As he pleases ❣️[BDSM] UP! Chapter X 100% [Nov, 16]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: As he pleases ❣️[BDSM] UP! Chapter X 100% [Nov, 16]  (อ่าน 14719 ครั้ง)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: As he pleases ❣️ UP! Chapter VI [Sep, 16]
«ตอบ #30 เมื่อ16-09-2019 22:55:49 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: As he pleases ❣️ UP! Chapter VI [Sep, 16]
«ตอบ #31 เมื่อ17-09-2019 09:28:10 »

 :mew1:

ออฟไลน์ ✿PIERRE

  • ดองนิยายข้ามปี
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-6
Re: As he pleases ❣️ UP! Chapter VI [Sep, 16]
«ตอบ #32 เมื่อ18-09-2019 15:23:45 »

VII
Little moans


   ความรู้สึกกลับหัวกลับหางแล่นเอาผมแทบขย้อนมื้อค่ำออกมาทั้งหมด ถ้าไม่ติดว่าคนที่แบกผมขึ้นรถอยู่นี่ไม่ใช่ไมเคิลล่ะก็...ผมไม่มีทางอดทนกล้ำกลืนความรู้สึกนี้เอาไว้หรอก

   ก่อนที่เขาจะแบกผมเหมือนกระสอบทรายอย่างที่เห็นนี้ ผมเผลอหลับไปเพราะลมเย็นๆ และบรรยากาศที่เบาสบาย ผืนหญ้าที่ผมเอนลงนอนก็นุ่มเหมือนเตียงชั้นดี บวกกับไวน์ที่ผมดื่มเอา ๆ แบบไม่รู้จักเปลือง เพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะให้ผมยึดผืนหญ้าเป็นเป็นฟูกหนา ท้องฟ้าเป็นเพดานที่ขับกล่อมให้ผมเข้าสู่ห้วงสงบ แม้ว่าหูได้ยินเสียงทุ้มต่ำของคนข้าง ๆ พยายามเรียกผมอยู่หลายรอบ แต่ผมมึนเกินกว่าจะตอบรับ คลับคล้ายคลับคลาว่าไมเคิลถอนหายใจยาวก่อนจะสบถอะไรไม่รู้เป็นภาษาแม่ของเขาที่ผมแปลไม่ออก

   สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจแบกผมมาที่รถ ได้ยินแว่ว ๆ เขากำชับว่าอย่าอ้วกบนรถของเขาด้วย ด้วยเหตุนี้สติอันน้อยนิดของผมจึงย้ำเตือนตัวเองว่าอย่าอ้วกเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นเขาจะรังเกียจผม แถมทำรถหรูของเขาเปื้อน ซึ่งแน่ล่ะว่าผมไม่มีปัญญาจ่ายค่าทำความสะอาดหรอก

   ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว แอบสูดกลิ่นกายของไมเคิลสักหน่อยแล้วกัน ส่วนมือก็แอบลูบคลำแผ่นหลังมัดแน่นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ หวังว่าเขาจะไม่ถือสาคนเมานะ

   ภายนอกผมดูเมามาย ซึ่งอันที่จริงแล้ว...ผมก็เมาจริง ๆ นั่นแหละ ไวน์นั่นแรงใช้ได้ ไม่รู้ว่าไมเคิลจงใจมอมผมหรือผิดที่ผมคออ่อนเอง แต่สติสัมปชัญญะยังคงรับรู้ทุกการเคลื่อนไหว ทุกการกระทำของไมเคิล

   เขากลับไปนั่งประจำที่คนขับดังเดิม ก่อนจะหันมาถามผม

   “เฮ้ มิค ถ้าฉันพาเธอกลับบ้าน เธอดูแลตัวเองไหวไหม?”

   “อ่า...อือออออ...แอมมม โอเคคคค ไอแคนเทคแคร์ออฟมายเซลลลลฟ์ (I’m okay. I can take care of myself. ผมไหว ผมดูแลตัวเองได้)” เสียงยานคานนี่มันเสียงใครกัน ปกติพูดไทยก็ไ่ค่อยจะรู้เรื่องอยู่แล้ว แล้วนี่ดันเมาเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษอีก หวังว่าคนฟังจะเข้าใจนะ

   “อ่าหะ ดูแลตัวเองได้อะไร พูดยังไม่รู้เรื่องเลย”

   “จัสเลทมีสลีปซัมแวร์ ไอวิลบีออลลลลลลไรท์ (Just let me sleep somewhere, I will be alright. ปล่อยให้ผมนอนแถวนี้ เดี๋ยวผมก็ดีขึ้นเอง)”

   “โอเค สรุปเธอดูแลตัวเองไม่ได้” ไมเคิลพูดกับตัวเอง “งั้นฉันพาเธอกลับบ้านแล้วกัน”

   “โน โนวว โนๆๆๆ ไอว้อนทูบีวิทยู ไอด้อนว้อนทูโกโฮม (I want to be with you. I don’t want to go home. ผมอยากอยู่กับคุณ ผมไม่อยากกลับบ้าน)” ผมตอบความในใจออกไปแบบไม่รู้ตัว

   เหมือนเขาจะนิ่งงันไปสักพัก ผมไม่รู้ว่าเขามีสีหน้าหรือทำท่าทางอย่างไร แต่สุดท้ายแล้วเหมือนเขาจะตัดสินใจได้ เหยียบคันเร่งทะยานเข้าสู่ถนนสายหลักเส้นเดิม

   “Damn Micky, I don't want to be a devil tonight. How can I control myself if you are being like this. (ให้ตายเถอะมิคกี้ คืนนี้ฉันไม่อยากจะเป็นปิศาจร้ายนะ จะให้ฉันควบคุมตัวเองได้ยังไงในเมื่อเธอเป็นแบบนี้)”

   หืออออ เมื่อกี้เขาพูดว่าอะไรนะ ใครคือเดวิด มีแต่ไมเคิลไม่ใช่หรอ ช่างเถอะ ขอหลับก่อนแล้วกัน ไมเคิลอุตส่าห์ปรับเบาะเอนให้สบาย ๆ รถราคาแพงมันดีแบบนี้นี่เอง




   หลังจากได้หลับสบายบนเบาะนุ่ม แม้จะไม่สบายตัวแต่มันก็ดีกว่าพื้นแข็ง ๆ ผมรู้สึกตัวอีกทีเมื่อไมเคิลรับบทผู้ดูแลจำเป็นแบกผมเข้าสู่อพาร์ทเม้นแห่งหนึ่ง

   มันจะดีกว่านี้ถ้าเขาอุ้มผมเข้าห้องด้วยท่าเจ้าหญิง แต่นี่อะไร แบกผมอย่างกับกระสอบทราย โธ๋ชีวิตน้อยๆของมิคกี้ จะมีความโรแมนติกหน่อยก็ไม่ได้เลย ผมว่าผมก็ไม่ได้ตัวสูงมากนะเมื่อเทียบกับเขา เอาจริง ๆ คือความสูงผมเท่ากับมาตรฐานหญิงชาวตะวันตกเลยด้วยซ้ำ

   นี่คงเป็นที่พักอาศัยของเขา ผมปรือตามองเห็นห้องนั่งเล่นกว้างขวาง ตกแต่งอย่างเรียบหรูดูดี ผมไม่ได้สำรวจอะไรมากเขาก็แบกผมมายังห้องนอนแล้ว

   ตุบ!

   โยน! เขาโยนผม!

   มันไม่ได้เจ็บแต่แรงกระแทกก็มากพอที่จะทำให้ผมเกือบขย้อนของเก่าออกมา นี่ถ้าผมอ้วกจริงๆต้องโทษเขาเลยนะ

   ตอนนี้อาการเมาของผมเริ่มทุเลาลงหลังจากได้นอน ปกติผมมักจะเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว หากเมาก็ขอแค่ได้นอนสักหน่อยแล้วจะดีขึ้นเอง

   ไมเคิลเดินไปที่ปลายเตียงแล้วถอดรองเท้าถุงเท้าให้ผม จากนั้นเลื่อนขึ้นมาถอดเสื้อตัวนอกให้ ผมนี่ใจหวิว ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรแต่ลึกๆ ก็แอบหวังให้เขาสัมผัสผมมากกว่านี้อีกสักนิด

   ผมครางเสียงอืออาเล็กน้อยอย่างไม่สบายตัว

   ณ วินาทีที่เขาปลดกางเกงยีนส์ ความเย็นแล่นพล่านไปทั่ว โดยเฉพาะจุดกึ่งกลางลำตัวที่ดูเหมือนจะมีปฏิกริยาเล็กน้อย ผมข่มความต้องการไว้ในใจ ไม่อยากให้ไมเคิลรับรู้ว่าผมมีความต้องการเพียงแค่เขาเริ่มถอดเสื้อผ้าผมทีละชิ้น

   แต่แล้วเขาก็หยุดการกระทำ เสียงสวบสาบที่เริ่มไกลออกไปทำให้ผมรู้ว่าเขาเดินออกจากห้องไปแล้ว บนตัวผมเหลือเพียงแค่เสื้อยืดกับบ๊อกเซอร์เท่านั้น ผมรออยู่นานจนเหมือนกับว่าเขาจะไม่เข้ามาในห้องนี้อีกแล้ว ทว่าเขาก็กลับมาอีกครั้ง มาพร้อมผ้าขนหนูเย็น ๆ และเริ่มเช็ดตัวให้ผม

   เขาเริ่มเช็ดจากใบหน้า ลำคอ แขน พลันเลิกเสื้อยืดขึ้นแล้วเช็ดไปตามหน้าท้องแบน ๆ ที่ไม่มีแม้แต่ซิกแพ็คงามๆ แม้แต่ลูกเดียว จากนั้นไล่ย้อนขึ้นมาใหม่ที่ไล่ ไหปลาร้า จบที่แก้มของผมอีกครั้ง

   ไมเคิลไม่ได้เช็ดด้วยความอ่อนโยนเหมือนพระเอกเช็ดในนางเอกในนิยายรักทั่วไป แต่เขาเช็ดด้วยความระมัดระวังและเอาใจใส่ กลัวว่าผมจะตื่น หวังแค่ให้ผมได้นอนหลับสบายตัวโดยที่ไม่ต้องลุกไปอาบน้ำล้างหน้า

   จากการกระทำนี้ทำให้ผมรู้สึกผิดที่แอบคิดเกินเลยกับเขา เขาเป็นคนดี เขาไม่ควรลดตัวมายุ่งกับเกย์แบบผม ที่เขาช่วยเหลือผมตั้งแต่ที่เจอกับที่ภูเขาและตอนนี้ เขาทำไปเพราะความดีที่มีในตัวเขาทั้งสิ้น

   เป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมสมบูรณ์เหมาะจะมีครอบครัวที่น่ารัก ศรีภรรยาสวยสง่ายืนอยู่กับเขาออกสู่งานสังคม และอาจจะมีเจ้าตัวเล็กวิ่งไปมารอบ ๆ ร่าเริงสดใส

   อ่า...นี่ผมคิดอะไรเป็นตุเป็นตะเนี่ย...

   “มิคกี้ ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ” จู่ๆ คนที่กำลังเช็ดตัวผมก็เกริ่นขึ้นมา ผมครางรับอืออาในลำคออย่างขี้เกียจ “นายไม่มีแฟนจริง ๆ ใช่ไหม”

   หือ? เขาถามไปแล้วนี่ ผมพงกหัวยืนยันอย่างรุนแรง ทั้ง ๆ ที่ยังหลับตาอยู่

   “แล้ว...”

   “...”

   “เธอชอบฉันรึเปล่า?”

   สิ้นคำถามผมพลันชะงักไปอึดใจ ทำไมเขาถามแบบนี้...แต่จากอาการท่าทางของผมที่ผ่านมาก็คงดูออกไม่ยากแหละว่าผมเป็นเกย์ และผมชอบเขา

   ผมปรือตาขึ้นอย่างช้า ๆ พลิกตัวหันไปสบตาสีฟ้าเหลือบเขียว ไมเคิลจ้องมาที่ผมด้วยสายตาจริงจัง แววตาไม่มีคำว่าล้อเล่นเลยสักนิด

   เมื่อเห็นผมไม่ยอมตอบ เขาพูดเสริมขึ้นมาอีก

   “ตัวฉันเอง... ‘ถูกใจ’ เธอนะ...ยอมรับตามตรงที่ฉันเข้าไปช่วยเธอตอนเธอหกล้มเพราะเธอเป็นผู้ชายที่น่ารัก หน้าตาดี ตรงสเป็คฉันเลยล่ะ” พูดถึงตรงนี้ใจผมเต้นรัว

   บ้าเอ๊ย! เกิดมายังไม่เคยมีใครสารภาพแบบนี้กับผมตรง ๆ เลย ยิ่งเป็นคนที่ผมชอบด้วยแล้ว...

   “ปกติแล้วฉันออกเดทกับผู้หญิง แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่มองผู้ชาย...แบบเธอ...แล้วฉันก็หัวสมัยใหม่มากพอที่จะไม่แคร์ในเรื่องรักเพศเดียวกัน” ไมเคิลหลุบตาลง หันไปข้าง ๆ ก่อนจะพูดต่อ “ที่ฉันพาเธอออกไปข้างนอกวันนี้ หวังว่าเธอจะชอบฉันกลับบ้าง...ไม่ได้หวังอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น...แต่ทว่าพอได้เห็นเธอในสภาพนี้...มันทำให้สัญชาตญาณดิบของผู้ชายพลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง”

   ตอนนี้ใบหน้าผมเห่อร้อน ไม่ต้องส่องกระจกก็รู้ว่าผมหน้าแดงขนาดไหน สายตาคมเข้มที่เขาจ้องมามันทำให้ผมหายใจไม่ทั่วท้อง ที่เขาสารภาพนี่เป็นความจริงใช่ไหม ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม หากเป็นความฝัน...นี่ก็คงเป็นฝันที่ดีสุด

   “ใจจริงฉันอยากจะทำอะไรต่อมิอะไรกับเธอ...แต่ว่า...ฉันอยากคุยกับเธอให้รู้เรื่องก่อน ฉันไม่อยากเอาเปรียบเธอ”

   ไมเคิลคนดีของผม...ให้ตายเถอะ...ผมยอมให้เอาเปรียบทั้งตัวและหัวใจเลย...

   แต่ว่า...อย่าลืมครับ เราต้องเล่นตัวสักนิดหนึ่ง ให้รู้ว่าชายไทยอย่างผมไม่ได้ใจง่ายขนาดนั้น แม้ในใจนี่จะยอมถวายตัวแล้วก็เถอะ

   “ถ้าผมตอบว่าผมไม่ได้ชอบคุณล่ะไมเคิล?”

   ไมเคิลหยุดมือเช็ดตัวผม หันมาสบตาผมตรง ๆ แววตามีความท้าทาย

   ผมชอบ ผมชอบที่ได้เห็นอะไรแบบนี้ ได้เห็นคนที่อยากได้ตัวผม พร้อมจะพังทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองผม

   “ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย แต่รับรองว่าท้ายที่สุดเธอจะกลับมาเป็นฝ่ายขอร้องฉันเอง” เขาตอบ “อีกอย่าง...ฉันว่าเธอตอบผิดนะพ่อหนุ่มน้อย สายตาที่เธอมองฉันมันฟ้องทุกอย่างแล้ว ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน จวบจนกระทั่งวันนี้ ถ้าเธอไม่ชอบฉันเธอคงไม่ออกมากับฉันแล้วพูดว่าอยากอยู่กับฉันต่อหรอกนะ”

   ใช่...ที่เขาพูดมาถูกต้องทุกอย่าง ผมแพ้เขาทุกทางจริง ๆ

   “ผมพูดไปเพราะว่าเมาหรอก แต่ตอนนี้สร่างแล้ว” ขอแก้ตัวอีกนิดได้ไหม

   “คนเมาไม่พูดโกหก” เสียงทุ้มตอบกลับทันควัน เจือหัวเราะในลำคอนิด ๆ ราวกับสนุกที่ได้เห็นผมจนตรอก “ว่ายังไงมิคกี้”

   “ก็ได้ๆ...ผมชอบคุณ...ชอบมากด้วย” ผมตอบเสียงอ้อมแอ้ม

   เกลียดความตรงไปตรงมาของฝรั่งจริง ๆ มีอะไรต้องพูดให้ชัดและเคลียร์ปัญหา ไม่ยอมให้อีกฝ่ายคิดไปเอง แต่นั่นคือข้อดี ดีแล้วที่พูดทุกอย่างให้กระจ่าง ไม่ใช่เก็บเอาไปคิดเองและให้ตีความจากการกระทำ แบบเมื่อสองสามอาทิตย์ที่เขาไม่ค่อยตอบวอสแอพผมเลย

   “แต่...ผมส่งข้อความคุยกับคุณไปตั้งเยอะ คุณไม่ค่อยตอบผมเลย คุณคงไม่ได้ชอบผมจริง ๆ หรอกใช่ไหม”

   “หืม? ฉันว่าเธอยึดติดกับความเคยชินของคนเอเชียไปหน่อยนะ ซึ่งก็โทษเธอไม่ได้ ฉันเป็นคนที่ไม่ชอบส่งข้อความคุยผ่านแอพพลิเคชั่น ไม่ว่าจะทำงานหรืออยู่กับเพื่อน ฉันใช้เวลากับคนที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า โลกออนไลน์ฉันมีไว้เพื่อติดต่อสื่อสารกันเท่านั้น หากไม่จำเป็นจริง ๆ ฉันแทบจะไม่จับโทรศัพท์เลยด้วยซ้ำ นอกมีเรื่องด่วนต้องโทรหาฉันเอาก็ได้” ไมเคิลเขยิบเข้ามาชิดผม ใช้ปลายนิ้วเชิดคางผมให้สูงขึ้น “แต่กับเธอ...รู้ไหมฉันตอบข้อความเยอะกว่าข้อความที่ฉันตอบคนอื่นทั้งปีเสียอีก”

   “อ่าครับ” ผมขืนตัวนิดๆ เพราะเขินที่ต้องสบตาร้อนแรงแฝงความต้องการตรง ๆ แบบนี้ “ผมขอโทษที่คิดมากไปเอง”

   “หึหึ ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจว่าเธอคลั่งไคล้ฉันมาก”

   หลงตัวเองชะมัด แต่ก็นั่นแหละ ไม่ผิดที่เขาจะหลงตัวเอง หากผมมีรูปร่างหน้าตาแบบนี้มันก็ต้องมีความภาคภูมิใจในระดับนึง

   “ว่าแต่...คุณทำแบบนี้กับผู้หญิง เอ๊ย คุณทำแบบนี้กับทุกคนที่คุณถูกใจหมดเลยหรอ”

   “แบบไหน”

   “ก็...พาไปกินข้าว พามานั่งรถเล่น พาไปชมทิวทัศน์ดื่มไวน์ตอนกลางคืน”

   ไมเคิลปล่อยคางผมแล้ว หันมาเล่นปอยผมที่ปรกลงมาอย่างไม่ได้ตั้งใจของผมแทน

   “จะโกรธไหมถ้าฉันตอบว่าใช่” เขาหยุดเล่นปอยผม “ดูทำหน้าเข้า ฮ่าๆๆๆ อันที่จริงมันก็คือสเต็ปการจีบทั่วๆ ไปไม่ใช่หรอ อย่าหึงคนก่อน ๆ ของฉันเลยน่า...อีกอย่างฉันพาเธอไปชมวิวเป็นคนแรกเลยนะ นั่นพอจะหักล้างกันได้ไหม?”

   ผมเปลี่ยนจากหน้างอเป็นฉงนใจเล็กน้อย

   “หืม อย่างคุณยังต้องตามจีบอีกหรอครับ”

   “อันที่จริงส่วนใหญ่ก็ไม่ถึงต้องตามจีบหรอก...”

   ว่าแล้วเชียว หน้าตาอย่างเขาแค่กระดิกนิ้วสาว ๆ คงวิ่งมาหาถึงเตียง

   เขาหยุดพูดไป ซึ่งผมก็ไม่เซ้าซี้ต่อ ยอมรับว่าเขาหน้าตาดีมาก และผมก็ชอบเขามาก แต่นั่นเป็นเพียงความรู้สึกผิวเผิน ไม่จำเป็นต้องขนาดต้องตามหึงเขากับคนก่อนหน้านี้

   “แต่ว่านะ...บางทีฉันก็ชอบอารมณ์ตอนรู้จักกันใหม่ ๆ ช่วงแรก ๆ มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นนักล่า แต่พอนาน ๆ เข้าก็เริ่มเบื่อเหยื่อที่ว่าง่าย...ฉันเลยมีลูกเล่นใหม่ ๆ ให้พวกเธอตื่นเต้น แต่พวกเธอกลับรับไม่ไหวซะนี่”

   หืออออ ลูกเล่นใหม่ๆ ?

   “อายุฉันก็สามสิบต้น ๆ แล้ว ไม่ใช่หนุ่มน้อยที่ยังไม่ประสีประสาเรื่องอย่างว่า”

   ไมเคิลโน้มคร่อมตัวผม มือหนาลูบไล้ไปตามผิวราวกับมีกระแสไฟฟ้าลากผ่านบริเวณที่เขาสัมผัส ผมเกร็งตัวราวกับเป็นลูกไก่ในกำมือ จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด

   “ฉันชอบมีเซ็กส์ มันเป็นกิจกรรมผ่อนคลายอย่างหนึ่ง และถ้าคู่นอนของฉันตอบสนองอารมณ์ได้ดีฉันก็อาจจะมีของขวัญพิเศษเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้”

   ถึงตรงนี้ ไมเคิลกระซิบชิดริมใบหูผม ขณะที่นิ้วเรียวลากผ่านชั้นในของผมอย่างแผ่วเบา ผมชนลุกซู่ ท้องน้อยปั่นป่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาค่อย ๆ สัมผัสเข้าสู่กึ่งกลางลำตัว

   “อือออ...” ผมเผลอครางออกมา เมื่อเขาจงใจลูบไล้แบบผ่าน ๆ ไม่ยอมสัมผัสแบบตรง ๆ สักที

   ความอึดอัดโป่งพองอย่างเห็นได้ชัด

   “เด็กดี...ร้องขอฉันสิ...”ไมเคิลกระซิบพร่า ริมฝีปากเขาจงใจหยอกล้อขบเม้มใบหูด้านซ้าย ทำเอาผมสะดุ้งเบาๆ

   “Please...(ได้โปรด...)” น้ำเสียงเว้าวอนเร่งเร้าให้เขาทำในสิ่งที่ผมต้องการ

   ผมอยากให้เขาสัมผัสผมมากกว่านี้

   “อา...อือ...”

   แม้จะพยายามเก็บเสียงลงลำคอ แต่สิ่งได้ที่ได้รับมันเกินห้ามไหว ได้แต่ครางอืออาไม่รู้ประสา เพราะผมไม่รู้จริง ๆ ว่าในเวลานี้ควรตอบสนองอย่างไร

   ใช่...ผมยังเวอร์จิ้น...

   ศึกษามาบ้างจากคลิปต่าง ๆ ทว่ามันก็แค่ภาคทฤษฎี ยังไม่เคยปฏิบัติจริง

   “มิคกี้...ไม่ต้องฝืนหรอก...อยากครางก็ครางออกมาเลย...ฉันชอบที่เธอครางเพราะฉัน...”

   เขากระตุ้นผมด้วยการกัดลำคอ เผยรอยฟันเรียงเป็นระเบียบ

   “ฉันเป็นคนเสพติดเซ็กส์ และชอบที่จะได้เห็นคู่นอนว่าง่าย แต่ก็พยศบ้างบางครั้ง...เธอจะเป็นให้ฉันได้ไหม มิคกี้...”

   “อะ อื้อ...ครับ...”

   “รับปากสิว่าถ้าฉันให้เธอทำอะไร...เธอก็จะทำ”

   “คะ ครับ...”

   “จะเชื่อฟังฉัน”

   “ผมจะ...อื้อ...เชื่อฟังคุณ...อ๊ะ...”

   ไมเคิลขบเม้มยอดอกผมแผ่วเบา ทว่ากลับให้ผลที่รุนแรงเกินคาด ผมแทบจะอดกลั้นไม่ไหวแล้ว หากเขายังเล่นกับร่างกายผมแบบนี้ มีหวังผมต้องปลดปล่อยโดยที่เขายังไม่ได้สัมผัสแก่นกลางของผมด้วยซ้ำ

   “มิคกี้...”

   สิ้นคำริมฝีปากหนาก็ประกบลงมาอย่างร้อนแรง ราวกับทนไม่ไหวและไม่อยากฝืนตัวเองอีกต่อไป ผมหลับตาลง รับความดุดันที่เขาให้อย่างเต็มใจ ไม่มีความอ่อนโยน มีแต่แรงตัณหา ลิ้นอุ่นกระหวัดพันเกี่ยว สำรวจไปทั่วทั้งริมฝีปากและกระพุ้งแก้ม ก่อนจะใช้ฟันขาวดูดดึงริมฝีปากล่างอย่างเอาแต่ใจ

   ครืด ครืด ครืด

   บางสิ่งบางอย่างสั่นบนโต๊ะเล็กข้างหัวเตียง ผมลืมตาขึ้น ประท้วงเบา ๆ ให้เขาหันไปรับโทรศัพท์ แต่ไมเคิลกลับไม่แยแส เอาแต่ประโลมงับ กัด แทะเล็ม ลิ้มรสริมฝีปากผมจนไม่อาจถอนตัวได้ง่าย ๆ

   ครืด ครืด ครืด

   คราวนี้ผมดันและตบหน้าอกเขาเบา ๆ พลางหันหน้าหนี

   “แฮ่ก...ไมเคิล...แฮ่ก...รับโทรศัพท์สิ” ผมหอบหายใจแรง

   “Shit! (เวรเอ๊ย!)” คนตรงหน้าหัวเสีย แต่กระนั้นก็เขยิบร่างไปรับโทรศัพท์ เมื่อเห็นว่าใครโทรมาเขาจึงขอตัวออกไปคุยข้างนอก และบอกให้ผมเตรียมใจเพราะคืนนี้ผมไม่ได้นอนหลับสบายแน่นอน

   ไอร้อนเห่อทั่วใบหน้า ผมดึงผ้าห่มมาคลุมโปงอย่างมิดชิด ไมเคิลหัวเราะก่อนจะเดินจากไป



*50%*


เงียบเหงาจังเลยยย T_T

   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-09-2019 08:38:37 โดย ✿PIERRE »

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
Re: As he pleases ❣️ UP! Chapter VII 50% [Sep, 18]
«ตอบ #33 เมื่อ18-09-2019 16:50:38 »

ไม่เงียบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ฉากแบบนี้เงียบได้ยังไงครับ นี่! /ผายมือ หลบกันอยู่หลังม่านตาแป๋วกันทั้งนั้นแหละครับ อย่าให้ said 55555555555555555 ใครอยู่หลังม่านกันบ้าง เฉลยมาซะดีๆครับ คนถือกล้องน้อยใจแล้วเนี่ย เดี๋ยวเขาหักหลบไปที่โคมไฟแล้วเราจะค้างกันนะครับ 5555

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: As he pleases ❣️ UP! Chapter VII 50% [Sep, 18]
«ตอบ #34 เมื่อ18-09-2019 23:29:38 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: As he pleases ❣️ UP! Chapter VII 50% [Sep, 18]
«ตอบ #35 เมื่อ19-09-2019 00:11:33 »

หวายยยย ดูแล้วท่าจะแซ่บนะคะ  :o8:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: As he pleases ❣️ UP! Chapter VII 50% [Sep, 18]
«ตอบ #36 เมื่อ19-09-2019 01:13:15 »

ดูท่าไมเคิลจะร้ายใช่เล่นเลย
ว่าแต่ไมเคิลจะสั่งให้น้องมิคทำอะไรคะ  :hao6:

 :pig4:

ออฟไลน์ ✿PIERRE

  • ดองนิยายข้ามปี
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-6
Re: As he pleases ❣️ UP! Chapter VII 50% [Sep, 18]
«ตอบ #37 เมื่อ22-09-2019 13:02:57 »

*ต่อครบ100%*


   เสียงคุยโทรศัพท์ดังแว่วมาเป็นระยะ ๆ ผมสะลึมสะลือลืมตาตื่นขึ้น แสงแดดอ่อน ๆ ด้านนอกที่ทะลุเข้ามาในห้องนอนทำให้ผมรู้ว่านี่มันเช้าวันใหม่แล้ว

   อ๊ากกกกกก เมื่อคืนผมรอไมเคิลคุยโทรศัพท์จนเผลอหลับไปเสียสนิท

   และนี่ตื่นมาก็ยังได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์อยู่ ไม่ใช่ว่าเขาคุยทั้งคืนหรอกนะ?

   ผมก้มมองสำรวจร่องรอยที่อาจจะเป็นหลักฐานอะไรบางอย่างกลับไม่พบเลยสักนิด หนำซ้ำผ้าห่มคลุมโปงถึงต้นคอนี่อีก...

   อดเสียตัวเลย โธ่

   แม้จะเสียดายแต่ก็ดีแล้ว ในใจผมลึกๆยังไม่พร้อมเท่าไหร่ แหะๆ ปากดีไปอย่างนั้นแหละครับ

   เข็มสั้นนาฬิกาบนผนังชี้ไปยังเลขเจ็ด ผมมองอย่างไม่แปลกใจเพราะตั้งแต่มาทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่นี่ผมตื่นเช้าทุกวันโดยไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุกเสียด้วยซ้ำ ผมยีหัวยุ่งๆ ลุกขึ้นจากเตียง พับผ้าห่มและจัดเตียงให้เรียบร้อยก่อนจะออกไปยังห้องรับแขกที่มีร่างสูงยืนอยู่เป็นสง่า ในมือเขาถือกาแฟหอมกรุ่น ใกล้ ๆ กันนั้นมีโทรศัพท์ของเขาที่เปิดลำโพงให้ได้ยืนคู่สายโดยไม่ต้องแนบโทรศัพท์ไว้กับหูวางอยู่บนโต๊ะแก้วขนาดกลางที่มองดูก็รู้ว่าใช้งานไม่ได้จริง ไว้แค่ประดับห้องหรูแห่งนี้เท่านั้น

   ไมเคิลสวมเพียงแค่กางเกงวอร์มขายาวกับเสื้อยืดสีขาวธรรมดา ๆ ทำให้เขาดูเป็นคุณชายแต่ไม่ได้เจ้าสำอาง เรือนผมสีบลอนด์เหลือบแดงที่ปกติจะเข้ม ยามนี้กลับอ่อนลงประดายสีทองหม่นเพราะแสงแดดที่กระทบลงมา เขายืนอยู่ตรงออกทางไปยังระเบียง ยืนพิงอยู่อย่างนั้น สายตามองไปไกลไม่มีจุดหมาย มองผู้คนที่ออกมาวิ่งยามเช้าพร้อมสัตว์เลี้ยง มองพระอาทิตย์ที่ขึ้นมาเหนือยอดเขาบ่งบอกให้รู้ถึงวันใหม่

   ริมฝีปากที่ผมได้สัมผัสเองเมื่อคืนว่าเร่าร้อนขนาดไหนกำลังพูดภาษาอิตาลีรัวเร็วไม่แพ้ตอนที่เขาพูดภาษาเยอรมัน

   ภาพตรงหน้าตราตรึงซะผมอยากจะหยิบกล้องคู่ใจมาบันทึกไว้ ทว่าตอนนี้กล้องไม่ได้อยู่กับตัว ดังนั้นผมจึงได้แค่บันทึกไว้ในความทรงจำ

   เนื่องจากไม่อยากรบกวนเขาขณะคุยกับคู่สายที่ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องสำคัญ ไม่อย่างนั้นคงไม่ตื่นแต่เช้าตรู่ขนาดนี้ ผมเลี่ยงไปยังห้องครัวเงียบ ๆ

   อพาร์ทเม้นที่ไมเคิลอาศัยอยู่นี้เรียกได้ว่าหรูหราพอ ๆ กับอพาร์ทเม้นผมลูคัสอยู่ เพียงแต่จะเล็กกว่าสักหน่อยเพราะมีห้องนอนแค่สองห้อง และไม่มีวิวพาโนราม่าที่เป็นกระจกรอบด้าน แต่ก็แทนที่ด้วยระเบียงและวิวใจกลางเมืองซูริคแทน ที่นี่ไม่เหมือนกับกรุงเทพเลยแม้แต่น้อย ไม่มีตึกสูงเลย สิ่งที่สูงที่สุดของเมืองคือหอระฆังที่เป็นยอดแหลมสูง ไม่ว่าจะมองจากที่ไหนในเมืองซูริคก็สามารถมองเห็นยอดนี้ได้เสมอ

   ภายในห้องตกแต่งอย่างเรียบง่าย แฝงกลิ่นอายความเป็นระเบียบและดูสง่า ทำเอากดดันผมเล็กน้อยเพราะกลัวว่าจะไปหยิบจับหรือชนอะไรเข้า

   ห้องครัวนี้ก็เหมือนกับที่บ้านโฮส ผมรู้จักอุปกรณ์แทบจะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเตาอบ เครื่องล้างจาน เตาแก๊สแบบทัชสกรีนหน้าจอ อุปกรณ์ผัด หม้อ กระทะ แขวนเรียงในตู้อย่างเป็นระเบียบ ซึ่งต้องขอบคุณโซอี้ที่สอนผมให้รู้จัก ไม่อย่างนั้นผมคงเด๋อด๋าและไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้มันใช้ทำอะไรได้บ้าง ถัดไปอีกหน่อยเป็นบาร์ที่สามารถทานข้าวได้ หรือจะไปนั่งทานบนโต๊ะใหญ่ที่รองรับได้ถึง 10 เก้าอี้

   ผมเดินมายังเครื่องทำกาแฟที่มีแบรนด์เป็นรูปตัว N ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องทำกาแฟที่โด่งดัง ผมใส่แคปซูลลงไปในช่อง กดปุ่มระดับน้ำ จากนั้นเดินไปยังตู้เย็นและหานมสดด้วยตนเอง เทนมสดลงเครื่องปั่นฟองนม รอสักพัก ได้ยินเสียงปี๊ป ๆ ก็เทฟองนมใส่แก้วที่วางอยู่เป็นระเบียบอยู่เหนือหัว เดาเอาว่าลิ้นชักใส่ช้อนส้อมอะไรพวกนี้คงอยู่ไม่ไกล และผมก็เดาถูกหลักจากเปิดปิดลิ้นชักไม่กี่รอบก็หาช้อนคันเล็กเจอ สายตาเหลือบไปเห็นน้ำตาลพอดี เลยเติมลงไปในแก้วเล็กน้อย ผมปฏิบัติราวกับผมคุ้นชินทุกสิ่งในบ้านนี้แล้ว หวังว่าเจ้าของบ้านจะไม่ถือสานะ

   สองขาก้าวเดินไปนั่งที่บาร์เงียบ ๆ พลางเช็คโซเชียลมีเดียทั้งหลาย ตอบไลน์พ่อกับแม่และกรุ๊ปเพื่อนที่ไทยแล้วก็ถูสไลด์อ่านฟีดเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์อย่างเอื่อย ๆ จวบจนกระทั่งได้ยินเสียงทุ้มของไมเคิลที่เข้ามาใกล้เรื่อย ๆ และมือหนาที่ขยี้หัวผมเบา ๆ นั่นแหละผมถึงได้ปิดหน้าจอและวางมันลง

    “Guten morgen* (สวัสดียามเช้าครับ)” ผมเอ่ยทักขึ้นก่อนเป็นภาษาเยอรมัน ผมรู้คำศัพท์เล็ก ๆ น้อย ๆพวกนี้จากแซมมวล เขาสอนผม เพราะที่บ้านโฮสนั้น การทักทายเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ว่าจะเช้า กลางวัน เย็น หรือเข้านอนก็ต้องพูดฝันดีทุกครั้ง

   ไมเคิลตอบกลับด้วยคำเดียวกันก่อนจะถาม “หลับสบายดีไหม”

   “สบายดีครับ ขอบคุณครับที่ให้ผมมาพักด้วย” ผมยิ้มพลางจิบกาแฟรสนุ่ม “ไมเคิลคุยโทรศัพท์ทั้งคืนเลยหรอครับ ได้นอนบ้างรึยัง?”

   “อ๋อ เมื่อคืนกว่าฉันจะเคลียธุระเสร็จก็ปาไปเที่ยงคืนกว่า เห็นเธอหลับแล้วก็ไม่อยากปลุก เช้านี้ไดเรคเตอร์สาขาอเมริกาเขาโทรมาพอดี เลยต้องตื่นคุยแต่เช้าน่ะ”

   “โห นี่ขนาดสุดสัปดาห์นะครับ คุณยังต้องทำงานอีกหรอ”

   “อือ นานๆทีน่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันชินแล้ว”

   ใครเป็นห่วงกันเล่าา แค่กลัวว่ามันจะไม่ดีต่อสุขภาพเขาเท่านั้นแหละ

   “หิวไหม อยากกินอะไรเป็นอาหารเช้า”

   “อืมมมม ไข่คนกับเบคอน แล้วก็ขนมปังก็ได้ครับ ง่ายๆ...เอ๊ะ แต่ถ้าคุณยังคุยงานไม่เสร็จเดี๋ยวผมจัดโต๊ะและทำอาหารเช้าเองก็ได้นะครับ” ผมเสนอตัว

   “อืมมม...เอาแบบนั้นก็ได้ ไม่รบกวนเธอมากไปใช่ไหม”

   “ไม่เลยครับ” ผมตอบด้วยความกระตือรือร้น “ผมต่างหากที่มารบกวน แถมยังมาขอข้าวเช้ากินอีก”

   “Well, that means ‘sleep with me, free breakfast’, right? (ถ้างั้นมันก็หมายความว่า นอนกับฉัน ฟรีอาหารเช้าเลยสินะ)” ไมเคิลขยิบตา ทำเอาผมตะลึงไปชั่วขณะ แล้วก็ขำ

   เออจริงด้วยแหะ ถึงคำว่า Sleep ในวลีนั้นมันจะมากกว่าแค่คำว่า ‘นอน’ ก็เถอะ

   โทรศัพท์ไมเคิลดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนเขาจะรับสายหันมาบอกกับผมว่าเขาเปลี่ยนใจขอเป็นไข่ลวกแทนเพิ่มสามฟอง ถ้าจัดโต๊ะเสร็จแล้วให้ไปเรียกเขา ของทุกอย่างในห้องนี้สามารถใช้ได้ตามสบาย จากนั้นก็เดินหายไปในห้องทำงาน

   ผมยิ้มกว้างรับคำ คว้าแก้วกาแฟที่หมดแล้วใส่ลงในเครื่องล้างจาน จากนั้นเปิดตู้เย็นสำรวจว่าสามารถทำอะไรทานเป็นอาหารเช้าได้บ้าง

   อืมมม ไมเคิลอยากกินไข่ลวก ผมจะกินไข่คนกับเบคอน มีขนมปังที่ต้องใช้เลื่อยตัดวางอยู่ มีเนย แยมรสต่าง ๆ น้ำผึ้ง และก็ยังมีอโวคาโดกับมะเขือเทศอีก ดีเลย มีทุกอย่างไม่ต้องหาซื้ออะไรเพิ่มแล้ว

   ผมวนเวียนไปมาระหว่างห้องครัวกับโต๊ะอาหาร เอาของทุกอย่างมาวางไว้บนโต๊ะ อาหารเช้ามื้อนี้ผมตั้งใจทำสุดความสามารถ แม้มันจะไม่ได้ยากอะไรเลย แต่ผมก็อยากให้ไมเคิลรู้ว่าผมมีดีด้านการทำอาหารนะ และไม่ได้ทำเป็นแค่อาหารไทยด้วย มื้อเช้าแบบฝรั่งผมก็สามารถเหมือนกัน

   บนโต๊ะยาวมีแจกันทรงสูงประดับอยู่ ผมเลื่อนมันออกไปอีกด้านเพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอที่จะวางเนย แยม น้ำผึ้ง ตระกร้าขนมปังธัญพืช แก้วน้ำ เหยือกน้ำ ขวดน้ำส้ม เกลือ พริกไทย จานเบคอน ที่วางไข่ลวก จาน ผ้าเช็ดปาก ช้อนมีดและส้อม ผมหันไปเตรียมขั้นสุดท้ายคือนำอโวคาโดมาปอกเปลือก คว้านเนื้อมาผสมบดกับอัลมอนด์และมะเขือเทศ เติมรสชาติสไตล์ฝรั่งด้วยพริกไทยและเกลือเล็กน้อย จากนั้นนำไปทาบนแผ่นขนมปังปิ้ง โรยด้วยเมล็ดทานตะวันเป็นอันเสร็จเรียบร้อย ตกแต่งด้วยใบร็อคเก็ตและมะเขือเทศด้านข้าง แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟ

   “ว้าว” เสียงอุทานดังขึ้นด้านหลัง ไมเคิลคุยงานเสร็จแล้ว เขาเดินตรงมายังโต๊ะทานข้าว “นี่ฉันอยู่ในโรงแรมห้าดาวรึเปล่าเนี่ย อาหารเช้าน่าทานขนาดนี้”

   ผมยิ้มแก้มแทบปริ เชิญให้เขานั่งลงก่อนจะนั่งฝั่งตรงข้ามตาม

   “Bon appétit (ทานให้อร่อยนะครับ)” ผมกล่าวก่อนจะเอื้อมไปหยิบไข่ลวกในตระกร้าแล้ววางให้เขาบนที่วางไข่ลวก

   “ขอบคุณครับ”

   “หวังว่ามันจะคือไข่ลวกนะไม่ใช่ไข่ต้ม ฮ่าๆ” ผมล้อตัวเองขำ ๆ ทั้ง ๆที่ในใจผมมั่นใจเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามันคือไข่ลวกอย่างแน่นอน ต้ม 6 นาทีไม่ขาดไม่เกิน

   ไมเคิลหยิบมีดมาเคาะบริเวณด้านบนหนึ่งในสี่ของไข่ เคาะอยู่สองสามทีจนเปลือไข่ปริแตก จากนั้นเขาใช้มีดค่อย ๆ เลื่อยเปลือกด้านบน หยิบส่วนนั้นออกมาวาง ปรากฎเนื้อไข่ไม่เหลวและไม่แข็งจนเกินไป

   “Perfecto!** (ยอดเยี่ยม!)” ไมเคิลกล่าวชมก่อนจะเริ่มทาน ผมเลยเริ่มทานในส่วนของตัวเองบ้าง

   เห็นเขากินอย่างเอร็ดอร่อยแบบนี้ผมก็วางใจ ไมเคิลชอบอโวคาโดโทสของผมจนต้องขอเพิ่มอีกแผ่น

   ถ้าลอยได้ผมนี่คงตัวติดเพดานแล้วครับ

   ไม่เสียแรงที่โซอี้สอนผมทุกอย่างรวมไปถึงเมนูอาหารฝรั่ง นี่ถ้าเป็นเมื่อสามสี่อาทิตย์ก่อนที่ผมจะมาถึงสวิสเซอร์แลนด์ ผมคงทำอะไรไม่เป็นด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าต้องจัดโต๊ะอย่างไร ต้องมีอะไรบนโต๊ะอาหาร รวมไปถึงวิธีการปรุงอาหารด้วย

   ผมนี่มีคุณสมบัติครบที่จะเป็นแม่ศรีเรือนจริง ๆ ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าสนใจไหม อิอิ

   “เออนี่มิคกี้...เรื่องเมื่อคืนเธอมีความเห็นว่ายังไง?” จู่ๆ คนตรงข้ามก็ถามขึ้น

   ถามแบบนี้ให้ผมตอบยังไงล่ะเนี่ย?

