#Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| Special ==When I was young [18/7/57] P.26
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ชอบใครที่สุดใน A BOY

น้องต้า
79 (41.6%)
วิคเตอร์
21 (11.1%)
พี่จิม
64 (33.7%)
หมอเซม
22 (11.6%)
แซมแฝดน้องพี่หมอ
4 (2.1%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 163

ผู้เขียน หัวข้อ: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| Special ==When I was young [18/7/57] P.26  (อ่าน 226460 ครั้ง)

koronekojung

  • บุคคลทั่วไป
Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 23 หลุด [16/6/56] P.9
«ตอบ #270 เมื่อ24-06-2013 21:01:52 »

ต่อด่วยเลยค๊าาาา~
ฉากแบบนี้อย่าให้นานๆๆ
อิชั้นจะคลุ้มคลั่งแล้วค๊าาา//โดนเตะ

รักคนเขียนมากมาย จุ๊บๆ10ที :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 23 หลุด [16/6/56] P.9
«ตอบ #271 เมื่อ24-06-2013 22:08:40 »

เดินถือที่นอนพร้อมตะกร้าเข้ามาในกระทู้ // หันมองซ้ายขวาก่อนจะปูที่นอน
นั่งลงแล้วเปิดตะกร้าหาของกินที่เตรียมไว้ พอกินเสร็จก็หันมองซ้ายขวาอีกรอบ ก่อนจะเดินรอบๆ กระทู้เพื่อย่อย
สุดท้ายก็นั่งปุลงที่ที่นอนและล้มตัวลงนอนรอ

"คนเขียนรู้ไหม เค้ารอคนเขียนในกระทู้ทุกวันเลย"

อิอิ เอาฮาอย่าซีเรียส
มารอคนเขียนค่าาาาาา

ออฟไลน์ IRIS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 23 หลุด [16/6/56] P.9
«ตอบ #272 เมื่อ25-06-2013 04:02:00 »

เรื่องนี้ไม่มีคนปกติเลยใช่มั้ยพ่อแม่ก็แปลกยอมไปได้ไง ถึงจะบอกว่ารู้จักหมอเซม แต่ก็ไม่ได้สนิทกันขนาดจะฝากลูกไปอยู่คอนโดเค้าได้แบบนี้ มันผิดปกติวิสัยของคนเป็นพ่อแม่มากเกินไป

ส่วนเมะเรื่องนี้มีแต่เดรัจฉานทั้งนั้น สารเลวเกินคนจริงๆ ยิ่งเอี้ยแซมยิ่งแล้วใหญ่รู้ว่าน้องเป็นแบบนี้ยังมีหน้าไปล่อลวงมาทำระยำได้อีก

ไม่เชียร์ใครสักคนได้มั้ย สันดานเกินรับไหวทุกตัวเลย :เฮ้อ: อ่านแล้วอินมากจริงๆ ร้องให้ตามเลยอ่ะ :sad11:

ออฟไลน์ Lovecartoon1996

  • ชอบกินมาม่า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
    • -
Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 23 หลุด [16/6/56] P.9
«ตอบ #273 เมื่อ25-06-2013 23:09:52 »

กรี้ดดดดดกร้าดดดด :haun4:
คนเขียนสู้ๆจ้ะ

koronekojung

  • บุคคลทั่วไป
Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 23 หลุด [16/6/56] P.9
«ตอบ #274 เมื่อ29-06-2013 19:42:07 »

ผู้แต่งไปไหนเอ่ยยย !!!!!!!
รอชั้น รอ เธออยู่ แต่ไม่รู้เธออยู่ หลใด ~


จะตายแล้วค๊าาา มาต่อด่วนนนนน :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ NNEW33

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 23 หลุด [16/6/56] P.9
«ตอบ #275 เมื่อ07-07-2013 19:14:39 »

หมายเหตุ :: เนื้อหาไม่เหมือนเดิมกับ 60% แรกนะคะ พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย แนะนำว่าให้อ่านพาร์ทนี้ใหม่ตั้งแต่ต้น

ตอนที่ 23 หลุด

“พี่ช่วยนะครับ” เขาพูดเสียงพร่าพร้อมยิ้มน้อยๆ ผมขมวดคิ้ว ขยับมือออกจากการจับกุมนั้นแล้วก้มหน้าหลบ นัยน์ตาคู่นั้นมีประกายไหววูบแปลกๆ  แต่ผมกลับต้องหน้าร้อนกว่าเดิมเมื่อสายตามันหยุดอยู่ที่ลอนคลื่นของกล้ามเนื้อหน้าท้องที่สะท้อนขึ้นลงตามระดับการหายใจเข้าออก กายท่อนล่างถูกพันด้วยผ้าขนหนูสีขาวที่ขมวดเป็นปมอย่างลวกๆ

“ช่วยอะไร” ผมขยับขาที่นั่งชันเข่าเข้ามาชิดกันกว่าเดิม รู้สึกอายหากเขามองเห็นมัน

“หึๆ” เสียงทุ้มหัวเราะแผ่วเบาก่อนผมจะเบิกตาโพลงเมื่อรู้สึกว่าร่างลอยขึ้นสูง!

พี่แซมช้อนตัวผมขึ้นในวงแขนก่อนจะวางลงบนโต๊ะเขียนหนังสือตัวใหญ่ ทันทีที่ตั้งหลักได้ ผมผวาจะหนี ทว่าแขนแกร่งสองข้างกลับท้าวลงบนโต๊ะกักผมไว้ในอนาเขตของตัวเอง ผมยกมือขึ้นดันหน้าเขาเมื่อใบหน้าคมคายโน้มต่ำเข้ามาใกล้ เขาหัวเราะในลำคอ หยุดชะงักจ้องผมในระยะประชิด

ผมกวาดตามองหาทางหนีทีไล่ เมื่อเริ่มรู้สึกถึงอันตราย เหลือบตาไปยังเตียงก็เห็นพี่ริวนอนหันหลังไม่ไหวติง มีผ้าห่มผืนหนาคลุมตั้งแต่ช่วงเอวลงไป เผยให้เห็นแผ่นหลังนวลเนียนที่มีรอยจ้ำสีแดงประปราย

ใครจะคิดว่าเวลาเพียงเสี้ยวนาทีที่ผมหันไปสนใจอย่างอื่น จะทำให้ผมตกเป็นรอง เมื่อมือหนาจับขาผมสองข้างยกขึ้นวางบนโต๊ะแล้วแยกออก  ผมตาเบิกโพลง พยายามจะหุบขาเข้าหากันแต่ไม่เป็นผลเมื่อเขาดึงรั้งไว้ด้วยแรงที่มากกว่า

“อย่าดื้อน่า พี่จะช่วยเราไงครับ”

เสียงแหบพร่าพูดขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่หมายจะโน้มลงมากลางหว่างขา! มันทำให้ผมเสียววูบ แท่งเนื้อที่อยู่หว่างกลางยิ่งปวดหนึบเข้าไปใหญ่!

“ไม่เอา ไม่ให้ช่วย” ผมรีบพูด ยกก้นกระเถิบถอย มือที่ดันหน้าเขาไว้ยิ่งออกแรงมากกว่าเดิม  นัยน์ตาคมละขึ้นมองสบตาผม ก่อนจะยอมปล่อยมือออกข้างหนึ่ง

การที่เขายอมผละจากง่ายๆ สร้างความแปลกใจให้ผมไม่น้อย แต่ความแปลกใจเกิดขึ้นได้ไม่นานเมื่อมือหนาอีกข้างที่วางบนต้นขาทำท่าจะเลื้อยขึ้นสูง ทำให้ผมรีบหุบขาเข้าหากันก่อนจะหนีบมือข้างนั้นไม่ให้ขยับได้!

เขาเจ้าเล่ห์  ไว้ใจไม่ได้!

“ทรมานไม่ใช่เหรอ? พี่จะช่วยไงครับ ไม่เจ็บหรอก”

“ไม่เอา ถ้าทำอะไรเรา เราจะฟ้องพี่ริว!”

เปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเสียใหม่เพื่อเว้นระยะห่าง ไม่เรียกแทนตัวเองด้วยชื่อเหมือนเคยพร้อมกับยกพี่ริวเข้าขู่เผื่อเขาจะกลัว

..และดูเหมือนจะได้ผล

ผมนึกยิ้มในใจที่เห็นเขานิ่งไป แถมเขายังค่อยๆถอยห่างไปทีละนิด ท่าทางอย่างนั้นนั้นทำให้ผมตายใจละสองมือออกจากใบหน้าคม ก่อนจะใช้มันยันโต๊ะดันตัวกระเถิบหนี  ทว่าชั่วขณะที่ผมไม่ทันตั้งตัว ใบหน้าคมกลับโฉบเข้าใกล้ ลมหายใจร้อนรินรดแผ่นอกก่อนปลายลิ้นจะดูดดึงตุ่มไตผ่านเสื้อตัวบาง พลางใช้ฟันขบกัดจนผมสะท้าน สั่นไปทั้งตัว!

“อ๊ะ.. อึ่ก” ผมรีบกัดปากอย่างแรงเมื่อได้ยินเสียงร้องของตัวเอง เล็บจิกลงบนโต๊ะก่อนจะเปลี่ยนเป็นยกสองมือขึ้นกำกลุ่มผมหนาแล้วดึงออก แต่เขากลับขืนแรงไว้ ฟันคมยิ่งขบกัดหน้าอกผมแรงกว่าเดิม!!

ผมขยับขาจะเตะหน้าท้องแกร่ง ทว่าเขากลับรู้ทัน! เมื่อสองขาคลายแรงที่หนีบมือหนา เขาที่คอยท่าอยู่แล้ว ใช้จังหวะนั้นเคลื่อนมือขึ้นสูงแล้วบีบขย้ำตรงส่วนอ่อนไหว

“อ๊า!!” ลำตัวกระตุกอย่างแรงเมื่อความรู้สึกไม่คุ้นเคยปะทุขึ้นมา มือที่ดึงผมเขาเริ่มอ่อนแรงเหลือไว้เพียงการกำระบายอารมณ์ มือหนาข้างที่ว่างสอดเข้าใต้เสื้อก่อนจะขยี้ตุ่มไตอีกข้างพร้อมกับปากที่ทำหน้าที่ของมันไม่ได้หยุด ทั้งดูดดึง ขบกัด!

ตัวผมสั่นระริกแอ่นหน้าอกตอบรับทั้งมือและปากเขาโดยไม่รู้ตัว ยิ่งนาทีที่เขาเลิกเสื้อขึ้นสูงกองเหนืออกเหมือนอย่างที่ผมเคยเห็นเขาทำกับพี่ริวยิ่งทำให้ผมสะท้าน! ขนอ่อนลุกชันไปทั้งตัว ร่างทั้งร่างสั่นไหวเมื่อริมฝีปากเย็นชืดกดแนบลงมาบนผิวเนื้อตรงๆ พร้อมกับมือสองข้างของเขาที่ลดต่ำเร่งปลดกางเกงผม ดึงมันออกทางปลายเท้าพร้อมกางเกงชั้นใน

ท่อนล่างเย็นวาบเมื่อไม่มีสิ่งขวางกั้น นัยน์ตาสีดำโลมเลียจ้องส่วนชูชัน ผมหน้าร้อนจนแทบไหม้ ภาพตรงหน้าเริ่มพร่ามัวด้วยน้ำใสรื้นขอบตาด้วยความหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน!

