ตอนที่ 10 “Blue Cage”แสงหรุบหรูรำไรที่มุดผ่านผ้าม่านหรูในห้องนอน เช้าวันใหม่ย่างก้าวเข้ามาอย่างสดใส เปลือกตาหน่วงหนักค่อย ๆ เผยอขึ้นอย่างยากเย็น สมองมึนงง ศรีษะหนักอึ้ง กว่าจะปรับสายตาให้ชินกับแสงสว่างในห้องได้ ก็ใช้เวลาไปเป็นนาที และกว่าสมองจะประมวลผลได้ ว่าห้องที่นอนอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ห้องของตน ไม่ใช่ห้องที่คุ้นเคย แถมยังมีเสียงคลื่นซัดสาดชายหาดอยู่ข้างๆ ก็ปาเข้าไปอีกหลายวินาที พอสมองตื่น วาโยก็ตื่นเต็มตา แต่พอเร่งร้อนพรวดพราดลุกขึ้น ก็ต้องชะงักกึก เมื่อศรีษะเขาเจ็บจี๊ด โอดครวญว่าเขายังเมาค้างจากเมื่อวานอยู่ร่างบางพยามปะป่ายลงจากที่นอน แต่จู่ๆก็รู้สึกได้ถึงโลหะเย็นๆที่ข้อเท้าซ้าย
"เฮ้ย!!?"
และไม่ผิดเพี้ยนไปจากที่จินตนาการ เมื่อเลิกผ้าห่มขึ้น วาโยก็ต้องขมวดคิ้วมุ่น โซ่ตรวนที่ข้อเท้าซ้ายนั่น ชายหนุ่มไม่มีการหยุดใคร่ครวญ ตะปบมือลงบนปลอกขาเย็นเยียบ พยายามปลดสลักงัดดึง แม้ใจหนึ่งจะรู้ว่ามันไม่มีความหมาย แต่ก็ไม่อาจหยุดนิ่งเฉยได้
"แม่งงง!!!"
จนแล้วจนรอดความพยายามจะปลดโซ่ตรวนออกจากข้อเท้านั้นก็สูญเปล่าราวกับไม่เคยเกิดขึ้น ทางเดียวที่คิดได้ตอนนี้คือการหาตัวต้นเหตุให้พบและต่อรองให้ปลดพันธนาการออกให้ แม้ใจจะยังหวาดหวั่น แต่ความหงุดหงิดที่ครอบงำอยู่นั้นก็ผลักดันให้ชายหนุ่มมุ่งหน้าลงจากเตียงนุ่มเพื่อตามหาคนที่ลักพาตัวเขามาทันที
โซ่ที่ยาวรุงรังนี้ทำให้วาโยมั่นใจอยู่อย่างว่า คนที่พันธนาการเข้าไว้แค่ต้องการปิดกั้นอิสรภาพของเขาจากการหลบหนีออกจากที่นี่ แต่ไม่ได้จำกัดการเคลื่อนไหวของเขาในบ้านหลังนี้ วาโยเดินเลาะตามกำแพงห้องไปเรื่อยๆ บ้านสีขาวสะอาดตา ที่การตกแต่งดูเรียบง่ายแต่มีสไตล์ บ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของได้เป็นอย่างดี แต่ความสวยสะอ้านของบ้านในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของวาโยแม้แต่น้อย ตั้งแต่ลงจากเตียงได้ความหงุดหงิดงุ่นง่านของวาโยยิ่งทบเท่าทวี เมื่อเห็นสภาพการแต่งตัวที่เกินจะรับได้ เสื้อเชิ๊ตสีขาวตัวใหญ่โคร่ง กับกางเกงขาสั้นเกือบจะเป็นบ๊อกเซอร์ โชว์ขาเปลือย ไปจนถึงข้อเท้าซ้ายที่ถูกพันธนาการเอาไว้ แค่บุกไปลักพาตัวเขามาก็ว่าเกินจะคุยด้วยแล้ว นี่ยังทำกับเขาถึงขนาดนี้ ชายหนุ่มถึงกับกัดฟันกรอดเพราะสุดจะทนกับสภาพเกินรับไหวนี้อีกต่อไป
"สภาพทุเรศทุรังนี่มันอะไรวะ เสื้อผ้าฉันอยู่ไหนเนี่ย!!?"
กลิ่นบุหรี่เจือจางลอยมาแตะจมูก วาโยไม่รอช้าตามกลิ่นนั้นไปทันที มั่นใจว่าต้นทางของกลิ่นคงเป็นคนอื่นไปไม่ได้ นอกจากน้องชายฝาแฝดของเขา "เตโช"
".................."
ภาพแรกที่ได้เห็นเมื่อพ้นขอบกำแพงออกมาก็คือ แผ่นหลังกำยำขาวสะอ้านที่มีรอยสักรูปเสือโคร่งสีขาวดำเต็มแผ่นหลัง ดวงตาเสือที่จดจ้องออกมาจากแผ่นหลังนั้นวาวโรจน์ราวกับมีชีวิต สะกดจิตวาโยให้ได้แต่ยืนตะลึงนิ่ง เอวสอบได้รูปหายเข้าไปในกางเกงขายาวสีดำสนิทซึ่งไม่ต้องเดาก็รู้ว่าภายใต้เนื้อผ้านั้น สะโพกและต้นขาแกร่งต้องเต็มไปด้วยมัดกล้ามที่สวยงามและแข็งแรงมากเป็นแน่ ราวกับไม่รู้ตัวว่าวาโยอยู่ข้างหลัง ชายหนุ่มที่หันหลังให้เขาอยู่นั้น ยังคงยืนมองออกไปยังชายหาดขาวสะอาด และสูบบุหรี่ไปเรื่อยๆท่าทางสบายใจ ผมซอยสั้นสีดำสนิทพลิ้วไสวตามสายลมเรื่อยอ่อนตามพัดผ่าน วาโยได้แต่ยืนนิ่งจ้องมองดูร่างนั้น ร่างกายของแฝดน้องที่เขาไม่ได้เจอมาถึง 7 ปี ร่างกายของชายชาตรีโตเต็มวัย รูปร่างกำยำสูงใหญ่อย่างที่เขาเองไม่มีทางเทียบได้
"จ้องกันแบบนั้น... เตเขินนะ พี่วา..."
"....!!!??"
"ยินดีต้อนรับสู่บ้านพักตากอากาศบนเกาะส่วนตัวของผมครับวา..."
"...เต..."
ใบหน้าที่เหมือนกับตนราวกับพิมพ์เดียว แต่คมคายสมชายกว่ามากนัก ผมซอยสั้นเปิดหน้าผาก ดูเป็นผู้ใหญ่ดวงตาสีนิลกาฬลึกล้ำที้จ้องมองมา แว๊บหนึ่งทำเอาวาโยคิดว่าเขาอาจโดนสายตานั้นดูดเอาเรี่ยวแรงไป เพราะแข้งขาที่สั่นระริกนี้ดูท่าจะทรงตัวไม่อยู่ในไม่ช้า
"หิวแล้วหรือยังครับ เดี่ยวผมหาอะไรให้กินเอามั้ย?"
เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามออกมาพร้อมรอยยิ้มแสนหวานที่ไม่ว่าใครได้มองอาจลุ่มหลงตกบ่วงเสน่ห์เล่ห์ลวงนี้ได้แต่โดยง่าย แม้แต่เขาเองที่เป็นพี่ชายฝาแฝดเองแท้ๆ ก็ไม่สามารถต้านทานเสน่ห์ร้ายของบุรุษเพศตรงหน้าได้ กระทั้งร่างสูงใหญ่นั้นเดินเข้ามาใกล้นั่นแหละ วาโยถึงเรียกสติตัวเองกลับมาได้ ไม่เพียงแค่สติเท่านั้น ความเดือดดาลที่สั่งสมเอาไว้ก็ระเบิดออกมาด้วย
"แก!!...ไอ้เต!!..."
ผลั่ก...
ตุบ...
ปึ่ก...
"โอ้ย! วา เดี๋ยว!!?"
"ตายซะ ไอ้เต ตายไปซะ!!"
ปึ่ก...
ตุ่บ...
เพล้ง...
"เฮ้ย!! วา หยุดนะ!!"
"อ๊ะ!!?"
พอสติมาความโมโหก็เข้าครอบงำร่างกาย มือไม้ของวาโยควานหาของทุกอย่างใกล้ตัวเขวี้ยงเข้าใส่น้องชายฝาแฝดของตัวเองทันทีแบบไม่มียั้งคิด ยิ่งเตโชร้องห้าม วาโยก็ยิ่งหน้ามืด คว้ามือเข้ากับแจกันแก้วแสนสวย แล้วเขวี้ยงเข้าใส่เตโชแบบสุดแรงเกิด แฝดน้องไหวตัวยกแขนขึ้นมากันไว้ทันก่อนที่แจกันทั้งโหลนั้นจะกระแทกเข้าหน้าให้ต้องได้เลือด และก่อนที่วาโยจะคว้าอะไรที่ใหญ่กว่านั้นได้ ก็โดนเตโชกระโดนเข้าตะครุบตัวล้มโครมลงก่อนที่จะได้อาละวาดจนสาแก่ใจ
"เป็นบ้าอะไรไปวะ วา!!? เลิกอาละวาดซะที!!"
"ไม่หยุด! ถ้ามึงไม่ยอมปล่อยกู กูจะอาละวาดให้มันพินาศให้หมด!!"
วาโยอาละวาดหนักจนเข้าข่ายจะคลุ้มคลั่ง ขนาดว่าถูกเตโชกดร่างเอาไว้กับพื้น ก็ยังไม่หยุดดิ้นรน
"วา!!?"
"มึงต้องการอะไรจากกู ไอ้เต!? มึงทำแบบนี้ทำไม? มึงอยากทำลายกูนักใช่มั้ย!? มึงเกลียดชังอะไรกูนัก!?"
"เตรักวา!! เตไม่เคยเกลียดวา!!..."
"งั้นทำแบบนี้ทำไม!!?"
วาโยแผดเสียงถามออกไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ในตากลมรื้นขึ้นมาด้วยหยาดน้ำใสจากความเจ็บใจระคนเจ็บปวด
"เตแค่อยากอยู่กับวา..."
คำตอบที่ได้ทำให้ร่างบางเลิกดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่ง วาโยจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของน้องชายฝาแฝด เตโชสีหน้าเรียบนิ่ง มีแต่แววตาเท่านั้นที่ทอประกายเจ็บปวด
"เตอยากอยู่กับวา แค่สองคน โดยไม่ต้องมีใครมายุ่งเกี่ยวกับเราอีก เตรักวานะ..."
"หุบปากนะ!! คำว่ารักของมึงกูไม่เชื่อหรอก!!"
วาโยกล่าวพร้อมดิ้นรนออกจากกรงแขนของร่างด้านบน ร่างบางพยายามพลิกคว่ำและแถกดิ้นไปข้างหน้าให้หลุดพ้นจากตัวของร่างสูง แต่การกระทำนั้นกลับเปิดโอกาสให้เตโชทาบทับลงมาสวมกอดจากด้านหลังที่ไร้การป้องกันของแฝดพี่ได้อย่างง่ายดาย ก่อนฝังริมฝีปากลงไปจุมพิตหนักๆที่หลังคอของวาโย
"อึ๊!!? อย่านะ!!"
แม้จะพยายามดิ้นรนยังไงก็ไม่สามารถหลุดออกจากร่างที่ทาบทับอยู่ได้ แขนขาที่มีก็ช่างไร้ค่าราวกับเขาเป็นแค่หนอนที่ไร้เรี่ยวแรงจะปกป้องตัวเอง จึงได้แต่กัดฟันคำรามไล่แฝดน้องที่ยังคงซุกไซร์อยู่กับซอกคอของเขาไม่เลิก
"วาทรยศเต... วาทิ้งเต.."
"เป็นเชี่ยอะไรของมึง!!? ปล่อยกูนะ!!"
"ทั้งๆที่เมื่อก่อนเรารักกันขนาดนั้นแท้ๆ ทำไมกันวา ทำไมถึงทิ้งเต....?"
"พูดบ้าอะไรของมึง ปล่อยกูนะ โอ้ย!!?"
พูดไม่ทันจบก็โดนเตโชกัดเข้าจมเขี้ยวตรงหัวไหล่ ราวกับเป็นการลงโทษที่เขาไม่เชื่อฟัง ครวญครางไปได้เพียงครู่ร่างทั้งร่างก็ลอยหวือขึ้น วาโยร้องลั่นเมื่อถูกเตโชจับขึ้นพาดบ่า พากลับไปที่ห้องนอน
ตุ๊บ!
แกร๊ก!!!
"....!!!!???"
พอกลับเข้าถึงห้องวาโยก็โดนโยนโครมลงบนเตียงนุ่ม ดูท่าตอนนี้น้องชายฝาแฝดของเขาก็อยู่ในอารมณ์คุกรุ่นไม่น้อย และยังไม่ทันจะได้ตั้งตัวข้อมือขวาของวาโยก็โดนล็อคเข้ากับหัวเตียงด้วยกุญแจมือทันที
"เฮ้ย!!? อะไรน่ะ!? ปล่อยนะ ไอ้เต ไอ้บ้า ปล่อยกูนะ!!"
เตโชได้แต่ยืนมองพี่ชายฝาแฝดของตัวเองที่พยายามดิ้นรนปลดพันธนาการที่ข้อมมือของตนออกอย่างทุลักทุเล ด้วยสายตาที่เย็นชา เขายืนมองอยู่นิ่งๆอย่างนั้นโดยไม่พูดอะไรเลย จนกระทั่งเห็นว่าแฝดพี่ของตนเลิกทำเรื่องไร้สาระนั่นไปเอง
"รู้แล้วเหรอว่ามันเสียเวลาเปล่า นึกว่าโตขึ้นแล้วจะฉลาดขึ้นเสียอีกนะพี่วา..."
"แก...ไอ้เชี่ยเต มึงปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะ ไอ้ระยำเอ้ย!!!"
"ผมว่าหุบปากดีกว่านะวา ถ้าไม่อยากโดนอุดปากด้วยก็อยู่เงียบๆไปซะ..."
วาโยตัดใจเงียบลงทันที ตอนนี้เขาเป็นรองอยู่มาก ทั้งถูกลักพาตัวมาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ทั้งโดนพันธนาการไว้ทั้งมือทั้งเท้า เขาไม่อยากทรมานเพิ่มด้วยการถูกมัดปากด้วย ดังนั้นวาโยจึงได้นิ่งสงบลง แต่ดวงตาของเขายังคงวาวโรจน์จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของแฝดน้องนิ่งงันอย่างไม่ยอมแพ้ ถึงเขาจะยังกลัว ถึงร่างกายเขาจะยังสั่นสะท้านต่อต้าน แต่ใจเขาเข้มแข็งขึ้นแล้ว เขาจะไม่ยอมตกเป็นเหยื่ออีก จะไม่ยอมถูกล่า ถูกกระทำง่ายๆเหมือนเช่นในอดีตอีก ไม่มีวัน!!
"เต...รักพี่วานะ ถึงจะเคยโดนพี่ทรยศ แต่เตก็รักพี่ไม่เปลี่ยน..."
หลังจากความเงียบอึดอัดครอบงำอยู่เพียงครู่ ในที่สุดเตโชก็เป็นฝ่ายพูดบางอย่างออกมาก่อน บางอย่างที่วาโยไม่เข้าใจ
"ทรยศ? ทรยศอะไร? แกพูดเรื่องอะไร?"
วาโยถามออกไปอย่างหัวเสียอีกครั้ง เพราะไม่เข้าใจที่เตโชกล่าวหาเลยแม้แต่น้อย
"ลืมจริงเหรอ? หรือว่าแกล้งลืมกัน?...เอาเถอะ เดี๋ยวก็รู้..."
"เรื่องอะไรวะเนี่ย!!!"
"นอนเฉยๆไปเหอะ เดี๋ยวผมไปหาอะไรให้กิน..."
".....!?"
วาโยได้แต่นอนนิ่งอยู่บนที่นอน มองดูร่างของเตโชเดินหันหลังจากไป ก่อนที่เจ้าตัวจะหยุดนิ่งอยู่หน้าประตูพร้อมกับหันมายิ้มให้เขาน้อยๆ
"อย่ารีบร้อนพี่วา... หึหึ... เรายังมีเวลาอีกทั้งชีวิต"
...............................................................................................เตกลับมาพร้อมความจิต 100% !!!
นี่มันเรื่องสั้นอะไรกัน ฟันไป 10ตอนแร้วเนี่ย!!?
(แต่เอาเต๊อะ ตอนนึงก็สั้นๆ เหลือเกิน เรื่องสั้นนี่เนอะ...อิอิ แถจนแสบสีข้าง 555+)
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ
เป็นกำลังใจ ให้ความจิตจงเจริญ!! อ๊ะ ล้อเล่น
จะอยู่กันยังไงนะไอ้สองคนนี้
แล้ววาเคยทำอะไรให้เตฝังใจนักหนาเนี่ย
รักหรือแค้น เอาให้แน่เหอะเต คนเขียนสับสน....