   “ก็...ยังไงก็ได้ครับ” ผมตอบเสียงเบาด้วยความเขิน ให้ตายเถอะ ทำไมฝรั่งถึงชอบพูดตรง ๆ ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแบบนี้นะ

   “Umm...Are you interested to be my partner, Micky? (เธอสนใจที่จะมาเป็นคู่นอนของฉันไหมมิคกี้)”

   หะ หา Partner ในทีนี้ของเขามันหมายความว่ายังไงกัน

   “Partner?”

   “Let me explain Micky. I am interested in casual sex relationship, both partners agree to have sex without necessarily demanding or expecting the extra commitments of serious relationship. We will go out and be like a couple. Go for walk, movies, dinner, cuddling and have sex, but you need to always remind yourself that we are not in a serious relationship. I am not your boyfriend and you are not my boyfriend as well. Of course, You can sleep with anyone else but you need be safe which is very important. (ให้ฉันอธิบายนะมิคกี้ ฉันสนใจความสัมพันธ์แบบครั้งคราว ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะมีเซ็กส์กันโดยปราศจากความต้องการอื่น ๆ หรือภาระผูกพันธ์แบบความสัมพันธ์ที่จริงจัง เราสองคนจะเหมือนคู่รักกันเวลาออกไปข้างนอก ไปเดินเล่น ดูหนัง ทานข้าวเย็น นอนกอดคลอเคลียกันแล้วก็มีเซ็กส์ แต่เธอต้องย้ำเตือนตัวเองเสมอว่าเราสองคนไม่ได้จริงจัง ฉันไม่ใช่แฟนเธอและเธอไม่ใช่แฟนฉันเช่นกัน เธอยังสามารถไปนอนกับคนอื่นได้แต่เธอต้องนอนกับคนอื่นแบบปลอดภัยไร้โรคซึ่งมันสำคัญมาก)”

   “Moreover, I like kinky stuff. Sometimes I am into all of the things listed under BDSM. For example, physical sensations from feathers or candlewax, bondage from handcuffs or rope, discipline by spanking. You will be dressed up and role-play like cops, nurse, student, etc. All these things can happen (อ้อ ยังมีอีก...ฉันชอบความเร้าใจ บางครั้งฉันก็ชอบสิ่งเหล่านั้นที่อยู่ในขอบเขตการมีเซ็กส์แบบรุนแรงและทรมาน ยกตัวอย่างเช่น ความรู้สึกทางกายภาพจากขนนกและเทียนไข ทำให้เธอเป็นทาสโดยกุญแจมือหรือเชือก การลงโทษโดยการตี เธอจะถูกจับแต่งและแสดงบทบาทสมมติเช่น ตำรวจ นางพยาบาล นักเรียนเป็นต้น สิ่งเหล่านี้มันจะเกิดขึ้น)”

   “Think carefully Micky. It’s a big risk. You need to know our limit and took yourself off emotional. If you want to stop this relationship, just tell me directly. Do you agree? (คิดให้ดีนะมิคกี้ มันเสี่ยงมาก เธอต้องรู้ลิมิตและนำตัวเองออกห่างจากความรู้สึก ถ้าเธอต้องการหยุดความสัมพันธ์นี้ แค่บอกฉันตรง ๆ เธอเห็นด้วยไหม?)”

   “I am not finding a true love, I am finding a partner who can please me (ฉันไม่ได้กำลังหารักแท้ ฉันกำลังหาคู่นอนที่ทำให้ฉันพึงพอใจได้)”



*



   เมื่อรับประทานกันเสร็จแล้ว ไมเคิลก็ไม่อู้ ช่วยผมเก็บกวาดทุกสิ่งและยัดลงเครื่องล้างจาน

   “วันนี้อากาศดี ฉันว่าจะออกไปเล่น SUP ไปด้วยกันไหม?” เขาชวนขณะที่กำลังเก็บน้ำผึ้งเข้าสู่ชั้นวางของ

   เล่น SUP หรอ...ไอ้ที่ยืนบนแผ่นบอร์ดแล้วมีไม้พายนั่นอ่ะนะ...ผมจินตนาการนึกภาพตัวเองยืนบนแผ่นบอร์ดอย่างมั่นคงกลางทะเลสาบซูริคแล้ว...เอ่อ...ให้นอนเฉยๆยังง่ายกว่า

   “เอ่อ...ผมเล่นไม่เป็นครับ”

   “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันสอน”

   “ผมไม่มีอุปกรณ์ด้วย” ไหนจะบอร์ด ไหนจะไม้พาย ผมไม่มีอะไรสักอย่างเลย

   “ฉันมีให้ยืม”

   โอเค ยอมแล้ว ไปเล่นด้วยก็ได้

   “ถ้าผมจมไมเคิลต้องช่วยผมนะ”

   ใบหน้าได้รูปหัวเราะร่า คนอะไรหล่อจริง ๆ หล่อทุกมุม หาที่ติไม่ได้เลย

   แม้ว่าเราจะคุยกันปกติ แต่ในใจผมว้าวุ่น คิดไม่ตกว่าจะตอบรับหรือปฏิเสธข้อเสนอของไมเคิล มันทั้งน่าสนและฟังดูอันตราย และเมื่อข้อเสนอนี้ออกจากปากเขามันยิ่งทำให้ผมกังวล ตอนนั้นผมเลยนั่งเงียบ ไม่ได้พูดอะไรออกไป ไมเคิลก็ไม่เร่งร้อน เขาบอกให้ผมไปคิด หากรู้คำตอบเมื่อไหร่ค่อยมาบอก

   ผมหันไปมองไมเคิลที่กำลังเดินไปเปิดทีวี ส่วนผมเช็ดครัวเงียบ ๆ

   คนที่สมบูรณ์แบบอย่างไมเคิล...กับผม...เราสองคนจะทำตัวเหมือนเป็นแฟนกัน แต่ไม่ใช่แฟน ในขณะที่ทั้งเขาและผมสามารถไปนอนกับคนอื่นได้โดยไม่หึงหวงซึ่งกันและกัน อีกทั้ง...เราสองคนจะมีเซ็กส์แบบนั้นอีก...

   แค่คิดผมก็หน้าแดงก่ำ ขยำผ้าขี้ริ้วในมืออย่างเอาเป็นเอาตาย

   ผมจะลองตอบรับความสัมพันธ์แบบนี้ดีไหมนะ...?

   ไหน ๆ ก็ไหนๆแล้ว ผมเองก็ชอบเขา ส่วนเขาก็ถูกใจผม ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ อีกทั้งผมอยู่ที่นี่แค่ปีเดียว ไม่รู้ว่าวันนี้ในปีหน้าผมและเขาจะห่างไกลกันแค่ไหน ณ ตอนนี้ผมได้อยู่ใกล้ ๆ เขา ได้ทำตัวว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน เพียงแค่นี้ก็กำไรมากพอสำหรับผมแล้ว

   ทว่าสิ่งหนึ่งที่ผมต้องระวังให้ดีคือ...หัวใจของผมเอง



*



   ไมเคิลพาผมและออดี้คู่ใจออกมายังทะเลสาบซูริคบริเวณท่าเรือ ผมเห็นคนสัญจรไปมาละลานตาเพราะว่าวันนี้เป็นวันเสาร์ ผมอยู่ในเสื้อยืดของไมเคิลกับกางเกงยีนส์ตัวเมื่อวาน ผมไม่ได้เผื่อว่าจะต้องมาค้างกับไมเคิล เขาเลยให้ยืมอย่างง่ายดาย ส่วนคนข้าง ๆ ที่ชวนผมมาเล่น SUP ในวันนี้อยู่ในกางเกงสามส่วน รองเท้าแตะ เสื้อเชิ้ตสีคราม และแว่นกันแดดสีชาสุดเท่ห์

   วันนี้รถหรูเปิดประทุนเหมือนเมื่อวานเย็น เพราะอากาศดี ลมพัดเย็นสบาย แม้แสงแดดในยามบ่ายนี้มันออกจะแรงไปหน่อย แต่ดูเหมือนว่าไมเคิลจะชอบมาก

   อันที่จริงไม่ใช่แค่ไมเคิล ดูเหมือนฝรั่งทุกคนจะชอบมากที่ได้เจอแสงแดด ราวกับว่ามันล้ำค่าเสียยิ่งกว่าทอง ไมเคิลบอกว่านั่นเป็นเพราะหากเข้าหน้าฤดูใบไม้ร่วงแล้วละก็...โอกาสที่จะได้เจอแสงแดดหรืออุณหภูมิสูงแบบนี้มีน้อยมาก ดังนั้นหน้าร้อนสำหรับคนยุโรปคือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่สมควรจะออกนอกบ้านมากที่สุด ดังนั้นจึงไม่แปลกหากค่าตั๋วบินจากยุโรปไปไทยมันจะแพงในช่วงเดือนพฤษจิกายนลากยาวไปถึงมีนาคม เพราะอากาศบ้านเราที่เรียกว่า ‘ฤดูหนาว’ นั้น มันคือฤดูร้อนของชาวยุโรปดีๆ นี่เอง

   “Actually Thailand has three season called hot, hotter and fucking hottest. (จริง ๆ แล้วประเทศไทยมีสามฤดูนะครับ ที่เรียกว่าหน้าร้อน ร้อนมากๆ และร้อนเหี้ย ๆ)” ไมเคิลขำแรงขณะที่เลี้ยวรถเข้าจอดขนาบกับฟุตบาท

   เขาลงจากรถไปจ่ายค่าที่จอดตรงตู้หยอดเหรียญ ส่วนผมก็เดินมายังท้ายรถเพื่อเอาอุปกรณ์ทั้งหลายแหล่ อันได้แก่ บอร์ดแพดเดิ้ล ไม้พาย ผ้าขนหนูและเสื้อชูชีพที่ไมเคิลบอกว่าผมต้องใส่เพื่อความปลอดภัย ส่วนเขาชำนาญแล้วเลยไม่ต้องใส่ก็ได้ เพราะเขาขะพาผมไปยังบริเวณที่น้ำไม่ลึกมาก เป็นเขตปลอดภัยทางรัฐบาลอนุญาตให้ลงไปเล่นได้

   ไมเคิลพาผมเดินไปยังบริเวณที่มีคนไม่มากไม่น้อย ผมสังเกตเห็นแต่ละคนนั้นมีบอร์ดและไม้พายเป็นของตนเอง และเมื่อมองไปยังบริเวณทะเลสาบซูริคก็จะได้เห็นคนยืนพายประปราย หากมองไกลกว่านั้นก็จะเห็นเรือขนาดต่าง ๆ

   แต่ละคนนี่สุดยอดเลยครับ ยืนพายกันชำนาญมาก ไม่มีทีท่าว่าจะกลัวตกน้ำเลย บางคนถึงขนาดให้สุนัขมายืนบนบอร์ดด้วยซ้ำ บางบอร์ดก็ยืนเป็นคู่กอดกันอยู่กลางน้ำ ที่สำคัญนั้นทุกคนใส่ชุดว่ายน้ำ ผู้หญิงโชว์เรือนร่างแบบไม่อายสายตาใคร ผู้ชายก็ใส่กางเกงว่ายน้ำแบบขาสั้น ซึ่งไมเคิลและผมก็เลือกที่จะใส่กางเกงว่ายน้ำแบบขาสั้นเช่นกัน

   “ใหญ่ไปเหรอ?” ไมเคิลหันมาถามผมขณะที่เราสองคนกำลังเปลี่ยนชุด

   “อ่า...ครับ แต่เดี๋ยวผมมัดเชือกแน่นๆ เอาก็ได้” กางเกงว่ายน้ำที่ผมใส่อยู่นี่ แน่ล่ะว่าของไมเคิลที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าผม เขายิ้มแล้วเดินมาหา

   “นายนี่ตัวบางชะมัด กินเยอะๆหน่อยสิ เดี๋ยวพอถึงกิจกรรมอย่างว่าแล้วจะไม่ไหวเป็นลมเป็นแล้งเอานะ”

   ผมอ้าปากค้าง...นี่เขากล้าพูดในที่สาธารณะเลยเหรอ!

   ไม่ว่าเปล่า ไมเคิลโอบตัวผมจากทางด้านหลัง แล้วอ้อมมือมาผูกเชือกให้ด้านหน้าในตำแหน่งที่หมิ่นเหม่และเป็นอันตรายต่อกล่องดวงใจผมอย่างมาก ในท่านี้หากคนที่ไม่รู้จักมองมาก็จะเหมือนว่าเขากอดผมอยู่ แต่ดีที่นี่มันประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ไม่มีใครสนใจหรอกครับว่าใครจะกอดใคร ขอแค่ไม่ขนาดเกินงามจนพอดีก็ใช้ได้

   “คิดอะไรอยู่...ฉันหมายถึงกิจกรรม SUP ไง” เขาผูกเชือกเสร็จแล้วเดินมายืนตรงหน้า เขายีหัวผมอีกครั้ง “หน้าเธอนี่แสดงความรู้สึกทุกอย่างออกมาชัดเจนเลยนะ สายตาที่มองฉันกับแก้มแดงๆของเธอนี่มันทำให้ฉันอยากลากเธอกลับบ้านจริง ๆ ถ้าไม่อยากโดนข่มขืนตรงนี้ก็เลิกส่งสายตาแบบนั้นให้ฉันได้แล้ว” ประโยคหลังเขากระซิบทำเอาผมก้มหน้างุด เขาหันไปหยิบบอร์ดกับไม้พายเดินจากไปอย่างง่าย ๆ ราวกับไม่ได้ทิ้งระเบิดอะไรไว้ตรงนี้

   ให้ตายเถอะไมเคิล! ภายนอกเขาดูเป็นคนดีชอบช่วยเหลือคนอื่นแต่ไม่คิดว่าเนื้อแท้เขาจะหื่นได้ขนาดนี้เลย

   ผมใส่เสื้อชูชีพก่อนจะหยิบบอร์ดและไม้พายเดินตามเขาไป

   ไมเคิลเดินนำมายังริมทะเลสาบ มีบันไดให้เดินลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งหายไปในน้ำ เขาบอกว่าตรงนี้น้ำนิ่ง เหมาะสำหรับคนฝึกเริ่มเล่น

   “เห็นสายรัดข้อเท้าตรงท้ายบอร์ดไหม รัดมันเข้ากับข้อเท้าของเธอ”

   ผมปฏิบัติตาม ไมเคิลยืนสอนผม อธิบายให้เห็นภาพพร้อมกับแสดงท่าทางไปด้วย

   “การเริ่มเล่น SUP ท่าบังคับคือท่าคุกเข่าที่กลางบอร์ดเพื่อให้เกิดความบาลานซ์มากที่สุด เมื่อจะยืนให้วางสองมือไปด้านหน้า จากนั้นยกเท้ามาวางแทนที่เข่าแต่ละข้าง เมื่อยืนได้แล้วก็เริ่มพายได้เลย”

   ผมพยักหน้างึก ๆ แม้มันจะฟังดูยากแต่ก็ไม่น่าเกินความสามารถ

   “สำหรับการเคลื่อนที่ก็พายไปด้ามปกติ แต่ถ้าหากอยากเลี้ยวก็ให้พายถอยหลังสามครั้ง พอครั้งที่สี่ก็เปลี่ยนด้านพายแล้วพายตามปกติ หรือจะอยากหยุดก็แค่หยุดพาย ทิ้งไม้พายไว้ด้านหลัง ทิ้งน้ำหนักตัวโดยการนั่งจะดีที่สุด เข้าใจไหม?”

   “ครับ”

   “ข้อสำคัญที่ต้องจำคือห้ามมองต่ำ และถ้าหากเกิดอุบัติเหตุตกลงไปในน้ำ เธอมีชูชีพอยู่แล้วไม่ต้องกลัวว่าจะจม อย่าดึงสายรัดเชือกที่ข้อเท้าเด็ดขาด ให้ตั้งสติแล้วค่อยๆลอยตัวมาอยู่กลางบอร์ดและเตะขาค่อย ๆ ขึ้นมากลางบอร์ด นึกถึงความบาลานซ์ไว้เสมอ หากเธอไปยังท้ายหรือหัวบอร์ด ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่เธอก็ขึ้นบอร์ดไม่ได้หรอก เพราะอีกด้านมันจะตีขึ้นเสมอ มีอะไรสงสัยไหม?”

   “เอ่อ...ตอนนี้ยังไม่มีครับ”

   “ดี งั้นเริ่มกันเลย เธอไปก่อน ฉันจะค่อย ๆบอกขณะที่เธอกำลังขึ้นบอร์ด”

   ไมเคิลไม่ได้คอยประคบประหงมผมเหมือนลูกแหง่ เขาให้ผมแสดงความสามารถเองเลยโดยการทิ้งให้ผมไปคนเดียว ผมพยายามทำตามที่เขาบอก บาลานซ์น้ำหนักบนบอร์ด จนมั่นใจว่ามันมั่นคงแล้วถึงค่อย ๆ ยืนตามที่เขาสอน

   สำเร็จ! ผมยืนได้แล้ว ไม่ยากเท่าไหร่แหะ

   ผมค่อย ๆพายช้า ๆ เพราะเห็นว่าไมเคิลขึ้นบอร์ดและตามมาด้านหลังแล้ว

   ผมและเขาค่อย ๆ พายออกมาไกลจากฝั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ยามนี้ผมเริ่มชำนาญแล้วครับ จับจุดได้แล้วว่าแค่ทรงตัวให้อยู่ก็พอ คล้าย ๆ กับการขี่จักรยาน เมื่อเริ่มสนุกและไม่มีอะไรให้กังวล สายตาผมก็มองไปรอบด้าน ผมเหมือนยืนบนผืนน้ำอันแสนกว้างใหญ่ บ้านเรือนและต้นไม้บนฝั่งค่อยๆ บีบเล็กลงเรื่อย ๆ ผมมองเห็นอีกฝั่งของทะเลสาบซูริค เบื้องหลังมีภูเขาสลับทับซ้อน แสงแดดแผดเผาไม่น้อยหน้าเมืองไทย ผิวหนังผมเริ่มประท้วงเบา ๆ เต่ผมยังไหวและสนุกอยู่ อีกทั้งคนที่คอยพายตามประกบอยู่ไม่ห่างก็ดูยังไม่อยากจะขึ้นฝั่งตอนนี้

   “มิคกี้ เธออยากลองพายแบบคู่ดูไหม?”

   “หือ?”

   แบบคู่งั้นเหรอ...   

   “เอาสิครับ”

   ตกลงตามนั้นเราสองคนเลยพายเคลื่อนที่กลับมายังฝั่งตามเดิม คราวนี้ไมเคิลเอาบอร์ดของผมไปเก็บ เนื่องจากบอร์ดของเขาใหญ่กว่าและมีพื้นที่ให้คนสองคนได้ยืน อันที่จริงแล้วขนาดบอร์ดและไม้พายที่จะใช้เล่นนั้นต้องขึ้นอยู่กับความสูงของผู้เล่นเช่นกัน ดังนั้นผมที่เตี้ยกว่าเขาเลยต้องใช้บอร์ดตอนที่เขาชอบใช้เล่นเมื่อตอนไฮสคูลแทน

   ผมนั่งอยู่ด้านหน้า ไมเคิลนั่งอยู่ด้านหลัง เมื่อบอร์ดเคลื่อนออกห่างจากฝั่งอีกครั้ง ไมเคิลบอกให้ผมยืนก่อนแล้วเขาจะยืนตาม

   เมื่อเราสองคนยืนบนบอร์ดเดียวกันและทรงตัวได้แล้วไมเคิลก็บอกให้ผมพายนำทิศทาง ส่วนเขา...

   ยืนกอดผมซ้อนหลังอยู่แบบนี้ไง!

   โอ๊ยยย นั่น...ฝรั่งผมทองคนนั้นมองมา เขากำลังเล่น SUP เหมือนกันอยู่ไม่ไกล ไหนจะผู้หญิงที่ใส่บิกินี่ที่เล่น SUP เช่นกันอีกด้าน

   สรุปว่าตอนนี้เราสองคนตกเป็นเป้าสายตา ทว่าไม่ได้ถูกมองในแง่ลบนะครับ เหมือนพวกเขาจะยิ้มๆเสียมากกว่า

   ดีนะที่นี่ไม่ใช่ประเทศไทย

   ว่าแต่ผมประเมิณความหนาของหนังหน้าไมเคิลต่ำไป ไม่คิดว่าเขาจะกอดซ้อนด้านหลังผมแบบนี้ เขาจู่โจมผมจะตั้งรับไม่ทัน นี่ถ้าผมตกใจเกิดพลัดหล่นน้ำจะว่ายังไง

   ในใจผมนี่เต้นรัวยิ่งกว่าวิ่งมาราธอนมาเสียอีก

   “ชอบไหม?”

   “ชะ ชอบครับ”

   “ชอบที่ได้เล่น SUP หรือชอบที่ฉันกอดเธอแบบนี้”

   “...”

   บึ้มมมมม เสียงระเบิดในหัวผมเอง

   ทั้งเขินทั้งอาย แต่ความสุขมันมีมากกว่า

   ถ้านี่คือ casual sex relationship ที่ว่า...ดังนั้นผมก็จะขอเสี่ยงกับความสัมพันธ์นี้ดูสักครั้ง

   







*Guten morgen ภาษาเยอรมัน แปลว่า สวัสดีตอนเช้า

**Perfecto ภาษาสเปน แปลว่า สมบูรณ์แบบ, ยอดเยี่ยม

   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2019 13:17:46 โดย ✿PIERRE »

ออฟไลน์ We_LS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
    • @pump_upp - best crypto pumps on telegram !
Re: As he pleases ❣️ UP! Chapter VII 100% [Sep, 22]
«ตอบ #38 เมื่อ22-09-2019 15:29:29 »

 :pighaun: :pighaun: ถ้าตอบตกลงความสัมพันธ์แบบนี้ ต้องระวังใจมากๆเลยน้า ว่าแต่ใครกันที่จะเผลอใจก่อน

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: As he pleases ❣️ UP! Chapter VII 100% [Sep, 22]
«ตอบ #39 เมื่อ22-09-2019 16:42:05 »

ไมเคิลมีเสน่ห์ เซ็กซี่ ให้ความรู้สึกยุบยิบที่หัวใจจริงๆ
ถ้าน้องมิคโอเคกับแนวsmก็เชียร์ให้น้องลองรับข้อเสนอนี้ เพราะว่ามันต้องแซ่บมากแน่ๆ  :jul1:
แต่ก็แอบหวั่นใจกลัวน้องตกหลุมรักไมเคิลแต่ไมเคิลไม่ได้คิดแบบเดียวกัน
จากที่อ่านเฉพาะฝั่งน้องจะรู้สึกได้ว่าน้องชอบไมเคิลมากๆจนไม่ยากเลยที่จะตกหลุมรัก
ส่วนฝั่งไมเคิลที่เป็นคนเสนอข้อตกลงดูไม่ได้คิดถึงการพัฒนาความสัมพันธ์เลย
แต่ยังไงก็เชียร์คู่ไมเคิลมิคค่ะ แบบหวั่นใจหน่อยๆเพราะกลัวดราม่า  :mew4:

 :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-09-2019 17:13:35 โดย tasteurr »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: As he pleases ❣️ UP! Chapter VII 100% [Sep, 22]
« ตอบ #39 เมื่อ: 22-09-2019 16:42:05 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ✿PIERRE

  • ดองนิยายข้ามปี
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-6
Re: As he pleases ❣️ UP! Chapter VII 100% [Sep, 22]
«ตอบ #40 เมื่อ24-09-2019 15:06:41 »

VIII
Snap


   “คุณนี่โชคดีจัง”

   “โชคดียังไง?”

   “ได้เกิดมาอยู่ในประเทศที่สมบูรณ์พร้อมอย่างสวิสเซอร์แลนด์ ผมละอยากให้ตัวเองเกิดมาในสภาพแวดล้อมของภูมิทัศน์แบบนี้บ้างจัง สูดอากาศบริสุทธิ์ทุกวัน แถมผู้คนก็รักษากฎระเบียบ บ้านเมืองสะอาดสอ้าน อาหารสดใหม่ไม่มีสารตกค้าง ระบบขนส่งสาธารณะดีเยี่ยม เข้าถึงทุกบ้านเรือนไม่ว่าจะเป็นในตัวเมืองหรือนอกเมือง”

   ผมหลับตาพูด สองมือซ้อนใต้ศีรษะ นอนเอนตัวลงกับพื้นหญ้าอย่างไม่รังเกียจ ตอนนี้ผมกับไมเคิลมานั่งพักหลังจากที่ออกไปเล่น SUP กันมาหลายชั่วโมง ส่วนเขานั่งพิงลำต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ออกกิ่งก้านปกคลุมให้ร่มเงาบริเวณกว้าง ช่วยให้ผมและไมเคิลไม่ร้อนมากนัก

   “คิดตื้นเขินจริงนะเรา บางสิ่งบางอย่างมันก็ไม่ได้ดีไปเสียหมดหรอก มันต้องมีข้อเสียบ้าง ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบอย่างที่เธอว่า” ไมเคิลค้านก่อนจะอธิบายต่อ “เธอบอกว่าสวิสเซอร์แลนด์ดีกว่าประเทศไทยร้อยเท่า เธอบอกว่าระบบขนส่งดีกว่า แต่ลืมคิดไปรึเปล่าว่าค่าโดยสารที่นี่แพงขนาดไหน นั่งรถไฟไม่ถึงครึ่งชั่วโมงราคาประมาณ 15 ฟรังก์ (ประมาณ 500 บาท) เธอบอกได้ซื้อผักผลไม้สดใหม่แต่เธอกลับลืมนึกถึงเนื้อวัว เนื้อหมูต่าง ๆ ที่สุดแสนจะแพง โดยเฉพาะอาหารทะเลที่ประเทศเราต้องนำเข้า เพราะสวิสเซอร์แลนด์ไม่มีอาณาเขตติดกับทะเล นอกจากนั้นเธอบอกว่าที่นี่อากาศดีไม่มีมลพิษ ฉันไม่เถียง แต่เธอยังไม่เจอหน้าหนาวของจริง อุณหภูมิติดลบ หนาวจนหดหู่ ไม่มีใครอยากออกจากบ้าน เดินทางไปไหนมาไหนก็ลำบากเพราะหิมะ”

   “แต่ผมยอมจ่ายค่าโดยสารแพงๆนะถ้าแลกมากับรถเมล์ รถแทรม หรือรถไฟที่ตรงเวลา และสะอาด มีการแจ้งเตือนบอกเสมอ สามารถเช็คได้จากแอพลิเคชั่น ไม่เหมือนที่ไทย รถไฟฟ้าเสียก็ไม่มีบอก ให้ผู้โดยสารรอไปเถอะ คุณลองไปสถานีสยามสิ โอ๊ยยยยย อัดแน่นยิ่งกว่าปลากระป๋องถ้าชายหญิงท้องได้จากการเสียดสีคงท้องกันไปนานแล้ว ความเจริญที่ไทยมันกระจุกอยู่แค่ในกรุงเทพครับ ไม่ได้เข้าถึงทุกภูมิภาคอย่างสวิสนี่นา”

   “อืมมม...แต่ค่าโดยสารมันก็ถูกกว่าตั้งเยอะไม่ใช่หรือไง”

   “ก็จริง...” ผมตอบหงอยๆ “เออแต่มีอย่างนึงที่สวิสสู้ไทยไม่ได้เลย”

   “อะไรเหรอ?”

   “ไทยฟูดอิสนามเบอร์วานนนนน (Thai food is No.1 อาหารไทยเป็นที่หนึ่ง)”

   “Couldn’t agree more (ไม่เถียง)” ไมเคิลย้ายที่นั่งมานอนข้างๆ ผม “ฉันชอบอาหารไทยนะ รสชาติกลมกล่อม มีให้เลือกหลากหลายชนิด”

   “คุณเคยไปเที่ยวประเทศไทยรึเปล่า”

   “เคย...แต่นานมาก 10 ปีที่แล้วมั้ง ฉันจะไปพะงันกับภูเก็ตมากับเพื่อนๆสมัยไฮสคูล”

   “แล้วชอบไหม? เป็นยังไงบ้าง” ผมถาม อยากได้ยินความเห็นของฝรั่งที่มีต่อการท่องเที่ยวไทย

   “สวยนะ สวยมากด้วย ผู้คนยิ้มแย้มใจดี อาหารอร่อย โรงแรมที่พักสะดวกสบายแถมราคาถูก แต่ก็มีบางอย่างที่รู้สึกได้ว่าโดนเอาเปรียบเพราะฉันเป็นฝรั่ง อย่างเช่นเช่าเรือหรืออาหารบางอย่างที่พวกเราโดนชาร์จ”

   ผมนี่หน้าหดเหลือสองนิ้ว

   “แต่ช่างมันเถอะ ฉันเข้าใจว่าพวกเขาต้องทำมาหากิน อีกอย่างมันก็ไม่ได้แพงเว่อร์อะไรขนาดนั้นเมื่อเทียบกับค่าครองชีพที่นี่”

   “แล้วชอบหญิงไทยมั้ย สวยๆเยอะเลยนะ”

   ไมเคิลพลิกตัวตะแคง หันมามองหน้าผม

   “ชอบ ฉันชอบคนไทย พวกเขามีเอกลักษณ์ดี” ไมเคิลยื่นมือมาไล้ไปตามผิวแก้ม รู้สึกเขินกับจั๊กจี้นิดหน่อย แต่ผมก็ไม่ได้ปัดออก “โครงหน้าได้รูป คิ้วคมเข้ม จมูกที่ไม่โด่งมาก ริมฝีปากไม่หนาเตอะ เส้นผมดำขลับ...ฉันชอบหมดทุกอย่าง”

   นิ้วเรียวเขาเล่นกับเส้นผม สังเกตได้่ว่าไมเคิลชอบเล่นกับศีรษะผมมากเพราะเขาบอกว่ามันนิ่มแถมสีดำเป็นธรรมชาติเท่ากันตั้งแต่โคนจรดปลาย ซึ่งหาได้ยากในหมู่คนแถวนี้

   “แล้วเธอล่ะ ชอบคนสวิสไหม?” นัยน์ตาสีเขียวอมฟ้าสบตรง ๆ ทำเอาผมพูดตะกุกตะกัก

   “ชะ ชอบครับ”

   “ชอบตรงไหน”

   “ทุกอย่าง...” ผมพลิกตะแคงหันหน้าเข้าหาไมเคิล ทำแบบเดียวกับที่เขาสัมผัสผม “โครงหน้าคมสันได้รูป เส้นผมสีบลอนด์แดงยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ คิ้วเข้มหนาที่ชอบขมวดตอนคุยงาน นัยน์ตาสีเขียวอมฟ้าบางทีก็เปลี่ยนสีได้นิดหน่อย จมูกโด่งเกินหน้าเกินตา ทั้งหมดนี้ผมชอบหมดเลยครับ...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ริมฝีปากสีชมพูที่ผม...อยากจะจูบทุกครั้งที่ได้เห็น”

   สิ้นคำไมเคิลก็ประกบริมฝีปากผมทันทีโดยไม่รีรอ ทั้งเขาและผมคล้ายแม่เหล็ก มีแรงดึงดูดระหว่างเรา ผมหลงใหลเขามาก เต็มใจรับจูบที่เขามอบให้ ชั้นเชิงเขามีมาก เป็นฝ่ายไล่กวดขัน พลิกลิ้นนุ่มกระหวัดเกี่ยวจนผมร้องครางเบา ๆ ในลำคอ เขาชำนาญมาก ใช้ทั้งริมฝีปาก ฟัน และลิ้นชุ่มชื้นต้อนจนผมจนมุม ส่วนผมที่ไม่ค่อยประสีประสาก็เป็นได้แค่โอนอ่อนคอบรับความร้อนแรงอย่างไม่รู้เบื่อ

   เราจูบกันนานมาก แต่นานแค่ไหนผมก็รู้สึกว่ามันไม่พอ ต้องการมากกว่านี้...

   ฟันขาวเรียงเป็นระเบียบกัดริมฝีปากล่างของผม กลีบปากไล่ขบเม้มไปทั่วหน้าผมอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะย้อนมาบรรจบที่เดิม

   ผมไม่สนไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าเราอยู่ในที่สาธารณะ ใครจะเห็นหรือไม่ก็ช่าง เรานอนกอดกันอยู่บนผืนหญ้าใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ ไม่ว่าที่ไหนหากมีเขาผมก็พร้อมที่จะไปด้วย

   ในที่สุดไมเคิลก็ถอนริมฝีปากออก ปรือตามองผม สายตาที่เขามองมาทำเอาผมแทบละลาย

   ไมเคิลคลึงศีรษะผมเล่นอีกครั้ง

   “ผมเธอนุ่มดี”

   เขากดจมูกโด่งลงบนศีรษะ

   “หอมด้วย”

   “ไม่หอมหรอก วันนี้ยังไม่ได้สระผมเลย สงสัยจมูกคุณรับกลิ่นเพี้ยนแล้วมั้ง”

   “คงจะอย่างนั้น...เพราะทั่วทั้งตัวเธอฉันได้แต่กลิ่นหอมหวาน จนอยากจะกลืนลงไปทั้งหมด”

   โอ๊ยยยย ทำไมเขาชอบพูดอะไรแบบนี้นะ นี่ขนาดอยู่ข้างนอกนะเนี่ย ไม่อยากจะนึงถึงถ้าเราอยู่ด้วยกันสองต่อสองเลย ผมคงระทวยและยอมเขาทุกอย่างแน่ๆ

   “ว่าแต่ข้อเสนอที่ฉันพูดไปเมื่อเช้า...เธอมีคำตอบหรือยัง?”

   “เอ่อ...ก่อนจะให้คำตอบ ผมมีคำถาม”

   “ได้สิ” ไมเคิลกุมมือผมก่อนจะยกไปจูบตามข้อนิ้วเล่น ๆ

   “คือ...คือผม...ไม่ค่อยเก่งเรื่องอย่างว่า...ผมอาจทำให้คุณผิดหวัง”

   “นั่นไม่ใช่ปัญหา ฉันจะค่อย ๆ สอนเธอ ให้เธอได้ปรับตัว”

   “อีกอย่าง...” ผมหลบตาเขา

   “หือ?...มีอะไรบอกฉันสิมิคกี้ ถ้าเราตกลงอยู่ในความสัมพันธ์นี้มีอะไรเราต้องพูดคุยกันตรงๆนะ ห้ามเก็บไปคิดเอง ฉันไม่ชอบคนงี่เง่าที่คอยเก็บงำความรู้สึกอยู่ฝ่ายเดียว ฉันไม่มีเวทมนตร์ ฉันอ่านใจคนอื่นไม่ได้”

   “ผมกลัว...”

   “ไม่ต้องกลัวนะมิคกี้” เขาขยับเข้ามาชิดแน่น คว้าร่างผมไว้ในอ้อมแขน “เซ็กส์มันคือการแสดงออกถึงความสุขทางกายอย่างหนึ่ง ฉันจะทำให้เธอมีความสุขเท่าที่จะทำได้ และจะไม่ทำจนเกินลิมิต เราจะมีคำปลอดภัย (Safe word) โอเคไหม? เธอรู้ไหมว่าอันที่จริงแล้วฉันเป็นฝ่ายเสียเปรียบเธอนะในความสัมพันธ์แบบนี้”

   “ยังไงเหรอครับ?” ฟังยังไงเขาก็ได้เปรียบชัดๆ

   “หลายคนมองว่าการมีความสัมพันธ์แบบ BDSM นั้นฝ่ายที่เป็นเจ้านาย (Master) เป็นฝ่ายได้เปรียบใช่ไหม เพราะจะสั่งหรือทำอะไรกับร่างกายฝ่ายทาส (Slave) ยังไงก็ได้...แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่เลย พวกเขาไม่รู้ว่าฝ่ายทาสต่างหากที่เป็นคนคุมเกม อะไรทำได้หรือไม่ได้ อะไรที่อยู่ในขอบเขตจำกัด 70-80% แท้จริงแล้วทาสต่างหากที่เป็นคนคุมความสัมพันธ์แบบนี้เพราะฝ่ายเจ้านายต้องสังเกตอาการและความรู้สึกของทาสว่าเขาหรือเธอเจ็บจริงไหม พอใจไหม สุขสมไหม”

   ไมเคิลหยุดชั่วครู่

   “ทาสบางคนสุขสมแล้วจนร้องไห้ก็มี แต่นั่นยิ่งทำให้ฝ่ายเจ้านายเกิดความสับสนว่าเขาร้องไห้เพราะมีความสุขจริงหรือเพราะเจ็บจนทนไม่ไหวต้องร้องไห้ออกมา นั่นทำให้ต้องมีการดูแลหลังกิจกรรมเสร็จสิ้น (Aftercare) ฉันจะคอยปลอบประโลมเธอ ดูแลเธอ ไม่ว่าเธอจะมีแผลหรือเจ็บปวดตรงไหนฉันก็จะคอยเฝ้าประคบประหงม เราจะคุยกันถึงกิจกรรมที่ผ่านมาชั่วครู่ว่าเธอโอเคไหม มีความสุขกับสิ่งที่ได้รับรึเปล่า เจ็บปวดเกินไปหรือไม่ เพื่อที่ครั้งหน้าฉันจะได้ปรับระดับความรุนแรงกับเธอได้”

   “คุณทำกับคู่นอนคนอื่น ๆ แบบนี้บ่อยเหรอ”

   “มิคกี้ นี่คือเรื่องของเราสองคน อย่าพูดถึงคนอื่นๆได้ไหม” น้ำเสียงเขากระด้างขึ้นเล็กน้อย

   “ครับ...ผมไม่พูดถึงแล้ว”

   “แต่ฉันจะเล่าให้เธอฟังก็ได้หากเธออยากรู้”

   “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่อยากรู้แล้วถ้่านั่นมันทำให้ไมเคิลไม่พอใจ”

   “ฉันไม่พูดสักหน่อยว่าไม่พอใจ”

   แล้วน้ำเสียงแข็งเมื่อกี้มันอะไรกันล่ะ ผมแอบเถียงเงียบ ๆ ในใจ

   “ฉันมีคู่นอนหลายคนก็จริง แต่ฉันรับรองได้ว่าปลอดภัยทั้งหมด เพราะฉันตรวจทุก ๆ สามเดือน ล่าสุดตรวจเมื่อเดือนที่แล้ว แต่เราจะไปตรวจเลือดด้วยกันโอเคไหม?”

   “ครับ”

   “ถึงฉันจะมีเซ็กส์กับหลาย ๆ คนแต่ทว่ามีไม่กี่คนหรอกที่รับความสัมพันธ์แบบนี้ได้ คนพวกนั้นรู้สึก ‘กลัว’ จนไม่อาจตอบสนองได้เต็มที่ และฉันก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกเหล่านั้น ไม่อยากฝืน เลยได้แต่ปล่อยไป จนป่านนี้ยังไม่สามารถหาใครสักคนที่เข้าใจความต้องการของฉันได้ เพราะพวกนั้นไม่ไว้ใจฉัน...ตอนนี้ฉันอาจยังไม่ขอให้เธอเชื่อใจฉันหรอกนะ ให้เธอพิสูจน์ด้วยตนเองดีกว่า”

   ผมนิ่งงัน ไม่ได้ตอบรับอะไร

   “ฉันจะเคารพเธอ ให้เกียรติเธอ เราจะค่อย ๆ เป็นค่อยๆ ไป ตามระดับ เริ่มจากเบา ๆ ก่อนอย่างเช่นปิดตาหรือตีก้น แล้วค่อยไล่ระดับไปในเลเวลที่รุนแรงขึ้น ถ้าเธอไม่ไหวหรือไม่ต้องการแล้วฉันก็จะหยุด ฉันจะเชื่อฟังเธอทันที เธออยากใช้คำปลอดภัยว่าอะไรดี?”

   “เอ่อ...ไม่รู้สิครับ คิดไม่ออก”

   “อืม...เธอชอบกินอะไร หรือมีกิจกรรมยามว่างแบบไหน?”

   หา ทำไมจู่ๆเขาถึงถาม แม้คำถามจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่เราคุยกันอยู่แต่ผมก็ตอบไป

   “ชอบกินไอศกรีมครับ ยามว่างก็...เอ่อ...ถ่ายรูปมั้งครับ”

   “Good! (ดีเลย)” ไมเคิลทำท่านึก “Safe word is... ‘SNAP’. What do you think? (คำปลอดภัยคือ ‘สแนป’ เธอคิดว่ายังไง)”

   “ครับ ผมก็ว่าดีนะ”

   คำว่า Snap นอกจากจะหมายถึงการถ่ายภาพแล้วยังมีความหมายอื่นอีกเช่น ดีดนิ้ว หรือ ฉีกขาด หากมองในแง่ความหมายแฝงของความสัมพันธ์แบบนี้ล้วนแต่มีความหมายที่เข้ากัน

   บอกตามตรงว่าผมไม่มั่นใจเลยสักนิดกับความสัมพันธ์แบบนี้..

   ผมไม่ได้กลัวว่าตนเองจะเจ็บปวดหรือโดนทารุณจากมีการมีเซ็กส์ ลึก ๆ แล้วผมเชื่อว่าไมเคิลให้เกียรติและเคารพผมตามที่เขาพูด ผมออกจะตื่นเต้นด้วยซ้ำที่จะได้มีเซ็กส์กับไมเคิล ไม่ว่าในรูปแบบไหนผมก็ยืนยอมพร้อมใจทั้งนั้น หากนั่นมันทำให้เขาพึงพอใจในตัวผม แม้จะไม่มีประสบการณ์มาก่อนแต่ไม่ใช่ปัญหา ผมก็ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว เรียนจบปริญญาตรีเรียบร้อยแต่ยังไม่เคยมีอะไรกับใคร ผมไม่ได้หัวโบราณถึงขนาดที่ว่าต้องเก็บเวอร์จิ้นไว้จนถึงวันแต่งงาน แต่เมื่อในตัวผมเป็นเกย์ ผมชอบผู้ชาย ไม่คิดจะแต่งงาน แล้วทำไมผมต้องแคร์กับค่านิยมแบบนั้น ก็ไม่ได้เสียหายอะไรหากจะชิงสุกก่อนห่าม

   ตอนอยู่ไทยผมไม่เคยมีแฟน ถามว่ามีคนมาจีบไหม...ก็มีบ้าง แต่ผมไม่ได้ชอบพวกเขานี่ ผมไม่อยากฝืนใจตัวเอง ไม่มีใครสักคนที่ทำให้ผมหวั่นไหวได้ตั้งแต่แรกเจอเหมือนไมเคิล ผมครองตัวโสดจนเพื่อน ๆ หลายคนแทบจะบูชาและเรียกว่าหลวงพี่เพราะพวกมันคิดว่าผมละทางโลกแล้ว แต่เปล่าเลย ในใจผมยังมีความต้องการ ผมดูหนังโป๊เกย์ ช่วยตัวเองบางครั้งบางคราว จินตนาการว่าตัวเองเป็นฝ่ายรับร่างเล็กบางให้ฝ่ายรุกกระแทกกระทั้นเข้ามาในตัว ผมโหยหาเซ็กส์แบบนั้น

   และในเมื่อโอกาสมาอยู่ตรงหน้านี้แล้วจะไม่คว้าได้อย่างไร

   แต่ที่ผมไม่มั่นใจกับความสัมพันธ์แบบนี้ก็คือผมกลัว...

   ผมกลัวว่าตัวเองจะตกหลุมรักเขา

   เพราะความสัมพันธ์แบบนี้...

   หากใครมีความรู้สึกมากกว่า...คนนั้นแพ้



*50%*



โทนเรื่องเครียดไปรึเปล่าคะ? ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเครียดนะ

อยากให้นิยายเป็นแบบโรแมนติกใสๆ (หรออออ SM เกริ่นมาขนาดนี้)

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: As he pleases ❣️ UP! Chapter VIII 50% [Sep, 24]
«ตอบ #41 เมื่อ24-09-2019 16:16:16 »

หืมมมม กลัวใจ ถ้าไปถึงความรุ้สึกนั้น :z3:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: As he pleases ❣️ UP! Chapter VIII 50% [Sep, 24]
«ตอบ #42 เมื่อ24-09-2019 19:48:58 »

เนื้อเรื่องเครียดอยู่นะคะ ตอนน้องมิคพูดถึงประเทศไทยอ่านไปน้ำตาจะไหลตาม :m15:
55555555 ล้อเล่นค่า ส่วนตัวอ่านแล้วไม่เครียดนะคะ แค่หวั่นๆหน่อยกลัววืด คนเขียนบอกว่าเป็นโรแมนติกใสๆก็เบาใจขึ้นมานิดหนึ่ง แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นแนวโรแมนติกsmเต็มตัวก็ไม่ขัดนะคะ  :hao6:
อยากรู้แล้วค่ะว่าไมเคิลจะดูแลดีตามที่พูดไหม แล้วน้องมิคจะมีความสุขขนาดไหน

 :pig4:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: As he pleases ❣️ UP! Chapter VIII 50% [Sep, 24]
«ตอบ #43 เมื่อ24-09-2019 23:41:48 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ TheSpaceOfM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: As he pleases ❣️ UP! Chapter VIII 50% [Sep, 24]
«ตอบ #44 เมื่อ25-09-2019 01:49:23 »

เนื้อเรื่องน่าสนใจและน่าติดตามมากเลยค่ะ อยากรู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นยังไงต่อไป มิคจะสามารถhandleสิ่งต่างในความสัมพันธ์ที่ตัวไม่เคยพบเจอได้หรือเปล่าและจะสามารถรับไมเคิลไหวหรือเปล่า ลึกๆเชื่อว่ามิคทำได้ดีแน่นอน แต่เรื่องความสัมพันธ์ก็ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อไป เพราะการห้ามใจมันก็ยากมากๆ ยังไงรอติดตามตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ ✿PIERRE

  • ดองนิยายข้ามปี
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-6
Re: As he pleases ❣️ UP! Chapter VIII 50% [Sep, 24]
«ตอบ #45 เมื่อ25-09-2019 19:15:02 »

*ต่อ100%*


   ตกเย็นไมเคิลลากผมมายัง Coop ซุปเปอร์มาเก็ตแถวอพาร์ทเม้นเขา พร้อมบอกว่าเขาอยากกินอะไรก็ได้ที่ให้คาร์บเยอะ ๆ เพราะคืนนี้เราทั้งคู่ต้องใช้พลังงานมาก

   เอ่อ...ไม่ต้องโจ่งแจ้งขนาดนั้นก็ได้ม้างงงง

   ผมเลยตัดสินใจว่าคืนนี้จะทำสเต็กเนื้อ มันบดกับหน่อไม้ฝรั่งต้มเป็นมื้อเย็น ผมเดินไปหยิบไข่ ขนมปัง และผลไม้เล็ก ๆ น้อย ๆ เผื่อเป็นอาหารเช้าพรุ่งนี้ด้วย ส่วนไมเคิลไปหยิบพวกขนม น้ำอัดลม ไอศกรีม ไวน์ และเหล้ามาแทน

   แม้จะแยกกันช๊อปปิ้ง แต่เวลาจ่ายเขากลับจะจ่ายเพียงคนเดียว คราวนี้ผมไม่ยอม ชิงตัดหน้ายื่นแบงค์ 100 ฟรังก์ให้แคชเชียร์

   “เธอนี่จริงๆเลย...”

   “คุณทั้งขับรถ ทั้งสอนผมเล่น SUP ผมควรจะตอบแทนคุณบ้าง”

   “แต่ยังไงเธอก็เป็นพ่อครัวทำอาหารค่ำนี้นี่ ให้ฉันจ่ายเถอะน่ะ”

   “ไม่เป็นไรครับ ไว้คราวหน้าก็ได้ ผมจะให้คุณซื้อตุนของกินไว้เยอะๆเลย”

   “โอเคๆ” ไมเคิลหัวเราะ “อยากกินอะไรเพิ่มบอกฉันแล้วกัน” เขาพูดพลางหยิบของทั้งหมดลงถุงผ้าที่เขามีติดท้ายรถเสมอ

   ที่นี่หากซื้อของอะไรจะไม่มีถุงให้นะครับ ต้องนำถุงผ้าหรือกระเป๋ามาใส่เอง หากอยากได้ถุงต้องซื้อครับ ราคาประมาณ 0.1-1 ฟรังก์ แล้วแต่คุณภาพและขนาดของถุง

   “ปกติไมเคิลทำอาหารทานเองหรือซื้อข้างนอกเอาครับ” ผมถามขณะที่เรากำลังเดินกลับอพาร์ทเม้นเขาด้วยกัน

   “ส่วนใหญ่จะทำเองนะ...ฉันเป็นคนกินง่าย ไม่เรื่องมาก ตอนเช้าแค่กาแฟ ตอนเที่ยงก็ทานที่ออฟฟิศ ตกเย็นอาจจะออกไปดินเนอร์กับลูกค้า ถ้าไม่มีก็ทำอาหารกินเองง่ายๆ ที่บ้าน ส่วนเสาร์อาทิตย์แล้วแต่โอกาส แล้วเธอล่ะ”

   “วันจันทร์ถึงศุกร์ที่ผมทำงาน ผมกินกับโฮสตลอดครับ ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็ตามมีตามเกิด ทำเองบ้าง พึ่งฟาสฟู้ดบ้าง เพราะบางครั้งผมก็เบื่อที่จะต้องทำความสะอาดหลังทานเสร็จครับ”

   เมื่อเราทั้งคู่มาถึงห้อง นาฬิกาบนผนังก็บ่งบอกว่าตอนนี้เวลาสองทุ่มแล้ว ไมเคิลยังไม่หิวเท่าไหร่แต่แนะนำให้ผมเริ่มลงมือทำอาหารเลย เพราะถ้าผมทำเสร็จเขาคงหิวพอดี

   ระหว่างเตรียมมื้อเย็นไมเคิลเปิดเพลงเบา ๆ คลอไปทั่ว เขาอยู่ในห้องทำงาน ไมเคิลบอกว่าในห้องนั้นเขาจะใช้เวลามากที่สุดเพราะต้องอ่านเอกสารและทำงานเป็นส่วนใหญ่

   ผมวุ่นวายอยู่ในครัวจนกระทั่งทุกอย่างเสร็จสิ้น ผมจัดโต๊ะเรียบร้อย เหลือเพียงแค่เรียกเจ้าของห้องมาเท่านั้น เนื้อสเต็ก มันบดและหน่อไม้ฝรั่งอยู่ในตู้เก็บความร้อนของอาหาร เพื่อไม่ให้อาหารเย็นขณะที่ยังไม่ได้เสิร์ฟ

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   แม้จะไม่ได้ปิดประตูสนิทแต่ผมก็เคาะตามมารยาท

   “เข้ามาสิ” ไมเคิลอนุญาต

   ผมก้าวเท้าเข้าไปในห้องที่ใหญ่แต่เล็กกว่าห้องนอนอยู่หลายส่วน

   “มาตรงนี้” เขากำชับเมื่อยังเห็นผมยืนเงอะงะทำอะไรไม่ถูกอยู่กลางห้อง

   ตอนแรกผมกะแค่มาเรียกเขา ไม่ได้จะเข้ามาในห้องนี้สักหน่อย แต่ไหน ๆ ก็เข้ามาแล้วขอสำรวจหน่อยแล้วกัน

   ไมเคิลนั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานที่ทำจากกระจก ในมือถือกระดาษอยู่จำนวนหนึ่ง บนโต๊ะมีคอมพิวเตอร์และเอกสารวางระเกะระกะ ปากการาคาแพงวางอยู่ตรงหัวมุม แต่ถึงอย่างนั้นบนโต๊ะก็มีพื้นที่มากพอให้วางของอีกหลายชิ้น อีกฝั่งเป็นโซฟาเบด ใกล้ๆ กันมีตู้ไม้วางแฟ้มเอกสาร ถัดมาคือหนังสือหนาเรียงตามตัวอักษรและหมวดหมู่อย่างเป็นระเบียบ หากมองออกไปนอกหน้าต่างก็จะเห็นสวนสาธารณะ ต้นไม้น้อยใหญ่ปลูกขึ้นประปราย ผู้คนออกมาวิ่งกับสัตว์เลี้ยง มีบึงล้อมรอบสะพานไม้ใช้ข้ามไปอีกฝั่ง ตอนนี้แสงสีส้มของพระอาทิตย์ที่กำลังลาลับสาดส่องเข้ามาภายในห้อง ดูงดงามไม่อาจละสายตา ซึ่งต่างจากวิวห้องนอนและห้องนั่งเล่นที่จะเป็นวิวอาคารบ้านเรือนในตัวเมือง

   “เวลาฉันคิดงานไม่ออก ฉันก็ชอบมองออกหน้าต่างไปยังสวนสาธารณะนี่แหละ รู้สึกสบายตาดี ฉันเลยทำห้องนี้เป็นออฟฟิศส่วนตัว” ไมเคิลมองตามผม ส่วนผมที่ได้สติก็เดินไปใกล้เขามากขึ้น

   “ผมก็ชอบมุมนี้นะครับ ได้เห็นธรรมชาติบ้าง”

   ตอบไปตามความรู้สึก แต่ทำไมไมเคิลมองผมด้วยแววตาเจ้าเล่ห์แบบนั้น แม้จะฉายแวววับเพียงชั่วครู่แต่ผมก็จับสัมผัสได้

   “คือ...ผมมาบอกว่ามื้อเย็นเสร็จแล้วนะครับ”

   พระอาทิตย์ข้างนอกจะดูเหมือนว่าตอนนี้เป็นเวลาช่วงหกโมงเย็นถึงหนึ่งทุ่มตามบ้านเรา แต่ทว่าที่ยุโรปนี้หน้าร้อนพระอาทิตย์จะขึ้นเร็วกว่าปกติในช่วงตีห้าถึงหกโมงเช้า และพระอาทิตย์ตกอีกทีช่วงสี่ทุ่ม ดังนั้นเวลากลางวันจะยาวนานกว่าตอนกลางคืนมาก

   หากมองไปยังนาฬิกาบนโต๊ะของเขาพบว่านี่มันใกล้สามทุ่มแล้ว กลัวว่าเขาจะหิว

   ผมติดมองนาฬิกามากตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพียงเพราะว่าแสงแดดข้างนอกมันบ่งบอกเวลาแท้จริงอะไรไม่ได้เหมือนบ้านเรา แต่รวมไปถึงเวลาอยู่กับโฮสอย่างโซอี้เธอเคร่งครัดเรื่องการตรงต่อเวลามาก ๆ และที่สวิสเซอร์แลนด์แห่งนี้เป็นดินแดนผลิตนาฬิกาแบรนด์หรูต่าง ๆ จึงไม่แปลกที่บ้านโฮสและอพาร์ทเม้นของไมเคิลแห่งนี้จะมีนาฬิกาแขวนและตกแต่งอยู่ในทุกห้อง อย่างบนโต๊ะทำงานของไมเคิลผมเหลือบเห็นชื่อแบรนด์โอเมก้าอยู่บนหน้าปัด

   “อืม” เขารับคำในลำคอ จากนั้นก็สั่งผม “มานี่สิมิคกี้”

   ผมเดินเข้าไปใกล้

   “ใกล้อีก มานั่งตรงนี้” ไมเคิลมองมาที่ผม ส่วนนิ้วยาวเรียวของเขาชี้บนตักตัวเอง

   ผมมองอย่างไม่มั่นใจ ราวกับว่าบนตักเขาจะมีอันตราย

   “เร็วๆสิ” เขาตบตักเร่ง

   ในที่สุดก็ต้องจำใจจนยอมนั่งบนตักเขา แม้จะกลัวหน่อย ๆ ในตอนแรก แต่คงเพราะผมคิดมากไป ไมเคิลไม่ได้ทำอะไรผมนอกจากกอดเอวผมไว้เฉย ๆ มืออีกข้างคลิกเมาส์ไปมา เขาเปิดโปรแกรมอะไรสักอย่างแล้วถาม

   “เธอชอบสีอะไร”

   “สีเขียวครับ เขียวแบบเขียวอ่อน”

   ตอบเสร็จไมเคิลก็คลิกที่ไอคอนสีจากนั้นเขาให้ผมเลือกเฉดเอง ขณะที่ผมกำลังมึนงงแต่ก็ปฏิบัติ พอเลื่อนสีปรากฏว่าสีเดพานและโคมไฟในห้องพลันเปลี่ยนไปด้วย

   “ในอพาร์ทเม้นแห่งนี้ ใช้โปรแกรมรีโมทคอนโทรลที่สามารถควบคุมทุกอย่าง ไฟเพดาน โคมไฟ ทุกส่วนทุกที่สามารถหรี่ปรับความสว่าง หรือจะเปลี่ยนสีเป็นร้อยเฉดก็ได้ตามใจเธอ จะปิดเปิดหน้าต่าง มู่ลี่ ผ้าม่าน รวมไปถึงอุณหภูมิในห้องก็ปรับได้ผ่านโปรแกรมนี้ แต่เดี๋ยวฉันจะให้เธอโหลดแอพลิเคชั่นที่สามารถปรับในโทรศัพท์ได้เช่นกัน และในแอพลิเคชั่นนั้นยังเป็นกุญแจไขเข้าห้องฉันได้ด้วย”

   “หือ...ยังไงเหรอครับ”

   “พอเธอโหลดแอพมาแล้ว ฉันจะให้ชุดโค้ดรหัสลับกับเธอ และแค่เธอเข้าใกล้ประตูห้องฉันในรัศมี 5 เมตร เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาปลดล๊อคหน้าจอตามปกติ และเข้าแอพนี้กดปุ่ม Unlock ประตูห้องก็จะเปิดให้เธอ ไม่ต้องพกกุญแจให้ยุ่งยาก เดี๋ยวพอเรากินข้าวเสร็จแล้วฉันจะสอน”

   “เอ่อ...ขอบคุณครับ”

   นี่เขาไว้ใจให้กุญแจห้องกับผมเลยเหรอ...รู้สึกดีใจนิดๆแหะ

   ขณะที่ผมรู้สึกสนุก คลิกเม้าส์ไปยังห้องต่าง ๆ ปรับเปลี่ยนสีตามใจชอบ ตัดสินใจปิดหน้าต่างทั้งหมด ปิดผ้าม่าน ไม่ให้มีแสงแดดเล็ดลอดเข้ามา เพื่อให้เฉดสีเด่นชัด ไมเคิลยื่นกระดาษปึกหนึ่งมาให้ผม

   “อะไรเหรอครับ?”

   “สัญญาข้อตกลง ลองอ่านดูสิ”

   ผมกวาดสายตาคร่าว ๆ ลงบนกระดาษที่เต็มไปด้วยภาษาอังกฤษในมือ

   “ฉันอยากให้เราสองคนมีสัญญาที่ชัดเจนแน่นอน เธอเป็นมือใหม่ ฉันไม่อยากเอาเปรียบที่จู่ ๆ จะให้เธอมารับบทเป็นทาสของฉันเลย ฉันอยากให้เธอทำความเข้าใจกับมันก่อน ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ทำความเข้าใจ ตรงไหนสงสัย หรือไม่โอเคกับข้อตกลงเธอสามารถปรับเปลี่ยนมันเองได้เลย”

   ผมเคยดูหนังเรื่องหนึ่งที่พระเอกนางเอกมีสัญญาข้อตกลงในเรื่องนี้เหมือนกัน ผมไม่คิดว่าไมเคิลจะมีมันเหมือนกัน

   “ในสัญญาระบุสิ่งที่ต้องทำขณะมีกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งในทีนี้ฉันขอเรียกว่ามัน Play (เพลย์) และยังมีขอบเขต บทลงโทษและรางวัล คำปลอดภัย ข้อจำกัดที่อาจจะแก้ไขได้ขึ้นอยู่กับสภาการณ์ ข้อกัดที่ห้ามทำหรือล่วงมะเมิดโดยเด็ดขาด บทบาทหน้าที่ของเจ้านายและทาส ภาษาและถ้อยคำที่ใช้ การดูแลหลังเสร็จสิ้นการเพลย์ สัญญานี้เราสองคนจะยกเลิกมันเมื่อไหร่ก็ได้หากเธอไม่อยากมีความสัมพันธ์แบบนี้แล้ว”

   ผมพยักหน้าตามงึก ๆ ในมือเปิดกระดาษแต่ละแผ่นไปด้วย

   “ปกติแล้วความสัมพันธ์แบบนี้บางคู่ก็จะเพลย์ทั้งวันทั้งคืน หมายถึง ทาสจะต้องรับใช้เจ้านายไม่ว่าเจ้านายจะทำอะไรก็ตาม การเพลย์ไม่จำเป็นต้องมีเซ็กส์ร่วมกัน บางคู่เจ้านายตื่นนอนมา ทาสก็ต้องนั่งคุกเข่าปรนนิบัติอยู่ที่เท้า ไม่มีสิทธิ์ยืนเสมอเจ้านาย”

   มาถึงตรงนี้ผมหันหน้าไปมองไมเคิลทันที

   “แต่...กับเรา...ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าเวลาจะปฏิบัติต่อกันเหมือนคู่รัก แต่จริง ๆ แล้วเราไม่ใช่แฟนกัน เราจะเพลย์เฉพาะตอนมีเซ็กส์ ตกลงไหม”

   “ครับ” ผมได้ฟังอย่างนั้นก็โล่งใจหน่อย หากมันเกินที่พอเหมาะพอควร ผมก็ไม่รู้จะรับไหวไหม

   “ฉันว่าเราสองคนไปกินข้าวกันก่อนเถอะ แล้วเธอค่อยมาอ่านสัญญาก็ได้ ไม่ต้องรีบ หรือเธออยากจะเพลย์จนตัวสั่นแล้ว หืม?”

   “คุณน่ะสิอยากเพลย์ ผมแค่อ่านคร่าว ๆ เท่านั้น” ผมชกอกไมเคิลเบาๆ เขาไม่สะเทือนด้วยซ้ำ

   “นี่กล้าทำร้ายเจ้านายเหรอ?”

   “เจ้านายอะไร ผมยังไม่ได้เซ็นสัญญาตกลงกับคุณเลย”

   ผมลุกขึ้น ตรงไปยังโต๊ะทานข้าวโดยมีไมเคิลตามมาติดๆ

   นี่ขนาดเรายังไม่เพลย์แต่เขากลับแสดงอำนาจวางท่าขนาดนี้แล้ว ผมไม่อยากจะคิดเลยหากเราเพลย์ร่วมกันจะเป็นยังไง

   ผมเดินไปหยิบอาหารทั้งหมดมาวางไว้บนโต๊ะ ไมเคิลเปิดไวน์และรินให้ผม ไมเคิลบอกผมทานให้อร่อยและผมตอบกลับตามธรรมเนียม ขณะเริ่มลงมือทานผมหยิบสัญญาเหล่านั้นมาด้วยเพื่อที่จะอ่าน

   “มิคกี้ กินก่อนเถอะ แล้วค่อยอ่าน ไม่อย่างนั้นเธอจะกินข้าวไม่ลง”

   “ครับ ขอโทษครับ”

   มารยาทบนโต๊ะอาหารถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ผมลืมไปได้ยังไงเนี่ย

   แต่ที่เขาบอกว่าผมจะกินข้าวไม่ลงนี่มันหมายความว่ายังไงกัน?


*


   หลังจากทานมื้อเย็นและเก็บกวาดเสร็จ ผมกับไมเคิลถือแก้วไวน์มานั่งดูหนังที่เขาโปรดปรานบนจอแอลซีดีที่มีขนาดความสูงสูงกว่าตัวผม ไมเคิลนั่งจิบไวน์เงียบ ๆ สายตามองบนยังจอกว้าง ส่วนผมนี่อ่านสัญญาในมือขณะที่คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากันเรื่อยๆ

Dominant (Master) / Submissive (Slave) Contract

I,____Micheal Bachmann_________, Agree to this contract and hereby take my place as Dominant (Master).

I,______________________________, Agree to this contract and hereby take my place as Submissive (Slave).

This contract will become effective on the date agreed upon by both parties

and will end on the date also agreed upon by both parties

(End date may be changed ay any time upon by both parties therefore extending the contract as needed)

Contract commencement date : _________________

Contract termination date : ________________

All legalities will be handle by Dominant (Master) as needed during this contract effective time frame.

   ในส่วนแรก ๆ ผมยังเข้าใจได้เพราะมันก็เหมือนสัญญาว่าจ้างงานทั่ว ๆ ไป ตรงช่องว่างไมเคิลเว้นไว้ให้ผมเติมเอง ในส่วนของวันเริ่มและวันสิ้นสุด บรรทัดล่างเขียนไว้ว่าอะไรที่เกี่ยวข้องกับกฏหมายทั้งหมดเขาจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบเอง

   หน้าต่อมาเป็นข้อปฏิบัติของทาสก่อนเพลย์

   1) Within 48 hours before Slave sees Master, Slave will go for bikini waxing. (All expenses is covered by Master)

   2) Slave should workout at least 3 times per week.

   3) Slaves should eat some quality food about 2 hour before playing.

   4) Slave must clean her/his body (including anal) and cut all nail fingers before seeing Master.

   5) Slave must wear costume which is prepared by Master.

   6) When Master is not here, Slave needs to wait Master by kneeling properly.

   7) ‘Sir’ or ‘Master’ will be always called in the play.

   8 ) When Master arrives, always say ‘I am ready to serve, obey and please my Master.’

   1) ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนที่ทาสจะเจอเจ้านาย ทาสต้องเข้ารับการจำกัดขนทุกส่วน (ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเจ้านายเป็นผู้ออก)

   2) ทาสควรออกกำลังกายอย่างน้อยสามครั้งต่อสัปดาห์

   3) ทาสต้องทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนการเพลย์

   4) ทาสต้องทำความสะอาดร่างกาย (รวมไปถึงทวารหนัก) และตัดเล็บให้เรียบร้อยก่อนจะเจอเจ้านาย

   5) ทาสต้องสวมใส่สิ่งที่เจ้านายเตรียมไว้ให้

   6) เมื่อเจ้านายยังไม่มาถึง ให้ทาสรอโดยการคุกเข่า

   7) ‘นายท่าน’ หรือ ‘เจ้านาย’ ทาสจะต้องเรียกแบบนี้เสมอในการเพลย์

   8 ) เมื่อเจ้านายมาถึง ทาสต้องพูดว่า ‘ผมพร้อมที่จะรับใช้ เชื่อฟัง และทำให้เจ้านายพอใจแล้วครับ’


   ผม...พูดไม่ออกแล้วครับ...ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการมีเซ็กส์แบบ BDSM ต้องมีข้อตกลงกันถึงขนาดนี้

   “นี่...ไมเคิล...ข้อปฏิบัติพวกนี้หมายถึงผมต้องมารอคุณที่ห้องนี้ก่อนใช่ไหม?” ผมสะกิดถามคนข้างๆ ที่เป็นผู้ออกร่างสัญญานี้ขึ้นมาเอง

   “ใช่ ฉันถึงสอนเธอให้รู้จักปลดล๊อคประตูและการเปิดปิดไฟในห้องยังไงล่ะ”

   และยิ่งในส่วนต่อๆไปเนี่ยสิ...ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมไมเคิลถึงให้ผมกินข้าวก่อนอ่านสัญญา

   เพราะมันคือหัวข้อการเพลย์ที่จะเกิดขึ้นหากผมเซ็นสัญญาลงไปในนี้ ไมเคิลเรียงตามตัวอักษรให้อ่านง่ายรวมไปถึงคำอธิบายแต่ละหัวข้อเป็นตัวเล็ก ๆ จากนั้นให้ผมเลือกวงกลมระหว่างคำว่า DO (ทำได้) และ DON’T (ห้ามทำ) ต่อท้ายมีคำว่า If DO, it will be Soft limits or Hard limits (ถ้าทำได้ มันจะเป็นข้อจำกัดแบบเบา ๆ หรือข้อจำกัดแบบห้ามล่วงละเมิด) บางหัวข้อมี R ต่อท้ายซึ่งหมายความว่า Risk ที่เป็นการเพลย์แบบสุ่มเสี่ยงต่อการติดโรคหรืออันตรายถึงชีวิต

   ผมขอยกตัวอย่างเล็ก ๆ ให้ดูแล้วกันนะครับ เอาที่แบบเกินจินตนาการผมและความรับรู้ของคนทั่วไปมากมาก มันไม่ได้มีแค่โซ่แส้กุญแจมือหรือแต่งเป็นนางพยาบาลอะไรพวกนั้น...

   Adult Baby (Acting like an infant, wearing diapers and receiving cares)

   เฒ่าทารก (แสดงเป็นทารก สวมใส่ผ้าอ้อมและได้รับการดูแลแบบทารก)

   Blood Play - R (sexual arousal from seeing, letting, or playing with blood. like vampirism)

   เล่นกับเลือด - สุ่มเสี่ยง (ได้รับการกระตุ้นทางเพศโดยการเห็นเลือด ทำให้เลือดออก และเล่นกับเลือด แบบแวมไพร์)

   Bondage (restraining or restricting movement)

   พันธนาการ (ควบคุมและจำกัดการเคลื่อนไหว)

   Breast or Nipple Torture (causing pain to the breasts and nipples)

   การทรมานหน้าอกหรือยอดปทุมถัน (นำซึ่งความเจ็บปวดมาสู่หน้าอกและยอดปทุมถัน)

   Chasity (no sex for you)

   พรหมจรรย์ (ไม่มีเซ็กส์กับคุณ)

   Clothed Sex (sex with clothes on, so the fabric goes inside you)

   เซ็กส์เสื้อผ้า (มีเซ็กส์โดยที่ยังใส่เสื้อผ้า และเสื้อผ้าเหล่านั้นจะไปอยู่ข้างในตัวคุณ)

   Electric Play - R (The safest way is by using a TENS unit)

   การเล่นกับไฟฟ้า - สุ่มเสี่ยง (ใช้เพียงแค่สิบยูนิตเป็นสิ่งที่ปลอดภัยที่สุด)

   Exhibitionism (enjoying when other people watch you having sex)

   จัดงานแสดง (ให้ความรู้สึกสนุกเมื่อมีคนอื่น ๆ กำลังมองคุณมีเซ็กส์)

   Fire Play - R (play that involves fire)

   เล่นกับไฟ - สุ่มเสี่ยง (การเล่นที่เกี่ยวข้องกับไฟ)

   Furry Yiff (dressing up in furry animal costumes)

   ปุกปุย (แต่งตัวโดยใส่ชุดสัตว์ขนปุย)

   Golden Showers - R (peeing one someone)

   อาบน้ำสีทอง - สุ่มเสี่ยง (ปัสสาวะบนร่าง)

   Human Furniture (act like a piece of furniture)

   เฟอร์นิเจอร์มนุษย์ (แสดงเป็นเฟอร์นิเจอร์)

   Knife Play - R (play using knives or sharp objects. Can be sensory or a “threat” roleplay)

   เล่นกับมีด - สุ่มเสี่ยง (ใช้มีดหรือสิ่งของแหลมคม ใช้ในบทบาทของการข่มขู่ได้)

   Nyotaimori (eating sushi off a person’s body)

   เนียวไตโมริ (การทานซูชิบนร่างกาย)

   Orgasm Denial (not allowing someone to have an orgasm for a certain period of time)

   ไม่ยอมให้ถึงจุดสุดยอด (ไม่ยอมให้อีกฝ่ายไปถึงจุดสุดยอดในช่วงระยะเวลาหนึ่ง)

   Pony Play (using someone as a pony (including riding). Can include costumes)

   ขี่ม้า (อีกฝ่ายแสดงเป็นม้า รวมไปถึงการควบขี่ สามารถใส่ชุดคอสตูมด้วยได้)

   Shibari (Japanese rope bondage)

   ชิบาริ (ศิลปะการมัดเชือกแบบญี่ปุ่น)

   Tattoos - R (someone is giving tattoos, someone is getting them)

   รอยสัก - สุ่มเสี่ยง (ฝ่ายหนึ่งเป็นผู้สัก อีกฝ่ายเป็นผู้รับรอยสัก)

   นี่แค่บางส่วนนะครับ...ยังมีหน้าหลัง ๆ ที่ระบุถึงอุปกรณ์อีก....

   ใครไหวไปก่อนเลยครับ ผมไม่ไหวแล้ว ขอตายตรงนี้



TBC




Talk

เนื้อหาจะไม่รุนแรงขนาดที่คนทั่วไปรับไม่ได้ค่ะ จะซอฟต์ๆ ตามระดับของน้องมิคกี้ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-09-2019 19:29:23 โดย ✿PIERRE »

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: As he pleases ❣️[BDSM] UP! Chapter VIII 100% [Sep, 25]
«ตอบ #46 เมื่อ25-09-2019 20:22:03 »

โอโห  :m25:
น้องมิคจะยอมรับข้อตกลงไหมหนอ
ขอให้ยอมรับเถอะ อยากจะรู้ว่าไมเคิลจะเป็นดอมที่แซ่บขนาดไหน
สำคัญที่สุดคืออยากเห็นน้องมิคตอนเป็นซับตัวน้อยๆ  :-[

 :L1: :pig4:

ออฟไลน์ TheSpaceOfM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: As he pleases ❣️[BDSM] UP! Chapter VIII 100% [Sep, 25]
«ตอบ #47 เมื่อ25-09-2019 20:59:34 »

เป็นการเปิดโลกทัศน์ของมิคมาก มิคก็คือตาแตก งงไปหมด รอติดตามตอนต่อไปค่ะว่าจะตกลงกันยังไงให้ลงตัวทั้งคู่

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
Re: As he pleases ❣️[BDSM] UP! Chapter VIII 100% [Sep, 25]
«ตอบ #48 เมื่อ25-09-2019 23:19:13 »

ไม่ใช่แค่มิคกี้ที่จะสลบ คนอ่านก็จะสลบเหมือนกัน (ฮา)

เอาจริงๆถ้าไม่นับ BDSM ผมคิดว่าไมเคิลจะชอบมิคกี้นะครับ ในท้ายที่สุดน่ะ เพราะว่าโดยปกติแล้ว ชาวต่างชาติมักหย่าร้างกันเพราะความเข้ากันไม่ได้ในเรื่องของการปรับทัศนคติ ความเป็นตัวของตัวเองที่มากจนไม่ยอมรับคนอื่นมักจะทำให้เกิดปัญหาชีวิตคู่เสมอ แต่มุมมองแบบนี้ในคนไทยที่ได้รับการอบรมมาดีจะค่อนข้างน้อยครับ เราจะซอฟท์กว่า น่ารักกว่า ซึ่งเนื่องจากมิคกี้เป็นผู้ชายด้วย นอกจากความน่ารักของนิสัย ก็น่าจะมีมุมมองที่พูดอะไรออกมาตรงๆและน่าจะถูกจริตของไมเคิลด้วย

แต่พอเห็นเรื่องรายละเอียดของ BDSM บางตัวนี่ก็ค่อนข้างกังวลนะครับ ที่กังวลคือรสนิยมการมีเพศสัมพันธ์นี่แหละครับ คือโดยปกติถ้าเกิดมันมากเกินไป มันจะสร้าง Submissive Tendency ภายในตัวของบุคคล ซึ่งถ้าขาดการดูแลที่ดี มันจะสร้างแรงอารมณ์และทำร้ายทางจิตใจได้นะครับ มันอาจทำให้บางคนทนไม่ไหว รู้สึกต้อยต่ำด้อยค่าของความเป็นมนุษย์เกินไป (อย่างข้อกำหนดข้อ 6 กับข้อ 8 แล้วก็ Adult Baby, Extreme Bondage, แล้วก็พวกสุ่มเสี่ยงทั้งหลาย) พวกนี้ถ้าทำบ่อยๆไม่ดีต่อสุขภาพจิตนะครับ บางทีไปถึงขั้นเลือดตกยางออก คนปกติก็มองเป็น assault หรือ physical injury ไม่แปลกที่คู่นอนไมเคิลหลายคนไม่เอาด้วย เพราะถ้าทำหมดนั่นรับได้แบบสบายๆ แปลว่าคุณต้อง Mind Twist ระดับหนึ่ง ซึ่งมีผลต่อการใช้ชีวิตและเข้าสังคมแน่ๆ ผมยังไม่อยากให้มิคกี้จิตใจ twist ไปแบบนั้นนะครับ

แต่ถ้าเบาๆแบบที่เรามักเจอในการ์ตูนวายของญี่ปุ่นที่ให้เหล่าเด็กมัธยมหรือมหาวิทยาลัยอ่านกัน อันนี้ผมว่าโอเค เราพอรับกันได้ เพราะมันเหมือนมีความแกล้งกันของคู่รักในการเพลย์ด้วย เช่น Breast Torture, Exhibitionism, Furry Yiff, Nyotaimori และ Orgasm Denial พวกนี้จะเห็นเยอะ เพราะเป็นระดับไม่รุนแรงและสื่อสารความหยอกล้อได้ด้วย เราเลยมักเจอในมังงะวายซะเยอะ แล้วถ้าเป็นแบบที่เราสื่อสารความสัมพันธ์ของคู่รักให้คนอ่านรับรู้ได้ มันก็จะทำให้เนื้อเรื่องหรือความสัมพันธ์ตัวละครพัฒนาไปได้อีกครับ

เรารอดูวันที่สุดท้ายมิคกี้กลับไทย แล้วไมเคิลที่น่าจะคิดถึงมิคกี้ซึ่งเป็นทั้งคู่นอนที่น่ารัก เป็นพาร์ทเนอร์ของความรักที่ดี แถมยังดูแลเอาใจใส่ เดี๋ยวถึงตอนนั้นถ้ามาขวนขวายหาแล้วไม่นึกว่าทำไมไม่รั้งแล้วจริงจังกับความสัมพันธ์ ผมอยากดูซิว่าจะไปตามหรือไปง้อกันยังไง (ฮา)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: As he pleases ❣️[BDSM] UP! Chapter VIII 100% [Sep, 25]
«ตอบ #49 เมื่อ26-09-2019 00:18:35 »

 o22

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: As he pleases ❣️[BDSM] UP! Chapter VIII 100% [Sep, 25]
« ตอบ #49 เมื่อ: 26-09-2019 00:18:35 »





ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
Re: As he pleases ❣️[BDSM] UP! Chapter VIII 100% [Sep, 25]
«ตอบ #50 เมื่อ26-09-2019 11:49:59 »

โอยไม่ไหวหลายข้อเหมือนกัน มิคกี้ต้องต่อรองนะ ทั้งหมดนี่จะต้องเกิดขึ้นทุกข้อเลยเหรอนี่

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
Re: As he pleases ❣️[BDSM] UP! Chapter VIII 100% [Sep, 25]
«ตอบ #51 เมื่อ26-09-2019 17:37:55 »

สัญญาผูกรัดใจ

ออฟไลน์ ✿PIERRE

  • ดองนิยายข้ามปี
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-6
Re: As he pleases ❣️[BDSM] UP! Chapter VIII 100% [Sep, 25]
«ตอบ #52 เมื่อ04-10-2019 23:18:18 »

IX
Sexperience


   “จากการเพลย์ทั้งหมด 156 แบบ เธอเลือกมาทั้งหมด 30 แบบ”

   “ครับ”

   “อุปกรณ์กว่า 100 ชนิด เธอเลือกใช้ได้ไม่ถึง 20 ชนิด”

   “ก็ตามนั้นครับ”

   “เพลย์ได้อาทิตย์ละไม่เกินสองครั้ง และต้องเพลย์แค่วันศุกร์เย็นหรือเสาร์ เพราะวันอาทิตย์เธอต้องการพักร่างกายและจิตใจ”

   “อย่างที่อ่านเลยครับ”

   “เริ่มสัญญาอาทิตย์หน้า?”

   “ครับ ตอนนี้ผมไม่พร้อม”

   “แต่อาทิตย์หน้าเธอก็รู้ว่าฉันไม่อยู่ ต้องบินไปคุยงานที่ต่างประเทศทั้งอาทิตย์”

   “รอหลังคุณกลับมาก็ได้...ผมไม่รีบ”

   คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน รวมไปถึงน้ำเสียงที่เข้มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผมรู้ว่าไมเคิลไม่สบอารมณ์กับข้อต่อรองผมของที่โคตรเยอะ ผมนั่งทำข้อตกลงฉบับนี้จนเสร็จทันพอดีกับที่ไมเคิลดูหนังสยองขวัญจบ ฉากเลือดสาดน่าสยดสยองบนจอทำอะไรผมไม่ได้เลยเพราะสิ่งที่เขียนระบุไว้ในสัญญามันน่ากลัวกว่ามาก ผมทั้งขีดทิ้งขีดฆ่า วงกลมคำว่า DON’T จนเกือบทั้งหมด ส่วนอะไรที่ทำได้ผมก็เขียนหมายเหตุว่ามันคือ Soft limits หรือ Hard limits ไหนจะอุปกรณ์ด้านหลังที่บางอย่างผมไม่เคยเห็นหน้าตาและจินตนาการไม่ออกด้วยซ้ำว่ามันใช้งานอย่างไร

   “ตกลงเธอหรือฉันที่เป็นเจ้านายกันแน่?”

   “ก็ถ้าให้ผมเปลี่ยนตำแหน่งมาเป็นเจ้านายก็ไม่เกี่ยงนะครับ แฮร่” ผมยิ้มทะเล้น

   ยังไม่ทันที่จะได้สาธยายต่อนิ้วเรียวก็ดีดใส่หน้าผากผม

   “โอ๊ย! มันเจ็บนะครับ”

   “ซ้อมไว้ก่อนไง ของจริงเจ็บหนักกว่านี้แน่” ไมเคิลทำเสียงดุคาดโทษไว้ ผมได้แต่เอามือลูบๆหน้าผาก ในมือเขาถือข้อตกลง เปิดอ่านครบทุกหน้า จนมาถึงหน้าสุดท้าย

   “เธอยังเวอร์จิ้น?”

   “เอ่อ...ก็ผมไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน...”

   “กับผู้หญิงก็ไม่เคย?”

   “ครับ พอดีค่านิยมในประเทศไทยออกจะล้าหลังไปสักหน่อย...”

   “Damn...(เวร)” ไมเคิลสบถ แต่ดูท่าทางเขาไม่ได้โกรธอะไรขนาดนั้น ติดจะยิ้มน้อยๆด้วยซ้ำ “I think you should have some ‘sexperience’ before we ‘play’. You are a beginner and going to skipping steps. Otherwise, you cannot accept all this play. (ฉันว่าเธอควรจะมี ‘ประสบกาม’ สักเล็กน้อยก่อนที่จะเพลย์ เธอยังมือใหม่และกำลังจะข้ามขั้นไปเจอของจริงอย่าง BDSM นะ...ไม่อย่างนั้น...เธอรับทั้งหมดที่วงมาไม่ไหวหรอก)”

   “How can I get sexperience? Are you telling me to have sex with another guy before I can play with you? (แล้วผมจะไปหาประสบกามจากไหนล่ะครับ? อย่าบอกนะว่าจะให้ผมไปมีอะไรกับคนอื่นก่อนที่จะมาเพลย์กับคุณ)”

   “I didn’t say that...Why do you need another guy if you have me? (ฉันไม่ได้พูดแบบนั้น...ว่าแต่เธอจะไปหาคนอื่นทำไมในเมื่อเธอมีฉัน?)” ไมเคิลยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมเขยิบเข้ามาใกล้ สายตาเขาไม่น่าไว้วางใจเอาเสียเลย

   เดี๋ยวนะ...ถ้าอย่างนั้นเขากำลังจะบอกให้ผมมีอะไรกับเขาแบบปกติก่อนงั้นเหรอ...

   ผมเบิกตากว้างเมื่อเริ่มเข้าใจในสิ่งที่คนตรงหน้าสื่อ

   “But,...I’m not ready (แต่...ผมยังไม่พร้อม)” ตอบพลางหนีพลาง จนตอนนี้หลังผมชิดมุมโซฟาเบดในห้องนั่งเล่นแล้วครับ

   “Why? (ทำไม?)”

   “Ahh...I haven’t showered yet. (ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลย)”

   “You always have excuses. You can’t run away from me all the time, Micky. (เธอมีข้ออ้างตลอดเลย แต่เธอหนีฉันไปตลอดไม่ได้หรอกนะมิคกี้)” ไมเคิลพูดแต่ก็ยอมปล่อยให้ผมไปอาบน้ำ ส่วนเขายังนั่งอยู่บนโซฟากว้างเหมือนเดิม หยิบรีโมทมาเปลี่ยนเป็นหนังเรื่องใหม่

   ผมยืนเบลอในห้องน้ำ ไมเคิลคิดจะเอ่อ...มีเซ็กส์กับผมวันนี้เลยเหรอ...คือต่อให้เตรียมใจมาแล้วแต่มันก็อดตื่นเต้นไม่ได้

   ครั้งแรกเชียวนะครับ! แม้ผมจะดูหนังโป๊เกย์มาบ้างแต่ไม่เคยโดนเองจังๆนี่

   เอาว่ะ...ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว สัญญาก็เซ็นไปแล้ว วันนี้แค่มีเซ็กส์ธรรมดา วันหน้าต้องเจอเซ็กส์ในรูปแบบอื่นๆอีก จะกลัวอะไรกับเรื่องแค่นี้ แถมคนที่จะมาเปิดซิงผมไม่ใช่คนอื่นไกล แต่เป็นคนที่ผมชอบเชียวนะ

   ผมรวบรวมกำลังใจให้ตัวเอง อาบน้ำสระผม ขัดถูทุกซอกทุกมุม แปรงฟันสองรอบ วันนี้เป็นวันที่ผมใช้เวลาอาบน้ำนานที่สุดในชีวิตเลย

   ในที่สุดผมก็ออกมาด้วยชุดนอนสีเขียวเข้ม พลางใช้ผ้าขนหนูซับน้ำบนศีรษะไปด้วย ไมเคิลไม่ได้นั่งดูหนังอยู่ในห้องรับแขกแล้ว ผมจึงเดินไปที่ห้องนอน แล้วก็ได้เจอร่างกำยำนอนเอนกายอยู่บนเตียงกว้าง สายตาจดจ้องไปที่จอโทรทัศน์ที่โผล่ลงมาจากเพดานอยู่ตรงกับระดับสายตาเขาพอดี

   “ฉันนึกว่าเธอจะนอนในห้องน้ำซะอีก” ไมเคิลพูดยิ้มๆ

   “ก็คิดอย่างนั้นอยู่เหมือนกันครับ ห้องน้ำบ้านคุณกว้างขวางดี” ผมตอบพลางนั่งลงข้างๆเขา “มีไดร์เป่าผมมั้ยครับ”

   “เดี๋ยวฉันหยิบให้” เขาลุกขึ้น เดินไปในห้องน้ำส่วนตัวอีกห้อง เป็นคนละห้องกับที่ผมใช้อาบ เขากลับมาพร้อมไดร์เป่าผมในมือ

   “ขอบคุณครับ” ผมที่กำลังจะเอื้อมมือไปรับแต่ไมเคิลกลับเบี่ยงตัวก้มลงไปเสียบไดร์กับปลั๊กข้างๆโคมไฟหัวเตียง “เอ่อ...เดี๋ยวผมทำเองก็ได้ครับ ไม่รบกวนคุณไมเคิลดูหนังหรอก”

   “ไม่เป็นไร ฉันดูไปเป่าผมเธอไปพร้อมๆกันได้”

   ผมนั่งบนเตียงปริ่มๆจะตกจากเตียง พยายามเกร็งหลังตรงให้เขาเป่าผมได้สบายๆ เสียงไดร์กลบเสียงทีวีได้ แต่กลบเสียงในอกผมไม่ได้

   ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก

   ไมเคิลมีผลต่อหัวใจผมมากเกินไปแล้ว แค่เขาเป่าผมให้หัวใจก็แทบจะกระเด็นออกจากร่าง

   ไอร้อนผ่านเส้นผม นิ้วเรียวยาวเกลี่ยผมไปมา ไม่นานนักเส้นผมดำขลับก็แห้งสนิททั่วทั้งศีรษะ ไมเคิลปิดไดร์แล้ววางไว้บนโต๊ะใกล้ๆ แต่ยังไม่ทันที่ผมผมจะได้หันไปขอบคุณกลับสัมผัสได้ถึงริมฝีปากร้อนผ่าวประทับลงบนหลังคอ

   ผมสะดุ้ง

   “เอ่อ...ขะ ขอบคุณครับ” ในเวลานี้ผมทำตัวไม่ถูก มือไม้เงอะงะ ไม่รู้ควรจะเอาสายตาไว้ตรงไหน ไมเคิลนั่งลงตรงหน้าผม มือหนายังคงจับท้ายทอยผมไว้เพื่อป้องกันการหนี

   นัยน์ตาสีเขียวฟ้าทอประกายร้อนแรง จ้องมาที่ผมตรงๆ

   “มองตาฉัน มิคกี้”

   ผมค่อยๆกระพริบตาและสบกับเขา

   “เธอชอบฉันไหม?” ผมเม้มปาก พยักหน้าเบาๆ “งั้นก็อย่ากลัว ฉันไม่ใช่สัตว์ประหลาด ฉันจะไม่ทำร้ายเธอถ้าเธอไม่ยอม”

   สัตว์ประหลาดที่ไหนหล่อขนาดนี้...

   มือของเขาย้ายจากท้ายทายเลื่อนมาสู่ลำคอก่อนจะค่อยๆประคองใบหน้าผม ใช้นิ้วโป้งไล้เลียไปตามริมฝีปาก สายตาเขาจ้องผมไม่ลดละ มีทั้งความต้องการ สเน่หา รวมไปถึงความอ่อนโยนที่ผมรู้สึกได้เพราะมือหนาอีกข้างประสานเข้ากับมือผมไว้อย่างแนบแน่น

   ผมค่อยๆปิดเปลือกตา ภาพสุดท้ายที่เห็นคือใบหน้าคมเข้มโน้มเข้ามาใกล้ ได้รับสัมผัสที่กลีบปาก เขาบดคลึงภายนอกอย่างหยอกเย้า ก่อนจะค่อยๆชี้นำให้ผมเปิดปาก รับลิ้นอุ่นชื้นเข้ามาแทรก ควานหาความหวานไปทั่วทั้งโพรงปาก พันกระหวัดรัดเกี่ยวเพิ่มความร้อนแรงจนอุณหภูมิในกายผมสูงขึ้น เขาถอนจูบ ปล่อยให้ผมหอบหายใจ ทั้งๆที่เป็นแค่จูบไม่กี่นาทีแต่เหมือนกับว่าพลังชีวิตถูกสูบไปจนหมด

   มือของผมถูกอุ้งมือหนาค่อยๆเคลื่อนไปสู่ตำแหน่งหัวใจบนร่างเขา

   “Do you feel me? (เธอรู้สึกถึงตัวตนของฉันไหม?)” เสียงแหบพร่ากระซิบแผ่วเบา

   ตึกตัก ตึกตัก

   หัวใจของเขาก็เต้นแรงไม่แพ้กัน...

   “ให้ตายสิ ฉันตื่นเต้นยิ่งกว่าเธออีก”

   ผมเงยหน้ามองเขา พลันยิ้มก่อนจะหัวเราะเบาๆ





*30%*


น้องมิคจะรอดไหมมมมม
 :hao7:

ขอบคุณคอมเม้นต์ของคุณ Grey Twilight ด้วยนะคะ

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: As he pleases ❣️[BDSM] UP! Chapter IX 30% [Oct, 04]
«ตอบ #53 เมื่อ05-10-2019 05:19:59 »

คนอ่านก็ตื่นเต้นค่ะคุณไมเคิล

 :pig4:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: As he pleases ❣️[BDSM] UP! Chapter IX 30% [Oct, 04]
«ตอบ #54 เมื่อ07-10-2019 12:26:51 »

เลือดกำเดาจิพุ่ง~5555

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: As he pleases ❣️[BDSM] UP! Chapter IX 30% [Oct, 04]
«ตอบ #55 เมื่อ07-10-2019 22:39:06 »

กิสสส ขอธรรมดาแบบฟินๆเถอะ อ่านข้อตกลงแล้วไม่ไหวแรงงงงง แงง โหดจัง

ออฟไลน์ ninknpk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: As he pleases ❣️[BDSM] UP! Chapter IX 30% [Oct, 04]
«ตอบ #56 เมื่อ08-10-2019 02:19:36 »

ไมเคิล หล่อนมันวร้ายยย

ออฟไลน์ ✿PIERRE

  • ดองนิยายข้ามปี
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-6
Re: As he pleases ❣️[BDSM] UP! Chapter IX 30% [Oct, 04]
«ตอบ #57 เมื่อ08-10-2019 13:37:44 »

*ต่อ70%ที่เหลือ*


   “อุ๊บส์!”

   จู่ๆเขาก็ปิดริมฝีปากผมอีกครั้งแบบไม่ทันให้ตั้งตัว เขารุกรวดเร็ว ขบเม้มและกัดไปทั่วจนผมเริ่มเจ็บเพราะหนวดเคราสากของเขาที่ถึงแม้มันจะไม่ได้ยาว เป็นก็เป็นตอเล็กๆ เสียดสีผิวผมจนแดงไปหมด กลีบปากได้รูปดูดดึงริมฝีปากผมจนชา มือหนาเลิกเสื้อนอนผมขึ้นพลางดันตัวล้มลงนอน ไมเคิลไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว จูบของเขาดุดันและหนักหน่วง ฟันขาวเรียงเป็นระเบียบกัดริมฝีปากล่างของผม เขาดูดดึงจนมันเห่อแดงก่อนจะละไปยังซอกคอ ใช้ลิ้นร้อนโลมเลียไปทั่วจนร่างกายผมปั่นป่วน

   มือหนาไม่หยุดนิ่ง ตอนนี้เสื้อผมเลิกขึ้นสูงมาเรื่อยๆ ฝ่ามือของเขาลูบไล้สัมผัสผมไปทั่ว ทิ้งไออุ่นไว้ในทุกๆที่ที่เขาลากผ่าน นิ้วเรียวสวยขยับเข้ามาชิดกับยอดอก ปลายนิ้วสะกิดหยอกล้อจนผมสะดุ้งแอ่นหลังขึ้น

   “อ๊ะ”

   ไมเคิลเหมือนรับรู้ได้ว่าร่างกายผมมีปฏิกิริยาบางอย่าง เขาถอดเสื้อนอนซึ่งผมก็ให้ความร่วมมืออย่างดี สายตาร้อนแรงจับจ้องมายังร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าจนผมต้องเบือนหน้าหนี แต่เขากลับยึดปลายคางผมไว้ให้หันกลับมาประสานสายตา นัยน์ตาสีท้องทะเลอันเป็นจุดเด่นบนเครื่องหน้าเขายามปกติมันคือทะเลสาบอันมีทัศนียภาพอันงดงาม แต่บัดนี้มันกลายเป็นทะเลที่เต็มไปด้วยคลื่น พร้อมทำลายทุกสรรพสิ่ง

   เขาก้มลงจูบผมอีกครั้ง ปรนเปรอด้วยความเร่าร้อนและความต้องการ ไม่มีส่วนไหนที่ริมฝีปากร้อนสัมผัสไม่ถึง ไมเคิลพรมจูบไล่ลงมาที่ลำคอ บ่ากว้าง ก่อนจะจบตรงยอดอกสีสวยที่ผมไม่เคยให้ใครได้เห็นยามที่มันชูชันท้าสายตาแบบนี้

   “อื้อออ”

   ผมบิดตัวเกร็งเพราะความเสียวซ่าน ลิ้นอุ่นตวัดเลียตุ่มเล็กๆด้วยความหิวกระหาย มืออีกข้างของไมเคิลเคลื่อนลงต่ำจนน่าหวาดเสียว แต่ตอนนี้สมองผมเริ่มเบลอ ยังไม่ทันได้ห้ามเขาก็ดึงกางเกงนอนลงอย่างง่ายดาย

   แน่นอนว่ามิคจูเนียร์มันผงาดตั้งขึ้นมาอย่างไม่ต้องสงสัย แถมยังดันนูนกางเกงในจนน่าเกลียด แต่คนบนร่างผมกลับไม่คิดแบบนั้น ไมเคิลค่อยๆใช้มือสัมผัสภายนอกผ่านผ้าเนื้อบาง ราวกับว่ากำลังปลอบประโลมมันให้สงบลง...แต่เปล่าเลย ยิ่งเขาทำแบบนั้นมันยิ่งทำให้แก่นกายของผมแข็งตึงไม่ยอมอ่อนข้อง่ายๆ

   ผมเริ่มหายใจหอบถี่ ใจเต้นรัวเร็ว...เข้าใจแล้วว่าทำไมบางคนถึงมีเซ็กส์จนหัวใจวายตายได้...

   “Arousing you, arouse me. (การปลุกอารมณ์เธอ...มันทำให้ฉันมีอารมณ์)” เสียงแหบพร่ากระซิบข้างใบหู แก้มผมเห่อร้อน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสิ่งที่เขาพูดหรือสิ่งที่เขาทำ

   น่าจะทั้งสองอย่าง...

   ไมเคิลเป็นผู้นำที่ดี เขาไม่ได้ฝืนใจผมเลยสักนิด...เอ่อ อันที่จริงแล้วต้องบอกว่าผมเคลิ้มตามจนยอมเขาได้ทุกอย่างมากกว่า แต่ก็นั่นแหละ...เพราะเขาเชี่ยวชาญไม่ใช่หรอถึงทำให้ผมรู้สึกดีได้ขนาดนี้

   ร่างกำยำยืดถอดเสื้อตัวเองทิ้งลงกับพื้นอย่างไม่ใยดี ก่อนจะตามด้วยกางเกงนอน ตอนนี้เท่ากับว่าเราสองคนเหลือเพียงแค่ชั้นในบางๆกั้น ปกปิดตัวตนแข็งแกร่งเบื้องล่าง...ที่ออกจะปกปิดไม่มิดสักเท่าไหร่

   ผมฉวยโอกาสนี้สำรวจร่างกายเขาอีกครั้ง ถึงแม้จะเคยเห็นแล้วตอนเล่น SUP ด้วยกัน แต่มันคนละสถานการณ์นี่นา

   คนอะไรสมบูรณ์แบบเป็นบ้า กล้ามเนื้อเรียงสวยแผ่กลิ่นอายกระตุ้นบางสิ่งในตัวผม ผิวสีขาวแบบชาวตะวันตกเนียนละเอียด หากมองต่ำลงหน่อยก็จะเห็นเส้นขนสีทองบางๆหายไปในขอบกางเกงชั้นในดูน่าค้นหา และถ้าต่ำมากกว่านั้น...กะคร่าวๆจากสายตาและยังไม่ได้วัดด้วยมือแล้ว...

   บอกเลยถุงยางไซส์ 56 ก็เอาไม่อยู่

   “มองแบบนั้นหมายความว่ายังไง?” ไมเคิลยกยิ้มที่มุมปาก เขาดูภูมิใจในรุปร่างตัวเองอย่างมาก

   “ปะ...เปล่าครับ...”

   “แต่สายตาเธอมันฟ้องว่าอยากกิน”

   คุณไมเคิล!!!

   “ผะ ผม...ผมไม่ได้อยากกินซะหน่อย”

   เขาไล่ต้อน ผมเขยิบถอยหลัง ท่าทางคุกคามกับใบหน้ายิ้มร้ายมันเริ่มทำให้ผมหวั่นๆ แต่ก็แอบตื่นเต้นเร้าใจ ดูท่าทางไมเคิลชอบจะสวมบทบาทเป็นผู้ล่า แน่นอนว่าผมก็จะยอมเป็นเหยื่อให้เขา แต่ถ้าเหยื่อถูกกินง่ายๆก็ไม่สนุกสิ

   คิดได้ดังนั้นผมจึงหยุดหนี หันมาเผชิญหน้ากับใบหน้าหล่อคมคาย

   “I just...want to touch it. (ผมแค่...อยากสัมผัส)”

   คนตรงหน้ายิ้มอย่างพอใจ เขายืนเข่าแล้วเรียกผมเข้าไปใกล้

   “Go ahead...It belongs to you. You can do whatever you want. But be gentle with it. (เอาสิ มันเป็นของเธอ เธอจะทำอะไรกับมันก็ได้ แต่อ่อนโยนกันมันหน่อยนะ)”

   ผมเขยิบเข้าไปใกล้ ก่อนจะใช้ฝ่ามือลูบไล้ไปตามลำตัวเขา ไล่ตั้งแต่บ่ากว้าง อกแกร่ง แผงซิคแพคได้รูป ก่อนจะจบลงที่ใจกลางลำตัว ผมสัมผัสส่วนนั้นผ่านเนื้อผ้าที่นูนเด่นออกมา สองมือค่อยๆรั้งปราการด่านสุดท้ายลง

   โฮลี่ชิท! ดิส อิส อะ ไจแอ้น เจอมัน ซอสเซส! (Holy shit! This is a giant german sausage. แม่เจ้าโว๊ย นี่มันไส้กรอกเยอรมันขนาดยักษ์)

   เครื่องเพศตรงหน้าหลังจากได้รับอิสระก็เด้งออกมาจนเกือบชนปลายจมูกผม ดีนะที่ผมถอยห่างออกเล็กน้อยได้ทันท่วงที

    ดูหนังโป๊เกย์ทั้งไทยและเทศมาก็เยอะ แต่ไอ้แท่งมหัศจรรย์ตรงหน้านี่มันเกินคำบรรยายจริงๆ มันดูดี ท่อนลำสีชมพูเข้มสวย ยกเว้นปลายยอดที่เป็นสีชมพูอ่อน ขนาดของมันทั้งยาวและอวบจนหนังโป๊เกย์ที่ผมเคยดูกลายเป็นของเด็กเล่นไปเลย

   “What’s wrong? (เป็นอะไรไป?)” เขาถาม

   “Nah...Nothing (มะ...ไม่มีอะไรครับ)” ผมตอบเสียงสั่น

   “Then why you stepped back? (ถ้างั้นถอยหลังทำไม?)” ไมเคิลยิ้มมุมปาก ร่างสูงเข้ามาใกล้ เขากำลังสนุกที่ได้แกล้งผม “You said you wanna touch it. (เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าอยากจับ)”

   ผมขอถอนคำพูดคืนได้ไหม

   “Let get used to it, next time you’ll know what is waiting for you. (ทำใจให้ชินซะเถอะ ครั้งหน้าเธอจะได้รู้ว่าต้องเจอกับอะไร)”

   ผมกลืนน้ำลายดังเอื๊อก พยายามทำใจให้สบาย ในเมื่อหลงชอบคนตรงหน้าไปแล้ว ก็ต้องชอบทุกๆส่วนในร่างกายของเขาด้วย ไม่ว่ามันจะใหญ่สักแค่ไหนก็ตาม

   อีกอย่าง...มีไม่กี่คนหรอกที่จะได้เจอคนรูปร่างหน้าตาดี ไอ้นั่นก็ใหญ่ ลีลายิ่งเด็ดแบบไมเคิล โอกาสมาจ่อตรงหน้าแล้วจะปล่อยให้หลุดลอยไปก็น่าเสียดาย

   มือของผมค่อยๆกอบกุมท่อนลำตรงหน้า บอกเลยครับว่ากำไม่รอบ มันทั้งหนาและร้อน ทันทีที่ผมเริ่มขยับมือขึ้นลงอย่างรู้งาน ไมเคิลก็ครางต่ำบ่งบอกถึงความพอใจ

   ยิ่งรูด ยิ่งเค้น มันก็ยิ่งขยาย

   “พอก่อน” ไมเคิลบอก ผมมองอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ทำตามที่เขาบอก

   เขาดันตัวผมล้มลงกับเตียงกว้างอีกครั้ง ร่างกำยำไม่รอช้าทาบทับลงมา ใช้ศอกยันไว้เพื่อไม่เป็นการทิ้งน้ำหนักลงมาทั้งหมด ไมเคิลปลุกอารมณ์ผมอีกครั้งด้วยการจูบ คลึงเคล้นไปตามร่างกาย แวะเล่นกับยอดอกอีกครั้ง จบท้ายด้วยการรูดชั้นในผมลงอย่างรวดเร็ว

   ฝ่ามือสากกอบกุมแก่นกายผมที่ตอนนี้มันแข็งแทบระเบิด ขยับขึ้นลงแบบที่ผมทำให้เขา ปลายยอดมีน้ำใสๆไหลออกมาเล็กน้อย นิ้วโป้งจงใจเคล้นคลึงเย้าแหย่ให้ผลิตน้ำใสๆออกมามากกว่าเดิม

   ผมเกือบจะขาดอากาศหายใจแล้ว แต่ดีที่ไมเคิลถอนจูบเสียก่อน แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้หอบหายใจพัก เขากลับรวบตัวตนของผมและเขาเข้าไว้ด้วยกันด้วยมือเดียวแล้วขยับขึ้นลงไปพร้อมๆกัน

   “อื้อออ”

   “อาาา”

   ทั้งผมและไมเคิลคราง

   แบบนี้มันรู้สึกดีชะมัด ดีกว่าทำด้วยมือตัวเองเป็นไหนๆ

   ตัวตนของเราทั้งคู่สัมผัสเบียดเสียดแน่น แข่งกันชูชันอย่างไม่มีใครยอมใคร หากจะแพ้...ผมก็คงแพ้ที่ขนาดเพราะมันต่างกันมากเกินไป

   ไม่รู้ว่าเสียงรอบข้างเงียบลงตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนที่เป่าผมหูยังได้ยินเสียงจากทีวี แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ไมเคิลคงปิดไปนานแล้ว ในหัวผมอื้ออึงไปด้วยเสียงหอบหายใจของเราทั้งคู่ โคมไฟสีส้มสลัวสร้างบรรยากาศให้ดูน่าค้นหา บางครั้งผมก็เห็นเค้าโครงคนตรงหน้าเด่นชัด บางครั้งซีกหน้าอีกฝั่งก็หายไปในเงามืด

   ภายในห้องอบอวลไปด้วยความเร่าร้อน แม้อุณหภูมิภายจะถูกตั้งให้พอดีไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไป แต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเลย

   “Micheal...I’m gonna cum. (ไมเคิล...ผมจะไม่ไหวแล้ว)” ผมพูดพลางหอบหายใจ มันยากมากที่จะห้ามไม่ให้ส่งเสียงใดๆในลำคอ

   ผมรู้ตัวว่าอ่อนหัด แค่โดนชักแค่นี้กลับจะปลดปล่อยออกมาเสียแล้ว ผมยอมรับ แต่นั่นก็เป็นเพราะว่าผมไม่เคยมีอะไรกับใคร อย่างมากก็แค่ช่วยตัวเองหน้าจอคอมพ์ที่บ้าน โลกสวยด้วยมือเรา ไม่เคยมีคนมาทำให้แบบนี้นี่นา

   แถมคนที่กำลังช่วยผมหล่อซะขนาดนี้ก็ไม่แปลกที่จะอดใจไม่ไหว

   “Hold it. (อั้นไว้)” ไมเคิลไม่ได้ทรมานผมต่อ แต่ก็ไม่ยอมให้ปลดปล่อย

   เขาประทับริมฝีปากลงมาอีกครั้ง ไล่พรมจูบตั้งแต่ปลายคาง เขยิบกายถอยร่นไปพร้อมๆกับกลีบปากได้รูปที่ตำแหน่งมันชักจะหมิ่นเหม่ขึ้นเรื่อยๆ

   หน้าอก ช่วงท้องแบนๆ แอ่งสะดือ จวบจนท้องน้อยที่โดนสัมผัสจนขนลุกเกรียว เขายังไม่หยุด...เคลื่อนกายต่ำลงกว่านั้น

   “ดะ เดี๋ยวครับ...ตรงนั้น...ไม่ได้นะครับ”

   ผมพยายามห้าม ดันร่างหนาให้ออกห่าง แน่นอนว่าไม่ได้ผล ไมเคิลไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น เขาจับต้นขาผมแน่นแล้วบังคับให้กางออกอยู่ในท่วงท่าที่น่าอาย ผมยันตัวขึ้นเห็นกลุ่มผมสีบลอนด์เข้มเหลือบแดง จากนั้นริมฝีปากก็ครอบครองตัวตนผมไว้ทั้งหมด

   “อาาาาส์” ผมครางออกมา

   นี่ผม...กำลังอยู่บนนสวรรค์ใช่ไหม ทำไมรู้สึกดีขนาดนี้

   ไมเคิลห่อปากกลืนกินเข้าไปอย่างไม่รังเกียจ ผมสัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มในโพรงปาก ปลายลิ้นเขาตวัดอย่างชำนาญ อีกมือก็คอยเล่นกับบอลทั้งสองข้าง

   ผมยันตัวนั่ง หัวใจเต้นถี่ดัง เบิกตากว้างเพราะภาพตรงหน้า...

   ไมเคิลเงยช้อนขึ้นมาสบตาผมอย่างท้าทาย ในปากเขาดูดกลืนแก่นกายผม...

   มันทั้งเซ็กซี่ หื่นกระหาย เต็มไปด้วยตัณหาและกามอารมณ์

   ในหัวสมองผมเบลอ คิดอะไรไม่ออก รู้แต่ว่ากำลังจะไปถึงจุดสุดยอดแล้ว...ผมใช้เรี่ยวแรงที่เหลือน้อยนิดผลักดันไหล่เขาให้ออกห่าง เป็นสัญญาณเตือนว่าผมกำลังจะปลดปล่อยแล้ว แต่ไมเคิลกลับดื้อดึง ซ้ำยังเร่งความเร็วเพิ่มอีกด้วย

   “อ๊าาาาาาาาส์”

   ในที่สุดร่างผมก็กระตุก ปลายท่อนเนื้อปลดปล่อยสายธารขุ่นเหลว ไมเคิลพยายามเก็บกลืนทุกหยาดหยด แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ไหลเยิ้มออกมาตามมุมปาก เขาตวัดลิ้นไล้เลียจนสะอาด

   ระหว่างที่ร่างกายผมค่อยๆอ่อนตัวลง ผมทิ้วตัวเอนหลังลงกับที่นอน ร่างกายเบาหวิว ใช้แขนก่ายหน้าผาก ปิดตาหลับ อกกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจหอบถี่ ในหัวคิดอะไรไม่ออกทั้งนั้น มีแต่ความสุขสมอยากซึมซับความรู้สึกนี้ไว้นานๆ

   ไมเคิลผละห่าง ผมไม่รู้ว่าเขาไปไหน แต่ไม่นานนักก็กลับมา ผมได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆกับเสียงเปิดขวดใกล้เข้ามา

   เขายังไม่เสร็จนี่นา...ผมควรจะทำคืนให้เขาไหม? มันจะเป็นการเห็นแก่ตัวไปเลยรึเปล่าถ้าหลับตอนนี้

   ไม่ดีมั้ง...ไมเคิลยังทำให้ผมอย่างไม่รังเกียจเลย ผมควรจะปฏิบัติกลับอย่างเท่าเทียม

   ผมดันตัวลุกขึ้นนั่ง หน้ามืดเล็กน้อยเพราะลุกนั่งเร็วเกินไป รอให้สายตาปรับโฟกัสเสร็จก็เห็นไมเคิลเยื้องย่างเข้ามาหาแล้ว

   “รู้สึกยังไงบ้าง?” ไมเคิลเปิดปากถามก่อน

   “ดี...ดีมากๆเลยครับ ไม่เคยรู้สึกดีขนาดนี้มาก่อน” ผมยิ้มตอบ “แต่คุณ...ยังไม่เสร็จเลย ให้ผมช่วยนะ” ผมเอื้อมมือออกไปหมายจะคว้าลำแท่งที่ยังไม่อ่อนตัวลง

   “ได้สิ เธอได้ช่วยฉันแน่นอน”

   ไมเคิลผลักผมล้มลงอีกครั้ง ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ พลันได้เห็นเขาเทของเหลวใสจากขวดที่เพิ่งไปหยิบมาลงบนฝ่ามือเป็นจำนวนมาก

   ชิบ-หาย-แล้ว

   หายนะกำลังคืบคลานใกล้เข้ามา ผมรีบหาทางเอาตัวรอด เพราะถ้าไม่ทันได้โดนไส้กรอกยักษ์เล่นงานแน่ๆ

   “เอ่อ...วันอื่นได้ไหมครับ วันนี้ผมเหนื่อยม๊ากกก เดี๋ยวผมช่วยใช้ปากให้นะ”

   “ไม่ ต้องเป็นวันนี้และเดี๋ยวนี้ ถ้าเธอเหนื่อยก็อยู่เฉยๆ ฉันจัดการเอง...ส่วนปากเธอเก็บไว้ครางเถอะ หรือถ้าอยากโชว์ความสามารถไว้ครั้งหน้าก็ยังไม่สาย” ไมเคิลกล่าวเสียงเรียบ แววตาไม่มีการล้อเล่น

   คนตรงหน้านี่มันใคร...เอาคุณไมเคิลแสนดีมีความสุภาพกลับคืนม๊าาาาาาา

   นี่มันซาตานในคราบเทพบุตรชัดๆ ไหนตอนแรกบอกจะไม่ฝืนใจไง ฮรืออออออ

   ไมเคิลคงกลัวผมต่อรอง เขาเลยจัดการปิดปากผมด้วยปากของเขาเอง ฝ่ามือขยำเคล้นคลึงปลุกอารมณ์ผมขึ้นมาอีกครั้ง คิดเหรอว่าผมที่เพิ่งเสร็จไปหมาดๆจะมีอารมณ์ร่วม...

   ครับ มิคจูเนียร์ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว

   เกลียดร่างกายตัวเองจริงๆ แค่จูบก็ระทวยแล้ว ไหนจะยังมีฝ่ามือช่ำชองนั่นอีก...

   ไมเคิลใช้จังหวะที่ผมกำลังเผลอเพราะเขาขยำแก้มก้นนุ่มของผมเล่นอย่างมันส์มือ นำปลายนิ้วชุ่มฉ่ำเพราะเจลหล่อลื่นมาวนเวียนอยู่แถวรอยจีบด้านหลัง บั้นท้ายผมมีหมอนรองช่วยให้ช่องทางเผยกว้างและดันสูง องศาเหมาะกับการทำอะไรต่อมิอะไร

   ผมพยายามหุบขา แต่มือหนาที่เหมือนคีบเหล็กนั่นไม่ยอมง่ายๆ ช้อนข้อพับตั้งชันให้กางออก ช่วงกายแกร่งสอดมาอยู่ตรงกลาง คราวนี้ถึงผมจะหุบขาก็คงทำไม่ได้แล้ว

   “Color is very nice. (สีสวยนะ)”

   สีอะไรสวย?!

   โอ๊ยยยยยย อย่าพูดจาล่อแหลมได้ไหม หัวใจจะวายเอา

   มือหนึ่งกอบกุมแก่นกายรังแกผม อีกมือก็ใช้นิ้วสำรวจรอบปากถ้ำ จนเมื่อเขาเห็นว่าผมน่าจะโอเคแล้วจึงค่อยๆสอดนิ้วชี้เข้าไป

   “โอ๊ยยยย”

   “ผ่อนคลาย มิคกี้”

   มันอึดอัด แต่ไม่ได้เจ็บ แค่รู้สึกคับแน่น   ไมเคิลค่อยๆขยับนิ้วเข้าออกให้ผมได้ปรับตัว

   ผมผ่อนลมหายใจ พยายามไม่เกร็งตัว ดีที่เขาใช้เจลหล่อลื่นเยอะนิ้วที่สองเลยตามเข้ามาอย่างง่ายดาย คราวนี้ช่องทางผมคับแน่นมากกว่าเดิม ไมเคิลงอข้อนิ้วด้านในจงใจควานหาตำแหน่งที่จะทำให้ผู้ชายมีความรื่นรมณ์ได้ไม่แพ้ผู้หญิง

   “อ๊ะ”

   ผมสะดุ้ง เมื่อปลายนิ้วกับเจลเย็นๆสัมผัสไปโดน เขาเน้นย้ำที่จุดนั้น ผมร้องครางลืมความละอาย นิ้วเรียวยาวทั้งสองเคล้นคลึงหมุนควงเพื่อให้ช่องทางขยายเตรียมพร้อมรับสิ่งที่ดุดันกว่านี้

   นิ้วที่สามสอดแทรกเข้ามาอย่างยากลำบาก แต่ผมยังทนไหว เพราะถ้าแค่สามนิ้วยังไม่ไหวก็อย่าหวังเลยว่าจะรับตัวตนของเขาได้

   “เด็กดี...เธอเก่งมาก” ไมเคิลโน้มตัวลงมากระซิบเสียงแหบพร่า ผมปรือตามองใบหน้าคมคายชื้นเหงื่อ มือลูบปลายคางสาก ผมรับจูบที่ไมเคิลป้อนให้อย่างเต็มใจ

   ทันใดนั้นไมเคิลก็ถอดนิ้วออกไปทั้งหมด ผมรู้สึกโล่งหวิว แต่แล้วความเป็นชายอันใหญ่โตของเขาก็มาแทนที่โดยการจรดอยู่ที่ปากทางเข้า ไมเคิลไม่ได้ดึงดันเข้ามาทีเดียว เขาส่ายเอวให้ปลายหัวหยักหยอกเย้ากับรูจีบราวกับว่าอยากให้ทำความคุ้นเคยกันก่อน

   “อย่ากลัว...ถ้าเจ็บก็กัดฉันได้” ไมเคิลหอมแก้ม หอมหน้าผาก งับจมูก ใช้สายตามองผม ดวงตาคู่นั้นมีภาพผมสะท้อนเพียงผู้เดียว

   ท่อนลำที่ชโลมไปด้วยเจลหล่อลื่นดุนดันอยู่แบบนั้น สร้างความตื่นเต้นให้กับผม มีหลายครั้งที่เหมือนกับว่าปลายแก่นกายจะผลุบเข้ามาได้ แต่ก็แฉลบเสยขึ้นแทน

   “อาาาาาาา”

   ยิ่งเขาทำแบบนี้มันยิ่งทำให้กายผมเร่าร้อน จากตอนแรกที่กล้าๆกลัวๆเพราะขนาดของเขา แต่บัดนี้ผมกำลังส่ายสะโพกยั่วเย้าให้เขาเติมเต็มผมเร็วๆ

   “I want you inside me. (ผมอยากให้คุณเข้ามาอยู่ในกายผม)” ผมมองเข้าไปในนัยน์ตาคนตรงหน้า อยากให้เขารับรู้ว่าผมพร้อมที่จะเป็นของเขา

   ไมเคิลตวัดปลายหัวหยักไปมาอยู่สองสามทีก่อนจะดันมันผ่านรอยจีบ

   “โอ๊ยยยยยยยย”

   เจ็บ เจ็บมาก เหมือนร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

   “ชู่ววว...ชู่วว...เด็กดี” ไมเคิลกอดผม ปลอบประโลมผม แก่นกายเขาผ่านเข้ามาในช่องทางแล้ว ทว่าเข้ามาได้แค่ส่วนปลายเท่านั้น “ผ่อนคลาย อย่าเกร็งนะ” ผมพยักหน้ารับรู้ น้ำตาซึมที่หางตา ไมเคิลจูบซับ

   ผ่อนคลาย...ผ่อนคลาย...อย่าเกร็ง...คนที่กำลังครอบครองผมตอนนี้คือไมเคิล...เขาคือคนที่ผมชอบตั้งแต่ได้เห็นหน้าครั้งแรก ถึงกับเก็บเอาไปฝันไม่ใช่เหรอ....

   ไมเคิลรับรู้ได้ว่าร่างกายผมคลายการต่อต้าน เขาขยับแก่นกายสอดลึกทีละนิดๆ จนในที่สุดผมก็รับตัวตนเขาไว้ได้ทั้งหมด

   “เก่งมากมิคกี้...”

   ผมพูดอะไรไม่ออก ไม่อยากเชื่อว่าตอนนี้ผมกับเขาเราเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว เหมือนฝันเลย...

   จากความเจ็บด้านหลังทำให้ตอนนี้ผมหมดความต้องการ น้องชายผมอ่อนตัวลง ผิดกับท่อนเนื้อด้านหลังที่คับแน่นจนผมอัดอึด รู้สึกได้ถึงลำกายเต้นตุบๆ ความสัมผัสของเนื้อแนบเนื้อโดยไม่มีอะไรขวางกั้น

   ผมนึกไปถึงสัญญาฉบับนั้นที่ผมเพิ่งเซ็นลงไป ไมเคิลแนบผลตรวจเลือดเมื่อเดือนี่แล้วมาให้ ทั้งหมดเป็นเนกาทีฟ ซึ่งหมายความว่าตัวเขาไม่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ใดๆ ส่วนผมก่อนจะยื่นวีซ่าและมาเป็นออแพร์ได้ต้องตรวจสุขภาพทุกขั้นตอน เอ็กซเรย์ปอด ตรวจของเสีย ฉีดวัคซีนตามที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์กำหนด และแน่นอนว่าตรวจเลือดด้วย ผลออกมาเป็นลบทั้งหมดเช่นกัน

   เพราะผมรู้แบบนี้ถึงได้ยอมให้เขาสอดใส่ไร้ถุงยาง ไมเคิลเองก็รู้ เราคุยกันถึงเรื่องนี้ตอนที่ดูหนังอยู่ในห้องนั่งเล่น

   ไมเคิลเริ่มปลุกเร้าอารมณ์ผมอีกครั้งเมื่อเห็นว่าผมเหม่อลอย เขากระตุ้นได้ถูกจุดราวกับว่ารู้จักร่างกายของผมดี ไม่ว่าจะซอกคอ แอ่งหู ยอดอก เขาใช้ลิ้นเล้าโลมจนผมตื่นผงาดขึ้นมาอีกครั้ง

   คราวนี้เขาค่อยๆขยับแก่นกายที่ฝังลงในช่องทางด้านหลัง ถอนออกจนเกือบหลุด ก่อนจะกระแทกทั้นเข้ามาจนสุด จากช้าๆแปรเปลี่ยนเป็นเร็ว อารมณ์ของผมกับเขาพุ่งขึ้นสูง ทั้งห้องมีแต่เสียงครางกระเส่าของเราสองคน

   แม้จะยังเจ็บๆตึงๆอยู่บ้างแต่ตอนนี้ผมมีอารมณ์ร่วมแล้ว ความเจ็บปวดเหล่านั้นจึงบรรเทาลง

   ถ้าเป็นคนอื่น...คงไม่สนใจความรู้สึกผมแบบนี้ แต่นี่คือไมเคิล เขาไม่ฝืนผม เขามีวิธีที่ทำให้ผมยอมเขาโดยจำนน เขาใจเย็นและอดทนรอ

   เสียงผิวกระทบหนั่นเนื้อบวกกับความชื้นแฉะของช่องทางฟังดูหยาบโลน ไมเคิลกระแทกแก่นกายเข้ามาจนตัวผมและเตียงสั่นคลอน ยามนี้เขาดูดุร้ายและบ้าคลั่ง ไม่ยอมจากไปง่ายๆแน่หากยังไม่ได้กินผมจนเต็มอิ่ม

   “เธอแน่นและตอบรับฉันดีมากมิคกี้...” ไมเคิลพูดเสียงสั่น เพราะช่วงล่างขยับไม่ยอมหยุด ผมลืมตามองจุดที่เราประสานกัน แท่งร้อนกระแทกกระทั้นราวกับเครื่องจักร

   ผมเลื่อนไปมือสอดเกี่ยวนิ้วต่อนิ้ว สายตาเลื่อนมามองคนที่คร่อมผมไว้อีกครั้ง พบว่าดวงตาน้ำทะเลจ้องตอบกลับมาเช่นกัน เราทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไร มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการมีเซ็กส์ การได้มองคนที่เรากำลังร่วมรัก...

   ร่วมรักงั้นเหรอ...

   ไม่รู้ว่าเขาจะคิดยังไง แต่สำหรับตอนนี้ขอซึมซับมันไว้ให้ได้มากที่สุด

   “ใจลอยไปถึงไหน..ขนาดกำลังทำเรื่องอย่างว่าอยู่ยังคิดเรื่องอื่นได้อีกเหรอ” เขาเรียกสติผมกลับมา

   ลำกายใหญ่โตจงใจบดเบียดกับผนังด้านในไปโดนจุดที่ทำให้ผมผวาเฮือก ไมเคิลเน้นย้ำที่ตำแหน่งนั้น เพียงไม่กี่ที หัวใจผมเต้นโครมคราม ความเสียวซ่านแผ่ไปทั่วสรรพางค์กาย หัวสมองขาวโพลน ร่างกระตุกเกร็งอีกครั้ง

   “อึก อ๊าาาาาา”

   ของเหลวขาวขุ่นเปรอะเปื้อนเต็มหน้าท้อง ลามไปถึงกล้ามแน่นของไมเคิลด้วย ผมหอบหายใจรัว ร่างกายยังสั่นคลอนเพราะไมเคิลก็เร่งเครื่องมากติดๆ

   เขาสวนกายเข้ามาอย่างแรงเป็นครั้งสุดท้าย ครางต่ำยาว ร่างกายกระตุกพร้อมกับปลดปล่อยของเหลวเข้ามาในกายผม ผมรู้สึกได้ถึงความเหนียวแฉะในช่องทาง ไมเคิลปิดเปลือกตา ล้มตัวนอนทับผมอย่างอ่อนแรง

   ไมเคิลยังไม่ถอนแก่นกายออก เขาคามันไว้อย่างนั้น เราสองคนนอนกอดกันเงียบไปเนิ่นนาน ผมสัมผัสได้ว่าหัวใจเขาเต้นแรงอยู่เหนืออกผม ก่อนมันจะค่อยๆแผ่วเบาลงกลับมาเป็นจังหวะปกติ

   “ไมเคิล...เอ่อ...ลุกหน่อยได้ไหมครับ ผมจะไปล้างตัว” อันที่จริงก็อยากหลับไปเลย แต่เหนี่ยวขนาดนี้ ทั้งเหงื่อทั้ง... คงไม่ไหว

   “ได้ เดี๋ยวฉันพาไป”

   “ไม่เป็นไรครับ ผมไปเองได้”

   “แน่ใจเหรอว่าจะลุกไหว?”

   “เอ่อ...ครับ คิดว่านะ...” ผมพูดพลางขยับบั้นท้ายให้ออกห่าง แต่ติดปัญหาที่ว่า...ช่องทางของผมยังเชื่อมกับแก่นกายของเขาอยู่

   “ถ้าฉันเอาออกตอนนี้มันจะไหลเปื้อนเตียง เดี๋ยวฉันอุ้มเธอไปที่ห้องน้ำเอง”

   ไมเคิลไม่รอให้ผมตอบรับอะไร เขาสอดมือรองรับบั้นท้ายกลมของผมแล้วยืดตัวขึ้นทันทีโดยที่ช่องทางยังสอดประสาน

   “เฮ้ย!” ดีนะหลุดเสียงแมน ไม่ได้วี๊ดว้าย ก็ใครใช้ให้เขาอุ้มผมแบบนี้ล่ะ?

   “เอาขาเกี่ยวฉันไว้”

   “ตะ แต่...”

   นี่มันท่าลิงอุ้มแตงไม่ใช่เรอะ!?

   แล้วทำไมผมถึงรู้สึกได้ว่าไส้กรอกยักษ์กำลังขยายตัวอีกแล้วล่ะ...

   “ฉันชอบท่านี้นะ เธอชอบไหม” ไมเคิลใช้น้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าเจ้าเล่ห์ขนาดไหน

   ยังมีหน้ามาถามอีก...คิดว่าโดนรอบแรกไปคงหมดแรงแล้วสินะ...

   “ท่าโปรดผมเลยล่ะครับ” ผมตอบยิ้มแฉ่ง

   ขอบคุณกล้ามแขนอันทรงพลังของเขาที่ทำให้เราทำกิจกรรมเข้าจังหวะในห้องน้ำได้อีกรอบ...

   ผมไม่เสียใจเลยที่ได้มีเซ็กส์กับเขา ผมมองคนไม่ผิดจริงๆ ภายนอกไมเคิลดูสุภาพ ใจดี เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ทว่าความจริงแล้วยังมีอีกด้านที่ไม่สามารถเปิดเผยกับคนอื่นได้ รสนิยมทางเพศนี่ตัดสินด้วยหน้าตาไม่ได้จริงๆ

   ผมชักจะตื่นเต้น อดทนรอที่จะได้เพลย์กับเขาไม่ไหวแล้วสิ...









TBC



คุณไมเคิลขาาาาาาาาาาาาาา
 :pighaun:

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: As he pleases ❣️[BDSM] UP! Chapter IX 100% [Oct, 08]
«ตอบ #58 เมื่อ08-10-2019 17:05:35 »

กริสสสสส ฟินมั่กก

ออฟไลน์ night-nnc

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: As he pleases ❣️[BDSM] UP! Chapter IX 100% [Oct, 08]
«ตอบ #59 เมื่อ08-10-2019 19:52:02 »

 :pighaun: :pighaun: :pighaun:
คุณพระ ดีงาม

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด