เพราะเขากลัวผู้ชาย ผมเลย(ต้อง)กลายเป็นตุ๊ด ep 12 ต่อสู้กับความกลัว 25/04/19
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพราะเขากลัวผู้ชาย ผมเลย(ต้อง)กลายเป็นตุ๊ด ep 12 ต่อสู้กับความกลัว 25/04/19  (อ่าน 13084 ครั้ง)

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0


ผมทิ้งตัวลงนอนเต็มที่จนตัวเด้งไปกับเตียงแต่ก็ยังคงยิ้มหน้าบานต่อไปได้  พลางนึกถึงเรื่องดีๆของวันนี้....อยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆจังโว้ย  อยากได้คุยได้มองหน้าสโนว์ใกล้ๆอีกจัง   เจ้าหญิงของอันโทนิโอ้  พรุ่งนี้จะชวนคุยเรื่องอะไรดี  หรือสโนว์จะถามคำถามอะไรยากๆมาอีกรึเปล่า.......แค่คิดก็ขนลุก   บอกเลยงานใช้สมองอันโทนิโอ้ไม่ถนัดจริงๆ - -




    “เออ   โทรไปปรึกษาอาหลิงดีกว่า”   ว่าแล้วล้วงกระเป๋าเอาโทรศัพท์มาโทรหาน้องสาวตัวเอง



    (ว่าไงเฮีย   โทรมามีอะไรหาลิปการ์ตูนให้หลิงได้ยัง)    กรรม ลืมไปซื้อแท่งใหม่ให้อาหลิงเลย



    “เออ  จริงๆเฮียซื้อมาให้แล้วนะแต่มันมีเหตุการณ์ที่ทำให้เฮียต้องเปิดใช้ลิปก่อนว่ะอาหลิง  เดี๋ยวไว้ไปหาซื้อให้ใหม่นะ”



    (โห  อะไรอ่ะเฮีย  เซ็ง เปิดใช้ทำไมอยากลองสีลิปแทนอั๊วะหรอ)   เสียงมันบ่นเหมือนพูดมาจากไกลๆคงเปิดโฟนแน่เลย



    “นี่ลื้ออยู่บนห้องหรือข้างล่าง”



    (บนห้องดิ  อั๊วะขึ้นมาทำการบ้านอยู่  เคมีโคตรยากเลยอ่ะเฮีย  เฮ้ออออ ทำไมเฮียไม่ฉลาดๆวะจะได้มาสอนอั๊วะได้)   อ้าว ไอ้น้องเวร  นี่มันไม่ได้จะด่าว่าผมโง่ใช่ป่ะครับ  -*-



    “เออ  เฮียมันไม่ฉลาดถ้าลื้อทำการบ้านไม่ได้ก็ไปติวพิเศษเพิ่มสิ  เอาตังค์ที่เฮียก็ได้เดี๋ยวออกให้  ไม่มีสมองแต่มีตังค์นะหนู”   โคตรป๋าจริงๆเลยผม  แหม่   เมื่อกี้เพิ่งจ่ายไอ้โปไปหยกนี่ยังจะไปเปย์น้องต่ออีก   แต่ไม่เป็นไรหรอกเงินแค่นี้  ถ้ามันทำให้อาหลิงเก่งขึ้นผมก็เต็มใจให้  ดูเหมือนเป็นพี่ชายแสนดีใช่ไหมครับ  แต่เรื่องจริงคือผมวางแผนไว้แล้วว่าในอนาคตจะเกาะอาหลิงกินนี่แหละครับ   ให้ไปก่อนค่อยทวงบุญคุณทีหลัง  ฮ่าๆๆๆ




    “เฮียใจดีที่สุดดด  หลิงดีใจที่มีเฮียเป็นพี่จริงๆ”   แหมมม  พอบอกจะให้ตังค์ล่ะน้ำเสียงเปลี่ยนเชียว  ไม่รู้ว่ารักผมจริงๆหรือเงินในกระเป๋ากันแน่  โถถัง




    “เออ  เฮียมีอะไรจะเล่าให้ฟัง  มีเวลาสักสองสามนาทีไหม  เรื่องเกี่ยวกับสโนว์น่ะ”   ฉลาดรองจากม๊าก็คืออาหลิง  อีกอย่างหลิงมันชอบอ่านหนังสือ อ่านนิยายผมว่ามันน่าจะช่วยผมได้เยอะนะ


    “ว่ามาเลยเฮีย  อั๊วะอยากฟังจะแย่แล้ว” ><  แล้วจากที่คิดว่าจะใช้เวลา 2-3 นาทีก็ปาไปเป็นชั่วโมงโน้นแหละครับ  แบบว่าเล่าเพลินไปหน่อย  อาหลิงก็กรี้ดกร้าดใหญ่เพราะมันไม่คิดว่าผมจะเล่นเป็นอีแอบตามป๊าจริงๆ



    (เฮีย  โคตรทุ่มเลยอ่ะ  นานๆจะเห็นทำอะไรจริงจังบ้างสักทีเนาะ)



    “ชมหรือด่าวะอาหลิง  พูดมาให้เคลียร์ๆดิ  ก่ำกึ่งแบบนี้อั๊วะคิดไม่ออกนะโว้ย”



    (ชมจ้าชม  ใครจะว่าเฮียได้เล่า...แล้วยังไงคือเฮียอยากให้อั๊วะช่วยคิดเรื่องราวความรักปลอมๆของเฮียกับพี่โปหรอ)



    “ใช่ๆ  อั๊วะคิดแล้วแต่คิดไม่ออกเลยมาถามลื้อไง   ว่างช่วยคิดหรือเปล่า”



    (เดี๋ยวอั๊วะทำการบ้านให้เสร็จก่อนแล้วกันนะถึงจะช่วยคิดให้  ยังไงจะส่งบอกในไลน์แล้วกัน  โอเคป่ะเฮีย)



    “เคๆ  แต๊งกิ้วมากอาหลิงเดี๋ยวพรุ่งนี้อั๊วะไปซื้อลิปให้ใหม่  เออแต่เตือนอั๊วะอีกทีก็แล้วกันเพื่ออั๊วะลืม”




    (ได้เลยครับผม  แค่นี้นะเฮียจะรีบทำการบ้าน)   แล้วอาหลิงก็กดตัดสายไป



    ผมนอนคิดถึงการจะแกล้งเป็นตุ๊ดยังไงต่อไปดีเพื่อให้สโนว์เชื่อผมอย่างไม่สงสัย   ผมเลยคิดว่าผมควรจะมีตัวอย่างให้เห็น  เลยกดเข้ายูทูปดูดารานักร้องต่างๆที่เป็นเพศที่สามว่าเขามีกิริยาท่าทางอย่างไร  ออกเสียงยังไงกันบ้าง  ต่อด้วยดูละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศที่ 3 อย่างตั้งใจแต่ก็ไม่ได้ดูครบหรอกนะครับคือฉากไหนไม่มีดารานำเป็นเพศที่สามแสดงผมก็กดข้ามๆไปเลยมันเลยไปได้ไวหน่อย    ดูจนตาลายแบตเหลือไม่กี่เปอร์เซน  ผมก็เหลือบสายตาไปเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว  ถึงว่าผมถึงรู้สึกง่วงฉิบหาย   เสียบสายชาร์ตได้ก็หลับไปทั้งชุดนักศึกษานั่นแหละครับเช้าค่อยอาบน้ำทีเดียว   อยู่หอคนเดียวซกมกได้ตามอัธยาศัยครับม๊าไม่บ่นเพราะม๊าไม่เห็น - -




    หวังว่าเมื่อผมตื่นนอนขึ้นมาอาหลิงคงส่งเรื่องรักปลอมๆมาให้ผมแล้วนะ




    แต่ช่วงที่กำลังเคลิ้มจะหลับไม่หลับแล่นึกถึงวิดีโอต่างๆที่ได้ดูไปด้วย  ภาพความทรงจำบางอย่างก็แว๊บเข้ามาในหัวจนผมเบิกตาโพร่ง





    กูลืมน้องฉัตรไปได้ไงวะ!!!




******************************

 

มินิซีน  เรื่องที่คนโง่ไม่เคยรู้



โป   


    “ไอ้เชี่ยเอ๊ย  กูแม่งไม่น่ารับปากรับเงินมันมาเลยไอ้ห่า  จะไม่ช่วยก็ไม่ได้  โถเว้ย เอาเงินไปคืนมันดีไหมวะ กูไม่น่ามาเป็นเพื่อนมึงเลยไอ้เลวอันโทนิโอ้!”  คนหน้าเบื่อโลกบ่นกระปอดกระแปดมาตลอดทางเดินแต่ขายาวๆก็ก้าวเท้าเข้าไปในร้านหนังสือที่ตั้งใจเดินมาตั้งแต่แรก   ก่อนจะเดินไปยังชั้นวางนิตยสาร 



    ต้องเล่นเป็นผัวไอ้ยักษ์โอ้มันต้องเล่นยังไงล่ะวะ  แล้วคือกูเป็นผัวคือกูต้องทำตัวเป็นเกย์งี้ป่ะวะ  แม่งกูอยู่สงบๆก็ดีอยู่แล้ว  หาเรื่องให้กูแท้ๆไอ้เหี้ยโอ้       


    ผมกวาดตามองบนชั้นนิตยสารแต่พอเห็นหน้าปกที่เป็นรูปชายหนุ่มนุ่งน้อยห่มน้อยแล้วก็ทำใจหยิบซื้อไปศึกษาต่อไม่ได้จริงๆ  จริงอยู่ว่าไอ้โอ้มันไม่ได้สั่งให้เขามาศึกษาเพิ่มแต่คนอย่างเขาคือรับเงินมาแล้วก็ต้องทำให้คุ้มค่าจ้างไง ไม่ชอบทำอะไรสั่วๆเหมือนคนไม่มีปัญญาและความสามารถ  หลังจากที่คิดว่าทำใจซื้อไม่ได้แน่เลยเบนเข็มไปที่โซนนิยายที่มีหมวดนิยายใหม่มาแรง boys love หน้าปกหลากหลายมากจนตาลาย  บางเล่มแม่งก็หล่อกันเหี้ยๆจนผมรู้สึกอิจฉา  แต่บางเล่มก็มีหนุ่มน้อยน่ารักให้ความรู้สึกน่าดูเอ็น  เอ๊ย  เอ็นดูอยู่เหมือนกัน


    ไอ้โอ้มันแสดงเป็นอีแอบใช่ม่ะงั้นผมเลือกพวกหน้าปกแบ๊วๆไปแล้วกัน  จะเอาไปศึกษาต่อว่าเกย์คิงแม่งต้องทำตัวยังไงวะ   แล้วก็เพราะไอ้โอ้มันให้เงินมาเยอะมากเหมือนที่บ้ายรวยเว่อร์ทั้งที่มันบอกว่าบ้านมันแค่ขายของธรรมดาคงประมาณโชว์ห่วยล่ะมั้งแต่กลับทุ่มให้ผมมาช่วยเล่นเป็นผัวมันขนาดนี้  ผมเลยต้องตั้งใจศึกษาให้มากๆเลยหยิบมาทีเดียว  10  เล่มรวดแล้วแบกไปต่อคิวที่หน้าแคชเชียร์   พวกสาวๆมองแล้วก็ยิ้มๆแต่ผมก็ทำไม่หือไม่อื้อใช้ความหน้าตายไปเข้าสู้แทน



    “ถือไหวไหมครับ  รับสมัครคนช่วยถือของไหมเอ่ย”    หื้ม?   เสียงเหมือนมีคนพูดด้วย  หันหน้าไปมองก็เจอใบหน้าแบบเท่เหี้ยๆเหมือนออกมาจากปกนิยายฉิบหาย   ไอ้ห่าคนบ้าอะไรออร่าระยิบระยับมาก  แถมมันยังเจาะหูเยอะกว่าผมด้วย! 



    “เห้ย  นายไปเจาะหูที่ร้านไหนมาวะ”  คือแบบจิวที่เจาะมันเท่มากๆไม่ได้หาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาดแน่นอน แบบมันดูเรียบๆแต่แฝงไปด้วยความเท่แบบมินิมอลอ่ะครับ



    “สนใจจิวผมหรอ”



    “เออ ดิวะไม่งั้นจะอ้าปากถามหรอ แค่นี้คิดไม่ได้หรือไง” 



    “นี่เป็นคนแรกเลยนะเนี่ยที่สนใจจิวเจาะหูผมมากกว่าหน้าหล่อๆของผม”   โห่แม่ง  จริงๆหน้ามันก็หล่อออร่ามากอ่ะนะแต่พอมันพูดยอตัวเองแบบนี้แล้วโคตรหมั่นไส้ความหล่อในความรู้สึกหายไป 95% 



    “งั้นกูไม่อยากรู้ล่ะ”  ผมแสยะยิ้มเหยียดแล้วหันกลับไปเพราะถึงคิวจ่ายเงินพอดี  พนักงานก็มองอย่างอึ้งๆที่เห็นผมซื้อหนังสือนิยายวายเยอะมากขนาดนี้  คิดเงินเสร็จผมก็จ่ายตังค์แล้วแบกถุงหนังสือออกไป  แทนที่วันนี้จะได้กลับไปทบทวนเรื่องที่เรียนมาผมก็ต้องเปลี่ยนมาอ่านนิยายเพื่อศึกษาวิถีเกย์ช่วยไอ้เพื่อนเฮงซวยนั่นอีก



    “ผมช่วยถือนะครับ”   เสียงหล่อที่ไม่แพ้ใบหน้าดังเข้ามาข้างตัวตอนออกจากประตูร้านแล้วถุงหนังสือในมือข้างนึงก็ถูกกระชากไปโดยไอ้หน้าหล่อระยิบระยับนี่




    “เห้ย  อะไรวะ ไม่ต้องกูถือเองได้มีมือเหมือนกันคืนมาซะดีๆ”



    “โห  ชอบอ่านนิยายวายขนาดนี้เชียว  เหมามาหมดร้านเลยป่ะครับ”



    “เสือกและไม่มีมารยาทฉิบหาย  ใครอนุญาตให้ดูวะ”   ก็มันเล่นเปิดถุงดูเอง  ทำหน้าสนอกสนใจซะขนาดนั้น


    “ชอบอ่านนิยายวายขนาดนี้  ทำไมไม่หาแฟนเป็นผู้ชายซะเลยล่ะครับ  ผมเปิดรับสมัครคู่จิ้นอยู่นะ ถ้าคุณสนใจผมจะพิจารณาให้เป็นพิเศษเลย” มันยักคิ้วข้างเดียวส่งให้



    “เป็นบ้าป่ะเนี้ย  คู่จิ้นบ้าบออะไร ใครมันจะอยากไปคู่กับมึงวะ”

    “อะไรกัน นี่ผมหล่อราวเทพบุตรส่งมาเกิดขนาดนี้คุณยังไม่สนใจอักหรอครับเนี่ย”



    “โว๊ยยยยย  ตอนพูดว่าตัวเองหล่อนี่กระดากอายมั้งไหม ห่ะ!”  คนบ้าอะไรชมตัวเองหน้าด้านๆ


 
    “ก็ผมหล่อจริงๆ  พูดเรื่องจริงผิดตรงไหน บอกตรงๆนะผมน่ะเกิดมาก็หล่อเลย  ยุคมืดไม่เคยมี หล่อแบบชนิดที่ชีวิตนี้ไม่เคยได้เข้าใกล้คำว่าขี้เหร่เลยอ่ะ  ข้อผิดพลาดบนใบหน้าและรูปร่างก็ไม่ด้วยซ้ำ  ทำไมผมต้องอายล่ะครับเบบี้”   


    โอ้โห  แม่ง  เกิดมาเพิ่งเคยเจอคนหลงตัวเองได้มากขนาดนี้  ถึงมันไม่อายแต่กูอายแทนโว้ย  นี่ผมกำลังคุยกับคนบ้าอยู่ใช่ไหมเนี่ย!  พอมันพูดมาแบบนั้นผมเลยพูดอะไรต่อไม่ออกเลยกระชากถุงหนังสือคืนแล้วรีบเดินหนี



    “เขินผมมากหรอครับ  ถึงต้องเดินหนี!”   ไอ้บ้านั้นตะโกนลั่นอย่างไม่อายใคร  แต่ผมไม่หันไปตอบหรอกไม่อยากถูกมองว่าบ้าร่วมกับมันไปด้วย  สู้ทำไม่รู้ไม่เรื่องไปดีกว่า



    “ชอบผมเข้าแล้วก็บอกมาเหอะน่า! ไม่ต้องอาย คุณที่ถือถุงหนังสือสองมือ!!!”



    “ไอ้เหี้ยเอ๊ย  หุบปาก  กูไม่ได้ชอบมึงโว้ยยยยย”




    ไอ้โอ้นะไอ้โอ้   เพราะมึงแท้ๆนำพากูมาเจอคนบ้าแบบนี้!





โปรดติดตามตอนต่อไป... :L1:



#เขากลัวผู้ชาย

ขอบคุณทุกเม้นเลยน้า. พอได้อ่านแล้วดีใจมากที่สิ่งที่เราอยากสื่อทุกคนรับรู้และชื่นชอบกัน เรายิ้มหน้าบานมากคะตอนอ่านเม้น ดีใจที่ชอบโอ้ ชอบครอบครัวโอ้ ถึงพระเอก(?)เรื่องนี้จะเป็นคนทึ่มๆซื่อบื้อไปหน่อย แต่ก็เป็นคนที่ทุ่มเทโคตรๆเช่นกัน

ตอนแต่งเรื่องนี้เราอยากแต่งแบบใ้ห้ความสำคัญต่อทุกความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นคนรัก ครอบครัว เพื่อน พี่น้อง ทุกคนมีความหมายต่ออันโทนิโอ้และเนื้อเรื่องหมดเลยจริงๆ แบบเพราะพระเอกคนนี้มันไม่ค่อยฉลาดผู้ช่วยเลยเยอะหน่อย 555+


ยังไงติดตามเป็นกำลังให้อันโทนิโอคนทึ่มด้วยนะคะว่าภารกิจแอ๊บสาวของเขาจะไปรอดจนถึงฝั่งหรือเปล่า โฮะๆๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-01-2018 00:45:15 โดย Monkey D »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ก็ว่าอยู่ว่าไอ้ที่ทานั่นลิปมันหรือไง ทำไมก่อนออกห้องน้ำไม่ลบ ไหนบอกยังไม่อยากเปิดตัว ที่แท้โอ้เอ้ลืม ฮา

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
 o13สนุกชอบอันโทนิโอ้ยอมเป็นตุ๊ดเพื่อสโนว์

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
โอ้ ปรึกษาน้องสาวนะดีแล้วละ เป็นกำลังใจให้นะ
ว่าแต่เพื่อนโป คงมีงานเข้าอีกแล้ว มีคนแอบชอบ
สนุกมากเลยจ๊ะเรื่องนี้
 :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl
รอค่ะรออออ
โปจะเป็นผัวโอ้ที่มีว่าที่ผัวตามจีบใช่ไหมคะ 5555

ออฟไลน์ PKT

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
555555ชอบน่ารักกก โคตรทุ่มเท  รออยู่นะะ

ออฟไลน์ poonbabor

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฮือออ โอ้เอ้ผู้ทุ่มเท นุ้งสโนว์เกือบจะลาออกแล้วมั้ยล่ะ สู้ๆเข้านะอันโทนีโอ้ กิกิ // น้องโปจะมีคู่จิ้นแล้ววว ใครกันๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0


EP.5  วาเลนไทน์ดีเพราะมีเธอ


    หลังจากผมได้เป็นเพื่อนสาว?  กับสโนว์ในวันนั้นก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วครับที่เราทั้งคู่คบกัน...แม้จะในฐานะเพื่อนก็ตามที -*-  แต่ผมนี่มีความสุขม๊ากมาก  การตื่นแต่เช้าเพื่อรีบไปอยู่เป็นเพื่อนสโนว์ที่มหาลัยกลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่ผมเต็มใจทำ   การเล่นละครเป็นอีแอบก็เริ่มเนียนขึ้นเรื่อยๆไม่รู้สึกเหนื่อยที่ต้องแกล้งแสดงแล้ว  ป๊าบอกเคล็ดลับว่าให้คิดว่าตัวผมเป็นตุ๊ดจริงๆไปเลยจะได้เหมือนจริงมากที่สุดผมนี่ถึงกับไปจ้องกระจกสะกดจิตตัวเองว่า กูเป็นตุ๊ด กูเป็นตุ๊ด กูเป็นตุ๊ด ทุกวันตอนเช้า   ไอ้โปก็เล่นละครเป็นแฟนปลอมๆกับผมที่สตอรี่คือเพื่อนกูรักมึงว่ะ! เพราะมันเมาผมเมาเราเลยได้กันแล้วมันก็สัญญาจะรับผิดชอบผมไปชั่วชีวิต  5555+  ผมขำกับความคิดอาหลิงจนท้องแข็งส่วนไอ้โปนี่แทบจะโก่งคออ้วกออกมา  แต่ถึงกระนั้นมันก็แสดงได้ดีมากคุ้มค่าจ้างสุดๆ  จนถึงขั้นสโนว์บอกว่า “โปนี่โรแมนติกสุดๆเลย” ไม่รู้ว่ามันไปติวมาจากไหนเหมือนกัน


     แต่ถึงสโนว์จะชมอย่างนั้นก็เป็นการชมจากระยะห่าง 2 เมตร เช่นเคย เหอๆ  ดูเหมือนว่าอาการกลัวผู้ชายจะไม่ได้ห่างหายไปไหนเลยสักนิดแต่ก็ยังดีที่สโนว์เริ่มคุยกับโปมากขึ้นกว่าเดิม  และแน่นอนว่าสโนว์นั้นคุยกับผมเยอะที่สุด  และใกล้ชิดกันมากที่สุด โฮะๆๆ



    จากระยะห่าง 2 เมตรในวันนั้น  สู่ระยะห่าง 50 เซนติเมตรในวันนี้


    จากคนที่ทำได้เพียงมองอยู่ไกลๆ  แต่ในวันนี้กลับได้มานั่งมองหน้าใกล้ๆเสียจนได้กลิ่นกายหอม


    ได้ทำทุกอย่างให้เขามีความสุขและยิ้มหัวเราะได้เพราะผม



    โคตรรู้สึกเหมือนชนะคนทั้งโลกเลย


   

    “วันนี้จะไปฉลองวันวาเลนไทน์ที่ไหนหรอโอ้เอ้”   สโนว์ถามเสียงใส  ตอนนี้เราสองคนนั่งอยู่ตรงม้านั่งใต้ตึกเรียนครับ  สโนว์กำลังขีดเน้นเนื้อหาที่จะมีสอนวันนี้เหมือนอย่างทุกวัน  ผมเองก็พลอยทำไปด้วย ช่วงนี้เลยเหมือนจะฉลาดขึ้นอีกหน่อย  เนี่ยะ  มีคู่ชีวิตดีก็งี้ พากันไปในทางที่ดีอนาคตจะได้รุ่งโรจน์ด้วยกัน เอิ้กๆๆๆ  มโนอีกแล้วผม


    “เอ่อ  ยังไม่รู้เลยอ่าห์  ว่าโปเขาจะว่างหรือเปล่า บางทีอาจจะติดสอนพิเศษเด็กนักเรียนน่ะสโนวี่”  ผมตอบกลับไปพร้อมเรียกฉายาใหม่ที่ผมตั้งให้เอง  แล้วก็มีไว้แค่ให้ผมคนเดียวเท่านั้นที่เรียกชื่อนี้   ตอนแรกสโนว์ดูจะแปลกๆใจว่าทำไมผมเรียกเขาแบบนั้น  แต่พอผมบอกเหตุผลไปว่าชื่อสโนว์มันดูธรรมดาไปเรียกสโนวี่ดูมีความฟรุ้งฟริ้งขึ้นมาหน่อยนึง  น่ารักดี   สโนว์ก็ขำๆแล้วก็ยอมให้ผมเรียกแบบนี้มาตลอด  ไม่เสียแรงที่ใช้เวลาคิดชื่อนี้ให้ตั้ง 3 วัน!


    “โป  ขยันมากเลยเนาะ  เรียนก็เก่ง  หาเงินก็เก่ง ทำงานตัวเป็นเกลียวแบบนี้สงสัยจะเก็บตังค์ไว้ขอโอ้เอ้แต่งงานแน่เลย”



    “แค่กๆๆ  ห่ะ..ฮา.ฮ๊าๆๆ ก็คงแบบนั่นแหละแก  เราก็ไม่รู้เหมือนกันอ่าห์  ไม่พูดแหละๆ เขินนน”  ผมทำเป็นเนียมอายดุจสาวน้อยแรกแย้มที่ไม่ประสีประสาเรื่องแบบนี้  ทั้งที่ตอนแรกน้ำแดงแทบพุ่งออกจากปากเพราะความคิดของสโนว์



    “กิ๊วๆ  เขินหรอครับน้องโอ้เอ้  พี่หยอกเล่นนิดเดียวเอง”  ไอ้ตอนแรกก็แกล้งเขินไปงั้น  แต่พอเห็นคนหน้าสวยตรงหน้ายิ้มสดใสทำแววตาขี้เล่นใส่ มือขาวๆก็ทำท่าโอ๋เอ๋ๆไปด้วย  แม่ง...โคตรน่าจับฟัดอ่ะ  บอกเลยแค่สโนว์ทำแค่นี้กระผมก็แทบหน้ามืดจับน้องกลืนลงท้องแล้วอ่ะ  หึ่มมมม น่ารักจังโว้ยยยยยยย



    “แหน่ะๆ  แก้มแดงใหญ่เลยน้า  คนมีความรักนี้ออร่าเปล่งประกายจริงๆเนาะ”  สโนว์ยิ้มขำจนตาหยี  แล้วใช้นิ้วเรียวเกี่ยวเส้นผมเป็นลอนที่ตกมาไปทัดไว้ที่หูเหมือนเดิมโชว์โครงสร้างของใบหน้าที่งดงามราวจับปั้นให้เห็นได้เด่นชัดขึ้น   ส่วนที่สโนว์ทักว่าแก้มแดงได้นั่นทุกคนไม่ต้องงงนะครับว่าดำๆแบบผมจะเห็นสีแดงบนหน้าได้หรอ?   เห็นได้ครับเพราะว่าหลังจากที่ตัดสินใจเล่นเป็นเพื่อนสาวสโนว์แล้วผมเลยเลิกไปอาบแดดบนดาดฟ้า  แถมอาหลิงยังซื้อยากลูต้า คอลลาเจน วิตามินซีมาให้ผมกินอีก แบบว่าดันสุดฤทธ์  ก็ฝืนกินมาได้หลายเดือนแล้ว  กรอปกับเนื้อแท้ผมก็เป็นคนขาวแบบจีนๆอยู่แล้ว  ผิวเลยฟื้นฟูเร็วมาก ขาวขึ้นมา 3 เฉดสีแล้วครับ  โคตรเสียดายผิวสีแทนอ่ะ  แต่เพื่อสโนว์  ผมเลยยอม


    “บร้าๆๆ  สโนวี่หยุดล้อเราเถอะ  เราอายน้า”  อายสโนว์นี่แหละครับ  ช๊อตเอานิ้วเกี่ยวผมนี่ทำใจผมสั่นไปหมด  ผมว่าไม่วันใดก็วันนึงผมคงหัวใจวายตายเพราะรับความน่ารักของสโนว์ไม่ไหว  จริงๆนะ


    “ว่าแต่สโนว์เถอะ  มีนัดที่ไหนหรือเปล่าวันนี้น่ะ”  ผมเปลี่ยนเรื่องถามสิ่งที่อยากรู้แทน  กะว่าถ้าไม่มีนัด  ผมจะชวนสโนว์ไปเอเชียทีคไปขึ้นชิงช้าสวรรค์ชมบรรยากาศกรุงเทพกันน่าจะโรแมนติกดี



    “มีสิ”  สโนว์พยักหน้ายิ้มๆ  เล่นเอาผมใจแป้ว  มีนัดงั้นหรอ  กับใคร ผู้หญิงหรือผู้ชาย แฟนหรือเพื่อน หลากหลายคำถามพุ่งเข้ามาในหัวของผมเต็มไปหมด



    “เพื่อนเราเขาเพิ่งเลิกกับแฟนน่ะ  เราเลยจะไปเที่ยวเป็นเพื่อนปลอบใจสักหน่อย  ผู้หญิงก็งี้แหละจิตใจเปราะบางเราเลยจะไปอยู่เป็นเพื่อนให้เขาเข้มแข็งขึ้นก่อนนะโอ้เอ้”   พอได้ฟังเหตุผลผมก็รู้สึกโล่งใจขึ้นทันที  ซ้ำยังชื่นชมไปกับความนางฟ้าของสโนว์อีกระลอก  เพราะสโนว์นิสัยดีแบบนี้ไงครับผมถึงหลงนักหลงหนา ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ใกล้เขา



       หลังจากนั้นพอไอ้โปมาสมทบก็พากันเข้าเรียนตามปกติจนเลิกเรียนสักที



    “เดี๋ยวเค้าไปสอนพิเศษเด็กก่อนนะที่รัก  ไว้เราไปฉลองวาเลนไทน์วันอื่นแทนนะครับ”  ไอ้โปพูดเสียงหวานทำท่าเอามือหยิกแก้มแข็งๆของผมอย่างหมั่นเอ็นดูแต่แม่งเสือกบีบแรงสัสๆ  ที่กล้าบีบแรงเพราะมันรู้ไงว่าถ้าต่อหน้าสโนว์ผมไม่มีทางเอาคืนมันแน่ๆ  หึ่ยยยย  ไว้เดี๋ยวกูทบต้นทบดอกทีเดียวไอ้เชี่ยโป



    “จ้า  เค้าเข้าใจเตงเสมอ  สู้ๆนะคะ  เพื่ออนาคตของเราสองคน”  ผมทำหน้าเคลิ้มส่งไปทั้งที่มือนี่กำหมัดแน่นฉิบหาย  ห่าโปแม่งบีบแรงกว่าเดิมอีก ดวงตามันดูสะใจไม่น้อยที่ได้แกล้งผม



    “งั้นเค้าไปล่ะนะที่รักกก  บ๊ายบาย”  มันสะบัดตูดออกไปสักทีผมเลยได้แต่ลูบแก้มบรรเทาความเจ็บ



    “โห  โอ้เอ้แก้มแดงมากๆ  เขินอะไรขนาดนั้นเนี่ยะ  ดูสิแก้มแดงเป็นมะเขือเทศไปแล้ว”  สิ้นเสียงใสปลายนิ้วเรียวก็จิ้มเข้ามาเบาๆที่แก้มด้านขวา  ผมรู้สึกเหมือนกระแสไฟฟ้าหมื่นโวลว์ช๊อตเข้ามาที่ตัว  มันรุนแรงจนแทบหยุดหายใจ  แค่เพียงปลายนิ้วเดียวที่สัมผัสหน้า ใบหน้าหนาของผมก็ร้อนผ่าวไปหมดอย่างห้ามไม่ได้


    “เอ้า  แดงไปใหญ่เลยทีนี้”  สโนว์ยิ้มขำอย่างชอบใจที่ผมหน้าแดง  โดยไม่รู้เลยว่าต้นเหตุที่ผมหน้าแดงก็เพราะเขาคนเดียว   



    “เอ่อ..เออ แล้วสโนวี่จะไปหาเพื่อนหรือเพื่อนมาหาล่ะ นี่ก็เย็นแล้วนะเธอ”  ผมสูดหายใจพยายามทำให้เป็นปกติ  ก่อนจะทำเป็นถามเรื่องอื่นแทนกลบเกลื่อนอาการเขินขั้นรุนแรงนี่



    “เดี๋ยวเพื่อนขับรถมารับน่ะ  วันนี้เราไม่ได้เอารถมาเพื่อนมาส่งเพราะนัดไปเที่ยวด้วยกันตอนเย็น  รถคันเดียวสะดวกกว่า  เดี๋ยวหาที่จอดไม่ได้”  สโนว์ให้เหตุผล  ผมก็ทำเอออ่อไปด้วยแล้วมานั่งรอเพื่อนสโนว์ที่ใต้ตึกเหมือนเดิม



    “โอ้เอ้จะกลับไปก่อนก็ได้นะ  เราเกรงใจไม่รู้ว่าเพื่อนเราเลิกเรียนตอนไหนด้วย”



    “โอ้ยยย ไม่เป็นไรเว้ยแก  เราชอบเสียอีก  นั่งส่องผู้ชายไปพลางๆเพลินดีนะ โฮะๆๆๆ” 



    “เอางั้นหรอ  ก็ได้ๆ เราจะเก็บความลับไม่ให้โปรู้นะ”  สโนว์ยิ้มใส  ผมก็ทำเป็นยิ้มกริ่มทำนิ้วโอเคแรดๆไป  และนั่งรอเป็นเพื่อนสโนว์   ใครมันจะบ้าปล่อยให้กวางน้อยนั่งอยู่คนเดียวใต้ตึกตอนเย็นกันล่ะครับ  พวกเสือสิงห์กระทิงมันชุมจะตาย  ขนาดผมนั่งอยู่ด้วยยังมีคนมาทำหวานใส่สโนว์อีก  แต่พอมองเลยมาด้านหลังเห็นผมที่จ้องหน้ามันเหมือนยักษ์ทมิฬก็พากันสะดุ้งหลบไปหลายราย เหอะ!  ให้มันรู้ซะมั้งว่าคนนี้อ่ะมีเจ้าของตามคุมอยู่โว้ยยยย



    “สงสัยวันนี้เราคงได้กลับไปอยู่คนเดียวที่คอนโดแล้วล่ะโอ้เอ้”  สโนว์เงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์ ทำหน้าจ๋องๆ  แต่ก็ยิ้มฝืนๆมาให้ผมที่เปลี่ยนจากทำหน้าโหดเป็นหน้าแบ๊วได้ทันท่วงทีที่สโนว์หันมามอง


    “ทำไมล่ะสโนวี่  เพื่อนเธอไม่มาแล้วหรอ”  ผมทำเป็นงงแต่ในใจนี่อย่างลิงโลด  วะฮะฮ่า หาเรื่องชวนไปเที่ยวด้วยกันสองต่อสองดีกว่า^^


    “แฟนนางกลับมาขอคืนดีด้วยกันแล้วน่ะ  เราเลยไม่จำเป็นแล้ว  เฮ้อออ”  แม้ผมจะรู้สึกว่าเพื่อนสโนว์นั้นช่างเสียมารยาทในการเบี้ยวนัดแต่ก็ดีใจไม่น้อยเพราะผมจะได้หาเรื่องชวนสโนว์ไปเดทด้วยกันสองคนได้ในวันวาเลนไทน์    แต่ในขณะที่ผมกำลังจะอ้าปากชวนสโนว์นั้น  โทรศัพท์ก็มีสายเข้าเอามาดูก็เห็นม๊าโทรมา



    “โหล ม๊า  มีอะไรหรอคะ?”  ผมจีบปากจีบคอคุยกับม๊า  สกิลในการเป็นตุ๊ดของผมเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ  ตอนนี้ก็กำลังนั่งไขว้ห้างอย่างแรดได้อีกไปด้วย


    (กลับบ้านไหมวันนี้  พรุ่งนี้วันตรุษจีนน่าอาอันโทนิโอ้)   


    “กลับสิม๊ากลับ”  ผมรีบบอกเมื่อประมวลผลได้พรุ่งนี้คือวันตรุษจีนวันที่สำคัญกว่าวันวาเลนไทน์  เพราะมันเป็นวันที่ผมจะได้อั่งเปา  555+  ปีเดียวมีครั้งไม่พลาดแน่นอน


    (งั้นก็รีบๆกลับสิว๊า  จะรอให้มืดดึกดื่นก่อนรึง๊ายห๊า)   ม๊าแว๊ดบ่น  ผมได้แต่อิดออดก็อยากไปเอาอั่งเอานะ  แต่นี้ก็วันวาเลนไทน์ไงถึงปีอื่นจะไม่มีความสำคัญแต่ปีนี้ผมมีสโนว์นะเว้ย  ก้ควรมีความทรงจำดีๆในวันวาเลนไทน์กับคนที่เรารักบ้างป่ะวะ


    “ขอกลับดึกๆหน่อยไม่ได้หรอม๊า  แบบว่าอั๊วะอยากไปเดินเที่ยวก่อนน่ะ  ว่าจะไปส่งสโนว์ที่คอนโดก่อนด้วย”   หากจะต้องกลับจริงๆก็ขอส่งสโนว์ให้ถึงที่พักให้เรียบร้อยก่อนเถอะ



    (อ้าว  อาสโนว์อยู่กับลื้อหรอตอนนี้)


    “อื้อ”



    (ลื้อชวนอีมาเที่ยวบ้านเราสิว๊า  ม๊าอยากเจออีจะแย่แล้ว  อามาเรียฟิเซนก็อยากเจอมากๆ  เป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายเดือนแล้วไม่ใช่หรอ  ชวนอีมาบ้านเราเลยความสัมพันธ์จะได้คืบหน้าบ้าง)


    “จะดีหรอม๊า”  อยู่ๆม๊าให้ชวนสโนว์ไปบ้าน  ผมกลัวว่าสโนว์จะอึดอัดใจหรือเปล่าเพราะที่บ้านก็มีป๊าและอาฟู่เป็นผู้ชาย


    (ไม่ลองชวนจะรู้ไหมว๊า  รีบๆเข้า  ถามเดี๋ยวนี้เลยถ้าอีมีทีท่าไม่อยากมาเอาโทรศัพท์ให้อั๊วะคุยกับอีเลย  เดี๋ยวอั๊วะชวนให้เอง)   ม๊าผมก็ไม่ค่อยจะเร่งเลย


    “สโนวี่  ม๊าเราชวนแกไปกินข้าวที่บ้านอ่ะ  สนใจไปม่ะ บ้านเราใจดีทุกคนเลยนะ  ยังไงวันนี้ก็ไม่มีนัดแล้วนิเนาะ”  ผมผละจากโทรศัพท์โดยที่ยังค้างสายม๊าไว้  แล้วลองพูดหว่านล้อมสโนว์



    “อืม...แล้วบ้านโอ้เอ้ไกลหรือเปล่า  เราไม่อยากกลับดึกน่ะ”   สโนว์ดูมีท่าทีคิดหนัก


    “ไม่ไกลมากหรอกขับมอเตอร์ไซต์แป๊บเดียวก็ถึงแล้วล่ะ  เดี๋ยวขากลับเรามาส่งสโนว์เองไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลยนะ” ผมส่งยิ้มให้สโนว์ที่กำลังทำหน้าหนักใจก่อนที่แววตาจะเปลี่ยนไป


    “เอ๊ะ  นั่นแมวใครหรอ”  สโนว์เพ่งตาใสมาทางหน้าจอโทรศัพท์ของผมที่ผมตั้งเป็นรูปนังเซ่นไหว้


    “อ้อ  แมวที่บ้านเราเองแหละแก....มันน่ารักมากเลยนะอยากไปเล่นกับมันไหมล่ะ”  นังเซ่นไหว้ได้โปรดแสดงอิทธิฤทธิ์ทีเถิดดด  ถ้าเอ็งทำให้สโนว์ไปบ้านได้ข้าสัญญาจะซื้อขนมซองแมวให้ 2 โหล!!!


    “งั้น....ไปก็ได้โอ้เอ้  แต่เราคงอยู่ได้ไม่เกิน 2 ทุ่มนะ”   สโนว์พยักหน้าตกลง  ผมงี้แทบจะกรี้ดดดดดดด  เฮ้ยไม่ดิ ต้องไชโยสิวะ  แบบดีใจแบบลูกผู้ชายอ่ะ   การต้องอยู่ในร่างตุ๊ดทุกวันบางทีผมก็เริ่มสับสนในตัวเองเสียเหลือเกิน เหอๆๆ   แต่ยังไงก็ขอบคุณอิทธิฤทธิ์นังเซ่นไหว้มากจริงๆ  บอกแล้วฉายานี้ไม่ได้ตั้งเล่นๆ


    “โอเคจ้า  โหล ม๊า ตกลงสโนว์ไปนะทำอาหารอร่อยๆไว้รอเลย”


    (ดีมากๆอาอันโทนิโอ้  แล้วอีชอบกินอะไรถามซิ อั๊วะจะได้ทำอาหารถูก)


    “สโนว์แกชอบกินอะไรนอกจากปลาอีกหรือเปล่า  ม๊าจะได้ทำเพื่อ”   ผมจำได้ครับว่าสโนว์ชอบกินปลากินได้แทบทุกวันไม่มีท่าทีว่าจะเบื่อ

    “เรากินได้หมด  ไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษหรอก”   สโนว์บอกอย่างเกรงใจ  ผมเลยพยักรับรู้แต่ก็ถามต่อไปอีกอย่าง


    “แล้วสโนว์แพ้อาหารอะไรหรือเปล่า”   ผมค่อนข้างใส่ใจเรื่องการแพ้อาหารหรือแพ้สิ่งต่างๆน่ะครับ  เพราะเคยมีเพื่อนคนนึงมันแพ้ขนมปังกินทีผื่นขึ้นเต็มตัวเป็นผื่นแบบนูนขึ้นจากผิวหนังอ่ะครับผมก็อธิบายไม่ถูกแต่ถ้ามันกิน ผื่นจะนูนไปทั้งตัว หน้าก็ปูดไปหมด น่ากลัวมากๆ   เพราะงั้นอะไรที่ระวังได้ผมก็จะกันไว้ก่อน  ติดเป็นนิสัยแล้วล่ะครับ  แบบถ้าจะไปกินอะไรผมก็ต้องถามก่อนว่าแพ้อาหารอะไรหรือเปล่าผมถามเพื่อนมาตลอดจนตอนนี้ก็ถามสโนว์ให้แน่ใจอีกที



    “เราแพ้พวกถั่วน่ะ ถ้ากินแล้วมันหายใจไม่ออก  ผื่นขึ้นตัวด้วย  แต่ไม่ต้องห่วงหรอกเราไม่กินก็ไม่เป็นอะไรอยู่แล้วล่ะ”   สโนว์รีบบอก  เขาคงรู้ว่าถั่วลิสงคั่วนี่ถือว่าเป็นของกินคู่ครอบครัวจีนเลย  ผมเองก็ชอบกินเพลินๆกับข้าว


    “ม๊า สโนว์แพ้พวกถั่วนะ  อย่าลืมล่ะ  ไม่ต้องทำอาหารที่มีถั่วผสมนะ ไอ้พวกเต้าเจี้ยว ซอสถั่วเหลืองก็อย่าเอามาปรุงกันไว้ก่อนเนาะม๊า”   นี่ก็จะเป็นเรื่องที่ผมจะจำให้แม่นอีกเช่นกัน


    (อ้าว  ถั่วไม่เท่าไรแต่พวกซอสถั่วเหลือง เต้าเจี้ยวนี่ก็ส่วนผสมหลักเลยนะ...เออๆ ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวอั๊วะหาเมนูทำให้กินจนได้แหละ  ขับรถพาอีมาดีๆล่ะอาอันโทนิโอ้)


    “ค่ะ ม๊า  เออๆ  ใช้กระทะแยกไปเลยก็ดีนะม๊าเพื่อความชัวร์”


    (ได้ๆ  แค่นี้แหละ  รีบๆมาล่ะ)



    ผมวางสายไปด้วยความสบายใจ  เก็บใส่กระเป๋าสะพายพาดบ่าเตรียมตัวกลับบ้าน  พาว่าที่ลูกสะใภ้ไปเจอพ่อแม่ซะหน่อย  ฮิ้ววววว


    “โอ้เอ้ ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้นะ  เราแพ้แค่ถั่วลิสงอย่างเดียวเอง  พาทำที่บ้านโอ้เอ้ลำบากเปล่าๆ”


    “เห้ย  แกไม่ต้องกังวลเลยเว้ย  ที่บ้านเราเต็มใจทำเพื่อต้อนรับแกจริงๆ เชื่อเราดิ  อีกอย่างเพื่อความปลอดภัยของตัวแกเองด้วยนะสโนวี่  เป็นห่วงนะรู้ไหม”  ผมแอบหยอดคำหวานไปนิดนึงแล้วขยิบตาส่งท้ายเบาๆ   แล้วก็ได้ผลสโนว์ยิ้มบางให้กับท่าทางของผม



    “ขอบคุณมากนะโอ้เอ้  โอ้เอ้ใจดีกับเราตลอดเลย  โชคดีจริงๆที่ได้คนแบบโอ้เอ้มาเป็นเพื่อน”  ผมได้แต่ยิ้มรับคำเยินยอจากอีกฝ่าย  แล้วพึมพำเบาๆกับตัวเองว่า



    “ถ้าได้เป็นแฟนจะโชคดียิ่งกว่านี้อีก”



    “ห่ะ  โอ้เอ้พูดอะไรหรือเปล่า เมื่อกี้ เราฟังไม่ถนัด”


    “เปล่าจ้า  ไม่มีอะไรนิ  ไปๆรีบกลับบ้านกันเดี๋ยวเราพาแว๊นมอเตอร์ไซต์  ลองเป็นสก๊อยสักวันนึงนะจ๊ะสโนวี่”  ผมเดินนำไปยังรถมอเตอร์ไซต์คู่ใจที่จอดไว้  เปิดเบาะเอาหมวกกันน็อคที่มีกล้องติดไว้บนหัวยื่นให้สโนว์ใส่เพื่อความปลอดภัย


    “โอ้เอ้เป็นคนขับก็ต้องใส่หมวกกันน็อคสิ  ให้เราได้ไง ไม่ต้องห่วงเราหรอกนะ”  สโนว์ปฎิเสธ


    “เอางั้นหรอ  แต่มันอันตรายนะ”  ผมยังเป็นกังวล  ลำพังตัวผมน่ะไม่เป็นอะไรหรอก แต่พอมีอีกคนที่ผมรักเขามากเป็นธรรมดาที่จะห่วงใยเป็นพิเศษ


    “งั้นโอ้เอ้ก็ขับช้าๆไม่ต้องรีบก็พอแล้ว  เราก็ผู้ชายคนนึงนะโอ้เอ้อย่าลืมสิ  รีบไปเถอะเดี๋ยวม่าม๊าจะรอนาน  เราเกรงใจท่าน”  เมื่อสโนว์ยืนยันแบบนี้ผมเลยสวมหมวกกันน็อคเอง  สตาร์ทเครื่องเสร็จสโนว์ก็ขึ้นคล่อมแถมยัง....เอามือเกาะเอวผมด้วย    อ๊ากกกกกกก   โชคดีที่หมวกกันน็อคของผมเป็นแบบเต็มใบมันเลยปิดบังรอยยิ้มกว้างจนหน้าบานของผมได้อย่างมิดชิด   มองกระจกข้างเห็นสโนว์ทำหน้าเหมือนตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้นั่งมอเตอร์ไซต์ก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดู  ความรู้สึกเหมือนหนังเรื่อง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ โคตรๆ นางเอกซ้อนท้ายมอเตอร์ไซต์พระเอกสุดหล่อกลับบ้าน  ฮ่าๆๆ  โคตรจะเท่เลย   


    แต่เพื่อความปลอดภัยของสโนว์ผมก็เลือกที่จะแวะร้านขายหมวกกันน็อคหน้ามหาวิทยาลัยแล้วรีบลงไปซื้อหมวกกันน็อคใบใหม่ให้สโนว์  โดยบอกพี่เจ้าของร้านว่า


    “ขอซื้อหมวกกันน็อคที่แข็งแรงที่สุด  เอาแบบสิบล้อเหยียบก็ไม่ยุบอ่ะพี่!”


    “ถ้าแบบทนๆก็สี่พัน  จ่ายไหวไหมน้อง”


    “ร้านพี่มีที่รูดบัตรเครดิตไหมครับ!”   


    พอได้หมวกกันน็อคแข็งแรงสมใจ  ผมก็รีบออกจากร้านเอาหมวกไปสวมหัวให้สโนว์เองกับมือ  ตรวจว่าล็อคแน่นดีแล้วนั่นแหละ  ผมจึงขึ้นรถแล้วผมก็บิดมอเตอร์ไซต์ไปอย่างเชื่องช้า  ราวกับอยากจะถนอมเวลาที่เราสองคนได้ใกล้ชิดกับบนรถมอเตอร์ไซต์คู่ใจนี้ไว้นานๆ  ความรักทำให้ผมอยากเป็นคนดี  เคารพกฎจราจร ขับรถไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง   หยุดรถให้ทางรถคันอื่น คนข้ามถนน หมาข้ามถนน  หรือแม้กระทั่งหอยทากคลานผ่านหน้า  รู้สึกว่าวันนี้ผมมีน้ำใจต่อผู้อื่นเสียเหลือเกิน  ไออุ่นจากฝ่ามือที่เอวทำผมอบอุ่นไปถึงขั้วหัวใจ   



    วันวาเลนไทน์ที่เคยเป็นวันที่น่าเบื่อที่สุดสำหรับผม  กลับกลายเป็นวันที่แสนพิเศษไปแล้ว   ไม่ใช่เพราะว่ามันเป็นวันวาเลนไทน์  แต่เพราะว่าในวันนี้ผมมีสโนว์อยู่ข้างกายต่างหาก  เนี่ยแหละพิเศษที่สุดแล้วครับ












++++++++++++
รีบปั่นมากกกกกกกกกกก ขอโทษที่ไม่มีเวลามาต่อเลยนะคะ รออ่านพาร์ท 2 ด้วยน้า นังโอเอ้จะพาน้องสโนว์เข้าบ้านแล้ววววว เย้ๆๆๆ จะเป็นไปด้วยดีหรือไม่รอติดตามนะคะ


ส่วนวันวาเลนไทน์ขอให้ทุกคู่มีแต่ความรักความสุขชื่นชมสมหวังนะคะ รักกันมากขึ้นกว่าเดิมเลยน้า

ส่วนคนไม่มีคู่ก็ไม่ต้องเสียใจไปมานั่งบนคานเป็นเพื่อนลิงกันค่ะ 555555+ อ่ะล้อเล่น(แต่เจ็บจริงงาน ฮือออ) ขอให้เจอเนื้อคู่กันทุกคนน้า คนที่เข้ามาทำให้มีความสุขร่วมกัน จับมือเคียงข้างไปด้วยกันนะคะ จุ๊บๆ :mew1:


ขอบคุณทุกคอมเม้นน่ารักค่ะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
คิดถึงเซ่นไหว้จังเลยยยยยยยยยย  :กอด1:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ชอบโป ที่ถือโอกาสได้แกล้งเพื่อนแล้วไม่โดนกระทืบกลับ
 :laugh:
พระเอกของเราตอนนี้ เป็นดีศรีอยุธยาไปเลย ขนาดว่า
ขับมอไซต์เจอหอยทาก ยังจอดให้หอยทากผ่านไปก่อน
โอ้เอ้ บ้าไปแล้วอะแกร
 :z2: :z2:

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0


หลังจากทำตัวเป็นพลเมืองดีเคารพกฎจราจรทุกกระเบียดนิ้ว  ผมก็ขับพาสโนว์มาถึงบ้านจนได้  จอดมอเตอร์ไซต์ไว้หน้าร้านเสร็จก็ถอดหมวกกันน็อคด้วยมือเดียวที่ดูเท่ระเบิด  ด้วยความเคยชินที่ต้องเอามือขยี้หัวทุกครั้งหลังถอดหมวกกันน็อคด้วยท่าทางแมนๆจนเกือบลืมคีพลุคตุ๊ดสาวพราวด์เสน่ห์ไปแล้วเชียว  ถ้าไม่เห็นกระจกสะท้อนภาพของสโนว์ที่ยังอยู่ใต้หมวกกันน็อคอยู่  มือที่กำลังขยี้หัวอย่างเมามันส์เลยต้องเปลี่ยนมาเป็นทำท่าเก็บผมทัดหูแทนสวยๆ -*-


    “แกะไม่ออกหรอแก  มาเดี๋ยวเราช่วยน้า”   คนตรงหน้าพยักหัวรับความช่วยเหลือ  ดูเหมือนว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ได้นั่งมอเตอร์ไซต์ของเขาเลย   ผมค่อยๆช่วยถอดหมวกออกอย่างเบามือ  ก่อนจะยกหมวกออกเผยโฉมหน้างดงามที่มีเหงือซึมผุดขึ้นตามไรผม  แว๊บนึงในความคิดบ้าๆของผม  ตอนนี้เหมือนผมกำลังเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวในวันเข้าหอเลยแหะ


    “ร้อนมากไหมเนี่ยสโนวี่  เหงื่อออกเต็มเลย”



    “นิดนึงเองโอ้เอ้  สบายมาก  นั่งรถมอเตอร์ไซต์ก็สนุกดีเหมือนกันเนาะ”



    “ติดใจล่ะซี้   ไว้วันไหนอยากนั่งอีกบอกเราได้เลยนะแก  พร้อมเป็นสารถีให้ตลอดเวลา” 



    “พูดแล้วห้ามคืนคำนะ  ถ้าเราเรียกใช้จริงๆ” 


   
    “แน่นอนสิ  ถ้าเป็นสโนว์  ตอนไหนเราก็พร้อมรับใช้เสมอ”  ตลอดชีวิตเลยยังได้....  อ่ะ  ดูเหมือนผมจะพูดเพ้อเจ้อมากเกินไปหน่อย  เพราะตอนนี้สโนว์ทำหน้าเหมือนแปลกใจกับคำพูดผมเสียให้แล้ว


   
    “ป่ะๆๆ เข้าบ้านเราดีกว่า  ม๊ารอแย่แล้วล่ะแก”  ผมทำเฉไฉเปลี่ยนเรื่องหิ้วหมวกกันน็อคทั้งสองอันเดินนำเข้าร้าน



    “ป๊า ม๊า อาม่า  อั๊วะกลับมาแล้ว..ค่า”   เกือบลืมดัดเสียงเลยผม 



    “ไงนังมาเรียฟิเซนนนนน”  ผมเรียกนังเซ่นไหว้ที่กระโดดขึ้นมาบนตู้กระจกใส่แหวนทอง  มันหันมามองผมก่อนจะกระโดดลงมาที่พื้นแล้วเดินมาหาผมอย่างรวดเร็ว   สงสัยมันคงคิดถึงผมจัดเพราะไม่ได้เจอกันมา 2 อาทิตย์แล้ว


    มาม่ะลูกพ่อ  มาให้กอดให้ชื่นใจหน่อยยยยย



    ผมนั่งย่องๆอ้าปากรอรับแรงกระโดดจากนังเซ่นไหว้เต็มที่



    ฟิ้ววววววว



    แต่เหมือนกันว่าเป้าหมายของมันจะไม่ใช่ผมวะครับ  แม่ง  นังแมวร้ายวิ่งผ่านผมไปอย่างไม่เหลือบชายตามองสักนิด  นู่นนนน  มันวิ่งไปเดินพันแข้งพันขาทำหน้าตาอ้อร้อกับสโนว์ที่เดินตามมาโน้นนนนคร้าบบบ   แถมทำตัวรู้งานเหมือนเดิม  ทำตาแบ๊วเป็นลูกลำไยครางเสียงออดอ้อนสโนว์หางก็สะบัดไปมา   ได้ข่าวว่าเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกนะเว้ย  อะไรจะขนาดนั้น....ไม่ใช้ดิ  นี่ครั้งที่ 2 แล้ว  เพราะครั้งแรกของนังเซ่นไหว้กับสโนว์คือตอนที่ทำให้ผมได้เจอกับสโนว์เป็นครั้งแรก   อิอิ


    พอเห็นนังเซ่นไหว้แมวปีศาจในคราบสายแบ๊ว  สโนว์ก็ตาเป็นประกายทำท่าจะลงไปนั่งเล่นด้วยแต่ก็หยุดไว้  แล้วหันมายกมือไหว้อาม่าที่นั่งอยู่ไม่ไกล  ตามด้วยป๊ากับม๊าผมก่อน



    “ไหว้พระเถอะจ้า  อาสโนว์ใช่ม๊ายยย  หล่อจริงๆเลยพ่อคุณ  วันนี้ม๊าทำอาหารไว้เพียบเลยน๊า  กินให้เต็มที่ไม่ต้องเกรงใจเลยนะลูก”   ม๊ายิ้มรับไหว้สโนว์  ป๊าก็ยิ้มให้อย่างใจดี   ทั้งคู่ยังอยู่หลังเคาท์เตอร์โชว์ทองครับ  วันนี้ทุกคนก็ใส่เสื้อจีนสีแดงกันหมดแล้ว  เพราะพรุ่งนี้ก็เป็นวันตรุษจีนแล้วด้วย



    “ขอบคุณครับ..ม๊า”   


    “ใช่ๆ นั่นแหละเรียกม๊าว่าม๊าได้เลยน๊า  คนกันเองทั้งน้าน  คิดซะว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน โฮะๆๆ”   ม๊าดูจะอารมณ์ดีมาก  หยิบผ้าเช็ดหน้ามาทำท่าปิดปากหัวเราะเป็นนางร้ายละครงิ้วอีกแล้ว  เหอๆ



    “ใช่ๆ  คิดว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันน๊าอาสโนว์   ตามสบายเลยไม่ต้องเกรงจ๊าย   แหม  เจ้าอันโทนิโอ้นี่รู้จักคบเพื่อนหล่อๆซะด้วย  กรรมพันธุ์ดีจริงๆเลย”  อาม่าลุกเดินย่างมายืนมองหน้าสโนว์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม  แต่ทำไมทุกคนถึงชมว่าสโนว์หล่อล่ะ  ผมว่าสโนว์น่ารักมากกว่าหล่อนะ  คือก็หล่อแหละแต่ก็ดูน่ารักด้วย



    “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ อาม่า”  สโนว์ถ่อมตัว  แถมยังให้อาม่าจับแขนพยุงตัวเดินด้วย



    “หล่อขนาดนี้มาเป็นลูกเขยบ้านอาม่าดีม๊าย   จะยกให้ฟรีๆเลยแถมทองอีกร้อยบาทเลยเป็นง๊าย  สนใจไหมอาสโนว์”    ไม่ทันไรอาม่าก็จัดโปรโมชั่นล่อใจสโนว์น้อยซะแล้วครับ  ไวไฟจริงๆรุ่นใหญ่แบบอาม่านี่  สโนว์ก็หัวเราะชอบใจใหญ่



    “แล้วจะให้แต่งกับใครล่ะครับอาม่า   บ้านนี้มีลูกสาวหรือครับ”



    “มีซี้  ก็อาอันโทนิโอ้ง๊าย  ถึงมันจะดำและหัวทึบไปหน่อยแต่ใจดีน๊า  รักเดียวใจเดียวเหมือนป๊าม๊ามัน  ใครได้อีไปเป็นแฟนน๊ารับรองโชคดีเหมือนมีคนรับใช้ตลอดชีวิตเลย!!!”   ....นี่อาม่าเขากำลังพูดอวยผมหรือด่าผมอยู่กันแน่   ไม่ค่อยมั่นใจเลย



    “ฮะฮะ  ถ้าเป็นแบบนั้นจริงไว้รอให้โอ้เอ้เขาผ่าตัดเป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้วผมจะมาสู่ขอนะครับอาม่า”   สโนว์ยิ้มหวานกับอาม่าที่ดูจะชอบใจใหญ่กับคำตอบรับของสโนว์  แต่ผมนี่ขนลุกพรึบพรับไปหมด  บรื้อออออ  แค่นี้ก็ยอมสุดๆแล้ว  อย่าให้ถึงขั้นต้องไปเฉาะลูกชายทิ้งเลย  สงสารมันกว่าจะเลี้ยงมาจนเติบใหญ่ได้ขนาดนี้!



    “เมี๊ยวววว”   นังเซ่นไหว้ร้องแสดงการมีตัวตนของมันหลังใจดีปล่อยให้สโนว์ได้ทักทายพ่อตาแม่ยายไปก่อน  มันก็เริ่มปฏิบัติการอ้อนสะกดจิตให้รักหลงมันแต่ผู้เดียวตามสเต๊ป 



    “มาๆ  ไปนั่งเล่นกับอามาเรียฟิเซนที่โซฟากับอาม่าน๊า  ตามมาๆมาเรียฟิเซนเด็กดี”   อาม่าพูดเรียกให้นังเซ่นไหว้เดินตามตัวเองที่กำลังเดินไปที่โซฟาโดยมีสโนว์คอยจับประคองไปด้วย  พอพาอาม่านั่งได้นังเซ่นไหว้ก็กระโดดไปจองที่นั่งบนตักสโนว์ทันที  ทำหน้าใสอ้อนสโนว์ให้ลูบหัวลูบตัวมันอย่างเอาใจ



    ดีมากนังเซ่นไหว้  จงใช้มารยาทั้งหมดที่เอ็งมีสะกดจิตให้สโนว์หลงเอ็งซะ  ข้าจะได้หาข้ออ้างพาสโนว์มาที่บ้านบ่อยๆอย่างไม่ติดขัดอีก หึหึหึ


    “เฮีย..มา..บ้าน..หรอ”  เสียงเหม่งน้อยฟู่ฟู่ดังขึ้นอยู่หลังร้าน   ผมเดินไปชะโงกหน้าดูก็เห็นน้องชายยืนทำหน้ามึนอยู่  ไม่รู้ว่ามาตอนไหนเพราะอาฟู่ยังตัวเตี้ยไม่พ้นเคาท์เตอร์เลย



    “เจ้ลูก  ต่อไปถ้าเฮียพาเพื่อนมาบ้าน ฟู่ต้องเรียกเฮียอันโทนิโอ้ว่าเจเจ้น้า  เหมือนที่เรียกเจ้หลิงไง  เข้าใจม๊าย”  ม๊ารีบกระซิบบอกฟู่ฟู่อย่างเบาที่สุด  คงกลัวว่าสโนว์ที่นั่งอยู่ตรงโซฟาไม่ไกลจะได้ยินเข้า   ฟู่ฟู่ทำหน้างงๆแต่ก็พยักหน้ารับ  ไม่รู้เหมือนกันว่าที่พยักหน้ารับนี่เข้าใจหรือไม่เข้าใจกันแน่



    “ไหนลองเรียกเจ้โอ้สิ”  ม๊าสั่งทดสอบความเข้าใจของอาฟู่



    “เจ้..โอ้”



    “เก่งมากฟู่ฟู่ลูกชายม่าม๊า”  แปะๆๆๆ  ทั้งม๊า ป๊า ผมที่ยืนอยู่ตรงเคาท์เตอร์รีบตบมือเบาๆชมอาฟู่ใหญ่  อาฟู่พอเห็นคนตบมือชมให้ก็ยิ้มแป้นจนตาเหลือขีดเดียว



    “มาให้เฮีย..เอ้ย เจ้หอมหัวเหม่งหน่อยเร็ว”   สั่งอาฟู่แต่กลับเป็นผมเองนี่แหละที่เกือบลืม   ฟู่ฟู่ก็รีบวิ่งมาเกาะเคาท์เตอร์ให้ผมอุ้มออกจากคอกมานั่งบนแขนแล้วยื่นหัวเหม่งให้หอม



    ฟอดดดดดด



    “อี๋  อาม่าไม่ได้สระผมให้ลื้อกี่วันแล้วเนี่ยอาฟู่”   กลิ่นนี่รัญจวนจมูกซะเหลือเกิน


    “คิกๆๆๆ ไม๋ดั๊ยจะมาจ๋ามวัน”   อาฟู่หัวเราะชอบใจ  ยกนิ้วชูขึ้นมาสามนิ้วถ้วน  ก่อนจะสปีคสำเนียงลูกครึ่งเวลาเผลอพูดเร็วๆแบบไม่หยุดคิด 2 วิ  นานๆถึงจะได้ฟังผมเลยฟัดหอมหัวเหม่งไปอีกหลายๆรอบจนตี๋น้อยของบ้านขำลั่นร้าน    ผมเองก็พลอยยิ้มขำไปด้วยกับเสียงหัวเราะของน้องชายตัวเอง   เด็กนี่เขามีพลังงานบวกให้กับคนรอบตัวจริงๆนะครับ  เพราะตอนนี้ทุกคนในร้านก็หันมามองแล้วยิ้มมีความสุขไปด้วยเช่นกัน



    สโนว์เองก็หันมามองแล้วยิ้มให้  เราสองคนมองตากันพร้อมกับรอยยิ้ม  ก่อนจะเป็นผมเองที่เขินจนใจเต้นแรงแล้วเป็นฝ่ายหลบสายตาไปก่อน



    มีความสุขอะไรขนาดนี้วะผม  อยากให้เป็นแบบนี้ทุกๆวันเลย





ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0


หลังจากนั่งเล่นกันไปได้สักพักก็ได้เวลาปิดร้านครับ   วันนี้ป๊าเคลียร์บัญชีเองเพราะม๊าต้องเข้ามาเตรียมของไหว้สำหรับวันพรุ่งนี้   ตอนแรกผมจะอยู่ช่วยแต่ป๊าบอกให้ไปอยู่เป็นเพื่อนสโนว์ดีกว่า  ป๊าแกกลัวว่าที่ลูกสะใภ้จะเหงาครับ  5555+  ผมก็พาสโนว์เดินเข้ามาในส่วนของบ้านหลังร้านทอง  ส่วนอาฟู่น้องบอกจะนั่งอยู่ที่ร้านเป็นเพื่อนป๊า   ไม่อยากทิ้งป๊าไว้คนเดียว  น่ารักไหมล่ะครับดวงใจของบ้านผม^^


    “สโนวี่นั่งเล่นกับมาเรียฟิเซ่นไปก่อนนะ  เดี๋ยวเราขอไปช่วยม๊าล้างผลไม้ก่อนแป๊บนึง”   มันเป็นงานง่ายๆที่ผมทำมาตลอดล้างผลไม้วางใส่จาน



    “เราขอช่วยนะ  ไม่อยากนั่งอยู่เฉยๆ  อีกอย่างเพิ่งเคยเห็นการเตรียมตัวไหว้เจ้าแบบนี้ด้วย”   เมื่อเห็นสโนว์ทำท่าอยากช่วยจริงๆ  ผมก็เลยพาเข้ามาในครัวแล้วช่วยกันล้างผลไม้คนล่ะอ่าง  ส่วนอาม่ากับม๊าเตรียมของไหว้อย่างอื่นไปอันไหนที่ไม่มีทางบูดหรือเสียก็เตรียมจัดใส่จานไว้เลย  เช้ามืดจะได้ไม่วุ่นวายเดี๋ยวจะเสียฤกษ์ไหว้ซะก่อน   


    “ทำไมถึงต้องเตรียมของเยอะขนาดนี้ด้วยล่ะโอ้เอ้  ละลานตาไปหมดเลย  ผลไม้ก็ต้องหลายอย่าง  เอาแค่อย่างสองอย่างไม่ได้หรอ  มันมีนัยยะอะไรหรือเปล่า”   เจ้าหนูจำไมออกอาการถามอย่างสนอกสนใจ



    “มันเป็นประเพณีสืบทอดกันมานานแล้วน่ะสโนวี่  มันเหมือนป็นการขอบคุณเทพเจ้าและเหล่าบรรพบุรุษของเราที่ทำให้เรามี  ทุกสิ่งที่ใช้ไหว้เจ้าล้วนมีความหมายทั้งนั้น  แบบ ส้ม ก็หมายถึง สิ่งมงคล  องุ่น ความเพิ่มพูน  กล้วย สับปะรดก็โชคลาภ   ไก่ก็ความสมบูรณ์  เกาลัดก็เงิน  เส้นหมี่อายุยืน ฯลฯ”   ผมบอกเล่าความหมายของของแต่ล่ะอย่างที่ใช่ในการไหว้  ก็เล่าเท่าที่พอจำได้ว่าหมายถึงอะไรบ้างน่ะครับ  อันไหนไม่แน่ใจก็ให้อาม่าช่วยอธิบายแทน   สโนว์ก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างดีราวกับกำลังจดจำทุกสิ่งเข้าไว้ในสมอง   ไม่รู้ว่าที่ตั้งใจจำเพราะเตรียมจะมาเป็นลูกสะใภ้บ้านนี้หรือเปล่า  ฮ่าๆๆๆๆ   คิดไปไกลอีกแล้วผม






    “ม๊าหวัดดี อาม่าหวัดดี  อ้าววันนี้เฮียกลับมาด้วยหรอ  หวัดดีค่า  เฮียสุดหล่ออออ”   อาหลิงที่คงเรียนพิเศษเพิ่งเสร็จอยู่ๆก็เปิดประตูด้านหลังบ้านเข้ามายกมือไหว้พวกผมที่กำลังจัดสำรับอาหารเย็นอยู่



    “จุ๊ๆๆ”  อาม่ารีบเอามือจุ๊ปากให้อาหลิงเสียงเบาๆ   อาหลิงเองก็ทำงงเอามือเกาหัว  ก่อนจะเข้าใจเมื่อเห็นสโนว์เดินออกมาจากห้องน้ำ คุณเธอตาโตเป็นไข่ห่าน   พนันได้เลยถ้าไม่ติดว่าสโนว์ยืนอยู่นะอาหลิงกรี้ดลั่นบ้านด้วยความดีใจแน่ๆ  ตอนนี้ก็เห็นเอานิ้วจิกกระโปรงอยู่  ผมเห็นชัดเจนเลยทั้งริมฝีปากที่เม้มแน่นเหมือนไม่อยากจะกรี้ดแต่ดวงตานี่ระยิบระยับมาก



    “พี่สโนว์ใช่ไหมคะ”   อาหลิงเนียนเข้าไปนั่งใกล้ๆถามคำถามที่รู้อยู่แก่ใจ  แต่หาเรื่องเปิดประเด็นไปงั้น



    “ใช่ครับ  น้องเป็นน้องสาวโอ้เอ้หรอครับ”



    “ใช่ค่ะพี่  หลิงเป็นน้องสาวเฮีย เอ๊ย เจ้โอ้เองค่ะ   พี่สโนว์เรียกหลิงว่าหลิงได้เลยนะคะ  หรือจะเรียกอาหลิงเหมือนที่คนในครอบครัวเรียกก็ได้น้า…พี่สโนว์ตัวจริงหล่อมากเลยอ่ะ  ใจหลิงสั่นหมดแล้วเนี่ย” ><  อาหลิงวี้ดว๊ายใหญ่อย่างเริ่มไม่เก็บอาการกุลสตรี



    “น้องหลิงก็พูดเกินไป  พี่ไม่ได้หล่อขนาดนั้นหรอก”  สโนว์ก็ยังคงถ่อมตัวเช่นเดิม   ซึ่งผมก็เห็นด้วยมากๆ  เพราะสโนว์น่ะน่าร๊ากกกกก



    “หลิงพูดจริงๆ   พี่หล่อเหมือนพ่อของลูกหลิงเลย”  อ้าวไอ้น้องชั่ว  คิดจะตีท้ายครัวพี่ตัวเองรึไงกัน



    “อะแฮ่ม อะแฮ่ม”   ผมทำเป็นขู่เตือนสติยัยน้องจอมมโน (ที่ก็ขี้มโนพอๆกันกับผม)



    “อะไรเฮี...เจ้  ขนมเข่งติดคอหรอ”   เออ ใช่  ร้านนี้ทำเหนียวมาก  ถุ้ย! 



    “กลับมาก็รีบเอาของไปเก็บบนห้องก่อนสิย่ะ  มานั่งเจ้อเร้ออะไรอยู่ตรงนี้  เขาจะกินข้าวกันแล้วเร็วๆ  ไม่งั้นเจ้จะกินไก่บอนชอนให้หมดจาน”   คิดจะขู่อาหลิงต้องขู่ด้วยของกินครับ  ยิ่งเป็นของโปรดนางด้วย



    “ก็ได้  ชิส์...เดี๋ยวหลิงเอาของไปเก็บก่อนนะพี่สโนว์  รอแป๊บนึงนะคะ หลิงจะรีบมาคุยกับพี่ใหม่”  จะไปแล้วยังไม่วายมาอ้อยใส่สโนว์ผมอีก  เห็นทีอีกไม่นานคงมีศึกสายเลือดเป็นแน่แท้



    อาหลิงรีบวิ่งขึ้นบ้านไปประนึงจะรีบวิ่งไปกดบัตรคอนเสิร์ต  นี่ถ้าสะดุดบันไดตกกลิ้งลงมาผมจะหัวร่อให้ฟันร่วงเลย  ไม่รู้จะรีบอะไรนักหนา


    “อาหลิง!  เดินให้มันเบาๆหน่อย วิ่งแบบนั้นบ้านพังกันพอดี”   ม๊าตะโกนว่าขึ้นไปเจ้าตัวถึงได้หยุดวิ่งได้   ผู้ยิ่งใหญ่ของบ้านอย่างแท้จริง


    “ยกอาหารมาหมดแล้วใช่ไหม  อาอันโทนิโอ้”



    “ใช่แล้วค่า ม๊า”  ผมตอบเสียงอ้อร้อ  ม๊าเองก็แอบยิ้มเบ้ปากกับความดัดจริตของผม  แต่ก็ไม่รู้ว่าที่ยิ้มน่ะเพราะชอบหรือเพราะขำกับท่าทางของผมกันแน่



    “งั้นลื้อออกไปตามป๊ากับอาตี๋เล็กมากินข้าวได้แล้วจะได้กินพร้อมๆกัน”  ผมพยักหน้าแล้วก็เดินออกไปตามป๊ากับอาฟู่มากินข้าว  กลับเข้ามาก็เห็นสโนว์กำลังช่วยม๊าวางจานวางแก้วน้ำอยู่  แม่ศรีเรือนสุดๆ   อาหลิงเองก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งลงมาด้านล่างก่อนจะมารวมตัวกันที่โต๊ะอาหาร   แล้วเพราะโต๊ะอาหารมันเป็นวงกลมก็เลยให้ม๊ากับอาหลิงนั่งด้านซ้ายมือของป๊า  ส่วนอาม่ากับอาฟู่แล้วก็ผมนั่งด้านขวามือป๊า  แล้วสโนว์ก็นั่งติดกับผมและก็อาหลิงครับ    ผมก็คอยสังเกตุสโนว์นะว่าจะรู้สึกอึดอัดอะไรหรือเปล่า   แต่สโนว์ก็ดูปกติดียังยิ้มคุยกับม๊ากับอาม่าเหมือนเดิม  เวลาป๊าถามอะไรก็ตอบ  ถึงน้ำเสียงจะสั่นไปนิดๆก็เถอะนะ    อ้อ  ส่วนนังเช่นไหว้ก็นอนเอาพุงทับเท้าสโนว์อยู่เหมือนกลัวสโนว์จะหนีนางไปไหน  ส่งเสียงอ้อนเอาหัวถูเท้าสโนว์อย่างเอาอกเอาใจ  เหมือนมันจะบอกว่า ‘รักหนู หลงหนู อย่าทิ้งหนูไปไหนน๊า’ โคตรอ้อร้อ!



    “กินเยอะๆน้า  อาสโนว์  อั๊วะทำสุดฝีมือเลย  ยังมีอีกเยอะถ้าลื้อชอบกินจานไหนเดี๋ยวอั๊วะเอาใส่กล่องไปให้ลื้อเวฟกินที่บ้านได้น๊า”



    “ขอบคุณครับ ม๊า” 



    “เอาล่ะๆ กินกันเยอะๆนะ  ลงมือได้เลย”   ถึงอาป๊าจะบอกให้ลงมือทานแต่ทุกคนก็รอให้อาม่าเปิดเลือกหยิบกินของโปรดก่อนอยู่ดีแล้วจึงค่อยลงมือทานตาม   ผมคีบน่องไก่ของโปรดให้อาฟู่ที่จ้องมองเหมือนลุ้นว่าผมจะแย่งเอาเข้าปากไปหรือไม่  แต่พอเห็นผมเอามาวางใส่จานหมีน้อยให้ก็ยิ้มจนตาเหลือขีดเดียว  แล้วกำน่องไก่กัดกินอย่างเอร็ดอร่อย



    “สโนวี่  อยากกินอะไรก็หมุนกระจกเลื่อนได้เลยนะ  หรือจะกินอะไรถ้าหยิบไม่ถึงก็บอกเราได้นะจ๊ะ” 


    “โอเค โอ้เอ้  งั้นไม่เกรงใจล่ะนะ”  สโนว์หมุนเปลี่ยนอาหารให้ถ้วยเป็ดตุ๋นมาอยู่ตรงหน้าก่อนจะลงมือตักปีกเป็ดใส่ถ้วยเล็กแล้วลงมือชิม



    “หื้มมม  อร่อยมากเลยครับ  แทบละลายในปากเลย”  สโนว์ทำตาโตหลังกินปีกเสร็จไปหนึ่งปีก  หน้าตาเขาดูอร่อยมากจริงๆ  ทำเอาม๊ายิ้มหน้าบานไม่หุบ


    “งั้นลื้อกินเยอะๆเลยน๊าอาสโนว์  ม๊ามีอีกเป็นหม้อ”  สโนว์พยักหน้ารับก่อนจะกินต่อ  อาหลิงก็ชวนสโนว์ให้ลองชิมจานนั่นจานนี้  ผมเองก็คีบนู่นคีบนี่กินเหมือนกัน  มื้อนี่อร่อยจริงๆแถมยังหวานละมุนละไมอีก  หึหึหึ


    “กินปลาไหมอาฟู่”  ผมหันไปถามตี๋เล็กที่แทะกระดูกแทะจนปากเลอะไปหมด  อาฟู่พยักหน้าอย่างเดียวเพราะปากยังติดพันกับกระดูกไก่อยู่  ผมเลยตักส่วนท้องปลาที่นิ่มที่สุดมาไว้ในจานตัวเองก่อนจะลงมือเขี่ยก้างปลาทิ้งให้หมด  มองจนแน่ใจว่าไม่มีก้างปลาเหลือถึงได้ยกไปไว้ในจานหมีน้อยของอาฟู่อีกครั้ง



    “กินเยอะๆนะอาฟู่  จะได้โตไวๆ  สุดที่รักของ..เจ้”   ผมขยี้หัวกลมอย่างเอ็นดู


    “ใช่แล้วอาฟู่ฟู่  ลื้อกินปลาเยอะๆจะได้ฉลาดๆกว่าเจ้ลื้อง๊าย”  อาม่ารีบพูดสมทบ  คงอยากให้อาฟู่ฉลาดกว่าอาหลิง



    “เจ้โอ้คนเดียวเหอะ  อั๊วะไม่เกี่ยวนะอาม่า  เพราะอั๊วะฉลาดดดดดด”  อาหลิงคัดค้าน  ทำลอยหน้าลอยตาพูดแซะผม  เหอะ!  เห็นว่าอยู่ต่อหน้าสโนว์แล้วผมไม่กล้าตอกกลับเลยเอาใหญ่  ไอ้น้องคนนี้นิ




    แม้จะไม่พอใจเล็กๆแต่พอเห็นสโนว์ลอบยิ้มหัวเราะนิดๆ  ผมก็หายเคืองไปง่ายๆซะอย่างนั้น




ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0


“ทิชชู่โอ้เอ้  น้องฟู่ฟู่ปากเลอะหมดแล้ว  เช็ดให้น้องที”  สโนว์หยิบทิชชู่มา 2-3 แผ่น  ส่งให้ผมไปเช็ดปากอาฟู่ต่ออีกที   เนี่ยะ  มีความใส่ใจคนในครอบครัว  ผมช๊อบชอบ  (เอะอะอวยตลอด)



    “กินข้าวอยู่อย่าทะเลาะกันสิ   ลื้อก็รีบๆกินเข้า  แล้วนี่จะค้างบ้านหรือกลับไปนอนหอล่ะ  พรุ่งนี้มีไหว้เจ้าแต่เช้ามืดลื้อจะอยู่หรือเปล่ามีเรียนไหม”  ป๊าถามผม


    “พรุ่งนี้มีเรียนแค่ตอนบ่ายเฉยๆค่ะป๊า   แต่เดี๋ยวอั๊วะจะขับรถไปส่งสโนว์ที่คอนโดก่อน  แล้วค่อยวนกลับมาบ้านอีกทีเอา” 



    “งั้นก็รีบๆกิน  เดี๋ยวจะดึกมากซะก่อน  อากาศก็แปลปรวนไม่รู้ฝนจะตกหรือเปล่า  ป๊าไม่อยากให้ลื้อขับรถตอนกลางคืนมันอันตราย”



    “ค่าป๊า  รับทราบค่ะ”  ผมทำท่าตะเบ๊ะรับทราบก่อนจะรีบลงมือกินให้เร็วกว่าเดิม



    “ลื้อก็  คนกำลังทานอร่อยๆจะไปเร่งทำไมกัน  ค่อยๆทานแหละดีแล้ว  ฝนไม่ตกหรอกน่า”  ม๊าพูดแทรกทำตาค้อนใส่ป๊า   คงเคืองที่ป๊าบอกให้พวกผมรีบกลับ



    “อั๊วะอิ่มแล้ว  ขอตัวขึ้นไปทำรายงานก่อนนะ  ไปล่ะค่ะ”  จู่ๆก็อาหลิงก็รีบซุยข้าวเข้าปาก  อีกมือก็คว้าปีกไก่บอนชอนเข้าปากแล้วรีบลุกวิ่งขึ้นบ้านไปอีกรอบ



    “พูดไม่รู้จักฟังจริงๆ  บอกให้เดินช้าๆ  วิ่งแบบนั้นจะพังบ้านหรือง๊ายยย!”  ผมว่าบ้านไม่พังเพราะอาหลิงวิ่งหรอก  แต่มันจะพังเพราะพลังเสียงของม๊านี่แหละ  เล่นซะน้ำในแก้วสั่นเลย  เหอๆ



    พวกเราก็ทานกันต่อจนอิ่มแปล้  สโนว์อาสาขอล้างจานให้  ตอนแรกม๊าไม่ยอมให้ล้างแต่สโนว์ก็ยังยืนกรานขอทำ



    “ถ้าม๊าไม่ให้ผมช่วยล้างจาน  ต่อไปผมคงเกรงใจไม่กล้ามาทานอะไรที่บ้านม๊าอีกแน่ๆเลยล่ะครับบ ให้ผมช่วยอะไรเล็กๆน้อยๆเถอะนะครับม๊า”

    พอเจอลูกอ้อนและเหตุผลแบบนี้ไป  ม๊าผมก็ใจอ่อนยวบยาบยอมให้สโนว์ล้างจาน  แน่นอนว่าผมก็ต้องช่วยสโนว์ล้างจานอยู่แล้ว  ล้างจานไปเนียนจับจานในอ่างผิดเป็นจับมือสโนว์แทนงี้  แค่คิดก็ซู่ซ่าแล้วครับ  555+



    “งั้นเดี๋ยวอั๊วะเอาอาฟู่ไปอาบน้ำสระผมก่อนแล้วกัน  เดี๋ยวพรุ่งนี้ตรุษจีนก็สระผมไม่ได้แล้ว...อาม่า ลื้ออย่าลืมตักปีกเป็ดตุ๋นใส่กล่องให้อาสโนว์ด้วยน้า”



    “เออๆ  อั๊วะไม่ลืมหรอก  เดี๋ยวให้อาหารมาเรียฟิเซนก่อน  ไม่ลืมแน่นอน”    แบ่งหน้าที่กันเรียบร้อยผมกับสโนว์ก็ช่วยกันเก็บจานเข้ามาในครัวกวาดเศษอาหารใส่ถุงขยะให้เรียบร้อย  อะฮ๊า  ขั้นต่อไปก็ล้างจานในอ่างเดียวกันสิ  ฉากจับมือผิดที่รอคอยมาแล้ว  กรั่กๆๆๆ



    “เดี๋ยวเราล้างซันไลต์แล้วส่งให้โอ้เอ้ล้างน้ำเปล่าเนาะ  มีสองอ่างจะได้เสร็จไวๆ”



    เพล้ง!   



    นี่ไม่ใช่เสียงจานแตก  แต่เป็นเสียงต่อมมโนที่แตกกระจาดกระจายสลายไปในพริบตา TT  อดเลยผม  นี่สโนว์เขาอ่านความคิดผมออกหรือเปล่าวะ  ฮือออ   แต่จะทำไงได้ผมก็ได้แค่กรีดนิ้วทำท่าโอเคแล้วคอยรับจานจากสโนว์มาล้างน้ำเปล่าไปเรื่อยๆจนหมดทุกจาน  เพราะจานเยอะกว่าปกติและสโนว์ล้างจานช้ามากการล้างจานเลยยาวนานหน่อย


    “บ้านโอ้เอ้นี่อบอุ่นดีเนาะ  ใจดีทุกคนอย่างที่บอกจริงๆด้วย”


    “ใช่ม้า  ชอบล่ะสิ  มาบ่อยๆได้เลยนะ”  ^^


    “ถ้าว่างจะมาอีกแน่นอน..เออ  โอ้เอ้ได้ทำเพจให้น้องมาเรียฟิเซนหรือเปล่า”


    “หือ..ใช่ๆนัง..น้องมาเรียฟิเซนมีเพจแต่ส่วนใหญ่ก็ม๊าลงรูปน่ะจ้ะ”  ท่าทางสโนว์จะจำนังเซ่นไหว้ได้แม่นจริงๆ  โคตรอิจฉาแมว!


    “หรอ  น้องน่ารักมากๆเลย ขี้อ้อนสุดๆ  เราชอบแมวมากแต่เลี้ยงไม่ได้  นี่ถ้ารู้ว่าน้องเป็นแมวบ้านโอ้เอ้นะ  เรามาเที่ยวบ้านโอ้เอ้ตั้งนานแล้วล่ะ”    โห  ถ้าผมรู้ว่าจะมาง่ายๆแบบนี้ผมก็ชวนไปตั้งนานแล้วเหมือนกัน   



    “จริงดิ  งั้นแกมาเที่ยวบ้านทุกอาทิตย์เลยม่ะ  ดูท่าทางน้องมาเรียฟิเซนมันก็ชอบแกมากเหมือนกันน้า”  สาบานว่าผมไม่เคยเรียกนังเซ่นไหว้ว่าน้องเลยสักครั้งมาก่อน   ความร้ายของมันเกินกว่าจะเป็นน้องได้จริงๆ เออ ถ้าเจ้าแม่อ่ะว่าไปอย่าง-*-


    “เกรงใจน่ะสิ  แต่อาจจะขอมาเดือนล่ะครั้งนะ”



    “โอ้ยยยย  ไม่ต้องเกรงใจมาได้ทุกวันเลยด้วยซ้ำ   คิดซะว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันงี้”  ลูกสะใภ้มาบ้านแม่ผัว มันผิดตรงไหนนนน



    “จ้าๆ  ล้างเสร็จแล้ว  เรากลับกันเถอะ  จะสองทุ่มครึ่งแล้วด้วย”   สโนว์ยกโทรศัพท์ออกมาดูเวลา  ผมเองก็คิดว่าสมควรไปส่งเขาแล้วจริงๆ



    “อาม่า  อั๊วะจะไปส่งสโนว์แล้วนะคะ  ฝากบอกม๊าด้วย  ป๊าอยู่หน้าร้านใช่ไหมเอ่ยจะได้พาสโนว์ไปไหว้ลาก่อน”  ผมทำเป็นเดินตูดบิดนิดๆไปหาอาม่าที่นั่งดูทีวี



    “ใช่ๆ  ลื้อพาอาสโนว์ไปเลย    อั๊ยย๊า  อั๊วะลื้อตักปีกเป็ดตุ๋นให้อาสโนว์เลย  เดี๋ยวขอไปตักก่อนแป๊บนึงนะ  ลื้อไปไหว้ป๊าก่อนได้เลย”  อาม่ารีบลุกไปในครัวถึงสโนว์จะบอกว่าไม่เป็นไรแต่อาม่าก็บอกให้รอแป๊บเดียว  ผมเลยพาสโนว์เดินกลับไปทางหน้าร้าน



    “ป๊า  เดี๋ยวอั๊วะจะพาสโนว์กลับแล้วน้า”  ผมบอกป๊าที่นั่งคิดบัญชีอยู่หน้าร้าน  ประตูเหล็กถูกดึงปิดร้านหมดเรียบร้อยแต่ก็ยังสามารถมองเห็นรถลาที่วิ่งอยู่ตรงถนนได้เพราะเป็นประตูแบบตาข่ายไม่ได้ทึบไปซะหมด


    “ผมกลับก่อนนะครับป๊า”  สโนว์ยกมือไหว้อย่างเรียบร้อย  ป๊าก็ยกมือรับไหว้



    “กลับกันดีๆล่ะ  อย่าขับรถเร็วกันนัก หมวกกันน็อคก็ใส่ล็อกให้แน่น  พาเขามาก็ต้องพาเขากลับให้ปลอดภัยด้วย  รู้ไหมห่ะ..นังหนู”  ป๊าอบรมยาวเหมือนทุกครั้ง  ก่อนจะแกล้งเรียกผมว่านังหนู  แถมยิ้มอย่างดูสะใจเหมือนป๊าจะพูดว่า   ‘เป็นไงล่ะว่าอั๊วะนักสุดท้ายเอ็งก็มาเป็นตุ๊ดเหมือนกันล่ะวะ’
   


    “รู้แล้วค๊า  ไปแล้วนะป๊า  ประตูหลังบ้านล็อคแค่ลูกบิดพอนะอั๊วะจะได้ไขเข้ามาเลยไม่ต้องปลุกใครเพื่อถึงดึก”  ป๊าพยักหน้า   แต่ยังไม่ทันจะเดินออกมา  ฝนเจ้ากรรมก็ตกหนักขึ้นมาเฉยๆซะงั้น!



    “นั่นไง  อั๊วะว่าแล้ว  ว่ามันต้องตก  ตกหนักซะด้วย”  ป๊าตบเข่าฉาดก่อนจะออกมายืนดูหน้าถนนที่ฝนตกหนักจนแทบมองไม่เห็นอะไรนอกจากสายฝนเป็นสีขาว



    “ตกอีท่านี้คงได้ตกหนักทั้งคืนแน่ๆ  เฮ้อ  สงสัยลื้อต้องค้างแล้วล่ะอาสโนว์  ฝนตกหนักแบบนี้ถนนมันลื่นอั๊วะไม่อยากให้พวกลื้อออกไปเสี่ยงอันตราย  เป็นอะไรขึ้นมาอั๊วะทำคืนพ่อแม่ลื้อไม่ได้น่า”  ป๊าให้เหตุผล  สโนว์ก็มีท่าทีอึกอัก    ผมเห็นก็สงสาร



    “ถ้าสโนว์อยากกลับคอนโดจริงๆเดี๋ยวเราเดินไปที่จอดรถขับรถตู๋มารับหลังร้านก็ได้นะ  เอาไหม”



    “แล้วที่จอดรถโอ้เอ้อยู่ตรงไหนหรอ”



    “ป๊าจอดไว้ที่รับจอดรถรายเดือนน่ะสโนว์ต้องเดินไปอีก  3 ซอยแล้วเดินต่อไปในซอยอีกร้อยเมตรถึงจะถึง”   ป๊าอธิบาย  เพราะบ้านเราอยู่ติดถนนใหญ่เลยไม่มีส่วนสำหรับทำที่จอดรถตู้น่ะครับต้องไปเช่าที่จอดรายเดือนไว้จะไปไหนทีไม่ผมก็ป๊าจะผลัดกันไปเอารถขับมารับทุกคนที่บ้านเอา



    “ถ้ามันไกลขนาดนั้นไม่ต้องก็ได้โอ้เอ้  ตากฝนจะไม่สบายเปล่าๆ...”




    “เดี๋ยวเรานอนค้างที่นี่ก็ได้”






    “แต่เราขอนอนห้องเดียวกับโอ้เอ้นะ  เรา...กลัวผีน่ะ”


     !!!!!!!!!!!!!!!!!!!



    กรี้ดดดดดดดดด  ผู้ชายมาขอนอนด้วย!  นี่ผมควรทำตัวยังไงดี!!! 0o0




ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0


เรื่องที่คนโง่ไม่เคยรู้




    หญิงสาวผิวขาวหยวกหน้าตาสละสวยแถมยังดูอ่อนเยาว์กว่าอายุที่แท้จริงกำลังอาบน้ำสระผมให้กับลูกชายคนเล็กของบ้านที่นั่งพุงกางพิงตัวไปกับอ่างอาบน้ำอย่างสบายใจ



    “อาฟู่  พี่สโนว์หล่อไหม”


    “..หล่อ”


    “แล้วพี่สโนว์กับเฮียอันโทนิโอ้ใครหล่อกว่ากัน”


    “..อืม..เฮีย..หล่อ..กว่า”  เด็กน้อยหยุดคิดแป๊บเดียวก่อนจะค่อยๆตอบทีละคำ


    “ทำไมเฮียหล่อกว่าล่ะ”  ม่าม๊าขมวดคิ้วแปลกใจ


    “ก็..เฮีย..ใจลี!”  ตี๋เล็กรีบตอบเสียงดัง  ยกยิ้มจนตาเหลือขีดเดียว



    “พี่สโนว์ก็ใจดีนะ  วันนี้ช่วยม๊าทำงานตั้งหลายอย่างแน่ะ  ลื้อไม่ชอบอีหรอ”  ม่าม๊ายิ้มหวานเมื่อพูดถึงชายหนุ่มรูปงาม  ทั้งหล่อ ดูๆไปก็สวยด้วย ทั้งนิสัยดี  ถูกใจสุดๆ  มิน่า อามาเรียฟิเซนถึงได้ถูกใจอีนักหนา  เพราะอีดีแบบนี้เอง


    “แต่..เขา..ไม่..พูด..กับ..ฟู่..ฟู่..เยย”  ตี๋เล็กตอบไปอย่างที่ตนเองคิด   พี่สโนว์หล่อ  พี่สโนว์ยิ้มให้ก็จริง  แจ่เขาไม่พูดกับฟู่ฟู่ก่อนสักคำ   จริงๆฟู่ฟู่ก็อยากชวนเขาคุยด้วยแต่กลัวจะพูดไม่ชัด  กลัวจะฟังไม่รู้เรื่อง  ฟู่ฟู่ถนัดตอบมากกว่า


    “โถถถถ   ตี๋น้อย...พี่เขาคงพูดไม่เก่งนะ  แต่พี่เขาก็ดูใจดีนะ  ส่งทิชชู่ให้เฮีบเช็ดปากเลอะหนูด้วย  ลื้อชอบอีไหม”



    ตี๋เล็กนิ่งคิดก่อนจะพยักหน้าซื่อๆ  ม่าม๊าเองพอเห็นว่าลูกเห็นด้วยก็ยิ้มกว้าง  ก่อนจะรีบล้างตัวให้ลูกชายและจับเช็ดตัวพัดแป้งให้หอมฉุย  ใส่ชุดนอนเตรียมอุ้มลงมาเล่นด้านล่าง  หากไม่เห็นว่าห้องของอาหลิงเปิดประตูแง้มไว้เสียก่อน



    “ทำอะไรของลื้อน่ะอาหลิง”   ม่าม๊าเปิดประตูเข้าไปก็เห็นลูกสาวนั่งอยู่กับพื้นกำลังมัดก้อนอะไรสักอย่างอยู่ 2 – 3 อัน



    “ตกใจหมดม๊า  มาไม่ให้สุ่มให้เสียง...อั๊วะกำลังทำตุ๊กตาอยู่”  อาหลิงกระซิบบอกเสียงเบา   ม่าม๊าเลยเดินอุ้มอาฟู่เข้ามาในห้องนอนของลูกสาวที่พื้นระเกะระกะไปด้วยผ้าเช็ดหน้า และลูกปิงปองกับหนังยางมัดผม



    “แล้วไหนลื้อบอกจะรีบขึ้นมาทำรายงานห๊า  หัดโกหกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”  ม่าม๊าไม่ชอบใจนักหน้าขมวดคิ้วเป็นโบว์



    “อันนั้นแค่ข้ออ้างเฉยๆ  อั๊วะทำการบ้านเสร็จตั้งแต่อยู่โรงเรียนแล้ว  แต่อั๊วะจะรีบขึ้นมาทำตุ๊กตาเรียกฝนไง”



    “ตุ๊กตาเรียกฝน?   หน้าตามันเป็นไงว๊า  อั๊วะไม่เคยเห็น”   ม่าม๊าพาอาฟู่ไปนั่งบนเตียงของอาหลิงแล้วพาตัวเองมานั่งข้างลูกสาวมองก้อนกลมๆที่ถูกผ้าหุ้มมัดไว้


    “ก็คือตุ๊กตาไล่ฝนแบบญี่ปุ่นนั่นแหละม๊า  เหมือนในเรื่องอิคคิวซังไง  ถ้าแขวนหัวตั้งจะเป็นตุ๊กตาไล่ฝนแต่ถ้าเราคว่ำหัวลงมันจะกลายเป็นตุ๊กตาเรียกฝน   เนี่ย  อั๊วะทำได้สามตัวแล้วจะเอาออกไปติดระเบียงหลังบ้านเรียกฝนแล้วล่ะ”



    “.....ที่ลื้อทำเพราะอยากให้ฝนตก  แล้วถ้าฝนตกอาสโนว์ก็จะได้กลับบ้านไม่ได้แล้วอาจจะต้องค้างกับเราใช่ไหม   อาสโนว์กับอาอันโทนิโอ้ก็จะได้อยู่ด้วยกันนานขึ้นในวันวาเลนไทน์”  ม่าม๊านั่งคิดแล้วพูดไปตามที่นึก



    “ถูกต้องนะค๊า   ม่าม๊าฉลาดสุดๆเลย  รู้ทันความคิดอั๊วะด้วย”   อาหลิงยิ้มร่าก่อนจะกอดตัวม่าม๊าแน่นอย่างภูมิใจในความฉลาดมองแป๊บเดียวก็รู้ว่าเธอคิดจะทำอะไร   ก็วันนี้เป็นวานวาเลนไทน์ทั้งที  ก็ควรให้คนที่เขารักกัน(แม้อาจจะฝ่ายเดียว)ได้อยู่ด้วยกันนานๆหน่อยสิ   เฮียเองก็อุตส่าห์ทุ่มเทเพื่อพี่สโนว์ไปตั้งเยอะควรมีรางวัลให้บ้าง  พี่สโนว์เองก็น่ารัก หล่อ และสุภาพมากๆ  ยังไงเธอก็จะเอาพี่สโนว์มาเป็นพี่สะใภ้ให้ได้! หรือเป็นพี่เขยก็เอา!!!



    “ลื้อก็คิดอะไรเป็นเด็กๆไปได้  มันจะได้ผลจริงรึ”   ม่าม๊าค่อนคอด



    “ไม่ลองก็ไม่รู้นะม๊า  ให้ตุ๊กตาทำนายกัน”   อาหลิงยังไม่ยอมแพ้ชูตุ๊กตาห้อนต่องแต่งในมือไปมา



    “อันเล็กขนาดนี้เทพเจ้าคงมองเห็นหรอกว่าเรียกฝน.....โน้น ลื้อไปห้องอาม่าเอาลูกบอลของเล่นอาฟู่ที่ใส่รวมในถุงตาข่ายมา  เดี๋ยวม๊าจะไปเอาผ้าเช็ดหน้ามารัดทำตุ๊กตาเพิ่มให้   ทำใหญ่ๆหน่อยเทพเจ้าจะได้มองเห็นว่าเราเรียกขอฝนอยู่!”   สิ้นคำสั่งม่าม๊าอาหลิงก็ยิ้มกว้างรีบย่องเบาลงไปห้องอาม่าหาถุงใส่ลูกบอลของเล่นของอาฟู่ที่เป็นเหมือนที่ใส่ไว้ในบ้านบอลเยอะๆ   พอหาเจอก็รีบเดินกลับเข้าห้อง


    ส่วนม่าม๊าเองพออาหลิงออกไปก็สั่งให้อาฟู่นั่งรออย่าไปไหน  ก่อนจะเดินกลับห้องไปเปิดลิ้นชักที่มีผ้าเช็ดหน้าวางเรียงอย่างเป็นระเบียบหลายสิบผืน  เธอค่อยๆหยิบใส่มืออย่างถนอมเอามาทุกชิ้น และเปิดลิ้นชักที่สอง  เอาผ้าเช็ดหน้าที่วางเรียงกันออกมาอีกจนหมด  แล้วจึงเดินกลับไปห้องอาหลิง   ก่อนจะช่วยกันเอาผ้าเช็ดหน้าห่อลูกบอลเล็กอย่างรวดเร็ว


    “ม๊าไม่กลัวมันเลอะ มันยับเยินหรอ   ถ้าฝนตกลงมาจริงๆ”  อาหลิงถามเพื่อความแน่ใจ  เพราะรู้ดีว่าม่าม๊าสะสมผ้าเช็ดหน้าแถมผ้าเช็ดหน้าของม๊าผืนใหญ่และสวยทุกผืน  เป็นของรักของหวงเลยด้วยซ้ำ



    “แล้วลื้อไม่เหนื่อยหรอ  ที่ต้องมานั่งทำตุ๊กตาหลายๆตัว ทั้งที่ก็ไม่แน่ใจว่าฝนมันจะตกจริงหรือเปล่า”  ม่าม๊าถามกลับพร้อมกับรอยยิ้ม   



    “ไม่เหนื่อยหรอก  อั๊วะมีพี่ชายอยู่คนเดียวแถมทึ่มอีก  ก็อยากให้เขามีความสุขบ้าง  อั๊วะเต็มใจถึงมันจะไม่ได้ผลก็ตาม”



    “อั๊วะก็เหมือนลื้อนั่นแหละ”  สองแม่ลูกส่งยิ้มให้กันอย่างเข้าใจความคิดของอีกฝ่าย



    “ฟู่..ฟู่..ก็..อยาก..ช่วย..เหมือน..กัน..อ่า”  ตี๋เล็กไหลตัวลงจากเตียงนอนมานั่งตรงกลางระหว่างพี่สาวกับม่าม๊าตัวเอง



    “ฟู่ฟู่ก็อยากช่วยเฮียเหมือนกันหรอลูกชาย”  ม่าม๊าถามเสียงใส  ตี๋น้อยพยักหน้าหงึกหงัก  มองดูว่ามีอะไรที่ตนเองพอจะทำได้บ้าง


    “เดี๋ยวเอาไว้เจ้กับม๊าทำเสร็จ ฟู่ฟู่ช่วยหนีบตุ๊กตากับราวแขวนผ้าล่ะกันนะ  โอเคไหม”  อาหลิงบอกน้องชาย  ฟู่ฟู่ยิ้มรับตาหยีพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว



    “งั้น..เจ้หลิง..กับ..ม่าม๊า..ทำ..ไว..ไว..นะ”   ฟู่ฟู่อยากติดตุ๊กตาจะแย่แล้ว   ฟู่ฟู่อยากบอกแบบนี้แต่ประโยคมันยาวเกินไป  กว่าจะพูดจนเสร็จม่าม๊ากับเจ้หลิงคงทำไม่เสร็จพอดี



    “โอเคจ้า”   ทั้งสามคนตกลงกันได้ก็รีบลงมือทำ  มัดจนได้ตัวตุ๊กตา 20 กว่าตัวก็จับใส่ตะกร้าเดินไประเบียงหลังบ้านก่อนที่ม่าม๊าจะอุ้มฟู่ฟู่ไว้บนแขน  อาหลิงยืนถือตะกร้าอยู่ข้างๆคอยส่งตุ๊กตาให้น้องชายจับหนีบกลับหัวกับราวตากผ้า   ฟู่ฟู่ตั้งใจทำหน้าที่นี้เป็นอย่างมาก  แถมยังหนีบเร็วเสียอีกเพราะกลัวว่าถ้าหนีบช้าเดี๋ยวเฮียกับพี่สโนว์จะกลับไปซะก่อนที่เทพเจ้าจะเห็นว่าพวกเขากำลังเรียกฝนอยู่


    “เสร็จแย้ว!” เมื่อหนีบตัวสุดท้ายเสร็จ ฟู่ฟู่ชูแขนดีใจใหญ่  อาหลิงรีบปรบมือชื่นชมน้องชายคนเล็ก



    “มาๆเรามาช่วยกันอธิษฐานอีกแรงเถอะ  เพื่อจะได้ผลไวๆ”  ม่าม๊าวางฟู่ฟู่ลงกับพื้น  ก่อนจะพากันยืนกุมมือทั้งสองข้างยกเหนือหัว



    “ขอให้ฝนตก  ขอให้ฝนตก ขอให้ฝนตก”   ทั้งสามพูดพร้อมกัน  ยังไม่ทันได้เอามือลงเม็ดฝนก็ลงเปาะแปะบนหัวก่อนจะเริ่มตกหนักขึ้น



    “ม๊า  ฝนตกจริงๆด้วย!”  อาหลิงกรี้ดกร๊าดแต่ก็ต้องรีบเอาหุบปากเพราะกลัวเสียงจะดังไปด้านล่าง   



    “เย้ๆๆๆ”  ฟู่ฟู่กระโดดกอดขาม๊า  ร้องดีใจ  ม่าม๊าเองก็ยิ้มหน้าบาน   



    ขอบคุณเทพเจ้าที่เห็นใจลูกชายจอมทึ่มของอั๊วะ!







    “อาหลิง”



    “คะม๊า?”



    “เที่ยงคืนลื้อออกมากลับหัวตุ๊กตาด้วยล่ะ  เดี๋ยวจะตกถึงเช้าจะแย่ซะ”



    “โอเคค่า”









----------------
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ  :pig4:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด บ้านนี้น่ารักสุดๆ มีการใช้ไสยศาสตร์อีกต่างหาก ทุ่มสุดๆ
หลงรักไปแล้วน้าาาาา
 :really2: :really2: :really2:

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
บ้านนี้น่ารักสุดๆเลยอ่า ช่วยเฮียกันใหญ่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Nekosama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
บ้านนี้รู้งานมาก 5555555 รู้ว่าควรทำยังไงให้ได้สะใภ้เข้าบ้าน 5555555555

ออฟไลน์ Indy555

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
น้องฟู่น่ารัก
ชอบพาร์ท เรื่องที่คนโง่ไม่เคยรู้ แสดงให้เห็นเลยว่าครอบครัวของอันโทนิโอ้น่ารักมาก

ออฟไลน์ candleguard

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1
ยอดเยี่ยมไปเลยค่ะ!!!เราหลงรักเรื่องนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ>< โอ้ยยย ขำมากเลยอ่ะ ชอบความเเกล้งตุ๊ดมากๆ อ่านเเล้วนึกถึงที่บ้านเลยค่ะ ไหว้เหมือนกันเลย มาต่อเร็วๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ คิดได้ยังไงฮาเเทบทุกบรรทัด เกินทานทนอ่ะค่ะ กร๊ากกก

ต่อนะๆ ได้โปรดเถอะ ชอบมากกกกกกกกก

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
นี่แหละครอบครัวในฝันที่อยากได้   :m1:

ออฟไลน์ StarPasO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นครอบครัวที่น่ารักมากๆ เห็นด่าๆกันแต่ก็รักกันสุดๆ แถมโชคยังเข้าข้างอาอันโทนีโอ้ ฝนตกจริงอีก  :laugh:

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
EP.6




   “เดี๋ยวเรานอนค้างที่นี่ก็ได้”






   “แต่เราขอนอนห้องเดียวกับโอ้เอ้นะ  เรา...กลัวผีน่ะ”











   หลังจากได้ยินประโยคนั้นจากปากสโนว์หัวสมองผมมันก็โล่งโปร่งไปหมด   ตอนนี้ก็กำลังเดินงงๆโง่ๆกลับเข้ามาในบ้านโดยมีสโนว์เดินตามหลังมา



   “อ้าวววว  นี่เฮียยังไม่ได้ไปส่งพี่สโนว์อีกหรอ”  อาหลิงที่เดินลงบันไดมาทำหน้าตกใจ ทั้งที่กำลังอุ้มอาฟู่ลงมาด้วย


   “นั่นซี  อั๊วะคิดว่าลื้อพาอาสโนว์ไปส่งแล้วซะอีก”  ม๊าทำหน้าแบบ ตกใจสุดๆเอามือปิดปาก  แต่ไม่รู้ว่าผ้าเช็ดหน้าของประจำกายหายไปไหนแล้วถึงได้เหลือแต่มือเปล่า   


   “...”  ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ  บอกตรงๆแมนๆว่ายังช็อคอยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมาขอนอนด้วยแบบสองต่อสอง  ไม่ใช่นอนรวมกันเป็นกลุ่มเหมือนตอนอยู่กับเพื่อน



   “คือฝนมันตกหนักมากเลยครับ ป๊าไม่อยากให้ขับรถกลับกลัวอันตราย....ผมเลยจะขอค้างที่นี่สักคืน”   หลังสโนว์ตอบเสร็จม๊ากับอาหลิงก็พยักหน้าช้าๆ

   “ได้ซีอาสโนว์  บ้านม๊าห้องว่างเยอะแยะลื้อเลือกเอาได้เลยว่าอยากนอนห้องไหน  ห้องข้างๆอาอันโทนิโอ้ก็ว่างน๊า”  ม๊ารีบนำเสนอตัวเลือกให้กับสโนว์ใหญ่  อาหลิงก็ยิ้มแป้น



   “หรือจะห้องข้างหลิงก็ได้นะคะพี่สโนว์  อิอิ  โอ๊ย!  ม๊าอ่ะ เขกหัวอั๊วะทำไม ถ้าคืนนี้อั๊วะฉี่รดที่นอนทำไง”  อาหลิงหน้าบึ้งเอามือลูบหัวตัวเองปอยๆ   ผมเองก็นึกขอบคุณม๊าเหลือเกินที่เขกหัวน้องทรยศให้   คิดจะตีท้ายครัวอั๊วะมันเร็วไปร้อยปีโว้ยยย


   “ก็ลื้อพูดจาน่าเกลียดนี่อาหลิง  เป็นสาวเป็นนาง  อย่าให้ม๊าได้อีกนะจะโดนตีมากกว่านี้อีก”  ถ้าอาหลิงพูดแค่นี้ม๊ายังเขกหัวแทบแตก  แล้วถ้าม๊าได้ยินประโยคตอนอาหลิงกรี้ดอปป้าว่าเป็นสามีประมาณพันคนนี่ไม่ไล่ออกจากเลยหรือไงกัน ผมได้แต่สงสัยแต่ก็ไม่กล้าบอก  กลัวบ้านแตก -*-


   “ม๊า..อย่า..ทำ..เจ้..หลิง”   อาฟู่เบะปากตาแดงเตรียมแสดงโอเปร่าเอ้าร์  ม๊าก็ได้แต่รีบไปปลอบว่าทำไปเพราะหวังดีไม่อยากให้ใครมองอาหลิงเป็นผู้หญิงใจง่าย  ส่วนอาหลิงก็รีบบอกว่าม๊าไม่ได้เขกเจ็บเลยสักนิด  ด้วยกลัวน้องชายจะร้องไห้




   “คือผมจะนอนห้องเดียวกับโอ้เอ้น่ะครับ”



   “อ่อๆ..ห้องเดียวกัน...ห๊ะ!!!!”  ทั้งม๊าทั้งอาหลิงหันมาร้องตกใจอย่างพร้อมเพรียง  เนี้ยะอารมณ์เดียวกับผมตอนได้ยินเลย  เหมือนกันเปี๊ยบ  สโนว์เองก็สะดุ้งกับเสียงของทั้งคู่นิดๆ  ไม่เว้นแม้แต่นังเซ่นไหว้ที่หันขวับมามองแบบสายตาอาฆาตมากกกก



   “ท..ทำไม หรือครับ  หรือว่าผมนอนไม่ได้..”  สโนว์ทำตาปริบๆ  ม๊ากับอาหลิงก็ตั้งสติกันใหม่



   “ได้..ได้ซี  ทำไมจะไม่ได้เล่าอาสโนว์  ม๊าบอกลื้อแล้วไงว่าทำตัวตามสบายเหมือนที่นี้เป็นบ้านอีกหลังของลื้อได้เลย” 



   “ใช่ๆพี่สโนว์  นอนกับเจ้โอ้ได้ตามสบายเลย  ไม่ต้องเกรงใจใช่ไหมเจ้”  อาหลิงหันมาถามด้วยสีหน้าโคตรแฮปปี้พร้อมไอสีม่วงพาสเทลฟุ้งอยู่รอบตัว


   “ใช่จ๊ะ  แหะๆ  ตามสบายเลย....แต่ขอเราขึ้นไปเก็บห้องแป๊บนึงนะ  แบบว่ารกมากเลยฝาผนังมีแต่รูปผู้ชายใส่ชุดว่ายน้ำอาห์  โฮะๆๆๆ อ๊ายยยอาย”  ผมพยายามยิ้มให้ดูปกติที่สุดทั้ง
ที่โคตรจะไม่ปกติ  ก็ในห้องผมมีแต่รูปสโนว์ไง  อาจไม่ได้เต็มห้องแต่ก็มีหลายสิบรูปที่แปะไว้บนผนังหัวนอน  ไหนจะหนังสือเพาะกล้ามอีกหลายเล่ม หนังสือคู่มือจีบคนที่ผมซื้อมาศึกษา  ซีดีซีรีย์เกย์ที่เก็บสะสมไว้ศึกษาอีกหลายเรื่อง  ผมต้องขึ้นไปจัดการก่อนที่สโนว์จะเห็นให้ได้!


   “ได้สิ  งั้นถ้าเก็บเสร็จเรียกเรานะ  หรืออยากให้เราไปช่วยเก็บไหมโอ้เอ้”



   “ไม่ๆๆ..ไม่เป็นไรเลยแก  เราเก็บเองดีกว่าแบบของรักของหวงมากอ่ะ  นั่งเล่นข้างล่างไปก่อนนะจ๊ะ” 



   “อ้าว  ตกลงพวกลื้อไม่กลับกันแล้วใช่ไหม”  อาม่าที่ถือกล่องใส่ปีกเป็ดตุ๋นออกมาจากครัวถามขึ้น  สว์ก็หันไปยิ้มและตอบก่อนจะถูกอาม่าเรียกให้ไปช่วยกันห่อเกี๊ยวทั้งม๊า อาหลิง และสโนว์  ส่วนอาฟู่ไปนั่งดูเฉยๆครับ   แล้วผมก็รีบสาวเท้าขึ้นมาชั้น 4 อย่างรวดเร็วปานคิดว่าตัวเองเป็นเดอะแฟลช  โดยมีนังเซ่นไหว้กระโดดขึ้นบันไดตามมา   ผมรีบดึงรูปสโนว์ที่แปะไว้ที่ผนังด้วยกาวสองหน้าออกอย่างรวดเร็วเก็บใส่กล่องจนเกลี้ยง   ส่วนพวกหนังสือต่างๆผมก็เก็บยัดๆใส่ลังให้หมดแล้วยกไปไว้ห้องอื่นแทน


   “เมี๊ยว!”  นั่งเซ่นที่ประทับอยู่บนที่นอนร้องขู่สายตาหันไปมองที่โต๊ะเขียนหนังสือที่มีรูปสโนว์ใส่กรอบเล็กๆวางไว้อยู่



   “ขอบใจเอ็งมากที่เตือน  เดี๋ยวซื้อขนมแมวให้นะ”  ผมลูบหัวมันอย่างเอ็นดูถึงแม้นังเซ่นไหว้จะทำหน้าเบื่อโลกหรือเบื่อเจ้านายโง่ๆอย่างผมที่ต้องคอยให้มันเตือนก็ไม่รู้  เหอๆ 

   ตรวจดูจนเรียบร้อยว่าไม่เหลืออะไรให้น่าสงสัยผมก็เปิดประตูเตรียมเดินกลับลงไปแต่ก็เจออาหลิงที่เดินขึ้นมาซะก่อน


   “มาทำไมอาหลิง  อั๊วะจะลงไปข้างล่างแล้ว”



   “ก็เอาพวกเครื่องสำอางมาให้เฮียอ่ะดิ”



   “เอามาเพื่อ?”



   “ทึ่มจริงๆให้ตายเถอะ   ก็เอามาให้เฮียวางไว้ในห้องไง  ตุ๊ดอะไรไม่มีเครื่องสำอางสักชิ้นในห้องมันไม่แปลกๆหรอเฮีย  คิดสิคิดดดด”  อาหลิงเอานิ้วชี้จิ้มหัวตัวเองรัวๆ  ผมก็เลยเข้าใจ



   “เออๆ  ขอบใจมากน้องรัก”   (แต่จะรักกว่านี้ถ้าลื้อไม่คิดตีท้ายครัวอั๊วะ)   ผมรับถุงเครื่องสำอางจากอาหลิงมาแล้ววางเรียงไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือนั่นแหละครับเพราะห้องผมไม่มีโต๊ะเครื่องแป้ง   ส่วนอาหลิงก็เอาสายพู่ที่เขาเอาไว้ประดับวันคริสมาสหรือปีใหม่ไปติดห้อยไว้รอบบานกระจกส่องตัวเพิ่มความแซ่บเข้าไปอีก  โคตรรอบคอบเลยน้องผม



   “แล้วนี่เฮียจะนอนบนเตียงเดียวกันหรือจะนอนกับพื้นอ่ะ”   อาหลิงถามอย่างสนอกสนใจ ถ้าให้พูดตามประสาชาวบ้านก็เสือกนั่นเอง - -


   “ก็คงให้สโนว์นอนบนเตียง ส่วนอั๊วะนอนพื้นนั่นแหละ  เตียงอั๊วะมันเตียงเดี่ยวขืนนอนบนนั้นก็เบียดกันตายเลยดิ”   แม้ผมโคตรจะอยากนอนเบียดมากก็เถอะ!


   “อืมๆ   ดีแล้วครั้งแรกต้องแสดงความเป็นสุภาพบุรุษไปก่อนเนาะเขาจะได้ประทับใจ และก็ไว้ใจ  จะได้มานอนค้างกับเฮียบ่อยๆไง~” อาหลิงทำหน้าเพ้อฝันตาเป็นรูปหัวใจอีกแล้ว


   “รู้น่า  ไปๆลงไปข้างล่างกัน  ห่อเกี๊ยวกันเสร็จหรือยัง”  ผมกอดคอยัยน้องสาวขี้มโนพากันเดินออกจากห้องโดยมีนังเซ่นไหว้เดินตามมา


   “เสร็จเรียบร้อยแล้ว  พี่สโนว์ห่อได้สวยงามมาก  เหมาะเป็นสะใภ้บ้านนี้สุดๆ   เฮียต้องจับพี่เขาให้ได้นะ! ต้องจับให้นะเฮีย”   อาหลิงย้ำสีหน้าเหมือนตัวโกงในละครน้ำเน่าที่ชอบดูกันไม่มีผิด  มีอย่างที่ไหนบอกให้พี่ชายตัวเองจับผู้ชาย!



   “เออ  อดใจหน่อยโว้ย  คู่กันแล้วคงไม่แคล้วกัน”  ผมตอบยิ้มๆแต่ในใจก็ดันไปนึกว่าหากวันนึงที่สโนว์รู้ว่าผมเป็นผู้ชายเต็มตัวเขาจะยังอยากอยู่ใกล้ผมต่อหรือเปล่า...ผมเองยังไม่แน่ใจเลย       





   “สโนว์ เราจัดห้องเสร็จแล้วนะจ๊ะ  จะขึ้นไปเลยไหม เราเตรียมพวกเสื้อผ้า ผ้าขนหนูให้แล้วด้วย”  ผมเดินลงมาด้านล่างก็เห็นคนในครอบครัวทุกคนรวมถึงสโนว์นั่งคุยกันคึกครื้น  ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรกัน สโนว์ถึงได้ยิ้มหวาน ส่วนอาม่าและอาม๊าหัวเราะจนน้ำลายพุ่งเป็นฝอย....โชคดีนะที่นั่งห่างๆกันไม่งั้นคงได้แลกน้ำลายกันเป็นแน่แท้ - -


   “มาพอดีเลย  อั๊วะกำลังแอบนินทาลื้อให้อาสโนว์ฟังมันส์ๆเลยเชียว โฮะๆๆๆ”  ม๊าหัวเราะเสียงดัง  แต่ก็ยกมือมาบังปากประนึงนางงิ้วเหมือนเคย  แต่ไม่รู้ว่าผ้าเช็ดหน้าไอเท็มติดตัวหายไปไหนแล้ว


   “อะไรอ่ะม๊า ม๊านินทาอะไรอั๊วะหรอ”  ผมบีบเสียงแหลมเล็กทำท่าฟึดฟัดดัดจริตไปด้วย  แม้จะสงสัยว่าม๊าเม้าท์อะไรผมให้น่าอายหรือเปล่า


   “บอกลื้อก็ไม่เรียกว่านินทาซี้วะ ไม่บอกหรอก เนอะ อาสโนว์เนอะ”  ม๊าหันไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับสโนว์และอาม่ายิ่งทำให้ผมกับอาหลิงงงกันไป  หันไปมองป๊าที่นั่งอยู่ก็ทำหน้าเฉไฉไม่รู้ไม่สนใส่อีกซะงั้น  ส่วนอาฟู่ยิ่งแล้วใหญ่นอนหลับอุตุบนเก้าอี้ไปเรียบร้อย


   “งั้นเดี๋ยวผมขอตัวขึ้นไปอาบน้ำนอนก่อนนะครับทุกคน”  สโนว์ขอตัว ซึ่งก็ถึงเวลาที่ควรนอนแล้วจริงๆ


   “ไปเถอะๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้ามืดน้าอาสโนว์ รีบนอนพักผ่อนซะ”  อาม่ายิ้มตาหยีให้


   “ใช่ๆ รีบขึ้นห้องนอนกันเถอะ  ขอบใจลื้อมากน้าอาสโนว์ที่มาช่วยห่อเกี๊ยว ปีนี้ม๊ากับอาม่าเลยสบายไม่ต้องทนกลืนเกี๊ยวหน้าตาพิลึกของอาอันโทนิโอ้เขาแล้ว”  แหมๆๆๆ นี่ม๊าเขาได้ลูกใหม่แล้วใช่ไหมครับ เหอะ


   “งั้นผมขอตัวนะครับ”  สโนว์พูดลาอีกทีก็เดินตามผมขึ้นบันไดเตรียมเข้าห้องหอสวรรค์ชั้น 4 ทันที ฮ่าๆๆๆๆ โคตรฟิลเข้าหอสุดๆ อันโทนิโอ้ตื่นเต้นระริกระรี้ไปหมดแล้ว คืนนี้จะได้นอนด้วยกันแล้วโว๊ยยยยย






   “เมี๊ยววววว”   เฮ้ย เสียงนี้มันหมายความว่า...


   “เมี๊ยวววววววววววว”   อย่านะเว้ย...อย่า...นะ...



   “มาเรียฟิเซ่นนนน ̴  คืนนี้มานอนเป็นเพื่อนเรากับโอ้เอ้ไหม ̴”



   “เมี๊ยวววววววววววว”   พอสโนว์พูดแบบนั้น นังเซ่นไหว้ที่ทำตากลมเป็นลูกลำไยใสซื่อส่งเสียงออดอ้อนก็รีบพุ่งไปในอ้อมกอดของสโนว์คนชอบแมวทันที



   T^T   ฮืออออออออ วิวาห์ล่มสิครับคืนนี้



   นังเซ่นไหววววววววววววว้



   ฝากไว้ก่อนเถอะ!!!



          :angry2: :angry2: :angry2:








---------------------------------------------------------------------------------------------

มาอัพสั้นๆให้ก่อนนะคะ แก้คิดถึงกัน

ตอนแรกคิดว่าแต่งให้ครบ 100% ค่อยมาลงดีกว่าเพราะงานเรายุ่งมาก เหนื่อยมากด้วย :ling3: แทบไม่มีเวลาแต่ง

และก็ลากยาวมาเป็นเดือนกว่าซะงั้น  เลยคิดว่าอัพลงสักนิดก่อนดีกว่าเดี๋ยวไรท์เตอร์จะลืมกันไปซะก่อน 555+



ขอบคุณทุกคอมเมนต์นะคะ ดีใจมากๆๆๆๆที่ชอบกัน ชื่นใจที่สุด จะพยายามหาเวลามาแต่งต่อน้า
 

 :กอด1:


(ที่หายไปเพราะเราย้ายที่พัก ย้ายงาน เริ่มงานใหม่ที่เหนื่อยมากจริงๆ เช้าตรู่ยันเที่ยงคืนแทบทุกวัน เลยไม่มีเวลาแต่งต่อเท่าไหร่ T T)



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2018 09:39:22 โดย Monkey D »

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ขอบคุณที่พานังเซ่นไหว้มาทักทายน้าาา
รักษาสุขภาพด้วยละ ดูแลตัวเองด้วยน้าา
 :L2: :L2:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เซ่นไหว้ คิดถึงงงงงงงงงงงงจังเลยยยยยยยยยยยยยยย  :จุ๊บๆ:

ออฟไลน์ poonbabor

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เจ้าเซ่นไหว้ตัวแสบบ อิอิ แกล้งโอ้เอ้แบบนี้ไม่ได้นะ ฝันของโอ้เอ้ล่มหมดด 5555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด