"รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw  (อ่าน 511096 ครั้ง)

atommic

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10

ออฟไลน์ eern

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
ค้างมาต่อด่วน

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
บรรยากาศกำลังดีๆ ดันมีเรื่องซะงั้น
ปล.คุณหมอจะจัดการกับของที่ได้มายังไงคะ อิอิอิ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
แรงตรงคุณฟ้าอาบเสร็จพอดีนี่แหละ >"<

Rhythm

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
หนึ่งกับชิต :really2:ตอนไหนหว่า

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
งง

'' งง '' ตรง  นี่มันรึเปล่าค่ะ
ก็แค่คุณหมอลืมวางถุงยางกะเจลไว้หัวเตียง แล้วน้ำฟ้าออกมาเจอเลยเอ๋อ แบบว่านี่มัน คืออาราย ไงค่ะ
แต่ถ้า '' งง '' ตรงหนึ่งกะชิต 
ต้องติดตามตอนต่อไป 

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
โอ๊ย! ชอบคู่พี่หมอ...อย่าลืมใช้ให้หมดนะครับ555...เดี๋ยวเสียของ

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2

โอ๊ะ ท่าจะแย่ซะแล้วนะคุณหมอ
ฮ่าๆๆ 55555 จะแก้ตัวยังไงดีละทีเนี่ยะ
หนึ่งกับชิต ? คราบ ? ยับยู่ยี่ ?
โฮกกกก จินตนาการล้ำเลิศมาก
ตกลงเป็นไงมาไงหว่า

รออ่านตอนต่อไปนะคะ ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 9 ความสัมพันธ์ไร้ซึ่งความรัก


ผมได้ยินเสียงน้ำกระทบพื้นห้องน้ำชัดเจน ขณะที่ผมสวมเสื้อเสร็จและกำลังจะสวมกางเกง อดนึกถึงสภาพคุณหมอตอนอาบน้ำไม่ได้ ผมไม่ได้ทะลึ่งนะครับ  แค่คิดว่าถ้าผมเดินเข้าไปในห้องน้ำตอนนี้ คุณหมอจะตกใจจนช็อกแล้วสลบคาห้องน้ำหรือเปล่าก็เท่านั้นเอง  สาเหตุจากที่ผมจู่โจมไปตอนที่คุณหมอยังไม่ทันตั้งตัว

บอกแล้วไงครับว่าแค่  ‘คิด’  ไม่ได้อยาก  ‘เห็น’  สาบานได้ครับ


ผมล้มตัวลงนอน หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางมาทั้งวัน (ตอนบ่ายนอนแล้วแต่มันก็ยังไม่เต็มอิ่ม) แถมยังเจอเรื่องหนักๆ อีก ทั้งเรื่องที่คุณหมอขอร้องให้ผมช่วยแกล้งทำเป็นแฟนด้วย แล้วยังมีเรื่องชวนเครียดของอีกสองคู่  คุณตินกับคุณลม  คุณอิงกับคุณหนึ่ง ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เหมือนที่คุณหมอก็คงไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน  บอกตามตรง ผมไม่ชินกับสถานการณ์แตกหักแบบนี้ครับ ถึงจะไม่รุนแรงมากผมก็ไม่ชอบ มันชวนให้ปวดหัว  ต้องคิดหาคำตอบว่าอะไรเป็นสาเหตุ เหมือนๆ ที่นนท์กับแดนเป็นกันบ่อย ทะเลาะกันจนเรียกว่า ‘เกลียดขี้หน้ากันสุดๆ’

นอกจาเหนื่อยแล้ว ผมยังรู้สึกมึนๆ นิดๆ  เนื่องจากดื่มไปหลายแก้ว ว่าแล้วก็นอนหลับให้เต็มอิ่มดีกว่าครับ เผื่อตอนเช้าจะได้ลุกไปดูพระอาทิตย์ขึ้น   คุณลมชวนผมตอนที่เราปิ้งอาหารทะเลด้วยกัน คุณลมนิสัยดีน่ารักครับ แต่คงจะเจ้าโมโหอยู่ไม่น้อย

กลิ่นผ้านวมผืนใหญ่ผืนเดียวบนเตียงที่ผมกับคุณหมอต้องใช้ร่วมกันหอมมากครับ เมื่อผมดึงมาขึ้นมาห่มตัวจนถึงปลายจมูก

เอ๊ะ! นั่นมัน?

ผมเห็นอะไรบางอย่างแปลกปลอมอยู่ในห้อง บนโต๊ะข้างเตียง ฝั่งที่ผมเว้นว่างไว้ให้กับคุณหมอ

มันใช่สิ่งที่ผมคิดหรือเปล่า เพื่อความมั่นใจผมขยับเข้าไปใกล้สิ่งๆ นั้น ชัดเจนจนไม่ต้องหยิบขึ้นมาดู แค่มองก็รู้ว่ามันคืออะไร...

กล่องถุงยางกับเจลหล่อลื่น...

ไม่เคยใช้เองแต่เคยเจอบ่อยในกระเป๋าของนนท์ รวมถึงในคอนโดของนนท์ด้วย

มันมาอยู่นี่ได้ไง?  ลืมไปครับ ไม่ควรถามว่ามันมาอยู่นี่ได้ยังไง ผมควรจะถามว่า ‘มันมาอยู่ด้วยเหตุผลอะไร’ มากกว่า

คุณหมอกำลังคิดอะไร?...กับผมหรือเปล่า?

เหลือบมองไปที่กรอบประตูห้องน้ำ เสียงน้ำยังไหลกระทบพื้น  บอกว่าคนในนั้นยังไม่เสร็จภารกิจ ผมกลับมานอนที่เดิม นอนตะแคงมองของบนโต๊ะนั้นอีกครั้ง

กล่องถุงยางกับเจลหล่อลื่น


คุณหมอเอามันมาทำไม?

คุณหมอเอามันมาใช้กับใคร?

คุณหมอเอามันมาใช้กับผมใช่ไหม?


โอ๊ยยยยยยย...


คำถามพวกนี้มันดังวนเวียนอยู่ในหัว ปวดจนต้องลุกขึ้นนั่งสะบัดหัวไปมา มองไปยังห้องน้ำ เสียงน้ำกระทบพื้นเงียบไปแล้ว ผมทนไม่ไหวครับ เดินเข่าไปหยิบไอ้ของสองสิ่งขึ้นมา พอหันหลังกลับเจอกับคุณหมอเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ ในสภาพที่มีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันท่อนล่าง

“คุณหมอครับ นี่มัน”

“..........................” คุณหมอนิ่งไปทันที ก่อนจะค่อยๆ ลดผ้าขนหนูผืนเล็กในมือที่ขยี้ผมเปียกชื้นให้แห้งลงช้าๆ สีหน้าบอกอาการว่าตกใจ แต่ไม่ถึงกับช็อก

“.........อะไรครับ”  ผมนั่งบนเตียงชูของสองสิ่งให้คุณหมอดูชัดๆ  จะได้รู้ว่าผมเห็นมันแล้ว และต้องการคำตอบ  ทั้งที่ผมพอจะรู้คำตอบอยู่แล้วก็เถอะ

ถุงยากับเจลหล่อลื่น  เค้ามีไว้เพื่ออะไรกันล่ะ

ถ้าไม่ใช่...

ถ้าไม่ใช่...เอาไว้ป้องกันกับช่วยเหลือให้ไปถึงสวรรค์ชั้นเจ็ด

“เอ่อ.....มัน....มัน...ถุง... ” คุณหมออึกฮัก ทำหน้าเหมือนมันตอบยากเต็มประดา

“ถ้าคุณหมอจะตอบว่ามันคือถุงยางกับเจล  อันนี้ผมรู้”

“......................” หน้าคุณหมอดูจ๋อยไปเลย แทบไม่มีสี

“แต่ที่ผมอยากถามคือคุณหมอเอามาไว้ใช้กับผมหรือครับ”  ถามตรงไปไหมครับ ไม่รู้ล่ะ ผมไม่อยากปวดหัวไปมากกว่านี้ มันเลยต้องถามไปตรงๆ เอาให้ได้คำตอบที่พอใจ ดูจากสถานการณ์ในห้องที่มีกันแค่สองคน ของพวกนี้ไม่เอามาไว้ใช้กับผมแล้วจะไว้ใช้กับใคร  ผมไม่ได้คิดมากนะครับ แต่มันต้องคิด แล้วคุณหมอก็สวนกลับมาอย่างไวและยาวเยียดว่า

“เปล่าครับ ผมไม่ได้คิดแบบนั้นกับคุณฟ้าเลยนะครับ  สาบานได้  คือหนึ่งเอามาให้ผมตอนที่คุณฟ้าอาบน้ำอยู่  เขาเห็นว่ามันจำเป็นต้องใช้ ในฐานะที่เรา....เราเป็นแฟนกัน”  ประโยคหลังคุณหมอพูดเสียงเบามาก แต่ผมก็ได้ยินครับ

คุณหมอบอกมางี้  ผมควรจะเชื่อใช่ไหมครับ

“คุณฟ้าไม่เชื่อหรือครับ” คุณหมอถามกลับมาเหมือนเดาความคิดผมออก เป็นใครก็เดาออกเถอะ

“ไม่ใช่ไม่เชื่อครับ แต่มันแค่ชวนให้คิด” ชวนให้คิดไปไกลด้วยแหละ

“ผมขอโทษครับ ผมไม่น่ารับของจากหนึ่งมาเลย แต่มันจำเป็นนะครับ”

“ห๊ะ...จำเป็น?”

“เปล่าครับ ไม่ใช่อย่างที่คุณฟ้าคิด คือหนึ่งเขาเมามาก ผมเลยจำเป็นต้องรับเอาไว้ ไม่เอาเดี๋ยวก็จะโวยวายอีก เข้าใจใช่ไหมครับ”   สีหน้าจริงจังเข้ากับน้ำเสียงดีครับ คุณหมอคงไม่ได้โกหก

“ครับ ผมเข้าใจ” เห็นภาพเลยครับ ว่าคุณหนึ่งโวยวายเป็นยังไง ก็เพิ่งเห็นฤทธิ์เดชไปเมื่อชั่วโมงที่แล้วนี่เอง ใครห้ามฟังที่ไหน กรอกเหล้าเข้าปากยังกับน้ำ แถมยังทำท่าจะโดดลงทะเลอีก ผมละเสียวแทน โชคดีที่คุณอิงคว้าตัวไว้ทัน  แบกกลับห้องทั้งที่อีกฝ่ายโวยวายลั่น ดีนะครับที่คุณหนึ่งตัวไม่ใหญ่มาก (แต่ตัวโตกว่าคุณลมนะครับ ส่วนผมแทบจะไล่เลี่ยกับคุณหมอ คุณอิงและก็คุณติน  ติดที่ผอมกว่า แต่ความสูงสูเสียด พอเดินด้วยกันแล้วไม่เกิดหลุมอากาศครับ)

“ขอบคุณครับที่เชื่อผม”  เสียงนุ่มๆ ของคุณหมอบอกมาอีกครั้ง ฟังแล้วรู้สึกดีขึ้นมาประหลาด ผมชอบคำพูดนี้ของคุณหมอจัง

‘ขอบคุณครับที่เชื่อผม’  คำแบบนี้ ผมไม่เคยได้ยินจากปากของนนท์เลยสักครั้ง เปล่านะครับ ผมไม่ได้คิดเปรียบเทียบคุณหมอกับนนท์ มันแค่เป็นความคิดที่เผลอหลุดลอยไปถึงคนที่ผมรัก...เท่านั้นเอง

ส่งยิ้มให้คุณหมอไป ยืนยันว่าผมไม่ติดใจอะไร เมื่อคุณหมอยืนยันอย่างนั้นผมก็ต้องเชื่อสิครับ เอาของของคุณหนึ่งที่หยิบยื่นมาให้ด้วยความหวังดี  โดยรู้เท่าไม่ถึงความจริงว่าผมกับคุณหมอเป็นแค่คนรู้จักกัน ไม่ใช่แฟนกันอย่างที่บอกทุกคนไปหรอก

‘มันก็แค่เรื่องหลอกๆ กลับกรุงเทพไปก็น่าจะจบ’

ไม่มีเหตุผลไหนที่จะทำให้ผมไม่เชื่อคำพูดของคุณหมอ คุณหมอเป็นคนดีนะผมว่า สาวยีนก็ยืนยัน คงไม่คิดทำอะไรตื้นๆ กับผมแน่ๆ ที่สำคัญผมมันก็ไม่ได้น่าพิศวาสขนาดนั้น นนท์เองยังไม่คิดจะทำอะไรผมเลยด้วยซ้ำ ที่ผมถามคุณหมอไปแบบนั้นก็ถามตามความอยากรู้ครับ ได้คำตอบแล้วก็แล้วกันไป ไม่คิดมาก ที่สำคัญผมลืมไปได้ยังไงว่าเมื่อตอนค่ำคุณหมอยังตกใจจนช็อกที่เห็นผมยืนตัวเปลือยอยู่ในห้องอาบน้ำ แปลว่าคุณหมอไม่ได้คิดอะไรกับผมเลยจริงๆ

กล่องถุงยางกับเจลหล่อลื่น มันก็แค่ของที่คุณหนึ่งผู้หวังดี นำมาฝาก หวังให้คุณหมอเอาไว้ใช้กับผม...

หายปวดหัวแล้วครับ หลังจากได้คำตอบจากคุณหมอ ผมวางไอ้ของสองอันไว้บนโต๊ะข้างเตียงแต่ไม่ใช่ตัวเดิม ผมวางมันไว้ข้างเตียงผมครับ  ก่อนจะลืมตัวลงนอน ส่วนคุณหมอเองก็น่ากำลังเปลี่ยนชุด ผมเห็นแวบๆ ก่อนที่จะดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตั้งแต่ปลายเท้าถึงปลายผม เพราะมันรู้สึกหนาวๆ ปัจจุบันทันด่วน

มือกำลังควานหาหมอนข้างตามความเคยชิน พอไม่เจอเลยนึกขึ้นได้ว่าไม่ใช่ห้องตัวเองมันจะมีหมอนได้ยังไง  ผมเลยต้องเอาตัวออกจากโป่งผ้า ลุกขึ้นยืนหยิบเอาตุ๊กตาหมีบนชั้นลอยเหนือเตียงออกมาตัวหนึ่ง ก็ตัวที่ผมเล็งไว้ตั้งแต่เมื่อบ่ายไงครับ  ความจริงผมไม่ชอบนอนกอดตุ๊กตานะครับ ผมไม่ชอบขนของมัน มันน่ารำคาญเวลานอนกอด แต่ในเมื่อไม่มีหมอนข้าง ตุ๊กตามันก็พอจะแทนกันได้ในยามจำเป็น

ผมดึงผ้าห่มคลุมตัวคลุมหัวอีกครั้ง อุ่นดีครับ แต่ติดที่หมอนข้างกลายเป็นตุ๊กตานี่แหละ มันทำให้ไม่ปกติเท่าไหร่ ผมได้ยินเสียง ‘ปี๊ด’ สงสัยคุณหมอทำอะไรกับแอร์สักอย่าง ไม่น่าจะลด น่าจะเพิ่มมากกว่า ก่อนที่ความมืดที่มากกว่าเดิมจะปกคลุมทั้งห้อง (ตามความรู้สึกผมเอง) อึดใจเดียวพื้นเตียงอีกฝั่งก็ยวบเพราะคุณหมอล้มตัวลงนอน แทรกตัวเข้ามาในผ้าห่มผืนเดียวกันกับผม

เตียงไม่ได้กว้างเท่าไหร่ ผมที่นอนขดตัวกอดน้องหมีอยู่ รู้สึกถึงไอร้อนจากร่างกายของอีกฝ่ายชัดเจนเลยครับ มันอุ่นๆ ไม่ต่างจากที่ผมเคยนนท์ร่วมเตียงเดียวกับนนท์

“ติดหมอนข้างหรือครับ” คุณหมอถาม ผมเลยต้องโผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม

“ครับ แต่กอดตุ๊กตามันไม่ค่อยจะชิน ผมไม่ชอบขนของมัน กอดแล้วมันไม่สบายเหมือนกอดหมอนข้าง” ผมหันหน้าไปทางคุณหมอ  แต่ผมมองไม่เห็นหน้าคุณหมอเลยครับ ห้องมืดมาก แสงจากโคมไฟตามทางเดินไม่ส่องเข้ามาแทบไม่ถึงไหนห้องครับ เนื่องจากม่านหนามาก 

“กอดตุ๊กตาไม่สบายตัวก็กอดหมอได้นะครับ”

“หือ....” คุณหมอต้องการจะสื่ออะไร

“ผมล้อเล่นครับ”

คุณหมอว่า แล้วหัวเราะเบาๆ จากนั้นคุณหมอก็ขยับตัว แต่ไม่มาก แต่นั้นก็ทำให้แขนกับขาของเราสองคนสัมผัสกันครับ แต่ละจุดที่สัมผัสกันมันทำให้ส่วนนั้นอุ่นวาบไปเลย เหมือนคุณหมอก็ไม่ได้ขยับถอยเมื่อเนื้อตัวเราแตะกัน ส่วนผมเองก็เช่นกัน จะให้ถอยกันไปจนสุดขอบเตียงของตัวเองที่อยู่กันคนละฝั่ง มันก็คงได้แค่นี้ล่ะครับ

แล้วผมเห็นหน้าคุณหมอชัดขึ้น เพราะสายตาปรับเข้ากับความมืดได้แล้ว โครงหน้าของคุณหมออยู่ใกล้มาก เพราะหมอนสองใบวางชิดกัน

ทั้งห้องเงียบมาก มากจนได้ยินเสียงคลื่นที่ดังแว่วมาจากท้องทะเลด้านนอก มากกว่านั้นคือเสียงลมหายใจที่เหมือนจะติดขัดทั้งของตัวคุณหมอและตัวของผมเอง

ยิ่งกว่านั้นคือเสียงหัวใจของผมที่มันดันเต้นแรง ไม่เป็นจังหวะ มันตึ๊กตั๊กๆๆๆ

ผมตื่นเต้นงั้นเหรอ?

น่าจะใช่...

ครั้งแรกที่ผมนอนร่วมเตียงกับผู้ชายที่ไม่ใช่นนท์

ผมอยากให้ห้องมืดเหมือนเดิม แต่มันคงยากไปแล้ว เมื่อสายตาของผมปรับให้ชินกับมันไปเสียแล้ว ผมถึงต้องมานอนมองตากับคุณหมอในระยะประชิด  ชิดเสียจนสัมผัสได้ถูกลมหายใจอุ่นๆ ของคุณหมอ

“คุณหมอ”  น้ำเสียงของผมคงเบามา ไม่อย่างนั้นคุณหมอคงไม่ขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม หรือเพราะคุณหมอกลัวผมไม่ได้ยินเสียงของคุณหมอกันแน่

เราเลยใกล้กันเข้ามาอีกนิด ...

เรียกว่าหน้าแทบจะชนกันอยู่แล้ว

“ครับคุณฟ้า”

ตาคมในความมืดที่ผมเห็น จับจ้องอยู่ที่ผม มันยังไงไม่รู้ผมบอกไม่ถูก ใจหนึ่งผมอยากหันหนี ปิดตาหนีสายตาของคุณหมอ  แต่อีกใจหนึ่งมันกลับคิดต่าง ผมอยากมองสบตากับคุณหมอ ไม่รู้เพราะอะไร

“ผมจะหลับแล้วนะครับ”  ถ้าผมจะเรียกชื่อคุณหมอด้วยเรื่องแค่นี้ และถ้าผมจะหันหลังให้คุณหมอในทันทีที่พูดจบ  ไม่สนใจจะหยิบตุ๊กตาหมีติดมือมาด้วยแล้วถ้าผมยังคงใจเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่แบบนี้ละก็..........

ผมจะทำไงดี?

“ลืมตุ๊กตาครับ” แล้วตุ๊กตานั้นก็กลับมาสู่อ้อมแขนผมอีกครั้ง ผมกอดมันแน่นครับ สะกดใจตัวเองไม่ให้คิดฟุ้งซ่านไปไกล บอกกับตัวเองว่า หลับเถอะๆๆๆๆ   ทว่ามันก็ยังทำไม่ได้สักที คนตัวโตกว่าผมที่ซ้อนอยู่ด้านหลัง ไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัวกลับไปที่เดิมของตัวเองเสียที

จะอยู่กดดันผมเพื่อ?

 “ฝันดีครับ” เสียงนุ่มกระซิบบอกผมใกล้ใบหู ลมหายใจอุ่นไต่รดแก้มของผม ผมแทบหยุดหายใจ แต่ยังคงหายใจได้อยู่ แค่มันไม่ปกติ

ฝันดีงั้นเหรอ?

แค่หลับตาผมยังทำไม่ได้เลย จะให้ฝันดีได้ยังไง

แล้วความกดดันของผมก็หายไป คุณหมอยอมกลับไปนอนที่ตัวเองแล้ว แต่ไอร้อนใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ที่เราใช่ร่วมกัน มันยังคงทรมานความรู้สึกของผมไม่เปลี่ยนแปลง อยากอวดเก่งนอนท้าอากาศเย็นๆ จากแอร์ มันก็เหมือนจะงี่เง่าเกินไปหน่อย

คืนนี้ผมจะข่มตาให้หลับได้ไหม?

ไอ้ของสองสิ่งในเงามือก็อยู่ในระยะสายตาที่ผมมองเห็นอีก อยากจับมันเขวี้ยงไปให้ไกลสายตา จะมาขวางหูขวางตาให้ผมนึกถึงสรรพคุณและวิธีใช้ของมันทำไม

ผมเป็นคนหยุดคิดอะไรได้ง่ายๆ ซะทีไหน  ความคิดมันดันต่อเติมโน่นนี่นั่น ปนกันมั่วไปหมด หยุดคิดก็ไม่ได้ จะข่มตาให้หลับก็ทำได้ยากยิ่งกว่า

เหนืออื่นใด ผมคิดถึงนนท์ ทุกคืนที่เรายังรักกัน ทุกครั้งเราจะนอนกอดกัน ผมกอดนนท์ นนท์กอดผม อ้อมกอดอุ่นๆ ที่ทำให้ผมหลับตาลงได้สนิท

มันเป็นความเคยชินที่เมื่อห่างหายไปแล้ว ผมถึงกับนอนไม่เคยหลับสนิทสักคืน

.
.
.
.
.

“คุณหมอครับ”

ในที่สุดผมก็ไม่อยากทนกับอะไรที่มันว้าวุ่นอยู่ในหัวสมองไม่ไหว ลองพยายามสลัดให้หลุดออกไป แต่ยังไงมันก็ไม่ยอมหลุดออกไปจากสมองของผมสักที

“ครับ”

คุณหมอยังไม่หลับ แต่ผมก็ยังถามคำถามโง่ๆ ออกไป

“หลับหรือยังครับ”

ผมพลิกตัวกลับมามองเสี้ยวหน้าของคุณหมอ ก่อนที่จะเห็นโครงหน้าเต็มๆ ในระยะใกล้แบบที่ว่าแค่นิ้วเดียวปลายจมูกก็จะชนกันอยู่แล้ว เมื่อคุณหมอเปลี่ยนจากนอนหงายมาเป็นนอนตะแคงมาทางผม

เราสบตากัน ลมหายใจคงปะทะกันอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ยังครับ” เสียงคุณหมอฟังแล้วอบอุ่นจังครับ ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงรู้สึกแบบนั้น หรือเพราะผมกำลังฟุ้งซ่าน มันสับสน ความคิดหลายอย่างวนเวียนอยู่ในสมองในหัวกลมๆ ของผม ผมคิดไม่ตก มันเหมือนมีบางอย่างริดรอนสิ่งที่ผมควรจะทำไปซะหมด

ผมควรจะหันหลังกลับ

ผมควรจะปิดตาหลับ

ผมควรจะข่มตาให้นอนหลับ

แต่ความคิดมากมาย มันไม่ยอมให้ผมนอนหลับอย่างมีความสุข มันกำลังสั่งให้ผมทำอะไรที่ไม่สมควรทำ กับใครคนหนึ่งที่ไม่ได้สนิทชิดเชื้อถึงขนาดนั้น

มันบังคับให้ผมต้องพูดออกมาอย่างง่ายดาย ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย

“ไม่อยากกอดตุ๊กตา” คำพูดของผม มันฟังเข้าใจยากไปไหมสำหรับคุณหมอ  มันจะสื่อถึงความต้องการงี่เง่าของผมที่อยากบอกกับคุณหมอหรือเปล่า?


“........................” คุณหมอยังเงียบ


“.......................” ส่วนผมก็ยังรอสิ่งที่จะทำลายความเงียบจากปากคุณหมอ

ตาเราสบกันในความมืด ความมืดไม่เป็นอุปสรรคสักเท่าไหร่ เพราะผมยังเห็นใบหน้าเรียบนิ่งของคุณหมอได้ชัด คงเพราะเราใกล้กันมาก

“ผมไม่อยากกอดตุ๊กตา”  ผมพูดคำพูดแบบเดิมออกไปอีกครั้ง ตุ๊กตาดูไร้ค่า ไม่มีความหมาย เมื่อมันถูกผมโยนทิ้งลงข้างเตียง ไม่คิดใยดี

หรือผมจะหน้าด้านเกินไป?


ในเมื่อคุณหมอไม่พูดอะไร แต่ยังคงมองหน้าผมนิ่ง ผมถือว่าคุณหมอไม่ปฏิเสธ เพียงแต่ไม่กล้าเริ่มต้น เพราะคุณหมอเป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียรติผม แต่สำหรับผม ผมคงหน้าหนาไป และอดทนกับความรู้สึกว่างเปล่าในหัวใจตอนนี้ไม่ได้  ทั้งที่สมองผมกำลังฟุ้งซ่านแทบจะระเบิดออกมาด้วยความคิดที่กัดกร่อน ผมถึงได้ขยับเข้าใกล้ร่างกายของอีกคน วาดแขนโอบกอดราวกับจะไม่ให้เหลือช่องว่างใดๆ

อยากถูกเติมให้เต็ม...

หรือว่าผมกลัวคุณหมอจะผลักผมออกกันแน่


... ผมถึงกอดคุณหมอเอาไว้แน่น ร่างกายเหมือนเกร็งไปทุกส่วน ไม่เว้นแม้แต่หัวใจ หัวใจที่ว่างเปล่าแต่ก็หนักหน่วง ดึงผมให้จมดิ่ง ยากถอนตัว

“คุณฟ้า” เสียงคุณหมอแผ่วเบาอยู่ด้านบน  ตัวคุณหมออุ่นมาก ผมซบอยู่อย่างนั้น

“กอดผมได้ไหมคุณหมอ?” ผมเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร่างกายที่ผมกอดไว้แน่น รอคอยคำตอบ

หรือเพราะความอดทนของผมน้อยจนเกินไป ผมไม่รอคำตอบจากคุณหมอ  ผมปล่อยแขนที่กอดตัวคุณหมอ แล้วปีนขึ้นไปบนร่างกายแข็งแกร่ง  ลงน้ำหนักทั้งหมดบนเอวหนา ก่อนจะขยับให้บั้นทอยถอยต่ำลงมาสัมผัสกับความแข็งขืนที่สัมผัสได้ในทันที

ผมคิดไม่ผิด ไม่ต้องรอคำตอบจากปากก็ได้คำตอบจากร่างกายเบื้องล่างของคุณหมอไปแล้ว   ผมยิ้ม ขณะที่คุณหมอทำหน้าไม่ถูก แต่ยังฝืนถามคำถามงี่เง่ากว่าผมกลับมาว่า...

“กอดแบบไหนครับ คุณฟ้า”

ต้องให้ตอบด้วยคำพูด ผมคงไม่อยากทำ  ไม่ใช่เพราะไม่อยากตอบแต่ไม่กล้าตอบกลัวเสียงมันสั่น ผมถึงเลือกที่จะใช้ร่างกายแทนคำตอบ ด้วยการกดย้ำลงบนตัวตนที่แข็งขื่นนั้น

แล้วที่สำคัญ ผมรู้ว่าคุณหมอรู้ว่าต้องกอดผมแบบไหน...



ผมไม่ใช่เด็กตัวเล็ก อายุน้อย ด้อยประสบการณ์ เรื่องพวกนี้ ผมกับนนท์เคยทำร่วมกันมาแล้ว เพียงแต่มันไม่ถึงขั้นสุดท้ายที่หลอมเราเข้าไว้ด้วยกัน...เท่านั้นเอง

“คุณฟ้า” เสียงแหบพร่าด้วยความรู้สึกฟุ้งแตกเรียกชื่อของผม เสียงหายใจไม่สม่ำเสมอของคุณหมอ ผมได้ยินชัดเจนในความเงียบของห้อง

“ครับ” ผมขานรับ ขยับให้ความต้องการของคุณหมอได้เสียดสี มันตื่นตัวจนเจ้าของมันต้องกัดปากหนาตัวเองเอาไว้ คงข่มอารมณ์ไม่ให้เตลิดไปกับผม ทั้งที่รู้ว่ามันห้ามกันได้ที่ไหน

“คุณฟ้า”

มือใหญ่รั้งมือผมที่กำลังจะจับชายเสื้อยืดเพื่อจะเลิกขึ้นสูง เตรียมเอามันออกไปจากตัวเจ้าของ

“ไม่ได้หรือครับ” ผมแค่ถาม หากไม่หยุดมือ คุณหมอก็แค่รั้งมือผมเอาไว้ ไม่ได้ห้ามหรือยึดยื้อจนผมถอดมันออกจากตัวคุณหมดได้โดยง่าย

“คุณฟ้าเมาหรือเปล่า” คำถามนี้ค่อยน่าฟังหน่อย คงคิดว่าสิ่งที่ผมทำมันเป็นเพราะความเมา ขอบอกว่าผมเป็นคนคอแข็งคนหนึ่งครับ เหล้าชงเข้มๆ ไม่กี่แก้ว ทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ ไอ้อาการคอแข็งเนี้ย นนท์เป็นคนฝึกผมเอง

“สงสัยจะใช่....”

ตอนนี้มือผมเลื่อนต่ำผ่านแผ่นอกกว้าง หน้าท้องที่มีมัดกล้ามแข็งแรง แล้วหยุดที่ขอบกางเกงนอนตัวยาวของคุณหมอ เช่นเคยครับ มือใหญ่รั้งมือที่เตรียมดึงกางเกงนั้นให้หลุดออกจากเนื้อตัวส่วนล่าง

“คุณฟ้า” แค่เรียก แต่ไม่ห้าม ผมจึงไม่หยุด มันยากไปสักหน่อย เมื่อต้องดึงกางเกงออก ผมยกตัวเองขึ้นให้ขอบกางเลื่อนไปอยู่บนต้นขาหนา ก่อนจะนั่งทับลงมาอีกครั้ง แล้วเอี้ยวตัวไปด้านหลังดึงกางเกงออกได้สำเร็จ คุณหมอให้ความร่วมมือด้วย

เหลือปราการด่านสุดท้ายบนตัวคุณหมอ  ผมยังค้างมือไว้อย่างนั้น ค้างบนความตัวตนแข็งขื่น   ไม่แตะต้อง หรือเพราะผมยังไม่กล้าพอ ทว่าเพียงวางมือไว้อย่างนั้น  มันก็เรียกเสียงครางทุ่มต่ำจากปากหนาได้

“อาาา.....”

คุณหมอไปเร็วกว่าผมมาก ความรู้สึกของผมมันยังคงนิ่งสงบ

“อยากกอดฟ้าหรือยังครับ?”  ผมถาม หลังจากทอดตัวลงชิดกับแผ่นอกเปลือยเต็มไปด้วยมัดกล้ามของคุณหมอ  ไม่มีคำตอบจากปากของคนด้านล่าง เพราะมือหนารั้งคอผมเข้าใกล้ บดเบียดปากหน้าเข้ากับปากของผม

ความร้อนคือสิ่งเดียวที่ผมรู้สึก

ลิ้นที่พันกันยิ่งเพิ่มสิ่งที่ถาโถมอยู่ในใจของผม

เสียงครางแตกซ่านกับมือใหญ่ที่บีบเค้นไปตามเนื้อตัวของผม

เสื้อผ้าทุกชิ้นถูกดึงออกอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ใช้เวลาเพียงอึดใจ

จากที่เคยอยู่ด้านบน เมื่อเนื้อตัวมันเร่าร้อนเหมือนโดนแผดเผ่า จึงพลิกอยู่เบื้องล่าง

จากที่เคยเร่งเร้ากลับถูกปลุกเร้าจนไม่มีทางหลีกหนี....


.

.

.

.

.


เช้าแล้ว...

ผมรู้สึกตัวในอ้อมกอดแกร่ง

เมื่อคืนหลังจากจูบสุดท้ายที่ยาวนาน  ผมหลับไปในอ้อมแขนแกร่งหลังจากที่เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของคุณหมอขับกล่อมนานเกือบสองชั่วโมง

ผมนอนไม่ค่อยหลับ ฟุ้งซ่านตลอดทั้งคืน

สำนึกผิดชอบ มันทำงานราวกับเครื่องจักร ไม่มีเหน็ดเหนื่อย ความใจกล้าบ้าบิ่นถูกสังหารด้วยความเจ็บของสะโพกด้านหลัง อ้อมแขนแกร่งที่โอบกอดทำให้ผมทำตัวไม่ถูก ขยับหนีไปไหนก็ไม่ได้

ผมรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป...

ผมรู้ตัวว่าทำไมผมถึงทำลงไป...

ความหน้าด้านที่ถูกปรุงแต่งด้วยความมึนเมาของฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มยามค่ำคืน  ผสมกับบาดแผลที่ยังไม่หายดีจากน้ำมือนนท์ ไม่คิดว่ามันจะมีฤทธิ์รุนแรงถึงขนาดนี้

แต่สิ่งที่ผมรู้ดีกว่าทุกอย่างคือ ผมกำลังทำประชดนนท์ นนท์ที่ไม่เคยอยากเป็นเจ้าของตัวผมเลยสักครั้ง

หึหึ...

น่าหัวเราะไหมครับ

ผมประชดนนท์ โดยที่นนท์ไม่ได้รับรู้อะไรเลย แล้วใครที่เจ็บ แล้วใครที่ต้องทุกข์ แล้วใครที่ต้องรับชะตากรรมไร้ยางอาย...

จะใครเสียอีกถ้าไม่ใช่ผม...

แต่ช่างเถอะ จะเสียอะไรได้ ยังไงผมก็ผู้ชาย  ไม่ท้อง  ไม่ต้องถูกจับใส่ตะกล้าล้างน้ำ  เรื่องอย่างว่า มันก็เป็นแค่เรื่องอย่างว่า ผ่านไปแล้วก็ผ่านเลย

ที่สำคัญ...


นนท์ยังมีอะไรกับคนอื่น โดยที่ไม่รักได้เลย....

ผมอยากทำได้อย่างนนท์ไงครับ...

...ผมถึงทำมันลงไป


>>>>>>>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<<<<<<<<


คนเขียนอยากและขอคุย อิอิ :z2: :z2:

:: สวัสดีคนอ่านทุกคนนะคะ ไม่ได้เข้ามาทักทายบ่อยเท่าไหร่ แต่ก็อยากทักทายทุกคนที่คลิกเข้ามาอ่านเรื่อง รัก...เชิญครับ รวมถึงเรื่องรัก...เธอ ด้วยนะคะ

อยากบอกว่า เรากดเป็ด กดโหวตให้ทุกคนเลยนะคะ

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ เรื่องนี้คงไม่ยาวเท่าไหร่ (เพราะมันอยากแต่งเรื่องต่อไปแล้ว หุหุ) คงจะไม่น่าถึง 20 ตอน หรือถ้าเกินก็คงไม่เท่าไหร่

ติดตามกันนะคะ อย่าทิ้งกันน้า // ม๊วฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ทุกคน ม๊วฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ พี่เอ๋ ขอบคุณมากนะคะ รู้น้าว่าแก้ให้แอ๋วเยอะมากกก

บับบายทุกคนคร้า เจอกันตอนที่ 10 คุณหมอขอพูดนะคะ ^___^




ออฟไลน์ eern

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
 :o12:เมือคนอกหักสองคนมาเจอกันมันจึงเกิดเรื่องราวไม่รู้จะสงสารใครระหว่างหมอกับฟ้าถ้างั้นก้อรักกันไปเลยแล้วกัน :L1:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
น้ำฟ้าจ๊าแค่เปิดใจรับคุณหมอ
เข้ามาในหัวใจก็พอแล้ว
อย่าไปคิดถึงคนอื่นเลย :กอด1:

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
ดีมาก ถุงยาง กะ เจล เอามาแล้วไม่เสียของ !!!
.
เตรียม ดราม่า อีก อย่างน้อย 40 ตอน แน่ๆ !!!

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาดูอาการปากแข็ง ของคุณหมอ กับ คุณฟ้า


Rhythm

  • บุคคลทั่วไป
เเง้ สงสารคุณฟ้าอ่ะ แต่ สงสารคุณหมอมากกว่า

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
คุณหมอสู้ๆ คุณหมอสู้ตาย เชียร์สุดตัวคร้าบ.....

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ไม่อยากให้ประชดอ่ะ คุณหมอเป็นคนดีนะคะ ลองเปิดใจหน่อยนะจ๊ะ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
อ่านประโยคท้ายๆ แล้วปวดใจแทนคุณหมอ แต่เชื่อว่าจากนี้ไปคุณหมอไม่ปล่อยมือจากคุณฟ้าแน่นอน

บวกจ้า

ออฟไลน์ mascot

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-10
อย่างนี้ก็หวานคุณหมอซิคุณฟ้า
ถึงจะประชด แต่อ้อมกอดคุณหมอก็อุ่นนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2

ถึงจะดีใจที่หมอกับคุณฟ้ามีอะไรกัน
แต่พอรู้ความคิดของคุณฟ้าอย่างนี้ ทำเอาดีใจไม่ลง
ทำไมต้องทำประชดคนคนหนึ่งขนาดนั้นด้วย ?
ทำไปโดยที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขาคงไม่เดือดเนื้อร้อนใจหรอก
คิดแล้วเซ็งคุณฟ้า ! งื้ดดดดด

คุณหมอ อย่าปล่อยคุณฟ้าหลุดมือละ!
หวังว่าคงไม่งี่เง่าหรอกนะ
+1 ให้นะคะ รักนะจุ๊บๆ เค้ารอตอนต่อไปอยู่นะตัวเอง
5555555555555

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 10

เช้าแล้ว...เมื่อผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับอ้อมกอดวางเปล่า ไม่มีคนในอ้อมแขนที่ผมโอบกอดเอาไว้ทั้งคืน เสียงน้ำที่ดังให้ได้ยิน ฟ้องว่าคนๆ นั้นอยู่ในนั่น

มันเกิดไปแล้ว เมื่อคืนผมกับคุณฟ้า เรามีอะไรกัน!

คุณฟ้ากำลังอาบน้ำอยู่ ขณะที่ผมนั่งกุมขมับอยู่บนเตียง ในสภาพที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยร่องรอยของเหตุการณ์เมื่อคืน ทั้งรอยฟันและรอยเล็บที่เป็นของใครไม่ได้นอกจากของคุณฟ้า ถึงผมจะทนุถนอมเท่าไหร่ ฝืนตัวเองกับคุณฟ้าแค่ไหน พยายามที่จะอ่อนโยนให้มากที่สุด เพราะมันดูเหมือนมันจะเป็นครั้งแรกของคนที่ลุกขึ้นมายั่วผม นั่นก็แค่ช่วยให้ความเจ็บปวดทุเลาเพียงเล็กน้อย  เจอหล่อลื่นมันช่วยให้การสอดใส่ง่ายขึ้น แต่มันไม่ได้ง่ายขึ้นขนาดที่ทุกอย่างจะคล่องไปซะหมด ช่องทางที่เปิดรับยังคงตรึงแน่น ต้องใช้ความอดทนสูงกว่าจะผ่านพ้นเข้าไปครอบครอง ดีเท่าไหร่ที่ผมยังใจเย็นไม่บ้าระห่ำจนช่องทางนั้นฉีกขาด

เมื่อคืนหลังจากที่ทุกอย่างจบลงอย่างที่มันต้องเป็น เราสองคนไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลย คุณฟ้าเงียบแล้วหันหลังให้ผม เป็นผมเองที่ดึงร่างกายนั้นเข้ามากอด ดึงหน้าตาน่ารักให้ซุกซบกับอกของตัวเอง ลูบกลุ่มผมนุ่มเหมาะมือไปมา ตอนแรกคุณฟ้าฝืนตัวแต่สุดท้ายเมื่อผมไม่ยอมปล่อยเลยเลิก บอกตามตรงตอนนั้นผมยังไม่รู้สึก ‘พอ’ ความต้องการมันยังมีอยู่ กลิ่นกายหอม ผิวเนื้อเนียน ยังคงเร่งเร้าให้ผมเก็บเกี่ยว แต่ผมรู้ว่าไม่ควร ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า เหมือนคุณฟ้ากำลังสับสน แต่ผมก็ถือโอกาส

แล้วถ้าผมจะ ‘ถือโอกาส’ อีกครั้งและอีกครั้ง หรือจะตลอดไปล่ะ จะดีไหม?

ผมจะถือโอกาส ‘ตีตราจอง’ คุณฟ้าเลยดีไหม?

ผมคิดว่าผมควรทำ แต่ทำได้หรือไม่ได้มันขึ้นอยู่กับคุณฟ้าคนเดียว นั่นแหละคือปัญหา ปัญหาที่ผมต้องมานั่งกุมขมับอยู่ในตอนนี้

 

“คุณหมอครับ” ผมหันไปมองคนเรียก ผิวกายขาวเนียนที่เห็น ถูกแต่งแต้มด้วยรอยแดงที่ไม่ได้มากนักแต่ก็ไม่น้อยจนมองไม่เห็น มันกระจายอยู่เต็มแผ่นอกและแผ่นหลัง ร่องรอยจากอารมณ์ดิบของเมื่อคืน

“ไม่ต้องคิดมากนะครับ คุณหมอ”

ไม่ต้องคิดมาก!! หมายความว่าไงครับคุณฟ้า ผมได้แต่ตะโกนร้องอย่างไม่เข้าใจอยู่ในหัวสมอง แต่ไม่พูดมันออกมา เพราะผมรู้ว่ามันไม่ควร แค่เรื่องเมื่อคืนมันก็ไม่ควรเกิดขึ้นแล้ว

“ถือซะว่าเป็นเรื่องขำๆ ครับ”

ขำมากให้ตายเถอะ คุณฟ้าเห็นหน้าผมขำไหมล่ะ ผมเถียงแต่เถียงในใจ ทำอะไรไม่ได้จริงๆ หรือผมจะลองทำ จะได้ตีตราจองคุณฟ้านับแต่วินาทีนี้

“ไม่ขำไม่ได้หรือครับคุณฟ้า เมื่อคืนเราสองคนมีอะไรกันแล้ว แล้วผมก็อยากจะรับผิด ชะ....” ผมยังพูดไม่จบ คุณฟ้าก็พูดตัดหนทางการตีตราจองของผมไปซะก่อน

“ถ้าคุณหมออยากจะรับผิดชอบ ไม่ต้องครับ”

“แต่คุณฟ้าเสียหาย”

“เสียหายอะไรกันครับคุณหมอ ผมเป็นผู้ชาย คิดมากไปได้”

“แต่ผมไม่อยากฟันแล้วทิ้ง” ผมบอก ความหมายตรงตามประโยคเลยครับ

“งั้นผมก็ฟันคุณหมอเหมือนกัน” เสียงหัวเราะเล็กๆ เหมือนจะไล่ต้อนให้ผมจนมุม ผมจนมุมจริงๆ

“คุณฟ้า” ผมเรียกชื่อคนที่ยังยืนยิ้มเป็นปกติด้วยเสียงที่อ่อนแรงลง

“ครับ”

“คุณฟ้าเป็นของผมแล้วนะครับ”

“ไม่ใช่ครับ” คราวนี้คุณฟ้าไม่ยิ้ม กลับมองหน้าผมเหมือนไม่พอใจ ผมพูดอะไรผิด มันเป็นความจริง


“แต่.....” ผมพูดไม่ออก เพียงแค่ผมอ้าปากจะพูด คุณฟ้าก็หันหลังไปเปลี่ยนชุดทันที บอกให้รู้ว่าคุณฟ้าไม่อยากคุยเรื่องนี้กับผมต่อ และคงจะยืนยันสถานะของเราทั้งคู่ว่าเป็นแค่คนรู้จักกันก็พอแล้ว

ผมกำลังหมดหวัง...

คุณฟ้ากำลัง ‘ใจดำ’ ใส่ผม

ผมเข้าใจนะว่าเรื่องเมื่อคืนมันไม่ได้เกิดจากความรัก มันก็แค่เรื่องของเซ็กส์ที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน เมื่อจบก็แยกกันไป แต่ทำไมผมกลับไม่อยากแยก ยังอยากจะสานสัมพันธ์กับคุณฟ้าต่อไปอีก แต่คุณฟ้ากลับไม่ได้คิดอย่างผม

ตัดรอนจนผมอยากจะลุกไปกระชากร่างบอบบางที่เคยครางอยู่ใต้ร่างกายของผม มากดกอดให้สมกับค่ำคืนที่ผ่านมาที่ทำได้เพียงดับกระหายแต่ยังไม่เต็มอิ่ม แต่ที่ผมทำได้ตอนนี้คือลากสังขารเข้าไปอาบน้ำ เผื่อบางทีออกมาแล้ว คุณฟ้าจะเปลี่ยนใจ อ้อนวอนให้ผมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น

.
.
.
.

.

.

เมื่อผมเดินออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เจอคุณฟ้าอยู่ในห้อง ผมรีบเปิดตู้เสื้อผ้าดูว่าข้าวของคุณฟ้ายังอยู่ไหม โล่งอกครับ กระเป๋ากับเสื้อผ้ายังอยู่ครบ นึกกลัวว่าคุณฟ้าจะหนีกลับเพราะรำคาญผม สงสัยคุณฟ้าจะไปเดินหน้าหาดหรือไม่ก็กินข้าวเช้า แต่เวลาตอนนี้มันยังไม่ถึงหกโมงเช้าเลยด้วยช้ำ ผมรีบแต่งตัวทันที อยากไปคุยกับคุยฟ้าเรื่องต่อ อยากลองขอคบกับคุณฟ้าดู เผื่อคุณฟ้าจะเห็นใจให้โอกาสผม

มีคนเคยพูดไว้ว่า ‘คนน่ารัก มักใจร้าย’ คงจะจริง



หาดทรายด้านหน้าที่เห็นจากบริเวณหน้าบ้านพัก ไม่มีร่างสูงโปร่งที่คุ้นเคย คุณฟ้าคงอยู่ที่เรือนอาหาร

“ไอ้หมอ” อิงเรียกผมจากด้านหลัง พอหันไปก็เห็นสภาพหน้าที่ดูอิดโรยกับปากที่เป็นสีเขียวอมม่วงอมแดง

“ไปทำอะไรมา” มันเป็นโรคติดต่อกันหรือไง เมื่อคืนตินก็เป็น โชคดีหน่อยที่เพื่อนผมมันติดเชื้อมาแค่ข้างเดียว

“นั่นแหล่ะ” มันบอก แล้วผมจะรู้ไหม

“นั่นแหล่ะอะไร เล่ามามีเรื่องอะไรกับใคร”

“ไปดูอาการหนึ่งให้หน่อย”

“หือ?”

“เดี๋ยวค่อยเล่า ไปดูหนึ่งก่อน”

ผมยังไม่เข้าใจอะไรมากได้แต่เดินตามคนใจร้อนที่เดินเหมือนวิ่ง ผมอยากจะเดาสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเพื่อนของผมกับลูกน้องของเพื่อน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่กลัวเดาถูก

ทำไมเพื่อนของผมโดนต่อย แล้วสาเหตุอะไรทำให้อิงต้องมาตามผมไปดูอาการของหนึ่ง ไอ้เรื่องที่ว่าต่อยกันจนหนึ่งอาการหนัก จนต้องตามผมไปดูถึงที่ห้อง ตัดไปได้เลย ผมรู้จักนิสัยของอิงดี แต่ผมกลัวสิ่งที่ผมยังไม่รู้นี่สิ

นิสัยของอิงเป็นเรื่องที่ผมรู้จักดี แต่สิ่งที่อยู่ในใจต่างหาก คือสิ่งที่ผมไม่รู้ ความรู้สึกของคนมันเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอด ไม่รู้ว่าอิงมันคิดอะไรอยู่หรือรู้สึกยังกับใครแบบไหน...นี่แหละที่น่ากลัว

อิงมันกำลังจะแต่งงาน งานแต่งที่ถูกเลือนไปก่อนหน้านี้เมื่อเดือนก่อน สาเหตุเพราะคุณย่าของน้องหวานเสียชีวิตด้วยโรคชรา และฤกษ์ดีที่ทางครอบครัวทั้งคู่หาให้ใหม่คืออีกแปดเดือนข้างหน้า

.
.
.
.
.

ผมกับอิงยังเดินไปไม่ถึงห้องพักก็เจอกับน้องลม ติน แล้วก็คุณฟ้า ไม่รู้ว่าเดินมาด้วยกันได้ยังไง ผมมองคุณฟ้า มีนิดหนึ่งที่คุณฟ้าแอบหลบสายตาของผม แต่แล้วก็กลับมามองหน้าแล้วยิ้มให้ผมเป็นปกติ

เรื่องระหว่างเรา...มันเป็นไปไม่ได้เลยหรือไงคุณฟ้า ผมอยากถามคุณฟ้าเหลือเกิน แต่ผมก็รู้คำตอบดีอยู่แล้วนี่น่าว่า มันเป็นไปไม่ได้ คุณฟ้าไม่ได้ให้โอกาสผมเลย

“จะไปไหนกันครับ” น้องลมถามเมื่อเดินเข้ามาใกล้ หน้าตาเบิกบานผิดกับเมื่อคืนมาก อีกคนก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่ คงง้อได้สำเร็จ ไม่งั้นคงไม่ยิ้มระรื่นได้แบบนี้ ทั้งที่ปากขึ้นสีเขียวช้ำชัดเจนกว่าเมื่อคืนมาก

“ไปดูหนึ่งครับเห็นว่าไม่สบาย” อิงไม่ตอบ ผมเลยต้องตอบคำถามนี้เอง

“หนึ่งเป็นอะไรครับบอส”  ตินถามบอสตัวเอง

“ไม่สบาย” อิงมันพูดแค่นั้นก็รีบเดินไปเลยครับ หน้าตาที่เห็น ดูมันเครียดไม่น้อย ทิ้งให้ความลำบากใจตกมาอยู่ที่ผม คงไม่มีใครไม่เห็นรอยเขียวช้ำตรงมุมปากของอิง  ออกจะชัดขนาดนั้น

“หมอก็ไม่รู้เหมือนกัน” ผมบอกทุกคนครับ เมื่อสายทุกคู่จ้องเอาคำตอบที่ดีกว่าของอิงจากผม

.
.
.
.

 เราทั้งหมดสี่คนเดินเข้าไปในห้องพักหลังสุดท้ายของรีสอร์ท สิ่งที่ผม คุณฟ้า น้องลม และตินเห็น คืออิงที่ยืนอยู่ข้างเตียง กำหมัดแน่น  จ้องตากับอีกคนที่นั่งตัวเปลือยท่อนบนมีผ้าห่มคลุมด้านล่างอยู่บนเตียง มือกำโทรศัพท์ไว้แน่นบนตัก

สถานการณ์ไม่สู้ดี เรียกว่ามาคุน่าจะถูกกว่า

คนสองคนที่จ้องหน้ากันอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่มีใครสนใจพวกผมที่เดินเข้ามาในห้องเลย

“เกิดอะไรขึ้น” ตินเดินเข้าไปกั้นกลางระหว่างอิงกับติน ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง คุณฟ้าขยับเข้าใกล้ผม มองหน้าผมเหมือนจะถาม แต่ผมไม่มีคำตอบที่จะให้ ด้วยเพราะคำตอบมันมีอยู่แล้วตรงหน้า เนื้อตัวที่เต็มไปด้วยรอย มันมากจนผมไม่คิดว่าอิงจะบ้าทำได้ถึงขนาดนั้น

“มึงถามใคร?” หนึ่งละสายตายจากเพื่อนของผม มาที่เพื่อนของตัวเอง

“ถ้ามึงถามกู กูจะตอบว่า คนที่มึงไว้ใจ มันข่มขืนกู” หนึ่งพูดเสียงเรียบ ไม่ต่างจากใบหน้า ผิดจากเรื่องที่พูดที่ทำเอาผม คุณฟ้าและน้องลมอึ้ง ผมคาดว่าทุกคนพอดูออกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอมันหลุดออกมาให้ยินกันชัดๆ ก็คงอดที่จะอึ้งไม่ได้

“เป็นไงล่ะ มึงต่อยชิตเพราะเรื่องแค่นั้น แล้วบอสของมึงทำกับกูถึงขนาดนี้ มึงกล้าต่อยบอสของมึงไหม ที่ทำกับกูยิ่งกว่าที่ชิตมันทำ”

“ทำไม” ตินหันไปถามเอากับอิง น้ำเสียงเหมือนกั้นอารมณ์โกรธไว้เต็มที่ เป็นผม ผมก็โกรธครับ หนึ่งใช้คำว่า “ข่มขืน” แปลว่าไม่ใช่การสมยอม

“....................” อิงไม่พูดอะไร เบือนหน้าหนี

“ถ้าบอสของมึงไม่มีปัญญาตอบ กูจะตอบให้ก็ได้ บอสของมึงข่มขืนกูเพราะกูเถียงเขา เพราะกูต่อยเขา แล้วก็เพราะกูจะไปหาชิต กูจะไปนอนกับชิต แล้วเป็นไง บอสมึงเป็นคนดีไหม ทำตามที่มึงบอกทุกอย่าง ไม่ให้กูไปไหน ถึงกับลงทุนข่มขืนกู”

ทั้งห้องเงียบ เข็มสักเล่มหล่นคงได้ยินไปไกลถึงหาดทรายข้างนอก

“แล้วมึงรู้ไหมว่าบอสของมึงข่มขืนกูไปกี่ครั้ง ห้าครั้งมึง มึงได้ยินไหมห้าครั้ง ห้าครั้งที่กูโดนข่มขืน ถ้ามึงไม่เชื่อ มึงไปนับถุงยางที่ถังขยะดู ว่ามันมีกี่อัน หรือมึงอยากจะดูรอยเลือดที่ก้นกู ถ้ามึงไม่เชื่ออีก มึงก็ให้บอสของมึงถอดเสื้อให้มึงดู รอยเล็บรอยฟันของกูที่อยู่บนตัวบอสของมึง มันมากขนาดไหน กูเจ็บจนจะตายอยู่แล้ว บอสของมึงก็ไม่ยอมหยุด กูร้องจนน้ำตาจะเป็นสายเลือดบอสของมึงก็ไม่หยุด”

เงียบ...ทุกคนเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา มีแต่หนึ่งคนเดียวที่เหมือนจะระบายทุกความอัดอั้นออกมา

“แล้วมึงอยากรู้ไหมว่าบอสของมึงข่มขืนกูยังไง ป่าเถื่อนใส่กูแค่ไหน ทำสันดานดิบใส่กูเหมือนกูไม่ใช่คน”

“พอแล้วหนึ่ง!” เป็นอิงครับที่ตวาดลั่นห้อง

“ทำไม อายหรือไง อายที่กำลังโดนประจานว่าข่มขืนลูกน้องของตัวเอง”

“หนึ่ง!!”

“ทำไม!!”

“แล้วทำไมไม่บอกล่ะ ว่ายั่วผมยังไงบ้าง ผมถึงต้องเอาสันดานดิบมาใช้กับคุณ”

“คนเลว”

มือเล็กๆ ของคุณฟ้าคว้าแขนผมไว้ ราวกับเป็นหลักพยุงตัว ตากลมที่มองมาหาผมมีน้ำตาคลอ คุณฟ้ากำลังสงสารหนึ่ง ผมก็สงสาร ถึงคำพูดของหนึ่งจะเรียบเรื่อยแต่เข้าในคนเจ็บปวดจนสุดทน มาเจออิงที่ตวาดใส่อีก คงทนไม่ไหวจริงๆ

“....อึก...อึก...ฮื่อออ............”

แล้วหนึ่งก็ร้องไห้ออกมาจนได้

“หนึ่ง” อิงทำท่าจะเดินเข้าไปหา แต่โดนตวาดเสียก่อน

“อย่าเข้ามา!!”

เหมือนทุกคนถูกสะกดให้อยู่กับที่ มีเพียงเสียงสะอื้นไห้จากหนึ่งที่ทำให้ทุกคนพูดไม่ออก

“ชิต”

เจ้าของรีสอร์ทเดินเข้ามา คนที่หนึ่งเรียกและโผเข้าหาเมื่ออีกฝ่ายเดินเข้าไปใกล้แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ

“กะ..อึก...กูเดิน...ไม่ได้ อุ้มกูไปหน่อย”

“เดี๋ยวนะ” ชิตเดินเข้าไปในห้องน้ำ ผ่านทั้งอิงกับตินที่ยังคงยืนนิ่ง ก่อนเดินออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ ใช้มันห่อตัวที่เต็มไปด้วยรอยแดงของหนึ่งแล้วอุ้มเดินออกไป โดยไม่พูดอะไรสักคำ

.
.
.
.
.
.

ทุกคนออกไปแล้ว ตินกับน้องลม ผมไม่รู้ว่าออกไปไหน จะไปหาหนึ่งที่บ้านพักของชิตหรือไปเก็บกระเป๋าที่ห้องพักเหมือนที่คุณฟ้ากำลังทำอยู่ คุณฟ้ากำลังเก็บกระเป๋าของผมกับของตัวเอง หลังจากที่เราสามคนตัดสินใจจะกลับกรุงเทพกัน ส่วนผมยังอยู่ในห้องเดิมกับอิง นั่งดูมันเก็บกระเป๋าเหมือนคนไม่มีชีวิต น้ำตามันไหล ไม่มากแต่ก็เป็นน้ำตาลูกผู้ชายที่ผมไม่เคยเห็น

“ร้องไห้หรือไงวะ” ผมถาม

“อืม...” มันตอบรับในลำคอ มือรูดซิบปิดกระเป๋า เช็ดน้ำตา แล้วล้มตัวลงนอนกับพื้นปูนหน้าตู้เสื้อผ้า เงยหน้ามองผมที่นั่งอยู่บนเตียงที่ถูกปูด้วยผ้าคลุมเตียงผืนใหม่

“ทำไมถึงทำ”

“หนึ่งมันดื้อ”

“เหตุผลแค่นี้นะที่ทำให้แกปล้ำหนึ่งไปห้าครั้ง ไม่เชื่อเท่าไหร่” ผมว่า มันน่าเชื่อซะที่ไหนกัน

“อาจมีเหตุผลอื่นด้วย”

“เช่น”

“รอให้แน่ใจก่อนจะบอก” ไม่บอกก็ไม่เป็นไรครับ ผมไม่อยากเซ้าซี้เอาความ รู้จักกันมานาน มีเรื่องไหนที่อิงมันไม่ยอมบอกผมก็แปลได้ว่ามันไม่อยากให้ผมเครียดตามไปด้วย

“แล้วจะทำไงต่อ”

“ขอกลับไปคิดก่อน ตอนนี้ปวดหัวไปหมดแล้ว”

ดูหน้าตาอิงแล้ว ผมไม่อยากจะถามอะไรต่อ แล้วเป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้ง คุณฟ้าเปิดประตูเข้ามา แต่ไม่ได้เดินเข้ามาในห้อง แค่ยืนอยู่ตรงประตู แล้วบอก

“เก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้วครับ” มาแค่บอกครับ แล้วปิดประตูออกไป น่าจะยืนรอผมกับอิงอยู่ข้างนอก ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า ผมว่าคุณฟ้าโกรธอิงเพราะเรื่องของหนึ่ง

“กลับไปคิดต่อที่บ้าน” ผมดึงอิงให้ลุกขึ้น มันเหมือนคนไม่มีแรง ผมต้องใช้แรงในการดึงเยอะมาก กว่าที่อิงมันจะลุกขึ้นนั่งได้

“ฉันสับสน” น้ำเสียงมันไม่มั่นคง พูดโดยไม่มองหน้าผม

“ค่อยๆ คิด เดี๋ยวก็เจอทางออก” ผมบอกอิง คล้ายกับบอกตัวเองด้วยครับ ถึงจะไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน แต่เรื่องมันก็คงเหมือนกัน

“ก็ว่างั้น”

ถ้าอิงบอกว่ามันสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเองกับหนึ่ง  ถ้างั้นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับคุณฟ้าคงต้องบอกว่า ผมมั่นใจ’ แต่คุณฟ้า ‘ไม่ต้องการ’ ผมอยากจะปรึกษาอิงมันนะครับ อยากให้มันช่วยคิดว่าผมควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ มาเจอปัญหาของอิงที่ดูใหญ่กว่าผมหลายเท่าเลยจอดสนิท เห็นท่าแล้วว่าผมเองจะเป็นฝ่ายที่ต้องเข้ามาช่วยอิงมากกว่า

“ไอ้หมอ  หนึ่งจะเกลียดฉันไหมวะ”

“ตอบยาก แต่ถ้าง้อดีๆ น่าจะหาย” ผมตบไหล่มันไปสองที เพิ่มกำลังใจ แค่คำถามของอิงก็ทำให้ผมมั่นใจไปกว่าครึ่งแล้วว่า
 อิงจะเลือกอะไร?

“หวังว่าอย่างนั้น” มันยิ้ม เป็นยิ้มที่แห้งแล้งน่าดู ปัญหาที่อิงมันต้องเจอต่อไป ไม่ได้มีแค่เรื่องของหนึ่ง มันยังมีเรื่องของน้องหวาน ว่าที่เจ้าสาวในอนาคตอีกด้วย หนทางของอิงมันยากลำบากกว่าผมมาก

ของผมก็แค่ถูกคุณฟ้าปฏิเสธ เทียบกันไม่เห็นฝุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะผมไม่ได้บ้าพลังจนปล้ำคุณฟ้าไปถึงห้าครั้ง ไม่ได้ทำจนคุณฟ้าลุกไม่ขึ้น และไม่ได้เป็นว่าที่เจ้าบ่าวของใครในอนาคตด้วย แต่ถ้าเป็นเรื่องว่าที่คู่หมั้นของสาวสวยที่คุณหญิงแม่เป็นคนจัดการให้ล่ะก็ ผมว่าผมมีนะ ......

ยุคสมัยผ่านไปนานแค่ไหน ‘การคลุมถุงชน’ ยังเป็นอยู่ยงคงกะพันเสมอ ไม่มีแตกสลายไปตามกาลเวลาแต่อย่างใด...

และเพราะผมเป็นลูกเพียงคนเดียวที่ยังไม่มีหลานให้ท่านอุ้ม หลายวันก่อนคุณหญิงแม่ถึงบอกผมว่า น้องเนย ลูกสาวของคุณหญิงวลัยกำลังจะกลับประเทศไทยอย่างถาวร หลังจากเรียนจบโทจากอังกฤษแล้ว ยังนัดหมายวันและเวลาที่จะให้ผมไปรับน้องเนยพร้อมกับท่านอีก ผมปฏิเสธไม่ได้และก็ไม่รู้จะปฏิเสธด้วยเหตุผลอะไร ในเมื่อตอนนั้นผมยังโสด อกหักจากน้องลม การที่จะเปิดใจเรียนรู้ใครสักคนก็เป็นเรื่องที่ดี

แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ และผมควรจะปฏิเสธไปเสีย เพราะผมคงไม่อยากเปิดใจรับใครเข้ามา นอกจากจะเปิดใจคุณฟ้าให้รับผมเข้าไป....

หรือว่า...

ปัญหาของผมจะเริ่มใหญ่ขึ้น...



>>>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<<<<



คนเขียนขอคุยอีกครั้งนะคะ :: จบตอนนี้แล้ว คิดว่าคงค้างกันพอประมาณเพราะเหตุการณ์มันพีค (ด้วยเรื่องของคู่อื่น) แล้วก็คนเขียนอยากบอกว่า ขอพักสักพักนะคะ คือมีภารกิจแห่งเงินเดือนต้องไปรับผิดชอบ มิงั้นคงต้องหางานใหม่ในเร็ววันแน่ๆๆ ภารกิจน่าจะไม่เกินวันที่ 10 เดือนหน้านะคะ

เอาเป็นว่า ขอโต๊ดดดน้า อยากแต่งใจจะขาดแต่ต้องทำงานก่อนจริงๆ ทำงานเสร็จแล้วจะรีบปั่นคุณฟ้ามาให้ได้ยลโฉมกันน้า 

สำหรับเรื่องนี้ น้ำฟ้ากับคุณหมอ ไม่ดราม่า (เท่าไหร่น้า เทียบไม่เห็นฝุ่นกับของตินลมหรอกคร้า) อย่าปวดใจจนตัดขาดเรื่องนี้นะคะ คนเขียนคงเสียใจมาก อิอิ

ไม่เวิ่นแล้ว ไปแล้วนะคะ ง่วงมาก เพราะตอนนี้เกือบตีหนึ่งแระ อีกสองนาที....

บับบายคร้า

Aeaw na ka

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
บวกๆ ค่า รออ่านต่อเสมอ
คนน่ารักมักใจร้ายจริงๆ ด้วย หมอสู้ๆ อิงสู้ๆ ด้วย

ออฟไลน์ eern

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
 :L1:เอาใจช่วยนะคะรีบมาเร็วๆเค้าจะรอ :call:

Rhythm

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ คุณอิงโหดอ่ะ ถนอมๆคุณหนึ่งหน่อยนะๆ :L1:

รอคุณฟ้าเปิดใจจ้า

รออ่าน

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2
พี่หมอพยายามทำให้ฟ้าชอบไวๆนะคะ

ออฟไลน์ squalo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ปวดตับ น้ำฟ้าใจแลดูใจแข็งเน้อ
ส่วนอีกคู่ มันแอบ sm นะเนี้ย
55555555555555 55
คำว่า ข่มขืน สะเทือนใจไม่น้อยเลย ;A;

ออฟไลน์ mascot

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-10
ภารกิจเสร็จรีบมาต่อนะ
คุณฟ้าช่วยเปิดใจเร็วหน่อยนะ
สงสารหนึ่ง...

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด