HEARTBREAKER
31
(ต่อ)
อาการกลั้นขำของเด็กหนุ่มตัวเล็กที่สุดในกลุ่มทำเอาคนเดินผ่านไปสวนมามองตามอย่างงุนงงระคนสงสัย ผิดกับสองหนุ่มร่างสูงที่เดินหน้านิ่งแผ่รังสีอันตรายอยู่รั้งท้ายกลุ่ม นัยน์ตาคมสองคู่มองคนตัวเล็กเดินเซไปเซมาราวกับคนเมา แต่ไม่ใช่! เจ้าตัวเล็กเอามือข้างนึงกุมท้องส่วนมืออีกข้างถือกระเป๋านักเรียนแนบข้างลำตัว เสียงหัวเราะยังหลุดลอดออกมาให้ได้ยินเป็นระยะ
มันจะขำอะไรขนาดนั้น!
“โอ้ย! ไม่ไหวแล้ว”
เสียงร้องดังพร้อมกับที่เจ้าตัวทรุดนั่งลงกับพื้น คนเป็นพี่รีบรุดเข้าไปดูน้องด้วยความเป็นห่วง ไม่ต่างจากสองหนุ่มที่รีบเดินเข้าไปดูอาการ
“ต้าร์ เป็นอะไร”
เนสถามน้อง ตาก็มองไล่ไปทั่วตัวหาสิ่งผิดปกติ
“ไม่ฮะ ผมสบายดี ไม่ได้เป็นอะไร แค่ขำมากไป เท่านั้นเอง ฮ่าๆๆ”
ต้าร์ตอบพี่ชาย หัวเราะจนน้ำตาเล็ด ยิ่งมองเห็นสาเหตุที่ทำให้ตัวเองหยุดหัวเราะไม่ได้ยืนค้ำหัวอยู่ น้ำตาก็ยิ่งไหล
“พี่ควิน พี่แซท หนังมันไม่สนุกจนต้องหลับเลยเหรอฮะ ฮ่าๆๆ ผมเลือกหนังบู๊ ไล่ยิงกันเลือดสาด แต่พวกพี่ยังหลับลง เหลือเชื่อจริงๆ ฮ่าๆๆๆ”
คนถูกถามได้แต่ยืนนิ่งมองหน้าหวานเกินชายด้วยความรู้สึกแปลกๆอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน โตจนเข้าเรียนมหา’ลัยยังไม่เคยมีใครกล้าหัวเราะใส่ต่อหน้าแบบนี้ แถมยังหัวเราะจนน้ำตาไหลอีกต่างหาก!
“พอได้แล้ว หยุดหัวเราะ กลับบ้าน”
เนสสั่งน้องเสียงแข็ง ใจนึงก็เอ็นดู แต่อีกใจก็โมโห
“ขอโทษครับ ขอเวลาแป็ปนึง”
ต้าร์ผงกหัวบอกพี่ชายพลางขอต่อเวลา เจ้าตัวนั่งหอบ ยกมือปาดน้ำตา แต่ริมฝีปากยังคลี่ยิ้มมองไปที่สองหนุ่ม พอลุกขึ้นยืนได้ก็ยกมือขึ้นตบไหล่ควินกับแซทเบาๆทำหน้าจริงจัง
“ผมเข้าใจครับ พวกพี่คงง่วงมาก เอาเป็นว่า พวกพี่กลับไปนอนต่อที่บ้านเถอะฮะ”
บอกเสร็จก็ยิ้มกว้างกระพริบตาปริบๆ แลบลิ้นให้แล้วชักมือกลับ
“ไปครับ กลับบ้านเรา”
หันกลับไปคว้ามือพี่ชาย ดึงให้เดินตาม
ควินกระตุกยิ้มกับนิสัยกวนแบบเด็กๆของต้าร์ แซทเองก็ยกยิ้มบางๆอย่างเอ็นดูกับการตีสนิทแบบเนียนๆของเจ้าตัว
“เด็กบ้า”
ควินว่าเบาๆ นึกถึงใบหน้าเรียวเล็กที่พร่างพรายไปด้วยรอยยิ้มเมื่อครู่ก็รู้สึกมีความสุข ถ้าได้ฟังเสียงหัวเราะใสทุกวัน ได้เห็นหน้าหวานๆนั่นทุกคืนก็คงดี
“เออ บ้าจริงๆ”
แซทว่าต่อ ถ้าไม่ติดว่ามีพี่ชายขี้ห่วงอยู่ด้วย เขาจะกระโจนเข้าใส่เด็กบ้านั่นขโมยกลับไปฟัดที่บ้านให้หน่ำใจ!
ต้าร์จับมือพี่ชายแกว่งไปมา เดินไปตามทางริมบาทวิถี นิสัยเหมือนเด็กไม่รู้จักโตทำให้คนเป็นพี่ลอบถอนหายใจ ยิ่งมองใบหน้าเรียวเล็กที่ประกอบด้วยเครื่องหน้าจิ้มลิ้มน่ารักเหมือนเด็กผู้หญิงของน้องก็ยิ่งรู้สึกหนักใจ ไหนจะรูปร่างเล็กบางกับผิวขาวจัดนั่นอีก ถ้าไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนมัธยมปลายที่มีกางเกงบอกเพศว่าเจ้าตัวเป็นเด็กผู้ชาย หลายคนคงจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเด็กผู้หญิง
“เมื่อไหร่จะโตสักที”
ตากลมเบิกกว้างอย่างไม่เข้าใจคำพูดพี่ชาย
“ทำไมฮะ ผมไม่โตตรงไหน ผมสูงขึ้นจากเดือนก่อนตั้ง2เซนฯแน่ะ”
บอกไปตามความจริงที่ได้วัดความสูงมาล่าสุด
เนสส่ายหน้ามองน้องอย่างเหนื่อยใจ
“หมายถึงความคิด นิสัย ไม่ใช่ส่วนสูง”
“อ้าว”
ต้าร์ร้อง ยกมือขึ้นเกาศีรษะ เอียงคอมองพี่ชายอย่างไม่เข้าใจเหมือนเดิม
“อยากไปเรียนต่อเมืองนอกมั้ย”
จู่ๆความคิดจะส่งน้องออกนอกประเทศก็แวบเข้ามา ไม่ใช่เรื่องยากถ้าจะส่งน้องไปเพราะมีญาติตั้งรกรากอยู่ที่โน้น ให้ลุงกับป้าช่วยดูแลให้
“ไม่เอา ไม่ไป ผมอยากอยู่กับพี่ ไม่ไปนะ”
ต้าร์ส่ายหน้าแรง จับมือพี่เขย่า ตากลมทอแววน้อยใจตัดพ้อพี่ชายที่ถามแบบนี้
“ก็แค่ถาม ต้าร์ไม่อยากไป พี่จะบังคับต้าร์ได้ยังไง อย่าคิดมาก พี่ขอโทษ”
เนสยิ้มบอก หยิกแก้มน้องอย่างรักใคร่ ก็แค่ความคิดมันแวบผ่านเข้ามา ก็แค่อยากให้น้องอยู่ห่างจากพวกมัน
“ผมจะสอบเข้ามหา’ลัยเดียวกับพี่ให้ได้ ผมจะทำให้ได้ฮะ”
น้ำเสียงหนักแน่นบอกพี่ชาย
“แค่ต้าร์ตั้งใจแล้วทำเต็มที่ก็พอ อย่ากดดันตัวเอง สอบไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ยังมีมหา’ลัยอื่นเยอะแยะ เข้าใจมั้ย”
“ครับผม รักพี่เนสที่สุดเลย รักๆๆๆ”
ต้าร์ร้องบอกพลางเอนศีรษะซบไหล่พี่ชาย มือที่จับกันไว้กระชับแน่นขึ้น
“พี่ก็รักต้าร์ เรามีกันแค่สองคนพี่น้องนี่นา ถ้าพี่ไม่รักต้าร์ แล้วจะให้พี่ไปรักใคร จริงมั้ย”
“จริงที่สุด! ฮ่าๆๆๆ”
เสียงหัวเราะใสดังมาจากคนข้างหน้า ฟังดูแล้วมีความสุข ควินกับแซทมองสองพี่น้องจับมือซบไหล่กันเดินไปก็พลอยยิ้มตามโดยไม่รู้ตัว
“ไอ้เนสมันรักน้องมาก”
จู่ๆแซทก็พูดขึ้น ควินหันไปมองเพื่อนอย่างสงสัย
“เออ กูรู้ ก็มันมีน้องแค่คนเดียว”
ควินตอบ หันกลับไปมองคนข้างหน้า
“มึงคิดว่ามันจะปล่อยต้าร์มาคบกับพวกเราง่ายๆเหรอ”
“แล้วยังไง มันให้พวกเรารับปากมันไปแล้วนี่หว่า”
“ก็แค่รับปาก”
“อะไรของมึงวะ พูดให้เคลียร์ดิ”
ควินถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง รู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดกำกวมของเพื่อน
“มึงสาบานได้มั้ยล่ะ ว่ามึงจะไม่ทำอะไรต้าร์ ถ้าต้าร์ปฏิเสธมึง”
ควินเงียบ คิดตามคำพูดเพื่อน ถ้าถูกต้าร์ปฏิเสธเหรอ? ถ้าต้าร์ปฏิเสธ?
“กูบอกมึงไว้ตรงนี้เลย กูรับไม่ได้ถ้าต้าร์ปฏิเสธกู กูจะทำทุกอย่างให้ได้มันมา ต่อให้ต้องทำร้าย บังคับฝืนใจมัน กูก็จะทำ”
แซทจ้องตาเพื่อน ยืนยันในคำพูดทุกคำของตัวเอง
“ไอ้เหี้ยเนสเอามึงตายแน่”
ควินบอกติดตลก แต่สีหน้ายังไม่คลายความกังวล
“กูไม่สน”
“แล้วมึงคิดว่ากูสนเหรอ ก็แค่พี่ชาย แค่เพื่อน ขนาดพ่อกูยังไม่สน”
แซทแสยะยิ้ม มองหน้าเพื่อนที่ไม่หลงเหลือความกังวลอยู่แล้ว
“กูบอกมึงไว้ตรงนี้เลย ต่อให้ต้าร์ปฏิเสธกู กูก็ไม่ปล่อยมันไป ให้กูขังมันไว้ กูก็จะทำ”
ควินบอกเพื่อนเสียงเข้ม ประกายในดวงตาสีเฮเซลฉายชัดถึงความต้องการ
“รอพี่ตรงนี้แหละ เดี๋ยวพี่เข้าไปเอารถแป็ปเดียว เฟียซ ฝากดูไอ้เด็กเอ๋อด้วย”
เนสบอกน้องก่อนหันไปบอกเฟียซ คนถูกกล่าวหาว่าเป็นเด็กเอ๋อทำหน้ามุ่ยเบะปากแล้วหันไปชกไหล่เพื่อน เนสหัวเราะน้อง เดินเข้ามหา’ลัยไป
“เจ็บ”
เฟียซบอกเพื่อน ลูบตรงที่ถูกหมัดเล็กชกเบาๆ
“หนังหนาอย่างเฟียซเจ็บเป็นด้วยเหรอ”
ต้าร์ว่าพลางแลบลิ้นใส่
“ไอ้…“
“พี่ควิน พี่แซท ขอบคุณมากนะครับที่เลี้ยงหนัง ไว้โอกาสหน้าผมจะเลี้ยงตอบแทนนะ”
เฟียซเบ้ปากที่เพื่อนไม่สนใจแต่กลับเดินปรี่เข้าไปหาสองคนนั้นแทน
“ไม่เป็นไร”
แซทบอก มองสบนัยน์ตากลมใส อยากสั่งห้ามไม่เห็นคนตัวเล็กไปทำหน้าซื่อตาใสแบบนี้กับคนอื่น
“เข้าไปนั่งรอข้างใน”
ควินบอกพลางดันไหล่ต้าร์ให้หันกลับไป
“ไม่เป็นไรครับ ยืนรอตรงนี้ก็ได้”
ต้าร์ปฏิเสธ แต่พอเห็นว่าควินมองด้วยสายตานิ่งๆก็ยิ้มเจื่อน ก้าวลงจากริมบาทวิถีเดินเข้ามหา’ลัย
รถสปอร์ตปอร์เช่สีขาวป้ายแดงขับเลี้ยวเข้ามหา’ลัยชื่อดัง คนขับสวมแว่นตากันแดดสีชาปกปิดสายตา นัยน์ตาคมมองผ่านเลนส์แว่นเห็นผู้ชายร่างสูงคุ้นตาเดินอยู่ข้างทาง มุมปากยกยิ้มพร้อมกับกดน้ำหนักไปที่เท้าเหยียบคันเร่งพารถหรูพุ่งตรงไปที่เป้าหมาย
“เฮ้ย!”
แซทร้องอย่างตกใจที่จู่ๆก็มีรถโผล่พุ่งมาใกล้ๆตัวจนต้องรีบกระโดดหลบ
“ไอ้เหี้ยควิน! ระวังรถ!”
ร้องบอกเพื่อน เจ้าของชื่อหันขวับกลับมาพอดีกับที่รถหรูพุ่งเข้ามาใส่ตัว ควินล้มลงกระแทกพื้นท่ามกลางเสียงร้องตกใจของต้าร์และคนที่เห็นเหตุการณ์อยู่รอบบริเวณ ป้ายทะเบียนสีแดงลอยเด่นอยู่ตรงหน้าควิน ดีที่คนขับเหยียบเบรกไว้ได้ทันเลยไม่ได้ชน แต่รถคันคุ้นตาทำให้ควินเงยหน้าขึ้นมอง มือกำแน่นจนเส้นเลือดปูนนูนขึ้นอย่างน่ากลัวเมื่อนัยน์ตาคมมองเห็นใบหน้าของเจ้าของรถ ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนจ้องเขม็งไปที่คนขับ อีกฝ่ายก็จ้องกลับมาเช่นกัน
เอี๊ยด!
เสียงล้อครูดไปกับพื้นถนนส่งเสียงดัง คนขับหักพวงมาลัยเลี้ยวรถขับเฉียดคนที่ยืนนิ่งจ้องมองมา เหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้คนมองเห็นใจหายใจคว่ำไปตามๆกัน แต่พอสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ต้าร์ที่ยืนนิ่งด้วยความตกใจก่อนหน้านี้ก็รีบเดินเข้าไปหาควิน จับแขนไว้พลางมองสำรวจร่างสูงตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“พี่ควินเป็นอะไรหรือเปล่าฮะ เจ็บตรงไหนมั้ย”
ต้าร์ถามอาการหน้าตาตื่น ยังรู้สึกตกใจไม่หายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ไม่เป็นไร”
ควินตอบเสียงเรียบ สะกดกลั้นโทสะไว้สุดกำลัง
“ไม่เป็นไรแน่นะมึง ไอ้เหี้ยเอ๊ย! ขับรถภาษาอะไรของมันวะ”
แซทสบถอย่างโกรธแค้นแทนเพื่อน
“กูไม่ปล่อยมันไว้แน่”
ควินเค้นเสียงลอดไรฟัน กำมือแน่นจนสั่น
“พี่ควินรู้จักเจ้าของรถคนนั่นเหรอฮะ”
ต้าร์ถามอย่างสงสัยก้มมองมือควินที่สั่นจนรู้สึกได้
‘รู้จัก รู้จักดีเลยล่ะ’
ควินตอบในใจ เผยแสยะยิ้มและแววตาน่ากลัวออกไป ต้าร์ถึงกับสะดุ้งเผลอปล่อยแขนอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัวกับสิ่งที่เห็น
‘มึงกับกูคงอยู่ร่วมโลกเดียวกันไม่ได้ กูจะส่งมึงลงนรกเอง ไอ้สัดฮาร์ฟ ไอ้ลูกเมียน้อย!’
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ครบ 100% แล้ว
ฟิตจัด
ทิ้งระเบิดไว้ให้คนอ่านเดาเรื่องกันต่อไป
ฮาร์ฟคือใคร? ใครคือฮาร์ฟ? ยังจำกันได้มั้ยเอ่ย? ฮาร์ฟโผล่มาในพาร์ทปัจจุบัน ในบทสนทนาของควินกับต้าร์
แต่ตอนไหนคนแต่งก็ลืมไปแล้ว
(แต่งเองลืมเอง
) บอกได้เลยว่าคนชื่อฮาร์ฟแซ่บมาก
ผู้ชายคนนี้จะมาขโมยซีนควินกับแซท นี่พูดเลย
พระเอกหลบไปค่าาาา
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และการติดตามนะคะ
ขอบคุณที่ยังแวะเวียนเข้ามาอ่านกัน
เจอกันตอนหน้าค่ะ