ตอนที่ 45 เขาเป็นใคร? สองพี่น้องต่างมองผู้มาใหม่ที่ยืน เกๆกังๆ เหมือนรู้ว่าตนเองเขามาไม่ถูกจังหวะหรือเปล่า ก็เลยยกมือไหว้คนที่คิดว่าเป็นเจ้าของร้านทันที่ ก่อนที่จะโดนว่า มาหางานทำและยังมาสายขนาดนี้ เพราะตอนนี้ บ่ายแก่ๆแล้ว ทั้งที่รู้ว่าติดประกาศรับสมัครมาหลายวันแล้ว แต่ก็พึ่งมาเอาวันนี้ เลยไม่แน่ใจว่า ทางร้านรับลูกจ้างไปหรือยัง
"สวัสดีครับ คือผมจะมาสมัครงาน ไม่รู้ว่ายังรับคนอยู่หรือเปล่าครับ" ยกมือไหว้และแนะนำตัวว่ามาทำอะไร
"นั่งก่อนสิ" นพคุณดูหน่วยก้านแล้วน่าจะทำงานงานหนักได้ เลยเรียกให้นั่งคุยกันดีๆ
"ขอบคุณครับ" ยกมือไหว้อีกครั้ง ก่อนนั่งลงที่เก้าอี้ใกล้ๆ
"ทำไมเอาป่านนี้ล่ะ เย็นมาแล้วนะ คิดว่าจะได้งานเหรอ"นพคุณถามเพื่อรองเชิง
"ขอโทษครับ พอดีผมช่วยงานน้าในสวนพึ่งเสร็จ จริงแล้วอยากจะมาแต่เช้าครับ แต่งานไม่เสร็จผมก็ออกมาไม่ได้ครับ"
"อ้าว ก็มีงานทำแล้วนี้ จะมาหางานทำ ทำไมอีก"
"เออ คือผมขออาศัยญาติอยู่นะครับ เลยต้องช่วยงานเพื่อแลกกับที่พัก แล้วพอเขารู้ว่าผมจะไปสมัครงาน หางานทำก็เลยให้ช่วยทำงานเป็นวันสุดท้ายนะครับ"
"อ้อ นี้นายจะบอกว่า ถ้าไม่ได้งานที่นี้แล้ว ก็จะไม่มีงานทำไม่มีที่ไปว่างั้นใช่มั้ย" นพคุณหรี่ตามองเหมือนสังเกตอาการเวลาพูดของเด็กหนุ่มตรงหน้า ดูแล้วไม่มีพิษมีภัย แต่ก็ต้องพูดดักเอาไว้ก่อน
"พี่ใหญ่" ชินพัตน์เรียกชื่อพี่ชายเหมือนปราม เพราะดูเหมือนพี่ชายจะพูดเหมือนไม่ใสใจคนตรงหน้าสักเท่าไร
"เออ คือผมถ้าไม่ได้งานที่นี้ ก็คงต้องหางานทำที่อื่นนะครับ รบกวนญาติคนนี้มานานแล้ว ผมก็เลยเกรงใจเขานะครับ"
"แล้วครอบครัวของนายล่ะ"
"พ่อแม่ผมเสียตั้งแต่ผมอายุ 17 แล้วครับ อยู่กับญาติคนโน่นที่ คนนั้นที่ ผมเลยคิดว่าน่าจะหางานทำเป็นหลักแหล่งได้แล้วนะครับ ไม่อยากไปรบกวนพวกเขาอีกแล้ว"
"แล้วตอนนี้นายอายุเท่าไร"
"20 ย่าง 21 ครับ"
"แล้วเรียนจบอะไรมา"
"ม.6 ครับ "
"เคยทำงานอะไรมาก่อน ก่อนหน้าที่จะมาอยู่กับญาติที่นี้"
"ผมก็รับจ้างทั่วไปนะครับ ล้างจานในร้านอาหาร เด็กปั้ม ขนผักในตลาด แล้วก็ล้าสุดที่บ้านญาติช่วยดูแลสวนครับ" เด็กหนุ่มเล่าทุกอย่าง อย่างละเอียด กับงานที่ตนเองทำมาตั้งแต่พ่อแม่เสียก็ทำงานหาเลี้ยงตนเองมาตลอด
"อืม อืม มีวุฒิการศึกษา ทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชนมาหรือเปล่าล่ะ" นพคุณอยู่ก็เรียกหาเอกสารประจำตัวของเด็กหนุ่มขึ้นมา ชินพัตน์ก็ยังงงกับพี่ชายตนเองเหมือนกัน
"ครับ ๆ ผมเตรียมมาแล้ว แต่ทะเบียนบ้านผมอยู่อีกจังหวัดหนึ่งนะครับ ผมไม่ใช่คนที่นี้"
"อืม ไหนเอามาดูสิ" นพคุณขอดูเอกสาร
"นี้ครับ"เด็กหนุ่มดึงออกจากถุงกระดาษ ส่งให้นพคุณดู
"นาย กัมพล เอื้อใจ อืม เรียนเก่งนี้ ไม่คิดอยากจะเรียนต่อหรือไง"นพคุณอ่านชื่อที่วุฒิและดูผลการเรียกแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ
"ผมพยายามเรียนให้จบม. ปลาย เพราะไม่อยากเป็นภาระให้กับญาติๆ พอจบผมก็เริ่มหางานทำเลยครับ อยากเรียนต่อเหมือนกันครับแต่เรื่องเงินไม่อำนวยครับ"ยิ้มแห้งปนเศร้าๆ
"อืม งั้นพรุ่งนี้ก็มาเริ่มงานเลยแล้วกัน นี้น้องชายฉัน ชื่อ ชินพัตน์ ส่วนฉันชื่อ นพคุณ เรียกใหญ่ก็ได้ "
"เอ๊ะ เออ ขอบคุณครับ รับผมเข้าทำงานแล้วใช่ไหมครับ "เด็กหนุ่มดีใจรีบยกมือไหว้ขอบคุณ ไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองจะได้งาน
"อืม ตั้งใจทำงานแล้วกัน" นพคุณบอกย้ำ
"ครับ ๆ ผมจะตั้งใจทำงานครับ ขอบคุณครับ เออ คุณ คุณใหญ่ แล้วก็ คุณ เออ คุณ???"
"เรียกพี่ว่า พี่ชินก็ได้ ฮ่าๆๆๆ" ชินพัตน์เห็นเด็กหนุ่มดีใจที่ได้งาน ก็ตื่นเต้นดีใจตามไปด้วย เหมือนได้ช่วยเหลือเด็กหนุ่มที่ไม่มีที่ไป ได้มีโอกาสได้ที่ทำงาน
"ครับๆ พี่ชิน เรียกผมว่าพล ก็ได้ครับ"กัมพลรีบบอกชื่อเรียกที่ดูเป็นกันเองกับเจ้าของร้านที่ดูใจดี กว่าคนที่คุยกับเขา
"นี้ เรียกฉันว่าใหญ่ ไม่ต้องมีคุณมีเคินอะไรด้วย"นพคุณไม่ชอบเวลาที่โดนเรียกแบบนั้น
"เออ ได้ครับ พี่ใหญ่ ขอบคุณมากครับ พรุ่งนี้ผมจะมาแต่เช้าเลยครับ"กัมพลรีบเรียกตามที่คนต้องหน้าร้องขอ
"อืม มาเช้าๆนะ เพราะพี่เปิดร้าน 8 โมง มาช่วยยกของเตรียมของก่อนเปิดร้าน" ชินพัตน์อธิบายคราวๆว่ากัมพลต้องมาชวนทำอะไรบ้าง
"ได้ครับ ได้ครับ ผมจะรีบมา " กัมพลดูตื่นเต้นกับงานใหม่
"งั้นก็กลับไปก่อนไป" นพคุณรีบบอกให้เด็กหนุ่มกลับบ้านไปก่อน
"เออ คือ ผมกลับไปก็ไม่มีอะไรทำ ผมขออยู่ช่วยงานที่นี้เลยได้ไหมครับ" ชินพัตน์หันไปมองหน้าพี่ชายเหมือนจะขอความเห็น นพคุณก็มองทั้งน้องชายและเด็กหนุ่มตรงหน้าสลับไปมา คิดได้ว่ามาช่วยเร็วขึ้น จะได้รู้งานเร็ว ก็ไม่มีปัญหา
"พี่แล้วแต่นายนะ" นพคุณหันไปบอกน้องชาย เพราะตนเองจัดการเรื่องคนให้แล้ว ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของชินพัตน์แล้ว
"อืม งั้นก็ช่วยป้าพร ยกของล้างของ เช็ดโต๊ะไปก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะแบ่งงานให้แล้วกัน" ชินพัตน์รีบหางานเล็กน้อยให้กัมพลช่วยทำไปก่อน
"ได้ครับ "กัมพลพยักหน้ายิ้มรับ เพราะอยากทำงานได็เป็นเร็วๆ
"ป้าพรครับ เด็กใหม่ให้มาช่วยยกของ เก็บร้าน บอกเด็กคนนี้ได้เลยนะครับ" ชินพัตน์เดินนำกัมพลไปแนะนำให้ป้าพรได้รู้จักและค่อยให้ช่วยงาน
"สวัสดีครับผมชื่อพลครับ " กัมพลยกมือไหว้ป้า
"จ้าๆมาช่วยกันอีกแรง "
ป้าพรก็ให้กัมพลงานงาน ยกถังแก็สมาเปลี่ยน ยกถุงผักไปล้าง ล้างจาน ในช่วงบ่ายแก่ๆ วันนั้นก็ได้ทำงานเล็กน้อยๆที่พอจะช่วยได้ งานใช้แรงที่เด็กๆผู้หญิงในร้าน ทำได้แต่ไม่ค่อยสะดวก พอมีกัมพลมาช่วยก็ทำให้งานในร้าน เสร็จเร็วขึ้น จนเลยมาถึงเวลาเก็บร้าน ก็เสร็จเรียบร้อย อย่างรวดเร็ว เพราะมีน้องใหม่อย่างกัมพลช่วยได้เยอะ มีเวลาพักผ่อนเร็วขึ้น ทั้งป้าและเด็กสาวในร้าน ต่างพากันดีใจ ที่มีคนมาช่วยงาน
"ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ"
"บ้านอยู่แถวไหนเหรอ"ป้าถามขึ้นอย่างสงสัย
"เดินไปทางหลังวัดครับ พักอยู่กับญาติครับ"
"เดินมาเหรอพล" ชินพัตน์ที่นั่งคิดยอดรายได้อยู่ที่โต๊ะได้ยินก็ถามอย่างสงสัยเช่นเดียวกัน
"ครับ ผมเดินมาจากสวนของญาติครับ"
"มันไกลมากไหม" ชินพัตน์ถามเพราะยังไม่คุ้นพื้นที่แถวนี้ เพราะรู้จักแค่ที่ตลาด วัด และบ้านสวนของยายเท่านั้น
"ผมเดินประจำครับ เลยไม่รู้จะบอกยังไงว่าไกลหรือเปล่า"กัมพลทำท่านึก
"แล้วไม่มีรถมอเตอร์ไซค์เหรอ"ป้าพรถามอย่างเป็นห่วง
"ของญาติมีครับ แต่ผมเกรงใจ เลยขอเดินมาดีกว่าครับ" กัมพลตอบด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
"อืม"ชินพัตน์คิดถึงความอยากลำบากของ คนงานคนใหม่แล้ว ไม่รู้จะเริ่มต้นช่วยตรงไหนก่อนดี
"ไม่เป็นไรครับ ผมได้งานแล้ว เก็บเงินสักพักก็มาหาเช่าบ้านแถวนี้เอา จะได้ไม่รบกวนญาติด้วย แล้วก็จะได้มาทำงานเร็วขึ้นด้วยครับ"
ชินพัตน์มองเด็กหนุ่มตรงหน้า คงจะตั้งใจแบบนั้นไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะเด็กหนุ่มดูเหมือนจะเป็นคนขี้เกรงใจ แต่ก็ตั้งใจทำงาน ถึงแม้จะเห็นแค่ช่วงสั้นๆ แต่ก็พอจะดูออกว่าเป็นคนตั้งใจจริง พอได้งานก็คงอยากจะมีที่อยู่เป็นของตนเองสินะ แต่ยังไงก็คงต้องดูไปก่อนซักพัก ก่อนที่จะตัดสินใจช่วยเหลืออะไรไป ขอดูการทำงานอีกสักหน่อย มั่นใจว่าตั้งใจทำงาน เอาการเอางาน เขาจะไม่เกียงงอนที่จะช่วยเหลือเด็กหนุ่มเลย
"งั้นก็กลับบ้านดีๆล่ะ พรุ่งนี้เจอกัน"ชินพัตน์พูดบอกเด็กหนุ่ม
"ครับ พรุ่งนี้ผมจะรีบมาแต่เช้าครับ" กัมพลยกยิ้มอย่างภูมิใจกับงานใหม่ของตนเอง และเดินกลับบ้านอย่างอารมณ์ดี เพราะดูแล้วงานไม่ยาก เจ้านายก็ดูแล้วท่าทางใจดีด้วย พวกป้าและเพื่อนร่วมงานคนอื่นก็ใจดีกับเขา งานที่นี้ดูแล้วยังสบายกว่างงานที่ทำในสวนซะอีก
กัมพลเริ่มมาชวยทำงานที่ร้านผ่านไป 1 สัปดาห์แล้ว เข้ากับเพื่อนๆและป้าพรได้ดี ช่วยผ่อนเบางานที่ใช้แรง ได้หลายอย่าง ขนของที่ซื้อเข้าร้าน ยกของหนักๆ แทนเด็กสาวในร้าน เงินเดือนก็ไม่ได้เยอะแยะอะไรมาก เพราะนพคุณกำชับ ชินพัตน์ไว้ว่าเดือนแรกให้แค่ 5000 บาทถ้าทำงานดีก็ค่อยให้เท่ากับเด็กคนอื่นๆ 6000 บาท แต่สำหรับกัมพลแล้ว พอรู้ว่าตนเองจะได้เงินเดือนถึง 5000 ก็ดีใจจนเหมือนคนที่ได้เงินแสน กัมพลบอกกับชินพัตน์ว่าตนเองไม่เคยได้เงินเป็นก้อนเลย รับจ้างทำงานเป็นวันตลอด วันละ 50 บาท วันละ 100 ก็ยังมี งานที่ทำก่อนหน้านี้หนักกว่านี้เยอะกว่าจะได้เงินมา กัมพลดีใจจนต้องยกมือขึ้นไหว้ ชินพัตน์หลายครั้งที่ รับตนเองเข้ามาทำงานที่ร้าน
"อืม ดีแล้ว ได้งานก็ตั้งใจทำงานนะ" ชินพัตน์พูดทิ้งท้ายก่อนที่จะให้เด็กหนุ่มกลับไปช่วยทำงานหลังร้านต่อ
ร้านใหม่ของชินพัตน์ ขายดีมากเพราะความอร่อยของลูกชิ้น ทำให้ลูกค้าพูดปากต่อปาก ทำให้มีลูกค้าใหม่เข้ามาที่ร้านเยอะ พอดีกับมีเด็กใหม่มาช่วยงานที่ร้านรับมือกับลูกค้า จำนวนมากในแต่ละวันได้อย่างสบาย รายได้ที่ร้านก็เพิ่มขึ้น ยอดสั่งลูกชิ้นก็เยอะขึ้นด้วย ปกติ 1 อาทิตย์จะสั่งลูกชิ้น จากที่โรงงานมาส่ง 1 ครั้ง แต่พอเข้าเดือนที่ 2 ไม่พอ ต้องสั่งลูกชิ้นมาเพิ่ม ตามความต้องการของลูกค้าที่เข้ามามากขึ้น ทั้งพ่อและแม่ก็ต่างดีใจและเป็นห่วง กลัวชินพัตน์จะรับมือไม่ไหว ส่งนพคุณคอย มาดูบางเป็นบางเป็นบางครั้ง
"พี่ใหญ่ มาส่งเองเลยเหรอวันนี้" นพคุณเข้ามาจากทางหลังร้าน เพราะเอาลูกชิ้นที่ชินพัตน์สั่งรอบที่สองของสัปดาห์มาส่งให้เอง
"ใช่ ก็ร้านนายทำยอด ได้เยอะกว่าร้านพี่อีกพี่ก็เลยต้องมาดู" นพคุณแกล้งพูดน้ำเสียงจริงจังเพื่อจะแกล้งน้องชาย
"ยอดเยอะอะไรกันพี่ ก็ร้านเปิดใหม่ลูกค้าก็เห่อแค่ช่วงแรกๆละครับ ต้องดูหลังจากนี้ สัก 2-3 เดือน ว่ายอดยังคงที่แบบนี้อยู่หรือเปล่า" ชินพัตน์รีบพูด ให้พี่ชายสบายใจว่าร้านตนเองไม่ได้ยอดสั่งลูกชิ้นเยอะเสมอไปหรอก
"ฮ่าๆๆ ล้อเล่น ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้ ขายได้ก็ดีแล้ว ร้านพี่มีลูกค้าประจำเยอะ ไม่ต้องห่วงรอกน่า ฮ่าๆๆ" นพคุณก็หลุดขำเมื่อเห็นน้องชายทำหน้าเหมือนรู้สึกผิดที่ทำให้พี่ชายตนเองคิดแบบนั้น
"โธ่พี่ แกล้งผมเหรอ"
"เออ โทษที่ วันนี้ลูกค้าเยอะเหมือนเดิมเลยนะ"
"ครับ ลูกค้าหน้าใหม่ๆเข้ามาเยอะเลยครับ"
"อืม เมื่อกี่เห็นเด็กใหม่ ยกของอยู่หลังร้าน พี่เลยบอกให้ยกลูกชิ้นลงมาแล้วนะ"
"ครับ เดี๋ยวผมขอเดินไปดูพลหน่อย" ชินพัตน์เดินไปดูลูกน้องที่พอจะเริ่มชินกับงานแล้ว เพราะเขาและป้าพร แถบจะไม่ต้องเอยปากสั่ง เด็กหนุ่มก็ทำหน้าที่ของตนเองได้ดี และช่วยเหลือส่วนของคนอื่นอีกด้วย ที่ร้านเลยทำอะไรๆได้เร็ว ลูกค้าก็ชมว่าสั่งแล้วก็ทานเร็ว ไม่รอนานเหมือนที่อื่น แถมลูกชิ้นในแต่ละเมนูก็อร่อยถูกใจ
"ยกลูกชิ้นเสร็จแล้วก็ไปพักมั้งเถอะพล พี่เห็นเราทำโน่นทำนี่ไม่หยุดเลย"
"ไม่เป็นไรครับ ผมไม่อยากนั่งพัก กลัวรากงอกอ่ะครับ ฮ่าๆๆ" กัมพลพูดติดตลกกับชินพัตน์ นพคุณก็ยืนฟังอยู่ด้วย มือก็ยังไม่หยุดยกถุงลูกชิ้นลงจากรถ กัมพลทำงานไวมาก นพคุณยังทึ้งเพราะเขาเองเดินจากหลังร้านไปคุยกับน้องชายแค่แปบเดี๋ยว กลับมาอีกที่ เด็กหนุ่ม ยกลงจากรถไปเกือบครึ่งแล้ว
"งั้นก็ตามใจ แต่อย่าโหมงานเกิน เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ" ชินพัตน์ยิ้มเอ็นดู กับความตั้งใจของเด็กใหม่
"ครับ" กัมพลเงยหน้าขึ้นมาตอบ แล้วก้มหน้าก้มตายกของต่อไป
"เด็กนั้น ทำงานเป็นยังไงมั้ง"
"ตั้งใจทำงานดีครับ ช่วยงานในร้านได้เยอะเลย"
"อืม แต่ก็ดูๆไปก่อนนะ อย่าพึงไว้ใจมาก"
"ครับ ทำมาจะเกือบเดือนแล้ว ผมก็ไม่เห็นพลจะดูทำตัวไม่ดีนะครับ"
"เถอะน่า ดูๆไว้ก่อน ไม่แน่อาจจะออกลายทีหลัง"
"โธ่พี่ใหญ่ คิดมากไปหรือเปล่าครับ ผมว่าพลก็ตั้งใจทำงานนะครับ ขนาดให้เงินแค่ 5000 ยังดีใจเหมือนได้เงินเป็นหมื่นๆ"
"นั้นแหละยิ่งต้องจบตาดู เพราะเงินเข้าออกที่ร้านมันเยอะนะ ชิน นายก็อย่าไว้ใจเกินไป"
"ครับๆ ผมจะคอยระวัง แล้ววันนี้พี่จะไปรับต้นกล้าหรือเปล่า"
"เอ๊ะ เออ ไปสิ เฮ้ย บ่าย 2 กว่าแล้วเหรอ งั้นพี่ไปก่อนนะ" นพคุณรีบเด้งตัวเองออกจากโต๊ะเมื่อได้ยินชื่อของคนที่ตั้งใจไปรับกลับบ้าน
"ฮ่าๆๆ ดูก่อนว่ายกของลงจากรถหมดหรือยังนะ ฮ่าๆๆ" ชินพัตน์ตลกท่าที่ของพี่ชายที่ดูร้อนร้นเมื่อพูดถึงต้นกล้า ทั้งๆมีเวลาอีกตั้งนานกว่า ต้นกล้าจะนั่งรถกลับมาถึง บขส.
ช่วงบ่ายมีคนเข้ามาหาที่ร้านของชินพัตน์ หลายคนเข้าคุยว่าอยากจะซื้อลูกชิ้นของชินพัตน์ไปขายเอง เพราะเห็นว่าชินพัตน์ขายดี แต่ก็ยังไม่กล้าลงทุน เมื่อชินพัตน์ว่าต้องเปิดเป็นร้านแบบที่เขาเปิดแบบนี้ แต่ละรายที่เข้ามาก็บอกว่ายังไม่มีทุนบาง อยากขายแค่เล็กๆ ชินพัตน์เลยปฏิเสธที่จะคุยต่อ ในร้านก็ยุ่งเกินพอแล้ว แถมบางคนที่สนใจลูกชิ้นของที่ร้าน แต่อยากที่จะให้ลดราคาให้อีก ชินพัตน์ก็ปฏิเสธเช่นเดิม เพราะเขาคิดว่าลูกชิ้นที่โรงงานของเขามีคุณภาพที่ดี และความอร่อย เหมาะสมกับราคาที่ตั้งไว้แล้ว จะลดลงไปคงเป็นไปไม่ได้ จนมาถึงรายสุดท้ายที่เข้ามาคุยกับชินพัตน์ เขามาชมซะเป็นส่วนใหญ่ว่าร้านทำเลดี ลูกค้าเยอะ ลูกชิ้นอร่อย บริการดี จนสุดท้าย ก็ถามว่า ตึกข้างๆมีใครจ้องหรือยัง ทำไมยังปิดอยู่ คูหาอื่นๆที่ถัดไป เปิดร้านกันไปหมดแล้ว ชินพัตน์ก็ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะตนเองก็ไม่รู้
"อืม ต้องขอโทษนะครับผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ว่ามีใครมาจ้องหรือยัง"
"เหรอค่ะแล้วฉันจะไปติดต่อกับใครได้ล่ะ"
"อืม สักครู่นะครับ เดี๋ยวผมลองหาเบอร์โทรติดต่อให้" ชินพัตน์ก้มลงในชองเก็บเอกสารเพื่อหา คนดูแลเช่าซื้อของที่ตึกนี้
"นี้ครับเบอร์โทร"
"ขอบคุณค่ะ" สาววัยกลางคน รับนามบัตรไปจากมือชินพัตน์ แล้วก็รีบกดโทรทันที
ชินพัตน์ก็ไม่ค่อยอยากจะสนใจเท่าไรแต่ก็ลุกไปจากโต๊ะไม่ได้ เพราะว่าคนที่นั่งโทรศัพท์ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะ ยังไม่ลุกออกไป ชินพัตน์ก็ต้องรอ จนกว่าคนตรงหน้าจะโทรศัพท์เสร็จ
"งั้นผมขอตัวไปดูหน้าร้านก่อนนะครับ พอดีลูกค้าเยอะ" ชินพัตน์ออกปากเมื่อเห็นอีกฝ่ายโทรเสร็จ
"เห็นคนดูแลบอกว่าคนที่จ้องตึกข้างร้านคุณก็รู้จักกับคุณนี้ค่ะ" ชินพัตน์ที่กำลังจะลุกขึ้น เมื่อได้ยินแบบนั้นเลยต้องกลับมานั่งที่เดิมอีกครั้ง
"เอ๊ะ ผมไม่รู้จักใครที่นี้นะครับ เพราะผมพึ่งย้ายมาขายของที่นี้ไม่กี่เดือนเอง และก็ไม่ใช่คนที่นี้ด้วยครับ" ชินพัตน์บอกปัดอย่างไม่เข้าใจ
"เอ๊ะ แต่คนดูแลตึกบอกว่า เขาจ้องไว้พร้อมกับคุณตั้งแต่วันแรกที่เปิดจ้องแล้วนี้ค่ะ"
"เอ๊ะ เออ ผมไม่ทราบจริงๆนะครับ ว่าใครจ้องตึกข้างๆไว้ คุณคงต้องไปติดต่อกันเอาเองนะครับ งานที่ร้านผมก็ยุ่งมากจริง ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ " ชินพัตน์เริ่มงงและสับสัน และเริ่มรำคาญกับสายตาของผู้หญิงวัยกลางคนที่มองเขาเหมือนจับผิด ทั้งๆที่เขาไม่รู้อะไรเลย
"ก็ได้ วันนี้ฉันจะกลับไปก่อน แต่อย่าให้รู้นะว่าจ้องไว้กั๊กคนอื่น ชิ" แล้วผู้หญิงร่างกลมไม่สนใจใครก็เดินออกจากร้านไปแต่ยังทิ้งท้ายไว้แบบนั้น ทำให้ชินพัตน์ยิ่งคิดหนักขึ้นไปอีก
อะไรของเขาว่ะ
"มีอะไรหรือเปล่าพี่ชิน" กัมพลที่สังเกตนายจ้างกับคนที่เขามานั่งคุยได้พักใหญ่ๆแล้ว ว่าทำไมต้องพูดจาแบบนั้นใส่เจ้านายของตนเองด้วย ไม่อยากที่จะแอบฟังหรอก แต่พอเห็นสีหน้าเจ้านายแล้วก็เลยเห็นห่วงขึ้นมา
"อืม ไม่มีอะไรหรอกพล" ชินพัตน์นั่งลงที่โต๊ะเหมือนคนหมดแรง ขายของที่ร้านถึงจะเหนื่อย ก็ยังไม่ล้าและเหนื่อยใจเท่าวันนี้ เจอแต่คนที่หวังผลประโยชน์ทั้งนั้น พอไม่ได้ดังใจตามที่ต้องการก็ต่างพากันไม่พอใจ ชินพัตน์นั่งคิดว่า ตนเองต้องมานั่งรับรู้ และค่อยลองรับอารมณ์คนพวกนี้ด้วยเหรอ มันเกินกว่าสิ่งที่เขาคิดไว้เยอะ ถ้ากับลูกค้าเขาคิดว่าเขารับมือได้อย่างแน่นอน แต่วันนี้มันเกินไปจริงๆ
นี้สินะ ที่เรียกว่าธุรกิจ
พ่อก็คงเจอแบบนี้เหมือนกันใช่ไหมครับ?
แล้วใครกันนะที่จ้องตึกข้างๆ
ที่มาทำให้เขาเดือนร้อนแบบนี้
ลูกชิ้นปิ้งร้อนๆหมูล้วนๆมาแล้วจ้า!!!
มาติดตามกันต่อเลยนะคะว่าเด็กหนุ่มกัมพลมาทำงานที่ร้าน จะทำให้คุณเจ้าของร้านเปลี่ยนไปหรือเปล่า?? อิอิ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนิยายของมินมินนะคะ +เป็ดให้ทุกคอมเม้นนะคะ
ฝากติชมเป็นกำลังใจให้มินมินด้วยนะคะ ขอบคุณคะ
อ่านต่ออีกตอนกันไปเลยนะคะ