ติดมากครับ เลยต้องไปอ่านตามในเด็กดีจนจบ ดังนั้น ผมขออนุญาตวิเคราะห์นะครับ
*การวิเคราะห์นี้อาจมีสปอยล์เหตุการณ์ในเรื่องนะครับ*
ถ้ามองในแง่มุมของละครไทย เรื่องนี้ใช้ได้เลยครับ เรียกว่าสมบูรณ์แบบตามละครไทยดั้งเดิม โดยที่มีการปรับปรุงจุดที่ไม่สมเหตุสมผลเพื่อทำให้ไม่น้ำเน่ามากไป การบรรยายก็ทำได้เยี่ยมยอด เข้าถึงอารมณ์และความรู้สึกได้ดี เสียแต่เรารู้สึกว่ากลุ่มตัวนางในช่วงหลัง มันจะอ่อนและยอมเกินไปหน่อยจนดูเหมือนจะเข้าข่ายละครน้ำเน่าก็ตาม
อย่างไรก็ดี ถ้าให้ผมวิเคราะห์ในแนวบอยเลิฟ ผมคิดว่ามันมีจุดสังเกตใหญ่อยู่สองจุดครับ
หนึ่ง กลไกการท้องมันไม่มีอะไรเลย คือถ้าไม่บอกว่าตัวนางเป็นผู้ชาย เรื่องนี้คือนิยายชายหญิงทั่วไปเลยนะครับ แทบไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลย เพราะตัวนางหลังๆอ่อนมาก ยอมตลอด ยอมทุกอย่างปวารณาให้อีกฝ่ายเป็นผู้นำทั้งสิ้น ความเด็ดเดี่ยวที่มีก็ไม่ถูกนำเสนอด้วยอัตลักษณ์เพศชาย ทำให้ดูบทของฝั่งภัควัฒน์โยธินจะคล้ายกับผู้หญิงมาก ท้องได้ ยอมคน แต่เด็ดเดี่ยว มันเป็นคุณสมบัติในอุดมคติของบทบาทเพศหญิงในสังคมอนุรักษ์นิยมนะครับ
เสน่ห์อย่างหนึ่งของนิยายบอยเลิฟคือมุมมองความคิดของตัวเอกทั้งสองตัวที่เป็นผู้ชายครับ อาจไม่ต้องดิบมาก แต่ต้องมีเอกลักษณ์ความเป็นผู้ชายปนอยู่ อาจมีมุมของความอ่อนโยนที่ทำให้เค้าต่างจากผู้ชายทั่วไป แต่ไม่ใช่พื้นฐานความอ่อนแอที่อาจมีความเด็ดเดี่ยวครับ ปกติผู้ชายมักไม่ยอมขนาดนี้ ทำให้ภาพลักษณ์ไม่เข้ากับโทนเรื่องบอยเลิฟน่ะครับ
สอง การนำเสนอกลุ่มพระเอกด้วยภาพพจน์ Primitive Male
จุดนี้เป็นสิ่งที่ผมไม่สังเกตในตอนต้นเรื่องนะครับ แต่เห็นชัดมากเมื่อดำเนินเรื่องไปถึงช่วงที่แตกหักกัน จะสังเกตได้ว่าอัคคเดชภูดินันท์ไม่เคยยอมรับสิ่งที่ตัวเองทำผิด กูถูกตลอดในโลกหล้าใบนี้(และโทนเรื่องสนับสนุนไปในทางนั้นเสียด้วย) ตัวพระเอกทั้งสองขาดการแสดงออกถึง 'การสำนึกผิด' หรือ 'ความเศร้าเสียใจ' ครับ ประจวบกับการที่ภัควัฒน์โยธินยอมตลอด ไม่เคยมีปากมีเสียง พอจะทำอะไรก็โดนจับกดลงเตียง มันทำให้พฤติกรรมของกลุ่มตัวพระยิ่งเหลิงใหญ่ไปจนจบเรื่อง
คือถ้าถามจริงๆ ผมค่อนข้างแปลกใจครับ พาร์ทของขุน ผมรู้สึกว่าพระเอกไม่เสียอะไรเลย ไปลากเค้ามาปล้ำ พอเค้าท้องก็กลับมาขอ แล้วก็ได้ง่ายๆจบแฮปปี้ ไม่มีต้องอะไรต้องชดใช้ทั้งนั้น แล้วพอตัวนางพอกลับมา แทนที่จะคิดถึงภาพรวม กลับติดหลงอยู่กับความหลงตัวพระเอก ไม่มีสตงสติอะไรทั้งนั้น มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นการกดขี่บทบาททางเพศของฝ่ายรับยังไงชอบกลก็ไม่รู้
ส่วนพาร์ทของรังสิมันต์ อันนี้ผมเข้าใจนะครับ เนื่องจากคาแรกเตอร์ถูกสร้างมาให้เด็ดขาด เลยต้องยิง อันนี้ผมโอเค แต่ปัญหามันอยู่ตรงหลังจากยิงแล้ว มันไม่ได้มีความรู้สึกผิดใดๆ หรือขอโทษอะไรกับสิ่งที่เคยทำไม่ดี รวมถึงวางแผนทำเรื่องร้ายๆกับตระกูลภัควัฒน์โยธินมาเลย เรื่องผ่านก็ผ่าน เคยข่มขืนลากถูอะไรก็หายไปกับสายลมและแสงแดด มัน...งงๆไปนิดครับ
และเนื่องจากคาแรกเตอร์น้องทั้งคู่ยอมตลอดด้วย มันเลยทำให้ดูเหมือนสิ่งที่อัคคเดชภูดินันท์ทำมาทั้งหมด 'ไม่ผิด' ครับ ซึ่งตรงนี้ผมว่าเป็นการสื่อประเด็นที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
สำหรับผมเอง ผมชอบคาแรกเตอร์ของบดินทร์นะครับ เป็นสุดยอดตัวพระที่ผมเทใจให้ร้อยเต็มเลย คือไม่ใช่พระรองแบบเกาหลี แต่เป็นตัวละครที่มีบทเด่น ภักดี จริงใจ มุ่งมั่น และยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่รักอย่างแท้จริง ยอมเป็นทาสของเทวดาที่ล่ามด้วยตรวนใจที่ยินยอม อันนี้นี่ผมเทใจให้สุดๆเลยครับ ถ้ามองไปข้างหน้ามากๆ เรื่องมันมีจุดบอดตรงที่ ภัควัฒน์โยธินขาดทายาทสายต่ออีกครับ หลังจากเบียร์ก็คงจะไม่มีใครแล้ว ถ้าจะเอาลูกชายครึ่งอัคคเดชภูดินันท์มาสืบตระกูล ทางรังสิมันต์กับขุนก็คงจะไม่พอใจเท่าไหร่ แต่เบียร์จะเป็นประมุขและผู้สอนงานที่ยอดเยี่ยมทีเดียวครับ เพราะเค้าไม่มีอคติใดๆ เอาจริงๆผมว่าถ้าเบียร์มีลูกกับพลัฏฐ์อีกคน ผมเฉยๆนะ เพราะเรามองระยะยาว โทนเรื่องจะสมบูรณ์ขึ้นเสียด้วยซ้ำ เพราะมุมมองความรักของทั้งสองคนมันสื่อออกมาในรูปแบบบริสุทธิ์ใจมากกว่าชู้สาวไปแล้วครับ แต่อัคคเดชภูดินันท์คงขาดวิสัยทัศน์ตรงนี้เพราะอ้างอิงอารมณ์ส่วนตัวซะเป็นส่วนใหญ่
ที่เห็นประเด็นใหญ่ๆมีแค่นี้นะครับ ส่วนอื่นที่ไม่ได้พูดถึง นั่นคือผู้แต่งเขียนได้อย่างเยี่ยมยอดมากครับ ชื่นชม และยกนิ้วให้เลย