ตอนที่ 3ในเช้าวันต่อมาพี่สมัยเอาเลโก้มาให้ไอ้กวิ้นตามที่บอกไว้ ทั้งยังอยู่ติวหนังสือให้ไอ้กวิ้นจนถึงเย็น โดยที่ไอ้กวิ้นปฏิเสธเสียงแข็งเพราะมันไม่มีกะจิตกะใจจะอ่านหนังสือเรียนเลยสักนิด ตอนนี้มีแต่คุโด้ ชินอิจิเท่านั้นที่จะบรรเทาความทุกข์ตรมให้มันได้
"กูอธิบายไป เข้าหัวบ้างปะเนี่ย" สมัยมองไอ้เด็กตัวโย่งด้วยความเหนื่อยใจ มันซึมจนผิดสังเกต ถามคำตอบคำ ข้าวก็กินได้น้อยจนต้องดุกันบ้าง เป็นเด็กที่ปล่อยให้อยู่คนเดียวไม่ได้ เพราะไม่รู้จักดูแลตัวเอง เทียบกับน้องเหมอที่โดนตามใจอย่างหนักจากเขาและคุณแม่แล้ว เพนกวิ้นก็ไม่ได้แตกต่าง ด้วยมีพี่เลี้ยงทำทุกอย่างให้ตั้งแต่เด็ก ถึงทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่างเดียว ร่างกายก็อ่อนแอ ตัวสูงเสียเปล่าแต่กลับผอมแรงน้อย ไม่เหมือนน้องเหมอที่ตัวล่ำเพราะถูกบังคับให้ออกกำลังกายแทบทุกวัน เพนกวิ้นจึงได้น่าเป็นห่วงกว่าน้องเหมอนัก ยิ่งมันเป็นลูกคนเดียว ขี้เหงาและติดเขามากอย่างนี้ ก็ยิ่งน่าห่วง
"ไม่อ่ะ" ไอ้กวิ้นส่ายหน้า หลบสายตาที่มองมา "กวิ้นอยากอ่านการ์ตูนแล้ว"
"จะสอบอยู่แล้วยังจะอ่านการ์ตูนอีกเหรอวะ ตั้งใจหน่อย"
ไอ้กวิ้นหลับตาลง สัมผัสจากมือใหญ่ของพี่สมัยทำให้หัวใจมันปวดหน่วงจนเผลอปัดออกโดยแรง
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่อยากอ่าน!"
"กวิ้น" สมัยเสียงเข้มขึ้นมาทันที ใบหน้าก็ดุจัดจนไอ้กวิ้นหงอ "เป็นอะไร"
"ไม่ได้เป็นไร" ไอ้กวิ้นปฏิเสธ แต่สีหน้าของมันโกหกสมัยไม่ได้
"พูดมา"
"พี่หมัยจะคาดคั้นทำไม บอกว่าไม่เป็นอะไรนี่ฟังไม่เข้าใจเหรอวะ"
ไอ้กวิ้นรู้ว่าไม่ควรพาล รู้ว่าพี่สมัยไม่ได้ทำอะไรผิด แค่เพราะมันกำลังเสียใจ แค่เพราะ...พี่สมัยไม่ได้คิดเหมือนกัน ไอ้กวิ้นถึงได้เสียศูนย์อย่างนี้
สมัยถอนหายใจ มองไอ้นกบื้อด้วยความเอ็นดู พอจะรู้แล้วว่ามันกำลังงอแงเรื่องอะไร "ขอโทษที่เมื่อคืนไม่ได้โทรหา"
"..."
"พาไปกินไอติมจะหายโกรธไหม"
"..."
"กูฝากเพื่อนซื้อฟิกเกอร์ที่มึงอยากได้ให้แล้วด้วย"
"..."
"อ้าว..ร้องไห้ทำไมวะ"
สมัยตกใจที่จู่ๆ ไอ้นกบื้อมันก็น้ำตาไหลอาบแก้ม แล้วมันก็แหกปากร้องงอแงเหมือนตอนที่น้องเหมอแกล้งกวนตีนคุณพ่อ แต่ไอ้นกบื้อมันร้องแบบไม่ได้แกล้งจึงต้องดึงมันเข้ามากอดปลอบ มันสะอื้นจนตัวโยน น่าสงสารเสียจนรู้สึกเสียใจไปกับมันด้วย ทั้งๆ ที่ไม่รู้เลยว่าเรื่องอะไรที่ทำให้มันเป็นแบบนี้
"นกบื้อเอ้ย" เวลากอดปลอบน้องเหมอ สมัยจะทั้งจูบแก้ม จูบขมับ ลูบหัวปลอบโยน ทว่า...กับเพื่อนของน้องชายคงจะทำอย่างนั้นไม่ได้ ไม่ว่าจะเอ็นดูมากแค่ไหน ไอ้กวิ้นก็ไม่ใช่น้องแท้ๆ สมัยจึงทำเพียงลูบหลังปลอบเท่านั้น
"มึงนี่ยิ่งกว่าเด็ก เอาไง จะกินไหมไอติม"
ไอ้กวิ้นได้มือใหญ่ของพี่สมัยเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้ มันพยักหน้าช้าๆ สบตาแดงก่ำเข้ากับดวงตาคมของพี่ชายเพื่อน ลังเลใจอยู่เพียงครู่ว่าจะพูดออกไปดีหรือไม่ แต่แล้ว...ปากมันก็ไวกว่าการประมวลผลของสมองถึงความสมเหตุสมผลจนได้ "เมื่อคืน...กวิ้นโทรหา"
สมัยชะงักไปเพียงนิดกับคำบอกเล่า แววตาที่อ่านไม่ออกมองสบกับดวงตาแดงก่ำของไอ้กวิ้นโดยไม่หลบหลีก
"กวิ้นถามได้ไหม"
"ถามอะไร"
"เมื่อคืนพี่หมัยนอนกับใคร"
สมัยเลิกคิ้ว ก่อนจะผลักหน้าผากไอ้กวิ้นไปสองสามที "ไม่ใช่เรื่องของเด็ก"
"กวิ้นไม่เด็ก!"
"อย่างน้อยก็เด็กกว่ากูเกือบสิบปี" ไอ้กวิ้นอ้าปากจะโต้ แต่ก็ต้องหุบปากฉับเมื่อพี่สมัยของมันพูดตัดบทว่า "หยุดพูด ไม่ต้องเถียง แล้วก็ลุกไปล้างหน้าล้างตา ร้องไห้เหี้ยไรก็ไม่รู้ ไปๆ"
"พี่หมัยตอบมาก่อน ไม่งั้นไม่ไปอ่ะ"
ไอ้กวิ้นดื้อดึง มันยืนยันจะรู้ให้ได้ แม้หัวใจจะร้องบอกว่า พอแล้ว แค่นี้ก็เจ็บมากแล้วก็ตาม แต่มันก็ยังอยากจะรู้อยู่ดีว่าผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นเป็นใคร
"น้องเหมอยังไม่หวงกูเท่ามึงเลยเนี่ย จะนอนกับใครก็เรื่องของกูปะวะ" สมัยทำหน้าเอือม ลุกขึ้นยืนแล้วดึงไอ้กวิ้นให้ลุกตาม ก่อนจะลากมันเข้าไปในห้องน้ำ
"พี่หมัยนิสัยไม่ดี เจ้าชู้" ไอ้กวิ้นออกปากว่า ก่อนมันจะสะดุ้งโหยงเมื่อมือใหญ่วักน้ำเย็นใส่หน้า "ไอ้พี่หมัย! มันเย็นนะ!"
"เออ เย็นดิ จะได้หายบ้า ทำเป็นเด็กหัวร้อนไปได้" สมัยหัวเราะขำกับไอ้นกบื้อที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ "อะไร มองหน้า เดี๋ยวกูก็จับปิ้งซะหรอก"
"ไอ้พี่หมัยชั่ว"
"เดี๊ยะๆ ปากดีไอ้กวิ้น" สมัยวักน้ำล้างหน้าล้างตาให้ไอ้นกที่ไม่ยอมทำตามคำสั่ง มันทำเบี่ยงหน้าหนี แต่ก็หลบไม่พ้นอยู่ดี "หึหึ นกบื้อ ถ้าอยากสู้กูได้ก็ออกกำลังกายบ้าง"
ไอ้กวิ้นหูแดงก่ำเมื่อนิ้วเรียวสวยของพี่สมัยปัดผ่านจมูกและริมฝีปากของมัน "ไม่เอา ขี้เกียจ"
"มึงโตแล้ว จะเอาแต่นอนเล่นเลโก้ ต่อจิ๊กซอว์ไม่ได้ ออกไปทำกิจกรรมอย่างอื่นบ้าง อยู่แต่ในห้อง ไม่โดนแดด ร่างกายอ่อนแอ ป่วยง่าย"
"เวลาป่วยพี่หมัยก็มาดูแลนี่ ไม่เห็นเป็นไรเลย" พอได้ยินมันเถียงก็อดที่จะบีบแก้มมันไม่ได้ "โอยย พี่หมัย กวิ้นเจ็บนะ"
"เจ็บก็ดี จะได้สำนึก"
"ตอนพี่หมัยอายุ 16 ก็ขี้เกียจเหมือนกันแหละ"
"มึงจะเถียงให้ได้ทุกเรื่องว่างั้น"
"ใช่" ไอ้กวิ้นยอมรับ มันจึงถูกบีบแก้มอีกข้าง "ไอ้พี่หมัยยย ปล่อยยย"
"น้องเหมอยังไม่เคยเถียงกูเลย มึงเป็นใครเนี่ย"
"นั่นเพราะพี่หมัยไม่เคยดุมันไง มันเลยไม่เคยเถียงพี่ แต่พี่หมัยดุกวิ้นอ่ะ ดุทำไม กวิ้นทำอะไรผิดล่ะ เกลียดพี่หมัย นิสัยไม่ดี" ไอ้กวิ้นระเบิดเป็นชุดจนพี่สมัยของมันสตั้นไปหลายวินาที
"กูยอมแพ้เลย" สมัยว่าเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าให้ไอ้นกบื้อที่ชอบตีปีกเถียงคอเป็นเอ็น "เอาไง จะไปกินไอติมไหม"
"ไปๆ พี่หมัยพาไปกินข้าวด้วย กวิ้นหิวแล้ว"
สมัยส่ายหน้าระอา ไอ้เด็กกวิ้นมันพลิกอารมณ์กลับไปกลับมาจนตามแทบไม่ทัน "ตอนกลางวันเสือกกินน้อย ไม่หิวก็ไม่รู้จะว่าไงละ"
"ก็ตอนนั้นกินไม่ลงนี่"
"ทำไม?"
"กวิ้นโกรธพี่หมัย เสียใจ ไปนอนกับใครก็ไม่รู้"
สมัยจับหัวไอ้กวิ้นโยกไปมา คำพูดของมันน่าเอ็นดูจนโกรธไม่ลง "ไม่ใช่ใครก็ไม่รู้ แต่เป็นคนที่กูคุยกับเขามาสักพักแล้ว"
ไอ้กวิ้นใจกระตุก รู้สึกราวกับดิ่งลงเหวอีกครั้ง จากที่เคยเข้าใจว่าพี่สมัยคุยกับมันแค่คนเดียว กลับเป็นความเข้าใจผิดที่ร้ายแรงจนหัวใจเจ็บหนัก
"แฟนเหรอ..."
"งั้นมั้ง"
"ไม่เห็นพี่บอกกวิ้นเลย..."
สมัยหัวเราะ "ทำไมกูต้องบอกวะ กูจะมีแฟนนี่ต้องรายงานมึงด้วยเหรอ"
"..."
"ถ้ามึงจะโกรธกูเรื่องนี้ กูบอกเลยนะว่ากูไม่ง้อ ไม่ใช่เรื่อง"
"กวิ้นไม่ได้โกรธ ไม่มีสิทธิ์อะไรไปโกรธพี่หมัยหรอก"
"งั้นก็เลิกทำหน้างอ แล้วเก็บของ จะได้ไปกินไอติม"
"อืม"
ไม่โกรธหรอก...แค่เสียใจเท่านั้นเองพี่หมัย กวิ้นเสียใจได้ใช่ไหม มีสิทธิ์เสียใจได้ใช่รึเปล่า...********************
หลังจากที่รู้ว่าพี่สมัยมีแฟน ไอ้กวิ้นก็เหมือนจะต้องฝังความรู้สึกของมันไว้ในส่วนลึกที่สุดของใจ บ่อยครั้งที่โทรไปหาแล้วขึ้นรอสาย บ่อยครั้ง...ที่คุยกับพี่สมัยอยู่ดีๆ ก็มีสายซ้อนและเขาก็ขอวางแล้วไปรับสายจากอีกคน บ่อยครั้ง...ที่ไอ้กวิ้นคิดว่ามันเป็นคนสุดท้ายที่ได้บอกฝันดีพี่สมัย แต่สุดท้ายก็รู้ว่าหลังจากที่คุยกับไอ้กวิ้นแล้ว พี่สมัยก็ยังคงคุยกับแฟนของเขาต่อ
ไอ้กวิ้นอดทน อดทนกับความเสียใจ อดทนกับความรักข้างเดียวที่มันได้แต่คิดไปเองคนเดียวอยู่นานหลายเดือน ว่าพี่สมัยก็คิดเหมือนกับมัน แต่แท้จริงแล้ว...พี่สมัยวางมันไว้ในฐานะน้องชายเท่านั้นเอง
พี่สมัยยังคงดูแลมันตามปกติ ยังคงเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ แค่เวลาที่เจอกันลดน้อยลง เพราะเขาก็มีใครอีกคนที่ต้องดูแล ความสำคัญของไอ้กวิ้นจึงมักมาทีหลัง หนังที่ไอ้กวิ้นอยากดูก็ต้องไปดูคนเดียวเพราะพี่สมัยเขาดูกับแฟนของเขาแล้ว สโมสรกอล์ฟก็ไม่ได้ไปอีกเลยหลังจากที่ครั้งล่าสุดต้องไปทนนั่งเป็นก้างของพี่สมัยกับแฟน ไอ้กวิ้น...เป็นได้แค่ตัวเกะกะ เป็นส่วนเกินที่ไปอยู่ผิดที่ผิดทาง มันรู้ว่าพี่สมัยไม่ได้ตั้งใจ รู้ว่าพี่สมัยปล่อยให้ไอ้กวิ้นอยู่คนเดียวไม่ได้ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะชวนไปด้วยตลอด ไอ้กวิ้นเด็กขี้เหงาจึงได้แต่โกหกว่าตัวมันติดธุระ อ้างนั่นอ้างนี่ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้มีธุระอย่างที่บอกไป มันเอาแต่นั่งต่อเลโก้ ต่อจิ๊กโซว์ ดูการ์ตูนอยู่ในโลกของมัน ไม่อยากออกจากโลกที่เต็มไปด้วยความสุขที่สร้างขึ้นเอง...เพื่อไปเจอโลกความเป็นจริงที่ทำให้มันเจ็บไปทั้งใจ
ไอ้กวิ้นขี้ขลาดแต่ในบางครั้งก็ฮึดสู้...มันอดไม่ได้ที่จะต้องเข้าโลกโซเชียลไปรับรู้ความเป็นไปที่ยิ่งรู้ ใจมันก็ยิ่งเจ็บ ไอ้กวิ้นไม่เข้าใจการกระทำของพี่สมัยเลย ไม่เข้าใจว่า...ทำไมต้องซ่อนโพสซ่อนสเตตัสที่แฟนแท็กมาจากสายตาของไอ้กวิ้นด้วย มันรู้...รู้ดีเพราะออนเฟซของพี่สมัยอยู่ ณ ขณะนี้ มันรู้รหัสเฟซนานแล้วและไม่เคยคิดจะเข้าเพราะกลัวจะเป็นการเสียมารยาท แต่ในวันที่มันนึกอยากจะเจ็บให้ถึงที่สุดเพื่อจะได้ตัดใจ ความอยากรู้ของมันก็ทำให้ต้องล็อคอินเข้าเฟซของพี่สมัย ห้องสนทนากับแฟนนั้นช่างหวานล้ำ สเตตัสที่โพสถึงกันก็ทำให้หัวใจไอ้กวิ้นแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่ในหน้าเฟซของไอ้กวิ้นนั้นกลับไม่มีสเตตัสเหล่านี้เลยแม้แต่นิด
...ยิ่งได้เห็นความจริงก็ยิ่งปวดใจ ยิ่งได้รู้ก็ยิ่งปวดร้าว
พี่สมัย...ซ่อนสเตตัสทุกสเตตัส ปิดซ่อนไม่ให้ขึ้นในฟีดข่าวของเฟซไอ้กวิ้นมาตั้งนานแล้ว... นับตั้งแต่ที่หายไปและไอ้กวิ้นเข้าใจว่าคงเรียนหนัก แต่ความจริงไม่ใช่...พี่สมัยซ่อนทุกอย่างจากสายตาของมัน ปิดซ่อนแม้แต่สถานะออนไลน์
ถ้ารำคาญ...ทำไมไม่พูดตรงๆ ถ้ากลัวไอ้กวิ้นจะเข้าไปวุ่นวาย...พี่สมัยแค่บอกกันเท่านั้น แค่บอก...ไอ้กวิ้นก็พร้อมจะถอยห่างครืด...ครืด...ครืด....
P'mai
slide to answer..
ไอ้กวิ้นสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะตัดสินใจรับสาย
"ครับ"
"มึงออนเฟซกูอยู่เหรอวะ" น้ำเสียงของพี่สมัยหงุดหงิดจนแทบจะเป็นเสียงตะคอก
"ครับ"
"ทำไมนิสัยเสียอย่างนี้กวิ้น"ไอ้กวิ้นเงียบ ยอมรับในข้อกล่าวหา
"อย่ายุ่งวุ่นวายให้มาก แฟนกูยังไม่เคยทำถึงขนาดนี้"ไอ้กวิ้นได้แต่ยิ้ม "ขอโทษครับพี่หมัย"
"อย่าทำอีก กูไม่ชอบคนล้ำเส้น""ครับ ขอโทษจริงๆ ครับพี่" น้ำเสียงของไอ้กวิ้นแผ่วเบา
พี่สมัยเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนจะถามกลับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
"แล้วกินอะไรหรือยัง""กินแล้วครับ" ไอ้กวิ้นโกหก ตั้งแต่เช้าจรดเย็น มีแค่น้ำเปล่าเท่านั้นที่ตกถึงท้อง มันเอาแต่ต่อเลโก้จนลืมเวลา ปราสาทขนาดใหญ่ที่พี่สมัยให้มานั้น...ต่อยากเหลือเกิน ชิ้นส่วนเยอะ...รูปแบบซับซ้อน ไม่แตกต่างจากหัวใจของคนที่ให้มาแม้แต่น้อย
"ไม่เชื่อ อาบน้ำแต่งตัว เดี๋ยวไปรับ""ไม่ไปครับ"
"กวิ้นกวิ้น""ผมวางนะ แล้วก็ขอโทษด้วยที่รบกวนพี่มาตลอด แต่ทีหลัง พี่บอกกันมาตรงๆ ก็ได้นะครับ ไม่ต้องเกรงใจผม อย่าให้ผมสร้างความวุ่นวายให้กับชีวิตของพี่มากไปกว่านี้เลย"
"มึงเป็นอะไร"ไอ้กวิ้นแสยะยิ้ม มันเกลียดคำถามแบบนี้เสียจริงๆ "ผมเป็นแค่นกโง่ๆ ตัวหนึ่งเท่านั้นครับ"
นกโง่...มันบินไม่เก่ง บินขึ้นที่สูงไม่ไหว ตะกายขึ้นไปบนฟ้าก็คงตกลงมาตายวันยันค่ำ แต่ถึงอย่างนั้น...ก็ยังกระเสือกกระสนอย่างไม่เจียมตัว
ให้ดวงเดือนแวดล้อมด้วยหมู่ดาว ส่วนนกอย่างมัน...ขอเฝ้ามองจากพื้นดินก็พอ
**********************
ต่ออีกหน้า