Hydrangea 21
ไล่กว้านหลินหอบถุงอาหารเข้ามาในห้องพักที่ภัทรนอนอยู่ รอยยิ้มเนือยๆถูกส่งมาให้ ภัทรในตอนนี้ไร้ความสดใสดูไม่มีชีวิตชีวาเหมือนเมื่อก่อน การนอนนิ่งๆอยู่บนเตียงเป็นระยะเวลากว่าหนึ่งเดือนทำให้ความสดใสที่เคยมีหายไป ไหนจะเป็นห่วงและคิดถึงลูคัส อยากเจอลูกใจจะขาดก็ทำไม่ได้เพราะทุกครั้งที่ลูคัสมาเด็กน้อยก็จะร้องให้แม่อุ้ม แต่ณภัทรในตอนนี้ทำไม่ได้ สงสารลูกจนน้ำตาร่วง ไหนจะต้องกินอาหารให้ได้มากๆเรียกว่ากินเกือบทั้งวันเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้กับเจ้าตัวน้อยในท้อง
ณภัทรรู้สึกขอโทษลูกในท้อง อาจจะเป็นเพราะตนเองสุขภาพไม่แข็งแรงพอที่จะอุ้มท้องแบบคนปกติได้ หรืออาจจะเป็นเพราะตนไม่เชื่อฟังคำเตือนของศลัยเอาแต่เดินทำนู่นทำนี่ทุกวันจนทำให้ลูกต้องมาลำบากตั้งแต่อยู่ในท้อง ภัทรหลับตาลงยามกว้านหลินเดินมากดจูบลงบนหน้าผากของตน
“วันนี้เป็นยังไงบ้าง? เบื่อมากมั้ย?”กว้านหลินเอ่ยถามภรรยาพลางหยิบเอาโจ๊กเจ้าดังที่ตนเองลงทุนไปต่อแถวซื้อมาให้เพราะภัทรบ่นอยากกินใส่ชามทั้งสองถุงแล้วเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างเตียง เป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วที่เขาจะกลับมากินข้าวพร้อมภัทรโดยการกินในชามเดียวกัน ป้อนภัทรคำหนึ่งตัวเขากินคำหนึ่ง
“เบื่อมากครับ”
“ขอโทษนะที่ทำให้ต้องลำบาก”อีกครั้งที่กว้านหลินพร่ำขอโทษเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวันทุกคืน
“ไม่อยากฟังคำขอโทษแล้วครับ อยากฟังเรื่องของลูคัสมากกว่า”
“ไอ้ตัวแสบนั่นเหรอ เมื่อกลางวันแวะเข้าไปดูกำลังเล่นรถมอเตอร์ไซค์ แทบจะนอนขับอยู่แล้ว ที่ตลกก็คือพี่แกล้งเอาขนมลูกมากินลูคัสมันแหวใส่เลย รีบปีนลงจากรถจะมาแย่งขนมคืน ขาสั้นไง อ้วนด้วย สะดุดล้มหน้าทิ่ม”กว้านหลินส่งเสียงหัวเราะเมื่อนึกถึงเจ้าลูกชายที่ส่งเสียงดุเขาแบบไม่เป็นภาษาแต่ดันสะดุดขาตัวเองล้มกลิ้งราวลูกบอล ภัทรมีสีหน้าตกอกตกใจด้วยความเป็นห่วงลูก
“ยังจะมาขำลูกอีกครับ แกเจ็บหรือเปล่า?”
