ตอนที่ 29
แฟนยืนนิ่งงันด้วยเพราะไม่คาดคิดถึงการมาของหิน ทั้งยังไม่คาดคิดกับทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้า--
รอบห้องที่เป็นส่วนของห้องนั่งเล่นถูกตกแต่งด้วยรูปใบเล็กซึ่งถูกหนีบไว้กับเชือกป่านจนเต็มผนังทุกทิศทาง
รูปที่แฟนไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้ตัวว่าถูกถ่าย
“นี่มัน...”
ปลายหางเสียงหายเข้าไปในลำคอดื้อๆ เมื่อสมองว่างเปล่าจนเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก ใบหน้าสวยหันข้างไปหาคนที่กอดตัวเองอยู่ด้านหลังด้วยความเลื่อนลอย
“สุขสันต์วันเกิด” หินเอ่ยย้ำพร้อมทั้งทาบทับสัมผัสลงบนซีกแก้มของแฟนแผ่วเบา
คิดถึง
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
ใช้เวลาตั้งสติอยู่เกือบนาทีจึงหาเสียงตัวเองเจอแล้วค่อยๆ หมุนตัวกลับไปถาม โดยท่อนแขนของอีกคนยังคงคล้องอยู่รอบเอว
คนที่แสนคิดถึงปรากฏตัวตรงหน้า มือบางสั่นเทายกขึ้นสัมผัสใบหน้าคร้ามคม เมื่อรู้สึกจับต้องหินได้จึงแน่ใจว่านี่คือความจริง
“กลับมาถึงตอนเย็นแล้วก็รีบตรงมาที่นี่เพื่อเตรียมทุกอย่าง ให้แม่ช่วยรั้งมึงให้อยู่นอกบ้านจนกว่าจะเที่ยงคืนด้วย”
หินบอกถึงแผนการของตัวเองด้วยรอยยิ้ม
“แม่กูรู้เรื่องนี้?” คนถูกถามพยักหน้ารับ
“พ่อมึงก็ด้วย”
เรียกว่าร่วมมือด้วยคงได้ เมื่ออีกฝ่ายรับรู้และไม่เอ่ยห้ามหรือปฏิเสธจะช่วยเหลือ
ได้ฟังคำตอบแล้วแฟนก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความไม่คาดคิด หลากหลายความรู้สึกตีวนอยู่ในหัว แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้นคือคิดถึงคนตรงหน้าจับใจ
นิ้วเรียวไล้ไปตามโครงหน้าแกร่ง ก่อนจะเลื่อนไปตรงใต้ตาแล้วลูบแผ่วเบา
ร่องรอยความเหนื่อยล้าและความซูบโทรมบนใบหน้าปรากฏชัดอย่างบ่งบอกให้รู้ว่าหินทำงานหนักแค่ไหนเพื่อกลับมาให้ทันวันนี้
“น้องคิดถึง”
คนฟังหลับตาลงซึมซับถ้อยคำแสนอ่อนหวาน ยามมือของแฟนวางแนบลงบนแก้มหินก็เอียงหน้าเข้าหาเหมือนสิงโตตัวใหญ่อ้อนเจ้าของ
“พี่ก็คิดถึง คิดถึงมาก”
ร่างกายนี้ สัมผัสนี้ กลิ่นนี้
ทุกสิ่งอย่างของแฟนตรึงอยู่ในทุกอณูความรู้สึก ความคิดถึงกัดกร่อนซึมลึกทั้งยามตื่นและยามนอน กว่าเวลาจะล่วงเลยมาจนถึงวันนี้มันช่างยาวนานเหลือเกินในความรู้สึก
“เหนื่อยหรือเปล่า” หินเปิดเปลือกตาขึ้นมองคนถามด้วยความเชื่องช้า
แม้จะมีหลายเรื่อง แม้จะเป็นวันเกิด แม้จะมีสิ่งน่าตื่นเต้นอยู่ตรงหน้า แต่อีกคนสำคัญกว่า
เหนื่อยไหม สุขสบายทั้งกายและใจหรือเปล่า นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด
คำถามที่หินส่ายหน้าตอบด้วยรอยยิ้มบาง
เหนื่อยกายแต่ไม่เหนื่อยใจ
“เข้าไปดูห้องนอนไหม”
“ยังมีอะไรอีก”
แฟนเลิกคิ้วถามยามอีกคนผละออกแล้วจูงมือให้เดินเข้าไปในส่วนของนอนซึ่งมีผนังกั้นเป็นสัดส่วน ทว่าเมื่ออีกก้าวจะผ่านเข้าไปหินกลับรั้งให้หยุดเดิน
“หลับตาก่อน”
“มึงกำลังทำให้กูตื่นเต้น”
เอ่ยขึ้นพลางปิดเปลือกตาลงตามคำบอก ได้ยินเสียงอีกคนหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะตามมาด้วยเสียงดังขลุกขลักราวกับกำลังเตรียมการอะไรสักอย่าง จากนั้นหินจึงกลับมาจับมือแล้วเดินนำให้ก้าวตาม
“ลืมตาได้”
เสียงกระซิบข้างหูดังขึ้นจากทางด้านหลัง เปลือกตาที่แนบกันสนิทจึงค่อยๆ ขยับเปิด ใช้เวลาปรับสายตาอยู่ชั่ววินาที เมื่อภาพตรงหน้าชัดเจนหัวใจก็พองโตขึ้นด้วยความปลื้มปริ่ม
ไฟตกแต่งห้องห้อยระย้าเต็มห้องพร้อมทั้งมีป้าย
Happy Birthday ประดับอยู่เหนือหัวเตียง ความมืดสลัวจากการไม่เปิดไฟในห้องนี้และแสงจากอีกห้องซึ่งทะลุเข้ามาบางส่วนขลับให้ทุกอย่างดูสวยงามขึ้น
“มึง...”
“ชอบไหม”
คำถามมาพร้อมกับการโอบกอดจากด้านหลัง ขณะที่คนถูกเซอร์ไพร์สยังคงมองทุกอย่างรอบตัวไม่วางตา
ไม่เคยคิดเลยว่าหินจะทำอะไรแบบนี้ให้
คนถูกถามไม่ตอบหากแต่หมุนตัวกลับมาโถมตัวกอดจนหินต้องรีบรั้งตัวเองและอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ให้ล้มลง
“ชอบสิ ชอบมาก”
น้ำเสียงนั้นสั่นพร่าด้วยความตื้นตัน ทั้งดีใจและปลื้มปริ่มกับสิ่งที่หินทำให้จนพูดแทบไม่ออก
“สุขสันต์วันเกิด...กูขอให้มึงมีความสุข ร่างกายแข็งแรง และพบเจอแต่สิ่งที่ดี”
“ขอบคุณนะ” ใบหน้าสวยซบลงกับซอกคอแกร่งพร้อมทั้งเอ่ยด้วยเสียงอู้อี้
หินยกยิ้มให้กับท่าทางนี้ของคนในอ้อมกอด ท่อนแขนใหญ่ที่โอบร่างเล็กจนรอบกระชับขึ้นอีกเล็กน้อย ก่อนจะโยกตัวไปมาราวกับกำลังกอดเด็ก
ทว่าเด็กคนอื่นคงไม่เขย่งตัวขึ้นมาจูบกันลึกซึ้งแบบนี้
“มึงถ่ายรูปพวกนี้เอาไว้ตอนไหน กูไม่เห็นรู้ตัว”
คนที่เดินดูรูปแต่ละใบด้วยความตั้งใจถามขึ้น รอยยิ้มบางประดับอยู่บนใบหน้าไม่ห่างหายสักวินาที
มีทั้งรูปตอนหลับ ตอนหันหลัง และมุมด้านข้าง ทั้งหมดล้วนถูกแอบถ่ายทั้งสิ้นแต่ภาพที่ได้กลับสวยงามเสียจนอดยกมือขึ้นลูบเบาๆ ไม่ได้
เห็นหินจับกล้องบ้างไม่จับกล้องบ้าง ไม่คิดว่าจะมีรูปเยอะขนาดนี้
“ก็ถ่ายทุกตอนที่มึงเผลอ มากสุดก็เป็นตอนหลับ”
บ้างก็ถูกถ่ายด้วยกล้อง บ้างก็มาจากโทรศัพท์ เนื่องจากบางคราวแสงและมุมสวยแต่ไม่มีกล้องอยู่ในมือ
“ไม่เห็นมีรูปที่กูตั้งใจให้มึงถ่ายเลย”
“กูอยากให้ทุกรูปมาจากความเป็นธรรมชาติของมึง”
คนฟังหันไปมองหน้าคนพูด ก่อนรอยยิ้มที่กว้างอยู่แล้วจะกว้างขึ้นกว่าเดิม
“นอกจากความหื่นแล้วยังมีความโรแมนติกด้วย กูเพิ่งรู้นะเนี้ย”
คนถูกว่าทำเพียงหัวเราะในลำคอ ทว่ายังไม่ทันจะพูดอะไรต่อก็ต้องยกมือขึ้นมาปิดปากหาวด้วยความง่วงงุน
ก็ไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน
“ง่วงเหรอ งั้นรีบไปนอนเถอะ...พรุ่งนี้จะตื่นมาใส่บาตรกับกูไหม”
หินพยักหน้ารับยามแฟนเดินไปปิดไฟในห้องนั่งเล่นแล้วเดินนำไปทางห้องนอน
คนขี้เห่อไม่ยอมเปิดไฟ ปล่อยให้ไฟดวงเล็กดวงน้อยส่องสว่างพรั่งพราวรอบห้อง ขณะหินไปอาบน้ำก็จัดการถ่ายไอจีสตอรีจนพอใจ
จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ
คนที่แทบจะเคลิ้มหลับทันทีที่ขึ้นเตียงระบายยิ้มอ่อนเมื่อแฟนตามมากดจูบไปทั่วใบหน้า
“น้องรักพี่หินนะ ขอบคุณสำหรับเซอร์ไพร์ส”“อืม”
หินก็อยากจะตอบอะไรออกไปมากกว่านั้นหากแต่ความง่วงที่เข้าครอบงำทำให้ได้แต่ส่งเสียงตอบรับในลำคอ ก่อนสติจะค่อยๆ หลุดเข้าสู่ห้วงนิทราด้วยความรู้สึกเป็นสุขเนื่องจากคนข้างกาย
--
“ตอนพี่หินไม่อยู่พี่แฟนนี่หงอยมาก อาทิตย์นี้กลับมาอยู่บ้านทั้งอาทิตย์เพราะไปอยู่กับพี่บีพี่นัทจนโดนบ่น”
