บทที่ 17 - เปลวไฟของวัยรุ่นกำลังร้อนรุ่ม
นับตั้งแต่จบการแข่งขันอย่างไม่เป็นทางการไป ธนัฐก็สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับนักกีฬาของตน ความมุ่งมั่นที่มีให้กับการฝึกซ้อมในแต่ละวันซึ่งทบทวีขึ้น เหตุผลส่วนหนึ่งอาจมาจากเพื่อนร่วมทีมของพวกเขาที่ทำผลงานได้ดีในการแข่งครั้งนั้น จนทำลายสถิติตัวเองและสนามลงได้ หรือการที่พวกเขาหลายคนยังรั้งท้ายในการแข่งขันรายการต่างๆ การมองดูเพื่อนที่ฝึกซ้อมมาด้วยกันทุกวี่ทุกวันนำหน้าไปทีละก้าว ในฐานะนักกีฬาคงไม่อาจยอมให้เป็นเช่นนั้นได้ อย่างน้อยก็ต้องพัฒนาขีดความสามารถของตัวเองให้เหนือกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้
แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด เพราะไม่เพียงนักกีฬาที่ถูกคัดเลือกให้เข้าแข่งขันในวันนั้นที่มีปฏิกิริยากับการแข่งซ้อมดังกล่าว แต่ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ทั้งชายและหญิง ที่มีโอกาสรับชมหรือเพียงแค่ผ่านเข้ามาในสนาม โดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายของการแข่งท้ายสุด ทุกคนต่างเปลี่ยนไป
โรงเรียนแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องส่งเสริมทักษะการกีฬา วัดได้จากผลงานในอดีตจนถึงปัจจุบัน จึงไม่แปลกหากเหล่านักกีฬาไม่ว่าจะประเภทไหน หลายคนจากทั่วทั้งจังหวัดหรืออาจรวมไปถึงทั่วทั้งประเทศ ต่างหมายปองและคิดจะเข้ามามีส่วนร่วมในชมรมกีฬาที่ตนสนใจในโรงเรียนแห่งนี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพ เพื่อชื่อเสียง เพื่อเงินทอง หรือเพื่อความสนุกสนาน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลประการใด หากพวกเขาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในที่แห่งนี้แล้วล่ะก็ จะมีสิทธิ์คว้าเอาอย่างใดอย่างหนึ่งที่ว่ามาไปครอบครองอย่างแน่นอน หรืออาจได้ทุกสิ่งที่ปรารถนา แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ เมื่อมีผู้ที่เหนือกว่าจากทั่วประเทศมารวมตัวกัน ย่อมมีผู้ชนะและผู้แพ้เป็นสัจธรรม คนที่เข้ามาแล้วฝ่าฟันไปอย่างมานะก็อาจอยู่รอด แต่จำนวนไม่น้อยที่ถอยร่นลงไปเพียงเพราะพบเจอความพ่ายแพ้และไม่เห็นหนทางก้าวหน้า ยิ่งเมื่อมองไปที่จุดสูงสุด ผู้ที่เหนือกว่าก็ยังเหนือกว่าอยู่วันยังค่ำ พอหันกลับมามองตัวเองที่ยังไม่ขยับไปไหน ก็พาให้หมดกำลังใจ สุดท้ายก็ยอมรับความพ่ายแพ้นั้นไปโดยปริยาย
นักกีฬาเหล่านั้น ผู้คิดหันหลังให้กับอุปสรรค ขณะนี้ทุกคนกำลังตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อมอย่างหนัก ดวงหน้าไม่หม่นหมองดังเช่นที่ผ่านมา บัดนี้ใบหน้าเหล่านั้นต่างเต็มไปด้วยความหวังที่จะก้าวข้ามอุปสรรค ซึ่งขวางกั้นอยู่ ภาพของเด็กชายตัวเล็กคนหนึ่งที่วิ่งขนาบข้างมากับนักกีฬา ซึ่งได้ชื่อว่าเก่งที่สุดในการวิ่งระยะกลางอย่างคมสัน ไม่ว่ารุ่นเดียวกันหรือสูงกว่าต่างยอมรับในข้อนั้น ภาพที่พวกเขาเห็นเพียงเสี้ยวนาทีที่ยืนจ้องจากตำแหน่งต่างๆ ทั่วสนามอันกว้างใหญ่นี้ ภาพนั้นได้เปลี่ยนความคิดของพวกเขาไปสิ้น
“เวลาดีขึ้นอีกแล้วนะคมสัน” ธนัฐที่อยู่ข้างสนามตะโกนออกไปเมื่อเจ้าของชื่อกลับมาที่ม้านั่งข้างสนาม หลังจบรอบวิ่งตามรายการที่ได้รับมอบหมาย
“ยังไม่พอครับ” คมสันตอบกลับมาอย่างไม่เหนื่อยอ่อน
“ให้ได้แบบนี้สิ” ธนัฐมองนักกีฬาดาวเด่นประจำรุ่นที่ดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลจากคนตัวเล็กมากที่สุด เพราะหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เขาไม่เคยเห็นคมสันหยุดพักเกินครึ่งชั่วโมงแม้แต่ครั้งเดียว ความมุ่งมั่นในดวงตาคู่นั้นเป็นของจริง ไม่ว่าใครในสนามก็ไม่อาจเทียบเคียงได้
หากวันนั้นเขาไม่ตอบรับคำชวนของเพื่อนสนิท และหากไม่มีการแข่งอย่างไม่เป็นทางการนั้น ไม่รู้ว่าภาพที่เขามองอยู่ในขณะนี้จะเป็นอย่างไร อาจจะดีหรือแย่กว่านี้ก็คงยากเกินคาดเดา รู้เพียงว่า เขาไม่เคยกลับมานึกเสียดายหรือเสียใจกับการตัดสินในวันนั้น
คมสันนั่งพักอยู่ข้างสนามกำลังกลับเข้าลู่วิ่งอีกครั้ง หากไม่มีเสียงๆ หนึ่งร้องทักให้เข้าหันกลับไปสนใจเสียก่อน
“เดี๋ยวนี้ซ้อมคนเดียวตลอดเลยนะ” เสียงจากสิทธิพลซึ่งหายไปช่วงหนึ่งหลังจากการแข่งวันนั้น นับตั้งแต่ความพ่ายแพ้ที่เจ้าตัวได้รับไป
“เข้ามาคุยแบบนี้แปลว่ามีเงินเลี้ยงข้าวแล้วสินะ” เขาร้องตอบไปในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับประโยคสนทนาข้างต้น เบี่ยงเข้าเรื่องสัญญาที่เคยให้ไว้เมื่อไม่นานมานี้ และแทบจะเลือนไปเสียแล้ว หากไม่ได้พบคู่สัญญาตรงหน้า
“นี่ยังจำได้อีกเหรอ” สิทธิพลอุตส่าห์แกล้งเข้ามาด้วยเรื่องอื่น แต่คนตรงหน้ากลับวกเข้าในสิ่งที่ไม่อยากได้ยินที่สุด
“ข้าวฟรีตั้งหนึ่งเดือน ไม่มีทางลืมหรอก” คมสันพูดออกไปทีเล่นทีจริง แกล้งคนตรงหน้าอย่างไม่จริงจังนัก
“โถ่... แค่พูดเล่นๆ นายจริงจังไปได้” คนรับปากอย่างมั่นเหมาะในวันนั้น มาวันนี้กลับเฉไฉไม่เป็นท่า แต่คมสันก็ไม่ได้ติดใจ
“แล้วนี่มีอะไรหรือเปล่า” เขาถามจุดประสงค์ของคนตรงหน้าที่ร้องทักในคราแรก ซึ่งเข้ามาขวางการซ้อมอยู่
“ว่าจะมาถามถึงคนวันนั้น ที่เกือบเอาชนะนายได้”
“มะลิน่ะเหรอ” คมสันคิดว่าคงไม่มีใครอีกแล้วที่จะทำให้นักกีฬาอย่างสิทธิพล หรือแม้กระทั่งนักกีฬาคนอื่นๆ ค้างคาใจได้เท่าเพื่อนตัวเล็กของตน
“ใช่ เขาเป็นใคร มาจากไหน แล้วเป็นนักกีฬารายการอะไร ทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้า แต่ความสามารถขนาดนั้นจะบอกว่าแค่วิ่งเป็นงานอดิเรกก็คงทำใจเชื่อลำบาก” คำถามมากมายพรั่งพรูออกมา เกินกว่าที่คมสันคาดเอาไว้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร สิทธิพลคงโดนคนตัวเล็กวิ่งนำไปหลายช่วงตัว ทั้งๆ ที่ในมุมมองของคนอื่นมะลิไม่น่าจะมีแรงพอต่อกรกับคนในสนามได้ เป็นใครก็ประหลาดใจกันทั้งนั้น
“จะบอกว่าวิ่งเป็นงานอดิเรกก็คงจะใช่...” คมสันยังพูดไม่ทันจบ
“หา... จริงดิ วิ่งเป็นงานอดิเรกเนี่ยนะ” สิทธิพลร้องลั่นอย่างไม่เชื่อหู
“ก็ตัวขนาดนั้นนายคิดว่าจะมีใครให้เป็นตัวจริงไหม” คมสันสวนกลับโดยไม่สนใจปฏิกิริยาของคนตรงหน้าที่ส่งออกมา
“ไม่” สิทธิพลตอบกลับพร้อมส่ายหน้า
“ก็ตามนั้น ไม่มีครูหรือโค้ชคนไหนกล้ารับเด็กตัวเท่านั้นเข้าทีมหรอก แต่ที่เขาทำได้ก็มีเพียงอย่างเดียวคือ วิ่ง วิ่งออกไปอย่างนั้นไม่ว่าจะได้เป็นนักกีฬาตัวจริงหรือไม่ นั่นแหละมะลิ”
“ไม่เคยแข่งรายการไหนเลยเหรอ” ความสงสัยยังไม่หมดไปจากสิทธิพล
“ใช่” ใบหน้าของคมสันยังนิ่งไร้อารมณ์
“งั้นหรอกเหรอ งั้นก็ไม่กวนนายละ” สิทธิพลพูดแค่นั้นก่อนเดินออกไป แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการคลายข้อสงสัยของเขา เด็กคนนั้นไม่ใช่ยอดมนุษย์หรือผู้มีพลังวิเศษจากไหนหรอก เป็นแค่คนๆ หนึ่งเหมือนกับเขา มีแขน มีขา มีเรี่ยวแรงที่จะวิ่งออกไปเหมือนกันทุกประการ สิทธิพลยิ้มเยาะตัวเองอย่างน่าละอายที่ยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้ กลับไปถามไถ่คมสัน คาดหวังในคำตอบสวยหรูเพื่อเอามาเป็นข้ออ้างให้แก่ตน ทั้งที่จริงแล้วกลับไม่เป็นอย่างนั้น ‘ไม่เคยแข่งสักรายการเลยเหรอ คงยอมแพ้ไม่ได้แล้วล่ะ ทั้งคมสันและมะลิ’
หลังสิทธิพลลับหายไป เปรียบเสมือนสัญญาณเริ่มต้นการฝึกซ้อมของคมสันอีกครั้ง ขายาวก้าวไปยังลู่วิ่ง รักษาระดับความเร็วในช่วงต้นของการวิ่ง เพราะระยะทางยังอีกไกล เพียงแต่บทสนทนาเมื่อครู่กลับเข้ามามีอิทธิพลเหนือความคิดเขา ชั่วขณะหนึ่งคมสันคิดไปถึงวันที่มะลิวิ่งตีคู่มาพร้อมกับเขา ฉับพลันขาที่กำลังวิ่งอย่างสมดุล กลับเร่งความเร็วขึ้นอย่างไม่อาจยั้งได้
‘นายชักจะเอาใหญ่แล้วนะมะลิ’ กว่าคมสันจะกลับสู่ภาวะปกติได้ก็เข้าสู่รอบที่สาม การฝึกซ้อมดำเนินต่อไป ความเหนื่อยล้าอบอวลไปทั่วสนาม แต่ไม่สามารถหยุดการกระทำหรือกิจกรรมใดๆ ลงได้ ทุกคนต่างเพิกเฉยต่อความเหนื่อยอ่อนเหล่านั้น
ปี๊ด! เสียงนกหวีดเป็นสัญญาณเรียกนักกีฬาจากมุมต่างๆ ทั่วสนามมารวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียง ก่อนความวุ่นวายจะเข้าครองบรรยากาศตรงหน้าธนัฐ นักกีฬาที่แยกย้ายกันซ้อมกลับมาพูดคุยหยอกล้อกันตามประสาเพื่อนและรุ่นพี่รุ่นน้อง บ้างบ่นถึงประสบการณ์ตลอดวันที่ได้รับมา ก่อนบรรยากาศจะเงียบลงเฉียบพลัน เมื่อเสียงประกาศของหัวหน้าผู้ฝึกสอนดังขึ้น
“อีกหนึ่งเดือนนับจากนี้ การคัดเลือกระดับจังหวัดจะเริ่มขึ้นแล้ว นี่คือหนทางที่จะนำพวกเธอไปสู่เวทีระดับชาติ” นักกีฬาทุกคนกำลังจดจ่อกับเสียงนั้น เส้นทางสู่อนาคตที่พวกเขาวาดฝันไว้ นับตั้งแต่ก้าวเข้ามายังโรงเรียนแห่งนี้
“แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับโอกาส แต่ก็ใช่ว่าความพยายามของพวกเธอจะสูญเปล่า ครูไม่อยากเอาพวกเราไปเปรียบเทียบกับใคร แต่เชื่อว่าทุกคนที่มาดูการซ้อมแข่งในวันนั้นคงจะทราบดีว่า ไม่มีใครที่เกิดมาเพียบพร้อมไปด้วยพรสวรรค์ หากเธอไม่มีสิ่งนั้นก็ต้องคว้ามันมาด้วยกำลังของตัวเอง และที่สำคัญจงอย่าลืมไปว่าคู่แข่งเขาไม่รอเราอยู่กับที่” ธนัฐพูดจบ
“ครับ” “ค่ะ” เสียงตอบกลับจากหนุ่มสาวที่มารวมตัวกันตรงหน้าธนัฐและผู้ช่วยผู้ฝึกสอนคนอื่น
“วันนี้ครูจะมาคุยเรื่องการแข่งรายการที่จะถึงนี้ ที่พวกเธอรุ่นเล็กทุกคนจะถูกคัดเลือกเพื่อลงแข่ง ซึ่งรายการนี้แม้ว่าจะเป็นการแข่งที่จัดมาเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เมื่อเทียบกับรายการอื่นของสมาคม ซึ่งรุ่นพี่ของพวกเธอแข่งขันกันไปเมื่อเดือนที่แล้ว คงต้องบอกว่า ยังเป็นรายการน้องใหม่ แต่ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ใครเกิดก่อนเกิดหลัง พวกเธอหลายคนคงพอจะทราบถึงปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นตลอด 3 ปีที่ผ่านมาแล้วว่า การแข่งขันน้องใหม่นี้ได้ทำลายสถิติของการแข่งระดับชาติลงได้ หลายประเภทกีฬา
โดยเฉพาะกรีฑาประเภทลู่ นั่นหมายความว่า รายการที่พวกเธอจะไปท้าชิงในอนาคตอันใกล้นี้ ต่างมีนักกีฬาในระดับสูงของประเทศที่พร้อมด้วยความสามารถมากมาย การจะมานั่งสบายใจหรือไม่ให้ความสำคัญคงไม่เป็นเรื่องที่ดีแน่ เพราะหากดูจากผลการแข่งปีที่ผ่านมา รายการนี้หินกว่าการแข่งของพวกรุ่นใหญ่อย่างแน่นอน”
ธนัฐกล่าวยืดยาวหลายนาที แต่นักกีฬาของเขาไม่มีทีว่ท่าาจะเบื่อหน่ายเลยแม้แต่น้อย เพราะพวกเขากำลังรอฟังเรื่องราวเกี่ยวกับอนาคตและหนทางสู่การเป็นดาวรุ่งของตน เรื่องของการแข่งขันน้องใหม่ที่เข้ามามีบทบาทในวงการกีฬาระดับเยาวชนสังกัดสถานศึกษาในขณะนี้ เป็นรายการที่รวมการแข่งของกีฬาทุกประเภทเอาไว้ แต่ความยิ่งใหญ่อยู่ที่การแข่งนี้เป็นการจัดโดยเอกชน มีสมาคมกีฬาเข้ามาจัดระบบการแข่งขันช่วยเพียงเล็กน้อย ซึ่งทำให้ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนอย่างล้นหลาม มีเงินทุนอัดฉีดจำนวนมาก แน่นอนว่ามีแมวมองเข้ามาสอดส่องและตามหานักกีฬาที่มีแววในประเภทต่างๆ เช่นเดียวกับการแข่งขันกีฬารายการอื่น
ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ผลการแข่งและสถิติที่ออกมาสู่สาธารณะ ซึ่งเทียบเคียงกับรายการใหญ่ที่จัดโดยสมาคม สมาพันธ์ หรือองค์กรณ์กีฬาต่างๆ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก นับแต่มีการจัดการแข่งขึ้นในปีแรก และในช่วงหลังมานี้หลายประเภทกีฬากำลังก้าวข้ามขีดจำกัดของการแข่งขันระดับประเทศ แซงหน้ารายการใหญ่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานอย่างเกินความคาดหมาย เพราะตามปกติ รายการแข่งขันนี้มักส่งนักกีฬารุ่นใหม่หรือดาวรุ่งที่พึ่งเข้ามาสู่วงการกีฬา หรือเหล่านักกีฬาที่ย้ายจากรุ่นเล็กสู่รุ่นใหญ่ ซึ่งยังไม่สามารถปรับตัวให้คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมใหม่ได้ สนามนี้จึงกลายเป็นลานประลองฝีมือของหน้าใหม่ แม้กระทั่งนักกีฬาดาวรุ่งจากรุ่นเล็กที่ถูกดึงตัวให้เข้าร่วมกับโรงเรียนใหญ่ๆ ก็มักถูกส่งมาแข่งขันในรายการนี้ อีกเหตุผลหนึ่งที่โรงเรียนส่วนมากเลือกส่งนักกีฬารุ่นเล็กในเวทีนี้ ก็เพื่อแยกเด็กรุ่นใหม่กับรุ่นเก่าหรือรุ่นพี่ออกจากกัน การแข่งขันระดับเยาวชนที่สังกัดโรงเรียน มักส่งนักกีฬารุ่นพี่ไปแข่งขันรายการดั่งเดิมซึ่งจัดมาอย่างยาวนาน ส่วนรุ่นใหม่หรือรุ่นน้องก็ส่งมาที่รายการนี้แทน
แต่เมื่อรายการน้องใหม่สร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการกีฬา ทำลายสถิติที่ดีที่สุดของรายการแข่งหน้าเดิมที่จัดโดยภาครัฐหรือสมาคมกีฬาไปอย่างขาดลอย ก็ส่งผลให้หลายโรงเรียนเปลี่ยนรูปแบบการส่งนักกีฬากันใหม่ โดยส่งทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ปะปนกันเข้ามาท้าชิงชัย จนทำให้การแข่งสนามนี้ดุเดือดและโหดหินยิ่งขึ้นไป จนแทบไม่มีใครกล้ามองข้ามรายการน้องใหม่นี้ไปได้ หรือบางประเภทกีฬาอาจถือเป็นเวทีสูงสุดของการแข่งขันประเภทนั้นไปได้เลย
“ยังไงก็ฝากพวกเธอไปคิดด้วยว่า ควรจัดการเวลาที่เหลืออยู่อย่างไรให้คุ้มค่าที่สุดสำหรับการแข่งขันที่ใกล้เข้ามาทุกทีแบบนี้ เท่าที่ครูสังเกตในระยะหลัง เห็นหลายคนเริ่มมีจุดมุ่งหมายที่จะก้าวไปอย่างมั่นคงและพัฒนาตนเองทีละขั้นแล้ว นั่นถือเป็นเรื่องน่ายินดี ส่วนใครที่ยังสับสน ปรับตัวไม่ได้ หรือไม่มีท่าว่าจะก้าวหน้าเลย ก็ให้ดูคู่แข่งของเธอเป็นตัวอย่าง หลายคนคงได้ดูการแข่งขันครั้งก่อนไปแล้ว และเห็นแล้วว่า ไม่มีอะไรที่เพียบพร้อมเสมอไป ทุกสิ่งล้วนได้มาด้วยความพยายาม จงระลึกเสมอว่าเมื่อใดที่พวกเธอหยุด นั่นคือสัญญาณแห่งการพ่ายแพ้ สำหรับวันนี้ครูขอฝากไว้เท่านี้ แยกย้ายกันไปทานข้าวและพักผ่อนได้”
สิ้นเสียง วงล้อมขนาดใหญ่ก็แตกตัวออกไปคนละทิศละทาง จุดหมายของแต่ละคนก็ต่างกันออกไป แต่เป้าหมายสูงสุดนั้นแทบไม่แตกต่างกัน ชัยชนะและการขึ้นเป็นที่หนึ่ง นั่นคือเป้าหมายของนักกีฬาทุกคน --- เปลวไฟของวัยรุ่นกำลังร้อนรุ่ม
////////
ดีใจที่เห็นทุกคนได้รับกำลังใจในการวิ่งหรือเริ่มกลับมาสู้อีกครั้งเพราะอ่านเรื่องนี้
และเห็นความพยายามของมะลิ ใครมีอะไรอยากแชร์ หรือบอกต่อ ไม่ต้องอาย บอกกันได้
เพราะคนเขียนรออ่านอยู่ทุกวัน
#อ่านตอนพิเศษได้ที่(1)
www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b9247b5e3ef4900101120e2(2)
https://www.readawrite.com/a/befadb43ba9c2c20826468f72f3ed7b2(3)
http://www.tunwalai.com/story/251592/ตัวสำรอง- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่
facebook.com/inDefinitionStory