“ไม่เจ็บหรอกจับทันหน้ายังไม่ทันทิ่ม เด็กคนนี้แปลกจริงๆเวลาป้อนนมป้อนข้าวก็เชื่องดีพออิ่มปุ๊บทรยศปั๊บ”
“คุณก็ไปว่าลูก แกยังเล็กยังคิดอะไรไม่เป็นหรอกครับ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องพาแกมาฉีดวัคซีนจะพามาหานะ”
“กลัวลูกร้องไห้”ภัทรพูดเสียงแผ่ว สูดน้ำมูกเบาๆ ใจคนเป็นแม่แสนอยากจะเจอลูกหากแต่ยามลูกทิ้งตัวลงไปร้องไห้เพราะแม่ไม่อุ้มนั้นก็แสนจะน่าสงสาร
“เดี๋ยวจัดการเอง กินเยอะๆนะ”กว้านหลินป้อนโจ๋กให้ภัทร
“ผมกินจนอ้วนเป็นตุ่มแล้วครับ รูปร่างน่าเกลียดจะแย่แล้ว”
“ไม่เห็นน่าเกลียดเลย นุ่มๆนิ่มๆดีออก”กว้านหลินแกล้งจิ้มลงบนหน้าท้องนูนของภัทรอย่างหยอกล้อ เขารู้ดีว่าภัทรค่อนข้างเป็นกังวลกับรูปร่างที่ขยายใหญ่ของตัวเองมากเพราะต้องกินเยอะๆเพื่อให้ลูกในท้องตัวโตและไม่สามารถลุกขึ้นมาทำนู่นทำนี่ได้เหมือนเมื่อก่อนทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าเรียวที่เคยเห็นสันกรามเด่นชัดกลายเป็นหน้ากลม แก้มที่เคยฟูหน้ารักบัดนี้กลมคล้ายซาลาเปาสองลูกเขื่องๆ
สรีระของภัทรเปลี่ยนแปลงจนเห็นได้ชัด
ใครจะว่าน่าเกลียดขึ้นเขาไม่สนใจ สำหรับเขาไม่ว่าจะอ้วนหรือจะผอมภัทรก็ยังคงน่ารักเสมอ
“กินไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอก จะเป็นแบบไหนก็รัก”
“เดี๋ยวนี้ปากหวานเก่งนะครับ”ภัทรอดไม่ได้ที่จะแซวคนเป็นสามีด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ทั้งสองคนนั่งคุยเรื่องสัพเพเหระจนกระทั่งกินอิ่ม กว้านหลินก็จัดแจงรูดม่านปิดเพื่อเช็ดตัวให้ภัทร จากนั้นจึงไปอาบน้ำทำธุระส่วนตัวก่อนจะออกมาหยิบแวนตาและกรรไกรตัดเล็บมานั่งบนเตียง
“เล็บยาวแล้ว ตัดหน่อยนะ”กว้านหลินไม่รอให้ภัทรอนุญาตชายหนุ่มขยับแว่นให้เข้าที่ก่อนจะค่อยๆตัดเล็บให้ภัทรทีละนิ้วจนกระทั่งครบหมดทั้งสิบนิ้ว จากนั้นก็เปลี่ยนมานั่งที่ปลายเตียง
“คุณกว้านหลิน ไม่ต้อง...”ภัทรร้องท้วงเมื่อกว้านหลินจับเท้าของตัวเองหากแต่อัลฟ่าหนุ่มก็ทำหูทวนลม ปล่อยให้ภัทรมองการกระทำของเขาอย่างตื้นตัน
กว้านหลินในตอนนี้ไม่ต่างจากพี่กว้านหลินตอนอายุ 15 เลยซักนิด
ทั้งใจดีและอ่อนโยน
ไล่กว้านหลินและเฉินเสี่ยวป๋ายก้าวเท้าเร็วอย่างรีบเร่งเข้าไปในห้องทำงานใหญ่ของผู้เป็นพ่อ ด้านหน้าห้องบอดี้การ์ดหลายคนยืนอารักขาบุคคลด้านในที่ตั้งแต่ไล่หยวนช่างสิ้นลม สตรีหมายเลขหนึ่งของตระกูลไล่ก็ขึ้นแท่นผู้บริหารที่มีตำแหน่งใหญ่ที่สุด กว้านหลินทำความเคารพผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ใหญ่ สตรีวัยหกสิบปีกำลังยืนมองรูปถ่ายบานใหญ่ที่ติดไว้ด้านขวาของห้องด้วยสีหน้าราบเรียบเดาความคิดในใจของนางไม่ได้เลยซักนิด อู๋อี้เฟยยังคงความสง่างามไม่ต่างจากวันวานเลยซักนิด หญิงวัยหกสิบปีส่งยิ้มอ่อนหวานมาให้
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะกว้านหลิน ดูโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวต่างจากตอนไปอเมริกาครั้งก่อนจนแม่จำเธอแทบไม่ได้”หญิงชราลูบใบหน้าลูกชายคนเล็กอย่างแผ่วเบารอยยิ้มเยือกเย็นอันเป็นบุคลิกประจำตัวส่งมาให้เช่นทุกครั้ง
“แต่แม่ใหญ่ยังสวยเหมือนเดิมนะครับ”ชายหนุ่มประคองสตรีชราไปนั่งที่เก้าอี้ของพ่อก่อนจะย้ายตัวเองมานั่งด้านตรงข้าม
“เห็นว่าช่วงนี้มีปัญหาส่วนตัว”นางรับแฟ้มเอกสารที่กว้านหลินส่งไปให้เปิดดู ปากก็เอ่ยถามราวกับคุยเรื่องสัพเพเหระ แต่กว้านหลินรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องคุยเล่น
อู๋อี้เฟยกำลังสอบสวนเขาอยู่
“ก็นิดหน่อยครับ”
“อัลฟ่าดีๆมีอีกเยอะนะ ถ้าจะต้องสละชีวิตใครไปอีกซักคนแม่ไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญให้เธอต้องลดเกียรติไปนั่งเฝ้านอนเฝ้า โดยเฉพาะพวกสายเลือดชั้นต่ำที่ทำให้พ่อเธอตาย”
“แต่ในท้องนั่นมีเลือดเนื้อเชื้อไขของผมอยู่นะครับแม่ใหญ่ อีกอย่างเรื่องที่ผ่านมาภัทรได้ชดใช้อย่างสาสมแล้ว”
“ถ้าเธอบอกว่ามันชดใช้อย่างสาสมแล้วทำไมไม่ปล่อยมันไปล่ะ ยังจะเก็บไว้ใกล้ตัวให้เป็นหอกข้างแคร่ทำไม เธอรู้หรือเปล่าว่าการยกลูกของคนทรยศขึ้นมาอยู่ในฐานะภรรยามันจะทำให้ความน่าเชื่อถือของเธอลดลง”
“แต่แม่ใหญ่ครับ เรื่องนี้ผมว่ามันไม่ควรเอามาเกี่ยวกัน ภัทรเองก็ไม่ได้รู้ได้เห็นในสิ่งที่ชานซองทำ”
“แล้วใครจะสนใจเหตุผลข้อนั้นล่ะ ไล่กว้านหลินเธออายุจะสามสิบแล้วนะ บางสิ่งบางอย่างต่อให้รักมากแค่ไหนเธอก็ต้องเสียสละทิ้งมันไปบ้าง ตระกูลของเราขึ้นมาได้ถึงขนาดนี้ไม่ได้เป็นเพราะกินบุญเก่าไปวันๆนะ มันเป็นเพราะผู้สืบสกุลที่ผ่านมาเด็ดขาดกับทุกเรื่อง แม่ไม่เห็นด้วยที่จะยกเด็กคนนั้นขึ้นมาเป็นเมียอย่างออกหน้าออกตา ยิ่งลูกของมันแล้วแค่รับรองบุตรก็พอ ถ้าเธอหาคู่ไม่ได้แม่จะหาให้ จะเอาแบบไหนเรียบร้อยเพียบพร้อมหัวอ่อนเชื่อฟังหรือแบบที่มั่นใจในตัวเอง คุณหนูสกุลหวังดีมั้ยเธอก็เคยเจอแล้วนี่”
“แม่ใหญ่ครับ เรื่องงานถ้าผมทำผิดพลาดแม่ใหญ่ตำหนิหรือลงโทษผมได้เต็มที่นะครับ แต่เรื่องครอบครัวของผม ผมขอ ผมอยากให้แม่ใหญ่เปิดใจให้คนของผมบ้างภัทรเป็นเด็กดีและอดทนมากคนหนึ่งทั้งๆที่ผมทำร้ายๆกับเขาไปตั้งเยอะแต่เด็กนั่นมีแต่คำว่าให้อภัยเสมอและตอนนี้เขาก็กำลังอดทนเพื่อลูกของเราอยู่”กว้านหลินพยายามอธิบายให้แม่ใหญ่ฟังหากแต่อู๋อี้เฟยผิดแฟ้มเสียงดังปึง รอยยิ้มใจดีจางหายไปจากใบหน้าแล้ว
“เธอคิดว่าเด็กนั่นจะรักเธอจริงๆได้เหรอกว้านหลิน เธอกำลังเผยจุดอ่อนให้มันเล่นงานเธอต่างหากเล่า คิดดูเถอะมันจะมีใครที่ไหนรักคนที่ฆ่าพ่อตัวเองต่อหน้าต่อตาได้ เหมือนที่เธอก็ทำใจยอมรับพ่อของเด็กนั่นให้อยู่ในฐานะพ่อตาไม่ได้นั่นแหละ ตอนนี้กำลังรักกำลังหลงกันเธออาจจะมองข้ามจุดนี้ไป แต่พอวันหนึ่งที่ความสดใหม่มันเจือจางความรักความหลงเริ่มคงที่ไม่มากขึ้นเธอจะเห็นความจริงข้อนี้ ขอเถอะนะ เธอเองก็ไม่ใช่วัยรุ่นที่จะมาหลงลมกับความรักฉาบฉวยแล้ว ทำอะไรคิดให้เยอะๆ แม่เลี้ยงเธอมาเพื่อให้โตมารับใช้วงศ์ตระกูล อย่าเอาเลือดชั่วเข้ามาแปดเปื้อนสายเลือดอันบริสุทธิ์ของเราเลย เธอเองถ้ายศฐาบรรดาศักดิ์ยังเป็นที่ยอมรับนับหน้าถือตาในปัจจุบันก็ถือว่าได้เลือดสีน้ำเงินมาครึ่งตัว ท่านหญิงคงไม่ดีใจนักถ้าลูกชายคนเดียวใฝ่ต่ำของเลือดชั่วมาร่วมสกุล แม่เองก็รักเธอไม่น้อยไปกว่าคริสและจอห์นนี่ก็อยากจะขอให้เธอเอาคำพูดแม่ไปคิดให้มากๆ ส่วนเรื่องงาน เธอทำดีมากไม่มีที่ติ เลขาเฉิน เดี๋ยวส่งแฟ้มกลับไปที่โรงแรม ก่อนบินคืนนี้ฉันจะตรวจอีกทีแล้วจะให้เลขาหม่าส่งคืนมาให้”หล่อนหันไปสั่งเสี่ยวป๋ายที่ยืนรอคำสั่งอยู่มุมห้อง เสี่ยวป๋ายรีบเดินมารวบรวมแฟ้มตามคำสั่ง ผู้เป็นประมุขใหญ่ของบ้านลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวกลับโรงแรมที่พัก กว้านหลินจะเข้าไปประคองหากแต่เธอยกมือขึ้นห้าม
“ไม่ต้องไปส่งแม่หรอก ตั้งใจทำงานเถอะ”
“ครับ”กว้านหลินก้มหัวรับคำ
“อ่อ แล้วก็ เก้าอี้ตัวนี้ของพ่อเธอ อาจจะนั่งสบายก็จริง แต่ถ้านั่งไม่ดีวันหนึ่งอาจจะตกได้ เข้าใจแล้วใช่มั้ย?”
“ครับ”อู๋อี้เฟยยิ้มเมื่อลูกชายคนเล็กรับคำ หล่อนประคองใบหน้าของลูกก่อนจะจูบลงบนแก้มของกว้านหลินเบาๆ
“แม่กลับก่อน หวังว่าเย็นนี้เธอคงมีเวลาว่างมากพอจะไปกินมื้อเย็นกับแม่นะ”
“ได้ครับ ผมจองร้านอาหารไว้แล้วเดี๋ยวตอนเย็นจะไปรับแม่นะครับ”อี้เฟยยิ้มรับ หล่อนจากไปพร้อมบอดี้การ์ดที่คริสให้ลีโอคัดเลือกมาเพื่อดูแลมารดาของตน ทิ้งระเบิดเวลาไว้ในใจของกว้านหลิน อัลฟ่าหนุ่มทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง ปัญหาของเขากับภัทรไม่ได้เบาลงเลยซักนิด การที่แม่ใหญ่มาพูดกับเขาด้วยตัวเองทั้งที่ก็นิ่งไปหลายเดือนแสดงว่าพี่ใหญ่โน้มน้าวไม่สำเร็จ การที่เขาจะแต่งภัทรเข้าบ้านก็เป็นเรื่องยากเหลือเกิน
ในใจของอัลฟ่าหนุ่มทั้งหนักและหน่วงคล้ายมีเหล็กเผาไฟนับพันดันทาบทับ ชายหนุ่มปิดเปลือกตาลงอย่างอ่อนล้า
ต้องหาทาง
จะทำยังไงดี...ทำยังไงดีกับเส้นทางของพวกเรา
พี่มองไม่เห็นทางเลยภัทร
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารมื้อเย็นไม่ดีเลยซักนิด หัวข้อที่แม่ใหญ่หยิบยกขึ้นมาพูดยังไม่พ้นเรื่องครอบครัวของเขา ชายหนุ่มฝืนตักอาหารใส่ปากโดยไม่ได้รู้รสชาติของอาหารที่ใครหลายๆคนต่างรีวิวกันในโซเชียลว่ามันแสนจะเลิศรสเลยซักนิด
เพราะไม่ว่าจะกินคำไหนก็มีเพียงความขมปร่าที่แผ่ซ่านจากปลายลิ้นถึงหัวใจ
"ความน่าเชื่อถือของเธอลดลงตั้งแต่เปลี่ยนตัวเลขาจากอี้เฉินนมาเป็นเสี่ยวป๋ายเพียงเพราะเรื่องหึงหวงและไม่ได้เกี่ยวกับงานเลยหากเธอยังยกเด็กนั่นมาแต่งงานด้วยยกให้ออกหน้าออกตาบรรดาพนักงานบริษัทรวมทั้งผู้ถือหุ้นจะมองเธอยังไงรู้บ้างมั้ยเธอจะได้ชื่อว่าสมรู้ร่วมคิดกับคนทรยศฆ่าพ่อตัวเองเพื่อฮุบบริษัท ถึงวันนั้นต่อให้แม่อยากช่วยเธอแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้แล้ว"นั่นคือประโยคทิ้งท้ายที่อู๋อี้เฟยพูดกับเขาก่อนจะแยกจากกัน
"เป็นอะไรครับทำไมหน้าเครียดจังเลย?"ภัทรที่สังเกตเห็นถึงใบหน้าเคร่งเครียดของกว้านหลินหลังจากกลับมาถึงโรงพยาบาลเอ่ยถามอย่างห่วงใย
นานแล้วที่กว้านหลินไม่ได้ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างนี้ ไล่กว้านหลินยามที่กำลังมีเรื่องไม่สบายใจหรือไม่พอใจอะไรน่ะดูออกง่ายจะตายไป หากแต่เจ้าตัวกลับส่ายหน้าปฏิเสธ
"ไม่มีอะไรหรอกภัทรนอนเถอะ ดึกแล้วนะเดี๋ยวลูกง่วง"ณภัทรหัวเราให้กับคำพูดนั้นของผู้เป็นสามี
ช่างเป็นมุกที่ตลกร้ายเสียเหลือเกินสำหรับโอเมก้าที่ต้องนอนติดเตียงอยู่อย่างนี้
"ผมนอนมาจะสองเดือนแล้วนะครับ มีอะไรไม่สบายใจทำไมไม่บอกกันล่ะครับ คุณกว้านหลินชอบเก็บทุกอย่างไว้คนเดียว"น้ำเสียงราวกับกำลังตัดพ้อเอ่ยกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี กว้านหลินกดจููบลงบนหน้าผากของภัทร รอยยิ้มอ่อนโยนมอบให้กับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่ชีวิตคู่แห่งโชคชะตา
เขาไม่มีทางให้ภัทรรับรู้สิ่งที่แม่ใหญ่พูดเด็ดขาด เด็กคนนี้อดทนและเจ็บปวดมามากเกินพอแล้ว
"คุณกว้านหลินครับ ถ้ามีอะไรที่ไม่สบายใจ หรือมีปัญหาอะไรที่แก้ไขไม่ได้ก็บอกให้ผมรับรู้บ้างนะครับ ผมอยากแชร์ทุกอย่างจริงๆ ทั้งความทุกข์และความสุข ผมเชื่อนะครับว่าคงไม่มีปัญหาอะไรจะยิ่งใหญ่และยากลำบากไปกว่าเรื่องลูกที่เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้แล้ว"
"รู้แล้วๆ มันไม่มีอะไรใหญ่หรอก แค่กำไรบริษัทไตรมาสนี้ลดลงนิดหน่อยเลยโดนแม่ใหญ่บ่นน่ะ ไตรมาสหลังนี้ไตรมาสหลังนี้คงต้องขยันมากขึ้นกว่าเดิม"กว้านหลินบีบจมูกคนที่ส่งสายตาเป็นห่วงเป็นใยอย่างหมั่นเขี้ยว เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดเลยว่าการมีครอบครัวจะช่วยให้หัวใจหายเหน็ดเหนื่อยได้ ยามที่พี่ๆทั้งสองคุยฟุ้งเรื่องเมียตัวเองให้ฟังกว้านหลินได้แต่เบะปากใส่และแอบคิดว่าพี่ชายทั้งสองคนของตนนั้นเพ้อเจ้อ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าการที่มีใครซักคนพยายามปลอบเรายามท้อแท้ หรือแสดงความห่วงใยใส่ใจกันนั้นมันมีความสุขมากเพียงใดชายหนุ่มไม่ปล่อยให้ปัญหานี้ค้างคาอยู่ในใจนานนัก รุ่งขึ้นเมื่อเดินทางมางบริษัทกว้านหลินไม่สนใจว่าตอนนี้ที่อเมริกาจะเป็นเวลาเท่าไหร่ ทายาทคนเล็กของตระกูลไล่ต่อสายตรงถึงพี่ชายคนโตทันที รอสายเพียงไม่นานคริสก็รับสายพร้อมน้ำเสียงหงุดหงิดเต็มที่
"ไอ้สาม แกจะโทรมาทำไมตอนนี้ กว่าลีโอจะกล่อมลูกหลับได้ฉันสองคนแทบหมดพลัง"คริสค่อยๆปิดประตูห้องอย่างแผ่วเบาแล้วเดินออกมาคุยด้านนอกปล่อยให้ลีโอที่เพิ่งคลอดลูกได้เดือนเศษนอนกับลูกชายตัวน้อย
"พี่ใหญ่ไหนพี่บอกว่าจะคุยกับแม่ใหญ่ให้ไงเรื่องผมกับภัทร ทำไมแม่ใหญ่ถึงได้มาบังคับให้ผมกับภัทรเลิกกันล่ะ"
"ฉันก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนะไอ้สาม แต่กับแม่ใหญ่น่ะท่านเป็นคนระเบียบจัดอยู่ๆจะไปบอกให้เข้าใจอะไรแบบปุบปับน่ะเป็นไปไม่ได้ แกต้องใจเย็นๆ ฉันรับปากแกไว้แล้วยังไงก็จะช่วยเต็มที่แน่ๆ ตอนนี้แกดูแลภัทรให้ดีเถอะ อย่าให้หลานของฉันตายไปอีกคน แกโตเป็นพ่อคนแล้วเรื่องบางอย่างแกก็ต้องเด็ดขาดที่สำคัญ อย่าวู่วาม รู้จักที่จะรอบ้าง ฉันกับไอ้รองคอยช่วยแกอยู่เสมอ แต่เรื่องของแกกับภัทรมันใหญ่และต้องใช้เวลา ฉันก็อยากให้แกเข้าใจพวกฉันบ้างเข้าใจมั้ย?"
"ไอ้เข้าใจมันก็เข้าใจแหละพี่ แต่แม่ใหญ่ท่านรบเร้าจะให้ผมไล่ภัทรไปแล้วทิ้งลูกไว้ ถ้าไม่ยอมเลิกกันลูกของผมจะไม่มีสิทธิ์ในหุ้นทั้งหมดที่เป็นของผม แม่ใหญ่ขู่จะถอดชื่อผมออกจากผู้ถือหุ้น พี่ต้องเห็นแก่หลานนะ"
"เออๆ วางใจเถอะลูกแกก็หลานฉัน พวกฉันไม่ทิ้งแกหรอกยังไงซะตอนนี้ไม่ว่าแม่ใหญ่จะพูดอะไรแกก็เออออไปด้วยก่อนที่เหลือเดี๋ยวฉันจัดการเอง โอเคมั้ย?"
"ครับ เอาตามนั้นก็ได้"
ในที่สุดภัทรก็ประวิงเวลาได้จนผ่าน 28 สัปดาห์ของการตั้งท้อง แต่ระหว่างนั้นเด็กน้อยเกิดอาการหัวใจวายอีกหนจนหมอนนท์ตัดสินใจให้ย้ายไปนอนที่ห้องเตรียมคลอด กว้านหลินคอยติดตามอาการของภรรยาอย่างเคร่งเครียด เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่พยายามกันมาตลอดสองเดือนนี้จะเป็นผลมั้ย เหมือนภัทรและลูกพร้อมจะทิ้งกันได้ตลอดเวลา แม้ว่ายามอยู่ด้วยกันกว้านหลินจะยิ้มแย้มแจ่มใสเล่าเรื่องลูคัสให้ฟังราวกับตลกเสียเต็มประดาหากความจริงแล้วยามที่ไปทำงานได้อยู่คนเดียวในห้องทำงานอัลฟ่าหนุ่มต้องเสียน้ำตาไปแล้วตั้งหลายครั้งหลายหน
เขาไม่ได้เข้มแข็งเหมือนเปลือกนอกมีแสดงเลยซักนิด...
อันที่จริงแล้วไล่กว้านหลินคนนี้อ่อนแอยิ่งกว่าโอเมก้าที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ระหว่างเส้นแบ่งระหว่างความเป็นกับความตายอย่างณภัทรเสียอีก
ไล่กว้านหลินไม่รู้เลยว่าเด็กคนนั้นไปเอาความเข้มแข็งและอดทนขนาดนั้นมาจากไหน อาจเป็นพลังความรักของคนเป็นแม่ที่พร้อมจะสู้ทุกอย่างเพื่อสายเลือดในครรภ์ เขาอยากแบ่งเบาความยากลำบากของภัทรบ้าง แต่สิ่งที่ทำได้คือคอยโอบกอดและบอกว่าเขารักภัทรในทุกค่ำคืน
สัปดาห์ที่ 30 ผ่านไปอย่างเชื่องช้ากำลังเข้าสู่สัปดาห์ที่ 31 ในอีก 2 วันข้างหน้า ระหว่างที่กว้านหลินกำลังนั่งดูวงจรปิดที่ติดเอาไว้ที่บ้านเพื่อดูลูคัส อยู่ๆเสี่ยวป๋ายก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาโดยไม่เคาะประตูเหมือนเช่นทุกครั้ง
"คุณกว้านหลินครับหมอนนท์โทรมาแจ้งว่าคุณภัทรหัวใจวายอีกรอบ คราวนี้หมอนนท์จะทำคลอดเลยให้คุณกว้านหลินรีบไปครับ"
คุณชายสามตระกูลไล่ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะสามารถขับรถได้เร็วขนาดนี้ชายหนุ่มก้าวยาวๆผ่านทางเดินแคบๆผ่านบรรดาญาติคนไข้ที่เดินดันขวักไขว่ในยามบ่ายแก่ๆได้โดยไม่สนใจใคร เสี่ยวป๋ายพยายามวิ่งตามเจ้านายหนุ่มที่ก้าวพรวดๆทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่น
ในใจของกว้านหลินมันเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมานอกอก
"ไปจัดกาจัดการตัวเองก่อน"หมอนนท์บอกกับชากับชายหนุ่มที่ทำท่าจะเข้าไปในห้องรอคลอด กว้านหลินจัดการทำความสะอาดตัวเอตัวเองและสวมชุดที่พยาบาลนำมาให้ ภัทรถูกยัายเข้าไปในห้องคลอด ใบหน้าของเด็กน้อยของเขาช่างซีดเซียวจนน่าสงสาร กว้านหลินยกมือของภัทรมากุมไว้ บีบมือนุ่มนั้นราวกับจะส่งผ่านกำลังใจจากเขาไปให้
"เป็นยังไงบ้าง?"
"เหนื่อยครับ กลัวด้วย"
"ไม่เป็นไรนะพี่จะอยู่กับเธอ เราจะรอลูกออกมาพร้อมกัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพี่จะอยู่ข้างๆภัทรนะ"อัลฟ่าหนุ่มยิ้มให้กับภัทรที่มีใบหน้าซีดเซียว แม้หลังจากนั้นทั้งคู่จะไม่ได้พูดอะไรกันอีกแต่ทั้งกว้านหลินและภัทรก็รู้ดีว่าเขาทั้งคู่จะเป็นกำลังใจเพื่อกันและกัน ณภัทรไม่รู้ว่าหลังจากการคลอดครั้งนี้จะเกิดอะไรขึ้น ลูกจะยังอยู่กับตนหรืออาจจะเป็นตัวของเขาเองที่ต้องจากไปโดยทิ้งกว้านหลินไว้เบื้องหลัง
ดังนั้น
ในตอนนี้
เวลานี้
ณภัทรก็อยากจะเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้กับกว้านหลินให้มากที่สุด เพราะถ้าหากตนเองต้องเป็นฝ่ายจากไปจริงๆชีวิตนี้ก็คุ้มค่าแล้วที่สามารถได้รับความรักจากไล่กว้านหลิน
โชคดีเหลือเกิน...
"คุณภัทรจะใช้ยาสลบหรือบล็อกหลังครับ?"
"ผมขอบล็อกหลังครับ"
"ยาสลบดีกว่ามั้ยภัทร"กว้านหลินเอ่ยท้วงกับการตัดสินใจของซอนของภัทรด้วยความเป็นห่วง
ไม่ยินยอม เขาไม่พร้อมจะเสียใครไปซักคน ไล่กว้านหลินในยามนี้เหมือนคนละโมบหากภัทรและลูกในท้องเป็นปลาเขาก็เป็นคนโลภที่จะคว้าเอาไว้ทั้งสองมือ ภัทรยังคงยืนยันความตั้งใจเดิมคือการบล็อกหลัง
"ผมอยากเห็นลูกพร้อมคุณกว้านหลินนะครับ"ภัทรบีบมือกว้านหลินเบาๆเมื่อเป็นเช่นนั้นชายหนุ่มก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ อนลเริ่มกาเริ่มการทำคลอดด้วยการฉีดยาชาเข้ากระดูกสันหลัง ภัทรกัดริมฝีปากจนรู้สึกชาไปหมด ทีมแพทย์ต่างทำหน้าที่ของตนเอง กว้านหลินหลับตาลงยามคมมีดกรีดลงบนผิวเนื้อของภัทร
"เจ็บมั้ย?"ถามคนที่ถามคนที่นอนมองขั้นตอนการทำคลอดตนอยู่อย่างสนอกสนใจ ภัทรส่ายหน้า
"เลือดออกเยอะจังเลย"อัลฟ่าหนุ่มปรารภออกมาเบาๆ อัลฟ่าหนุ่มตาโตยามเห็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่หมอนนท์นำออกมาจากท้องของภรรยา
"เด็กผู้หญิงครับ"หมอนนท์หันมาบอกก่อนที่พยาบาลจะนำไปดูดน้ำคร่ำออกจากปากและจมูกของเด็ก การดูแลเด็กทำไปด้วยความเร่งรีบ
ลูกสาวของเขาต้องถูกนำใส่ตู้อบทันที
เด็กน้อยตัวเล็กมากน้ำหนักเพียงแค่ 1250 กรัม เท่านั้นช่างต่างจากลูคัสคนพี่ลิบลับ
อย่างน้อยก็มีเรื่องน่ายินดีคือเด็กน้อยยังมีชีวิตอยู่
"คุณหมอคะ คนไข้มีมีอาการตกเลือดค่ะ"พยาบาลที่ดูอาการของภัทรอยู่ร้องบอกกับนายแพทย์หนุ่ม กว้านหลินถูกเชิญให้ออกไปรอด้านนอกทันที แม้ชายหนุ่มจะอยากอยู่เป็นกำลังใจให้กับภัทรซักแค่ไหนแต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงมายืนภาวนาอยู่ด้านนอก
"พอได้แล้ว...หยุดลงโทษผม หยุดทดสอบผมซักที"ชายหนุ่มเงยหน้ามองฟ้าเก็บกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลกลับไปตามเดิม เขาเชื่อว่าภัทรจะสู้เด็กคนนั้นน่ะใจสู้ที่สุดเท่าที่กว้านหลินเคยเห็นมา
และครั้งนี้ก็เช่นกัน
ไล่กว้านหลินรีบลุกขึ้นทันทีที่หมอนนท์เปิดประตูออกมา
"พี่ ภัทรเป็นยังไงบ้าง?"น้ำเสียงร้อนรนรบเร้าจะเอาคำตอบทันที อนลถอนหายใจขับไล่ความเหนื่อยล้าสีหน้าเศร้าจนกว้านหลินใจกระตุก
"ปลอดภัยแล้ว"เบต้าหนุ่มที่แสร้งทำหน้าเศร้าแจ้งผลการรักษา กว้านหลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะทิ้งตัวลงคุกเข่าลงพื้นอย่างอ่อนแรง ชายหนุ่มยิ้มออกมาทั้งน้ำตา
"พี่มึงแม่ง...ฮึก..."กว้านหลินสบถออกมาเบาๆ ทั้งดีใจทั้งโล่งใจแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อนลย่อตัวลงไปจับไหล่กว้านหลินก่อนจะตบลงเบาๆ
"จำความรู้สึกนี้ไว้ให้ดีนะคุณชาย ถ้ารู้ว่าเขาสำคัญมากก็อย่าทำให้เขาเสียใจอีกล่ะ เด็กคนนั้นน่ะสมควรได้รับสิ่งดีๆได้แล้ว"
"รู้แล้วน่า แล้วลูกของผมล่ะ?"
"เด็กคลอดก่อนกำหนดและตัวเล็กมาต้องให้อยู่ในตู้อบไปก่อน ต้องเช็คพวกระบบทางเดินหายใจ ปอดกับหัวใจอีก ระหว่างนี้ก็อยู่โรงพยาบาลกันไปอีกซักพักนะ"
"แล้วผมจะได้เข้าไปหาภัทรเมื่อไหร่?"
"ก็เดี๋ยวรอย้ายเข้าไปห้องพักก็เฝ้าได้แล้วล่ะ ระหว่างนี้ก็อย่าเพิ่งไปกวนแกเลยให้คนไข้พักผ่อนไปก่อน"กว้านหลินพยักหน้ารับทราบ
"อ่อ"อนลที่เดินไปได้ 2-3 ก้าวหันหันกลับมาหากว้านหลินอีกครั้ง
"ตอนที่คุณไม่อยู่ผมแวะไปคุยกับคุณภัทรทุกวัน แกบ่นคิดถึงแม่กับน้องๆตลอดเลยนะ"
#ไฮเดรนเยีย
TBC.
............................................
ใครจะไปใจร้ายได้ลง แหมพวกเธพวกเธอก้อออออออ...
แม่ใหญ่มาแล้วววววววววววว
ความรักมันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่คนสองคนหรอก ยิ่งเป็นคนเอเซียด้วยแล้วความรักจะประกอบด้วยพ่อแม่พี่น้องโคตรเหง้าศักราชต่างๆ บางครั้งต่อให้เรารักกันมากแค่ไหนพ่อแม่ไม่เอาก็ต้องเลือกว่าจะไปต่อหรือจะปล่อยมือกัน
ถ้าจับไม่แน่นพอหันมาอีกทีอาจมีแต่ทางที่ว่างเปล่า