++++ ก็แค่บอกว่ารัก...มันยากนักเหรอ ++++ >>จบแล้ว ย้ายได้เลยครับ [09/02/12]<<
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ++++ ก็แค่บอกว่ารัก...มันยากนักเหรอ ++++ >>จบแล้ว ย้ายได้เลยครับ [09/02/12]<<  (อ่าน 93834 ครั้ง)

ออฟไลน์ MinKKniM

  • 난 널 사랑해 동해
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
อะจึ๋ยยยย เอ่อ น้องเวอร์แน่ใจนะว่าอยู่ ม.2 ทำไมดูแกเชี่ยวมากถึงมากที่สุด   :haun5:

Kiss Koki

  • บุคคลทั่วไป
เด็ก ม. ต้น เหรอเนี่ย โหะๆๆ ร้อนแรงจริงเล้ย เวอร์ :m25:

Violet_Melon

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 21:  เรื่องคืนนั้น....(จบ)

   “อะ อ๊า....”และแล้วผมก็ปล่อยความรู้สึกอัดอั้นทั้งหมดออกมา



   ....ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะรู้สึกอุ่นๆ แฉะๆ ที่กลางลำตัว ประกอบกับความรู้สึกวาบหวิวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทำให้ผมต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา ทันทีที่ลุกขึ้นนั่งผมก็กวาดสายตาหามัน แต่ผมกลับผมาว่ามีผมเพียงคนเดียวที่นอนอยู่บนเตียง .... เฮ้ออออ รอดตัวไปที นึกว่าเป็นเรื่องจริงซะอีกที่แท้ก็ฝันไปน่ะเอง แล้วผมก็นึกขึ้นได้รีบก้มมองดูเป้าตัวเอง อะโหยยยยยยยยยย เหนียวแฉะทะลุกางเกงนอนเลยเชียว
   

   ผมนั่งเหม่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน แล้วรู้สึกอายมาก ดันฝันเปียกถึงไอ้เวอร์มันซะได้ น่าอายจริงๆเชียว มันก็นะ...บ้ากามจริงๆ ขนาดในฝันมันยังตามมาลวนลามผมซะได้ แล้วแบบนี้ผมจะรอดมือมันไปได้ซักกี่น้ำล่ะเนี่ย คิดแล้วกลุ้มใจจริงๆนานเท่าไรก็ไม่รู้ที่ผมนั่งเหม่อจนไม่รู้ว่ามีคนแอบมานั่งข้างหลังผมตั้งแต่เหมื่อไร กว่าจะรู้ตัวผมก็โดนขโมยหอมแก้มไปแล้ว

   “เชี่ยยยยย” นี่ไงคำทักทายยามเช้าสำหรับมัน ผมหันกลับไปกะจะด่ามันต่อ แต่มันกับขโมยหอมแก้มผมจากอีกด้านหนึ่ง

   “ไอ้เลววววว” โดนมันหอมแก้มไป 2 ที แล้วมันก็เอามือจะมาบีบก้นผมที่นั่งชันเข่าอยู่ตรงระเบียงหน้าห้อง แต่ว่ามือมันกลับไม่โดนก้นผมน่ะสิ ก็ตอนที่ผมนึกถึงเรื่องฝันเมื่อคืน ทำให้เจ้าโมน้อย มันตื่นขึ้น ดันกางเกงโป่งไปทางด้านหลังซะแข็งโป๊กเชียว มือมันเลยไปโดนเจ้าโมน้อยแทน

   “เฮ๊ยยย!!!!” ผมกับมันร้องพร้อมกัน

   “ฮ่าๆๆ คิดอะไรลามกแต่เช้าเลยมึง แข็งโป๊กเชียวนะ ฮ่าๆๆๆ คิดลามกถึงใครหราาาา ฮ่าๆๆ” มันหัวเราะลั่น แล้วอวิ่งโกยอ้าว ไปเลย งืออออ ไอ้โมอายโคตรรรรรรร มันจะรู้มั้ยเนี่ยะว่าผมคิดลามกถึงมันน่ะแหละ แถมฝันเปียกด้วยอีกตะหาก
 
   เพื่อนๆคิดดูสิ มันสุดแสนจะแสบสันต์กับผมขนาดนี้ แล้วจะให้ผมไปรักมันลงได้ยังไงเนี่ย คงต้องรอไว้ชาติหน้าตอนบ่ายๆแล้วมั้งผมถึงจะทำใจรักมันได้น่ะ และความรู้สึกเดียวที่ผมรู้สึกกับมันอยู่ตอนนี้ก็คือ




   …






   …






   …
   

   “ไอ้เชี่ยเวอรรรรรรร์ ไอ้เลว มึงตายยยยยยยยยยย”




ตอน 22: ประกาศิต




   อาจารย์ใหม่ไฟแรงมากครับ สั่งการบ้านเยอะโคตรๆ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ งานเยอะมากๆ แล้วสัปดาห์หนึ่งมีเรียนตั้ง 4 คาบ อาจารย์เล่นสังงานซะทุกคาบ แถมต้องไปท่องศัพท์กริยาสามช่องกับอาจารย์ทุกวันตอนเที่ยง ให้ได้สัปดาห์ละ 30 คำ ใครท่องไม่ครบก็โดนตีตามจำนวนคำที่ท่องไม่ครบเลยล่ะ มีนิทานภาษาอังกฤษที่ต้องแปลส่งอีกสัปดาห์ละ 1 เรื่อง และการบ้านในคาบเรียนอื่นๆอีกมากมาย ตัวผมเองน่ะไม่มีปัญหาหรอก ผมทำได้อยู่แล้ว แต่คนอื่นๆในห้องน่ะสิ บ่นกันอุบเลยอ่ะสำหรับคนอื่นมันเป็นเรื่องที่ยากมากมาย ทำไม่ครบบ้าง ทำไม่ได้บ้าง โดนตีกันแทบคน ทุกวันที่มีเรียนภาษาอังกฤษ ยกเว้นไอ้โมคนเดียว ฮ่า ฮ่า ไม่ใช่เด็กเส้นอะไรหรอก ถึงผมจะเกเร(นิดหน่อยอ่ะ) ยังไงการเรียนผมก็ไม่เคยทิ้งนะครับ ขยันทำงานส่งตลอด การบ้านก็ทำครับ แล้วอาจารย์จะหาเรื่องที่ไหนมาตีผม อาจารย์อ๋อยเองก็ดูท่านจะเอ็นดูผมมากอ่ะครับ ก็จะชมผมต่อหน้าเพื่อนตลอด จนผมแทบจะตัวลอย

   แต่ก็นั่นแหละคนรักเท่าผืนหนังคนชังเท่าผืนเสื่อ มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด อาจารย์แกคงเอาผมไปชมต่อหน้าคนอื่นจนทั่วโรงเรียน ทำให้มีทั้งคนที่ชื่นชอบผม ทั้งอาจารย์ รุ่นพี่รุ่นน้อง แล้วก็มีพวกที่หมั่นไส้ผมอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว หลายครั้งที่ผมเดินไปได้ยินพวกที่พูดให้ร้ายผม ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนในห้อง ผมก็ว้ากแตกเลย เพราะตามนิสัยผมแล้วไม่ยอมใครง่ายๆ ตาต่อตาฟันต่อฟัน ทำอะไรก็ทำซึ่งๆหน้า ไม่ชอบหลับหลัง และเพราะนิสัยแบบนี้ของผมแหละ ทำให้อาจารย์หลายคนไม่ชอบผม เค้าหาว่าผมก้าวร้าว

   ช่วงแรกๆไอ้โมก็รอดคมไม้เรียวของอาจารย์อ๋อยมาได้ตลอด แต่จนแล้วจนรอดผมก็ไม่วายโดนอาจารย์อ๋อยแกฟาดด้วยไม่เรียวอยู่ดี มาดูละกันว่าผมโดนแกตีด้วยเรื่องอะไรบ้าง
   เรื่องแรกที่ทำให้ผมโดนอาจารย์อ๋อยตีประจำ อย่างที่เกริ่นๆไว้ตอนต้นเรื่อง ว่าผมน่ะเก่งภาษาอังกฤษ ส่วนไอ้เพื่อนผมสามคนนั่น ภาษาอังกฤษมันง่อยยิ่งกว่าอะไร เพราะฉะนั้นเวลามีงานกลุ่ม หรือการบ้านทีไร วิธีที่พวกมันจะมีงานส่งก็คือลอกผมนั่นเอง ช่วงแรกๆก็ไม่ค่อยเท่าไร ลอกกันอยู่ 4 คน อาจารย์ยังจับไม่ได้ แต่พอหลายครั้งเข้า เริ่มมีเพื่อนๆคนอื่นมาลอกด้วย จนกลายเป็นว่าทำงานไปส่งเหมือนกันหมดเกือบทั้งห้อง งานนั้นโดนอาจารย์สวดยับ แถมโดนฟาดก้นยกห้องเรียนกันไปคนละ 3 ที แต่ผมอ่ะดิ โดนหนักสุด 6 ทีโทษฐานที่ช่วยเพื่อนในทางที่ผิด ฮืออออ อะไรกันเนี่ย ปกติถ้าเป็นอาจารย์คนอื่นไอ้โมคงจะเถียงคอเป็นเอ็นแหละครับ ว่าผมไม่ผิด มันหยิบเอาของผมไปลอกเอง แต่กับอาจารย์อ๋อยผมเถียงไม่ออกจริงๆ ไม่สิต้องบอกว่าไม่กล้าเถียง ด้วยความที่เคารพอาจารย์แกมาก แล้วผมก็รู้ว่าแกเอ็นดูผมมาก ผมก็เลยยอมรับผิดแต่โดยดี คนรักยิ่งมีเท่าผืนหนังอยู่รักษาไว้ดีกว่า

   แล้วอาจารย์แกยังลงโทษผมให้ไปช่วยงานด้วยอีก 1 อาทิตย์ หลังจากทำโทษเสร็จอาจารย์ก็เรียกผมเข้าไปคุยตามลำพัง อาจารย์ให้เหตุผลว่าที่ต้องทำโทษผมมากกว่าคนอื่นไม่ใช่ว่าผมผิดมากกว่าคนอื่น แต่เป็นเพราะผมรักเพื่อนในทางที่ผิดต่างหาก ถ้าผมให้เพื่อนลอกงาน ต่อไปเรื่อยๆ ในภายภาคหน้าเพื่อนก็จะทำงานเองไม่ได้เลย จะไปสอบก็ไม่ได้ เอาไปใช้งานจริงก็ไม่ได้ อีกอย่างครูเค้าต้องการให้เพื่อนๆเห็นว่าถ้าพวกเพื่อนๆลอกผมอีก ผมก็จะโดนทำโทษมากกว่าคนอื่นอีก เป็นการสร้างความสามัคคีทางอ้อมด้วย(แต่ไม่รู้ว่าเพื่อนๆใน้หองมันจะสำนึกกันบ้างมั้ยเนี่ยะ) พออาจารย์สอนเสร็จผมก็ถึงเข้าใจเหตุผล แล้วก็ไม่เคยนึกโกรธอาจารย์เลย แต่... ฮ่า ฮ่า ก็ตอนนั้นพวกผมยังเด็กกันอยู่นี่นา อาจารย์สอนครั้งเดียวจะไปเข้าหูอะไร สรุปว่า เหตุการเดิมๆ ก็ยังเกิดขึ้นอยู่ คือ ลอกการบ้านกันยกชั้น แล้วอาจารย์ก็เรียกไปตียกชั้นตามระเบียบ

   เรื่องที่สองที่ทำให้ตูดไอ้โมเต้นเป็นแผ่นดินไหว ก็เพราะไอ้เวอร์นี่แหละ หลังจากวันที่มันทำผมเจ็บที่แปลงเกษตรวันนั้น มันประคบประหงมผมอยู่ได้ไม่กี่วัน ผมเองก็หลงคิดไปว่า มันคงจะเลิกแกล้ง เลิกกวนบาทาผมซะที ที่ไหนได้มันดีกับผมได้ไม่กี่วัน มันก็กลับมาเป็นไอ้เวอร์คนเดิม คนที่ผมอยากจะจับมันกดน้ำซักวันละสี่ห้าหน เนื่องจากที่มันชอบกวนประสาทผมไม่เลือกเวลา สถานที่ แล้วผมก็โวยมันได้ไม่เลือกเวลาและสถานที่เหมือนกัน ทำให้มีอยู่ครั้งหนึง ณ คาบเรียนภาษาอังกฤษ ขณะที่ผมยืนตอบคำถามอาจารย์อ๋อยเสร็จ และก็กำลังจะนั่งลง...

   “เหวอออ ตึง โครมมม!!” พร้อมกับเสียงหัวเราะ ฮาครืน กันทั้งห้อง ไม่เว้นแม้แต่อาจารย์ เพราะอะไรน่ะเหรอ ไอ้เลวเวอร์มันดึงเก้าอี้ผมหลบ พอผมนั่งก็เลยหงายท้องเต็มแรง มือก็ไปฟาดโต๊ะล้ม ตูดก้นจ้ำเบ้า ขาชี้ฟ้ากันเลยทีเดียว เจ็บก็เจ็บนะ แต่ก็อายมากกว่า แต่ก็รีบลุกขึ้น พอลุกขึ้นได้ผมก็กระชากคอเสื้อไอ้เวอร์ ที่ตอนนี้มันกำลังหัวเราะตัวงอ

   “ไอ้เหี้ยเวอร์ ทำค...ย อะไรวะ แม่งกวนตีนกูซะแล้วสัตว์นี่” โหยไอ้โมโกรธจัด สบถคำหยาบออกมาเต็มเลย สำหรับพวกผมคำพวกนี้ถือว่าเป็นคำปกติ แต่สำหรับอาจารย์แล้วมันไม่ใช่

   “นายศุภชัย เธอพูดอะไรน่ะ หยาบคายมาก”

   “ก็ อาจารย์ มันแกล้งผม อาจารย์ก็เห็น”ผมเถียง

   “ครูเห็น แต่ว่าทำไมเธต้องหยาบคายขนาดนั้นด้วย”

   “ก็ มัน...”

   “ยังอีก พูดกับเพื่อนน่ะให้มันเพราะๆหน่อยสิ”ผมก้มหน้า มองไปทางไอ้เวอร์ตอนนี้มันหยุดหัวเราะแล้ว คงรู้ว่าผมโกรธจริง

   “ครูเห็นบ่อยแล้วนะ เธอน่ะพูดไม่เพราะเลย” งือออ อาจารย์ผมไม่ผิดน๊า ยังแอบเถียงในใจ

   “ครูรู้นะว่าเธอเรียนเก่ง ชอบช่วยเหลืออาจารย์ แต่คิดดูสิ ถ้าเธอยังไม่ปรับปรุงเรื่องคำพูดคำจา ก็จะไม่มีใครอยากพูดกับเธอ เธอรู้มั้ยว่าถ้าเธอพูดเพราะอีกหน่อย คงจะมีใครต่อใครรักเธอขึ้นอีกเยอะ”

   “...” ผมได้แต่ก้มหน้า

   “เอาล่ะ เพราะฉะนั้นครูจะทำโทษเธอ ที่เธอพูดจาหยาบคายในห้องเรียน” ง่า อาจารย์อ่ะ ผมไม่ผิดซะหน่อย แล้วผมก็โดนเรียกไปหน้าห้อง

   ฟั่บ!ฟั่บ! ฟั่บ! ไอ้โมโดนไป 3 ทีแล้วก็เดินกลับเข้าที่ แอบมองไอ้เวอร์ มันทำหน้าสลด เดี๋ยวตอนหมดคาบมึงโดนกูเอาคืนแน่ แต่เจ็บใจอ่ะทำไมตูโดนคนเดียววะ

   “เอาล่ะ ถึงคิวเธอละออกมาข้างหน้าห้องนายเฉลิมพล”เจร้ยยยย ฮ่า ฮ่า มึงก็โดนเหมือนกูละว้า ผมมองหน้าแล้วยักคิ้วให้มัน มันบ่นอุบอิบ แต่ก็ลูกเดินไปหน้าชั้นแต่โดยดี

   เปี๊ยะ!  เปี๊ยะ! เปี๊ยะ! เปี๊ยะ! เปี๊ยะ! เปี๊ยะ! สรุปว่าไอ้เวอร์โดนไป 6 ที ฮ่าๆๆ

   ขออธิบายว่าทำไมไอ้โมดัง ฟั่บ ไอ้เวอร์ ดังเปี๊ยะ คือไอ้โมตัวเล็กไง ใส่เสื้อกับกางเกงตัวใหญ่กว่าตัวเองนิดหน่อย บวกกับใช้เทคนิคการเด้งหลบไม้เรียว เลยทำให้ไม่เรียวไปลงที่ผ้ากางเกงหมด สรุปว่าวันนั้นไอ้โมโดนตี ไม่เจ็บเท่าที่ควร แต่ไอ้เวอร์น่ะเหรออย่างที่เคยบอกมันตัวใหญ่ แล้วก็เป็นคนมีเชปด้วย โดยเฉพาะก้นมันน่ะ งอนดีทีเดียว กางเกงมันก็ใส่แบบพอดีตัว ทำให้ไม้เรียวแต่ละทีทีลงมาทีก้นมัน โดนเนื้อมันเต็มๆ เอิ๊กๆๆ สมน้ำหน้า แกล้งกูดีนัก

   “แล้วก็เธอสองคน” หมายถึงผมกับไอ้เวอร์

   “ถ้าครูเห็นเธอ สองคนทะเลาะ หรือแกล้งกันอีก ครูจะตีพวกเธอคนละ ครึ่งโหล”  เจร๊ยยยย!!!!!  จารย์อ่ะ ผมไม่เกี่ยวซะหน่อย มันต่างหากที่ชอบแกล้งผม พออาจารย์ออกไป

   “เห็นมั้ย ไอ้ควายเวอร์ เล่นไม่รู้จักกาละเทศะ”

   “มึงแหละ โวยวายไม่เข้าเรื่อง โดนเลยกู เจ็บชิบ”

   เหอๆๆ สมน้ำหน้ามึงแล้วไอ้เลวเวอร์ สาดดด อ้าว....กูก็โดนด้วยนิหว่า เจ็บๆๆๆๆ

Violet_Melon

  • บุคคลทั่วไป
ตอนพิเศษ : คำที่ห้ามพูด

   ช่วงนี้แทบจะเหมือนว่า แกงค์ผมเหลือกันสามคน พักเที่ยงไอ้ตุ๊ไม่รู้มันเป็นไร หายหัวตลอด หลังๆมาจึงได้รู้ว่า มันไปขลุกอยู่กับอาจารย์เก้ บางที่ผมก็นึกหมั่นใส้มันนะ ก็ทำงอนๆมันบ้าง ว่ามันว่าไม่ค่อยใส่ใจผมเลย ปล่อยให้ผมอยู่กับไอ้เวอร์สองคน ไอ้อุ้ยก็ติดหญิง มันก็มาง้อบ้าง บอกว่าต้องทำหน้าที่ลูกศิษย์ที่ดี อาจารย์ให้ไปช่วยงาน ผมก็นอยด์มันไปตามระเบียบ

   ส่วนที่แลดูจะมีความสุขเป็นพิเศษก็ไอ้เวอร์นี่แหละ มันก็ดีจริงๆ(หรือว่าไม่ดีหว่า) อยู่กับผมติดหนึบ ผมไปไหนมันไปนั่น (แต่มันก็ยังไม่เลิกกวนบาทาผมอยู่ดี -*-) แล้วดูช่วงนี้มันจะอารมณ์ดีซะเหลือเกิน ดีสำหรับมันจริงๆแหละ แต่ว่าร้ายสำหรับผม ก็ช่วงนี้สิ อยู่กับมันตลอดมันนึกจะแต๊ะอั๋งผมตอนไหนก็ทำ ไม่เคยจะแคร์สายตาคนอื่ นึกยากจะกอดก็กอด อยากจะหอมแก้มก็หอม อยากจะนอนหนุนตักก็นอน แถมผมต้องบีบสิวให้มันอีกตะหาก ครบเลย แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้อยู่แค่สองคนตลอดหรอกครับ ก็ยังมีเพื่อนในห้องคนอื่นๆ ที่สนิทกัน ผมก็ตามไปเล่นกับพวกมัน นั่งเกาะกลุ่มกับพวกมัน ขอแนะนำตัวเพื่อนคนอื่นๆบ้างละกัน

   ไอ้เนียร --> ชายหนุ่มผิวขาว หน้าเหลี่ยมเล็กน้อย สูงประมาณ 165 เซนติเมตร, ฉายา ไอ้ขี้เมา เพราะชอบแอบเอาเหล้า 40 + น้ำแดง ใส่ขวดเอ็มร้อยเข้ามากินในโรงเรียน

   ไอ้เก --> ชื่อว่าเก แต่ไม่ได้เป็นเกย์นะครับ แค่วายเฉยๆ ไอ้นี่ก็จัดว่าหล่อมากเลยครับ ขาวตี๋ ปากแดง สเปคสาวๆเลยล่ะ ตอนเรียนมันฮ็อตไม่แพ้ไอ้เวอร์เลยล่ะ หุ่นดี ก้นงอนเลย สูงราวๆ 175, ฉายา ไอ้นิ้วแตก ที่ได้ฉายานี้มาเพราะตอนมอหนึ่ง เทอมสอง ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงหน้าหนาวครับ ลมก็จะแรงๆหน่อย ไอ้เกก็ดันไปยืนอยู่ข้างประตู ด้วยความที่ไม่ทันระวังตัวลมเลยพัดประตูหนีบนิ้วแตก อาจารย์เอามาประกาศเตือนหน้าเสาร์ธง ทุกคนเลยรู้กันไปทั้งโรงเรียน อีกชื่อนึงที่เพื่อนๆชอบเรียกมันคือแอนดริว ไอ้นี่เป็นคนที่ราบสูงครับ แต่หน้าตาเสือกออกไปทางลูกครึ่ง แถมไปละม้ายคล้ายคลึงกับพระเอกดาวรุ่งในตอนนั้น แอนดริว เกร๊กสัน อีกต่างหาก

   ไอ้เทพ --> ฉายาไอ้มืดครับ ไม่ต้องเดานะว่าทำไม เพราะมันขาวแต่ลูกตา

   ไอ้เอ็กซ์ --> ฉายาไอ้บ้ากาม เพราะชอบแอบเอาหนังสือโป๊ กับหนังโป๊มาโรงเรียน หนังโป๊ที่เอามาเปิดดู จนเกิดเรื่องราวระหว่างผมกับไอ้ตุ๊ ก็มันนี่แหละครับที่เป็นคนเอามา

   ไอ้จา --> ฉายาไอ้หมู เพราะขนาดตัวของมัน

   แล้วก็ยังมีเพื่อนๆอีกหลายคน เนื่องจากอย่างที่เคยอธิบายไปแล้ว เพื่อนๆผู้ชายในห้องมีน้อย เลยทำให้ทุกคนสนิทกันหมด เวลาไปไหนก็จะเฮโลไปด้วยกันหมด

   วันนั้นพวกผมก็มาจับกลุ่มกันที่สนามฟุตบอลครับ มีเพื่อนๆจากห้องอื่นมาเล่นด้วย ส่วนผมก็นั่งเชียร์จากข้างสนาม เพราะฝีมือทางด้านกีฬาของผมนั้น มันเข้าขั้นเทพพพพพ (ประชด) กลุ่มที่ผมไปนั่งด้วยนั้น มีสองสามคนที่มาจากโรงเรียนประถมเดียวกับที่แม่ไอ้เวอร์สอนอยู่ ได้ยินเสียงมันคุยถึงไอ้เวอร์ ผมเลยนั่งฟังอยู่เงียบๆ

   “ไอ้เวอร์มันโชคดีว่ะ กูละอิจฉามัน เกิดมาทั้งหล่อ ทั้งหุ่นดีวุ้ย แถมแม่มันก็เป็นครูสอนหนังสืออีก มันเรียนเก่งด้วยป่าววะ แม่งจะเพอร์เฟคเกินไปละ”

   “ได้ข่าวว่า มันก็เรียนเก่งอยู่นะ แถมเล่นบาสเก่งด้วยว่ะ สาวๆกรี๊ดกันตรึม”

   “ก็แน่ล่ะ ตัวสูงขนาดนั้นมันก็ได้เปรียบสิ ยิ่งกีฬาสีที่ผ่านมานะ อยู่ทีมเดียวกับไอ้ตุ๊ มันเลยได้เป็นแชมป์อย่างไม่ต้องสงสัย”

   “เฮ้ย แต่กูก็ได้ข่าวมานะ ไอ้นี่มันผีเข้า ผีออก ตอนอยู่โรงเรียนเก่า ได้ข่าวว่ามัน ไปอัดรุ่นพี่คนนึงซะปางตายเลย แถมไอ้คนนั้นดันเป็นลูกนักเลงแถวนั้นซะด้วย แม่มันก็เลยต้องย้ายมันมาอยู่โรงเรียนเดียวกับที่แม่มันสอนนี้แหละ”

   “เฮ้ย จริงอ่ะ ทำไมวะ”

   “ก็เห็น ว่าไอ้รุ่นพี่คนนั้นทะเลาะกับมัน เลยไปด่าลามปามถึงพ่อ ไอ้เวอร์ มันเลยสติหลุด ซัดกับไอ้นั่นซะปางตาย”

   “เฮ้ย มันรักพ่อมันขนาดนั้นเชียวเหรอวะ”

   “อื้อ กูได้ยินมาว่า พ่อมันตายตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อน เพราะอุบัติเหตุน่ะ แล้วมันก็รักพ่อมันมาก ใครลามปามถึงพ่อมันที่ไร ได้สติขาดผึงทุกที”

   ผมนึกในใจว่า อ๋อ ถึงว่าทำไมที่ด่ามันลามไปถึงพ่อแม่มันทีไร มันสติขาดทุกทีเลย นี่สรุปว่าที่ผมรอดมาได้ มันออมมือให้ผมใช่ไหม่เนี่ย ไม่งั้นตอนนั้นผมคงชะตาขาดไปแล้ว นึกไปนึกมาก็อดสงสารมันไม่ได้ ผมเองมีพ่อกับแม่ครบ เวลาพ่อกับแม่ไม่อยู่บ้านสองสามวัน ผมยังเหงาจะแย่ แล้วนี่พ่อมันเสียไปแบบนี้ เหลือแม่แค่คนเดียว มันจะเหงาขนาดไหนกันนะ

   ผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ที่ครั้งหนึ่งเคยไปด่าลามปามถึงพ่อ ถึงแม่มัน ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากจะไปขอโทษมันจริงๆ

   สักพักเสียงออดว่าได้เวลาคาบต่อไปก็ดัง เพื่อนๆก็ทะยอยแยกย้ายกันกลับขึ้นห้องเรียน ไอ้เวอร์ตะโกนบอกผมว่าไปเจอกันที่ห้องเรียนเลย มันไปล้างเนื้อล้างตัวก่อน เดี๋ยวตามขึ้นไป


artit

  • บุคคลทั่วไป
โมเริ่มเห็นใจเวอร์แล้ว
แต่งงประโยคนี้อ่ะ
อ้างถึง
ตอนที่ผมนึกถึงเรื่องฝันเมื่อคืน ทำให้เจ้าโมน้อย มันตื่นขึ้น ดันกางเกงโป่งไปทางด้านหลังซะแข็งโป๊กเชียว
มันดันไปยังไง จากข้างหน้าไปข้างหลัง มันงอไปหรือยังไง คือไม่ได้ทะลึ่งแต่งงว่ามันไปยังไง  :o8:

ออฟไลน์ GeTOuTNoW

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 415
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ ขอบคุณค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
สนุกจัง  :m4:
ตุ๊ไปกับอ.เก้น่ะดีแล้ว เชียร์เว่อร์สุดใจ
ก๊ากกกกก 55555

รออ่านตอนต่อไปอยู่น้า
+1 ให้จ้า รออยู่จุ๊บๆ


Violet_Melon

  • บุคคลทั่วไป
ตอน 23: เจ็บแปลบ

   หลังจากที่ได้อาจารย์ประจำชั้นคนใหม่ อาจารย์เก้ก็มักจะเรียกพวกผมเข้าไปช่วยงานบ่อยๆ โดยเฉพาะช่วงนี้ไกล้สอบปลายภาคแล้ว อาจารย์เลยให้ไปช่วยตรวจงานรุ่นน้องมอหนึ่ง พวกผมก็ยินดีไปช่วยแหละครับ เพราะอาจารย์เลี้ยงขนมด้วยแหละ อิอิ ไอ้โมเห็นแก่กิน

   เวลาผมอยู่ต่อหน้าอาจารย์เก้ ผมกับไอ้เวอร์ก็จะเรียบร้อยเลยครับ เพราะว่าอาจารย์แก้กับอาจารย์อ๋อยแกจะฮั้วกันครับ ถ้าผมทะเลากับไอ้เวอร์หรือพูดจาไม่เพราะ อาจารย์เก้แกจะบอกกับอาจารย์อ๋อยครับ แล้วผมจะโดนฟาดเอา

   จะว่าไปหมู่นี้ไอ้ตุ๊ มันแปลกครับๆ ไม่ค่อยมาเจ๊าะแจ๊ะ กับผมซักเท่าไร อ้อแล้วช่วงนี้มันไม่เห็นไปจีบสาวๆวะ ปกติเห็นมีพี่ๆมาตามจีบ มันก็ไปนั่งคุยนั่งเล่นกับเค้าซะทุกที แต่หมู่นี้มันชอบแว้บหายไปไหนไม่รู้บ่อยๆ ไอ้อุ้ยยิ่งไม่ต้องพูดถึง มันน่ะชอบทำตัวล่องหนไปกับพี่ญา ของมันอยู่แล้ว ทิ้งผมไว้กับไอ้เวอร์ ซึ่งแทบจะไม่เคยได้คุยกันดีเกิน 5 นาที

   วันนี้ทานข้าวเที่ยงเสร็จ ไอ้ตุ๊ก็รีบลุกออกมาก่อน บอกว่าเดี๋ยวรีบไปช่วยงานอาจารย์เก้ ผมก็บอกกับมันว่า เออ เดี๋ยวพวกผมตามไป ผมก็นั่งกันต่ออีกแป๊บนึงแล้วก็ตามมันขึ้นไป ส่วนไอ้อุ้ยมันบอกเดี๋ยวตามไป มันคงจะแวบไปหาแฟนมันอีกตามเคย พอผมกับไอ้เวอร์มาถึงก็เห็นมันนั่งหน้าแป้นแล้นอยู่กับอาจารย์เก้แล้ว ผมก็เข้าไปช่วยงานอาจารย์เลยครับ มีช่วยตรวจการบ้าน กรอกคะแนน ทำบอร์ดประชาสัมพัธ์ อะไรประมาณนั้น ไม่นานไอ้อุ้ยก็ตามขึ้นมา พร้อมขนมอีกสองสามถุง สงสัยแฟนมันจะซื้อมาฝาก หวานคอแร้งอีกละตู

   ตลอดเวลาที่ทำงาน ผมเห็นไอ้ตุ๊มันดูร่าเริง เชียวครับ คุยกับอาจารย์ไปยิ้มไป ดูมีความสุขซะเหลือเกิน สุขจนผมหมั่นใส้ ผมสะกิดไอ้อุ้ย ไอ้อุ้ยก็งง ผมบอกให้มันดูไปทางไอ้ตุ๊ ที่ตอนนี้กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับอาจารย์เก้อยู่

   ผม : “กูว่านะ หมู่นี้ ไอ้ตุ๊มันดูแปลกๆ”

   ไอ้อุ้ย : “แปลกยังไงวะ”

   ผม : “ก็มึงดูมันสิ คุยกับอาจารย์เก้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว ว่างที่ไร ก็เห็นมันลงมาขลุกอยู่กับอาจารย์เก้เนี่ย”

   ไอ้อุ้ย : “มึงคิดมากไปป่าว ก็เห็นนักเรียนคนอื่นๆก็มาช่วยงานอาจารย์บ่อยๆ”

   ผม : “ไม่คิดมากอ่ะ แล้วหมู่นี้ก็ไม่เห็นมันจะไปเล่นบาสเลย กับสาวๆคนอื่นก็ไม่เห็นมันจะไปเจ๊าะแจ๊ะด้วย (กับกูด้วยแหละ) มึงดูมันสิ ยิ้มไม่หุบเลยเชียว เห็นแล้วหมั่นไส้ว่ะ”

   ไอ้อุ้ย : “อารายย หึงมันเหรอ ฮะ ฮะ”

   ผม : “หึง พ่อเมิงเส่ะ มันเป็นไรกับกูล่ะ กูถึงจะต้องหึงมัน” จริงๆก็แอบจี๊ดๆอยู่ลึกๆ

   ไอ้อุ้ย : “ก็เป็นเมียมันไง ฮ่า ฮ่า”

   ผม : เอามือทำท่าจะไปเขกหัวมันซักที แต่มันก็หลบทัน แล้วหัวเราะร่วน

   ไอ้อุ้ย : “ฮ่า ฮ่า โอเคๆกูลืมไป ตัวจริงของมึงอยู่โน่นต่างหาก” มันพูดแล้วมองไปที่ไอ้เวอร์ ที่กำลังก้มหน้าก้มตาติดรูปลงที่บอร์ด ไอ้อุ้ย เมิงตายยยยยยยยย ทำท่าจะเขกหัวมันอีกรอบ แต่ไอ้นี่มันไวครับ หลบได้อยู่ดี คิดในใจก็ขำ ไอ้นี่นะ ช่างคิดได้ แต่ถ้าได้ทั้งสองคนเลยก็ดีเหมือนกันนะ อุ๊ปส์สสสสสสสสสสส  :o8:

   หลังจากเดินออกมาจากห้องพักครู กำลังจะขึ้นไปเรียน ไอ้ตุ๊เดินมากอดคอผม อย่างเคย แต่วันนี้เนื่องจากเกิดอาการหมั่นไส้(ไม่ได้หึงน้า) ผมเลยแกะแขนมันออกจากคอผม แต่มันไม่ยอมแพ้ เอากลับมากอดใหม่ ผมก็แกะมือมันออกอีก มันก็เอามากอด ผมก็แกะ เป็นอยู่อย่างนี้หลายที

   “เป็นอะไรอีกเนี่ย” ไอ้ตุ๊โวยใส่ผม

   “เปล่า อึดอัด”

   “เปล่าแล้วนี่อะไรเนี่ย มาแกะมือกูออกทำไม”

   “หนัก รำคาญ” ผมพูดเหวี่ยงๆ ไม่มองหน้ามัน

   “อะไรของมึงเนี่ย เอาใจไม่ถูกแล้วนะ”

   “เอาใจไม่ถูก ก็ไม่ต้องมายุ่งกับกู อยากไปไหนกับใครก็เชิญ”

   “เอ๊า กูพูดดีๆนะเนี่ย เมนส์ไม่มารึไง” แง่งงงง มันยิ่งพูดยิ่งทำให้ผมของขึ้นนะเนี่ย

   “เมนส์พ่องเส่ะ กูไม่ใช่ผู้หญิง”

   “เอ๊าไอ้นี่ ลามถึงพ่อกู เดี๋ยวกูก็โบก” มันทำท่าจะตบหัวผม คงคิดว่าผมจะหลบ แต่ผมไม่หลบ หันมาจ้องมันตาเขียว จนมันต้องลดมือลง ผมรีบเดินลิ่วนำมันมา

   “มันไปอะไรของมันวะเนี่ย ไอ้อุ้ย” ไอ้ตุ๊หันไปถามไออุ้ย

   “มึงไม่รู้จริงอ่ะ”

   “ฮึ?” ไอ้ตุ๊ส่ายหน้าทำหน้างง

   “ก็สมควรแล้วที่มันจะโกรธมึงอ่ะ ไอ้ควายยยยยย” ไอ้อุ้ยพูดแล้วรีบเดินตามผมมา ปล่อยให้ไอ้ตุ๊งงเป็นไก่ตาแตก

   “ฮะฮะ ควายตัวเบ้อเร่อ ดูสิเขางอกเต็มหัวเลยวุ้ย” ไอ้เวอร์หัวเราะเยาะ เอามือไปขยี้หัวไอ้ตุ๊

   “เชี่ยยยยย อะไรของพวกมึงวะ เดี๋ยวกูเตะ” ไอ้ตุ๊ทำท่าจะเตะไอ้เวอร์ แต่ไอ้เวอร์มันหลบและวิ่งมาเอามือกอดคอผม พอผมหันไปเห็นว่าเป็นไอ้เวอร์ ที่มากอดคอผม

   “งั่มมมมมมม” ผมก็งับแขนมันเข้าให้

   “โอ๊ยยยยยยย ไรเนี่ยเจ็บนะโว้ย อูยยยยย” ไอ้เวอร์โวย ละแขนออกจากคอผมแทบไม่ทัน

   “แง่งงงงง” ผมหันมาแยกเขี้ยวใส่มัน น้ำลายยืด

   “ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ” ไอ้อุ้ยกับไอ้ตุ๊  หัวเราะประสานเสียงพร้อมกัน ส่วนผมก็เดินจ้ำอ้าว ขึ้นห้องเรียนไป

   ตลอดบ่ายผมมานั่งนึกถึงเรื่องไอ้ตุ๊ งงๆ ตัวเองเหมือนกัน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมค่อนข้างแน่ใจว่า ผมไม่ได้คิดอะไรกับไอ้ตุ๊เกินเลยกว่าคำว่าเพื่อนจริงๆ อย่างที่บอกไอ้ตุ๊มีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายกับพี่ชายผม เลยทำให้ผมไม่อาจคิดอะไรเกินเลยกับมันไปเกินกว่านี้ได้ แต่ก็ยังสับสน ยังงงอยู่ ว่าไอ้อาการที่ผมกำลังเป็นอยู่นี้คืออะไร หึงเหรอ? หวงเหรอ? น้อยใจ? หรือว่าอิจฉา? มันเป็นความรู้สึกแบบไหนกันแน่ แต่ที่แน่ๆ เป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากที่ผมรู้สึกกับไอ้เวอร์

   กรณีของไอ้เวอร์นี่เป็นความรู้สึก ไม่อยากเห็นมันไปเจ๊าะแจ๊ะกับใคร ไม่อยากให้มันแสดงความห่วงใยใคร อยากให้มันอยู่ไกล้ๆ อยากให้มันสนใจผมคนเดียว
   แต่กรณีของไอ้ตุ๊นี่จะแตกต่างออกไป เวลาที่เห็นมันอยู่กับอาจารย์เก้ ผมรู้สึกอิจฉาอาจารย์เก้ อยากจะเดินเข้าไปนั่งอยู่ตรงนั้นด้วย อยากเดินไปบอกไอ้ตุ๊ว่าผมอยู่ตรงนี้นะ อยากให้มันหันมามอง มาสนใจผม ไม่ชอบที่มันทำเหมือนไม่เห็นผมอยู่ตรงนั้น

   ตอนบ่ายผมดูเงียบๆไป จนไอ้อุ้ยจับสังเกตได้ ไอ้นี่มันจมูกไวจริงๆ มันย้ายมานั่งกับผม แล้วไล่ไอ้เวอร์ไปนั่งข้างหลังกับไอ้ตุ๊ มันไม่ได้พูดอะไรกับผมมาก  แค่เอามือมาตบไหล่ แล้วก็ยิ้มๆ

artit

  • บุคคลทั่วไป
นะโม สับสนเหรอ ต้องเจอของจริงถึงจะรู้  :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
เออ น้องโมจ้า ตกลงหนูชอบใครกันแน่ o2

+ :duck1:

:L2: :L2:

ออฟไลน์ GeTOuTNoW

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 415
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
โมรู็สึกว่าตุ๊ให้ความสำคัญกับอาจารย์เก้มากกว่าตน เหมือนถูกแย่งตำแหน่งความสำคัญที่เคยเป็นของโมไป
เป็นธรรมดา เข้าใจ เหมือนน้องสาวหวงพี่ชาย อิอิ

