ตอนที่14
ผมพาพี่กาจน์มาที่ห้องของตัวเองอีกครั้งเพื่อทำสตรอเบอรี่ครีมพายไปฝากคุณแม่ของพี่กาจน์ เจ้าตัวดูกระตือรือร้นเป็นพิเศษเพราะพี่เขาไม่เคยรู้เลยว่าโลกนี้มีวิธีทำเบเกอรี่ง่ายๆแบบไม่ใช้เตาอบอยู่ด้วย
“พี่กาจน์นั่งบดโอรีโอ้พวกนี้ให้มันระเอียดเลยนะครับ เราจะใช้มันเป็นฐานของเค้ก”ผมรื้อถุงซุปเปอร์ที่เพิ่งไปซื้อกับอีกคนในห้องมาเมื่อครู่ ส่งแพคโอรีโอ้ห่อใหญ่ให้คุณลูกชายทำสิ่งที่ผมคิดว่าลำบากที่สุดแล้วในบรรดาขั้นตอนทั้งหมด
“ละเอียดแค่ไหนเหรอ”
“ละเอียดยิบ”
“กระจ่างโคตรเลยครับนิทาน”
“บดๆไปเหอะ ได้ที่แล้วก็หันมาถามผมแล้วกัน ผมต้องผสมน้ำตาลกับเนยลงไปด้วยไม่งั้นมันจะร่วนเกินไป”
ลูกมือขานรับอย่างขันแข็ง วิธีบดที่ผมสอนพี่กาจน์เป็นวิธีบ้านๆครับ เอาไส้ครีมของตัวขนมออกจากจากนั้นก็รวมๆตัวคุกกี้สีดำใส่ในถุง หย่อนใส่ครก จากนั้นก็นั่งตำวนไปครับ”ระวังอย่าให้มันหกนะครับ”ดูจากความแรงในการตำแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ ไม่ต้องรุนแรงเบอร์นั้นก็ได้ครับ
เนื่องจากหอพักมีพี่ที่จำกัดพวกเราเลยนั่งทำกันบนพื้น พี่กาจน์ก็ก้มหน้าก้มตาตำโอรีโอ้ไปส่วนผมเริ่มลงมือผสมผงเยลลี่รสสตรอเบอรี่เข้ากับน้ำจนมันละลายก็คนต่อไปเรื่อยจนมันแข็งตัว ผมก็หยิบวิปครีมสำเร็จรูปที่ซื้อมาเทใส่ กวนๆให้เข้ากัน หยิบผลสตรอเบอรี่สดไปล้างก่อนนำมาหั่นเป็นชั้นเล็กๆ โปรยใส่ในชามที่มีวิปครีมกับผงวุ้นผสมอยู่ คลุกเคล้าให้เข้ากัน เอาไปแช่ตู้เย็น รอ30นาที เสร็จ แฮ่!
“เสร็จแล้วเหรอ!?”ลูกมือหมายเลขหนึ่งถามด้วยความตกใจ
“รอให้มันขึ้นรูปอยู่ครับ”
“แล้วของพี่ละเอียดพอรึยัง”
“เกือบได้แล้วครับ อีกนิดนึง ระหว่างนี้ผมเตรียมเนยกับน้ำตาลรอเลยนะ”
“อื้มๆ ทำเลยๆ”พี่เขาดูตื่นเต้นไปหมด ผมเห็นใบหน้าหล่อๆนั่นแสดงอาการชอบอกชอบใจแล้วก็อดภูมิใจในตัวเองไม่ได้
“ไว้คราวหน้าผมทำไปให้พี่ชิมนะครับ วันนี้ผมดันลืมนึกไปเลยว่าพี่จะไม่ได้กินด้วย”พวกเราทำแค่ก้อนเดียว จะตัดแบ่งมากินมันจะมีรอยแหว่างน่าเกลียดเอาไปเป็นของฝากใครไม่ได้หรอก
“ถ้าจะทำอีกเรียกพี่มาช่วยก็ได้นะ พี่ชอบ สนุกดี มันจะออกมาอร่อยใช่มั้ย”พี่กาจน์นั่งมองผมผสมเนยเข้ากับตัวพายด้วยความสนอกสนใจ
“อร่อยสิ คิดว่านี่ใคร เห็นงี้แต่ผมทำของพวกนี้เก่งมากเลยนะ งานปัจฉิมยังเอาไปแจกเพื่อนในห้องอยู่เลย เพิ่งมาเลิกทำตอนเข้ามหาลัยนี่แหละ อยู่หอทำอะไรก็ไม่สะดวก”
“เหรอ พี่ไม่เคยคิดจะทำอะไรพวกนี้เองเลยนะเนี่ย ดีว่ะ พี่มีน้องมั้ยอ่ะเรา นิสัยอย่างงี้เป็นพี่คนโตอ่ะดิถ้าให้ทาย”
“บู่ๆ ผิดครับ ผมเป็นลูกคนเล็ก”
“โกหก!!”
“ไม่เชื่ออีก แป๊ปนะเดี๋ยวเปิดรูปครอบครัวให้ดู”พี่กาจน์ทำหน้าแบบมันเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อมากๆที่ผมเป็นน้องคนเล็ก พอเอาตัวพายเข้าตู้เย็นเสร็จผมเลยจัดแจงเปิดรูปที่ถ่ายไว้ตอนปีใหม่ที่ไปเขาใหญ่กับครอบครัวให้พี่เขาดู”ผมมีพี่ชายสามคนนี่ไง เห็นมั้ย”
คุณชายกระพริบตาปริบๆมองภาพที่ผมถ่ายกับพี่ๆอีกสามคนก่อนเอานิ้วจิ้มจึกๆที่หน้าผมพร้อมพูดว่า”คนนี้น่ารักสุดในบ้านเลย”
“อย่าพูดอะไรที่รู้ๆกันอยู่ดิพี่ มาๆไหนๆก็ว่างแล้วเดี๋ยวผมแนะนำพี่ชายให้รู้จัก คนนี้พี่คนโตแต่ดันเตี้ยสุดในบ้าน เตี้ยกว่าผมตั้งเซ็นต์นึงแหนะ ชื่อพี่นัท พี่นัทเป็นเด็กหน้าห้องตั้งใจเรียนตั้งแต่เด็กๆ เพิ่งจบโทมาเมื่อปีที่แล้วกำลังหัวหมุนกับการทำงานบริษัทเอกชน ส่วนคนนี้พี่คนรองนิสัยดื้อแล้วก็เอาแต่ใจเหมือนพี่กาจน์เลย อายุเท่ากันด้วยนี่หว่า พี่โน้ตเรียนวิศวะอยู่ปี5 ทุกคนในบ้านภาวนาให้พี่โน้ตเรียนจบปีนี้ ส่วนคนนี้ซี้ผมชื่อพี่นายห่างกันแค่ปีเดียว เป็นคนพูดมากจนลิงหลับ เรียนอยู่วิดยา”
“ไหงเราชื่อโดดจากพี่น้องอยู่คนเดียวล่ะ ชื่อพี่ออกจะเข้าคอนเซปต์ กิตต์กับกาจน์”พี่เขาทักเพราะพี่คนอื่นๆของผมมีชื่อแค่พยางค์เดียวแถมเป็นชื่อโหลๆ
“อย่างน้อยก็น.หนูเหมือนกันนะ -3-“
“พ่อแม่ลำเอียงมาก ถ้าพี่เป็นไอ้โน้ตพี่จะแกล้งเราทุกวันเลย”
“ซึ่งพี่โน้ตก็ทำอย่างงั้นจริงๆ”
“ฮ่าๆๆๆ ไอ้โน้ตนี่ใช้ได้ว่ะ อย่างงี้ค่อยคุยกันรู้เรื่องหน่อย”
“ทำไมๆ ชอบเห็นคนอื่นรังแกผมเหรอ”
“เออ ถ้าพี่มีน้องชายที่ชอบทำขนมไปให้เพื่อนที่โรงเรียนกินพี่ก็จะรังแกมัน พี่ชอบน้องแบบนี้มันน่าแกล้งดีออก ฮ่ะๆๆๆ”นี่การที่ผมแบไต๋งานอดิเรกตัวเองให้พี่กาจน์รู้นี่คือความผิดพลาดอันใหญ่หลวงเลยใช่ป่ะ ผมได้แต่อ้าปากค้างพร้อมสาบานกับตัวเองในใจว่าจะไม่ยอมให้พี่กาจน์กับพี่โน้ตเจอกันแน่ๆ ไม่งั้นผมไม่รอด!
“อ๊ะ เรามีไอ้นั่นอยู่นี่นา...”ระหว่างที่ต่างคนต่างก้มหน้าก้มตาไถโทรศัพท์ของตัวเองผมก็ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้”พี่กาจน์ชอบกินของหวานๆมั้ยครับ”คราวก่อนพี่เขาบอกว่าไม่ชอบกาแฟรสหวานผมเลยไม่แน่ใจว่าเมนูที่ผมเพิ่งนึกขึ้นได้จะถูกปากพี่เขารึป่าว
“กินได้นะ ทำไมเหรอ”
“ผมทำไมโลก้อนให้เอามั้ยครับ”
“ไมโลก้อน? มันเป็นยังไง”ลูกมือของผมเลิกคิ้วด้วยความฉงน ผมไม่ปล่อยพี่เขาสงสัยนานเดินไปหยิบไมโลซองจากชั้นวางของและเอานมข้นหวานออกจากตู้เย็น
“ลองชิมดูสักก้อนก่อนเนอะ มันค่อนข้างหวานมากพี่อาจจะไม่ชอบ”ผมส่งยิ้มแป้น เทนมข้นกับผมไมโลลงในชามใบเล็กๆ ใช้ช้อนคลุกให้มันเข้ากันจนวัตถุดิบทั้งสองจับตัวกันเป็นก้อน พี่กาจน์มองเมนูพื้นๆที่ผมทำกินเล่นมาตั้งแต่เด็กด้วยสายตาประทับใจ
สงสัยคุณชายเกิดมาไม่เคยเห็นภูมิปัญญาพื้นบ้านแบบนี้ คิดไม่ผิดจริงๆที่ทำโชว์ให้ดู
“ที่จริงมันต้องเอาไปใส่ช่องแข็งก่อน แต่อันนี้ผมแช่นมข้นไว้ในตู้เย็นอยู่แล้วเลยพอแทนๆกันได้ ลองชิมดูสิครับ”ผมยื่นช้อนคันที่ใช้คลุกไมโลก้อนจรดริมฝีปากคม นัยน์ตาสีเทาอมฟ้าของคนถูกป้อนเป็นประกายขณะงับขนมเข้าปากคำโต
“อร่อย”
เยส!! ไม่มีเด็กคนไหนไม่ชอบไมโลก้อน ทฤษฎีนี้เป็นจริงสินะ
“ดีใจจัง”ผมยิ่งยิ้มกว้างขึ้นอีกเมื่อได้รับคำชม รู้สึกหัวใจพองโตเหมือนสุนัขเวลาได้รับคำชมจากครูฝึกเลย นี่ผมชักจะเชื่องกับพี่กาจน์มากเกินไปแล้วนะ!
“เห...งั้นทำอีกก้อนสิ พี่จะถ่ายรูปลงเฟส”
“ลงเฟสเหรอ!? จริงดิ ได้สิๆ รอแป๊ปนะครับ”ผมดีใจจนลนลาน
ยังจำกันได้ใช่มั้ยว่าในเฟสของพี่เขามีแต่รูปท้องฟ้าจนผมเข้าใจว่าพี่เขาตั้งใจคุมโทนเฟสตัวเอง เพราะท้องฟ้าที่พี่เขาถ่ายมาลงเป็นท้องฟ้าตอนเย็นๆที่ถูกย้อมเป็นสีส้มเหมือนกันทุกภาพต่างกันแค่ตรงที่เส้นขอบฟ้าที่ติดมาเป็นสถานที่ที่ไม่ซ้ำกัน พวกตึกหรือถนนอะไรอย่างงี้
อิไมโลก้อนอยู่ดีๆก็เปรี้ยวไปขัดธีมเขา
ผมรู้สึกว่าตัวเอง...
พิเศษแฮะ
“แอบส่องเฟสพี่เหรอ”
อุ่ย โดนจับได้ซะแล้วครับ ผมส่งยิ้มแห้งๆไปให้เจ้าของภาพไมโลก้อนในชามลายดอกไม้สีชมพู พี่เขาโพสต์ลงอย่างที่บอกไว้จริงๆ ลงแค่รูปเปล่าๆไม่มีแคปชั่นอะไร พอมีคนมาคอมเม้นต์ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
“แฮ่ๆ พายน่าจะได้ที่แล้วนะครับ ตอนเอาไปส่งให้พี่กิตต์ต้องถือระวังๆนะครับเพราะตัวฐานมันจะเปราะง่าย”ผมกำชับตามประสบการณ์ที่ผ่านๆมา ครั้งแรกๆที่ทำไปให้เพื่อนกินเค้กผมเกือบเละเพราะทนความร้อนของประเทศไทยไม่ไหว แต่เพื่อนๆที่น่ารักก็ช่วยกันกินจนเกลี้ยง พูดแล้วก็คิดถึงพวกมันนะครับ แยกย้ายกันไปคนละมหาลัยกับผมหมดเลย
ผมบรรจงวางสตรอเบอรี่ครีมพายใส่กล่องเค้กที่ซื้อมาพิเศษ บรรจุในถุงใบใหญ่จากนั้นก็ส่งให้ร่างสูง
พี่กาจน์กล่าวคำว่าขอบคุณมาก
ผมรู้รู้สึกใจหายนิดหน่อยเพราะพี่เขาจะกลับแล้ว
“น่ากินจัง วันหลังให้พี่มาทำด้วยอีกได้ป่ะ รอบนี้กินกันเองนะ”
“ได้สิครับ อยากกินเมื่อไหร่ก็มาหาผมได้ทุกเมื่อเลย”
“ใจดีจังครับ พี่มาแน่นอน เปิดห้องรอพี่ไว้ได้เลย”
“เปิดรอไว้ตั้งแต่ตอนนี้เหรอครับ ยุงได้หามผมออกนอกระเบียงไปแน่ๆ ฮ่าๆๆ”ผมพูดล้อเลียน พวกเราสบตากันยิ้มๆไม่มีใครพูดคำว่าสวัสดี พี่เขายังยืนอยู่ในห้องของผมและผมก็ยังไม่อยากให้พี่เขากลับเลย
“พี่ต้องกลับแล้วนะ”
“ครับ”
“บ๊ายบายก่อนเร็ว”
“พี่จะมาอีกเมื่อไหร่เหรอ”
“อืม...”เจ้าชายต้องห้ามทำท่าครุ่นคิด”นั่นน่ะสิ งานพี่ก็ไม่แน่ไม่นอนซะด้วยเวลาว่างขึ้นอยู่กับอารมณ์อาจารย์ที่ปรึกษาล้วนๆ”
“งั้น...พี่กาจน์เก็บนี่ไว้นะครับ”
“อะไรน่ะ”
“กุญแจสำรอง...ห้องผมครับ”
เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยย ผมทำเชี่ยอะไรลงไปปปปปป พี่เขารับกุญแจนั่นไปก็จริงแต่ตอนรับพี่เขาหยุดมองนิ่งๆพักใหญ่เลย นาทีนั้นผมทำตัวไม่ถูกเลยได้แต่ยืนก้มหน้าโง่ๆปล่อยหัวใจเต้นแรงๆไป
โคตรกลัวจะหน้าแตกถ้าพี่เขาไม่ยอมเอาไปเลย
พี่เขาจะคิดไปไกลมั้ยว่าผมอ่อยพี่เขาอยู่ โอ๊ยยย แล้วผมจะเอากุญแจห้องตัวเองไปให้เขาทำไมวะ
ไม่นับรวมประโยคโง่ๆส่งท้ายก่อนพี่เขาจะออกจากห้องไปอีก
ถ้าเหงาเมื่อไหร่ก็แวะมาหาผมนะครับเชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย พูดเหมือนอิหนูอ่อยป๋าเลยไอ้นิทานนน
“อ๊ากกกกก”ผมกระโจนขึ้นเตียง หยิบหมอนมาอุดปากกลั้นเสียงกรีดร้องระบายความรู้สึก ฮือออออ
_______________________________
มันคือเบเกอรี่อย่างง่ายที่ทุกท่านสามารถทำเองได้ง่ายๆ 5555
แต่จะทำออกมาได้น่าตาน่ากินแบบนิทานไม่ใช่เรื่องง่ายเลย...