ภุชงค์เล่นแสง ๐๘
"ลูกพระองค์กี่คนๆ ก็ไปผิดผีกันที่น้ำตกท้ายวังหลวง มันน่าปิดทิ้งเสียนี่กระไร ถึงขนาดให้คนไปสร้างกระท่อม หม่อมฉันว่ามิใช่เพียงแค่หลบฝนกระมังพระเจ้าค่ะ"เจ้าชมนาดตรัส พลางสะบัดพัดเร็วๆ คลายความร้อนอกร้อนใจ
"โถ่ เจ้าชมนาด ใจเย็นก่อนหนาน้อง"
"จักเย็นได้อย่างไรพระเจ้าค่ะ เจ้าภุชงค์ล่วงเกินเจ้าแสงทั้งๆ ที่ยังมิได้ตบแต่งเช่นนี้ จักให้น้องเย็นได้อย่างไร"
"เจ้าแสงจักได้ปลงใจตบแต่งกับลูกเราเร็วๆ อย่างไรเล่าเจ้า"
"เสด็จพี่ ทรงว่าเช่นนั้นได้อย่างไรพระเจ้าค่ะ"ค้อนพระภัสดาตาเขียว
"ใจเย็นๆ ก่อนหนาคนดี...อุ่นๆ"โอบร่างน้อยแนบอุระ เอาอกเอาใจ
"เพคะ ฝ่าบาท"
"ไปห้องเครื่องนำพระกายาหารว่างถวายพระชายาทีเถิด"
"เพคะ ฝ่าบาท"
"ใจเย็นก่อนหนาเจ้า"
"..."
.
.
.
วันรุ่งขึ้น เมื่อฟ้าสว่างดีแล้ว ขบวนเสด็จของเจ้านายจากภุมริกาก็เคลื่อนออกจากวังหลวงภุมริกา มีปลายทางที่วังหลวงศศิมณฑล องค์ภุมริน แลพระชายาชมนาดทรงประทับบนเกี้ยวตัวใหญ่ ถัดมาจึงเป็นเกี้ยวขององค์รัชทายาทภุชงค์ ปิดท้ายขบวนด้วยเกี้ยวของเจ้าน้อยแสงแรก บ่าวคนสนิททั้งสองของเจ้าแสงก็อยู่ในเกี้ยวกับคนเป็นนาย ยี่สุ่น แลชงโคนั่งปรนนิบัติคนเป็นนายแทบพระบาทขาว เจ้าน้อยทรงจับไข้ตั้งแต่กลับมาจากประพาสน้ำตกกับองค์รัชทายาท เพลาจักนั่ง จักยืนก็ขัดยอกไปหมด หากแต่ทรงตรัสว่าเพียงแค่ครั่นเนื้อครั่นตัวเพราะพิษไข้
"ทรงใคร่อยากได้กระไรหรือไม่พระเจ้าค่ะเจ้าน้อย"ชงโคเอ่ยถามคนเป็นนายที่ประทับอิงหมอนขิด พลางบีบนวดปลีน่องเล็กคลายความเมื่อยขบให้ นัยน์เนตรงามหลับพริ้ม หัตถ์ข้างหนึ่งวางเท้าบนหมอนขิดสามเหลี่ยม อีกข้างยกยาหอมจ่อพระนาสิกพระองค์เอง
"หากมิสบายพระวรกาย ทรงรีบพวกหม่อมฉันเลยหนาพระเจ้าค่ะ"ยี่สุ่นว่าพลางสะบัดพัดจีนคลายร้อนให้คนเป็นนาย
"มิต้องกังวลไปดอก ข้ามิเป็นกระไร ขอบใจพวกเจ้ามากหนา"
"มิได้พระเจ้าค่ะ"
"มิได้พระเจ้าค่ะ"
"..."เจ้าแสงสรวลบางๆ ให้บ่าวคนสนิททั้งสอง ก่อนจักหลับเนตร แลเคลิ้มหลับไป
.
.
.
ขบวนเสด็จค่อยๆ หยุดลงก่อนที่พระวิสูตรในเกี้ยวของเจ้าแสงจักถูกเปิดออกด้วยพระหัตถ์ขององค์ภุชงค์ ทรงทอดพระเนตรน้องน้อยที่หลับซบพระเขนยแล้วสรวลบางๆ
"เจ้าบ่าวรัก ยม เจ้าสองคนไปพักเถิด ประเดี๋ยวข้าจักพาเจ้าแสงเข้ากระโจมเอง"ทรงตรัส ยี่สุ่น แลชงโคหน้างอเหตุใดไฉนเลยใครๆ ก็เรียกข้าสองคนว่ารัก ยม พวกข้าหาใช่รัก ยมไม่!!
"หากแต่..."
"ข้ามิใคร่ปลุกเจ้าแสง แลพวกเจ้าสองคนก็คงอุ้มเจ้าแสงไปที่กระโจมมิไหวดอกกระมัง"
"...พระเจ้าค่ะ"ตอบเสียงอ่อย
"พระเจ้าค่ะ"หมอบกราบองค์รัชทายาท แลหมอบคลานออกจากเกี้ยวไป
เมื่อบ่าวคนสนิททั้งสองของน้องน้อยออกไปจากเกี้ยวแล้ว องค์ภุชงค์ก็ผินพักตร์กลับไปให้ความสนพระทัยกับคู่หมายที่หลับพริ้มมิรู้เรื่อง รู้ราว องคุลียาวไล้แผ่วเบาไปตามปรางเนียนผ่อง ทรงช้อนร่างบางของเจ้าแสงขึ้นแนบพระอุระ ทรงอุ้มน้องน้อยไปส่งที่กระโจมที่พัก
"เจ้าสองคนไปเตรียมขนม น้ำชามาให้เจ้าแสงไป ประเดี๋ยวนายเจ้าตื่นขึ้นมาจักได้มีกระไรรองท้อง"
"เยี่ยงนั้นหม่อมฉันจักอยู่เฝ้าเจ้าน้อย แลให้ยี่สุ่นไปเตรียมพระกายาหารว่างให้เจ้าน้อยพระเจ้าค่ะ"
"พระเจ้าค่ะ หม่อมฉันจักไปเตรียมสำรับ แลให้ยี่สุ่นอย..."
"ไปทั้งคู่นั่นแล ข้าจักอยู่กับเจ้าแสงเอง"
"..."
"..."
"จักให้ข้าบอกเจ้าแสงหรือไม่ว่าเจ้าสองคนขัดคำสั่งข้า"
"ไปแล้วพระเจ้าค่ะ"
"พระเจ้าค่ะ"
ลับหลังบ่าวทั้งสององค์ภุชงค์ก็วางน้องลงบนพระยี่ภู่บนแคร่ที่ใช้แทนพระแท่นบรรทม คลี่ผ้าคลุมพระองค์ห่มให้ หากแต่เจ้าแสงกลับขยับกาย แลลืมเนตรขึ้น
"พี่ทำเจ้าตื่นหรือเจ้าแสง"ตรัสพระสุรเสียงอ่อน
"ฝ่าบาท ที่นี่..."
"ที่นี่กระโจมที่พัก พี่อุ้มเจ้าลงมาจากเกี้ยว"
"ตายจริง เหตุใดจึงมิปลุกหม่อมฉันเล่าพระเจ้าค่ะ"
"หึหึหึ มิเป็นไรดอก แลเป็นเยี่ยงไรบ้าง หืม ยังเจ็บยังปวดที่ใดอยู่อีกหรือไม่ บอกพี่เถิด"
"มิเจ็บ มิปวดแล้วพระเจ้าค่ะ มีเพียงอาการเคล็ดขัดยอกเล็กน้อยเท่านั้น"เจ้าแสงตรัสแล้วขยับเศียรจากพระเขนย ไปซบลงบนพระเพลาองค์ภุชงค์
"หึหึหึ อ้อนเยี่ยงนี้จักเอากระไรเจ้า"ทรงลูบเกศาเจ้าแสงอย่างเอ็นดู หลังจากที่มีกระไรกันที่น้ำตกคืนก่อนเจ้าแสงก็ดูเปิดพระทัยให้องค์ภุชงค์ แลออดอ้อนราวคนละคน หากแต่ก็เป็นเพียงแค่ตอนอยู่ด้วยกันสองคนเท่านั้น ต่อหน้าคนอื่นเจ้าแสงก็วางตัวราวเช่นแต่ก่อน
"หามิได้พระเจ้าค่ะ"
"..."ทรงแย้มสรวล แลโน้มพักตร์ลงแตะพระนาสิกกับปรางเจ้าแสงแรก ทรงตกหลุมรักเจ้าแสงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถอนพระองค์มิขึ้นแล้ว
.
.
.
เมื่อบ่าวทั้งสองกลับมาที่กระโจม องค์ภุชงค์จึงได้เสด็จไปทรงพักผ่อนที่กระโจมของพระองค์ เจ้าแสงเสวยพระกายาหารว่างที่บ่าวทั้งสองนำมาถวาย นั่งคุยเล่นกับบ่าวคนสนิทได้ครู่ใหญ่ บ่าวทั้งสองจึงได้ทูลขอให้ไปสรงน้ำก่อนที่จักมืดค่ำเสียก่อน
"เจ้าน้อย พระเจ้าค่ะ"
"หืม"
"ทรงไปสรงน้ำกันก่อนดีหรือไม่พระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวจักค่ำมืดเสียก่อน"ยี่สุ่นว่า
"ก็ได้เจ้า"เจ้าแสงพยักพักตร์เห็นด้วย
หนึ่งนาย สองบ่าวผลัดผ้านุ่งเอาผ้าคลุมไหล่พันกายมิดชิด ก่อนจักพากันไปที่ลำธารด้านหลังกระโจม ยี่สุ่น แลชงโคถือตะเกียงคนละดวงขนาบข้างเจ้าแสงไปตามทาง บ่าวทั้งสองคนช่วยกันขึงผ้ากับต้นไม้บดบังนายตนจากสายตาผู้อื่นเช่นที่เคยทำ
“...”เจ้าแสงปลดผ้าคลุมไหล่ออกเผยให้เห็นลาดไหล่เนียน บ่าวทั้งสองก็เช่นกัน ทั้งสามพากันลงน้ำ ยี่สุ่น แลชงโคช่วยกันถูล้างคราบไคลตามพระวรกายขาว อีกทั้งยังใช้ผลมะกรูดสางพระเกศาให้สะอาดหมดจด ปรนนิบัติคนเป็นนายก่อนจึงจักค่อยจัดการตนเอง
ป๊อก
เปลือกลูกไม้ถูกปามาโดนอังสาบางของเจ้าน้อยการเวก ในตอนที่บ่าวทั้งสองละสายตาจากผู้เป็นนาย ผู้ใดกันช่างบังอาจ เจ้าแสงกวาดเนตรมอง ก่อนจักเห็นพระวรกายสูงใหญ่คุ้นตาหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่มิไกลจากริมลำธาร จึงได้ผินพักตร์กลับมาแสร้งทำมิรู้มิชี้
“ข้าอาบแล้วแล้ว จักขึ้นไปรอตรงโขดหินตรงนั้น พวกเจ้าก็รีบอาบเถิด ประเดี๋ยวจักป่วยไข้เอา”เจ้าแสงตรัสพลางกระชับผ้านุ่งมัดปมให้แน่น พระวรกายบางขึ้นจากน้ำ
“เจ้าน้อยจักขึ้นแล้วหรือพระเจ้าค่ะ”
“อื้ม”
“พระเจ้าค่ะ”ยี่สุ่น แลชงโครับคำ แลรีบจัดการกับตนเอง เจ้าแสงเห็นดังนั้นก็รีบสาวเท้าไปที่หลังต้นไม้ใหญ่ที่ว่า เมื่อเข้าไปใกล้ก็ถูกพระกรแกร่งรวบกายเข้าไปกอด
"ฝ่าบาท"เจ้าแสงพลิกกายไปประจันหน้ากับผู้บุกรุก องค์ภุชงค์เปลือยท่อนบนเผยพระอุระกว้าง ทรงนุ่งเพียงผ้าโจงสีดำเขม่า
"อาบน้ำแล้วหรือเจ้า หอมนัก"
"..."เจ้าแสงก้มพักตร์เอียงอาย
"ขอพี่จูบ ขอพี่หอมให้ชื่นใจหน่อยได้หรือไม่เจ้า"ตรัส หากแต่มิรอฟังคำตอบ ทรงกดพระโอษฐ์อุ่นลงบนลาดอังสะเย็น แตะไล้ไปจนถึงซอกศอขาว
"อื้อ ฝ่าบาท"เจ้าแสงผวาเกาะพระอุระแน่น นชาเล็กจิกลงบนฉวีขาวจนเกิดรอยนชาเล็กๆ พักตร์งามเงยเชิดให้อีกคนพรมจูบได้ถนัดถนี่ขึ้น
"อื้ม"พระโอษฐ์อุ่นเบียดแนบกับกลีบโอษฐ์นิ่ม เคล้าคลึงหยอกเย้าปลายชิวหา หัตถ์ใหญ่ประคองพักตร์งามให้เอียงรับจูบหวานๆ จากพระองค์
"อึก อื้อ"เจ้าแสงยกกรโอฐรอบพระศอองค์ภุชงค์ ในขณะที่องค์ภุชงค์กกกอดรอบกฤษฎีบางผ่านผ้านุ่งเปียกชื้น หากแต่ก็ชื่นใจกันได้มินานเจ้าบ่าวรัก ยมก็อาบน้ำแล้วแล้ว
"เจ้าน้อย"
"เจ้าน้อย อยู่ที่ใดพระเจ้าค่ะ"
"เจ้าน้อย ทรงอยู่แถวนี้หรือไม่พระเจ้าค่ะ"
"เจ้าน้อยแสงแรก"
เสียงเรียกของบ่าวทั้งสองทำเอาเจ้านายทั้งสองผละออกจากกันราวกับต้องไฟ เจ้าแสงรีบผลักอุระกว้างออก หัตถ์เล็กสางเกศาตนให้เรียบร้อย ขยับผ้านุ่งให้เข้าที่เข้าทาง
"ฝ ฝ่าบาท หม่อมฉันต้องไปแล้วหนาพระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงตรัส
"จ้ะ ฟอดดด"มิวายโน้มพักตร์ไปหอมปรางนิ่มฟอดใหญ่
"อื้อ ฝ่าบาท"เจ้าแสงรีบผลักองค์ภุชงค์ให้หลบหลังต้นไม้ใหญ่ ก่อนจักออกไปหาบ่าวทั้งสอง
"ข ข้าอยู่นี่"
"ทรงไปทำกระไรตรงนั้นหรือพระเจ้าค่ะ"
"ข ข้า...ข้าก็เดินมาเรื่อยๆ มิมีกระไร"
"เยี่ยงนั้นกลับกระโจมกันเถิดพระเจา้ค่ะ ประเดี๋ยวไข้จักกลับ"
"จ้ะ รีบไปเถิด ข้าก็เริ่มหนาวแล้ว"เจ้าแสงตรัส แลเหลือบมองหลังต้นไม้ใหญ่ที่มีใครอีกคนหลบอยู่
"พระเจ้าค่ะ"ยี่สุ่นว่าก่อนจักเอาผ้าคลุมอังสะ คลุมอังสาให้คนเป็นนาย
.
.
.