ระเบียบที่ 3 : ห้ามขัดคำสั่ง ผมแบกกีตาร์ลูกรักมาถึงมหาลัย สาวมองตรึม หยั่งเท่เลอว่ะ ผมกวักมือโบกรถรางตรงหน้ามอแล้วนั่งเบียดกับสาวๆ นั่งก้นเกือบตกเบาะอยู่ครู่หนึ่งก็ถึงคณะดุริยางค์อันเป็นที่รัก
ตึ่ง โป๊ะ ตึ่งตะลึงตึ่ง โป๊ะ โป๊ะ ตึ่ง แฉ่
ลานดนตรีตอนสิบเอ็ดโมงครื้นเครงไปด้วยเสียงกลอง คณะเรามีดนตรีอยู่ในหัวใจครับ ทำอะไรก็ต้องมีจังหวะ อย่างตอนนี้พี่ปีสี่กลุ่มสวรรค์รำไรกำลังโชว์ตีกลองถังกับอุปกรณ์ประยุกต์ที่ตั้งเรี่ยราดอยู่ใต้ต้นโพธิ์ของลานดนตรี ไม่ได้กลัวอาจารย์กันเลยนะพี่มึงงง แล้วนั่นเพื่อนรักผม ไอ้หมูก็ไปกับเขาด้วย ลืมบอกไปครับ เพื่อนหมู มันนามสกุลดรัมแห่งสาขาดนตรีแจ็สครับผม ไอ้พวกที่ตั้งวงกันอยู่ตอนนี้ก็พวกดรัมทั้งนั้น
“ตัวเด็ดแห่งอีกีตาร์มาแล้วโว้ยยยยย! โป๊ะ โป๊ะ ตึ่ง” อีกีตาร์ไม่ใช่คำหยาบนะครับ เครื่องมือของผมคืออิเล็กทริคกีตาร์ครับผม รุ่นน้องปีหนึ่งที่ห้อยป้ายชื่ออันใหญ่เท่าฟิวเจอร์บอร์ดมองผมพร้อมกับขำไปด้วย แหมะ ได้ยินเสียงกลองแล้วใจมันคึกคัก เท้าขยับไปด้วยอย่างลืมตัว ส่ายตูดด้วยเอ้า วันนี้อารมณ์ดี
“สิบยี่สิบสามสิบสี่สิบ เอ้า สิบยี่สิบสามสิบสี่สิบ
นั่นไงประโยคขึ้นต้นมาแล้ว
“มึงไปไหนมา”
“ทำไมมาช้า”
“หรือว่าเล่นว่าว”
“สิบยี่สิบสามสิบสี่สิบ เอ้า สิบยี่สิบสามสิบสี่สิบ”
“ผมจะไปไหน จะไปกับใคร ผมจะทำไร ก็ไม่เสือกนะค้าบบบ”
ตึ่ง แซะ
“ไอ้สัดเขา!”
“อะไรของพวกพี่มึงเนี่ย ว่างอ่อ...”
“มึงไม่ต้องมาปากดี เมื่อเช้ามีพวกเด็กอักษรมาถามหามึง” ไอ้หมูวางไม้กลองแล้วเดินมาผลักหัวผม พูดถึงคณะอักษรแต่ก่อนอาจจะสั่นเพราะอยากได้ แต่ตอนนี้ไม่สั่นแล้ว พออย่าพูด...ผมพึ่งทำภารกิจไปเมื่อกี้ หมดเวรหมดกรรมกันซักที
“ถามไมวะ”
“ไม่รู้ตัววววว ดุริยางค์เราโดนเพ่งเล็งแล้วไอ้เหี้ย” พี่ป้อน สวรรค์รำไร ตัวสมุนมือซ้าย ร้องออกมาเสียงแหลม
“ประธานสโมฯ เป็นเพื่อนรักคุณชาย ถ้าเค้าตัดงบคณะเราทำไง” ส่วนคนทีผมยาวเฟื้อยนี่พี่แจ้ สวรรค์รำไร ตัวสมุนมือขวา
“สมองอะคิดบ้าง ไม่ใช่ทำให้พวกกูด่อนเรื้อน”
“เดือดร้อน!”
ตึ่ง โป๊ะ!
“ขอบใจ” ส่วนคนที่ยกมือไหว้รอบวงเนี่ย...พี่ฟั่น ชายผู้มีผมยุ่งเป็นสังกะตังคือตัวบอสของสวรรค์รำไรครับ
“มึงไปช่วยไอ้ปั๊มแกะคอร์ดกีตาร์เดี๋ยวนี้ มันจะโชว์การแสดงดาวเดือน” ทำไมมันจะเล่นเพลงฮีบรูหรอ ถึงต้องใช้กูช่วยแกะ ผมหันไปมองพี่สิงห์เมียบอสที่เดินมาเกี่ยวคอผม พี่สิงห์ไม่ได้หน้าหวานปานน้ำผึ้งอะไรหรอก พี่มันแค่ผมยาวกว่าไอ้พี่ฟั่นบอสใหญ่แถมยังชอบกัดกันเป็นประจำ พอพี่สิงห์ด่า พี่ฟั่นก็ยอมทุกที พวกรุ่นน้องเลยเรียกพี่สิงห์ว่าเป็นเมียบอสครับ พูดก็พูดเถอะไอ้เรื่องนี้ก็ใช้กูจัง แถมวงดนตรีของผมไม่ได้ขึ้นเวทีงานเฟรชชี่ครับเพราะสโมฯ ขอวงจากดุริยางค์ไปเล่นเปิดแค่สองวง ไอ้เราเป็นรุ่นน้องจะไปสู้รุ่นพี่ได้ไง ขึ้นก็ไม่ได้ขึ้นต้องมาเป็นเบ๊คอยรับใช้พวกพี่มึงอีกกกกก
“ไรอะพี่ ผมมีเรียนโว้ย” ผมโวย หางตาเห็นไอ้หมูที่ไม่ได้ช่วยปกป้องผมเลย
“ในฐานะที่มึงนำความซวยมาเยือนพวกกู และกูต้องปกป้องมึงไม่ให้โดนกระทืบในตอนเช้า มึงต้องไปช่วยไอ้ปั๊ม ไม่ต้องเสือกมารักเรียนตอนนี้ จารย์สาเข้าบ่ายไอ้สัด” พอพี่สิงห์ปล่อยแขนจากคอผม ไอ้พี่ฟั่นก็เดินปรี่เข้ามาทันที เกรงใจอำนาจเมีย ใหญ่เหลือเกินมึงอะะะะะ
“ไรว้า ผมก็จะเช็ดน้องบีมรอเรียนอะ” ผมบ่น บีมนี่คือชื่อกีตาร์ผมเองครับ
ผลัวะ!
“เช็ดเหี้ยไร มึงเรียนทฤษฏี”
“ไม่ต้องมาเบะปาก” พี่ฟั่นแหกปากด่า พี่ กูขอล่ะ ไปสระผมหน่อยไป
“เอะอะก็ใช้กู”
“บ่นไร!”
ผมเดินกระทืบเท้าเข้ามาให้ห้องกิจกรรม กูงอนพวกมึงทุกตัว เปิดประตูเข้ามาก็เจอไอ้น้องปั๊มนั่งหน้าเหมือนควายงงกับกีตาร์สีเพลิง มีกลุ่มน้องผู้หญิงที่นั่งเสียบโทรศัพท์ตรงมุมห้อง กำลังคุยเล่นกันหันมาไหว้ผมลวกๆ แล้วก็หันไปคุยกันต่อ นี่กูพี่มึงนะ!
“พี่ขาวววววว วันนี้แต่งตัวนะระจัง”
“น่ารักอยู่แล้ว ขอบใจที่ชมทีหลังไม่ต้อง”
“นะระ หน้าหรี่อะนะพี่”
“ไอ้ปั๊ม!”
“หลอกเล่น หน้ามุ่ยยังไม่น่ากลัวเล้ย”
“กูไม่ช่วยมึงละ เป็นรุ่นน้องก็เคารพรุ่นพี่บ้าง”
“โอ๋ๆๆๆ”
“ไม่ต้องมาโอ๋”
“โอ๋ ภัคจีรามีลูกกี่คนนะพี่”
แต้แว้ด!
หน้าแตกไปอีก
ไอ้สัด “ไปละ” คว้ากระเป๋าแม่ง รัมคัล ไอ้ปั๊มหัวเราะกร๊ากก่อนจะคว้าแขนผมแล้วดึงให้นั่งลง
“เนี่ยๆๆ ผมแกะได้ครึ่งเพลงละ เป็นเพลงเก่า คอร์ดหายากอะพี่” ไอ้ปั๊มทำหน้าจริงจังแล้วยื่นกระดาษที่เขียนคอร์ดให้ผม เปลี่ยนโหมดไวเหมือนเปลี่ยนกางเกงในเลยนะ ตอนเลือกเดินกูว่าหลับตาเลือกแน่ๆ ผมหยิบกระดาษที่มันส่งให้มามองๆ แล้วก็ตอบกลับไป
“ก็เก่งนี่ คิดว่าดีก็ทำต่อไป”
“เอ้า พี่จะมาช่วยผมไม่ใช่หรอ”
“ไอ้ปั๊ม” ผมทำเสียงเข้ม “ถ้าเราทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง เราจะผ่านความยากลำบากได้เว้ย”
“โหพี่ เกือบเชื่อละแต่พอเห็นหน้าคนพูด ไม่รู้จะเชื่อได้รึเปล่า”
“กูพี่เมิงงงง” ผมลากเสียงยาว
“โทษๆ พี่”
ผมล้วงกระเป๋าเอากล่องแว่นตาในกระเป๋ากีตาร์แล้วเอามาสวม ผมหน้าก็ยาวจัง เห็นรุ่นพี่ไว้ผมยาวแล้วเท่แต่ที่จริงแล้วทำให้คันหน้าผากชิบเป๋ง เอาหนังยางที่ข้อมือมามัดแม่ง จากนั้นผมคว้าเอามือถือไอ้ปั๊มมาพร้อมกับยึดหูฟังมาใส่ฟังเพลงที่มันกำลังแกะ ไอ้ปั๊มก็นั่งนิ่งเฉยเลย ผมเลยเงยหน้ามองมันที่เบิกตาน้อยๆ ของมันให้โตขึ้น
“พี่เขาใส่แว่นแล้วมัดผมแบบเนี้ย กระแทกใจอย่างแรวงเลยพี่”
ชะ...ภูมิใจคนชม ใจมากน้อง นอกจากเอ็งแล้วก็ไม่มีใครชมพี่เลย
“ไม่ต้องชมก็ได้รู้ตัวว่าหล่อ”
Rrrrrr Rrrrrr
เกิดมาหล่อนี่ไม่รู้จะเครียดยังไงดี เฮ้ออออ
“พี่เขา พี่..”
ภูมิใจในหนังหน้าตัวเอง
“พี่...”
“อะไรวะเชี่ยปั๊ม”
“โทรศัพท์พี่อะ เรียกควายๆ ไม่หันซักที” มันพึมพำแต่กูรู้สึกว่ามันด่ากูแน่นอน
ผมพยักหน้านิดๆ แล้วล้วงมือเข้าไปในย่าม ผมก็พบวัตถุประหลาดสั่นเหมือนผีเข้า หน้าจอโชว์ชื่อคนโทรเข้าว่าพี่แซน พี่แซนคนนี้เป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนมัธยมผมครับ เป็นพี่รหัสที่สนิทกับผมมากถึงมากที่สุด ตอนนี้ไม่เรียนหนังสือเพราะชอบค้าขาย มันขายทุกอย่างยกเว้นขายตัว ล่าสุดเปิดร้านเหล้า นอกจากจะชอบค้าขายแล้วพี่แซนยังชอบหาอีเว้นท์ให้ผมหาเงินอีกด้วย ดีใจตัวสั่น โทรมาแบบนี้ต้องหาเงินให้ผมแน่นอน และก็ไม่ผิดจากคิดไว้
(น้องรักกกกกกก)
“พี่รักกกกกกกกกกกกกกกกกก” ผมร้องเสียงดังกว่าพี่แซนสามเท่าจนไอ้ปั๊มที่เอาหูฟังไปแกะคอร์ดต่อปากกระตุกเพราะเสียงรบกวนก่อนที่มันจะย้ายข้าวของไปนั่งอีกมุมของห้อง
“พี่รักมีอะไรครับ”
(กูมีงานให้น้องรักช่วย)
“ว้าวว้าวว้าว งานอะไรครับ”
(งานอีเว้นท์วันเกิดคุณหญิงอะไรซักอย่างวันอาทิตย์นี้ ไม่ไกลจากบ้านมึงด้วย)
“จริงดิพี่” ไม่ค่อยแปลกใจครับพี่แซนชอบบอกผมไม่เกินสี่วันก่อนวันงาน ถ้ากูป่วยมึงจะหาคนแทนได้มั้ยพี่ เเละไม่ต้องเเจกเเจงรายละเอียดอะไรให้มากไอ้เขาไว้ใจพี่เเซนซำเหมอ
(เออ พอดีลูกชายเค้าหานักดนตรีกีตาร์มาเล่นเพลงไทยเดิม กูเลยเอาคลิปมึงที่เคยเล่นลาวดวงเดือนไปให้ดูเมื่ออาทิตย์ก่อนแล้วเค้าก็สนใจมึง)
พี่แซนรับจัดอีเว้นท์ด้วยครับ ไม่ได้โฆษณาใหญ่โตแต่คนที่รู้จักจะพูดกันปากต่อปาก ก่อนหน้านี้ก็จัดถี่เลย หลังๆ มาแกมีกิจการเยอะเลยเลือกรับครับ พี่แซนรู้จักเพื่อนๆ น้องๆ หลายสายงาน เลยชอบชวนผมไปทำงานด้วยบ่อยๆ เมื่อก่อนผมก็เทียวไปเทียวกับพี่แซนจนเฮียทิวบ่นว่าไม่อยู่บ้านเลย ส่วนไอ้สกิลกีตาร์คลาสสิคเนี่ยผมก็ฝึกเพราะลูกค้ารีเควสมา เพราะในทีมนอกจากพี่แซนแล้วก็ไม่มีใครเล่นกีตาร์คลาสสิคเป็น พี่แซนเลยมาเคี่ยวเข็ญผมฝึก เผื่อได้เรียกใช้เพราะพี่แกขี้เกียจ ผมก็เลยเล่นเป็นแต่ไม่กี่เพลงเท่านั้นแหละครับ
“พี่...เท่าไหร่?”
(คืนละ 500 ทำได้ทุกอย่าง ถุ้ย! กูไม่ได้ขายตัวไอ้น้องรักเวร)
“พี่รัก! กูหมายถึงค่าจ้าง พี่ให้ผมเท่าไหร่” คุยกับพี่มึงแล้วกูชือกบาล ภาษาเขมรแปลว่าปวดหัวครับ
(อ้าวไอ้เหี้ยมาถามกูงี้กูเสียวตูดดิวะ เออๆๆ รายนี้ให้เยอะเว้ย งานใหญ่บรรดาคุณหญิงคุณนายมากันเพียบ มึงเล่นสองช่วง ช่วงเปิดงานกับอวยพรวันเกิด เอาคลาสสิคเพลงละสองรอบ นอกนั้นมึงก็เตรียมดีดเพลงเก่าๆ ไว้ ไม่นานแต่กูแบ่งให้มึงพันแปด)
เหยดดดดดดดดดดด มันเยอะสำหรับการเล่นแค่นั้นนะครับ
“โคตรเยอะเลยพี่ ผมกำลังกินแกลบกับน้ำปลาอยู่เลยช่วงนี้” คิดถึงเงินที่พึ่งเสียไปแล้วมันเจ็บจี๊ดๆ
(กูไม่เคยลองว่ะ อร่อยใช่ได้มั้ย)
“เค็มไปหน่อยถ้าจะกินก็ลดน้ำปลานะ”
(กูล้อเล่น! บอกแค่นี้ เตรียมซ้อมเพลงด้วย แล้วก็งานหรูนะมึง ต้องเนี้ยบหน่อย แล้วแต่งตัวใส่สูทนะไม่ใช่กะโหลกกะลา)
“น้องรักหล่อเนี้ยบอยู่แล้วครับ”
(เอาที่สบายใจ เออ...แล้วเตรียมบัตรประชาชนด้วย เค้าตรวจเข้มกลัวมีคนชั่วเข้างาน)
“โหหหหห โคตรเข้มว่ะพี่ ได้ๆ ผมจะเตรียมพร้อมเลยบัตรประชาชนก็...อยู่ อยู่ไหนวะ”
(ไอ้สัดเขาอย่าลืมนะมึง เจ้าของงานเค้าย้ำกูชิบหายเรื่องนี้)
“ไม่ลืมพี่ไม่ลืม อยู่ในกระเป๋าไม่ก็อยู่บ้านเนี่ยแหละ”
(เออ ให้ดีนะมึงอย่าให้พลาด อยากให้น้องมีเงินใช้)
“ขอบคุณคร้าบ ซียูรูอะเกนนะพี่รัก”
(โอเค ซียูแทงรูอะเกน น้องรัก เจอกันวันอาทิตย์ที่บ้านมึง)
วู้วฮูวววววว ไอ้เขาจะมีเงินใช้แล้วโว้ยยยยย
“เย้!!!!!!!!!!!” ลืมตัวเผลอตะโกนพร้อมกับลุกขึ้นกระโดดไปมา
เอ่อ...
“พี่เขา ที่ผมชมว่าน่ารักเมื่อกี้ผมพูดเล่นนะครับ”
ไอ้สัดปั๊มมึงไม่ต้องพูดดังได้มั้ยยย
“เลิกคลาสวันนี้ได้”
“เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ”
เสียงร้องลั่นเหมือนฟุตบอลไทยไปบอลโลก เพื่อนคนอื่นวิ่งออกไปเหมือนถือคบเพลิงโอลิมปิค เลิกห้าโมงครึ่งแค่เนี้ย ดีใจไรนักหนา ไอ้หมูเพื่อนรักเก็บของเสียงดังก่อนจะใช้ตีนเขี่ยเฮียดุกที่นอนตายอยู่ ตอนมึงนอนคาบจารย์สาแล้วยังโชว์พลังเสียงอีกนะ เสียงกรนเนี่ยดังไปถึงดาวอังคาร
“รีบไปไหนไอ้หมู” ผมถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนตัวผอมแห้งรีบเก็บของ
“วันนี้กูจะไปดูน้องบีบี๋เต้นโคฟเวอร์ที่สยาม”
“จริงดิ!”
“ตื่นเต้นทำเชี่ยไร รู้จักหรอ”
“รู้ดิ เต้นโคฟเวอร์คือเต้นในร่มช้ะ มีโคฟเวอร์บัง”
“โอ๊ยยย กูล่ะตื่นเต็มตาเลย” อยู่ดีๆ เฮียก็ร้องขึ้น
“ทำไมอะเฮีย”
“มึงหัดเปิดยูทูปดูอย่างอื่นบ้างนะ ไม่ใช่ฟังแต่อัลบั้มพี่โต” เฮียดุกว่า แล้วลุกบิดขี้เกียจ
“งอน”
“เรื่องมึง” ไอ้หมูครับ มันลุกขึ้นเดินนำออกไปพร้อมกับเฮียดุก คือเฮียลุกแล้วเดินตัวปลิวได้เลยครับ ไม่ได้เอาเหี้ยไรมาเรียนซักอย่าง สมองยังไม่เอามาเลยครับคิดดู
“อะไรวะ ไม่มีใครเข้าข้างซักคน มาเรียนก็เหมือนมาคนเดียว แม่ง ไม่มีใครสนใจเลย” ผมบ่นกระทืบเท้าออกจากห้อง เดินตามก้นพวกมันออกมาจากตึกก็ยังบ่น ทึ้งหัวตัวแม่งหนังยางรัดเจ็บไปหมด แล้วแว่นกูอยู่ไหนเนี่ย
“ไอ้เขา”
จู่ๆ ไอ้หมูก็เรียกผมเสียงเบา “อะไรไม่ต้องมาง้อ”
“มึง...ดู...”
“ดูเชี่ยไร หาแว่นไม่เจอเนี่ย โกรธละนะ” พาลทุกอย่าง ตอนเข้าเรียนยังอารมณ์ดีเพราะจะมีเงินแท้ๆ
ผลัวะ!
“ตบไมวะเฮีย” ผมหน้ามุ่ยพลางลูบหัวจุดที่โดนเฮียดุกตบป้อยๆ
“แว่นอยู่บนดั้งมึงไงไอ้เขาควาย ขยับแว่นแล้วก็เงยหน้ามองซะ มีคนมาหามึง...”
แว่นลูกพ่ออยู่บนหน้าก็ไม่บอก ไหนอะไรวะ ใครมา
ชะ....
“กรี๊ดดดดดดด”
“อ๊ายยยยยยยย ทำไมคุณชายมาดุริยางค์ได้”
“โอ๊ยยยยยยคุณพระ อกอีแป้นจะขาดรอนๆ ขอเซลฟี่ได้มั้ยวะ”
“กรี๊ดดดด เค้ามารอใครตั้งนานอะดิมมี่”
“ไม่รู้ค่ะพี่แป้งเห็นยืนนิ่งอยู่คนเดียวตั้งนานแล้ว กรี๊ดดดดดด เนื้อสั่นอยากด้ายยยย เห็นใกล้ๆ แล้วอยากโดน”
เข้....พอรู้สถานการณ์กูก็เริ่มเล่นใหญ่เอาตัวรอดทันที
“เฮ้ยๆๆๆ กรี๊ดไรกันวะ แผ่นดินไหว แม่งหลบเร็วๆๆๆ แป้งพวกมึงกรี๊ดกันทำไมหลบสิ ไอ้หมู เฮียดุกจับกูทำไมปล่อย แผ่นดินไหวต้องไปหลบ”
ผมทำท่าจะวิ่งหนีแต่เพื่อนสองขยับมาล็อคแขนซ้ายกับขวาไว้แน่น ที่ผมต้องรีบหนีเพราะคนที่ยืนกอดอกหลังตรงอยู่ตรงหน้าคณะ คือคุณชายตัวเป็นๆ! ตอนเช้ามีคนมาถามหาตอนนี้เจ้าตัวมารอกระทืบกูเลยมั้งเนี่ย หรือว่ามันไม่พอใจกับเสื้อห้ามยับอะไรนั่น
“ปล่อยกูดิวะ” ผมสะบัดตัวแต่ไอ้เพื่อนรักทั้งสองยิ่งกำต้นแขนผมแน่นแถมยังลากผมไปอยู่ตรงหน้ามัน
“เชิญครับ จัดการตามสบาย ถ้ามันกวนตีนก็ใช้ตีนตบหน้า เอ๊ย ใช้อวัยวะเบื้องล่างทำอันตรายที่ใบหน้ามันได้เลยครับ”
“เฮ้ยยย พวกมึงอะไรของมึงเนี่ยย เพื่อนกูไม่ใช่อ่อวะ” ผมโวยวาย นาทีนี้ไม่ได้กลัวไอ้คุณชายซักนิด เพื่อนกันเค้าไม่ทำงี้หรอกนะพวกมึงง
“ตัวมอมแมม” กูไม่ใช่หมาไม่ต้องทำหน้าดุ แล้วทำไมกูถึงหยุดวะเนี่ย ผมชะงักมองหน้าคนที่พูดออกมาคำแรกนิ่ง เพื่อนผมถอยหลังไปสามก้าวพร้อมๆ กัน
“โชคดีนะเพื่อน โทษฐานที่งอนพวกกูไม่มีเหตุผล หนีตีนมาให้ได้ละเพื่อนรัก” ไอ้หมูว่าแล้วก็เผ่นแนบไปกับเฮียดุก
“พวกมึงงงงงงงงงงงงงงงงง!” พอเห็นว่าหัวเดียวกระเทียมลีบความกล้าเริ่มจางหาย แต่ไม่ได้เว้ย ไอ้เขาคนจริง ค่อยๆ หันหน้าไปเผชิญปัญหาด้วยความกล้าหาญ...
“มะ...มีไร”
“ทำอะไรไว้ล่ะ”
ผมใช้หลังมือดันแว่น มันเบี้ยวครับนอนหลับทับแว่นเมื่ออาทิตย์ก่อน ยังไม่มีตังค์ไปซื้อใหม่ “กูไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย เสื้อก็ซักคืนแล้วไง ส่งถึงบ้านด้วย ไม่ต้องถามนะว่ารู้จักที่อยู่ได้ไง ไม่ตอบหรอก”
เดี๋ยวนะ... แล้วผมจะพล่ามไปหมดเปลือกทำม้าย
“เป็นเด็กพูดกับผู้ใหญ่ดีๆ” มันขมวดคิ้วฉับ มึงยังพูดคำหยาบเลย! ไม่...ไม่...ผมไม่ได้กลัวมัน ไม่ได้กลัวมันจริงๆ
“บอกแล้วใช่มั้ยว่าถ้าทำไม่ดีจะตามถึงบ้าน” มันเปิดประตูหลังรถแล้วเอากล่องไปรษณีย์ผมออกมายื่นให้ผมดู โอ้โห แผนผมเวิร์คมากจริงๆ ตามถึงถิ่น
“ก็ซักคืนแล้วไงจะเอาไรอีก หรือมันยับเกิน จะต้องเรียบขนาดไหน”
“นั่นไม่ใช่ซัก นั่นมันคือการซื้อใหม่” ทำผิดซักข้อนึงมันไม่ได้เลยไง๊ ก็มันทำไม่ได้ เข้าใจมั้ยวะ ไปซักเองไป กวนตีนกูก่อนแท้ๆ แล้วยังมาหาเรื่องด่าอีก ผมไม่สนเสียงซุบซิบหรือใครที่มองอยู่เลยครับ อารมณ์มันมา ฮอลคูลก็เอาไม่อยู่ครับนาทีนี้
“ไม่ทำตามคำสั่งแล้วยังจะโกหกมันน่าหงุดหงิดจริงๆ” มันส่ายหน้าเหมือนเอือมระอาซะเต็มประดา แบบที่ผมมองแล้วรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที
โกรธแล้วนะ ที่ซื้อคืนให้เพราะลึกๆ แล้วมันรู้สึกผิดไง แต่เพราะเป็นไอ้เขา ผมเลยตะโกนใส่หน้ามันอย่างเหลืออด
“ก็มันซักแล้วไม่ออกนี่ ซักจนกล้ามจะขึ้นแล้วก็ไม่สะอาด มันซักไม่ออกก็ไปซื้อใหม่ให้แล้วไงวะ แพงก็แพง แม่ง! ดูมือ ผงซักฟอกกัดเนี่ยเห็นมั้ย เตารีดก็โดนแขนเนี่ย มึงเป็นใครก็ไม่รู้กูก็บ้าทำตามอยู่ได้!”
เมื่อผมโชว์แผลให้ดูประกอบคำพูด คุณชายชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะพูดเสียงห้วน “โตเป็นโคในทุ่งหญ้าแล้วจะร้องทำไม”
โค...โคอะไรนะ...ผมยกมือเช็ดหางตา น้ำตามาจากไหน เข้ ไม่เท่เลยเมี้ยงเอ้ย
“มะ...ไม่ได้ร้องโว้ย” คุณชายส่ายหัวแล้วเดินไปที่รถ นี่จะไปก็ไปหรอ เออบาย
“ขึ้นรถ” คุณชายเปิดประตูแล้วสอดตัวเข้าไปนั่ง อะไรของมัน ผมก็หนีสิ ชื่อก็ไม่รู้จัก ไอ้ที่บอกว่าตามถึงบ้านก็ขู่แหงๆ เขาไม่โง่นะครับ เลิกแล้วต่อกันนะพี่ พอเห็นผมเตรียมตัวจะหันหลังกลับพี่แกก็เลื่อนกระจกลง พร้อมกับหยิบกล่องไปรษณีย์ขึ้นมาแล้วอ่านออกเสียง
“ชื่อที่อยู่ผู้ส่ง นายภูเขา บรรจงภักดี เบอร์โทรศัพท์ 083-23568xx บ้านเลขที่ 82/4 ซอย 7 ถนน...”
“เฮ้ยยยยยยยยย!!” มาทั้งทะเบียนราษฎร์ มันทำหน้านิ่งแต่สายตายียวนไปจนถึงบาทาบ่งบอกให้รู้ว่าถ้าไม่ขึ้น มันสามารถจองเวรผมถึงรู้ถึงประตูหน้าบ้าน ไอ้คุณชายโบกสะบัดกล่องไปรษณีย์นั่นไปมา ผมตาโตอึ้งด้วยอารามควายเข้าสิง
โน้วว....กูว่าแล้วลืมอะไร ไอ้พี่เสกเล่นกูแล้ววววว ผมไม่ได้โง่อย่างเดียวนะครับ โง่ชิบหายบรมควายตมยังเรียกพี่เลย
กูจะเขียนที่อยู่ทำม้ายยยยยยยยยยยยยยย
แทบจะทึ้งหัว คุกเข่าลงไปกับพื้น
ใจมันเจ็บช้ำ...
“จะขึ้นไม่ขึ้น” คุณชายส่งเสียงกดดันอีกครั้งแล้วก็หรี่ตามองผม ขอโอดครวญในใจก็ไม่ได้ อยากมีซีนอารมณ์
“ไม่ขึ้น” พอผมตอบเท่านั้นแหละ เชี่ย...ตาดุขึ้นยี่สิบแปดเปอร์เซ็นต์ ผมจึงรีบพูดต่อ “ไม่ขึ้นได้หรอจ๊ะ”
“พูดมาก” เนี่ยแล้วก็ทำหน้าดุใส่ด้วย กลัวง่ะ ยอมรับ แต่พี่ครับ เราไม่ได้รู้จักข้าวจี่อะไรกันเลยนะครับ อะไรนะ...มักจี่ เคๆ
“จะพาไปไหนล่ะ...ครับ”
พอผมถามคำถามนั้น ทั่วบริเวณก็เงียบสนิท
“พาไปจัดระเบียบ”
“...!?!”
ขนลุกวาบ กระเพาะปลาคืนสุดท้ายขอเปลี่ยนเป็น หูฉลามที่เยาวราชแล้วกันนะพ่อ คืนสุดท้ายขอแพงหน่อย
พาไป...จะ...จัด ระเบียบ....
เนี่ย...นะ....
=====
ดีนะยังรู้ตัวว่าโง่ชิบหายบรมควายตมยังเรียกพี่อะเขา555
ดีใจไอ้เขาทำให้ทุกคนยิ้มด้ายยย
ขอบคุณทุกคนมากๆ ค่ะ