ณ สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง
อากาศร้อนอบอ้าวเป็นบ้า
ณ จุด ๆนั้นคุณจะได้เห็นสาวน้อยอ้อยควั่น(อ้อย = เก้ง และเก้ง = แต๋ว) เสื้อตัว กางเกงตัว(พร้อมกางเกงในสีขาวบริสุทธิ์) เดินสะพายถุงผ้าลดโลกร้อน.....
กำลังหาเหยื่ออย่างเอาเป็นเอาตาย
อ่ะนะ.....อย่าคิดลึก พี่ชายอย่าคิดลึก อ่านไปเรื่อย ๆ
พลันสายตาดุจเหยี่ยวของอ้อยควั่นก็พบกับหนุ่มตรงสเป็ค นั่งถอดถอนหายใจอยู่เพียงลำพัง
ได้การล่ะ
“คุณเคอะ สวัสดี ชั้นชื่อเชอร์เบ็ต ชาคีร่า มาเรียที่ 3.....บลา ๆ ขอชั้นนั่งด้วยคนได้มั้ยเคอะ” ชั้นยิ้มหวานโชว์ฟันขาวโดนใจ พร้อมลมหายใจหอมสดชื่น
“.....” ชายหนุ่มไม่ตอบแต่กลับเสมองไปทางอื่น จนอ้อยควั่นต้องหยิบกระจกแปดทิศมาส่องสำรวจความเรียบร้อย
อร๊ายยยยย ผมเผ้า.............พันกันเละ หน้ามันแผล่บ จมูกงี้บานเผยิบ รู้งี้แม่นั่งแท็กซี่ เริ่ด ๆ เชิ่ด ๆซะก็ดี.....สารรูปตอนนี้ยังกะโดนพี่วินลงแขก
แต่พอดีว่าเป็นอ้อยจน ๆ ไม่มีปัญญาแม้แต่ค่าฮอร์โมนมาอัดฉีด จึงทำได้แค่ นั่งดมขี้เต่าคนบนรถเมล์กระป๋อง...........สาย 12
อ่า..................นอกเรื่องไปไหนน่ะ
“คุณ ชื่ออะไรเหรอคะ” ชั้นถามพ่อเทพบุตร โดยเตรียมปากกาและสมุดบันทึกคู่ใจพร้อมลุย
“เอาชื่อเล่นก็ได้ค่ะคุณ” ชั้นยังคงเซ้าซี้เมื่ออีกฝ่ายนั่งเงียบ
“เปา” ในที่สุดชายหนุ่มก็ยอมเปิดปาก
“เปามีแฟนรึยังคะ” ชั้นยังคงรุกต่อ
“คุณจะถามไปทำไม” อีกฝ่ายตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“อ๋อ.............คือ.............ชั้น...........อ่า ถามไปทำไมน่ะเหรอ ฮะฮะ.....ก็แบบหาข้อมูลไปแต่งนิยายอ่ะค่ะ” ชั้นตอบไปตามตรง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่รู้ทำไมว่าต้องตอบเขาไปแบบอ้ำอึ้ง อาจเป็นเพราะอีกฝ่ายมีท่าทีรำคาญชั้นก็เป็นได้
แต่คนมันด้าน ไหน ๆลงพื้นที่แล้วก็ขอซักราย
“ผมชอบผู้ชาย...........แต่ไม่ได้ชอบแบบคุณหรอกนะ” เปายิ้มเป็นครั้งแรก.....แต่เป็นการยิ้มเยาะซะมากกว่า คำพูดที่หลุดจากปากเหมือนเค้าจับได้ว่า.....อินี่มาทำแหลเรื่องนิยาย ที่แท้มึงจะหลอกเต๊าะกรูล่ะเซ่
“เอ่อ.....ชั้นหาข้อมูลไปแต่งนิยายจริง ๆค่ะ ไม่ได้จะจีบคุณเลยนะคะ อืมมมม” ชั้นยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ ถึงแม้อีกฝ่ายจะหล่อล่ำ แต่ชั้นก็ตั้งใจจะมาหาข้อมูลจริง ๆ.......
แต่อย่างน้อยเค้าก็หลุดออกมาแล้วว่าเค้าเป็นเกย์
“คือถ้ารบกวนคุณล่ะก็ชั้น......”
“คุณน่ะยังไม่มีประสบการณ์เรื่องความรักล่ะสิ ใช่มั้ย”
แต่แล้ว วินาทีที่ชั้นตัดสินใจจะเดินจากมา เค้าก็รั้งชั้นเอาไว้ด้วยประโยคอันแสนเจ็บปวด
"คุณได้แต่กรี๊ดผู้ชายบนปกแม๊กกาซีน แต่ไม่เคยตกหลุมรักใครจริง ๆจัง ๆ ขณะเดียวกันก็ไม่มีใครมาปิ๊งคุณ ซึ่งแม้แต่เด้กแว๊นซ์แถวบ้านมันก็ยังไม่เคยผิวปากแซว.....ผมพูดถูกมั้ย" หึหึหึ เปาร่ายยาว มันเหมือนมีมีดมาทิ่มแทงทั่วร่าง แต่เว้นหัวใจเอาไว้(จำเค้ามาพูดน่ะ)
ชั้นล่ะอิจฉ๊า....อิจฉา
อิจฉาคนที่เคยมี กำลังมี หรือกำลังจะมีคู่จริง ๆให้ตายสิ อยากมีคนเคียงข้าง อยากมีคนให้กอดเวลาหนาว อยากถูกรัก อยากทะเลาะ อยากนอกใจ อยากส่งเมสเซจ อยากเติมเงินทีละสามร้อยบาท (ทุกทีเติม 20 เพราะไม่มีใครให้โทรหานอกจากแม่)
อยากแอบรัก
อยากโดนจีบ
อยากทำทุกอย่างที่คนมีแฟนเค้าทำกันน่ะ
อย่างน้อยก็จะได้มีเรื่องชีวิตรักแบบมันส์ ๆ มาเล่าสุ่กันฟังในเว็บบอร์ด.......................เหมือนมนุษย์คนอื่น ๆบ้าง
“ก็ชั้นไม่น่ารักนี่ นิสัยก็ไม่ดี น่าเบื่อ คนอย่างชั้นถ้ามีคนเอาก็แปลกยิ่งกว่าพระจันทร์ยิ้มซะอีก” ชั้นตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ชวนหดหู่
“งั้นคุณกับผมเรามาคบกันมั้ยล่ะ” พ่อเทพบุตรถามขึ้น เล่นเอาอ้อยสะอึกเฮือก ไม่นึกว่าหมอนี่จะเปลี่ยนโหมดเร็วแบบนี้
“......มะ......เมื่อกี๊คุณยังบอกว่าไม่ชอบชั้นอยู่เลย” ชั้นแย้ง
“ก็ตอนแรกนึกว่าคุณเป็นพวกตุ๊ดขี้หลีธรรมดาน่ะสิ แต่ดู ๆไปแล้วคุณน่ะมันพวกติงต๊องชัด ๆ คนติงต๊องแบบคุณ ผมว่าก็น่าสนใจดี” เค้าอมยิ้ม จ้องตาชั้นไม่กระพริบ
“ผมว่าในสมองคนอย่างคุณน่ะ คงมีความคิดบ้า ๆร้อยแปดเลยล่ะสิ.......จริงมั้ย”
“บางทีชั้นก็ชอบคิดเรื่องเพ้อเจ้อน่ะ แบบว่าคิดเองเออเอง สร้างเรื่องขึ้นในหัว อะไรทำนองเนี๊ยะ”
“อืมมมมม คุณเองก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรนักหรอก แค่ดูไม่น่าสนใจแค่นั้นเอง จับตัดผมเผ้าซักหน่อยก็คงจะ....”
ฉึบ !!!!!
และแล้วชายหนุ่มสุดหล่อกลับแปลงกายเป็นครูปกครองสมัยมัธยมของชั้นเอง มือนั้นถือแบทเตอเรี่ยน ซึ่งได้ไถผมของชั้นจนแหว่งเว้าไปซีกหนึ่งเรียบร้อย
“หุหุหุ แกติดกับชั้นจนได้ คิดว่าชีวิตแกจะมีโอกาสดีดีแบบนั้นรึไง อิตุ๊ดขี้เหร่เอ๊ย” ไอ้ครูบ้าเลือดหัวเราะร่า ลิ้นสีดำและยาวเหมือนลิ้นงู แล่บออกมาจากริมฝีปาก
ที่เต็มไปด้วยเขี้ยวอันแหลมคม
ม่ายนะ อิบ้า กว่าผมชั้นจะยาวได้ขนาดนี้.......แก........อ๊ากกกกกกก
ชั้นก้มลงขยุ้มเศษผมบนพื้น ร้องไห้เหมือนคนบ้า
พลันชั้นก็สะดุ้งตื่นขึ้น........เพื่อจะพบว่าตัวเองนอนหลับอยู่บนม้านั่ง
เพียงลำพัง
ชั้นค่อย ๆ ถอนใจก่อนจะก้มลงเก็บสมุดบันทึกที่ตกอยู่บนพื้น
แล้วก็หัวเราะดัง ๆ ให้กับความเพ้อเจ้อของตัวเอง
สายตาสั่ว ๆ เหลือบไปเห็นชายหนุ่มที่อยู่ในความฝัน คนที่ชั้นนั่งจ้องมองเค้าจนหลับไป
ตอนนั้นเค้ากำลังยืนรอใครซักคน ท่าทางดูกระวนกระวาย ผิดจากตอนนี้ที่มีหญิงสาวหน้าตาสะสวยยืนหัวเราะอยู่เคียงข้าง
คนเรานี่ก็แปลก ตัวเองเป็นแบบไหน ก็มองคนอื่นว่าเป็นแบบตัวเองกันทั้งนั้น
ชั้นลุกขึ้นอย่างมาดมั่น ขยี้ตาสองสามที..................เอาล่ะ ในเมื่อชาตินี้มันจะมีแฟนไม่ได้แน่ ๆแล้วล่ะก็นะ
ก็ช่างแมร่งมันสิฟะ
“ฮัลโหลแม่เหรอ.............อืมมมม หนูรักแม่นะคะ เอาไว้ถ้าไม่มีเรียนแล้วหนูจะกลับไปเยี่ยมละกัน.......ค่า ได้ค่า.....ฮ่า ๆ แม่อ่ะ”
ถ้าวินาทีนั้นคุณบังเอิญเห็นอ้อยคนหนึ่งกำลังเดินคุยโทรศัพท์ออเซาะปลายสายเสียงหวาน ก็อย่าเพิ่งหมั่นไส้เธอเข้าล่ะ
เธอแค่คุยกับแม่....เท่านั้นเอง
จบเว้ย
*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
ทิพย์โมบอร์ดนิยาย