ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นทหาร ปีสองของสองคน ๒๐๐๑๒๕๖๓ ตอนที่๑๔/๒ หน้า๑๓๒
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นทหาร ปีสองของสองคน ๒๐๐๑๒๕๖๓ ตอนที่๑๔/๒ หน้า๑๓๒  (อ่าน 1061194 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
อย่าให้มหาต้องบ่นเดี๋ยวยาวววว



ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
มหาคงหมดความอดทนสินะเลยบ่นยาวเลย
แต่หมวดเต้ยป่วยบ่อยจริงๆ ต้องให้มหาฉีดยาแล้วล่ะ :z1:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
สมกับที่เป็น "มหา" สาธุ..... :call:

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
พี่บอมบ์เท่ ว่าแต่เอาปืนมาจากไหน

มหาเทศน์ซะ หงอกันเลย

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
เจอคำสอนของมหาเข้าไปเป็นไงละสองหมวด

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
สนุกทุกตอน อิจฉาอิน้องหนูทุกตอน

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
โชคดีของน้องเมย์ที่มาเจออาบอมบ์
ไม่งั้นแย่แน่

สองหมวดโดนมหาทั้งบ่นทั้งสอน จ๋อยเลย


ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
55555 ได้คิดตลอด....เห้ออออ สุขภาพสินะ!

ออฟไลน์ yokky34

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
เกลียดอิหมู่อาร์ตจริงๆ เบื่อมัน

แฝดน่ารักมากเลยลูก >\\\<

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
ตอนที่ ๔๔ ทำใจ

“ผู้หมวด เมื่อไหร่จะไปอาบน้ำ เงี่ยนแล้วเนี่ย”ผมกำที่เป้าโชว์ผู้หมวดพร้อมกับทำหน้าทะลึ่งทะเล้น

“วันนี้มึงไปชักว่าวเอาเองละกัน กูเหนื่อย กูเพลีย กูอยากเสียตัวเอ๊ยไม่ใช่ กูอยากนอน”

“ไรวะ งั้นไม่ต้องอาบ มาทำกิจกรรมในร่มผ้ากลากเกลื้อนก่อนเอ๊ย กิจกรรมบนเตียง มามะ”ผมทำปากจู๋ ยั่วเขาหน่อย

“มึงทำหน้าทำตาเหมือนพวกละครชิงรักหักสวาทนะบอมบ์ ทำอะไรก็ดูตัวเองหน่อย โตแล้ว”

“เออ ก็เพราะมันโตนี่แหละมันเลยอยาก เข้าใจป่ะ”

“กูเบื่อมึงจริง คืนนี้กูขอนอนนะบอมบ์ กูเพลีย กูไม่ไหว กูอีคึ กูอาบอจี กูอิเดสกา กูอิไต อ๊อก ไม่สัส ฆ่าฉันให้ตายเสียยังดีกว่ามันทรมาน”ผมแค่ล็อกคอผู้หมวดกระชากเข้ามาหาตัวเท่านั้นเองนะครับไม่ได้รุนแรงซะหน่อย

“เออ ก็มัวแต่อีคึ อีตับ อีไต นั่นแหละ เนี่ย เห็นป่ะว่าเป้าตุง เห็นป่ะ น่านะที่รัก เรามาจู๋จี๋สร้างโลกให้สดใส ด้วยการรณรงค์ลดโลกร้อนกันเถอะ”ผมทำสายตาออดอ้อน

“เฮ้อ ไม่ไหวๆ”ส่ายหน้าแต่ถามว่ายอมไหม ก็ยอมนะ ไม่หนัก ไม่เบา แค่เบาะๆ



สายๆหลังจากที่หยอกกับเมียก็ไปหยอกกับลูก เอ่อ เมียผมหยอกไปแล้วทั้งคืน มาหยอกกับลูกดีกว่า เจ้าตัวเล็กแสนซนดี๊ด๊าที่เห็นผม คือ คุณลูกครับช่วยดีใจให้น้อยลงหน่อยได้ไหม พ่อเบลอๆน่ะ นั่งหยอกกับลูกจนลูกหลับ ผมจึงแอบงีบอยู่ข้างๆ จนถึงบ่าย ๒ ลุกมาล้างหน้าล้างตากินข้าวแล้วมานั่งดูงาน ช่วงนี้ว่างเป็นไม่ได้ต้องติดตามผลงานของตัวเองครับ

“พรุ่งนี้เข้าวัดกันไหมแม่”ผมนั่งซ้อนหลังแม่บีบนวดเบาๆ แม่ถึงกับเคลิ้มเป็นไงล่ะ ฝีมือนวดของลูกชาย นี่ถ้าเอาดีด้านนวดคงไปได้สวย ฮ่าๆๆ

“แกจะเอาแม่ไปเผาเหรอ”แม่พูดขำๆ

“หือ พูดอะไร พาไปทำบุญ หรือว่าทุกวันนี้เข้าวัดไม่ได้แล้วมันร้อนเหรอ”

“แกก็พูดไป เออ จะว่าไปแม่ก็ไม่ได้เข้าวัดนานแล้วนะ ตั้งแต่แกมีลูกเนี่ยแม่ก็ไม่ค่อยได้เข้าวัดเลย นี่ถ้าแกไม่ชวนแม่กะว่าคงจะเข้าอีกทีตอนแกเอาแม่ไปเผา”

“ดูดิแม่ พูดอะไรไม่รู้ เป็นลาง”

“เป็นลางอะไรบอมบ์ แกต้องเข้าใจนะ ชีวิตแม่เนี่ยเป็นไม้ใกล้ฝั่งแล้ว จะล้มหายตายจากวันไหนก็ไม่รู้ ที่พูดเนี่ยเพราะแม่อยากให้แกเห็นว่ามันเรื่องปกติ คนเรามีเกิดก็ต้องมีแก่ พอแก่แล้วต้องมีเจ็บป่วยไข้ไม่สบายแล้วก็ต้องตายจากกันในที่สุด แกอย่าคิดว่าความตายเป็นเรื่องไม่ปกติสิ”

“ก็บอมบ์ยังไม่อยากให้แม่ไปไหนอ่ะ อยู่เลี้ยงหลานให้โตก่อน เนี่ย กำลังน่ารักเชียว”

“อือ แม่รู้ แต่แม่อยากให้แก่เผื่อใจเอาไว้ แม่แก่แล้ว จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนแม่ไม่รู้หรอก ใบไม้ที่แก่จนใบเหลืองแล้วสักวันหนึ่งมันก็ต้องหล่นลงมาสู่พื้นดิน ชีวิตคนเราก็เหมือนกันนะบอมบ์ ใหม่ๆก็เป็นใบอ่อน พอโดนแดดโดนฝนค่อยโตมาเป็นใบเขียว อยู่ไปนานๆมันก็จะเป็นใบเหลือง สุดท้ายโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ทิ้งเกมส์ให้คนที่อยู่ในสนามดำเนินต่อไป”

“ก็เข้าใจอ่ะแม่ ว่าคนเรามีเกิดก็ต้องมีตาย แต่มันก็อดใจแป้วไม่ได้ถ้าเกิดวันหนึ่งไม่เจอหน้าแม่ รักนะเนี่ย จุ๊บก่อน จุ๊บ”ผมยื่นหน้าไปจูบแก้มแม่ จูบเมียแล้วก็อย่าลืมจูบแม่นะครับ อย่าทะลึ่งไปแลกลิ้นล่ะ แม่ไม่ใช่เมีย แค่หอมแก้มเบาๆแล้วสัมผัสด้วยอ้อมกอดอันอบอุ่น มันก็สดชื่น

“อือ แกก็ต้องอยู่ได้แหละบอมบ์ แกอาจจะเศร้าช่วงแรก แต่พอเวลามันผ่านไปแกก็ต้องทำใจให้ได้ หรือทำใจตั้งแต่วันนี้”

“เฮ้อ เข้าวัดเยอะก็แบบนี้แหละแม่ เข้าใจธรรมะไปหมดทุกเรื่อง”

“ดูพูดเข้าสิ มันน่าตีเชียวเจ้าคนนี้ ไปคบกับมหา มหาไม่ได้ชวนคุยธรรมะธรรมโมบ้างเลยเหรอ วันๆเอาแต่เพ้อเจ้อน่ะสิ อย่าลืมนะบอมบ์ คนเก่งจริงๆน่ะเขาต้องเก่งทั้งทางโลก ต้องเก่งทั้งทางธรรม ต้องควบคู่กันไป”

“ก็พยายามทำความเข้าใจอยู่นะแม่”

“นี่ที่บวชมาพรรษาหนึ่งไม่มีอะไรติดตัวมาเลยเหรอ”แม่หันมามองหน้าผม ผมเคยบวชแล้วนะครับ บวชประมาณ ๕ เดือนกว่าๆ ได้นักธรรมตรีด้วยล่ะ

“มันก็มีบ้างแหละแม่ แต่ตอนนี้มันก็ลืมๆไปบ้างแล้ว ก็ไม่บอกให้บวชนานๆจะได้บวชเป็นเจ้าอาวาสไปเลย”

“หื้อ ปากงี้เก่งนักเชียว มันน่าตีไหมล่ะ อะไรที่มันดีๆอย่าลืมทบทวน เหมือนเรากินของดีๆ เราชอบกินบ่อยๆ สิ่งที่ดีๆเราก็ต้องเข้าหาบ่อยๆ เป็นคนดี...”

“มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตยใช่ไหมแม่”

“หื้อ เจ้าคนนี้ มันกวนแม่จริงๆ อ่ะๆ นวดต่อ”แม่หันหน้ากลับที่เดิมส่วนผมก็นวดแม่ต่อ แต่ชวนคุยเรื่องเรื่อยเปื่อย ปกติอยู่บ้านแม่ผมชอบเข้าวัดทำบุญนะครับ ถ้าวันพระก็จะไปถือศีล ๘ ที่วัด ทิ้งให้ผมนอนบ้านคนเดียว แล้วเรื่องงานบุญงานกุศลแม่ผมก็ไม่เคยขาด ใครบอกบุญอะไรที่ไหน ถ้าพอไปได้แม่ก็จะไป ถ้าไปไม่ได้แม่จะฝากเขาไป

“แล้ววันนี้ผู้หมวดไม่มาเหรอ”

“มาเย็นๆมั้งแม่ วันนี้คงนอนทั้งวัน สงสัยจะเพลีย”

“อือ ดูแลกันด้วยแล้วกัน อะไรที่บอกที่เตือนกันได้ก็หันหน้าเข้าหากัน”

“โดนมหาเทศน์ไปกัณฑ์หนึ่งอ่ะแม่ คงจะไม่ไปเที่ยวอีกนาน”

“อ่อ แล้วมหาเขาว่าอะไรบ้าง”

“คือหมวดเต้ยป่วยไงแม่ แล้วที่นี้ไม่ยอมกินข้าวกินยา พอบอมบ์ไป มหามันเลยโมโห รัวเป็นชุดจนหมวดเต้ยหมวดบูมหน้าหงอย”

“อือ ดีเหมือนกัน มหาคงผ่านอะไรมาเยอะพอสมควรแหละ แม่ว่ามหาก็ดีนะ เป็นคนมีหลักการหลักคิดที่ดี คนที่มีหลักเวลาเขวก็จะได้คว้าหลักเอามาเกาะ ส่วนคนไม่มีหลักพอเจออะไรที่ไม่ต้องการก็เป๋ไปเลย”

“ก็แล้วแต่เข้าจะเลือกเดินนี่แม่”

“ก็นั่นแหละ แต่เองก็เหมือนกันนะบอมบ์ อย่าดีแต่ปาก อย่าเก่งแต่คำพูด คนเก่งต้องพูดน้อย ทำเยอะ คนพูดเยอะมันทำงานไม่เป็นเพราะมันเป็นแต่พูด”

“ขอรับคุณหญิงแม่”





“แม่สวัสดีครับ”ผู้หมวดมาแล้วครับ หน้าตาเบิกบานสดใส

“สวัสดีค่ะผู้หมวด มาๆนั่งก่อน”แม่ตบที่โซฟา ส่วนแม่กับผมนั่งพื้นครับ นวดให้แม่เพลิน ลูกผมก็คงจะรู้งานยังไม่ตื่นครับ

“แฮะๆ นั่งพื้นก็ได้ครับ”

“นั่งบนเก้าอี้เถอะค่ะ ฮึ่บ พอแล้วบอมบ์ เดี๋ยวเกิดแม่ติดใจไปเที่ยวอาบอบนวดแล้วแกจะรู้สึก”ดูแม่ผมดิ วัยรุ่นซะไม่มี

“ไปถูกเหรอแม่”

“ให้ตาภีมพาไป ฮ่าๆๆๆ แปบนะเดี๋ยวแม่เอาน้ำมาให้”

“นี่คุณหญิง เชิญนั่ง เดี๋ยวบอมบ์บริการเอง แหม นวดให้หน่อยเนี่ยเส้นสายไม่ยึดเดินสะดวกขึ้นนะ”

“เออ แกก็น่าจะมานวดให้แม่บ่อยๆ อ่ะ นั่งก็นั่ง”จากนั้นแม่ก็นั่งคุยกับผู้หมวด หมวดบูมหน้าบานเชียวครับ แม่ลูกคู่นี้เขาคุยกันถูกคอ


“แอ อา”เจ้าตัวเล็กส่งเสียงขึ้นมาทำให้ผมที่กำลังสนใจงานต้องหันไปมอง อ้าว สุดหล่อของผมตื่นแล้วครับ

“ไง ตื่นแล้วเหรอ”ผมรีบอุ้มขึ้นมา ต้องอุ้มก่อนเดี๋ยวงอแงมันจะยาว

“แอ อือ แอะ แง”เอาแล้วจะร้องแล้ว แม่ผมไปอุ้มเจ้าซ่า ส่วนผมอุ้มแล้วแสบ รีบดูผ้าอ้อม จากนั้นก็เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ คงจะอึดอัด เปลี่ยนเสร็จลูกชายก็กลับมาอารมณ์ดี ตาใสแจ๋วยิ้มได้

“จ๊ะเอ๋”ผู้หมวดเอามือปิดหน้าทำท่าทางทะเล้นใส่ ลูกผมถึงกับหัวเราะคิกเลยครับ “แฮะๆ หัวเราะ งำๆ หมั่นเขี้ยววุ้ย”เอ่อ จะกินลูกผมเลยเหรอผู้หมวด เจ้าแสบยิ่งชอบใจเมื่อมีคนมาหยอกล้อด้วย จนถึงเวลาป้อนข้าว ไอ้ภูมิกับไอ้ภีมจึงมาช่วยป้อน

“อิ่มแล้วเหรอ หืม”พี่เบิ้ลอุ้มเจ้าแสบไป ส่วนเจ้าซ่าไอ้ภูมิกำลังชวนคุยอยู่ เลี้ยงลูกนี่ถือว่าเป็นภารกิจครอบครัวกันเลยทีเดียว

“อำๆ แอ อา”

“อ่อ อิ่มแล้วล่ะสิ”พี่เบิ้ลช่างเข้าใจที่ลูกชายมพูดเสียจริง คือขนาดผมเป็นพ่อผมยังไม่รู้เลย ฮ่าๆๆ หยอกล้อกันอยู่พักหนึ่งจึงไปนั่งกินข้าวมื้อเย็นกันพร้อมหน้าพร้อมตา ส่วนลูกผมนั่งดูแลอยู่ครับ ให้เขากินข้าวกันไปก่อน ผมกินทีหลังก็ได้



วันต่อมาเราพร้อมหน้าพร้อมตากันไปทำบุญที่วัด ตื่นแต่เช้ามืด พาลูกไปด้วย ผู้หมวดก็ไป งานนี้อิ่มอกอิ่มใจ แม่ผมหน้าบานเชียวครับ อย่างว่าไม่ได้เข้าวัดเข้าวานานแล้ว กว่าจะกลับบ้านก็เกือบเที่ยงครับ อยู่นานไม่ได้ครับไม่กล้าพาลูกไปตากแดดตากฝนนานๆ เกิดป่วยขึ้นมาจะเดือดร้อนกันทั้งบ้าน

“จะออกไปเที่ยวไหนก็ได้นะบอมบ์”แม่พูดอนุญาต

“ว่าจะขอพอดีเลย เดี๋ยวเย็นๆกลับนะแม่ ที่รัก พ่อไปข้างนอกแปบนะ เดี๋ยวซื้อของมาฝาก”ผมก้มไปพูดกับลูกชาย ไม่มีสนใจกันเลยสักนิด ล่ำลาพอเป็นพิธีจึงขับรถไปหามหาที่บ้านหมวดเต้ย


“มหา ไปเดินเล่นกัน”เข้าไปในบ้านเห็นมหาทำหน้าเซ็งอยู่หน้าจอทีวี

“เออ กำลังเซ็งพอดีเลยว่ะ อยู่บ้านเฉยๆไม่มีอะไรทำนี่มันน่าเบื่อนะ”

“หมวดเต้ยไปไหน”

“อาบน้ำอยู่”

“เหรอ หายดียังวะ”

“หายแล้ว หมวดบูมไม่มาด้วยเหรอ”

“ไม่ว่ะ อยู่เลี้ยงลูกให้กู ชวนแล้วไม่ยอมมา ตอนนี้ลูกกูคะแนนนำโด่ง”

“อือ ลูกพี่ครับ เสร็จยัง ไอ้บอมบ์รออยู่”ไอ้มหาตะโกนเรียกหมวดเต้ย สักพักหมวดเต้ยจึงเดินลงมาด้วยชุดสบายๆ กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดสีเทาอ่อน

“หาไรกินก่อนบอมบ์ กูหิว”โอเค ตามใจเขา ขับรถออกจากบ้านไปหาไรกินที่ร้านอาหารเล็กๆกินกันจากนั้นไปเดินห้าง ไม่ได้เดินนานแล้วเกือบๆปีเห็นจะได้

“คนเยอะฉิบหายเลยว่ะ มันไม่มีที่ไปหรือไงวะ”ไอ้มหาตะลึง เออ ลืมไปมันไม่เคยเดินห้างสรรพสินค้า

“ทุกวันนี้เขาเดินกันแบบนี้แหละมหา มึงอย่าเชย”หมวดเต้ยพูด

“ไม่เคยมาเดินนี่หว่า แสดงว่ามันต้องมีอะไรดีแน่เลยถึงได้มาเดินกัน”ไอ้มหาทำหน้าครุ่นคิด

“มีดีเยอะ มึงจะมาซื้ออะไรล่ะ อยากได้เสื้อผ้า มือถือ รถยนต์ จะหาผัว หาเมีย ขอแต่งงาน เซอร์ไพรส์วันเกิด”

“ทำได้ถึงขนาดนั้นเชียวเหรอวะ เออ สังคมมันเปลี่ยนไปมากแฮะ เออ เยอะเลยว่ะ มิน่าล่ะเขาถึงได้มากัน แอร์ก็เย็น คนก็เยอะ ของก็แยะ อย่างที่มึงว่าเลยบอมบ์”ไอ้มหาสาธยาย จากนั้นก็เดินดูข้าวของไปเรื่อยเปื่อย ไม่รู้จะซื้ออะไร ข้าวของที่มีก็พอใช้แล้ว

“อยากได้ตัวไหนไหมตวง กูซื้อให้”หมวดเต้ยถามไอ้มหา

“ไม่เอาหรอกครับผู้หมวด ซื้อไปไม่ค่อยได้ใส่จะซื้อไปทำไม อีกไม่กี่วันก็จะกลับค่ายแล้ว”

“กูคิดออกแล้วว่ากูจะซื้ออะไร ป่ะบอมบ์”ไอ้มหารีบลากผมกับหมวดเต้ยไปทันที ไม่ใช่อะไรที่ไหนครับ ร้านหนังสือ ที่จริงที่ผมชวนมาก็กะว่าจะมาซื้อหนังสือนะครับ แต่ขอเดินเล่นก่อน พอเข้าไปในร้านหนังสือต่างคนต่างแยกย้ายกันไปตามมุมต่างๆ ผมแวะมาที่โซนหนังสือธรรมะ จะซื้อไปฝากแม่ หยิบมาหลายเล่ม จากนั้นก็ไปโซนบริหารธุรกิจ จิตวิทยา และอื่นๆ หยิบมาโซนละหลายเล่ม รวมๆแล้วตอนนี้ กูว่ากูซื้อเยอะไปไหม ฮ่าๆๆๆ ส่วนที่เหลือไม่ต้องสืบครับ หมวดเต้ยนี่ก็ปาไปไม่ต่ำกว่า ๑๐ เล่ม ไอ้มหาอีก ๕ เล่มมั้ง

“ซื้อเยอะไม่ไหว กลัวอ่านไม่ทัน โห ถ้ามึงจะซื้อขนาดนี้ไอ้บอมบ์ จะเอาไปสร้างห้องสมุดที่บ้านรึไง”ไอ้มหามองกองหนังสือที่พนักงานกำลังห่อพลาสติกให้

“เอาไปฝากแม่ด้วย”จนพนักงานห่อเสร็จเรียบร้อยจ่ายตังค์ หนักเหมือนกันนะเนี่ย จากนั้นก็กลับบ้านกัน ถือว่าเวลาพักผ่อนหมดไปแล้ว ไปส่งมหากับหมวดเต้ยที่บ้านจากนั้นจึงกลับบ้านของตัวเอง ไปถึงเห็นหมวดบูมหลับอยู่ข้างๆลูกของผม อีกข้างก็เป็นไอ้ภีม คงจะเหนื่อยกันน่าดู


“กลับมาแล้วเหรอ”ผู้หมวดลืมตาขึ้นกลิ้งตัวมาใกล้ๆผม

“ครับ”

“ซื้อมาเก็บหรือซื้อมาอ่าน เยอะเชียว”

“ซื้อมาอ่านสิครับ สมองจะได้พัฒนา”

“อือ”

“อยากเหรอ ตุงเชียว”ผมคลำที่เป้าผู้หมวด

“ไอ้เหี้ย จะบ้าเหรอ ปกติของผู้ชายเว้ย เล่นไม่รู้ที่แล้วมึง”

“หึหึ คิดว่ามีอารมณ์ซะอีก”

“มีอารมณ์เหี้ยอะไรล่ะ กูไม่ได้คิดหื่นเหมือนมึงตลอดเวลานี่หว่า เอะอะก็จ้องจะชวนกูทะลึ่ง”

“แล้วชอบไหมล่ะ”

“ไอ้เวร ไม่ชอบเว้ย แต่กูยอมมึงเฉยๆ”เอ่อ ตกลงว่าพี่ท่านชอบหรือไม่ชอบวะ ช่วยไขความให้ผมกระจ่างที

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
หมวดบูมไม่ชอบแต่ยอมทุกครั้งเลยนะ :z1:
แสบซ่าร์ทำคะแนนนำหน้าบอมบ์แล้ว 5555
แต่แสบซ่าร์น่ารัก หมวดบูมเลยหลงแบบนี้

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
 :hao6: ไม่ได้ชอบ แต่ยอมเฉยๆ
มันก็หื่นพอกันแหละ

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ kapook_koopak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เริ่มน่ารักแล้วอ่ะน้อแสบน้องซ่าเนี่ย ทำคะแนนเผื่อพ่อใช่มะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ทิวสนที

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
น่ารักๆๆๆๆ
หมวดบูมไม่ชอบแต่ฟินตลอดอ่ะ

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
แล้วยอมเฉยๆที่ว่านี่มีเคลิ้มบ้างมั้ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 o13 สนุกทุกตอนเลย ขอบคุณมาก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
บอมบ์หื่นได้ตลอดเวลาจริงๆ

ออฟไลน์ Pine_apple

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
พี่บอมบ์หื่นตล้อดดดดดดดด แต่ก็ชอบบบบบบบ :hao6:

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :m31: อ๊ากกกก..อ่านแล้วติด..ไปไหนไม่ได้เลย.. :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
ตอนที่ ๔๔.๒

“ผู้หมวดครับ ปกติวันหยุดนี่ผู้หมวดไปเที่ยวไหนอ่ะ”

“ไม่ได้ไปไหนนะ อยู่บ้าน ซักผ้า ทำไมเหรอ”

“แล้วไม่มีสังคมอะไรกับเขาเลยเหรอ”

“ไม่รู้จะไปไหน ต่างคนต่างมีหน้าที่อ่ะ ที่สนิทกันก็มีแต่ไอ้บูม ช่วงก่อนหน้าถ้าว่างๆกูกับไอ้บูมชอบไปว่ายน้ำ เล่นกีฬา แต่หลังจากที่กูไปฝึกอยู่ ๓ เดือนก็ไม่ค่อยได้ไปไหนเลย”

“อ่อ”ผมพยักหน้าเบาๆก่อนจะอ่านหนังสือของตนเองต่อไป ความสุขอย่างหนึ่งนอกจากได้กุ๊กกิ๊กกับหมวดเต้ยก็คือการอ่านหนังสือนี่แหละครับ ผมว่ามันดีนะครับ เราได้ความรู้ต่างๆนานา เผอิญว่าผมไม่ค่อยได้ใช้อินเตอร์เน็ตอะไรกับเขาน่ะเลยขลุกอยู่แต่กับหนังสือซะส่วนใหญ่ หมวดเต้ยก็ไม่เบาเหมือนกันนะครับชอบอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ

“ไม่มีอะไรทำก็อย่ามากวนกูดิวะ”หมวดเต้ยพูดเสียงขุ่นใส่ เออ ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยแค่มานั่งซ้อนหลังแล้วกอดไว้หลวมๆเท่านั้นเอง ไม่ได้กวนอะไรมากมายเลยนะครับ

“อ่านไปเถอะน่า ผมไม่แกล้งหรอก กอดเฉยๆ ไม่ทำอะไร”

“แต่กูไม่มีสมาธิ”

“ทำไมอ่ะ ผมก็ยังไม่ได้ล้วงจับอะไรตรงไหรสักหน่อยนี่นา”

“กูไม่รู้ อยู่ใกล้มึงทีไรกูมีอารมณ์ทุกที”

“ฮันแน่ ที่แท้ก็ขี้เงี่ยนเหมือนกันนี่หว่า”

“กูขี้เงี่ยนที่ไหน ไม่ใช่เว้ย แต่กูไม่รู้ กูอยู่ใกล้มึงกูชอบมีอารมณ์ เหี้ยเอ๊ย ปล่อยกูก่อนเถอะนะครับ ขอร้อง”หมวดเต้ยทำหน้าตาอ้อนวอน

“ฟอด กอดก็ไม่ได้ งั้นไม่กวนละ”ผมปล่อยให้ผู้หมวดตั้งใจอ่านหนังสือต่อไป ส่วนผมลงไปด้านล่างหาอะไรทำก๊อกๆแก๊กๆ


“ขอโทษนะครับ พี่ครับมีค้อนไหมครับ”ระหว่างที่หาอะไรทำอยู่ริมรั้วของบ้าน เพื่อนบ้านหน้าหล่อทักขึ้นมาท่ามกลางอารมณ์สุนทรีย์ของผมทำให้ผมสะดุ้งนิดหน่อย พอเงยหน้าไปมอง หนุ่มหน้าใส ตาตี๋ๆ ใส่แวน จัดฟัน คือมึงจะอารมณ์ดีไปไหนยิ้มให้กูเหมือนขอรางวัลนางสาวไทยเลยว่ะ

“ค้อนเหรอ อืม มีครับ”

“เอ่อ งั้นผมขอยืมหน่อยได้ไหมครับ”

“ได้ๆ เดี๋ยวแปบนะ เดี๋ยวผมไปเอามาให้”ผมยิ้มให้แล้วเดินเข้าไปในบ้านแล้วไปหาค้อนมาให้เพื่อนบ้าน

“ขอบคุณครับ”เขายิ้มให้ ผมก็ยิ้มตอบ จากนั้นก็ดูแลต้นไม้ที่ริมรั้วต่อครับ ตอนนี้เพิ่งจะบ่ายโมงกว่าๆ แดดไม่ค่อยแรงดูเหมือนจะครึ้มฟ้าครึ้มฝน ถอนหญ้าอยู่ครู่หนึ่ง เพื่อนบ้านก็มาเรียกผมอีกครั้ง

“พี่ครับ เอ่อ ผมรบกวนหน่อยได้ไหมครับ คือผมจะใส่หลอดไฟอ่ะแต่ไม่มีคนจับให้ ผมขอรบกวนพี่หน่อยได้ไหมครับ”

“อ่อ ได้ๆ”ผมเองก็เรียกง่ายใช้คล่อง รับปากไปช่วยเขาทันที

“ขอบคุณมากเลยนะครับ คือ ผมพยายามแล้วแต่บันไดมันสั่นๆ ขอโทษที่ต้องรบกวนนะครับ”

“ครับไม่เป็นไร”ผมยิ้มให้จากนั้นก็จับบันไดให้เขา อ่อ จะเปลี่ยนเป็นหลอดสีนวล ปกติมันจะสีขาวจ้าไง เขาเลยจะเปลี่ยนเป็นสีนวลไข่ไก่อะไรสักอย่างนี่แหละ “เพิ่งย้ายมาเหรอครับ ผมไม่เคยเห็น”

“อ๋อ ใช่ครับ อ๊ะ”เขาพยักหน้า แต่ทำไมดูขามันสั่นๆ สงสัยกูคงต้องทำให้

“ลงมาเหอะ เดี๋ยวผมทำให้ครับ ดูท่าไม่ค่อยถนัด”

“อ่ะ ไม่เป็นไรครับ”

“น่า เชื่อผม เดี๋ยวผมติดให้”ผมพูดอีกครั้งเขาจึงลงมา แล้วผมก็ขึ้นบันไดหยิบหลอดไฟจากมือของเขาแล้วติดใหม่อย่างทะมัดทะแมง ระหว่างติดก็ถามเขาไปด้วยครับ คนนี้ชื่อฝิ่น เป็นหมอจบใหม่เลยครับ ยังไม่ได้รับปริญญา มาซื้อบ้านหลังนี้แล้ววันนี้ก็เพิ่งจะย้ายเข้า เลยจะปรับปรุงบ้านนิดหน่อยครับ ติดม่าน ติดหลอดไฟอะไรของเขา ผมเห็นผลงานเขาทำก็ถือว่าตกแต่งไปเยอะแล้ว น่าจะเหลือแค่หลอดไฟมั้ง

“เรียบร้อย”ผมพูดหลังจากลงจากบันไดเหล็ก

“ขอบคุณมากเลยนะครับ”เขายกมือไหว้ผม

“ครับๆ ไม่เป็นไรครับ ช่วยๆกัน”

“เอ่อ ถ้าไม่รังเกียจยังไงเย็นนี้ผมขอเลี้ยงข้าวได้ไหมครับ”

“ออ ไม่เป็นไรครับ ถือว่าช่วยเหลือกัน”

“นะครับ”เขายิ้มให้อีกครั้ง เอาไง ใจอ่อนเลยพยักหน้าไปครับ

“ครับ งั้น เดี๋ยวตอนเย็นผมจะไปเรียกนะครับ ขอบคุณมากครับ”เขายกมือไหว้ผมอีกครั้ง ผมยกมือไหว้แล้วเดินกลับบ้านแบบงงๆ ผู้ชายคนนี้น่ารักดีนะ หึหึ


“ไปไหนมาเหรอมหา”หมวดเต้ยเดินลงมาใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียว โชว์ซิกแพคและขนรำไรที่ขึ้นลามตั้งแต่จุดเร้นลับจนเลยสะดือเล็กน้อย

“ไปบ้านข้างๆเราอ่ะ มีคนย้ายมาอยู่ใหม่ เขาใช้ผมให้ไปช่วยเปลี่ยนหลอดไฟน่ะ อ่านหนังสือจบแล้วเหรอ”ผมเดินเข้าไปกอดหมวดเต้ย

“จบตอนแต่ไม่จบเล่ม ตัวเหนียวนะมึง ว่าแต่ข้างบ้านเราเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายวะ”

“ผู้ชาย น่ารักนะผู้หมวด ขาวๆ ตี๋ๆ ใส่แว่น จัดฟัน น่าจับฟัด”

“หื่นไปไหมมึง กูยืนอยู่ตรงหน้าทั้งคนนะ”

“หือ ผมชมไปงั้นแหละครับ เขาน่ารักก็จริงแต่ผมไม่ได้พูดนี่ว่าผมสนใจเขา ตอนนี้ใครก็สู้ผู้หมวดไม่ได้หรอก ผมชอบแบบนี้แหละ มีกล้าม เนื้อแน่นๆ ก้นแน่นๆ ขาแข็งแกร่ง เตะผมทีนี่คงกระเด็น”พูดไปก็จับตามหัวไหล่ตามบั้นเอวหมวดเต้ย หมอฝิ่นเขาน่ารักก็จริงแต่ว่าไม่ฟิต เนื้อคงจะนิ่มๆ ไม่ชอบอ่ะ ผมชอบแกร่งๆแบบผู้หมวดมากกว่า

“เออ มึงไม่ชอบงั้นกูจีบ ดีไหม เอามาเป็นกิ๊กเวลามึงไม่ได้ลา กูก็จะได้ไปกุ๊กกิ๊กกับเพื่อนบ้าน”

“นี่ อย่าพูดแบบนี้ดิ มันมีแนวโน้มความเป็นไปได้สูงนะ เฮ้อ กูกังวลแล้วเนี่ย ขนาดว่าทำงานที่เดียวกันยังไม่ค่อยเจอหน้ากัน แล้วนี่กลับมาอยู่บ้าน เวลาตั้งแต่ ๖ โมงเย็นยัน ๖ โมงเช้า กูไม่ได้รับรู้อะไรเลยนะเนี่ย”

“ล้อเล่นหรอกน่า มึงเห็นกูเป็นคนหลายใจขนาดนั้นเลยเหรอ กูจะบอกให้นะมหา กูรักใครกูรักจริง ถ้ากูไม่รักมึงจริง กูไม่ปล่อยให้เวลาผ่านมาจนถึงป่านนี้หรอก กูไม่ได้อวดตัวนะ แต่มึงมองดูคนหน้าตาแบบกู ยศตำแหน่งการงานแบบกู กูมีทางเลือกเยอะ แต่กูไม่เลือกใคร กูเลือกมึง กูชอบมึง มึงกวนตีนดี เวลากูอยู่ใกล้มึงกูก็ชอบมีอารมณ์ มันไม่เหมือนคนอื่น”หมวดเต้ยอธิบาย กูยิ้มได้แล้ว

“โอเค ผมไว้ใจหมวดเต้ย เนอะๆ เพราะเราคู่กัน พรุ่งนี้หมั้น มะรืนแต่งงานกันเลยไหม”

“ไปไกลแล้วมึง เอาวันนี้ให้รอดก่อนเหอะ”

“ผมว่าผมไปอาบน้ำดีกว่า เหนียวตัว เออ ผู้หมวดครับ หมอเขาจะเลี้ยงข้าวผมนะ ไปด้วยกันนะครับ”

“อือ ก็ดี กูจะได้รู้จักเขาด้วย ผูกมิตรเอาไว้ เออ เดี๋ยว กูอาบด้วยดิ ขี้เกียจอาบเอง เสียเวลา”จากนั้นก็เข้าไปอาบน้ำด้วยกัน เปิดน้ำลงอ่างแล้วแช่ตัว มันจะมีพวกฟองสบู่ด้วยนะ เกิดมาผมก็ไม่เคยใช้หรอกไอ้พวกแบบนี้ เพิ่งจะมาใช้กับหมวดเต้ย หมวดเต้ยนั่งแช่ฝั่งตรงข้ามท่ามกลางฟองสบู่

“ผู้หมวดเคยไปแช่น้ำพุร้อนไหม”

“เคย ปีที่แล้วไง กูไปเที่ยวญี่ปุ่น แล้วไปนั่งแช่”

“อ่อ แล้วต้องแก้ผ้าหมดเลยเหรอ”

“อือ วัฒนธรรมเขาเป็นแบบนั้นไง เขาไม่อายหรอก เหมือนที่พวกมึงแก้ผ้าอาบน้ำที่กองร้อยนั่นแหละ”

“แล้วผู้หมวดไม่อายรึไง”

“ไม่นะ เฉยๆ กูชินแล้ว หรือตอนนี้มึงอายกู”

“ก็ไม่นะ”ผมส่ายหน้า เรื่องแก้ผ้าอาบน้ำนี่ผมไม่ค่อยอายเท่าไหร่ ใหม่ๆนี่อายม้วนต้วนเลยครับ ไม่มั่นใจตัวเอง พอคนนี้เขาถอดคนนั้นเขาถอด เออ เขาก็มีเหมือนกูนี่หว่า แล้วกูอายอะไร มองซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นจะมีจวยของใครคนไหนมีข้อเหมือนข้อไม้ไผ่ เป็นแท่งยื่นออกมาเล็กสั้นยาวหนาหมอยรกหมอยปกคลุมหมอยรุ่งริ่งหมอยรุงรัง บางคนขนดกลามไปยังขนตูด ไม่มีอะไรแตกต่าง สุดท้ายเลยเลิกอาย

หยิบฟองน้ำมาแล้วดึงหมวดเต้ยให้หันหลังมาหาผมจากนั้นก็ถูไถตามเนื้อตัว ถูไปคุยเรื่องตลกๆกันไป ไอ้เรื่องที่โม้กันก็เป็นเรื่องในกองร้อย คือมันมีเรื่องราวเยอะมากในแต่ละวันอ่ะครับ คนมันเยอะเรื่องมันก็เยอะ ส่วนใหญ่ทหารมันขึ้นกองร้อยแล้วจะทำตัวตลกๆกันครับ เพราะผู้บังคับบัญชาเขาชอบความตึงเครียด ไอ้เรามันไม่ชอบความตึงเครียดอยู่แล้วเลยต้องหาเรื่องตลกๆมาถ่วงดุล แต่ก็มีผู้บังคับบัญชาบางคนใจดีมากนะครับ อย่างจ่าที่ผมไปอยู่คลังอาวุธด้วย แกโคตรใจดีเลยครับ ถึงแม้ว่าแกจะเก๋าจะกวนกับคนอื่นแต่กับลูกน้องนี่ แกให้ใจเต็มที่ชอบเล่าเรื่องตลกให้ฟังบ่อยๆ เวลาทำงานผมเลยไม่เครียดไง

“มหา วันนี้มึงไม่มีอารมณ์หรือไงวะ วันนี้แปลกๆ ปกติเวลากูอาบน้ำกับมึงทีไร กูไม่เคยรอดเลยนี่หว่า เฮ้ย หรือว่ามึงจะไปล่อกับไอ้มหอเพื่อนบ้านนั่นน่ะ”

“บ้า คิดไปไกลแล้วผู้หมวด เพิ่งจะรู้จักกัน เขาหน้าขาวสดใสก็จริงใช่ว่าจะมีรสนิยมแบบนี้นี่ครับ”

“ก็กูเห็นมึงแปลกๆ”

“เดี๋ยวคืนนี้ทบต้นทบดอกดีกว่าครับ ผมลามาตั้ง ๕ วันแล้วผู้หมวดมัวแต่ไม่สบาย นี่คงหายดีแล้วใช่ไหมผมจะได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคขาดผัว”

“ไอ้สัส”

“พูดแล้วก็จัดเลยดีกว่า หึหึ”ผมดึงผ้าเช็ดตัวหมวดเต้ยออกแล้วผลักให้ล้มตัวลงบนเตียงจากนั้นก็..... ตัดไปที่โคมไฟหน้าบ้านแล้วกัน

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
“ต่ออีกไหม ดูทำหน้าเข้าสิ”มองหน้าอันเย้ายวนของผู้หมวดก่อนจะถามเบาๆ

“พอเหอะ ถ้าต่ออีกกูขาถ่างพอดี เอาออกได้แล้วมั้ง สัส แข็งตลอด”

“จุ๊บ”จูบทั่วใบหน้าแล้วส่ายเอวเบาๆ

“หือ เหี้ย อือ มึงจะควงทำเหี้ยไรวะ ซี้ด”หมวดเต้ยพูดเสียงสั่น

“อ๊ะ เอาคืนเหรอ อูย ซี้ด แม่ง กูว่าจะพอแล้วนะเนี่ย จะขมิบทำเหี้ยไรวะ”ว่าจะเอาออกอยู่แล้วเสือกมาขมิบ ตอดลำกูฉิบหายเสียววูบไปทั่วหน้าท้องจากนั้นไม่ต้องสืบ เดินขาถ่างไม่ต้องมาโทษกูนะ


“คราวนี้พอแล้วจริงๆนะมหา มึงชอบชวนกูเตลิด สัส เห็นกูยอมหน่อยไม่ได้เลยนะมึง”

“ครับ ไม่ต่อแล้ว ก็เมื่อกี้ผู้หมวดแกล้งผมนี่ ถ้าไม่แกล้งผมก็ไม่ทำหรอก”เอาจวยออกจากรู เอางูออกจากถ้ำแล้วไปอาบน้ำกันอีกรอบ ไม่ต่อนะครับ เหนื่อย

กางเกงขาสั้นกับเสื้อกล้ามตัวบางๆ หมวดเต้ยใส่กางเกงในแล้วนอนบนเตียงคงจะเพลีย กูจะไปกินข้าวกับไอ้เพื่อนบ้านไหมนะ ผมคลานขึ้นไปนอนตะแคงเข้าหาผู้หมวดแล้วโอบเอวเบาๆ

“วันนี้จะออกไปไหวไหมครับ ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวยังไงผมจะไปบอกหมอว่าจะขอเลื่อนนัดหรือไปยกเลิก”

“ไหวๆ กูโดนมึงเอานะไม่ได้ไปโดนระเบิดที่ไหนมา ขอกูพักเอาแรงสักแปบดิวะ แข้งขากูอ่อนไปหมดแล้วเนี่ย นวดให้หน่อยดิ”

“ผมว่าผมไปเลื่อนนัดเขาดีกว่านะครับ”ยื่นปากไปใกล้ๆกับหมวดเต้ยแล้วจูบเบาๆ

“ไม่ต้องหรอก กูไม่ได้พิการสัส นวดขาให้หน่อยมหา”ผมทำตามคำสั่งแต่โดยดี นวดไปเล่าเรื่องตลกไป จนเวลาเกือบๆ ๖ โมงเย็นก็มีเสียงกดกริ่งหน้าบ้าน สงสัยคุณหมอจะพร้อมแล้วมั้ง ผมจึงเดินลงไป ใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียว เสื้อถอดทิ้งไว้แล้ว ลงไปเปิดประตูให้ หมอฝิ่นจริงๆด้วย

“สวัสดีครับหมอ”ผมชิงทักก่อน หมอฝิ่นไม่กลามองหน้าผมเลยครับ มองไปด้านล่างอย่างเดียวแล้วก่อนจะทำหน้าขวยเขิน

“อ่ะ เอ่อ สวัสดีครับ คือ ผมมารับไปทานข้าว เอ่อ”ไม่กล้ามองหน้ากู เขินแบบนี้ ถึงกูไม่ค่อยเจนโลกแต่กูก็กำลังคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาเขินกูแน่นอน

“แปบนึงนะครับ ขอแต่งตัวแปบ ขอโทษที่ไม่สุภาพนะ แปบนะครับหมอ ผู้หมวดครับ ไปกินข้าวกันครับ”ผมตะโกนบอกผู้หมวดแล้วเดินไปหาชุดมาใส่ เสื้อยืดคอวีสีน้ำตาลอ่อนกับกางเกงขาสั้นสีดำ ส่วนหมวดเต้ยใส่เสื้อแขนกุดสีฟ้ามีลายเป็นริ้วๆนิดหน่อยกับกางเกงขาสั้น ลงไปด้านล่างหมอฝิ่นทำหน้าเลิ่กลักใหญ่เลยครับ

“ขอโทษที่ให้รอนะครับหมอ ผมพร้อมแล้ว ป่ะ”ผมกล่าวขอโทษ

“ครับๆ ไปครับ”หมอถึงกับก้าวขาไม่ออก

“หมอเป็นไรเหรอ”ผมสะกิดเรียกหมอเบาๆ

“ปะ เปล่าครับ เอ่อ ครับ”ครับแต่เดินเหมือนคนเสียเส้น ขนาดหมวดเต้ยเพิ่งโดนผมจัดการยังเดินปกติเลยทำไมหมอยังไม่โดนอะไร ทำไมถึงก้าวขาไม่ออก กว่าจะออกจากบ้านได้หมอก็ทำหน้าตาตื่นๆอยู่ตลอดเวลา ไปถึงร้านอาหารไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่นัก สั่งอาหารหลายอย่าง ตอนนี้หมอดีขึ้นแล้วคุยโต้ตอบได้ปกติ

“กินเยอะๆนะหมอ จะได้โตไวๆ”ผมตักกับข้าวให้หมอ ตัวผอม ขาวซี้ดแบบนี้จะมีแรงไปรักษาใครไหมวะ

“อ่า ขอบคุณครับ”

“กินเยอะๆนะครับผู้หมวด จะได้โตไวๆ”

“สัส”

นั่งกินครึกครื้นเฮฮา กินกันแบบสบายๆ รู้อะไรเกี่ยวกับหมอเยอะเลย หมอเป็นลูกคนเล็กจากพี่น้อง ๒ คน เพิ่งเรียนจบใหม่ แม่เลยซื้อบ้าน ซื้อรถให้เป็นของขวัญ หมอยังโสดนะครับ ไม่เคยมีแฟน กูมองๆดู อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ กูว่าหมอชอบผู้ชายหรือเปล่าวะ ด้วยความปากจังไรของผม

“หมอ หมอชอบผู้ชายเหรอ”กระซิบถามที่ข้างหูเบาๆพอให้เขาจักจี้

“เอ่อ คือ ไม่ใช่ครับ”

“จริงเหรอหมอ”โอบเอวหมอ นิ่มดี ตัวนุ่มๆเหมือนเมียไอ้ศักดิ์ที่กูเคยขอหอมแก้มเลยว่ะ

“จะ จริงครับ”

“แต่ผมว่าหมอน่ารักนะ หมอไม่ชอบผู้ชายจริงๆเหรอ”

“ก็ เอ่อ”

“จุ๊บ หมอน่ารักนะเนี่ย”หอมแก้มหมอเบาๆ ตรงนี้พนักพิงของเก้าอี้เขาทำสูงท่วมหัวเลยครับ แล้วใกล้ๆกันก็จะเป็นต้นไม้ คงไม่มีใครเห็น เห็นไม่เห็นผมไม่รู้ กูขอหยอกไว้ก่อน

“ไอ้สัส เขาไม่เป็นยังจะไปบังคับเขา”ผู้หมวดเขกหัวผมดังโป้กเลยครับ

“แฮะๆ ก็สงสัยนี่หว่า ขอโทษที่เสือกนะหมอ แต่หมอแม่งน่ารัก”

“แล้วกูละไอ้สัส เล่นมากนึงน่ะ”หมวดเต้ยพูดเสียงเข้ม

“ผู้หมวดก็น่ารัก ขอโทษจริงๆหมอ หมอแม่งโคตรน่าแกล้งเลยว่ะ ที่รักอย่างอนผมดิ นะครับ ผมแค่แกล้งหมอเล่นๆ”ผมเดินไปนั่งข้างหมวดเต้ย อ้อนพี่แกหน่อย ถึงหมอจะน่ารักก็จริงแต่ผมได้รักนะครับ มีคนนี้คนเดียวก็พอแล้ว

“ทำผิดแล้วยังมาทำหน้าตาวอนส้นตีนอีก ไอ้เหี้ย”ดีดหูผมทีหนึ่ง “ขอโทษแทนไอ้เหี้ยตวงด้วยนะหมอ มันบ้าๆบอๆน่ะ”

“ขอโทษอีกครั้งนะหมอ”

“เอ่อ ครับ ไม่เป็นไรครับ เอ่อ แต่ว่าพี่ ๒ คนเป็นแฟนกันเหรอครับ”หมอถามแบบเหนียมๆ

“อือ ใช่”หมวดเต้ยกับผมพยักหน้าพร้อมกัน

“ครับ น่าอิจฉาจังเลยนะครับ”หมอทำหน้าเศร้าๆ อิจฉากูทำไมวะ

“หมอทำหน้าเศร้าทำไม”หมวดเต้ยถาม

“คือ ขอโทษนะครับ คือจริงๆผมก็ชอบผู้ชายแหละครับ แต่ว่า เฮ้อ ผมสับสน ผมไม่รู้จะทำไงดี”อ้าว ฉิบหายหมอน้ำตาร่วงแล้ว จากนั้นประวัติขอหมอก็พรั่งพรูออกมา หมอแกไปแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่งตั้งแต่มัธยม ๑ โห ยาวนานมากเลยครับ แล้วรุ่นพี่คนนี้เสือกเป็นผู้ชายซะด้วย เป็นนักกีฬาขอโรงเรียน บ้านอยู่ละแวกเดียวกัน ไม่รู้ไปทำอีท่าไหนจับพลัดจับผลูเลยสนิทกัน ไปกลับด้วยกันทุกวัน วันไหนพี่เขาซ้อมกีฬาหมอจะโดนบังคับให้นั่งรอแล้วก็นั่งทำการบ้ารอกลับพร้อมกันทุกเย็นๆ แรกๆหมอไม่ได้รักนะครับ แต่อาจจะเป็นเพราะความผูกพันด้วยมั้ง เลยหลงรักรุ่นพี่คนนั้น จะถามเขาก็ไม่กล้า จะบอกเขาก็ไม่รู้ผลจะออกมายังไง เลยอัดอั้นตันใจมาจนทุกวันนี้

“แล้วรุ่นพี่คนนั้นเป็นไงบ้าง เขาทำอะไรอยู่”

“เขาเป็นทหารอยู่ครับ เป็นนายร้อยมั้งครับ”อ้าว วงการเดียวกับกูอีกแล้ว “ผมไม่ได้ติดต่อกับเขาตั้งแต่เขาไปเป็นทหารแล้วครับ”

“พอจะบอกชื่อบอกค่ายได้มั้ย เผื่อพี่รู้จัก”แหม พี่เลยนะครับที่รักของกู หมวดเต้ยถามอย่างใคร่รู้

“ชื่อ พี่วุธ ปัญญาวุธ”

“อ๋อ พี่รู้จักมัน เพื่อนร่วมรุ่นพี่เอง”ผู้หมวดเต้ยพูด เครือข่ายพี่แกเยอะเนอะ

“เหรอครับ”หมอทำหน้าตายิ้มๆ เช็ดน้ำหูน้ำตา แอบรักผู้ชายนี่มันน่าเศร้าขนาดนั้นเลยเหรอวะ หมวดเต้ยพยักหน้า คุยกันต่ออีกนิดหน่อยแยกกลับบ้าน หมอไปที่บ้านแม่เขา ส่วนผมไปหาไอ้บอมบ์ที่บ้านพี่ชายมันครับ



“อ้าว สุดหล่อยังไม่นอนอีกเหรอ”ไปถึงบ้านพี่ชายไอ้บอมบ์ตอน ๒ ทุ่มกว่าๆ หน้าด้านเข้าไว้ อย่าคิดมากเราไม่ได้มารบกวนเขาซะหน่อย ฮ่าๆๆๆ

“ลุงเบิ้ลสวัสดีครับ ป้าภาสวัสดีครับ”หมวดเต้ยยกมือไหว้พี่ชายไอ้บอมบ์ พี่ชายกับพี่สะใภ้ไอ้บอมบ์คงอายุมากกว่าพ่อแม่หมวดเต้ยมั้งเลยเรียกว่าลุงกับป้า

“สวัสดีลูก ไงเรา ไม่เจอหน้าค่าตา สบายดีไหม”พี่เบิ้ลถามอย่างโอบอ้อมอารี มึงเรียกลุงกูเรียกพี่ กูสับสน ฮ่าๆๆ

“ก็สบายดีครับ”

“เฮ้ย เต้ย มึงก็เอากับเขาด้วยเหรอวะ”ไอ้ภูมิถาม เอ่อ ผมเรียกไอ้เรียกอีกับญาติไอ้บอมบ์ได้นะครับ ทีแรกก็คุณผมอยู่ดีๆพอขึ้นมึงขึ้นกูก็เลยเอาวะ มึงมากูไป สนิทกันเลยครับ

“พี่ภูมิสวัสดี พี่ภีมสวัสดี”หมวดเต้ยยกมือไหว้ รุ่นพี่รุ่นน้องเขาน่ะ พี่น้องภูมิภีมเป็นทหารทั้งคู่ ผมก็งงว่าทำไมไอ้บอมบ์ไม่เป็นทหารกับเขาด้วย เอ่อ ผมหมายถึงเป็นทหารมีดาวบ่นบ่าเหมือนพี่ๆน้องๆเขาน่ะ

“สวัสดีน้องรัก เต้ย มึงเป็นแบบอากูป่ะ”

“ครับ”หมวดเต้ยยิ้ม

“มึงเอามหามาเป็นแฟนเนี่ยนะ มหาทำเป็นป่ะวะ ธรรมะธรรมโมแบบมึงเนี่ย ไม่ใช่ไปนั่งปฏิบัติธรรมกันทั้งคืนนะมึง”ไอ้ภีมถามผม

“อย่าดูถูกกันดิ เห็นหน้าตาแบบนี้ก็เอวดีนะครับคุณ”ผมตอบโต้ก่อนจะรับลูกไอ้บอมบ์มาอุ้ม ตาใสๆ ลูกไอ้บอมบ์นี่ผมว่าฉายแววหล่อมาตั้งแต่เด็ก “ไงสุดหล่อ คิดถึงพี่ไหม”

“พี่เหรอมหา รุ่นคุณปู่แล้วมึงน่ะ หน้านี่ไปก่อนอายุแล้วนะ”ไอ้ภูมิแซว

“เชอะๆ เราไม่สนใจใครจริงไหมตัวเล็ก งำๆ คิดถึงจริง”กอดนิดหอมหน่อย ไม่มีงอแง ใครมาอุ้มนี่ยิ้มรับตลอดเลยไอ้เจ้าคนนี้ ไอ้บอมบ์วันนี้คงเพลียมั้ง พูดน้อยมาก

“เอาหมวดบูมจนหมดแรงเลยเหรอมึง”กระซิบถามมันเบาๆ

“เอาเหี้ยอะไร เลี้ยงลูกทั้งวัน วันนี้ลูกกูไม่ยอมนอนเลยเว้ย หื้ม ทำไมวันนี้ไม่ยอมนอนเลยสุดหล่อของพ่อ”ไอ้บอมบ์ถามลูกชายตัวน้อย

“อา ปาปา อา อือ”ชูไม้ชูมือโบกไปมาหยอกล้อกับพ่อของเขา เด็กๆนี่น่ารักจริงๆนะครับ นั่งเล่นอยู่กับลูกของไอ้บอมบ์พักใหญ่ๆ จนลูกชายมันหลับ พวกเราจึงย้ายวงมาสังสรรค์กันหน้าบ้าน มีแต่หนุ่มๆทั้งนั้นครับ ภูมิ ภีม ไอ้บอมบ์ หมวดบูม หมวดเต้ย และผม

“อา แฟนอาอยู่นี่ คนนี้หลานไม่ใช่แฟน กอดผมซะจนอยากเสียตัว”ไอ้ภีมมันพูดท้วงไอ้บอมบ์ซึ่งมันนั่งโอบเอวหลานมันอยู่ คืออาหลานแม่งอายุเท่ากัน สัส กูงง

“เออน่า มึงอย่าเรื่องมากดิวะ กูกอดมึงกูพิศวาสมึงที่ไหนล่ะ”ไอ้บอมบ์ยังรั้น จากโอบเอวเป็นโอบคอ

“นี่ถ้าไม่ใช่ญาติกูไม่อยากจะคิดเลยว่ะไอ้บอมบ์”หมวดเต้ยพูดขึ้น

“มึงชอบคิดมากว่ะเต้ย ผู้ชายกอดกันใช่ว่าจะต้องได้เสียกัน อย่ามองอะไรแค่เปลือกดิวะ นี่ กูจะหอมแก้มไอ้ภีมให้ดู”ว่าแล้วไอ้บอมบ์ก็ยื่นหน้าไปหอมแก้ม เยะเข้ กดจมูกแช่ไว้ซะเป็นชั่วโมง เอ่อ ล้อเล่นนะ แต่มันนานพอสมควร

“หึหึ แม่งจักจี้ว่ะอา นี่ทำตัวแบบนี้เกิดผมไปมีแฟนเป็นผู้ชายขึ้นมานี่โทษใครไม่ได้เลยนะ เพราะอาทำผมใจแตก”

“ถุยไอ้ภีม คนเราน่ะ ถ้าจะเป็นผู้ชายแท้ๆนะ ต่อให้โดนเอาจนตูดบานมันก็ยังเป็นชายแท้ๆ ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจ แต่มึงอย่าลอกเลียนแบบกูเลยภีม เดี๋ยวมึงติดใจคนที่เป็นแฟนมึงจะลำบาก จริงมันน้องบูม”

“ครับพี่บอมบ์ ถูกต้องมากๆเลยครับพี่ ไอ้เหี้ย พูดจ่าแม่งโคตรส่อ”หมวดบูมด่า

“เออ กูงงมึงนะบูม มึงไปยอมอาบอมบ์ได้ไงวะ ไม่มีอะไรน่าดึงดูดสักนิด หน้าตาก็งั้นๆ”ไอ้ภูมิแขวะอามันบ้าง

“ถึงหน้าตากูไม่ขั้นเทพ แต่อย่างอื่นกูนี่เทพนะภูมิ แต่กูแปลกใจพวกมึง ๒ คนนะ ไม่คิดจะมีแฟนมีอะไรกับเขาบ้างเลยเหรอ หรือว่ามึงแอบไปมีกิ๊กเป็นทหารในกองร้อยวะภูมิ ไอ้ภีมด้วย มึงแอบรักผู้ชายป่ะวะ”ไอ้บอมบ์ถามอย่างสงสัย

“บ้าเหอะ จะรักผู้ชายก็ชอบไปคนเดียว อย่ามาชวนเลยอา เดี๋ยวสับสน ก็มีจีบๆบ้างแหละอา แต่ไม่รู้จะเลือกใครดี คนนี้ก็น่ารัก คนนี้ก็มีเสน่ห์”

“ควบ ๒ เลยภีม”ผมเสนอ

“มหา ศีลข้อที่ ๓ ห้ามประพฤติผิดในกาม มึงสนับสนุนให้คนมีชู้เหรอวะ”หมวดเต้ยพูดเสียงเรียบ “อ๋อ พูดแบบนี้มึงกะจะควบหมอฝิ่นเพื่อนบ้านใช่ไหม”เอาแล้วไงกู งานเข้าจนได้

“หอมแก้มที อย่าหึง ไม่ได้คิด”จับที่แก้มสองข้างของหมวดเต้ยมาหอม เอ่อ ต่อหน้าธารกำนัลนั่นแหละ ไม่อายแล้วครับ

“ฮ่าๆๆๆๆ มึงโหดไปไหมเต้ย”ไอ้ภีมหัวเราะ

“เปล่านะพี่ ไอ้ตัวเหี้ยเนี่ยมันคิดจะงาบเด็กข้างบ้านอ่ะพี่”หมวดเต้ยพูดต่อ ไม่มีนะเว้ย ผมรักเดียวใจเดียว

“ไม่มีอะไรสักหน่อย น้องหมอเขามีคนที่เขาแอบรักแล้วเหอะ อ่ะ เดี๋ยวเล่าให้ฟัง”ผมร่ายยาวถึงเหตุการณ์ของวันนี้ให้คนอื่นฟัง

“น่าสงสารเนอะ นี่ถ้าเกิดขึ้นกับกู กูคงช้ำว่ะ”หมวดบูมออกความเห็น

“สงสารเขาก็ไปปลอบไอ้รุ่นพี่ที่จะมาลักลับดิบูม”ไอ้บอมบ์พูด

“กูไปจริงเดี๋ยวมึงจะร้องไห้ไอ้บอมบ์ ไอ้สัส เอากูไปเร่ขายหรือกางเกงใน ๓ ตัวร้อย”ไอ้บอมบ์ขำ

“ดูรุ่นน้องมึงภีม แดกดีกว่ามั้ง”ไอ้บอมบ์ยังทะเล้นอีก

“กล้าก็สั่งกูดิบอมบ์”

“หูย ใครจะกล้ากับที่รักล่ะ แต่อย่าให้พูดเลยนะ หมวดบูมแม่งตัวแดกจริงๆเลยว่ะ ภีมมึงคิดดู กูไม่ไปทำงานให้เขาเว้ย เขางอนกู ถามว่าจะทำหรือไม่ทำ กูบอกว่าแล้วแต่ผู้หมวด สัส สั่งกูพุ่งหลังทีเป็นพัน”ผมเท้าความตอนฝึกทหารใหม่

“แต่ภูมิว่าอาก็เกรียนจริงๆอ่ะ สมแล้วที่ไอ้บูมมันแดกอา”ไอ้ภูมิ ตกลงคือมึงไม่เข้าข้างอามึง

“มานี่ดิภูมิ”ไอ้บอมบ์กวัดมือเรียก ไอ้ภูมิลุกมาหาไอ้บอมบ์อย่างว่าง่าย “นี่ เข้าข้างกูหน่อยไม่ได้”ไอ้บอมบ์ดีดหูไปทีหนึ่ง

“อ้าว พี่ภูมิคิดดูดิ งานเขาเร่งๆมา แล้วยังจะมากวนตีนอีก มันน่าแดกไหมล่ะ นี่ยังถือว่าปราณีนะ แต่เป็นรุ่นก่อนๆนี่ แดกยันเช้า”หมวดบูมเอาบ้าง

“คืนนี้ผมแดกหมวดเต้ยยันเช้าดีกว่า เอาไหม”หันไปกระซิบที่ข้างหูเบาๆ

“พอเหอะ พรุ่งนี้มีงานต้องทำ กูทำงานไม่ได้แล้วมึงจะเดือดร้อนมหา”หมวดเต้ยพูดเสียงเบาใส่ผมบ้าง

นั่งคุยสัพเพเหระเรื่องราวต่างๆเล่าขำกันบ้าง จริงจังบ้าง เรื่องไม่เป็นเรื่องบ้าง จนถึงเวลา ๕ ทุ่ม น้ำลายกูแห้งหมดแล้วไปเลียผู้หมวดเพิ่มน้ำลายดีไหม ฮ่าๆๆ แยกย้ายกันกลับบ้านครับ ไปถึงก็อาบน้ำพร้อมกันแล้วก็นอน



“ผู้หมวด เช้าแล้ว”ตี ๕ กว่าๆ ฟ้าสางแล้วผู้หมวดยังนอนหลับอารมณ์ดีอยู่บนเตียง เมื่อคืนพี่แกนอนดิ้นมากถีบผมกลิ้งตกเตียงตอนตี ๓ กว่าๆ เอวกูใช้งานไม่ได้หลายวันแน่

“อือ ทำไมเช้าเร็วจังวะ”ไม่มีอิดออด เรียกลุก ปลุกง่ายแบบนี้ รักตายเลย


“อ้าวหมอ รีบไปไหนแต่เช้าเชียว”ออกไปหน้าบ้านว่าจะเดินไปหาอะไรกินหน้าหมู่บ้าน เจอหมอพอดี วันนี้หน้าใสมาเชียว

“รีบไปทำงานครับพี่ตวง ไปแล้วนะครับเย็นๆเจอกัน”แล้วเขาก็ขับรถไป


ความวุ่นวายขนาดย่อมๆในยามเช้าบังเกิดขึ้น มองๆไปเหมือนหมาแย่งปลาทูกันนะครับ สังคมของคนที่เร่งรีบ แถวบ้านผมไม่มีแบบนี้นะครับ ตื่นเช้ามาหุงข้าวปลา แม่ผมชอบไปนั่งคุยที่ร้านค้า ออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อไปนั่งคุยกับคนนู้นทีคนนี้ที แล้วสักพักก็กลับมาทำกับข้าวให้พ่อ สายๆออกไปทำนา บางวันที่ผมไปร้านค้ากับแม่ ผมจะได้กินเต้าหู้ แต่ถ้าวันไหนไม่ได้ไป แม่จะเอาน้ำข้าวที่เช็ดจากหม้อแล้วเอาน้ำตาลมาโรยๆใส่ให้มันหวาน แม่บอกว่าให้กินแทนเต้าหู้ เต้าหู้มันแพง ที่จริงไม่แพงนะครับ ถุงละ๕๐ สตางค์เอง แต่ตอนนั้นครอบครัวเราไม่ค่อยมีเงิน

ยังจำได้ตอนเด็กอนุบาลได้เงินไปโรงเรียนวันละ ๑ บาท เป็นเหรียญบาทใหญ่ๆเท่ากับเหรียญ ๕ บาทของทุกวันนี้นะครับ ๑ บาทนี่ซื้ออะไรได้เยอะมาก เพราะข้าวของมันถูก อย่างละสลึง ๒ สลึง พี่คนโตกับคนรองจะได้ ๒ บาท ส่วนผมกับน้องเล็กจะได้ ๑ บาท พี่น้องผมมีอยู่ ๔ คน ผมเป็นคนที่  คนโตกับคนรองเป็นผู้หญิง คนกลางจะเป็นผู้ชายและผมเป็นคนสุดท้องน้องสุดท้าย เวลาไปโรงเรียนพ่อจะขับซาเล้งไปส่งพร้อมด้วยเด็กในละแวกบ้านอีกหลายคนครับ พอพ่อขับซาเล้งไปส่งผมเสร็จแล้วก็จะไปที่นา ตอนเย็นพอเลิกเรียนพ่อก็จะขับซาเล้งมารับ

พ่อไปส่งผมจนผมเรียนจบป.๖ พี่สาวผมจบไม่สูงนะครับ จบแค่ม.๓ ก็ช่วยแม่ทำมาหากิน ตอนนี้แต่งงานกันไปหมดแล้วพี่ชายผมเองก็แต่งงานไปแล้ว มีแค่ผมคนเดียวที่ผ่าเหล่า เรียนสูงกว่าเขา แต่มีเมียแปลกกว่าเขา ฮ่าๆๆ แต่ผมรู้พอพักหนึ่งแล้วว่าคู่ของผมมันไม่เหมือนใคร คือตอนผมบวชอยู่ตำรับตำราผมลุยอ่านอย่างเดียว แล้ววิชาโหราศาสตร์เป็นหนึ่งในวิชาที่ผมเรียน ใช้เวลาเรียนครึ่งปีก็สำเร็จ จากนั้นด้วยความร้อนวิชาเลยดูดวงชะตาตัวเอง แบบว่าผมไม่กล้าดูของคนอื่น ที่นี้พอดูๆไป เกิดคิดในใจถ้ากูสึกไปเนื้อคู่กูจะอยู่ไหนวะ เลยมานั่งขีดเขียนตามวิธี นับเลข ดูลัคนาอะไรต่างๆ ปรากฏว่าเนื้อคู่ผมอยู่ในทิศนี้ๆ เป็นคนลักษณะแบบนี้ๆ พอทำนายไปเรื่อยๆ ผลสรุปเนื้อคู่กูผู้ชาย ผมตกใจมาก นั่งตรวจทานใหม่อยู่อีก ๒ ครั้ง จนมั่นใจว่าไม่ผิด เลยไปถามหลวงพี่ หลวงพี่แกมองปั๊บแกก็พูดเลยว่า ไม่ผิดหรอกมหา เอาไงละทีนี้ คิดไม่ตก เลยตัดสินใจ เอาวะกูไม่สึกดีกว่าเพราะมันแปลกมนุษย์มนา แต่พอไปๆมาๆ ต้องไปจับใบแดงคราวนี้แหละได้สึกสมใจ จากนั้นผมก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามกลไก ถ้าเนื้อคู่กูต้องการกูจริงๆสักวันมันก็ต้องมา ยอมรับทุกอย่างถ้ามันจะเป็นแบบนี้ แล้วก็ได้มาเจอไอ้คุณเนื้อคู่นี่แหละ เจอหน้าครั้งแรกไม่เท่าไหร่ แต่หลังจากมีอะไรกันแล้วนี่สิ ทำให้ผมนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำนายเอาไว้ว่าเนื้อคู่ผมลักษณะแบบนี้ๆ เป๊ะมาก ผมเลยไม่ลังเล คบกันซะเลย เอาง่ายๆ ไม่ต้องยุ่งยาก

“ทหารใหม่ กล่าวคำปฏิญาณ”หมวดเต้ยพูดระหว่างอยู่ในวงข้าว กูกำลังจะตักพอดีเลย

“ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง.... อ้าว กล่าวสิครับผู้หมวด”

“ไม่เอาๆ เบื่อที่จะฟังแล้ว เอาใหม่ๆ เคยร้องป่ะ มากินข้าวสิ มากินข้าวสิ กับดีๆ กับดีๆ มีทั้งแกงและต้มยำ มีทั้งแกงและต้มยำ อำๆๆ อำๆๆ”

“หูย พ.ศ.ไหนแล้วนั่น ตั้งแต่ผมเรียนอยู่ประถมเหอะ เออ แล้วผู้หมวดเคยท่องไหม เราคนไทย ใจกตัญญู..”

“รู้คุณชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เรานักเรียนจะต้องปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยของโรงเรียน มีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น เรานักเรียนจะต้องปฏิบัติไม่ให้เป็นที่เดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่น ฮ่าๆๆๆ”ผมกับหมวดเต้ยกล่าวพร้อมกันและก็ขำไปตามๆกัน เออ เกิดวัยเดียวกันนี่หว่า

“แล้วพอเรียนลูกเสือเสร็จนะ อะเกล่า จงทำดี จงทำดี จงทำดี”ผมเสริมบ้างแล้วก็ขำอีก ข้าวปลาไม่ต้องกินกัน กว่าจะหยุดขำได้ วัยเด็กเป็นอะไรที่ตลกนะครับ 

“มหามึงคิดว่าอะไรที่ยากที่สุดในชีวิตมึง อย่าทะลึ่ง กูไม่ได้หมายถึงว่าท่ายาก แต่สิ่งที่ยากในชีวิตมึงคืออะไร”

“ว้า ว่าจะตอบว่าท่าแมงมุมซะหน่อย สิ่งที่ยากเหรอ ไม่รู้แฮะ อืม การปรับตัวมั้ง จริงๆผมเป็นคนกับกับคนอื่นยากนะ แต่เข้ากับผู้หมวดได้ง่าย เอ๊ะ หรือว่าผมไม่ได้ใส่เจลกับคนอื่นเลยเข้ายาก”

“ทะลึ่งแล้วไอ้สัส มึงใส่น้ำลายมึงยังเข้ากับกูได้เลยไอ้หน้าเหี้ย ตอบคำถามที่เป็นสาระหน่อย”

“ก็ ไม่รู้เหมือนกัน เรื่องปรับตัวก็ไม่ใช่ เรื่องความรักก็คงไม่ใช่ ไม่รู้เหมือนกัน มันอยู่ที่ใจมั้งครับผู้หมวด ถ้าเราคิดว่ามันยากมันก็ยาก ถ้าเราคิดว่ามันง่ายมันก็ง่าย ไม่มีอะไรยากเกินไปถ้าหัวใจเราพร้อม”

“แต่กูไปอ่านเจอมาเว้ย เขาว่าการเริ่มต้นเป็นอะไรที่ยากมากที่สุด คนเรานะเว้ยจะเริ่มต้นสิ่งใดสิ่งหนึ่งมันจะต้องมีอุปสรรคมาให้เราเผชิญตลอด ไม่ว่าจะเป็นความขี้เกียจ ความเหนื่อยล้า ความลังเล อะไรต่างๆ”

“อ๋อ อืม ผมว่าก็น่าจะยากนะ ไอ้ความขี้เกียจนี่ตัวดีเลยเนอะ มีไอ้ตัวนี้ตัวเดียวนี่ไม่ต้องทำมาหาแดกอะไรหรอก ชีวิตบรรลัยไปกว่าครึ่ง”

“อือ แล้วอุปสรรคคืออะไร มึงรู้มั้ย”

“อุปสรรคน่ะเหรอ มาจากคำบาลีว่า อุปะ บวกกับคำว่าสัคคะ อุปะเป็นคำอุปสรรคในไวยากรณ์บาลีแปลว่า เข้าไป ใกล้ มั่น แปลได้ ๓ ตัว ส่วนคำว่าสัคคะก็คือสวรรค์ คำบาลีใช้คำว่าสัคคะ ส่วนคำสันสฤตก็คือสวรรค์ อุปสรรคจึงแปลได้ว่า ใกล้สวรรค์ คือใกล้ความสุข สัคคะ ก็น่าจะมาจาก สุ ที่แปลว่าดี บวกกับคำว่า อัคคะ ที่แปลว่ายอดเยี่ยม อย่างยิ่ง อะไรประมาณนี้ รวมๆกันแล้วก็เลยแปลว่า ความสุขอันยอดเยี่ยม อะไรประมาณนั้น”ทวนๆความรู้เก่าๆซะหน่อย

“อ้าว อุปสรรคมันไม่ได้หมายถึงคำว่าสิ่งกีดขวาง ความขัดข้องอะไรนั่นเหรอ”

“อือ ก็ใช่ไงครับ เพราะอะไรที่เป็นความสุขต้องมีความทุกข์มาก่อน”

“แล้วมึงคิดว่าชีวิตเราจะมีอุปสรรคไหมวะ”

“ก็มีนะครับ อยู่ที่ว่ามันจะเล็กหรือจะใหญ่เท่านั้นเอง ทุกคนต้องมีบทพิสูจน์อะไรบางอย่างเข้ามาในชีวิต แต่อย่าไปกังวล หน้าที่ของเราก็คือการรับมือให้เพียบพร้อมทุกด้าน เราอยากมีความสุขมากเท่าไหร่ ก็อย่าไปกลัวความทุกข์”

“เออ เหมือนที่เขาสอนพวกกูมาเลยว่า ความทุกข์ที่แสนจะเกินทน จะหลอมคนให้ทนทาน”

“ครับ แต่ทำไมต้องสอนพวกผมว่า ไม่มีอะไรที่ทหารใหม่ ทำไม่ได้ ทำไม่ไหว ทำไม่ทัน ผมอยากจะเติมข้างหลังเสียจริงว่า แต่กูไม่ทำ ฮ่าๆๆๆๆ”

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด