จากนั้นผมก็ไม่ได้สนใจอะไรไอ้พี่เฟคอีกว่ามันมาทำอะไรที่เชียงใหม่และที่สำคัญมันพาใครมาด้วย เด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง เพราะเสียงเรียกจากคนข้างตัวที่คอยมองผมอยู่ตลอดวากำลังทำอะไรอยู่ เสียงเดินของนายชัยมาหยุดอยู่ข้างหลังผม
“ไปกันได้แล้วครับขิง นายชัยเอากระเป๋ามาให้แล้วไปกันเถอะ”
ผมพยักหน้าให้มันก่อนที่จะเดินตามมันไป ส่วนนายชัยก็หิ้วกระเป๋าใบเล็กของไอ้กันต์มาเพียงใบเดียว ส่วนเสื้อผ้าของผมนั้นไอ้กันต์บอกว่าคงจัดไม่ทันแล้วให้มาหาที่นี่เอาก็แล้วกัน
ผมเดินทางจากสนามบินมาโรงแรมเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นโดยรถที่ไอ้กันต์เช่าเอาไว้แล้ว พอมาถึงไอ้กันต์ก็ต้อนให้ผมไปนั่งรอนายชัยเพื่อเช็ดอินเข้าพัก ผมเริ่มจะอึดอัดเสียแล้ว ที่ไอ้กันต์มันคอยตามประกบผมตลอดเวลาเลย ปล่อยให้ผมเป็นอิสระบ้างเถอะ
นายชัยใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็เดินกับมาพร้อมกับกุญแจห้องผมละทึ่งจริงๆ กับความสามารถของนายชัยที่สามารถไปเอากุญแจมาให้ได้โดยใช้เวลาไม่นาน ทั้งๆ ที่คนรอเข้าพักเต็มไปหมด แต่ผมก็มารู้ที่หลังว่า ที่นายชัยสามารถไปเอากุญแจมาได้เร็วเพราะว่าไอ้กันต์มันโทรมาจองล่วงหน้าแล้ว และอีกอย่างเพื่อนของไอ้กันต์ก็เป็นเจ้าของโรงแรมนี่ด้วย
พอมาถึงห้องพัก ไอ้กันต์ก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ อย่างกับคนที่รู้จักสถานที่เป็นอย่างดี มันหายไปสักพักมันก็ออกมาด้วยสีหน้าที่ดูดีกว่าตอนเข้าไปเยอะ มันเดินมาหาผมที่กำลังนอนแผ่อยู่บนเตียง แล้วมันก็มานั่งข้างๆ ที่ผมนอนนั้นแหละ ก่อนที่มันจะก้มลงมาจุ๊บผมครั้งหนึ่ง
“เอ๊ย...ไอ้กันต์มึงทำเชี๊ยอะไรเนี๊ย”
ผมลุกขึ้นมานั่งทันที ที่มันถอนปากออกไป แล้วว่ามัน แต่แทนที่มันจะโกรธหรือไมก็สำนึกผิดมันกลับยิ้มรับพร้อมกับพูดในสิ่งที่ทำให้ผมหน้าแดงได้เหมือนกัน
“ก็จุ๊บแฟนตัวเองเรียกพลังไงครับ”
พลังหื่นล่ะไม่ว่า ไอ้นี่เผลอเป็นไม่ได้ จิ๊ปากขึ้นมาอย่างคนที่ไม่มีคำพูดจะถียงกับมัน และเหมือนกับว่าผมจำยอมยอม ผมได้ยินเสียงมันหัวเราะในคอ มีความสุขจริงนะมึง
“พี่ไปประชุมก่อนนะครับ”
อยู่ดีๆ ไอ้กันต์ก็พูดขึ้นมา
“แล้วกูล่ะ มึงจะทิ้งเลยหรือไง”
“เปล่า...ไม่ได้ทิ้งครับ เอานี่บัตร เดี๋ยวขิงก็ลงไปซื้อของที่อยากได้นะครับที่ชั้นล่างของโรงแรม หรือว่าถ้าขิงไม่พอใจก็บอกให้นายชัยพาไปกาดนะครับ แต่ห้ามไปคนเดียวนะพี่เป็นห่วง”
ไอ้กันต์เอาบัตรของมันมาส่งให้ผม ดีล่ะกูจะรูดให้มึงหมดตูดเลย ตอนเข้ามาผมก็เห็นแล้วล่ะว่าไอ้ส่วนที่เขามีไว้ขายของให้กับแขกของโรงแรมนะมันตั้งอยู่ตรงไหน
“แน่นะว่ารูดได้ตามใจอ่ะ”
“ครับ...เต็มที่เลย เงินของพี่ก็เฟหมือนของขิงนั้นแหละครับ พี่ไปก่อนนะครับ มีอะไรก็โทรถามนายชัยได้”
“อืม...ไปเถอะ”
หลังจากที่ไอ้กันต์ออกไปประชุมอะไรของมันผมก็นอนพักเอาแรงสักหน่อยดีกว่า จนเผลอหลับไปจนมาตื่นอีกครั้งก็ใกล้มืดแล้ว ผมจึงรีบไปล้างหน้าก่อนที่จะโทรตามนายชัย เพราะถ้าผมไม่โทรตามนายชัย นายชัยจะเดือดร้อนครับ ไม่ใช้ผมกลัวไอ้กันต์มันหรอกครับที่ยอมทำตาม
ผมลงไปเลือกหาซื้อเสื้อผ้าที่จะเอาไว้ใส่ตลอดที่อยู่เชียงใหม่ แต่ผมก็เลือกซื้อได้ไม่กี่ตัวเพราะราคามันแพงเวอร์ ผมว่าเงินที่ซื้อเสื้อตัวหนึ่งมันเท่ากับเงินที่บางครอบครัวใช้เป็นเดือนครับ แต่ก็ต้องเข้าใจครับว่ามันเป็นราคาที่ขายให้กับแขกของโรงแรมระดับ ห้าดาว
“คุณขิงไม่ซื้ออะไรเพิ่มหรือครับ”
นายชัยเข้ามาถามผมเพราะเห็นว่าผมเข้าไปจับและก็ไม่ซื้ออยู่หลายครั้ง
“ไม่เอาเพิ่มหรอกนายชัย ผมว่ามันแพงไปสำหรับผม”
“แต่แค่นี้คุณจะพอใส่หรือครับ เราต้องอยู่ที่นี่กันอีกหลายวันนะครับ”
“อ้าว.....งั้นเหรอ”
มันเป็นข้อมูลใหม่สำหรับผมว่าผมจะต้องอยู่เชียงใหม่อีกหลายวัน ผมคิดว่ามันจะมาอย่างมากก็สองวัน ผมจึงเดินไปหาซื้อเพิ่ม จนผมมาสะดุดใจกับเสื้อตัวหนึ่งเข้าและทำให้ผมนึกถึงไอ้กันต์ว่าถ้ามันใส่คงเหมาะกับมันเหมือนกัน ผมเข้าไปจับดูแล้วก็ซื้อมา โดยที่ผมให้เหตุผลกับตัวเองว่า ซื้อให้มันสักตัวคงไม่เป็นไรหรอกตอบแทนมันที่พาผมมาเที่ยวเชียงใหม่ด้วย และอีกอย่างก็เงินมันนั้นแหละที่ซื้อ
“คุณขิงจะซื้อไปให้นายหรือครับ”
นายชัยถามผมตอนที่รอพนักงานในร้านเอาเสื้อไปใส่ห่อให้
“อืม..”
ผมตอบนายชัยไปสั้นๆ ผมเห็นนายชัยแอบยิ้มด้วย แล้วนายชัยจะยิ้มทำไมกันผมไม่เข้าใจเลย หรือว่านายชัยจะเข้าใจผิดคิดว่าผมมีใจให้กับนายของเขา ไม่ใช่ต้องแก้ข่าว
“นายชัยหยุดยิ้มเลย ผมก็แค่ซื้อให้เพราะตอบแทนที่ไอ้เฟคมันพาผมมาเที่ยวด้วยตั้งหากและเงินที่ซื้อก็ของมัน”
“ครับ”
นายชัยพูดแต่ไม่ยอมหยุดยิ้ม
“นายคงชอบครับ”
นายชัยพูดพร้อมกับรับของจากพนักงานก่อนที่จะเดินออกไปจากร้านโดยที่ไม่ให้ผมแก้ตัวอะไรอีก ผมเดินเลือกของจนพอใจแล้วจึงกลับห้องคนเดียวโดยที่นายชัยเอาเสื้อผ้าที่ซื้อมาใหม่ไปส่งซักกับทางโรงแรมและรอรับมาพร้อมเลย เขาจึงปล่อยให้ผมกลับห้องมาคนเดียว
ผมเดินออกมาที่ระเบียงห้องพักจึงเห็นว่าด้านในของโรงแรมมีสระว่ายน้ำด้วย ความคิดของผมจึงคิดว่าผมลงไปเล่นน้ำสักชั่วโมงดีกว่าก่อนที่จะไปหาอะไรกินพร้อมนายชัย เพราะไอ้กันต์มันคงเลิกประชุมดึกแน่ๆ
เมื่อผมได้อย่างนั้นผมจึงลงมาด้านล่างทันทีโดยที่ลืมสนิทเลยว่าตัวเองยังไม่ได้บอกนายชัยเลยว่าผมจะลงมาว่ายน้ำ ผมลงมาด้านล่างก็งงว่าทางไปสระว่ายน้ำของโรงแรมมันไปทางไหน โรงแรมอะไรใหญ่เป็นบ้า จนผมต้องไปถามกับพนักงานของโรงแรมว่าสระว่ายน้ำไปทางไหน ผมจึงไปถูก และผมก็ซื้อกางเกงว่ายน้ำที่ข้างสระนั้นแหละมีร้านมาตั้งขายพอดี คงสำหรับคนอย่างผมนั้นแหละครับที่อยากเล่นน้ำกระทันหัน แต่ไม่ได้เตรียมกางเกงสำหรับว่ายน้ำมา
ทุกอย่างพร้อม ผมจึงกระโดดลงสระ ดีที่ว่าตอนนี้เป็นช่วงวันธรรมดาสระก็เลยมีคนไม่มาก ผมก็เล่นน้ำไปคนเดียวโดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่ามีใครบางคนกำลังมองผมอยู่
สักพักก็มีคนลงมาว่ายเพิ่มอีกสองสามคน และหนึ่งในนั้นก็ว่ายมาตีคู่กับผม
“ขอว่ายน้ำด้วยคนนะครับ”
“ครับ”
ผมตอบกลับไป ก็สระนี่ไม่ใช่ของผมสักหน่อยจะได้มาห่วง ใครอยากจะว่ายก็ว่ายไปซิ เมื่อผมตอบเขาแล้ว ผมก็ว่ายหนีไปทางอื่น แต่เหมือนกับว่าเขาก็คอยว่ายตามผมตลอดจนผมรู้สึกอึดอัด ผมจึงขึ้นจากสระมานั่งที่เก้าอี้ข้างสระ เขาก็ตามผมขึ้นมาด้วย
“ผมชื่อหมูครับ..แล้วคุณชื่ออะไรครับ”
ผมงง ที่อยู่ดีๆ นายคนนั้นก็เดินมานั่งเก้าอี้ข้างๆ ผมแล้วเขาก็ถามชื่อผม แต่จะให้เสียมารยาทผมก็ทำไม่ได้ และมองดูแล้วเขาก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรตรงกันข้ามเสียอีก ไม่ว่ารูปร่างหรือหน้าตาดูดีไปหมด
“ชื่อขิงครับ”
“ชื่อขิงแล้วเผ็ดหรือเปล่าครับ”
ผมยิ้มให้เขานิดๆ ผมรู้แล้วล่ะจุดประสงค์ของเขาที่ตามผมมาตลอดคืออะไร แต่ผมก็ตั้งตัวไม่ติดเหมือนกันไม่คิดว่าเขาจะเข้ามาจีบผมอย่างนี้ และนี่คือครั้งแรกที่มีผู้ชายเข้ามาจีบผมอย่างเปิดเผย ไม่นับไอ้กันต์ที่มันบังคับขืนใจผม
“เผ็ดไม่เผ็ดคุณหมูก็ต้องรอดูเอาเองครับ”
เขายิ้มให้ผมก่อนที่จะเรียกให้พนักงานมาสั่งเครื่องดื่มให้ผม
“ผมขอเลี้ยงขิงนะครับ...สำหรับมิตรภาพใหม่ครับ”
“ครับขอบคุณ”
เพียงไม่นานพนักงานของโรงแรมก็นำเครื่องดื่มมาให้พวกผมสองคนก่อนที่จะโค้งจนหัวแทบชนพื้นให้พวกผมแล้วหายไป ผมรับเครื่องดื่มาจิ๊บเพียงเล็กน้อยเพราะผมคิดว่าจะลงไปว่ายน้ำเล่นอีกสักรอบกลัวว่าถ้าขืนกินไปเยอะจะจุก
พอผมลงไปว่ายน้ำ หมูก็ลงตามมาด้วย ผมจึงว่ายคู่ไปกับหมู
“โห้..ขิงว่ายเก่งนะครับ ผมล่ะว่ายตามเกือบไม่ทันเคยเป็นนักกีฬามาก่อนหรือเปล่าครับ”
“ไม่หรอกครับ...และผมก็ไม่ได้เป็นนักกีฬาหรอกครับแค่เมื่อก่อนเคยว่ายเล่นในคลองบ่อยๆ”
“ขิงนี่มีอารมณ์ขันนะครับ”
“ครับ ผมว่าเราขึ้นกันเถอะครับมืดแล้ว และเราก็เล่นกันมานานแล้ว”
“ครับ...”
ผมปีนขึ้นมาจากสระ หมูก็ตามขึ้นมาด้วย ผมเดินไปที่เก้าอี้ของตัวเองแล้วเอาผ้ามาเช็ดตัวแล้วห่มเอาไว้เพราะเริ่มรู้สึกเย็นๆ หมูเองก็ทำตามเหมือนกัน พอเช็ดเสร็จผมก็นั่งลงเพื่อกินเครื่องดื่มที่เหลืออยู่ และก็นั่งคุยกับหมูต่อ ผมถึงได้รู้ว่าหมูนั้นอายุมากกว่าผมหลายปี เท่ากับไอ้กันต์เลย แล้วผมจะไปคิดถึงมันทำไมเนี๊ย... หมูเป็นคนที่มีอารมณ์ขันมาก ทำให้ผมกับหมูสนิทกันเร็วมาก
ตอนที่ผมคุยกับหมูอย่างสนุกอยู่นั้น...ก็เหมือนมีใครมายืนอยู่ด้านหลังของผมก่อนที่เขาจะเรียกผมเสียงดังอย่างคนที่โกรธปนกับความโล่งใจ
“ขิง.....”