย เขาอายจริงๆนะ
"บ้านเลยเหรอ" อัศวินยังหัวเราะไม่เลิก
"ตลกอะไรเล่า พี่วินนี่!" จอมขวัญตีไหล่คนตัวโต ยังจะมาขำคนอื่นเขาอีก
"โอ๋ ไม่หัวเราะละ มาหอมทีมา ทั้งแม่ทั้งลูกเลย" อัศวินหอมคนแม่แรงๆ ก่อนจะหอมแก้มลูกทั้งสองเบาๆอีกคนละฟอด
ชีวิตเขาไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านี้แล้ว แค่มีคู่ชีวิตที่ดี มีครอบครัวที่อบอุ่น เท่านี้ก็ถือว่าโชคดีเหลือเกินแล้ว
"นาพาเด็กๆขึ้นห้องได้แล้ว ดึกแล้วเดี๋ยวน้ำค้างลงจะไม่สบายเอาได้" อำพรเองก็จะขึ้นข้างบนแล้วเหมือนกัน
"ไปนอนก่อนนะลูกนะ เดี๋ยวหม่าม้าตามขึ้นไป นะครับเด็กดีคนเก่ง" หอมแก้มลูกคนละฟอด ก่อนจะปล่อยให้ลูกเดินขึ้นไปกับพี่เลี้ยงและมารดา
เด็กๆขึ้นห้องไปแล้ว แต่บรรดาผู้ใหญ่ในงานก็ยังนั่งกินเลี้ยงกันอยู่ คืนนี้เหมือนปาร์ตี้สังสรรค์ ทุกคนต่างมีเรื่องพูดคุยกันไม่จบไม่สิ้น โสภณเล่าถึงเรื่องราวของญาติจอมขวัญให้ฟังว่าตั้งแต่ได้รับสมบัติไปพัชรินทร์ก็ใช้เงินจนมือเปิบ จนต้องขายหุ้นในส่วนของตนคืนกับบริษัทไปครึ่งหนึ่ง ตอนนี้จะทำอะไรก็ลำบากเพราะเงินสดมีเหลือไม่มากแล้ว อนุสรณ์เองไม่ได้โกรธแค้นอะไรจอมขวัญ มีแต่คอยจะห้ามไม่ให้เมียทำกรรมทำชั่วอีก สุดท้ายแล้วในชีวิตของพัชรินทร์จะเหลือใครไหมคงสุดแล้วแต่เวรแต่กรรม
..........