ตอนที่ 7
ดอกไม้ประดับร้าน
“คุณเกล้าคะ”
“...”
“คุณเกล้า”
“อืออออออ”
ผมทำงานตั้งแต่ตอนเย็นถึงตอนกลางดึก เพราะฉะนั้นเวลาตื่นนอนของผมปกติจะเป็นเวลาเก้าโมงถึงสิบโมงเสมอ วันนี้เองก็เช่นกัน แต่แปลกที่ป้าสี่ที่กำลังทำความสะอาดอยู่จู่ๆ ก็เข้ามาปลุกผมทั้งๆ ที่ปกติผมจะตื่นเอง แปลว่า...มีเรื่องเกิดขึ้นแน่นอน
“มีอะไรครับป้า” ผมขยี้ตา
“มาดูข้างล่าง ด่วนเลยค่ะ”
“เกิดอะไรขึ้นครับ”
“คุณเกล้าต้องตกใจแน่ๆ” ป้าทำท่าหัวใจจะวาย “สิบสองก่อเรื่องอีกแล้ว”
ไอ้สิบสองอีกแล้วเหรอ! ไอ้โหลนี่มันยังไง! ผมรีบลุกขึ้นมาจากเตียงและก็ลงไปดูข้างล่างทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
สภาพผมคือเพิ่งตื่นนอนและก็หัวกระเซอะกระเซิงสุดๆ ผมใส่บ็อกเซอร์กับเสื้อยืดสีขาวเป็นชุดนอน และก็ลงมาข้างล่างที่เป็นส่วนของร้านทั้งอย่างนั้น ที่ผมกล้าเพราะร้านยังไม่เปิดและอีกอย่างหนึ่ง...สิบสองแม่งสร้างวีรกรรม
ผมอึ้งตั้งแต่ผมอยู่ที่บันไดแล้ว...
นี่ร้านกูขายดอกไม้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ!!!!
ทุกบริเวณของร้านไม่ว่าจะเป็นพื้นหรือโต๊ะเต็มไปด้วยดอกกุหลาบสีแดง ทั้งเป็นแจกันและก็เป็นตะกร้า สิบสองที่เพิ่งเข้ามาในร้าน เอาแขนปาดเหงื่อในขณะที่ในมือมันถือตะกร้าดอกไม้ขนาดใหญ่มาอีก...
เชี่ย...
“สิบสองคันรถ...แต่รถมอเตอร์ไซค์นะเจ้านาย” สิบสองยิ้มแห้งๆ วางตะกร้าดอกไม้ลงก่อนที่จะหยิบดอกหนึ่งส่งให้ผม “ผมง้อนะครับ...”
ผมหันไปมองป้าสี่ ป้ายักไหล่ก่อนที่จะส่งยิ้มมาให้
กูจะบ้าตาย...
“เชี่ยสิบสอง!” เสียงผมดังลั่น
“ตอนเพิ่งตื่นดูไม่จืดเลยนะครับเนี่ย”
“ทำห่าอะไรของมึง”
“สิบสองคันรถ ผมขับไปขนเองตั้งสิบสองรอบ ใช้มอเตอร์ไซค์ของไอ้หนึ่ง” สิบสองพูดหน้าซื่อๆ
“กูพูดเล่น!”
“...เมื่อคืนไม่ได้พูดจริงเหรอครับ”
“พูดเล่น!”
“ผมซื้อจริงมาแล้วเนี่ยสิ”
“เอาไปคืนให้หมด...”
“ง่ะ อย่างน้อยเจ้านายก็ควรเซลฟี่กับมันหน่อยดิ ทั้งชีวิตคงได้ดอกไม้รวมกันไม่ถึงที่ได้ในวันนี้หรอก จริงมั้ยครับ”
ตอนผมรับปริญญา วาเลนไทน์ และก็วันปัจฉิมนิเทศตอนม.6 เป็นวันที่ผมได้ดอกไม้มากที่สุดในชีวิต แต่อย่างที่สิบสองมันพูด เอาวันพวกนั้นมารวมกันหลายๆ ปีก็ยังไม่ได้เท่าวันนี้วันเดียวที่มันขนมาให้
แต่ว่า...ดอกไม้สีแดง ในร้านที่เป็นทั้งบาร์และก็ร้านอาหารเนี่ยนะ
“กูไม่เซลฟี่เหี้ยอะไรทั้งนั้น ขนกลับไป!”
