มาสั้น ๆ แบบหวาน ๆ สำหรับตอนนี้ (หวังว่าคงจะยังไม่เบื่อบรรยากาศสวีทของสองคนนี่นะคะ) ส่วนตอนต่อไปจะเริ่มเข้าเนื้อหาทางฝั่งฮาร์โมเนียบ้างแล้วค่ะ ^ ^"
--------------------
ดวงใจจ้าวมังกร
Act.12 มุ่งสู่เมืองหลวง
...ดราโกยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เมื่อคนข้าง ๆ เขา ยอมเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงยาวระบายลูกไม้สั้นคลุมเข่า ตามข้อเสนอของเขาจนได้ สำหรับเรื่องผมของเจ้าตัวนั้นไม่มีปัญหาใส่วิกผมยาวไปก็ยิ่งดูเหมือนผู้หญิงเข้าไปใหญ่ ถึงเขาจะขัดในตอนแรกว่า ผมสั้นเฉย ๆ แบบเดิมน้ำฟ้าก็ดูน่ารักสมเป็นเด็กผู้หญิงแล้ว ผลก็คือคนรักตัวน้อยของเขางอนเขาไม่ยอมพูดจาด้วย ทำเอาเขาต้องง้อเสียแทบแย่
“มองอะไร!”
น้ำฟ้าขึ้นเสียง ยังคงไม่หายงอนมังกรหนุ่มนัก
“โธ่! ที่รัก เจ้ายังไม่หายโกรธข้าอีกหรือ ข้าผิดหรือไงที่จะชมคนรักของตัวเองว่าน่ารักน่ะ”
เด็กหนุ่มทำเสียงฮึในลำคอ ก่อนจะนั่งเงียบ ๆ ต่อ ตอนนี้ทั้งเขาและดราโกกำลังนั่งอยู่ในเกวียนคันหนึ่งซึ่งเทียมด้วยม้าสองตัว ตำแหน่งด้านหน้าของคนขับมีแองเซลบังคับม้าอยู่ พวกเขาใช้ทองที่ดราโกติดตัวมาด้วย ซื้อทุกอย่างที่จำเป็นในหมู่บ้านแรกที่พบ ตอนนี้พวกเขามีของจำเป็นต่อการเดินทางครบครัน ชนิดที่สามารถค้างแรมได้กลางทางแบบสบาย ๆ
“ฮึ! คนเจ้าชู้”
น้ำฟ้าพึมพำกับตัวเองอย่างลืมตัว ที่เขางอนไม่ใช่แค่เพราะเรื่องถูกชมว่าแต่งหญิงขึ้นอย่างเดียวหรอก เรื่องหลัก ๆ มันก็คือเรื่องที่ดราโกไปยิ้มหว่านเสน่ห์ใส่สาว ๆ ในหมู่บ้านที่ผ่านมาต่างหาก
“หือ? อะไรนะ?”
ดราโกที่ได้ยินไม่ถนัดเอ่ยถาม แต่น้ำฟ้านั้นสะดุ้งโหยงแล้วทำเป็นแสร้งมองข้างทางกลบเกลื่อน
“เด็กน้อย...เผลอพูดอะไรไปที่ข้ารู้ไม่ได้หรือไง”
มังกรหนุ่มไล่เบี้ยแต่น้ำฟ้าทำเป็นไม่สนใจ แต่พอถูกเซ้าซี้หนัก ๆ เข้า เด็กหนุ่มก็เริ่มรำคาญแล้วโพล่งใส่อย่างหงุดหงิด
“คนเจ้าชู้! ผมว่าคุณเป็นคนเจ้าชู้ไงเล่า! เที่ยวส่งสายตาให้สาวน้อยสาวใหญ่ไปทั่ว ฮึ! นี่ถ้าผมไม่อยู่ด้วย ป่านนี้คงหาเรื่องนอนค้างที่หมู่บ้านที่ผ่านมาใช่ไหมล่ะ!”
ดราโกชะงักอึ้งอยู่กับที่หลังจากขาดคำของเด็กหนุ่ม แต่เพียงครู่เดียวใบหน้าตกตะลึงก็กลับเป็นแย้มยิ้มยินดีเสียจนคนมองหมั่นไส้
“ยิ้มทำไม!”
“ก็ดีใจที่เจ้าหึงข้า ...คงรักข้ามากล่ะสิท่า ใช่ไหม ถึงได้หวงข้าขนาดนี้”
น้ำฟ้าหน้าแดงวาบเหลือบไปมองแองเซลก็เห็นองค์รักษ์หนุ่มแสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้เสียอย่างนั้น เด็กหนุ่มจึงหันมาทางดราโก แล้วต่อว่าอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่เบาลงกว่าเดิม
“ใครหึง! ผมแค่หมั่นไส้เท่านั้น”
คำแก้ตัวของเด็กหนุ่มคนรักยิ่งทำให้ดราโกยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ยิ่งขึ้น ก่อนจะรวบตัวคนข้าง ๆ มากอดโดยไม่แคร์ว่าจะมีบุคคลที่สามอยู่แถวนั้น
“หึงก็บอกมาตรง ๆ เถอะว่าหึง ข้าจะได้ดีใจไงว่าเจ้ารักและหวงข้าขนาดไหน”
น้ำฟ้าทำเสียงในลำคออย่างไม่สบอารมณ์ เพราะพยายามขืนร่างไม่ให้อีกฝ่ายกอดแต่ก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายจึงยอมปล่อยให้กอดแบบนั้นไปเรื่อย ๆ แทน
“ส่วนที่หมู่บ้านข้าไม่ได้หว่านเสน่ห์นะ พวกนางยิ้มมาข้าก็ยิ้มตอบ เจ้าเองก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ข้าก็เห็นเวลาใครยิ้มให้เจ้า เจ้าก็ยิ้มตอบ แต่เจ้าก็ไม่ได้คิดอะไรกับเขานี่ ...อา...หรือว่าเจ้าคิด?”
ท้ายประโยคน้ำเสียงของมังกรหนุ่มเริ่มเข้มขึ้น ทำให้คนฟังขมวดคิ้วกับสถานภาพที่เริ่มเปลี่ยน
“ผมไม่ได้คิด...แล้วถ้าคุณไม่ได้คิดอะไรก็ดีแล้ว”
น้ำฟ้าพึมพำ แล้วหลบตาอีกฝ่ายไม่ยอมสบตาด้วย
“แล้วยอมรับหรือยังว่าหึงข้าน่ะ”
ดราโกยังคงซักไซ้ ทำให้คนในอ้อมกอดหน้าแดงระเรื่อ แล้วจึงอุบอิบตอบไปในที่สุด
“หึงก็หึงสิ... ผิดด้วยหรือไง คนรักทั้งคนนี่”
ดราโกยิ้มกว้างเมื่อได้ยินดังนั้น เขาชะโงกหน้าหอมแก้มซ้ายขวาของเด็กหนุ่มฟอดใหญ่ น้ำฟ้าหน้าแดง นึกอายแองเซลที่นั่งอยู่ด้านนอก แต่ดูเหมือนองค์รักษ์หนุ่มจะทำไม่รู้ไม่ชี้ และไม่คิดจะหันมามอง ซึ่งนั่นก็ทำให้น้ำฟ้าค่อยคลายความเขินลงไปได้บ้าง
“ชื่นใจจริง ข้าขอสัญญานะ ว่าข้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครหน้าไหน นอกจากเจ้าคนเดียวเท่านั้น”
“ให้มันแน่เถอะ ถ้านอกใจเมื่อไหร่ล่ะก็ คอยดู!”
น้ำฟ้าขู่ด้วยสีหน้าบึ้ง ๆ ทำให้มังกรหนุ่มยิ้มตอบอย่างเอ็นดู แล้วจูบริมฝีปากอีกฝ่ายเป็นการยืนยันคำสัญญาของตน
“รับรองว่าไม่คิดนอกใจแน่ ถ้าผิดสัญญาจะยอมนอนเฉย ๆ ให้เจ้าทุบตีได้ตามสบาย”
ดราโกบอกด้วยใบหน้าระรื่นเสียจนคนมองนึกหมั่นไส้
“ผมไม่ทำเรื่องป่าเถื่อนแบบนั้นหรอก ...ถ้าคุณนอกใจเมื่อไหร่ ผมก็จะทำบ้างต่างหาก!”
น้ำฟ้าประชดแต่ทำเอาดราโกสะดุ้ง แล้วมองคนรักด้วยแววตาดุ ๆ
“ไม่มีทาง! ถ้าเจ้านอกใจข้านะ ข้าจะจับเจ้าล่ามไว้กับเตียงไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน ส่วนเจ้าชู้รักนั่น ข้าจะจับมันบินขึ้นไปบนฟ้า แล้วปล่อยทิ้งลงมาบนดินให้กายแหลกเหลวจนจำไม่ได้ไปเลย!”
ดราโกขู่ จนทำให้คนที่นั่งอยู่นอกรถนึกเสียวแทนผู้เคราะห์ร้ายในอนาคตข้างหน้า ส่วนน้ำฟ้าทำเสียงฮึในลำคออย่างไม่สบอารมณ์ จนมังกรหนุ่มเริ่มรู้สึกตัว แล้วจึงลงมืออ้อนให้คนรักอารมณ์ดีอีกครั้ง
“เพราะงั้นถ้าไม่อยากให้ข้าทำแบบนั้น เจ้าก็ห้ามนอกใจข้านะ และแน่นอนว่า ข้าเองก็จะไม่นอกใจเจ้าเด็ดขาด”
“ผมจะเชื่อคุณแล้วกัน...”
น้ำฟ้าบอกเบา ๆ แล้วยิ้มให้ ความจริงเขาก็ไม่ได้นึกงอนอะไรมากนัก ก็แค่อยากคิดลองใจมังกรหนุ่มดูเท่านั้น เพราะการที่ดราโกยอมทิ้งทุกอย่างมากับเขาแบบนี้ มันก็บ่งบอกถึงความจริงใจของเจ้าตัวได้ดีมากเกินพอแล้ว
“อืม...เด็กน้อยทำไงดีล่ะ ข้าชักจะเกิดอารมณ์ขึ้นมาเสียแล้วล่ะสิ”
จู่ ๆ ดราโกก็กระซิบบอก ทำเอาน้ำฟ้าสะดุ้งโหยง เหลือบไปมองแองเซลแล้วหันขวับกลับมาทางมังกรหนุ่ม
“บ้ารึ! อย่ามาทำรุ่มร่ามนะ พวกเราไม่ได้อยู่กันแค่สองต่อสองสักหน่อย”
“งั้นข้าไล่องค์รักษ์เจ้าไปเดินเล่นแถวนี้สักชั่วโมงสองชั่วโมงดีไหม?”
ดราโกเสนอ แต่นั่นยิ่งทำให้น้ำฟ้าหน้าแดงวาบ
“บ้า! ไม่ต้องเลย ห้ามเด็ดขาดนะ คนอะไร ตะวันก็ยังไม่ทันตกดินแท้ ๆ หน้าไม่อาย!”
“ไม่เห็นเป็นไร คนรักกันกอดกัน ทำไมต้องสนดินฟ้าอากาศด้วย”
คนที่ไม่เคยอายใครตอบกลับหน้าตาเฉย ทำเอาน้ำฟ้าอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก แต่ที่แน่ ๆ เขาไม่ยอมให้อีกฝ่ายจับเขากดบนเกวียนที่กำลังวิ่งอยู่นี่เด็ดขาด
“ไม่รู้ล่ะ ถ้าทำตอนนี้ ผมจะ...จะโกรธคุณ ไม่ยอมให้คุณมีอะไรด้วยไปสามเดือนเลย!”
น้ำฟ้าขู่ยื่นคำขาด แต่กลับทำให้อีกฝ่ายนิ่วหน้าไม่พอใจ
“สามเดือน! แค่สามวันข้าก็จะคลั่งตายแล้ว!”
ดราโกบ่นอุบ ทำเอาน้ำฟ้าทั้งฉุนทั้งขำ กับท่าทางเหมือนเด็กเอาแต่ใจนั่นของคนรัก
“ถ้าทนไม่ได้ ก็กลับปราสาทมังกรของคุณไปเสียสิ”
น้ำฟ้าหลุดปากออกไป แล้วก็ต้องนึกเสียใจที่เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายขรึมลง ก่อนจะเงียบไป
“ดราโก ขอโทษ...ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น”
เด็กหนุ่มมีสีหน้าไม่ค่อยดีแล้วเป็นฝ่ายเริ่มง้อคนรักของตนก่อน
“เจ้าก็รู้ทั้งรู้ ว่าข้าตามเจ้ามาแบบนี้ด้วยความรู้สึกเช่นไร ...”
น้ำฟ้าหน้าซีดแล้วรีบบอกต่อ
“ผมรู้ครับ ขอโทษนะดราโก ผมไม่ได้ตั้งใจจะไล่คุณกลับแบบนั้นเลย”
“ข้าเข้าใจ ในสายตาของเจ้า ข้าก็แค่มังกรเจ้าชู้ ไม่จริงใจ เชื่อถือไม่ได้คนหนึ่ง”
ดราโกบอกประชดด้วยความน้อยใจ ทำให้น้ำฟ้านึกอยากจะร้องไห้ที่ดันเผลอพลั้งปากออกไปแบบนั้น
“ไม่ใช่นะ...ตอนแรกผมอาจจะคิดแบบนั้น แต่พอได้อยู่ใกล้คุณ ถูกคุณกอดได้รับ ความรักจากคุณ ...มันจึงทำให้ผมรู้ตัวว่าถูกคุณรักดูแลเอาใจใส่เพียงใด...”
น้ำฟ้าบอกออกไปจากใจของตนโดยไม่คิดปิดบัง เพราะไม่อยากให้มังกรหนุ่มต้องเข้าใจเขาผิด
“แล้วตัวผมเองก็รักคุณนะ ดราโก ...รัก แบบที่ไม่คิดว่าจะรักได้ ทั้งที่เราเพิ่งได้พบกันเพียงไม่กี่วันเท่านั้น...ผมเองยังกลัวเลยว่า จะถูกคุณมองว่าตัวเองเป็นแค่เด็กใจง่ายธรรมดาคนหนึ่ง”
พอบอกถึงตรงนี้ น้ำฟ้าก็ก้มหน้าลงนิด ๆ กลัวว่าสิ่งที่ตนกังวลจะเป็นความรู้สึกของคนรักจริง ๆ พอเห็นน้ำฟ้าเป็นเช่นนี้คนที่กำลังน้อยอกน้อยใจก็ชะงัก แล้วความรู้สึกนั้นจึงแปรเปลี่ยนไป มังกรหนุ่มยิ้มแย้มอ่อนโยน แล้วรวบร่างของเด็กหนุ่มคนรักมากอดแนบอก
“ข้าไม่เคยมองเจ้าแบบนั้นหรอกนะ ... รู้ไหมน้ำฟ้า ข้าไม่เคยรักใครมาก่อน แต่ละคนไม่ว่าชายหรือหญิงที่ผ่านมาในชีวิตข้า มีเพียงแต่ความรู้สึกพึงพอใจต่อกัน และเมื่อเบื่อหน่ายก็แยกย้ายกันไป ...แต่กับเจ้ามันไม่ใช่แบบนั้น”
ราชามังกรเขี่ยปอยผมที่ลงมาปรกหน้าผากของอีกฝ่ายขึ้นไป แล้วจึงเอ่ยต่อมาในขณะที่นัยน์ตาสีนิลเฝ้าจับจ้องที่ดวงหน้าหวาน ๆ ของคนในอ้อมกอดตน
"ถ้าหากคนคนหนึ่งจะมีคู่แท้ของกันและกันเพียงแค่หนึ่งเดียว ข้าคิดว่าตอนนี้ในที่สุด ข้าก็ได้พบคู่แท้ของข้าแล้วล่ะ”
“ดราโก...”
น้ำฟ้าพึมพำเรียกชื่อของมังกรหนุ่มแล้วจึงหลับตาพริ้มรับจุมพิตอันอ่อนโยนที่อีกฝ่ายมอบให้ ก่อนที่ทั้งคู่จะประคองกอดกันไปเงียบ ๆ ท่ามกลางความโล่งอกของคนกลาง ที่เฝ้าลุ้นเกรงว่าจะเกิดการทะเลาะขัดแย้งระหว่างคู่รักกันขึ้น
“โค้งข้างหน้าเป็นทำเลที่ดี ใกล้กับลำธารเล็ก ๆ ข้าว่าพวกเราไปพักแรมที่นั่นในคืนนี้ดีกว่านะขอรับ”
แองเซลเอ่ยขึ้นเรียบ ๆ ทำให้น้ำฟ้าชะงัก มองดราโกก็เห็นอีกฝ่ายยิ้มแล้วพยักหน้าเห็นด้วย
“ครับ ...แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน”
พอมาถึงที่พักก็เป็นเวลาเกือบเย็น แองเซลอาสาออกไปหาผลไม้มาเพิ่ม เพื่อเป็นเสบียงในคืนนี้และมื้อเช้า แถมยังมีพูดทิ้งท้ายคล้ายจะส่งความนัยบางอย่างให้กับทั้งคู่ที่อยู่เฝ้าเกวียน
“ข้าคิดว่าอาจจะใช้เวลาสักพักใหญ่ในการหาเสบียงนะขอรับ แต่ยังไงก็จะพยายามกลับให้ก่อนตะวันจะตกดิน”
แองเซลยิ้มให้ทั้งคู่ แล้วจึงเดินหายไปในป่าบริเวณนั้น ทางด้านดราโกยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างถูกใจ ทีแรกน้ำฟ้าเองก็งง ๆ แต่พอเห็นรอยยิ้มของคนรัก เขาก็พอจะเดาออกได้บ้าง
“บ้าจริงเชียว...”
“องค์รักษ์ของเจ้าเปิดโอกาสให้แล้ว เพราะฉะนั้นพวกเราก็รีบ ๆ เข้าเถิด ถ้าตะวันตกดินแล้วจะลำบาก”
ดราโกรีบบอกทำให้น้ำฟ้าที่ได้ยินชะงัก แล้วว่าอีกฝ่ายเบา ๆ ด้วยใบหน้าแดงก่ำ แต่ก็ยอมให้ร่างสูงดึงร่างของตนเองไปจูบไปกอดจนหนำใจ
“มาช่วยกันกางกระโจมดีกว่านะน้ำฟ้า เพราะข้ากลัวเผลอลืมตัวทำรุนแรงกับเจ้า จนม้าสองตัวนั่นตื่น เกิดมันเตลิดหนีไปจะแย่เอา”
ดราโกบอกหน้าตาเฉย ทำเอาคนฟังหน้าแดงหนักเข้าไปใหญ่ แต่ดูเหมือนราชามังกรไม่ได้สนใจ เขานำกระโจมออกมาขึงกางอย่างเก้ ๆ กัง ๆ จนน้ำฟ้าต้องอมยิ้มแล้วเข้าไปช่วยกางจนสำเร็จ จากนั้นทั้งคู่ก็เข้าไปประเดิมใช้กระโจมนั้นกันสองต่อสองจนกระโจมสั่นสะเทือนกันอยู่พักใหญ่ ร่างสูงเปลือยเปล่าจึงอุ้มร่างเล็กเปลือยเช่นเดียวกันออกมา แล้วตรงไปที่ลำธาร ล้างเนื้อล้างตัวกันอีกสักพัก ก่อนจะต่อด้วยกิจกรรมออกกำลังกลางแจ้งกันอีกรอบ จนกระทั่งน้ำฟ้าหมดเรี่ยวหมดแรงเดินแทบไม่ไหว มังกรหนุ่มถึงยอมหยุดพัก และพอตะวันเริ่มตกดิน แองเซลจึงนำผลไม้มาเสริมในอาหารมื้อค่ำนั้นด้วยท่าทางปกติธรรมดา และไม่ได้สอบถามทั้งคู่ถึงเรื่องเมื่อเย็นที่ผ่านมาแม้แต่น้อย
--- TBC ---