ตอนที่ ๔๔ ทำใจ
“ผู้หมวด เมื่อไหร่จะไปอาบน้ำ เงี่ยนแล้วเนี่ย”ผมกำที่เป้าโชว์ผู้หมวดพร้อมกับทำหน้าทะลึ่งทะเล้น
“วันนี้มึงไปชักว่าวเอาเองละกัน กูเหนื่อย กูเพลีย กูอยากเสียตัวเอ๊ยไม่ใช่ กูอยากนอน”
“ไรวะ งั้นไม่ต้องอาบ มาทำกิจกรรมในร่มผ้ากลากเกลื้อนก่อนเอ๊ย กิจกรรมบนเตียง มามะ”ผมทำปากจู๋ ยั่วเขาหน่อย
“มึงทำหน้าทำตาเหมือนพวกละครชิงรักหักสวาทนะบอมบ์ ทำอะไรก็ดูตัวเองหน่อย โตแล้ว”
“เออ ก็เพราะมันโตนี่แหละมันเลยอยาก เข้าใจป่ะ”
“กูเบื่อมึงจริง คืนนี้กูขอนอนนะบอมบ์ กูเพลีย กูไม่ไหว กูอีคึ กูอาบอจี กูอิเดสกา กูอิไต อ๊อก ไม่สัส ฆ่าฉันให้ตายเสียยังดีกว่ามันทรมาน”ผมแค่ล็อกคอผู้หมวดกระชากเข้ามาหาตัวเท่านั้นเองนะครับไม่ได้รุนแรงซะหน่อย
“เออ ก็มัวแต่อีคึ อีตับ อีไต นั่นแหละ เนี่ย เห็นป่ะว่าเป้าตุง เห็นป่ะ น่านะที่รัก เรามาจู๋จี๋สร้างโลกให้สดใส ด้วยการรณรงค์ลดโลกร้อนกันเถอะ”ผมทำสายตาออดอ้อน
“เฮ้อ ไม่ไหวๆ”ส่ายหน้าแต่ถามว่ายอมไหม ก็ยอมนะ ไม่หนัก ไม่เบา แค่เบาะๆ
สายๆหลังจากที่หยอกกับเมียก็ไปหยอกกับลูก เอ่อ เมียผมหยอกไปแล้วทั้งคืน มาหยอกกับลูกดีกว่า เจ้าตัวเล็กแสนซนดี๊ด๊าที่เห็นผม คือ คุณลูกครับช่วยดีใจให้น้อยลงหน่อยได้ไหม พ่อเบลอๆน่ะ นั่งหยอกกับลูกจนลูกหลับ ผมจึงแอบงีบอยู่ข้างๆ จนถึงบ่าย ๒ ลุกมาล้างหน้าล้างตากินข้าวแล้วมานั่งดูงาน ช่วงนี้ว่างเป็นไม่ได้ต้องติดตามผลงานของตัวเองครับ
“พรุ่งนี้เข้าวัดกันไหมแม่”ผมนั่งซ้อนหลังแม่บีบนวดเบาๆ แม่ถึงกับเคลิ้มเป็นไงล่ะ ฝีมือนวดของลูกชาย นี่ถ้าเอาดีด้านนวดคงไปได้สวย ฮ่าๆๆ
“แกจะเอาแม่ไปเผาเหรอ”แม่พูดขำๆ
“หือ พูดอะไร พาไปทำบุญ หรือว่าทุกวันนี้เข้าวัดไม่ได้แล้วมันร้อนเหรอ”
“แกก็พูดไป เออ จะว่าไปแม่ก็ไม่ได้เข้าวัดนานแล้วนะ ตั้งแต่แกมีลูกเนี่ยแม่ก็ไม่ค่อยได้เข้าวัดเลย นี่ถ้าแกไม่ชวนแม่กะว่าคงจะเข้าอีกทีตอนแกเอาแม่ไปเผา”
“ดูดิแม่ พูดอะไรไม่รู้ เป็นลาง”
“เป็นลางอะไรบอมบ์ แกต้องเข้าใจนะ ชีวิตแม่เนี่ยเป็นไม้ใกล้ฝั่งแล้ว จะล้มหายตายจากวันไหนก็ไม่รู้ ที่พูดเนี่ยเพราะแม่อยากให้แกเห็นว่ามันเรื่องปกติ คนเรามีเกิดก็ต้องมีแก่ พอแก่แล้วต้องมีเจ็บป่วยไข้ไม่สบายแล้วก็ต้องตายจากกันในที่สุด แกอย่าคิดว่าความตายเป็นเรื่องไม่ปกติสิ”
“ก็บอมบ์ยังไม่อยากให้แม่ไปไหนอ่ะ อยู่เลี้ยงหลานให้โตก่อน เนี่ย กำลังน่ารักเชียว”
“อือ แม่รู้ แต่แม่อยากให้แก่เผื่อใจเอาไว้ แม่แก่แล้ว จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนแม่ไม่รู้หรอก ใบไม้ที่แก่จนใบเหลืองแล้วสักวันหนึ่งมันก็ต้องหล่นลงมาสู่พื้นดิน ชีวิตคนเราก็เหมือนกันนะบอมบ์ ใหม่ๆก็เป็นใบอ่อน พอโดนแดดโดนฝนค่อยโตมาเป็นใบเขียว อยู่ไปนานๆมันก็จะเป็นใบเหลือง สุดท้ายโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ทิ้งเกมส์ให้คนที่อยู่ในสนามดำเนินต่อไป”
“ก็เข้าใจอ่ะแม่ ว่าคนเรามีเกิดก็ต้องมีตาย แต่มันก็อดใจแป้วไม่ได้ถ้าเกิดวันหนึ่งไม่เจอหน้าแม่ รักนะเนี่ย จุ๊บก่อน จุ๊บ”ผมยื่นหน้าไปจูบแก้มแม่ จูบเมียแล้วก็อย่าลืมจูบแม่นะครับ อย่าทะลึ่งไปแลกลิ้นล่ะ แม่ไม่ใช่เมีย แค่หอมแก้มเบาๆแล้วสัมผัสด้วยอ้อมกอดอันอบอุ่น มันก็สดชื่น
“อือ แกก็ต้องอยู่ได้แหละบอมบ์ แกอาจจะเศร้าช่วงแรก แต่พอเวลามันผ่านไปแกก็ต้องทำใจให้ได้ หรือทำใจตั้งแต่วันนี้”
“เฮ้อ เข้าวัดเยอะก็แบบนี้แหละแม่ เข้าใจธรรมะไปหมดทุกเรื่อง”
“ดูพูดเข้าสิ มันน่าตีเชียวเจ้าคนนี้ ไปคบกับมหา มหาไม่ได้ชวนคุยธรรมะธรรมโมบ้างเลยเหรอ วันๆเอาแต่เพ้อเจ้อน่ะสิ อย่าลืมนะบอมบ์ คนเก่งจริงๆน่ะเขาต้องเก่งทั้งทางโลก ต้องเก่งทั้งทางธรรม ต้องควบคู่กันไป”
“ก็พยายามทำความเข้าใจอยู่นะแม่”
“นี่ที่บวชมาพรรษาหนึ่งไม่มีอะไรติดตัวมาเลยเหรอ”แม่หันมามองหน้าผม ผมเคยบวชแล้วนะครับ บวชประมาณ ๕ เดือนกว่าๆ ได้นักธรรมตรีด้วยล่ะ
“มันก็มีบ้างแหละแม่ แต่ตอนนี้มันก็ลืมๆไปบ้างแล้ว ก็ไม่บอกให้บวชนานๆจะได้บวชเป็นเจ้าอาวาสไปเลย”
“หื้อ ปากงี้เก่งนักเชียว มันน่าตีไหมล่ะ อะไรที่มันดีๆอย่าลืมทบทวน เหมือนเรากินของดีๆ เราชอบกินบ่อยๆ สิ่งที่ดีๆเราก็ต้องเข้าหาบ่อยๆ เป็นคนดี...”
“มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตยใช่ไหมแม่”
“หื้อ เจ้าคนนี้ มันกวนแม่จริงๆ อ่ะๆ นวดต่อ”แม่หันหน้ากลับที่เดิมส่วนผมก็นวดแม่ต่อ แต่ชวนคุยเรื่องเรื่อยเปื่อย ปกติอยู่บ้านแม่ผมชอบเข้าวัดทำบุญนะครับ ถ้าวันพระก็จะไปถือศีล ๘ ที่วัด ทิ้งให้ผมนอนบ้านคนเดียว แล้วเรื่องงานบุญงานกุศลแม่ผมก็ไม่เคยขาด ใครบอกบุญอะไรที่ไหน ถ้าพอไปได้แม่ก็จะไป ถ้าไปไม่ได้แม่จะฝากเขาไป
“แล้ววันนี้ผู้หมวดไม่มาเหรอ”
“มาเย็นๆมั้งแม่ วันนี้คงนอนทั้งวัน สงสัยจะเพลีย”
“อือ ดูแลกันด้วยแล้วกัน อะไรที่บอกที่เตือนกันได้ก็หันหน้าเข้าหากัน”
“โดนมหาเทศน์ไปกัณฑ์หนึ่งอ่ะแม่ คงจะไม่ไปเที่ยวอีกนาน”
“อ่อ แล้วมหาเขาว่าอะไรบ้าง”
“คือหมวดเต้ยป่วยไงแม่ แล้วที่นี้ไม่ยอมกินข้าวกินยา พอบอมบ์ไป มหามันเลยโมโห รัวเป็นชุดจนหมวดเต้ยหมวดบูมหน้าหงอย”
“อือ ดีเหมือนกัน มหาคงผ่านอะไรมาเยอะพอสมควรแหละ แม่ว่ามหาก็ดีนะ เป็นคนมีหลักการหลักคิดที่ดี คนที่มีหลักเวลาเขวก็จะได้คว้าหลักเอามาเกาะ ส่วนคนไม่มีหลักพอเจออะไรที่ไม่ต้องการก็เป๋ไปเลย”
“ก็แล้วแต่เข้าจะเลือกเดินนี่แม่”
“ก็นั่นแหละ แต่เองก็เหมือนกันนะบอมบ์ อย่าดีแต่ปาก อย่าเก่งแต่คำพูด คนเก่งต้องพูดน้อย ทำเยอะ คนพูดเยอะมันทำงานไม่เป็นเพราะมันเป็นแต่พูด”
“ขอรับคุณหญิงแม่”
“แม่สวัสดีครับ”ผู้หมวดมาแล้วครับ หน้าตาเบิกบานสดใส
“สวัสดีค่ะผู้หมวด มาๆนั่งก่อน”แม่ตบที่โซฟา ส่วนแม่กับผมนั่งพื้นครับ นวดให้แม่เพลิน ลูกผมก็คงจะรู้งานยังไม่ตื่นครับ
“แฮะๆ นั่งพื้นก็ได้ครับ”
“นั่งบนเก้าอี้เถอะค่ะ ฮึ่บ พอแล้วบอมบ์ เดี๋ยวเกิดแม่ติดใจไปเที่ยวอาบอบนวดแล้วแกจะรู้สึก”ดูแม่ผมดิ วัยรุ่นซะไม่มี
“ไปถูกเหรอแม่”
“ให้ตาภีมพาไป ฮ่าๆๆๆ แปบนะเดี๋ยวแม่เอาน้ำมาให้”
“นี่คุณหญิง เชิญนั่ง เดี๋ยวบอมบ์บริการเอง แหม นวดให้หน่อยเนี่ยเส้นสายไม่ยึดเดินสะดวกขึ้นนะ”
“เออ แกก็น่าจะมานวดให้แม่บ่อยๆ อ่ะ นั่งก็นั่ง”จากนั้นแม่ก็นั่งคุยกับผู้หมวด หมวดบูมหน้าบานเชียวครับ แม่ลูกคู่นี้เขาคุยกันถูกคอ
“แอ อา”เจ้าตัวเล็กส่งเสียงขึ้นมาทำให้ผมที่กำลังสนใจงานต้องหันไปมอง อ้าว สุดหล่อของผมตื่นแล้วครับ
“ไง ตื่นแล้วเหรอ”ผมรีบอุ้มขึ้นมา ต้องอุ้มก่อนเดี๋ยวงอแงมันจะยาว
“แอ อือ แอะ แง”เอาแล้วจะร้องแล้ว แม่ผมไปอุ้มเจ้าซ่า ส่วนผมอุ้มแล้วแสบ รีบดูผ้าอ้อม จากนั้นก็เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ คงจะอึดอัด เปลี่ยนเสร็จลูกชายก็กลับมาอารมณ์ดี ตาใสแจ๋วยิ้มได้
“จ๊ะเอ๋”ผู้หมวดเอามือปิดหน้าทำท่าทางทะเล้นใส่ ลูกผมถึงกับหัวเราะคิกเลยครับ “แฮะๆ หัวเราะ งำๆ หมั่นเขี้ยววุ้ย”เอ่อ จะกินลูกผมเลยเหรอผู้หมวด เจ้าแสบยิ่งชอบใจเมื่อมีคนมาหยอกล้อด้วย จนถึงเวลาป้อนข้าว ไอ้ภูมิกับไอ้ภีมจึงมาช่วยป้อน
“อิ่มแล้วเหรอ หืม”พี่เบิ้ลอุ้มเจ้าแสบไป ส่วนเจ้าซ่าไอ้ภูมิกำลังชวนคุยอยู่ เลี้ยงลูกนี่ถือว่าเป็นภารกิจครอบครัวกันเลยทีเดียว
“อำๆ แอ อา”
“อ่อ อิ่มแล้วล่ะสิ”พี่เบิ้ลช่างเข้าใจที่ลูกชายมพูดเสียจริง คือขนาดผมเป็นพ่อผมยังไม่รู้เลย ฮ่าๆๆ หยอกล้อกันอยู่พักหนึ่งจึงไปนั่งกินข้าวมื้อเย็นกันพร้อมหน้าพร้อมตา ส่วนลูกผมนั่งดูแลอยู่ครับ ให้เขากินข้าวกันไปก่อน ผมกินทีหลังก็ได้
วันต่อมาเราพร้อมหน้าพร้อมตากันไปทำบุญที่วัด ตื่นแต่เช้ามืด พาลูกไปด้วย ผู้หมวดก็ไป งานนี้อิ่มอกอิ่มใจ แม่ผมหน้าบานเชียวครับ อย่างว่าไม่ได้เข้าวัดเข้าวานานแล้ว กว่าจะกลับบ้านก็เกือบเที่ยงครับ อยู่นานไม่ได้ครับไม่กล้าพาลูกไปตากแดดตากฝนนานๆ เกิดป่วยขึ้นมาจะเดือดร้อนกันทั้งบ้าน
“จะออกไปเที่ยวไหนก็ได้นะบอมบ์”แม่พูดอนุญาต
“ว่าจะขอพอดีเลย เดี๋ยวเย็นๆกลับนะแม่ ที่รัก พ่อไปข้างนอกแปบนะ เดี๋ยวซื้อของมาฝาก”ผมก้มไปพูดกับลูกชาย ไม่มีสนใจกันเลยสักนิด ล่ำลาพอเป็นพิธีจึงขับรถไปหามหาที่บ้านหมวดเต้ย
“มหา ไปเดินเล่นกัน”เข้าไปในบ้านเห็นมหาทำหน้าเซ็งอยู่หน้าจอทีวี
“เออ กำลังเซ็งพอดีเลยว่ะ อยู่บ้านเฉยๆไม่มีอะไรทำนี่มันน่าเบื่อนะ”
“หมวดเต้ยไปไหน”
“อาบน้ำอยู่”
“เหรอ หายดียังวะ”
“หายแล้ว หมวดบูมไม่มาด้วยเหรอ”
“ไม่ว่ะ อยู่เลี้ยงลูกให้กู ชวนแล้วไม่ยอมมา ตอนนี้ลูกกูคะแนนนำโด่ง”
“อือ ลูกพี่ครับ เสร็จยัง ไอ้บอมบ์รออยู่”ไอ้มหาตะโกนเรียกหมวดเต้ย สักพักหมวดเต้ยจึงเดินลงมาด้วยชุดสบายๆ กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดสีเทาอ่อน
“หาไรกินก่อนบอมบ์ กูหิว”โอเค ตามใจเขา ขับรถออกจากบ้านไปหาไรกินที่ร้านอาหารเล็กๆกินกันจากนั้นไปเดินห้าง ไม่ได้เดินนานแล้วเกือบๆปีเห็นจะได้
“คนเยอะฉิบหายเลยว่ะ มันไม่มีที่ไปหรือไงวะ”ไอ้มหาตะลึง เออ ลืมไปมันไม่เคยเดินห้างสรรพสินค้า
“ทุกวันนี้เขาเดินกันแบบนี้แหละมหา มึงอย่าเชย”หมวดเต้ยพูด
“ไม่เคยมาเดินนี่หว่า แสดงว่ามันต้องมีอะไรดีแน่เลยถึงได้มาเดินกัน”ไอ้มหาทำหน้าครุ่นคิด
“มีดีเยอะ มึงจะมาซื้ออะไรล่ะ อยากได้เสื้อผ้า มือถือ รถยนต์ จะหาผัว หาเมีย ขอแต่งงาน เซอร์ไพรส์วันเกิด”
“ทำได้ถึงขนาดนั้นเชียวเหรอวะ เออ สังคมมันเปลี่ยนไปมากแฮะ เออ เยอะเลยว่ะ มิน่าล่ะเขาถึงได้มากัน แอร์ก็เย็น คนก็เยอะ ของก็แยะ อย่างที่มึงว่าเลยบอมบ์”ไอ้มหาสาธยาย จากนั้นก็เดินดูข้าวของไปเรื่อยเปื่อย ไม่รู้จะซื้ออะไร ข้าวของที่มีก็พอใช้แล้ว
“อยากได้ตัวไหนไหมตวง กูซื้อให้”หมวดเต้ยถามไอ้มหา
“ไม่เอาหรอกครับผู้หมวด ซื้อไปไม่ค่อยได้ใส่จะซื้อไปทำไม อีกไม่กี่วันก็จะกลับค่ายแล้ว”
“กูคิดออกแล้วว่ากูจะซื้ออะไร ป่ะบอมบ์”ไอ้มหารีบลากผมกับหมวดเต้ยไปทันที ไม่ใช่อะไรที่ไหนครับ ร้านหนังสือ ที่จริงที่ผมชวนมาก็กะว่าจะมาซื้อหนังสือนะครับ แต่ขอเดินเล่นก่อน พอเข้าไปในร้านหนังสือต่างคนต่างแยกย้ายกันไปตามมุมต่างๆ ผมแวะมาที่โซนหนังสือธรรมะ จะซื้อไปฝากแม่ หยิบมาหลายเล่ม จากนั้นก็ไปโซนบริหารธุรกิจ จิตวิทยา และอื่นๆ หยิบมาโซนละหลายเล่ม รวมๆแล้วตอนนี้ กูว่ากูซื้อเยอะไปไหม ฮ่าๆๆๆ ส่วนที่เหลือไม่ต้องสืบครับ หมวดเต้ยนี่ก็ปาไปไม่ต่ำกว่า ๑๐ เล่ม ไอ้มหาอีก ๕ เล่มมั้ง
“ซื้อเยอะไม่ไหว กลัวอ่านไม่ทัน โห ถ้ามึงจะซื้อขนาดนี้ไอ้บอมบ์ จะเอาไปสร้างห้องสมุดที่บ้านรึไง”ไอ้มหามองกองหนังสือที่พนักงานกำลังห่อพลาสติกให้
“เอาไปฝากแม่ด้วย”จนพนักงานห่อเสร็จเรียบร้อยจ่ายตังค์ หนักเหมือนกันนะเนี่ย จากนั้นก็กลับบ้านกัน ถือว่าเวลาพักผ่อนหมดไปแล้ว ไปส่งมหากับหมวดเต้ยที่บ้านจากนั้นจึงกลับบ้านของตัวเอง ไปถึงเห็นหมวดบูมหลับอยู่ข้างๆลูกของผม อีกข้างก็เป็นไอ้ภีม คงจะเหนื่อยกันน่าดู
“กลับมาแล้วเหรอ”ผู้หมวดลืมตาขึ้นกลิ้งตัวมาใกล้ๆผม
“ครับ”
“ซื้อมาเก็บหรือซื้อมาอ่าน เยอะเชียว”
“ซื้อมาอ่านสิครับ สมองจะได้พัฒนา”
“อือ”
“อยากเหรอ ตุงเชียว”ผมคลำที่เป้าผู้หมวด
“ไอ้เหี้ย จะบ้าเหรอ ปกติของผู้ชายเว้ย เล่นไม่รู้ที่แล้วมึง”
“หึหึ คิดว่ามีอารมณ์ซะอีก”
“มีอารมณ์เหี้ยอะไรล่ะ กูไม่ได้คิดหื่นเหมือนมึงตลอดเวลานี่หว่า เอะอะก็จ้องจะชวนกูทะลึ่ง”
“แล้วชอบไหมล่ะ”
“ไอ้เวร ไม่ชอบเว้ย แต่กูยอมมึงเฉยๆ”เอ่อ ตกลงว่าพี่ท่านชอบหรือไม่ชอบวะ ช่วยไขความให้ผมกระจ่างที