-- ตอนที่ 18 --
ไลน์ ~
วุ้นสะดุ้งโหยงขณะที่กำลังจัดขนมใส่ตู้อยู่
ใครไลน์มาล่ะเนี่ย ?
วุ้นวางมือจากเค้กทันทีโดยไม่กลัวว่าจะถูกหักเงินเดือนแต่อย่างใด เพราะรู้ดีว่าพี่เต้คงไม่ว่าอะไรถ้าจะว่าก็คงดุเล่นนิดหน่อยเท่านั้น อีกอย่างก็เล่นกันทั้งร้านในเวลางาน
ถ้าจะว่าก็โดนกันทั้งร้านนั่นแหละ
พี่จ๋ามองมาทางผมส่งสายตาที่รู้ว่ากำลังเหน็บผมอยู่
ผมมองกลับ อะไรล่ะ พี่จ๋าผมแค่เล่นลายน์เองจะมองทำไม
พี่จ๋ายักไหล่ใส่ผมแล้วรีบไปยังโต๊ะที่มีลูกค้าเข้ามาใหม่พอดี
ซึ่งพี่จ๋าก็ทำการปาดหน้าพี่มายด์จนพี่มายด์ผงะถอยหลังเหมือนทุกครั้งที่พี่จ๋าปาดหน้า
พี่มายด์สบตาผมปลงๆ
ลูกค้าหล่อสินะ..
วุ้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครกันแน่ที่ทักมาในเวลางาน
ไม่พ่อ มิกซ์ แม่ พี่เมฆ ก็พี่หนึ่งนั่นแหละ..
หวยออกที่พ่อครับ..
IAMUFRIEND : นี้วุ้น พ่อคิดถึงลูกเขยว่ะ ถ้ามาส่งก็กินข้าวด้วยกันนะ
WUNWUN:C : เดี๋ยวผมถามพี่หนึ่งให้แล้วกัน
IAMUEFIEND : เออดีมาก ลูกพ่อมันต้องให้ได้อย่างนี้ ทำอะไรก็ต้องให้คนเป็นพ่อรู้ ไม่ใช่ไปทำอะไรลับๆ ล่อกันหน้าปากซอย
WUNWUN:C : ผมอยากเดินออกกำลังกายเฉยๆ ก็เลยให้พี่หนึ่งส่งตรงนั้น
IAMUFRIEND:C : เออๆ พ่อจะดูมวยละ # หมีบราวน์ชกมวย
WUNWUN:C : ครับ
ความจริงผมแอบตกใจนิดหน่อยตอนที่อ่านถึงลับๆ ล่อๆ ใครจะไปรู้ว่ากระจกของพี่หนึ่งอาจจะไม่ทึบพอก็ได้
ไลน์ ~
ผมขมวดคิ้วเมื่อคนที่นึกถึงเมื่อกี้ทักมาพอดี
ONE1 : วันนี้พี่ไม่ไปรับนะ
ONE1 : ไม่สบาย โครตมึนหัวเลย
ONE1 : รู้สึกเหมือนมีอะไรมาเปิดผับในหัวเลยล่ะ
วุ้นหลุดขำ
WUNWUN:C : อืม งั้นเดี๋ยวผมกลับเองแล้วกัน
ONE1 : มาหาพี่ก็ได้นะ # ส่งโลเคชั่นให้
ONE1 : พี่เหงาหัวใจ
WUNWUN:C : …
ONE1 : …
ONE1 : พอๆ พี่ไม่ส่งแล้ว
ONE1 : ส่งเองเขินเองว่ะ
ONE1 : พี่นอนละ ไม่ไหว
งั้นแปลว่าวันนี้ผมก็ต้องใช้บริการแท็กซี่ไม่ก็พี่วินสินะ วุ้นส่งข้อความไปหาพ่อต่อนิดหน่อยว่าพี่หนึ่งไปไม่ได้แล้ว
โอเค ผมยอมรับก็ได้ว่า ผมก็เขินและพยายามเบี่ยงเบนความสนใจพวกคุณออกไป
“ นี่ ”
วุ้นที่กำลังเหม่อๆ อยู่ไม่ได้สนใจ
“ นี่ ! ”
เสียงตวาดแหลมเรียกให้วุ้นหันมาสนใจ
วุ้นรีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า “ จะรับอะไรดีครับ ? ” และปฏิบัติงานชั่วคราวทันที ปกติวุ้นไม่ได้เป็นคนขายแต่บางครั้งก็ต้องมานั่งหยิบเค้กให้อยู่เหมือนกัน ซึ่งถ้าถูกลูกค้าเรียกขนาดนี้แล้วเรียกให้คนอื่นมารับแทนคงจะถูกตำหนิได้ง่ายๆ
“ ไม่รับอะไรทั้งนั้นนั่นแหละ ! ”
วุ้นพยายามทำหน้าปกติไว้ยิ้มนิดๆ ตามที่พี่เต้บอกเวลาที่รับลูกค้า วุ้นมองหน้าลูกค้าที่มาใหม่แต่งหน้าจัดด้วยสายตานิ่งๆ
ลูกค้าหน้าคุ้นๆ นะ
“ แกเอาพี่หนึ่งไปไว้ไหน ”
โอเคผมจำได้แล้ว น้องน้ำนั่นเอง
“ ผมจะไปเก็บพี่หนึ่งไว้ทำไมล่ะ ” ผมกลอกตาใส่ตรงๆ อะไรของน้องน้ำวะ พี่หนึ่งเขาไม่ยุ่งแล้วจะมาง้องแง้งอะไรอีก
“ ก็พี่หนึ่งไม่ยอมมาทำงานนี่ ถ้าไม่มาหาแกแล้วจะมาหาใครล่ะ ”
“ ครับๆ ผมกกพี่หนึ่งไว้ในห้องเลย ”
น้องน้ำเบิกตากว้างชี้นิ้วสั่นๆ ใส่ผม
“ แกหลอกพี่หนึ่งใช่ไหมล่ะ ! ”
“ ครับ เงินแสนนึงโอนเข้าบัญชีผมพรุ่งนี้เนี่ย ”
“ ฉันจะไม่ยอมให้พี่หนึ่งของฉันหลงกลแกแน่ ถึงพี่หนึ่งจะเลิกกับฉันแล้วแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะปกป้องแฟนเก่าไม่ได้ ! ”
ผมรู้สึกว่าน้องน้ำเหมือนจะเพ้อเจ้อมากเกินไปแล้ว
“ ถ้าคุณลูกค้าไม่คิดจะทานอะไรก็เปลี่ยนร้านเถอะครับ ”
“ เหอะ ฉันไม่กินหรอก ” น้ำจิกตาใส่วุ้น
“ ตามสบายครับ ” วุ้นตอบสั้นๆ และผละออกจากเคาน์เตอร์ทันทีเมื่อพี่ออยเดินกลับมาแล้วหลังจากแวบไปหาอะไรกินที่หลังร้าน
พี่ออยเลิกคิ้วใส่วุ้นงงๆ แล้วหันไปรับช่วงต่อก็พบว่าลูกค้าที่เดิมยืนอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์ เดินกระฟัดกระเฟียดออกไปแล้ว
“ มีอะไรหรือเปล่า วุ้น ? ” พี่ออยถาม
“ ไม่มีอะไรหรอกครับ เขาแค่มาถามทางนิดหน่อย ” วุ้นยิ้มแห้งๆ ตอบ
ใครจะไปบอกละครับว่า มาตามหาแฟนเก่ากับผม
พูดยังกับผมเป็นพวกชอบซุกคนนู้นคนนี้อะไรงี้ไปได้
บ้าไปแล้ว
“ ขอบคุณนะครับที่มาส่ง ” วุ้นไหว้พี่เต้
“ ไม่เป็นไรๆ น้องนุ่งแฟนไม่มารับ คนเป็นพี่ก็ต้องทำหน้าที่แทนไปก่อน ฮ่าๆ ” พี่เต้หัวเราะตอบ
“ งั้นผมไปแล้วนะ ” วุ้นไม่แสดงสีหน้าอะไรกับคำแซวของพี่เต้
“ เออๆ ” พี่เต้ยิ้มแล้วก็ทำการซิ่งกลับไป
เหลือแต่วุ้นที่ยืนงงงอยู่หน้าคอนโดนึงแบบงงๆ
นี่มันไม่ใช่บ้านผมสักหน่อย ผมจะมาทำไมกัน
อา ข้าวต้มกับยาในถุงน่าจะเป๊นคำตอบล่ะนะ
ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาหาแท้ๆ
แต่ก็เป็นห่วงจนอดมาหาไม่ได้อยู่ดี
เพียงแต่ ประเด็นหลักคือคอนโดเขาไม่ให้คนนอกเข้าครับ
วุ้นขมวดคิ้วใช้ความคิดนิดหน่อย แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคนป่วย
// โหลลล กูก็บอกอยู่ไม่สบายๆ จะโทรมาทำไมวะ แค่กๆ ”
เสียงของพี่หนึ่งแฝงไปด้วยโทสะจนวุ้นสัมผัสได้
แต่มันก็เป็นเรื่องปกตินั่นแหละ ถ้าคุณไม่สบายแล้วถูกกวน อาการก็คงประมาณนี้
“ มารับผมหน่อย ผมอยู่ข้างล่าง ”
// .... ฮะ !! วุ้นเหรอ //
วุ้นแอบยิ้มเมื่อได้ยินเสียงสบถคำหยาบเบาๆ ของพี่หนึ่ง
“ ครับ ”
// แค่ก เดี๋ยวพี่ลงไปเดี๋ยวนี้แหละรอแปปนึงนะ พี่แต่งตัวแป๊ป ! //
และพี่หนึ่งก็วางสายไปทันที
ไม่แน่ใจว่าที่ผมมาหาพี่หนึ่งมาช่วยอำนวยความสะดวกหรือเพิ่มงานให้พี่หนึ่งกันแน่ วุ้นยืนรอได้สักพักก็ปรากฎร่างสูงหุ่นนายแบบแต่ตอนนี้ดูเหมือนซากอะไรสักอย่างมากกว่า พี่หนึ่งอยู่ในเสื้อยับๆ หัวฟูใส่ผ้าปิดปากหนาแน่น ดวงตาดูเฉื่อยๆ กว่าปกติแต่ตอนนี้กำลังทอประกายดีใจออกมาอยู่
“ วุ้น ! ” พี่หนึ่งเรียกพร้อมกับยิ้มออกมาถึงแม้จะถูกผ้าปิดปากไว้ก็ตาม
“ ผมซื้อข้าวต้มมาให้เผื่อว่าพี่หนึ่งยังไม่ได้กินอะไร ” วุ้นยื่นถุงข้าวต้มให้พี่หนึ่งพร้อมกับใส่ถุงยาลงในถุงข้าวต้ม “ ส่วนยาผมซื้อมาเผื่อเฉยๆ ”
หนึ่งรับมาถือ “ ขึ้นมาห้องพี่ก่อนไหม ”
วุ้นเลิกคิ้ว ถ้าเป็นตอนนี้ก็เหมือนกับว่าพี่หนึ่งเอาผมมาซุกไว้ในห้อง ฉะนั้นน้ำนี่มั่วสิ้นดี ! เห็นไหมผมไม่ได้เป็นคนเอาพี่หนึงไปซุกไว้ไหนซะหน่อย
ดูเหมือนตอนที่วุ้นคิดเรื่อยเปื่อยพี่หนึ่งก็จัดการลากวุ้นเข้าขึ้นลิฟท์เดินจนถึงห้องตอนไหนไม่รู้
วุ้นเหวอไปสักพักเมื่อรู้สึกตัว “ พี่หนึ่งผมยังไม่ได้บอกเลยว่าจะมาค้างห้องพี่ ”
“ แค่กๆๆ ” หนึ่งแกล้งไอจนตัวงอและมองวุ้นด้วยตาแดงๆ “ ใจคอจะให้พี่ลากสังขารป่วยๆ นี่ไปไหนมาไหนเหรอวุ้น ถ้าเกิดว่าพี่ตักข้าวกินไมไหวแล้วอดตายคาห้องจะทำยังไง ”
ได้ข่าวว่าเมื่อกี้ลากผมมานะครับ
วุ้นกลอกตา
“ ครับๆ อยู่ก็อยู่ รีบเข้าห้องเถอะ ”
หนึ่งแกล้งเอามือข้างหนึ่งปิดปากเบิกตากว้างใส่วุ้น แต่ดวงตาทอประกายขี้เล่นอย่างเห็นได้ชัด “ ชวนพี่เข้าห้องเหรอ พี่อายจังเลยอ่ะ ”
“ เออ เข้าห้องเนี่ยแหละ ” วุ้นไม่เล่นกับพี่หนึ่ง
“ แฟนใครเนี่ยใจร้ายจริงๆ แค่กๆ ” พูดไม่ทันจบพี่หนึ่งก็ไอออกมาจนตัวโยน
วุ้นสะดุ้งถลาเข้าไปหาพี่หนึ่งทันที “ ไหวไหม พี่หนึ่ง เอาการ์ดมาๆ เดี๋ยวผมเปิดให้ ” วุ้นรีบเปิดประตูห้องพาพี่หนึ่งไปโยนบนเตียง อาการอีกฝ่ายดูไม่สู้ดีสักเท่าไหร่
ถึงจะพยายามทำตัวขี้เล่นเหมือนปกติ แต่วุ้นก็สังเกตเห็นอาการที่แปลกไปของหนึ่งอยู่ดี วุ้นใช้หลังมือแตะหน้าผากหนึ่งพบว่าโครตร้อน
“ วันนี้กินยาบ้างรึยัง ? ” วุ้นขมวดคิ้วถาม
“ กินแล้วแต่ไม่หายตัวร้อนสักที ” หนึ่งถอดผ้าปิดปากตัวเองออกและยิ้มแห้งๆ
“ งั้นเดี๋ยวผมเช็ดตัวให้พี่แล้วกัน ” วุ้นพูดออกมาโดยไม่ได้คิดอะไร
ถึงแม้หนึ่งกำลังป่วยอยู่แต่ความเจ้าเล่ห์ที่แผลงออกมาก็ยังอยู่ครบ “ ก็ดี เพราะพี่ยังไม่ได้เช็ดเลย ” หนึ่งถอดเสื้อยับๆ ของตัวเองออกและโยนไปใส่ตะกร้าใส่ผ้าเหลือแต่อกเปลือยๆ ที่ตั้งใจแกล้งวุ้นอย่างเต็มที่ อย่างน้อยผมก็หนุ่มสุขภาพนะครับหุ่นเหิ่นไม่ปวกเปียก ถึงตอนนี้ผมจะป่วยก็เถอะ แต่มีคนมาดูแลแล้วใครจะสนล่ะครับ ฮ่าๆ
“ เฮ้ย ! พี่หนึ่งง ” วุ้นอุทานเสียงหลง อะไรของพี่แกวะเนี่ยยย
“ เช็ดตัวพี่สิ พี่ป่วยนะ ” หนึ่งนอนแปะลงกับเตียงเลิกคิ้วกวนๆ ใส่วุ้น
“ ... ครับ ” วุ้นพยักหน้าแกนๆ ไอ้ของที่มีมันก็มีเหมือนๆ กันนั่นแหละ เพียงแต่ของพี่หนึ่งดูจะเยอะกว่าผมที่วันๆ ไม่ออกกำลังกายอะไรนอกจากอบขนมปังกับเดินขึ้นบันได
มองโลกในแง่ดี อย่างน้อยข้อมือกับขาผมก็น่าจะดี
แต่มองในโลกความจริงคือ พี่หนึ่งจะโชว์ทำอะไร คิดว่าผมจะอายกับแค่นี้เหรอ ไม่มีทางหรอกน่า มันก็เหมือนกันนั่นแหละ
“ ผ้าเช็ดตัวพี่อยู่ในห้องน้ำนั่นเอามาใช้ได้เลยนะ ” หนึ่งชี้ไปยังประตูใกล้ๆ
“ อืม ” วุ้นตอบสั้นๆ ลอบมองห้องพี่หนึ่งขณะที่เดิน เป็นห้องที่สะอาดมากพวกข้าวของค่อนข้างเป็นระเบียบ มีชั้นหนังสือเล็กๆ ข้างเตียงที่อัดแน่นเต็มไปด้วยหนังสือ กลางห้องเป็นโต๊ะกินข้าวสี่ที่นั่งที่วุ้นไม่ได้สังเกตเห็นในตอนแรก ส่วนของอื่นๆ ก็ตามปกติตามที่ห้องทั่วไปมี พี่หนึ่งไม่ได้แปะโปสเตอร์หรืออะไรที่แสดงถึงชอบเป็นพิเศษทำให้ภายในห้องดูเรียบๆ ขรึมๆ ตามวิสัยของเจ้าของห้อง
วุ้นหยิบผ้าเช็ดตัวกับถังน้ำใกล้มือที่เต็มไปด้วยของจำพวกนาฬิกาสร้อยอะไรทำนองนั้น วุ้นเทของที่ว่าออกกองไว้ข้างๆ แทน และเติมน้ำใส่
“ วุ้นปิดแอร์ให้พี่หน่อยนะ พี่หนาว ”
วุ้นเผลอขำออกมา เออ สมควรที่จะหนาวอยู่เล่นถอดเสื้อขนาดนั้นแล้วไอ้พวกระบบไฟอะไรงี้พอเสียบการ์ดมันก็จะเปิดให้ทันที
วุ้นพาดผ้าเช็ดตัวผืนเล็กไว้กับไหล่แล้วเดินออกไปหาพี่หนึ่ง
แต่ก็ไม่ได้เดินไปปิดแอร์แต่อย่างใด
“ ไม่ปิดแอร์ เหรอวุ้น ”
“ ผมร้อน ” วุ้นยิ้มตอบ
หนึ่งยิ้มกลับ เดี๋ยวนี้กล้ากวนพี่เหรอวุ้น เดี๋ยวพี่ประชดถอดกางเกงด้วยเลยดีไหม “ งั้นกอดพี่หน่อย พี่หนาวววว ~ ”
วุ้นยังคงยิ้ม “ ไม่ครับ พี่หนึ่งจะให้ผมเช็ดตัวไม่ใช่เหรอ ผมทำทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันไม่ได้หรอกนะ ”
ไม่ตามใจคนป่วยเลย หนึ่งทำหน้าเซ็งขยับเข้าไปใกล้วุ้นเพื่อให้อีกฝ่ายเช็ดตัวให้ง่ายๆ ถึงจะว่าอย่างงู้นอย่างงี้ก็เถอะ ผมป่วยจริงๆ นะ
ไม่น่าเชื่อว่าพี่หนึ่งจะไม่หยอดผม ! วุ้นคิดในใจขณะที่กำลังใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวพี่หนึ่งเพื่อลดความร้อนร่างกายของพี่หนึ่ง ที่ดูจะร้อนมากเกินไปแล้ว
“ หน้าแดงไม่สบายเหรอวุ้น ผลัดกันไหม เดี๋ยวพี่เช็ดให้มั้ง ”
“ ไม่เป็นไรครับ ”
“ แต่พี่เช็ดให้ได้นะ ”
“ เป็นพี่หนึ่งเงียบขรึมแบบที่เจอกันครั้งแรกให้ผมหน่อย ” เพราะพี่หนึ่งตอนนั้นดูจะรับมือง่ายมากกว่ากันเยอะ
“ ได้สิ ” หนึ่งตอบแล้วปรับสีหน้าเคร่งขรึมเหมือนปกติ
วุ้นเช็ดต่อไปเงียบๆ จนเสร็จโดยไม่ได้เช็ดพวกขาอะไรพวกนั้น
“ กินข้าวไหม เดี๋ยวผมป้อนให้ ”
“ อืม ” หนึ่งพยักหน้านิ่งๆ
วุ้นขมวดคิ้ว “ โอเคๆ เป็นพี่หนึ่งแบบปกติก็ได้ ”
“ ไม่ชอบพี่แบบนั้นเหรอ พี่ว่าดูลึกลับน่าสนใจดีออก ”
เพราะตอนนี้ผมชินกับพี่หนึ่งแบบพูดมากมากกว่าไงล่ะ ดูเป็นธรรมชาติของเจ้าตัวดี แต่อย่าคิดนะว่าผมจะมีไอ้บุคลิกพูดมากแบบพี่หนึ่งบ้าง
ผมโอเคกับผมตอนนี้มากกว่า
“ เป็นแบบนี้ดีกว่า แบบนั้นเย็นชาไป ”
“ งั้นเหรอ ว่าแต่พี่ วุ้นเองแรกๆ ก็เย็นชากับพี่เหมือนกันนั่นแหละ ” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่หนึ่งก็ยังคงยิ้มอยู่ “ แต่ว่าตอนให้ขนมพี่เพิ่มโครตน่ารักเลย ” อีกอย่างที่ชอบก็คือมันฟรี
“ ... คนยังไม่สนิทจะคุยเหมือนสนิทได้ยังไงล่ะ” วุ้นถอนหายใจ “ งั้นเดี๋ยวผมไปเอาข้าวใส่ถ้วยให้แล้วกัน ”
“ ไปเถอะ พี่หิวแล้ว ” หนึ่งตอบพลางใช้มือลูบตัวที่ดูจะเย็นขึ้นมานิดหน่อย แต่ความรู้สึกตอนนี้ก็คือโครตหนาวเลย หนึ่งหยิบผ้าห่มที่กองข้างๆ มาม้วนใส่ตัวเองจนเป็นก้อนกลมๆ รอวุ้นกลับมา
ถึงมันจะดูเหมือนเด็กๆ แต่ทำแบบนี้มันอุ่นที่สุดแล้วสำหรับผม
จะว่าป่วยรอบนี้ก็คุ้มดี ที่มีคนมาคอยดูแล
ตอนแรกผมก็แหย่ๆ ไปงั้นนั่นแหละ
ไม่คิดว่าจะมาหาด้วยซ้ำ
พอมาก็ดีใจสิฮ่าๆ แต่พอกินข้าวเสร็จผมก็คงต้องปิดสวิตท์ตัวเองได้แล้ว
เพราะในหัวผมผับยังไม่ปิดเลยครับ รอตำรวจมากวาดล้างให้อยู่
มึนได้ใจเลย แต่มึนก็ส่วนมึน ส่วนหยอดก็ส่วนหยอดครับ
หนึ่งนั่งรอจนหาวไปรอบวุ้นถึงเดินกลับมาพร้อมกับถ้วยข้าวต้มอุ่นๆ ที่เห็นควันลอยจาง
“ ยังไม่ทันกินจะนอนแล้วเหรอพี่หนึ่ง ” วุ้นเลิกคิ้วกับสภาพเหมือนแยมโรลของพี่หนึ่ง
“ อืม พี่โครตง่วงเลย ” หนึ่งยืนยันด้วยการหาวอีกรอบ
“ งั้นรีบกินแล้วกัน จะได้นอน ” วุ้นตักข้าวต้มขึ้นมาเป่าให้เย็นและยื่นมันใกล้ปากพี่หนึ่ง รอให้อีกฝ่ายงับ แต่จนแล้วจนรอดพี่หนึ่งก็ไม่งับสักที
“ ไม่กินงั้นเหรอพี่หนึ่ง ” วุ้นถามงงๆ
“ กิน แต่พูดอะไรให้พี่ดีใจก่อนถึงจะกิน ”
“ ... เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมเลี้ยงขนมพี่หนึ่งแล้วกัน ”
หนึ่งงับช้อนอย่างจำยอม “ โอย อันนี้พี่ดีใจนะ แต่มันไม่ใช่สำหรับพี่อ่ะ วุ้นน ”
“ แล้วแบบไหนล่ะ ” วุ้นตักคำต่อไปขึ้นมาเป่าต่อ
“ แบบร้ากพี่หนึ่งจังเลยย ”
“ งั้นกินเองเถอะพี่หนึ่ง ” ถึงจะบอกว่าเป็นแฟนกันก็เถอะ แต่ให้พูดแบบนี้ผมก็อายเป็นเหมือนกันแหละน่า
“ พี่ยอมกินเงียบๆ ก็ได้ ”
กดดันกันทางอ้อมชัดๆ เอาเหอะ แค่บอกเฉยๆ ใช่ไหม “ เอ่อ.. ผมชอบ— ”
ฮัดชิ้ว !
“ ทิชชู่ๆ ” หนึ่งเอื้อมตัวไปหยิบทิชชู่ใกล้มือทันทีและเช็ดจมูกตัวเองจนเสร็จ หนึ่งหันมามองหน้าวุ้น “ เมื่อกี้ว่าว่าอะไรนะ พี่ไม่ทันได้ฟัง ”
“ ช่างมันเถอะครับ ” วุ้นกลอกตา
-----------------------------------
ทำไมตอนนี้ทั้งสองคนนี้ดูมึนๆ 5555555
เราไม่ได้ตั้งใจจะต้มคนอ่านเลยน้าา
เนื้อเรื่องส่วนใหญ่จะค่อนข้างสบายๆ
ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