หลังจากที่กินข้าวเที่ยงเสร็จจนถึงตอนนี้คนตัวบางนั่นก็ยังนั่งคุยโทรศัพท์กับพี่ชายและพี่สาวไม่เสร็จ ปันณธรจุดบุหรี่สูบหลังจากที่ทานข้าวเสร็จเพราะความเคยชิน...ตาก็จ้องมองแปลงกุหลาบขาวที่เย็นนี้คนงานจะลงมือเก็บและจัดหีบห่อส่งตามออร์เดอร์ที่ส่งมา ถ้าไกลมากก็ทางเครื่องบิน แต่ถ้าใกล้ ๆ ก็เป็นรถห้องเย็นของทางไร่...
“พี่ปันปันจ๋า...น้องบีคุยเสร็จแล้ว...”
“.................” ปันณธรรับโทรศัพท์คืนมา เป็นโทรศัพท์น้องบีนั่นแหละแต่เอกวินฝากเขาให้ดูแลให้...
“..พี่เอบอกว่า...ไม่ใช่รถป๊า...”
“ครับไม่ใช่รถป๊า....ง่วงนอนรึเปล่า ตาบวมเชียว” ยกมือลูบแก้มใสอย่างลืมตัว ตากลมนั่นปรือ ๆ บวม ๆ อาจจะเป็นเพราะร้องไห้ก็เป็นได้...
“ง่วง...น้องบีง่วงนอน...”
“งั้นให้ยายสร้อยพาขึ้นไปนอนดีไหม”
“พี่ปันปัน พาน้องบีไปสิ...งั้นน้องบีไม่นอน” ทำตาวิงวอน ทำหน้าอ้อน ๆ ทำเอาคนถูกอ้อนเลิกคิ้ว ก่อนจะมองหน้ายายสร้อยที่ยิ้มให้อยู่...
“งั้นก็ได้ มาสิ”
“ฮ้าวว..พี่ปันปัน ลูบหลังน้องบีด้วยน้า..” งานงอกเรื่อย ๆ มีลูบหลังด้วย ดันหลังคนที่อ้าปากหาวให้เดินขึ้นบันได....ก่อนจะเปิดประตูห้องแล้วพาอีกคนเดินไปที่เตียง..
“ขึ้นไปนอนสิ”
“ลูบหลัง” ถ้าไม่ลูบหลังก็นอนไม่หลับ...ทุกคืนก่อนนอนพี่เอต้องลูบหลังให้น้องบี...
“ขึ้นไปนอนก่อนเถอะ”
“.............” ปันณธรมองคนที่ขึ้นเตียงแล้วคลานไปนอนห่มผ้าห่มเรียบร้อย ก่อนจะหันมามองเขา
“เปิดแอร์ก่อน”
“.................” ตากลมโตมองตามคนที่เดินไปเปิดแอร์ ตาจะปิดแล้วนะ พี่ปันปันรีบมาลูบหลังซักทีจะได้ฝันดี...เมื่อคืนนี้ไม่มีใครลูบหลังให้น้องบีนอนไม่ค่อยสบายเลย.....
“คว่ำลงสิ”
“..............” น้องบีจัดการนอนคว่ำนิ่ง ๆ อย่างที่พี่ปันปันบอก...
“...............” มือหนาวางลงบนแผ่นหลังบาง ก่อนจะขยับลูบไปมาเบาๆ ถึงแม้จะมีเนื้อผ้ากั้นแต่ก็รู้สึกว่านุ่มมือ....ลูบไปมาได้ซักพักคนที่นอนคว่ำก็เริ่มหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ...
“นอนง่ายจริงๆ “ แอร์ที่เริ่มเย็นลง ทำให้ต้องหยิบผ้าห่มห่มให้ถึงต้นคอของคนที่นอนคว่ำอยู่....นอนอย่างนี้หายใจออกไหมเนี่ย....ว่าแต่เขาก็เริ่มจะหนังตาหนัก ๆ แล้วเหมือนกัน ปกติไม่เคยนอนกลางวันแท้ ๆ
“อือ...”
“คิ คิ...คิก คิก”
“อืมม” รู้สึกราคาญที่แก้มและใบหน้า เลยเอามือลูบ ๆ แต่ความง่วงทำให้ไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมา....พอรู้สึกว่าไม่มีอะไรมากวนร่างสูงที่นอนเหยียดบนเตียงของน้องชายคนใหม่ก็หลับต่อ...
“อือ...” ค่อย ๆ ขยับพลิกตัว.... เปลือกตาลืมขึ้นก่อนจะพยุงตัวเองให้ลุกจากที่นอน....หลับจนได้...กะจะแค่นอนเหยียดตัวเพราะรู้สึกเมื่อย แล้วเจ้าของห้องไปไหนซะแล้ว...ยกนาฬิกาดูก็เห็นว่าใกล้เวลาเก็บดอกไม้ นอนยาวเกินไปแล้ว...
“...ป้าสร้อยครับเห็นน้องบีรึเปล่า...”
“ มะปรางพาไปที่สวนกุหลาบขาวแล้วล่ะค่ะ...เอ่อ...คุณปัน...”
“มีอะไรครับ?” หันไปถามคนมีอายุเมื่อป้าสร้อยยกมือชี้มาที่ใบหน้าเขา....
“ป้าว่าไปส่องกระจกในห้องน้ำก่อนออกไปเถอะค่ะ”
“.................”
“ เด็กบ้า!..” สบถออกมาอย่างลืมตัวเมื่อเห็นสภาพใบหน้าตัวเอง...ปากกาสีดำวงรอบดวงตาทั้งสองข้าง แล้วปากกาแดงก็ทำจุดวงกลมที่แก้มทั้งสองข้าง...วาดคิ้วซะโก่งเลย...แสบชะมัด...
“น้องบีแต่งหน้าให้ซะสวยเลยนะคะ”
“ป้าสร้อยอย่าหัวเราะสิครับ ดีที่ไม่เดินออกไปสภาพนั้น...ไม่งั้นลูกป้าสร้อยถูกไม้เรียวตีแน่ๆ”
“อย่าไปทำแกเลยค่ะ นี่ก็เตรียมกรรไกรไปแล้ว คงจะตัดหมดสวนแล้วล่ะค่ะ”
“งั้นผมไปดูก่อน” สร้อยรับคำนายก่อนจะมองร่างสูงที่เดินออกไป..จะอยู่อย่างนี้ได้อีกนานแค่ไหนกันนะ...ทางคุณท่านก็โทรมาเซ้าซี้จะให้กลับไปสานต่อเจตนารมณ์ของตัวเอง ที่เธอไม่เห็นว่ามันจะดีตรงไหน....ถ้าคุณปันกลับไปก็เท่ากับว่าอยู่ท่ามกลางดงเสือดงจระเข้ ถึงเธอจะมั่นใจว่านายตัวเองเอาตัวรอดได้ก็เถอะ
“พี่ปันจ๋า!”
“.............” อยู่นั่นเองเจ้าตัวแสบ..ทำหน้านิ่ง ๆ เดินเข้าไปเจ้าตัวก็วิ่งเข้ามาหา พร้อมกับในมือที่มีกรรไกรตัดกิ่งอยู่...มาถึงก็มายืนทำตาโตตรงหน้าเขา ส่อง ๆ มอง ๆ เหมือนหาอะไร ...
“หาผลงานศิลปะอยู่รึไง”
“คิก คิก..น่ารัก..”
“ ...............” หมดคำจะพูด คนที่มายืนยิ้มมองหน้าเขาหัวเราะคิกคักพูดอะไรคนเดียว ก่อนจะวิ่งจากไป ส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจ ก่อนจะเดินตามไปหาคนที่กำลังเอากรรไกรตัดกิ่งดอกกุหลาบขาวอยู่ คนงานเกือบ 30 คนกำลังตั้งแถวเก็บแปลงใครแปลงมัน ใช้คนเยอะเพราะต้องเก็บให้เร็วดอกไม้จะได้ไม่เฉาเมื่อเอาเข้าห้องเย็นไว้...เพราะกว่าจะต้องจัดใส่หีบห่ออีก..
“ระวังโดนมือ”
“พี่ปันปัน อันนี้ห้องบีให้ ไม่มีหนาม”
“ขอบใจ แล้วมะปรางไปไหน ทำไมอยู่คนเดียว”
“พี่มะปรางไปเอาน้ำมาให้...น้องบีอยู่คนเดียวได้....”
“งั้นเหรอ...งั้นอย่าซนพี่จะไปดูทางนู้น”
“น้องบีไปด้วย” ยื่นมือให้คนที่วิ่งตามจับ ก่อนจะพาเดินไปที่แปลงใหญ่ทีมีคนเก็บอยู่สองคน....
“ดอกใหญ๊ ใหญ่”
“ปลิดหนามให้ผมซัก 3 ดอก” คนงานรีบเก็บดอกกุหลาบสีขาว ก่อนจะปลิดหนามตามคำสั่งของเจ้านาย...ก่อนจะยื่นให้คนที่ยื่นมือมารับ...
“แล้วชอบไหมดอกใหญ่”
“น้องบีชอบ ดอกใหญ่ก็ชอบ ดอกเล็กก็ชอบ” สรุปว่าเป็นน้องไม้น้องบีก็ชอบหมดเลย ยิ่งมีผีเสื้อตอมด้วย น้องบียิ่งชอบ...
“งั้นเอานี่ไป พี่ให้อยากได้ดอกไม้ไปไว้ในห้องไม่ใช่เหรอ ให้มะปรางเอาไปเสียบแจกันให้”
“................” ปากเล็กแยกยิ้มจนกว้าง ก่อนจะรับมาถือไว้ ใบหน้าน่ารักก้มลงสูดดมความหอมอ่อน ๆ จากกุหลาบดอกใหญ่...ก่อนจะเงยขึ้นส่งยิ้มหวานให้คนที่ให้...ตากลมเป็นประกายบอกให้รู้ว่าดีใจแค่ไหนที่ได้รับ...
“...............” ปันณธรอดที่ยิ้มตอบไม่ได้...ก่อนจะยื่นมือไปขยี้กลุ่มผมนุ่ม....โลกสดใสดี....
“คุณปันครับ”
“ว่าไงณรงค์” เงยหน้าถามคนขับรถห้องเย็นที่ยิ่งเข้ามาด้วยท่าทางเร่งรีบ.
“คุณท่านมาครับ! กำลังจะมาหาคุณปันที่นี่”
“..............” คนรายงานยังไม่ทันขยับไปไหนตาคมก็เงยหน้ามองเห็นผู้ชายร่างสูง เดินนำบอดี้การ์ดตัวเองมาอย่างสง่า....จนปันณธรต้องรีบเดินออกไปหา
“สวัสดีครับคุณพ่อ”
“ว่าไงไอ้ลูกชาย...ไม่ไปหาพ่อเลยนะ”
“พอดีช่วงนี้งานทางนี้ยุ่งนะครับ...คุณพ่อมีอะไรทำไมไม่โทรมาล่ะครับ ผมจะไปหาเอง” คนร่างสูงสองคนยืนข้างกัน สมแล้วที่เป็นพ่อลูกกัน อีกคนถึงจะมีอายุแต่ก็ยังภูมิฐานและสง่างาม และอีกคนที่ถอดแบบคนเป็นพ่อมาทั้งหมดทั้งหน้าตาท่าทาง...ไม่แปลกที่คนงานจะเห็นว่ามีสาว ๆ ขยันมาซื้อดอกไม้ด้วยตัวเองกันบ่อย...
“อาทิตย์หน้า ท่านรัฐมนตรีเชิญพ่อไปงานวันเกิด พ่ออยากให้แกไปด้วย”
“ อาทิตย์หน้า..”
“คุณป๊า!”
“น้องบี!” ทุกคนพากันตกใจ การ์ดที่อยู่ข้างๆ รีบเข้ามาแต่ปัฐพียกมือห้ามไว้...ปันณธรต้องรีบไปดึงคนตัวเล็กที่จู่ ๆ ก็วิ่งเข้าไปกอดพ่อตัวเองออกมา...
“..ไม่ใช่คุณป๊าน้องบีเหรอ..”
“ไม่ใช่หรอกน้องบี นี่คุณพ่อของพี่”
“สวัสดีคุณป๊าพี่ปันคับ”
“เด็กที่ไหนปัน” ปัฐพีย่นคิ้วมองเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักตรงหน้า ก่อนจะถามลูกชาย สังเกตเห็นว่าใบหน้านั่นสลดลงทันทีที่เงยหน้ามองหน้าเขา และฟังไม่ผิดก็เรียกเขาว่า คุณป๊า ด้วย
“น้องบีเป็นลูกของหมอเอ ครับคุณพ่อจำได้ไหม”
“จำได้ “ จำได้เพราะหมอเอเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่ลูกชายพาไปแนะนำ....ด้วยบุคลิกท่าทางและการวางตัว ทำให้เขาเห็นถึงความมุ่งมั่นจากแววตาใต้แว่นนั่น...เข้มแข็งและฉลาดสมกับเป็นหมอทหาร...
“หมอเอถูกสั่งให้ไปช่วยแถบชายแดนเพราะขาดแคลนหมอ...คุณนิชาแฟนหมอก็ไปด้วยเลยไม่มีคนอยู่กับน้องบี...”
“อายุเท่าไหร่แล้ว อยู่คนเดียวไม่ได้เหรอ” จำได้ว่าลูกชายเขารับผิดชอบชีวิตตัวเองทุกอย่างตั้งแต่ 12 ขวบ..
“ 17 แล้วครับ แต่น้องบีสติไม่สมบูรณ์ เสียใจจากเรื่องป๊ากับม๊าเขาที่เสียเสียชีวิตไล่ ๆ กันด้วยอุบัติเหตุ หมอเอบอกว่าน้องหมดสติแล้วตื่นขึ้นมามีความทรงจำเหลือแค่ตอน 4 ถึง 5 ขวบ พูดง่าย ๆ ก็คือกลับไปเป็นเด็ก..”
“งั้นก็ให้คนอื่นดูแล เพราะแกเอง หลังจากนี้ต้องไปออกงานกับพ่อ” พูดกับลูกชายก็มองหน้าเด็กหนุ่มที่จ้องเขาตาไม่กระพริบ ปากก็ส่งยิ้มให้ไม่ห่าง...ทั้งที่เมื่อครู่ยังทำหน้าสลดอยู่เลย...
“แต่ผม”
“ให้น้องบีไปด้วยได้ไหมครับคุณป๊าพี่ปัน...น้องบีไม่ดื้อหรอก”
“...............” ยืนอึ้งกันเป็นแถว เมื่อจู่ ๆ คนที่ยืนอยู่ข้างปันณธรก็เดินไปกอดเอวเสี่ยปัฐพี พร้อมกับอ้อนขอไปด้วย...คนถูกอ้อนเองก็ดูชะงักไป...
“น้องบี..มานี่ครับ”
“ไม่เป็นไร ปล่อยเถอะ”
“น้า คุณป๊าพี่ปัน ให้น้องบีไปกับพี่ปันด้วย.” ถ้าไม่ให้ไปน้องบีก็ไม่มีคนเล่นด้วย ไม่มีคนพาดูดอกไม้ ไม่มีใครพาจับผีเสื้อสิ...แล้วพี่ปันก็สัญญากันแล้วแต่ก็ยังทำได้ไม่หมด....
“ไม่กลัวฉันเหรอ”
“คุณป๊าไม่น่ากลัว”
“ฮ่าๆๆ งั้นเหรอ...”
“...................” ปันณธรมองพ่อตัวเองหัวเราะเสียงดัง ก่อนมือใหญ่จะเอื้อมมากอดตอบคนที่กอดเอวไม่ปล่อย....นอกจากเขาแล้วพ่อไม่เคยเข้าใกล้เด็กที่ไหน อาจจะเป็นเพราะไม่มีใครกล้าเข้ามาด้วย....นี่ยังน้อยนะการ์ด ถ้าไปตามงานใหญ่ ๆ ก็ 6 คน...
“คุณป๊า อันนี้น้องบีให้”
“ให้ทำไม”
“เอาไปเสียบแจกัน พี่ปันปันเก็บให้น้องบี แต่น้องบีมีหลายดอกเลยแบ่งให้คุณป๊า”
“เอา เอาก็เอา” รับดอกไม้ดอกใหญ่มาถือไว้ในมือ ปากเล็กนั่นยิ้มกว้างจนต้องยิ้มตาม ไม่รู้หรอกว่าทำไมถึงเล่นด้วย แต่เห็นท่าทางน่ารัก ๆ นั่นแล้วก็รู้สึกสดชื่น...แล้วก็อารมณ์ดี...เพราะสิ่งที่อยูรอบตัวเขาตอนนี้มันก็คงจะเครียดเกินไป แต่เมื่อทำมาแล้ว ขึ้นหลังเสือแล้ว ไม่ใช่ว่าลงไม่ได้ แต่เขาไม่อยากลง....และเชื่อว่าลูกชายเขาจะคุมบังเหียนต่อจากเขาได้อย่างดี...อำนาจที่มีมันทำให้เขาทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ...
“ ว่าไงเรื่องงานอาทิตย์หน้า”
“คือ...”
“เอาน้องบีไปด้วยก็ได้”
“ไม่ใช่หรอกครับ อยู่นี่ก็มีคนดูแล แต่ผมไม่อยาก..”
“แกรับปากพ่อแล้วนะปันณธร ว่าถ้าพ่อตามใจให้แกทำอะไรไร้สาระพวกนี้ แกจะตามใจพ่อเหมือนกัน ส่วนน้องบีเอาไปที่บ้านด้วย...อันนี้พ่อสั่ง”
“...ครับ คุณพ่อ...” ปันณธรรับปากพ่อตัวเองในที่สุด ก่อนจะเดินไปตามแรงโอบที่บ่าจากพ่อตัวเอง...
“มานี่สิน้องบี”
“น้องบีจะเก็บดอกไม้” ปากเล็กยื่นออกมา ก่อนจะปฏิเสธคำชวนของคุณป๊าพี่ปันไป....
“ให้เขาเก็บเถอะครับคุณพ่อ มะปรางดูด้วย”
“ค่ะคุณปัน” ทั้งสองพ่อลูกเดินต่อ....ปันณธรกำลังคิดว่า...พ่อเขากำลังจะหลงเด็กคนนี้เหมือนกับคนอื่น ๆเข้าแล้ว....
***********************************
เวลาช่างผ่านไปเร็วจนปันณธรตั้งตัวไม่ทัน ตื่นขึ้นมาปัฐพีก็โทรมาย้ำเรื่องงานวันเกิดท่านรัฐมนตรี ที่จะมีพรุ่งนี้ ทำให้ต้องออกเดินทางไปที่บ้านใหญ่วันนี้....
“จะได้เจอคุณป๊าพี่ปันเหรอ”
“ใช่ เรียกป๊าเฉย ๆ ก็ได้” ไม่ต้องเรียกคุณป๊าพี่ปัน..เพราะมันยาวไป...
“แล้วน้องบีเรียกพี่ปันว่าคุณป๊าได้ไหม”
“ทำไมล่ะ”
“อยากเรียก”
“เรียกพี่แหละดีแล้ว”
“พี่ปันจ๋า...ที่บ้านคุณป๊ามีดอกไม้รึเปล่า”
“มีสิ”
“แล้วน้องบีเก็บได้ไหม”
“ได้ล่ะมั้ง” นั่งตอบคำถามคนที่คุยเจื้อยแจ้วอยู่บนรถตั้งแต่ที่ลงจากเครื่อง ทั้งที่อยู่บนเครื่องก็หลับตลอด....งานนี้เอาป้าสร้อยมาด้วย เพราะเขาคงไม่มีเวลาอยู่ด้วยถ้ามาอยู่บ้านใหญ่ คุณพ่อต้องลากไปนั่นมานี่ด้วยแน่ๆ
“พี่ปันจ๋า”
“หืม”
“น้องบีไปงานด้วยนะ”
“ไม่ได้ อยู่กับป้าสร้อยที่บ้าน...”
“...................”
“งอน”
“โกรธต่างหาก”
“ยังไงก็ไปไม่ได้ แล้วจะพาไปเที่ยว”
“ น้องบีอยู่ได้” ได้ขึ้นมาเชียว พอพูดว่าจะพาเที่ยว....รถจอดเทียบบ้านหลังใหญ่ ก่อนจะมีคนออกมาต้อนรับและเอาของขึ้นไปบนห้องเขา คงต้องให้นอนด้วยกัน...เพราะเจ้าตัวบอกว่าไม่อยากนอนคนเดียว...
“คุณป๊า!”
“คุณพ่อสวัสดีครับ” สนิทไวเกินไป เจอกันก็วิ่งเข้าไปกอด จนคนในบ้าน มองกันหมดทุกคน และพ่อเขาก็ช่างกอดตอบและยิ้มรับเหมือนกับดีใจที่ได้พบกัน....ไม่ค่อยเห็นหรอกมุมนี้ของเสี่ยพี....
“ว่าไงน้องบี คิดถึงป๊าไหม”
“คิดถึงที่สุดเลยครับ” นั่นไง เข้ากันได้ดีจริงๆ ด้วย เข้ากันจนน่ากลัวว่าเขาจะตกกระป๋อง...กอดกันเดินเข้าบ้านไปแล้ว...ไม่ชวนเขาซักคำนะคุณป๊า
“ ปัน พรุ่งนี้พ่อจะฝากฝังแกกับคนสำคัญคนนึง ที่จะทำให้แกเดินทางนี้ได้สะดวก”
“...ครับ คุณพ่อ...” ไม่อยากรับปากอะไรทั้งนั้น มองคนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังนั่งจ้องจอทีวีที่มีการ์ตูนวิ่งไปมาอยู่....คุณพ่อคงจะสั่งให้ใครเปิดให้..
การที่น้องบีมาอยู่บ้านหลังนี้ มันก็ไม่ใช่ผลดีซักเท่าไหร่....และดูเหมือนว่าคุณพ่อพยายามจะถึงเขาเข้ามาสู่หนทางที่วางไว้ให้เรื่อย ๆ …และการที่พาน้องบีมาด้วย เพื่อตัดปัญหาที่เขาจะอ้างเพื่อรีบกลับไปที่ไร่....พ่อเขาคิดอะไรยาวไกลเสมอ....
“ พ่อจะพาน้องบีไปงานด้วย”
“ไม่ครับ ผมไม่พาไป!”
“ แต่พ่อจะให้ไป!”
“................” เป็นอีกครั้งที่อยากจะทัดทาน อ่านเกมส์ออกหมด....คุณพ่อสนุกตรงไหนที่จะใช้ใครต่อใครเป็นเครื่องมือเพื่อบังคับเขาให้เดินตามทางของตัวเอง...ถึงจะทำได้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่ง.....ที่เขาต้องการ ...คงต้องหาทางพาน้องบีกลับไปอยู่ไร่ให้เร็วที่สุด..รวมถึงตัวเขาเองด้วย...
*** มาซะดึกเลย ขอบคุณทุกเมนท์ทุกเป็ด ทุกบวก มีำกำลังใจแต่งต่อไปเรื่อย ๆ เลยจ้า หวังว่าทุกคนเรื่องนี้ค่ะ