บทที่ 14 มาแล้วครับ ตอนนี้บิ๊กกับแทน มีเวลาร่วมกันมากขึ้น บิ๊กมาเรียนพิเศษ แต่แทนก็ต้องให้บิ๊กสอนพิเศษเหมือนกันครับ จะเป็นอะไร มาดูกันครับ^^
บทที่ 15 เจอกันวันพฤหัสบ่ายๆ ครับผม^^
**********
Chapter 14“เป็นแฟนเราหนึ่งวัน” คำนี้ยังก้องในหัวอยู่เลย...หลังจากกลับมาจากหนึ่งวันของการเป็นแฟนกับบิ๊ก ผมเอารูปถ่ายคู่กับพี่กันไปเผาทิ้งได้อย่างสบายใจ ส่วน Facebook กับเบอร์ ผมปล่อยไว้แล้วเฉยๆ แต่ถ้ายังมีเรื่องแบบวันนี้อีก ผมจะถอนรากถอนโคนจริงด้วย
“ไบรท์” ผมโดนปิดตาจากข้างหลัง มีคนเดียวแหละที่ชอบทักผมแบบนี้ แต่ไบรท์ไม่ปล่อยซะที
“บอกเราก่อนดิ๊ ยิ้มไรคนเดียวตั้งแต่เช้า เราเดินเรียกตั้งหลายทีไม่ตอบเราเลย” ผมแกะมือไบรท์ออก ขนาดไม่โดนปาก รู้สึกได้ว่า ทำไมมือเค็มจัง
“เปล่า....ไม่มีอะไรซะหน่อย” ผมเหมอจนลืมคนจริงเหรอ ไม่มั่ง ไบรท์มานั่งตรงหน้าผม แล้วจ้องเหมือนผมมีอะไรติดหน้า
“เราแค่อยากรู้ อะไรที่ทำให้แทนยิ้มได้ขนาดนี้ เราจะได้ทำให้ในอนาคตบ้าง” ก็...ไม่รู้จะเล่าไงดีอะ
“เออ...ก็” ผมจะบอกไบรท์ว่า
“กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงเตือนเข้าแถวเช้าก็ดังขึ้น
“เรื่องมันยาวอะ ได้เวลาเข้าแถวแล้วนะ กลับห้องไบรท์ได้แล้ว” ไบรท์ดูเหวอๆ เกาหัว งงๆ ก่อนจะเดินกลับห้องไป แล้วหันกลับมาบอกว่า
“เย็นนี้เตรียมใจแพ้เราแล้วใช่มะ” ผมเบ๊ะปากใส่ทีหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะในความมั่นใจที่ไบรท์ส่งออกมาผ่านหน้าที่เก็กหล่อแล้ว
แล้วตอนนี้บิ๊กทำไรอยู่นะ...หยิบมือถือมาดูก็ไม่มีข้อความจากบิ๊กเลย
ในเวลาเดียวกับที่แทนกำลังเข้าแถว....ผมยังไม่ถึงโรงเรียนเลย รถติดมาก โรงเรียนกลางย่านธุรกิจ ช่องเล็ก ช่องน้อย ผมแทบจะตบกับมอไซค์คันอื่น วันแรกก็สายเลย ที่จอดรถเวลาผมพาน้องถ่านไปโรงเรียน คือบ้านของแชมป์ เพื่อนผู้มีบ้านอยู่ซอยเดียวกับโรงเรียน จอดแล้ววิ่งเข้าโรงเรียนต่อ แล้วก็ไม่รอดครับ โดนตัดคะแนนตั้งแต่เปิดเทอมด้วยข้อหามาสาย แถมต้องวิ่งรอบสนามบอลที่ใหญ่มว๊ากๆๆๆ อีกสามรอบเต็มๆ
“เย้ๆๆ” ไอ้สามตัวทีเหลือเห็นผมเข้าห้อง ถึงกับดีใจ พนันอะไรกันอีกใช่มะ
“เห็นไหม กูบอกแล้ว ไอ้บิ๊กสายชัวร์” ไอ้ตั้ม มึงเป็นตัวตั้งต้นใช่ไหม
“เที่ยงนี้เลี้ยงน้ำกูด้วยบิ๊ก” ไอ้โจ กูไม่รู้เรื่องโว็ย!!!
“พวกมึงเล่นไรกัน ไม่เห็นรู้เรื่องเลย” ผมยังไม่หาย งง ว่าเล่นอะไรกัน
“กู โจ ตั้ม ส่งไปในกลุ่มแล้วนะ ว่าใครมาสาย เที่ยงต้องเลี้ยงน้ำ พวกกูสามคนทายกันว่ามึงแน่นอน” ผมหยิบมือถือมาดูในห้องแชทกลุ่ม เออ ตั้งแต่เมื่อวานแล้วนี่หว่า
“แล้วเมื่อวานมึงหายไปไหนวะบิ๊ก ถึงไม่ตอบพวกกูเลย” คำถามไอ้ตั้มอันนี้ จะตอบไงดี
“ไปทำประโยชน์มา โอเคมะ” ผมวางเป้ลงบนเก้าอี้ ตามด้วยหยิบสมุดกับหนังสือเรียนที่จะเรียนคาบแรกออกมา ปล่อยให้สามตัวนี้นั่งงงกับคำตอบผม
“โดนสาวหนีไปนั่งมินิทีเดียว ถึงกับไปบำเพ็ญประโยชน์เลยเหรอเพื่อน” ไอ้โจ ไม่ต้องขุดก็ได้
“สาวไหนวะ กูลืมแล้ววะ โทษนะ บิ๊กเป็นผู้ชายหล่อเลือกได้ จบปะ” พวกมึงสามตัวไม่ต้องทำหน้าเหม็นขี้ฟันพร้อมกันก็ได้
“เย็นนี้ซ้อมวงด้วยนะเว้ย ใครบางคนแถวนี้บอกจะมีห้องซ้อมให้ ก็หาให้ไม่ได้” ไอ้ตั้มถึงกับตบเหม่งผมเบาๆ ขำมันเวลาปากดีแล้วทำไม่ได้แบบนี้แหละ ผมเห็นข้อความล่าสุดที่ส่งมา แทนส่งมาเมื่อกี้เลย
“ตั้งใจเรียนนะครับคุณชายบิ๊ก” ผมตอบกลับไปสั้นๆ ว่า
“ครับแม่ : P”
ม.4 เทอม 2 ได้เริ่มต้นแล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
………………..
ที่ห้องซ้อมชมรมดนตรีในโรงเรียน ทุกอย่างถูกปัดฝุ่นกลับมาอีกครั้ง หลังจากปิดเทอมที่ผ่านมา ทั้งวงเข้าไปใช้ห้องไม่ได้ เพราะโดนหมายหัวจากยามเอาไว้ ผมต้องเป็นแกนนำในการไปขอโทษพี่ๆ ยาม ทั้งหลาย ไม่งั้นคงไม่ได้เข้าโรงเรียนกันอีกแน่นอน
ห้องของชมรมดนตรี มีการแบ่งสัดส่วนใช้งานร่วมกับวงโยธวาทิต วงของผม โจ ตั้ม แชมป์ ชื่อวงกุมารทอง เกิดขึ้นจากสามคนหลัง หานักร้องนำไม่ได้ แล้วผมดันร้องเข้าหูมันพอดี เลยได้มาอยู่ในวง ควบตำแหน่งเล่นกีตาร์ในวงไปในตัว โจเป็นมือกลอง ตั้มเป็นมือเบส ส่วนแชมป์ได้หมดทุกอย่าง แต่เล่นคีย์บอร์ดเป็นหลัก แต่ที่เด็ดสุดคือ เป็น DJ เล่นแผ่นนี่แหละ (งานเลี้ยงปีใหม่กับงานวันเกิดโรงเรียนที่ผ่านมา โรงเรียนผมเป็นผับขนาดย่อมๆ เพราะฝีมือไอ้แชมป์นี่แหละ)
“อยากได้เพลงใหม่เล่นสักเพลงอะ พวกเรา เอาเพลงไรดี” ตั้มผู้อยากได้เพลงใหม่ เพราะเราก็เล่นวนไปวนมาเยอะอยู่ ถามหน้าที่คนแกโน๊ตก่อนนะ
“ไม่ต้องขอ จัดให้แล้ว” แชมป์ ผู้มีหน้าที่แกะเพลงใหม่ โยนสมุดที่แกะเพลงมาใหม่ทั้งหมด 15 เพลง ลงกลางที่ประชุม แจ่มมากเพื่อน
“งั้น ลุยกันเถอะ” ทุกคนประจำที่ ได้เวลาลุยแล้ว
สามชั่วโมงของการซ้อม เล่นได้พอจะเข้าที่ไปสามเพลง โดยสามเพลงที่เล่น เป็นเพลงที่ลงความเห็นกันแล้วว่า ฟังเสร็จ พอจะเดาโน๊ตได้ พอดูโน๊ตที่แชมป์แกะมาให้ ก็เลยทำได้ไวอยู่
“ท่านทั้งหลาย ส้มตำไหม” โจผู้ชอบเรียกเพื่อนๆ ไปกินส้มตำเจ้าดังหน้าซอยบ้านตัวเองเสนอมื้อเย็นวันนี้
“ไอ้บิ๊ก รีบไปไหนวะ” ตั้มคงจะสงสัย ที่ผมเก็บกีตาร์ไฟฟ้าเข้าตู้เร็วมาก แล้วรีบคว้าเป้มาสะพาย
“มีเรียนพิเศษต่อ กูคงจะแบบนี้อีกเทอมอะ ซ้อมเสร็จ ขอตัวไปเรียนต่อ” เข้าใจนะครับเพื่อนๆ
“ตอนทุ่มตรงนี่นะ เอ้ย!!! ฟิตไปเปล่า” แชมป์ดูเวลาแล้วถึงกับงง ไม่ต้อง งง เว้ย
“กูมีติวเตอร์ดี ไปก่อนวะ เดี๋ยวสาย” ผมกลับไปที่บ้านแชมป์ รับน้องถ่าน แล้วไปหาติวเตอร์กันดีกว่า
ทุ่มครึ่ง ผมจอดน้องถ่านที่คอนโดแทน แล้วโทรหาแทนให้ลงมารับผมที่ข้างล่าง แทนในชุดนักเรียนกางเกงสีดำ รองเท้าแตะก็มาเปิดประตูให้ผม
“สมกับเป็นโรงเรียนคุณหนูจริงๆ กางเกงนักเรียนนี่...” จะบอกว่าสั้นไปใช่มะ ก็ใส่กันทั้งโรงเรียนแบบนี้แหละ ยังกับกางเกงแทนยาวนักอะ แอบตัดสั้นมาเหมือนกันแหละ แค่ของเราสั้นแบบจงใจแค่นั้นแหละ
“แลกกันใส่ได้นะ สีดำเหมือนกันด้วย” แทนส่ายหัวเร็วๆ แล้วผมก็มาถึงห้องแทนอีกครั้ง
“ยังไม่ได้กินไรมาใช่ปะ” ผมพยักหน้าให้กับคำถาม หิวเลยแหละแทน แทนถือจานข้าวผัดกุนเชียงมาให้
“ฝีมือเราเอง ไม่อิ่ม มีเติมได้อีกจาน” แน่นอนว่า ฝีมือกับข้าวของแทนอร่อยมากเหมือนเดิม
“แทนเปิดร้านเมื่อไหร่ เราจะกินทุกวันเลยแหละ” หลังจากดื่มไมโลเย็นที่แทนทำไว้กับเช็ดปากแล้ว ผมต้องชมฝีมือแทนอีกตามเคย
“เราอยากทำให้แค่คนที่เราอยากทำให้กินอะ” งั้นแปลว่าผมคือหนึ่งในคนนั้นใช่มะ ดีมากๆๆๆ
“เออ เราเอาเล่มที่แทนทำให้มาให้สอนแหละ อ่านเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง” ผมเดินไปหยิบสรุปสูตรที่กระเป๋าเป้ของผม แล้วส่งให้แทนสองมือแบบเด็กถามการบ้านคุณครู
"งั้น วันละบทละกันนะ" ผมกับแทนนั่งที่โต๊ะรับแขกข้างๆ กัน แทนเริ่มอธิบายสิ่งที่สรุปไปให้ผมฟัง แล้วจบด้วยคำว่า
"ถามมา ไม่เข้าใจตรงไหน" ด้วยหัวสมองอันปราดเปรืองนั้น คำถามจึงเยอะจนแทนสั่งหยุด แล้วเริ่มอธิบายใหม่จนจบ
สี่ทุ่มครึ่งแล้ว ติวจบบทแบบทุลักทุเล คนเรียนชอบ คนสอนบ่นว่าเหนื่อย ขอโทษที เราไม่อัจฉริยะแบบแทน แล้วแทนก็หายไปในครัว กลับมาพร้อมแอปเปิ้ลที่หั่นแว่นไว้แล้วมาให้
“สอนเราเหนื่อยใช่มะ” ผมรู้สึกได้ว่าแทนคงใช้พลังงานกับผมไปเยอะ
“ไม่นะ มันก็ฝึกเราไปในตัว ถ้าเราอธิบายให้บิ๊กเข้าใจได้ คนอื่นเราก็อธิบายได้แหละ” เออ ขอโทษที่เกิดมาโง่
“แล้วเรื่องเมื่อวานอะ โอเคปะ” ถ้ายังมารังควาน จะได้จัดให้ แทนส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มเป็นคำตอบ
“ถ้ายังมาอีก เราจะไม่ขอให้บิ๊กช่วยนะ” ทำไมอะแทน...
“เรายอมรับนะ จริงๆ ยังเหลือความรู้สึกรักพี่เค้าอยู่ แต่เราเจ็บจนไม่กล้าเริ่มกับพี่เค้าใหม่ หลังจากที่บิ๊กมาช่วยเมื่อวานแล้ว เราตัดใจได้แล้วแหละ” ปากผมยังเคี้ยวแอปเปิ้ลขณะฟังต่อไป
“ฝนไม่ได้ตกทุกวันและทั้งวัน มันต้องหยุด แล้วฟ้าก็จะใส เหมือนที่แทนทำให้เราลืมเรื่องผู้หญิงตอแหลคนนั้นได้แหละ” ผมส่งแอปเปิ้ลแตะริมฝีปากแทน ก่อนที่เจ้าตัวจะกัด แววตาของแทนตอนนี้ ถ้าไม่ติดว่าแทนเป็นผู้ชาย ผมคงแอบละลายไปแล้ว
“พรุ่งนี้เราไม่มีซ้อมบาสฯ นะ ว่างตั้งแต่สี่โมงเลย” ผมคิดไรออกละ อยากชวนแทนพอดี
“ที่คอนโดแทน เราเห็นว่ามีสระ ว่ายน้ำกันไหม” แทนทำไมต้องยิ้มแหยๆ ด้วยอะ
“เรา...ว่ายน้ำ...ไม่เป็น...อะ” แทนคนเก่งของผมว่ายน้ำไม่เป็นเหรอเนี่ย ไม่เป็นไร
“งั้นสลับวันนะ เรามาให้ติวเลข แลกกับสอนแทนว่ายน้ำ โอเคมะ” ชิลล์มากๆ ตอนเด็กผมเกือบได้เป็นนักว่ายน้ำไปแล้ว แต่ผมไม่เอาเองแหละ
ผมกับแทนไฮไฟว์แปะมือกัน เป็นอันตกลง รู้สึกเวลาหลังเลิกเรียนดูมีคุณค่าขึ้นก็ตอนนี้แหละ
………………..
ห้าโมงเย็นวันต่อมา ผมเตรียมกางเกงว่ายน้ำมาให้แทนอีกตัว สระว่ายน้ำที่คอนโดถือว่าใช้ได้อยู่ ยาวประมาณนึง และมีจุดที่ลึกสำหรับกระโดดและฝึกว่ายได้ ผมเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว วอร์มนิดหน่อยพอกระตุ้นให้รู้ว่า กำลังจะใช้งานแล้วนะ
แทนเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ผิวสีแทนเหมือนชื่อ ตัวบางแต่กล้ามเนื้อชัดแบบนักบาสฯ แต่ดูเจ้าตัวจะเขินอายที่ผมยืนมองอยู่
“ถือว่าหายกันที่แทนเห็นเราหมดทุกซองทุกมุมไง” ผมโดนแทนตบเข้ากลางหลังแทบจะกลิ้งตกสระ ฮาๆ เขินโหดนะ
“ก็จ้องเรายังกับมีอะไรที่ตัวเรายังงั้นแหละ เราก็อายเป็นนะ” คิดลึกเองนะแทน เราเปล่าน๊าๆๆๆ
หลังจากแทนวอร์มร่างกายแล้ว วันนี้ผมสอนเรื่องการกลั้นหายใจในน้ำ การลอยตัวในแบบต่างๆ และทักษะการเตะขา แค่นี้แหละ แต่ทั้งหมดนี้ก็ใช้เวลานานจนพระอาทิตย์ลับหายไปจากฟ้า เข้าสู่กลางคืน จนไฟที่สระเปิดครบหมดทุกดวง
“โอเคมะแทน” แทนที่หน้าแดงตัดกับสีผิวตอนนี้ พยักหน้าโอเค ยังไหวอยู่
“ทุ่มครึ่งละ ไปหาไรกินกันไหม” Frogman สีเหลืองที่ข้อมือผมบอกว่า ควรไปหาอะไรทานได้แล้ว
“เราไม่ได้ทำไว้อะ ไปหาทานข้างนอกไหม” แทนไม่ได้ทำ งั้นๆๆ กินอะไรดี
หลังจากอาบน้ำ สระผมแล้ว แต่งตัวแล้ว ผมกับแทนมาจบที่ซอยรางน้ำ สเต็กร้านหัวมุมซอยที่เค้าว่าอร่อยนั้น คนเยอะมาก จองชื่อเสร็จ เข้าโรงหนังที่ฝั่งตรงข้าม ไปเดินเล่นรอสักครู่ จนไปสะดุดตู้คืบตุ๊กตา
“แทนๆ เคยคีบปะ” แทนส่ายหน้าเร็วๆ งั้น เดี๋ยวผมโชว์ ขอถอดแว่นฝากแทนแป็ป จะได้เพ่งง่ายๆ หน่อย
“ไม่ใส่แล้วมองเห็นเหรอบิ๊ก” เอาจริงๆ แว่นตามันใส่แล้วทำให้ผมหล่อขึ้น กับเพิ่มความเป็นเด็กเรียนที่หาไม่ค่อยเจอของผมอีกนิดต่างหาก
“สั้นแค่ 100 เดียว ใส่เอาหล่ออะแทน เดี๋ยวเราคีบให้ดู เรื่องนี้เรานี่มือโปรเลยแหละ” แน่นอน เพราะสาวๆ ที่ผมจีบ ต้องการความประทับใจ การคืบตุ๊กตา ช่วยให้ผมขอเธอขึ้นเตียง เอ้ย!!! ไม่ใช่ ขอเธอเป็นแฟนง่ายขึ้นไง
ผมเล็งตู้คีบตุ๊กตาที่เป็นหมีหลากสี มองแล้วเห็นตัวที่พอจะคีบมาได้อยู่ ไปแลกเหรียญมาเรียบร้อย
“แทนชอบตัวไหน ชี้มาเลย” แทนใช้ความคิดสักครู่ ก่อนจะชี้หมีตัวสีน้ำตาล ผมเล็งสักครู่ ก่อนจะหยอดเหรียญ ตู้นับเวลาอีก 60 วินาที ผมโยกคันจับไปให้ตรงกับมุมที่หมีสีน้ำตาลตัวที่นอนอยู่ในตู้ หลังจากขยับก้านบังคับได้สักครู่ ได้มุมละ กดส่งก้านไปหยิบเลย
จะได้ไหมๆๆๆ ร่วง...
“อดเลยอะ อีกเหรียญละกัน” ผมกำลังจะวิ่งไปแลก แต่แทนดึงข้อมือผมไว้
“ไม่เป็นไรนะ เราไม่ได้อยากได้จนบิ๊กต้องจ่ายเงินเพื่อเอาชนะมันนะ” แทนคงกลัวผมหยอดไม่เลิกใช่ไหมละ
“อีกเหรียญละกัน ถ้าไม่ได้ เราพอ โอเคนะ” ผมวิ่งไปแลกอีกรอบ แล้วกลับมาที่ตู้อีกรอบ
ตอนนี้ตุ๊กตาเปลี่ยนมุมนอนไปแล้ว คีบไม่สำเร็จแน่นอน แต่ตู้ข้างๆ มีตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลที่นอนในมุมที่น่าจะคีบสำเร็จได้ ผมลองเล็งอยู่สักครู่ ก่อนจะหยอดเหรียญ แล้วโยกคันบังคับให้ใกล้กับมุมที่ผมเล็งไว้
“แทน กดคีบให้ทีซิ” ผมหันไปหาแทนที่ยืนลุ้นอยู่ แทนกดปุ่มสั่งคีบลงไป ก้านหนีบลงไปคีบหมีสีน้ำตาลลอยขึ้นมา นิ่งแล้ว ยังไม่หล่น แล้วมันก็มาหย่อนลงช่องรับตุ๊กตาเรียบร้อย ทั้งผมกับแทนต่างไชโยในความสำเร็จนี้
“ขอแว่นตาคืนด้วย” แทนส่งแว่นตาคืนให้ผม ผมส่งตุ๊กตาตัวนี้ให้แทนรับไว้เป็นของแลกเปลี่ยน
“แทนชี้เองว่าอยากได้ตัวนี้ เราจัดให้แล้ว เอาไปดูแลด้วยนะ” แทนพยักหน้าก่อนจะดูซ้ำอีกที
“อือ เราจะดูแลมันอย่างดี ไม่ให้มันสกปรกนะ” แต่ที่แน่ๆ ผมหิวแล้วอะ
กลับมาที่ร้าน เหลืออีกสองคิวจะถึงคิวผมกับแทน เมื่อถึงคิวเราสองคน โต๊ะที่ผมนั่งกับแทน มีสมาชิกเป็นตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลนั่งเป็นพยานมื้อเย็นของเราสองคนครั้งนี้
ดูแล้ว ยังกับเราสองคนเป็นคู่รักยังไงอย่างนั้นเลยแหละ...
**********
บทที่ 15 เราจะได้รู้จักบิ๊กมากขึ้น ว่าอะไรที่ทำให้บิ๊กเป็นคนแบบนี้ และแทนเป็นคนแรกที่บิ๊กเล่าเรื่องส่วนลึกนี้ให้ฟังกับตัวเลยครับ
บทที่ 15 เจอกันพฤหัสบ่ายๆ นะครับ ตอนนี้เขียนถึงบทที่ 25 กลางๆ แล้วครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับผม^^