#TWENTY-FOUR
-นอกเรื่องของกฎเกณฑ์-
{Limit}
ความอดทนของคนมันสั้น
โปรดเตรียมใจก่อนอ่าน... สำนวนไทยว่าไว้ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
ความอดทนของคนมันสั้นนะ
หรือบางที…
ควรได้เวลาไป
ถ้าหัวใจมันไม่แน่นอน
‘มึง กูเปลี่ยนใจแล้วนะ กูจะรอแอดมิชชั่น’
เสียงเขาในวันวานยังดังก้องในความทรงจำ เมื่อภายในหัวมองเห็นร่างของตัวเอง ถือกระดาษสมัครสอบตรงของมหาวิทยาลัยชื่อดังของภาคเหนือเดินมาหาคุณนาย เพื่อนสนิทที่รู้ใจตั้งแต่มัธยม
‘แต่มึงจ่ายตังค์ไปแล้วนะ’
คุณนายท้วงตามเหตุผล
‘กูขอเถอะ’
‘…’
‘ขอแค่อีกเรื่องเดียว’
แล้วต่อจากนี้เราจะไม่รู้จักกัน เราจะไม่พบกันอีกเป็นครั้งที่สอง
ลาก่อน เปลวเพลิง พื้นที่ในหัวใจให้นายได้แค่คำว่าความทรงจำ
เขายอมทิ้งใบสมัครสอบตรง เพื่อหนีไปให้ไกลอดีต
ขอโทษนะเปลวเพลิง ที่คำว่าเพื่อนกูก็ให้มึงไม่ได้
“อื้อ”
เขาสะดุ้งตื่นขึ้น รู้สึกถึงความเปียกชื้นบนใบหน้า หันซ้าย หันขวาเบี่ยงหลบความรำคาญในขณะที่ตาก็ยังไม่เปิด
จนทนไม่ไหวนั่นล่ะ ถึงได้ลืมตาตื่น
ทัศนียภาพแรกคือดวงตากลมโตสีดำและจมูกเปียกชื้นใกล้ใบหน้า ก่อนที่ตัวเองจะอุทานออกมาเป็นชื่อสิ่งมีชีวิตตัวนั้นว่า
“บูบู้!!!”
มันตอบรับด้วยการแลบลิ้นเลียใบหน้าเขาอีกหลายที เขาหัวเราะจั๊กจี้ แล้วดันตัวมันออกห่าง แต่เพราะตัวที่โตขึ้น แถมแรงก็มากตาม เดี๋ยวนี้เลยกลายเป็นว่า หมาแรงเยอะกว่าคนจนคนสู้ไม่ได้
เอาสิ เลียตามสบายใจเลยพ่อหนุ่ม
ตัวโตแล้วนี่ ชิ แล้วพ่อมึงไปไหน
นั่นสิ
แล้วพ่อมันไปไหน
ใช่สิ
สายตากวาดมองภาพรวม ก่อนจะประมวลผลออกมาว่า ที่นี่ไม่ใช่ห้องของเขา เพราะกรอบรูปที่ตั้งโชว์บนโต๊ะข้างเตียง ได้บอกอยู่แล้วว่าห้องนี้เป็นของใคร และจากประสบการณ์บวกความคุ้นเคย แถมยังกลิ่นทั้งหมดทั้งมวล
เอาจริงๆคือเขาควรจะรู้ก่อน ตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาแล้วเจอไอ้บูบู้ ว่านี่มันห้องน้องเดือนชัดๆ
บ้าจริง
เขาจำได้ว่าเมื่อวานยังไปร้านเหล้ากับคุณนาย ไหงมาโผล่ที่ห้องน้องมันได้เนี่ย
แถมไม่รู้ว่าน้องมันจะหายโกรธรึยัง
หรือขยะแขยง
หรือยังไง
โอ๊ย คิดมากหัวจะระเบิด
เอาเป็นว่าที่ร่ายยาวมาทั้งหมดคือเขาแค่ไม่ต้องการเห็นใบหน้าไร้ความรู้สึกยามมองตัวเองของน้องมัน
เหมือนเขาไม่มีตัวตนอ่ะ
เหมือนอากาศธาตุ เข้าใจป้ะ
ยิ่งคิดยิ่งอยากร้องไห้
แต่จมูกดันได้กลิ่นหอมที่เขาเดาว่าคือข้าวต้ม
โครกกกกกกกก
ไอ้ท้องบ้ามาร้องอะไรตอนนี้ เขาที่มัวกังวลจิตใจว่าวุ้นอยู่กับเรื่องไม่เป็นเรื่องจึงไม่รู้ว่ามีคนเข้ามาในห้อง
“หิวล่ะสิ ท้องร้อง”
น้ำเสียงนี้มัน
ไม่สิ น้ำเสียงนุ่มแบบนี้มัน
เขาเงยหน้าแบบเอามือปิดตาสองข้าง แล้วมองลอดผ่านนิ้วอย่างว่าดูหนังผี อิเหี้ยเอ๊ย ก็คนมันใจแป้วง่ะ
แล้วก็
โบ้มมมมมมมม
อิเหี้ยอิสัด
ยิ่งกว่าเหี้ยไหนๆ
เพราะเช้านี้ไอ้น้องเดือนดาเมจรุนแรงมาก
คิดภาพตามนะ ตื่นเช้าขึ้นมาบนเตียงนุ่มสบาย หลังจากเมามายเพราะฤทธิ์เหล้า แม้จะจำอะไรไม่ได้ก็เถอะ
พร้อมกับมีหนุ่มหล่อใส่ชุดผ้ากันเปื้อน ซึ่งข้างในใส่แค่เสื้อยืด เพราะเขามองปราดเดียวก็รู้ โอ๊ย ไม่อยากนึกถึงผิวขาวใต้ผ้ากันเปื้อน เพราะที่เห็นแค่แขนที่เป็นส่วนโผล่พ้นผ้าแล้วมันน่าเจี๊ยะเหลือเกิน
พร้อมกับถามตัวเองว่า ทำไมกูถึงได้หื่นกามขนาดนี้ฟระ
หรือกูหื่นแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว
สลัดผักฟักทองแห้งเอ๊ย
“มองตาค้างเลย”
กูเป็นแบบนั้นจริงเหรอวะ
ปรับอารมณ์ให้คงที่แป๊บ หมายถึงลดความต้องการน้องเดือนขั้นรุนแรงจนถึงกับแสดงออกทางสีหน้าแบบนี้ เกร๊ดดดดดด เคียงกาย มึงจะมาให้เด็กเป็นต่อไม่ได้ ข่มมันไว้
เอาเถอะ กูยอมความหล่อน้องมัน นาทีนี้ลุคเคียงกายสูญสิ้นไปหมดแล้ว
เหมือนมันรู้ว่าเขากำลังอึ้ง เลยได้ทีเล่นใหญ่
“จะกินข้าวต้ม…
…หรือจะกินผมก่อนดีครับ”
อิเหี้ย
โบ้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
สาบานว่าเมื่อคืนกูไม่ได้พูดอะไรออกไปให้เด็กมันได้ใจใช่มั้ย
ทำไมมองมันละยิ้มมีเลศนัยส่งให้เขาแบบนี้
กลัวเหลือเกิน
กลัวใจตัวเองเนี่ย
กลัวจะตอบว่าอยากกินเดือนแบบสุดๆ
จริงๆ
ถึงแม้เขาจะไม่ต้องทนสายตาเย็นชา บวกอารมณ์มาคุทุกครั้งที่เจอน้องก่อนหน้านั้นสองสามวัน
แต่เขาก็ไม่ชอบบรรยากาศแปลกๆนี้เลย
แปลกสิ แปลกมากๆ
เขาพยายามคิดในแง่ดีว่ามันกลับมาเหมือนเดิม แค่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ใช่ แค่เดือนทำเหมือนเดิม ปฏิบัติกับเขาเหมือนเดิม ทำเหมือนว่าเรื่องที่เราจูบกันมันไม่เคยเกิดขึ้น