บนโต๊ะอาหารกว้างหลังทานมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อย ความเป็นไปของแฟนตลอดสามอาทิตย์ก็ถูกเล่าออกมาด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ จนคนถูกเผาต้องโยนองุ่นในมือใส่น้องตัวเองด้วยความทนไม่ไหว
“ฟาร์มนี่ก็ อย่าไปแกล้งพี่เขาสิลูก” เอ่ยบอกทั้งที่คนเป็นแม่เองก็กลั้นยิ้มเอาไว้แทบไม่อยู่
“มันอดไม่ได้นี่แม่”
ดวงตาคมเหลือบมองคนข้างตัวพลางพยายามกลั้นขำ ก่อนมือบางจะทุบลงมาบนหน้าขาดังปึกจนต้องหุบยิ้มแล้วอุทานออกมาเสียงเบา
ภาพซึ่งทุกคนรอบโต๊ะมองแล้วก็อมยิ้ม
“แล้วงานเป็นยังไงบ้างล่ะ”
“ส่วนของผมเรียบร้อยแล้วครับ ที่เหลือก็เป็นของส่วนทางนั้นซึ่งก็เหลืออีกไม่มาก” หินเอ่ยตอบพ่อของแฟน
“ก็ดีแล้ว” อีกฝ่ายตอบกลับคล้ายขอไปที ทว่าลูกและภรรยารู้ดีว่าคนทำเป็นขรึมปลื้มในตัวลูกเขยมากแค่ไหน
“แฟน แล้วงานแฟชั่นโชว์วันศุกร์นี้ว่ายังไงลูก ไหนๆ พี่หินก็กลับมาแล้ว ชวนไปด้วยกันซะเลยสิ”
คนเป็นแม่ซึ่งเพิ่งนึกถึงเรื่องงานขึ้นมาได้หันไปถามลูกตัวเอง
“แฟนเกือบลืมไปเลย...ว่ายังไง ไปกับกูไหม”
ใบหน้าสวยฉายแววเพิ่งนึกขึ้นได้ตามแม่ ขณะที่คนถูกถามทำหน้าไม่ถูกนักเนื่องจากไม่ถนัดและไม่มีความรู้เกี่ยวกับงานอะไรแบบนี้
“ไปสิหิน จะได้ทำความคุ้นชินเข้าไว้ งานต่อๆ ไปจะได้ไม่เขิน”
แม่ของแฟนเอ่ยพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ประโยคนั้นคล้ายกับเป็นการบอกให้ไปร่วมงานกลายๆ คนถูกมัดมือชกจึงได้แต่รับคำอย่างไม่อาจปฏิเสธ
“ครับ” คนแอบลุ้นกับคำตอบหันไปลอบยิ้มกับแม่ของตัวเอง เมื่อหินหันมามองจึงเบือนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความแนบเนียน
--
“ลงสตอรีขนาดนี้เพื่อนมึงไม่ด่าเหรอ เยอะเป็นตะเข็บเย็บผ้าเลย”
“มึงรู้ได้ไง ฟอลไอจีกูด้วยเหรอ”
ร่างเล็กเดินมาทรุดตัวลงบนโซฟาพลางชะโงกหน้าไปดูหน้าจอโทรศัพท์ ทว่าหินกลับเบี่ยงมือหลบ ใบหน้าทอความกรุ้มกริ่ม ทั้งยังไม่ยอมตอบคำถาม
“ตอบมา แอบฟอลกูตอนไหน”
แฟนคาดคั้นอีกคนด้วยคำพูด ทั้งยังขยับขึ้นไปนั่งทับบนตัก มือทั้งสองข้างวางแนบกับแก้มสาก บังคับให้หินสบสายตา
“สำคัญด้วยหรือไง”
“ไหนบอกว่าจะเล่าทุกเรื่องให้กูฟังมากขึ้นไง”
“ลากเข้าดราม่าซะงั้น”
หินโคลงหัวด้วยรู้ว่าแฟนจงใจพูดให้ต้องตอบคำถาม คนไม่คิดปิดบังตั้งแต่แรกจึงหยิบโทรศัพท์ที่หล่นอยู่ข้างตัวยื่นส่งให้คนที่อยากรู้
มือบางเอื้อมมาคว้าหมับด้วยรอยยิ้มเหนือกว่า จากนั้นจึงสแกนนิ้วมือปลดล็อกก่อนแอปพลิเคชันที่ถูกเปิดค้างไว้ก่อนหน้าจะปรากฏขึ้นให้แฟนรีบกดเข้าไปดู
เมื่อเห็นรูปที่เจ้าของแอ็กเคานต์ลงทั้งหมดแฟนก็ได้แต่นิ่งงัน นิ้วเรียวเลื่อนดูแต่ละรูปอย่างตั้งใจ ดวงตาแทบไม่กะพริบ
ทั้งหมดนี้คือรูปของแฟนทั้งหมด โดยแคปชั่นมีเพียงวันที่ซึ่งคาดว่าเป็นวันที่รูปถูกถ่าย
“ส่วนมากก็เป็นรูปที่อยู่รอบห้องนั่นแหละ แต่บางรูปก็มีแค่ในนี้”
หินอธิบายพร้อมทั้งเลื่อนท่อนแขนมาโอบกระชับรอบเอวเล็ก ใบหน้าคนพูดเอ่ยแบบสบายๆ แต่ใบหน้าของคนฟังกลับไม่เป็นอย่างนั้น
แฟนทั้งอึ้ง ตื้นตัน และดีใจ หลากหลายความรู้สึกจนไม่รู้ว่าสีหน้าที่แสดงออกเป็นอย่างไร
“ทำไมถึงสร้างแอ็กนี้” เสียงที่พูดออกไปสั่นพร่า
หินทำอะไรให้มากมายเหลือเกิน
“กูชอบถ่ายรูปโดยเฉพาะถ่ายรูปมึง คิดว่าถ้าลงเป็นไดอารีรวบรวมไว้แบบนี้น่าจะดี”
คนฟังเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ความตื้นตันและความรักอาบล้นจนต้องโน้มตัวกอดคนตรงหน้าเอาไว้แน่น
ทุกครั้งที่อยู่ในอ้อมกอดนี้ความรู้สึกพึ่งพิงได้จะเกิดขึ้นเสมอ
แฟนหลับตาลงซึมซับทุกความรู้สึกอันมากมาย แขนเรียวโอบรอบลำคอ ใบหน้าซบลงกับไหล่กว้าง
“จะทำให้กูรักไปถึงไหน” เสียงที่เอ่ยดังอู้อี้
“คนดีก็แบบนี้”
“ยอมให้วันนึงก็ได้”
คำพูดนั้นทำให้หินหลุดหัวเราะ ก่อนบรรยากาศรอบตัวจะเงียบลง ให้ความอบอุ่นค่อยๆ ทำงานโอบล้อมระหว่างกัน
“กูไม่มีของขวัญมีราคาอะไรให้มึง มีแค่สิ่งที่ตั้งใจทำให้เท่านี้”
หินเอ่ยขึ้นยามปลายนิ้วขยับลูบไล้ไปมาคล้ายกับกำลังนวดหลังเอวให้แฟนแผ่วเบา
“ที่มึงทำให้มันมีค่ากว่าของที่ซื้อด้วยเงินอีก” คนฟังยกยิ้มให้กับคำพูดแสนน่ารักของคนบนตัก
“ทำไมพูดจาเป็นคนดี”
“กูเป็นคนดี เป็นคนน่ารักที่มึงต้องรักให้มาก”
“ชมตัวเองแบบนี้ก็ได้เหรอคนเรา”
“หรือพี่หินจะเถียงว่าไม่จริง”
ผละใบหน้าออกจากการซุกซบพลางเอ่ยพูดด้วยสรรพนามซึ่งเป็นไม้ตาย
หินส่ายหัวน้อยๆ ด้วยรู้สึกระอากับเด็กเจ้าเล่ห์ แต่ถึงอย่างนั้นหัวใจก็สั่นไหวไปกับคำเรียกขานหวานหูนั้นอย่างไม่อาจห้าม
“คนดีคนน่ารักอะไรดื้อและเอาแต่ใจขนาดนี้”
“ไม่ดื้อเลย ไม่เอาแต่ใจด้วย มึงไม่ให้ช็อปเยอะก็ทำตามเงื่อนไขทุกอาทิตย์”
“อาทิตย์ละชิ้น แต่ชิ้นละหลายแสน”
แฟนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ท่าทางน่าหมั่นไส้จนคนมองขยับปากไปงับปลายจมูกรั้นหนึ่งที
“อื้อ กัดทำไม”
“หมั่นไส้”
ปากบอกว่าหมั่นไส้แต่คนทำกลับประทับจูบลงบนตำแหน่งที่ตัวเองกัดราวกับเป็นการขอลุแก่โทษ ก่อนคนถูกแกล้งจะเอาคืนด้วยการกัดริมฝีปากได้รูปเบาๆ ทว่าหินไม่คิดต่อว่า ปล่อยให้แฟนเล่นอยู่อย่างนั้นกระทั่งจากการขบกัดกลายเป็นดูดดึง สานต่อเป็นจูบร้อนแรง
จุ๊บ จุ๊บ
เสียงจูบดังคลอไปทั่วห้องขณะมือหนาเริ่มซุกซนหายเข้าไปสัมผัสผิวเนื้อเนียนจากทางชายเสื้อ
“ล็อกห้องหรือยัง” หินเอ่ยถามยามผละออกมาจูบซอกคอบาง
“ล็อกแล้ว”
คนฟังยกยิ้มกับตัวเองจากนั้นจึงไม่มีการพูดพร่ำทำเพลงอีกต่อไป
--
สองวันต่อมาหลังจากใช้ช่วงเวลาของวันสำคัญไปกับครอบครัว ต่อมาจึงเป็นการใช้เวลากับเหล่าบรรดาเพื่อนๆ โดยงานปาร์ตี้วันเกิดถูกจัดในผับซึ่งเป็นส่วนตัวแห่งหนึ่ง
“สุขสันต์วันเกิดนะคะอีขี้เหร่”
“มีความสุขมากๆ นะค้า”
“ผัวรักผัวหลงนะเพื่อนนะ”
เจ้าของวันเกิดทั้งยิ้มรับและส่ายหัวให้กับคำอวยพร โดยมีหินนั่งอยู่ในมุมลึกสุดของโต๊ะ ขณะที่แฟน บี และนัทคอยดูแลพูดคุยกับทุกคนที่มาในวันนี้
“พี่หินอยากได้อะไรเพิ่มไหมคะ”
บีซึ่งหันมาหยิบกระเป๋าเอ่ยถามคนที่นั่งเงียบอยู่คนเดียว ส่วนแฟนนั้นกำลังคุยกับเพื่อนอีกกลุ่มซึ่งเพิ่งมาถึง
“ไม่ครับ ขอบคุณมาก” คนฟังพยักหน้ารับยามได้ของที่ต้องการแล้วจึงเดินไปสบทบกับเพื่อน
มือหนาหมุนแก้วเครื่องดื่มในมือขณะสายตากวาดมองโดยรอบ
เพื่อนและคนรู้จักของแฟนมีไม่มากไม่น้อย บ้างก็เป็นเพื่อนตอนมัธยม บ้างก็เพื่อนมหาลัย บ้างก็พวกรุ่นน้องหรือรุ่นพี่ ดวงตาคมสแกนแต่ละคนไปอย่างเงียบเชียบเพื่อให้มั่นใจว่าหนึ่งในคนเหล่านี้ไม่มีใครคิดไม่ซื่อกับแฟน
ทว่าดูเหมือนจะมีบางคนไม่ผ่านเครื่องสแกนนี้
บางคนซึ่งกำลังวางมือลงบนหัวแฟนแล้วโยกไปมาสองสามครั้งด้วยความเอ็นดู
หินวางแก้วในมือลงบนโต๊ะแล้วหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง จากนั้นจึงเดินผ่านกลุ่มคนซึ่งรวมถึงแฟนเพื่อไปห้องน้ำโดยมีสายตาของหลายคนจับจ้องมองตาม
“เดี๋ยวมานะ” แฟนเอ่ยบอกเพื่อนและรุ่นพี่ตรงหน้าก่อนจะรีบเดินตามหินไปจนถึงในห้องน้ำ
“ทำไมไม่เห็นบอกกูว่าจะมาเข้าห้องน้ำ”
ร่างสูงหมุนกายกลับมาหาคนด้านหลัง ดวงตา
แสร้งแสดงออกถึงความแปลกใจที่เห็นแฟนตามมาราวกับไม่รู้ตัวมาก่อน
“ก็มึงคุยกับเพื่อนอยู่”
“คุยอยู่ก็บอกได้...มึงเบื่อหรือเปล่า”
ใบหน้าของคนพูดแสดงออกถึงความเป็นกังวลเนื่องจากรู้ตัวว่าวันนี้ไม่ได้ให้ความสนใจหินเท่าที่ควร
“คิดมากอะไร กูไม่ได้เป็นคนชอบความสนุกขนาดนั้นอยู่แล้ว”
“ก็เห็นมึงเดินออกมาแบบไม่บอก”
“กูแค่ปวดฉี่ มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร”
หินพยายามทำให้อีกคนผ่อนคลายด้วยการพูดด้วยรอยยิ้มขัน เพราะความจริงแล้วจุดประสงค์ของการมาเข้าห้องน้ำคือการทำให้แฟนหลุดออกจากตรงนั้นโดยไม่ได้หวังให้เจ้าตัวคิดมาก
“แน่ใจนะว่าไม่ได้เบื่อ”
“แน่ใจ แล้วนี่ตามกูมาทำไม หรืออยากเข้าห้องน้ำด้วยกัน”
คนถามทอดมองคนตรงหน้าด้วยสายตาลุ่มลึก จงใจสื่อสารสิ่งที่อยู่ในคำพูดให้แฟนรับรู้
“ไม่ต้องมาหื่น กูแค่ตามมาเฉยๆ จะฉี่ก็ไปสิ”
“มาดูกูฉี่เหรอ อยากเห็นก็ไม่บอก เปิดให้ดูเฉยๆ ยังได้”
ไม่เพียงแค่พูดแต่มือหนายังทำท่าจะปลดกระดุมกางเกงของตัวเองจนแฟนต้องเอ่ยพูดเสียงหลง
“ไอ้พี่หิน! เดี๋ยวคนอื่นก็เดินเข้ามาเห็น”
“หวงลูกชายกูเหรอ”
คิ้วเข้มเลิกขึ้นยามเอ่ยพูดด้วยรอยยิ้มพราย ไม่สะทกสะท้านกับความทะลึ่งในคำพูดนั้นเลยแม้แต่น้อย
“ทำไม หวงแล้วมันผิดตรงไหน”
แฟนเชิดหน้าขึ้นถามทั้งยังยอมรับไปในตัว ไม่มีการเขินอายหรือปากแข็งบ่ายเบี่ยง เพราะความสัมพันธ์เดินทางมาถึงขั้นที่ไม่มีอะไรต้องปกปิด
หวงก็บอกว่าหวง หึงก็บอกว่าหึง...ขืนคนอื่นมาเห็นแล้วอยากได้บ้างจะทำยังไง
คำพูดซึ่งทำให้หินยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ท่อนแขนใหญ่เตรียมจะรั้งแฟนเข้ามาแนบชิด ทว่าเสียงฝีเท้าของใครบางคนก็ดังขึ้นขัดให้คนทั้งสองหันไปมอง
“อ้าวพี่กรณ์ มาเข้าห้องน้ำเหรอ”
แฟนเอ่ยทักอีกฝ่ายขึ้น ขณะที่หินลอบสำรวจคนที่เข้ามาขัดจังหวะเงียบๆ
“พี่เห็นแฟนหายมานานเลยมาดูน่ะ นึกว่าเป็นอะไร”
ท่าทางการพูดและบุคลิกนั้นดูสุภาพอบอุ่นอย่างที่ใครหลายคนคงชอบ หากแต่กับผู้ชายด้วยกันเช่นหินนอกจากจะไม่สนใจแล้วยังเกิดความรู้สึกไม่ถูกชะตา
สายตาอ่อนละมุนที่ทอดมองแฟนคนอื่นช่างไม่สุภาพตามหลักของมารยาท ไม่รู้หรือไงว่าการมองคนที่มีแฟนแล้วแบบนี้เป็นเรื่องไม่สมควร
“อ้อ แฟนไม่ได้เป็นอะไร พอดีตามพี่หินมาเฉยๆ ...พี่กรณ์ครับนี่พี่หิน เป็นแฟนแฟนเอง ส่วนนี่พี่กรณ์ เป็นรุ่นพี่”
หินพยักหน้ารับพลางค้อมหัวให้ฝ่ายนั้นเป็นการทักทาย อีกทั้งยังพยายามกดเก็บความรู้สึกทางสายตาเอาไว้ให้มิดชิด
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“เช่นกันครับ”
หินตอบรับด้วยรอยยิ้มที่เคลือบไปด้วยความพึงพอใจยามสังเกตเห็นความผิดหวังซึ่งฉายชัดอยู่ในดวงตาของชายหนุ่มลุคคุณชายตรงหน้า
“พี่กรณ์จะมาเข้าห้องน้ำด้วยหรือเปล่า”
“เปล่า พี่มาดูเราเฉยๆ งั้นพี่กลับไปที่โต๊ะก่อนนะ”
เมื่อแฟนรับคำเจ้าตัวก็หันมายิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป โดยมีสายตาซึ่งไม่สามารถคาดเดาความคิดได้มองตามไม่ห่าง
“ไหนบอกปวดฉี่ ไปฉี่สิ”
แฟนเลิกคิ้วมองคนที่ยืนนิ่งด้วยความแปลกใจ หินเลยได้สติและดึงสายตาตัวเองกลับมา จากนั้นจึงตรงไปทางโถสำหรับจัดการของธุระผู้ชาย ขณะที่แฟนหมุนตัวไปล้างมือโดยไม่คิดอะไร และคงไม่คาดคิดว่าคนที่มักนิ่งเฉยอยู่เสมอกำลังเกิดความไม่สงบอยู่ข้างใน
คนที่น่ากลัวไม่ใช่คนที่เข้ามาจีบแบบโต้งๆ แต่คือคนที่ใช้สถานะของคำว่าพี่ชายผูกมัดให้ใครบางคนไม่อาจตัดตัวเองออกไปจากชีวิต
หินไม่ไว้ใจผู้ชายคนนั้นมากกว่าคนที่ทักมาจีบแฟนเสียอีก
00.34 น.“คิดว่ากินไปไม่เยอะแต่ก็มึนเหมือนกันแฮะ”
แฟนสะบัดหัวไล่ความมึนเมื่อเข้ามาในห้องแล้วจังหวะจะก้มลงหยิบสลิปเปอร์เกิดอาการโลกเอียงกะทันหันจนหินต้องถลามาพยุง
“ไม่เยอะที่ไหน เพื่อนมึงเชียร์สบ่อยขนาดนั้น” แม้แต่ตัวเขาเองยังโดนไปไม่น้อย เจ้าของงานคงไม่ต้องพูดถึง
“อืม สงสัยจะไม่แค่มึนแล้ว น่าจะเมาด้วย”
คนพูดหัวเราะคิกคักยามถ่ายเทน้ำหนักไปพิงคนตัวโตจนหมด ท่อนแขนแกร่งที่ประคองรอบเอวบางจึงโอบกระชับให้แน่น ก่อนจะพยุงคนเมาตรงไปยังห้องนอน ค่อยๆ วางแฟนลงบนเตียงด้วยความระมัดระวังพร้อมทั้งจัดที่จัดทางการนอนให้เรียบร้อย
“อยากอาบน้ำอะ” เสียงพูดซึ่งฟังดูอ้อแอ้กว่าปกติดังขึ้น
“เดี๋ยวกูเช็ดตัวให้”
“ไม่เอา จะอาบน้ำ” แฟนเริ่มงอแงพร้อมทั้งลงมือปลดกระดุมเสื้อออก
“โอเคๆ งั้นเดี๋ยวกูอาบให้”
หินถอนหายใจพลางปล่อยให้อีกคนจัดการกับตัวเองตามใจชอบ ระหว่างนั้นจึงเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว จัดเตรียมชุดนอนและชั้นในของแฟนให้เรียบร้อยก่อนจะกลับมาดูคนบนเตียงอีกครั้ง
“ถอดหมดแล้ว”
ร่างเปลือยเปล่าขาวเนียนสะท้อนกับแสงไฟภายในห้องกำลังนั่งทับขาตัวเองพร้อมทั้งเอ่ยพูดด้วยรอยยิ้มราวกับภูมิใจนักหนาในผลงาน
หินลอบถอนหายใจเป็นครั้งที่สอง ไม่ปฏิเสธสักนิดว่าภาพนั้นทำให้บางอย่างภายใต้กางเกงเกิดปฏิกิริยา แต่เพราะพรุ่งนี้ยังคงเป็นวันทำงานเลยทำได้เพียงอุ้มคนร่างบางขึ้นแล้วตรงไปทางห้องน้ำ
“แปรงฟันก่อน”
บีบยาสีฟันใส่ให้เรียบร้อยแล้วยื่นให้อีกคนรับไปจัดการ แฟนแปรงฟันด้วยท่าทางเป็นสุข ฮัมเพลงคลอในลำคอแม้มีฟองเต็มปาก หินซึ่งยืนแปรงฟันอยู่ข้างกันได้แต่ส่ายหัวไปมาเบาๆ
เสียงแปรงเสียดสีกับฟันทำงานอยู่ราวห้านาที จากนั้นแฟนจึงเปิดน้ำเพื่อบ้วนปากและล้างแปรงจนเรียบร้อย
“ปากหอมแล้ว” เอ่ยพูดพร้อมทั้งพ่นลมหายใจใส่คนที่เพิ่งบ้วนปากเสร็จเป็นการพิสูจน์คำพูด
“หอมแล้วก็ไปอาบน้ำ”
มือหนาจัดการเก็บแปรงของตัวเองและแฟนให้เข้าที่ก่อนพยุงคนยืนโงนเงนไปใต้ฝักบัว ปรับเครื่องทำน้ำอุ่นอีกเล็กน้อยแล้วเอื้อมมือเปิดก๊อกให้น้ำไหลออก
“ฮื่อ น้ำอุ่นดีจัง”
หินอาบน้ำให้เด็กที่มีอาการเมาจนตัวเองเปียกปอนทั้งตัว เสื้อผ้าซึ่งยังคงไม่ได้ถอดแนบสนิทไปกับเรือนกาย เห็นดังนั้นมือซนๆ จึงเอื้อมมาแตะสัมผัสไปทั่ว
“อย่าซน” เสียงทุ้มเอ่ยปราม
“ชอบ”
จับหน้าท้องแกร่งซึ่งแข็งเป็นลอนแล้วก็หัวเราะกับตัวเอง ไม่สนใจมือสากที่กำลังลูบไล้ฟองสบู่ให้ทั่วตัวเลยแม้แต่น้อย
“อยากมีแบบนี้หรือไง” หินแกล้งถาม
“หึ ไม่อยาก แต่ชอบที่มึงมี”
“ให้คนอื่นดูด้วยได้ไหม”
“ไม่!” ใบหน้าและดวงตาซึ่งฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เงยขวับขึ้นมามองอย่างขุ่นเคือง เสียงตอบนั้นเกิดขึ้นทันทีและดังฟังชัด
“ทำไม” หินยกยิ้มมุมปากเมื่อรู้สึกว่าการหลอกถามคนเมาก็สนุกไม่หยอก
“หวง...หวงสิ นี่พี่หินของแฟนนะ” แฟนยกมือขึ้นมาคล้องลำคอจากนั้นจึงเอียงใบหน้าซบกับอกกว้างยามเอ่ยคำพูดแสดงความเป็นเจ้าของ
ท่าทางนั้นทำให้คนถูกอ้อนกลายๆ ใจสั่นไหว ไหนจะเพราะคำพูดแสนน่ารักและร่างกายขาวเนียนน่าฟัด
ทุกอย่างล้วนส่งผลต่อหินอย่างจัง
“มึงก็เป็นของกูเหมือนกัน”
ใบหน้าอันแสนสุภาพของใครบางคนแวบเข้ามาในหัวให้ต้องเอ่ยประโยคนั้นออกไปด้วยความหวงแหน
“เป็นของพี่หิน” อีกคนพูดตาม
“กูเป็นของมึงแล้วมึงก็เป็นของกู...แต่ตอนนี้คนของกูต้องอาบน้ำให้เสร็จก่อน”
หินจับร่างเล็กผละออกห่างแล้วเปิดน้ำอีกครั้งเพื่อล้างฟองสบู่บนตัวของแฟนให้เรียบร้อย
ร่างสูงเดินกลับไปยังอ่างล้างหน้า หยิบหลอดโฟมที่จำได้ว่าแฟนใช้ประจำกลับมาบีบใส่มือ จากนั้นจึงค่อยๆ ลูบไล้ทำความสะอาดใบหน้าให้อีกคนแผ่วเบา
คนที่เริ่มสร่างเมารับรู้ทุกอย่างได้มากขึ้นแต่ก็ไม่ทั้งหมด เมื่อทุกขั้นตอนเสร็จเรียบร้อยหินจึงพาแฟนมาเช็ดตัวและสวมชุดคลุมอาบน้ำไว้ให้
“นั่งรออยู่นี่ กูอาบน้ำแป๊บนึง”
คนที่ถูกจับให้นั่งลงบนเก้าอี้ตรงมุมหนึ่งของห้องน้ำพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ร่างสูงจึงวางใจแล้วเดินไปใต้ฝักบัวเพื่อชำระร่างกาย
เสียงน้ำไหลรินดังก้อง ก่อนจะตามมาด้วยกลิ่นหอมอ่อนของสบู่ยามมือใหญ่กำลังถูไปตามร่างกายตัวเอง ทว่าวินาทีต่อมาหินก็ต้องอุทานเสียงดังเมื่อถูกใครบางคนโอบกอดจากด้านหลัง
“เข้ามาทำไม!” คนถูกกอดรีบหมุนตัวกลับไปถาม
“อยากกอดมึง” อีกคนเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มราวกับไม่รับรู้ถึงความผิดของตัวเอง
“ค่อยกอดตอนแต่งตัวเสร็จ ต้องมาล้างตัวอีกรอบเลยเห็นไหม”
คิ้วเข้มขมวดมุ่นพลางถอดชุดคลุมของแฟนออกแล้วเปิดน้ำล้างตัวให้เด็กที่ซนไม่เข้าเรื่องอีกรอบ
ทว่าคนถูกดุไม่สะทกสะท้าน ใบหน้าสวยมีเพียงความพึงพอใจที่ได้รับการดูแล อีกทั้งยังก่อกวนคนตรงหน้าด้วยการกดจูบไปทั่วซอกคอแกร่ง
“แฟน!” เสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกชื่ออีกคนเข้มขึ้นเนื่องจากความอดทนกำลังลดต่ำลงเรื่อยๆ
“จุ๊บ จุ๊บ ดุอะไรอ่า”
ยังมีหน้ามาถาม!
“หยุด พรุ่งนี้มึงต้องไปทำงาน”
“อื้อ” รับคำในลำคอคล้ายจะตอบรับแต่ริมฝีปากสีสดกลับไม่ยอมหยุด ซ้ำยังเลื่อนต่ำลงไปยังหน้าอกหนั่นแน่น กดจูบลงบนเม็ดสีเข้มไปมาจนหินต้องรั้งปลายคางเล็กเอาไว้
มากเกินไปแล้ว
“หยุด-เดี๋ยว-นี้”
ร่างเล็กยิ้มรับคล้ายจะฟังแต่แล้วก็เขย่งตัวขึ้นมาจูบกันแบบดื้อๆ
หินถอนหายใจเฮือกใหญ่ยามปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจอยู่อย่างนั้น กระทั่งความอดทนหมดลงจึงพลิกตัวแล้วดันแฟนไปชิดกับผนัง สัมผัสตรงริมฝีปากร้อนแรงขึ้นราวกับกองไฟซึ่งถูกราดด้วยน้ำมัน ไม่สนว่าอีกคนจะต้องทำงานในวันพรุ่งนี้อีกต่อไป
เข้ามายั่วเอง ถ้าเดินขาเป๋ไปทำงานก็อย่างอแง
TBC.
ตอนนี้หวานจนไม่รู้จะหวานยังไงงงงง>< น้องแฟนอ้อยพี่ ยั่วพี่หนักมากเลยรู้กกกก พี่หินอุตสาห์จะเป็นคนดีแล้วเชียว คึคึ
เห้อ แต่งเองก็อิจฉาน้องแฟน ทำไมอิพี่มันดีขนาดนี้ นอกจากหื่นแล้วยังรักมาก มั่นคงมาก
ใครที่ขัดใจว่าทำไมตัดเข้าโคมไฟตลอด บอกเลยว่าตอนหน้านี้มาแน่ ฮุฮุ จะเป็น NC ที่ฮอตที่สุดแล้ว! บอกแค่นี้!
ปล.อยากอ่านไวๆ กำลังใจต้องมาเยอะๆ ^^
แฟนเพจ : https://www.facebook.com/writerexsoull/
Twitter : https://twitter.com/exsoull_ ฝากติดแท็ก #พี่หินคนห่าม ด้วยนะคะ