"ตอนที่ 23/3"
ผมเดินกลับเข้าไปนั่งข้าง ๆ ปอนด์ และพยายามหาทางที่จะทำให้ตัวเองออกจากร้านอาหารไปโดยที่ไม่น่าเกลียดเกินไปนัก
จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจบอกปอนด์ว่า.......
“ปอนด์ เดี๋ยวเราขอตัวกลับก่อนนะ พอดีเมื่อคืนเราดูหนังสือจนดึกเลย
วันนี้เราเลยรู้สึกเพลียมากๆเลยอ่ะ”ผมพูดและพยายามทำสีหน้าให้ดูเหมือนคนกำลังเพลียสุด ๆ
“อ้าวหรอ ว้า....เพิ่งมาเอง ถ้างั้นเดี๋ยวเราไปส่งนะ”ปอนด์หันกลับมาพูดกับผมพลางทำท่าจะลุกขึ้นจนผมรีบห้ามเอาไว้
“ไม่ต้องหรอก ปอนด์สนุกกับเพื่อนๆต่อเหอะ ปอนด์เพิ่งจะมาเอง เราเกรงใจน่ะ เราต้องขอโทษทุกคนด้วยนะครับ
วันหลังค่อยเจอกันนะ”ผมรีบชิงตัดบทก่อนที่ปอนด์จะพูดอะไรต่อ “งั้นเราไปก่อนนะ บายครับทุกคน”
ผมยิ้มให้เพื่อน ๆ ของปอนด์ที่ตอนนี้เริ่มกรึ่ม ๆ ด้วยฤทธิ์เหล้าแล้ว
“งั้นเดี๋ยวให้เราเดินไปส่งนะ”ปอนด์พูดแล้วลุกขึ้นเดินออกไป ผมเลยเดินตามออกมา
ผมโบกมือลาปอนด์พร้อมเอ่ยคำขอโทษขณะขึ้นรถแท็กซี่ ซึ่งปอนด์ก็ไม่ได้ว่าอะไร
อาจจะเป็นเพราะเริ่มเมานิดหน่อยประกอบกับกำลังติดลมด้วยละมั้งเลยไม่ได้ว่าอะไร จากนั้นปอนด์ก็เดินกลับเข้าไปที่ร้าน
พอรถขับออกมาได้สักแป๊ปนึงผมก็รีบบอกคนขับรถแท็กซี่ว่าผมจะเปลี่ยนให้ไปส่งที่ เซ็นทรัลบางนาแทน ซึ่งคนขับรถก็พยักหน้ารับรู้.....
ผมโทรศัพท์หาแพทขณะที่รถขับมาใกล้จะถึงห้าง ว่าตอนนี้ผมกำลังเดินทางไปใกล้จะถึงที่ร้านแล้ว ซึ่งแพทก็บอกว่ากำลังรอผมอยู่พอดี
หลังจากนั้นสักพักนึงผมก็มาถึงร้านที่นัดกับแพทเอาไว้ ผมเดินเข้าไปหาแพทที่นั่งอยู่คนเดียวในร้านก็แปลกใจ.......
“อ้าวทำไมวันนี้มาคนเดียวล่ะ”ผมเอ่ยถามพลางล้มตัวลงนั่ง
“พวกตาลไปกันหมดแล้วล่ะ เนี่ยเราเลยมานั่งรอโยอยู่คนเดียว”แพทพูดพลางยิ้มให้ (ตาลคือเพื่อนในกลุ่มแพทครับ)
“อ้าวหรอ .... แล้วตกลงที่เรียกเรามามีอะไรหรอ”ผมถามด้วยความสงสัยและอดที่จะลุ้นไม่ได้
“รอเดี๋ยวก่อนนะ แป๊ปเดียว เราจะได้เคลียร์ทีเดียวเลย ไม่ต้องพูดหลายรอบ”แพทพูดเป็นปริศนา พลางชะเง้อมองออกไปด้านนอก
“นั่นไงมาแล้ว”แพทพูดแล้วชี้ไปด้านนอกร้าน ทำให้ผมมองตาม
“อ้าว.....บูมมาได้ไงอ่ะ”ผมพูดด้วยสีหน้าตกใจนิด ๆ พลางหันไปมองแพท
“พอดีแพทบอกเราว่ามีเรื่องจะคุยด้วยน่ะ เลยนัดให้เราออกมา โยมาได้ไงอ่ะ”บูมพูดด้วยสีหน้าตกใจไม่แพ้กัน
“แพทก็นัดเราออกมาเหมือนกัน เออ เรื่องที่ช่วยเราวันนั้นเราขอบใจมากนะ ถ้าไม่ได้บูมเราคงจะแย่ไปแล้ว ขอบใจมากจริง ๆ”ผมพูดยิ้ม ๆ เขินนิด ๆด้วย
“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้เอง แต่ทำไมโยไม่ระวังตัวเลยล่ะ ไม่ห่วงตัวเองก็น่าจะห่วงคนรอบข้างบ้างนะ ถ้าโยเป็นอะไรไปจริง ๆ
คนรอบข้างจะอยู่ยังไง”บูมพูดด้วยท่าทีเป็นห่วงจริง ๆ จนผมต้องแอบยิ้มอย่างมีความสุข
“เราขอโทษ พอดีวันนั้นเราไม่ค่อยสบายน่ะ เลยประมาทไปหน่อย ขี้เกียจไปเปิดไฟอ่ะ เลยเกิดเรื่องจนได้ ดีนะที่บูมมาช่วยได้ทัน”ผมตอบด้วยสีหน้าจ๋อย ๆ
แต่ก็แอบมีความสุขลึก ๆ ที่บูมเป็นห่วง
“แหม เป็นห่วงกันขนาดนี้ ยังจะเล่นตัวกันอีก”แพมพูดยิ้ม ๆ จนผมและบูมหันไปมอง
“เล่นตัวอะไรหรอ”ผมถามด้วยความสงสัย
“งั้นเราจะอธิบายให้ฟังเลยนะ เพราะถ้าปล่อยให้คนใจร้อนอย่างบูมพูดคงจะไม่ได้เรื่องแน่ ๆ มีแต่พังกับพังลูกเดียว”แพทพูดยิ้ม ๆ
พลางมองไปทางบูมซึ่งตอนนี้นั่งอยู่ข้าง ๆ แพทแล้ว
“ก็เรื่องที่ทำให้โยเข้าใจผิดน่ะ ที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเอาซะเลยนะ จริง ๆแล้วก็เพราะอีตาบูมเนี่ยแหละที่ผิด ที่เค้าจะแก้เผ็ดโยไง
เพราะตอนที่โยไปทำผมใหม่เปลี่ยนลุคน์โดยที่ไม่บอกเค้า แล้วยังมีคนเข้ามาจีบเยอะอีก เลยเกิดอาการหึงไง แถมยังอะไรนะ
ที่บูมบอกเราว่าแอบไปเจอโยนั่งคุยกับผู้ชายอีกคนท่าทางสนิทสนมกันมากๆด้วยน่ะ เลยยิ่งไปกันใหญ่
เรื่องมันก็แค่เนี่ยะแหละ กลายเป็นเรื่องใหญ่จนได้ ”แพทพูดยิ้ม ๆ
“แล้วคนที่เราเห็นเค้ากอดกันอยู่ที่ด้านหลังตึกล่ะ”ผมถามด้วยความสงสัย
“อ๋อ อาร์ทหรอ...คนนี้เรารับประกันได้ เค้าไม่มีอะไรหรอก จริง ๆ แล้วเป็นเพื่อนเก่ากันน่ะ เราก็รู้จักเค้านะ พอดีที่บ้านเค้าเกิดเรื่องไง
เค้าเลยเรียกบูมออกไปหา มันไม่มีอะไรจริง ๆ ไม่เชื่อถามบูมดูสิ”แพทพูดพลางเอาศอกกระแซะไปทางบูม
“อืมม... เค้าเป็นแค่เพื่อนเก่าเราแค่นั้นเอง พอดีวันนั้นพ่อแม่เค้าประสบอุบัติเหตุน่ะ เราเลยปลอบเค้าไปแค่นั้นเอง”บูมพูดพลางก้มหน้าไม่กล้าสบตาผม
“แล้วทำไมบูมไม่บอกเรา บูมรู้หรือเปล่าว่าเราคิดยังไง รู้สึกยังไง เสียใจแค่ไหนที่ตอนนั้นบูมทำสีหน้าแบบนั้นกับเรา บูมไม่เคยเข้าใจอะไรเลย
ไม่เคยเข้าใจจริง ๆ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด
“เรา เราขอโทษ เราแค่อยากจะแกล้งโยแค่นั้นเอง แต่พอเราเห็นว่าโยเดินออกมา เราก็เลยรีบวิ่งไปตาม
แต่เรากลับเห็นโยนั่งรถออกไปกับไอ้ผู้ชายคนนั้นแล้ว”บูมพูดด้วยสีหน้าและแววตาที่เจ็บปวด
“ผู้ชายคนนั้นเป็นแค่เพื่อนเรา ก็เพราะบูมนั้นแหละที่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย”
“เราขอโทษนะ ยกโทษให้เรานะ ได้ไหมโย”บูมพูดด้วยท่าทีสำนึกผิด
“งั้นเราไม่กวนแล้วนะ เรากลับละ เธอสองคนจะได้ปรับความเข้าใจกันซะที ฝากจ่ายเงินให้ด้วยนะ”แพทพูดพลางลุกขึ้นยืน
“ขอบใจนะแพท”บูมพูดพร้อม ๆ กับผม
“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้เอง โชคดีนะ บายจ๊ะ”แพทโบกมือลา พร้อมสะกิดไหล่บูม เบา ๆ “สู้ ๆ นะ” แล้วเดินออกไป
“นะได้ไหม ได้ไหมครับคนดี นะ นะ นะ เรามาดีกันนะ ....เรารักโยนะ รักมากด้วย เราทนไม่ได้ที่เห็นโยไปเดินกับคนอื่น นะ นะ
เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม ได้ไหมครับ”บูมพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนสุด ๆ จนผมเริ่มที่จะใจอ่อน
“ตกลงว่ายังไงครับ เราเป็นเหมือนเดิมได้ไหมโย นะ นะ ขอร้องล่ะ นะ นะครับ ”บูมยังคงอ้อนผมต่อโดยที่ไม่แคร์สายตาคนอื่นเลยอ่ะ (คนมองเยอะมาก ๆ)
“ขอเวลาเราคิดก่อนได้ป่ะ เราเริ่มไม่แน่ใจว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เราจะเป็นยังไง เราจะทนได้ไหม”
“เราสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ด้วยเกียรติขอลูกเสือสามัญเลยอ่ะ นะ นะ นะ”บูมพูดพลางยกมือขึ้นทำท่าแบบลูกเสือ
“อืมม ขอเราคิดก่อนนะ”ผมขำกับท่าทีของบูมในตอนนี้มาก ๆ เพราะบูมทำท่าเหมือนกับเด็กๆเลย แต่ผมก็ต้องแกล้งวางฟอร์มนิดนึง ไม่งั้นเดี๋ยวจะเหลิง
“โห คนเค้าอุตส่าห์ง้อแล้วนะ ใจร้ายว่ะคนเรา คนเค้าอุตส่าห์ช่วยชีวิตเอาไว้แท้ ๆ วันนั้นน่ะพอเราได้ยินว่าโยเกิดเรื่อง
เรากำลังนอนอยู่แทบจะกระโดดลงจากเตียงเลยนะ นะ นะ นะ ได้ป่ะ เรามาดีกันนะ นะครับ”บูมอ้อนผมอีก
“ก็ได้ ก็ได้ เฮ้อ.....จะยกให้สักครั้งนึง แต่ห้ามทำแบบนี้อีกแล้วนะ แล้วห้ามโกหกเราอีก ถ้าเราจับได้อีกละก็ เราจะไม่สนใจแล้วนะ”ผมพูดยิ้ม ๆ
“จริง ๆ นะ...ดีใจที่สุดเลยอ่ะ....ถ้าอย่างงั้นอย่างแรกเรา
ขอเราหอมให้หายคิดถึงหน่อยได้ป่ะ”บูมพูดแล้วลุกขึ้นมานั่งฝั่งเดียวกับผมพลางทำท่าจะจูบผมจนผมต้องรีบห้ามเอาไว้เพราะคนเริ่มมองมาเยอะแล้วอ่ะ
“จะบ้าหรอ คนตั้งเยอะ เดี๋ยวเค้าก็ว่าหรอก”ผมพูดพลางชี้ให้ดูคนใน ฟูจิ ซึ่งเริ่มเยอะแล้ว
“ไม่เห็นจะแคร์เลย เราจะจูบแฟนเรา ผิดตรงไหนอ่ะ”
“ไม่เอา.........”ผมดันหน้าบูมออกไป
“งั้นเดี๋ยวตอนขากลับบ้าน พอขึ้นรถปุ๊ปต้องให้เราหอมทีนึงนะ”บูมพูดด้วยสีหน้ายิ้มแบบเจ้าเล่ห์
“เรื่องอะไร.....”ผมทำท่าทีกวน ๆ กลับไป
“เดี๋ยวเหอะ จะหอมให้เข็ดเลย”ผมกัดฟันพูดด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ไม่สนใจ ไม่รู้ ไม่ให้”ผมแกล้งพูดยิ้ม ๆ พลางหันไปทางอื่น
“555 รอก่อนเถอะ เดี๋ยวรู้....งั้นเดี๋ยวเราเข้าห้องน้ำก่อนนะ จะได้กลับกันเลย จะได้.....ด้วย” บูมพูดด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์พลางเรียกพนักงานมาเก็บเงิน
แล้วเดินออกไปเข้าห้องน้ำ ผมได้แต่ส่ายหน้ายิ้ม ๆ
ผมนั่งรอบูมได้สักพักนึง มือถือของบูมก็ดังขึ้น ผมรอจนเสียงมันเงียบหายไปโดยที่ไม่ได้รับสาย แต่สักพักนึงเสียงมือถือก็ดังขึ้นอีก ผมจึงตัดสินใจกดรับแทน
“สวัสดีครับ พอดีบูมไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวให้เค้าโทรกลับนะครับ”ผมพูด
“.......................”เงียบครับไม่มีเสียงคนพูดเลยอ่ะ
“ฮัลโหล......ฮัลโหล”ผมย้ำอีกครั้งเพราะเห็นเงียบไป
“ครับ....นายเป็นใครน่ะ”เสียงผู้ชายจากปลายสายดังขึ้นมา
“ผมชื่อโยครับ เป็นเพื่อนของบูมครับ”ผมพูดกลับไป (ไม่กล้าบอกว่าเป็นแฟนเพราะผมไม่รู้ว่าเค้าเป็นใครอ่ะ)
“โย..........”เสียงชายคนนั้นดังขึ้นแล้วหยุดหายไป
“ครับ.....พอดีบูมไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวก็มาแล้ว จะให้บอกว่าใครโทรมาครับ”
“งั้นบอกบูมด้วยว่า อาร์ทโทรมา ตอนนี้เรากำลังนอนรอบูมอยู่ในห้องของบูมนะ”อาร์ทพูดทำให้ผมชะงัก คนๆ นี้ที่ทำให้ผมกับบูมทะเลาะกัน
แล้วเค้าไปนอนเล่นในห้องบูมได้ไงอ่ะ ผมได้แต่คิด
“ฮัลโหล.......”อาร์ทเรียกหลังจากเห็นผมนิ่งไปนาน
“ครับ เดี๋ยวเราจะบอกให้นะ”ผมพูดตะกุกตะกักนิดหน่อย
“เออ...โยยินดีที่ได้รู้จักนะ เราอาร์ทเป็นแฟนบูมนะ เห็นบูมเล่าเรื่องโยให้ฟังบ่อย ๆ”
อาร์ทพูดเน้นเสียงที่คำว่าแฟนจนผมรู้สึกงงมากว่าตกลงเค้าเป็นใครกันแน่ เพื่อนหรือว่าแฟน
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”ผมพูดอย่างเสียไม่ได้
“อืมม เนี่ยโย บอกให้บูมรีบ ๆ กลับมานะ บูมนี่แย่มาก ๆ นัดให้แฟนตัวเองมารอในห้องแล้วกลับบอกว่ามีธุระจะรีบไปจัดการ เรานั่งรอจนหิวแล้วนะ
นัดกันว่าจะไปกินข้าวกันข้างนอก เราก็อุตส่าห์รอ”อาร์ทพูด ทำให้ผมอึ้งสับสนไปหมด ตกลงมันอะไรกันแน่
“เดี๋ยวเราบอกให้นะ”ผมพูดเสียงอ่อย
“บูมนี่แย่จริง ๆ ให้แฟนตัวเองต้องมานั่งรอแบบนี้ได้ยังไงก็ไม่รู้ ยังไงก็ต้องขอบใจโยมากนะ แล้วยังไงถ้ามีโอกาสเราคงจะได้เจอกันนะ
บายครับ”อาร์ทพูดแล้ววางสายไป
ผมนั่งคิดด้วยความสับสน คิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมด ทั้งเรื่องที่แพทบอกผมว่า อาร์ทกับบูมเป็นแค่คนรู้จักกัน บูมก็พูดว่าเค้าเป็นแค่คนรู้จักกัน
แต่ทำไม อาร์ทกลับบอกว่าตัวเองเป็นแฟนกับบูม แต่ถ้าเค้าเป็นเพื่อนกันจริง ๆ ทำไมเพื่อนต้องกอดแบบนั้นแถมยังซบอกกันอีกด้วย
ผมกับเพื่อนยังไม่เคยทำแบบนั้นกันเลย ผมนั่งคิดจนกระทั่งบูมเดินเข้ามาพอดีจังหวะเดียวกับที่พนักงานเอาบิลมาเก็บเงิน บูมเลยจ่ายเงินไป
แล้วเราก็เดินออกไปขึ้นรถซึ่งจอดเอาไว้ที่ลานจอดรถ
“บูมเราถามจริง ๆ เถอะว่า ตกลงบูมกับอาร์ทเป็นอะไรกันแน่”ผมถามขณะที่เข้าไปนั่งในรถเรียบร้อยแล้ว
“ก็เราบอกแล้วไงว่าเป็นเพื่อนกันทำไมหรอ”บูมก้มหน้าพูดโดยที่ไม่กล้าสบตามองผม
“แน่ใจนะว่าเป็นแค่เพื่อนกัน แต่ทำไมเมื่อกี้เค้าโทรมาบอกว่าเค้ารออยู่ในห้องนอนของบูมล่ะ ตกลงเค้าเป็นใครกันแน่”ผมถามด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น
“เอ่อ........คือ”บูมอึกอัก
“เค้าบอกเราเองว่าเค้าเป็นแฟนบูม ตกลงเค้าเป็นใครกันแน่ ตอบเรามาตามความจริงนะ”ผมตะคอกถามบูม
“คือ ที่จริง.......”ยังไม่ทันที่บูมจะพูดอะไรผมก็สวนกลับไป
“เค้าเป็นแฟนบูมจริง ๆ ใช่ไหม”
“ใช่ เค้าเคยเป็นแฟนเรา แต่เราเลิกกับเค้านานแล้ว”บูมกำลังจะพูดต่อแต่พอผมได้ยินแบบนั้นผมก็ทนไม่ไหวเลยตะโกนกลับไป.....
“เราไม่เชื่อ ถ้าเลิกกันแล้วเค้าจะไปรอในห้องบูมได้ยังไง แถมยังกล้ามาบอกกับคนที่ไม่รู้จักได้ยังไงว่าเค้าเป็นแฟนบูม ทำไมบูมทำกับเราแบบนี้
ยังแกล้งเราไม่พอใช่ไหม เรายังเจ็บไม่พอใช่ไหม เราไม่น่ามาเลยจริง ๆ เรามันโง่เอง
ขอให้เราจบกันแค่นี้นะ”ผมพูดแล้วเปิดประตูออกไปโดยไม่ฟังเสียงบูมเลย
“เดี๋ยวฟังเราก่อนดิ โย”บูมวิ่งมาตาม
“จะมาโกหกอะไรเราอีกล่ะ เราไม่ฟัง ไม่อยากจะฟังคำแก้ตัวอะไรทั้งนั้นแหละ พอกันที”ผมพูดพลางเอามือปิดหูแล้ววิ่งออกไปแต่บูมก็วิ่งมาฉุดมือผมเอาไว้
“โยต้องฟัง เราไม่มีอะไรกับเค้าจริงๆ ได้ยินไหม”บูมตะโกนออกมา
“......................”ผมเงียบ
“ทำไมไม่เชื่อกันมั่งวะ เหนื่อยแล้วนะโว๊ยยยย ทีพอเรื่องของตัวเองกลับบอกให้เราเข้าใจ แต่ทำไมทีเรื่องของเราโยกลับไม่เข้าใจบ้างล่ะ
บอกแล้วไงว่าเลิกกันไปนานแล้ว ไม่มีอะไรกันแล้ว เข้าใจบ้างไหม”บูมพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ
“แล้วจะให้เราเข้าใจว่ายังไง ในเมื่ออาร์ทไม่รู้จักเรา แล้วจะมาโกหกเราทำไม”ผมเถียงกลับ
“ถ้าไม่เชื่อ ไปพิสูจน์กันเลยว่าเค้ารอเราอยู่ในห้องของเราจริงหรือเปล่า”บูมพูดด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวพลางฉุดผมขึ้นรถแล้วออกรถไปด้วยความเร็ว...........
จบตอนที่ 23/3แล้วครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ
*****************************************************************