วงล้อที่ยี่สิบหก
ชั้นวีไอพีคือชั้นที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเป็นอย่างไร นอกเสียจากเท่าที่บอสใหญ่จะอนุญาตให้รับรู้เท่านั้น พนักงานที่ทำงานในชั้นนี้ไม่สามารถแพร่งพรายสิ่งที่ตนเองพบเจอในชั้นให้กับบุคคลภายนอกฟังได้ ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ได้เลยว่าบรรยากาศเป็นอย่างไร
แต่ก็มีหลายเสียงที่เคยกล่าวถึงว่าหรือแท้จริงแล้วมันก็แค่เพียงสวยงามโอ่อ่าเหมือนชั้นอื่น ๆ ทั่วไป แต่ที่ปกปิดไว้ก็เพื่อให้สร้างความความสนใจเพียงเท่านั้น
คำบอกเล่าต่าง ๆ ที่เคยได้ยินมาสมัยตอนที่เขาทำงานอยู่ที่คาสิโนนั้นเทียบไม่ได้เลยเมื่อมาเห็นด้วยตาตัวเอง มันสวย หรูหรา เหมือนชั้นอื่น ๆ ก็จริงแต่ไม่ใช่แค่นี้ ชั้นนี้พิเศษกว่าชั้นทั่วไปมาก ชั้นวีไอพีมีความสวยสง่าแต่มากกว่าชั้นอื่นแน่นอน แต่จะให้บรรยายออกมาภาสกรคงทำไม่ได้ ก็กฎบอกว่าห้ามบอกใครนี่นา
เอาละ แต่ถ้าจะให้พูดคร่าว ๆ คงพูดได้ไม่ผิดกฎใช่ไหม การตกแต่งของชั้นนี้แตกต่างจากชั้นอื่นอย่างสิ้นเชิง สมดั่งคำว่าชั้นวีไอพี ภาสกรไม่มีความรู้เรื่องการตกแต่งมากนักแต่เขาก็พอจะมองออกว่าวัสดุที่ใช้นั้นเป็นวัสดุชนิดพิเศษ ทุกอย่างประณีต แก้วเจียระไน รูปแกะสลัก รูปปั้นต่าง ๆ ดูก็รู้ว่าราคาของมันคงบอกมูลค่าไม่ได้
ผนังรายล้อมไปด้วยม่านน้ำตกมองเห็นการจัดสวนที่สวยงาม ซ้ำยังมีน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่นี่ ได้ยินเสียงน้ำเย็นไหลเอื่อยกระทบดินก่อให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ปกติคนที่มาเที่ยวคาสิโนมักจะแต่งตัวสวยงามอยู่แล้วแต่ชั้นนี้กลับยิ่งสวยงามหรูหรามากกว่าเดิม คุณผู้ชายสวมใส่สูทตัดเย็บอย่างดี คุณผู้หญิงสวมชุดราตรีประดับด้วยเพชรนิลจินดา ราวกับอวดศักดาและบารมีเงินตรา ส่องแสงวิบวับระยับตาจนภาสกรเกือบตาพร่ามัว
นอกเหนือจากความหรูหราโอ่อ่าแล้ว ชั้นนี้กลับมีขนาดไม่ใหญ่นักจนภาสกรแปลกใจ การวางผังของชั้นนี้ก็แตกต่างออกไปเช่นเดียวกัน ชั้นอื่น ๆ นั้นจะแบ่งโซนชนิดการพนันไว้อย่างชัดเจน แต่ชั้นนี้กลับมีเพียงโต๊ะยาวสะดุดตาเพียงโต๊ะเดียวและแวดล้อมด้วยโต๊ะเครื่องเล่นเพียงไม่กี่โต๊ะเท่านั้น และตอนนี้ที่โต๊ะใหญ่มีคุณผู้ชายทั้งสี่คนนั่งอยู่แต่ละมุมโต๊ะกำลังใช้บริการอยู่ พวกเขาต่างเผชิญหน้ากันด้วยสีหน้าเรียบเฉย
จะว่าไปแล้วชั้นวีไอพีนี้เหมือนเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงเสียมากกว่า
“ห้าล้าน” เสียงผู้ชายสูทน้ำเงินเปรยขึ้นเสียงขรึมหลังจากที่เขาเห็นไพ่ที่ถูกแจกมาจากดีลเลอร์ ผู้ช่วยที่ยืนข้างตัวคนวางพนันนั้นใช้ไม้ยาวดันชิปไปที่กลางโต๊ะ
“ตาม ห้าล้าน แล้วเกทับอีกห้าล้าน” ผู้ชายสูทดำพูดขึ้นไม่ยอมรามือเช่นเดียวกัน อีกฝ่ายพนันเท่าไหร่เขาก็ตาม ผู้ช่วยของเขาทำตามคำสั่งที่ได้ยินทันที ทำให้อีกสองคนที่เหลือรวมถึงเจ้าของสูทน้ำเงินต้องวางเงินเดิมพันเพิ่ม หากไม่วางเดิมพันจะถือว่าหมอบหรือยอมแพ้ในเกมนี้
ชิปกองพะเนินวางอยู่กลางโต๊ะ ภาสกรไม่รู้ว่าชิปเหล่านั้นมีมูลค่าเท่าไหร่แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้มันมีอยู่สี่สิบล้านแน่นอน ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเห็นมูลค่าเงินขนาดนี้มาก่อน ชายหนุ่มกลืนน้ำลายดังเอื้อก แค่หงายไพ่ใบแรก เดิมพันก็สูงถึงขนาดนี้เชียวหรือ
เสียงเชียร์จากคนที่เข้ามาร่วมดูการแข่งขันดวลไพ่โป๊กเกอร์ขึ้นเซ็งแซ่ ใครใคร่เชียร์ฝั่งไหนก็ส่งเสียงเชียร์ แล้วก็ส่งเสียงโห่ให้กับฝั่งที่ตนไม่ได้เลือก
ภาสกรไม่เคยเล่นไพ่โป๊กเกอร์มาก่อนแต่เขารู้กฎและวิธีการเล่น เขารู้ได้อย่างไรน่ะเหรอ ก็นวพลเพื่อนรักตัวดีของเขาน่ะสิลากเขาไปดูของพวกนี้อยู่เสมอ ภาสกรจึงรู้จักไปโดยปริยาย
ถ้าอย่างนั้นก่อนที่ดีลเลอร์จะหงายไพ่ใบที่สองให้แต่ละฝ่าย เขาจะถือโอกาสนี้อธิบายวิธีการเล่นเบื้องต้นอย่างสังเขปก็แล้วกัน เท่าที่เขาได้ยินจากคนรอบข้างคุยกันมานั้นทำให้เขารู้ว่ากติกาของเกมนี้คือดีลเลอร์หรือผู้แจกไพ่จะแจกไพ่ให้ทุกคนคนละห้าใบ โดยที่ใบแรกนั้นดีลเลอร์จะหงายไพ่ให้เลย ส่วนใบที่สองจนถึงห้าผู้เล่นจะเป็นคนเปิดเองและยังสามารถเปลี่ยนไพ่ได้ด้วย สำหรับการเปลี่ยนไพ่จะเปลี่ยนได้เพียงครั้งเดียวแต่กี่ใบก็ได้และตอนนี้ทุกคนก็ขอเปลี่ยนไพ่เสร็จเรียบร้อยแล้ว
โป๊กเกอร์มีหลายแบบแล้วแต่กติกาที่จะตกลงกัน สำหรับครั้งนี้คือจะไม่มีการขอเปลี่ยนไพ่ได้เรียกได้ว่าต้องอาศัยทั้งดวงและจิตวิทยาล้วน ๆ เล่นเกมอย่างไรให้ชนะอีกสามคนที่เหลือ ภาสกรคิดแล้วก็รู้สึกเครียดแทนโป๊กเกอร์ไม่ใช่เกมที่อาศัยเพียงแค่ดวงแต่สีหน้ารวมไปถึงสายตาและท่าทางต่าง ๆ คือการกำหนดแพ้ชนะให้กับคุณ เรียกว่าหน้าตายิ้มแย้มแต่ไพ่ในมือแสนห่วย หากทำให้คู่ต่อสู้หลงเชื่อคิดว่าไพ่ในมือนั้นดีมากได้แล้วละก็ชัยชนะก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
การจัดลำดับคะแนนหรือแต้มนั้นจะดูที่กลุ่มไพ่ และเรียงตามสี โดยที่จะเรียงสีโพธิ์ดำ โพธิ์แดง ข้าวหลามตัดและดอกจิก เรียงมูลค่าแต้มของมัน เช่น ถ้าคุณถือเลขห้าที่เป็นโพธิ์ดำ ส่วนอีกคนถือข้าวหลามตัดแปลว่าคนที่ถือห้าโพธิ์ดำจะมีแต้มสูงกว่า เป็นต้น
การเรียงไพ่เพื่อชนะนั้นต้องเป็นในรูปแบบที่ภาสกรรู้จักดังต่อไปนี้ การเรียงของไพ่ เช่น ห้า หก เจ็ด แปด เก้า เรียกว่าไพ่เรียงหรือสากลเรียกว่าสเตรทฟลัช (Straight flush) ถ้ามีคนเรียงเหมือนกันก็ให้ดูแต้มไพ่ใครสูงกว่าคนนั้นคือผู้ชนะ ต่อมาคือมีไพ่เลขตัวเดียวกันสี่ตัวส่วนใบที่ห้าเป็นอะไรก็ได้นั้นเรียกว่าหอนหรือโฟร์ ออฟ คายด์ (Four of kind) ถัดมาคือมีไพ่เหมือนกันสามใบหรือตองและไพ่เหมือนกันอีกสองใบหรือหนึ่งคู่นั้นเรียกว่าเห่าหรือฟูลเฮาส์ (Full house) และฟลัช (Flush) คือห้าใบเป็นดอกเดียวกันเช่นมีข้าวหลามตัดทั้งห้าใบ สุดท้ายคือเสตรท (Straight) ไพ่เรียงต่อกันแต่เป็นสีอะไรก็ได้
อันที่จริงยังมีอีกแต่แค่นี้ก็คงจะงงแย่แล้ว เขาคิดว่าเอาแค่หลัก ๆ ดีกว่า แล้วถ้าเกิดว่าไพ่ในมือไม่เข้าข่ายตามที่เขาเอ่ยเล่ามาเลยล่ะ ก็ไม่ต้องกังวลเราก็นับแต้มบวกเลขใครแต้มสูงสุดก็ได้เงินรางวัลไป ขึ้นชื่อว่าการพนันอย่างไรก็ต้องมีผู้แพ้ผู้ชนะ ส่วนผู้โกงนั้นภาสกรจะไม่ขอพูดถึงก็แล้วกัน
ไพ่ใบที่สองถูกเปิดหงายแล้ว เรียกเสียงฮือฮารอบด้านเมื่อทั้งสี่คนหงายไพ่ครบทุกคนแล้ว ชายสูทสีน้ำเงินมีเลขเก้าเหมือนกันสองใบคือหนึ่งคู่ ชายสูทดำมีไพ่เลขห้าและหกโพธิ์ดำทั้งสองใบ ชายสูทขาวนั้นช่างโชคร้ายมีเอซหรือเอกับไพ่เลขที่สิบเป็นดอกจิกทั้งสองใบ หากอยากชนะคงต้องภาวนาให้อีกสามใบที่เหลือคือแจ็ก แหม่ม คิง (J , Q , K) ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก ส่วนคนสุดท้ายชายสูทสีแดงเลือดหมูนั้นมีคิงสองใบ
“คุณชายเสิ่นมีเอซ แต้มใหญ่ที่สุด เรียกได้เลยครับ” ดีลเลอร์ประกาศให้ทุกคนรับทราบโดยกติกานี้คือแต่ละรอบที่หงายไพ่หากใครแต้มสูงสุดจะเป็นผู้ได้เรียกหรือวางเดิมพันก่อน
“ยี่สิบล้าน” คุณเสิ่นหรือชายสูทขาวเปรยขึ้นด้วยสีหน้าสบาย ๆ ติดจะอมยิ้มเล็กน้อย
“ใจใหญ่ไปหรือเปล่าคุณเสิ่น ไพ่ของคุณน่ะดูก็รู้ว่าจะให้เรียงเสตรทยังยากเลย ยิ่งสเตรทฟลัชคงยิ่งเป็นไปไม่ได้” ชายสูทแดงเลือดหมูพูด “แต่เอาเถอะ คุณเสิ่นให้เกียรติขนาดนี้ผมจะไม่ตามได้อย่างไร ตามยี่สิบล้าน”
“คุณเสิ่นเรียก คุณเจิ้งตาม ผมคนแซ่ถังจะปฏิเสธคงดูไม่ดีใช่ไหมคุณชู ตามไปยี่สิบล้านเช่นกัน” ชายสูทน้ำเงินพูดขึ้นพลางหันไปถามชายสูทดำหรือคุณชายชู
เสียงเชียร์รอบข้างยังดังอื้ออึงต่อเนื่องไม่สิ้นสุด ภาสกรไม่รู้ว่าชั้นวีไอพีวางเงินเดิมพันหนักเป็นปกติหรือไม่ เขามาทำงานวันแรกก็ทันได้เห็นงานใหญ่เข้าเสียแล้ว
“ขอแชมเปญแก้วหนึ่งจ้ะ” หญิงสาวในชุดราตรีสีครีม บนคอของเธอประดับไปด้วยเพชรเม็ดงาม นิ้วมือที่สวมแหวนเม็ดโตอีกเช่นกันเรียกภาสกรให้เข้าไปใกล้
“ครับคุณผู้หญิง” ภาสกรลดถาดในมือลง หญิงสาวจึงสามารถหยิบแก้วได้เองอย่างสะดวก
“ขอบใจนะ”
“ยินดีครับ” ภาสกรน้อมศีรษะตามมารยาทก่อนจะเดินต่อ ทว่าเขาไม่ได้ไปไหนไกลเพราะบริเวณนี้เต็มไปด้วยผู้คนทำให้แน่นขนัดที่สุดในชั้นนี้แล้ว
ระหว่างที่เขาเดินแหวกกลุ่มกองเชียร์อย่างมีชั้นเชิง เดินอย่างไรไม่ให้ชนแขกสำคัญและน้ำหลากหลายรสชาติไม่ได้กระฉอกออกมาจากแก้วจนเลอะถาดที่เขาถือ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงเสียเป็นส่วนใหญ่กำลังพูดถึงใครสักคนหนึ่ง
“อุ๊ย นั่นคุณอรรคนี่” หญิงสาวคนหนึ่งที่ภาสกรก็มองเห็นไม่ชัดว่าคือเสียงของคนไหนทักขึ้น
“นึกว่าวันนี้จะไม่เจอคุณอรรคแล้วนะคะ” เสียงที่แหลมเล็กกว่าเสียงแรกปรี่เข้าไปคล้องแขนบอสใหญ่ ภาสกรมองตามภาพนั้นด้วยความปั่นป่วนในใจ
“วันนี้มีเรื่องน่าสนใจ เซียนไพ่ให้เกียรติมาแสดงฝีมือที่คาสิโนผม ไม่ว่าจะติดงานอะไรอยู่ผมจะต้องลงมาแน่นอนครับ” เจ้าของคาสิโนตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มแฝงด้วยความอบอุ่น เป็นเสียงที่เขามักจะใช้ยามที่ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกคน
เรื่องน่าสนใจที่อรรควัสกล่าวถึงนั้นไม่ใช่เรื่องอื่นใดแต่เป็นเหตุการณ์ที่มีผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งสี่คนที่ยังเล่นเกมกันอยู่โดยยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ
“คุณอรรคเชียร์ใครคะ”
“ผมไม่กล้าเลือกข้างหรอกครับ ทุกท่านต่างเป็นแขกคนสำคัญของคาสิโนทั้งสิ้น ยิ่งวันนี้คุณชายเสิ่นมาให้เกียรติที่คาสิโนด้วยแล้วผมยิ่งไม่กล้าพูดมาก” อรรควัสส่งยิ้มการค้าให้หญิงสาวพลางปฏิเสธอย่างนุ่มนวล
“แหม ถ้าคุณอรรคไม่เลือกข้างแบบนี้ก็ไม่สนุกเลย คุณเสิ่นก็มีคาสิโนเองนึกอย่างไรมาเล่นที่คาสิโนคุณอรรคได้เนี่ย” หญิงสาวคนใดคนหนึ่งเอ่ยถามด้วยความสงสัยเสียงหวาน
บอสใหญ่ยิ้มดังเดิมพลางเหลือบสายตามายังภาสกรที่ยืนมองอีกฝ่ายอยู่พอดี เมื่อภาสกรเห็นสายตาคู่นั้นจ้องมาที่ตน เขาก็รีบหลุบสายตาลงต่ำก่อนจะเสมองไปที่อื่น ถูกจับได้เสียแล้วว่าแอบมอง
“ขอตัวก่อนนะครับ” อรรควัสค้อมศีรษะให้สองสาวเล็กน้อยก่อนจะใช้มือปลดแขนของหญิงสาวคนหนึ่งออกอย่างอ่อนโยน
“ค่ะ” สองสาวรับคำอย่างเสียดายแต่ก็ไม่ได้ห้ามชายหนุ่มเอาไว้
อรรควัสเดินทักทายแขกคนสำคัญตามมารยาทก่อนจะไปหยุดยืนข้าง ๆ คนหนึ่งในชุดพนักงานคาสิโน
“เดินหนีมาที่นี่เอง” อรรควัสเป็นฝ่ายทักขึ้นก่อน
“คุณอรรค..บอส” ภาสกรหันไปมองหลุดเรียกชื่ออีกฝ่ายก่อนจะเปลี่ยนสรรพนามเสียใหม่
“เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ”
“บอสครับ”
“ฉันให้เธอเรียกอย่างนี้งั้นหรือ” คนพูดเริ่มแสดงออกถึงความไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่
“พาย..เอ่อ..ผมคิดว่าในเวลาทำงานควรจะเรียกแบบนี้ดีกว่าครับ”
“ทำไม”
“ถ้าคนอื่นมาได้ยินเข้าคงดูไม่ดี”
“ไม่จำเป็นต้องสนใจ”
“ต้องสนใจครับ”
“ดื้อ?”
“ไม่ใช่ครับ”
“ถามคำ ตอบคำแบบนี้ ฉันชักสงสัยว่าไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรือเปล่า” อรรควัสผิดสังเกต เขาจึงลองเปรยถามดู
“เปล่าครับ”
“เป็นอะไรหรือเปล่าพาย”
“ภาสกรเถอะครับ” พนักงานหนุ่มว่าก่อนจะถามต่อเพื่อเปลี่ยนเรื่อง “บอสมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ ถ้าไม่มีผมจะ..”
“มี”
“บอสมีธุระอะไรครับ”
“ขอน้ำเปล่าให้ฉันแก้วหนึ่ง”
“อะไรนะครับ” ภาสกรทวนคำอย่างไม่เชื่อหู อย่าบอกนะว่ามาด้วยธุระเพียงเท่านี้
“ขอน้ำเปล่าให้ฉันแก้วหนึ่ง”
“ครับ ๆ” เขามองแก้วในถาด ไม่ปรากฏว่ามีน้ำเปล่าบนถาด เขาจึงบอกอีกฝ่ายว่า “ผมไม่มีน้ำเปล่าเลย อย่างไรรบกวนบอสรอสักครู่ได้ไหมครับ เดี๋ยวผมไปนำน้ำเปล่ามาให้”
“ได้”
“ครับ เดี๋ยวผมมา”
“เอาขึ้นไปให้ฉันที่ห้องทำงานก็แล้วกัน”
“แต่..”
“ไม่มีแต่ เธอดื้อขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ขึ้นเอาไปให้ฉันข้างบน เธอควรพักได้แล้ว มันเลยเวลาพักของเธอตั้งนานแล้วรู้หรือเปล่า”
“ครับ ผมมัวแต่ดูเขาแข่งกันจนลืมเวลาพักไปเลย”
“อืม”
“ฉันให้เวลาเธอสิบห้านาที”
“ครับ” ภาสกรพยักหน้า เจ้าของคาสิโนจึงยิ้มออกมาเล็กน้อยด้วยความพึงพอใจแล้วหมุนตัวกลับไปทางเดิมโดยมีสองบอดี้การ์ดคู่ใจตามหลังอีกฝ่ายไปเช่นกัน
สิบนาทีให้หลังภาสกรก็เข้ามาอยู่ในห้องทำงานของบอสใหญ่ เขาวางแก้วน้ำตามที่เจ้าตัวได้ขอไว้ โดยวางมันข้างแก้วอีกใบหนึ่ง พลางคิดในใจว่าอีกฝ่ายก็มีน้ำให้ดื่มอยู่แล้วจะลงไปข้างล่างไปบอกให้เขาเอาน้ำมาให้อีกทำไม
“มานั่งตรงนี้สิ” บอสใหญ่ไม่สนใจแก้วน้ำที่ถูกวางใหม่ ๆ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานแล้วดึงมือภาสกรให้ไปนั่งด้วยกันบนโซฟาที่ครั้งหนึ่งชายหนุ่มเคยผล็อยหลับไปบนนั้น
“ครับ”
“ทำงานวันแรกเป็นอย่างไรบ้าง”
“ดีครับ ไม่มีปัญหาอะไร”
“แล้วทำไมถึงลืมเวลาพัก ฉันรอเธออยู่นาน อาเฉินก็บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าฉันรออยู่” คำพูดเหมือนตำหนิแต่น้ำเสียงกลับไม่ได้แสดงถึงการต่อว่าใด ๆ เลย
“ขอโทษครับ ผมดูพวกเขาเพลินไปหน่อย ไม่รู้ผลการแข่งขันเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้” ภาสกรไม่เคยเห็นการแข่งขันแบบนี้มาก่อนเขาจึงให้ความสนใจไม่น้อย
“อยากรู้งั้นหรือ”
“อยากรู้ครับ”
“คิดว่าใครชนะล่ะ”
ภาสกรส่ายหน้า “ไม่รู้ครับ”
“จะไม่ลองเดาหน่อยเหรอ”
“ไม่ครับ”
“ถ้าเธอเป็นผู้หญิง ฉันจะคิดว่าเธอต้องโกรธอะไรฉันแน่ ๆ” อรรควัสดึงตัวอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้ชิดกับตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม พลางกดจมูกลงกลุ่มผมหนาด้วยความเอ็นดู
“ครับ ผมไม่ใช่ผู้หญิง” ภาสกรไม่ได้ขืนตัวแต่น้ำเสียงที่ทวนคำพูดของบอสหนุ่มกลับทำให้เจ้าตัวสัมผัสได้ถึงความผิดปกติจริง ๆ
“พาย”
“ครับ”
“เธอโกรธอะไรฉัน”
“ผมไม่ได้โกรธบอส”
“ตอนนี้เราอยู่ในห้องกันสองคน ไม่มีคนนอก ไม่มีคนอื่น”
“พายไม่ได้โกรธคุณอรรค” ภาสกรเปลี่ยนสรรพนามเสียใหม่ เมื่อถูกอรรควัสท้วงขึ้น
“แต่คำพูดของเธอมันไม่ใช่”
“พายแค่นึกโกรธตัวเอง”
“โกรธตัวเอง?”
“ครับ ตอนที่เห็นคุณอรรคลงมาชั้นวีไอพีแล้วมีผู้หญิงสองคนเข้าไปทักคุณ จับแขนคุณ” ภาสกรกัดริมฝีปาก ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ อรรควัสมองใบหน้าคนพูดอย่างตั้งใจ “พายงี่เง่ามากใช่ไหมครับ ไม่ควรคิดอะไรบ้า ๆ แบบนี้เลย”
“ไม่งี่เง่าสักหน่อย”
“ทั้งที่รู้ว่ามันคืองานแต่ก็ยังคิดอะไรแบบนี้ แย่มากเลยใช่ไหมครับ”
“ฉันดีใจที่เธอรู้ตัวว่ามันคืองาน แต่อันที่จริงฉันดีใจที่เธอหึงมากกว่า”
เจ้าของคาสิโนจับคางภาสกรให้เชิดขึ้นก่อนจะประทับริมฝีปากลงไปที่ปากเชอร์รี่นั้นเบา ๆ ทีหนึ่ง ดวงตาสองคู่สบตากันกระทั่งภาสกรหลับตาลง ริมฝีปากเผยอขึ้น บอสหนุ่มเลิกเกรงใจส่งลิ้นอุ่นเข้าไปควานหาความหวานในโพรงปากนั้น เนิ่นนานทีเดียวกว่าจะถอดถอนออกมาด้วยความอิ่มเอม
“ฉันจะพยายามรักษาระยะห่างกับลูกค้า”
“ไม่ต้องครับ คุณอรรคทำถูกแล้วถ้าลูกค้ารู้เข้าคงรู้สึกไม่ดี งานก็คืองาน เรื่องส่วนตัวคือเรื่องส่วนตัว พายต่างหากที่ต้องแก้ไข”
“เธอเก่งมาก เด็กดีของฉัน”
“ไม่เก่งเลย”
“ไม่ต้องคิดมาก ฉันไม่มีใครนอกจากเธออีกแล้ว ยกเว้นเรื่องอลันในตอนนี้”
“เรื่องคุณอลัน คุณอรรคจะให้ผมยกอาหารไปส่งให้คุณอลันเมื่อไหร่ครับ” พออีกฝ่ายพูดถึงชื่อหนุ่มผมทองเปล่งประกายราวกับแสงอาทิตย์เขาก็นึกถึง
“อยากทำเมื่อไหร่”
“พรุ่งนี้เลยได้ไหมครับ”
“ชอบอลันหรือไง” คำตอบของภาสกรทำให้อรรควัสถามคำถามในอีกแง่หนึ่งที่ภาสกรไม่คิดว่าจะถูกถามตรง ๆ แบบนี้
“คุณอรรคถามพายแบบนี้ทำไมครับ” เขายังไม่ตอบทันทีแต่เลือกจะย้อนถามอีกฝ่ายกลับ
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เธอมองอลันแบบไหน”
“คุณ..คุณอรรค” เมื่อถูกจับได้เจ้าตัวถึงกับอึกอัก “มอง..ออกด้วยเหรอครับ”
“เธอปกปิดสีหน้าเก่งหรือไง ตอบคำถามฉัน” อ้อมแขนคนถามรัดอีกฝ่ายแน่นขึ้นไปอีก แต่ภาสกรไม่กล้าเอ่ยขอให้เจ้าของอ้อมกอดคลายความแรงลง
“ชอบครับ” พอเห็นสีหน้าถมึงทึงของคนฟัง ภาสกรรีบพูดต่ออย่างรวดเร็วเพราะกลัวอีกฝ่ายเข้าใจผิดกันไปยกใหญ่ “เคยชอบครับ ตอนนี้ไม่ได้ชอบแล้ว”
“อืม เพราะถ้าเธอยังชอบอลันอยู่ ฉันจะไม่ปล่อยเอาไว้แน่” น้ำเสียงที่สัมผัสได้ถึงความไม่พอใจและเจ้าตัวคงทำจริงอย่างที่พูดทำให้ภาสกรนึกกลัว
“ไม่ได้ชอบแล้วจริง ๆ ครับ อย่าทำอะไรผมเลย” เขายืนยันพลางบอกให้อีกฝ่ายเห็นใจ
“ทำอะไรเธอ? ไม่มีวัน ฉันไม่มีทางทำอะไรเธอแน่”
“อ้าว แล้วคุณอรรคหมายถึง..”
“ฉันจะไม่ปล่อยอลันไว้ต่างหาก และไม่ใช่แค่อลัน ถ้ามีใครมายุ่มย่ามกับเธอ ฉันก็จะไม่เว้นมันเช่นกัน” ภาสกรห่อไหล่เมื่อได้ยินคำพูดนั้น
“ไม่มีหรอกครับ ไม่มีใครมายุ่งกับผมหรอก”
“ไม่มีก็ดี มาเถอะ เธอคงหิวแล้วใช่ไหม ฉันให้คนยกอาหารมาแล้ว”
“ขอบคุณครับ”
ตอนนี้เขาทำงานที่ชั้นวีไอพีโดยเริ่มทำงานตั้งแต่บ่ายโมงเลิกงานสี่ทุ่ม เก้าชั่วโมงรวมเวลาพักหนึ่งชั่วโมง มื้อเย็นวันนั้นภาสกรกินอาหารกับเจ้าของคาสิโนด้วยความเอร็ดอร่อยและเต็มไปด้วยความสุข จนลืมไปเลยว่าสุดท้ายการแข่งขันนั้นใครคือผู้ชนะ
“ตั้งใจทำงานเสร็จแล้วก็รีบขึ้นมา อย่าเถลไถล”
“ครับ” ภาสกรได้ยินก็นึกขัน เขาทำงานที่คาสิโน พักที่คาสิโน จะให้เขาเถลไถลได้อย่างไร “พายไปนะครับ”
“อืม”
ภาสกรลาเจ้าของห้อง เมื่อออกมาก็ทักทายสองอาจารย์หน้าห้อง จังหวะที่เขาลิฟต์เปิดออกมานั้น ภายในช่องสี่เหลี่ยมนั้นกลับปรากฏร่างคนผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ข้างในสร้างความตกตะลึงให้กับทั้งสองฝ่าย
“พาย...มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”========================================
ขอบคุณทุกการติดตามค่า เขมขอแจ้งว่าจะงดลงนิยายสัปดาห์หน้าและถัดไปนะคะ
ดังนั้นเขมจะมาลงนิยายอีกครั้งวันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม 2563 ค่ะ
ขอบคุณสำหรับปีนี้ที่อยู่ด้วยกันมานะคะ เขมดีใจมากๆ และอยากบอกให้ทุกคนรู้ว่าทุกคนคือกำลังใจของเขมมากๆ ค่ะ
เขมขออวยพรล่วงหน้าน้า
Merry Christmas and Happy new year 2020 ค่ะ
ขอให้ปี 2563/2020 เป็นปีที่ดีของทุกคน ไม่ว่าจะมีปัญหาหนักหนาแค่ไหนก็จะผ่านพ้นไปได้และผ่านมันไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขค่ะ
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
ปล เดินทางไปเที่ยวไหนระมัดระวังด้วยน้าาา
HASHTAG #พนันท้ารัก ค่ะ