เขาควรจะดีใจ ที่น้องกลับมาเป็นคนเดิม
แต่ทำไม มันหนืดๆที่อกข้างซ้ายวะ
เหมือนสนุกแต่ในใจมันเศร้าๆ เป็นอารมณ์ที่มีเฉพาะในสิ่งมีชีวิตที่ชื่อเคียงกาย หรือว่ามันเป็นกับทุกคนที่กำลังมีความรัก แล้วกำลังรู้สึกว่าตัวเองจะอกหักนิดๆกันนะ
เขาเดินมานั่งที่โซฟาห้องนั่งเล่น อยากจะอวดว่าห้องเดือนกว้างมาก ไม่แปลกเลยว่าห้องที่นี่แพง งานดีงานหรูจริงๆ อวดๆๆๆๆๆๆ อวดให้หมด ผัวรวยจบป้ะ ใครหมั่นไส้กดปิดแท็บไปเล้ยยยย
ความจริงตั้งแต่เมื่อเช้าหลังกินข้าวเสร็จ เขาก็ว่าจะขอตัวกลับ เพราะปวดหัวบวกกับงานพรุ่งนี้ที่ต้องรีบเคลียร์ให้เสร็จ แต่เดือนก็ล่อซื้อจนตัวเองอยู่เลยมาจนเกือบจะบ่ายโมง
และตอนนี้มันกำลังหลอกกูให้อยู่ดูหนังเป็นเพื่อน
เราทำหลายๆอย่างด้วยกันในวันนี้
ยกเว้น…
เรื่องจูบ
ที่น้องมันทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
และเขา ก็ยอมให้เป็นแบบนั้น
อย่างน้อยก็ดีกว่าเมื่อวันก่อนมากโข ไม่ทรมานเหรอ ที่คนที่แอบชอบมองด้วยสายตาแบบนั้น
แต่เขาก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า ระหว่างแบบนี้ กับการเมิน อันไหนที่ทรมานกว่ากัน
หรือว่ามันก็ไม่ต่างจากการเมินดีๆนี่เองวะ
ยิ่งคิดยิ่งสับสน ยิ่งวกวนไม่เข้าใจ
จะเอาอะไรกับความรู้สึกครึ่งๆกลางๆแบบนี้กันนะ
“เป็นอะไร ทำหน้าเครียด”
เขาจิ๊ปากแล้วทำสายตาเป็นนัยให้น้องมันขยับก้นไป เพราะโซฟานุ่มๆ มีเพียงตัวเดียวไอ้เหี้ย ที่เหลือนั่งพื้นงี้เหรอ ก็ได้นะมึง
“เปล่า”
เขาตอบแบบส่งๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าถุงเลย์มาแกะกิน
บูบู้วิ่งมาจากไหนไม่รู้กระโดดขึ้นตักเขาแบบจุกมาก อยากไล่ให้ไปกระโดดทับพ่อมึงจริงๆ
กริ๊งงงงงงงงงงง
ไม่ต้องมองหา
ไม่ใช่เสียงกริ่งประตูร้านน้ำปั่นที่ไหน เสียงสายเข้าโทรศัพท์เขาเอง
หน้าจอปรากฏชื่อ
‘คุณนาย’
เขาเดินเลี่ยงออกมาเพื่อคุยโทรศัพท์ เดือนหันมามองแวบหนึ่ง แล้วกลับไปสนใจหนังต่อ
บูบู้ต้องละจากที่นอนแสนนุ่มของมัน ไปนอนแผ่ที่พื้น
[มาบูฮายยยยยย สวัสดีเช้าที่สดใส ว่าไง อย่างไร ยังไง มะงึก]
กล้าใช้คำนี้ มองภาพอิคุณนายมะงึกไม่ออกเลยจริงๆ
“ยังไง อย่างไร งง”
เขางงจริงๆไม่ได้แกล้ง
[ก็แผนของมึงไง ไปได้สวยใช่มะ สำเร็จผลกี่เปอร์เซ็นต์อัพเดตเพื่อนซิ ไหน ได้น้องเดือนรึยัง]
“ได้กับผีอะไร”
อิคุณนายนี่วันๆคิดแต่เรื่องใต้สะดือ
[เอ๊า สรุปคืนดีกันรึยัง]
ปลายสายถามกลับมา
“ดีแล้ว”
เขาตอบเสียงเบา ที่บอกว่าดีแล้ว เขามองจากภาพรวม แต่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆยังต้องค้นหาต่อไป
นี่ชีวิตเคียงกายหรือนักสืบคุโด้
ไป ดูโคนันเท่านั้น
[ขอคำขยายความแบบเวรี่ลองงงงงงงง]
มึงใช้คำว่า very long ได้ถูกบริบทมาก แนะนำให้ไปเรียนภาษาอังกฤษมาใหม่
“ก็ไม่มีอะไร ตื่นมาก็เป็นเหมือนเดิม”
[หมายถึงเย็นชาเหมือนเดิม เอ๊ะ สรุปมันคืนดีกันยังไงคะนั่น]
“เปล่า เหมือนเดิมคือกลับมาเป็นเหมือนเดิม”
คุยไปก็ชักจะงงตัวเอง
[อ๋อ เลิกเย็นชา คุยกันปกติ แบบพี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกัน]
นี่ตลอดเวลากูกับน้องเดือนอยู่ด้วยกันแล้วเหมือนพี่น้องจริงๆเหรอวะ เศร้าใจแป๊บ
“อือ แค่นั้น”
เขาไม่ได้เจาะลึกในรายละเอียด เพราะถ้าบอกไปว่าน้องมันทำเหมือนเรื่องที่จูบกันไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความสอดรู้ของอิคุณนายมันต้องเพิ่มระดับล้านแปดแน่นอน เขามั่นใจมากๆเลยล่ะ
[แค่นั้น… แค่นั้นได้ยังไง]
“แล้วจะให้แค่ไหนล่ะ”
เขางงกับประโยคสนทนาของคุณนาย
[เมื่อวานที่มึงอุตส่าห์ใจกล้า แจ้นไปหาเดือนที่โต๊ะ เพื่อถามความรู้สึก เพื่อขอโทษน้องมัน ละมึงก็จูบกันเป็นครั้งที่สอง มันจบลงด้วยคำว่าแค่นั้นเหรอวะ]
เดี๋ยวนะ
อิคุณนายมันร่ายประโยคมายาวมากนะ
แต่ทำไมหูเขาถึงได้ยินแต่คำนี้
จูบกันครั้งที่สอง
จูบกันครั้งที่สอง
จูบกันครั้งที่สอง
เหมือนภาพเหตุการณ์ต่างๆในหัวจะค่อยๆปรากฏขึ้นมาทีละนิด แต่ไม่ปะติดปะต่อ
‘กูไม่อยากเป็นแค่พี่น้องกับมึงว่ะ’
‘เพราะมึงเลย…’
‘ที่ทำกูเข้าข้างตัวเองมาตลอด’
‘มึงทำกูแอบชอบทำไม’
‘ไอ้บ้าเดือนบริหาร’
จริงๆด้วย
จริงสิ
เมื่อคืน…
เขาสารภาพความในใจของตัวเองจนหมดเปลือก
เพราะความเมาไม่ได้สติ แถมละเมอเพ้อพก
เพราะแผนที่ตัวเองมอมตัวเองเพื่อให้เกิดความกล้าเป็นเหตุแท้ๆ
แต่แล้วทำไม…
เดือนถึงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทั้งเรื่องจูบสองครั้ง
และเรื่องคำสารภาพของเขา
อกข้างซ้ายบีบแน่น ทำไมใจมันเจ็บนิดๆแฮะ
[อิเคียง เป็นอะไร ทำไมเงียบไป อิเคียง ตอบกู]
เสียงปลายสายยังดังก้องในหู แต่เหมือนสมองจะไม่สั่งการให้เขาบอกอะไรได้อีก
เขาทรุดลงนั่งกับพื้น
“พี่เคียง ผมว่าจะออกไปข้างนอก เอาอะไรมั้ย”
เขาเงยหน้าขึ้นมองเดือนอย่างยากลำบาก
“เป็นอะไร ทำไมไปนั่งพื้น”
เปล่า
แค่เจ็บหัวใจ
แต่ขากลับไม่มีแรง
มือหนาที่ยื่นมา ทำให้เขาอยากจะถอยหนี แต่ก็ทำได้แค่เพียงนั่งนิ่ง ปล่อยให้ร่างสูงใช้มือแตะหน้าผาก
“ไข้ก็ไม่มีนี่”
“เดือน…”
นานหลายวินาที กว่าเขาจะเปิดปากพูดได้
“ครับ?”
น้องมันยิ้มน้อยๆ
“ทำไมไม่บอก”
น้องมันต้องเงี่ยหูฟัง เพราะเขาพูดเสียงเบาหวิว
กริ๊งงงงงงงงงงง
เสียงกริ่งประตูห้องดังขึ้น
เดือนลังเลแวบหนึ่ง ก่อนจะเดินออกไปดู ทิ้งเขาไว้กับประโยคที่เอ่ยไม่สุด
“เดือน ข้างนอกฝนตก เราขอหลบฝนหน่อยนะ”
เขาจำได้ว่าเป็นเสียงมีนดาวมอ
“ตามสบายเลย ว่าแต่ ไปไหนมาถึงผ่านมาทางนี้”
“มาทำธุระให้เพื่อนน่ะ”
“เข้ามาก่อน”
“หือ วันนี้พวกวงรีไม่มาเหรอ”
“น้อยๆหน่อย พวกผมไม่ได้เป็นพวกติดเกมส์จนไม่ทำอะไรนะครับ”
“แปลว่าอยู่คนเดียวเหรอตอนนี้”
“เปล่า มี…”
เดือนยังไม่ทันบอกอะไรกับมีน
เขาก็เดินออกมา
“กลับแล้วนะ”
“อ้าว พี่เคียงกาย ไปไงมาไงคะนี่ สวัสดีค่ะ”
เขาพยักหน้ารับหน้านิ่ง ถ้าการฝืนยิ้มมันลำบากมาก เขาก็ไม่จำเป็นต้องทำหรอก
ใครจะว่าเขาหยิ่งก็ช่าง
“เดี๋ยวไปส่ง”
เดือนบอก แต่เขาส่ายหน้า
“ไม่ล่ะ กูจะกลับเอง”
เดือนหันมามองงงๆ
“ฝนตก อยู่ดูหนังก่อนสิ หนังยังไม่จบ”
เขาหันไปมองหน้าจอโทรทัศน์ พอดีกับที่หน้าจอดำ แล้วปรากฏคำว่า END
“พอแล้วล่ะ”
“…”
“มันจบแล้ว”
เดือนไม่ใช่คนเดิม
ถ้าเป็นมึงเมื่อก่อน
จะวิ่งมาแล้วรั้งกูไว้
เขาทิ้งคำถามที่ไม่มีวันได้บอกเดือน
ตกลงเรื่องของเรา จะเอายังไง
***TBC....................................................................
ดราม่ายังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพคอมเม้นด่าพระเอก
ไป ด่ามันอีก มันโง่ ไอ้เดือน ไอ้บ้า