◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ [รักวุ่นๆ ในวงการวอลเลย์บอลชาย] ◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ [รักวุ่นๆ ในวงการวอลเลย์บอลชาย] ◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯  (อ่าน 26900 ครั้ง)

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
  ค้างคับค้าง อยากอ่านต่อ 
  รออ่านตอนต่อไปคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2017 16:46:17 โดย GuoJeng »

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เปาปฏิเสธตัวเองตลอด

แบบนี้จะทีความสุขหรอครับ,,,,

ออฟไลน์ farhhhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ได้แต่เป็นกำลังใจให้ไท้ช่วยเติมเต็มเปาอ่ะ
ไม่รู้ว่าการที่โค้ชรู้ว่าลูกเป็นเกย์ แล้วมาเสนอหน้าทำให้เปารู้ว่าเออ พ่อรู้พ่อเห็นตอนนี้จะดีหรือเปล่า มันจะกดดันเปาไหม กดดันแน่ล่ะ เปาไม่ชอบเกย์แต่จะต้องยอมรับตัวเองอ่ะ สงสาร อย่างที่โค้ชบอกนั่นแหละ กลัวเปาจะเกลียดตัวเองแล้วคิดโง่ๆ ปกติก็ดูเป็นคนโง่อยู่ละ5555

รอตอนต่อไปค่า~ สนุกทุกตอนเลย

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ทำไมครับ
ลูกเป็นเกย์มันผิดตรงไหนครับ

ถ้าผิด..ผิดมากไหม
ผมอยากรู้ จริงๆ นะ

หึหึ อย่าตีค่าราคาคน
สรุปกันแบบนี้เลย

คนเหมือนกันนะครับ
อ้อ..ที่สำคัญเป็นคนดี ไม่ทำให้สังคมเดือดร้อน

เข้าใจใหม่ด้วยครับ

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
EP 13 | ทวงถาม


เปาวางกระเป๋าลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า พลันก็หย่อนก้นลงนั่งไปด้วย คำพูดของพ่อยังคงก้องอยู่ในหัว โดยเฉพาะประโยคที่ว่า "ก่อนพ่อตาย...พ่อคงจะได้กอดเปาสักครั้ง พ่อรักเปานะลูก เปาเป็นลูกของพ่อ เป็นตัวแทนความรักของพ่อกับแม่..."

จะว่าไปมันก็ช่างสะท้อนใจเหลือเกิน เปาไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าวันหนึ่งจะได้ยินพ่อพูดแบบนี้ มีหรือที่เปาจะไม่โหยหาอ้อมกอดที่อบอุ่นจากพ่อ ตั้งแต่แม่ตายไป เขาไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากพ่อแม่อีกเลย แน่นอนว่าเปาไม่เคยลืมว่าพ่อรักเขามากแค่ไหนเมื่อตอนเป็นเด็ก แต่ไม่รู้ว่าโชคชะตาเล่นตลกอะไรกันแน่ ความรักถึงได้กลับกลายมาเป็นความเกลียดชังในวันนี้

ก่อนแม่ตาย เปารู้ระแคะระคายมาบ้างว่าพ่อกับแม่มีปัญหากันมาระยะหนึ่งแล้ว ที่จริงอาจจะนานกว่านั้น แต่เปายังไม่รับรู้เพราะยังเด็กเกินไป แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่าหลังจากที่แม่มีเปา พ่อกับแม่ก็ไม่มีลูกอีกเลย นับว่าแปลกมากทีเดียว เพราะฐานะของพ่อกับแม่พอเลี้ยงดูลูกเพิ่มอีกสองสามคนได้สบายๆ โดยไม่ลำบาก

ช่วงนั้นพ่อไม่กลับบ้าน ปล่อยให้แม่อยู่บ้านและร้องไห้ วันไหนกลับมาก็ทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวัน แม้ว่าพยายามไม่ทะเลาะกันให้เปาเห็น แต่เขาก็รับรู้ โดยเฉพาะความเจ็บปวดของแม่ ตอนนั้นเปารู้แล้วว่าพ่อเป็นเกย์ เพราะคนแถวนี้ลือกันไปทั่ว เวลาเปาออกไปเล่นกับเพื่อนๆ แถวนี้ เปามักถูกล้อว่าพ่อเป็นเกย์ บางคนก็กล่าวหาว่าที่พ่อเปาหายไปบ่อยๆ เพราะไปหาชู้ผู้ชาย

ความรักในตัวพ่อจึงเริ่มลดลงตั้งแต่วันนั้น วันที่แม่ตาย เปาไม่พูดกับพ่อนานหลายเดือน แต่หลังจากที่กลับมาคุยกันก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิม สองพ่อลูกกลายเป็นคนแปลกหน้ากัน พูดกันคำสองคำ แม้ว่าตายาย ปู่ย่าและญาติๆ ทั้งสองฝ่ายจะเกลี้ยกล่อมอย่างไร เปาก็ไม่ให้อภัยพ่อ กระนั้นเปาก็รู้สึกว่าแปลก แทนที่ญาติฝ่ายแม่จะโกรธเกลียดพ่อของเปาไปด้วย แต่ทุกคนกลับแสดงท่าทีตรงกันข้าม ซ้ำยังอยากให้เปายกโทษให้พ่ออีกต่างหาก

ก่อนเปาจะล้มตัวลงนอน เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ตอนแรกเขาทำท่าไม่สนใจเพราะคิดว่าเป็นพ่อ แต่พอนึกได้ว่ามีคนมากดกริ่งเรียก เขาก็พลันสงสัยว่าฟางอาจมาหา เธอเงียบหายไปหลายอาทิตย์แล้ว ไม่มาพบหน้า ไม่ติดต่อพูดคุย ไม่มีข่าวคราวใดๆ แม้จะรู้ว่าเปามีปัญหาเรื่องร้าน ฟางก็ยังทำเฉย เธอคงเบื่อเพราะเตือนเปาหลายครั้งแต่เขาไม่ฟังเอง

ด้วยความดีใจเพราะคิดว่าแฟนมาหา เปาจึงผุดลุกขึ้นยืน ก่อนรีบเดินไปเปิดประตู แต่คนที่มาหากลับไม่ใช่ฟางเสียอย่างนั้น คนที่ปรากฎตรงหน้าคือหนุ่มน้อยร่างสูง ผิวขาว หน้าตี๋และยิ้มซื่อๆ ต่างหาก

"พี่เปา" ทันทีที่เห็นหน้า ผู้มาเยือนก็เอ่ยเรียก ท่าทีดูเหมือนเกรงใจ กระนั้นก็ดีใจไม่น้อยที่ได้มาเห็นหน้ากันจนได้ หลังจากที่ติดต่อกันไม่ได้มาหลายวัน

"ไท้" เปาหลุดคำเรียกออกไปเช่นกัน ความรู้สึกบางอย่างในใจพลันทวีขึ้น ถ้าหากคนที่มาหาเป็นฟาง เปาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะมีความรู้สึกแบบนี้ให้ฟางหรือเปล่า แต่ตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นกับคนที่อยู่ตรงหน้าเปา

"ไท้...เป็นห่วงพี่ ก็เลยแวะมาหา" หนุ่มน้อยพูดอย่างระมัดระวัง ก่อนค่อยๆ เผยรอยยิ้ม แม้เป็นยิ้มซื่อๆ และบริสุทธิ์ แต่มันก็เป็นรอยยิ้มที่มีค่าและความหมาย

เปาพลันรวบร่างสูงเข้ามากอดไว้แน่น ไม่รู้ว่าเพราะคิดถึงหรืออะไรกันแน่ ไท้ก็กอดเขาแน่นเช่นเดียวกัน เขารู้ว่าช่วงนี้ไท้ไปแข่งวอลเลย์บอลที่นครปฐม อยู่ไกลจากที่นี่ไม่น้อย แต่ไท้ก็ยังอุตส่าห์มาหาถึงนี่ทั้งที่ไม่ค่อยชำนาญทาง ในขณะที่แฟนสาวของเปาเอง แม้ไม่ได้อยู่ไกลกันมาก แต่กลับไม่คิดจะมาหากันเลย ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าเปากำลังต้องการใครสักคนมากแค่ไหน

ยังไม่ทันที่เปาจะเอื้อนเอ่ยคำพูดต่อไป ร่างของพ่อก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าประตู ห่างออกไปไม่ไกลนัก สีหน้าของพ่อดูตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นลูกชายของตัวเองกำลังกอดกับผู้ชายอีกคนอยู่ เปาจึงรีบผละออก ไท้คงสงสัยจึงหันไปมองตาม ก่อนจะทำหน้าตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

"โค้ช!/พ่อ!"

ทั้งเปาและไท้ต่างอุทานเบาๆ พร้อมกัน ก่อนปล่อยให้ความเงียบเข้ามาแทรกพักหนึ่ง โค้ชเด้งค่อยๆ คลายสีหน้าตกใจลง ไม่นานก็พูดกึ่งสั่ง

"ทั้งสองคน ลงไปคุยกับพ่อข้างล่าง"

โค้ชเด้งเดินลงไปข้างล่างตามเดิม ส่วนเปากับไท้ยืนมองหน้ากัน ท่าทางดูหวั่นใจพอสมควร ไม่มีใครเอื้อนเอ่ยคำใดอีก เปาเป็นคนเดินนำไปก่อน ไท้รีบเดินตามลงไปสมทบทีหลัง เมื่อเห็นโค้ชเด้งนั่งรออยู่ข้างล่างก็ยิ่งเกิดความไม่มั่นใจ

เปากับไท้นั่งลง สบตากับโค้ชเด้งแวบเดียวก่อนก้มลงมองพื้นโต๊ะ แต่คำถามของโค้ชเด้งก็ทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาใหม่

"เปาชอบไท้เหรอลูก"

เปากับไท้มองหน้ากันเลิ่กลั่ก แต่ก็ยังไม่มีใครพูดอะไร ไม่ว่าจะตอบรับหรือปฏิเสธ โค้ชเด้งจึงต้องพูดต่อ

"ที่จริง...พ่อรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่เปา...อยู่มอปลายแล้ว"

สีหน้าตกใจฉายวาบขึ้นบนใบหน้าของเปา แต่เขาก็ได้แต่เงียบเพราะคิดว่าพ่อคงอยากพูดอะไรต่อ

"พ่อเคยสงสัยว่าเปาหายไปไหนบ่อยๆ ช่วงวันหยุด พ่อก็เลยแอบขับรถตามไปดู แล้วพ่อก็เห็น..."

แม้โค้ชเด้งไม่พูดต่อ เปาก็รู้ว่าพ่อเห็นอะไร ช่วงนั้นเขาชวนจีนไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ บ่อยจนกระทั่งความสัมพันธ์ทางกายเลยเถิด จีนจึงทั้งรักทั้งหลงเปา ในขณะที่เปากลับไม่เคยแสดงท่าทีชัดเจนเลย แต่การอยู่ใกล้ชิดสนิทสนมย่อมทำให้อีกฝ่ายคิดเตลิดไปไกลเป็นธรรมดา แม้ว่าตอนอยู่โรงเรียนจะพยายามทำตัวเหมือนเพื่อนกัน แต่พอห่างตาเพื่อนๆ ก็เป็นอีกอย่าง

"ฟางรู้เรื่องนี้หรือยัง ที่ฟางหายหน้าไป เพราะเรื่องนี้หรือเปล่า" โค้ชเด้งถามต่อ แม้ไม่รู้ว่าจะได้คำตอบหรือไม่เขาก็ต้องถาม

"ครับ" เปารับคำสั้นๆ

สีหน้าตกใจของโค้ชเด้งแวบขึ้นให้เห็น จากนั้นเขาก็ถอนหายใจ "แล้วเปาจะเอายังไง"

เปาไม่ตอบ เป็นไปได้ว่าคำถามคงยากเกินไป ในขณะที่ไท้ชักเริ่มรู้สึกหวั่นใจ เขาเองก็รู้สึกไม่สบายใจนักที่เป็นต้นเหตุให้เปากับแฟนต้องทะเลาะกัน ที่สำคัญ ไท้ถือว่าเป็นมือที่สามด้วยซ้ำ ปฏิเสธความผิดไม่ได้เลย

"คบกันมานานแค่ไหนแล้ว" โค้ชเด้งถาม ก่อนจะปรับคำถามใหม่ให้ตรงกับเรื่องที่สงสัยมากขึ้น "พ่อหมายถึง...เปากับไท้...ยังไม่เลยเถิดไปไกลใช่ไหม"

สีหน้ายุ่งยากใจปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเปา เท่านี้โค้ชเด้งก็พอจะเดาได้ว่าสองคนนี้น่าจะเลยเถิดไปแล้ว

"โค้ชครับ" ไท้พูดขึ้นมาบ้าง พลันเขาก็กลายเป็นจุดสนใจของสองพ่อลูกขึ้นมาทันที "ผมผิดเองครับ ต่อไป...ผมจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก ผมจะหยุดทุกอย่างเองครับ"

"ไท้" เปาทำหน้าตกใจ เขารีบเอื้อมมือไปจับมือของไท้ไว้ ดีที่โต๊ะบังไว้พ่อจึงไม่เห็น

ไท้ก้มมองมือนั้น ก่อนจะค่อยๆ ดึงออก "ผมไม่อยากให้พี่เปา พี่ฟางแล้วก็โค้ช...มีปัญหากัน ผมว่าผมหยุดดีกว่า"

"แล้วไท้คิดยังไงกับเปา" โค้ชเด้งถามสวน "ไท้รักพี่เขาหรือเปล่า"

ไท้ทำหน้ายุ่งยากใจ แม้ว่าจะเร็วเกินไปที่จะบอกว่ารัก แต่ความรู้สึกของไท้ก็ถลำไปมากแล้ว จะเรียกว่าเริ่มรู้สึกรักก็คงไม่ผิดจากความจริง

"ครับ" ไท้ยอมรับ

สองพ่อลูกทำหน้าตกใจพร้อมๆ กัน ไท้ขาดพ่อมาตั้งแต่เด็กๆ ลึกๆ เขาจึงโหยหาความอบอุ่นจากผู้ชาย ช่วงเวลาสั้นๆ ที่อยู่กับเปา มีเปาคอยดูแลเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ให้ จนกระทั่งความสัมพันธ์เลยเถิด ความรู้สึกของไท้จึงล้ำเส้นเข้ามาในแดนต้องห้าม

"แต่มันก็ผิด ผมไม่ควรทำแบบนี้ ผมจะหยุดทุกอย่างเองครับ" ไท้ย้ำประเด็นเดิมอีกครั้ง

โค้ชเด้งถอนหายใจ ยิ่งลูกชายไม่แสดงท่าทีใดๆ เขาก็ยิ่งหนักใจ "พ่อไม่รู้ว่าเราสองคนจะตัดสินใจยังไงนะ แต่พ่อจะบอกเปาว่า...เปาต้องฟังเสียงหัวใจตัวเอง แล้วก็ทำให้มันถูกต้อง ถ้ารักไท้...ก็ควรจะบอกฟางตรงๆ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรผูกมัดกัน เปายังมีสิทธิ์เลือก แต่ถ้าเปายังรักฟางอยู่ พ่อก็ขอให้เปาหยุดแค่นี้ อย่าให้ความหวังกับไท้อีก"

โค้ชเด้งหยุดเว้นจังหวะ เพราะเขาต้องการให้เปาสนใจสิ่งที่เขาจะพูดต่อไปนี้ "เปายังมีเวลาเลือก พ่ออยากให้เปาคิดให้ดีๆ เพราะพ่อ...ไม่อยากให้เปามีชีวิตเหมือนพ่อ คนที่ไม่เลือกสิ่งที่ตัวเองเป็น มันไม่มีความสุขหรอก"

เปานิ่งอึ้ง สีหน้าดูยุ่งยากใจเล็กน้อย ที่จริงอาจจะหนักใจมากกว่านั้น แต่เขามักระวังความรู้สึกบางอย่างเมื่ออยู่กับพ่อเสมอ

โค้ชเด้งถอนหายใจอีกครั้ง เขารู้ว่าเปายังไม่ติดสินใจ หรืออาจจะมีคำตอบในใจแล้วแต่ไม่ยอมบอก ก็คงต้องปล่อยไปก่อน ไม่มีประโยชน์ที่จะคาดคั้นเอาให้ได้ตอนนี้ เพราะเปาไม่มีทางเปิดปากพูดแน่ๆ

"อีกเรื่องหนึ่งที่พ่ออยากจะบอกเปา ตอนนี้...สมาคมวอลเลย์บอลต้องการพัฒนาเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬาให้นักกีฬา เรากำลังหาคนอยู่ เราอยากได้คนมาช่วยดูเรื่องโภชนาการ เรื่องการพัฒนาสมรรถภาพของร่ายกาย พ่อคิดว่าเปาทำได้ ถ้าตอนนี้เปายังไม่รู้ว่าจะทำอะไร พ่อก็อยากให้เปามาช่วยเรา ตอนนี้...ไท้เขาโดดเด่นมาก ช่วยทีมได้เยอะเลย ไท้เขาบอกว่า...เปาช่วยเทรนเพิ่มเติมให้เขา ถ้าเปาช่วยไท้ได้ พ่อก็คิดว่าเปาช่วยคนอื่นๆ ได้เหมือนกัน ลองคิดดูละกัน ถ้าได้คำตอบแล้วมาบอกพ่อ พ่อจะขึ้นไปนอนแล้ว ไท้ก็อย่านอนดึกละกัน พรุ่งนี้มีซ้อม คืนนี้พักที่นี่ก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปกับโค้ช" โค้ชเด้งหันไปกำชับไท้ตอนท้าย

"ครับโค้ช" ไท้พยักหน้ารับ

โค้ชเด้งกวาดตามองดูลูกชายและไท้ สักพักก็ลุกขึ้น ก่อนเดินขึ้นบันไดไป ปล่อยให้เปากับไท้นั่งอยู่ด้วยกันลำพังสองคน เมื่อพ่อลับตาไปแล้ว เปาก็หันมาชวน

"ไปดูเมสซี่กับเนยมาร์หน่อยไหม"

ไท้ไม่ใช้เวลาคิดนานนักก็พยักหน้าตกลง หนุ่มน้อยลุกขึ้นจากเก้าอี้ ทำท่าจะเดินไปหลังบ้าน พลันก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเปาคว้าข้อมือเขาไว้

"คืนนี้...ไท้นอนห้องพี่นะ"

สายตาคู่นั้นช่างเว้าวอนเหลือเกิน แม้ใจอยากจะปฏิเสธแต่ก็เหมือนน้ำท่วมปาก เพราะที่ไท้ถ่อสังขารมาจนถึงนี่ ก็เพราะต้องการสิ่งนี้ไม่ใช่หรือ?



ถึงเวลาซ้อมแล้ว โค้ชเด้งยังมาไม่ถึง แต่เห็นโทรมาแจ้งทีมสตาฟโค้ชว่าอยู่ไม่ไกลแล้ว นักกีฬาจึงลงไปวอร์มร่างกาย เนื่องจากใช้สนามวอลเลย์บอลของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งเป็นที่ซ้อม จึงมีเด็กนักเรียนมามุงดูกันโดยรอบ ครูอาจารย์ก็พลอยมามุงดูด้วย บ้างก็หยิบกล้องมาถ่ายรูป ดูตื่นเต้นและคึกคักดีไม่น้อย แต่กลับไม่เสียงดังมากเพราะเดี๋ยวจะรบกวนสมาธินักกีฬา

ไม่นานโค้ชเด้งก็มาถึง ไท้ก็มาพร้อมด้วย เขาอยู่ในชุดกีฬาพร้อมเล่นอยู่แล้วจึงรีบลงมาวอร์มร่างกายกับพี่ๆ และเพื่อนๆ แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจมากที่สุดคือมีผู้ชายคนหนึ่งติดตามมาด้วย ไม่มีใครรู้จักเขา นอกจากคนสองสามคนที่นี่

นักกีฬาที่กำลังวอร์มร่างกายอยู่หยุดเล่นชั่วคราว ไม่นานโค้ชเด้งก็แนะนำคนที่มาใหม่ให้นักกีฬาและทีมสตาฟโค้ชรู้จัก

"ทุกคนครับ นี่ลูกชายโค้ช ชื่อเปา โค้ชจะให้เปามาช่วยเป็นเทรนเนอร์ให้ทีมของเรา ก็เลยพามารู้จักทุกคนก่อน หลังจบช่วงนี้ โค้ชจะให้เปามาช่วยทำแผนพัฒนาสมรรถภาพของนักกีฬาแต่ละคนด้วย"

เสียงฮือฮาของนักกีฬาดังขึ้น ทุกคนต่างก็ตื่นเต้น ฟีนิกซ์ เวิร์มและเกิ้นเข้ามากระซิบกระซาบถามไท้กันใหญ่ ในขณะที่สายตาจับจ้องมองเปาเป็นประกาย

"เฮ้ยไอ้ไท้ มึงรู้จักลูกชายโค้ชใช่ไหม หล่อว่ะ มีแฟนยังวะเนี่ย" เกิ้นถามอย่างตื่นเต้น

"ต่อไปกูจะขยันซ้อม กูจะมาซ้อมทุกวันเลย กูจะไม่บ่นอีกแล้ว" เวิร์มว่า

"หล่อโคตรเลย เหมือนดาราเกาหลี ทำไมโค้ชถึงเพิ่งพามาเปิดตัวตอนนี้วะ" ฟีนิกซ์ตาหวานเชื่อม

"กูจองก่อนนะเว้ย ไอ้ฟีนิกซ์ มึงมีพี่พอลล์แล้ว ไอ้เวิร์ม มึงเหล่พี่เป้อยู่ไม่ใช่เหรอ ถ้างั้นคนนี้กูขอ" เกิ้นรีบพูดดัก เพื่อนๆ พากันหัวเราะชอบใจ

ในขณะที่ใครต่อใครต่างตื่นเต้น แต่จีนกลับเป็นคนเดียวที่รู้สึกตรงข้ามกับคนอื่นๆ เขาได้แต่ยืนนิ่ง จ้องหน้าเปา ท่าทางเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง จีนเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าเปาเป็นลูกชายของโค้ชเด้ง โลกช่างกลมดีแท้

ไม่รู้ว่าคนข้างบนจะเล่นตลกอะไรกับจีนอีก ถึงได้พาผู้ชายคนนี้กลับมาเจอเขาอีกครั้ง แผลเป็นในใจที่เคยปิดสนิทไปแล้วคล้ายถูกกรีดอีกครั้ง ไม่รู้ว่าจะต้องเจ็บอีกสักแค่ไหน เพราะคราวนี้ไม่ใช่เจอกันธรรมดา แต่มันคือการทำงานร่วมกัน จีนไม่รู้ว่าจะทนทำงานและเห็นหน้าคนที่เคยทำให้เจ็บขนาดนี้ได้หรือเปล่า ถ้าไม่ไหวจริงๆ เขาคงต้องขอฃาออกจากทีมชาติ หรือไม่ก็เลิกเล่นไปเลย

เสียงเรียกของเพื่อนๆ ช่วยปลุกจีนตื่นจากภวังค์ความคิด เมื่อได้สติแล้วจีนจึงพบว่าตัวเองกำมือแน่น เขาจึงค่อยๆ คลายออกและหันกลับไปมองหาคนที่เรียก

"เป็นไรวะไอ้จีน ยืนเหม่ออยู่ได้ รีบมาซ้อมเร็ว" มาวินร้องบอกพลางกวักมือเรียก

จีนหันกลับไปมองเปาอีกครั้ง สบตากันครู่หนึ่ง ก่อนจีนจะกลับลงสนามไปกับเพื่อน การฝึกซ้อมและออกกำลังทำให้เขาลดความฟุ้งซ่านลงไปได้มาก ในที่สุดก็ซ้อมได้อย่างเป็นปกติ แต่กระนั้นก็คอยแวบมองดูเปาเป็นระยะๆ

ทางสมาคมรู้เรื่องที่เปาช่วยเทรนให้ไท้ไปบ้างแล้ว จึงได้เจรจาให้โค้งเด้งช่วยทาบทามเปามาช่วยสมาคมทำงาน แต่ที่ผ่านมาโค้ชเด้งบ่ายเบี่ยงมาตลอด เพราะคิดว่าลูกชายคงไม่อยากเข้ามาข้องแวะกับกีฬาชนิดนี้ แต่เมื่อรู้ว่าเปากับเพื่อนปิดร้านไปแล้วจึงลองชวนดู ตอนแรกก็ไม่คิดว่าเปาจะสนใจ แต่เมื่อเช้าเปากลับขอมาด้วย โค้ชเด้งจึงยิ้มออก อย่างน้อยลูกชายหัวดื้อก็เริ่มฟังพ่อบ้างแล้ว

เปายืนดูข้างๆ สนาม ช่วงนี้เขาจะเก็บข้อมูลของนักกีฬาแต่ละคนไว้ก่อน เพื่อจะได้ดูว่าจะช่วยพัฒนาสมรรถภาพที่เหมาะสมกับแต่ละคนได้อย่างไร เพราะในทีมมีหลากหลายตำแหน่ง สรีระและพละกำลังที่จะต้องใช้ก็ต่างกัน การพัฒนาให้เฉพาะบุคคลจึงเป็นเรื่องจำเป็น

หลังจากซ้อม นักกีฬาก็เดินทางไปยังสนามกีฬาของจังหวัดเพื่อชมการแข่งขันคู่ระหว่างเกาหลีกับจีน วันนี้ทีมไทยไม่มีแข่ง แต่ก็จำเป็นต้องมาดูฟอร์มของทีมคู่แข่งด้วย จะได้เตรียมแผนการเล่นล่วงหน้าให้เหมาะสม

ใครสนิทกับใครก็นั่งเป็นกลุ่มๆ กับคนนั้น เปาสนิทกับไท้เพียงคนเดียวจึงเลือกนั่งอยู่กลุ่มไท้กับเพื่อนๆ อีกสามคน พร้อมกับมีสายตาของใครบางคนคอยจ้องมองดูด้วยความสงสัยอยู่ตลอด จนกระทั่งเปาขอตัวและลุกเดินออกไปข้างนอก คาดว่าน่าจะไปห้องน้ำ คนที่จ้องมองดูอยู่จึงขอตัวเพื่อนๆ และรีบเดินตามออกไป

เปาไปห้องน้ำอย่างที่จีนเดาไว้ เขาจึงยืนรออยู่จนกระทั่งเปาทำธุระเสร็จและเดินออกมาจากห้องน้ำ จังหวะนั้นเขาจึงแสดงตัวให้เปาเห็น เปาดูตกใจเล็กน้อย ดูเหมือนกระอักกระอ่วนใจที่ต้องเจอกันโดยบังเอิญอย่างนี้

"กูขอคุยกับมึงหน่อย" จีนทำลายความเงียบด้วยเสียงขรึม

เปาทำท่าครุ่นคิด ไม่นานก็พยักหน้าตกลง ก่อนเดินตามจีนออกไปข้างนอกสนาม จนกระทั่งเจอที่ลับตาคนและเหมาะจะคุยเรื่องสำคัญ จีนจึงหันหน้ากลับมาเผชิญกับเปา

นี่ไม่ใช่บรรยากาศและความรู้สึกที่ดีนัก แต่จีนก็หวังว่าการคุยกันครั้งนี้จะช่วยแก้ปัญหาคาใจได้บ้าง เพราะถ้าแก้ไม่ได้เลย จีนก็คงต้องออกจากทีมชาติไปอย่างไม่ต้องสงสัย

"มึงชอบไท้เหรอ" จีนยิงคำถามแรกออกไป ที่ผ่านมาเขาไม่เคยพูดกูมึงกับเปา แต่ความแค้นทำให้จีนเปลี่ยนสรรพนามให้ใหม่

"อืม" เปารับคำสั้นๆ เลี่ยงสบตากับจีนตรงๆ

"มึงคิดจะทำอะไร มึงจะทำกับไท้เหมือนที่มึงทำกับกูเหรอ" จีนถามเสียงแข็งและหน้าดุ แม้เปาหลบตา แต่จีนก็จ้องมองคนตรงหน้าแทบตาไม่กะพริบ

ไม่มีคำตอบจากเปา แถมเจ้าตัวยังมองเมินไปทางอื่น จีนจึงอดใจไม่ไหว เขาตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อของเปาและเงื้อหมัดเตรียมไว้

"มึงอย่าเอาความแค้นส่วนตัวของมึงมาลงที่คนอื่นแบบนี้นะเว้ยไอ้เปา กูไม่ยอมให้ไท้โดนมึงหลอกเหมือนกูแน่"

ในแววตาของเปาไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย เขาดูนิ่งเฉย ไม่สะทกสะท้าน แม้ว่าเขาจะถูกต่อยเลือดกบปากเมื่อไหร่ก็ได้

"ตอบกูมาสิ!" จีนคาดคั้นเสียงดังพร้อมกับกระชับคอเสื้อเปายกสูงขึ้น

"เรื่องของกู" เปาส่งสายตาท้าทาย

"มึงนี่มันเหี้ยจริงๆ! มึงคิดว่าความรักเป็นเรื่องเล่นๆ หรือไงวะ!" จีนตะคอก เขาโมโหจนแทบจะควบคุมอารมณ์ไม่ไหว

ดูเหมือนคำถามนี้จะได้ผล สีหน้าของเปาดูสลดลง กระนั้นเขาก็ไม่พูดอะไร

เมื่อเปาไม่พูด จีนจึงเป็นฝ่ายพูดเอง "มึงอย่าคิดว่ามึงจะทำแบบนี้กับไท้ได้ กูจะไม่ยอมให้ไท้เจ็บเหมือนกูแน่ มึงนั่นแหละต้องเป็นคนเจ็บ กูจะบอกมึงเอาไว้เลย มึงกลับมาก็ดีแล้ว ที่มึงเคยทำกับกูเอาไว้ กูจะเอาคืนให้สาสม"

แม้จะโดนตะคอกใส่ แต่เปาก็หาได้กลัวไม่ ซ้ำยังหาโอกาสตัดบทดื้อๆ "มึงจะคุยกับกูแค่นี้ใช่ไหม ถ้าไม่มีอะไรอีก กูจะเข้าไปหาไท้"

"เดี๋ยว!" จีนตะคอกอย่างโกรธจัด

คราวนี้เปาหันมาสบตาด้วย เขาไม่หลบตาจีนอีกแล้ว เมื่อมองหน้าเปาชัดๆ จีนก็อดหวนคิดถึงวันเก่าๆ ไม่ได้ ผู้ชายคนนี้ เขาเคยรักมากเหลือเกิน ยอมยกให้ทั้งกายและใจ ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่งความรักจะกลายมาเป็นความเจ็บปวดและเกลียดชังไปได้

ความทรงจำในวันนั้นงดงามเหลือเกิน ความรักในวัยมัธยมช่างสดใส ด้วยความเยาว์วัย ทุกอย่างจึงมีแต่ความสวยงาม บรรยากาศชีวิตอบอวลไปด้วยความรักและความหวัง จีนมีความสุขมากเพราะไม่คิดว่าคนที่เขาแอบชอบจะมีใจให้ มันเหมือนฝันที่เป็นจริงของเขา บางครั้งก็ไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้นจริงและมีอยู่จริง

พลันก้อนสะอื้นก็แล่นเข้ามาจุกที่คอหอย แววตาดุดันของจีนค่อยๆ อ่อนลง น้ำตาของเขาค่อยๆ ไหลลงมาอย่างช้าๆ มือที่กำคอเสื้อของเปาแน่นก็ผ่อนลง หมัดที่เงื้อไว้ก็ค่อยๆ ลดต่ำลงจนตกอยู่ข้างตัว

จีนปล่อยมือออกจากคอเสื้อของเปา เขาร้องไห้อย่างสุดกลั้น ไม่รู้ว่าเสียใจเรื่องอะไรกันแน่

"ไอ้เปา มึงรู้ไหมว่าตอนนั้นกูรักมึงมากแค่ไหน รักมึงมากขนาดที่ว่า...ถ้ามีใครเอาปืนมายิงมึง กูก็จะยอมเอาตัวไปขวาง มึงเคยรู้ไหมว่ากูรักมึงมากขนาดนั้น หรือว่ามึงไม่รู้อะไรเลย! แล้วทุกวันนี้...ที่กูรักใครไม่ได้ ก็เป็นเพราะมึง! มึงรู้ไหมว่ากูโคตรทรมาน เพราะไอ้ความเจ็บปวดที่มึงทิ้งไว้ให้กูไง มึงจำได้ไหม! กูถามมึงคำเดียวนะไอ้เปา มึงเคยรักกูบ้างหรือเปล่า! หา! เคยรักกูบ้างไหม กูอยากรู้แค่นี้แหละ!"

เมื่อมองดูดีๆ อีกครั้ง ผู้ชายตรงหน้าก็มีน้ำตาเช่นเดียวกัน แต่ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเปาจึงร้องไห้ ไม่มีใครเดาอารมณ์และความรู้สึกของเขาได้ง่ายๆ แม้กระทั่งตัวเขาเองก็ยังไม่รู้จักตัวเองดีพอด้วยซ้ำ

"มึงเป็นรักแรกของกู แล้วถ้าไม่นับวันนั้น มึงก็เป็นความทรงจำที่สวยงามของกู กูไม่เคยรักใครแบบนี้เลย แล้วมึงล่ะไอ้เปา ที่มึงมาคบกับกู ไปไหนมาไหนกับกู แม้กระทั่ง...นอนกับกู มึงเคยรักกูหรือเปล่า กูอยากรู้แค่นี้แหละ มึงตอบกูได้ไหมไอ้เปา" จีนรำพึงรำพันพร้อมกับสะอื้น

เปากลืนน้ำลายลงคอ พอเห็นจีนร้องไห้เขาก็นึกสงสาร เมื่อย้อนกลับไปดูสิ่งที่เคยทำกับจีนวันนั้น เขาก็ยอมรับว่ามันโหดร้าย เปานึกไม่ถึงด้วยซ้ำว่าเขาจะเลือดเย็นขนาดนั้น แต่ก็ทำไปแล้ว กลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้

แล้วตอนนี้ล่ะ? เปาอยากจะแก้ไขหรือชดใช้ให้จีนบ้างหรือเปล่า?

ต่างคนต่างมองหน้ากัน จีนรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ ส่วนเปาก็ครุ่นคิดว่าเขาควรจะตอบคำถามนั้นอย่างไร จนกระทั่งผ่านไปนานพอสมควร เปาจึงหันหน้าไปทางอื่น ก่อนเอ่ยคำพูดที่จีนไม่คิดว่าจะได้ยินในชาตินี้อีกแล้ว

"รักสิ ทำไมจะไม่รักล่ะ"

จีนอ้าปากค้าง อาการสะอื้นแทบจะหยุดไปในบัดดล

"เปา..."

สิ้นคำเรียก จีนก็โผเข้ากอดเปาแน่น ก่อนร้องไห้อีกครั้ง "แล้วเปาทำอย่างนั้นทำไม รักแล้วทำอย่างนั้นทำไม"

"เปาขอโทษนะจีน" เปาบอกเพียงสั้นๆ จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก เพราะปกติเปาก็ไม่ค่อยพูดความรู้สึกของตัวเองให้ใครฟังอยู่แล้ว

แค่นี้ก็มีความหมายมากสำหรับจีนแล้ว เพราะเรื่องนี้ค้างคาในใจมานานกว่าห้าปี เขารู้สึกเหมือนภูเขาที่ทับแน่นหนักอยู่บนอกถูกยกออกไป ความเจ็บปวดในวันนั้นก็พลอยลดหายไปด้วย แต่พลันก็มีคำถามน่าหนักใจผุดขึ้นมาให้คิด

หลังจากนี้แล้ว ความสัมพันธ์ของจีนกับเปาควรจะเป็นแบบไหน อดีตที่จบไปแล้วก็ควรจบไป ป่วยการจะรื้อฟื้นขึ้นมาอีก เพราะมีแต่จะสร้างปัญหาให้กับปัจจุบัน

แต่จีนก็อดสงสัยตัวเองไม่ได้ อ้อมกอดที่อยู่กับจีนตอนนี้ช่างอบอุ่นเหลือเกิน นี่ไม่ใช่หรือคือสิ่งที่จีนรอคอยมาตลอดห้าปี มันกลับมาแล้ว จีนควรจะทำอย่างไรกับมันดี!?


TBC



ว่าจะเขียน "ต้น-สน" ตอนพิเศษที่น่ารักมากๆ ตอนหนึ่งให้เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์กับคนอ่าน แต่งานรัดตัว ไม่สามารถจริงๆ ครับ ขอมอบ "กุหลาบช่อแรกและคู่จิ้นวันวาเลนไทน์" ให้แทนละกันครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2017 19:04:28 โดย inxsara »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เฮ้ออออ.  ยังไงละเนี่ยะ. เปาจะเอาไงต่อไป  :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ farhhhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เนี่ย เราว่าแล้วจีนยังไงก็ค้องยอมลงให้เปาอ่ะ รักขนาดนั้น
และเราว่าตอนนั้นเปาก็รักจีนจริงๆ แหละ แต่อีโก้มันแรงไง
ถ้าพ่อรู้มันเสียเซลฟ์แน่ ไม่ยอมหักหน้าตัวเองหรอก
ถ้าถามว่าผิดไหม เปาโคตรผิด แต่ก็ยังเด็กอ่ะ ต้องพลาดกันบ้าง ตอนนี้ก็เชียร์ให้รีบเคลียร์เรื่องแฟนแล้วหันมาจริงจังกับไท้ได้แล้ว

กลัวความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไท้เสียจัง แต่เรื่องแฟนเนี่ย เห็นเสียเพื่อนมาเยอะละ ว๊าย ตื่นเต้นจังเลยค่ะ ลุ้น5555

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
    เห้อออ จะเป็นรักสามเส้ามั้ยอะ ก็ดีนะเปา เมียสองเลย 555
   รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
เนี่ย เราว่าแล้วจีนยังไงก็ค้องยอมลงให้เปาอ่ะ รักขนาดนั้น
และเราว่าตอนนั้นเปาก็รักจีนจริงๆ แหละ แต่อีโก้มันแรงไง
ถ้าพ่อรู้มันเสียเซลฟ์แน่ ไม่ยอมหักหน้าตัวเองหรอก
ถ้าถามว่าผิดไหม เปาโคตรผิด แต่ก็ยังเด็กอ่ะ ต้องพลาดกันบ้าง ตอนนี้ก็เชียร์ให้รีบเคลียร์เรื่องแฟนแล้วหันมาจริงจังกับไท้ได้แล้ว

กลัวความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไท้เสียจัง แต่เรื่องแฟนเนี่ย เห็นเสียเพื่อนมาเยอะละ ว๊าย ตื่นเต้นจังเลยค่ะ ลุ้น5555

555 ชักซับซ้อนขึ้นทุกทีๆ เป็นผม ผมก็แก้ยากเหมือนกันนะ อิๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ยังไงดีล่ะทีนี้,,,

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
EP 14 | หลายใจ


เมสซี่กับเนยมาร์ดูสนุกและตื่นเต้นมากตั้งแต่มาถึง คนบ้านนี้ชอบหมากันทั้งบ้าน จึงเลี้ยงเอาไว้หลายตัว เมื่อเจอกันแล้วก็เลยมาทำความรู้จักกลิ่นกัน และเล่นตามประสาหมา

เปาได้นิสัยชอบหมามาจากญาติฝ่ายแม่ โดยเฉพาะยาย น้าสาวและแม่ของเปา เขาจึงเติบโตมากับสัตว์สี่ขาหน้าขนตลอด ไม่เคยว่างเว้น ถ้าหากมีธุระต้องไปไหน ไม่รู้จะเอามาไปฝากไว้ที่ไหน เปาก็จะเอามาฝากไว้ที่บ้านยายเป็นประจำ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อวานเปาจึงไม่พักที่โรงแรมและกลับมาที่บ้านเพราะห่วงหมา ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะพาเจ้าสองตัวมาฝากไว้ที่นี่

ที่บ้านของยายมีน้าสาวกับยายอยู่กันสองคน มีลูกจ้างชาวลาวสองคนมาอยู่ช่วยดูแลงานบ้านงานเรือนด้วย ตาของเปาเสียชีวิตไปก่อนแม่ของเปาเสียหลายปีด้วยโรคชรา ท่านแก่กว่ายายถึงสิบสามปี ส่วนลูกๆ คนอื่นๆ ของยายก็เป็นฝั่งเป็นฝากันไปหมดแล้ว เหลือแต่น้าสาวที่ยังครองตัวเป็นโสด อาชีพหลักของเธอคือเก็บค่าเช่าหอพักที่ตาของเปาลงทุนสร้างไว้ เปาเองก็ได้รายได้จากเงินส่วนนี้แทนแม่ด้วย น้าสาวได้มากหน่อยเพราะเป็นคนดูแล ที่เหลือเปาแบ่งกับญาติๆ ตกเดือนหนึ่งก็ได้คนละหลายหมื่น

ก่อนเปาจะลาจากไป เขาใช้เวลาเล็กน้อยนั่งพูดคุยกับยายและน้าสาว ที่จริงเปาก็มาที่นี่บ่อยๆ จึงพอรู้ความเคลื่อนไหวของกันและกันดี

"ร้านเป็นไงมั่งล่ะลูก"

ทุกครั้งที่มาที่นี่ คำถามที่ยายมักถามบ่อยๆ ก็คือเรื่องร้าน เงินที่เปานำไปลงทุนก็คือเงินเก็บในส่วนของแม่ ยายกับน้าจึงอยากรู้ว่าหลานทำธุรกิจไปได้ดีหรือเปล่า ที่จริงก็คอยถามอยู่เรื่อยๆ แต่พักหลังๆ เปาห่างๆ ไปบ้าง เพราะเจ้าตัวมีปัญหาหลายอย่าง

"ปิดไปแล้วครับ" เปาบอกสีหน้าเรียบๆ

"อ้าว ตายจริง! ทำไมล่ะเปา" น้าสาวถามด้วยท่าทางตกใจ

"ทำเลมันไม่ค่อยดีน่ะครับ แถวนั้นมันมีสวนสาธารณะ สำนักงานเขตเขาก็เลยจัดเป็นที่ออกกำลังกายของชุมชน มีอุปกรณ์ให้พร้อม ก็ไม่ดีเท่ากับผมหรอก แต่มันฟรี คนก็เลยไปทางนั้นมากกว่า ก็เลยขาดทุนน่ะครับ จริงๆ ก็...ขาดทุนตั้งแต่เปิดเลย" เปาหน้าแหย เพราะเขาไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ยายกับน้าสาวฟังมากนัก ไม่ถึงกับโกหกว่าไม่มีปัญหา แต่เปาสื่อสารให้ฟังดูเหมือนว่าเป็นปัญหาที่แก้ไม่ยาก เขากับเพื่อนๆ ช่วยกันอย่างขันแข็ง จึงไม่น่าเป็นห่วง

ยายกับน้าสาวมองหน้ากันเหมือนคิดอะไรบางอย่าง แววตากังวลฉายออกมาจากดวงตาของทั้งคู่อย่างเห็นได้ชัด

"แล้วเปาจะทำไงล่ะลูก" ยายหันมาถามด้วยความเป็นห่วง

เปาทำท่าอึกอัก แต่ไม่นานก็ยอมบอกความจริง "ตอนนี้...พ่อชวนผมมาช่วยทำทีมวอลเลย์บอลครับ"

ยายกับน้าสาวขมวดคิ้วจนเป็นปื้น สีหน้าดูแปลกใจไม่น้อย คงสงสัยตัวเองว่าฟังผิดไปหรือเปล่า เพราะทั้งสองคนรู้ดีว่าเปาไม่ชอบพ่อเอามากๆ แม้จะเคยเกลี้ยกล่อมให้ยกโทษให้พ่อ แต่หลานก็ไม่เคยเชื่อฟังเลย

"ช่วยทำอะไรล่ะลูก" ยายสงสัย

"ก็...ดูเรื่องความแข็งแรงแล้วก็สมรรถภาพน่ะครับ พอดีคนที่เขาเคยทำอยู่เขาออกไปได้หลายเดือนแล้ว ทางสมาคมเขายังหาคนมาทำแทนไม่ได้ พ่อก็เลยอยากให้ผมไปช่วย"

"แล้วเปาตกลงเหรอ" ยายถามอีก

เปาพยักหน้าเป็นเชิงยอมรับ ยิ่งทำให้ยายกับน้าสาวแปลกใจมากขึ้นไปอีก

"เปา...หายโกรธพ่อแล้วเหรอ" น้าสาวหยั่งท่าที

เปาถอนหายใจ สีหน้าดูเครียดไปเลยทันที "ยังหรอกครับ"

"อ้าว!" ยายกับน้าสาวอุทานพร้อมกัน จากนั้นยายก็ซักต่อ "แล้วจะทำงานด้วยกันได้เหรอลูก"

คำถามนั้นทำให้เปาต้องคิดทบทวนตามไปด้วย เมื่อวานนั้น บรรยากาศระหว่างเปากับพ่อก็เหมือนคนทำงานมากกว่าพ่อกับลูก ไม่มีเรื่องส่วนตัว จึงไม่ทำให้กระอักกระอ่วนใจ พอทำงานด้วยกันได้ พอเสร็จงานแล้วก็ไม่คุยกันเหมือนเดิม กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

"ผมก็แค่ทำตามหน้าที่น่ะครับ" เปาตอบสั้นๆ แสดงอาการไม่อยากพูดเรื่องพ่อเหมือนอย่างเคย

ยายกับน้าสาวดูผิดหวังไม่น้อย นึกว่าที่เปายอมมาทำงานกับพ่อเพราะยกโทษให้พ่อแล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังใจแข็งเหมือนเดิม นิสัยหัวรั้นแบบนี้ดูจะขัดกับความรักดนตรีและหมาจนน่าแปลก เปาจึงดูเหมือนคนสองบุคลิก

"เปา...เมื่อไหร่เปาจะยกโทษให้พ่อเขาซะทีล่ะลูก เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว" ยายพูดเหมือนรำพึงกับตัวเอง

คราวนี้เปาเงียบ ถือว่าปกติ เพราะเปามักจะเป็นแบบนี้เสมอเวลายายพูดเรื่องพ่อ สักพักยายก็ถอนหายใจ ทั้งยายและน้าสาวทำหน้าเหมือนคิดอะไรบางอย่าง คล้ายกับว่าจะพูดดีหรือไม่พูดดี

"ยายก็ไม่รู้จะบอกเปายังไงนะ เรื่องบางเรื่อง...เฮ้อ...อย่าไปพูดถึงมันเลยดีกว่า" ยายทำท่าจะพูด สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ เปาไม่ควรจะรู้เรื่องนี้ และอาจจะไม่มีวันได้รู้เลยด้วยซ้ำ เพราะไม่มีใครกล้าเดาว่าถ้าเปารู้แล้วผลจะเป็นอย่างไร ชีวิตทั้งชีวิตอาจพังครืนเลยก็ได้

ในแววตาของเปามีความสงสัยปรากฎขึ้น เขาเห็นอาการแปลกๆ ของยายและน้าสาวเมื่อพูดถึงเรื่องแม่มานานแล้ว ดูเหมือนผู้ใหญ่ทั้งสองคนมีลับลมคมใน แต่ก็ไม่เคยบอกเปาตรงๆ เลย

"เอาเป็นว่า...เปาทำงานกับพ่อก็ดีแล้วลูก เปาก็จะได้ทำตามความฝันของแม่ด้วย" ยายพูด

ตอนที่เปาอายุสิบขวบ ตอนนั้นแม่ของเปายังทำงานเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลหญิงอยู่ ถ้าไม่เสียชีวิตไปก่อน ป่านนี้ก็คงเป็นโค้ชทีมชาติชุดหญิงไปแล้ว แม่มักบอกเปาบ่อยๆ ว่าอยากให้เปาเรียนวิทยาศาสตร์การกีฬา จะได้มาช่วยพ่อกับแม่ทำงาน แม่บอกเปาว่าวิทยาศาสตร์การกีฬาสำคัญมาก แต่บ้านเรายังนำมาใช้ไม่มาก ถ้าเปาเชี่ยวชาญด้านนี้ก็มีโอกาสเติบโต

นั่นคือสาเหตุที่เปาเลือกเรียนคณะนี้ แต่พอจบมา เปาเลือกที่จะไม่ทำตามที่แม่บอก เพราะเขาอยากอยู่ห่างๆ พ่อ ยิ่งโตเปาก็ยิ่งห่าง ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยนั้นถือเป็นช่วงที่เปากับพ่อห่างเหินกันมากที่สุด ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองไป ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน อีกอย่างเปาก็โตพอที่จะดูแลตัวเองได้แทบทุกด้านแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยพ่อ แม้กระทั่งเรื่องเงิน

"ครับ" เปารับคำสั้นๆ

ไม่มีใครรู้หรอกว่าทำไมเปาถึงยอมรับที่จะทำงานกับพ่อ เขาอยากทำตามความฝันของแม่ อยากให้โอกาสตัวเองกับพ่อ หรือมีเจตนาอื่นแอบแฝงกันแน่

เปาอยู่คุยกับยายและน้าสาวไม่นานก็ขอตัวไปต่อ บ่ายนี้เปาจะเข้าไปเก็บข้อมูลนักกีฬาเพิ่ม มีนักกีฬาบางคนบาดเจ็บ เขาจะต้องช่วยดูว่าจะใช้วิธีแบบไหนมาช่วยรักษาให้หายเร็วที่สุด

ระหว่างทาง เสียงโทรศัพท์ของเปาก็ดังขึ้น เมื่อเห็นเบอร์คนโทรมาแล้วเปาก็แปลกใจ กระนั้นก็รู้สึกดีใจลึกๆ ที่เห็นแฟนสาวโทรมาหา แม้ว่าเสียงที่ใช้สนทนาด้วยจะดูเย็นชาก็ตาม

"ฟางมีอะไรหรือเปล่า"

"เปาอยู่ไหน"

"กำลังจะไปทำงาน"

"งานที่ร้านน่ะเหรอ ก็ไหนว่า..." ฟางละไว้ในฐานที่เข้าใจ

"ไม่ใช่หรอก งานอื่นน่ะ แล้ว...ฟางนึกยังไงถึงโทรหาเปาล่ะ" เปาแค่นหัวเราะเบาๆ ฟางหายไปเกือบเดือน ไม่ติดต่อเขามาเลย อยู่ดีๆ วันนี้ก็โทรหา

"เย็นนี้...เปาว่างหรือเปล่า" ฟางถาม

เปาทำท่าคิด ก่อนตอบไปด้วยเสียงเรียบ "เย็นนี้เปาไม่สะดวก ทั้งอาทิตย์เลย พอดีมีงานต่างจังหวัดน่ะฟาง ฟางมีอะไรหรือเปล่า"

"อ้อ เปามีงานต่างจังหวัดเหรอ ไปไกลไหม"

น้ำเสียงของฟางฟังดูประหม่า ดูกล้าๆ กลัวๆ จะพูดจะถามอะไรก็ต้องคิดไปหมด

"นครปฐม" เปาบอกสั้นๆ ก่อนถามไปตามตรง "จะคุยกับเปาเหรอ"

"ใช่" ฟางยอมรับตามตรง

"คุยเรื่องอะไร เรื่องวันนั้นเหรอ"

ฟางเงียบไปสักพัก คล้ายกับชั่งใจว่าจะพูดดีหรือไม่ ไม่นานเธอก็ตัดสินใจบอกมา "ฟาง...คิดถึงเปาน่ะ"

เธอพูดแค่นั้น แค่คำว่าคิดถึงก็มีพลังมากพอแล้ว แม้ว่าจะโกรธและน้อยใจฟางแค่ไหน แต่พอได้ยินคำพูดนี้ เปาก็รู้สึกดีขึ้นมาก เขาคิดว่าฟางคงไม่ให้อภัยและไม่คิดจะกลับมาหาเปาอีกแล้ว เพราะฟางไม่เคยขาดการติดต่อไปนานขนาดนี้เลย

"ฟาง...เป็นห่วงเปานะ" ฟางย้ำหลังเงียบไปสักพัก

เปาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไร เขาจึงได้แต่เงียบ ในช่วงที่ผ่านมาเขาน้อยใจ เสียใจ บางวันก็คิดถึง อยากไปหา อยากเห็นหน้า อยากขอคืนดีและกลับมาเป็นเหมือนเดิม เอาเข้าจริง เปากลับเลือกที่จะไม่ทำสิ่งเหล่านั้น ฟางเงียบ ไม่ติดต่อมา เขาก็เงียบ ไม่ติดต่อไป

ตรงกันข้าม เปากลับรู้สึกว่าคนที่เขาอยากเจอ อยากไปหา อยากอยู่ใกล้ ไม่ใช่ฟางเสียแล้ว เขารู้สึกกับคนๆ นั้นมากจนเผลอไผลไปกับอารมณ์ที่แล่นพล่าน มันช่างแปลกใหม่และน่าค้นหา คล้ายกับว่าที่จริงแล้วนี่คือสิ่งที่เขาต้องการ แต่มันจะเป็นความรักเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับจีนหรือเปล่า ก็ยากที่จะบอกได้

ใบหน้าใส แววตาซื่อและรอยยิ้มสะอาดของใครคนนั้นปรากฎขึ้นในความคิด นี่หรือเปล่าคือแรงจูงใจที่ทำให้เปาตัดสินใจมาทำงานกับพ่อ แม้ว่าไม่ใช่เรื่องน่าอภิรมย์ใจเลยก็ตาม

"ฟางไม่กลัวเหรอ" เปาถามหลังจากเงียบไปนาน

"กลัวอะไรเหรอ" ฟางถามอย่างพาซื่อ

"ฟางยังรู้สึกเหมือนเดิมกับเปาหรือเปล่า"

คำถามของเปาทำให้ฟางเงียบ คล้ายกับสะอึกไป พักใหญ่จึงตอบมา "แล้ว...ถ้าฟางตอบว่าใช่ล่ะ"

เปาไม่ตอบคำถาม ปล่อยให้บรรยากาศเงียบไป ฟางจึงถามกลับ "แล้วเปาล่ะ"

"ฟางไม่โกรธเปาเรื่องวันนั้นแล้วเหรอ" เปาหาทางประวิงเวลาที่จะไม่ตอบคำถามนั้นของฟาง

ฟางถอนหายใจ ไม่รู้ว่าเธอหนักใจหรือเปล่า แต่คงไม่ใช่สัญญาณแห่งความสบายใจแน่ "เปา...ถ้าเรารักกัน ทุกอย่างมันเริ่มต้นใหม่ได้นะ ช่วงที่ฟางไม่ได้ติดต่อเปา ฟางถามตัวเองทุกวันว่า...ฟางยังรักเปาอยู่หรือเปล่า ถ้ายังรักอยู่ ฟางก็ต้องให้อภัยได้ เริ่มต้นใหม่ได้"

"แล้วคำตอบของฟางคืออะไร" เปาถามสวนไปทันที

ฟางเสียจังหวะไปเล็กน้อย แต่ไม่นานเธอก็พูด "การที่ฟางโทรมาหาเปา มันก็คงจะพอบอกอะไรได้อยู่แล้ว ว่าแต่เปาเถอะ เปาอยากเริ่มต้นใหม่กับฟางหรือเปล่า ฟางไม่รู้ว่าเปายุ่งแค่ไหนนะช่วงนี้ แต่นครปฐมก็คงไม่ไกลมาก เอาเป็นว่า...เย็นนี้ฟางจะรอเปาละกัน ดึกแค่ไหน...ฟางก็รอได้"

เปากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ฟางต้องการให้เปาตัดสินใจจึงเลือกกดดันด้วยวิธีนี้ ที่จริงก็ไม่ควรเป็นเรื่องยาก เมื่อก่อนเปาคงตัดสินใจได้เลย แต่ในใจของเปาตอนนี้มีหลายทางเลือกเสียแล้ว หรือจะเรียกว่า "หลายใจ" ก็คงไม่ผิดนัก



"ยังเจ็บขาอยู่ไหม" เสียงอุ่นๆ นุ่มๆ ถาม

"ก็...เจ็บนิดหน่อย" ตอบเสียงเรียบ แต่ถ้าสังเกตท่าทางดีๆ จะเห็นความประหม่าซ่อนอยู่ในแววตา ท่าทางก็ดูเกร็งๆ ด้วย "ลงผิดจังหวะตอนเซ็ตไง ก็เลยเหยียบขาตัวเอง"

เปาพยักหน้ารับรู้ ยิ้มจางๆ ให้อีกฝ่าย เมื่อไม่ได้เจอกันหลายปี ซ้ำยังบาดหมางใจกันอย่างรุนแรงมาก่อน การพูดคุยและท่าทางจึงยังดูไม่สนิทใจ

"งั้น...เดี๋ยวเราจะนวดคลายกล้ามเนื้อให้ ปวดตรงข้อเท้าใช่ไหม"

จีนพยักหน้ารับ เปาจึงให้จีนนั่งเหยียดขาบนเก้าอี้ต่อกันสามตัว หากทำงานจริงคงใช้แบบนี้ไม่ได้ ต้องมีที่นั่งเฉพาะหรือเตียงให้นั่งหรือนอน แต่เนื่องจากสถานที่ซ้อมเป็นโรงเรียนมัธยมในจังหวัดนครปฐม ก็เลยต้องทำแบบนี้ไปก่อน

ในขณะที่เปากำลังนวดบริเวณน่องลงไปยังข้อเท้า จีนคอยแอบลอบมองเปาอย่างเงียบๆ เปาโตขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เขาเป็นคนหน้าคมและตาคม แม้จะผิวขาวแต่ก็ไม่ดูจืด แถมยังดูคมกว่าเดิมด้วยซ้ำ

หลังจากที่ได้รู้ความจริงจากเปาเมื่อวานนี้ จีนก็เหมือนได้ปลดล็อคตัวเองไปแล้ว ความเจ็บปวดในใจหายไปจนเกือบสนิท แต่กระนั้นก็ยังคงมีคำถามอีกมากมายในใจที่จีนอยากถามเปาและตัวเอง

ในขณะที่จีนกำลังเผลอมองและคิดเพลินๆ เสียงใครบางคนก็ดังขัดจังหวะขึ้น

"แหมๆๆ เคลิ้มเชียวนะมึงไอ้จีน"

มาวินกับพอลล์นั่นเอง สองคนนั้นเดินมาดูและยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จีนรู้ดีว่าเพื่อนสองคนหมายถึงอะไรจึงรีบว่าไป

"เคลิ้มห่าอะไรของมึงวะ แล้วนี่พวกมึงไปไหนมา"

มาวินกับพอลล์หัวเราะ แทนที่พอลล์จะตอบกลับหันไปทางเปาที่ยังนวดขาอยู่เงียบๆ "วันนี้จีนจะลงได้ไหมครับคุณเปา"

พอลล์เรียกเปาว่าคุณเปา คงเห็นว่าเป็นลูกชายโค้ชจึงไม่กล้าเรียกชื่อเฉยๆ แม้ว่าจะอายุเท่ากัน

"ปกติถ้าเหยียบขาตัวเองต้องพักอย่างน้อยสักสองสามวันครับ เย็นนี้ไม่น่าจะลงได้ เดี๋ยวเจ็บมากกว่าเดิม" เปาหันมายิ้มด้วยสั้นๆ ก่อนหันกลับไปนวดต่อ เขาพอนวดเป็นบ้าง เพราะเคยไปสอบนวดนักกีฬาและได้ใบประกาศนียบัตรมาแล้ว แต่ถึงอย่างไร สมาคมควรจ้างคนมาช่วยนวดให้เป็นระบบ เปาทำให้ได้เป็นครั้งคราวเท่านั้น

"มึงไม่รู้ไงว่าโค้ชให้ฟีนิกซ์ลงแทนแล้ว" มาวินพูด เขาทำท่าสงสัยว่าทำไมพอลล์ถึงถามเหมือนไม่รู้เรื่องนี้

"เออ กูลืมว่ะ" พอลล์หัวเราะแหะๆ จากนั้นก็ชวนเปาคุยไปเรื่อยเปื่อย

ตั้งแต่เปาเข้ามาช่วยทีม บรรยากาศก็ดูคึกคักมากขึ้นไม่น้อย ด้วยความหล่อเหลา จึงเป็นที่ถูกใจของผู้เล่นหลายคนที่ชอบหนุ่มๆ พากันแวะเวียนมาคุยด้วยไม่ขาดปาก รวมถึงพอลล์ด้วย แต่ก็ออกแนวหยอกเล่นพอสนุก ให้หัวใจกระชุ่มกระชวยเมื่อได้คุยเล่นกับหนุ่มๆ

หลังคิวจีนแล้ว ก็มีนักกีฬาอีกสองสามคนมาให้เปาช่วยดูอาการบาดเจ็บให้ เบื้องต้นเปาใช้วิธีนวดคลายกล้ามเนื้อให้ก่อน จากนั้นค่อยให้คำแนะนำการดูแลตัวเองที่บ้าน

วันนี้ ทีมวอลเลย์บอลชายไทยจะแข่งกับทีมชาติอิหร่านตอนหกโมงเย็น ทั้งโค้ชและผู้เล่นเกร็งกันมาก นี่คือทีมหินสุดของงานนี้เพราะเป็นทีมอันดับหนึ่งของเอเชีย โค้ชและสตาฟโค้ชจึงต้องวางแผนการเล่นอย่างรัดกุม พร้อมกับกระตุ้นให้รู้สึกฮึกเหิมไปด้วย ส่วนเปาก็คอยดูแลคนที่บาดเจ็บ ดีว่าแทบไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บมาก ยกเว้นจีนคนเดียวที่เผลอเหยียบเท้าตัวเองตอนซ้อมเมื่อช่วงบ่าย

"เหนื่อยไหมครับพี่เปา น้ำครับ"

เสียงคุ้นเคยถามมาจากที่ไหนสักแห่งไม่ไกล เปานวดให้นักกีฬาคนสุดท้ายเสร็จพอดี เขาหันไปมองเจ้าของเสียง ไท้นั่นเอง มากับฟีนิกซ์และเวิร์ม หนุ่มน้อยยิ้มตาหยี มือข้างหนึ่งยื่นขวดน้ำเย็นๆ มาให้ ที่นี่ไม่มีแอร์ อากาศจึงค่อนข้างร้อนและทำให้เหนียวเหนอะหนะ

"ไม่เหนื่อยหรอก" เปายิ้มตอบ พลางยื่นมือไปรับขวดน้ำเปล่ามาเปิดดื่ม

"เดี๋ยวผมเอาไปทิ้งให้" ไท้บอกเมื่อเห็นเปามองหาที่จะทิ้งเศษพลาสติกหุ้มฝา

เปาส่งใส่มือให้ไท้ ก่อนยกขวดกระดกดื่มน้ำไปสองสามอึก ท่าทางคงจะกระหายพอสมควร

"จะให้พี่ช่วยนวดคลายกล้ามเนื้อหรือเปล่า" เปาถามขณะวางขวดน้ำลงข้างๆ ตัว

"ครับพี่"

มีเสียงตอบมาทันที แต่คนที่ตอบไม่ใช่ไท้ เป็นฟีนิกซ์ต่างหาก

"ให้กูนวดก่อน มึงค่อยนวดทีหลังก็ได้" ฟีนิกซ์บอก ดูบังคับกลายๆ

"เออๆ" ไท้ส่ายหัวไปมา

ฟีนิกซ์รีบขึ้นไปนั่งเหยียดขาบนเก้าอี้ ขณะที่เปานวดให้ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คอยชวนคุยและถามนั่นถามนี่ตลอด คนที่รู้ประสาคงเดาออกว่าฟีนิกซ์แสดงความสนใจ ส่วนไท้กับเวิร์มนั่งยองๆ ดูอยู่ใกล้ๆ ฟังเปาอธิบายไปด้วยว่านวดตรงไหนช่วยอะไร

อีกครึ่งชั่วโมงถัดมา สต๊าฟโค้ชจึงเดินมาบอกให้ทุกคนไปขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังสนามแข่งขัน นักกีฬาจึงพากันเก็บข้าวของของตัวเองและทยอยพากันไปขึ้นรถ ไม่นานสนามซ้อมก็ว่างเปล่า รอเจ้าหน้าที่โรงเรียนมาดูแลความเรียบร้อย

เย็นนี้ ไท้กับฟีนิกซ์ได้ลงเป็นตัวจริงตั้งแต่เซ็ตแรก เพราะรุ่นพี่ในตำแหน่งเดียวกันเจ็บทั้งคู่ ส่วนเหินฟ้า เวิร์มและเกิ้นจะถูกเปลี่ยนลงสนามเป็นบางช่วงเพื่อให้คู่ต่อสู้จับทางไม่ได้ แต่งานนี้ก็ไม่ง่ายเพราะอิหร่านแข็งแกร่งมาก ไทยจึงพ่ายไปสามต่อหนึ่งเซ็ต กระนั้นนักกีฬาและโค้ชก็พอใจมาก เพราะไทยไม่เคยได้เซ็ตจากอิหร่านเลยที่ผ่านมา เยาวชนชุดนี้จึงดูมีอนาคต แฟนกีฬาเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น ในกระทู้ห้องกีฬาวอลเลย์บอลในพันทิพย์เริ่มพูดถึงผู้เล่นใหม่ๆ ที่เข้ามาเสริมทีมบ้างแล้ว โดยเฉพาะไท้ มีคนพูดถึงมากเป็นพิเศษ

จบการแข่งขัน โค้ชก็พานักกีฬาไปทานอาหารเย็น แม้จะเพิ่งแพ้มา แต่บรรยากาศกลับดูสดใส เสียงหัวเราะและพูดคุยดังไปทั้งโต๊ะ เมื่อหมดหน้าที่แล้วก็ถึงเวลาเล่นและผ่อนคลาย ต่างแซวกันไปแซวกันมาตามประสาวัยคึกคะนอง

หัวข้อสนทนาช่วงหนึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟน ถามกันไป เล่ากันมา มาถึงช่วงหนึ่งมาวินก็โพล่งถาม

"น้องๆ อยากรู้ไหมว่าใครเปลี่ยนแฟนบ่อยที่สุด"

คำถามนี้เรียกเสียงฮือฮาได้มากทีเดียว นักกีฬารุ่นน้องที่เพิ่งเข้ามาร่วมทีมชาติถามกันใหญ่ว่าใคร มาวินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แม้ว่าจะเจอสายตาอาฆาตจากเพื่อนที่กำลังร้อนตัว

มาวินทิ้งเวลาให้รุ่นน้องสงสัยสักพัก เมื่อพอใจแล้วเขาจึงบอกใบ้ "ก็...ไอ้คนที่มันเล่นตำแหน่งที่ไม่ต้องตบบอลไง"

"พี่จีนน่ะเหรอ" เกิ้นโพล่งออกมา เขามองไปที่จีน ทำสีหน้าเหมือนกับไม่เชื่อ

"ใช่" จีนรีบตอบเสียเอง ก่อนแค่นหัวเราะและพูดต่อ "พี่มันเป็นพวกนักสำรวจ ชอบลองของแปลกใหม่"

"สำรวจถ้ำเหรอวะ" พอลล์แซว คนอื่นๆ พากันหัวเราะใหญ่

"เออ หรือมึงไม่ชอบสำรวจถ้ำวะ" จีนย้อนเพื่อน

"แล้วพี่จีนเปลี่ยนแฟนบ่อยแค่ไหนเหรอครับ" เกิ้นถามต่อ

"นานสุดเนี่ย อยู่ได้สามเดือน สั้นสุดก็วันเดียว แต่โดยเฉลี่ยก็...เดือนหนึ่งได้มั้ง เปลี่ยนจนพี่จำไม่ได้แล้วว่าแฟนมันเป็นใครมั่ง" มาวินชิงตอบคำถามแทนพลางหัวเราะ เขาอยู่กับกลุ่มผู้ชายที่ชอบผู้ชายมานาน จึงไม่รู้สึกเคอะเขินมาก แต่ตอนเข้ามาใหม่ๆ ก็รู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง พออยู่ไปอยู่มาก็เริ่มชิน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเปลี่ยนรสนิยมหรอก แม้ว่าจะมีผู้ชายมาจีบเรื่อยๆ ก็ตาม

"โห แล้วพี่จีนไปหามาจากไหนเหรอครับ สอนผมมั่งดิ เผื่อจะสอยมาสักคนสองคนมั่ง" เวิร์มถามอย่างนึกสนุก

"ในอินเตอร์เน็ตเยอะแยะไป ในเฟสมั่ง ในทวิตเตอร์มั่ง ไม่รู้จริงๆ เหรอ เดี๋ยวพี่สอนให้เอาไหม แต่ต้องระวังหน่อยนะ บางคนมันเป็นเด็กขาย เดี๋ยวจะโดนมันหลอกเอาเงิน" จีนพูด

"อ้าว แล้วพี่ไม่กลัวโดนหลอกเหรอ" เวิร์มสงสัย

จีนหัวเราะร่วน ปรายหางตาไปมองเปาแวบหนึ่ง ดูท่าทางเปาจะสนใจไม่น้อยเพราะคอยหันมามองจีนบ่อยๆ ไท้นั่งติดกับเปา ท่าทางก็ดูสนใจการสนทนาระหว่างจีนกับเพื่อนของตัวเองเหมือนกัน

"เห๊อะ พี่ไม่กลัวหรอก ไม่มีใครหลอกพี่ได้ มีแต่พวกมันนั่นแหละโดนพี่หลอก" จีนหัวเราะหึๆ คล้ายสะใจ

"ไอ้นี่มันชอบหลอกฟันเด็ก ระวังตัวกันให้ดีล่ะ อย่าหาว่าพี่ไม่เตือน" พอลล์บอกพลางขำ แม้จะพูดสนุกแต่ก็มีเค้าความจริงไม่น้อย

"แสดงว่าพี่ทิ้งเขาก่อนเหรอ" เกิ้นถาม

จีนพยักหน้า

"โห แล้วพี่ไม่สงสารเขาเหรอ" เกิ้นทำหน้าเศร้าเล็กน้อย

"ก็สงสารนะ" จีนแค่นหัวเราะ เมื่อหันไปมองเปาอีกครั้งก็เห็นว่ารายนั้นมองมาอย่างสนใจ ไม่รู้ว่าเปาคิดอะไรอยู่ แต่เรื่องที่จีนพูดคงทำให้สะดุดใจไม่มากก็น้อย พอสบตากับจีนสักพักเปาก็หันไปคุยกับไท้ต่อ

"แล้วพี่ทิ้งเขาทำไมล่ะครับ" เกิ้นยังไม่วายสงสัย

จีนทำท่านึก สักพักก็ตอบ "ก็มีหลายเหตุผลนะ แต่บ่อยสุดนี่น่าจะเป็นเพราะพี่เบื่อ บางคนมันก็งี่เง่า บางคนมันก็แค่มาสนุกๆ บางคนแค่อยากได้เงิน บางคนก็นิสัยไม่ดี คบไปวันสองวันก็รำคาญแล้ว บางคนก็แสบ แอบขโมยเงินพี่ก็มี บางคนก็ดีนะ แต่พี่เบื่อเอง"

คนที่ได้ฟังพากันหัวเราะ แม้ว่าจะรู้สึกแปลกๆ แต่เห็นจีนเล่าสนุกๆ จึงไม่คิดจริงจังอะไรมาก

"แล้วพี่ไม่อยากมีแฟนจริงๆ จังๆ มั่งเหรอ" เกิ้นถามอีกครั้ง

จีนชะงักไปเล็กน้อย สักพักก็ส่ายหัวไปมาและหัวเราะหึๆ แต่หากสังเกตดีๆ จะเห็นความขมขื่นซ่อนอยู่ในแววตา "จริงจังไปทำไม เพราะบางที...การที่เราจริงจังกับความรัก ผลที่ได้...มันก็ไม่ใช่ความรักเสมอไปหรอก"

"หูย คมว่ะเพื่อน ไปเอามาจากไหนวะเนี่ย" พอลล์กับมาวินพากันแซว

แม้ดูเผินๆ เหมือนคุยเรื่องสนุกตามประสาเพื่อน แต่คนที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็สัมผัสได้ว่าจีนกำลังสื่อสารบางอย่าง นั่นคือเรื่องที่เปาไม่เคยรู้ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าจีนเสียใจ แต่เปาตัดขาดราวกับตายจากกันไปเลยต่างหาก ช่วงนั้นเปาเองก็เสียใจไม่น้อย แม้จะไม่ร้องไห้ ไม่มีน้ำตาสักหยด แต่การสูญเสียนั้นก็แสนทรมาน เพราะตอนนั้นเปาเผลอรักจีนไปแล้ว การทำร้ายคนที่ตัวเองรักอย่างนั้นจึงเจ็บปวดไม่น้อย

"พอกินปลาแล้วไท้ก็นึกถึงอาหารคลีนเลย"

เสียงของไท้ทำให้เปาพลันตื่นจากภวังค์ความคิด แต่เพราะเมื่อกี้ไม่ได้ตั้งใจฟังจึงไม่รู้ว่าไท้พูดอะไร "ไท้ว่าอะไรนะ"

"อ๋อ ผมบอกว่ากินปลาแล้วก็อยากกินอาหารคลีน ที่พี่เปาทำให้ผมกินบ่อยๆ ตอนผมอยู่บ้านโค้ชไง มันมีอยู่อย่างหนึ่ง เอ...เรียกว่าอะไรนะ" ไท้ทำท่านึก "อ้อ แซลมอนซัลซ่า ผมชอบมากเลย อร่อยดี"

"อ๋อ อยากกินอีกไหมล่ะ เสร็จงานนี้ ไปพักบ้านพี่สิ เดี๋ยวพี่ทำให้กิน" เปาบอก

"อืม...แต่เสร็จงานแล้วผมว่าจะกลับบ้านไปหาแม่ซะหน่อยน่ะครับ คิดถึงแม่" ไท้พูดเสียงเศร้าเล็กน้อย

คำพูดนั้นพลอยทำให้เปาเศร้าและสะดุดใจไปด้วย อยู่ดีๆ คำพูดของแม่ที่พูดกับเปาไว้ก่อนตายก็ดังขึ้นในหัว

"เปา...สัญญากับแม่อย่างหนึ่งนะลูก ถ้าเปาโตขึ้น เปาจะต้องมีครอบครัวที่สมบูรณ์ เปาจะต้องรักลูก รักเมีย ไม่นอกใจเขา ไม่ทำให้เขาเสียใจ เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี เปาสัญญากับแม่ได้ไหมลูก"

เปาหันไปมองพ่อซึ่งนั่งอยู่กับกลุ่มสต๊าฟโค้ชห่างไปพอสมควร ดูเหมือนกินไปคุยเรื่องงานกันไปมากกว่าจะคุยเล่นเฉยๆ บางครั้งก็หันมาฟังหรือคุยกับลูกทีมบ้าง จากนั้นเปาก็เลื่อนสายตาไปหาจีนซึ่งกำลังคุยกับเพื่อนอย่างสนุก ก่อนจะมาหยุดสายตาที่ไท้เป็นคนสุดท้าย

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เปาอยากทำตามคำสัญญาของแม่ แต่โชคชะตากลับพาเปามาเจอความรักที่เขาไม่ต้องการ จนกระทั่งต้องหาทางโยนทิ้งมันไป เพราะเปาไม่อยากผิดคำสัญญา แต่ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอความรักแบบนี้อีกครั้ง ยิ่งหนีก็ยิ่งเจอ

แต่ใช่หรือ!? เปาไม่ต้องการความรักแบบนี้จริงๆ หรือ!?

เสียงดังวืดๆ ดังขึ้น โทรศัพท์ของเปานั่นเอง เขาเปิดเป็นระบบสั่นตอนทำงานไว้และลืมเปลี่ยนกลับมาเป็นระบบเสียง เมื่อหยิบมาดูจึงเห็นว่าฟางโทรมาหา เปามองอย่างชั่งใจ ไม่นานก็เก็บใส่กระเป๋าและปล่อยให้มันสงบไปเอง

ฟางยังคงโทรมาอีกสองสามครั้ง แต่เปาก็ไม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เขาคงจะได้คำตอบรางๆ แล้วว่าเขาต้องการอะไร

"แล้วไท้จะไปยังไง" เปาถามต่อ

"ว่าจะลองกลับรถไฟดู" ไท้ตอบ

"ไปวันไหน เสร็จงานก็ไปเลยหรือเปล่า"

"ก็น่าจะอย่างงั้นครับ"

"พี่ไปส่งให้เอาไหม" เปาอาสา

ไท้หยุดชะงัก สักพักก็ทำท่าขำๆ "อย่าเลย บ้านผมจน ไม่มีที่ให้พี่นอนพักหรอก แคบจะตาย"

"ก็พักห้องเดียวกับไท้ไง ไม่ได้เหรอ"

"ก็พอได้ แต่...มันแคบนะพี่ ผมกลัวพี่จะอยู่ไม่ได้"

"เรื่องแค่นี้เอง มีที่ให้ซุกหัวนอนก็พอแล้ว ถึงไม่มี นอนในรถก็ได้" เปาหัวเราะ ก่อนย้ำอีกรอบ "ให้พี่ไปส่งนะ จะได้ไปเที่ยวด้วยไง พิษณุโลกมีที่เที่ยวตั้งเยอะ"

ไท้คิดสักพักก็พยักหน้าตกลง เปายิ้มพอใจ ทั้งสองคนคุยกันเหมือนทั้งโลกมีกันแค่สองคน ลืมสังเกตว่ากำลังเป็นเป้าสายตาและความสงสัยของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะจีน

"ก่อนไป ไท้อยากไปหาเมสซี่กับเนยมาร์หน่อยไหม พี่เอาไปฝากไว้ที่บ้านยายแล้วตอนนี้ ถ้าไปพิษณุโลกต่ออีก พวกมันต้องงอนพี่แน่ๆ เลย ก่อนไปต้องไปเจอซะหน่อย"

"ดีเลยครับ ผมก็คิดถึงเมสซี่กับเนยมาร์ทุกวันเลย ไม่ได้เล่นด้วยหลายวันแล้ว"

ไท้พูดแล้วก็ยิ้ม เปาสะดุดใจและหลงใหลรอยยิ้มใสซื่อนี้เหลือเกิน เขาจึงเผลอเอามือไปลูบผมไท้เบาๆ โดยไม่รู้ตัว ท่ามกลางสายตาสงสัยของใครหลายคน อยู่ใกล้ไท้ทีไร เปามักจะอดใจไม่ไหวจนเลยเถิดทุกที

"พี่เอากีตาร์มาด้วยนะ ถ้าอยากฟังเพลงก็ไปห้องพี่ก็ได้ พี่พักคนเดียว อ้อ พาเพื่อนๆ ไปด้วยก็ได้ มาช่วยกันร้องเพลงหลายๆ คนจะได้สนุก ไม่ดึกหรอก" เปาบอก

ไท้พยักหน้ารับรู้ ก่อนที่จะหันไปสนทนากับคนอื่นๆ บ้าง

หลังอาหารเย็น นักกีฬาก็กลับโรงแรม ไท้พาเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันมาที่ห้องของเปาตามที่เจ้าตัวบอก เปาเป็นคนเล่นกีตาร์และร้องเพลง สลับกับเหินฟ้าซึ่งก็ชอบเล่นดนตรีเหมือนกัน พอได้ใช้เวลาทำกิจกรรมผ่อนคลายด้วยกัน เปาจึงกลายเป็นที่ชื่นชอบของน้องๆ กลุ่มนี้ได้ไม่ยาก

สามทุ่มเศษๆ ทุกคนก็แยกย้ายกันไปนอน โค้ชกำชับหนักแน่นว่าช่วงแข่งกีฬาห้ามนอนดึกอย่างเด็ดขาด ใครฝ่าฝืนกฎนี้เกินสามครั้งจะถูกสมาคมเรียกคุย จึงไม่มีใครกล้าลองดีเพราะกลัวหลุดจากทีมชาติ

ก่อนจะนอน เปาหยิบโทรศัพท์มือถือมาตั้งนาฬิกาปลุก ไม่ใช่หกโมงเช้าหรือเจ็ดโมงอย่างที่เคย แต่เป็นเวลาตีสามต่างหาก เปาว่าจะกลับไปที่บ้าน ทำแซลมอนซัลซ่าเอามาฝากไท้ตอนเช้า

ไม่รู้ว่าทำไมเปาถึงยอมทำขนาดนี้ รู้แต่ว่ามีความสุขที่ได้ดูแลไท้ เขาไม่เคยลืมช่วงเวลาที่ไท้มาอยู่กรุงเทพใหม่ๆ และอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็มีความหมาย ผู้ชายตัวสูง ผิวขาวและหน้าตี๋คนนี้มีอิทธิพลกับชีวิตของเปาอย่างไม่ธรรมดาเลย


TBC

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2017 22:57:46 โดย inxsara »

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป,,,,

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เปาทำแบบนี้ จะเรียกว่าเป็นคนหลายใจไม่ได้หรอก
เพราะไม่ใช่ว่าคนนั้นก็เอา คนนี้ก็จะเอา เอาหมดไม่เลือกใคร
แต่ที่เปาทำขนาดนี้ก็เหมือนกับการที่เปาปฏิเสธฟางไปแล้วนั่นเอง
เปาคิดว่าตัวเองเลือกแล้ว..และเลือกไท้

ส่วนจีน..การกระทำ แสดงออก ดูแล้วชักจะหวั่นๆใจไงไม่รู้
ไอ่ที่บอกว่าจะเป็นคนปกป้องไท้อ่ะ กลัวว่าหลังๆ เกิดหึงหวงเปาขึ้นมา
จีนเองน่ะแหละจะเป็นคนคิดร้ายกับไท้ซะเอง

ร้ายเพราะรัก ผิดเพราะหึง
ใครๆก็เป็นได้ทั้งนั้นเมื่อกิเลสเข้าครอบงำ

ได้อ่านสองตอนเลย
สนุกมาก หลงรักพระเอกกับนายเอกไปแล้ว

จุ๊บๆๆๆๆๆ เปา+ไท้

+1 ฮับ

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
   อ่านถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกสงสารเปาจริงๆ แต่เปาก็ทำตัวเองด้วยส่วนหนึ่ง สะเทือนใจเพราะเป็นเรื่องพ่อกับลูกนี่ล่ะ
 ถ้าเปาคิดว่าเป็นเรื่องของพ่อ ไม่เอามาใส่ใจ เปาก็คงจะมีความสุขมากกว่านี้
  เอาล่ะสิเปา หลงไท้หนักๆนะ

ออฟไลน์ farhhhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โอ้ย ตรงฉากไท้พูดถึงเรื่องแม่ แล้วเปานึกถึงคำพูดของแม่ รีแอคชั่นเราตอนนั้นคือตบหน้าผากเลยอ่ะ ในเรื่องนี้ไม่กลัวอะไรไปมากกว่าใจเปาอีกแล้วอ่ะ กลัวเป็นเหมือนจีนอีก
แต่เออดีที่โตแล้ว พัฒนาการด้านความคิดไม่ได้ย่ำอยู่ที่เดิม แต่ก็อยากให้เคลียร์เรื่องฟ่าง(หรือฟาง...)นะ อยากให้ภาพลักษณ์เปาดูดีขึ้นหน่อย
เราว่าเดี๋ยวจีนต้องทำอะไรซักอย่างแน่ๆ เปากับไท้ก็พยายามผ่านไปด้วยกันนะ

ปล. เราชอบมากที่คนแต่งมาต่อเรื่องไว ไม่ทำให้เรารอเก้อเท่าไหร่ อย่าหายนะคะ น้อยมากนะที่เราจะอ่านนิยายดราม่าน่ะ ช่วยมาเรื่อยๆ จนจบที  :katai2-1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
EP 15 | อาฆาต


บรรยากาศในห้องอาหารโรงแรมยามเช้ามักวุ่นวายเสมอ ทว่าช่วยให้รู้สึกคึกคัก การตื่นมาเจอผู้คนและความเคลื่อนไหว ช่วยให้รู้สึกะปรี้กะเปร่าตามไปด้วย เป็นเหตุผลที่ว่าบรรดาหนังสือเคล็ดลับประสบความสำเร็จทั้งหลาย ต่างก็แนะนำให้เราอยู่ใกล้กับคนกระฉับกระเฉง เพื่อรับพลังแบบเดียวกัน

นักกีฬาจำนวนหนึ่งนั่งจับกลุ่มกันตามโต๊ะอาหาร ใครชอบใครหรืออยากคุยกับใครก็นั่งตามนั้น เช้านี้ไท้นั่งอยู่กับจีนและพอล ปกติจะมีมาวินหรือเพื่อนของไท้อีกคนมานั่งด้วย แต่วันนี้หลายคนอยากตื่นสายเพราะไม่มีแข่ง บางคนว่าจะตื่นเที่ยงด้วยซ้ำเพราะโค้ชนัดซ้อมตอนบ่าย นักกีฬาจึงบางตาในช่วงเช้า ที่ดูคึกคักเพราะมีหน่วยงานมาจัดประชุมที่นี่มากกว่า

ไท้เพิ่งกินข้าวไปได้สามสี่คำ ร่างสูงโปร่งคุ้นตาก็ปรากฎขึ้นตรงทางเข้าห้องอาหาร เขาสอดส่ายสายตามองหาไท้ เมื่อเจอกันก็ยิ้มให้ด้วยความดีใจ ก่อนรีบเดินมาหา แต่ไม่นานก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นว่ามีใครบางคนอยู่ด้วย

ด้วยความไม่ประสีประสา พอลจึงกวักมือพร้อมส่งเสียงเรียก "คุณเปามานั่งด้วยกันสิครับ"

เมื่อได้ยินชื่อ อีกคนที่นั่งอยู่ก็หันไปมอง เมื่อสายตาบรรจบกันก็พบกับความประหม่า แม้ว่าจะพูดคุยจนเข้าใจกันระดับหนึ่งไปแล้ว แต่ก็ยังกระอักกระอ่วนใจทุกครั้งที่เจอกันอยู่ดี กระนั้นคงไม่เหมาะที่จะลุกหนีไปที่อื่น เพราะคนอื่นจะสงสัยเอาได้

ฝีเท้าที่หยุดนิ่งค่อยๆ เดินมาที่โต๊ะอาหารตามคำเชื้อเชิญอย่างช้าๆ สีหน้าจากยิ้มดีใจค่อยหุบลง พอมาถึงโต๊ะเขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่ ซ้ายเป็นพอล ขวาเป็นไท้ ส่วนคนตรงหน้าเป็นจีน

"อะไรเหรอคุณเปา" พอลอยากรู้ พลางยื่นหน้ามาดู

"แซลมอนซัลซา" เปาตอบขณะวางถุงพลาสติกใสลงบนโต๊ะอาหาร ในนั้นมีกล่องพลาสติกสองกล่อง บรรจุอาหารดูน่ากินตั้งแต่แรกเห็น

"อ้อ มีด้วยเหรอ เมื่อกี้ผมไปดูไม่เห็นมีเลย โห...น่ากิน" พอลมองกล่องใหญ่ที่มีปลาแซลมอน ก่อนย้ายสายตามาที่กล่องเล็กซึ่งเป็นซัลซ่าสารพัดสี หลักๆ เป็นมะเขือเทศสับเป็นลูกเต๋าเล็กๆ คลุกรวมกับหอมใหญ่สับและสีเขียวของกุยช่ายฝรั่ง ผักชี พริกหยวก ผสมกับน้ำซอสใส รสออกเปรี้ยวนำและหวานเล็กน้อย ดูน่ากินอย่างที่พอลว่า

"เมื่อคืนพี่เปากลับบ้านเหรอครับ" ไท้ถาม เมื่อวานเขาเพิ่งพูดว่าอยากกิน ไม่คิดว่าเปาจะลงทุนขับรถกลับบ้านไปทำมาให้กินด้วยซ้ำ

"อ๋อ...พอดีพี่ลืมของไว้ที่บ้านน่ะ ก็เลยแวะไปเอาตอนเช้ามืด ไหนๆ ก็ไปแล้ว ก็เลยทำแซลมอนซัลซามาให้กินด้วย" เปาบอก

"ทำมาให้ไท้เหรอ" จีนถามเสียงเรียบ สีหน้าก็ดูเรียบ แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ายังกลบความประหม่าไม่สนิท คนอย่างจีนมีหรือจะไม่รู้ว่าเปาตั้งใจทำมาให้ไท้โดยเฉพาะ ช่างน่าขำ ตอนที่เปาคบกันจีนตอนนั้น จีนไม่เคยเห็นเปายอมทุ่มเททำขนาดนี้เลย แถมยังหลอกใช้จีนอีกต่างหาก

เปาชะงัก ก่อนหัวเราะกลบเกลื่อนเบาๆ "เปล่า ก็เอามาให้ลองกินด้วยกันนี่แหละ พอดีมีเวลานิดหน่อยก็เลยทำ ทำไม่ยากหรอก แป๊บเดียวเอง ลองกินกันดูไหม" เปากวาดสายตามองทุกคนและส่งยิ้มเชื้อเชิญ

"งั้น...ผมขอลองได้ไหม" พอลพูดอย่างตื่นเต้น

เปากุลีกุจอเอากล่องออกจากถุง เปิดฝาออก ก่อนลุกเดินออกไปหยิบจานเล็กๆ ช้อนและส้อมซึ่งวางเตรียมไว้สำหรับแขกมาด้วย มาถึงก็ลงมือตักแบ่งใส่จานให้แต่ละคน มีส่วนของตัวเองเพียงเล็กน้อย

พอลกินไปก็ชมไป ที่จริงรสชาติก็ไม่มีอะไรมาก อาศัยว่าได้ความสดใหม่ของผักนานาชนิด บวกกับรสเปรี้ยวๆ หวานๆ เมื่อกินกับปลาแซลมอนนึ่งรสมันเลี่ยนจึงเข้ากันดี

คนทำยิ้มพอใจ สักพักก็ขอตัวไปตักอาหารซึ่งจัดไว้แบบบุฟเฟต์มากินบ้าง พอลจึงอาศัยจังหวะนี้กระซิบกระซาบถามเรื่องที่อยากรู้

"ไท้เคยอยู่บ้านโค้ชเด้งมาก่อน แสดงว่าต้องรู้สิว่าคุณเปาเขามีแฟนหรือเปล่า"

แม้จะเป็นคำถามง่ายๆ แต่แววตาคนถูกถามกลับดูมีพิรุธ เพียงแต่ไม่มีใครสังเกตหรือสะดุดใจ

"น่าจะมีแล้วมั้งครับ" ไท้แบ่งรับแบ่งสู้

"ผู้หญิงหรือผู้ชาย" พอลรุก

"อ๋อ...ผู้หญิง" ไท้หัวเราะเบาๆ ออกทางจมูก หน้ายิ้มทว่ากระอักกระอ่วนอยู่ข้างใน

"โห...เสียดายโคตร" พอลถอนหายใจเบาๆ พลันแววตาก็เป็นประกายอีกรอบ "แล้วเขายังคบกันอยู่เปล่า"

"ก็น่าจะ" ไท้บอก ก่อนถามติดตลก "พี่พอลจะจีบพี่เปาเหรอ แล้วเกิ้นล่ะ"

"เฮ้ย...แค่คุยกันสนุกๆ เฉยๆ" พอลหัวเราะเขินๆ "รู้ไหมว่าพี่น่ะชอบซีวอนมากกกก" พอลลากเสียงจนดูออกสาว "เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าลูกชายโค้ชเด้งหล่อขนาดนี้ หน้าเหมือนซีวอนเลย เสียดายมีแฟนแล้ว แต่ของแบบนี้มันก็ไม่แน่หรอก ถ้ายังไม่ได้แต่งงาน ก็แปลว่า...ยังมีโอกาส"

พอลยิ้มเล็กยิ้มน้อยก่อนหัวเราะร่วน ไม่นานก็ต้องหยุดเพราะเปากลับมานั่งโต๊ะพอดี ในจานมีอาหารไม่กี่อย่างที่เลือกมากิน ที่จริงก็มีให้เลือกไม่มากนักเพราะเป็นโรงแรมไม่ใหญ่มาก

"ชอบหรือเปล่าไท้" เปาหันมาถาม ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นสายตามีความหมายพิเศษ

"อร่อยดีครับพี่" ไท้พยักหน้าและยิ้มให้

"ไท้เขาชอบกิน ตอนเขาพักอยู่ที่บ้าน ผมทำให้เขากินบ่อยๆ" เปาหันไปบอกอีกสองคนที่นั่งอยู่

เท่านี้ก็เพียงพอสร้างความสงสัยได้แล้ว จีนอาจไม่แปลกใจมาก แต่พอลน่าจะสงสัยมากกว่า กระนั้น หลังคุยกันไปสักพักใหญ่ๆ ความสงสัยก็เลือนหายไปจากความจำ

"เดี๋ยวผมขอตัวขึ้นไปบนห้องก่อนนะครับคุณเปา ง่วงมาก เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย ยังไม่ได้อาบน้ำด้วย" พอลบอกพลางทำท่าจะลุกขึ้น

"อ๋อครับ" เปายิ้ม "ทีหลังไม่ต้องเรียกคุณเปาก็ได้ เรียกเปาเฉยๆ ดีกว่า จะได้เป็นกันเอง อายุเท่ากันไม่ใช่เหรอ"

"เอ่อ...ไม่ดีหรอกครับ งั้นต่อไป...เรียกว่าโค้ชเปาดีกว่า" พอลแย้ง คงเห็นว่าเป็นลูกชายของโค้ชจึงไม่กล้าตีสนิทขนาดนั้น

"ตามใจ" เปาหัวเราะ ก่อนมองตามร่างสูงๆ เดินลิ่วออกไป

ครู่เดียวบรรยากาศก็เปลี่ยน เพราะที่นั่งอยู่สามคนตอนนี้ล้วนแต่มีความสัมพันธ์ระหว่างกันที่อธิบายยาก เสียงสนทนาพลันหยุดลง ต่างคนต่างก้มหน้าก้มตากินอาหารของตนเองเงียบๆ

ไม่นานจีนก็หยุดกินและลุกขึ้น "ไท้ เดี๋ยวพี่ขึ้นห้องก่อนนะ"

"อิ่มแล้วเหรอครับ พี่จีนยังกินไม่หมดเลย" ไท้มองอย่างสงสัย

"อิ่มแล้ว พี่ตักมาเยอะไปหน่อย" จีนบอก ท่าทางดูไม่สนใจอีกคนเท่าไหร่ พลันก็ทำท่าจะเดินออกไป ถ้าอีกคนไม่เรียกไว้เสียก่อน

"ไปพายเรือเล่นกันไหม"

จีนหยุดชะงัก ก่อนหันไปมองคนชวนด้วยสายตามีคำถาม แต่ก็ไม่คิดจะถาม

"เมื่อวานเราเดินไปดูที่แม่น้ำมา เขามีเรือให้พายด้วย ไปไหม ไปตอนเช้าๆ นี่แหละ ยังไม่ร้อนมาก" เปายิ้มเชื้อเชิญ

"แล้วทำไมไม่ไปกันสองคนล่ะ" จีนพูดคล้ายประชด

"ไปหลายๆ คนก็ได้ ไม่อยากคุยกับเราเหรอ"

"จะให้คุยอะไร" จีนพูดสวน เพราะถึงอยากคุย เขาก็คงไม่อยากให้มีบุคคลอื่นอยู่ด้วย

"เอ่อ ถ้าพี่สองคนมีอะไรจะคุยกัน ก็ไปกันสองคนได้นะครับ" ไท้บอกอย่างเกรงใจ สลับมองหน้าสองคนไปมา

"พี่ไม่มีอะไรจะคุยหรอกไท้ พี่ไปละ"

สิ้นคำจีนก็เดินฉับๆ ออกไป สีหน้าดูเหมือนไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ไท้ได้แต่ทำหน้ายุ่งยากใจ เพราะตอนนี้เขาพาตัวเองเข้ามาอยู่ในสถานการณ์ความรักที่ไม่มีทางออก เพราะเปาเองก็มีฟางอยู่ ซ้ำยังดูเหมือนว่าความสัมพันธ์กับจีนในอดีตอาจปะทุขึ้นมาด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง รักสี่เส้าครั้งนี้คงยุ่งยากไม่น้อย

นั่นยังไม่สำคัญเท่ากับว่าไท้พาตัวเองเข้ามาอยู่ในความสัมพันธ์นี้ได้อย่างไร รักเปาอย่างนั้นหรือ? แล้วเปาล่ะรักไท้บ้างหรือเปล่า แล้วรักมากแค่ไหน จะว่าไป สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่ถูกต้องด้วยซ้ำ ถ้าไท้คิดเป็นและรู้จักละอายใจ เขาคงรู้ว่าไม่ควรสานต่อความสัมพันธ์แบบนี้

สายตาของเปาบ่งบอกว่าเจ้าตัวก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่ต่างกัน นั่นแปลว่าการตัดสินใจครั้งสำคัญคงจะเกิดขึ้นในไม่ช้า เพียงแต่ไม่รู้ว่าเหรียญที่หมุนติ้วตอนนี้จะออกด้านไหน แต่สุดท้ายก็ต้องมีทางออกสักทาง เพราะไม่มีสิ่งใดในจักรวาลนี้คงอยู่ในสภาวะไม่เสถียรได้



แม่น้ำท่าจีนไหลเอื่อยอ้อยอิ่งสงบเย็น คลื่นลมพัดเบาสบายโชยมาตลอดเวลา ท้องฟ้ายามเช้าดูแจ่มใส มีเมฆขาวๆ บ้าง แต่ก็กระจายตัวห่างๆ ฟ้าจึงเปิดโล่งให้ดวงอาทิตย์แผดแสงได้เต็มที่ แต่กลับไม่ร้อนมากอย่างที่คิด คงเป็นเพราะยังเช้าอยู่ แถมยังได้ไอเย็นๆ จากน้ำและลมโชยช่วยให้ไม่ร้อนจนเกินไป

เสียงคนคุยกันเอะอะดังไปทั่วคุ้งน้ำ แต่ก็ฟังไม่ได้ศัพท์ว่าคุยอะไรกันแน่ กระนั้นก็รู้ว่าเป็นเสียงหัวเราะเล่นสนุก เมื่อมองไกลๆ จะเห็นผู้ชายสองคนพายเรือแข่งกัน ทิ้งระยะไม่ห่างกันมากนัก ทั้งสองคนสวมเสื้อชูชีพสีเหลืองๆ สองมือพายคัดซ้ายบ้างขวาบ้าง พาเรือคายัคล่องไปตามกระแสน้ำ พร้อมกับคอยหลบหลีกเกาะผักตบชวาเป็นระยะๆ

พอแข่งกันเหนื่อยจึงเปลี่ยนเป็นพายธรรมดา คุยกันไปเรื่อยเปื่อยและดูผ่อนคลาย

"พี่ว่าเราพายไปเรื่อยๆ ดีไหม มันน่าจะมีร้านอาหารอยู่ริมน้ำ ถ้าหิวก็แวะกินได้ ปลาแม่น้ำที่นี่อร่อยมาก สดด้วย"

"พี่เปาเคยมาเที่ยวที่นี่เหรอ"

"เคย แต่นานแล้ว ตอนนั้น...แม่พามาเที่ยวบ้านเพื่อนแม่ แต่พี่ก็จำไม่ได้หรอกว่าอยู่ตรงไหน"

ท่าทางตอนพูดถึงแม่ดูเรียบเฉยจนน่าสงสัย เพราะปกติเปามักเลี่ยงพูดถึง ถ้าจำเป็นต้องพูดถึงก็มักดูเศร้าๆ หรือเครียด แต่คราวนี้กลับดูเฉยๆเหมือนกับทำใจได้แล้ว

"ไท้มาอยู่กรุงเทพหลายเดือนแล้ว ได้ไปเที่ยวไหนมั่งไหม" เปาเปลี่ยนเรื่องถาม

"ไม่ได้ไปครับ ส่วนมากก็ไปกับพี่เปานั่นแหละ ไท้อยากเก็บเงินส่งให้แม่มากกว่า"

"ไท้คงจะรักแม่มากนะ" เปาถามพร้อมรอยยิ้มบางๆ เจือเศร้า ถึงอย่างไร ปมในใจนี้ก็ยังไม่เคยหายไปจากชีวิต เขายังคงคิดถึงแม่เสมอ

"ครับ แม่ไท้ลำบาก ทำงานหนัก น้องก็ต้องเรียนหนังสือด้วย"

"แล้วเงินที่เขาให้พอใช้หรือเปล่า" เปาถาม เขาหมายถึงเงินเบี้ยเลี้ยงนักกีฬา จะเรียกว่าเป็นเงินเดือนก็ได้ เพราะว่าได้รับเป็นรายเดือน

"ก็ต้องประหยัดเอา ผมกินง่ายอยู่ง่าย ใช้ประหยัดๆ ก็พออยู่ครับ เหลือส่งให้แม่ด้วย"

เปาพยักหน้ารับรู้ ก่อนถามสืบไป "แล้วแม่ไท้ทำอะไรล่ะ"

"รับจ้างครับ ส่วนมากก็ทำงานในไร่อ้อย เมื่อก่อนผมก็ไปช่วยแม่บ่อยๆ แต่เดี๋ยวนี้แม่ไปคนเดียว"

"อ้าว แล้วน้องสาวล่ะ ไม่ได้ไปช่วยแม่เหรอ"

"ไม่ได้ไปครับ แม่ไม่อยากให้เขาไปด้วย มันลำบาก ก็เลยให้เขาอยู่บ้าน ทำงานบ้านแทนแม่"

"อ๋อ..." เปาพยักหน้ารับรู้

"ผมอยากเล่นให้สโมสรน่ะครับพี่เปา จะได้มีเงินเดือนประจำมากกว่านี้" ไท้บอก

"เดี๋ยวก็ได้เล่นแล้ว ตอนนี้ในโซเชียลกำลังพูดถึงไท้กันเยอะเลย ต่อไปพี่ว่าไท้ทำแฟนเพจกับอินสตาแกรมด้วยก็ดีนะ ถ้าแฟนเพจเยอะ จะมีรายได้เพิ่มอีกด้วยนะ"

"จริงเหรอครับ แล้วมันทำไงล่ะครับ" ไท้ตาโต

"พี่ก็ไม่รู้ว่าทำไงนะ แต่พี่เคยได้ยิน เดี๋ยวพี่หาข้อมูลให้ ตอนนี้...ไท้ทำแฟนเพจก่อนดีกว่า"

"ผมทำไม่เป็นน่ะครับ" ไท้ยิ้มอายๆ

"ไม่ยากหรอก เดี๋ยวพี่ช่วยทำให้ก็ได้ เอางี้...เย็นนี้พี่ว่าง เย็นๆ ไปห้องพี่นะ เดี๋ยวพี่จะทำให้"

พอถูกชวนไปห้อง ไท้ก็ทำหน้าไม่ถูก เพราะเข้าไปทีไรไม่พ้นลงเอยด้วยเรื่องนั้นทุกที "อ๋อ...ได้ครับ"

"งั้นพี่ว่า...ไท้เตรียมรูปเท่ๆ กับวิดีโอสั้นๆ ไว้หน่อยดีไหม จะได้เอาไว้อัปขึ้นเพจให้คนมากดไลค์ไง" แววตาของเปาเป็นประกาย

"แล้วจะไปถ่ายที่ไหนล่ะครับ" ไท้ถามพลางมองไปรอบๆ

"ที่นี่แหละ เดี๋ยวพี่ถ่ายให้" เปาบอก

จากนั้นเปาก็ช่วยกำกับ จัดท่าและหามุมให้ไท้ถ่ายรูปกลางแม่น้ำ เขาใช้โทรศัพท์ไอโฟนที่ติดมาด้วยถ่ายให้ เปาเรียนเรื่องการถ่ายภาพมาบ้าง เพราะต้องเอามาใช้ทำแฟนเพจของร้าน ก็เลยพอทำเป็น รู้ว่าภาพแบบไหนใช้ได้ แบบไหนใช้ไม่ได้

"ยิ้มหน่อยสิ แบบนั้นแหละ แต่ไม่ต้องเยอะ ใช่ๆ แบบนั้นแหละ กำลังดีเลย โห...รูปนี้หล่อสุดๆ ไปเลย ถ้าเอาลง สาวๆ ต้องกรี๊ดสนั่น ยอดไลค์เป็นหมื่นแน่ๆ" เปาหัวเราะสนุก ท่าทางดูผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติ ราวกับเป็นคนละคนเวลาอยู่ที่บ้านกับพ่อ

"ผมขอดูหน่อยดิ" ไท้บอกพลางพายเรือเข้ามาหา สีหน้าตื่นเต้น

เมื่อไท้มาถึง เปาก็ดึงเรือของไท้เข้ามาชิดกัน ก่อนเลื่อนรูปในมือถือให้ไท้ดู

"เป็นไง ชอบไหม" เปาถามขณะชี้ชวนดูรูปที่ถ่ายไว้สิบกว่ารูป

"โห พี่ถ่ายรูปสวยมากเลย พี่เปาเก่งนะครับเนี่ย ทำได้ตั้งหลายอย่าง" ไท้ยิ้มพอใจ สายตาบ่งบอกว่าชื่นชมอย่างที่พูด

"ก็หัดๆ เอา ของพวกนี้ไม่ยากหรอก ไท้ก็ทำได้ ถ้าอยากทำเป็น พี่สอนได้นะ" เปาหันไปยิ้ม

แก้มใสนั้นอยู่ใกล้จนอดเผลอมองไม่ได้ ริมฝีปากนั้นก็ห่างไปไม่กี่คืบ หลายวันมานี้ เปาแทบไม่มีโอกาสอยู่กับไท้ลำพังเลย เขาจึงคิดถึงสัมผัสพิเศษนั้นไม่น้อย

"พี่ว่าพี่ไม่อยากให้ไท้เอาลงแล้วล่ะ" เปาพูดทีเล่นทีจริง

"อ้าว ทำไมล่ะครับ" ไท้ย่นคิ้วฉงน

"อ้าว เดี๋ยวสาวๆ มาชอบไท้เยอะไง พี่ก็ตกกระป๋องดิ" เปาแกล้งนิ่วหน้า

"อ๋อ...ไม่หรอก ใครจะชอบเด็กบ้านนอกอย่างผม" ไท้หัวเราะเขินๆ รู้สึกร้อนวูบๆ วาบๆ ตามตัวและใบหน้าเมื่อเห็นแววตาที่เปามองมา

"เดี๋ยวนี้ก็ไม่ดูบ้านนอกแล้วนะ" เปาพูด ก่อนเปลี่ยนเรื่อง "ถ่ายเซลฟี่กับพี่หน่อยดิ"

ไท้พยักหน้าตกลง เปาเอามือโอบไหล่ของไท้ไว้ ส่วนอีกข้างจับมือถือยื่นออกไปจนสุดแขน เขาเอียงหัวเข้าใกล้ สายตาทั้งคู่จ้องมองภาพในจอมือถือ ตัวเลขนับถอยหลังถ่ายอัตโนมัติเริ่มวิ่ง สองหนุ่มรีบจัดท่าและองค์ประกอบภาพ ไม่กี่อึดใจภาพนั้นก็ถูกบันทึกลงไปในเมมโมรี่การ์ด

เปาวางมือที่จับมือถือลง แต่แทนที่มืออีกข้างจะปล่อยกลับยังโอบไหล่ไท้ค้างไว้ ก่อนยื่นหน้าเข้าใกล้แก้มใส จนกระทั่งจมูกและริมฝีปากประทับลงไปบนแก้มที่เผลอเอียงมาให้อย่างรวดเร็ว

ไท้หันมามองอย่างตกใจ แต่กลับต้องประหม่าและใจเต้นซ้ำเมื่อเจอสายตาคมจ้องสะกด เขาทำตัวไม่ถูกไปเลย จึงได้แต่นั่งนิ่งและสบตากัน

พักหนึ่งเปาก็ปล่อยมือออก คงเป็นเพราะเห็นเรือหางยาวของชาวบ้านแล่นผ่านมา มันแผดเสียงดังแสบแก้วหูจนดูขัดกับวิถีชีวิตเรียบสงบที่นี่ กระทั่งเรือแล่นผ่านไปไกลและเบาเสียงลง เปาจึงพูด

"พี่ไม่รู้จะบอกความรู้สึกของพี่กับไท้ยังไงดีนะ แต่ไท้รู้ใช่ไหมว่าพี่...รู้สึกดีกับไท้ รู้สึกดีมากๆ ด้วย"

โดนขโมยหอมแก้มก็ว่าน่าตกใจแล้ว ประโยคนี้ของเปากลับน่าตกใจยิ่งกว่า

"ไท้ก็รู้สึกดีกับพี่ใช่ไหม" เปาถามดักก่อนที่อีกฝ่ายจะพูด

ไท้ดูอึ้ง เขากลืนน้ำลายเหนียวๆ รู้สึกเหมือนลำคอแห้งผากทั้งๆ ที่เพิ่งดื่มน้ำไปหลายแก้วตอนกินอาหารเช้า สักพักก็ตอบกลับไปอย่างอึกๆ อักๆ

"แต่...พี่เปามีแฟนอยู่แล้ว ผม..."

"ไม่ต้องห่วงคนอื่นหรอกไท้" เปาแย้ง สีหน้าดูจริงจัง เขาถอนหายใจยาว "ไท้รู้เรื่องพี่กับจีนแล้วใช่ไหม"

"ครับ"

"พี่เคยรักเขามาก่อน แต่พี่...ก็ทำให้เขาเจ็บ เจ็บมากด้วย พี่รู้ตัวว่าพี่ทำไม่ดีกับเขานะ แต่...ไท้ก็พอจะเดาได้ใช่ไหมว่าทำไมพี่ถึงทำแบบนั้นกับเขา"

ไท้พยักหน้า ท่าทางดูไม่สบายใจนักเมื่อพูดคุยเรื่องนี้

"แต่มันจบไปแล้ว ไท้ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก ที่พี่บอกไท้เรื่องนี้ เพราะพี่อยากให้ไท้รู้ว่า...พี่ก็ตามหาตัวตนของพี่...แล้วก็หัวใจของพี่เหมือนกัน ตลอดเวลาที่พี่คบกับฟาง ลึกๆ พี่ก็รู้ว่ามันไม่เหมือนกับที่พี่เคยคบกับจีนหรอก พี่ยังนึกถึงจีนเสมอนะ เพราะเขา...เป็นรักแรกของพี่ แต่พี่ก็ยอมรับไม่ได้ ไท้รู้ไหม ตอนเรียนมหาลัย พี่เคยแอบจีบผู้ชายคนหนึ่งเล่นๆ ด้วย เพราะพี่คิดถึงความรู้สึกแบบนี้ แต่ไม่มีใครรู้หรอก แต่พอเจอฟางพี่ก็หยุด"

เปาหยุดเว้นจังหวะ ลอบสังเกตดูท่าทางของไท้ ในแววตาคู่นั้นมีความกลัวปรากฎอย่างที่เขาคาดไว้ "ไท้กลัวใช่ไหม กลัวว่าพี่จะทำกับไท้...เหมือนที่พี่เคยทำกับจีนใช่ไหม"

ไท้ยังไม่ตอบ ได้แต่มองหน้า เปาจึงพูดสืบไป

"ไท้จะกลัวก็ได้ พี่ไม่ว่าหรอก" เปาถอนหายใจสั้นๆ ก่อนพูดต่อ "สงสัยใช่ไหมว่าทำไมพี่ถึงกล้าพูดเรื่องนี้กับไท้ พี่ว่าไท้ก็คงเห็นว่าพี่...เกลียดคนพวกนี้มาตลอด แม้กระทั่งพ่อของพี่เอง...พี่ก็ยังไม่ยอมรับเลย มันเป็นเรื่องยากสำหรับพี่นะไท้ที่จะยอมรับเรื่องนี้ แต่คนที่พี่จะบอกเรื่องนี้ด้วย...มีแค่สองคนเท่านั้น...ที่พิเศษมากๆ สำหรับพี่"

เปาหยุดเว้นจังหวะอีกครั้ง รอจังหวะไม่นานก็พูดต่อ "คนแรกก็คือจีน ที่พี่บอกเขา เพราะพี่อยากไถ่โทษเรื่องที่พี่ทำกับเขาไว้เมื่อหลายปีก่อน พี่รู้ว่าจีนเขาทรมานนะ ชีวิตเขาถึงเป็นแบบนี้ไง เขาคงเจ็บมากที่พี่ทำกับเขาแบบนั้น อ้อ...พี่คุยกับเขาแล้วนะ พี่บอกเขาแล้วว่า...ทั้งหมดที่พี่ทำไป มันเป็นความรัก พี่เคยรักเขามากนะไท้ และพี่ก็อยากให้จีนรู้ เผื่อว่า...จะช่วยให้อะไรๆ ดีขึ้น"

ไม่รู้ว่าไท้ตกใจหรือเปล่าเพราะอ้าปากค้างเล็กน้อย สำหรับเปามันอาจจะจบ แต่จีนล่ะ ไท้ดูไม่ออกเลยว่าจีนรู้สึกอย่างไรหรือคิดอะไรอยู่ เขาดูเป็นคนเปิดเผยและร่าเริงก็จริง แต่ก็มีบางอย่างขัดแย้งซ่อนลึกอยู่ในบุคลิกนั้น

"ส่วนคนที่สองที่พี่บอกก็คือไท้" เปาอธิบายต่อ "จีนเขาเป็นอดีตของพี่ แต่ไท้...จะเป็นปัจจุบัน...แล้วก็อนาคตต"

ไท้เบิกตาโต คาดว่าคงอึ้งไม่น้อย

"ไท้รู้ไหม ทุกครั้งเวลาที่พี่อยู่กับไท้ พี่มีความสุข เราชอบอะไรหลายอย่างเหมือนกัน ชอบหมา ชอบดนตรี ชอบกีฬา แล้วก็ชอบกินอะไรเหมือนๆ กัน พี่รู้สึกว่าพี่เป็นตัวของตัวเอง ผ่อนคลาย สงบ ไม่ต้องวิ่งหนีอะไรเหมือนที่ผ่านมาอีก ไท้รู้ไหม ตั้งแต่พี่รู้จักไท้ พี่ถามตัวเองบ่อยๆ ว่าพี่โอเคกับความรู้สึกแล้วก็บรรยากาศแบบนี้ระหว่างพี่กับไท้หรือเปล่า แรกๆ พี่ก็ไม่กล้ายอมรับหรอก แต่สุดท้าย...พี่ก็ปฏิเสธหัวใจตัวเองไม่ไหวว่าพี่...รู้สึกดีกับไท้มากแค่ไหน"

เปายิ้ม คราวนี้ดูเป็นรอยยิ้มแห่งความสุขเสียที แต่พลันก็หุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อไท้ถาม

"แล้วพี่เปา...จะไม่รู้สึกผิดกับตัวเองเหรอครับ"

คนถูกถามหน้าเจื่อน ไม่รู้ว่าทำไมไท้จึงถามแบบนั้น แต่ก็ดีแล้วที่ถาม เพราะมันคือสิ่งที่เปากังวลใจลึกๆ เพราะเขากำลังจะผิดสัญญากับแม่ ที่จริงก็เคยผิดไปแล้วด้วยซ้ำ จึงเป็นสาเหตุให้เขารู้สึกผิดอยู่ลึกๆ

ในตัวของเปาเหมือนมีสัตว์สองตัวที่มักโต้เถียงกันอยู่เสมอ ทั้งสองตัวมีพลังพอๆ กัน แม้ว่าอีกตัวจะเพลี่ยงพล้ำ แต่ไม่นานก็จะกลับมาสู้ได้และทำให้อีกฝ่ายเพี่ยงพล้ำบ้าง ไม่มีฝ่ายไหนชนะอย่างถาวรและเด็ดขาด คราวนี้...ก็อาจจะไม่ต่างกัน

เปาพยักหน้ายอมรับตามตรง เขาหยิบมือถือของตัวเองออกมาจากกระเป๋ากางเกง จากนั้นก็เปิดและเลื่อนหาภาพถ่ายจดหมายของแม่ เปาถ่ายเก็บไว้ในมือถือตลอด และมักเปิดอ่านบ่อยๆ เพื่อเตือนใจตัวเอง เมื่อเจอแล้ว เปาก็ส่งจดหมายนั้นให้ไท้อ่าน

ไท้ลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็รับมาอ่านจนจบในเวลาไม่นานเพราะเป็นจดหมายสั้นๆ กระนั้นก็รู้สึกกินใจกับความรักของแม่ที่ถ่ายทอดลงไปในนั้น อย่างนี้นี่เองเปาถึงรู้สึกผิดกับตัวเองและเกลียดพ่อ ขัดแย้งกับตัวเองมาตลอดหลายปี คำขอของแม่กลายเป็นหนามทิ่มแทงใจให้คนข้างหลัง ถ้าแม่ของเปารู้ว่าเปาเป็นแบบนี้ เธอจะเขียนจดหมายลาตายแบบนี้กับลูกชายหรือเปล่า

ไท้ส่งโทรศัพท์คืน การที่เปายอมเปิดเผยตัวตนกับไท้มากขนาดนี้ แสดงว่าต้องไว้ใจมากทีเดียว ฉะนั้น คงถึงคราวที่ไท้ควรต้องพูดบ้าง

"ผมยอมรับว่า...ผมก็กลัวนะครับ แต่ผมก็รู้สึกดีกับพี่ ตอนเด็กๆ ผมขาดพ่อ เวลาที่พี่เปาดูแลผม สอนผม ผมรู้สึกอบอุ่นใจ ถึงแม้ว่าผมจะรู้ว่าพี่มีแฟนอยู่แล้ว แต่ผมก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้...ผมรักพี่เปาไปแล้ว ถ้าผมจะเจ็บเพราะพี่...ผมก็ยอมครับ"

เปาเป็นฝ่ายเบิกตาโตบ้าง เขาคิดไม่ถึงว่าเด็กอายุเพียงสิบเก้าจะกล้าพูดขนาดนี้ ความเจ็บปวดในความรักไม่ใช่เรื่องเล่น บางครั้งก็อาจหมายถึงชีวิต แต่ไท้กลับไม่กลัวที่จะลงมาเล่นด้วย เพราะความรักที่เขามีต่อคนๆ หนึ่งหรือเปล่าที่ทำให้กล้าขนาดนี้

เป็นเรื่องยากที่เปาจะห้ามใจได้ เขารีบสวมกอดไท้ไว้เท่าที่สภาพตอนนี้จะเอื้ออำนวย "พี่จะพยายามนะไท้ สักวันหนึ่ง...พี่จะเอาชนะความรู้สึกผิดทั้งหมดให้ได้ ส่วนเรื่องฟาง...ไท้ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ไม่เจอเขามาจะเป็นเดือนแล้ว จบงานนี้...พี่จะขอเลิกกับเขาเอง"

แม้ไม่รู้ว่าจะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน แต่คำสัญญานั้นก็ไล่ความกังวลออกห่างไปได้บ้าง

"มีแฟนอยู่แล้ว ยังจะทำแบบนี้อีกเหรอ!"

อยู่ๆ ก็มีเสียงใครบางคนดังขึ้น เปากับไท้รีบผละออกจากกันแทบไม่ทัน เมื่อหันไปดูก็เห็นจีนอยู่บนเรือคายัคลำหนึ่ง ไม่รู้ว่าพายตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เปากับไท้ตกใจจนหน้าซีดและดูเลิ่กลั่ก

จีนพายเรือเข้ามาใกล้ จากนั้นก็หยุดและหยิบมือถือออกมา เขาเปิดหน้าโพรไฟล์ของเปาเตรียมไว้อยู่แล้ว พลันก็ยื่นให้สองคนดู ในหน้าจอนั้นมีภาพของเปากับฟางถ่ายเซลฟี่ด้วยกันใกล้ชิด ใครเข้ามาดูเฟสบุ๊คของเปาก็จะเห็นภาพแบบนี้เต็มไปหมด ถ้าไม่เสียสติก็จะรู้ได้ไม่ยากว่าเปากับผู้หญิงที่ถ่ายรูปขึ้นเฟสบุ๊คด้วยกันบ่อยๆ มีความสัมพันธ์กันแบบไหน

"ทำกับเราคนเดียวยังไม่พออีกเหรอ เปาจะทำแบบนี้กับไท้อีกคนใช่ไหม!" จีนถามเสียงดัง มือไม้และริมฝีปากสั่นด้วยความโกรธ

"มันไม่ใช่อย่างงั้นนะจีน" เปารีบบอก

"แล้วมันยังไง!" จีนย้อนถาม "มีแฟนหราแบบนี้ แล้วยังมาหลอกเด็กมันอีก จะให้คนอื่นเขาเข้าใจว่ายังไง!"

เปากับไท้แวบมองหน้ากัน ต่างคนต่างมีสีหน้ายุ่งยากใจ

"ถ้างั้นเปาก็คอยดู คราวที่แล้ว...เปาทำสำเร็จ แต่คราวนี้...คนที่เจ็บจะต้องเป็นเปา! ไม่ใช่ไท้ แล้วอย่าหาว่าเราใจร้ายก็แล้วกัน!"

จีนส่งสายตาอาฆาตจนดูน่ากลัว ไม่มีใครรู้หรอกว่าจีนจะทำอะไร แต่สายตาเจ็บปวดที่มองมาพอจะบอกได้ว่าเขาไม่ยอมง่ายๆ สิ่งที่เขาพูดไว้จะต้องเกิดขึ้นไม่วันใดก็วันหนึ่ง และมันต้องเกิดขึ้นอย่างที่เขาพูดเท่านั้น ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้!


TBC


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
:katai1: :katai1:

ดราม่าจนต้องขูดหน้ากันเลยทีเดียว 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
เห้อออ เปา ถึงเวลาของจีนแล้ว เปารอรับมือเลย
  รออ่านต่อคับ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
อาจจะเป็นคนนี้
ที่ใจจะไม่โหดร้ายเกินไป


หวัง....ว่าใจ...เค้าคงดี


เสี่ยงกันไป

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
จะเกิดอะไรขึ้น???

น่าติดตามนะครับ,,,,

ออฟไลน์ farhhhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ต้องตั้งรับแล้วเปาาาา ไอที่บอกจะเลิกกับฟางขนาดเราอ่านมา เรายังไม่มั่นใจเลยว่าจะเลิกจริงๆ 5555555
ให้กำลังใจเปานะ ส่วนจีนก็... แกต้องอย่าลืมว่าแกก็ทำกับคนอื่นเหมือนกันอ่ะ อาจจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่ก็ไม่ต่างซักเท่าไหร่ปะ แต่เอาเหอะ ให้เปาโดนมั่งก็คงเป็นบทเรียนที่ดีมั้ง55
ส่วนไท้ลูก5555555 หนูเหมือนเด็กที่ไม่รู้อิโหน่อีเหน่ ยืดท่ามกลางคนตีกันอ่ะ สงสารจังเลย น่าเอ็นดูจริงๆ นะเด็กคนนี้ :ruready
รอวันพน.สินะ รอตอนต่อไปแล้ว อยากอ่านนนนน


ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
EP 16 | ขอคืน


"พี่อยากได้แฟนเก่าของพี่คืนมาเหรอ"

เสียงดังฟังไม่ได้ศัพท์ดูเหมือนเบาลงไป เพราะประสาทสัมผัสและความคิดเปลี่ยนมาจดจ่อที่คำถามนี้เท่านั้น ที่จริงเขาคิดเรื่องนี้มาหลายวันแล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองว่าคิดแบบนั้นหรือเปล่า ตอนแรกยอมรับว่าเกลียดกลัวและเข็ดหลาบ แต่พอได้รู้ความจริงจากปาก ความรู้สึกก็เปลี่ยนไปเพราะคำว่า "เคยรัก" พลันความเจ็บปวดเสียใจที่เคยมีก็หายไปราวกับปลิดทิ้ง

คำว่า "เคยรัก" หรือเปล่าที่พาความรู้สึกเก่าๆ ย้อนคืนกลับมา ถ้าใช่...ก็นับว่าน่าเศร้า เพระคนที่เคยรักไม่เหมือนเดิมแล้ว ในขณะที่ตัวเขาเองกลับไม่ยอมเปิดใจให้ใคร แม้ไม่ตั้งใจเก็บใจไว้รอรักเก่า แต่ก็เหมือนเป็นอย่างนั้นไปแล้ว

แก้วน้ำสีอำพันถูกยกขึ้นจ่อริมฝีปาก คราวนี้เขากระดกรวดเดียวหมดแก้ว เมื่อวางแก้วลงเขาจึงพูด "พี่ไม่รู้เหมือนกัน" เขาแค่นหัวเราะก่อนพูดสืบไป "มันควรจะจบไปตั้งนานแล้ว ไม่รู้จะกลับมาเจอกันอีกทำไม แม่งโคตรตลกเลยชีวิตพี่"

เขาถอนหายใจยาว ภาพในอดีตเก่าๆ วนฉายในความคิด เขานึกถึงบรรยากาศที่อบอุ่น ความวาบหวามใจยามอยู่ใกล้และสบตากัน กลิ่นกายพิเศษเฉพาะตัวและลมหายใจอุ่นๆ ยามกอดกระหวัดแนบชิด แม้เสียงพูดธรรมดาก็ยังฟังเพราะราวกับเสียงจากสวรรค์ รักแรกที่งดงามผูกพันแน่นเหนียวในใจเหลือเกิน

"เกมคิดว่าไง" อยู่ๆ เขาก็หันกลับไปถามบ้าง คงเป็นเพราะเขาคิดไม่ออก หรือไม่ก็ไม่กล้าคิด จึงต้องการตัวช่วยสะท้อน

หนุ่มน้อยนามว่าเกมครุ่นคิด ไม่นานก็บอกไป "ห้าปีผ่านมาแล้ว พี่ยังไม่ลืมเขาเลย ถ้าให้ผมเดานะ ผมว่าพี่ยังรักเขานั่นแหละ ไม่งั้นพี่จะคร่ำครวญถึงขนาดนี้เหรอ"

ฟังดูมีเหตุผลไม่น้อย เพราะที่จริงแล้วจีนเคยรักเปามาก ความรักที่สวยงามครั้งนั้นยังคงฝังใจ จนนำมาสู่การประชดชีวิตในหลายปีที่ผ่านมา ใครว่าอดีตลืมง่าย เราลืมได้เฉพาะเรื่องที่ไม่สำคัญต่างหาก ส่วนเหตุการณ์สำคัญในชีวิตไม่มีทางลบเลือน เว้นแต่สมองส่วนนั้นจะถูกทำลาย

"บางทีพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเขาแค่พูดให้พี่สบายใจแค่นั้นหรือเปล่า เขาอาจจะหลอกพี่อีกก็ได้ พี่กลัวพี่จะโดนหลอกซ้ำรอยอีกน่ะเกม หรือเกมคิดว่าไง เขาบอกพี่อย่างนั้นก็ดีแล้วใช่ไหม ไม่ต้องสนใจหรอกว่าเขาโกหกหรือพูดจริง" จีนรำพึง เขาไม่เคยแสดงอาการอย่างนี้ให้ใครเห็นเลย น่าแปลกที่เพลย์บอยหนุ่มอย่างเขากลายเป็นอย่างนี้ไปได้

"ดูท่าทางพี่จีนจะรักเขามากนะครับ ผมไม่เคยเห็นพี่เป็นแบบนี้เลย" เกมพูด สายตาฉายความเห็นใจอย่างเต็มที่

จีนหยิบแก้วบรรจุน้ำสีอำพันใหม่ขึ้นกระดก เขาดื่มไปหลายแก้วจนคนที่มาด้วยชักเป็นห่วงว่าจะเมา ที่จริงก็น่าจะเมาบ้างแล้ว

"ก็อย่างที่พี่บอกนั่นแหละ เขาเป็นรักแรกของพี่" จีนพูด เขาวางแก้วที่ยังไม่หมดลง สายตาเหม่อลอยไปที่ไหนสักแห่ง

"ที่พี่เป็นแบบนี้มาหลายปี เพราะคนนี้หรือเปล่าครับ" เกมถามสวนไป

จีนชะงักเล็กน้อย เสียงดนตรีและเสียงคนพูดคุยกันดังแค่ไหนก็พร่าเลือนอยู่เบื้องหลัง อารมณ์ของเขากับบรรยากาศในบาร์เหล้าสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง เขาไม่เคยมาในที่อโคจรแบบนี้ด้วยอารมณ์นี้ เขาดูเข้มแข็งและเป็นผู้ชนะเสมอ เพราะเขาเป็นผู้เลือก ไม่ใช่ผู้ถูกเลือก แต่การปรากฎตัวของเปาทำให้ทุกอย่างกลับตาลปัตร

"เกมคิดว่าไงล่ะ" จีนย้อนถามอีกครั้ง น่าแปลกที่คนมีความมั่นใจสูงอย่างเขาต้องอาศัยความคิดเห็นของคนอื่นช่วยสะท้อน แสดงว่าสภาพจิตใจของเขาคงเปราะบางไม่น้อย

"ผมว่าแล้ว ผมก็สงสัยอยู่ แต่ไม่กล้าถาม" เกมหัวเราะในลำคอ เขาไม่แปลกใจแล้วที่จีนไม่ลงเอยกับใครสักคน คบแล้วก็เลิกหมด มีเพียงเกมคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงสถานะ "พี่น้อง" เอาไว้ได้ ในขณะที่คนอื่นๆ เลิกแล้วเลิกเลย คงเป็นเพราะเกมไม่ได้เข้าหาจีนเพราะเงิน เขารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้น่าค้นหา ในท่าทีที่ดูมั่นใจและมีอำนาจ เขากลับเห็นความเปราะบางซ่อนอยู่รางๆ

แต่ก็น่าเสียดาย เกมไม่เคยเข้าใกล้จีนได้มากว่าความสัมพันธ์ทางกายเลย จีนดูเหมือนรู้สึกไม่มั่นคง เขาไม่ชอบคบใครลึกซึ้ง พอจะรู้สึกจักกันมากขึ้นก็มีอันต้องเป็นไปก่อนเสมอ ยิ่งเกมอยากรู้จักมากขึ้น จีนก็ถอยหนีมากขึ้น จนกระทั่งความสัมพันธ์แบบ "แฟน" จบลงด้วยชะตากรรมเดียวเหมือนกับหลายๆ คน กระนั้น เกมก็ยังไม่หมดความหวังเสียทีเดียว เพราะเขาสามารถต่อรองลดความสัมพันธ์เหลือแบบพี่น้องได้

จีนทำท่าจะยกแก้วกระดกอีก เกมรีบเอามือแตะห้ามไว้ "พอเหอะพี่จีน พรุ่งนี้พี่มีแข่งไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวโค้ชว่าเอานะครับ"

จีนชะงัก แต่พอเกมปล่อยมือ เขาก็ยกกระดกซดรวดเดียว เกมจึงได้แต่ส่ายหัวไปมา ส่วนเขาก็ดื่มบ้าง แต่ไม่มากนักเพราะพรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้า

ไม่นานเสียงแก้ววางตกกระทบพื้นเคาน์เตอร์ก็ดังขึ้น ตามด้วยเสียงพ่นลมหายใจยาวอีกรอบ จีนทำท่าครุ่นคิด คงไม่แน่ใจว่าจะดื่มต่อหรือจะกลับไปนอน เพราะพรุ่งนี้มีแข่งนัดสำคัญกับทีมชาติจีน จำเป็นต้องเก็บพลังไว้เพื่อชาติ ตอนนี้ทีมกำลังมีความหวังมาก ต้องการความเป็นมืออาชีพและความทุ่มเทของทุกคน แต่สุดท้ายเขาก็หันไปสั่งเหล้ามาเพิ่ม กะว่าจะดื่มอีกสักพักแล้วก็จะกลับ

ที่จริงจีนก็ไม่คิดจะออกมาดื่มหรอก บังเอิญว่าเกมโทรหา ปกติเกมก็มักโทรมาถามไถ่ข่าวคราวและทุกข์สุขตามประสารู้จักกันบ่อยๆ มีนัดเจอกันบ้าง ครั้งนี้จีนออกปากว่าอยากคุยด้วย จึงนัดมาเจอกันที่นี่ แรกๆ ก็แค่ดื่มไปคุยไป พอเหล้าเข้าปากจีนก็เริ่มคายความรู้สึกออกมา ไปๆ มาๆ ก็เล่าเรื่องอดีตรักที่ไม่เคยลืมให้ฟัง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเมาหรือไว้ใจกันแน่

"ยังไงไม่รู้ พี่ไม่ไว้ใจเขาเลย เกมรู้ไหม เขามีแฟนเป็นผู้หญิง ยังคบกันอยู่ พี่เข้าไปดูในเฟสบุ๊คเขา ก็ยังเห็นถ่ายรูปด้วยกันหวานแหววอยู่เลย แต่เขากลับมาให้ความหวังกับน้องผู้ชายในทีมคนหนึ่ง พี่กลัวว่าน้องคนนั้นจะเป็นเหมือนพี่ พี่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ถ้าเขาทำแบบนั้นอีก เขาก็เลวมาก"

จีนวกกลับมาพูดเรื่องเปาอีกจนได้ ดูเหมือนยิ่งพูด เขาก็ยิ่งไม่มีความลับอีกต่อไป

"พี่รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องของพี่นะ แต่พี่ยอมไม่ได้หรอก พี่จะไม่ยอมให้เขาทำร้ายน้องคนนั้นเด็ดขาด ถ้าพี่จะขอให้เกมช่วยพี่ทำอะไรสักอย่าง เกมจะพอช่วยพี่ได้ไหม"

ในที่สุดจีนก็หาทางเข้าเรื่องที่เขาต้องการจนได้ เกมถึงกับชะงักเมื่อรู้สิ่งที่จีนต้องการ

"พี่จะทำอะไรเหรอครับ จะแย่งแฟนเก่าพี่คืนมางั้นเหรอ ผมว่ามันไม่ดีหรอก มันจบไปแล้วนะพี่ พี่จะรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีกทำไม พี่จีนลองถามตัวเองดีๆ สิครับว่าตกลงพี่ต้องการอะไรกันแน่ ต้องการแฟนเก่า หรือว่าต้องการแก้แค้น หรือต้องการอย่างอื่น" เกมย้อนถาม

คิ้วสองข้างย่นเข้าหากัน ใบหน้าส่งภาษาสัญญาณว่ากำลังคิดหนัก พอต้องถามตัวเองจริงๆ จีนกลับนึกไม่ออกว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่ ตอนแรกก็คิดว่าให้อภัยได้แล้ว แต่พอเห็นเปาแสดงความสนใจไท้ขึ้นมา แถมเปาเองก็ยังมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่ ความคิดว่าจะให้อภัยก็พลันหายไป

"พี่ไม่รู้ว่าพี่ต้องการอะไร พี่อาจจะต้องการทั้งหมดที่เกมว่ามาก็ได้ แล้วถ้ามันเป็นอย่างงั้น เกมจะช่วยพี่หรือเปล่า" จีนพูดพร้อมกับสบตาฝ่ายตรงข้าม แววตาคู่นั้นคล้ายจะขอความเห็นใจนิดๆ

ความเงียบท่ามกลางเสียงเพลงดังกระหึ่มบังเกิดขึ้นอีกครั้ง สีหน้าของเกมดูคล้ายลำบากใจ แต่เขากลับใช้เวลาครุ่นคิดไม่นานที่จะตอบคำถามนี้

"ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าผมจะช่วยพี่ได้ยังไง หรือพี่จะให้ผมทำอะไร แต่ผมก็ไม่มีปัญหาที่จะช่วย สำหรับพี่จีนแล้ว...ผมเต็มที่อยู่แล้ว จะให้ผมช่วยยังไงก็บอกผมละกันครับ"

เกมส่งยิ้มให้หนุ่มรุ่นพี่ ต่างคนต่างยิ้มพอใจให้กัน แต่เรื่องที่พอใจอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้

"ขอบใจมากนะเกม" สีหน้าของจีนเปลี่ยนเป็นซาบซึ้ง ครู่เดียวก็แข็งกร้าวขึ้น เขาจะไม่มีวันแพ้อีกแล้ว ห้าปีที่ผ่านมา จีนพยายามถีบตัวเองขึ้นมาเป็นผู้ชนะ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะทำได้ ดังนั้น เขาจะไม่กลับไปแพ้อีกแน่นอน

"งั้นพี่จะกลับละ ขอบใจเกมมากนะที่ออกมาเป็นเพื่อนพี่ พี่รู้สึกดีมากๆ เลย พี่ว่าพี่คิดไม่ผิดเลยที่รักษาความสัมพันธ์ของเราไว้"

เกมหัวเราะเบาๆ ก่อนเปรย "ก็น่าจะเป็นโชคดีของผมนะครับ หวังว่า...ต่อไปผมจะโชคดีมากกว่านี้ อย่าลืมนะครับพี่...ผมรอได้"

จีนหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย แต่สักพักก็ยิ้มกลบเกลื่อน เขารู้ว่าเกมหมายถึงอะไร จึงเลือกที่จะไม่แสดงความคิดเห็นหรือสาวความต่อ สำหรับจีนแล้ว จนถึงตอนนี้เขาก็ยังกลัวที่จะมีความรัก ลึกๆ ในใจยังคงหวาดหวั่นว่าจะซ้ำรอย กระนั้น เขาก็ยังอยากขอความรักในวานคืนกลับมา

สองหนุ่มสองวัยแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง บาร์ที่จีนมานั้นอยู่ฝั่งธนบุรี เขาไม่เคยมาที่นี่หรอก เกมเป็นคนแนะนำเพราะเห็นว่าอยู่ใกล้ จีนจะได้ไม่ต้องขับรถมาไกลและไม่กลับดึกจนเกินไป กระนั้น จีนก็มาถึงโรงแรมที่พักในเวลาเลยเที่ยงคืนไปแล้ว

ในขณะที่กำลังจะเข้าห้องตัวเอง จีนก็พลันหยุดชะงัก เขามองเลยไปยังห้องหนึ่งซึ่งอยู่ถัดไปอีกหลายห้อง ท่าทางครุ่นคิดสื่อว่ากำลังตัดสินใจบางอย่าง สักพักเขาก็เปลี่ยนใจไม่เข้าห้อง เก็บคีย์การ์ดใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนเดินดุ่มๆ ตรงไปยังห้องที่หมายตาไว้ จีนจำได้ว่าเปาอยู่ห้องนี้ ถึงจะเมาๆ บ้างแต่ก็ไม่ถึงกับขาดสติจนลืมว่าใครอยู่ห้องไหน

อึดใจเดียวเขาก็มาหยุดอยู่หน้าห้องของเปา มือของเขายื่นไปหาปุ่มกดกริ่งเรียกหน้าห้อง ไม่ทันไรก็หดกลับ ครุ่นคิดสักพักก็ยื่นออกไปใหม่ ในหัวของจีนมีเรื่องตีกันสับสนวุ่นวาย เขาต้องนึกให้ได้ก่อนว่าการมารบกวนกลางดึกครั้งนี้จะคุยเรื่องอะไร เมื่อคิดได้แล้ว จีนจึงตัดสินใจกดกริ่งลงไปจริง




หลังกดกริ่ง จีนยืนรออยู่นานเป็นนาทีกว่าจะมีคนมาเปิดห้อง แน่นอนว่าต้องเป็นเปา เขาอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดแขนสั้นสีอ่อน ท่าทางดูง่วงๆ แต่ก็ไม่ถึงกับสลึมสลือมาก เพราะเพิ่งนอนไปได้ไม่กี่ชั่วโมง เขาเพิ่งช่วยไท้ทำแฟนเพจและอินสตาแกรมเสร็จ พอเพื่อนๆ ของไท้รู้เข้าก็มาขอให้ช่วยสอนด้วย ห้องนอนของเปาจึงกลายเป็นห้องอบรมย่อยๆ สอนไปคุยกันไปก็เลยดึกพอสมควร

พอเห็นว่าใครมาหา เปาก็ขมวดคิ้วสงสัย สายตาดูระแวดระวัง ท่าทีอย่างนี้ก่อให้เกิดความกระอักกระอ่วนใจกันทั้งสองฝ่าย

"อ้าวจีน มาซะดึกเลย มีอะไรเหรอ" เปาถาม เขาได้กลิ่นเหล้าจึงทำจมูกฟุดฟิด พักเดียวเขาก็แน่ใจว่าอีกฝ่ายคงออกไปดื่มข้างนอกมา "เข้ามาก่อนสิ"

จีนก้าวเท้าเข้าไปในห้องตามคำเชื้อเชิญ พอปิดประตู เขาก็มองไปที่เตียงนอนอันดับแรก ไม่มีใครนอนอยู่ด้วย จึงพอโล่งใจไปได้บ้าง พลันเขาก็หันมาถามเจ้าของห้อง "ถามจริง มึงไม่ได้รักกูใช่ไหม ที่มึงบอกว่ามึงเคยรักกู มึงแค่หลอกให้กูสบายใจใช่ไหมไอ้เปา"

เปาขมวดคิ้วเป็นปื้น ดูท่าทางจีนคงจะเมาแน่ ถึงพูดเหมือนคนไม่มีสติแบบนี้ "เมาหรือเปล่าเนี่ย"

"มึงไม่ต้องสนใจหรอกว่ากูเมาหรือไม่เมา มึงตอบกูมาก่อน" จีนยืนยันเสียงกร้าว

"แล้วเราจะทำอย่างงั้นไปทำไม" เปาย้อนถาม สีหน้าเริ่มไม่พอใจ

"ก็มึงหลอกกูมาตลอดไม่ใช่เหรอ!" จีนเสียงดัง

"เฮ้ยจีน เราว่าเราพูดกันเข้าใจแล้วไม่ใช่เหรอ"

"ใช่ กูเคยคิดว่าจะให้อภัยมึงอยู่แล้ว แต่คิดไปคิดมา กูก็ไม่ควรจะเชื่อมึงง่ายขนาดนั้น!" จีนเว้นจังหวะ พร้อมยกมือขึ้นชี้หน้า สายตาดุดันถมึงทึง "เพราะมึง...ใจคอโหดร้าย มึงรู้ไหมว่ากูเจ็บแค่ไหน ห้าปีที่ผ่านมา ชีวิตกูเป็นแบบนี้ก็เพราะมึง กูไม่กล้ารักใคร กูกลัวถูกทำร้ายเหมือนที่มึงทำกับกู มึงจำได้ไหม มึงบอกว่ามึงเกลียดคนแบบกู มึงขยะแขยง มึงอยากจะอ้วกทุกครั้งที่อยู่กับกู มึงผลักกูล้ม แล้วมึงก็เตะกูเหมือนหมูเหมือนหมา ด่ากูเหมือนกับกูไม่ใช่คน มันฝังอยู่ในใจกูจนถึงทุกวันนี้ มึงรู้ไหมว่ามันโคตรเจ็บ ทำไมมึงใจร้ายกับกูขนาดนี้วะไอ้เปา กูทำอะไรให้มึง กูรักมึงขนาดไหนมึงรู้ไหม หา! ไอ้เปา"

จีนร้องไห้สะอึกสะอื้น น้ำตาไหลอาบแก้มและตัวโยน ตั้งแต่วันนั้นที่โดนเปาด่าทอและขับไสไล่ส่งอย่างกับหมูกับหมา จีนก็ไม่เคยร้องไห้แบบนี้อีกเลย

อย่าว่าแต่จีนเลยที่เจ็บ เปาเองก็เจ็บไม่น้อยเหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อได้มาเห็นความเจ็บปวดของจีนกับตาตัวเอง เพราะวันนั้น เปาจัดการเสร็จก็เดินจากไป ไม่หันกลับไปดูด้วยซ้ำว่าจีนเจ็บแค่ไหน เขาเดินหนีไปจากเสียงร้องไห้คร่ำครวญอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ตั้งแต่นั้นก็ตัดขาดกันไปเลย

"เราขอโทษจีน" เปาพูดเสียงเครือ ไม่นานน้ำตาก็ไหลลงมา เขายอมรับว่าที่ทำไปนั้นโหดร้ายมาก แต่ก็ทำไปแล้ว ถ้าหากตอนนี้ย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ เปาก็พร้อมจะทำให้ทันที

จีนโผเข้ากอดเปาแน่น แม้เปาในวันนี้จะเป็นหนุ่มและโตกว่าตอนนั้นมาก แต่สัมผัสและกลิ่นกายนี้ก็ยังคุ้นมือและประสาทสัมผัสต่างๆ เปาไม่ต่อต้านหรือถอยหนี กระนั้นก็ลังเลว่าควรจะกอดตอบดีหรือเปล่า

"มึงกลับมารักกูเหมือนเดิมได้ไหมไอ้เปา กูรักมึงคนเดียว จนถึงวันนี้กูก็ยังรักมึง ถึงมึงจะทำกูเจ็บแค่ไหนกูก็รักมึง ห้าปีที่ผ่านมากูไม่มีใครเลย มีแต่มึงคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยกูได้ กูไม่อยากมีชีวิตแบบนี้อีกแล้ว มึงช่วยกูได้หรือเปล่าไอ้เปา มึงช่วยกูได้หรือเปล่า"

จีนคร่ำครวญหนักขึ้น ดูน่าเวทนาไม่น้อย ถ้าไม่ใช่เปาแล้ว จีนคงไม่กล้าลงทุนอ้อนวอนขนาดนี้

มือของเปาที่กำลังจะกอดตอบพลันตกลงข้างตัว แม้ว่าจะเคยรักคนๆ นี้ แต่วันนี้หัวใจของเปาก็ไม่เหมือนเดิม "มันจบไปแล้วนะจีน หัวใจของเรา...ไม่เหมือนเดิมแล้ว เรารักจีนแบบนั้นไม่ได้"

"แล้วมึงจะปล่อยให้กูเป็นแบบนี้เหรอ มึงรู้ไหมว่ากูก็อยากมีความรัก เหมือนที่กูเคยรักมึง แต่กูทำไม่ได้ กูกลัวคนพวกนั้นมันจะทำร้ายกูเหมือนมึง"

สภาพจิตใจของจีนอ่อนแออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ตั้งแต่กลับมาเจอกับเปาอีกครั้ง ความมั่นคงภายใจก็สั่นคลอน คล้ายกับตึกที่สร้างผิดหลักวิศวกรรม พอเจอแผ่นดินไหวเข้าหน่อยก็พร้อมจะพังครืนได้ทุกเมื่อ

ยิ่งได้ฟังเปาก็ยิ่งเสียใจ บาดแผลในใจของจีนคงบาดลึกจนยากจะรักษา ขนาดผ่านมาห้าปีแล้วยังไม่หาย และดูท่าว่าจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานหลายปี

"ถ้าไม่ใช่มึง มึงคิดว่าใครจะช่วยกูได้ ไอ้เปา...มึงช่วยกูได้ไหม ก็ไม่อยากเป็นแบบนี้อีกแล้ว กูทรมาน"

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว จีนมาถึงจุดที่พร้อมจะปล่อยให้ตัวอ่อนแอถึงที่สุด เขาจึงปล่อยอารมณ์อย่างเต็มที่ ไม่ปิดบังความรู้สึกใดๆ อีกต่อไป เพราะจะว่าไป เขาเก็บกดมานานเกินไปแล้ว

"ให้เราช่วยอย่างอื่นได้ไหมจีน เพราะยังไง...เราก็รักจีนแบบนั้นไม่ได้ เรารักไท้ไปแล้ว...จีนก็รู้" เปากัดฟันบอกปัด แม้ไม่อยากใจร้ายอีกครั้งแต่ก็ต้องทำ เพราะถ้ายอมทำตามที่จีนขอร้อง ก็เท่ากับหลอกให้จีนเจ็บซ้ำสอง

"ใช่ กูรู้ แต่กูขอร้องมึง มึงช่วยกูไม่ได้เหรอ มึงช่วยทำให้กูหายเจ็บได้ไหม ทำให้กูหายกลัวได้ไหม หลังจากนั้น มึงจะไปจากกู กูก็ไม่ว่า แต่ตอนนี้...มึงช่วยกูได้หรือเปล่าไอ้เปา" จีนขอร้องราวกับจะขาดใจ ประหนึ่งว่าชีวิตนี้ไม่เหลือที่พึ่งอีกแล้ว

มันก็น่าหนักใจไม่น้อย เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เปามีส่วนเป็นอย่างมาก จะปฏิเสธความรับผิดชอบก็คงไม่ได้ จะไม่ช่วยเลยก็คงใจร้ายเกินไป แทบจะไม่มีช่องใดๆ ให้ปฏิเสธอีกแล้ว ที่จริงย่อมปฏิเสธได้ นั่นคือสิ่งที่เปาควรทำมากที่สุด แต่บางครั้งคนเราก็ไม่สามารถทำได้ทุกอย่างอย่างที่ใจคิด

"แล้วจีน...ต้องการเวลานานแค่ไหน" เปากลั้นใจถามไป แม้รู้ว่าไม่ดีแน่ เพราะไม่ใช่แต่ไท้เท่านั้น แต่ยังมีฟางอีกคนที่เขายังไม่ได้ไปเคลียร์ ถ้าเพิ่มจีนเข้ามาอีกคนก็มีแต่จะเพิ่มความยุ่งยาก สุดท้ายก็จะกลายเป็นลิงพันแห หาทางออกไม่ได้

"สามเดือนก็ได้" จีนตอบ

"แล้วจีนจะให้เราทำอะไร"

"ก็ทำเหมือนที่เปาเคยทำไง ตอนเรียนมัธยม เปาเคยทำยังไง เปาก็ทำแบบนั้น"

สีหน้าของเปาดูหนักใจอย่างยิ่ง ในเมื่อไม่ได้รักจีนแบบนั้นแล้ว เขาก็นึกไม่ออกว่าจะทำอย่างนั้นกับจีนได้อย่างไร ถึงทำได้ก็ต้องฝืนใจทำ ไม่ได้มาจากความรักจริงๆ

"จีนแน่ใจเหรอ เราไม่ได้รู้สึกกับจีนเหมือนตอนนั้นแล้ว มันไม่จริงใจนะจีน จีนรับได้เหรอ"

"รับได้สิ ตอนนี้...เรารับได้ทั้งนั้น ขอแค่ให้เราได้รักษาหัวใจของเราบ้าง สามเดือนมันไม่นานขนาดนั้น แค่นี้...เปาช่วยจีนไม่ได้เหรอ อยากให้จีนเป็นแบบนี้ไปจนตายเลยเหรอ"

จีนไม่ยอมวางมือง่ายๆ เหมือนกับคว้าขอนไม้ใหญ่กลางทะเลเวิ้งว้างได้แล้ว เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็จะไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด

"ช่วยจีนได้ไหมเปา มีแค่เปาคนเดียวที่จะช่วยจีนได้ จีนขอร้อง"

เสียงสะอื้นดังขึ้นมาอีกคำรบ ถึงตอนนี้เปาก็แทบไม่เหลือหนทางแล้วเพราะถูกบีบไปทุกทาง สิ่งที่จะตอบก็คงไม่พ้นไปจากนี้ อยู่ที่ว่าจะหลุดปากออกไปตอนไหนเท่านั้น

"นะเปา ไม่ต้องรักจีนก็ได้ แค่ทำเหมือนรักกัน ดูแลให้จีนหายเจ็บไปบ้าง จีนขอแค่นี้เอง เพราะจีนไม่มีปัญญาแล้ว ถ้าเปาไม่ช่วย จีนก็คงต้องเป็นอย่างนี้ไปจนตาย เปาช่วยจีนหน่อยนะเปา"

นี่มันข้อเสนออะไรกันหนอ ตั้งแต่เกิดมาเปาก็ไม่เคยพบเห็น จีนต้องการอะไรกันแน่ เมื่อกลางวันยังทำท่าอาฆาตกันอยู่เลย ตกกลางคืนกลับมาขอร้องอ้อนวอนให้ช่วยอย่างน่าเวทนา เปาจะใจแข็งไปได้อย่างไร เพราะเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ความรู้สึกผิดกำลังเล่นงานเปาอีกแล้ว อีกไม่ช้าเขาก็จะยอมแพ้

"แค่สามเดือนจริงๆ นะจีน" เปาถามเพื่อขอความมั่นใจ

"ใช่ แค่สามเดือนเท่านั้น จีนสัญญาว่าจะปล่อยเปาไป จีนไม่รั้งเปาไว้หรอก" จีนตอบ

กระนั้นเปาก็ยังไม่สามารถคลายกังวลไปได้ เขานึกไม่ออกเลยว่าสามเดือนกับรักหลอกๆ จะช่วยจีนได้อย่างไร เพราะต่างคนต่างก็รู้ทั้งรู้ว่าไม่ใช่ความจริง

เอาเถอะ มันอาจจะช่วยจีนได้ก็ได้ เปาเองก็จะได้ไม่รู้สึกผิดมากไปกว่านี้ อย่างน้อยก็ถือว่าได้ชดใช้ให้กับความผิดมหันต์ในครั้งนั้น แค่สามเดือนมันก็ไม่นานอย่างที่จีนว่า กลั้นใจไม่นานมันก็จะผ่านไป ถ้างั้น...เปาก็น่าจะตัดสินใจได้แล้ว

เปาดันไหล่จีนออก น้ำตายังอาบเต็มสองแก้มของคนตรงหน้า เปาเห็นแล้วก็อดสะท้อนใจไม่ได้ ไม่คิดว่าสิ่งที่ทำไปจะทำร้ายคนๆ หนึ่งได้มากถึงขนาดนี้ ถ้างั้นเปาก็ควรรับผิดชอบ และต่อไปจะมีมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก

สองมืองยังคงจับไหล่อีกคนไว้ สีหน้าหนักใจค่อยเปลี่ยนเป็นยิ้มบางๆ กระนั้นก็ไม่ใช่รอยยิ้มแห่งความสุขอย่างแน่นอน

"ได้ เราจะช่วยจีน"

รอยยิ้มทั้งน้ำตาค่อยๆ ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของจีน พลอยทำให้อีกคนอดยิ้มไปด้วยไม่ได้ จะว่าไป เปาก็คิดถึงรอยยิ้มนี้ของจีนไม่น้อย เพราะถึงยังไง จีนก็เป็นรักแรก จูบแรกและเซ็กซ์ครั้งแรก ยากที่เขาจะลืมเลือนไปได้

จีนไม่หยุดเพียงแค่รอยยิ้มเท่านั้น เมื่อเปาเผลอ เขาก็โน้มใบหน้านั้นเข้าหา ก่อนประทับจูบลงไปและกอดอีกฝ่ายแน่น เปาตกใจมาก เขารีบดันตัวจีนออกทันที เมื่อหยุดการจู่โจมนั้นได้เขาก็เสียงดัง

"มันต้องขนาดนี้เลยเหรอจีน"

"ทำไมล่ะเปา ก็ไหนว่าเปาจะช่วยจีนไง" จีนส่งสายตาขอความเห็นใจ

"แต่...เราไม่ต้องทำขนาดนี้ได้ไหม" เปาต่อรองด้วยสีหน้าหนักใจ

"ถ้ามันช่วยจีนได้ เปาจะไม่ช่วยเหรอ" จีนต่อรอง

เปาถึงกับอึ้ง แต่แทนที่จีนจะหยุดเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางแบบนั้น เขากลับเลื่อนใบหน้าเข้าหา ก่อนประทับจูบลงไปอีกครั้ง เปายืนตัวแข็งทื่อ คราวนี้เขาไม่ผลักใสอีกฝ่าย แต่จะยอมทำด้วยความรู้สึกอย่างไรก็ยากจะบอกได้ บางอย่างบอกเขาว่าจีนจะไม่หยุดแค่จูบคืนนี้แน่

และเปา...ก็คงต้องไปตามน้ำ


TBC






ถ้าชอบนิยาย อย่าลืมบวกเป็ดและคอมเมนต์ให้กำลังใจกันด้วยนะครับ :)

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
 จีนน่าสงสารอะ  หวังว่าจีนคงไม่ร้ายเอาคืนนะ
  รออ่านต่อคับ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ง่าาาาา.    อีรุงตุงนังจริงๆ เฮ้ออออ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ไฟล้างไฟ ย่อมมอดไหม้ เป็นฝุ่นผง
แค้นล้างแค้น แน่นจำนง ปลงไม่ไหว
คิดบัญชี ที่ทำไว้ ใจล้างใจ
จุดสุดท้าย ย่อมบรรลัย ไปทุกคน

งานนี้ถ้าล้างแค้นกันเสร็จ
จะเห็นมีแต่คนเจ็บ..เจ็บ..และเจ็บ
ถ้วนทั่วทุกตัวคน

เฮ้ออออออออ..ยุ่งวุ่นวายกันไม่จบสิ้น
คำนี้คำเดียว "ความรัก"
หุหุ

ออฟไลน์ farhhhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โคตรยุ่งเลยตอนนี้5555555555 ปัญหาหัวใจพันแข้งพันขาไปหมดแล้วเปาเอ้ย
แล้วไท้จะรู้สึกยังไง แล้วไท้จะเข้าใจเรื่องนี้ไหม แล้วไท้จะต้องทนกับความสัมพันธ์แบบนี้หรอ เอางี้จริงดิเปา
อย่างน้อยๆ ก็บอกน้องเขาหน่อยเถอะ บอกมันทุกอย่างนั่นแหละ5555 โอ้ย สงสารไท้จริงว้อย นี่จะอยู่ทีมไท้ เราตัดสินใจแล้ว ทำไท้เสียใจเมื่อไหร่เราด่าแกแน่ ทั้งจีนทั้งเปาเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด