หมอถูกตามตัวมาหลังจากนั้นไม่นาน เขาเข้าไปดูอาการของเลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์ที่นอนอยู่บนเก้าอี้ยาวตรงระเบียงชั้นล่างของคฤหาสน์ และลงความเห็นว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก เต็มที่ก็แค่เคล็ดเล็กน้อย หลังจากพยายามใช้สายตาบีบคั้นหมอหนุ่มผู้แสนซื่ออยู่นาน เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์ก็จำต้องยอมรับอย่างอายๆ ว่าเธอคงตกใจเกินไปจึงทำให้รู้สึกเจ็บมากกว่าที่ควรจะเป็น ลอร์ดโทรว์บริดจ์จึงออกความเห็นว่าเธอควรจะพักสักครู่ จากนั้นเขาก็รีบชวนเซอร์เจเรมี่ ไฮฟอร์ดและลอร์ดเซลบีออกไป แต่ฝ่ายหลังไม่ยินยอม พวกเขาจึงออกกันมาแค่สองคน
“โอ้ ให้ตาย เจเรมี่ งานนี้นายต้องช่วยฉัน” ลอร์ดโทรว์บริดจ์กระซิบบอกบารอนหนุ่ม “ญาติของนายพยายามจะปั่นหัวฉัน”
“เธอเป็นเลดี้ และเธอเป็นลูกสาวของท่านลุงฉัน” เซอร์เจเรมี่ ไฮฟอร์ดว่า “นายควรจะให้เกียรติเธอหน่อย เพราะเธอคลั่งไคล้นายมาก”
“ฉันให้เกียรติเธอเต็มที่อยู่แล้ว” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ว่า “ฉันบอกนายได้ว่าฉันรู้สึกดีกับเธอมาก ในแง่น้องสาว เธอเป็นน้องสาวที่น่ารักมากในสายตาฉัน ถ้าฉันมีน้องสาวอย่างเธอสักคนอยู่ที่บ้านคงเป็นเรื่องน่าสนุกไม่น้อย แต่ฉันจะไม่คิดกับเธอในแง่อื่น”
“งั้นนายควรจะบอกเธอไปตรงๆ” เซอร์เจเรมี่ ไฮฟอร์ดว่า ลอร์ดโทรว์บริดจ์จ้องหน้าเขา
“นายคิดว่าฉันไม่ได้พูดงั้นหรือ ฉันบอกเธอไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าฉันรู้สึกดีกับเธอมาก ในแง่ของน้องสาวคนหนึ่ง แล้วดูสิวันนี้เกิดอะไร เธอแกล้งให้ฉันอุ้มเธอขึ้นมา โอ... ถ้าเธอบอกฉันตรงๆ ฉันคงจะโมโหน้อยกว่านี้ ฉันไม่ชอบโดนหลอก เจเรมี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงที่ฉันไม่ได้รัก”
“รู้อะไรมั้ย?” เซอร์เจเรมี่ ไฮฟอร์ดจ้องตอบ “นายนี่เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมาจนน่าต่อย แต่ฉันยอมรับความจริงใจของนาย อย่างน้อยๆ นายก็มาพูดเรื่องนี้กับฉันตรงๆ ได้... ฉันจะพยายามช่วยนาย แต่ฉันไม่รับประกันหรอกนะ อเล็กซี่เป็นผู้หญิงที่จริงจังกับสิ่งที่เธอต้องการมาก เธอจะไม่ยอมปล่อยมือจากอะไรง่ายๆ นายอาจจะต้องทนๆ เอาหน่อย ก็แค่วันนี้สักวัน พรุ่งนี้นายก็อ้างธุระด่วนจับรถไฟกลับลอนดอนเลย”
“ตกลง ฉันจะอดทนกับเธออย่างเต็มที่”
-------------------------------------
ทว่าในเช้าวันรุ่งขึ้น เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์กลับป่วยขึ้นมาจริงๆ เธอไข้ขึ้นสูงและเพ้อถึงแต่ชื่อของลอร์ดหนุ่ม หมอที่มาตรวจอาการลงความเห็นว่า คงจะเกิดจากการที่เธอพักผ่อนน้อย และตากแดดกับออกแรงมากเกินไป สาวใช้แอบมาเล่าให้ลอร์ดโทรว์บริดจ์ฟังหลังจากนั้นว่า คืนวันเสาร์ที่มีฝนตกหนัก เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์เดินฝ่าฝนออกไปท่ามกลางความมืด เพื่อให้แน่ใจว่าแปลงดอกไม้ที่เธอเตรียมไว้ต้อนรับเขาจะไม่ถูกฝนตีจนพินาศ และเธอยังตื่นเต้นจนนอนไม่ค่อยหลับติดกันมาหลายคืน เมื่อได้รู้ว่าลอร์ดหนุ่มตอบตกลงจะมาตามคำเชิญ
ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวล ลอร์ดโทรว์บริดจ์จึงไม่อาจกลับมายังลอนดอนตามความตั้งใจเดิมได้ เขาสั่งให้โอลิเวอร์ไปส่งโทรเลขสามฉบับ ฉบับแรกส่งถึงลอร์ดบาธพ่อของเขา ฉบับต่อมาส่งถึงลอร์ดจอร์จ เฟลตัน และฉบับสุดท้ายส่งถึงกอร์ดอน โอเดนเบิร์ก ทั้งหมดมีเนื้อหาอย่างเดียวกัน คือเขาไม่สามารถกลับไปตามกำหนดเดิมได้ แต่จะพยายามกลับไปให้เร็วที่สุด
เขาอยู่ให้กำลังใจเลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์อย่างใกล้ชิด สลับกับเซอร์เจเรมี่ ไฮฟอร์ด และลอร์ดเซลบี (ซึ่งเซอร์เจเรมี่พยายามหาข้ออ้างต่างๆ นานา เพื่อช่วยให้เขาได้อยู่ใกล้ชิดกับเลดี้อเล็กซานดร้าในช่วงเวลาวิกฤติ) แน่นอนว่าเขาคิดถึงช่างตัดเสื้ออย่างสุดหัวใจ ในคืนวันพุธ หลังจากเลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์หลับลงแล้ว เขาก็ออกมายืนสูบบุหรี่ที่ระเบียงห้องพัก พลางคิดถึงสีหน้าและแววตาของช่างตัดเสื้อ และสงสัยว่าตัวเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่
“คุณดูเหม่อจังเลยนะคะ”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์สะดุ้ง เขาหันไปมองเลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์ ซึ่งนอนป่วยและเพ้อด้วยพิษไข้มาถึงสองวันแล้ว หญิงสาวกำลังลืมตามองเขา แล้วยิ้มให้อย่างอ่อนแรง
“ฉันดีใจเหลือเกินที่ได้เห็นคุณนั่งอยู่ตรงนี้ ฉันไม่ได้ฝันอยู่ใช่ไหมคะ? ที่นั่งอยู่นี่เป็นคุณจริงๆ ใช่ไหมจอห์น”
“แน่นอน ผมเอง” ลอร์ดโทรว์บริดจ์จับมือของเธอขึ้นมาบีบ แล้วยิ้ม “คุณรู้สึกดีขึ้นหรือยัง?”
“โอ... ฉันยังรู้สึกมึนๆ อยู่ค่ะ เหมือนว่าฉันฝันร้ายนานมาก”
“คุณไม่ได้สติอยู่ตั้งสองวันแน่ะ” เขาบอกเธอ “ทุกคนเป็นห่วงคุณมาก ทั้งท่านดยุก ท่านดัชเชส เจเรมี่ แล้วก็แพตทริก เขากินไม่ได้นอนไม่หลับเลยทีเดียว”
“แล้วคุณล่ะคะ?” เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์ถามเขา “ห่วงฉันหรือเปล่า?”
“แน่นอน ไม่งั้นผมจะนั่งอยู่ตรงนี้หรือ?”
เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจ ลอร์ดโทรว์บริดจ์พูดต่อ “คุณอยากได้อะไรไหม? น้ำดื่ม? หมอ? เดี๋ยวผมจะตะโกนให้คนไปตามมาให้”
“ฉันอยากดื่มน้ำค่ะ” หญิงสาวบอกเขา ลอร์ดหนุ่มจึงเดินไปรินน้ำใส่แก้ว แล้วช่วยพยุงตัวเธอให้ลุกขึ้นมานั่ง และประคองแก้วเอาไว้ระหว่างที่เธอดื่มน้ำจากมัน
“ขอบคุณค่ะ” เธอพูดและเอนตัวลงอีกครั้ง ลอร์ดโทรว์บริดจ์วางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ
“ผมจะไปตามท่านดยุกกับท่านดัชเชส พวกเขาคงดีใจมากที่คุณได้สติแล้ว”
เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์ดึงขากางเกงของเขาเอาไว้ ก่อนจะช้อนตามองเขาอย่างอ้อนวอน “ให้ฉันได้คุยกับคุณแบบนี้อีกสักครู่ได้ไหมคะ?”
“ได้สิ” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ตอบและหันกลับมาหาเธออีกครั้ง เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์พยายามยื่นมือขึ้นมา ลอร์ดหนุ่มจึงกุมมือของเธอเอาไว้ หญิงสาวยิ้มออกมาอีกครั้ง
“โอ... ฉันไม่คิดเลยว่าจะมีผู้ชายที่ทำให้ฉันหลงใหลได้มากถึงเพียงนี้” เธอพูด และหน้าแดงขึ้นมา “ฉันไปดูการชกของคุณเพียงเพราะคำชวนของเพื่อนแท้ๆ แต่พอฉันเห็นคุณบนเวทีนั่น ฉันก็รู้สึกขึ้นมาทันทีว่าฉันได้พบกับสุภาพบุรุษที่แท้จริงแล้ว”
“คุณมองผมดีเกินไปแล้ว” ลอร์ดโทรว์บริดจ์พูดยิ้มๆ “ผมก็แค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่ชอบทำเรื่องตื่นเต้นไปเรื่อยเท่านั้นเอง”
หญิงสาวมองเขาอย่างปลาบปลื้ม ก่อนจะถอนหายใจยาว “เธอสวยมากไหมคะ?”
“หืม?”
“คนรักของคุณน่ะค่ะ”
“โอ...”
เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์บีบมือของเขา “แสดงว่าคุณมีคนรักอยู่แล้วจริงๆ” เธอถอนหายใจอีกครั้ง “เธอเป็นผู้หญิงแบบไหนคะ?”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์นิ่งไปพักใหญ่ๆ “เธอ... สวยมาก สวยที่สุดในสายตาผม... เธอคือทุกอย่างที่พระเจ้าสั่งให้ผมรัก”
เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์มองเขาเงียบๆ “เธอคือคนที่คุณคิดถึงเมื่อครู่สินะคะ คุณพบกับเธอนานหรือยังคะ?”
“ตั้งแต่วันแรกที่ผมกลับมาจากอเมริกา” ลอร์ดหนุ่มว่า “มันเป็นการพบกันโดยบังเอิญ ผมรักเธอหมดหัวใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นเธอ”
“โอ...” น้ำตาใสๆ ไหลซึมออกมาจากหางตาของหญิงสาว ลอร์ดโทรว์บริดจ์ใช้มือเช็ดมันเบาๆ
“ผมต้องขอโทษที่ทำให้คุณผิดหวัง แต่ผมไม่ต้องการให้ความหวังที่ไม่มีทางเป็นไปได้กับคุณ”
น้ำตาไหลหลั่งออกมาจากดวงตาสีเขียวคู่สวยของเธอ เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์สูดหายใจลึก เธอใช้ความพยายามอย่างมากในการสะกดกลั้นอาการสะอึกสะอื้น ลอร์ดโทรว์บริดจ์บีบมือเธอเอาไว้
“ผมไม่ควรพูดเรื่องนี้ให้คุณฟังเลย คุณเพิ่งฟื้นจากไข้แท้ๆ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” ในที่สุด เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์ก็เค้นคำพูดออกมาได้ เธอสูดหายใจอยู่อีกครั้งสองครั้ง “ฉันเป็นคนถามคุณเอง ที่จริงฉันรู้ตั้งแต่วันแรกที่เราคุยกันแล้วค่ะว่าคุณต้องมีคนรักอยู่แล้ว”
“....”
“จอห์นคะ มันอาจจะเป็นคำขอที่น่าละอายมาก ฉันรู้ว่าตัวเองคงเป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอายในสายตาของคุณ แต่ฉันอยากใช้สิทธิ์ในฐานะผู้ป่วย ขอให้คุณปฏิบัติกับฉันเหมือนว่าฉันเป็นคนรักของคุณ จะได้หรือเปล่าคะ?”
“โอ...”
เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์รีบพูดขึ้นต่อ “ได้โปรดเถอะค่ะ แค่เพียงชั่วคราว ฉันอยากรู้ว่าการได้เป็นคนที่คุณรักนั้นมีความสุขขนาดไหน แค่วันเดียวก็ยังดี”
“แต่คุณจะเป็นแค่ตัวแทนของคนอื่น”
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอแค่คนที่รักเป็นคุณก็พอ”
-----------------------------
ท่านดยุกและท่านดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ดีใจมากที่ลูกสาวคนเล็กของพวกเขาฟื้นจากไข้ เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์บอกพวกเขาถึงเรื่องที่เธอร้องขอต่อลอร์ดโทรว์บริดจ์ ในตอนแรกท่านดยุกไม่เห็นด้วย ท่านมองว่ามันเป็นการเสียเกียรติที่บุตรสาวของท่านจะถูกใช้เป็นตัวแทนของผู้หญิงคนอื่น แต่ท่านดัชเชสพยายามรบเร้าด้วยความสงสารบุตรสาว ลอร์ดโทรว์บริดจ์จึงช่วยรับรองว่าจะไม่มีการเกินเลยกันทางด้านร่างกาย เขาจะปฏิบัติต่อเลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์อย่างเดียวกับที่สุภาพบุรุษจะปฏิบัติอย่างให้เกียรติต่อสตรีที่พวกเขารัก ท้ายที่สุดท่านดยุกก็ยอมใจอ่อน แต่ท่านกำชับว่าเรื่องทั้งหมดจะต้องเป็นความลับ และทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงวันเดียวเท่านั้น
ลอร์ดเซลบีโมโหมากเมื่อรู้เรื่อง แต่ทว่าหลังจากได้เห็นสีหน้าที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดของเลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์ เขาก็ยอมที่จะย้ายออกไปพักที่โรงแรมเป็นการชั่วคราว เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทนเห็นภาพบาดตาบาดใจระหว่างหญิงสาวที่เขาหลงรัก กับผู้ชายที่เขาไม่ชอบขี้หน้าเอามากๆ เซอร์เจเรมี่ ไฮฟอร์ดจึงตามออกไปด้วย
เช้าวันรุ่งขึ้น เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์แต่งตัวด้วยชุดสีเหลืองสดใส เธอใช้เวลาแต่งหน้าทำผมอยู่นานเพราะอยากจะให้ตัวเองดูสวยที่สุด เมื่อเธอเปิดประตูห้องออกมา ก็พบลอร์ดหนุ่มยืนรออยู่แล้วในชุดสูทสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งทำให้เขาดูหล่อเหลามากในสายตาของเธอ
“คุณสวยมาก” ลอร์ดโทรว์บริดจ์พูดแล้วยกมือของเธอขึ้นมาจูบ ก่อนจะจูงมือหญิงสาวลงไปชั้นล่าง พวกเขานั่งกินมื้อเช้าด้วยกันสองคน คุยกันถึงเรื่องสัพเพเหระทั่วๆ ไป ระหว่างนั้นลอร์ดโทรว์บริดจ์กุมมือเธอเอาไว้ตลอดเวลา
หลังกินมื้อเช้าเสร็จ พวกเขาก็ออกไปเดินเล่นในสวน โดยคล้องแขนกันเหมือนคนรัก ลอร์ดโทรว์บริดจ์บอกให้เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์พาเขาไปชมแปลงดอกไม้ที่เธออุตส่าห์ฝ่าฝนออกไปดูแลมัน ซึ่งเธอเคยพาเขาไปดูมาแล้วในเย็นวันจันทร์
พวกเขาชมสวนกันจนใกล้เที่ยง จึงกลับเข้ามาพักดื่มชาและกินของว่างด้านในคฤหาสน์ เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์ชวนเขาไปที่ห้องดนตรี และขอให้เขาช่วยสอนเปียโนให้ ทั้งสองคนเล่นดนตรีด้วยกันจนกระทั่งตกเย็น จึงพากันนั่งรถม้าเปิดประทุนออกไปชมธรรมชาติของทุ่งหญ้าและหุบเขาที่ตั้งอยู่ทางเหนือของคฤหาสน์ เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์ซุกตัวลงกับอกของลอร์ดหนุ่มอย่างออดอ้อน และเจ้าตัวก็โอบไหล่เธอเอาไว้ตลอดเวลา พวกเขาลงเดินเล่นกันบนทุ่งหญ้าใกล้เนินเขา ลอร์ดโทรว์บริดจ์เด็ดอกหญ้าเล็กๆ ดอกหนึ่งมาแซมไว้บนเรือนผมของเธอ เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์จึงเด็ดดอกหญ้าอีกดอกมาเสียบไว้ที่อกเสื้อของเขา ทั้งสองคนเที่ยวเล่นกันจนล่วงเข้าเวลาเย็น จึงกลับมาที่คฤหาสน์ และกินมื้อค่ำร่วมกันอีกครั้ง จากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ย้ายกันไปนั่งที่ห้องนั่งเล่น เธอขอให้เขาเล่าเรื่องที่อเมริกาให้ฟัง พวกเขาคุยกันอยู่จนถึงสามทุ่ม ลอร์ดโทรว์บริดจ์จึงแนะนำให้เธอเข้านอนเสีย
“วันนี้ช่างดีเหลือเกินค่ะ ฉันไม่อยากให้มันจบลงเลย” เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์หันมาพูดกับลอร์ดโทรว์บริดจ์ ในตอนที่เขาเดินมาส่งเธอที่หน้าประตูห้องนอน ลอร์ดหนุ่มคลี่ยิ้มให้เธอ
“คุณต้องพักผ่อน คุณเพิ่งฟื้นจากไข้นะ ผมคงเสียใจมากถ้าเรื่องวันนี้ทำให้คุณล้มป่วยอีก”
“โอ... ไม่หรอกค่ะ ปกติแล้วฉันเป็นผู้หญิงที่แข็งแรงมาก” หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าเชื่อมั่น ลอร์ดหนุ่มหัวเราะ
“ผมจะเชื่อคุณแล้วกัน”
เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์ชม้อยตามองเขาแล้วขบริมฝีปากอย่างเขินๆ “จอห์น ก่อนนอนคืนนี้ คุณจูบราตรีสวัสดิ์ฉันได้ไหมคะ?”
“....” ลอร์ดโทรว์บริดจ์อึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนที่เจ้าตัวจะคลี่ยิ้มออกมา “ได้สิ” จากนั้นเขาก็ก้มลงจูบศีรษะของหญิงสาวเบาๆ
“ราตรีสวัสดิ์ ท่านหญิงของผม”
“ระ... ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”
แม้ไม่ใช่จูบอย่างที่เธอแอบคาดหวัง แต่มันก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะกระดอนออกมา ถึงประตูจะปิดลงแล้ว แต่หัวใจของหญิงสาวยังคงเต้นอื้ออึงอยู่ในอก เธอรีบหันไปหาสาวใช้
“โอ... เรจิน่า ช่วยดึงสายรัดคอร์เซ็ตออกให้ฉันที ฉันคิดว่าตัวเองจะเป็นลมแล้ว”
-------------------------------------
ลอร์ดโทรว์บริดจ์กลับมาที่ห้องพักของตัวเอง เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินไปที่ระเบียงและหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ แต่สูบไปได้ไม่กี่ครั้ง เจ้าตัวก็เปลี่ยนใจดับบุหรี่ แล้วล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งขึ้นมา
“โอ... ยอดรัก ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน”
เขาก้มลงจูบผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นเบาๆ
---------------------------------------
เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์หายดีเป็นปกติในวันถัดมา เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ลอร์ดโทรว์บริดจ์จึงลากลับ โดยให้เหตุผลว่าเขายังมีภาระในการซ้อมและคัดตัวนักรักบี้ในงานการกุศลที่จะจัดในฤดูใบไม้ร่วงนี้ เลดี้อเล็กซานดร้า เลนนิกส์จึงขอให้เขาถ่ายภาพร่วมกับเธอ และมาส่งเขาด้วยตนเองที่สถานีรถไฟในช่วงเย็น เธอยังมอบผ้าเช็ดหน้าไว้ให้เขาผืนหนึ่ง ลอร์ดหนุ่มจึงให้ผ้าเช็ดหน้าของเขากับเธอไป
“เลดี้อเล็กซานดร้าเป็นผู้หญิงที่เปิดเผยมากเลยนะครับ” โอลิเวอร์พูดขึ้นหลังจากที่รถไฟออกจากสถานีแล้ว ลอร์ดโทรว์บริดจ์พยักหน้า
“อืม ฉันชอบเธอนะ ในฐานะน้องสาว ฉันอยากจะมีอย่างเธอสักคน”
คนรับใช้หัวเราะ “นายหญิงคงต้องปวดหัวมากทีเดียว เหมือนเธอมีลูกชายสองคน”
อีกฝ่ายคลี่ยิ้มออกมา “เธอเองก็ทำฉันปวดหัวมาก นี่เธอรั้งฉันเอาไว้ได้ตั้งเกือบสัปดาห์แน่ะ เธอคงเป็นผู้หญิงคนแรกที่ประสบความสำเร็จในการทำแบบนี้”
“นั่นสิครับ ว่าแต่คุณไม่โทรเลขบอกนายท่านหรือครับว่าคุณจะกลับวันนี้ เขาจะได้ส่งรถม้ามารับเรา”
“ไม่ ฉันอยากแวะร้านของกอร์ดอนก่อน เราจะเรียกรถม้ารับจ้างกันไป”
“อ้อ ครับ... แล้วคุณเตรียมคำแก้ตัวกับนายท่านเรื่องนี้ไว้หรือยังครับ?”
“แน่นอน” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ว่า “ฉันจะบอกพ่อว่าฉันอยากทำให้เขาประหลาดใจ ฉันแน่ใจว่ามันจะได้ผล ทั้งพ่อกับแม่ต้องประหลาดใจมากแน่ที่ฉันจะโผล่ไปที่บ้านในคืนนี้”
------------------------------------
(จบตอน)
** ตอนที่แล้วลืมกรี๊ดจอร์จ ว่าถ้าไม่รักจอร์จแล้วจะรักใคร แต่ตอนนี้จอร์จก็โดนตัวละครใหม่ออกมาขโมยซีนไปสิ้น 5555+ อเล็กซานดร้าเหมือนออกมาเพื่ออกหักแบบเดียวกับไมครอฟต์ ตอนแรกเราคิดว่านางจะเป็นสาวที่ดูน่าหมั่นไส้กว่านี้ แต่เขียนไปเขียนมา เราพบว่านางกลับน่ารักกว่าที่คิดมาก ตอนนี้เป็นการเปิดตัวที่อลังการงานสร้างของนางมาก และนางคงจะทำให้เรื่องนี้สนุกเข้าไปอีกในอนาคต (อุปสรรค์ของจอห์นกับกอร์ดอนที่มีอยู่ยังไม่มากพอ!!<<
)
พักเรื่องรักของตาแมกซ์ มาเจอกับเรื่องรักๆ ของตาจอห์น 555+ เราคิดว่าอเล็กซานดร้าเป็นผู้หญิงหัวสมัยใหม่มาก เธอน่ารัก เธอก๋ากั่น เธอสปอตเกิร์ล ถ้ามาอยู่ในสมัยนี้คือสตรีพิมพ์นิยมที่ชายหนุ่มจะต้องชอบ และก็เป็นสตรีที่มีโอกาสขึ้นคานสูงเพราะความเรื่องมากและมั่นใจในตัวเองอีกเช่นกัน ฮ่าๆๆ
โอ๊ย ทำไมนิยายวายต้องมีตัวร้ายเป็นผู้หญิง!!!
ไม่นะ อเล็กซี่ไม่ใช่นางร้าย นางออกจะน่ารักและแสบมาก ฮ่าๆ
ตอนหน้าจอห์นกับกอร์ดอนจะกลับมาให้หายคิดถึงค่ะ
ปล. นี่เรายังไม่ได้บอกใช่ไหมคะ? ว่าแก้ยศเจเรมี่เป็นเซอร์ และตำแหน่งคือบารอน (คือแก้หลายดราฟจนจำไม่ได้ว่าเคยบอกไปหรือยังค่ะ
)