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

Kiss Koki

  • บุคคลทั่วไป
นะโม ยังไงเนี่ย สับสนเหรอ หรือจะเก็บเอาไว้ทั้ง 2 คน เจ็บนะเนี่ย...ฮึ ๆๆ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
อ่าวว โมเอ๊ยย หวังว่าคงแค่หวงตามประสาเพื่อนที่สนิทนะ
ถ้าชอบแบบเว่ออีกไม่เอานะ
เชียร์เว่อคนเดียวว  :o12:

Violet_Melon

  • บุคคลทั่วไป
เอ่อ... เพื่อนๆครับ มีเรื่องจะสารรูป เอ๊ย!!! สารภาพครับ คือไอ้โมลงตอนผิดครับ ข้ามไปหนึ่งตอน ตอนแรกคิดว่าจะข้ามไปเลย ไม่เอามาลง แต่ไหนๆก็เขี่ยนมาแล้ว เลยคิดว่า เอามาลงเป็นตอนพิเศษละกัน ขอโทษจริงๆครับ ผมผิดไปแย้ววววววว

ตอน พิเศษ : เปลืองตัว

   ในขณะนั้น(ปี 2538 อ่าว แบบนี้เค้าก็รู้อายุคนเขียนหมดกันพอดี) คอมพิวเตอร์ถือว่าเป็นอุปกรณ์ขั้นเทพ น้อยโรงเรียนนักที่จะมีโอกาศได้เจ้าอุปกรณ์ตัวนี้มาครอบครอง และนักเรียนน้อยคนนักที่จะได้สัมผัสเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ แต่ที่โรงเรียนผม ผู้อำนวยการมีวิสัยทัศน์ก้าวไกล จึงปลูกฝังให้นักเรียนได้เรียนคอมพิวเตอร์กันตั้งแต่ชั้นมอหนึ่งกันเลยทีเดียว ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมได้มาทำอาชีพปัจจุบันของผมนี้

   แต่เนื่องจากคอมพิวเตอร์ไม่ได้มีมากพอสำหรับนักเรียนทุกคน ทำให้ต้องจับคู่นั่งกัน นักเรียน 2 คน ต่อคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่อง

   ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดอาจารย์สอนโปรแกรม Lotus 1-2-3 ที่พัฒนามาเป็น Excel ในปัจจุบัน (ใครเคยใช้มั่งหว่า รุ่น FoxPro จอดำ ,Dbase Plus ,SW สหวิริยาเวิร์ด,CU WRITER ของจุฬา อะไรพวกเนี้ย แล้วเกมคอมเกมแรกที่เคยเล่นก็คือ Bomber Man สนุกมั่กมักขอบอก)
   
   เข้าเรื่องกันต่อ สรุปว่าไอ้เวอร์มันก็นั่งกับผมเหมือนเดิม เหตุผลก็คือไอ้ตุ๊กับผม เขียนโปรแกรมเก่ง ส่วนไอ้เวอร์กับไอ้อุ้ย อ่อนคอมมาก ถึงมากที่สุด ถ้าให้นั่งด้วยกันเดี๋ยวโง่ตาย (แล้วทำไม ไอ้เวอร์ไม่ไปนั่ง กับไอ้ตุ๊ว้าาาาาา) แล้วผมกับมันนะนั่งไกล้กันเป็นเรื่องทุกที ไอ้ตอนนั่งข้างกันที่โต๊ะเรียน ก็พอทำเนาครับ เพราะโต๊ะเรียนมันเป็นแบบสอตัวต่อกัน แล้วมันก็กว้างพอดู แต่ตอนนั่งเรียนคอมน่ะครับ โต๊ะมันเป็นโต๊เดียวกัน เก้าอี้ก็เป็นแบบนั่งคู่กันอ่ะครับ มันก็เลยได้โอกาส นั่งซะชิดผมเลย แทบจะขี่คอกัน แล้วไม่ต้องพูดถึงมือไม้มันนะ...เลื้อยไปทั่ว มาเรียนห้องคอมนี่เปลืองตัวกับมันจริงๆ จะโวยวายก็ไม่ได้ อาจารย์โคตรดุ ห้ามมีเสียงแม้แต่แอะเดียว แรกๆก็พอทนได้ครับ มันก็แค่นั่งชิด โอบบ้าง หอมแก้มบ้าง แต่วันนี้ผมไม่ไหวจริงๆ

   ผมกับมันนั่งที่ประจำ(ตรงมุมหลังห้อง - - ทำไมต้องโดนเข้ามุมตลอดวะกู) อาจารย์สั่งงานเสร็จครับ ผมก็ต้องรับหน้าที่เขียนโปรแกรมทดสอบผลลัพธ์ไป ส่วนมันมีหน้าที่จดลงกระดาษคำตอบ ระหว่างที่กำลังเขียนโปรแกรม

   “ฟอดดดดด” มันแอบหอมแก้มผมครับ ผมงี้หน้าแดงแป๊ด ถึงมันจะทำแบบนี้กับผมบ่อยก็เหอะ แต่นี่มันในห้องเรียนนะ แล้วคนอื่นๆก็อยู่กันเต็มห้อง ผมทำตาดุมัน แล้วกระทืบเท้ามัน ทำปากขมุบขมิบประมาณว่า เดี๋ยวมึงจะโดน มันก็ทำท่าสลดไป



   “... ไอ้เชี่ยยยยย” ผมกระซิบด่ามันเสียงแหบ ก็มันน่ะสิ ล้วงมือเข้ามาในเสื้อ เล่นหัวนมผมอยู่ได้ ไม่ใช่เท่านั้น แต่ไอ้ที่ผมด่ามันเนี่ย มันเสือกเอาน้ำลายป้ายหัวนมผมด้วยน่ะสิ ผมอ่ะเสียวมาก เฮ๊ย!!!! ไม่ใช่โกรธมันมากตะหาก

   “มึงทำเชี่ยไรเนี่ย กูจะทำงาน เห็นมั้ย หรือว่ามึงจะมาทำเอง ถ้ามึงไม่หยุดนะ เด๋วมึงมาทำเอง”ผมกระซิบด่ามัน พร้อมกับหยิกมือมันอย่างแรง มันร้องโอ๊ย ทำท่าเจ็บ แล้วทำปากขมุบขมิบ ประมาณว่า เลิกเล่นก็ได้วะ เล่นด้วยก็ไม่เล่นด้วย

   คราวนี้มันนั่งเงียบครับ เงียบไปนานมาก ผมก็หันไปดูสรุปว่ามันหลับ มันนั่งหลับพิงผนังห้องอยู่…เออ ก็ดี ผมจะได้ทำงานอย่างราบรื่น ผมก็ทำงานจนเร็จแล้วก็เลยปลุกให้มันมาจดผลลัพธ์ที่ได้ งานผมเสร็จก่อนเวลา เหลือเวลาตั้งชั่วโมงกว่า (เรียนคอม 2 ชั่วโมงครับ) ผมก็เล่นเกมสิครับท่าน ฮ่า อ่า บอมเบอร์แมนของโปรดดด ตู๊มม ตู๊มมมม วางระเบิด กระจายยยย

   “ให้กูเล่นมั่งดิ” มันขอเล่นมัง

   “อะไรเล่า กูยังไม่ตายเลยอ่ะ”

   “โหย รอมึงตายกูก็ไม่ได้เล่นแล้ว ดูยังเหลืออีกตั้ง 3 ตัว” (จริงๆแล้วมันมีโหมดให้เล่นแบบ 2 ตัวแต่ตอนนั้นยังไม่รู้)

   “อ๊าวว ก็กูเก่งอ่ะ รอไปก่อนเลยมึง กูยังไม่ตายเมิงก็อดเล่นอ่ะ ดูกูเล่นเป็นตัวอย่างไว้ ว่าเทพๆอ่ะเค้าเป็นยังไง”

   “โหยไรวะ” มันทำท่าฟึดฟัด แต่เรื่องไรผมจะยอมกำลังมันเชียว

   ขณะที่ผมกำลัง วางระเบิดอย่างเมามันอยู่นั้น

   “กระดึ๊บ กระดึ๊บ...” แอ่ะ รู้สึกว่าจะมีปูมาใต่อยู่ในเสื้อตูว่ะ วิ่งขึ้นจากเอว ไปถึงหลัง ลามมาจนถึงต้นคอ อร๊างงงง แต่ผมกัดฟันทนทำเป็นไม่สนใจ เดี๋ยวมันเบื่อมันก็เลิกใต่ไปเอง

   แล้วก็จริงตามนั้น เมื่อร่างต้น(เหมือนจะมีสแตนเลย นั่น โจโจ้ล่าข้ามศตวรรษ เลยสิเนี่ย) ไม่สนใจ แล้วปูมันก็เลิกใต่ไป 

   มันเปลี่ยนเป็นมาโอบเอว ผมแทน -->  ไอ้โมเริ่มสยิว(จริงๆ ตั้งแต่มันปูใต่แล้วล่ะ) แต่ยังคงไม่สนใจต่อไป

   เอาคางมาเกยไหล่ผม ลมหายใจรดต้นคอ-->  ไอ้โมเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง

   พ่นลมหายใจใส่หู เลียหูตูอีกต่างหาก--> ตะคริวจะกินท้องกูละ

   งับติ่งหูไอ้โมเข้าให้-->  “อ๊า...” ผมเผลอครางออกมา รีบละมือจากคีย์บอร์ด เอามือออกมาปิดปากตัวเอง (แทนที่จะตั๊นหน้ามัน แต่ดันมาห่วงอาย) ผมมองมันตาเขียวปั๊ด หน้าแดงก่ำ (ทั้งอายทั้งโกรธ) มันยิ้มชอบใจ แต่เอร๊ยยย หันไปอีกที บอมเบอร์แมนตรู โดนแมงกระพรุนแทงใส้ไหลไปเรียบร้อย ไอ้เวอร์ ไอ้เลวววววว แล้วก็กระทืบเท้ามันไปอีกที พอผลักมันออกไปได้ ผมยังไม่ยอมแพ้ครับ รีบกลับมาตะลุยต่อ

   มันก็ไม่ยอมแพ้ครับ เอาคางมาเกยผมอีก แล้วจะบอกว่าตอนนี้ หลังจากที่ทำแบบนี้กับผมบ่อยๆ จนมันว่ารู้จุดอ่อนของผมไปทุกจุดแล้ว มันรู้ว่าทำตรงไหนผมจะนิ่ง ทำตรงไหนออกอาการ

   มันเอาคางมาเกยที่ไหล่เหมือนเดิม เริ่มเลียไปหู --> แต่ผมยังไม่สนใจ พยายามกลั้นใจสุดฤทธิ์

   มือเลื้อยมาลูบหลัง ลามไปต้นคอ -->  ลมหายใจเริ่มขาดห้วง ตอนนี้ไอ้โม โดนจู่โจมขนาดหนัก แต่ยังคงฝืน กลั้นใจไว้ได้อยู่

   แล้วมันก็ลงมาที่จุดอ่อนผมครับ นั่นก็คือซอกคอผม มันเอาจมูกมาถู --> อร๊างงง ผมก็มือไม้อ่อนสิครับ หดคอแทบไม่ทัน รีบละมือ มาผลักหัวมันออก

   “ไอ้บ้ามึงทำอะไรเนี่ย” ผมกระซิบด่ามัน เริ่มมองไปที่เพื่อนในห้อง ก็เห็นว่าทำงานกันเสร็จเกือบหมดแล้ว มีหลายคนที่หันมามองผมกับมัน มองไปที่ไอ้ตุ๊ก็เห็นว่ามันใจจดจ่อกับเกมไม่ได้หันมามองผม ไม่งั้นได้เป็นเรื่องอีกแน่ แต่พอมองไปที่ไอ้อุ้ยมันทำท่ายิ้มเผล่ เฮ๊ยยย อย่ามามองกูแบบนั้น กูโดนมันลวนลามนะ ไม่ได้เต็มใจสักหน่อย ฮือออ ผมอยากหายไปจากตรงนั้น ผมมัวแต่ด่ามันโดยลืมไปว่า

   “โม กูจะบอกมึงว่า...”

   “เชี่ยไรอีก อ๊ะ...”แล้วผมก็นึกขึ้นได้ เชี่ยยยยยย บอมเบอร์แมนกรูตายเรียบทั้ง 2 ชีวิตที่เหลือ โห...ของขึ้นเลย กว่าจะผ่านด่านมาได้ ตายหมด แถมต้องมาอายคนอื่นอีก ผมมองมันตาเขียว รีบลุกเดินออกมาจากห้องเลย ไม่กล้าโวยวายในห้องอีก อาจารย์ยังอยู่

   ผมรีบออกมา ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาเรียน เลยไม่มีคน อารมณ์เสีย หงุดหงิด ไอ้เวอร์มันเริ่มหื่นขึ้นทุกวัน ขนาดในห้องเรียนเพื่อนเยอะๆอย่างนี้มันยังกล้าทำแบบนี้ แม่งหน้าด้าน ไม่อายคนอื่นหรือไงนะ ผมดิอายจนจะแทรกผนดินหนี

   ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมา แต่ไม่ทันไรไอ้เวอร์มันก็โผล่มาด้านหลัง แล้วมันก็รวบตัวผมไว้ แล้วแล้วลากผมมาตรงม้าหินอ่อนหน้าห้องน้ำชาย เอาวางผมลงบนตักมัน

   “ปล่อยกูเลย ไม่ต้องมายุ่งกับกู ไม่เล่นเกมไปล่ะ อยากเล่นนักไม่ใช่ไง”

   “โกรธกูเหรอ ที่แย่งมึงเล่นเกมอ่ะ กูขอโทษ” กูโกรธที่เมิงมาลวนลามกูตะหาก ลูกเค้ามีพ่อมีแม่นะโว้ย

   “…”ไอ้โมเงียบ

   “ให้กูเล่นคนเดียวจะไปสนุกอะไร กูอยากอยู่ไกล้ๆมึงมากกว่านะ”

   “…” ผมยังเงียบ หันหน้าหลบมัน เพราะตอนนี้รู้สึกว่าหน้าเริ่มร้อนผ่าวๆ แล้วเอ่อ...ไอ้เวอร์มึงช่วยเอาหน้าเมิงออกไปห่างๆกูหน่อยเหอะ หายใจรดต้นคออยู่ได้ ผมนั่งทำหน้างอ แต่แขนกลับกอดคอมันซะแน่นเชียว แหะๆ (เค้ากลัวตกน่ะ ไม่ได้คิดเป็นอื่น) ว่าแต่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี่ยังไม่ไกล้พออีกเหรอวะ ตัวแทบจะติดกับกูอยู่แล้ว

   “กูไม่ได้อยากเล่นเกม แต่กูอยากอยู่ไกล้ มึงต่างหาก เข้าใจมั้ย” มันพูดย้ำ แล้วก็ประคองให้ผมหันหน้ามาหามัน สบตากันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วมันยื่นหน้าเข้ามาไกล้ ริมฝีปากแดง กับจมูกโด่งๆ ของมัน ที่ตอนนี้ดูเซ็กซี่ชะมัด ผมไม่อาจที่จะหลบไปไหนได้เลย คำพูดต่างๆของมันเมื่อสักครู่นี้ทำให้ผมได้แต่ หลับตาแล้วรอ.... (ไม่อยากใช้คำนี้เลยอ่ะ อายยยย) ...รอให้มันประทับริมฝีปากลงมาแต่โดยดี.... ไอ้โมใจเต้นตึกตัก แทบจะทะลักออกมาจากอก แล้วมันก็…

   





   มันก็...








   มันก็ ...









   “เฮ๊ยย ไอ้เวอร์ ไอ้โม ไปกินข้าวกัน มานั่งทำห่าไรกันตรงนี้วะ” เชี่ยไอ้อุ้ยกับไอ้ตุ๊มา ผมรีบโดดผึงออกจากไอ้เวอร์ โอยเกือบไปแล้วกรู เกือบโดนไอ้เวอร์มันจูบ แถมเกือบโดนไอ้สองคนนี่เห็นอีก เดี๋ยวมันช็อคกันตายห่าพอดี ผมรีบวิ่งไปหามันสองคนโดยเร็วเลย อายโคตรๆ เสือกมีอารมณ์ร่วมไปกับมันซะได้ น่าอายชะมัด ไอ้เวอร์ตะโกนบอกเดี๋ยวตามไป เห็นมันนั่งนิ่งอยู่ สักพักมันก็รีบวิ่งตามมา ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเลย ผมได้ยินมันทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ แล้วบ่นงึมงำ

ออฟไลน์ GeTOuTNoW

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 415
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
สะใจ เวอร์ไม่ได้จูบ  :laugh: :laugh: :laugh:

 :m20: :m20: :m20: :pigha2: :pigha2: :pigha2:

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

gay_love

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้น...เฮ้อ..เวอร์อด(แอบเชียร์ตุ๊)

Violet_Melon

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมตอนที่ผมโพสท์ไว้ มันหายไปตอนนึงละครับเนี่ย บอร์ดเป็นอะไรหรือเปล่า ดีนะมีต้นฉบับ เดี๋ยวลงให้ใหม่ครับ

ตอน 24: อาจารย์ฝึกสอน


   วันเปิดเรียนวันแรกของมอสามเทอมแรก เป็นประจำทุกๆปีที่ในภาคเรียนแรก จะมีอาจารย์ฝึกสอนจากสถาบันราชภัฏในตัวจังหวัด มาสอนที่โรงเรียนผม และก็เป็นวันที่พวกนักเรียนจะตื่นเต้นกันมากๆด้วย เพราะนอกจากจะเป็นวันแรกที่ได้มาเจอเพื่อนๆหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานเกือบสามเดือน ยังจะเป็นวันที่ได้เห็นหน้าอาจารย์ฝึกสอนน่าตาหน้ารักอีกด้วย พวกเราต่างยืนลุ้นว่า เทอมนี้อาจารย์ฝึกสอนจะน่ารักแค่ไหน จะได้เรียนกับอาจารย์ฝึกสอนหรือไม่


   ปรากฏว่า ในเทอมนี้มีอาจารย์ฝึกสอนมาทั้งหมด 5 คนเป็นผู้หญิงสองคน ผู้ชายสามคนครับ อาจารย์ผู้หญิงสองคนนั้นไม่ต้องพูดถึง ผมยาว น่ารัก ขาวใสเลยแหละ จำได้ว่า หนึ่งในสองคนนี้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ ของคณะที่อาจารย์เรียนอยู่ด้วยครับ แล้วไอ้โมก็เป็นคนชอบผู้หญิงผมยาวอยู่แล้วด้วย เห็นแล้วอย่างเคลิ้มเลยแหละอาจารย์สองคนนี้สอนคณิตศาสตร์ทั้งคู่ ส่วนอาจารย์ผู้ชายสอนพละศึกษา 1 คน อีกสองคนสอนวิทยาศาสตร์กับสังคมศาสตร์ ดูนักเรียนสาวๆจะตื่นเต้นกับอาจารย์สอนวิทยาศาสตร์กันน่าดู เพราะ 1 ใน 2 คนนี้ขาวตี๋ เสปคของสาวๆภูธรเลยล่ะ (พวกเด็กผู้ชายแถวนั้น คงแว้นกันมากไป ผิวเลยเกรียมกันไปซะหมดแล้ว ฮ่า ฮ่า) นานๆจะมีแบบขาวตี๋มาให้เจริญหูเจริญตากันบ้าง พวกสาวๆเค้าเลยกรี๊ดกร๊าดกันน่าดู หลังจากแนะนำอาจารย์ฝึกสอนกันเสร็จก็เลิกแถวขึ้นห้องเรียน วันนี้เปิดเทอมวันแรก ยังไม่ค่อยได้เรียนอะไรมากมาย ก็จดตารางสอนกัน อาจารย์แต่ละวิชาก็จะมาแนะนำว่าเทอมนี้จะเรียนอะไรบ้าง


   จนถึงช่วยบ่ายเป็นคาบเรียนของวิชาวิทยาศาสตร์ครับ ก็มีอาจารย์ฝึกสอนเดินเข้ามี เป็นอาจารย์ขาวตี๋คนเมื่อเช้าที่สาวๆกรี๊ดกันนั่นแหละครับ


   อาจารย์ : “สวัสดีครับ นักเรียนทุกคน แนะนำคัวอีกครั้งนะครับ อาจารย์ชื่อปิยวัฒน์ … ครับ หรือว่าเรียกอาจารย์วัฒน์ก็ได้ (แต่พวกผมไม่ค่อยเรียกชื่อเล่นอาจารย์หรอก จะเรียกชื่อจริงซะมากกว่า)


   เทอมนี้ อาจารย์จะมาสอนจะมาสอนวิทยาศาสตร์พวกเรานะครับ” พออารย์พูดจบสาวๆงี้กรี๊ดกันลั่นห้องเลย -_- เยอะไปป่ะเนี่ย


   อาจารย์ : “เอาล่ะ เดี๋ยววันนี้มาแนะนำตัวกันนะครับ ว่าชื่ออะไรกันบ้าง เริ่มจากด้านหน้านี้ก่อนเลยครับ” แล้วพวกผมก็แนะนำตัวกันไป


   มาถึงตอนนี้ขอนอกเรื่องนิดนึง คือปกติตัวผมเองเป็นคนจำชื่อคนไม่ค่อยได้ แต่จำหน้าคนเก่ง เวลาที่รู้จักกับใครใหม่ๆจะจำชื่อคนไม่ค่อยได้ ต้องใช้ความคุ้นเคยกันซักพักนึง ผมถึงจะจำได้ หรือไม่ก็คนๆนั้นต้องมีจุดเด่นที่จำได้ง่าย (โดยเฉพาะคนน่ารักๆ ไอ้โมจำแม่น ฮ่า ฮ่า)ผมรู้สึกว่า คนที่จำชื่อคนอื่นได้ภายในครั้งแรกที่เจอเนี่ยเป็นคนมีเสน่ห์ น่าประทับใจมาก และอาชีพอาจารย์เนี่ย ผมสังเกตว่า อาจารย์มีลูกศิษย์ตั้วเป็นร้อยๆ แต่อาจารย์กลับจำนักเรียนได้เกือบทั้งหมดภายในครั้งแรกที่แนะนำตัว ผมว่าเป็นเสน่ห์ของอาชีพนี้เลยล่ะ (ไม่รู้ว่าคนที่เรียนครูเนี่ย เค้าต้องเรียนวิชาจดจำเอกลักษณ์บุคคลอะไรพวกนี้ด้วยหรือเปล่า)


   สรุปว่าก็ไม่ได้เรียนอะไรกันมากมาย คุยกับอาจารย์สร้างความคุ้นเคยกัน นั่งถามนู่นี่กับอาจารย์ โดยเฉพาะคำถามยอดฮิตที่สาวๆจะต้องถามกัน คืออาจารย์มีแฟนหรือยัง ฮ่า ฮ่า

   “เอาล่ะนะนักเรียน วันนี้ครูก็มีแบบฝึกหัด Pretest มาให้นักเรียนลองทำกันนะครับ ลองทำกันเล่นๆ ครูอยากทรายว่านักเรียนมีพื้นฐาน วิทยาศาสตร์กันแค่ไหน ครูจะได้วางแผนการสอนถูก ไม่ต้องซีเรยสกันนะครับ ไม่มีผลต่อคะแนน แต่ว่าขอให้ตังใจทำกันนะครับ มี 30 ข้อ ให้เวลาทำ 45 นาทีครับ ใครไม่เข้าใจคำถามให้ยกมือถามครูได้เลยนะครับ”

   Pretest คือการทดสอบก่อนที่จะมีการเรียนการสอนครับ อาจารย์เดินแจกข้อสอบเองเลยครับ สังเกตเห็นว่า สาวๆในห้องนี่ น้ำลายหกกันเป็นแถบๆ แล้วการสอบ Pretest ก็ดำเนินไป จนกระทั่งหมดเวลา 45 นาที


   “เอาละครับ เดี๋ยวเอาข้อสอบมาส่งครูด้านหน้านะครับ เดี๋ยวครูจะตรวจแล้วบอกคะนแนนะครับ” อาจารย์ใช้วเวลาตรวจข้อสอบ ราวสิบนาทีได้ แล้วอาจารย์ก็เริ่มบอกคะแนนทีละคน พร้อมคืนกระดาษคำตอบให้ครบทุกคน ยกเว้นผม


   “สรุปว่า ต่ำสุด 13 คะแนน สูงสุดได้ 29 นะครับ คะแนนเฉลี่ยสูงกว่าห้อง 3/4 อีกนะเนี่ย” เพื่อนๆผม ก็เฮ กันลั่น เพราะปกติ ห้อง 3 กับห้อง 4 จะเรียนเก่งแข่งกันครับ ส่วนห้อง 1, 2 จะเรียนอ่อนมาก แล้วก็ห้อง 5 ผลการเรียนจะกลางๆ อาจารย์ประจำชั้นก็จะคอยเชียร์ครับ เพราะอาจารย์ก็คงอยากให้ห้องของตัวเองได้ที่ 1 สำหรับห้องสี่ ก็จะมีนักเรียนที่เรียนเก่งเป็นที่หนึ่งอยู่ 1 คน ชื่อโยธิน ซึ่งเก่งทุกอย่างเลย ทั้งการเรียน และกีฬา ส่วนห้องสาม คงไม่ต้องเดาหรอกว่าใคร ฮ่า ฮ่า เก่งทุกอย่างเหมือนกัน ยกเว้นเรื่องกีฬา (-..,-)


   “เอ่อ อาจารย์ครับ”ผมยกมือถามอาจารย์


   “อาจารย์ลืมบอก คะแนนผมครับ” อาจารย์ยิ้มตาหยี (สาวๆในห้องมองกันเคลิ้มเชียว)


   “เปล่าครูไม่ได้ลืมหรอก” อาจารย์พูดพร้อมถือกระดาษคำตอบเดินมาหาผม


   “นักเรียนทุกคนปรบมือให้ นายศุภชัยด้วยนะครับ อ่ะนี่กระดาษคำตอบของเธอ ได้ 29 คะแนน สูงสุด ในทั้งหมด 5 ห้องเลยนะ” เพื่อนๆก็ปรบมือ เฮ กันใหญ่เลยครับ ผมก็ยิ้มดีใจ


   “อ่ะ แล้วนี้ก็ของรางวัล ทีครูเตรียมไว้” อาจารย์ ยื่นของรางวัลให้ ผมรับไว้แล้วยกมือไหว้ ขอบคุณ


   “ขอบคุณครับ” ผมแกะออกดูก็พบว่าเป็นปากกาน้ำงเงิน  1 ด้าม ปลอกสีส้ม มีสายสำหรับคล้องคอ ด้วยความเห่อ ไอ้โมก็เลยเอามาคล้องคอซะเลย แอบมองเพื่อนๆในห้อง เห็นนะ ว่ามองกันด้วยความอิจฉาน่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

Violet_Melon

  • บุคคลทั่วไป
หายไปตั้งสองตอนแน่ะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยยยยยยยยย  :serius2:

ตอน 25: สนิทสนม

   โดยความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว ผมว่า”ความประทับใจแรก (First Impression)” เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการที่เราจะมีปฏิสัมพันธ์กับใครสักคน การสร้างความประทับใจแรก เป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญเสมอๆ มาจนถึงปัจจุบันนี้ เนื่องด้วยเรายังเป็นมนุษย์ปุถุชน ธรรมดา เราปฏิเสธไม่ได้หรอก ว่ายังหลงอยู่ใน รูป รส กลิ่น และเสียง อยู่ บางคนมีดีที่คำพูด แค่คำพูดสองสามคำ ก็ทำให้เกิดความประทับใจได้ บางคนมีดีที่บุคลิกภาพ บางคนทำบุญมามาก มีดีที่รูปร่างหน้าตา แต่ที่ขาดไม่ได้ ก็อย่าลืมให้มีจิตใจดีด้วย


   การสร้างความประทับใจแรก ก็คือการนำจุดดีๆ ที่คิดว่าเรามีอยู่ในตัวเรา ไปแสดงให้คนอื่นๆ ที่เราเพอ่งมีโอกาสได้จบเจอเป็นครั้งแรก ให้เค้าได้เห็น ให้เค้าเกิดความประทับใจ เพื่อที่จะให้เราได้มีโอกาส สร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีได้ในอนาคต อาจไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัวอย่างเดียว แต่รวมหมายถึงเรื่องงาน หรือเรื่องอื่นๆด้วย


   ผมเคยได้เคยอ่านเจอเรื่องราวของ พระนางคลีโอพัตรา ผู้หญิงที่มีเสน่ห์ที่สุดในประวัติศาสตร์ หลายคนอาจจะคิดว่า พระนางจะต้องเป็นหญิงสาวที่สวยงามที่สุด ราวกับเทพธิดา หรือนางฟ้า ก็ไม่ปาน แต่เปล่าเลยพระนาง เป็นเพียงหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา มีความงามสมวัยดังเช่นหญิงสาวทั่วไป แต่พระนางมีวิธีสร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็นได้เสมอ อย่างเช่นเมื่อครั้งที่พระนาง จะเข้าถวายตัวกับกษัตริย์ฟาโรห์ พระนางได้จ้างให้พ่อค้าขายผ้า ให้นำพรมมาห่อร่างนางไว้ แล้วให้แบกพรมนั้นไปถวายแด่กษัตริย์ฟาโรห์ ครั้นเมื่อพ่อค้าแบกพรมมาถึงกลางท้องพระโรง ก็ได้สะบัด คลี่พรมลงพื้น เผยให้เห็นพระนางคลีโอพัตรา คล่อยๆคลายออกมาจากพรม ในชุดที่เย้ายวนใจ สร้างความประทับใจให้แก่กษัตริย์ฟาโรห์ และขุนนางที่อยู่ที่นั้น เป็นอย่างยื่ง


   ส่วนตัวผมเอง เนื่องจากไม่ได้เป็นคนหน้าตาดีนัก(เช่นเดียวกับพระนางคลีโอพัตรา ฮาาาา) คงไม่สามารถเอาหน้าตาไปสร้างความประทับใจกับใครได้หรอก สิ่งที่จะทำได้ก็พยายามฝึกการพูด ฝึกบุคลิกภาพ แล้วก็การแต่งตัว การแต่งตัวดีไม่ได้หมายถึงว่าให้ใช้ของแบรนด์เนมนะครับ แต่ให้หมายถึงการแต่งตัวให้เข้ากับกาลเทศะ เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับบุคลิคของตัวเอง ผมเผ้าต้องสะอาดแล้วก็เรียบร้อย หน้าตาก็คงไม่ต้องแต่งมากถึงขนาดดารา เอาเป็นว่าทาครีมกันแดดบ้าง โลชั่นบ้าง ดูแลให้ผิวดูสะอาดและมีสุขภาพดี ผมยึดแนวทางปฏิบัตินี้ มาจนถึงปัจจุบัน ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสร้างความประทับใจให้คนอื่นได้บ้างหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ได้เพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง


   แล้วผม กับไอ้เวอร์นี่ นับว่าเป็น First Impression ได้หรือเปล่านะ เจอกันครั้งแรก ผมก็ด่าพ่อล่อแม่มัน ตัวมันเองก็เกือบจะฆาตกรรมผมซะแล้ว (หัวใจจะวายตาย มากกว่า)


   กับไอ้ตุ๊เอง ก็คงจะนับเป็น First Impression ได้ หน้าหล่อๆของมัน ไหนจะความสูงผิดมนุษย์มนา ของมัน ก็ทำให้ผมจดจำมันได้ ส่วนมันล่ะ ประทับใจผมตรงไหนล่ะ


   กรณีอาจารย์วัฒน์นี่ผมคิดว่า มันค่อนข้างชัดเจนที่จะเรียกว่าเป็นความประทับใจแรกได้ ผมสอบได้ที่หนึ่ง ส่วนอาจารย์ก็ให้ของขวัญที่ผมสอบได้ที่หนึ่ง เรียกได้ว่าประทับใจกันทั้งสองฝ่าย และเนื่องด้วย ห้องเรียนประจำของผมอยู่ไกล้กับห้องวิทยาศาตร์ซึ่งเป็นห้องที่อาจารย์วัฒน์อยู่ประจำ เพื่อนๆในห้องผมจึงได้เข้าไปขลุกอยู่กับกอาจารย์บ่อยๆ ทั้งผู้หญิงแล้วก็ผู้ชายเลย เวลาอาจารย์มีงานก็จะเรียกเพื่อนๆในห้องผม เข้าไปช่วยงานอยู่เสมอๆ จนเรียกได้ว่าสนิทสนมกับอาจารย์มาก ห้องเรียนวิทยาศาสตร์ก็กลายเป็นห้องประจำของพวกผมไปอีกห้อง


   อย่างที่ผมเคยบอกว่าอาชีพครู-อาจารย์เป็นอาชีพที่มีสเน่ห์คือ สามารถจนจำคนมากมายได้ในเวลาอันรวดเร็ว แล้วนอกจากนั้นก็ยังมีเสน่ห์อีกอย่างคือ มันเหมือนมีแรงดึงดูดที่เหมือนกับว่าจะดึงดูดให้คนรอบข้างเข้าหา พวกผมใช้เวลาไม่นานก็สนิทสนมกับอาจารย์ ยิ่งตอนเย็น อาจารย์ก็จะไปเล่นบาสกับพวกผมด้วย เลยยิ่งสนิทกันมากขึ้นไปอีก


   เพื่อนผู้หญิงในห้องคงไม่ต้องเล่า ดูจะมีชีวิตชีวาขึ้นมากันมากมายทีเดียว คงเพราะอาจารย์เป็นชายในฝันของใครหลายๆคน รูปหล่อ พูดเพราะ อัธยาศัยดี เล่นกีฬาเก่งด้วย แถมดูท่าทางจะเรียนเก่งอีกต่างหาก สมบูรณ์แบบขนาดนี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว


   ส่วนตัวผมเอง ก็รู้สึกว่าอาจารย์จะสนใจผมเป็นพิเศษ ไม่ได้หมายความในเชิงรักๆใคร่ๆอะไร แต่เพราะผมเป็นคนพูดเก่งอยู่แล้ว ในชั่วโมงเรียนเวลามีคำถามอะไร ก็มักจจะเป็นผมที่ แสดงทัศนคติ และตอบคำถามได้ดี ทำให้อาจารย์จะดูสนใจและใส่ใจผมเป็นพิเศษ (ปกติอาจารย์ท่านอื่นๆ ก็จะใส่ใจผมแบบนี้) ตัวผมเองก็รู้สึกดี ที่อาจารย์แลดูใส่ใจผมมาก เวลาคุยกัยอาจารย์วัฒน์ผมรู้สึกสนุกมาก เหมือนได้เป็นตัวของตัวเอง ไม่เข้าใจอะไรก็ถามตรงๆ ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องเรียน ด้วยอาจารย์เป็นผู้ใหญ่แล้วแต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นอยู่ ทำให้เข้าใจวัยรุ่นอย่างพวกผมได้ดี ผมจึงได้รับมุมมองใหม่ๆจากอาจารย์เสมอ


   ขอแอบเล่าเรื่อง มุมตลกๆ น่ารักๆ ของอาจารย์วัฒน์หน่อยหนึ่ง มีครั้งหนึ่ง อาจารย์สอน สุขศึกษาลาป่วย อาจารย์วัฒน์จึงได้รับมอบหมายให้สอนแทน แล้วช่วงนั้นเป็นบทเรียนเพศศึกษาและกายภาพของมนุษย์ ต้องมีการอธิบายอวัยวะต่างๆ(อวัยวะเพศส่วนต่างๆน่ะแหละ) แทบจะไปไม่รอดอาจารย์พูดผิดพูดถูก หูแดง หน้าแดงไปหมด พวกเพื่อนในห้องได้ทีก็ถาม ซักไซร้อาจารย์กันใหญ่ แซวอาจารย์บ้าง เป็นคาบเรียนที่สนุกสนานก็ไปเลยทีเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-10-2011 22:54:44 โดย Violet_Melon »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Violet_Melon

  • บุคคลทั่วไป
ตอน 26/1:  มุ่งมั่น (Mc Scholar Ships 1)

   ความสนุกในช่วงชิวิตวัยเรียนที่จะขาดเสียไม่ได้อีกอย่างหนึ่ง ก็คือการทำกิจกรรม แล้วผมก็เป็นเด็กบ้ากิจจกรรมมาตั้งแต่ประถม ยันมหาวิทยาลัย กวาดรางวัลมาแล้วนักต่อนัก


   ตอนประถม จะชอบประกวดร้องเพลง อ่านทำนองเสนาะ(ตอนเด็กเสียงดีครับ เวที่ใหญ่ที่สุดที่เคยไปประกวดก็คือ KPN Junior Award แต่พอตอนมอสาม เริ่มแตกเนื้อหนุ่ม เสียงแตก หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้ไปประกวดที่ไหนอีก)


   ตอนมอต้น ก็จะประกวดร้องเพลง แต่งบทกวี แข่งทางวิชาการทั้ง คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ วาดรูป โดยเฉพาะตอนไหนที่มีแข่งชิงทุนการศึกไอ้โม ลงแข่งเกือบทุกรายการ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะชนะและได้รางวัลซะด้วยสิ หุหุ


   ตอนมอปลาย จะเริ่มสนใจคอมพิวเตอร์เป็นพิเศษ ช่วงนี้เลยเดินสายแข่ง แล้วก็ประกวดเกี่ยวกับงานทางด้ายนคอมพิวเตอร์เกือบทั้งหมดเลย จนในที่สุดผมก็ยึดงานทางด้านนี้มาเป็นอาชีพของผมในปัจจุบัน


   วันนี้ช่วงพักเที่ยงอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกไปพบที่ห้องพักครู ไปถึงก็พบว่ามี โยธิน(ที่เรียนอยู่ห้อง 4) มีอาจารย์อ๋อย แล้วก็อาจารย์วัฒน์อยู่ด้วย


   อาจารย์เก้ : “ครูเรียกพวกเธอมา เพราะจะแจ้งว่า ตอนนี้มีการรับสมัครสอบ Mc Scholar Ships ระดับมัธยมต้น (คืออะไรหว่า) ครูคิดว่าจะส่งพวกเธอสองคนเข้าสอบด้วย”


   โยธิน : “เอ่อ อาจารย์ครับ คือการสอบอะไรเหรอครับ”


   อาจารย์เก้ : “อ๋อ คือการแข่งขันสอบทางวิชาการ 3 วิชาน่ะ วิทย์ คณิต แล้วก็อังกฤษ”


   อาจารย์เก้ : “ที่ 1-3 ได้เงินรางวัลด้วยนะ (เท่าไรไม่รู้ จำไม่ได้ละ) ใบประกาศฯ แล้วก็ถ้าชนะดับประเทศ จะได้เงินรางวัลเพิ่มขึ้นอีก แถมได้ไปเข้าค่ายด้วย ถ้าเธอติดดันดับ โรงเรียนก็จะพลอยได้ชื่อเสียงไปด้วยนะ” เงินรางวัลลลลล ไอ้โมตาโต


   ไอ้โม : “เหรอครับ อาจารย์ แล้วแข่งกันเมื่อไรครับ”


   อาจารย์เก้ : “ก็สิ้นเดือนนี้ มีเวลาอ่านหนังสือกันอีก 3 อาทิตย์ เนื้อหาก็เป็นการเรียนการสอนตั้งแต่มอหนึ่งถึงมอสามน่ะ”


   อาจารย์เก้ : “แล้วครูก็คิดว่า จะช่วยสอนพิเศษหลังเลิกเรียน แล้วก็วันเสาร์-อาทิตย์ ด้วย อาจารย์วัฒน์จะสอนวิทย์ ครูสอนคณิต แล้วก็อาจารย์อ๋อยจะสอนภาษาอังกฤษ เธอสะดวกกันหรือเปล่า” ผมสองสองคนพยักหน้ารับ ว่าไม่มีปัญหา


   อาจารย์เก้ : “งั้นเดี๋ยวครูจะฝากจดหมายไปขออนุญาต พ่อกับแม่เธอนะ ช่วงคืนวันศุกร์-เสาร์ อาจจะต้องมาพักกับอาจารย์วัฒน์ ที่หอพักด้วย จะได้ติวหนังสือกันที่นั่น” คือที่โรงเรียนมีบ้านพักครูอยู่ประมาณ 6 หลัง แต่ว่าเต็มหมด หลังสุดท้ายก็ให้อาจารย์ฝึกสอนที่เป็นผู้หญิงอยู่ ทำให้อาจารย์ฝึกสอนที่เป็นผู้ชายต้องมาอยู่หอพักนักเรียนแทน (หอพักนักเรียนตอนนั้นว่าง ไม่มีนักเรียนอยู่ครับ)


   หลังจากนั้นตอนเย็นทุกเย็น ผมกับโยธิน ก็มีหน้าที่ต้องไปเรียนพิเศษ หลังเลิกเรียน โดยมีอาจารย์สามท่าน ผลัดเปลี่ยนกันมาสอน วิชาภาษาอังกฤษกับคณิตศาสตร์ ดูท่าจะไม่ค่อยมีปัญหากับผมเท่าใดนัก เพราะถ้าจำทฤษฎีได้หมด ก็จะสามารถทำข้อสอบได้แล้ว ต่างจากวิชาวิทยาศาสตร์ที่เนื้อหาเยอะว่า ต้องใช้การท่องจำเสียเป็นส่วนมาก แต่ไอ้โมไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือนิสิ เฮ้ออออ หนักใจ

Violet_Melon

  • บุคคลทั่วไป
ตอน 26/2: มุ่งมัน (Mc Scholar Ships 2)

   ช่วงนี้ผมตั้งใจกับการเตรียมตัวสอบมาก ทำให้ไม่ค่อยได้มีเวาไปไหนมาไหนกับพวกเพื่อนๆมานัก พักเที่ยงมาผมก็ไปขลุกอยู่กับอาจารย์วัฒน์ ที่ห้องวิทยาศาสตร์ ตอนเย็นก็ต้องรีบไปติววิชา ยอมรับว่าใผมคาดหวังกับการสอบครั้งนี้มาก จนเครียดและกังวลมาก ว่าผลสอบจะออกมาไม่เป็นอย่างที่ตาดหวังไว้ กว่าผมจะได้กลับบ้านก็เกือบหกโมง วันไหนไม่ทันรถรับส่งนักเรียน อาจารย์วัฒน์ก็จะขี่มอไซค์ไปส่งผมที่บ้าน (ส่วนบ้านไอ้โยจะอยู่ไกล้โรงเรียนครับ ห่างไม่ถึง 1 กิโลเมตร) จนรู้จักมักจี่ กับพ่อและแม่ผมเป็นอย่างดี ส่วนตัวผมเอง พี่ชายและพี่สาวก็ เข้าไปทำงานกรุงเทพฯหมดแล้ว น้องคนเล็กก็เพิ่งจะสี่ห้าขวบ การที่มีอาจารย์วัฒน์เข้ามาในชีวิต ก็เหมือนทำให้ผมได้มีพี่ชายเพิ่มมาอีกคน คุยกันได้หมดทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องกิน เรื่องนอน เรื่องเที่ยว และเรื่องส่วนตัว


   “อ่านหนังสือ ถึงไหนแล้ว ไกล้จบหรือยัง เหลืออีกสองอาทิตย์เองนะ” อาจารย์ชวนผมคุยขณะที่ กำลังขี่รถพาผมไปส่งบ้าน


   “พยายามอยู่อ่ะครับ อาจารย์ ภาษาอังกฤษจบแล้วครับ คณิตศาสตรก็พอได้ครับ แต่วิทยาศาสตร์นี่สิ เฮ้ออออ”


   “อ้าว ทำไมล่ะ ที่อาจารย์สอน ไม่เข้าใจหรอกเหรอ”


   “ป่าวครับ เนื้อหามันเยอะอ่ะ ต้องใช้ความจำมากด้วย นี่ผมก็ต้องไล่อ่านตั้งแต่หนังสือมอหนึ่ง ยันมอสามเลยนะครับเนี่ย”


   “ก็อ่าน สรุปจำใจความสำคัญก็พอ ไม่ต้องจำทุกตัวอักษรหรอก”


   “นั่นแหละ แล้วถ้ามันไปออกข้อสอบตรงที่ผมจำไม่ได้ล่ะ”


   “ฮ่า ฮ่า อย่าไปกังวลมาก นายโยธิน เค้าไม่เห็นจะเครียดอะไรมากเลย ทำให้ดีที่สุดก็พอ”


   “ก็โยธิน มันเรียนเก่งอ่ะครับ ผมแพ้มันแน่เลยรอบนี้”


   “อย่าไปมัวแต่กังวล ว่าจะไปแพ้คนอื่นสิ เราทำให้ดีที่สุดก็พอ ถ้าไปมัวแต่จะเอาชนะคนอื่น ถ้าไม่ชนะขึ้นมา เราก็จะผิดหวัง เสียใจ อย่าเอาตัวเองไปแข่งกับใครเลย แค่เอาชนะตัวเองได้ก็เป็นพอแล้ว” บอกแล้วว่าอาชีพอาจารย์เป็นอาชีพที่มีเสน่ห์ หรือเพราะคนพูดเป็นอาจารย์วัฒน์ก็ไม่รู้ ทำให้คำพูดที่อกมามันมีเสน่ห์ ความกังวลทั้งหมดที่ผมมีอยู่จึงได้ผ่อนคลายลงบ้าง ผมมองอาจารย์จากข้างหลัง แล้วอดยิ้มไม่ได้ นึกขอบคุณอาจารย์อยู่ในใจ


   วันรุ่งขึ้นตอนพักเที่ยง ผมไม่ได้ลงไปทานข้าว แต่ฝากให้ไอ้ตุ๊ซื้อขึ้นมาให้ ส่วนตัวผมเองก็ขึ้นมาอ่านหนังเสือที่ห้องวิทย์ตามปกติ


   “อ่าว นะโมทานข้าวมาแล้วเหรอ” อาจารย์วัฒน์อิ้ม ทักผม (น่ารักอีกแล้วอ่ะ ชอบตอนกาจารย์ยิ้มจัง ตาหยีเชียว)


   “ยังครับ เดี๋ยวฝากตุ๊ซื้อขึ้นมาให้ครับ อาจารย์ทานแล้วเหรอครับ” ผมยิ้มตอบ


   “ทานแล้วครับ อ้อนี่กินแซนด์วิชของครูก่อนสิ ซื้อมาตั้งสองอันแน่ะ” จริงๆแล้วอาจารย์มีของกินมาเผื่อ ผมตลอดแหละ ไม่ว่าจะมาตอนไหน ก็เห็นอาจารย์มีของกินไว้เผื่อผมเสมอ(อันนี้คิดเข้าข้างตัวเองไปป่าวหว่า ฮ่า ฮ่า)


   “ขอบคุณครับ” ผมรับแซนด์วิชจากอาจารย์ มากิน (ก็มันหิวนิ)


   “’จารย์ตรวจการบ้านเหรอครับ ให้ผมช่วยมะ” ผมพูดขณะที่เคี้ยวแซนด์วิชตุ้ยๆ เต็มปาก


   “ฮ่า ฮ่า เธอทำอะไรของเธอเนี่ย ไปกินให้หมดปากก่อน” อาจารย์หันมาเห็นผมเคี้ยวแซนด์วิชเต็มปากก็หัวเราะฮาออกมา นานๆจะเห็นอาจารย์หัวเราะนะเนี่ย ปกติเห็นแค่ยิ้มๆ ตอนหัวเรานี่ยิ่งนาร๊ากกกกก มองไม่เห็นลูกตากันเลยทีเดียว ผมเห็นอาจารย์หัวเราะก็เลยยัดแซนด์วิชคำโตที่เหลืออยู่ในมือเข้าปาก แล้วเคี้ยวตุ้ยๆให้อาจารย์เห็น อาจารย์ก็หัวเราะใหญ่

   “ฮ่า ฮ่า เรานี่มันจริงๆ” ผมเคี้ยวแซนด์วิชจนหมดปาก ส่วนอาจารย์ก็นั่งมองผมกิน แล้วก็เอื้อมมือไปหยิบ ขวดน้ำกับแก้วน้ำ แล้วก็ทิชชู่ให้


   “เอานี้กินน้ำซะ เดี๋ยวติดคอตาย ครูเสียใจแย่ เช็ดปากซะด้วย” ห๊า!!!... อะไรนะอาจารย์บอกว่า ถ้าผมตายแล้วอาจารย์จะเสียใจเหรอ ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง


   “ตอน’จารย์หัวเราะนี่น่ารักเนอะ” ผมเช็ดปากเสร็จก็นั่งเท้าคางดูอาจารย์ตรวจการบ้าน อาจารย์เลิกคิ้ว มองมาทางผมแว่บนึงแล้วก็ตรวจการบ้านต่อไป


   “หือ?”


   “ก็เวลาคนอื่นยิ้ม เค้ายิ้มกันที่ปาก” ผมหยุดพูดแล้วมองมาที่อาจารย์ อาจารย์ก็เลิกคิ้วมองผม ว่าผมจะพูดอะไรต่อ


   “แต่เวลาผมเห็นอาจารย์ยิ้ม อาจารย์ไม่ได้ยิ้มแค่ปาก อาจารย์ยิ้มทั้งหน้า ทั้งตา มันดูน่ารักมากเลยครับ” โหหหหหหหหห ไอ้โมเน่าโคตร มีด้วยเหรอ คนยิ้ม ที่หน้า ที่ตา


   “ฮ่า ฮ่า เรานี่มัน...ช่างพูด ถ้าเป็นผู้หญิงนี่ครูเคลิ้มไปแล้วนะเนี่ย”


   “ป่าววว ผมพูดจริงๆ ยิ่งตอนอาจารย์หัวเรานะ มองไม่เห็นลูกตาเลยเชียว หน้าเหมือนจอมมารบลู ในดราก้อนบอลอ่ะ” รู้จักกันไหม?จอมมารบลูน่ะ


   “...” อาจารย์ยังยิ้มไม่หุบ แล้วตรวจการบ้านต่อไป อาจารย์เป็นคนขาวมากน่ะครับ ไม่ว่าจะ เวลา ยิ้ม หัวเราะ หรืออายที หน้าเอย หูเอย ก็จะแดงไปหมด (แล้วตอนนี้อาจารย์อาย หรือเปล่าหว่า)


   “แล้วไงเนี่ย ไม่อ่านหนังสือเหรอ มานั่งแซวครูอยู่เนี่ย เดี๋ยวก็แพ้นายโยธินหรอก”


   “ง่า อาจารย์อ่ะ อย่ามาแช่งผมดิ ใจแป้วเลยนะเนี่ย” ผมทำหน้างอ แล้วเดินไปที่โต๊ะ ริมหน้าต่าง แล้วเปิดหนังสือขึ้นอ่าน พออ่านไปได้สักครู่ก็เกิดอาการเลื้อย บนโต๊ะ...ทำไมตัวหนังสือมันเยอะอย่างนี้เนี่ยยยย เล่มหน้าเตอะ แถมยังเหลืออีกตั้งสองเล่มจะอ่านทันมั้ยเนี่ย ผมหลับตาอยู่บนโต๊ะจนเกือบจะเผลอหลับไป วันนี้ฝนเพิ่งหยุดตกไป ลมเย็นๆที่พัดเข้ามาทางหน้าตาง บวกกับพัดลมเพดานที่เปิดอยู่ ก็ทำให้ผมเริ่มรู้สึกหนาวๆ จนต้องยกมือขึ้นมากอดออกไว้ เหมือนผมกำลังสลึมสลืออยู่ ครึ่งหลับครึ่งตื่น ได้ยินเหมือนเสียงมีคนเข้ามาไกล้ เดินมาห่มผ้าให้ ผมรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่ได้รับ


   แล้วก็เผลองีบหลับไป ตื่นมาอีกทีก็ตอนที่ไอ้ตุ๊เอาข้าวมาให้ แล้วมันก็รีบไปบอกว่านัดพวกไอ้เวอร์ไว้จะไปเล่นบาสกัน ตัวผมเองตื่นมาก็พบว่าบนตัวผมมีเสื้อแจกเก็ตวอร์มของสถาบันราชภัฏแห่งหนึ่งห่มไว้ ลองหยิบมาดูก็จำได้ว่าเป็นของอาจารย์วัฒน์ ผมมองไปหาอาจารย์ที่โต๊ะ ก็เห็นว่าอาจารย์ไม่อยู่แล้ว ผมยิ้มแล้วก็นึกขอบคุณอาจารย์ หยิบเอาเสื้ออาจารย์มาห่มไว้ตามเดิม แล้วก็เปิดกล่องข้าว(น้อย)กิน อย่างมีความสุข  :oni1:

ออฟไลน์ tender

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
โมเสน่ห์แรงไปแล้วนะ!!!!
      เว่อร์ไปไหน~

artit

  • บุคคลทั่วไป
โห เรียนเก่งมาก แล้วสรุปใครกันแน่เนี่ย เวอร์หรืออาจารย์วัฒน์  :L1: :L1: :L1:

gay_love

  • บุคคลทั่วไป
เอ๊!..ตกลงใครจะเป็นคนได้หัวใจนะโมหนอ!!
รอลุ้น...แบบว่านะโม่จะเสน่แรงไปไหน....

ออฟไลน์ GeTOuTNoW

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 415
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
เสน่ห์เหลือร้ายเลยนะโม o17

 :L2: :L2:

Violet_Melon

  • บุคคลทั่วไป
ตอน 27: ข่าวลือ

          ยาเสพติดดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ อยู่ไกล้ตัวกับวัยรุ่นมาก และด้วยความที่มีนิสัยอยากรู้อยากลองนี่แหละ ทำให้ถูกชักจูงให้หลงผิดได้โดยง่าย บางคนถึงกับเสียผู้เสียคน หมดอานาคต เพราะไปยุ่งเกี่ยวกับมัน


          ตัวผมเอง ถูกเสี้ยมสอนมาตั้งแต่เด็ก ถึงโทษของยาเสพ์ติด ความร้ายกาจของมัน พ่อแม่ผมไม่ได้ใช้วิธีห้าม แต่จะสอนให้เห็นถึงโทษของมัน ตัวผมเองกล้ายืนยันเลยว่า ตั้งแต่เล็กจนโต จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้จะเที่ยวกลางคืน กินเหล้า สูบบุหรี่บ้าง ไม่ไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียว ที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพย์ติดผิดกฏหมาย แล้วผมก็เกลียดมากด้วย กับใครที่ไปยุ่งเกียวกับยาเสพย์ติด ผมจะไม่ไปคบค้าสมาคมเลย ผมเคยได้ยินคำสอนของพระท่านหนึ่งพอจะจับใจความได้ว่า


“แม้ว่าเราจะไม่ชอบกลิ่นคาวปลา ไม่ได้เป็นคนค้าขายปลา
ไม่ได้คิดจะบริโภคปลา แต่ถ้าเราเดินเข้าไปในสะพานปลา
กลิ่นคาวปลาก็จะติดตัวเรามาได้”

          ถึงแม้เราไม่ได้เป็นคนเลว ไม่คิดจะทำเลว แต่ไปคบค้าสมาคมกับพวกคนเลว วันหนึ่งเราก็อาจจะพลอยติดร่างแหไปกับคนพวกนี้ได้ เพราะฉะนั้นคนที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพย์ติด ถ้าไม่จำเป็นผมจะไม่เสวนาด้วยเลย


          ช่วงนี้ผมเอง ไม่ค่อยมีเวลาได้ไปไหนมาไหนกับพวกเพื่อนๆเลย ขลุกเป็นหนอนหนังสือ กับอาจารย์วัฒน์ แล้วก็ไอ้โย ตอนแรกดูเหมือนว่าไอ้โยมันจะหยิ่งๆ แต่พอทำไปทำมา มันกลับมีน้ำใจมาก ตรงไหนผมไม่เข้าใจมันก็ช่วยอะอธิบายให้ผมเข้าใจ ดูๆไปไอ้โยมันอ่านหนังสือมากกว่าผมอีก แลดูมันเป็นคนขยันมาก ตอนเด็กๆอาจารย์สอนว่าคนที่จะเรียนเก่งได้ต้องมีความขยันหมั่นเพียร ต้องตั้งใจอ่านตำรับตำรา ถึงจะเรียนเก่งได้ แต่หลังจากผมผ่านสมรภูมิรบมาอย่างมากมาย(ว่าไปนั่น) ทำให้ผมแยกแย่ได้ว่า คนที่จะเรียนเก่งได้มี 2 แบบคือ


          1.พวกที่ขยัน (หรือพวกที่มีพรแสวง)
          2.พวกที่มีพรสวรรค์ (หรือพวกที่ฉลาด เข้าใจอะไรได้รวดเร็วกว่าคนอื่น)


          พวกที่ขยันพวกนี้ จะได้เปรียบตรงที่มีความขยัน ทำให้มีความพยายามมากกว่าคนอื่น พวกนี้อาจจะต้องใช้เวลาในการอ่าหนังสือ มากกว่าคนอื่น หลายรอบกว่าคนอื่น คนพวกนี้จะถนัดวิชาที่ต้องใช้การท่องจำ


          พวกที่มีพรสวรรค์ หรือพวกที่ฉลาดเนี่ย คือพวกที่ไม่จะเป็นต้องอ่านมาก สามารถเข้าใจอะไรได้รวดเร็ว พวกนี้จะเหมาะกับวิชาที่เกี่ยวกับการคำนวณ หรือวิชาที่ต้องใช้การวิเคราะห์ จุดออ่น ของพวกนี้ก็คือในวิชาที่มีเนื้อหาเยอะที่จะต้องอ่านเอง หรือวิชาที่ต้องใช้การจดจำ ก็จะทำคะแนนไม่ค่อยได้ดี


          ส่วนใครที่มีทั้งพรสวรรค์และพรแสวงอยู่ในตัวพร้อมกันละก็ โคตรจะโชคดีแล้วล่ะครับ แต่เท่าที่เห็นมา มีน้อยมากๆ


          ตัวไอ้โยกับผมนั้น คนละขั้วเลยครับ ไอ้โยเป็นพวกหัวดีปานกลาง แต่ความขยันเป็นเลิศ ในขณะที่ผมเป็นพวกหัวดี แต่ความขยันแสนจะต้อยต่ำ การสอบครั้งนี้ก็เสมือนเป็นทั้งการแข่งขันระหว่าง ห้อง 3 กับห้อง 4 และการแข่งขันของคนมีพรสววรค์กับคนมีพรแสวง ว่าใครจะชนะ


          วันนี้มีคาบเรียน สุขศึกษาครับ เป็นการเรียนการสอนเกี่ยวกับเรื่องโทษของยาเสพย์ติด ช่วงนี้ ยาม้า(ปัจจุบันเรียกว่ายาบ้า สมัยนั้นเม็ดละประมาณ 30 บาท) กำลังระบาดหนักกันเลยทีเดียว เด็กนักเรียนหลายคนโดนไล่ออกเพราะไปพัวพันกับยาเสพ์ติด อาจารย์ก็สอนให้เราได้เห็นโทษของยาเสพย์ติด ทั้งการเสียเงินเสียทอง ต้องโทษติดคุกถึงประหารชีวิต เสียสุขภาพอีก ผมนั่งอยู่หลังห้องก็เห็นพวกกลุ่มที่มันเกเรๆ (ในห้องมี 2-3 คน) หนาวๆร้อนๆไปตามๆกัน เพราะผมก็พอจะรู้มาบ้างว่า ไอ้พวกนี้ชอบแอบไปหลบอยู่หลังห้องน้ำ มั่วสุมกันบ่อยๆ คงไม่ต้องเดาว่าแอบไปอัพยากันนั่นเอง อาจารย์พูดมาถึงว่า คนติดยาจะมีลักษณะ ขอบตาเขียวคล้ำ ตาแห้งแดง ปากแห้ง เบื่ออาหาร ฯ ขณะที่อาจารย์กำลังสอนอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงเพื่อนผู้หญิงหลังห้องซุบซิบอะไรกันบางอย่าง


          “เธอชั้นว่าแล้ว นายพาวเวอร์น่าช่างนี้อาการแปลกๆ เห็นชอบไปสุงสิงกับพวกพี่ชาญ พี่เกียรติ ม.5 ชั้นว่านายพาวเวอร์ต้องติดยาแน่เลย” (พี่ชาญ พี่เกียรติ คือรุ่นพี่ ม.5 กำลังโดนอาจารย์เพ่งเล็งอยู่ เรื่องเกี่ยวกับยาเสพย์ติดน่ะแหละ ภายหลังก็โดนตำรวจจับ เพราะเป็นคนขายยา)


          “ก็ว่าอยู่ ช่วงนี้เห็นเค้าตาคล้ำๆ ปากก็แห้งลอกเชียว”


          “ไม่มั้ง นอนดึกก็ปากแห้ง ตาคล้ำได้ ดูดิเค้าก็ตาเขียว ปากแห้งจนลอกเลยเนี่ย เพราะนอนดึกอ่านหนังสือ” ผมอดแย้งไม่ได้ ด้วยเพราะไม่เชื่อว่าไอ้เวอรันจะไปข้องเกี่ยวกับยาเสพย์ติดได้


          “แต่เราเห็นน่ะ วันก่อนอาจาร์เก้(อาจารย์ที่ปรึกษา)ก็เรียกนายพาวเวอร์เข้าไปหา เห็นว่าไปเตือน เรื่องที่ไปสุงสิงกับ พี่ชาญ พี่เกียรติ” จริงเหรอเนี่ย นี่ผมไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย เพราะมัวแต่วุ่นกับการเตรียมตัวสอบสิเนี่ย


          “นะโม เป็นเพื่อนกันก็เตือนๆเค้าหน่อยสิ จริงหรือเปล่าไม่รู้ แต่เตือนไว้ก่อนก็ดีนะ”


          “อือ” ผมรับคำไปงั้น แต่ผมจะไปเตือนอะไรมันได้ล่ะ คำพูดผมจะมีน้ำหนักพอให้มันทำหรือไม่ทำอะไรได้เหรอ


          หลังจากวันนั้น ผมก็พยายามสังเกตมัน ว่ามันมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ชอบแอบไปหมกมุ่นที่ไหนหรือเปล่า จนสังเกตเห็นว่า ช่วงนี้ตอนเย็นมันไม่ได้ไปเล่นบาสกับพวกไอ้ตุ๊เลย พอโรงเรียนเลิกมันก็รีบกลับบ้านเลย ตอนเช้าก็มาโรงเรียนสายประจำ จนตัวผมเองอดเป็นห่วงไม่ได้ ว่าข่าวลือที่ได้ยินมาจะเป็นความจริง


          “อ้าวไอ้เวอร์ไปไหนล่ะเนี่ย ไม่เห็นมันมาเล่นบาสกับพวกมึง” ผมถามไอ้ตุ๊ ตอนเย็นวันหนึ่ง


          “แฟนอยู่นี่ไม่ถามถึงนะ ไปถามถึงคนอื่นทำมายย” ไอ้อุ้ยมันทำเสียงล้อเลียน


          “เชี่ย” ผมด่า พร้อมยกเท้าทำท่าจะยันมัน


          “ดี กวนตีนกู เป๊บซี่ที่กูซื้อมาก็ไม่ต้องกินละ” ผมพูดพร้อมปัดมือออก ทำท่าจะจะเดินหันหลังกลับ แต่ไอ้ตุ๊รีบเดินเข้ามาหา เอามือโอบหัวผมเข้าไปซบออกมัน


          “โอ๋ๆๆๆ เมียกูนี่ขี้งอนจริงวุ้ย ไอ้อุ้ยมึงก็ชอบไปเอาเรื่องจริงมาล้อเล่น” เออ เชี่ย ตะกี้เป็นแฟน ไม่ถึงนาทีก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเมียเมิงละ ว่าแต่ว่า เมียเมิงอยู่มนห้องพักครูไม่ใช่รึ เห็นไปฝ้ากันทุกวัน


          “อ่าว แล้วเมียที่เมิงไปฝ้าทุกกลางวันนั่นล่ะ อ่อ หรือว่านั้นเมียน้อย” เอาไปหนึ่งหมัด


          “เชี่ยยยย มึงเดี๋ยวใครมาได้ยินเข้า อาจารย์เค้าจะเสียหาย” ไอ้ตุ๊เอารับเอามือ มาปิดปากผมไว้


          “แล้วเนี่ยกูถามว่า ไอ้เวอร์มันไปไหน” ผมพูดแล้วยื่นถุงเป๊บซี่ให้มันสองคน


          “ไม่รู้เหมือนกันเห็นช่วงนี้มันรีบกลับบ้านตลอดเลย”


          “แล้วที่เค้าว่ามันไปสุงสิงกับพวก พี่ชาญ พี่เกียรติ จริงเหรอ”


          “ไม่มั้ง เป็นเพราะสองคนนั้นอยู่ไกล้บ้านน้องจักจั่นหรือเปล่า เห็นว่าเป็นญาติๆกัน”


          “จั๊กจั่นไหน ใครวะไม่เห็นรู้จัก”


          “อ่อ มึงยังไม่รู้นี่ว่า ไอ้เวอร์มันจีบน้องมอหนึ่งอยู่ ไม่สิ มีน้องมอหนึ่งมาชอบไอ้เวอร์ เห็นช่วงนี้มันอยู่กับน้องเค้าบ่อยๆ สงสัยที่มีคนไปเห็นมันอยู่กับ พี่ชาญ พี่เกียรติ เพราะว่ามันไปหาน้องจั๊กจั่นหรือเปล่า”


           เฮ้ออออออ โล่งอกไปที่ที่มันไม่ได้ไปติดยา .............ใช่ซะที่ไหนล่ะ!!!! ไอ้โมปรี๊ด ....ฮึ่ม! ไม่ได้มีเวลาอยู่กับมันแค่ไม่กี่วัน ไปติดสาวอื่นเลยนะมึง เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องเคลียร์กันซะหน่อยแล้ว ผมคุยกับไอ้ตุ๊และไอ้อุ้ย อีกแป๊บ ก็กลับปข้างในโรงเรียนเพื่อติวหนังสือต่อ เรื่องไอ้เวอร์ติดยาก็พอจะเบาใจไปได้ แต่เรื่องน้องจั๊กจั่นนี่สิ ทำให้ผมหนักใจไม่น้อย

ออฟไลน์ อิสระ

  • ถ้า add ให้กอด,ถ้า give five ให้จุ๊บ,ถ้า ment ให้เบอร์ คิคิ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-8
    • https://www.facebook.com/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-1433707443445407/?modal=admin_todo_tour
 :z13: :z13:จิ้มจึ๊ก หลังจากที่หายไปนาน นึกว่าจะไม่ได้อ่านต่อซะแล้ว

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
สงสัยจะมีเคลียร์กันยาว

 :L2: :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด