ตอนที่ 33 กลับมาเป็นข้ามฟ้า
Rrrrrr เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ในยามสาย
ทำให้ร่างบางภายใต้ผ้าห่มเนื้อนุ่มลืมตาและบิดขี้เกียจเพื่อไล่ความเมื่อยขบ
“สวัสดีฮะ ก็ใช่…พี่ต้องมารับข้าว ก็พากันห้ามไม่ให้ข้าวขับรถนี่
ทำเป็นลืม…ทานข้างนอกก็ได้ฮะ ขอเวลาอาบน้ำแป๊บนึงฮะ”
ข้ามฟ้าวางสาย แล้วลุกขึ้นนั่ง ชูมือออกไปจนสุดแขน แล้วหย่อนปลายเท้า
ลงจากเตียง เตรียมตัวไปอาบน้ำ ช่วงนี้ทั้งพี่ดินและพี่คะน้าไม่ยอมให้เขาขับรถ
เองเลยสักคน กลัวกันไปต่างๆนานาก็บอกแล้วว่าที่ผ่านมาเป็นเรื่องสุดวิสัย
‘แล้วเมื่อไหร่จะได้ขับเจ้าลูกรักล่ะ แย่จัง’
“ข้าว เสร็จหรือยั ง อ้าว! ทำไมแต่งตัวแบบนี้ เข้าไปคุยกับผู้ใหญ่นะจ้ะ
ชุดพื้นเมืองนี้น่ะไม่ใส่นะ”
คะน้าร้องท้วงเมื่อเห็นการแต่งกายของข้ามฟ้า
“พี่คะน้า ข้าวอยากใส่แบบนี้…นะฮะ”
กอหญ้าอ้อนและทำหน้ายู่เมื่อคนพี่ส่ายหน้าไม่ยอมท่าเดียว
“ข้ามฟ้า ไปเปลี่ยนชุด!”
ถ้าลองถูกเรียกชื่อจริงแบบนี้แล้วละก็…ข้ามฟ้าเดินหน้าคว่ำ
ไปที่ตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ เลือกชุดออกมาใหม่อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
“อื้ม…ชุดนั้นแหละ ใส่เชิ้ตกับยีนสีดำนั้นก็ได้ เรากลับมาเป็นข้ามฟ้า
แล้วนะข้าวทิ้งคราบของกอหญ้าไว้ที่ไร่พี่ดินไปก่อน พี่รู้ว่าน้องน่ะคิดถึงที่นั่น
แต่แค่ช่วงนี้เท่านั้นนะทำทุกอย่างให้ดีและจะกลับไปเป็นกอหญ้าพี่ก็จะไม่ห้าม
เชื่อพี่นะ…เด็กดีแค่ช่วงนี้เท่านั้น”
คะน้าพูดจบก็เดินไปลูบหลังน้อง
เธอรู้ว่าเจ้าเด็กเอาแต่ใจกลับมาแล้ว
“ฮะพี่คะน้า ข้าวจะเป็นข้ามฟ้าให้ดีก็แล้วกัน เฮ้อ!”
พูดอย่างจำยอมพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง
คะน้าอมยิ้มแล้วเข้าไปช่วยทาครีมและลงรองพื้นปกปิดรอยแผลเป็น
บนแก้มให้ คะน้าแต่งหน้าให้ข้ามฟ้าเพียงบางๆ ทาลิปสติกสีออกเรื่อๆ
ที่ใกล้เคียงกับสีปากให้ด้วย
“ดีมากเลย ข้าวของพี่หล่อแล้ว ป่ะ…เราไปหาอะไรทานกันก่อน
แล้วค่อยเข้าไปคุยงานกับเฮียเนอะ”
ทั้งสองพากันออกจากคอนโดของข้ามฟ้า ตลอดทางที่นั่งอยู่ในรถ
พี่คะน้าก็ชวนคุย เล่านั่นนี่ไม่ได้หยุดจนถึงร้านกาแฟเล็กๆ ที่อยู่ไม่ห่าง
จากออฟฟิศ กอหญ้ากับคะน้าใช้เวลาไปเกือบๆ ชั่วโมง พอถึงเวลา
นัดหมายก็ออกจากร้านกาแฟ
“นั่งก่อนสิทั้งสองคน เป็นยังไงข้าวอาการดีขึ้นแค่ไหนแล้วล่ะ
แล้วคะน้าน่ะแฟนเธอเป็นไงยังจะให้ลาออกไปเป็นแม่บ้านอีก
หรือเปล่า แล้วนี่กินมื้อเช้ากันมาหรือยัง”
คุณเกริกเกียรติ ผู้บริหารใหญ่ที่ข้ามฟ้าต้องฟังมากที่สุดนั่งหน้าเครียด
แต่ก็ไม่ลืมถามสารทุกข์สุขดิบของทั้งสองคนอย่างที่เคยเป็นมา
“ข้าวดีขึ้นมากแล้วครับเฮีย แล้วก็แวะทานมื้อเช้าข้างล่างนี่แหละครับก่อนขึ้นมา”
“คะน้ายังทำงานให้เฮียอีกพักน่ะแหละค่ะ ถึงค่อยไปเป็นแม่พันธุ์อยู่บ้านเลี้ยงลูก”
คะน้าตอบคำถามที่เฮียถามทิ้งไว้
“อืม ดีๆ แล้วข้าวน่ะ เมื่อวานให้ข่าวไม่นึกถึงชื่อเสียงที่สะสมมาเลยหรือไง
กล้ามากเลยนะเราเนี่ย ปฏิเสธไปก็ได้ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน…แต่ก็เลือก
ที่จะพูดความจริง เฮ้อ! เอาเถอะๆ คะน้าได้เช็กกระแสในโซเชียลบ้างหรือยัง
แฟนคลับว่าไงบ้าง กระทบกับงานต่อไปมั้ยล่ะ”
ใบหน้าอูมของคุณเกริกเกียรติไม่ได้บ่งบอกว่าจะโกรธอะไรมากมายกับข่าวเมื่อวาน
มีเพียงแววตาที่ส่อความกังวลบ้างเท่านั้น
“คะน้าเช็กแล้ว กลายเป็นตอนนี้กระแสแรงมากเลยนะคะคนที่รักๆ
ก็เข้ามาให้กำลังใจ แต่มีแฟนคลับเกิดขึ้นมาใหม่ เป็นกลุ่มสาววายค่ะเฮีย
ส่วนคนที่ต่อต้านก็มีแต่ส่วนน้อยมากๆ เอ่อ…แล้วก็มีหลายคนที่อยากให้ข้าว
ได้เจอกับแม่ตัวจริงด้วย”
คะน้ารายงานผลให้บอสใหญ่ทราบ คุณเกริกเกียรติเลิกคิ้วอย่างใช้ความคิด
“อืม…ถ้ากระแสมันดีขนาดนั้น ก็หาหนังวายให้ข้าวเล่นสักเรื่องก่อนลาวงการสิ
เออๆ ท่าจะดีนะ คะน้าไปเรียกคุณราเมศเข้ามาคุยกับผมหน่อย
บอกเลขาให้จัดคิวมาก่อนเลยนะ อะไรข้าว…นั่งส่ายหัวทำไมกัน?”
บอสใหญ่มีแววตาเจิดจ้าทันที นี่แหละนักธุรกิจจับกระแสอะไรได้ไว
ไม่ค่อยพลาดหรือทิ้งโอกาสอะไรหลุดมือไปง่ายๆ
“ข้าวว่า เอ่อ…จะดีเหรอที่ให้เล่นหนังแนวนั้นน่ะ คือว่า…”
ข้าฟ้าเอ่ยไม่เต็มเสียงนัก
`พี่ดินห้ามไว้เยอะ ถ้าหนังแนวนั้นก็ต้องมีบทเข้าพระเข้านาง
ตายกันพอดี กองถ่ายระเบิดเถิดเทิงเป็นแน่…คนขี้หวงขนาดนั้น`
“ดีสิ เชื่อผม ดูบทก่อนก็ได้นี่”
เฮียมีสีหน้าดีขึ้นฉับพลัน
“ข้าว เดี๋ยวพี่ดูบทให้เอง อย่าเพิ่งเครียดจะปังสุดๆ ก็คราวนี้แหละ
คุณราเมศเป็นมือหนึ่งของเฮียเลยนะรู้มั้ย หนังเรื่องไหนที่เขาป้อนให้
คนที่ได้เล่นนะดังอย่างกับพลุแตกทุกเรื่องจริงๆ”
คะน้าจับมือของน้องมาบีบให้คลายกังวล แล้วเธอก็ลุกขึ้นไปจัดการตามที่เจ้านายสั่ง
ไม่นานก็เดินกลับเข้ามา สีหน้ายิ้มแย้มกว่าตอนออกไป
“เฮียคะ คุณราเมศอยู่ที่ตึกพอดี เดี๋ยวจะเข้ามา เฮียจะคุยตามลำพัง
ไหมคะเราสองคนจะได้ออกไปกันก่อน”
“อยู่คุยพร้อมกันนี่แหละ หากข้องใจอะไรจะได้ถามให้หายสงสัยกันไปเลย”
คุณเกริกเกียรติยังคงเป็นคนคิดเร็วทำเร็วไม่เปลี่ยน คะน้ามองชายกลางคนร่างท้วม
แต่งกายภูมิฐาน หน้าตาแบบคนไทยเชื้อสายจีนที่ดูใจดี มีอำนาจและน่าเชื่อถือ
“เฮีย คือ…น้องมันมีแฟน อย่างที่ให้ข่าวไปนั่นแหละค่ะ แฟนเขาขอร้องไม่ให้
รับงานที่เหมือนกับเซตก่อน คือบอกตรงๆ เขาหวง ทีนี้น้องมันกลัวเจอบทอย่างว่า
คุณดินจะบุกมาเผากองถ่ายเอาน่ะเฮีย เขาขู่กันไว้เยอะเสียด้วย”
คะน้ามองตาน้องก็เข้าใจทุกอย่าง จนต้องพูดให้บอสทราบก่อน
เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาในวันข้างหน้า
“ก็เลือกพระเอกเอาสิ ถ้ามันจะเรื่องมากขนาดนั้นให้มาพบผม
เดี๋ยวส่งไปเทสหน้ากล้อง ดูสิจะเล่นเป็นพระเอกได้มั้ย ฮ่าฮ่า
ถ้าไม่ได้ไม่กล้าก็ต้องยอมให้มืออาชีพเขาทำกันละนะ อะไรของเธอคะน้า
อ้าปากทำไม เฮียพูดจริงนะเว่ย”
คุณเกริกเกียรติพูดอะไรดูง่ายไปเสียหมด
“เฮีย อย่าท้านะ ถ้าคุณดินเขายอมมาจริงๆ เฮียห้ามมาถอนคำพูดทีหลังเชียว”
คะน้าแกล้งพูดดักไว้ก่อน
“พี่คะน้าอ่ะ พี่ดินไม่มีทางมาหรอกงานแบบนี้
เขายิ่งจะให้ข้าวเลิกทำอยู่ด้วยงานสายนี้”
ข้ามฟ้าหน้าบูดเมื่อรู้ว่าโดนผู้จัดการสาวแกล้งเอา
ก็ตอนที่เขาพูดจบพี่คะน้าก็ปิดปากหัวเราะพร้อมกับบอส
“เออๆ ใจเย็นก่อน แนวน่ารักใสๆก็มีเยอะแยะถมถืดไป
รอราเมศมาถึงก่อน เอ้า! เข้ามาสิ กำลังรออยู่เนี่ย”
บอสหันไปเห็นผู้ที่มาใหม่แต่ยืนรีรอไม่ยอมเข้ามาจึงกวักมือเรียก
คุณราเมศ ผู้กำกับมือทองของค่ายก็มาถึง รูปลักษณ์ไม่แตกต่างจาก
พี่ภูดลตากล้องสักเท่าไหร่ จะเซอร์จะติสกันไปถึงไหน ดูจากทรงผม
ที่รวบเป็นมวยเก็บไว้กลางศีรษะ เสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนที่ขาดๆ นั่นอีก
แต่หน้าออกจะดุๆ จนคะน้ามองว่าผู้กำกับรายนี้ไปฟัดกับใครมาก่อนหรื
อเปล่าที่จะมาถึงห้องนี้
“หวัดดีพี่เมศ”
คะน้ากับข้ามฟ้าเอ่ยทักขึ้นพร้อมกันเพราะคุ้นหน้ากันอยู่ก่อนแล้ว
“อืม…หายดีแล้วเหรอข้าว เด็ดนี่หว่าข่าวเมื่อวาน กล้าได้อีกนะเรา”
แล้วพี่เมศก็ทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาตรงข้ามกับคุณเกริกเกียรติ
“เมศ นายช่วยหาหนังวายดีๆให้ข้าวสักเรื่องสิ ก่อนลาวงการ เอาแนวน่ารักๆ
ใสๆฟีลกู๊ดก็ดี”
คุณเกริกเกียรติเอ่ยปากทันทีที่ราเมศหย่อนก้นนั่ง
“เห่ย! จริงดิเฮีย ผมอยากทำอยู่เลยแนวนี้ท้าทายดีด้วยตอนนี้
ตลาดกำลังเปิดกว้างมาก อื้ม…เดี๋ยวผมไปคัดมาให้ แล้วพระเอกล่ะจะเอาใครดี
ถ้าระบุพระเอกมาจะได้หาเรื่องที่ตรงกับคาแรกเตอร์พระเอกของเราหน่อย”
“พระเอกผมไม่เน้ น แค่ให้ข้าวเป็นนายเอกพลิกคาแรกเตอร์กันหน่อย
ขอแค่ให้หนังเรื่องนี้เป็นที่จดจำก่อนอำลาวงการก็พอ”
“ห๋า! จริงดิ! จะไปแล้วเหรอข้าวพี่ยังไม่เคยทำหนังให้เราเลยนะ จะไปแล้วจริงสิ”
พี่เมศนั่งตัวตรงทันทีจากเดิมที่นั่งกึ่งนอนในแบบสบายๆ
“ใช่ไงพี่เมศ แฟนเค้าหวงมากด้วยเซตสุดท้ายที่พี่ดลถ่ายให้น่ะ…
คุณดินแทบจะเผาแผงหนังสือทิ้งเลยนะ อีกอย่างน้องมันต้องกลับ
ไปช่วยแฟนทำไร่ส้มแล้วก็เลี้ยงวัวด้วยน่ะ”
พี่คะน้าพูดออกมา ทำเอาผู้กำกับตาโตขึ้นมาทันที
“เห่ย! ดีเลย เจ้าของไร่ส้มใช่มั้ยล่ะ นั่นแหละๆ พี่มีหนังในใจแล้ว
ถ้างั้นเราก็ขอใช้สถานที่เขาไปเลยสิ ยกกองไปถ่ายที่นั่น ให้แฟนข้าวมัน
ดูแลกันไปอยากหวงกันดีนัก หึหึ จัดไปให้สมใจ”
คุณราเมศพูดจบ ข้ามฟ้ากับคะน้ามีสีหน้าดีขึ้นกันทั้งสองคนที่การพูดคุยออกมาในรูปนี้
“พี่เมศสัญญาแล้วนะห้ามเปลี่ยนใจเด็ดขาด คะน้าจะได้เที่ยวเชียงใหม่สักที
ไปทีไรก็มีแต่เรื่องงานและงาน จนอดมองดูความสวยงามของภูมิประเทศที่นั่นเลย
ได้เที่ยวก็คราวนี้แล้ว เฮ้อ…”
คะน้ายิ้มหน้าบานแววตาวาดหวังและพรูลมหายใจอย่างโล่งอก
“ดีเลย ราเมศคุณไปจัดการตามนี้แหละ เผื่อผมมีเวลาจะไปดูการทำงาน
และถือโอกาสพักผ่อนบ้าง”
เฮียเปิดไฟเขียวให้พี่เมศ ทำเอาข้ามฟ้าดีใจไปด้วยที่ได้รับการคอนเฟิร์ม
จากปากบอสใหญ่ เวลาที่เขาจะได้เจอพี่ดินมันใกล้เข้ามาเร็วอย่างไม่คาดฝัน
`ข้าวจะได้ไปหาพี่ดินแล้วนะ`
ข้ามฟ้าหลุดเข้าไปอยู่ในห้วงฝันแล้วอีกคน
“ข้าว! ไปต่อกันเถอะ อย่ามานั่งตาลอยเพ้ออยู่ เดี๋ยวต้องไปโชว์ตัวอีก
แต่เราจะต้องไปหาข้าวกลางวันกินกันก่อนด้วย”
คะน้าตบบ่าชวนให้ไปต่อเมื่อเห็นน้องนั่งปล่อยอารมณ์
“พี่คะน้าน่ะ ก็คนดีใจจะได้เจอพี่ดิน”
ข้ามฟ้างึมงำออกมาออกจะเขินหน่อยๆที่เผลอตัวให้ทุกคนเห็น
“อืม…พี่รู้ เหนื่อยอีกหน่อยน่าเดี๋ยวก็ได้ไปเป็นเกษตรกรแล้ว คริคริ”
พี่คะน้าหัวเราะแซว อืมฟังดูดีจัง เกษตรกร แค่ยกจอบจะทำไหวหรือเปล่ายังไม่รู้เลย
จะไปช่วยงานอะไรพี่ดินได้กันล่ะ
“เห่ย…พี่แซวเล่น พี่ดินไม่ให้เราไปแบกจอบ ขุดดินกลางแดดแบบนั้นหรอกน่
ะน้องรัก มีงานใช้สมองเยอะแยะที่จะให้ข้าวทำน่า…นะ”
คะน้าจับแววตาที่ข้ามฟ้าแสดงออกมาได้ จึงพูดแก้ให้ใหม่
“นั่นสิ! ข้าวไปช่วยเลี้ยงลูกให้พี่ดินก็ยังได้ เด็กตั้งสองคน”
แล้วข้ามฟ้าก็ยิ้มดีใจกับความคิดของตน
“น้อยๆหน่อยตัวแสบ แหมๆ จะไปเลี้ยงลูกช่วยเขา
เราเป็นพ่อพันธุ์มีเป็นของตัวเองไปเลยสิ พี่ว่าเวิร์คกว่านะ”
“พี่คะน้า อย่าพูดไปนะ พี่ดินมาได้ยินข้าวตายแน่ๆ
ยิ่งขี้หวงด้วย อืม…วันนี้ยังไม่ได้คุยกันเลย”
แล้วข้าฟ้าก็นั่งแชทโทรศัพท์ไปไม่หยุด
มีคะน้าเป็นคนขับรถพาไปหาอาหารกลางวัน
Gorya>> : คิดถึงพี่ดิน ทานกลางวันหรือยังฮะ
Din>>
: กำลังจะทานครับ แล้วกอหญ้าล่ะ?
Gorya>> : เพิ่งคุยงานเสร็จ กำลังจะไปหาร้านข้าวครับ
Din>>
: ทานเยอะๆ นะครับ คิดถึงกันบ้างนะ…รักนะครับ
Gorya>> : love u too.
“ข้าว นั่งยิ้มอยู่นั่นแหละ พี่เลือกร้านอาหารไทยนะ”
“ได้เลยครับพี่คะน้า ข้าวอยากกินต้มยำกุ้งรสจัดๆ พอดีเลย”
ข้ามฟ้ายิ้มทำแก้มป่อง
“ตามบัญชาจ้ะ เลี้ยวซ้ายข้างหน้าก็ถึงร้านแล้วละ”
ร้านที่พี่คะน้าเลือกเป็นร้านอาหารที่อยู่ในบรรยากาศแบบสวนร่มรื่น
มีน้ำตกจำลอง บ่อปลาคราฟ พอเดินทอดไปตามแนวสะพานเล็กๆ
ก็เข้าสู่ตัวร้านที่ทำเป็นซุ้มๆ ให้นั่ง ดูเป็นสัดส่วน
“พี่คะน้า ร้านนี้ดูบรรยากาศเป็นกันเองดีเนอะ สงบดีด้วยครับ
ชอบจัง”
มีพนักงานถือเมนูมาให้ คะน้าเลือกอาหารมาสี่อย่างกำลังจะสั่งอย่างที่ห้า
“พี่คะน้าสั่งเยอะไปแล้วครับ ข้าวทานไม่หมดนะฮะแบบนี้”
หญิงสาวหันมองหน้าเด็กหนุ่ม
“อืมๆ พอก่อนก็ได้ ของชอบนายทั้งนั้นเลยนะเนี่ยที่พี่สั่งไปน่ะ”
“พี่คะน้าก็สั่งที่ตัวเองชอบบ้างสิครับ ข้าวเกรงใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจอะไรพี่หรอก เงินเราทั้งนั้นแหละ พี่กินฟรีค่ะน้อง”
พี่คะน้าทำลอยหน้าลอยตาพูด แล้วก็กดโทรศัพท์เล่นไม่หยุดมือ
เธอพูดแบบนี้ทุกทีแต่ในท้ายที่สุดเธอก็จะเป็นคนที่จ่ายค่าอาหารทุกทีไป
ข้ามฟ้ามองแล้วก็ส่ายหน้า พี่คะน้าเป็นผู้จัดการที่ถือได้ว่าดูแลห่วงใย
เขามากที่สุดแล้วที่ร่วมงานกันมาตลอดกว่าสามปี