บทส่งท้าย
“นี่ พ่อ เห็นรูปโรงเรียนที่ผมไปถ่ายมาหรือยัง เป็นไง ใหญ่ไหม น่าเรียนไหมพ่อ”
“เออๆ เห็นแล้ว” ผมพูดตอบกลับลูกชายที่อยู่ในหน้าจอมือถือขณะที่ยกแปรงสีฟันขึ้นสี เตรียมตัวไปทำงาน
“เออ จริงสิ เวลานี้มันตรงข้ามกับที่ไทยเลยนี่หว่า เดี๋ยวพ่อก็ต้องเตรียมไปทำงานแล้วใช่ไหมฮะ”
“อือ ใช่”
“พ่อกินข้าวเช้าหรือยัง”
“กินแล้ว”
“ผมไม่อยู่ด้วยพ่อเหงาไหมฮะ”
“แค่กๆ ๆ ” โอย สำลักยาสีฟัน ไอ้ลูกบ้านี่คิดว่าตัวเองห้าขวบรึไงถึงได้ถามอะไรเป็นเด็กๆ
แต่… แต่พอเห็นสีหน้าอ้อนๆ แบบนั้นของมันแล้ว…
“ก็เหงา… คิดถึงด้วย ปันไปอยู่นั่นแค่อาทิตย์เดียวพ่อก็เหงาจะแย่ล่ะเนี่ย”
“เว่อร์ พ่อ ทีตอนผมไปอยู่บ้านพ่อบูมตั้งนาน พ่อไม่เห็นเหงาเลย”
“อันนั้นมันก็ยังไปหาได้ง่ายๆ ปะ”
“ผมคิดถึงพ่อจัง”
เอ้า ทีอย่างนี้กลับลำมาเล่นบอทอ้อน ตามไม่ทันโว้ย
“อดทนหน่อยปัน เพิ่งสัปดาห์แรก”
“ผมได้เพื่อนใหม่แล้วนะพ่อ ชื่อเบน หมอนั่นเพิ่งชวนผมไปเข้าชมรมฟุตบอลกับมัน”
“แล้วลูกจะเข้าชมรมนั้นไหมล่ะ”
“อืม คงลองดูก่อน ผมอยากเล่นบาสด้วย ไม่รู้ถ้าไม่เข้าชมรมจะไปเล่นได้รึเปล่า”
“ลองดูหลายๆ อย่างก็ดีลูก” แต่ผมชอบตอนไอ้ปันเล่นบาสมากเลยนะ หมอนี่ดั๊งค์ลูกสวยมาก
“นี่ไอ้เบนซ์บอกว่าจะไปเริ่มเรียนพิเศษ ติวเข้มเตรียมสอบเข้าทันตะอะไรของมันไม่รู้ ผมเองก็ต้องเริ่มเตรียมตัวบ้างแล้ว”
“ลองหาข้อมูลจากหลายๆ ที่ดู แล้วอยากให้พ่อช่วยอะไรก็บอก”
“โอเคครับพ่อ” ปัญญาส่งยิ้มกว้างมาให้ โอย… พอมันไม่อยู่ใกล้ๆ ตัวแบบนี้แล้วมันโหวงๆ ในอกจริงๆ ด้วย “งั้นเดี๋ยวผมวางก่อนนะ โฮสพี่สาวผมมาเรียกแล้ว เดี๋ยวไว้ผมจะถ่ายรูปบ้านส่งไปให้พ่อดูอีกที”
“โอเคครับ” และไม่รู้ทำไม… ผมถึงเผลอพูดต่อไปว่า “ยังไงก็อย่าลืมส่งให้พ่อบูมดูด้วยล่ะ เขาคงอยากเห็นเหมือนกัน”
“ได้เลยพ่อ งั้นไว้คุยกันฮะ” แล้วเจ้าตัวก็ตัดสายไป
ผมกลับออกมาจัดแจงชุดพนักงานของตัวเองให้เข้าที่ หยิบกุญแจรถ กระเป๋าสตางค์ยัดใส่กระเป๋าทำงานอย่างรวดเร็ว นึกถึงเหตุผลที่ผมบอกให้ปันติดต่อหาดาราคนนั้นอีกคน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผมเกลียดเขาเข้าไส้ และไม่เคยนึกอยากยอมให้อีกฝ่ายเป็นพ่อของปันอีกคนเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่มาตอนนี้… อืม บางทีอาจจะเป็นเพราะผมเห็นว่าเขาแคร์ปันจริงๆ ล่ะมั้ง เพราะงั้นเขาก็ควรจะได้รับความรักของปันตอบแทนกลับไปบ้าง… แค่บ้างนะ ผมไม่ยอมยกให้ทั้งหมดหรอก เพราะยังไงปันก็ยังเป็นลูกผมอยู่ดี
