ตอนที่ 6
การสัมภาษณ์สุดอลหม่าน
ผมยืนตัวสั่นอยู่หลังฉาก เพราะเพิ่งรู้ตอนมาถึงบริษัทพร้อมเตโชว่ารายการที่ขอสัมภาษณ์คือรายการยอดนิยมของช่อง โชคดีพิธีกรสาวสวยนั้นค่อนข้างเป็นกันเอง พูดเรื่องผลงานทั้งของผมและเตโชได้อย่างถูกต้องแม่นยำ นับว่าทำการบ้านมาดีมาก ผิดกับเตโช...ไอ้คนที่ไม่รู้จักเตรียมตัวเตรียมการอะไรเลย!!
นึกแล้วแอบเคืองเล็กๆ หลังเปลี่ยนเสื้อแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จเตโชก็กลายเป็นหนุ่มหล่อพร้อมขึ้นไปเดินแบบทันที ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่งแท้ๆ ไอ้ตัวสล็อตที่ตื่นสายจนผมต้องกดกริ่งเรียกอยู่นานสองนานวิวัฒนาการเป็นผู้เป็นคนแล้ว แล้วดูนั่นสิ อิจฉาแขนขายาวๆ ของเขาชะมัด ไม่ว่าจะแต่งตัวยังไงก็ดูสูงชะลูดโดดเด่น เดินคู่กันแล้วนั้น...ผม...ซึ่งสูงเลยไหล่เขามากระจึ๋งนึงมีหวังถูกมองข้ามกันพอดี
“จำไว้นะ หน้าที่ของนายมีแค่เออออเท่านั้น อย่าพูดมากเกินจำเป็น เรื่องแชมปิญองก็ไม่ต้องเล่า!” หลังดมยาดมคู่ใจเรียกสมาธิแล้ว ผมก็หันไปกำชับเตโชที่พยักหน้าหงึกๆ อย่างว่าง่ายเกินคาด ไม่ใช่ว่าเขาเชื่อฟังดี แต่เพราะต่อมหิวโหยนั้นเชื่อมั่นต่อคำสัตย์ของผมว่าเย็นนี้จะทำสุกี้กินกันในห้อง เนื้อหมูเนื้อวัวไม่อั้นตามต้องการ
พลันผมสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงประกาศของพิธีกรที่เริ่มอัดรายการไปก่อนแล้วอันเป็นสัญญาณเปิดตัว
“ขอเสียงปรบมือต้อนรับ จิระและเตโชค่า!”
ผมรีบสะกิดเตโชก่อนจะเดินเข้าฉากด้วยรอยยิ้มนิดๆ แลน่ารักปานเทวดาตัวน้อยในทันที ภาพลักษณ์การออกสื่อครั้งแรกของจิระหลังโดนข่าวฉาวเล่นงานพ่วงนอนโรงพยาบาลนับเดือน คือเด็กหนุ่มท่าทางเจี๋ยมเจี้ยมน่าทะนุถนอม ชวนให้รู้สึกอยากอุปถัมภ์ค้ำชู ขนาดการแต่งกายยังเน้นสีขาว ทำให้ดูตัวเล็กบอบบาง ผิดกับบุคลิกแข็งทื่อของเตโชโดยสิ้นเชิง บางทีผมก็สงสัย ว่าเตโชเคยกลัวอะไรบ้างมั้ย ไม่สิ...มีความรู้สึกอะไรนอกจากความหิวโหยบ้างรึเปล่า เพราะเขาไม่ประหม่าสักนิด มองตอบแฟนคลับด้วยสีหน้ามึนอึน กึ่งๆ จะเข้าถึงง่ายพ่วงไม่แยแสต่อโลกและโชคชะตา ใครให้ทำอะไรก็ทำ คนอื่นจะคิดยังไงก็ไม่สน เป็นตัวของตัวเองได้ดีจนคนแสดงละครมาเกือบทั้งชีวิตอย่างผมนึกอยากต่อยเขาให้เปลี่ยนสีหน้าสักทีสองที
แต่ต่อให้อยากทำก็ทำไม่ได้ เพราะครั้งนี้ผมถูกเชิญมาออกรายการด้วยการพึ่งใบบุญบารมีของเตโชล้วนๆ บรรดาแฟนคลับที่ต้อนรับในห้องส่งก็ล้วนแต่เป็นสาวๆ ที่ชื่นชอบคลั่งไคล้เตโช แต่เดี๋ยวก่อน ‘เตโชxจิระ’ นั่นหมายความว่ายังไงน่ะ...ให้ผมกับเขาสู้กันเหรอ!? จริงๆ คือ ‘เตโชVSจิระ’ ใช่มั้ย!!
อย่า อย่ามองผมเหมือนคนอ่อนต่อโลกขนาดนั้น ผมก็แค่...กำลังหลอกตัวเอง
ตอนหาข่าวเช็กเมทซีซันแรก กระแส ‘อัครเดชxจิระxธนัท’ ก็มีไม่น้อย ผมเลยรู้สึกหน้ามืดเบาๆ เมื่อเจอกับตัวเอง
แต่มีคนรักย่อมดีกว่ามีคนเกลียด การหวนคืนสู่วงการครั้งนี้ยังนับว่าดี เพราะแฟนคลับเตโชสนับสนุนผมเสียส่วนใหญ่ แม้จะเพราะฝีมือการแสดงเป็นอันดับสอง หน้าตาน่าจิ้นเป็นอันดับหนึ่งก็ตาม ฉะนั้น...
ผมลอบกลั้นใจก่อนจะเอื้อมไปจับมือเตโช เขาถึงกับชะงัก มองผมงงๆ ด้วยหน้าตาใสซื่อไร้มลทิน ผมเลยกระซิบบอกเบาๆ ว่า ‘สุกี้’ เท่านั้นแหละ...คนหิวโหยพลิกมือจับหมับ กึ่งลากกึ่งจูงผมไปที่โซฟาสำหรับแขกรับเชิญทันที
“กรี๊ดดดดดด”
เห็นผลตอบรับออกมาดีเกินคาด ผมเลยก้มหน้ายิ้มเขิน ขณะที่ในใจด่ากราด ไอ้บ้าเตโช นายจะเล่นใหญ่ไปเพื่อ!?
พอหย่อนก้นปุ๊บพิธีกรก็ชงอย่างรู้งาน
“แหม เปิดตัวได้เร่าร้อนจริงๆ นะคะ ไม่รู้เลยว่าทั้งสองคนจะสนิทกันขนาดนี้”
“ก็นิดหน่อยน่ะครับ” ผมยิ้มอายขณะรีบปล่อยมือเตโชคล้ายพยายามปกปิดความสัมพันธ์ชวนคิดลึก ก็ยังดีที่คนหน้ามึนไม่ทำอะไรพิเรนทร์ เพราะเราสองคนต่างพากันทิ้งตัวนั่งโดยเว้นช่องว่างเล็กน้อย การเซอร์วิสแฟนคลับไม่ควรจงใจเกินไป ถี่เกินไป เอาให้พอกระชุ่มกระชวยหัวใจกำลังพอดี
ใช่แล้วครับ ผมกำลังวางแผนปันแฟนคลับเตโชมาเป็นของตัวเอง!
เพราะนี่คือรากฐานสำคัญในการต่อยอดสู่เส้นทางดาราของผมในอนาคต!!
“เอ...เหมือนจะได้ข่าววงในมาว่าเตโชเป็นคนระบุตัวจิระมาแสดงเป็นพระเอกในเอ็มวีเพลง ‘เวลา’ เลยนี่นา ข่าวนี้เป็นความจริงรึเปล่าเอ่ย” พิธีกรสาวถามด้วยรอยยิ้มมีลับลมคมใน
“จริงครับ” ผมตอบพลางทัดผมที่เริ่มยาวของตัวเองไว้ข้างหู เผยให้เห็นใบหน้าหมดจดที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ งัดทุกมารยาไม่มีกั๊ก แม้ปกติผมจะเป็นพวกขวางโลกไม่ชอบปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น แต่ถ้ามีเป้าหมายแล้วล่ะก็...ผมพร้อมจะใช้รูปร่างหน้าตาให้เป็นข้อได้เปรียบ ในเมื่อผมมีข้อดีแค่ข้อนี้นี่นา ถ้าไม่ใช่ให้เกิดประโยชน์ก็ถือว่าพลาดแล้ว! “แต่ทุกคนอย่าเพิ่งคิดลึกเลยครับ เตโชน่ะเป็นแฟนคลับมิสเตอร์เอส ติดตามผลงานผมมาก่อน ส่วนสาเหตุที่เขาเลือกผมเป็นพระเอกเอ็มวีก็เพราะอยากจะเจอตัวแล้วขอลายเซ็นเท่านั้นเอง ไม่ใช่เพราะเคยรู้จักมาก่อนหรือแสดงดีอะไรหรอกครับ”
ผมหลุดหัวเราะเบาๆ น้ำเสียงกระจ่างใสเป็นกันเอง จนคนฟังอดแก้ตัวแทนไม่ได้
“แต่จิระแสดงเก่งมากเลยนะ เพลงของเตโชว่าสะกดคนฟังแล้ว แต่สีหน้าท่าทางของจิระก็สะกดคนดูให้ยิ่งจมลึกทำให้ตอนนี้ยอดวิวพุ่งสูงหลักล้านทุกวัน ขนาดฉันยังน้ำตาซึมเลย โดยเฉพาะฉากสุดท้าย...มันบาดลึกมากจริงๆ”
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มรับอย่างตื้นตัน แต่ไม่วายหลุบตาเล็กน้อยอย่างไม่มั่นใจ
อืม...ผมชักจะเอียนตัวเองแล้ว
“โธ่ จิระ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เธอแสดงดีมากเลยนะ เตโชก็คิดเหมือนกันใช่มั้ย เป็นคนระบุตัวจิระเองแสดงว่าต้องปลาบปลื้มกับการแสดงครั้งนี้ของเขามากที่สุดสิ”
แม้นั่งเป็นไม้ประดับมานาน เตโชก็สามารถตอบคำถามนั้นได้อย่างว่องไว
“เปล่า”
ตอบ...ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น และสีหน้ามึนอึน
“หวังแค่ลายเซ็น”
ตอบ...แถมยังย้ำความจริงได้ไม่ดูจังหวะเอาซะเลย ผมคิ้วกระตุกเมื่อเกิดเดดแอร์ ยังดีที่พิธีกรสาวยิ้มขำ รีบตบมุกเตโชทันที
“นั่นสิเนอะ ถามคำถามนี้กับแฟนคลับของมิสเตอร์เอสคงเสียมารยาทมาก ตามขอลายเซ็นขนาดนี้จะไม่รู้ฝีมือการแสดงของจิระได้ยังไง แล้วจิระล่ะคะ ตอนได้รับเลือกให้เป็นพระเอกเอ็มวีของเตโชรู้สึกยังไงบ้าง”
“เป็นเกียรติมากครับ” ผมนึกชื่นชมพิธีกรสาวที่พลิกสถานการณ์อย่างยอดเยี่ยม เบี่ยงหัวข้อหันมาถามผมเพื่อหันเหความสนใจได้เป็นธรรมชาติมาก “อันที่จริงผมไม่ค่อยฟังเพลงเท่าไหร่ แต่ตอนได้ตัวอย่างเพลง ‘เวลา’ มา ผมก็ประทับใจในเนื้อหาและเสียงร้องของเตโชมากจนตกลงรับเล่นทันทีเลยล่ะครับ”
เสียงกรี๊ดดังเบาๆ จากกลุ่มแฟนคลับ นับว่าผมกับพิธีกรสามารถกอบกู้สถานการณ์สำเร็จ
เฮ้อ...ค่อยยังชั่ว“จริงเหรอ” แต่เตโชดันหันมาถามเสียงเรียบอย่างสงสัยจริงๆ ซะงั้น
“จริงสิ ก็เพลงนี้น่ะ...เศร้าและสะเทือนใจมากเลยนี่นา” ผมเอ่ยกับเขาพลางขยิบตาใส่เป็นเชิงว่าอย่าหลุดเชียว เพราะตามสคริปท์แล้วคำถามต่อจากนี้ก็คือ...
“ถ้าพูดถึงเพลงเวลาทุกคนก็ต้องนึกถึงเนื้อหาที่เศร้าสะเทือนใจ ชายที่สูญเสียผู้เป็นที่รัก จนเวลาคล้ายจะหยุดลงตรงนั้น ทุกคนคงสงสัยกันใช่มั้ยคะว่าเตโชที่เพิ่งอายุยี่สิบปี แถมยังไม่เคยมีแฟนมาก่อน ทำไมถึงเขียนเพลงที่เศร้าขนาดนี้ได้ วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกัน!” พิธีกรเกริ่นหัวข้อที่ชวนให้ผมปวดหัวตุบๆ เสียดายชะมัดที่ห้ามพกยาดมเข้าฉาก “เตโชลองแง้มให้ฟังหน่อยสิว่าเพลง ‘เวลา’ ได้แรงบัลดาลใจมาจากไหน จากคนใกล้ตัว หรือตัวเองกันเอ่ย”
ผมขยิบตาใส่เตโชรัวๆ
อย่า...คิด...จะ....พูด...ถึง...แชม...ปิ...ญอง...เชียว...นะ....เฟ้ย!
“ผมเลี้ยงสัตว์สองตัว แต่ตัวแรกตาย” ค่อยยังชั่ว...เพราะเตโชตอบตามที่ซักซ้อมกันไว้ “หลังจากนั้นคู่ของมันก็ตรอมใจตายตาม”
ผมลอบถอนหายใจ เพิ่งรู้ตัวว่าเหงื่อซึมทั่วแผ่นหลังและฝ่ามือ อาการหนักแล้วจิระ จำเป็นต้องลุ้นขนาดนี้มั้ย!
แต่ช่วยไม่ได้จริงๆ...
“ต้องแสดงความเสียใจกับสัตว์เลี้ยงทั้งสองตัวของเตโชด้วยนะคะ แสดงว่าเวลาที่ ‘หยุดลง’ ตามเนื้อเพลง ไม่ใช่แค่ความเศร้าเสียใจ แต่เป็นเวลาของคนที่เหลืออยู่ซึ่งกำลังจะหยุดลงจนตรอมใจใช่มั้ยคะ เป็นเพลงที่ลึกซึ้งจริงๆ พอรู้แบบนี้แล้ว ตอนฟังเพลงฉันคงยิ่งสะเทือนใจ”
...เพื่อประชาชนทั้งประเทศที่อินกับเพลงนี้ ผมต้องปกป้องความจริงไว้ให้ได้!
“แสดงว่าสัตว์เลี้ยงทั้งสองตัวนั้นเตโชต้องรักมากแน่ๆ ถึงแต่งเพลงให้เป็นพิเศษ”
ผมที่เพิ่งถอนหายใจไปหยกๆ เริ่มเกร็งตัวอีกครั้ง มือทั้งสองกุมแน่นอย่างหวาดหวั่น
อย่า...อย่าเชียวนะ อย่าถามคำนั้นออกมา!
“บอกพวกเราได้มั้ยเอ่ยว่าเลี้ยงตัวอะไร”
อ๊ากกกก!!ในใจกรีดร้องโหยหวน แต่ในความเป็นจริงทุกอย่างคล้ายจะเชื่องช้าลงกะทันหัน ผมได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงอย่างชัดเจน ราวอยู่ในเหตุการณ์ที่ระเบิดเวลากำลังนับถอยหลัง เห็นเค้าลางความวิบัติอยู่ร่ำไร ดวงตาของผมเบิกกว้างเล็กน้อย จับจ้องริมฝีปากของเตโชที่ค่อยๆ ขยับเป็นคำตอบสุดสะพรึง
“จิ้ง...”
“เป็นหมาครับ! เขาเคยเอารูปให้ผมดูด้วย น่ารักมากๆ เลย”
“...จก” เตโชขมวดคิ้วเมื่อถูกแทรกประโยคกะทันหัน ฮึก...เป็นความผิดพลาดของผมเอง! ได้โปรดอย่าโทษผมเลยมวลมนุษย์ชาติ! ผมดันย้ำคำกับเตโชแค่ห้ามพูดชื่อแชมปิญอง แต่ไม่ได้ห้ามเขาพูดถึงสายพันธุ์ของมัน!
ทำไงดีล่ะจิระ นายจะกลบเกลื่อนยังไง จะให้ทุกคนนึกภาพจิ้งจกตอนฟังเพลงนี้ไม่ได้นะเข้าใจมั้ย“หมาชื่อจิ้งจก กับจิ้งจอกครับ รสนิยมการตั้งชื่อของเขาแย่ใช่มั้ยล่ะ ฮ่าๆ” ผมแก้ตัวสุดความสามารถเท่าที่จะทำได้แล้ว เสียงหัวเราะก็แหบแห้งอย่างแสร้งทำสุดขีด หมดกันวิชาตอแหลที่คมสันยังนับถือ โคตรไม่น่าเชื่อเลยจิระ
“หืม” พิธีกรเลิกคิ้วสงสัย จับความผิดปกติของผมได้ แต่ถึงอย่างนั้น ก็จับความน่าสนใจของเรื่องนี้ได้เช่นกัน “แล้วจิ้งจกหรือจิ้งจอกที่ตายก่อนเอ่ย แล้วตายเพราะอะไรพอจะเปิดเผยได้มั้ยคะหนุ่มๆ”
“จิ้งจกโดนเหยีย...”
“ตัวที่ชื่อจิ้งจกโดนรถเหยียบตายน่ะครับ เป็นอุบัติเหตุที่น่าเศร้ามากๆ หลังจากนั้นตัวที่ชื่อจิ้งจอกก็ตรอมใจ เสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน ใช่มั้ยเตโช” ผมรีบเอาศอกถองใส่เอวคนหน้ามึนทันที นั่นเป็นแค่การดึงสายตาเท่านั้น เพราะขณะที่ทุกคนกำลังมองผมหยอกกับเตโชด้วยความปลื้มปิติอยู่นั้น...ผม...ก็แอบ...เหยียบเท้าเตโชใต้โต๊ะ! ทั้งบดทั้งขยี้นิ้วเท้าเขาซ้ำๆ ประหนึ่งการทารุณกรรม ยังดีที่เจ้าตัวไม่ร้องโอดโอยออกมา แต่ก็เปลี่ยนสีหน้าจนพิธีกรไม่กล้าเซ้าซี้ถามอีกเพราะกลัวว่าเตโชจะยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียสัตว์เลี้ยงแสนรักทั้งสองตัว
พระผู้เป็นเจ้าครับ จิระทำสำเร็จแล้ว
จิระช่วยชีวิตทุกคนได้แล้วครับ!!ผมดื่มด่ำกับชัยชนะที่เล่นเอาหัวใจแทบวาย เตโชแอบมองผมเคืองๆ เล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าว่าอะไรเพราะตามสคริปท์แล้ว เขาจะถูกเชิญให้ออกไปร้องเพลงกลางรายการเพื่อปิดเบรกแรก
“ตอนนี้ทุกคนคงอยากฟังเพลงเวลากันแล้วใช่มั้ยคะ ถ้างั้นขอเสียงปรบมือดังๆ ให้กับเตโชด้วยค่า!”
เตโชเดินเอื่อยๆ ไปที่ฉากด้านข้างซึ่งมีทีมงานจัดเก้าอี้และตั้งขาไมค์ไว้เรียบร้อยแล้ว เขารับกีต้าร์คู่ใจมาสะพายก่อนจะจัดแจงท่านั่งให้เรียบร้อย หลังตรวจสอบเสียงเสร็จ นิ้วเรียวยาวของเขาก็ดีดสายกีต้าร์อย่างตั้งใจ
พริบตานั้นสีหน้าของเตโชเปลี่ยนเป็นคนละคน
เวลาไม่เคยหยุด แต่วันนั้นเหมือนโลกทั้งใบได้หยุดลงน้ำเสียงยามขับขานบทเพลงเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก ราวกับชายผู้สูญเสียความรักไปตรงหน้า ราวกับเวลานั้นได้หยุดลงจริงๆ
เวลาไม่อาจย้อนคืน แต่ทำไมจนวันนี้ยังวนเวียนไม่จางหายทุกการสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ล้วนถูกสลัดทิ้ง มีเพียงภาพเบื้องหน้าเท่านั้น...ที่สะกดสายตาทุกคนให้จมจ่อไปกับบทเพลง
นับตั้งแต่เสียเธอไป ตัวฉันก็เหมือนนาฬิกาตายหัวใจราวถูกบีบจนเจ็บแปลบ
เวลาของฉันไม่มีความหมายผมคล้ายได้ยินเสียงสะอื้นจากคนในห้องส่ง
เมื่อไม่มีเธอเมื่อเพลงหยุดลง วินาทีนั้น ทุกคนคล้ายเพิ่งตระหนักรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ราวกับถูกช่วงชิงเวลาไปโดยสิ้นเชิง ไม่สิ...ราวกับถูกดึงดูดไปในห้วงเวลาของเตโช จนพากันนิ่งงันด้วยอารมณ์ที่ยังค้างคาแม้ดนตรีจะจบลงแล้วก็ตาม
แม้จะได้ยินเพลงนี้นับร้อยครั้งตอนถ่ายทำมิวสิกวีดีโอ แม้จะเคยเห็นความแตกต่างและนึกชื่นชมกับเตโชยามร้องเพลง แต่เมื่อได้ฟังสดๆ ตรงหน้า ขนาดตัวผมเองยังไม่อาจห้ามใจไม่ให้เผลอไผลปล่อยความรู้สึกไปกับการแสดงครั้งนี้ น้ำเสียงของเขา สายตาของเขา สีหน้าของเขา อารมณ์เพลงที่ประทับในจิตใจของผู้ฟังจนรู้สึกเจ็บร้าวและจมดิ่ง เสียงปรบมือดังขึ้นอย่างแผ่วเบา ก่อนจะกลายเป็นดังขึ้นเรื่อยๆ จากกลุ่มแฟนคลับและตัวพิธีกรเอง
ทว่าเตโชกลับมีสีหน้านิ่งเรียบไม่สนโลกอีกครั้ง คล้ายไม่ยินดียินร้ายกับผลตอบรับใดๆ ราวกับจิตวิญญาณทั้งชีวิตของเขาทุ่มเทเพื่อการร้องเพลงเท่านั้น จนไม่อาจปันความสนใจหรือให้สำคัญกับเรื่องอื่นอีก หรือเพราะแบบนี้...ตอนเขาร้องเพลงถึงได้มีดึงดูดเหลือเกิน ความทุ่มเทนั้นส่งผ่านน้ำเสียงและจับหัวใจคนฟังอย่างร้ายกาจ
เสน่ห์ทุกอย่างในตัวเขาพร้อมทำให้ทุกคนตกหลุมรัก เหมือนที่เขาตกหลุมรักในเสียงเพลง
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าผมก็ถูกน้ำเสียงนั้นสั่นคลอนจิตใจเช่นเดียวกัน
ให้ตายสิ ใจเต้นไม่หยุดเลย
---------
มาแปะโป้งก่อนสำหรับครึ่งแรกค่ะ สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ มีงานประดังประเดเข้ามาจนต้องเว้นช่วงอัพในสภาพหัวฟู แต่แต่งตอนนี้แล้วดีต่อใจนะคะ เตโชตอนร้องเพลงเนี่ยมีเสน่ห์จริงๆ #เราจะไม่พูดถึงเตโชผู้หิวโหย
นับว่าความพยายามของจิระไม่สูญเปล่า ในที่สุดน้องสามารถปกป้องโลกจากแชมปิญองและเข็มทองได้! ( แชมปิญองคือเห็ด เข็มทองมาจากเห็ดเข็มทอง จะหาว่าเตโชตั้งชื่อไม่คล้องกันไม่ได้นะคะ อย่างน้อยก็สายพันธุ์เดียวกัน )
#จิระผู้เกรี้ยวกราด
ปล.เห็นคนสนใจคู่เบิ้มxสัน คู่นี้มีเป็นตอนพิเศษในเล่มของเสี่ยกับจิตรินนะคะ คู่นี้เขาคบลับๆ เลยไม่มีในเรื่องหลักค่ะ