“เอาไว้ประดับร้าน” สิบสองกระทืบเท้าอย่างกังวลใจ “ผมอุตส่าห์ขนมาให้ เหมาดอกกุหลาบทั้งตลาดมาให้ด้วย อย่าใจร้ายกับผมสิ...เอาไว้ประดับสักวันก็ยังดี นะๆๆ”
ผมเอามือขวดขมับอย่างปวดหัว...
“งั้นมึงก็จัดเองก็แล้วกัน”
“เจ้านายหายโกรธผมหรือยัง”
“กูมากกว่าโกรธอีกตอนนี้”
“อะไรครับ”
“กูเคือง”
“นั่นน้อยกว่าโกรธนะผมว่า”
“มึงไปกวนตีนที่อื่นเลยไป”
“ยิ้มหน่อยสิ คนซื้อดอกไม้มาให้ทั้งที” กุหลาบในมือมันหนึ่งดอกถูกยื่นมาใกล้หน้าผมจนผมจั๊กจี้...
“เชี่ย...” ที่ผมยิ้มเนี่ยเพราะมันจั๊กจี้นะ
สิบสองยื่นหน้ามากระซิบกับผมหลังจากที่เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของผม “...หายเหนื่อยเลย”
ตึกตึก ตึกตึก...
ใจเจ้ากรรมดันเต้นแรงกับไอ้โหลที่กวนตีนที่สุดในโลก ผมรับดอกไม้มาและก็เดินหนีไปจากมัน...
“ว้าว กว่าจะวาเลนไทน์อีกตั้งสี่เดือน” ไอ้หนึ่งพูดอย่างทึ่งๆ เมื่อมันมาทำงานที่ร้าน “พี่เปลี่ยนอาชีพมาขายดอกไม้แล้วเหรอครับ”
“ถามเพื่อนมึงโน่น”
ตั้งแต่ไอ้สิบสองมันพูดกับผมเสร็จมันก็เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาจัดดอกไม้ในร้านให้ดูสวยและก็ไม่ให้ดูมากจนเกินไป สมน้ำหน้ามัน อยากทำอะไรเวอร์วังเอง
“มันมาง้อพี่ หรือมันมาขอพี่แต่งงานเนี่ย”
“เชี่ยยยยย” ผมด่าไอ้หนึ่ง ว่าแต่มันรู้ได้ไงเรื่องที่มาของดอกไม้นี่ “ไปหลังร้าน หยิบเสื้อใหม่มาแจกทุกคนด้วย กูไปสั่งเขาสกรีนเสื้อสีใหม่มา”
“สีอะไรครับ!”
“แดงเข้ม”
จากใบหน้าตื่นเต้นกลายเป็นใบหน้าผิดหวังทันที “ผมใส่สีแดงไม่ขึ้น...”
“...”
“บังเอิญเนอะ เข้ากับดอกไม้ในวันนี้พอดี”
มันคือความบังเอิญที่กูเองก็งงเหมือนกัน...ผมสั่งสกรีนเสื้อใหม่ทุกๆ ครึ่งเดือน ตอนนี้เสื้อพนักงานมีหลากหลายสีจนเกือบทุกสีแล้วมั้ง ในแต่ละวันสองจะเป็นคนแปะไว้บนบอร์ดว่าพรุ่งนี้จะใส่เสื้อสีอะไร และทุกคนก็จะซักเสื้อสีนั้นและก็ใส่มา
เสื้อให้ฟรี...แต่กูไม่ซักรีดให้นะครับเออ...
สิบสองดูตั้งใจในการจัดร้านมาก ไม่ว่าผมจะเดินไปไหนก็ตามผมก็เห็นความตั้งใจของมันตลอด ตอนนี้ร้านของผมทั้งส่วนนอกร้านและก็ส่วนในร้านเต็มไปด้วยดอกกุหลาบสีแดงจำนวนมาก เหมือนอยู่ในช่วงวาเลนไทน์จริงๆ นั่นแหละ
ผมปรึกษาเรื่องนี้กับสอง ในที่สุดเราสองคนก็คิดโปรเจ๋งๆ ในวันนี้ออก เน้นเฮฮาไว้ก่อน กำไรเอาไว้ทีหลัง
ฉลองอีกสี่เดือนจะถึงเดือนแห่งความรัก คู่รักสั่งเบียร์สี่ขวดจ่ายแค่สองขวด คนโสดเบียร์รับเบียร์ฟรีไปเลยสองขวดครับผม!
(เมื่อสั่งอาหารครบจำนวน 700 บาทขึ้นไป โปรโมชั่นใช้ได้เฉพาะวันนี้เท่านั้น ขอสงวนสิทธิ์เบียร์ในโปรโมชั่นจะเป็นเฉพาะเบียร์ช้างนะครับนะ)
เงื่อนไขเยอะแต่ก็ดีกว่าไม่มีโปรโมชั่นเลยใช่มั้ยครับ...
“จ๊ะเอ๋!”
ผมสะดุ้ง ใครก็ไม่รู้ส่งเสียงดังและก็มาเกาะไหล่ผม ตอนที่ผมหันมาเห็นเป็นไอ้เชี่ยทิต ผมถึงกับต้องเอามือกุมอกเลยทีเดียว
“ไอ้สัด เล่นห่าอะไร!”
“ฮ่าๆๆๆ ร้านมึงทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปวะ มีใครมาจีบเจ้าของร้านหรือเปล่า...”
ผมรู้สึกแปลกๆ กับคำนั้นจังเลยแฮะ “บ้าเหรอวะ...”
“จีบไม่จีบไม่รู้ แต่ดอกไม้นี่ของเจ้านายทั้งหมดเลยครับ” เสียงไอ้สองลอยแทรกขึ้นมา มันทำงานหันหลังให้ผมกับทิตอยู่ตรงริมกระจกที่คั่นระหว่างส่วนอินดอร์กับส่วนเอาท์ดอร์อยู่แท้ๆ แต่กลับมีส่วนร่วมในวงสนทนาจนได้...
“หึ” ทิตส่งเสียง “ลูกน้องมึงคนนี้ตลกจังเลยนะ...”
“มึงมีอะไรวะ” ผมถามมัน
“เอารายชื่อเมนูกับเครื่องดื่มมาส่ง จำได้มั้ยเนี่ยว่าพรุ่งนี้กูเหมาร้านตรงส่วนอินดอร์เนี่ย”
“ไม่ลืมๆ แต่ไม่คิดว่ามึงจะเอาเมนูมาให้ด้วยตัวเอง”
“แวะมาหามึงด้วยนั่นแหละ” ทิตส่งยิ้มให้
เสียงดอกกุหลาบกับน้ำหล่นกระจายจากแจกันใบหนึ่งที่เอียงตก...ดีนะแจกันไม่แตก (กูยอมใจในความคงทนของมึงเลย ไอ้แจกัน) ผมกับทิตหันไปมองไอ้สิบสองตัวต้นเหตุ
“ขอโทษครับ...” สิบสองหันมาพูดด้วยใบหน้าไร้รอยยิ้ม
ผมขมวดคิ้วมองมัน...ตั้งแต่ที่มันเจอไอ้ทิตมันก็ทำตัวแบบนี้เสมอเวลาที่ทิตอยู่กับผม ผมจำได้ มันบอกว่าเพราะสายตาไอ้ทิตมันดูเจ้าชู้แปลกๆ มันอาจจะห่วงผมในเรื่องนี้มั้งครับ
มึงเองไม่ใช่เหรอที่เจ้าชู้มากกว่า เมื่อคืนก็เพิ่งเกิดสงครามไปหยกๆ
อีกอย่างมันเป็นเพื่อนกูเว้ยยยยยยยยยยย
ทิตมองสิบสองอย่างครุ่นคิดแล้วก็หันมามองผม “แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ”
“โอเค...”
“แต่งตัวหล่อๆ หน่อยล่ะ”
“กูเป็นเจ้าของร้าน วันเกิดมึงทั้งทีกูไม่ยอมให้มึงเสียหน้าหรอกน่า”
“ก็แขกน่ะมีสาวๆ จากรั้วโรงเรียนข้างๆ ด้วยนะ”
“มึงชวนมาได้เหรอ” ผมทำตาโต “อ๋อลืมไป กูกำลังคุยกับอดีตหนุ่มป๊อบที่สุดในโรงเรียนอยู่นี่หว่า”
“หึ...แล้วเจอกันเพื่อน”
อาทิตย์เดินจากไป...ผมมองตามมันไปก่อนที่จะหันมาดูรายชื่อเมนูที่มันเขียน คุณพระ...ผมเห็นกำไรมาแต่ไกลตั้งแต่มันสั่งข้าวผัดปูจานใหญ่เจ็ดที่แล้วครับ คุณพระคุณเจ้า...
“ตาเจ้านายจะเป็นรูปเงินแล้ว” สิบสองเขย่าดอกไม้ดอกหนึ่งต่อหน้าผม “พรุ่งนี้ผมจะต้องมาร้องเพลงมั้ยล่ะเนี่ย”
“มาดิ ถึงจะไม่ได้ร้อง แต่มึงก็ต้องมาช่วยงาน” ผมสั่งออกไปอย่างนั้นก่อน
“ไม่บอกก็มาอยู่แล้วล่ะ...”
“...”
“เจ้านาย”
“หืม?”
“เมื่อไหร่จะเซลฟี่กับดอกไม้ผม”
“ยังไม่จบอีกเหรอ”
“พรุ่งนี้มันอาจจะถูกขนเอาไปทิ้งแล้ว อย่างน้อยก็เซลฟี่เก็บไว้หน่อยก็ดีนะครับ” สิบสองส่งยิ้มตาหยีให้ ก่อนที่จะเดินไปจัดร้านต่อ...
...มันไม่รู้หรอกว่าผมแอบถ่ายรูปเก็บไว้หลายมุมแล้ว
และรูปพวกนั้นก็เสือกจะติดมันตอนที่มันกำลังก้มหน้าก้มตาและก็ขนดอกไม้ของมันไปมุมนั้นมุมนี้พอดี
...ดอกไม้ที่มึงเอามาให้ มีแต่รูปคนให้ก็พอ...ไม่ต้องมีรูปคนรับก็ได้มั้ง...
โปรโมชั่นในคืนนี้ฮอตฮิตมาก โดยเฉพาะกับคนโสด เบียร์ยี่ห้อช้างพร่องลงไปหลายลังในขณะที่หลายโต๊ะก็พากันขยันสั่งอาหารให้ครบราคาแปดร้อยเพื่อโปรโมชั่นนี้อยู่ นับว่าเป็นสีสันของร้านผมมากๆ เลยทีเดียว
ร้านที่เต็มไปด้วยกุหลาบสีแดงในคืนนี้...
ดีหน่อยที่ร้านผมไม่ได้เสื่อมเสียชื่อเสียงอะไรมากจากเหตุการณ์รถไฟชนกันเมื่อคืน โปรโมชั่นและดอกไม้รับกับโปรโมชั่นมาช่วงหลังจากคืนนั้นพอดี ช่างเป็นอะไรที่เหมาะเจาะมาก ไอ้สิบสองถือว่าแก้ตัวได้ดีเลยทีเดียว
แปลกแต่จริงที่กุหลาบของไอ้สิบสองที่ใช้ประดับร้านลูกค้าบางท่านหยิบออกมาและก็ส่งไปให้แฟนตัวเอง หวังว่าดอกไม้ของมันที่หายไปจะไม่ทำให้ไอ้สิบสองเคืองจนงอแงเป็นเด็กอีกนะ...
“...ก็คนมันอยากเจอ ก็เลยมาเฝ้ารอตามคำขอของหัวใจ...”
ช่วงเพลงประจำวันของสิบสองมาแล้ว
“...มีมาแต่ตัว แค่ตัวกับหัวใจและดอกไม้ เก็บมาให้เธอ...” สิบสองหลับตาพริ้มและเล่นกีต้าร์อย่างตั้งใจตอนร้อง “...แต่คนมันบ้านไกล กว่าจะได้พบเจอ กว่าดอกไม้จะถึงมือเธอ ก็เลยดูเฉาๆ ลงไป ช่างดอกไม้มัน ฉันรักเธอ...”
“...ต่อให้ตะวันลบเลือน ดาวและเดือนลับลา คำที่ว่าฉันรักเธอ ไม่มีวันลดลง ต่อให้ดอกไม้ร่วงโรยหล่นไป แต่ว่าหัวใจไม่มีวันร้างลา *”
(* เพลง ดอกไม้กับหัวใจ : วง I-ZAX )
“โทษนะคะคุณ คุณเป็นเจ้าของร้านใช่มั้ยคะ” ผมที่กำลังมองสิบสองอยู่หันมามองคนเรียก
“ครับ” เป็นลูกค้าสาวๆ กลุ่มหนึ่งที่สวยกันทั้งโต๊ะ
“ที่พนักงานของคุณใส่เสื้อเป็นเบอร์ๆ เนี่ย เพราะจะมีการประมูลให้พนักงานมานั่งกับแขกหรือเปล่าคะ” เดี๋ยวนะ ทำไมคิดไปแบบนั้นได้วะ “ถ้าไม่มีเนี่ยก็อยากให้มีน่ะค่ะ...คุณเบอร์สิบสองเขาหล่อมากเลย”
“ใจละลาย...”
“ถ้าเรียนอยู่ก็อยากจ่ายค่าเทอม”
“ถ้าไม่ได้เรียนแล้วก็อยากผ่อนรถผ่อนคอนโดให้...”
“จริงๆ นะคะคุณ”
ผมอ้าปากค้าง อึ้งในความฮอตของไอ้สิบสอง ไอ้เพชร (ชะ-คาด) ของร้าน ผมส่งยิ้มให้พวกเธอ ก่อนจะตอบอย่างมีไหวพริบ “แม้ว่าจะไม่มีบริการแบบนั้น แต่พวกคุณสามารถให้กำลังใจนักร้องของเราด้วยการให้ทิปนะครับ มัน...เอ๊ย...เบอร์สิบสองชอบทิปน่ะครับ”
“จริงเหรอคะ” ผมเห็นพวกเธอล้วงตังค์กันใหญ่ ทันเห็นแบงก์พันอยู่ไหวๆ
สิบสองแดกเรียบอีกแล้วสิมึงแบบนี้...ผมหัวเราะก่อนที่จะกลับเข้าไปในร้านเพื่อตรวจดูเคาเตอร์และบาร์ต่างๆ (เจ็ดและเก้าเป็นบาร์เทนเดอร์สาวสุดฮอตของร้านผมครับ...) ทุกอย่างเรียบร้อยดีจนกระทั่ง...
เสียงไอ้สิบสองดังลั่นออกไมค์
“ผมร้องเพลงเพราะมั้ยครับ”
“เพราะค่ะ”
“เพราะที่สุดดดดดด”
“มาเป็นผัวพี่ได้มั้ยน้อง”
เดี๋ยวนะ...อะไรจะขนาดนั้น ผมรีบมองดูไอ้สิบสองกับลูกค้าที่ส่งเสียงตอบมันเย้วๆ ทันที กลัวว่าจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น ไม่รู้ล่ะ กูกลัวเดจาวู กลัวจะเห็นภาพเหตุการณ์แบบเมื่อวานนี้
“แหะ ขอบคุณนะครับ” สิบสองส่งยิ้มละลายใจไปทั่ว รอยยิ้มที่เป็นท่าไม้ตายของมัน สาวๆ ถึงกับเคลิ้มและก็ควักแบงก์พันกันใหญ่
ร้อยเป็นมาลัยเลยก็ได้ครับ มาลัยแบงก์พันที่รวมกันกลายเป็นหมื่น มันชอบแน่นอน...
“เห็นดอกกุหลาบเต็มร้านของเรามั้ยครับวันนี้...”
“เห็นจ้าาาา”
“ผมจัดเองนะ...”
“กรี๊ดดดดดดดดดด”
“จริงอ่ะ”
“จริงเหรอ”
“ผมซื้อทั้งหมดมาให้ใครคนหนึ่งน่ะครับ เพราะผมจะง้อเขา...ไม่รู้ว่าได้ผลหรือเปล่า แต่ก็ทำเขายิ้มออกแล้วกัน”
ลูกค้าหลายคนส่งเสียงว่าใครวะ...ทุกคนมองหน้ากันจากนั้นก็มองจับผิดไปที่พนักงานสาวหลายคนที่น่าจะเป็นคนที่ไอ้สิบสองมันง้อ (น้องเจ็ดกับน้องเก้านี่โดนหนักสุด...) แต่อยากจะบอกว่าผิดหมดเลย
มันซื้อมาง้อผมนี่แหละ
“ดอกไม้พวกนี้ได้ถูกใช้ในการง้อไปแล้ว แต่มันก็ยังดูดีและยังไม่เหี่ยว ผมขออะไรอย่างหนึ่งกับคุณลูกค้าที่น่ารักของเราได้มั้ยครับ...”
“...”
“ช่วยส่งดอกไม้ของผมไปให้คนที่คุณรักที...”
นึกว่ามันจะคิดเล็กคิดน้อยโวยวายเป็นเด็กๆ หากใครขโมยดอกไม้ของมัน แต่นี่เรียกว่ามันเปิดทางให้คนอื่นเลยนี่หว่า ลูกค้าส่งเสียงรับคำก่อนที่จะกรูกันไปหยิบดอกไม้ที่ประดับอยู่ และผมก็เชื่อว่าดอกไม้พวกนั้นน่าจะถูกใช้จนหมดไป...
สิบสองบนเวทีหันมาถามความเห็นผม ผมพยักหน้า มันทำหน้าโล่งใจ นึกว่าผมจะไม่ชอบความคิดมันซะอีก...
คืนนี้ของร้านเราเต็มไปด้วยดอกไม้สีแดงของไอ้สิบสอง...
กำไรอีกแล้ว...
เพชร (ชะ-คาด) ของร้านผมนี่มันเพชรจริงๆ ตั้งแต่มันเข้ามาในร้าแม้ว่ามันจะกวนประสาทไปบ้างหรือก่อเรื่องในบางที แต่ผลประกอบการนั้นกลับสวนทางในสิ่งที่มันทำ ร้านของผมเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น กำไรอื้อซ่า...พนักงานส่วนใหญ่ได้ทิปเป็นที่น่าพอใจ ทุกอย่างดีไปหมด...
และผมก็ยังเจอเรื่องที่ไม่คาดฝันด้วย ลูกค้าหลายคน (ที่เป็นชายหรือหญิงไม่รู้) ส่งดอกไม้ผ่านมือลูกน้องของผมมาให้ผมหลังจากคำพูดของไอ้สิบสอง แม้ว่าผมจะรู้สึกแปลกประหลาดสักหน่อย แต่เขาส่งมาให้ทั้งทีก็ต้องรับ คงไม่คิดจริงจังอะไรกับผมหรอกมั้งครับ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
สิบสองคนเดิมเพิ่มเติมคือตำแหน่งที่มีเรื่องต้องคุยกับตลอดตอนปิดร้าน ผมพยักหน้าเรียกมันเข้ามา มันถือดอกกุหลาบมาดอกหนึ่ง และก็ทำหน้าเสียเมื่อเห็นผมได้กุหลาบเต็มโต๊ะ
“อะไรของมึง”
“ใครเอามาให้เจ้านาย”
“ลูกค้า...”
“หา”
“ลูกค้าไง”
“ใคร ใครชอบเจ้านาย มีลูกค้าชอบเจ้านายด้วยเหรอ”
“กูจะรู้มั้ย เขาให้คนเอามาให้ กูก็ต้องรับสิ”
สิบสองนั่งลงตรงข้ามผม นับดอกไม้ของมันเองด้วยสายตาจิกทิ่มแทง
“สิบเอ็ดดอก...เยอะไปป่ะ”
“อะไรของมึงครับ ตกลงมีเรื่องอะไร หรือว่ามานับดอกไม้...”
“ดอกไม้ที่ผมให้เจ้านายเมื่อเช้า อยู่ไหนเหรอ”
ผมเริ่มเคยชินกับอารมณ์เด็กๆ ของไอ้สิบสองแล้วล่ะ
“อย่าบอกนะว่าอยู่รวมกับพวกนี้”
“...คือ...”
“อะไรกัน ดอกนั้นผมตั้งใจจะให้เจ้านายนะครับ เหมือนกับดอกนี้แหละ รู้มั้ยว่าผมต้องไปไฟท์มากว่าจะได้ ลูกค้าจิ๊กดอกไม้ของผมไปให้แฟนกันหมดเลย” มันเขย่าดอกไม้ในมือของมันก่อนที่สิบสองจะวางดอกที่อยู่ในมือมันบนโต๊ะผม “อย่าเอาไปรวมกับคนอื่นๆ อีก แยกออกด้วย ไม่ได้เก็บเอาไว้เป็นร้อยเป็นพันดอกตามที่ผมซื้อมาก็เก็บไว้สักดอกสองดอกก็ยังดี”
“อืมๆๆ” ผมรับคำ เพราะกลัวมันจะโวยวายไปมากกว่านี้
“สัญญาแล้วนะครับ...”
“อืมมมมม” เสียงของผมเข้มขึ้นเพื่อให้มันหยุดพูด
“ผมกลับก่อนนะ” มันยิ้ม และก็ลุกขึ้น ผมพยักหน้ามองดูมันออกจากห้องของผมไป...
ผมหยิบดอกไม้ที่มันเพิ่งให้ผมมาเดินไปยังห้องนอนที่อยู่หลังห้องทำงานของผม...มันไม่รู้หรอกว่าผมเก็บดอกไม้ของมันที่มันให้ผมเมื่อเช้าไว้ที่แจกันหัวเตียงน่ะ...ดอกที่สองถูกวางเอาไว้สมทบกับดอกที่ผมได้จากมันในตอนเช้า ผมยิ้มอย่างดีใจที่มีใครสักคนทำเรื่องแบบนี้ให้ ดอกไม้ที่มันทำให้ผมเมื่อเช้า แม้ว่าผมจะทำเป็นโวยวาย แต่เอาเข้าจริงๆ ผมรู้สึกประทับใจยังไงไม่รู้แฮะ
แถมยังใจสั่นแปลกๆ อีกต่างหาก มันวูบไหวตรงที่หัวใจยังไงชอบกล...
“กูไม่เชื่อใจไอ้อาทิตย์อัสดงนี่เลย”
“...”
“ได้ยินกูมั้ยเนี่ย”
“หา...”
“ฟังกูหน่อยยยย”
“มึงเพ้อถึงเจ้านายให้กูฟังทุกวัน ให้โอกาสกูได้เบื่อบ้างดิ”
“แล้วอยากฟังมั้ย”
“จริงๆ ก็อยาก กูชอบการอัพเดทแบบเรียลไทม์ ขี้เกียจไปตามเสือกตอนหลัง”
“ถ้างั้นก็ฟัง”
“...”
“ดอกไม้คงยังไม่พอ กูว่ากูต้องการกำลังเสริม...”
“...”
“มึงช่วยกูหาสิบสาม สิบสี่ สิบห้าของเจ้านายได้มั้ยวะ”
TBC*
วิธีเปย์ของน้องกันต์สิบสอง (เอามามิกซ์รวมกันแล้ว) ได้ผลแต่น้องไม่รู้ 55555