ผมพลิกข้อมือเพื่อดูนาฬิกา ถึงเวลาต้องออกจากบ้านแล้วถ้าไม่อยากเผชิญรถติดอันน่าสยดสยองในชั่วโมงเร่งด่วน
เอาล่ะ ได้เวลาไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อแล้ว
- Fin -
------------------------------------------------
Talk: สวัสดีค่ะ ทุกคน ไอรินเองนะคะ ก่อนอื่นเลยต้องขอบคุณทุกคนที่อ่านกันมาจนถึงตรงนี้นะ^^
ก่อนจะตกใจ แปลกใจ หรือคอมเม้นท์ด่าอะไรเรา อยากให้อ่านทอล์คครั้งนี้ของเรากันก่อนนะ อย่าเพิ่งเกรี้ยวกราดนะคะทุกคน TvT
คือเดิมทีเรื่องนี้ เราวางพล็อตไว้ให้จบแบบนี้มาแต่แรกแล้ว คือพ่อลูกไม่ได้กันก็จริง แต่ยอมรับว่าจงใจเขียนให้จิ้นฟินๆ ได้ค่ะ
พยายามตั้งใจให้เรื่องนี้ออกมาเน้นความสัมพันธ์ของครอบครัว ซึ่งในทีนี้ก็คือปัญญากับนพดลซึ่งเป็นพ่อลูกกันนี่เอง ส่วนในความสัมพันธ์อื่นๆ จะเป็นจุดเสริมมากกว่า และเนื่องจากเป็นนิยายที่เล่นปมในที่ว่าปันเป็นเกย์ และดลเป็นพ่อที่ต้องรับเรื่องนี้ให้ได้ บวกกับเรื่องที่ปันกับดลไม่ใช่พ่อลูกแท้ๆ กัน ตอนแรกที่พยายามจะเขียนเป็นแนวคอมเมดี้เลยกลายเป็นหนักๆ หน่วงๆ ไปบ้าง แต่ก็คิดว่าเขียนออกมาได้ใกล้เคียงกับที่ตั้งใจไว้แต่แรกสุดๆ แล้วล่ะค่ะ
เรารู้ว่าหลายคนอาจจะหวังให้พ่อลูกได้กัน หรือให้สองพ่อได้กัน อันนี้เราก็คงขอจบแบบเปิดปลายกว้างเอาไว้ให้ไปจิ้นกันต่อเอาเอง (ฮา) เพราะตามความตั้งใจของเรา นิยายเรื่องนี้สิ้นสุดที่ตรงนี้จริงๆ (แต่อาจจะมีความฟิน มุ้งมิ้งๆ ในตอนพิเศษก็ได้ อันนี้ก็ยังไม่รู้ค่ะ อิอิ)
ในเรื่องของกระแสตอบรับของนิยายเรื่องนี้... ขอสารภาพว่าตัวเราเองก็ตกใจมาก (555555) เพราะเท่าที่เขียนนิยายมา ไม่เคยเจอคอมเม้นท์ที่ดูเกรี้ยวกราด รุนแรง อินจัดได้ถึงขนาดนี้ (แล้วก็เม้นท์เยอะขนาดนี้ TvT) ก็ดีใจมากๆ ค่ะที่มีคนเข้ามาอ่าน เข้ามาแสดงความคิดเห็นกัน แม้มันจะไม่ถูกใจใครหลายคนไปบ้าง ยังไงก็ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะที่แวะเวียนมา
เราอาจจะไม่ได้ตอบคอมเม้นท์ใครเลย (เพราะตอบไม่ไหว) แต่เราขอบคุณทุกคนมากจริงๆ ที่คอยคอมเม้นท์ให้กันมา เป็นแรงกำลังใจให้เราได้สุดยอดมากๆ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่ตามอ่านกันมาจนถึงบรรทัดนี้
ด่าได้แต่อย่าแรง เพราะเขียนมาแล้ว ที่สำคัญเลยคือใจเราบางมาก TvT ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่ส่งมาให้กัน หวังว่าจะได้เจอกับทุกคนในเรื่องต่อๆ ไปของเรานะคะ