{{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25  (อ่าน 144134 ครั้ง)

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ไม่เข้่ใจว่าแม่ของณิฌานต้องกานอะไร
ถึงขนาดทำลายลูกได้ลงคอ

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'


ตอนที่ 11 : สมฤดี คนนี้มีที่มา


วินาทีแรกที่ได้ยินว่าเธอชื่อสมฤดี ผมก็เหงื่อแตกพลั่กตามประสาคนมีชนักติดตัว

แต่เมื่อเห็นว่าเธอจำกันไม่ได้ ผมก็จงใจกดเสียงต่ำลงกว่าเดิมอีกนิด ทำทีเคร่งขรึมอีกหน่อย ก่อนจะบอกให้เธอนั่งรอสักครู่เพราะต้องไปซื้อของกิน แล้วค่อยขึ้นไปหานิฌานพร้อมกันตามประสาสายลับสองหน้า

สมฤดีรับคำ เหมือนยินดีจะให้คนมองเธอและสงสัยให้มากยิ่งนานยิ่งดี เห็นแล้วก็ยิ่งตะขิดตะขวงในใจ จะโทรไปถามความเห็นนิฌานก็ไม่ได้เพราะเขากำลังอัดเสียง แล้วห้องอัดจะเปิดเสียงโทรศัพท์หรือพกติดตัวได้ยังไง ผมทอดถอนใจ รีบซื้อรีบกลับ ก่อนจะชักชวนให้เธอขึ้นไปหานิฌานพร้อมกัน

“พี่ช่วยถือนะคะ”

ผมนึกชมความมีน้ำใจ ความจริงสมฤดีไม่ได้เลวร้ายอะไร ตอนโทรไปหลอกถามยังช่วยพูดอยู่เลย

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้อย่าขวางพี่นะ”

...ซะที่ไหน

เหมือนเป็นส่วนหนึ่งในแผนการไม่ชอบมาพากลของแม่นิฌานพิลึก ผมจับตาเธอมากขึ้น เดินประกบไม่ห่าง พอถึงห้องอัดก็เคาะประตูเป็นมารยาท

นิฌานเหลือบมองทันทีด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะกลายเป็นยิ้มค้างเมื่อเห็นใครบางคนตามหลังผมมาด้วย

“พี่ฌาน คุณแม่ให้ฉันมารับพี่กลับบ้านด้วยกันค่ะ” สมฤดีเรียกนิฌานอย่างสนิทสนม คำพูดค่อนไปทางล่อแหลมชวนให้คนอื่นเข้าใจผิด ทั้งที่จริงแล้ว...เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆ จะเรียกว่าพี่ฌานก็ถูกต้องแล้ว จะกลับบ้านด้วยกันก็ไม่แปลก...

“เปิดตัวขนาดนี้ แถมยังให้เจอคุณแม่ด้วยอีก คนนี้ตัวจริงเหรอนิฌาน” เจ้าหน้าที่ในห้องอัดแซว

“เธอเป็นน้องสาวผมครับ” นิฌานรีบตอบปฏิเสธทันที นานครั้งจะเห็นเจ้าตัวเอ่ยจริงจังอย่างนี้ แต่น่าเสียดาย ไอ้ความเจ้าชู้ที่มักแจกสถานะพี่น้องให้เพื่อนร่วมวงการ ทำให้คำว่า ‘น้องสาว’ ของเขาไม่น่าเชื่อถืออย่างร้ายกาจ

ปลาไหลก็มีวันที่ผลกรรมย้อนเข้าตัวเหมือนกัน

“เอ๊ะ หรือจะเป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆ ที่พี่ฌานเคยเล่าให้ผมฟัง” ยอมเสนอตัวช่วยสักหน่อยแล้วกัน เพราะคำพูดของผมยังไงก็น่าเชื่อกว่านิฌาน ชาญชัยเป็นไหนๆ

“อ้าว สรุปว่าเป็นญาติกันจริงเหรอ” นั่นไง เจ้าหน้าที่กลับคำทันที ส่วนผมก็หดคอหลบตาสมฤดีที่มองมาอย่างเกรี้ยวกราด

“ใช่ครับ เธอเป็นลูกของพี่ชายของสามีของน้องสาวของแม่ผมเอง”

“แต่ก็ไม่มีสายเลือดเดียวกันนะคะ” สมฤดีมองนิฌานอย่างแฝงความนัย

“น่าเสียดายนะ เพราะพี่ถือคติไม่ดองกันเองในเครือญาติ” นิฌานถอนหายใจ แสร้งมองเธออย่างไม่ให้ความหวัง บรรยากาศค่อนไปทางกระอักกระอ่วน จนเจ้าหน้าที่ในห้องอัดต้องรีบลากเข้าเรื่องงานก่อนจะกลายเป็นชู้สาวในครัวเรือน

หรือว่าสมฤดีจะชอบนิฌาน?

ถ้านับจากลูกของพี่ชายของสามีของน้องสาวแม่...ก็ถือว่าเธอไม่มีสายเลือดเดียวกันจริงๆ นั่นแหละ ลูกพี่ลูกน้องที่ห่างกันมากขนาดนี้ ด้วยวัยไม่ที่แตกต่างกันมากนัก จะรักชอบก็พอจะเข้าใจได้อยู่ แต่...ไอ้โทรศัพท์แอนตี้แฟนนั่นใช่การกระทำของคนที่แอบชอบเหรอ

ยิ่งคิดผมก็ยิ่งปวดสมอง ตัดสินใจเขยิบห่างจากสมฤดีเล็กน้อย แต่เธอดันนั่งประกบ เล่นเอาผมกินข้าวกล่องอย่างไม่เป็นสุข

“ทำไมถึงพูดเรื่องลูกพี่ลูกน้องออกมา ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าขัด”

“ขอโทษครับ แต่ตอนเจอกันคุณไม่บอกก่อนนี่นา พอพี่ฌานพูดผมเลยเพิ่งนึกขึ้นได้ ถึงเผลอหลุดไป...” ผมกระซิบตอบอ้อมแอ้ม แม้จะดูเจียมตัวแต่ก็แอบเหน็บคุณเธอไปหนึ่งที ใช่ สมฤดีไม่พูด แล้วผมจะไปตรัสรู้ได้ไงว่าเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของนิฌาน ฉะนั้นผมไม่ผิด!

“จริงเหรอที่พี่ฌานเคยพูดถึงฉัน...”

พยายามยิ่งจะไม่กลอกตามองบน ควรตอบยังไงดีนะเจตรินเอ๋ยเลย

“เขาพูดถึงฉันว่ายังไง ชมฉันรึเปล่า”

ในสายตาของปลาไหลจอมเจ้าชู้ ผ่านมาทั้งนางเอก ตัวประกอบ ยันสไตลิสต์ในกอง เทียบกับสมฤดีที่แต่งตัวเปิดเผยเนื้อหนังเกินไปแล้วเชื่อสิว่าไม่ใช่รสนิยมของนิฌาน เพราะเขาชอบแนวเซ็กซี่เรียบหรู ไม่ก็น่ารักน่าเอ็นดูมากกว่า...

“ผมจำไม่ได้แล้วครับ” ตอบแบบมึนเบลอก็แล้วกัน ถ้าชมก็กลัวจะไปซวยที่นิฌาน ถ้าตอบว่าไม่เคยชมก็กลัวจะซวยที่ตัวเอง ผมตั้งหน้าตั้งตาแกะข้าวกล่อง จดจ่อกับกะเพราหมูสับและไข่ดาว

สมฤดีเบะปากแบบขัดใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคล้ายจะถ่ายเซลฟี่

ผมรีบวางช้อนแทบไม่ทัน

“ไม่ได้นะครับ ห้ามถ่ายรูปลงโซเชียล”

“ฉันไม่ได้จะถ่ายติดพี่ฌานสักหน่อย”

“แต่คุณจะเช็กอินบริษัทเอ็มเอชเอ็นใช่มั้ย ไม่ได้นะครับ ในฐานะผู้จัดการ ให้คนนอกขึ้นมาถึงห้องอัดก็เสี่ยงโดนด่าแล้ว ถ้าคุณยังถ่ายรูปลงอีก ผมต้องถูกเรียกไปปรับทัศนคติแน่ๆ”

“ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าขัด”

“ถ้าเรื่องอื่นผมยังพอตามน้ำได้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ ครับ ต่อให้พี่ฌานจะเคยคลุกวงในกับคนอื่นมาก่อน แต่ไม่เคยมีรูปหลุดหรือข่าวฉาว ถ้าจู่ๆ คุณลงรูป...ผมต้องโดนเลขาคมสันจัดการแน่ๆ”

“เลขาคมสันจะทำไมนักเชียว” สมฤดีบ่นอุบ ฟังแล้วอยากจะนัดเธอให้กินข้าวสองต่อสองกับคุณเลขาจริงๆ จะได้รู้อิทธิฤทธิ์ของจอมมาร ผู้คุมบริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ตัวจริงเสียงจริง

“การที่คุณมาประกาศตัวหน้าเคาน์เตอร์ก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่เหรอครับ” ผมถามย้ำเสียงเบา เพราะสมฤดียังยึกยักไม่ยอมเก็บโทรศัพท์ไปสักที

“ฉันทำดีใช่มั้ยล่ะ”

“ครับ ดีมากเลย” ดีมากจนคนมองกันเต็มกับชุดผ่าสูงกับเกาะอกไร้รสนิยม แน่นอนว่านั่นได้แต่คิด แถมยังเตรียมแผนรับมือไว้แล้วว่าถ้ามีปาปารัชซี่แอบถ่ายขึ้นมาจะแก้เกมยังไง

แต่แม่ของนิฌานจะหยุดแค่นี้เหรอ...เดินหมากตื้นไปรึเปล่านะ

ผมคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าการส่งสมฤดีมาถึงที่จะได้ผลดีผลเสียเข้าทางเธอตรงไหน สรุปว่าอยากได้เงิน หรืออยากสร้างข่าวฉาวให้ลูกชายตัวเองกันเอง ผมล่ะมึน

“วันนี้ฉันจะกลับกับพี่ฌาน คราวนี้คงจะไม่ขัดแล้วใช่มั้ย”

“ตามสบายเลยครับ” ผมพยักหน้าหงึกหงัก สวมบทสายลับพร้อมสนับสนุนเธอแสนจงรักภักดี ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินกะเพราอย่างสบายใจเฉิบเพราะเชื่อว่ายังไงนิฌานก็ไม่ยอมขึ้นรถกับเธอสองต่อสองแน่นอน

ไอ้นิสัยเจ้าเล่ห์กลับกลอกนั่นน่ะผมรู้จักดีกว่าใคร

กว่าจะอัดเสียงเสร็จปาไปสองทุ่มกว่า นิฌานเดินสะโหลสะเหลเตรียมวอนขอความรักความเมตตาด้วยสีหน้าเหนื่อยหนักยิ่งกว่าตอนถ่ายโฆษณาซะอีก เป็นดาราดีๆ ดันหาเรื่องรับงานเป็นนักร้องเสริมก็แบบนี้ล่ะนะ ผมมองเขาพลางยิ้มขัน ก่อนจะส่งน้ำของตัวเองให้เพราะเครื่องดื่มที่ซื้อมาเผื่อหมดไปนานแล้ว

“ขอบคุณครับน้องเจ”

“พี่ฌาน!” พอออกจากห้องอัด สมฤดีที่รออย่างเบื่อหน่ายก็รีบปราดมาควงแขน ขัดขวางนิฌานที่กำลังส่งสายตากรุ้มกริ่มให้ผมได้ตรงจังหวะเหมาะเหม็ง ผมถึงกับหลุดหัวเราะพรืด คนเจ้าชู้จะส่งขนมจีบทั้งทีแต่โดนเบรก จากสายตาหวานเยิ้มเลยกลายเป็นมองอ่อน

เสียงเจือจ้าวของสาวเจ้าดังไม่หยุด ไม่ทันมองเลยสักนิดว่าผมกับนิฌานสื่อสารโทรจิตกันอยู่

ไอ้เราน่ะคลี่ยิ้มขัน สื่อความหมายว่า ‘สมน้ำหน้าครับพี่ฌาน’

ส่วนนิฌานยักคิ้วเบาๆ เป็นเชิง ‘ฝากไว้ก่อนนะครับน้องเจ’

“พี่ฌาน ฟังฤดีอยู่รึเปล่าคะ!”

“ขอโทษครับ วันนี้พี่เหนื่อยมากเลย ฤดีบอกว่าอะไรนะ”

“ฤดีจะกลับกับพี่ฌานค่ะ คุณแม่อยากให้กลับไปกินข้าวด้วยกัน”

“ตอนสองทุ่มจะสามทุ่มเนี่ยเหรอครับ” นิฌานเลิกคิ้ว เชื่อว่าแผนการวันนี้ของเธอพังเละไม่เป็นท่าเพราะการอัดเสียงล่วงเวลา

“พี่ฌานก็รู้ว่านั่นเป็นแค่ข้ออ้าง คุณแม่คิดถึงพี่ฌานมากเลยนะคะ ก็พี่เล่นไม่กลับบ้านตั้งหลายวันแล้ว”

ในฐานะพระเอกชื่อดังผู้ได้รับรางวัลลูกกตัญญู ถูกพูดขนาดนี้จะปฏิเสธก็ไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อยังอยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่ในห้องอัด

“เอาสิครับ พี่ก็คิดถึงคุณแม่เหมือนกัน ช่วงนี้ยุ่งจนไม่ได้ไปหาท่านเลย”

สมฤดียิ้มหวาน ส่วนผมแอบส่งสายตาเตือนนิฌานเป็นเชิง ‘ระวังจะได้กินอย่างอื่นด้วยนะครับพี่’

นิฌานยิ้มมุมปาก แอบแตะปลายนิ้วผมเบาๆ ระหว่างเดินสวนคล้ายจะสื่อว่า ‘พี่จะกินก็แต่กับน้องเจเท่านั้นครับ’

บอกเลยว่าขนหัวลุกตั้งแต่ไรผมยันตาตุ่ม

ผมเดินห่างออกมาเล็กน้อย ตัดสินใจแยกย้ายกันแถวหน้าลิฟต์จะดีกว่า

“อ้าว น้องเจจะไปไหน วันนี้นัดซ้อมขับรถกับพี่ไม่ใช่เหรอ”

เท้าที่กำลังจะก้าวหนีชะงักทันควัน หันขวับเงยมองนิฌานที่พอปราศจากสายตาจ้องจับผิดของคนในบริษัทก็เริ่มดำเนินแผนเอาตัวรอดจากลูกพี่ลูกน้องนามสมฤดี

ด้วยการลากผมไปเป็นไม้กันหมา!

“ใกล้จะสอบใบขับขี่อยู่แล้วจะไม่ลองขับจริงได้ยังไง มาๆ ไปด้วยกันนี่แหละครับ”

รู้ตัวอีกทีก็โดนลากไปลานจอดรถด้วยซะแล้ว ผมเหลือบมองคนสูงกว่าด้วยสายตาสับสนว่าไปเผยพิรุธให้โดนจับผิดตอนไหนกัน

“แต่วันนี้ต้องไปบ้านคุณแม่นะคะพี่ฌาน” สมฤดีโวยวายไม่ยอมรับ

“ให้น้องเจเป็นคนขับไงครับ กินข้าวเสร็จจะได้ช่วยขับมาส่งพี่ที่คอนโดด้วยเลย”

“ถ้าพี่ฌานเหนื่อยขับกลับไม่ไหว ให้ฤดีขับไปส่งก็ได้นะคะ ไม่ต้องรบกวนน้องเจหรอก”

“ไม่ใช่ว่าพี่เหนื่อยหรอกฤดี แต่เพราะวันอาทิตย์นี้น้องเจจะสอบใบขับขี่แล้ว พี่เลยอยากมั่นใจว่าเขาจะขับรถระหว่างทำหน้าที่เป็นผู้จัดการได้ เรื่องนี้สำคัญมากนะ” จู่ๆ คนเจ้าชู้ก็ทำหน้าเป็นจริงเป็นจัง ราวกับว่าเรื่องนี้นั้นสำคัญระดับชาติ อย่าว่าแต่สมฤดีเลย ขนาดผมยังเถียงไม่ออก!

ก็มีที่ไหนกันล่ะที่ผู้จัดการนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารัถให้ดาราในสังกัดขับรถเองอยู่ตั้งนานสองนาน!

ด้วยความรู้สึกผิดค้ำคอ ผมเลยยอมรับกุญแจจากนิฌานมาแต่โดยดีท่ามกลางสายตากล่าวประณามของสมฤดี...แต่เดี๋ยวก่อน ผมโดนบังคับต่างหาก เห็นอยู่ชัดๆ ว่าผมไม่ได้ตั้งใจขัดขวางแผนการของเธอเลย

“นั่งสบายตัวมั้ย ลองปรับเบาะหน่อยมั้ยครับ”

ขึ้นรถมาได้ นิฌานก็ช่วยผมปรับกระจกรถ ปรับเบาะ ตรวจดูเข็มขัดนิรภัยทันที สมฤดีนั่งกอดอกทำแก้มป่องอยู่เบาะหลัง อดแขวะขึ้นมาไม่ได้

“ทำไมพี่ฌานไม่มานั่งกับฤดีล่ะคะ”

“หรือฤดีจะให้น้องเจขับรถคนเดียวทั้งที่ยังไม่มีใบขับขี่ล่ะ เอาอย่างนั้นก็ได้นะ ยังไงรถพี่ก็มีประกันชั้นหนึ่งอยู่แล้ว ชนสักโครมก็ไม่เป็นไรหรอก”

หญิงสาวหน้าซีดเผือดทันควัน

“งั้น...ก็ได้ค่ะ พี่ฌานนั่งข้างคนขับก็ได้”

ความแถนี้พี่ท่านได้แต่ใดมา

ผมเหลือบมองนิฌานที่เอาตัวรอดได้อย่างสบายเกินคาดพ่วงทำคะแนนกับผมด้วยความรู้สึกจะนับถือก็ไม่ใช่จะชมเชยก็ไม่เชิง ยัง...เจ้าตัวยังอุตส่าห์ขยิบตาใส่อีก เพราะได้นั่งคู่กัน เวลาจะแอบส่งสัญญาณหรือส่งสายตาสื่อความนัยเลยทำได้ง่ายกว่าเดิม

‘พี่ฌานลากผมมาทำไม!’ ผมเริ่มส่งโทรจิตไปก่อน

‘อย่าคิดจะทิ้งพี่เลยครับน้องเจ หึหึหึ’ นิฌานจ้องกลับด้วยรอยยิ้มวายร้าย หลังสำรวจความพร้อมเสร็จก็หันมาถามผมอย่างเป็นการเป็นงาน ไม่สนใจผู้โดยสารทางด้านหลังที่กอดอกกระฟัดกระเฟียดสักนิด

“น้องเจเรียนขับรถกี่ชั่วโมงแล้วครับนี่”

“แปดชั่วโมงครับ” ผมตอบตามจริง อดเสียดายไม่ได้เพราะถ้าวันนี้ดาราในสังกัดไม่เอาแต่แหกปากร้องเพลงเพี้ยน คงจะเรียนครบสิบชั่วโมงแล้ว

“เคยออกถนนใหญ่รึยังครับ”

“เคยแถวบ้านผมครับ แต่ยังไม่เคยเจอสี่แยกมาก่อน” ผมสารภาพอย่างประหม่า เป็นที่รู้กันดีถึงย่านธุรกิจแถวนี้ว่ามีสี่แยกพิฆาตเซียน

“ไม่ต้องกลัวหรอกน้องเจ ช่วงดึกอย่างนี้รถน้อยลงเยอะ ไม่ติดเท่าตอนปกติหรอก น้องเจทำได้อยู่แล้ว!” นิฌานชูกำปั้นให้กำลังใจ แต่ผมล่ะอยากจะต่อยหมัดใส่เขามากกว่า

“จะออกรถได้รึยังคะ” สมฤดีถามสวน กลัวเป็นบุคคลที่ถูกลืม

“ใจเย็นสิครับฤดี น้องเจไม่รู้สักหน่อยว่าบ้านพี่อยู่ตรงไหน ขอเปิดจีพีเอสก่อนนะ” นิฌานไม่แม้แต่จะมองผู้โดยสารที่เบาะหลัง ก้มหน้าก้มตาจิ้มโทรศัพท์ตั้งค่าจีพีเอสแล้วค่อยๆ สอนผมอย่างใจเย็น “น้องเจดูเป็นรึเปล่า ครั้งแรกอาจจะสับสนเวลามองซอยหรือทางเลี้ยวอยู่นะ หรือจะให้พี่เปิดเสียงดี แต่ชื่อถนนประเทศไทยบางทีก็น่าปวดหัว พูดออกมาก็ไม่รู้หรอกว่าสรุปแล้วจะให้ไปทางไหน”

“ผมยังไม่เคยใช้จีพีเอสเลย”

“งั้นพี่ตั้งตรงนี้แล้วกัน เห็นชัดมั้ยครับ” นิฌานวางโทรศัพท์ข้างหน้าปัดรถ

“เห็นชัด...แต่ไม่ค่อยสะดวก แค่มองถนนก็แย่แล้วครับ ขืนก้มมองจีพีเอสอีกผมกลัวชน”

“งั้นพี่คอยบอกทางแล้วกันเนอะ”

“ขอบคุณครับพี่ฌาน”

“ผ่านไปสิบนาทีแล้วนะคะ จะออกรถได้รึยัง” สมฤดีเอ่ยแทรกอีกครั้ง

“ลองขับวนรอบๆ ก่อนนะครับน้องเจ เอาให้ชินมือก่อน ดูนะว่ากระจกรถระดับพอดีมั้ย ขาเหยียบถึงมั้ย ไม่ติดขัดตรงไหนใช่มั้ย โอเค จากนั้นก็...เอ่อ...น้องเจเคยขับรถลงจากลานจอดมั้ยเนี่ย”

นิฌานบรรลุวิชาหูทวนลมไปแล้ว

“ผมยังไม่เคยขับทางลาดมาก่อนด้วยซ้ำ ลาดแล้วเลี้ยวอย่างนี้ยิ่ง...”

“ไม่ต้องกลัวครับน้องเจ ค่อยๆ ไปก็ได้ ใช่ แบบนั้นแหละครับ ค่อยๆ เหยียบเบรกไว้”

“พี่ฌานคะ คุณแม่ถามว่าจะกลับถึงประมาณกี่โมง คุณแม่จะเตรียมของว่างให้แทนค่ะ”

“เดี๋ยวค่อยถามได้มั้ยครับฤดี ทางเลี้ยวลงแบบนี้อันตรายมากนะ ถ้ารถทะลุตกตึกไปจะทำยังไง!”

“ขะ...ขอโทษค่ะ”

จู่ๆ ถูกนิฌานดุเสียงเข้ม สมฤดีเลยนั่งหงอยไปโดยปริยาย ไอ้ผมเองอยากจะขำก็ขำไม่ออกเพราะกำลังอยู่ในสภาวะวิกฤตรถไหล กว่าจะฝ่าด่านอรหันต์แต่ละชั้นของลานจอดรถเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์มาได้เล่นเอาเหงื่อออกมือไปหมด ทำไมในบทเรียนไม่เห็นได้ฝึกขับลงทางลาดอย่างนี้บ้างเลย!

แต่อุปสรรคยังไม่หมดเพียงเท่านั้น

พอลงจากลานจอดรถมาได้ ผมก็ติดเหง็กอยู่หน้าตึก เพราะเอาแต่ละล้าละหลัง หาจังหวะแทรกเข้าถนนใหญ่ที่มีรถขับสวนไปมาไม่ได้ จริงอยู่ ว่าช่วงนี้รถไม่ค่อยติด ไม่น่าลำบากยากเย็นมากนัก แต่...ก็เพราะรถไม่ติดไงถึงได้ขับกันไวกว่าปกติ ต่อให้ประกันชั้นหนึ่งผมก็กลัวโดนชนอยู่ดี!

“พักดื่มน้ำก่อนมั้ยครับน้องเจ” สายตาของนิฌานประกายพราวคล้ายจะหัวเราะเยาะอยู่ในที ผมหันไปถลึงตาใส่เขา แต่ก็ยอมหันหน้ามาดูดน้ำจากหลอดที่ป้อนจ่อปาก โดยทั้งสองมือจับพวงมาลัยแน่นไม่ปล่อย

“พี่ฌานคะ ฤดีว่า...”

“ได้จังหวะแล้วครับน้องเจ ตอนนี้แหละ รีบขับออกตึกไปเลย!”

สมฤดีกลับไปนั่งหน้างออีกครั้งเมื่อถูกขัด ส่วนผมหายใจโล่งขึ้นเยอะเมื่อพารถมาอยู่บนถนนใหญ่ได้สักที แต่...กับรถที่ขับกันไวขนาดนี้ให้อยู่เลนขวากลัวจะมีปัญหา ผมเลยพยายามจะเบี่ยงมาทางซ้าย...

“ตรงนี้ต้องระวังนะครับน้องเจ เพราะเป็นช่วงชุลมุนสี่แยกไฟแดง จะมีรถขับแทรกเยอะมาก นั่น! ระวังมอเตอร์ไซค์ด้วย”

ผมใจหายวาบ เพราะทุกอย่างกะทันหันเกินไปเลยหักพวงมาลัยกลับเลนขวาแทบไม่ทัน เดี๋ยวก่อน...ทำไมรถใหญ่ต้องคอยหลบมอเตอร์ไซค์ด้วยเนี่ย!

คำถามที่ไม่ได้รับคำตอบ มีแต่เสียงโวยวายของสมฤดีที่ไม่คาดเข็มขัดคนเดียวในรถ ผลคือศีรษะกระแทกกระจกเข้าอย่างจัง

“เบี่ยงรถให้มันนิ่มนวลหน่อยได้มั้ย!”

“ขอโทษครับ” ผมเอ่ยเสียงเบาหวิว ตอนฝึกขับกับครูผู้สอนค่อนข้างทำคะแนนได้ดี แต่พอลองลงสนามจริงบอกเลย...เละ!

“อย่าพูดอย่างนี้สิฤดี ครั้งแรกก็ต้องผิดพลาดบ้างเป็นธรรมดา ไม่เห็นต้องต่อว่าเลย”

“ขอโทษค่ะพี่ฌาน...”

เอาเป็นว่าผมมองไม่เห็นนิฌานที่หันมาขยิบตาเหมือนทวงความดีความชอบที่เอาคืนแทนผมแล้วกัน เพราะจุดสำคัญตอนนี้คือผมจะรอดจากสี่แยกนี้ได้รึเปล่า!!

ยังไงก็ตาม...ผมก็สามารถพารถจากเลนขวาสุดมาซ้ายสุดได้สำเร็จ!

“เขาบีบแตรทำไมเหรอครับ” ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆ รถข้างหลังก็บีบแตรใส่

“อ้อ ตรงนี้เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดน่ะ”

“อ้าว ทำไมพี่ฌานไม่เตือนผมล่ะ”

“ให้บทเรียนไงครับ ตรงนี้จะชิดซ้ายไม่ได้เพราะต้องผ่านตลอด ถ้าไม่อยากโดนบีบแตรไล่ก็ต้องตามน้ำไปก่อน ไม่ต้องห่วงครับ มีที่กลับรถอยู่ข้างหน้า ไว้ค่อยอ้อมมาใหม่ก็ได้”

ผมมองนิฌานที่ยิ้มแฉ่งอย่างจงใจถ่วงเวลาแล้วเริ่มเดาแผนของเขาได้รางๆ

“วันนี้จะถึงบ้านมั้ยคะเนี่ย” นั่นไง ขนาดสมฤดียังประท้วง

“อ้าว ฤดีรีบเหรอครับ ถ้ารีบงั้นกลับไปก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ให้น้องเจจอดข้างหน้าเลย แถวนี้เรียกแท็กซี่ง่ายอยู่ด้วย”

“พี่ฌานจะทิ้งฤดีกลับบ้านคนเดียวเหรอคะ!”

“ก็พี่ไม่รีบนี่นา พี่กับน้องเจมีนัดขับรถมาก่อน พี่ก็ต้องให้คิวกับน้องเจก่อนฤดีสิ อ้อ ฝากบอกคุณแม่ด้วยว่าถ้ารอไม่ไหวก็นอนก่อนได้เลย ไว้ว่างๆ พี่จะแวะเข้าไปหาท่านเอง”

“งั้น...ไม่เป็นไรค่ะ ฤดีรอไหว คุณแม่ก็รอไหว”

“ดีครับ” นิฌานพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะหันมาสอนผมขับรถอีกครั้ง กว่าจะกลับรถ กว่าจะวนกลับมาที่สี่แยกเดิมก็กินเวลาไปอีกร่วมยี่สิบนาที

สมฤดีถอนหายใจเฮือกเมื่อหลุดจากไฟแดงไปได้ เริ่มชวนนิฌานคุยอย่างอารมณ์ดีเพราะคาดว่าถนนจะเริ่มโล่งจนถึงบ้าน แต่ว่า...

“เอ๊ะ พี่ฌาน ตรงนี้ผมเลี้ยวผิดรึเปล่า”

“เลี้ยวผิดจริงด้วย ดูสิฤดี ชวนพี่คุยจนไม่ทันมองเลยเห็นมั้ย” คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิดจริงๆ แต่ผมก็ว่าเธอไม่ได้ในเมื่อจงใจเลี้ยวเข้าซอยเล็กที่ไม่น่าจะผิดได้ด้วยสีหน้าไม่ตั้งใจ ดูจากจีพีเอสแล้วเป็นซอยตันซะด้วยสิ สมฤดีอยากจะโวยวาย แต่เพราะเพิ่งถูกเอ็ดเลยยอมสงบปากสงบคำ “ซอยแคบอย่างนี้ยิ่งต้องระวัง เพราะรถจอดเรียงเต็มสองข้างทางแล้วยังมีมอเตอร์ไซค์คอยแทรกอีก ขับช้าๆ นะน้องเจ อย่าไปเฉี่ยวชนใครเข้าล่ะ”

ผมขับช้ายิ่งกว่าเต่าคลาน เชื่อว่าให้สมฤดีลงไปเดินยังเร็วกว่า

“ตรงนี้พอกลับรถได้มั้ยครับ”

“ได้ แต่น้องเจต้องใช้ฝีมือหน่อยนะ อย่าเสี่ยงเลย ลองขับลึกเข้าไปหาที่โล่งๆ กว่านี้ดีกว่า”

ผมทำตามคำสั่งของนิฌานอย่างเคร่งครัด ขับเข้าลึกขึ้นเรื่อยๆ...พร้อมกับเหตุการณ์น่าหวาดเสียวจากมอเตอร์ไซค์ที่เล่นเอาใจหายใจคว่ำอีกหลายครั้ง

และในที่สุด

“ปล่อยฤดีลงตรงนี้เถอะค่ะ”

จิตใจบอบบางของสาวน้อยก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป!

“เอางั้นเหรอฤดี” นิฌานมองเธออย่างเป็นห่วง

“ค่ะ ตรงนี้มีแท็กซี่จอดรอรับผู้โดยสารพอดี ฤดีขอลงตรงนี้ดีกว่า ไว้พี่ฌานสะดวกเมื่อไหร่ก็อย่าลืมไปหาคุณแม่บ้างนะคะ ท่านคิดถึง”

“ครับ ขอบคุณฤดีมาก” นิฌานคลี่ยิ้มสุภาพบุรุษ ถึงขนาดลงไปส่งสมฤดีจนกระทั่งเธอขึ้นแท็กซี่อย่างปลอดภัยถึงค่อยกลับเดินมาเปิดประตูฝั่งคนขับ ผมเองก็ไม่รีรอ รีบลงเปลี่ยนไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถทันที

“พี่ฌานหาทางกลับรถแล้วค่อยไปส่งผมที่ป้ายรถเมล์หน้าปากซอยแล้วกัน ก่อนเข้ามาผมเห็นอยู่”

“จงใจเลี้ยวผิดเหรอเรา”

“อ้าว ผมนึกว่าพี่ฌานรู้อยู่แล้วซะอีก” ผมหันมาถามเขาอย่างสงสัย พวกเราสบตากันครู่ใหญ่ ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน

“แสบนักนะเจ้าตัวเล็ก”

“ก็ทำตามแผนพี่ฌานนั่นแหละ” ผมตอบตามจริง “ว่าแต่พี่ฌานเถอะ รู้ได้ยังไงว่าผมเรียนขับรถอยู่”

นิฌานเจอที่ว่างสำหรับกลับรถพอดี เลยโชว์ประสบการณ์มาเหนือ ถอยหลังเข้าซองได้ในครั้งเดียวเพื่อกลับออกไปทางหน้าปากซอย

“เพราะพี่ใช้กลยุทธ์รู้เขารู้เราไงครับ ช่วงนี้น้องเจติดหนังสือเล่มนึงมาก ชอบหยิบมาอ่านรอระหว่างพี่ทำงาน ไอ้เราก็อยากจะรู้ชื่อหนังสือจะได้ไปหาอ่านบ้าง จะได้เอามาคุยกับน้องเจได้ เลยฉวยจังหวะที่น้องเจเข้าห้องน้ำแอบเปิดดู” นิฌานหัวเราะหึหึในลำคอ “ตั้งใจวางแผนกะตีสนิทแท้ๆ แต่พอเจอว่าน้องเจกำลังเรียนขับรถเพื่อพี่ก็ใจเต้นตึกตัก ตกหลุมรักเรายิ่งกว่าเดิม”

“จมถึงเอวแล้วเหรอครับ”

“สะดือต่างหากครับน้องเจ”

ผมหัวเราะเหอๆ แบบขอไปที

“พอเอาชื่อสนามไปหาข้อมูลถึงรู้ว่ามีสอบใบขับขี่ทุกวันอาทิตย์ และจากการคำนวณอาศัยที่พี่คอยมองน้องเจตั้งแต่ถือหนังสือเล่มนี้แล้ว คาดว่าน้องเจน่าจะเรียนไปหลายครั้ง อาทิตย์นี้คงจะสอบพอดี ใช่รึเปล่าครับ”

“ถูกครับ” ผมพยักหน้าหงึกหงัก “แต่ที่ไม่ถูก คือผมไม่ได้เรียนขับรถเพื่อพี่ แต่เพื่อตัวเองต่างหาก พี่ฌานจำไม่ได้เหรอว่าเคยสติหลุดเกือบขับรถชนน่ะ”

“จำได้สิครับ ตอนนั้นน้องเจตะโกนเสียงหลง น่ารักสุดๆ เลย”

“...ผมลงตรงนี้ดีกว่า”

“ไม่ลงป้ายรถเมล์หน้าปากซอยแล้วเหรอครับ”

“ผมรู้สึกไม่ปลอดภัย” พูดจบทั้งรถก็ตกในความเงียบครู่หนึ่ง แน่นอนว่านิฌานไม่จอด และผมเองก็ไม่ได้ประท้วง พวกเราต่างรู้ดีว่าปะทะฝีปากเป็นพิธีไม่ได้จริงจังอะไร “พี่ฌาน...”

“ครับน้องเจ”

“พรุ่งนี้จะมีข่าวพี่กับสมฤดีรึเปล่า”

“มีแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์เลย”

“แม่พี่ส่งสมฤดีมาตอนนี้เพื่ออะไร”

“เพราะต้องเป็นตอนนี้เท่านั้นถึงได้ส่งไม้ตายอย่างแอนแอนได้ต่างหากครับ ช่วงนี้พี่มีน้องเจแล้ว เลยไม่ค่อยรับสายแอนแอนไว้คุยเล่นนัก แผนป่วนประสาเลยไม่ค่อยได้ผล เฮ้อ...ก็พี่ไม่อยากนอกใจน้องเจนี่นา”

“เข้าเรื่องด้วยครับพี่”

“อะแฮ่ม...ก็น้องเจรายงานไปใช่มั้ยล่ะว่าพี่ทำตัวดีแค่ไหน แทบไม่ไปงานเลี้ยง ไม่ออกเดต ไม่ควงแขนกับใครเลย”

“ครับ”

“ถึงได้บอกว่าต้องเป็นตอนนี้เท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้แม่พี่เคยพยายามส่งคนมาสร้างข่าวหลายครั้ง แต่เพราะพี่เปลี่ยนคู่เดตบ่อยยิ่งกว่าอะไร คนที่ส่งเข้ามาเลยสร้างประเด็นไม่ได้ นักข่าวเองก็ไม่สนใจ จับคู่พี่กับดาราสาวย่อมเรียกกระแสได้ดีกว่าคนทั่วไป แต่พอสมฤดีมาในช่วงพี่ทำตัวดี...ขนาดเจ้าหน้าที่ในห้องอัดยังทักเลยว่าเป็นตัวจริงรึเปล่า”

ผมย้อนนึกแล้วก็อดยอมรับไม่ได้ว่าใช่ มันน่าสงสัยจริงๆ นั่นแหละ

สัญญาณเด็กดีของนิฌานเหมือนกำลังสื่อว่าคนเจ้าชู้กำลังจะหยุดอยู่ที่ใครสักคน

“นักข่าวจ้องเล็งพี่ช่วงนี้อยู่แล้ว น้องเจคงไม่รู้ตัวเลยสิ”

“ผมขอโทษ”

“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ เอาเป็นว่าสมฤดีเข้ามาให้ชวนเข้าใจผิด พรุ่งนี้ก็เตรียมรับมือแล้วกัน แต่พี่เชื่อว่าน้องเจคงมีแผนในใจไว้อยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ”

ผมพยักหน้ารับ

“น้องเจคนเก่งของพี่”

ผมไม่ตอบกับคำชมชวนขนหัวลุกนัก เพราะกำลังหนักใจว่าสิ่งที่ทำอยู่มันดีแล้วจริงเหรอ

“พี่ฌาน...ผมทำให้พี่ลำบากกว่าเดิมรึเปล่า”

ทุกการกระทำของนิฌาน ชาญชัยมีเหตุผล เขาขยันยิ้ม ขยันหัวเราะ ขยันเข้าหาผู้คนเพื่อการทำงานที่ราบรื่น ควงทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายเพื่อไม่ให้ตกเป็นข่าวกับใครก็ตามที่ส่งมาจากแม่แท้ๆ ของตัวเอง แม้จะมีผลพลอยได้อันไม่บริสุทธิ์ใจ แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่าการให้เขาหยุดทุกอย่างนั้น...มันดีแล้วจริงเหรอ

“น้องเจกังวลอะไรครับ เทียบกับความสุขชั่วครั้งชั่วคราวพวกนั้นแล้วน่ะ...การที่น้องเจอยู่ข้างพี่ ช่วยพี่คิด ช่วยพี่วางแผน ไม่ทรยศกันน่ะดีกว่าเป็นไหนๆ” นิฌานหันมายิ้มให้ผม พร้อมกับจอดรถแถวป้ายรถเมล์ “เพราะคนพวกนั้นผ่านมาแล้วผ่านไป แต่น้องเจจะไม่ทิ้งพี่ใช่มั้ยครับ”

“ผมไม่ทิ้งพี่หรอก” ผมเอ่ยหนักแน่น เรียกสายตาหวานซึ้งจากนิฌานจนมดตอม “ภายในสามเดือนนี้น่ะนะ”

พูดจบก็เดินลงจากรถ ไม่ลืมหันมายกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่า

“โธ่ กำลังซึ้งเลย”

นิฌานรับไหว้ด้วยสีหน้าสุดเซ็ง แต่ดวงตาประกายวาวอย่างรู้อยู่แล้วว่าต้องโดนตัดบท ก็เขา...ตกหลุมรักผมที่เป็นแบบนี้....

ไม่ใช่รึไงล่ะ

 

--------------

ใช่จ้ะน้องเจ ทางนี้ก็รักน้องเจที่เป็นแบบนี้ เป็นเด็กแสบน่ารักอย่างนี้เหมือนกันนะลูกจ๋าาา

ความสัมพันธ์เริ่มพัฒนาไปทางเหนือธรรมชาติอย่างการส่งโทรจิตกันแล้วค่ะ 555 นิฌานชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ คนเจ้าชู้เวลาหยุดที่ใครก็จะหยุดทุกอย่างเนอะ ส่วนน้องเจ...ยังคงเฉยชาอย่างคงเส้นคงวา ฮ่าๆ เราชอบฉากตอนพี่ฌานกับน้องเจส่งสายตาสื่อความนัยกันมากเลยค่ะ น่ารักกกกกก ส่วนน้องวางแผนแก้เกมยังไง ต้องรอลุ้น!

 

เพจนักเขียนที่อยากบีบแก้มน้องเจ

ออฟไลน์ Fallinlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
น่ารักจังเลย  :-[
พี่ฌานคนดี น้องเจคนเก่ง
รอดูแผนน้องเจ ดูสิจะเด็ดขนาดไหน > <

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
น้องเจกับพี่ฌานนี่แค่มองตาก็รู้ใจกัน ตอนสกัดแอนแอนออกนี่เข้าขากันดีมาก ชอบๆ :katai2-1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
รับส่งกันดีจริงๆ  o18

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
มีการส่งโทรจิต รู้ใจกันดีจริงๆ

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
หูยยยย อยากอ่านต่อ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตอนเช้าจะมีข่าวอะไรน่ะ อยากรู้ ๆ  :hao3:

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
แค่มองตาปิ๊ง ๆ ก็อ่านใจกันได้ทะลุปรุโปร่งอย่างนี้
ยังไง ยังไง ...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
รอการแก้เกมของน้องเจ รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :-[ อ๊ะ ๆ มีสบตาสื่อสารกันด้วยใจรู้เรื่องเข้าขากันดีอย่างนี้ อะจึ๋ย ๆ ๆ  :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
น้องเจ น่ารักก

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
น้องเจต้องมีแผนเด็ดๆมารับมือนะอย่าให้ยัยคุณหญิงนั่นมาเหนือกว่าได้ อิพี่ฌาณนี่ก็ขยันหยอดตลอดสรุปแล้วที่เจ้าชู้มาเรื่อยนี่เพราะขัดขวางแผนแม่ตัวเองหรอกเหรอ

ปล.แอบเห็นด้วยกับน้องเจที่ว่าน่านัดยัยสมฤดีให้ไปกินข้าวกับจอมมาร ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
อื้อหือ เห็นที่จะจมในหลุมรักของน้องเจไปเกินอกแล้วละค่ะพี่ณาน
ไม่ใช่แต่สะดือหรอกนะ ออกอาการขนาดนี้ อิอิอิอิ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เดี๋ยวนี้พัฒนาถึงขั้นมองตารู้ใจแล้วหรอเนี่ยยยย

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :laugh: :laugh: ขุ่นพี่คะนี่คือจมลงไปแล้วค่ะ ไม่ใช่ตกเฉยๆ ถถถถถถถถถถถถถถถ

ออฟไลน์ hereg407

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ชอบที่น้องเจกับพี่ฌานตามกันทัน แบบเนี้ยะ  สนุกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
แหมมม มองตาก็รู้ใจ แหมมมมมมมม

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ถ้าไม่รักกันจริงส่งโทรจิตคุยกันไม่ได้นะ555555

ออฟไลน์ papapajimin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 294
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ชอบน้องเจจจจจ รู้ใจกันแล้วเด่วนี้!!!!!!

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
ตอนที่ 12 : ข่าวฉาวและรุกฆาต

 

พาดหัวข่าววันนี้...กับภาพแสนคุ้นตา

สมฤดีเดินควงแขนกับนิฌานในลานจอดรถ ท่าทางสนิทสนม ส่วนผม...ที่ตอนนั้นเดินตามหลังโดนตัดออกไปราวเป็นต้นไม้ใบหญ้าที่ไม่สำคัญ

‘เผยแล้ว! ตัวจริงของนิฌาน ชาญชัย ที่แท้ไม่ใช่ใครแต่คือลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง!’

ผมอ่านแล้วอดคิดไม่ได้ว่า...พวกนักข่าวอาจจะอัดอั้นกับนิฌานมานานก็ได้นะ รู้ว่าเขาเที่ยวคั่วคนนั้นคนนี้แต่แทบจับประเด็นมาเขียนปังๆ ไม่ได้สักที งวดนี้หลุดออกมาเลยจัดเต็มเป็นพิเศษ แถมยังใส่สีตีไข่ เติมความเห็นตัวเองไปซะมาก

อย่าง ‘สาวสวยสุดแซ่บมารอฝ่ายชายเพื่อไปดูฤกษ์แต่งงาน’ งี้ ‘แม่ให้ไฟเขียว! ลูกกตัญญูพาแฟนสาวไปกินข้าวสานสัมพันธ์กับแม่บังเกิดเกล้า’ งี้...แล้วยังมี ‘วงในเล่ากันว่าคนนี้คือหวานใจที่แอบคุยโทรศัพท์มาตลอด’ อีก...เอ่อ มากรี๊ดใส่ก็นับด้วยเหรอ

โทรศัพท์ของผมสั่นครืดคราดตั้งแต่เช้า ทุกครั้งที่มีคนโทรมาสอบถามก็ตอบไปตามตรงว่านิฌานกับสมฤดีเป็นแค่พี่น้องกัน ส่วนใหญ่ไม่เชื่อ เพราะอยากได้ประเด็นไปนั่งเทียนเขียนข่าวต่อมากกว่า แต่เรื่องอะไรผมจะหลงกลล่ะ นายเจตรินยิ้มกริ่ม ตอบทันทีว่ารายละเอียดที่เหลือให้มาสอบถามกับนิฌานโดยตรงในงานเปิดตัวน้ำหอมบิวตี้เพอร์ฟูม

เว้นช่องว่างให้ใส่สีตีไข่ประโคมลงไปอีกสักนิด ชวนนักข่าวมาเยอะๆ เรียกร้องความสนใจจากสื่อให้มากๆ แล้วค่อยสรุปจบในงาน นอกจากจะกระจายคำตอบรวดเดียวแบบไม่ต้องเหนื่อยยากลำบากใจแล้ว เจ้าของผลิตภัณฑ์ก็ยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิงที่ผลตอบรับแรกได้รับความสนใจขนาดนี้

ถ้าไม่นับพวกนักข่าว เช้านี้ก็มีสายเรียกเข้าเหนือความคาดหมายจากคุณเลขาจอมมาร

“สวัสดีครับ”

(( คุณเจมีแผนรับมือแล้วใช่มั้ยครับ ))

ที่แท้ก็โทรมาด้วยความเป็นห่วง กลัวผู้จัดการมือใหม่อย่างผมตั้งรับไม่ทันนี่เอง

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมรู้อยู่แล้วว่าจะมีเรื่อง”

(( งั้นผมก็วางใจ ))

คุณเลขาโทรมาสอบถามแล้วก็วางสาย ผมเลิกคิ้ว อดคิดไม่ได้ว่าคนคนนี้ทำเกินหน้าที่ไปมากโข เลี้ยงเด็กโข่งอย่างเสี่ยไม่พอยังเผื่อแผ่มายังคนรอบตัวเสี่ยอีก สงสัยจะว่างมากนะเนี่ย

สรุปแล้วผมกับนิฌานไม่เดือดร้อนกับข่าวฉาวที่ยิ่งประโคมและออกนอกทะเลขึ้นทุกที รักต้องห้ามบ้างล่ะ แอบจดทะเบียนสมรสกันแล้วบ้างล่ะ นับวันก็ยิ่งเหลือเถิดเพราะนิฌานเก็บตัวเงียบไม่ตอบคำถาม เพียงบอกว่าให้รอดูกันในวันเปิดตัวน้ำหอม

หลายสื่อพากันสับสนว่าเกี่ยวอะไรกับน้ำหอมบิวตี้เพอร์ฟูม แต่พอนึกได้ว่าโฆษณานั้นเน้น ‘รักในแบบที่เป็นคุณ’ ก็ยิ่งใส่สีตีไข่ บอกว่านิฌานจะสารภาพรักในงานนั้นแล้วคุกเข่าขอแต่งงาน เอ่อ...ไหนข่าวก่อนหน้านี้ว่าแอบไปจดทะเบียนสมรสกันแล้วไง ชักจะเลอะเทอะไปกันใหญ่ วู้!

กลับมาที่พวกผมซึ่งสบายใจเกินเหตุกันบ้าง ไม่สิ ควรบอกว่าต้นตอของข่าวอย่างนิฌานคนเดียวต่างหากที่ยิ้มระรื่นชื่นบาน อาสาเป็นผู้ช่วยสอนขับรถให้ผมอย่างขยันขันแข็ง

“โอ๊ย!”

ตอนเจอรถตัดหน้าแล้วเผลอเบรกดังเอี๊ยด ผมเลยไม่สำนึกผิดสักนิดเมื่อเห็นคนตัวสูงกว่าหัวโม่งกระจกรถเข้าอย่างจัง

“ขอโทษครับพี่ฌาน” พูดตามมารยาท แต่สายตาสะใจสุดๆ นิฌานลูบหน้าผากปอยๆ ทำหน้าน่าสงสารราวกับว่าทำดีแต่ไม่เห็นค่า เฮอะ! ผมจะไปเห็นค่าได้ยังไงในเมื่อเขาสอนไปก็แอบเนียนกระแซะเนียนแต๊ะอั๋ง หากไม่เพราะอยากขับรถเป็นเร็วๆ อย่าหวังเลยว่าจะยอมเปลืองตัวขนาดนี้

“ไม่เป็นไรครับน้องเจ...ระวัง!”

แล้วคนตัวสูงก็โดนไปอีกโป๊ก เช่นเดียวกับผมที่เกือบหัวโขกพวงมาลัย

“จอดรับคนก็เปิดไฟเลี้ยวบอกหน่อยสิ!” ผมว่าอย่างหงุดหงิด เพราะสารพัดรถที่ขับแทรกนั้นมาจากการหาทางเบี่ยงเข้าเพื่อรับคนตามริมฟุตบาท ก็แถวนี้น่ะมีสำนักงานเยอะ คนทำงานแยะ พอรับคนเสร็จก็ปาดตัดหน้าเลี้ยวออก สร้างความโกลาหลวุ่นวายแก่มือใหม่อย่างผมมาก

“มีคนหัวร้อนซะแล้วสิ” นิฌานที่มีรอยช้ำบนหน้าผากสองรอยยังไม่วายหันมาแซวกัน

“ผมเปล่านะ” ไม่ทันขาดคำผมก็สบถอีกครั้ง รถเบรกเอี๊ยดตัวโยนเป็นรอบที่สาม คราวนี้คนตัวสูงตั้งรับทัน เกาะกับเบาะแน่นหนึบไม่ต่างกับจิ้งจกเกาะกำแพง “เปิดไฟเลี้ยวกันบ้างสิ!!”

“หัวร้อนแล้ว หัวร้อนแล้ว”

โอเค ผมยอมรับ ผมหัวร้อนเพราะความมักง่ายของการขับรถในชั่วโมงเร่งด่วนอย่างตอนเลิกงาน เห็นว่ารับคนแค่แป๊บเดียวเลยไม่ยอมเปิดไฟ จะเลี้ยวออกก็แทรกพรวดพราดเอาดื้อๆ แถมไฟแดงก็ขยันมาถี่ซะเหลือเกิน ทำให้รถกว่าจะขยับเขยื้อนออกไปแต่ละรอบน่าหวาดเสียว หากชักช้าก็โดนแซง แต่ถ้าจะซิกแซกเข้าหน่อยก็กลัวโดนชน

ผมกัดฟันกรอด นึกอยากจะไล่คนพวกนี้ไปสอบใบขับขี่ใหม่ให้หมด ขนาดผมเพิ่งฝึกหัดยังเปิดไฟตามกฎจราจรเลยนะ!

“ถ้าน้องเจไม่ไหว ให้พี่ขับแทนมั้ยครับ”

“พี่ฌานคงคิดว่าผมแย่มากเลยใช่มั้ย” ผมเอ่ยเสียงอ่อน รู้ตัวว่าเริ่มใช้อารมณ์เป็นใหญ่

“โห มีตัดพ้อกันด้วย” นิฌานจับหัวใจคล้ายโดนพลังที่มองไม่เห็นโจมตี

“ก็ผมใจร้อนมากไป หัวร้อนจริงๆ นี่...” ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกผิด เป็นฝ่ายขอลองฝึกเพราะติดใจจากครั้งก่อนที่ประสบการณ์จริงเทียบกับตอนเรียนไม่ได้เองแท้ๆ ถ้านิฌานไม่คอยรั้งคอยแหย่ ผมอาจจะเผลอปาดแทรกบ้างจนรถชนไปแล้วก็ได้ “มองอะไรครับ”

จู่ๆ ก็รู้สึกถึงออร่าคุกคามไม่น่าไว้วางใจ

“น่ารัก”

“...”

“...”

“ถ้าไม่ติดว่านี่รถพี่ ผมจะจอดข้างหน้าแล้วไล่ลงข้อหาคุกคามเด็ก”

“กลายเป็นน้องเจที่ไม่น่ารักซะแล้ว” นิฌานถอนหายใจเฮือกอย่างแสนเสียดาย ส่วนผมที่ขนลุกพึ่บพั่บก็หันมาใจจดจ่อกับการขับรถอีกครั้ง ราวกับว่าไอ้เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น

“พี่ฌานจะยื่นหน้าใกล้ไปมั้ย”

“ก็พี่อยากเห็นหน้าน้องเจชัดๆ ว่ายังหัวร้อนอยู่รึเปล่า...อย่าเพิ่งหดคอหนีสิ พี่ล้อเล่นครับ” เมื่อได้ผลลัพธ์น่าพอใจนิฌานก็กลับไปเกาะกับเบาะเป็นจิ้งจกเหมือนเดิม พอผมมองตามอย่างกังวลก็พยักพเยิดทั้งรอยยิ้มใจดี เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มน่าฟัง “ตั้งใจขับรถเถอะ ทำสมาธิให้ดี พี่จะช่วยดูให้เราเอง”

ความโกรธ ความเศร้า ความไม่มั่นใจทั้งหลายเริ่มกลับกลายเป็นศูนย์เมื่อผมสูดหายใจเข้าลึกเพื่อตั้งหลักใหม่อีกครั้ง

“น้องเจคนเก่งของพี่ทำได้อยู่แล้ว”

“ผมไม่ใช่ของพี่สักหน่อย”

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เริ่มชินกับการปะทะฝีปากกับนิฌาน และเริ่มชิน...กับการไว้วางใจผู้ชายคนนี้

 






แล้วงานเปิดตัวบิวตี้เพอร์ฟูมก็มาถึง

อย่าถามว่ามีคนมาเยอะแค่ไหน ให้ถามว่ามีที่ยืนพอไหมจะดีกว่า! เพราะขนาดผมเป็นผู้จัดการ ได้ที่นั่งด้านหน้าในมุมพิเศษยังรู้สึกได้ถึงความแออัดของเหล่ากลุ่มคนทั้งแฟนคลับของนิฌาน ทั้งผู้ชมทั่วไป ทั้งเหล่านักข่าวหลากหลายสื่อที่สาดแฟลชเสียจนตาพร่าตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มงาน

ผลตอบรับที่ดีเกินคาดโดยไม่ต้องทุ่มซื้องบโฆษณาทำเอาเจ้าของผลิตภัณฑ์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

เช่นเดียวกับแขกไม่ได้รับเชิญแต่มีหน้าตาเป็นใบผ่านทางแถมยังได้ที่นั่งพิเศษข้างๆ ผมซึ่งเป็นต้นตอของข่าวลือทั้งหมดอย่าง...ครับ สมฤดีไงจะใครล่ะ วันนี้เธอมาในชุดราตรีเรียบหรูดูแพงกว่าวันก่อนหลายเท่า ไม่ต่างกับดาราดังมางานเปิดตัว ให้เกียรติกับงาน ให้เกียรติกับตัวเอง วางตัวเหมาะสม และเป็นที่มาว่าทำไมผมถึงตาใกล้บอด ก็แสงแฟลชเล่นสาดมาทางนี้รัวๆ จะก้มหลบก็ไม่ได้นี่ครับ!

เหล่าแฟนคลับมารอด้วยความผิดหวัง ไม่อยากให้นิฌานเปิดตัวแฟนสาวไวปานนี้พร้อมข่าวมงคลแสลงใจ แต่บรรดานักข่าวนั้นกระหายอย่างยิ่ง ขนาดแค่สมฤดีมาหานิฌานที่ตึก ยังเข็นเรือออกทะเลสู่จักรวาลเวิ้งว้างอันไกลโพ้นได้ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะมโนไกลไปถึงไหน เผลอๆ อาจจะบอกว่าท้องก่อนแต่งเลยด้วยซ้ำ!

กลับมาสู่งานกันดีกว่า

หลังตัวละครสำคัญมาครบ ทุกอย่างพรั่งพร้อม เสียงเพลงบรรเลงเบาๆ ก็ดังขึ้นพร้อมการปรากฏตัวของนิฌาน ชาญชัย

ซึ่งเซอร์ไพรส์ใครหลายๆ คนด้วยการร้องเพลงโชว์เสียงทุ้มนุ่มนั้นเป็นที่แรก!

แฟนคลับหลายคนละลาย นักข่าวหลายคนเคลิ้มฟัง ไม่ได้รู้เอาซะเลยว่ากว่าจะอัดได้ขนาดนี้ใช้เวลานานขนาดไหน ลองให้เขาร้องสดสิ...เพี้ยนตั้งแต่คำแรกที่ขึ้นต้นแล้ว!

เนื้อเพลงสื่อถึงความรักของผู้ชายที่อยากบอกผู้หญิงทุกคนให้เชื่อมั่นในตัวเอง เพราะหากให้ผู้หญิงด้วยกันพูดอาจจะดูไม่น่าเชื่อถือพอ แต่เมื่อเป็นนิฌาน ชาญชัยแล้วกลับฟังละมุนหวานชวนใจเต้นแรงไม่ต่างกับคำบอกรัก โดยเฉพาะเมื่อดาราชื่อดังจงใจมองมาทางสมฤดีอย่างสื่อความนัย เรียกแสงแฟลชกระหน่ำสาด

ตัวสมฤดีนั้นเขินอาย เมื่อถูกนิฌานมองด้วยสายตาหวานซึ้งขนาดนั้นไม่ว่าใครก็ทนไม่ไหว ยกเว้นผมไว้คนเถอะ...เพราะนั่งข้างๆ สมฤดี และไม่มีความตื่นเต้นตื่นตาใดๆ กับการแสดงตรงหน้า เลยเห็นได้อย่างชัดเจนว่านิฌานนั้นแม้เหมือนจะมองทางสมฤดีก็จริงแต่ความจริงแล้วนั้น...กำลังเกี้ยวผมอยู่ต่างหาก!

ผมถลึงตาใส่เขา สื่อว่าอย่ามาทำเล่นเอาตอนนี้ได้มั้ย!!

โทรจิตสื่อสารสำเร็จ นิฌานกลับมาตั้งใจกับการทำงานเช่นเดิม และเมื่อเพลงจบลง เขาก็โค้งตัวน้อยๆ ด้วยองศาสมบูรณ์แบบปานเจ้าชายในเทพนิยาย เรียกเสียงปรบมือและชื่นชมไม่คาดสาย

“สวัสดีครับ ผมนิฌาน ชาญชัย พรีเซนเตอร์บิวตี้เพอร์ฟูมควบคู่กับพิธีกรในงานนี้” นิฌานโบกมือทักทายผู้ชมด้วยรอยยิ้มขี้เล่นเป็นกันเอง “ผมชอบคอนเซปของบิวตี้เพอร์ฟูมมาก และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงตอบตกลงยอมร้องเพลงออกสื่อครั้งแรก แต่ไม่รู้ว่าทุกคนจะชอบกันรึเปล่า”

“ชอบค่า!”

นิฌานคลี่ยิ้มบาง ดูนุ่มนวลอ่อนโยนไม่ต่างกับสุภาพบุรุษในฝัน

“ถ้าชอบกันก็ดีแล้วครับ เพราะผมอยากให้ผู้หญิงทุกคนภูมิใจในตัวเอง เหมือนกับแขกรับเชิญพิเศษในวันนี้...”

เดิมที งานนี้จะเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนระหว่างความเห็นของผู้ชาย ( โดยมีนิฌานเป็นตัวแทนฝ่ายชาย ) และผู้หญิง ซึ่งจะจับฉลากเลือกจากผู้ร่วมงานที่ซื้อผลิตภัณฑ์ชิงโชคเข้ามา แต่เนื่องจากเกิดข่าวดังตัดหน้ากะทันหัน ผมซึ่งเป็นผู้จัดการจึงปรึกษาขอปรับเปลี่ยนแผนงานกับทางเจ้าของโดยตรง และได้รับไฟเขียวอย่างรวดเร็ว

“ขอเสียงปรบมือให้กับสมฤดี น้องสาวของผมด้วยครับ”

ความพลิกโผผิดคาดนี้ทำให้เหล่านักข่าวเก็บภาพใบหน้างุนงงของสมฤดีมือเป็นระวิง เธอหันมามองผมอย่างขอความช่วยเหลือ เพราะแม้จะไม่ได้อธิบายรายละเอียด แต่การปรากฏตัวครั้งนี้ของเธอคาดว่าอยู่ในแผนการของแม่นิฌานซึ่งอยากให้สถานการณ์ค่อนไปทางเข้าใจผิดมากขึ้น สมฤดีเตรียมคำพูดตอบนักข่าวแล้ว แต่ใครจะรู้ว่านิฌานจะชิงเดินหมากก่อน ไม่เปิดโอกาสให้นักข่าวถามสักคำ แถมยังเชิญเธอขึ้นไปบนเวทีอีกต่างหาก

มาถึงขั้นนี้แล้วจะถอยกลับก็ไม่ได้ สมฤดีฝืนยิ้ม เดินไปหานิฌานที่ไม่แม้แต่จะส่งไมค์ให้แสดงความเห็น

“ทุกคนคงรู้จักเธอกันแล้ว นี่คือสมฤดี หรือฤดีน้องสาวของผม แม้เธอจะเป็นญาติห่างๆ แต่ครอบครัวเราค่อนข้างสนิทสนมกันดี ทำให้ผมได้เจอกับเธอบ่อยๆ ตั้งแต่น้าสาวแต่งงานเมื่อสิบกว่าปีก่อน เพราะวัยใกล้เคียงกัน ผมกับฤดีเลยเข้ากันได้ไว เมื่อก่อนเธอก็มักมาวิ่งเล่นที่บ้านผม เรียกว่าพี่ฌานไม่หยุดปาก”

คิดสร้างเรื่องแข่งกับดาราชื่อดังซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวจนเนื้อตัวสากด้านอย่างนิฌาน ต่อให้ทุกคำที่พูดมาเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดก็ไม่มีใครติดใจสงสัยสักนิดเพราะพยายามจับใจความสำคัญว่าสมฤดีเกี่ยวข้องอะไรกับงานเปิดตัวครั้งนี้

“เมื่อก่อนฤดีไม่ได้หน้าตาแบบนี้เลยครับ” พลันนิฌานถอนหายใจอย่างเจ็บปวด ราวระลึกถึงวันวานแสนสุขที่เขาและเธอวิ่งเล่นด้วยกัน...วันวานที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงน่ะนะ “เธอเป็นคนน่ารัก ยิ้มเก่ง ร่าเริงสดใส มักทำให้ผมยิ้มตามเสมอ”

พลันหน้าจอด้านหลังซึ่งใช้สำหรับฉายโฆษณาปรากฏภาพถ่ายสมัยเด็กของสมฤดี ที่แม้จะไม่นับว่าสวย แต่รอยยิ้มฉีกกว้างนั้นตราตรึงใจไม่น้อย ซึ่งเมื่อมองเทียบกับในตอนนี้...แทบจะไม่เหลือเค้าเดิมแม้เพียงเสี้ยวเดียว!

สมฤดีพยายามเดินลงจากเวที เธอเกือบจะกรีดร้องตกใจออกมาด้วยซ้ำ แต่น่าเสียดาย...เพราะนิฌานคว้าข้อมืออย่างรู้ทัน แถมยังเผยยิ้มเห็นใจ เอ่ยต่ออย่างลื่นไหลไม่เหมือนคนท่องสคริปท์สักนิด

“เมื่อโตขึ้น เธอก็เริ่มใฝ่ฝันอยากเข้าวงการตามรอยผม แม้ผมจะให้คำปรึกษาอยู่เสมอ แต่เธอกลับไม่มั่นใจตัวเอง เมื่อโดนปฏิเสธหลายครั้งเข้าก็เริ่มคิดว่าเป็นเพราะเธอสวยไม่พอ หน้าตาดีไม่พอ และเริ่มหันมาสนใจด้านศัลยกรรม” ภาพบนจอเปลี่ยนเป็นรูปของสมฤดีที่มีผ้าพันแผลตามใบหน้าในแต่ละปี “ผมไม่เคยคัดค้านเรื่องการศัลยกรรมนะครับ หากทำแล้วมีความมั่นใจยิ่งขึ้น ผมก็ยินดีกับเธอด้วย แต่ฤดีกลับเห็นว่าเธอสามารถดีกว่านี้ได้อีก สามารถสวยกว่านี้ได้อีก จนกลายเป็นเสพติดการศัลยกรรม ผ่าตัดครั้งแล้วครั้งเล่า ยอมเจ็บตัวเพื่อให้ดีขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ยอมลองออดิชั่นจนกว่าจะสวยพอในความคิดของตัวเอง”

นิฌานเว้นช่วงเล็กน้อย ดวงตาทอดมองอย่างห่วงใยลึกซึ้ง

“ผมเห็นใจน้องสาวนะครับ จึงวางแผนนี้ขึ้น”

ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับสมฤดีที่หน้าซีดจนไม่เหลือสีเลือด

“ฤดี...” นิฌานมองหญิงสาวด้วยสายตารักใคร่อบอุ่นดังคนในครอบครัวที่ปรารถนาให้น้องสาวมีความสุข “พี่อยากจะบอกเธอมาตลอด ว่าเธอสวย น่ารัก ในสายตาของพี่ชายคนนี้เสมอ สิ่งที่ขาดไปไม่ใช่ความงามอย่างที่เธอเข้าใจ แต่คือความมั่นใจในตัวเองต่างหาก เลิกบินไปเกาหลีแล้วหันมาสานฝันต่อเถอะนะ พี่ชายคนนี้จะเอาใจช่วย จะสนับสนุนเธอเอง ฤดี”

ทุกคำที่นิฌานพูด แม้จะตรงตามสคริปท์ซึ่งผมเป็นคนเขียนไม่ผิดเพี้ยน แต่สายตา น้ำเสียง สีหน้า ทุกอย่างล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่เสริมให้ละครฉากนี้สมบูรณ์แบบ ภาพในอดีตของสมฤดีบนหน้าจอหายไปแล้ว แทนที่ด้วยสโลแกนของน้ำหอม

‘สวยในแบบที่เป็นคุณ กับคนที่คุณรัก บิวตี้เพอร์ฟูม’

สมฤดีอ้าปากพะงาบๆ มองนิฌานน้ำตาคลอเบ้าด้วยความตื่นตะลึง ปฏิกิริยาของเธอคือสิ่งเดียวที่ยืนยันว่าทั้งหมดคือแผนเซอร์ไพรส์ไม่ใช่การโปรโมตงานขาย สร้างความซาบซึ้งตรึงใจแก่ผู้ชมที่คาดไม่ถึงว่าจะได้เจอฉากแสนอบอุ่นของสองพี่น้องจนปรบมือกันเกรียวกราว

บรรยากาศที่เปี่ยมด้วยรอยยิ้ม ทุกคนมองอย่างชื่นชม สมฤดีได้แต่กลั้นยิ้มหน้าบิดเบี้ยว หากกล้าทำตามแผนแม่ของนิฌานอีกก็เท่ากับว่าโง่เง่าเต็มทีแล้ว ใครจะเชื่อเธออีก? ในเมื่อนิฌานประกาศชัดถึงสถานะ พลิกตลบข่าวฉาวที่ออกทะเลไปไกลถึงดาวอังคารได้อย่างสวยงาม!

เมื่อจบงาน สมฤดีรีบขอตัวกลับก่อนด้วยความรู้สึกสับสนปนเปวางตัวไม่ถูก โดนแฉภาพสมัยก่อนว่าแย่แล้ว โดนปั้นเรื่องกลางงานยิ่งแย่กว่า เธอทั้งเสียหน้าและอับอาย ทำให้เหลือเพียงนิฌานคนเดียวที่ยืนยิ้มสุภาพให้สัมภาษณ์กับนักข่าวทุกคำถามอย่างไม่ปิดบัง

“อธิบายเรื่องวันนั้นที่มีคนแอบถ่ายได้มั้ยคะ เรื่องเป็นไงมายังไง เป็นการสร้างกระแสรึเปล่า”

“ความจริงไม่มีอะไรเลยครับ ผมเรียกเธอมาเพราะอยากชวนให้มางานเซอร์ไพรส์ครั้งนี้ก็เท่านั้นเอง แม่ผมก็เห็นด้วย แต่ที่คาดไม่ถึงคือข่าวไปไวเกินไป ผมก็อยากจะบอกทุกคนหรอกนะครับ แต่กลัวว่าแผนที่วางไว้จะพัง เลยต้องเชิญทุกคนมาดูด้วยตาตัวเองในวันนี้”

แก้ตัวได้อย่างหมดจด แถมยังไม่ลืมยกความดีความชอบให้แม่บังเกิดเกล้าไม่ทิ้งลายดาราลูกกตัญญู

“เป็นครอบครัวที่น่ารักจังนะคะ”

“ต้องยกเครดิตให้แม่ของผมเลยครับ”

นักข่าวยังคงถามต่อ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจฟังแล้วเพราะเชื่อว่านิฌานรับมือได้

เอาล่ะ ถึงตอนนี้หลายคนคงสงสัย ว่าเรื่องราวเป็นยังไงมายังไงกันแน่

คงไม่ลืมกลยุทธ์รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งที่นิฌานสืบจนรู้ว่าผมแอบไปเรียนขับรถใช่มั้ยครับ ไม่ใช่แค่นิฌานหรอกนะที่ใช้กลยุทธ์นั้น เพราะตั้งแต่รู้ว่าชื่อของแอนตี้แฟนคือสมฤดี คือลูกพี่ลูกน้องของนิฌาน และเป็นหนึ่งในตัวหมากของแม่เขา ผมก็เริ่มค้นว่าเธอมีจุดอ่อนอะไรให้แม่ของนิฌานกุมไว้ เพราะคงไม่มีคนปกติที่ไหนจะโทรป่วนลูกพี่ลูกน้องตัวเองทุกสามเวลาโดยไร้เหตุผล

ครับ จุดเริ่มต้นของผมก็แค่อยากหาทางระงับโทรศัพท์สายนี้ก็เท่านั้น แม้นิฌานจะเมินเฉย แต่พักหลังมานี้คนรับคือผม มันน่าปวดหัวกว่าที่คิดนะบอกเลย

ต้องขอบคุณโลกโซเชียลที่กว้างไกล หลังจากตามดูเฟซบุ้คเธอย้อนไปหลายปี ผมก็รู้ว่า...เธอเป็นโรคเสพติดการศัลยกรรม

ไม่เพียงใบหน้า แต่ยังทั้งตัว สมฤดีพึ่งพาเรื่องเงินกับแม่นิฌานบ่อยๆ เพราะตัวแม่ของนิฌานเองก็เสริมความงามด้วยมีดหมอไม่น้อยถึงได้ไม่หย่อนคล้อยตามวัย ทั้งหมดนี้ผมเดาจากภาพถ่ายคู่กันตอนไปเกาหลีล้วนๆ และเมื่อถามนิฌานเพิ่มเติมเขาก็ยืนยันว่าผมคิดถูก

สมฤดีอยากเข้าวงการ นั่นคือเรื่องจริง หญิงสาวทุกคนย่อมใฝ่ฝันจะได้ยืนเด่นท่ามกลางสปอร์ตไลต์ แม่นิฌานใช้เรื่องนี้เป็นแรงผลักดัน พ่วงด้วยเรื่องบุญคุณด้านการเงินที่มักถูกพึ่งพาเสมอ สมฤดีที่เดิมทีไม่ได้มีใจคิดชั่วจึงยอมทำตามคำของแม่นิฌานแต่โดยดี เป็นตัวหมากที่ถูกจูงไปมาอย่างน่าสงสาร

ฉะนั้นตั้งแต่เห็นสมฤดีปรากฏตัวที่เอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ ทั้งผมกับนิฌานก็รู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น

การแต่งตัวที่เปิดเผยเกินงาม ไม่ต่างกับการป่าวประกาศว่ามองฉันสิ ฉันจะสร้างเรื่องให้เอง จากนั้นก็ทำเรื่องโวยวายขอพบนิฌานที่เคาน์เตอร์บริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ ทุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เป็นแผนเรียกร้องให้ปาปารัชชี่สนใจ สร้างข่าวประโคมให้นิฌานเสียหาย ส่วนสมฤดีเด่นดัง เป็นที่รู้จักในข้ามคืน

เมื่อฝ่ายนั้นเดินหมากท้าดวลขณะที่ผมมีข้อมูลในกำมือพอดีก็พร้อมรับคำท้า

จริงอยู่ว่าสมฤดีนั้นน่าสงสาร แต่เทียบกับความตั้งใจของนิฌาน ผมย่อมไม่อยากให้คนมีความสามารถต้องมาซวยเพราะความมักง่ายหวังใช้ทางลัดเข้าวงการของใครบางคน แผนการถูกวางอย่างไม่ยากเย็น ผมออกไอเดียเขียนสคริปท์ นิฌานช่วยเสริมเพิ่มเติมรายละเอียด เราสองคนระดมสมองกันค่อยๆ ปะติดปะต่อเหมือนต่อจิกซอว์ จนสุดท้ายออกมาเป็นแผนการที่สมบูรณ์ อย่างรูปถ่ายนั่นเขาก็เป็นไปคนไปหามา คำพูดหลายอย่างก็เติมแต่งลงไปให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น

แม่ของนิฌานเป็นคนฉลาด แต่พลาดไปอย่างหนึ่งคือผมกับนิฌานร่วมมือกัน

สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียวอยู่แล้ว สมฤดีเป็นเพียงตัวหมาก แต่พวกเราต่างเป็นตัวขุน โดนเผด็จศึกอย่างนี้ย่อมแก้เกมไม่ทัน

เรื่องทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี้

ผมมองภาพนิฌานยืนโดดเด่นท่ามกลางนักข่าวด้วยกระแสที่ดีกว่าเดิมหลายเท่าแล้วอดคิดถึงประโยคยอดฮิตในซีรีส์ที่ชื่นชอบไม่ได้

เช็กเมท( รุกฆาต )

 

------------             

จบอย่างสวยงามมั้ยคะกับสมฤดีคนนี้

จากชื่อหลายคนก็น่าจะเดาออกว่ามาเป็นตัวประกอบกิตติมาศักดิ์ และใช่แล้วค่ะ บทบาทสำคัญของเธอได้จบลงตรงนี้แล้ว ร่วมกันปรบมือให้สมฤดี ตัวประกอบ ‘สม’ ที่ไม่ได้ออกมานานด้วยนะคะ แปะๆๆๆ

ส่วนคู่หลักของเรื่อง โอ๊ย ยิ่งแต่งยิ่งหลงค่ะ หมายถึงน้องเจนะคะไม่ใช่นิฌาน 5555 คนอะไรถึงได้น่ารักน่าเอ็นดู น่ารักน่าหลงขนาดนี้  เอาตรงๆ ว่าอิจฉานิฌานมาก ได้น้องเจคนเดียวคือมาวิน ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว น้องจัดการให้หมด แถมยังรู้ทันกันอีก หมั่นไส้!!

ส่วนตอนต่อไป...แฟนๆ ซีรีส์เช็กเมทห้ามพลาดค่ะ น้องเจแอบมีเกริ่นมากับคำยอดฮิต รับรองว่ามีเซอร์ไพรส์แน่นอน! #justUnotUS
 

เพจนักเขียนที่อยากลักพาตัวน้องเจมานอนกกที่บ้าน

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เห็นคำว่าเช็กเมทผสมกับบุคลิกน้องเจในตอนนี้แล้วแอบอยากให้น้องเจเล่นเรื่องนี้ด้วยจัง บุคลิกน้องนี่ออกฉลาดแกมโกงเหมาะจะเป็นนักแฮกเกอร์เลยจริงๆ

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
 o13 มีความรู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง /เยี่ยม

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ทำไมเรารู้สึกเหมือนคุณเลขาจะมีทายาทอสูรเลยคะ อะไรต่างๆมันให้มากๆเลย

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
สองคนนี้เหมาะกันสุดๆอ่ะ

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ซาตานน้องเจ As Commander  :hao7: :laugh:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ชะนีน้อยสมฤดี บทบาทได้ยุติลงในตอนนี้แล้ว ทีนี่ก็เหลือชะนีตัว(คุณ)แม่แล้วล่ะ จะรับมือกันอย่างไงนะ อยากรู้ ๆ  o18

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด