King Class Away Ep.42
Beginning Of The Endเช้าวันพุธ วันแรกของการกลับเป็นเด็กห้องคิง ผมมาโรงเรียนเช้าเป็นพิเศษตามที่อาจารย์บอกเพื่อเตรียมตัวเข้าเรียนห้องใหม่ ผมเดินเข้าซอยโรงเรียนด้วยความรู้สึกแปลก ๆ เหมือนกลับสู่ดลปัญญานุกูลอีกครั้ง...อย่างน้อยก็ไม่มีต้นบอระเพ็ดละวะ...ในหัวผมนึกถึงฉากในการ์ตูนเรื่องต่าง ๆ ที่เด็กใหม่ย้ายมาเข้าห้องเรียนตอนกลางภาค...ซึ่งไม่เคยมีวันแรกดี ๆ สักเรื่อง ถึงพ่อจะบอกว่าเรียนไม่ไหวก็บอกพ่อเดี๋ยวพ่อจะคุยกับโรงเรียนให้กลับไปห้องปกติอีกครั้งแต่ผมไม่อยากให้พ่อผิดหวัง
เมื่อวานพ่อพาผมโดดเรียนหนึ่งวันไปเที่ยวห้าง กินบุฟเฟต์ ดูหนังแล้วมากินขนม เป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้าเรียนจากอนุบาลถึงม.ปลายที่ผมโดดเรียน...โดยพ่อเป็นคนนำ! ตอนเย็นพอกลับถึงบ้านพร้อมถังป๊อบคอร์นและแก้วน้ำลายการ์ตูน แม่ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วหัวเราะอยู่ตั้งนาน “ตกลงพ่อหรือลูกที่แสบกว่ากันนะเนี่ย?”
ถึงมันจะเป็นวันแห่งความสุขแต่ผมลอบมองพ่อหลายครั้ง พ่อมีผมหงอกสีดอกเลาแซมไปทั่ว พ่อกับแม่อายุมากขึ้น ทำงานเหนื่อยเพื่อสร้างอนาคตให้ผม ผมเองก็ต้องตั้งใจเรียนตั้งใจให้พ่อแม่สบายใจเช่นกัน การวนเวียนคิดจะอยากมีความสุขเหมือนตอนเด็กมันไม่ได้แล้ว
ผมเดินมาถึงร้านน้ำหน้าโรงเรียน เอ๋...บอมกับสนไม่อยู่แฮะ ผมนั่งรอสักพักก็ยังไม่เจอใคร ทุกทีถ้านั่งตรงนี้ตอนเช้ามักเจอเพื่อน ๆ สักคนเดินผ่านมาบ้างแต่ทำไมวันนี้แปลกจัง ลองโทรหาบอมดีกว่า
“หวัดดีพัต”
“หวัดดีบอม ใกล้มาถึงโรงเรียนยัง?”
“เราไปทำธุระของชมรมน่ะ พัตรออยู่หน้าร้านน้ำเหรอ?”
“อืม”
“โทษทีนะเราคงไปสายหน่อยน่ะ พัตเข้าโรงเรียนไปก่อนเลยนะ”
“อ...อืม แล้วเจอกันตอนเที่ยงนะ” ทำไมบอมต้องมีธุระวันนี้ด้วยนะ...ผมอยากเจอบอมนี่นา
“พัต วันนี้เข้าห้องคิงใช่มั้ย?”
“อือ ห้องประจำชั้นเราอยู่ชั้น 4 ตึก 7 นะ”
“อืม พัตสู้ ๆ นะ เดี๋ยวตอนพักเที่ยงเราไปหาที่หน้าห้องนะ”
ผมพยายามคุยกับบอมด้วยน้ำเสียงปกติทั้งที่ในใจผมอยากเจอบอม สน ดิม ก่อนเข้าห้องคิง ตรูเคว้งคว้างนะเฟร้ย!
ผมเดินขึ้นตึก 7 ตามปกติพวกผมจะไม่ได้เดินผ่านตึกนี้เท่าไหร่เพราะเป็นตึกรวมห้องประจำชั้นของพี่ม.6 แม้ว่าจะมีทางเดินเชื่อมกับตึก 10 ที่เป็นห้องประจำชั้นม.4 ก็ตาม มันเหมือนมีออร่าความเคร่งเครียดในการเรียนและความเป็นรุ่นพี่สูงมากจนไม่อยากเฉียดเข้าเท่าไหร่...แต่วันนี้ผมเป็นส่วนหนึ่งของตึกนี้แล้ว ผมมองขึ้นไปตามโถงบันได ตามที่คุณครูบิ๊วบอกชั้นบนสุดของตึกนี้มี 5 ห้อง ห้องประจำชั้นใหม่ของผมห้องคิงม.4/1 ถัดไปคือห้องม.5/1 และ ม.5/7 ตามด้วยห้องม.6/1 และม.6/7
...เพราะตัวเราจะเปลี่ยนตามคนรอบข้าง...เลยเอาห้องคิงและห้องควีนเกือบทั้งหมดมารวมกระจุกกันเพื่อสร้างสังคมเด็กเรียนซะเลยสินะ? ซึ่งบรรยากาศก็กดดันจริง ๆ ไม่ค่อยมีใครมานั่งเล่นหน้าห้องแบบห้องปกติเลย เครียดตั้งแต่วินาทีแรกที่เหยียบขึ้นมาชั้นนี้เลยตรู ถ้าผมได้ห้องควีนอย่างน้อยก็ได้อยู่กับดิมและมีสนอยู่ห้องติดกัน แต่นี่เหมือนตรูโดนเอามาทิ้งบนเกาะร้างกลางทะเลเลย
ผมเดินมาถึงหน้าห้องประจำชั้นใหม่ เฮ้ย! ทำไมทุกคนนั่งกันเป็นระเบียบเต็มห้องเลยวะ ยังไม่ได้เข้าแถวหน้าเสาธงเลยนะ? อาจารย์ประจำชั้นที่ยืนอยู่หน้าห้องหันมาพอดีและเรียกชื่อผม
“นายนนทภัทร เข้ามายืนหน้าห้องเลยครับ”
ผมเดินไปหน้าชั้น เอาแล้วตรู นี่มันฉากแนะนำเด็กใหม่ที่ย้ายมากะทันหันตามการ์ตูนเป๊ะ!
“วันนี้เรามีเพื่อนใหม่ย้ายจากห้อง 4/4 มาเรียนกับพวกเรานะ แนะนำตัวเองได้เลยครับ”
“สวัสดีครับ ผมชื่อนนทภัทร วงศ์ประสาน ชื่อเล่นชื่อพัตนะครับ”
“นนทภัทรเป็นคนเดียวที่สอบกลางภาคได้ 100 คะแนนเต็มทุกวิชา เก่งมากครับ”
อาจารย์อย่าสร้างศัตรูให้ผมสิว้อย! สายตาแต่ละคนที่จ้องมาที่ตรูตอนนี้สัญลักษณ์ PVP เด้งขึ้นมาเพียบเลย...เดี๋ยวนะ ในห้องนี้น่าจะมีคนที่สนเคยมีเรื่องด้วยตอนเล่นสแครบเบิ้ลนี่หว่า คนไหนวะ? ถ้าเค้ารู้ว่าผมเป็นเพื่อนสนนี่ชีวิตตรูบรรลัยแน่
“เธอนั่งตรงที่ว่างหลังห้องติดกับปรวิทย์นะ”
ผมเดินมาวางเป้แล้วนั่งลงพร้อมกล่าวทักทายเพื่อนใหม่ “สวัสดีครับปรวิทย์”
“หวัดดีพัต เราชื่อป้อนะ”
“หวัดดีครับป้อ”
เพื่อนใหม่ยิ้มทักทาย เอาวะอย่างน้อยก็น่าจะเป็นมิตร “เดี๋ยวจะมีสมอลโฮมรูมก่อนไปเข้าแถวตอนเช้านะ”
“อืม ขอบใจนะครับ”
อาจารย์เคาะกระดานเพื่อเริ่มโฮมรูม “ผลสอบกลางภาคของพวกเธอส่วนใหญ่ทำคะแนนได้น้อยนะ เดี๋ยวสัปดาห์นี้หลังจบคาบ 4 จะมีการเฉลยข้อสอบ 20 นาทีทุกวันแล้วค่อยไปพักเที่ยง”
เอาแล้วไง นรกชัด ๆ!... ชีวิตตรูโดนริดรอนช่วงพักเที่ยงตั้งแต่วันแรกเลย แล้วผมจะได้เจอบอมมั้ยเนี่ย?
พอโฮมรูมจบพวกเราก็เดินลงไปเข้าแถวหน้าเสาธง แถวห้องผมอยู่หน้าแถวห้อง 2 ของบอม อย่างน้อยผมก็เจอเขาแว่บนึงแม้จะไม่ได้คุยกัน บอมยิ้มให้ผม รอยยิ้มที่ให้กำลังใจผมแม้ไม่ได้พูดคุยกัน ระหว่างนั่งหน้าเสาธงผมหันไปมองบอมเมื่อไหร่ก็เห็นเขามองมาที่ผมเสมอ...เราสองคนสื่อสารกันได้แค่นี้ ผมอยากบอกบอมว่าเที่ยงนี้ผมต้องทนหิวฟังเฉลยข้อสอบอีก 20 นาที บอมไม่ต้องรอผม แต่ผมก็ได้แค่ส่งสายตาบอกที่เขาคงไม่เข้าใจ
ผมมองเลยไปแถวห้อง 3 หาเอสกับตี้ เอ๋? พวกเขาไม่อยู่ที่แถวแฮะ แปลกจังหายไปทั้งคู่เลย?
บอมทำปากบุ้ยใบ้พยายามบอกอะไรผมสักอย่างแต่อาจารย์เข้ามาสะกิดไม่ให้ผมหันไปมองข้างหลัง ตรูซวยอีกโดนอาจารย์ประจำชั้นเพ่งเล็งละทีนี้ผมเลยได้แต่นั่งนิ่ง ๆ สงสัยกับเรื่องแปลก ๆ ของเพื่อน ๆ ที่เกิดขึ้นเช้านี้
แล้วคาบเรียนของห้องคิงก็เริ่มขึ้น หนังสือเรียนน่ะใช่ชุดเดียวกับที่ผมมี แต่แบบฝึกหัดที่เขียนขึ้นกระดานน่ะยากโดดไปหลายขุมเลย เหมือนสอนเล่นมาริโอ้แต่แบบฝึกหัดเป็น Bloodborne ยังดีที่ผมเคยผ่านอะไรแบบนี้มาแล้วที่ดลปัญญานุกูลเลยรับมือไหว
“จบเนื้อหาแล้วนักเรียนทุกคนเปิดสมุดจดการบ้านตามที่อาจารย์เขียนนะ”
“พัตจดเร็ว ๆ นะ อาจารย์คนนี้เขียนเสร็จแล้วจะลบเลย”
“ครับป้อ”
“เอ้อ นายรู้มั้ยว่าถ้าทำการบ้านไม่เสร็จหรือทำผิดต้องไปวิ่งรอบสนามบอลตามจำนวนข้อนะ”
“ครับ” ...อันนั้นรู้จากดิมแล้ว...
จนมาถึงช่วงเฉลยข้อสอบที่กินเวลาพักเที่ยง (ตรูหิวข้าวแล้วนะ T_T) ผมมองผ่านหน้าต่างไปนอกห้องสักพักบอมก็ชะเง้อหน้ามาจากขอบกำแพง ผมได้แต่ยกมือทำเลข 20 ให้บอมรู้ว่าเรียนต่ออีก 20 นาที บอมทำหน้าเศร้า ผงกหัวแล้วเดินไป ขอโทษนะบอมเรารู้ว่านายอยากกินข้าวพร้อมกัน ผมก็อยากอยู่กับบอมมาก ๆ เลย อยากระบายให้เขาฟังว่าวันแรกผมก็อ่วมแล้ว
“ในวิชาภาษาอังกฤษ พาร์ตที่พวกเธอส่วนใหญ่ทำคะแนนได้น้อยสุดคือพาร์ต reading วันนี้อาจารย์จะให้นนทภัทรแนะนำเทคนิคทำยังไงให้ได้คะแนนเต็ม 100 นะ” อาจารย์เรียกผม อย่ามายุ่งกับตรู แค่นี้ตรูก็มีศัตรูเยอะแล้ววววว
ผมลุกขึ้นตอบ “เอ่อ...ผมอ่านคร่าว ๆ ก่อนหนึ่งรอบเพื่อจับใจความสำคัญครับ ถ้ามีส่วนไหนหรือศัพท์คำไหนไม่เข้าใจจะข้ามไปก่อน เดี๋ยวพอเข้าใจเนื้อหาของเรื่องก็อาจเดาส่วนที่ติดได้ครับ”
“มีเทคนิคจับใจความสำคัญไหม?”
“ครับ เนื้อหาสำคัญมักมีคำที่เป็น negative เช่น but, however, nevertheless, on the other hand”
“เยี่ยมมากครับนนทภัทร นั่งลงได้”
“เทคนิคของพัตดีมากเลย” ป้อยิ้มให้กำลังใจ
“ขอบคุณครับ”
“ไม่ต้องพูดครับหรอก เราเพื่อนกัน”
“อืม” ป้อเป็นคนใจดีแฮะ แนะนำหลายเรื่องเลย
“พัตทนหิวนิดนึงนะ”
“อืม ขอบใจนะป้อ”
“อ้อ นายรู้ยังว่าทุกเย็นหลังเลิกเรียนจะมีทำแบบฝึกหัดด้วย”
“หา!” ภาพการเล่นคณิตคิดไวหลังเลิกเรียนเหมือนสมัยอยู่ห้องคิงที่ดลปัญญาผุดขึ้นมาในหัวผมเลย แบบนี้จะได้ไปเล่นบาสหลังเลิกเรียนมั้ยเนี่ย?
ถึงช่วงพักเที่ยง ผมมีเวลาแค่ 30 นาที ผมรีบซื้อข้าวแล้วเดินไปโต๊ะประจำ ผมเจอเอสกับตี้กำลังเก็บจานพอดี
“หวัดดีเอสตี้”
สองคนหันมามองผมแว่บนึงแล้วเดินไปเลย อะไรกันน่ะ…ทำไมพวกเค้าทำเหมือนไม่อยากมองหน้าผมแบบนั้น
ก็ผมหลอกใช้เอส หลอกใช้ตี้ ผมก็ควรโดนเพื่อนเกลียดแล้วนี่ ผมทำตัวเองก็ต้องรับผลการกระทำ
“พัต” บอมเดินมาแตะไหล่
“บอม กินข้าวเสร็จแล้วเหรอ?”
“อือ พัตเรียนเพิ่มตอนเที่ยงด้วยใช่มั้ย?”
“ใช่ ห้องเราเฉลยข้อสอบ 20 นาทีนี่เพิ่งเสร็จ จะเป็นแบบนี้ทั้งสัปดาห์เลย”
“หา?” บอมทำหน้าตกใจเมื่อรู้ความโหดของห้องคิง “งั้นพัตรีบมานั่งกินข้าวเถอะ เรานั่งเป็นเพื่อนพัตนะ”
ตอนนี้โต๊ะประจำของพวกเราไม่มีใครอยู่เลย มีแค่ผมกับบอม เขานั่งดูผมที่รีบกินข้าวให้เสร็จทันเวลา
“พัต เพื่อน ๆ เขากินข้าวเสร็จไปก่อนแล้วน่ะ”
“อือ”
“พัต เมื่อกี้นายเจอเอสกับตี้ใช่มั้ย?”
“อ...อือ” ผมก้มหน้ากินข้าวต่อ ผมรู้ว่าบอมจะพูดอะไร มันไม่ใช่ความผิดของพวกเขาหรอกที่ไม่อยากเจอผม ผมเองแหละเป็นฝ่ายผิด
“พัต” บอมกุมมือผม “นายเชื่อใจเพื่อนมั้ย?”
“ช...เชื่อสิ”
“เอสกับตี้ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นนะ”
“อืม” ผมขานรับทั้งที่ไม่เข้าใจเลย ทำไมผมต้องเจอเรื่องแบบนี้
“บอม ตอนคาบ 8 คาบสันทนาการเราจะมาเล่นบาสด้วยนะ แต่เสร็จแล้วอาจารย์ให้กลับไปทำแบบฝึกหัดที่ห้องอีก จะมีแบบนี้ทุกเย็นเลย เราไม่รู้จะเลิกกี่โมงแต่ยังไงเราจะมาเล่นบาสหลังเลิกเรียนด้วยนะ”
“อืม เรารอนะพัต”
--------------------------------------------
พอถึงคาบ 8 ผมรีบวิ่งลงมาที่สนามบาส บอมยืดเส้นอุ่นเครื่องรออยู่ก่อนแล้ว
“คิดถึงพัตจัง เรียนเหนื่อยมั้ย?”
“เหอ ๆๆ เหนื่อยมาก ทั้งแบบฝึกหัดทั้งการบ้านโหดกว่าห้องปกติเยอะเลย เราน่ะไหวเพราะตอนม.3 ที่ดลปัญญาเราเรียนเนื้อหาม.4 หมดแล้ว ห่วงแต่เพื่อนคนอื่นมากกว่า”
“พัตน่ะห่วงคนอื่นทุกที” บอมขยี้หัวผม “แล้วเมื่อวานพัตคุยกับรองผอ.เสร็จก็ลาเรียนไปกับคุณพ่อเหรอ?”
“ช่าย พ่อน่ะพาเราโดดเรียน ฮ่า ๆๆ”
ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้บอมฟัง และเรื่องที่พ่อลักพาตัวผมโดดเรียนไปเที่ยวห้างด้วย
“เราดีใจด้วยนะคุณพ่อเข้าใจพัตซะที ตอนแรกเรานึกว่าพ่อนายดุมาก แต่จริง ๆ ท่านเป็นพ่อที่ใจดีมากเลยนะ”
“อือ ว่าแต่สนยังไม่มาเหรอ?” ผมมองไปรอบ ๆ ไม่เห็นเขาเลย
“วันนี้เขาลาไปทำธุระที่บ้านน่ะ”
พอใกล้หมดคาบ 8 ผมลาอาจารย์ชมรมบาสก่อนเวลา 10 นาที ผมอยากแวะไปคุยกับดิมที่ห้องชมรมคอมพิวเตอร์ อยากระบายความบ้าบอของห้องคิงกับดิม เขาน่าจะเข้าใจผมที่สุด ผมขึ้นไปชั้น 3 ของตึก 5 ที่เป็นห้องคอมพิวเตอร์ ตอนนี้ยังเป็นคาบสันทนาการมีคนอยู่เต็มห้องผมเลยได้แต่มองจากด้านนอก ดิมอยู่ไหนหว่า?
“น้องมาหาเพื่อนเหรอครับ?” รุ่นพี่เดินออกมาถาม
“ครับพี่ ดิมอยู่ไหมครับ? มิธิวัตน่ะครับ”
“พี่ก็ไม่เห็นดิมนะ มีอะไรมั้ยครับ?”
“ไม่มีอะไรครับพี่ ขอบคุณครับ”
...ทำไมวันนี้เพื่อน ๆ ทุกคนดูแปลก ๆ หว่า? ตอนเช้าบอมไปธุระ เอสกับตี้ก็ไม่อยู่ตอนเช้าเหมือนกัน นี่สนกับดิมก็หายไปพร้อมกันอีก ผมเดินกลับห้องคนเดียวเพื่อไปเรียนรอบเย็น เป็นโจทย์เลขที่ยากพอสมควรเลย จากนั้นอาจารย์ก็แจกสมุดการบ้านคืนให้ทุกคน ซึ่งยังไม่มีของผมเพราะเพิ่งมาเรียนวันแรก ป้อเปิดดูแล้วปิดสมุดยัดใส่กระเป๋าด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก เขาไม่พูดอะไรอีกเลย เดาได้เลยว่าเรื่องอะไร บรรยากาศอึดอัดจัง ผมไม่รู้จะชวนป้อหรือเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ พูดยังไงดี
พอเลิกเรียนตอนห้าโมงเย็น หลายคนไม่ได้ไปทางออกประตูโรงเรียนแต่เดินไปทางสนามบอล ป้อก็ด้วย ผมสงสารเขาจัง ใจหนึ่งก็อยากไปวิ่งเป็นเพื่อนเขาแต่ก็ไม่รู้เพื่อน ๆ จะคิดว่าผมล้อเลียนเค้ามั้ย อีกใจก็อยากไปหาบอมเพราะผมเหลือเวลาเล่นบาสได้อีกแป๊บเดียว...เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ถ้าผมทำการบ้านผิดก็จะไปวิ่งด้วยละกัน…
ผมเดินไปที่สนามบาสเห็นบอมกำลังเล่นกับพวกรุ่นพี่อยู่
“พัตเพิ่งเลิกเรียนเหรอ?”
“ฮะ ๆๆ ช่าย” ผมหัวเราะแห้ง ๆ ไม่อยากให้บอมเครียดเมื่อรู้ว่าผมแทบไม่มีเวลาว่างเลย
“พัตไหวมั้ยเรียนเยอะขนาดนี้”
นั่นสิ ผมอุตส่าห์ขอพ่อเล่นบาสได้แล้ว แต่กลับไม่มีเวลามาฝึกซ้อมแล้วผมจะได้รับคัดเลือกเป็นตัวสำรองเหรอ ดูเหมือนสิ่งที่ผมฝันมันเริ่มไกลออกไปเรื่อย ๆ โดยผมแทบทำอะไรไม่ได้เลย
“สงสัยต้องให้บอมติวพิเศษให้แล้วล่ะ”
“ได้สิ ยังไงเสาร์นี้เราไปเที่ยวบางปูกันนะ แล้ววันอาทิตย์เราติวบาสให้ถ้าพัตไหว”
“อืม ขอบใจนะบอม”
วันพฤหัสบดี
วันที่ 2 ของการอยู่ห้องคิง
การเรียนก็ยังโหดเหมือนเดิม ช่วงพักเที่ยงที่แสนน้อยนิดผมรีบลงมาที่โรงอาหาร บางร้านน่าจะขายหมดแล้วจะเหลืออะไรให้ตรูกินบ้างเนี่ย
“พัต เราซื้อก๋วยเตี๋ยวไว้ให้แล้ว” บอมโบกมือเรียกผม บนโต๊ะมีก๋วยเตี๋ยว 1 ชามกับเกาเหลาใส่เนื้อกับผักเยอะ ๆ และไข่ต้มอีก 1 ฟอง
“เราเตรียมอาหารให้ครบโภชนาการตามที่พัตเคยสอนเราไง”
“ขอบใจนะบอม”
ผมก้มหน้าก้มตากินเพราะมีเวลาพักไม่นาน บอมนั่งยิ้มอยู่ข้าง ๆ เป็นเพื่อนผมด้วย เขาอุตส่าห์ซื้อข้าวเที่ยงไว้รอผมทั้งที่เพื่อนคนอื่นกินเสร็จและกลับขึ้นห้องไปหมดแล้ว
“บอม หมดสัปดาห์นี้เราก็คงไม่มีเรียนตอนเที่ยงแล้วล่ะ สัปดาห์หน้าเราจะมากินข้าวพร้อมกับทุกคนนะ”
“พัต”
“หืม?”
“เรารักพัตนะ”
“เอ่อ...เราก็รักบอม” ผมแทบสำลักที่จู่ ๆ บอมพูดโพล่งขึ้นมากลางโรงอาหาร ถึงจะพูดเบา ๆ ก็เถอะ
“คือเราก็อยากอยู่กับพัตตลอดเวลานะ แต่ตอนนี้พัตอยู่ห้องใหม่ นายควรใช้เวลาอยู่กับเพื่อน ๆ ด้วย” บอมพูดช้า ๆ พร้อมกุมมือผม
“อ...อืม”
ผมเข้าใจนะว่าบอมพยายามจะบอกผมแบบไม่ให้ผมเข้าใจผิดหรือระแวง ผมลืมคิดไปสนิทเลยว่าการเข้าไปอยู่ห้องคิงแต่ไม่กินข้าวไม่คุยไม่คบเพื่อนในห้องเลยนั้นไม่ช้าต้องเป็นปัญหาแน่ แต่ตอนเย็นผมก็แทบไม่มีเวลามาเล่นบาสกับบอม ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ บอมจะยัง…
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราก็ยังรู้สึกกับพัตเหมือนเดิม ถึงจะเจอกันน้อยลงเราก็ยังรักพัตเหมือนเดิม” บอมอ่านความคิดผมได้หรือไงเนี่ย ดวงตาสีน้ำตาลที่จ้องมาทำผมหน้าร้อนผ่าว
“พัตอดทนนิดนึงนะ ทุกคนกำลังช่วยนายอยู่”
“หือ?”
“ร...เราหมายความว่าเพื่อน ๆ ทุกคนยังเป็นเพื่อนพัตเหมือนเดิมนะ”
“ไม่ ๆๆ ไอ้ประโยคหลังมันต่างจากประโยคแรกนะ”
“ม...ไม่ต่างหรอก”
ต่างแน่ ๆ! บอมทำหน้ามีพิรุธด้วย ไหนจะเรื่องที่เพื่อน ๆ หายไปพร้อมกันอีก แต่ผมก็ไม่อยากซักไซ้ต่อเพราะหน้าเลิ่กลั่กของบอมน่ารักผิดคาด นายเป็นคนโกหกไม่เก่งเลยนะเนี่ย เอาเถอะถ้าบอมอยากให้ผมเชื่อใจผมก็จะเชื่อใจบอม
“เอ้อบอม บางปูนี่อยู่สมุทรปราการใช่มั้ย?”
“ใช่แล้ว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อเลย”
“แล้วพวกเราจะไปเที่ยวจนเย็น พอวันอาทิตย์บอมจะติวบาสให้เราใช่มั้ย?”
“อื้อ”
“งั้นเราไปค้างบ้านบอมตอนคืนวันเสาร์ดีมั้ย? เช้าวันอาทิตย์จะได้ไปซ้อมบาสกันที่สนามใกล้บ้านบอมไง”
“ได้เลย” บอมยิ้มโดยไม่รู้ว่าคืนนั้นจะเจออะไร หี ๆๆ
ยิ้มเข้าไป ปิดบังเข้าไป เดี๋ยววันเสาร์ผมจะฟัดบอมเอาคืนให้เต็มที่เลย
วันศุกร์
วันที่ 3 ของการอยู่ห้องคิง
ช่วงการเรียนที่น่าเบื่อดำเนินมาถึงคาบ 4 วิชาสังคมของอาจารย์วิชาติ
“ป้อ เราถามอะไรหน่อยสิ มันจะไม่มีการเรียนวันเสาร์อาทิตย์ใช่มั้ย?” ผมกระซิบถามป้อที่นั่งติดกัน
“ไม่มีนะ”
โอเค อย่างน้อยการเที่ยวเสาร์อาทิตย์นี้ของผมก็ไม่น่ามีอะไรมาขัดแล้ว เมื่อคืนผมค้นในอินเตอร์เน็ต ดูเหมือนบางปูจะเป็นหาดเลนคงลงเล่นน้ำไม่ได้ เสียดายชะมัดที่อดเห็นบอมในชุดว่ายน้ำ ...แต่ไม่เป็นไรยังไงตอนค่ำผมกับบอมจะอยู่ตามลำพัง ผมก็จะ-
“ขออนุญาตครับอาจารย์วิชาติ” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาขัดจินตนาการสายดาร์คของผม ทุกคนหันไปที่ประตู อาจารย์วรเชษฐ์ยืนอยู่หน้าห้อง คนที่ผมเคยเจอตอนวันอังคารที่พ่อมาเซ็นชื่อ
“ครับอาจารย์วรเชษฐ์ มีธุระอะไรเหรอครับ?”
อาจารย์วรเชษฐ์ยืนนิ่งไม่พูดอะไร อาจารย์สังคมเลยเดินเข้าไปคุยกันกระซิบกระซาบที่หน้าห้อง เกิดอะไรขึ้นหว่า? สักพักอาจารย์วรเชษฐ์ก็เดินจากไปอย่างร้อนรน ส่วนอาจารย์วิชาติก็ทำหน้าลนลานไม่แพ้กัน
“อาจารย์จะไปธุระสักครู่ พวกเธออ่านหนังสือไปก่อนนะ วันนี้จะไม่มีเฉลยข้อสอบหลังคาบ 4 นะ ไปพักเที่ยงตามปกติได้เลย”
เสียงเฮดังลั่นทั่วห้อง อาจารย์ขยับปากจะดุแต่ก็เปลี่ยนใจแล้วรีบเดินออกไป
“เกิดอะไรขึ้นน่ะป้อ?”
“เราก็ไม่รู้แฮะ” พวกเราสองคนมองหน้ากันแบบงง ๆ คนอื่นในห้องก็สงสัยระคนดีใจเหมือนกัน
“อาจารย์สั่งให้อ่านหนังสือกันเองนะ ทุกคนทำตามคำสั่งเถอะเดี๋ยว’จารย์กลับมาเร็วพวกเราจะแย่” หัวหน้าห้องเอ่ยปากเตือนเพื่อน ๆ ทุกคน
10 นาทีแรกทุกคนก็ยอมอ่านหนังสือกันเงียบ ๆ แต่ไม่นานหลายคนก็เริ่มลุกไปคุยกับเพื่อน
“เฮ้ย! นี่มันนานเกินละนะ ปาไปจะครึ่งคาบแล้ว กูว่า’จารย์ไม่มาแล้วมั้ง”
“เออ ไปกินข้าวกันเลยเหอะ”
ระหว่างที่เพื่อน ๆ กำลังถกเถียงกันก็ได้ยินเสียงขยับเก้าอี้จากห้องพี่ม.5/1 ที่อยู่ติดกัน แปลว่าห้องพี่เค้าก็คงเจอแบบเดียวกันและตัดสินใจไปกินข้าวกันแล้ว
“เฮ้ย! พวกพี่เค้าไปกันแล้วว่ะ”
“งั้นพวกเราก็ไปด้วยสิ กูหิวมาสองวันจะตายห่าแล้ว”
“เอาไงดีพัต?” ป้อหันมาถาม
“เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าพวกเราไปแล้วอาจารย์กลับมาก็ไม่ได้จดการบ้านน่ะสิ มีหวังได้วิ่งรอบสนามแน่”
“พัต” ดิมมายืนเรียกผมอยู่หน้าห้อง
“อ้าว! ดิม ห้องนายก็ไม่มีอาจารย์เหมือนกันเหรอ?” ผมเดินออกไปหาดิมพร้อมกับเพื่อน ๆ ห้องคิงเริ่มทยอยกันโดดคาบ 4 ไปโรงอาหาร
“อือ อาจารย์บอกไปธุระแป๊บนึงแต่ไม่กลับมาซักที เนี่ยเพื่อนห้องเราเลยไปกินข้าวกันหมดแล้ว”
ผมมองจากระเบียงชั้น 4 ลงไป ตอนนี้ข้างล่างนั่นเด็กม.ปลายเดินกันเยอะแยะเลย แปลว่าไม่ใช่แค่ห้องคิงกับห้องควีนสินะ อาจารย์ม.ปลายทุกคนจู่ ๆ ก็ไปธุระด่วนกันหมดเลย!?
“พัตไปกินข้าวกับเราเหอะ ยังไงก็มีคนโดดคาบ 4 เยอะแยะแล้ว อาจารย์ไม่กล้าเอาเรื่องแน่”
“อืม”
“ว่าแต่นายลากิจเหรอ? ตอนวันพุธกับพฤหัสเราไม่เห็นดิมเลย” ผมถามดิมระหว่างที่พวกเราเดินลงบันได ดิมไม่ตอบแต่เม้มปากแล้วหันมายิ้ม
“ดิม นายดูแปลก ๆ นะ”
“เดี๋ยวนายก็รู้” ดิมพูดเป็นปริศนาเหมือนผมกำลังอยู่ในหนังเขย่าขวัญ
พอผมกับดิมซื้ออาหารเสร็จก็เดินถือมาที่โต๊ะเจอบอมในชุดพละนั่งรออยู่แล้ว
“ทำไมบอมมาเร็วจัง?”
บอมไม่ตอบแต่สบตากับดิม เขาเม้มปากแล้วยิ้ม
“บอม นายดูแปลก ๆ นะ”
“เหรอ?”
“แล้วสน เอส ตี้ ล่ะ?”
“เดี๋ยวนายก็รู้” บอมพูดเนิบ ๆ ประโยคเดียวกับดิม...เชรี่ยละนี่มันหนังเขย่าขวัญแน่ ๆ
ผมนั่งร่วมโต๊ะกับทั้งสองคนแบบหวาด ๆ พวกนายเป็นเอเลี่ยนที่สะกดจิตอาจารย์ทั้งโรงเรียนให้ทิ้งการสอนไปสินะ...บ้าละ นิยายมันไม่แหกแนวได้ขนาดนั้นหรอก!
ตะดึ๊ง! เสียงข้อความเข้าดังขึ้นจากมือถือของผม เป็นข้อความในกรุ๊ปไลน์ของทั้งห้องคิงของผม 4/1 และห้องเก่าของผม 4/4 มันเป็นลิ้งค์ Youtube อันเดียวกันเลย
https://youtu.be/vqIxCqa….
ผมกดดู มันเป็นห้องมืด ๆ มีชายคนหนึ่งนั่งอยู่โดยมีแสงสาดมาจากข้างหลังทำให้เห็นเขาเป็นเงาดำ ในห้องนั้นยังมีโคมไฟดวงเล็กที่สาดแสงลงมาโดนตัวเล็กน้อยให้พอเห็นเสื้อขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำ ชุดนักเรียนนั่นเอง
เขาเริ่มพูดบางอย่าง...บางอย่างที่ทำให้ผมตะลึง จังหวะนั้นโคมไฟที่แกว่งเล็กน้อยให้แสงพาดสูงขึ้นส่องกระทบวัตถุเล็ก ๆ ที่อกเป็นประกายสีทอง ถึงจะเป็นแค่ชั่วครู่และไม่ชัดเจนแต่ผมก็ดูออกทันที มันเป็นเข็มโรงเรียนแบบเดียวกับที่ผมใช้
ผมมั่นใจแล้วว่านี่คือสาเหตุที่อาจารย์ทุกคนผละจากการสอนไปทันที