ส่วนสูงไม่มีผลต่อแนวราบนะครับ
ตอนจบ อยู่ด้วยกันตลอดไป
5 ปีผ่านไป
ตึก ตึก ตึก...แกร๊ก
"กลับมาแล้วครับคนขี้เซา...จุ๊บ"
ริมฝีปากเย็นนุ่มทาบลงที่หน้าผากอยู่สองสามที ผมปรือตาขึ้นมองใบหน้าคนรักที่กำลังยิ้มให้ก่อนจะดึงผมเข้าไปซุกในอ้อมกอดอย่างเคยชิน
"...กลับช้าอีกแล้วนะ"
ผมบ่นอู้อี้ให้มันเป็นรอบที่เท่าก็ไม่รู้และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันกลับช้าเหมือนกัน แรกๆก็เข้าใจว่าคงติดงานของอีกร้านนึงที่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นร้านอาหารแทน แต่มันก็ไม่น่าจะกินระยะไปเป็นหลายเดือนขนาดนี้เพราะทั้งสองสาขาก็จ้างผู้จัดการมาดูแลความเรียบร้อยให้ทั้งหมดแล้ว
"ขอโทษครับ ผมจะรีบกลับให้เร็วกว่านี้นะไม่งอนนะครับ"
"อืม...นอนเถอะ"
"ฝันดีนะครับที่รักของพาย"
คำพูดคำเดิมถูกพูดขึ้นจากคนคนเดิม หรือว่านี่มันเป็นสัญญาณที่กำลังเตือนผมอยู่ตอนนี้...
ผมตื่นขึ้นในช่วงสายของอีกวัน ข้างกันนั้นยังมีไอ้พายที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ ผมเกลี่ยแก้มมันเบาๆเพราะกลัวจะไปรบกวนการนอนก่อนจะผละออกมาทำธุระส่วนตัวที่ด้านนอก
วันนี้ผมเลือกที่จะไม่เข้าร้านแต่จะเปลี่ยนตัวเองมาเป็นพ่อบ้านทำงานบ้านแทน ผมเดินไปหยิบตะกร้าผ้าเพื่อมานั่งแยกผ้าไว้ซัก ชุดแรกที่หยิบขึ้นมาได้เป็นชุดของไอ้พายที่ใส่เมื่อวาน
ผมมองเสื้อในมืออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบขึ้นมาจรดจมูกดมเมื่อมีกลิ่นน้ำหอมที่ไม่คุ้นเคยแทรกซึมบนเนื้อผ้ามาด้วย แทบไม่รอช้าผมรีบยัดเสื้อผ้าเข้าเครื่องเพื่อขจัดกลิ่นเหล่านั้นทันที
"แม่งเอ้ย!"
ผมนั่งน้ำตารื้นพร้อมกับครุ่นคิดว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาตัวเองทำอะไรผิดไปหรือเปล่าถึงได้เป็นแบบนี้หรือความจริงแล้วมันเบื่อผมกันแน่นะ
ครืดดดด..
เสียงเลื่อนประตูกระจกทำให้ผมรีบปัดน้ำตาออกจากใบหน้าทันควัน
"มอร์นิ่งครับ"
คนพูดโน้มตัวลงหอมแก้มพร้อมกับส่งอ้อมกอดอันอบอุ่นที่คุ้นเคยให้ ผมส่งยิ้มให้มันและหันไปหอมแก้มทักมันบ้าง สบแววตายิ้มของมันที่มองกันยังคงเป็นไอ้พายคนเดิม
หรือผมคิดมากไปเองกันนะ...
ผมละสายตาจากจอโทรศัพท์หันมองไอ้พายที่เพิ่งออกมาจากห้องอาบน้ำ มันเดินมานั่งด้านข้างพร้อมกับยื่นผ้าให้เช็ดหัวที่เปียกอย่างเช่นทุกๆวัน
"วันนี้ต้องเข้าร้านรึป่าว"
"เข้าครับ แต่งตัวเสร็จก็ไปแล้วล่ะ"
"หรอ...แล้วคืนนี้จะกลับมากินข้าวด้วยกันมั้ยวะ"
"อืมมม ไม่แน่ใจครับ เดี๋ยวผมโทรบอกอีกทีละกัน"
หลังจากเช็ดผมจนแห้งเสร็จมันก็เข้าไปในห้องแต่งตัวทันที ไม่นานนักมันก็ออกมาพร้อมเสื้อเชิ๊ตกับกางเกงสแล็คสีเข้มดูภูมิฐาน
เผลอคิดไปว่านานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้เห็นมันใส่เสื้อยืดหรือเสื้อโปโลที่มันชอบใส่เมื่อก่อน คงเพราะเดี๋ยวนี้มันกลายเป็นเถ้าแก่ไปเสียแล้วล่ะมั้ง ฮึๆ
"ผมไปก่อนนะครับ แล้วจะโทรหานะ"
"พาย เดี๋ยว..."
"ครับ? เป็นอะไรทำไมทำหน้าแบบนั้น ไม่สบายรึป่าวครับ"
มันเดินมาหยุดยืนข้างหน้า สองมือยกขึ้นกุมหน้าผมไว้อย่างเป็นห่วง
"...ป่าว ไม่ได้เป็นอะไร"
"ครับ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว"
"พาย ไม่ไปทำงานไม่ได้หรอ"
"ทำไมวันนี้อ้อนจังเลย หื้ม...เอาแบบนี้ดีกว่ามั้ยเดี๋ยวคืนนี้ผมจะรีบกลับมากินข้าวด้วย โอเคมั้ยครับ"
"อื้ม รีบกลับมานะ"
"ครับ ผมไปทำงานก่อนนะ"
มันจูบลาผมอีกครั้งและหันหลังเดินออกไป บางทีผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้มั้ง มันคงจะงานยุ่งจริงๆนั่นแหละ เฮ่อ ไปทำงานบ้านต่อดีกว่า
"วันนี้ทำสเต็กเนื้อกับพวกสลัดกินดีกว่า...อืมมม เอาเนื้อสันในแล้วก็ซี่โครง อ้อ พายมันชอบกินมันบดนี่นา เอาไปทำมันบดด้วยดีกว่า"
ผมเข็นรถเข็นวนไปมาเพื่อเลือกซื้อวัตถุดิบหยิบจับจนได้ของครบตามที่ต้องการสำหรับเตรียมอาหารมื้อค่ำนี้
ครื้ดๆๆ
"ว่าไง"
/ทำอะไรอยู่ครับ/
"ซื้อของไปทำกับข้าวอยู่น่ะ วันนี้จะสเต็กเนื้อกินนะมีมันบดของโปรดมึงด้วย"
/โห แค่พูดก็หิวแล้ว อยากกลับไปกินเร็วๆจัง/
"อ่อหรอออ งั้นก็รีบๆกลับมาแล้วกัน เอ้อ แค่นี้ก่อนนะมึง กำลังจ่ายเงินแล้ว"
/โอเคครับ รักพี่เดี่ยวนะ จุ๊บๆ/
ผมยิ้มให้กับมือถือราวกับคนบ้าจนพนักงานคิดเงินหันมามองเลยรีบเก็บมือถือลงกระเป๋าตามเดิมก่อนจะหิ้วถุงออกไปจากซุปเปอร์ฯ
"ฟู่ว์! เสร็จซะที"
ผมยิ้มภูมิใจกับจานอาหารตรงหน้าที่มันออกมาดูน่ากินมากๆโดยเฉพาะสเต็กที่ถูกหมักเอาไว้เป็นชั่วโมงๆส่งกลิ่นหอมช่วยหิว
หยิบมือถือขึ้นมาเพื่อเช็คว่าไอ้พายได้ส่งข้อความอะไรมารึป่าวแต่หน้าจอที่เปิดขึ้นมาก็มีแต่ความว่างเปล่า
ช่างเถอะ สงสัยมันคงจะยุ่งอยู่แหละ นี่ก็เพิ่งสองทุ่มนิดๆเอง
ผมวางมือถือไว้ที่เดิมก่อนจะวกกลับไปเก็บกวาดซากอารยะที่ทำไว้ในครัว
จ้อกกก~~
เสียงท้องผมร้องเองล่ะครับ นั่งรอไอ้พายมาจนสี่ทุ่มได้แล้วมันก็ยังไม่กลับแถมไลน์ไปไม่ตอบโทรไปก็ไม่รับพอโทรหาอีกครั้งสายมันดันตัดไปเสียงั้น ผมเลยตัดสินใจลองโทรหาผู้จัดร้านทั้งสองร้านแทน
"ฮัลโหลโต้ง เห็นพายมันอยู่ที่ร้านมั้ยวะ"
/พายหรอ กลับไปตั้งนานแล้วนะพี่ มีไรป่าว/
"หรอ ไม่มีอะไรหรอกขอบใจมากมึง"
"...ขอโทษทีครับพี่กิ๊ฟ ฝตอนนี้พายอยู่ที่ร้านมั้ยครับ"
/ไม่อยู่นะคะคุณเดี่ยว วันนี้คุณพายไม่ได้เข้าเลยค่ะ/
"อ่า ขอบคุณครับ"
ผมกำโทรศัพท์ไว้แน่น ในตอนนี้หัวใจของผมมันเหมือนถูกบีบรัดและรู้สึกแน่นหน้าอกไปหมด คำถามมากมายมันประดังเข้ามาในหัว
ทำไมพายต้องโกหกผมด้วย? นี่ตกลงผมจะถูกมันทิ้งจริงๆหรอ? พายไม่รักผมแล้วหรอ?
คิดได้แค่นั้นน้ำตาที่กักเก็บไว้ก็ไหลลงมา ผมร้องไห้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจเพราะเป็นมันคนที่ผมรักผมถึงได้เจ็บขนาดนี้...
"กฤษ์ ฮึก..มารับกูที กูไม่ไหวแล้ว..ฮืกฮือ"
ภาคของพาย
"โธ่เว้ย!"
ผมรีบเหยียบคันเร่งมุ่งหน้าตรงไปบ้านของเฮียทันทีหลังจากที่ได้รับโทรศัพท์จากพี่กฤษ์
ผมไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ผมน่าจะเชื่อเฮียตั้งแต่แรกแต่ดันอยากปิดเอาไว้จนถึงวันสำคัญที่ใกล้เข้ามาถึง
"พี่เดี่ยวอยู่ไหนพี่"
"อยู่ในห้องนอน...พายควรบอกมันได้แล้วนะ รู้มั้ยว่าช่วงหลายเดือนมานี้มันรู้สึกยังไงถึงมันจะไม่พูดให้เราฟังก็เถอะ"
"ผมรู้ว่าผมผิดที่ปิดบังพี่เดี่ยว ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้"
"เฮ่อ เป็นเรื่องจนได้นะ เฮียเอาใจช่วยอยู่ห่างๆแล้วกัน รีบไปคุยกันให้เข้าใจเถอะพวกเฮียจะลงไปรอข้างล่างนะ"
ผมพยักหน้ารับก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องดังกล่าว ใจผมหล่นวูบเมื่อเห็นใบหน้าคนที่รักเต็มไปด้วยน้ำตา ผมก้มจูบซับน้ำตาทั้งสองข้างที่ยังไม่แห้งดี กระซิบคำขอโทษแผ่วเบาด้วยความรู้สึกผิด
"พี่เดี่ยว ผมขอโทษ...พายขอโทษขอโทษจริงๆ"
ได้แต่พูดคำเดิมซ้ำไปมาจนกระทั่งคนที่หลับอยู่เริ่มตื่นขึ้น พี่เดี่ยวดูตกใจเล็กน้อยที่เห็นผมและเริ่มมีทีท่าขัดขืน
"ปล่อย! ฮึก..ปล่อย กูบอกให้ปล่อย!"
"พี่เดี่ยวฟังผมก่อน...ฟังพายก่อนนะครับ"
"จะมายุ่งกับกูอีกทำไม..ฮึก ในเมื่อมึงไม่รักกันแล้วก็ปล่อยกู..ฮึก-ฮือ"
"อย่าร้องไห้...พายขอโทษพายไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ พายผิดไปแล้วจริงๆ"
"ฮึก กู..เจ็บ ฮึก เราเลิกกันดี-"
"เราจะไม่เลิกกันครับ! มันไม่ใช่อย่างที่พี่คิดเลยซักนิด พี่ฟังพายอธิบายก่อนนะพายเสียใจจริงๆที่ทำให้พี่เดี่ยวต้องคิดแบบนี้ พายรู้สึกผิดจริงๆที่สามเดือนก่อนพายไม่บอกพี่ไปตรงๆ"
พี่เดี่ยวไม่ได้หันหน้ามามองกันเขายังคงสะอึ้นไห้เป็นระยะ ผมจับฝ่ามืออุ่นของอีกฝ่ายขึ้นมาจูบและเอามาแนบบนแก้มตัวเอง ความร้อนที่ถูกส่งผ่านจากฝ่ามือของเขาแผ่ซ่านเข้ามาภายในหัวใจ
"พี่จำได้มั้ยว่าพายเคยบอกพี่ว่าอะไรในวันครบรอบของเราทุกปี"
"..."
"ที่รักจำได้มั้ยครับว่าพายสัญญาอะไรเอาไว้ในวันนั้น"
"ฮึก...พายสัญญาว่าจะทำให้พี่มีความสุข ฮึก..จะรักพี่คนเดียวไม่นอกใจกัน"
"พายรักพี่คนเดียวและไม่คิดจะนอกใจเลยนะครับ...แล้วอะไรอีกเอ่ย หื้ม?"
"พายสัญญาว่าจะ ฮึก..จะเก็บเงินสร้างบ้านของเรา จะพยายามเพื่อ ฮึก..อนาคตของเรา"
"ครับ ตามจริงจะต้องให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้แต่เพราะมันล่าช้าไปหน่อยเลยต้องไปลงมือเร่งเอง"
ผมวางโลหะที่มีกระดิ่งคล้องไว้บนฝ่ามือเรียวเบาๆ พี่เดี่ยวก้มลงมองสิ่งนั้นที่อยู่ในมือตัวเองพลันน้ำตาที่ยังไม่แห้งเหือดก็กลับไหลลงมาใหม่อีกคราแต่ผมรู้ดีว่าคราวนี้มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจเป็นแน่
"บ้านของเราไงครับ...ขอโทษที่ปิดเงียบไว้นะครับ จริงๆเฮียกะพี่กฤษ์เคยเตือนว่าให้บอกพี่ไปจะดีกว่าแต่พายอยากทำให้พี่เซอร์ไพส์เลยไม่ได้บอกน่ะ ยกโทษให้พายนะครับที่รัก"
"ไปทำบ้านแล้วทำไมถึงมีกลิ่นน้ำหอมติดตัวกลับมาด้วยล่ะ"
"อ่อ น่าจะเป็นคนที่ดูแลเรื่องการตกแต่งภายในน่ะครับ เธอฉีดน้ำหอมกลิ่นฉุดมากแล้วต้องคุยงานด้วยแทบทั้งวัน กลิ่นคงติดตอนนั้นมั้งครับ"
พี่เดี่ยวยังคงมองหน้าผมแบบไม่เชื่อเท่าไหร่นัก
"แล้วทำไมไลน์ไปก็ไม่ตอบ โทรไปก็ไม่รับ"
"แหะๆ มือถือแบตหมดน่ะครับ เพิ่งมาชาร์ตตอนขึ้นรถพอดีกับที่พี่กฤษ์โทรเข้ามาบอกเรื่องพี่พอดีน่ะ"
"เหอะ! อย่าคิดว่าพูดแค่แล้วกูจะเชื่อนะ"
"งั้นเราลงไปข้างล่างกันดีกว่า ผมมีพยานยืนยันได้นะ"
เราทั้งสองพากันเดินลงมายังห้องนั่งเล่นที่เฮียและพี่กฤษ์นั่งรออยู่ ทั้งคู่หันมองเราด้วยความเป็นห่วงแต่เมื่อเห็นเรากุมมือกันลงมาสีหน้าของพวกเขาก็ดูโล่งใจมากขึ้น
"สภาพดูไม่ได้เลยนะมึง"
เฮียเอ่ยแซวพี่เดี่ยวที่สภาพดูยับเยินไม่สมกับเป็นอดีตเบอร์หนึ่งของบาร์เอาซะเลย
"อะไรเล่า! ได้ข่าวว่ารวมหัวกันปิดบังผมหรอ"
"ช่วงแรกๆอะใช่ แต่หลังๆไม่ได้แนะนำ ฮึๆ"
"ไม่ต้องหันมามองกูครับเพื่อน...ผัวเด็กมึงนั่นแหละตัวตั้งตัวตี พวกกูแค่ช่วยสมทบ ฮ่ะๆๆ"
"แม่ง! จำไว้เลยนะ...มึงก็เหมือนกันไอ้พาย จะทำอะไรทำไมไม่ปรึกษากันบ้าง เรื่องบ้านกูไม่ได้จะให้มึงทำคนเดียวรึป่าวยังไงมันก็เป็นบ้านของพวกเราป่าววะ"
"ผมขอโทษผมผิดไปแล้วจริงๆ ยกโทษให้ผมน้าาาา"
"มึงก็หายงอนน้องมันเถอะน่า น้องมันก็ขอโทษแล้วเนี่ย"
พี่กฤษ์ช่วยพูดสมทบให้อีกคน
"เฮียว่าเรื่องต่อจากนี้กลับไปคุยกันเองจะดีกว่านะ นี่ก็ดึกมากละเฮียขอตัวไปทำธุระของเฮียบ้างแล้วกัน...ไปไอ้ดื้อ...ฝากปิดบ้านด้วยนะเรา"
เฮียพีชลากคอพี่กฤษ์ขึ้นไปชั้นบนปล่อยให้ผมกับพี่เดี่ยวปิดรั้วบ้านให้ เอ้อ เอากับเขาสิครับพี่ชายผม
เราสองคนกลับมาถึงคอนโดในเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ ผมเห็นอาหารที่ยังคงจัดเตรียมไว้บนโต๊ะก็รู้สึกดีที่พี่เดี่ยวไม่เทมันทิ้งไป
"มึงหิวมั้ย เดี๋ยวไปอุ่นอาหารมาให้"
"ขอบคุณครับ"
ผมเดินเข้าไปสวมกอดคนรักจากด้านหลังอย่างที่เคยทำ ยอมรับเลยว่าหลายเดือนที่ผ่านมาผมแทบไม่มีเวลาให้เขาและแทบไม่มีเวลาทำเรื่องอย่างว่าเลย คงจะไม่แปลกที่พี่เดี่ยวจะรู้สึกแบบนั้น
แต่วันนี้แหละที่ผมจะชดเชยในสิ่งที่ตัวเองละเลยไป จะชดเชยด้วยร่างกายของตัวเองจนฟ้าสว่างเลยคอยดู!!
ว่าแล้วก็ขอล้วงเข้าไปลูบหัวนมหน่อยเถอะไม่ได้จับนานละ ฮื้มมมม นิ่มจัง
"อื้อ-อย่า ไหนว่าหิวไง"
"หิวครับ แต่ผมหิวอย่างอื่นมากกว่า"
ผมพรมจูบไปตามหลังคอของคนรักในขณะที่มืออีกข้างก็เริ่มลูบคลำต่ำลงเรื่อยๆ
"พี่เดี่ยว พายรักพี่เดี่ยวนะครับ"
"พี่ก็รักพาย-อ๊ะ! อย่าบีบสิ"
พี่เดี่ยวพูดด้วยเสียงแหบพร่า แสงไฟสีอ่อนบนเพดานสาดให้เห็นใบหน้าและใบหูที่เริ่มแดงฝาดดูเย้ายวนไม่หยอก
"รักพี่เดี่ยวที่สุดในโลกเลย"
"พี่ก็รักพายที่สุดในโลกเหมือนกัน"
"รู้มั้ย ผมชอบเวลาที่พี่เรียกตัวเองว่าพี่นะ"
"...หรอ งั้นให้เปลี่ยนมั้ยล่ะ"
"ฮึ ไม่ต้องครับผมชอบเวลาที่พูดแบบนั้นก็จริงแต่ไม่ว่าแบบไหนผมก็ชอบหมดแหละ"
"ก็เป็นซะอย่างเนี่ย ตามใจกันทุกอย่างจะไม่ให้กูรักได้ไงวะ หื้มมม"
"ดีแล้วครับ รักผมคนเดียวตลอดไปเลยนะ"
อีกฝ่ายยิ้มขำก่อนจะคว้าคอผมไปรับจูบอันแสนหวาน ลิ้นของเราเกี่ยวกระหวัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เสื้อผ้าที่ใส่อยู่ดูเกะกะสำหรับเราทั้งคู่ในเวลานี้
ผมจูบไปตามแนวสันหลังของอีกฝ่ายลากลงมาถึงปราการสุดท้ายที่ยังปกปิดของสงวนไว้ มันถูกดึงถอดทิ้งไปอย่างไม่ไยดีจนเผยให้เห็นก้อนกลมเนียนและช่องทางรักอันน่าลิ้มลองที่บัดนี้มันกำลังทำให้ผมเริ่มหน้ามืดตามัว
"จะจ้องอีกนานมั้ย"
"ก็น่ากินขนาดนี้ไม่ให้จ้องยังไงไหวครับที่รัก"
ผมไม่รอช้าคุกเข่ารัวลิ้นไปยังจีบสวาทที่ขมิบเชิญชวนทันที ผมแหวกแก้มก้นทั้งสองข้างออกกว้างเพื่อให้ลิ้นเข้าไปได้ลึกกว่าเดิม
"ฮื้ออ...พาย-เสียว..อ๊ะ อ๊า..ไม่"
ใบหน้าหล่อเชิดขึ้นหายใจดังกระหืดหระหอบ เสียงร้องครางไม่เป็นภาษาในจังหวะที่ถูกทั้งลิ้นและนิ้วควงภายในช่องแคบ
"แค่นิ้วก็รัดแน่นขนาดนี้แล้วหรอครับ"
"พาย-พอ ฮื้ออ พี่ไม่ไหว-แล้ว..อ่าาา"
อีกฝ่ายปลดปล่อยออกมาทั้งที่ไม่ได้ถูกจับต้องบริเวณส่วนหน้าแต่อย่างใด ขาเรียวพาร่างตัวเองทรุดลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง
หัวใจผมเต้นรัวเร็วขณะที่มองคนรักนอนหมดแรงอยู่บนพื้น ช่องทางของเขาขมิบถี่ขนาดที่แก่นกายก็ยังปลดปล่อยน้ำออกมาไม่หยุด
"หวังว่าพี่คงไม่ได้พอใจแค่นิ้วหรอกนะ"
ผมปาดน้ำรักที่หยดเต็มพื้นมาชโลมบนแก่นกายตัวเองจนชุ่มและปาดที่ช่องทางแคบบางส่วน
"พายขอนะพี่เดี่ยว พายไม่ไหวแล้ว..อาาาา"
"ดะ เดี๋ยวก่อน..ฮึก..อ๊ะๆ..พาย-ช้า-ก่อน"
สะโพกสอบซอยเข้าออกเป็นจังหวะรัวไม่รอช้าจนพี่เดี่ยวต้องดันสะโพกผมไว้ ผมยึดแขนที่เกะกะไว้ก่อนจะส่งสะโพกตัวเองด้วยความแรง
เสียงหยาบโลนยามแก่นกายเสียดสีกับช่องทางแคบมันน่าฟังจนไม่อยากหยุด ใบหน้าแดงซ่านเคล้าน้ำตาของอีกฝ่ายเอี้ยวมามองกันอย่างเชิญชวน
ผมเปลี่ยนท่าให้พี่เดี่ยวมาอยู่ด้านบนแทน ช่องทางที่คับแน่นไปด้วยท่อนเอ็นใหญ่อยู่แล้วยิ่งมิดลำกว่าเดิมเมื่อคนด้านบนทิ้งน้ำหนักตัวลงมา อีกฝ่ายเหมือนจะรู้งานเร่งบดสะโพกทั้งหมุนทั้งควงไปมาจนผมเริ่มเสียวทั่วท้องน้อง
"อึ่ก!...พี่เดี่ยว ฮ้าาา"
"อ๊ะๆ พาย-ลึก..อื้อออ มันเข้ามาลึก"
"อาาา ช้าๆลงก่อนพี่...เดี๋ยวก่อน ซี๊ดดดด"
"พาย พาย พี่..อื้ม รักพาย อ๊า!"
"พายก็รักพี่ครับ อู่ยยย ไม่ไหวแล้วพี่-อ่าาาา"
ผมยึดสะโพกที่กำลังขย่มเอาไว้และแทงสวนสะโพกตัวเองขึ้นไปแรงๆเมื่อใกล้ปลดปล่อย ช่องทางรักของอีกฝ่ายตอดแรงเป็นสัญญาณว่าเขาจะเสร็จในไม่ช้า
ไม่นานนักช่องทางคับแน่นก็ถูกน้ำกามฉีดพุ่งเข้าเต็มจนไหลหยดย้อยไม่ต่างจากหน้าท้องผมที่มีน้ำของอีกฝ่ายกระเด็นเปรอะอยู่
พี่เดี่ยวฟุบลงบนไหล่ด้วยอาการเหนื่อยหอบ ใบหน้าที่ชื้นเหงื่อกับนัยน์ตาหวานหลับพริ้ม ปากแดงที่เปร่งเสียงจนแหบแห้งอ้าออก
"รักพี่เดี่ยวนะครับ"
"อื้ม รักเหมือนกัน"
เรายังคงจูบกันต่อเนื่องจนอารมณ์ที่เพิ่งสงบลงเริ่มถูกจุดขึ้นมาใหม่ ผมยืนขึ้นทั้งที่ยังกระเตงพี่เดี่ยวเดินไปที่โซฟากลางห้อง
"เออพาย พรุ่งนี้พาไปดูบ้านหน่อยสิ"
"ค่อยไปดูวันอื่นแล้วกันครับ"
"แต่เราคุยกันแล้วนี่ทำไมจะไปไม่ได้ล่ะ"
"ก็เพราะพรุ่งนี้ผมจะทำให้พี่ลุกไม่ได้เลยทั้งวันไงฉะนั้นเราค่อยไปดูวันอื่นแล้วนะครับบ้านของเราน่ะ...ส่วนตอนนี้พี่สนใจเรื่องของเราดีกว่า"
เป็นการปิดบทสนทนาที่ทำเอาคนฟังถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว สองร่างยังคงกอดก่ายเข้าหากันไม่นานนักทั้งห้องก็หลงเหลือแต่เพียงเสียงครางหวานชวนน่าฟังตลอดคืน
แม้ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ว่าจะความสุขหรือความทุกข์ จากนี้ไปเราสองคนจะเดินตรงไปข้างหน้าพร้อมกับอยู่เคียงข้างกันตลอดไป
--- END ---
มาลงตอนจบแล้ววววว หายไปนานหลายเดือน
ขอบคุณทุกคนอ่านและคอมเม้นท์นะคะ