“อ๊ะ.. ออก ฮึก.. ออกไป!!”

ผมผวา ทั้งผลักทั้งดิ้นเมื่อเขาดันผมจนหลังแนบลงกับพื้นโต๊ะแข็งกระด้างโดยที่ร่างสูงแทรกตัวเข้ามาตรงกลางหว่างขาของผมที่แยกกว้าง!

เผลอกลั้นหายใจโดยอัตโนมัติเมื่อหน้าท้องแกร่งเสียดสีกับส่วนอ่อนไหว มือกำกลุ่มผมหนาแน่นก่อนทั้งตัวจะกระตุกเกร็งเมื่อเขารัวปลายลิ้นเลียยอดอกสลับขบกัดจนเสียวกระสันต์ปานจะขาดใจ!

“ไม่.. ไม่เอา อื๊อ! ย..หยุด!” ผมหอบหายใจถี่ ละล่ำละลักพูดไม่เป็นคำ มือจิกเรือนผมยาวพยายามกระชากออก ฉับพลันดวงตาโบกโพลงด้วยความตระหนกเมื่อมือหยาบบีบเคล้นแก้มก้นก่อนจะลากสูงไล้นิ้วเขี่ยสะกิดตรงปากทางเข้า ผมยิ่งดิ้นหนักขึ้นต่อต้านเขาอย่างถึงที่สุด

“ฮึก!” น้ำตาไหลเป็นสายเมื่อเขากัดยอดอกจนเจ็บแปลบ!

“อย่าดื้อ..” เขาผละหน้าออกจากแผ่นอก นัยน์ตาลุ่มลึกสีดำสนิทมองสบตาผมอย่างราบเรียบ ก่อนลิ้นสีสดจะเลียวนขอบปากตัวเองแล้วแสยะยิ้มมุมปาก ปลายนิ้วเรียวค่อยๆขยับเขี่ยรอยจีบก่อนจะชำแรกเข้าไปผายใน!

ร่างทั้งร่างกระตุกเกร็งต่อต้านสิ่งแปลกปลอม มือผละจากกลุ่มผมสีดำเลื่อนจับแขนแกร่งแล้วจิกไว้แน่น!

“ไม่เอา.. กลัวแล้ว ฮึก.. อย่าทำ.. อ๊ะ!”

ปากอ้าค้าง สิ่งที่กำลังจะพ่นพูดถูกกลืนลงคอเมื่อนิ้วข้างนั้นดันเข้าไปจนสุด!

“ดี.. ทำหน้าแบบนั้น ดี... อา.. คิดไม่ผิดจริงๆ” น้ำเสียงแหบพร่ากระซิบข้างหูก่อนจะแลบลิ้นเลียติ่งหูแล้วขบเม้ม  นิ้วที่ค้างอยู่ภายในหมุนควานเป็นวงกลมก่อนจะกระชากออกแล้วจ่อสิ่งที่ใหญ่กว่าตรงปากทางเข้า! ผมเบิกตาโพลงกระเถิบตัวหนีสุดความสามารถ แต่กลับทำไม่ได้เมื่อมีมือหนาจับเอวผมรั้งไว้!

“ไม่เอา!!! ปล่อย!!!! ฮึก! พี่ริว... พี่ริว!!” ผมเกร็งไปทั้งตัว หวีดร้องสุดเสียงเมื่อสิ่งนั้นพยายามดันเข้ามาในตัว ทั้งมือและเท้าทุบตีเตะต่อยเขาไม่หยุด ทำทุกวิถีทางให้ตัวเองรอด!

เพล้ง!!!

ราวกับเวลารอบตัวหยุดชะงักหลังจากเสียงปริศนาดังขึ้น พี่แซมผละออกจากผมก่อนจะนิ่งค้างอยู่กับที่ นัยน์ตาฉายประกายกร้าว พลันหยดเลือดสีสดจะค่อยๆไหลจากศีรษะลงอาบใบหน้า มือหนายกขึ้นปาดของเหลวแดงฉานแล้วมองมันนิ่ง

ผมอาศัยจังหวะนั้นรีบลุกขึ้นจากโต๊ะ หยิบกางเกงมาสวมลวกๆ วิ่งหลบไปยืนมองห่างๆทั้งกอดตัวเองไว้แน่น

จากตรงนี้ผมมองเห็นพี่ริวยืนอยู่ด้านหลังพี่แซม ในมือถือแจกันกระเบื้องที่แตกเป็นเสี่ยง ตรงรอยแตกมีคราบเลือดเปรอะเปื้อน นัยน์ตาว่างเปล่าคู่นั้นมองมาที่ผมด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งเจ็บปวดระคนโล่งอก ทั้งตัวที่มีเพียงผ้าขนหนูพันกายท่อนล่างผูกเป็นปมไม่ให้มันหลุดร่วงลงพื้น ก่อนเขาจะหันกลับไปมองพี่แซมอีกครั้ง พลางกระชับแจกันในมือแน่นยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะย่างสามขุมเข้าไปใกล้แล้วฟาดมันลงบนโหนกแก้มอีกคนอย่างแรง!

ทว่าเคราะห์ยังดีที่พี่แซมไหวตัวหลบทัน จึงไม่โดนฟาดไปเต็มๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็โดนปลายแหลมตรงรอยแตกเฉี่ยวหน้าจนเลือดซิบ

ร่างสูงยกมือเช็ดคราบเลือดช้าๆ สีหน้าเรียบเฉยราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรยามที่มองคราบเลือดบนปลายนิ้ว ใช่.. หน้าเขานิ่ง แต่นัยน์ตากลับดุดันราวฆาตกร!

บรรยากาศมาคุจนผมแทบหายใจไม่ออก หนาวเยือกไปทั้งสันหลังเมื่อเห็นท่าทางกระเหี้ยนกระหือรือของคนทั้งสองที่ต่างก็ไม่มีใครยอมใคร แขนสองข้างยิ่งกอดตัวเองแน่นขึ้นพลางเม้มปากเข้าหากัน ผมไม่รู้ว่าควรทำตัวอย่างไรกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้

“มึงทำมันทำไม!!!”

ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อความเงียบถูกทำลายลงด้วยเสียงตวาดลั่นของพี่ริว มือที่กำแจกันไว้เกร็งแน่นจนเส้นเลือดปูดนูน แววตาแค้นเคืองอย่างถึงที่สุด เขาหายใจเข้าออกแรงๆราวระงับอารมณ์ที่กำลังเดือดพล่าน

“มึงรับปากกูแล้ว! แต่มึงก็ยังทำ!!.. มึงทำมันทำไม!!!”

เพล้ง!!

สิ้นเสียงพี่ริวก็ปาแจกันกระเบื้องใส่พี่แซมทันที ทว่ามันกลับลอยลิ่วปะทะกำแพงด้านหลัง  คนขว้างขบเคี้ยวเขี้ยวฟันอย่างเจ็บใจก่อนตัดสินใจกระโจนเข้าใส่ ถีบหน้าท้องเป็นลอนจนพี่แซมเสียหลักล้มหงายหลัง!

พี่ริวหายใจหอบ ตามไปคล่อมทับแล้วรัวหมัดต่อยใบหน้าคมคายไม่ยั้ง! พี่แซมขบฟันแน่นจนขึ้นเป็นสันนูน  ยกมือป้องหัวไว้ไม่ให้กระทบกระเทือนบาดแผล

พี่ริวดูน่ากลัวเหมือนคนกำลังคลั่ง เขาหายใจแรงกว่าเดิม ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมาย สองมือพุ่งตรงไปกระชากเรือนผมสีเข้มแล้วกำไว้ก่อนจะยกหัวอีกคนลอยเหนือพื้นแล้วเขวี้ยงกระแทกพื้นดังปั้ก!

“ไอ้สัส!!” พี่แซมสบถหยาบ ใบหน้าถมึงทึง นัยน์ตาลุกโชนด้วยเปลวไฟ มือหนาจับข้อมือขาวบิดแรงอย่างไร้ความปราณี ก่อนมืออีกข้างจะยกสูงพุ่งบีบลำคอคนที่คล่อมตนอยู่แล้วพลิกร่างบางกดลงพื้น ตามไปคล่อมทับทันที โดยทิ้งน้ำหนักลงบนมือข้างที่กุมลำคอขาวอยู่เต็มกำลัง

พี่ริวไอโขลก ดิ้นทุรนทุราย ทั้งปากและจมูกสูดลมหายใจฟืดฟาดเสียงดัง พยายามตักตวงออกซิเจนเข้าปอดให้มากที่สุด มือสองข้างทั้งจิกและข่วนมือหนาไม่หยุด หวังจะให้ตัวเองรอดจากเงื้อมมือมัจจุราช แต่คนด้านบนกลับยังมีสีหน้าราบเรียบ มองดูเหยื่อในกำมือแล้วเหยียดยิ้มสมใจ

ผมที่มองภาพนั้นรู้สึกแน่นไปทั้งอก ตัวสั่นงั่นงกอย่างห้ามไม่อยู่ ความกลัวเข้าเกาะกุมจนแทบจะก้าวขาไม่ออก! ผมไม่ได้ถูกกระทำ แต่.. ผมกลับรู้สึกเหมือนผมกำลังถูกบีบคอไม่ต่างจากที่พี่ริวโดน! อึดอัด.. ทรมาน!!

น้ำร้อนไหลจากดวงตาลงอาบแก้มอย่างห้ามไม่อยู่ พยายามบังคับขาสั่นๆให้เดินตรงไปข้างหน้า โดยที่สายตาก็กวาดมองหาสิ่งที่พอจะเป็นอาวุธได้  ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออก สมองสั่งการแค่ให้ช่วยพี่ริว... ผมต้องช่วย!

พลันสายตาหันไปเห็นไม้เบสบอลที่วางพิงกำแพงตั้งฉากกับพื้นอยู่  ผมไม่รอช้ารีบเข้าไปคว้ามันไว้ทันที มือสั่นๆสองข้างกอบกุมด้ามไม้กระชับแน่นแล้วพุ่งเข้าหาคนผมยาวแล้วฟาดลงบนแผ่นหลังกว้างเต็มแรง!

วินาทีนั้นราวกับความกลัวปลิวหายไป สิ่งที่ต้องทำคือช่วยพี่ริว ผมรู้แค่นั้น..

ผมสะอื้นจนตัวโยนเมื่อได้ยินเสียงร้องโอดครวญของเขา ยิ่งเขาร้องผมก็ยิ่งหลับหูหลับตาตีไม่ยั้ง! ลำตัวหนากระตุกเฮือกด้วยความเจ็บทุกครั้งที่ไม้หนาหนักฟาดลงไป  มือหนาคลายออกจากลำคอขาว ก่อนใบหน้าคมคายจะหันมาจ้องผมเขม็ง ผมสะดุ้งสุดตัวแล้วเหวี่ยงไม้ฟาดอัดใส่ไหล่หนาทันทีด้วยความกลัว! ..กลัวว่าเขาจะมาเอาคืน! กลัว..

“อึ่ก.. โอ๊ยย!” ร่างหนาทรุดฮวบ ล้มทับตัวพี่ริวเต็มๆ เขานอนนิ่งไม่ไหวติง ในขณะที่พี่ริวรีบกอบโกยลมหายใจเข้าปอดอย่างตะกรุมตะกราม

ทุกอย่างรอบตัวกลับสู่สภาวะปกติอีกครั้ง ผมหอบหายใจตัวโยน ปล่อยไม้เบสบอลลงพื้น แล้วทรุดกายลงนั่งอย่างหมดแรง ทั้งตัวสั่นไหวมองภาพร่างหนาที่หายใจแผ่ว เรือนผมดำยาวทิ้งตัวลงปรกหน้า

เวลาผ่านไปสักครู่ใหญ่ๆ พี่ริวเหมือนจะเริ่มปรับตัวได้ เขาผลักร่างหนาออกไปให้พ้นตัวก่อนจะตะกายลุกขึ้น เขยิบมาหาผม

“...ไม่เป็นไร”

เขาปลอบผมเสียงพร่า ลำคอขาวแดงเถือกเต็มไปด้วยรอยนิ้วมือ สภาพพี่ริวย่ำแย่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยิ้มให้ผม

น้ำตาผมไหลลงมาอีกครั้ง สายตาที่มองคอพี่ริวเริ่มพร่ามัว แต่ก็ยังมองเห็นลางๆ อยากจะถามว่าเจ็บมากมั้ย แต่ลำคอมันตีบตันจนหาเส้นเสียงไม่เจอ ผมยกมือลูบไปตามรอยช้ำแผ่วเบา ทว่าทันทีที่นิ้วแตะลงไป พี่ริวก็สะดุ้งเฮือก นัยน์ตาฉายแววตระหนกพลันผงะถอยห่างจากมือผม ผมเองก็ตกใจรีบหดมือกลับแล้วบีบกันแน่น

“พี่ไม่เป็นอะไร ไม่ต้องห่วง” เขายิ้มให้ผมอีกครั้ง แล้วหันกลับไปมองร่างที่ยังนอนนิ่งไม่ไหวติง เลือดสีแดงสดไหลจากศีรษะย้อยลงมาจนถึงหน้าผากและข้างแก้ม

ผมกลืนน้ำลายหนืดๆลงคอ รู้สึกผิดที่ทำร้ายคนๆหนึ่งไปโดยขาดสติ

 “หนี..”

เป็นคำเพียงพยางค์สั้นๆที่พี่ริวพูดขึ้น ก่อนจะรู้สึกได้ถึงฝ่ามือเย็นเฉียบที่เลื่อนมากุมมือผมไว้พลางลุกขึ้นยืน แล้วกระตุกมือผมหมายจะให้ลุกตาม

ผมลังเลไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี

“แล้วเขา..”

ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบประโยค ความเจ็บแปลบตรงข้อมือก็พุ่งปราดเล่นงานทันทีเมื่อพี่ริวเผลอบีบข้อมือผมแน่น

“ปล่อยให้มันตายอยู่ตรงนี้”

น้ำเสียงเย็นชาและนัยน์ตาดุดันอย่างที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นจากคนๆนี้ พี่ริวดูไม่ใช่คนที่มีจิตใจเลวร้ายและเย็นชา ตรงกันข้าม เขากลับดูอบอุ่นน่าเข้าหา ดูเป็นคนใจดีที่พร้อมจะช่วยเหลือคนได้ทุกเวลา ผมเชื่อ ว่าพี่ริวต้องเป็นคนที่ร่าเริงมากแน่ๆ แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร นัยน์ตาคู่นั้นถึงได้ว่างเปล่าและเศร้าโศกได้ขนาดนั้น แม้ว่าเจ้าตัวจะพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกข้างในยังไง ผมก็ยังสัมผัสได้ 

เวลาที่ผมรู้สึกไม่ดี แค่เตอร์กอดผม ก็ทำให้ผมยิ้มได้ ความเศร้าหรือเรื่องที่ไม่สบายใจต่างๆก็พลันมลายหายไป เพราะงั้น ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอพี่ริว ผมถึงได้รู้สึกอยากกอดเขา อยากให้ใบหน้านี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ไม่ใช่ใบหน้าแบบในตอนนี้

พี่ริวก้มมองสภาพตัวเองอีกครั้งแล้วทอดถอนใจ ก่อนจะปล่อยมือผมแล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ถูกถอดทิ้งไว้บนพื้นมาใส่อย่างไม่รีบร้อน หลังจากที่จัดการตัวเองเรียบร้อยเขาก็เดินมาจับมือผมไว้อีกครั้ง แต่สายตาคู่นั้นกลับมองเลยไปด้านหลัง หยุดยังคนที่นอนหายใจรวยริน

ความรู้สึกผิดเกาะกุมจิตใจเมื่อเห็นสภาพพี่แซมชัดๆ เขาจะตายหรือเปล่า..

ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมแค่อยากจะช่วยพี่ริว.. ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายใคร

ผมบอกตัวเองซ้ำๆในใจ พยายามปัดความรู้สึกผิดออกจากหัว ผมแค่ช่วยพี่ริว.. แค่ช่วยพี่ริว

แรงกระตุกที่มือทำให้ผมลุกขึ้นยืน ก่อนจะลากขาอันหนักอึ้งราวถูกโซ่ตรวนหลายกิโลถ่วงเอาไว้เดินตามหลังอีกคน จวบจนถึงประตูหน้าห้อง ..เพียงแค่เห็นประตูทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าธรรมดา ก็ราวกับยันต์ชั้นดีที่ปัดเป่าความรู้สึกไม่ดีออกไปจากใจ ผมรู้สึกอุ่นวาบในใจ จนเก็บรอยยิ้มไว้ไม่อยู่ เพียงแค่นึกว่า ถ้าเปิดประตูบานนี้ ผมก็จะได้กลับบ้าน..

คนข้างตัวผมก็คงจะรู้สึกไม่ต่างกัน มือคู่นั้นถึงได้เย็นเฉียบขนาดนี้

พี่ริวยื่นมืออีกข้างที่ไม่ได้จับมือผมไว้ไปเปิดประตู เขาบิดมันออกได้อย่างง่ายดายเหมือนมันไม่ได้ถูกล็อกไว้ ครั้นพอจะดันให้เปิดออกมันกลับไม่เปิดอย่างที่คิด! พี่ริวขมวดคิ้วเป็นปมกลางหน้าผากก่อนจะลองบิดประตูอีกครั้งพร้อมทั้งออกแรงดันไปด้วย แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเคย

บานประตูหนาหนักไม่ได้เขยื้อนเลยสักนิด!

มือขาวปล่อยจากมือผมก่อนจะใช้ตัวกระแทกประตูเต็มแรง โดยที่มือก็บิดลูกบิดจนเป็นระวิง

ยิ่งทำก็ยิ่งตอกย้ำให้รู้ถึงสภาพที่ไม่อาจดิ้นหนี ไม่ว่าจะทำยังไง มันก็เปิดไม่ได้!

“โธ่เว้ย!!” พี่ริวสบถดังลั่น ยกมือขยี้หัวอย่างอารมณ์เสียก่อนจะเตะประตูตรงหน้าแรงๆระบายอารมณ์

เขาปล่อยให้ผมยืนอยู่ตรงนั้น ก่อนจะเดินไปรอบห้องราวหาอะไรสักอย่างด้วยท่าทางร้อนรน ริมฝีปากขยับพร่ำพูดอะไรสักอย่างฟังไม่ได้ศัพท์ ใบหน้านั้นกลับมาเคร่งเครียดอีกครั้งอย่างคนไร้ทางออก

ผมเลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าแผ่นหลังที่มองตามอยู่ตลอดเดินไปยังห้องครัว ผมรีบเดินตามไป ก็เห็นพี่ริวก้มๆเงยๆอยู่ตรงเคาท์เตอร์ทำอาหาร ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นว่าเขาถืออะไรในมือ..

มีด!

เขาไม่แม้แต่จะหันมามองผม กลับรีบเดินสวบๆตรงไปยังห้องๆเดิมที่ออกมา ผมรีบเดินตามไปด้วยสังหรณ์ใจแปลกๆ

“พี่ริว!” ผมร้องเรียกพร้อมทั้งรีบวิ่งไปจับแขนขาวรั้งไว้ ทำให้พี่ริวชะงักขาแล้วหันมามอง สีหน้านั้นราบเรียบไม่แสดงความรู้สึกอะไรจนผมหวั่นใจ

“พี่จะทำอะไร” ผมบีบแขนเขาแรงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะผละจาก

เขาเงียบไปนาน ก่อนสีหน้านั้นจะคลายความตึงเครียดลงแล้วบิดแขนออกจากมือผม

“เคยได้ยินมั้ย ตีงูต้องตีให้ตาย” เขาพูดเนิบนาบ นัยน์ตาว่างเปล่า แต่ผมขนลุกซู่ด้วยนึกรู้ว่าอีกคนคิดจะทำอะไร “ถ้าเราไม่ฆ่ามัน มันจะฆ่าเรา เข้าใจมั้ย” ริมฝีปากบางยิ้มนิดๆ แล้วยกมือลูบผมของผมแผ่วเบา

ผมส่ายหน้าไม่เข้าใจ คิ้วขมวดเป็นปมกลางหน้าผาก

“ไม่ฆ่าได้มั้ย” ผมถามเสียงแผ่ว พี่ริวหลบสายตามองไปทางอื่น มือยิ่งกระชับด้ามมีดแน่นกว่าเดิม

เขาไม่ตอบอะไรแต่กลับหมุนกายเดินหายลับเข้าไปในห้อง ทำให้ผมต้องเร่งฝีเท้าตามไปติดๆ

หลังจากที่พี่ริวได้ยินเสียงฝีเท้าของผม เขาหันกลับมามองด้วยใบหน้าซีดเผือด ทั้งตัวสั่นเทา มือที่จับมีดไว้ก็เกร็งแน่น

เกิดอะไรขึ้น?

“หายไป.. มันหายไป!”

เขาหายใจเข้าออกรุนแรง ผมเองก็ตกใจ รีบถลันไปมองยังจุดที่เมื่อครู่ยังเห็นพี่แซมนอนหายใจพังพาบอยู่

ใช่.. เมื่อครู่เขายังอยู่ แต่ตอนนี้ไม่..

เขาหายไป!

ผมกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออย่างลำบาก เหงื่อเย็นๆไหลซึมตามไรผม หัวใจกระหน่ำรัวไม่หยุด

ที่ตรงนั้นว่างเปล่า ทิ้งไว้เพียงคราบเลือดเป็นหย่อม ไม่มีแม้แต่รอยทางเลือดที่ทิ้งไว้ให้ตามไปหาต้นตอ แต่ผมแน่ใจว่าพี่แซมจะต้องอยู่ในห้องนี้ เพราะมันมีทางออกเพียงทางเดียว

เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหนีออกจากห้อง..

พี่ริวกระชับมีดในมือแน่นขึ้น แขนตั้งฉากระนาบกับพื้นแล้วชี้มีดกราดทั่วห้องอย่างระแวดระวังพร้อมทั้งเดินสำรวจไปทั่ว

ผมกอดตัวเองแน่น ก้าวขาเดินตามหลังพี่ริวอย่างกล้าๆกลัวๆ พี่ริวหยุดยืนห่างจากตู้เสื้อผ้าประมาณหนึ่งเมตร เขาหันมามองผม แล้วยกอีกมือขึ้นกลางอากาศเป็นเชิงบอกให้ผมอยู่กับที่ไม่ต้องตามมา ผมเบ้หน้าน้ำตาคลอ หัวใจลุ้นระทึกจนแทบจะทนไม่ไหว

มองตามแผ่นหลังอีกคนที่ขยับเข้าใกล้ตู้เสื้อผ้าก่อนจะเปิดมันออกอย่างระมัดระวังโดยที่อีกมือก็จ่อมีดพร้อมแทงทุกเมื่อ

ปัง!!

ผมสะดุ้งเฮือก หัวใจกระหน่ำรัวกว่าเดิมกับเสียงประตูตู้เสื้อผ้าที่พี่ริวเปิดออก ...มันว่างเปล่า  พี่ริวหายใจเข้าออกช้าๆก่อนจะเปิดอีกบานพลันง้างมีดหมายจะแทง! ทว่าสิ่งที่พบไม่ต่างจากประตูครึ่งแรก…

ไม่มีพี่แซมในนั้น

!!!!!

พี่ริวยิ่งลนลานมากกว่าเดิม เหงื่อกาฬผุดพรายเต็มหน้าผาก เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผากก่อนจะตรงไปยังเตียงแล้วก้มดูใต้เตียงโล่งๆ แต่ก็ไม่พบ

ผมจิกเล็บลงฝ่ามือแรงๆ ใจเต้นระทึกทุกขณะพลางกวาดสายตาไปทั่วห้องก่อนจะหยุดชะงักตรงผ้าม่านที่ส่วนหนึ่งนูนเด่นมากกว่าส่วนอื่น ผมหน้าซีดเผือดด้วยนึกกลัวว่าสิ่งที่คิดจะเป็นจริง

พี่ริวหันมามองผมอีกครั้ง สีหน้ายุ่งเหยิง ดูเหมือนเขาจะเอะใจตรงจุดเดียวกับผม มีดในมือกระชับให้มั่นพร้อมกับสองขาที่ก้าวเดินตรงไปยังเป้าหมาย

เป็นอีกครั้งที่ผมถูกสั่งห้ามไม่ให้ตามไป..

สายตาของพี่ริวเวลาที่มองมา แม้มันจะว่างเปล่า แต่ผมกลับสัมผัสได้ถึงความเป็นห่วงที่ซ่อนอยู่ในนั้น

พี่ริวเดินเข้าไปใกล้ผ้าม่านตรงที่นูนออกมา มีดปลายแหลมล้อแสงไฟถูกชี้ออกไปในท่าเตรียมพร้อม ทว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิดกลับเกิดขึ้น!! มันเร็วมากจนตั้งตัวไม่ทัน! เมื่อสิ่งที่ซ่อนอยู่หลังผ้าม่านพุ่งเข้ากระแทกช่วงท้องพี่ริวเต็มแรง ทำให้ร่างบางล้มฟุบลงกับพื้น! มีดที่ถืออยู่หลุดออกจากมือตกลงบนพื้นข้างๆตัว!!

เป็นอย่างที่คิด ไม่ผิดแน่! พี่แซมอยู่หลังม่าน!!!

จังหวะที่พี่ริวพยายามยันตัวลุกขึ้นนั้น ชายร่างสูงผมหยักศกที่ยาวถึงกลางหลังก็เดินออกมาจากหลังผ้าม่านช้าๆ พร้อมด้วยเชือกเส้นเล็กที่เป็นสายสำหรับสาวเปิด-ปิดผ้าม่านในมือ

เขาย่างสามขุมเดินเข้ามาหาอีกคนที่หน้าเผือดสี พยายามเอื้อมมืดสุดแขนจะหยิบอาวุธหนึ่งเดียวให้กลับมาในครอบครอง  แต่ไม่.. ไม่สำเร็จ!!

ผมเบิกตากว้าง ใจตกไปที่ตาตุ่มเมื่อเท้าเปลือยสีซีดเหยียบข้อมือบางอย่างแรงก่อนจะบดขยี้ลงกับพื้น!

“โอ๊ยยย!!!” พี่ริวโอดครวญ มือข้างนั้นพยายามขยับจะให้หลุดจากใต้ฝ่าเท้า แต่ไม่สำเร็จ  พี่ริวจึงใช้มืออีกข้างเอี้ยวไปจะหยิบมีดที่อีกนิดเดียวก็จะถึงอยู่แล้ว อีกเพียงแค่ฝ่ามือเดียว!

เพี๊ยะ!!!

พี่แซมฟาดหลังมือใส่ใบหน้าขาวเต็มแรงก่อนจะกำเส้นผมแล้วกระชากจนหน้าหงาย

“กล้ามากนะ ที่คิดแข็งข้อกับคนอย่างกู”

เสียงทุ้มกระซิบลอดไรฟัน ริมฝีปากแสยะยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับมือที่จิกหนังหัวแรงกว่าเดิม พี่ริวหายใจเข้าออกถี่รัว เขาไม่ดิ้น ไม่ต่อต้าน เพราะรู้ว่าต่อให้ดิ้นรนยังไงก็ไม่มีวันหนีพ้น ท่าทางนิ่งเฉยแบบนั้นดูเหมือนจะทำให้พี่แซมตบะแตก มือหนาเหวี่ยงร่างพี่ริวลงบนพื้นก่อนจะตามไปคล่อมทับ สองมือดึงเชือกให้ตึงก่อนจะใช้มันรัดคอคนใต้ร่างแล้วค่อยๆดึงจนตอนนี้มันแนบติดกับลำคอขาว แล้วค่อยๆกินเนื้อไปทีละนิด

ผมตาเบิกโพลง เมื่อเห็นว่าพี่ริวหายใจติดขัด สมองเริ่มรวนคิดอะไรไม่ออก น้ำตาไหลพรากอย่างห้ามไม่อยู่  ทว่าขณะที่กำลังจะวิ่งเข้าไปช่วย เสียงทุ้มกลับตะโกนแทรกพร้อมทั้งนัยน์ตาดุจัดที่ตวัดมามอง

“อย่าเข้ามา! ไม่งั้นกูจะฆ่ามันให้ตาย!!”

เพียงคำขู่แค่นั้นก็ทำให้ขาทั้งสองหยุดชะงักอยู่กับที่ ราวก้าวไม่ออกคล้ายถูกตะปูตอกยึดไว้กับพื้น!

“ย..อย่าฆ่าพี่ริว!!!” ผมได้แต่ร้องบอกเสียงสั่น หัวคิดอะไรไม่ออก กลัวว่าพี่แซมจะทำจริงๆหากผมเข้าไป

ผมไม่รู้ ทางเลือกมีน้อยเกินไป

หากขัดขืน.. นั่นหมายถึงความตาย! แต่ผมก็ไม่รู้ ว่าถ้าผมทำตาม เขาจะรับปากอย่างที่ลั่นวาจาไว้หรือเปล่า..

ไม่รู้...

“อึ่ก!! หนี.. หนีไป!”

พี่ริวเค้นเสียงพูดอย่างยากลำบาก ลำตัวบิดพลิ้วดิ้นรนอย่างทรมาน นัยน์ตาเริ่มแดงก่ำเนื่องจากเลือดคั่งหันมามองผม อีกทั้งใบหน้านั้นขาวซีดราวกระดาษ

ผมส่ายหน้าทั้งน้ำตาเต็มสองข้างแก้ม ไม่ไป.. จะไม่ไปไหนทั้งนั้น!

“ห่วงจริงๆนะเด็กคนนี้น่ะ”

ผมขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงทุ้มแทรกขึ้น มือหนาค่อยๆคลายเชือกที่รัดรอบคอขาวออกก่อนจะโยนมันทิ้ง แต่กายสูงใหญ่ยังไม่ผละไปไหน ยังคงคล่อมทับร่างบาง ผมที่เห็นอย่างนั้นก็เข่าอ่อนทรุดลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง

รอดแล้ว.. รอดแล้วใช่มั้ย

ผมจับจ้องภาพตรงหน้าไม่ละสายตา กลัวว่าพี่แซมจะหยิบเชือกหรือมีดขึ้นมาอีก.. แต่เปล่า เขากลับใช้ปลายนิ้วลูบรอยเชือกเล็กๆตรงลำคอขาวแผ่วเบาก่อนแสยะยิ้มแล้วกดหน้าลงต่ำ แลบลิ้นเลียรอยรัดสีแดงคั่งเลือด พี่ริวหลับตาแน่นพยายามเบี่ยงหน้าหนี แต่ไม่สำเร็จ

พี่แซมหัวเราะแผ่วในลำคอก่อนจะผละหน้าออกแล้วมองใบหน้าเผือดสีของร่างข้างใต้ พลางยกมือขึ้นไล้ข้างแก้มแล้วพูดขึ้น

“คุณเชื่อมั้ย ตั้งแต่มีคุณเข้ามาในชีวิต ..ผมไม่เคยเบื่อเลย” พี่แซมยิ้มนิดๆ ก่อนจะพูดต่อ “ผมชอบสีหน้าของคุณในตอนนี้นะ แต่ผมอยากเห็นมากกว่านี้...” เขาหยุดพูดชั่วครู่ ปลายนิ้วลูบริมฝีปากบางแผ่วเบา ก่อนจะเหลือบสายตามองมาที่ผม ซึ่งผมก็ก้มหน้าเสตามองไปทางอื่นแทบจะทันที เผลอจิกเล็บลงบนหัวเข่าอย่างแรงด้วยบรรยากาศกดดันที่แผ่ขยายไปรอบบริเวณ

“สาเหตุที่คุณฆ่าตัวตาย ผมรู้แล้วนะว่ามันมาจากอะไร.. และผมจะเป็นคนรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีกครั้ง”

ทันทีที่พูดจบ ดวงตาเรียวก็เบิกกว้างด้วยความตระหนก น้ำใสไร้สีหยดลงจากหางตาอย่างไม่อาจต้านทานพลันผินหน้ามองมาที่ผมด้วยนัยน์ตาหวาดหวั่น




_________________________________________________

TALK ::  :really2: เย้ ...และแล้วก็เต็มร้อย 55 ส่วนพาร์ทหน้านั้น ...มันกำลังจะมา จะไม่ให้รอนานเหมือนครั้งที่แล้วแล้วนะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
โอ๋ๆ ขอโทษนะคะที่ปล่อยให้รอนาน ไม่โกรธนะๆ  :mew2:
ใครอยากรู้จักน้องริวมากขึ้นก็ตามไปอ่านกันได้ที่นี่เลย
REVENGE -> http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38217.0
นำเสนอฟุดๆ
ขอบคุณเม้นท์ทุกเม้นท์ และทุกกำลังใจ ทุกการรอคอย และทุกการทวงมากๆเลยน้า ดีใจอ่ะ มีคนทวงด้วย  :hao5:
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ
นี่ค่ะ FANPAGE ---> NNEW ffy ไปถูกใจแล้วแวะเข้าไปพูดคุยกันนะ  :กอด1:
PS. คิดถึงๆๆๆๆๆๆ PS. รักนักอ่าน ชุ้บๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-07-2013 19:21:44 โดย NNEW33 »

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 23 หลุด [7/7/56] P.10
«ตอบ #276 เมื่อ07-07-2013 19:31:37 »

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!
อะไร! ยังไง! กรี๊ดดดดดดดดดดดด! (ใครเหยียบหางหล่อน)
แซมจะทำอะไรริว!
อดีตของริวเป็นยังไง
ทำไมต้าและริวถึงผูกพันกัน
สุดท้าย...หมอเซมหายไปไหนนนนนนนน!

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 23 หลุด [7/7/56] P.10
«ตอบ #277 เมื่อ07-07-2013 20:30:30 »

ตอนนี่พี่ริวแบบเท่ มากพยายามช่วยต้า
ส่วนอีแซมมันน่าโดนหนักกว่านี่น่ะ  :z6: :beat:

ออฟไลน์ kissu111

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 23 หลุด [7/7/56] P.10
«ตอบ #278 เมื่อ07-07-2013 20:47:19 »

พี่แซมนี่จะเด่นไปแล้วนะ  ชอบทีนิวแต่งจัง รอตอนต่อไปนะคะ :hao6:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 23 หลุด [7/7/56] P.10
«ตอบ #279 เมื่อ08-07-2013 02:03:31 »

แซมรู้แล้วแบบนี้ จะเป็นยังไง ถ้าแซมทำแบบนั้นกับต้าร์จริง ๆ ริวจะเป็นยังไง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 23 หลุด [7/7/56] P.10
« ตอบ #279 เมื่อ: 08-07-2013 02:03:31 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 23 หลุด [7/7/56] P.10
«ตอบ #280 เมื่อ11-07-2013 20:16:42 »

คืองงหมดแล้ว แซมไปรับต้าได้ไง แล้วตอนไปรับมีอะไรบ่งบอกว่าเป็นหมอบ้าง สงสารต้าน่าจะบ้าไปเลย แมร่งสงสัยมีแต่คนโรคจิต

ออฟไลน์ pharm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 23 หลุด [7/7/56] P.10
«ตอบ #281 เมื่อ12-07-2013 01:42:28 »

อะไรมันจะมืดมนขนาดนี้

น่ากลัวมากอ่ะ จะเป็นนิยายผีไปแล้วอะป่าว

ตกใจตอนที่ริวจะไปฆ่าแซมให้ตาย คิดว่าแซมจะตายจริงละนะนี่

 :ling3:

ออฟไลน์ `ลoงสิจ๊ะ™

  • รักคือรัก จะให้หักห้ามใจนั้นยาก
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 23 หลุด [7/7/56] P.10
«ตอบ #282 เมื่อ20-07-2013 09:39:45 »

เกิดอะไรขึ้นต่อไปและเนี่ย  o22

koronekojung

  • บุคคลทั่วไป
Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 23 หลุด [7/7/56] P.10
«ตอบ #283 เมื่อ20-07-2013 22:32:17 »

 :hao5: :hao5: :hao5:

อ๊ายยย คือไม่ไหวจะเคลียร์มากค่ะ
ต่อด่วนเลยค่ะ

อะไร งงมากมายย  นั่งขูดฝาบ้านแล้วค่ะ > <

เป็นกำลังใจให้ ค่ะ

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 23 หลุด [7/7/56] P.10
«ตอบ #284 เมื่อ21-07-2013 02:09:53 »

ยิ่งอ่านยิ่งเครียด
 ขอ ต้าเตอร์ เซมจิม นะคะ่ ตอนจบ -..-

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 23 หลุด [7/7/56] P.10
«ตอบ #285 เมื่อ21-07-2013 12:31:03 »

เค้ารักความรุนแรง

อย่าหาว่าโรคจิตเลยนะ. แต่ชอบอ่ะ :katai1:

ออฟไลน์ NNEW33

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
อนุญาติลบนะคะ  :o12:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-08-2013 23:56:20 โดย NNEW33 »

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
อ่านแล้วกดดันแทน
งานนี้ไม่รอดแน่

ZakeiHarha

  • บุคคลทั่วไป
 :a5:
คนแต่งสู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

koronekojung

  • บุคคลทั่วไป
 :katai5: :katai5:
คลานไปหาคนเขียน 55555

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

สนุกเว่อร์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Lovecartoon1996

  • ชอบกินมาม่า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
    • -
โอยยยลุ้น
คนเขียนสู้ๆ :L2:

ออฟไลน์ Lovecartoon1996

  • ชอบกินมาม่า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
    • -
โอยยยยลุ้น
คนเขียนสู้ๆ :L2:

koronekojung

  • บุคคลทั่วไป
คนแต่งหายไปไหนเอ่ยยย
รออยู่น๊ะค๊ะ
 TT^TT
 :ling1:

ออฟไลน์ NNEW33

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ตอนที่ 24 เสี่ยง 80%

พี่ริวพยายามจะลุกขึ้นนั้ง ทว่ากลับถูกมือหนากดไหล่ให้ล้มลงนอนกับพื้นอย่างสิ้นท่าตามเดิม

“อย่าทำอะไรเด็กคนนั้น” ริมฝีปากของคนใต้ร่างพร่ำพูด เลิกดิ้นรนให้ตนเป็นอิสระ สองมือเปลี่ยนมาจับแขนหนาแล้วกำไว้แน่น “ผมจะยอมคุณทุกอย่าง แต่ได้โปรด.. ปล่อยเด็กคนนั้น”

พี่แซมนิ่งเงียบไปนานนับนาที ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธแล้วเหยียดยิ้มมุมปาก

“ข้อเสนอไม่น่าสนใจพอ อย่าลืมสิ.. ว่าตอนนี้ชีวิตคุณเป็นของใคร ผมมีสิทธิจะทำอะไรกับคุณก็ได้” เสียงทุ้มพูดเนิบนาบพลางตบแก้มขาวซีดเบาๆ เขาหัวเราะเสียงต่ำในลำคอ ก่อนจะไล้นิ้วเล่นบริเวณข้างแก้มแล้วเลื่อนต่ำวนเวียนแถวลำคอ นัยน์ตาคมมองคนใต้ร่างด้วยสายตาเป็นประกาย พลันกางฝ่ามือออกแล้วกำรอบลำคอขาวไว้หลวมๆด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“ชีวิตคุณ เป็นของผม ...ถ้าผมจะฆ่าคุณให้ตายซะตอนนี้... ผมก็ทำได้” น้ำเสียงเยียบเย็นที่ทำให้คนฟังเบิกตากว้าง ก่อนตัวจะกระตุกดิ้นทุรนทุรายทันทีเมื่อมือหนาออกแรงบีบลำคออย่างแรงจนเส้นเลือดปูดนูนตามลำแขน พี่ริวเหลือกตามองมาที่ผมด้วยสายตาดึงดันไม่ยอมแพ้ เขาดิ้นหนักขึ้น พยายามดึงมืออีกคนให้ปล่อยออก แต่ไม่เป็นผล จึงตวัดเล็บจิกข่วนหลังมือหนาก่อให้เกิดรอยแดงเป็นทางยาวบนผิวสีซีด

“หึๆ” พี่แซมหัวเราะในลำคอ นัยน์ตาเต้นไหวด้วยความสนุก ยิ่งเห็นคนใต้ร่างมีสีหน้าทรมานมากเท่าไหร่ ริมฝีปากก็ยิ่งหยักยิ้มมากขึ้นเท่านั้น..

“แต่น่าเสียดาย.. ผมยังให้คุณตายตอนนี้ไม่ได้” เขาพูดพร้อมกับค่อยๆผ่อนแรงที่บีบรัดลำคอก่อนจะปล่อยออกในที่สุด ใบหน้าเผือดสีของพี่ริวค่อยๆกลับมามีสีเลือดอีกครั้ง แผ่นอกสะท้อนขึ้นลงรุนแรงด้วยอาการหอบ เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วเอ่ยพูดความต้องการของตัวเองด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

“อย่า ทำอะไรเด็กคนนั้น”

คำวอนขอได้รับเสียงหัวเราะหึขึ้นจมูกอย่างดูแคลนตอบกลับมา

ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อประสานสายตาเข้ากับพี่แซมที่หันมาทางนี้พอดี ก่อนจะรีบหลุบตาต่ำไม่กล้ามองสบ ทุกอย่างรอบตัวกลับมาเงียบอีกครั้ง เงียบจนผิดปกติ.. พลันแว่วได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบาที่กำลังมุ่งตรงมาทางนี้ ..ไม่กี่วินาทีต่อจากนั้น เงาสูงใหญ่ก็ทาบทับตัวผมจนมิด ในครรลองสายตาเห็นปลายเท้าเปลือยเปล่าของร่างหนาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้า

เร็ว...

การเคลื่อนไหวของเขาทั้งรวดเร็วและเงียบราวสัตว์ป่า!

ผมผวาผุดกายจะพุ่งหนีให้รอดพ้นวิถีมือที่เอื้อมมาจะจับตัวผม ทว่าการเคลื่อนไหวของผมกลับช้าเกินไป เมื่อมือหนาโฉบเข้าจับต้นแขนของผละและบีบรัดอย่างแรง ผมนิ่วหน้าพยายามบิดแขนออก แต่ยิ่งดิ้น มือที่ราวกับคีมเหล็กข้างนั้นรัดแน่นขึ้นจนเริ่มชา เขารั้งร่างผมเข้าใกล้จนแผ่นหลังแนบติดแผ่นอกของเขา ผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดตรงกกหู ก่อนเขาจะจับผมหันไปเผชิญหน้ากับพี่ริวที่กำลังใช้สองแขนดันกายลุกขึ้นนั่ง พี่ริวเหลือบมองผมชั่วขณะ แล้วมองเลยไปยังคนด้านหลังด้วยนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยโทสะ

ทว่า..ความโกรธที่แสดงออกมาทางแววตาคู่นั้นก็ปิดบังความกลัวไว้ไม่มิด

พี่ริวกำลังกลัวเขา ผมจับกระแสความรู้สึกนั้นได้ เพราะผมเองก็กำลังรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน

บรรยากาศรอบด้านตึงเครียด และยิ่งกดดันมากขึ้นเมื่อไม่มีใครคิดจะพูดอะไรออกมา มือหนาคลายแรงบีบตรงต้นแขนของผม แต่ก็ยังไม่ปล่อยให้เป็นอิสระ

Trrrrrrr

ริงโทนไม่คุ้นหูทำลายความเงียบให้พังครืน พี่แซมชะงัก กวาดสายตามองหาโทรศัพท์ ทว่าเวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่พี่แซมเบนความสนใจไปยังสิ่งอื่น เป็นการเปิดโอกาสให้คนที่จ้องรอเผยยิ้ม พี่ริวพุ่งเข้าคว้าแขนผมแล้วกระชากเข้าหาตัวแล้วดันผมให้ไปหลบอยู่ด้านหลังเขาทันที!

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเสียจนผมไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็รู้สึกยินดี เมื่อได้มายืนใกล้กันขนาดนี้ ทำให้ผมรู้ว่าพี่ริวสูงกว่าผมเพียงเล็กน้อย แต่ส่วนสูงนั้นก็ยังดูห่างไกลจากอีกคนที่ยืนจ้องมองมาที่เราด้วยนัยน์ตาดุดัน!

“ริว!” เสียงทุ้มกดต่ำสั่นประสาทคนฟัง ทว่าเจ้าของชื่อคล้ายไม่สะทกสะท้าน พี่ริวเอื้อมมือมาดึงมือผมไปจับไว้แน่น ผมเองก็กระชับมือนั้นกลับอย่างไม่ยอมปล่อยง่ายๆ เมื่อคนที่ทำหน้าที่เสมือนเกราะป้องกันถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อตั้งหลัก ผมที่อยู่ด้านหลังก็ถอยด้วยหนึ่งก้าว

ผมยกมือชื้นเหงื่ออีกข้างกำชายเสื้อพี่ริวแน่น หัวใจเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ มีแต่ความกลัว และกลัว..

“ผมจะไม่ให้คุณทำอะไรเด็กคนนี้” พี่ริวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

พี่แซมยิ้มหยัน นัยน์ตานั้นยิ่งเรืองแสงมากกว่าเดิม เขาขบฟันสะกดกลั้นอารมณ์จนกรามขึ้นเป็นสันนูน พลางจ้องหน้าพี่ริวไม่วางตาราวอสรพิษที่จ้องจะฉกเหยื่อยามมันเผลอ ผมหนาวเยือกไปทั้งสันหลังก่อนจะเขยิบกายไปหลบอยู่หลังพี่ริวมากกว่าพร้อมทั้งก้มหน้าต่ำ

ตั้งแต่ที่ผมได้พบกับพี่จิม พี่หมอ พี่ริว และพี่แซม ก็ราวกับโลกทั้งใบของผมมันบิดเบี้ยวไม่เหลือเค้าเดิม

อยากกลับบ้าน..

ผมอยากกลับบ้าน!

ริมฝีปากเบะออก น้ำร้อนเอ่อคลอจนกระบอกตาร้อนผ่าว ...อยากกลับบ้าน

มือที่จับชายเสื้อคนตรงหน้าไว้ยิ่งดึงรั้งมากกว่าเดิมด้วยอารมณ์ที่ตีตื้นขึ้นมา พี่ริวเองก็เหมือนจะรู้สึกได้ได้ เขาเหลียวหลังมามองเพียงนิดก่อนจะหันกลับไปมองหน้าพี่แซมอีกครั้ง

Trrrrrrrr

ไม่รู้ว่าโชคเข้าข้างหรือไร เสียงโทรศัพท์เมื่อครู่นี้ถึงได้กรีดร้องขึ้นอีกครั้ง

และก็เป็นเสียงนั้นอีกเช่นกันที่ดึงความสนใจจากพี่แซมได้อีกครั้ง คิ้วเข้มขมวดเป็นปมกลางหน้าผาก เขาหันไปมองหา ทำท่าลังเลคล้ายจะเดินไปรับ

ความลังเล ทำให้คนเสียโอกาสมานักต่อนัก

แต่ความลังเลของเขา กำลังสร้างโอกาสให้กับผมสองคน... พี่ริวกระชับมือผมแน่นอีกครั้งและอาศัยช่วงเวลาที่พี่แซมละล้าละลัง ฉุดแขนผม วิ่งตรงไปยังประตูห้องทันที!

หัวสมองยังไม่ทันประมวลผล แรงฉุดมากมายจากคนตรงหน้าก็ทำให้ผมต้องสับฝีเท้าวิ่งตามแผ่นหลังบางโดยไม่เหลียวหลังหันกลับไปมองคนผมยาวอีกเลย มือที่จับประสานกันกระชับแน่นขึ้น จุดหมายคือประตูหน้าห้อง!

ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจ ไม่รู้ว่าพี่ริวลืมไปแล้วหรือไงว่า ประตูบานนั้นมันเปิดไม่ด...

!!!

 

ผลัวะ!

 

เปิดได้!!!

 

ประตูไม่ได้ล็อก!!


 

แม้จะแปลกใจ แต่ผมก็ไม่เสียเวลาคิดว่าเพราะอะไร ทำไมประตูที่ตอนแรกเปิดไม่ได้ ตอนนี้ถึงสามารถเปิดได้อย่างง่ายดาย รู้เพียงแต่.. นั่นคือทางรอดเพียงหนึ่งเดียวที่จะเมินเฉยไม่ได้!

เมื่อก้าวออกมาพ้นห้องที่เสมือนกรงขังพี่ริวก็ค่อยๆผ่อนฝีเท้าลง จนมาหยุดตรงหน้าลิฟต์ มือขาวติดจะสั่นนิดๆยื่นไปกดปุ่มอย่างไม่ลังเล ทั้งผมและพี่ริวหายใจหอบไม่ต่างกัน มือที่จับกันของพวกเราเย็นเฉียบ หัวใจของผมหนักอึ้งเต็มไปด้วยความกังวล  ..ผมกลัวว่าพี่แซมจะตามมา พี่ริวเองก็คงกลัวเหมือนกัน เพราะเขาคอยหันไปมองด้านหลังอยู่บ่อยๆ

แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีวี่แววของพี่แซมเลยสักนิด

ติ๊ง!

ผมกับพี่ริวหันไปมองยังต้นตอเกิดเสียงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เสียงนั้นราวกับเสียงสวรรค์ที่จุดความหวังอันริบรี่ให้ลุกโชนอีกครั้ง เราหันมามองหน้ากันด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

หลังจากที่ประตูลิฟต์เลื่อนออกจากกัน พี่ริวไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปภายในโดยไม่ลืมจูงผมเข้าไปด้วย วินาทีที่ประตูลิฟต์ค่อยๆปิดเข้าหากัน หัวใจผมเต้นกระหน่ำ สายตาจ้องนิ่งอยู่ตรงระยะห่างระหว่างประตูที่ค่อยๆหดเข้าหากันไม่วางตาผมเผลอกลั้นหายใจด้วยความลุ้นระทึก จวบจนเมื่อบานเหล็กปิดสนิท พลันในอกก็เบาโหวง ก่อนจะค่อยๆพรูลมหายใจออกมาทางริมฝีปากอย่างโล่งอก

พี่แซมไม่ได้ตามมา... จะได้กลับบ้านแล้วใช่มั้ย...? ภาพใบหน้าของเตอร์ของแม่ของพ่อที่ลอยเข้ามาในหัวเทกระแสอบอุ่นให้อาบไปทั่วหัวใจ ผมเก็บกลั้นความดีใจไว้ไม่ไหว เผลอกระชับมือนุ่มแน่นกว่าเดิมอย่างลืมตัว

กล่องสี่เหลี่ยมเคลื่อนตัวลงช้าๆ ..และไม่นาน มันก็ถึงที่หมาย

ติ๊ง!

ประตูลิฟต์ค่อยๆเลื่อนออกจากกันช้าๆ แต่พี่ริวยังไม่เดินออกไป

“พี่ริว” ผมเรียกเสียงแผ่ว นิ่วหน้าด้วยความเจ็บมือเมื่ออีกคนบีบมือผมแน่น ทั้งตัวของเขาเริ่มเกร็งและสั่นอย่างไร้สาเหตุ

ไม่มีใครกดปุ่มให้ประตูลิฟต์เปิดโดยไม่ปิด ...ใช่ ไม่มีใครกด แต่ประตูลิฟต์นั้นก็ยังคงเปิดค้างไว้อย่างนั้น โดยที่มันไม่มีทีท่าว่าจะปิดเข้าหากัน ..ราวกับมันกำลังรอให้คนด้านในก้าวขาออกไปอย่างไรอย่างนั้น ผมหันไปมองคนข้างกายอีกครั้ง ใบหน้าของเขาซีดเผือด ดวงตามองตรงไปข้างหน้าแล้วกรอกไปมาดูหลุกหลิก สับสน และว้าวุ่น

แม้ในใจของผมจะรู้สึกหนักอึ้งด้วยสังหรณ์แปลกๆที่ไม่สามารถบรรยายได้ แต่ผมเลือกที่จะกระชับจับมือเรียว แล้วเดินนำออกจากลิฟต์อย่างไม่ลังเล

ผมจำได้ว่า ตอนที่พี่แซมพาผมมาถึงชั้นนี้ที่กำแพงและทางเดินเป็นสีขาวจะต้องขึ้นลิฟต์อีกตัวหนึ่งเพื่อไปยังห้องของเขา ผมคิดว่าการที่จะลงไปข้างล่างได้ คงจะเหมือนตอนขามา ลิฟต์อีกตัวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม คือทางออก..

ผมก้าวขาออกจากลิฟต์แล้ว แต่พี่ริวยังยืนเฉย ผมจึงกระตุกมือเขาอีกครั้ง ใบหน้าเผือดสีก้มต่ำมองมือที่จับกันไว้ ก่อนจะเงยหน้ามองสบตา ผมไม่รู้ว่าพี่ริวกำลังกลัวอะไรถึงได้ไม่ยอมเดินต่อ มันขัดกับท่าทางมุ่งมั่นตอนที่ลากผมออกจากห้องนั้นลิบลับ

ผมค่อยๆคลี่ยิ้มส่งกำลังใจให้ เตอร์สอนผมเสมอ หากมีใครสักคนที่ทำดีกับเรา เราจะต้องดีกลับและไม่ทิ้งเขา.. 

แม้จะเพิ่งรู้จักกันเพียงวันเดียว แต่ผมก็สัมผัสได้ถึงความห่วงใยที่พี่ริวมอบให้

ทางออกอยู่ที่ลิฟต์ตัวนั้น แค่ลงไป ก็จะได้กลับบ้าน ไปหาพ่อ หาแม่ หาเตอร์ ..จะพาพี่ริวไปด้วย เตอร์จะดีกับพี่ริว ผมเชื่ออย่างนั้น

ไม่มีคำพูดใดๆระหว่างเรา มีเพียงรอยยิ้มที่ส่งถึงกัน

นาทีต่อมา พี่ริวก็ตัดสินใจเดินออกจากลิฟต์ แต่ใบหน้าเรียวยังไม่คลายกังวล ยังคงหันมองซ้ายมองขวาตลอดเวลา ซึ่งผมไม่ได้ใส่ใจกับท่าทางเหล่านั้น เพราะชั้นนี้ไม่มีคน ผมไม่เห็นว่ามันจะมีอันตรายใดที่จะคืบคลานมาได้ ผมเดินนำไปหยุดตรงหน้าลิฟต์อีกตัวที่กลืนไปกับผนังสีขาว ก่อนจะกดปุ่มและยืนรออยู่ตรงนั้นด้วยใจจดจ่อ

 

1 นาทีผ่านไป ลิฟต์ยังไม่มีทีท่าจะขึ้นมา

 

2 นาทีผ่านไป.. ทุกอย่างยังเหมือนเดิม

 

3 นาที...

 

ผมหันไปมองพี่ริวที่ยืนเยื้องไปด้านหลัง ใบหน้าที่ขาวอยู่แล้ว ยิ่งขาวซีดกว่าเดิม.. ผมขมวดคิ้วใจไม่สู้ดี หันกลับมามองลิฟต์เจ้าปัญหาแล้วตัดสินใจกดปุ่มบนแผงควบคุมอีกครั้ง

ทว่า... เครื่องจักรกลกล่องสี่เหลี่ยมนี้ก็ยังคงนิ่งเฉย ราวกับมันใช้งานไม่ได้

ผมเบะปาก น้ำร้อนรื้นขอบตา แล้วกระหน่ำกดปุ่มนั้นอีกครั้ง! อีกครั้ง! และอีกครั้ง!!

ไม่ว่าจะกดมากเท่าไหร่ แรงแค่ไหน.. ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม

มือของคนข้างกายบีบมือผมด้วยอารมณ์ที่อัดแน่นภายในจนมือเริ่มเจ็บร้าว กายบางสั่นเทิ้ม พลันหันมองไปรอบกายด้วยใบหน้าตื่นๆ

ความกลัวเข้าเกาะกุมจิตใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมค่อยๆผ่อนลมหายใจก่อนจะรัวกดปุ่มนั้น ทั้งเร็วและแรง จนบนทางเดินทอดยาวแห่งนี้มีแต่เสียงติ๊ดๆ ดังก้องไปทั่วบริเวณ ทว่ามือที่กำลังกระหน่ำกดปุ่มกลับต้องชะงักกึกเมื่อโสตประสาทแว่วได้ยินเสียงแปลกปลอมอีกเสียงหนึ่งที่แทรกเข้ามา หากฟังไม่ผิด นั่นคือเสียงรองเท้าที่ดังกระทบพื้น.. และมัน กำลังตรงมาทางนี้

ผมหันขวับไปมองทันที!!

...ไม่ผิด มีคนกำลังเดินมา!

พี่ริวก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ มือเรียวเย็นเฉียบด้วยอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ ผมมองชายแปลกหน้าสองคนที่กำลังเดินตรงมา ใบหน้าของพวกเขานิ่งเรียบถมึงทึงราวยมทูต มือหนาที่มีเส้นเลือดปูดนูนจนเห็นเป็นเส้นเขียวๆยุบยับทั่วลำแขนขยับไปด้านหลังก่อนจะล้วงหยิบของที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมา มันคือผ้าขาวสะอาดผืนเล็ก

พี่ริวที่เห็นสิ่งนั้นเบิกตากว้างและหายใจแรงขึ้น ก่อนมือเรียวจะสะบัดมือที่จับกันอย่างเร็วราวต้องของร้อนจนเล็บข่วนแขนผมเป็นแนวยาว เขาพุ่งตัวไปยังลิฟต์ รัวกำปั้นทุบปุ่มเล็กๆอย่างแรงโดยไม่คำนึงถึงความเจ็บ!

ผมที่เห็นอย่างนั้นก็ใจเสียไปกว่าครึ่ง เข่าอ่อนไร้แรงแทบจะทรุดลงพื้น พยายามกวาดตามองหาทางหนี แต่ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มืดมนจนอยากร้องไห้ ข้างขวาไปลิฟต์ที่ถ้าตัดสินใจเดินเข้าไปก็ต้องเจอพี่แซม และทางซ้ายลิฟต์ที่เป็นทางออกเพียงหนึ่งเดียวก็ใช้การไม่ได้ มองไปด้านหน้าเลยผ่านร่างใหญ่สองร่างที่กำลังเดินเข้ามา เห็นเพียงแต่ทางเดินทอดยาวที่ตรงสุดทาง เป็นสีดำสนิททั้งพื้นและกำแพง

ไม่มีทางหนี!

ไม่มี!

!!!!

ผมกรีดร้องเสียงดังเมื่อร่างใหญ่หนึ่งในนั้นพุ่งจู่โจมเข้ามา กระแทกร่างผมจนเสียหลัก หลังและศีรษะกระแทกผนังอย่างแรง พลันผ้าสีขาวสะอาดที่เขาถือไว้จะโปะลงมาบนจมูกกับปากผมแล้วกดไว้แน่นจนสะบัดหน้าหนีไม่ได้! ด้วยอารามตกใจทำให้ผมสูดลมหายใจทั้งทางปากและจมูกเข้าไปเต็มปอด กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนกึกจนผมมึนหัว ผมพยายามต่อต้านทั้งดิ้นทั้งเตะ ทว่าอาการเหนื่อยหอบมาเยือนเร็วกว่าปกติ ไม่รู้ว่าเพราะผมดิ้นมากไป หรือเพราะผ้าผืนที่กำลังปิดจมูกผมอยู่กันแน่

สมองสั่งการว่าอย่าสูดลมหายใจเข้าไปอีก แต่มันเป็นไปไม่ได้.. ผมต้องการอากาศหายใจ! เหมือนร่างใหญ่จะรู้ เขาคลายมือที่โปะผ้าลง แต่ยังไม่ละออกห่าง ผมที่ทนไม่ไหวทำให้สูดลมหายใจเข้าไปเต็มที่อย่างตระกุมตระกราม พลันร่างใหญ่ค่อยๆก้าวถอยหลัง ปล่อยผมเป็นอิสระ ทว่าผมกลับค่อยๆทรุดลงพื้น ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับมือ หูที่เคยได้ยินเสียงการต่อสู้เริ่มฟังไม่ชัด ผมฝืนลืมตาทั้งที่เปลือกตามันหนักอึ้งจนแทบจะลืมไม่ขึ้น วินาทีถัดมา จากที่เคยเห็นพื้นสีขาวเป็นภาพมัวๆ กลับเห็นเพียงสีดำสนิทพร้อมกับสติที่ดับวูบไปจนไม่รู้สึกตัวอีก...

 

 

ภาพที่ประเดประดังเข้ามาไม่หยุดทำให้รู้สึกทั้งมึนและปวดไปหมด เหมือนศีรษะกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ผมร้องไห้ แม่ตีผม.. เจ็บ เตอร์เข้ามาบังไว้ แม่ไม่รักผม ผมมีแต่เตอร์ อึ่ก.. ฮึก

ผมหลับตาแน่นสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่กำลังไหลจากดวงตา อยากจะยกมือขึ้นทุบหัวแรงๆเผื่อมันจะทุเลาอาการปวดนี้ได้ แต่ราวกับมือถูกตรึง ขยับไม่ได้เลยสักนิด! ภาพสีขาวที่แทรกเข้ามาทำให้แสบตาจนต้องหยีมอง ในสายตาเห็นพี่ริวกำลังต่อสู้ กรีดร้องทั้งน้ำตานองหน้า ฉากหลังคือลิฟต์สีดำที่ตัดกับผนังและพื้นสีขาว จากนั้น.. ผมไม่เห็นอะไรอีก พลันเสียงอื้ออึงที่ดังมาจากรอบด้านดึงให้ผมกลับมามีสติอีกครั้ง อาการปวดหัวยังไม่หายไป และเสียงอื้ออึงที่ได้ยินนั้นก็ราวกับทวีความดังเมื่อผมรู้สึกตัวมากขึ้น มันดังจนผมต้องยกมือปิดหู

เพียงแค่ผมขยับเสียงรอบด้านนั้นก็เงียบไปอึดใจ! เงียบจนราวกับว่าเมื่อครู่นี้ไม่เคยเกิดเสียงใดๆมาก่อน

ความแปลกใจก่อตัวขึ้นในใจ แยกแยะไม่ออกว่าผมกำลังอยู่ในโลกของความฝันหรือความจริง ผมค่อยๆสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อได้กลิ่นไม้เก่าๆ ผมค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ และกระพริบตาถี่เมื่อเห็นภาพตรงหน้าไม่ชัด เห็นเพียงเงาลางๆเป็นแท่งสีดำที่ตั้งระยะห่างกันอยู่ตรงหน้า

เมื่อสายตามองเห็นชัดขึ้น ผมก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตระหนก ก่อนจะผุดลุกขึ้นแล้วหันมองรอบตัวอย่างหวาดหวั่น

กรง

ผมถูกขังอยู่ในกรง!

เสียงอื้ออึงเมื่อครู่ที่เงียบไปแล้วกลับมาดังขึ้นอีกครั้ง ผมหันขวับไปมอง ก่อนจะตัวชาวาบเมื่อพบว่ามีสายตาหลายสิบคู่กำลังจ้องมองมา! ความกลัวพุ่งจู่โจมจนสั่นไปทั้งตัว ผมใช้มือดันพื้นกระเถิบตัวถอยหนี และหยุดชะงักเมื่อแผ่นหลังสัมผัสซี่เหล็กหนาและเย็นที่ตอกย้ำสภาพจนมุม

ผมยกสองขาขึ้นชันกับพื้นและกอดไว้แน่นด้วยสองแขน บดบังร่างกายตัวเองให้รอดพ้นจากสายตาหลายสิบคู่ที่เต็มไปด้วยความกระหายอยาก และตัณหา สายตาเหล่านั้นราวกับมองทะลุเสื้อผ้าครบชิ้นที่ผมสวมอยู่ ผมเลื่อนสายตามองคนที่จับจองเก้าอี้ด้านหน้าที่อยู่ต่ำกว่าพื้นไม้ที่ผมนั่งเล็กน้อย ทุกคนในนี้ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชาย มีทั้งคนสูงวัยและคนหนุ่มคละกันไป พลันสายตาสะดุดเข้ากับใบหน้าของผู้ชายเจ้าเนื้อ ใบหน้าส่อเคล้าความใจดี

เมื่อเห็นว่าผมมองอยู่ เขาก็ส่งยิ้มมาให้ ผมหลุบตาลงมองตามมือที่วางอยู่บนตักของเขาเมื่อเห็นว่ามันเคลื่อนไหว ลากต่ำลงไปตะปบยังเป้ากางเกง! ผมเบิกตากว้างเมื่อมืออวบรูดซิปกางเกงตัวเองลงแล้วควักเอาแก่นกายแข็งโด่ขึ้นมาแล้วสาวมือขึ้นลงต่อหน้าต่อตา!

ผมจิกเล็บลงกับขาตัวเอง หลบตาวูบมองไปที่อื่น ก่อนหัวใจจะเต้นรัวด้วยความดีใจเมื่อพบคนที่อยู่ในห้วงคำนึง

..พี่ริว

แต่การนั่งของพี่ริวดูแปลกๆ เหมือนคนไม่ได้สติ ผมเลื่อนสายตามองไปยังเก้าอี้ข้างตัวพี่ริว พลันหนาวเยือกไปทั้งร่างเมื่อสายตาประสานเข้ากับพี่แซมที่แสยะยิ้มส่งมาให้

ห้วงความคิดถูกขัดจังหวะเมื่อเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นผ่านไมโครโฟน ผมเบือนหน้าหันไปมองร่างสูงใหญ่ที่ยืนหลังแท่นบัลลังก์อยู่ข้างเวที

“สวัสดีครับ วันนี้ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทุกท่านตอบรับคำเชิญ มากันอย่างเนืองแน่นขนาดนี้” เขามองคนที่นั่งด้านล่างพร้อมรอยยิ้ม และพูดต่อ “อย่างที่ได้แจ้งไปแล้วว่าค่ำคืนนี้จะพิเศษยิ่งกว่าคืนไหนๆ เพราะว่าวันนี้นายใหญ่ได้นำสินค้าชิ้นพิเศษมามอบความบันเทิงให้กับผู้ชนะในค่ำคืนนี้ด้วยตัวเอง” สิ้นเสียง ทุกสายตาด้านล่างก็มองมาที่ผมอย่างพร้อมเพรียง ก่อนเสียงพูดคุยจะดังโขมงขึ้นอีกครั้ง

ตุ้บๆ

พิธีกรเคาะค้อนลงกับแท่นบัลลังก์เพื่อเรียกความสนใจจากแขกเหรื่อ ทำให้ภายในที่รโหฐานแห่งนี้กลับมาสงบเงียบอีกครั้ง

“ผู้ชนะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น การประมูลจะเริ่มขึ้นหลังจากจบการแสดงในอีกหนึ่งชั่วโมงให้หลัง” เขาเงียบไปชั่วครู่ เผยยิ้มมีเลศนัยแล้วพูดต่อโดยเพิ่มระดับเสียงให้ดังขึ้นเพื่อเพิ่มความตื่นเต้น “เวลาที่ทุกท่านรอคอยได้มาถึงแล้ว! ขอเชิญทุกท่านรับชมการแสดงที่นายใหญ่จัดเตรียมเอาไว้ได้เลยครับ!”

เกิดเสียงเฮขึ้นระลอกใหญ่หลังจากที่พิธีกรบนเวทีพูดจบและหลบฉากลงจากเวทีไป ผมมองตามแผ่นหลังของเขาที่หายลับไปในเงามืดอย่างตื่นตกใจ ก่อนจะหันวูบกลับไปยังที่พึ่งหนึ่งเดียว ...พี่ริวยังคงไม่ได้สติ

ไม่ได้ตั้งใจจะหันไปมอง แต่สายตามันเบนไปเอง.. เพราะที่นั่งของเขากับพี่ริวมันใกล้กัน ผมขมวดคิ้วกับสายตาไหววูบ ก่อนมันจะผละจากผม มองไปยังข้างเวทีแล้วจ้องนิ่งอยู่อย่างนั้นพลางเหยียดริมฝีปากยิ้มบางๆ

ผมหันไปมองตาม พลันเสียงฮือฮาที่ดังก้องจะเงียบลงชั่วอึดใจเมื่อข้างเวทีปรากฏชายร่างหนาผู้มีใบหน้าดุดันที่กำลังเดินเข้ามายังกลางเวทีแห่งนี้ช้าๆ ทุกย่างก้าวของเขาดูหนักแน่น น่าเกรงขามและไม่น่าไว้ใจ จนผมไม่กล้าถอนสายตา มองไปทางอื่น ด้วยกลัวว่า หากละสายตาเพียงเสี้ยวนาที ร่างนั้นจะโจนเข้าขย้ำจนไม่อาจยืนขึ้นได้อีก!

ฝีเท้าหนักหยุดยืนห่างจากกรงไปเพียงคืบ ไม่รุกล้ำเข้ามามากกว่านี้ ราวกำลังรอคำสั่งจากผู้เป็นนาย

ผมกระชับกอดตัวเองแน่นขึ้น ลำคอแห้งผาก พลางเหงื่อเย็นไหลไปทั่วร่างจนชื้นและครั่นเนื้อครั่นตัว ความกลัวที่มากกว่าความกลัวเกาะกุมไปทั่วร่างและจิตใจจนต้องเขยิบกายถอยหนีเบียดร่างเข้ากับซี่เหล็กเย็นๆ อย่างอับจนหนทาง

ไม่มีทางออก.. เป็นความจริงที่ผมตระหนักดี

ตอนนี้ผมพอจะเข้าใจ “การแสดง” ที่พิธีกรคนนั้นพูดถึงแล้ว..

 
ที่แห่งนี้ ราวโรงละคร

...คนด้านล่างคือผู้ชม

ส่วนผม... คือคนแสดง

 

ต้องทำยังไงถึงจะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ ต้องทำยังไง..

ผมเบะปากเมื่อคลื่นอารมณ์ตีตื้นพาลให้กระบอกตาร้อนผ่าว น้ำใสไร้สีทำท่าจะไหลออกจากเบ้าตาอยู่รอมแต่ แต่ผมพยายามกลั้น ไม่ให้มันไหลลงมาอย่างสุดความสามารถ

เตอร์เคยสอนไว้ เป็นลูกผู้ชายอย่าร้องไห้บ่อย ยิ่งต่อหน้าคนที่ทำให้รู้สึกกลัวยิ่งห้ามร้องไห้ เพราะการแสดงความอ่อนแอจะทำให้เขาได้ใจและเหยียบย่ำความเป็นมนุษย์ของเรามากขึ้น

ในความเงียบ ผมได้ยินเสียงดีดนิ้วราวเป็นสัญญาณอนุญาตจากใครบางคนเบื้องล่าง ..เสียงนั้นทำให้ใบหน้าดุดันเผยรอยยิ้ม เขาสืบเท้าเข้าใกล้ประตูเหล็กแล้วเปิดออกอย่างง่ายดาย ก่อนจะล็อกประตูขังตัวเองเอาไว้กับผมข้างในนี้

เสียงเฮด้านล่างยิ่งปลุกความกลัวของผมให้แตกฮือ! พอๆกับที่มันปลุกสัญชาติญาณดิบของอีกคนในนี้ให้ฉีดพล่าน

ผมสอดส่ายสายตามองไปข้างล่างเผื่อจะเจอคนใจดีที่พร้อมจะหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้..

แต่.. ไม่มี ผมพบเพียงรอยยิ้มและแววตากระหายอยาก สิ่งเหล่านั้นทำให้ผมหนาวสั่นไปทั้งร่าง!

เฮือก!!

ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อข้อเท้าถูกกระชากอย่างเร็วและแรงโดยไม่ทันตั้งตัว เขาออกแรงลากจนร่างผมเสียหลักไถลไปกับพื้นเย็นๆ ผมผวาพลิกกายคว่ำแล้วรีบคว้าซี่เหล็กเย็นเยียบจับไว้แน่นต้านแรงลาก พร้อมทั้งใช้ขาอีกข้างถีบมือหนาอย่างแรง ทว่าเขากลับไม่สะทกสะท้าน ยังดึงดันลากและกระชับข้อเท้าผมแน่นกว่าเดิมราวกับไม่รู้สึกอะไรต่อแรงถีบ

ลิ้นสีสดแลบเลียริมฝีปาก พลันโจนร่างคล่อมทับผมไว้ทั้งตัว ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อบั้นท้ายสัมผัสได้ถึงความร้อนโป่งนูนใต้ร่มผ้า

น้ำตาที่เคยเก็บกลั้นไว้แทบไหลออกมาอยู่รอมร่อ ภาพตรงหน้าพล่ามัวมองไม่ชัดเหมือนเคย

"ฮึก!" หลุดสะอื้นออกมาทันทีที่รู้สึกถึงสัมผัสชื้นแฉะของเรียวลิ้นที่ลากเลียใบหูสลับขบกัดก่อนจะลากต่ำ วนเวียนบริเวณต้นคอด้านหลัง ได้ยินเสียงทุ้มต่ำหัวเราะราวชอบใจก่อนมือใหญ่จะจับไหล่ผมดึงให้ตัวแอ่นไปด้านหลัง พลันมือหยาบเข้ากอบกุมหน้าอกพร้อมทั้งปลายนิ้วที่บีบขยี้ตุ่มไตอย่างแรงไร้ความปราณี!

"ฮึก!! ...ฮือออ" ผมร้องไห้ออกมาสุดเสียง มือปล่อยออกจากกรงเหล็กแล้วจับมือเขาดึงออก ทั้งจิกและข่วนเมื่อมันไม่หลุดง่ายๆอย่างที่คิด ซ้ำร้ายสัมผัสที่บั้นท้ายยังบดเบียดอย่างแรงผ่านเนื้อผ้าที่ขวางกั้นจนผม.. รู้สึกแปลกๆ

เป็นความรู้สึกเดียวกันกับที่พี่แซมเคยทำ!

"อย่า! ไม่เอา ฮึก!" ผมผลักไสสัมผัสนั้น ตะกายตัวจะคลานหนีทว่าน้ำหนักจากคนด้านบนที่ทาบทับไว้กลับมากเกินกว่าจะดิ้นหลุดได้!

มือหยาบรั้งเอวผมขึ้น พร้อมทั้งอีกมือที่ว่างวนเวียนอยู่ตรงขอบกางเกง ก่อนจะดึงทีเดียวลงมาอยู่ตรงโคนขา! ความเย็นสัมโอบล้อมผิวเนื้อและสัมผัสหยาบกร้านที่ลูบไล้หนั่นเนื้อทำให้ผมดิ้นแรงกว่าเดิม!

"เตอร์ ช.. ฮึ่ก ช่วยด้วย" ใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตา ชื่อพี่ชายเพียงคนเดียวหลุดจากริมฝีปาก ผมอยากให้เตอร์มาช่วย จะกลับบ้าน.. อึ่ก ..ก กลับบ้าน!





___________________________________________

TALK :: เจ้าข้าเอ๊ยยย มาแล้วค่าาา ต้องรออารมณ์ล้วนๆสำหรับเรื่องนี้ แต่งไปห้าหกเจ็ดรอบ ลบทิ้งหมด T_T  ขอบคุณที่ยังรอกันนะคะ มากอดทีๆ
ตอนแรกกะจะอัพ 100% เพื่อเป็นการขอโทษที่หายหน้าหายตาไปนาน แต่เอาเข้าจริง.. ไม่ไหวค่ะ มันลน 555
80% ก่อนเนอะ เพราะถ้ารออีก 20% กลัวจะเป็นการผิดสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะอัพวันนี้ 5555555
คิดถึงมากๆเลยยยย
เข้าไปพูดคุยกันได้นะที่แฟนเพจ NNEW ffy มีข้อสงสัยอะไรถามได้เลยยยย ชุ้บ <3
แล้วเจอกันจ้า  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-08-2013 00:03:57 โดย NNEW33 »

nuum

  • บุคคลทั่วไป
 :jul3:   ชอบมากที่สุด แรงได้อีกนะครับ
             เข้ามากดดูทุกวัน คนแต่งอย่าหายนาน นะครับ
             อีกเรื่อง เมื่อไรจะมาแต่งเพิ่มซักทีครับ อยากอ่านมากครับ :jul1:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
สงสารต้า  :sad4:

ออฟไลน์ paojijank

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ตาร์น่าสงสารอ่ะ จะรอดไหมเนี่ย พระเอกเรื่องนี้ก็หวังอะไรไม่ได้เลย ฮือออ

ออฟไลน์ kai_kaka

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 :hao5: :hao5:สงสารน้องต่ากับพี่ริว

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ถ้านี่คือชีวิตจริง คงเจ็บปวดมาก เจ็บปวดสุดๆที่ชีวิตบัดซบขนาดนี้

รู้สึกเลยว่า โลกใบนี้มันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดไว้ :katai1: :katai1:

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: ขอบคุณที่มาต่อนะคะ

koronekojung

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดกร๊าดดด มาซักที >,.< รอมานานแสนนานค่ะ o13
ต่อด่วนไม่ไหวแล้ววว

สงสารต้าอย่างบอกไม่ถุก ใครก็ได้ช่วยด้วยยย!!!   :ling1: :ling1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด