เคียงเดือน - {END}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เคียงเดือน - {END}  (อ่าน 368678 ครั้ง)

ออฟไลน์ AnnAnnAnn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คิดถึงจัง.

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
นี่ไง บ้าบอ ทำไรไม่ปรึกษาก่อน
เปิดตัวได้อลังมาก เจอหน้าก็มีเฮอะเคียง 5555

เดือนคืออะไร หวง หึง เค้าเป็นฝั่งเดียวกัน

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
เข้าบอร์ดมาอ่านเรื่องนี้เลย คิดถึงงงงงงงงงงงงงง น้ำตาจะไหล เขาเป็นแฟนกันแล้ว โอ๊ย :heaven

ออฟไลน์ Zalalalanla

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ MewSN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +234/-4
Re: เคียงเดือน - Learning #อัพ [11/11/2561]
«ตอบ #1085 เมื่อ11-11-2018 21:31:55 »

#TWENTY-NINE
{Learning}
การเรียนรู้


โปรดเตรียมใจก่อนอ่าน...




                  อยากร้องไห้ให้น้ำตาเป็นสายเลือด แล้วตีลังกาสามล้านตลบในอากาศ ถ้าทำได้
                  ในหัวตอนนี้มันมีแต่คำว่า
                  นี่เขาทำอะไรลงไปวะเนี่ย…
   
                  โอ๊ย ไม่นะ ด้วยความขาดสติผสมความหึงขั้นรุนแรงทำให้ตัวเองกล้าทำอะไรบ้าบิ่นอย่างการทักแชทใครที่ไหนก็ไม่รู้ไปถามว่าเป็นอะไรกับเดือน และความพีคมันอยู่ที่ว่า เขารู้สึกพราวด์มากตอนไปแผ่อำนาจใส่ แต่สุดท้ายถูกเขาตอกหน้าหงายกลับมาว่าคือพี่สาวน้องมัน
   
                  ขอร้องไห้ให้น้ำตาท่วมโลก
                  จะบอกกับเดือนยังไง
                  ต้องกล้ำกลืนฝืนทนไว้ อย่าให้พี่น้องทะเลาะกันเพราะเขาเลย
   
                  ถ้าพี่สาวน้องไม่ยอมรับในตัวเขาต้องเกิดเหตุการณ์ที่เดือนผิดใจกับพี่สาวเพราะเลือกเขา ไม่นะ ครอบครัวแตกแยก สาเหตุเพราะเคียงกาย ฮือออออออ เขายังฝันถึงครอบครัวในอุดมคติที่มีความอบอุ่น ยังไม่อยากเจอครอบครัวที่เย็นชาห่างเหินนะ
   
                  เอาความจริงแมะ?
   
                  เครียดจนมโน ความจริงคือเครียดเพราะกลัวเดือนด่าที่ไปทำอะไรไร้ความสุภาพกับพี่สาวเขาขนาดนั้น เพราะถ้าต้องเลือกจริงๆ ไม่วายน้องมันคงต้องเลือกครอบครัว แถมเขาจะเข้าหน้าพี่สาวมันติดได้ยังไงตอนนี้กำลังคิดหนักพอดู
   
                  แต่เวลามันก็ไม่พอให้คิด เมื่อใครบางคนกำลังเดินตรงมาทางนี้ และคนข้างๆเขาก็ตะโกนเรียกเต็มเสียงว่า
   

                  “พี่วันเพ็ญ”
   

                  อึก
                  ทำไมกูไม่สังเกตความเชื่อมโยงระหว่างชื่อเล้ยยยยย น้องชื่อเดือน พี่ชื่อวันเพ็ญ ครอบครัวพระจันทร์แบบสุดๆ
                  หญิงสาวผมบ๊อบมาพร้อมกับลุคเปรี้ยวจี๊ด ผ้าคลุมสีดำที่คลุมไหล่อยู่ปลิวสะบัดตามแรงเดินแต่ละก้าวที่มั่นคง และเต็มไปด้วยความมั่นใจของเธอ ใบหน้าเชิดรั้นแต่ไม่ได้ดูก้าวร้าวเหลียวมองรอบกาย
   

                  “บรรยากาศเมืองไทย คิดถึงมากกกกกกก”
   

                  และสิ่งที่ทำให้เขาอึ้งอีกรอบคือสำเนียงภาษาไทยของเธอ ที่ยังคงชัดเจนไม่แปร่งหู อย่างคนทั่วไปที่ไปเรียนเมืองนอกเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่ถึงกับประหลาดใจเพราะหลายๆคนที่เขารู้จักก็ยังคงสำเนียงของภาษาได้เมื่อกลับมาเมืองไทย ยกตัวอย่างไอ้เคียงคู่พี่ชายที่ไม่น่าเคารพของเขาเป็นต้น
   

                  “โตขึ้นมากเลยนะ สูงกว่าพี่อีก”
   

                  เธอทักน้องชายตามประสาคนไม่อยู่นาน
   

                  “คนเรามันต้องมีการพัฒนา”
   

                  ผัวะ เท่านั้นล่ะ ฝ่ามืออรหันต์ของสาวเจ้าพุ่งเข้าหัวเดือนเต็มๆ
   

                  “กวนตีน”
                  “ง่ะ”
   

                  คุณเคยเห็นหมาเวลามันทำท่าหงอยตอนถูกดุมั้ย นั่นล่ะอิน้องเดือนของเขาในตอนนี้ เชื่องมาก เชื่องที่สุด ดูเป็นพี่สาวที่คุมน้องอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด ขอคารวะ
   

                  “แล้วนี่ใคร”
   

                  เธอหันมาเห็นเขาที่พยายามทำตัวลีบเหลือสองนิ้วข้างหลังเดือน กูนี่รีบดึงแขนเสื้อน้องมันทันที
   

                  “นี่พี่เคียงกายครับ ส่วนพี่เคียงกายนี่พี่วันเพ็ญพี่สาวผมครับ”
   

                  เดือนแนะนำตัวเขากับพี่สาวตัวเอง พร้อมแนะนำพี่สาวตัวเองให้เขารู้จัก
   
                  เขาพยักหน้ายิ้มๆทักทายเธอตามมารยาท และอุ่นใจที่เธอส่งยิ้มกลับมาพอเป็นพิธีเหมือนกัน ทำไมไม่เป็นอย่างในหัวคิดเลยว้า การมาเจอพี่สาวแฟนที่เป็นแบบนี้ทำให้สัญชาตญาณตัวเองรู้ตัวทันทีว่า ไม่ควรบอกถึงความสัมพันธ์ใดๆให้เจ้าหล่อนทราบเด็ดขาด
   

                  “พี่เคียงกาย กำลังคบหาดูใจกันครับ”
   

                  ฉึก
                  ยิ้มแห้งเลยกู
                  เมื่อคนที่เขาไม่คิดว่าจะบอกเรื่องอะไรพวกนี้กลับโพล่งขึ้นมาหน้าตาเฉย
                  ทำให้รอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรของพี่วันเพ็ญเมื่อครู่ กลับกลายเปลี่ยนแปลงเป็นอะไรสักอย่างที่เขาเองก็บอกไม่ถูก
   

                  “เอ่อ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
   

                  เขาคิดว่าควรพูดอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่ประโยคนี้แน่ๆ แต่มันก็คิดไม่ออกจริงๆ จึงต้องบอกเธอไปด้วยประโยคสิ้นคิดเพื่อทำลายความเงียบ
                  ความเงียบที่ช่างเหมือนก่อนกลั้นใจและพายุใหญ่ที่ใกล้เข้ามา
   

                  “จ้ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”
   

                  เธอยิ้ม ยิ้มในแบบที่ควรเป็น
                  แล้ว ยิ้มยังไงกัน?
                  ถ้าเอาตามความคิดเขานะ เขาว่าเธอกำลังแสยะยิ้ม เปล่าเถอะ ไม่ได้อคติ เพราะเพิ่งเจอกัน

   





                  เขาว่าพี่วันเพ็ญไม่ชอบเขา…
   
                  จากประสบการณ์ตำราภาคทฤษฎีของเขาในหัวบอกว่าเขากำลังถูกกีดกันให้ห่างจากเดือนโดยตัวการไม่ใช่ใครที่ไหนก็คือพี่วันเพ็ญผู้ทำตัวเป็นพี่สาวที่แสนดี พาน้องไปนั่นไปนี่เหตุผลเพราะไปเมืองนอกนาน กลับมาก็อยากจะมีเวลาดูน้องบ้างอะไรบ้าง
   
                  เขาเองก็ไม่อยากคิดแบบนั้น แต่มันส่อไปในทางนี้จริงๆ
      
                  วันจันทร์
   

                  “พี่เคียง ว่างป่ะ ไปดูหนังกัน เรื่องนี้เพิ่งเข้า ซับนะ”
   

                  เขาที่กำลังจะอ้าปากตอบตกลงจำต้องหุบฉับ เมื่อ…
   

                  “เดือนนนนนนนนนน ไปดูหนังกัน เรื่องนี้เพิ่งเข้า สนุกมาก”
                  “สนุกมากแปลว่าพี่ดูแล้วป่ะ ไม่เอาอ่ะ เกลียดคนขี้สปอยล์”
                  “น่า ไปนะ”
                  “งั้นชวนพี่เคียงไปด้วยนะครับ”
   

                  เขาก็อยากจะไปด้วยอยู่หรอกนะถ้าไม่ติดว่าพี่วันเพ็ญแยกเขี้ยวขู่ฟ่อๆอยู่ตอนนี้
   

                  “เอาเล้ย เหมือนจู่ๆงานก็เข้าอ่ะ นี่ต้องไปดูชมรม โทษทีนะ”
   

                  วันอังคาร
   

                  “พี่ ชาเขียวหลังมออร่อยมาก วันนั้นเพื่อนผมชวนไปกิน วันนี้ไปป่ะ อยากกินอีก”
   

                  เขาเงยหน้าจากสมุดเลคเชอร์วิชาภาษาสเปนกับวัฒนธรรมท้องถิ่น
   

                  “เดือนนนนนนนนนนนน เพื่อนพี่เปิดร้านอาหารแถวหลังมอ วันนี้มันนัดไปเจิม ไปกับพี่หน่อยนะ”
      

                  เอี๊ยดดดดดดด
                  ไหน เสียงรถใครเบรก เสียงในหัวกูนี่แหละ ถูกเบรกเอี๊ยดเพราะพี่วันเพ็ญอีกแล้วครับท่าน
   
                  วันพุธ
   

                  “พี่เคียง ที่อควาเรียมแถวนี้มีนกเพนกวินที่พี่ชอบด้วยนะ”
   

                  มึงไม่ต้องมาหลอกล่อ เพราะกูแพ้ลูกอ้อนมึงอยู่แล้ว
                  แต่…
   

                  “เดือนนนนนนนน เย็นนี้เราไป…”
   

                  จากที่เมื่อก่อนเขายังรักษามารยาท แต่วันนี้เขาเดินหนีออกมา ใครจะว่ายังไง หรือพี่วันเพ็ญจะมองยังไงก็ช่าง ก็เขาไม่ให้น้องเขา แล้วเราจะไปดันทุรังเอาทำไม
                  เปล่า ยังไม่ตัดใจ แค่ถอยออกมาตั้งหลักเท่านั้นล่ะ
   
                  วันพฤหัสบดี
   

                  “พี่เคียง วันนี้ไปห้องนะ บูบู้บ่นคิดถึง”
   

                  คิดถึงกูก็บอก อย่าเอาหมามาอ้าง งื้อ ทำไมไอ้เดือนมันน่ารักขึ้นทุกวัน
                  แต่…
   

                  “ชู่วววววววววว เบาๆนะมึง”
   

                  เขากลัวพี่วันเพ็ญมาได้ยิน คนอะไรตามน้องไปได้ทุกที่แม้แต่ในมหา’ลัย
                  เดือนถึงกับหลุดขำท่าทีของเขา
   

                  “พี่วันเพ็ญไปบ้านแม่ครับ วันนี้ทางสะดวก”
   

                  มันก้มลงกระซิบข้างหู ทำเอาเดียมไปทั้งตัว นี่เราทั้งคู่ตอนนี้ดูเหมือนชู้กันมากกว่าจะเป็นคนกำลังดูใจเสียอีก เขาคิดแบบนั้นจริงๆนะ ก็ดูทำแต่ละอย่างดิ ปวดหัว
                  แต่ยังไงก็เถอะ วันนี้ทางสะดวกอย่างเดือนว่าจริงๆ
                  ใครจะว่าความรักเขาโคตรวัยรุ่นเด็กเอ๊าะๆก็เหอะ คนรักกัน ขอตัวติดกันแค่ตอนเย็นบ้างไม่ได้หรือไง
                  มีผัวหล่อขนาดนี้ เอ๊ย คนคบหาหล่อขนาดนี้ ไม่อยากตัวติดได้ไงใจมันเรียกร้อง
   

                  “ไปเถอะครับ บูบู้คิดถึง”
                  “มึงหรือบูบู้” หยอดวันละนิดจิตแจ่มใส
                  “ทั้งสองครับ”
   

                  ตู้มมมมมมมมมม แต่ทำพี่คิดไปไกลใครจะรับผิดชอบ งื้อ เขินนนนนนน

   





                  “บูบู้ลูกพ่อ”
   

                  เขาอ้าแขนรับบูบู้เต็มอ้อมกอด มันตัวใหญ่ขึ้นจนต้องเซถอยหลังเพราะเริ่มรับแรงกระแทกไม่ไหว ดูเหมือนจะอ้วนขึ้นด้วยนะ ไม่เจอกันนาน เพราะเดือนเอามันไปฝากไว้ที่บ้านใหญ่ หรือก็คือบ้านพ่อกับแม่ของเดือน
   

                  “หืม ลูกแม่หรือเปล่า”
                  “ตลกละ กูผู้ชายแมนๆเตะบอลครับ จะให้เรียกแม่กระดากปากตาย”
                  “แล้วทำไมผู้ชายแมนๆถึงชอบผู้ชายที่แมนกว่าล่ะ”
   

                  ไปไม่ถูกเลยกู เดินหนีมาเล่นกับบูบู้ที่โซฟาแม่ง
   

                  “ห้องดูสะอาดขึ้นนะ”
   

                  หลังจากกวาดสายตาเกือบสามวินาที “ก็ พี่วันเพ็ญมาเก็บกวาดให้”
   

                  “อือ พี่มึงนี่โคตรหวงมึงอ่ะ”
   

                  เขาพูดตามที่คิด มือก็หยิบคุกกี้ที่มันเอาใส่จานมาเสิร์ฟ เดือนอมยิ้ม ไม่ถือโทษเขาที่อแบนินทาพี่ตัวเอง
   

                  “ก็นิดหน่อย”
                  “…”
                  “มีน้องชายหล่อขนาดนี้ เป็นใครก็หวง”
   

                  โอเค กูยอม เพราะหล่อจริง
                  แต่เกลียดความหลงตัวเองได้มั้ย ใครตอบที
   

                  “ยอม”
                  “ยอมให้กด”
                  “ถุย”
   

                  เขาผลักหน้าหล่อๆที่โน้มเข้ามาหาตัว แล้วยิ้มเขิน มึง คือภูมิต้านทานกูก็ใช่จะแข็งแกร่ง อย่ามาเล่นอะไรที่ทำร้ายหัวใจให้จั๊กจี้แบบนี้
   
                  ครืด ครืด
   

                  “แป๊บนะพี่”
   

                  เดือนออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอกระเบียง
   

                  “ไหนดูซิ ทำไมตัวโตจังเลยอ่า”
   

                  บูบู้แลบลิ้นเลียมือเขาที่ขยุ้มกลุ่มขนนุ่มบนตัวมัน ฮื่อออออ ทำไมเป็นน้องหมาที่น่ารักแบบนี้ ไม่อยากตัดขนมันเลยเอาจริงๆ เดือนบอกว่าอีกไม่กี่วันก็จะถึงเวลาตัดขนบูบู้ น้องบอกว่าเพื่อเสริมสร้างสุขภาพขนที่ดีเขาเลยต้องจำใจยอม
                  มันครางหงิงเมื่อเขาลูบขนบนหลัง เจ้าตัวนอนหมอบใหญ่เลยสงสัยชอบ
   

                  “เวลาอาบน้ำกับพ่อเดือนห้ามแอบดูจุดจุดจุดของพ่อเดือนนะรู้มั้ย พ่อเคียงกายหวง”
                  “…”
                  “ซิกแพ็กด้วย ห้ามจับ”
                  “…”
                  “ทางที่ดีต้องให้พ่อเดือนสวมเสื้อตลอดเวลา”
                  “…”
                  “โอเคมั้ย”
   

                  บูบู้ยกมือที่มีแต่ขนขึ้นแตะมือเขาที่ยื่นไปแบตรงหน้ามัน
   

                  “อ้อ อีกอย่าง ห้ามให้ผู้หญิงคนไหนมาอาบให้นะรู้มั้ย” เพราะนั่นหมายถึงแม่ใหม่ของแก
   

                  เหมือนมันจะรู้คำเขา บูบู้ครางหงิงอีกรอบอย่างรำคาญที่ย้ำนักย้ำหนากับมัน
                  โดยที่เขาเอาแต่สนใจหมา หารู้ตัวไม่ว่าพ่อหมาที่ออกไปรับโทรศัพท์กลับมาได้สักพักใหญ่แล้ว
   

                  “งับ บูบู้จะทำตามพ่อเคียงกายสอนงับ”
   

                  เสียงกวนตีนแบบนี้ หาที่ไหนไม่ได้แล้วนอกจากไอ้เดือน
   

                  “ตลก”
   

                  เขาทำเฉไฉ อย่ามาจ้องมองได้ป่ะ อายคำพูดตัวเองชะมัดเลย ทำเด็กมันได้ใจไม่รู้ตัว
   

                  “เดี๋ยวออกไปส่งไอ้วงรีแป๊บนะ เล่นหมารอไปก่อน”
                  “กูไม่ใช่เด็ก”
   

                  เขาแจกฟัคให้มัน ก่อนเดือนจะหัวเราะแล้วเดินหนีไป
                  สุดท้ายทั้งห้องก็เหลือเพียงเขา และบูบู้ที่นอนเอาหัวเกยตักเขาอย่างสบายอารมณ์
   
                  แอ๊ด
   
                  เสียงประตูเปิดอีกรอบ
   

                  “ลืมของเหรอ” เขามั่นใจมากว่าเจ้าของห้องจะกลับมาเพราะลืมของ แต่พอหันไปมอง
                  “เดือนไม่อยู่เหรอ”
   

                  พี่วันเพ็ญ
   

                  อึก
   

                  “สวัสดีครับ”
   

                  เด็กไทยมารยาทดีไว้ก่อน ใจดีสู้เสือโบราณว่า
   

                  “เดือนล่ะ”
                  “ออกไปข้างนอกครับ”
   

                  เธอพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินเข้ามาหาเขา มีใครเพิ่มแอร์ห้องนี้หรือเปล่าเนี่ย ทำไมจู่ๆถึงร้อนอบอ้าวแบบนี้ แถมบรรยากาศมาคุแบบเย็นยะเยือก เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว เอ้ะ หรือเขากำลังจะไม่สบาย
   

                  “บูบู้ อ้าปากทำไม หิวเหรอ เฮ้อ หิวก็ไม่บอก”
   

                  เอาหมาเป็นตัวช่วยแล้วกัน หิวไม่หิวก็ย้ายก้นเราสองคนไปห้องครัวก่อนแล้วกันนะลูกพ่อ
   

                  “เดี๋ยวสิ”
   

                  กึก ชะงักกึกเลยเรา
   

                  “นั่งคุยกันก่อน”
   

                  เขาจำต้องถอยกลับมาปักหลักอยู่ตรงโซฟาตัวเดิม พี่วันเพ็ญหย่อนก้นนั่งลงข้างๆเขา ส่วนบูบู้ก็ต้องย้ายตัวมันไปนอนข้างล่างอย่างช่วยไม่ได้
   

                  “ดูหมาจะติดเคียงกายเนอะ”
                  “อ่อ เดือนเคยฝากผมเลี้ยงน่ะครับ”
                  “เหรอ แปลว่าสนิทกันมากเลยนะ เดือนถึงฝากของๆตัวเองเอาไว้ ปกติเดือนไม่ใช่คนที่เที่ยวฝากอะไรไว้ให้ใครก็ได้รับผิดชอบ ยิ่งเป็นของในความรับผิดชอบของตัวเองด้วยแล้ว”
   

                  เขาได้แต่พยักหน้ารับฟัง
   

                  “แล้วนี่ คบกันมากี่เดือนแล้ว”
                  “ฮะ”
                  “…”
                  “อ๋อ รวมวันนี้ก็ครบหนึ่งอาทิตย์พอดีครับ”
   

                  เขาเริ่มนับมาตั้งแต่วันที่เราปรับความเข้าใจกัน ส่วนก่อนหน้านั้นที่มันคลุมเครือไปมาขอไม่พูดถึงแล้วกัน แต่ดูเหมือนว่าคำพูดเขาจะไปสะกิดต่อมอะไรบางอย่างของพี่วันเพ็ญเข้า เพราะพี่แกเล่นเบิกตากว้าง ขมวดคิ้วเป็นปม ทำไมเหรอ เขาพูดอะไรผิดตรงไหนยังไงกัน
   

                  “กับระยะเวลาแค่นี้ มั่นใจได้ยังไงว่าความรู้สึกของเดือนคือชอบเรา”
                  “ไม่ครับ”
                  “…”
                  “ไม่มั่นใจเลย ออกจะประหม่าด้วยซ้ำ”
                  “…”
                  “เดือนไม่เคยบอกรักผม บอกชอบ หรืออะไรก็ตามที่เป็นรูปธรรมมากกว่าคำว่าตอนนี้เรากำลังคบกัน แต่ไม่รู้สิ คงเป็นโชคดีในโชคร้ายมั้งครับ ที่ผมเป็นคนแปลก ผมไม่ได้มองทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตาเพียงอย่างเดียว หากเราใช้ตามอง เราจะเห็นสิ่งที่เป็นรูปธรรม แต่สำหรับเรื่องนี้ ผมพยายามใช้หัวใจมอง ใช้ใจคิด เพื่อให้เห็นนามธรรมที่ซ่อนอยู่ บางทีความรักก็ไม่ได้มาในรูปแบบของการบอกรักที่เป็นรูปธรรม แต่หลายๆครั้ง เราปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่า ความรู้สึกมักนำหน้าการกระทำไปหนึ่งก้าวเสมอ”
   

                  คำพูดมากมายเปล่งออกมาจากปากเขา อึ้งมากที่ว่าตัวเองเอาคำพูดยืดยาวนี้มาจากไหน แต่ก็รู้สึกโล่งใจแปลกๆที่ได้พูดมันออกมา
   

                  “เราคงจะลืมนึกไปหรือเปล่าเคียงกาย ว่าทั้งความรู้สึก และการกระทำ สุดท้ายมันก็เปลี่ยนได้ด้วยอารมณ์คน”
                  “…”
                  “บางที ถ้ายังไม่เป็นรูปธรรม เรามั่นใจจริงๆเหรอว่าน้องของพี่จะชอบเราจริงๆ”
   

                  เขาอยากจะเถียงใจแทบขาด แต่สายตาที่ผ่านน้ำร้อนมาก่อนของพี่วันเพ็ญกลับสะกดคำพูดของเขาไว้ที่ปลายลิ้น
   

                  “ถ้าไม่แน่นอนก็อย่าฝืนเลยดีกว่า”
   

                  เขาคิดว่าพี่วันเพ็ญไม่ชอบเขา
                  จนถึงตอนนี้เขาก็ยังยืนยันความคิดเดิม
                  แต่เหมือนมีบางอย่าง ที่มันมากกว่านั้น มากกว่าในน้ำเสียงนิ่งๆที่พยายามทำให้ไม่สั่นไหวของพี่วันเพ็ญ
   
   





                  หลังจากที่ห้องวันนั้นเขาก็ไม่ได้เจอพี่วันเพ็ญอีกเลย เธอไม่ได้โผล่มาขัดขวางหรือกีดกันเขากับเดือน ซึ่งเขาคงจะคิดไปเองทั้งนั้น จริงๆแล้วเธออาจจะแค่อยากใช้เวลาอยู่กับน้องช่วงที่กลับจากเมืองนอกอย่างความคิดในด้านบวกของเขาว่า เขามันอคติไปเอง แต่คำพูดที่เธอพูดในวันนั้นยังวนเวียนในหัวเขา
   
                  รู้สึกตึงเครียดทุกครั้งที่ยังคิดถึง ฮ่าๆ
   
                  เอาเถอะ ชีวิตต้องก้าวต่อไป ถือว่าวันนี้อย่างน้อยก็มีเรื่องโชคดีอย่างการที่รถเขาเสีย แล้วเดือนมารับไปเรียน อื้อออออออ ห้ามอิจฉา มีผัวรวยก็แบบนี้ นี่ใคร เคียงเดือนคนอวดผัวสองพันสิบแปด หาได้ไม่ดีเท่าอย่ามาอวด ฮ่าๆ
   

                  “เดี๋ยวเย็นแวะมารับนะ”
                  “อือ ขอบคุณนะ”
   

                  เขายิ้มให้เดือน ไง แจกความสดใสยามเช้าอ่ะเข้าใจป่ะ ให้กำลังใจผัว ผัวจะไปเรียน
                  แล้วกูไม่ไปเรียน ???
   

                  “เดี๋ยวทักไลน์อีกที”
   

                  เขาพยักหน้าตอบรับ แล้วลงจากรถ
   

                  “ขับรถดีๆ ห้ามเถลไถล”
   

                  เขาเตือนมันเหมือนเด็กๆ เจ้าของรถพยักหน้าหงึกหงักเข้าใจ
                  แล้วรถคันหรูก็สตาร์ทออกไป

   





                  “อิจฉาคนมีผัวเนาะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาเชียว”
   

                  เดินเข้าคณะปุ๊บ เสียงนกเสียงกาก็มาปั๊บ อิคุณนายตัวนำประเด็นมาก่อนใครเพื่อน เขาเดินเข้าไปทรุดนั่งแล้วเหวี่ยงกระเป๋าแบบรุนแรงใส่คุณนาย
   

                  “อินี่ จะเอาแต่เช้าใช่มะ” ในกลุ่มดูครึกครื้นทันทีที่เพื่อนจะตีกัน
                  “ขอพักยกนะ มีสอบเช้านี้มึงอ่านมาหรือยัง” เขาดึงหนังสือเล่มหนาที่เขียนว่าวัฒนธรรมท้องถิ่นในแดนสเปนออกมา
   

                  แค่เห็นความหนาแล้วก็อยากวางลงทันที แต่เมื่อคืนก็กล้ำกลืนฝืนอ่านได้นิดหน่อยล่ะ พอมีความร็ประดับหัวบ้าง เพราะเขาก็พอตั้งใจเรียนในห้องฟังอาจารย์ก็ลักจำคำแกมาบ้างอยู่แล้ว จริงๆก็ยืมหนังสือมาอ่านพอเป็นพิธี โอ๊ย อยากตบคนอวยตัวเองไม่ไหวแล้ว
   

                  “เก็บไว้ตรงนั้นเลย แค่เห็นก็อยากอ้วกไม่ไหวแล้ว”
   

                  คุณนายเอามือปัดป่ายไปมาเมื่อเห็นหนังสือเล่มโตที่เขาเอามาวางไว้บนโต๊ะ
   

                  “แล้วนี่รถมึงยังไง แอ๊บเสียนะคะ กี่วันถึงจะได้เนี่ย ช่วงนี้งดเที่ยวว่างั้น”
   

                  คุณนายถามเขา “อือ ยังไงก็เที่ยวไม่ได้อยู่แล้ว งานชมรมเชียร์อีกตรึม คณะอื่นเขาจะจิกเราอยู่แล้วที่ไม่เข้าไปทำงานอ่ะ”
                  เพราะวันนี้พี่กุ๊ดจี่ก็ทักแชทเขามายิกๆ ตามจิกยิ่งกว่าแฟนตัวจริง
                  “ช่วงนี้ติดรถเดือนว่างั้น หืมมมม มันมีจุดประสงค์อ่ะ เกลียดอิเคียง”
                  “มึงก็ไปอิจฉามัน เมื่อวานมึงก็ใช่ย่อยใครมาส่งคณะค้า อ้ะๆ อย่ามาโกหก เมื่อวานกูเห็นแว้บๆนึกว่าไอ้เก่ง ที่ไหนได้ แอบกั๊กใครไว้ไม่บอกเพื่อนว่ะ”
   

                  คุณนายตีไหล่คุณส้มไปทีโทษฐานทำมันเขินหน้าแดง มีคนเขินหน้าแดงหนึ่งอัตราตอนนี้ครับท่าน
   

                  “ว่าก็ว่าเถอะ ตกลงแล้วน้องเดือนนี่จะเอายังไงกับเพื่อนกูว้า แค่คบหาดูใจ แล้วเมื่อไหร่ถึงจะขอเป็นแฟน”
   

                  คุณแย้เปรยขึ้นมา
   

                  “เฮ้ย อิแย้ มึงนี่นั่งเล่นโซเชียลอย่างเดียวไม่เป็นเหรอคะ ดูอิเคียงหน้าเสียแล้วนะ”
   

                  ทุกคนหันมามองเขา
   

                  “บ้าป่ะ ไม่มีอะไร หน้ากูก็เป็นของกูแบบนี้แหละ ช่วงนี้เครียดนิดหน่อย”
   

                  เขาบอกปัดเพื่อนๆ ให้ทุกคนสบายใจ
                  แต่ในหัวตัวเองกลับมีความคิดอะไรต่อมิอะไรไม่รู้พุ่งชนกันไปมา
                  ทำไมทุกคนต้องเอาแต่ถามหาความชัดเจนด้วยนะ ที่เขาหน้าเสียไปอย่างนั้น หรือลึกๆแล้วอาจจะเป็นตัวก็ได้เขา ที่ต้องการความชัดเจนเสียเอง
                  เสียงนาฬิกาดิจิตอลที่ดังขึ้นตามเวลาปลุก บอกให้รู้ว่าถึงเวลาเข้าสู่สนามสอบแล้ว
                  พวกเราแยกย้ายกันไป โดยที่ความรู้สึกของเขาเองยังติดค้างในใจอยู่แบบนั้น กระทั่งจนหมดเวลาสอบ

   


   Hiran
   ตกลงยังไงอ่ะ
   เลิกกี่โมง กูเลิกแล้วเนี่ย
   เขาต้องเป็นฝ่ายทักเดือนไปเพราะเจ้าตัวไม่ยอมแชทมาหาสักที จนเขาเลิกคลาสและไม่มีวิชาเรียนแล้ว
   รอเกือบสิบนาที เจ้าของช่องแชทจึงค่อยตอบมาว่า
ชื่อ นามสกุล
โทษทีพี่ ผมเรียนอยู่เพิ่งเลิก
แต่เพื่อนผมรถเสียพอดีอ่ะ พี่รอก่อนได้มั้ย ไปส่งเพื่อนแป๊บเดียว
   Hiran
   ได้ๆ ให้รอไหน
   ไปส่งพื่อนก่อนค่อยมารับกูก็ได้
   มันควรจะเป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ ยังไงเขาก็รอได้ หรือจริงๆแล้วเขาแค่แกล้งเป็นคนดีกันแน่
   
ชื่อ นามสกุล
ตรงม้านั่งหน้าคณะเศรษฐศาสตร์ก็ได้
เดี๋ยวมารับนะครับ
   Hiran
   ทราบ

   
   





                  พอมาถึงคณะเศรษฐศาสตร์ซึ่งใกล้กับบริหาร แต่นักศึกษาคณะบริหารมักมาที่นี่เหตุเพราะมีที่นั่งคุย แถมสาวอีค่อนสวยอันดับหนึ่งไม่เป็นสองรองใครเลยทีเดียว
                  การมาที่นี่ทำให้เขาได้พบบุคคลไม่คาดคิด
   

                  “พี่วันเพ็ญ สวัสดีครับ”
   

                  จะเดินหนีไม่ทักก็กระไรอยู่ แถมเขาเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเธอ แค่มีความรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่คุยด้วยเท่านั้นเอง
                  แต่ในเมื่อในด้านครอบครัวไม่ได้เป็นอย่างหวังไว้ เขาก็ทำได้แค่ยอมรับมัน และปรับตัว เอาจริงๆถ้าในอนาคตเขากับเดือนเป็นแฟนกัน ยังไงก็หนีพี่สาวแฟนไม่พ้นอยู่ดี สู้เผชิญหน้าตอนนี้แล้วผลลัพธ์จะเป็นไงค่อยว่ากันไปแล้วกัน
   

                  “เคียงกาย”
   

                  เธอพูดชื่อเขาออกมา แอบสังเกตว่าเธอเองก็ตกใจไม่น้อยที่เจอเขาที่นี่
   

                  “จะไปไหนเหรอ” เธอถาม
                  “ผมมารอเดือนครับ”
   

                  เขายิ้มตอบ พยายามแจกรอยยิ้มให้สดใสที่สุดเท่าที่จะทำได้
   

                  “อีกนานมั้ยกว่าเดือนจะมา”
                  “นานอยู่ครับ”
                  “งั้นเหรอ งั้นเคียงกายอยู่คุยกับพี่ก่อนสิ”
   

                  เป็นประโยคที่เขาอยากจะปฏิเสธเหลือเกิน แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้าตกลง ใครจะกล้าขัดพี่สาวแฟนล่ะจริงมั้ย ผิดๆ ใครจะกล้าขัดพี่สาวแฟนในอนาคตล่ะจริงมั้ย
   
   

                  “ยังรู้สึกไม่ดีกับคำพูดพี่อยู่เหรอ”
   

                  เป็นพี่วันเพ็ญที่เอ่ยปากพูดขึ้นก่อน
   

                  “นั่นสินะ ถ้าเคียงกายจะคิดว่าพี่อคติกับเราก็คงไม่แปลก” พี่วันเพ็ญยักไหล่ไม่ยี่หระ เขาเลยต้องยกไม้ยกมือปฏิเสธยกใหญ่
                  “แต่พี่ไม่อยากเห็นความไม่ชัดเจนของน้องพี่ ต้องทำร้ายใครอีกแล้ว”
                  “…”
                  “เคียงกายรู้มั้ย ว่าแฟนเก่าคนก่อนเดือนก็ทำแบบนี้ ตามหึงเค้าไปทั่ว ตามหวงเค้าไม่เว้นวัน แต่ก็ไม่เคยบอกรักหรือทำอะไรที่มันแน่นอนเลยสักอย่าง พี่ต้องคอยให้คำปรึกษาทุกครั้งตลอดเวลาที่ทั้งคู่คบกัน พี่สงสารผู้หญิงคนนั้นมาก เธอให้ความรู้สึกน้องพี่เต็มร้อย แต่สิ่งที่น้องพี่ทำกลับทำให้เธอเคลือบแคลงใจ เธอไม่แน่ใจในตัวเดือน และสุดท้ายก็เลิกรากันไป”
                  “…”
                  “พี่บอกไปแล้วว่าสงสารผู้หญิงคนนั้นจับใจ แต่ความจริงคนที่น่าสงสารและน่าเห็นใจที่สุดก็คือน้องของพี่ เดือนที่ทำตัวไม่ชัดเจน แต่ให้ใจเขาไปเต็มร้อยตั้งนานแล้ว เพียงแต่เธอคนนั้นกลับมองหาสิ่งที่ชัดเจนในความไม่ชัดเจน แล้วสุดท้ายมันก็จะไม่พบอะไรเลย”
                  “…”
   

                  จริงๆแล้วพี่วันเพ็ญรักเดือนมากๆ นั่นเป็นหนึ่งข้อสำคัญที่เขาเพิ่งรับรู้ในตอนนี้
   

                  “ไม่เป็นไรครับพี่วันเพ็ญ”
                  “…”
                  “ผมไม่ใช่พวกที่จะค้นหาคำตอบของคำถามด้วยตัวเองอยู่แล้ว”
   

                  ใช่
                  พอแล้วกับการคิดเองเออเอง เขาเรียนรู้จากหลายๆสิ่งที่เราเคยผ่านมาด้วยกัน ว่าสิ่งที่ไม่ชัดเจน ทำให้ตัวเขามั่นใจขึ้นมาได้ด้วยการถามเดือนตรงๆ
                  อย่างเช่นตอนนี้ ที่มันเดินเคียงคู่มากับใครคนหนึ่ง
   

                  มีน ดาวมอ
   

                  “ไปส่งเพื่อนมา แล้วเจอมีนรถเสียกลางทางเลยแวะรับ”
   

                  แต่ขณะเดียวกัน
                  เมื่ออีกคนเรียนรู้ที่จะถาม
                  อีกคนก็เรียนรู้ที่จะตอบเช่นกัน
                  แต่เหนือสิ่งอื่นใด เขากับเดือนยังได้เรียนรู้กฎเกณฑ์ข้อที่สำคัญที่สุด ที่จะทำให้คนรักกันประสบความสำเร็จ คือไม่ใช่การเรียนรู้ที่จะยอมรับมัน แต่เป็นการเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน
   
                  อย่างน้อยเขากับเดือนก็ทำให้พี่วันเพ็ญมั่นใจได้เปราะหนึ่งว่าเขาจะไม่มีวันทิ้งเดือน
   
                  ขณะเดียวกัน มือหนาที่ยื่นส่งมาให้เขาจับแล้วออกแรงดึงให้ลุกจากม้านั่ง ก็กำลังบอกเป็นนัยว่า มันเองก็จะไม่มีวันทิ้งเขาเช่นเดียวกัน





*TBC.....................................................

หายไปนานมาวันนี้เหลืออีกตอนก็จะจบแล้วน้า
ขอบคุณทุกๆการติดตามจากคนอ่านทุกคน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2018 21:36:08 โดย MewSN »

ออฟไลน์ AnnAnnAnn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :z2:ฮือออกลับมาเเล้วจะร้อง5555 :mew4:

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ติดตามมาอย่างยาวนานนน​ ขอบคุณมากค่ะที่ไม่ทิ้งเรื่องนี้​  :sad4:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
หายไปนานมาก คิดว่าจะไม่กลับมาซะแล้ว :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Cyclopbee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อ่านทันตอนล่าสุดแล้วววว
รอตอนสุดท้ายยยย ชอบบบ

ออฟไลน์ fahsida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
และแล้วก็กลับมา เราว่าเดือนชัดเจนพอควรนะที่บอกพี่ไปว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เกือบเข้าใจพี่ปัวผิดไปแล้วเคียง  :hao5:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ตอนนี้อึนๆแฮะ แต่ก็เข้าใจนะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เมื่อไหร่นังมีนจะหายไปจากสารบบเสียที :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ MewSN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +234/-4
Re: เคียงเดือน - Result #อัพ P.37 [12/11/2561]
«ตอบ #1095 เมื่อ12-11-2018 18:07:31 »

#THIRTY
{Result}
กฎข้อสุดท้ายคือผลลัพธ์


โปรดเตรียมใจก่อนอ่าน...




                  เขาไม่แน่ใจว่าเขากับเดือนเป็นอะไรกัน เพราะว่า…
   

                  “มึง บึ๊ดจ้ำบึ๊ดกันรึยังคะ”
   

                  นั่นเป็นคำถามที่คุณนายเอ่ยถามทุกครั้งเมื่อเจอเขาเดินเคียงคู่มากับเดือน ทำให้ตัวเองต้องอายหน้าม้วนยิ้มตอบรับตอแหลเพื่อนไปว่า
                  ได้กันแล้ว…
                  ทำไม ใครจะมาเขินอายม้วนต้วนอย่างนายเอกนิยายทั่วไป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าท่าทางของเขาก็ทำเอาเดือนขยับออกห่างไปหลายหลา เรื่องรักๆนี่กูดูไฟท์มาก ไฟท์เหลือเกิน กับเรื่องการเรียนเป็นแบบนี้มั้ยหนู
                  ใครเหนื่อยความแรดของเขาก็ปิดหน้าเว็บไป เอ๊ย อย่าน้ารักเคียงกายก็ต้องรักความแรดของเคียงกายด้วยสิ แอร๊ายยยยยยยยยย
   

                  “ตัวติดกันขนาดนี้ กลัวคนอื่นไม่รู้หรือไงว่าเป็นแฟนกัน”
   

                  คุณส้มพูดผิดไปคำนึงนะ ความจริงเรายังไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่เราเป็นผัวเมียกัน เอ๊ย หมายถึงเรากำลังคบหาดูใจกันอยู่ต่างหาก ช่วงนี้ต้องขยันทำคะแนน นี่ตกลงกลายเป็นเขาใช่มั้ยที่ตามจีบมันเนี่ย ตัวก็เสนอให้ฟรีแล้วยังต้องตามจีบมันอีก งงตัวเองเหมือนกัน
   

                  “แหม หวานซะ มดขึ้นตัวรึยังหนู”
   

                  คุณแย้เบะปาก แต่เขาภูมิใจที่ความรักของเขาทำให้เธอเงยหน้าจากโลกโซเชียลมาแซวเขาได้ เอ๊ะ หรือเพราะเธอหมั่นไส้หรือเปล่าอันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน อย่างน้อย ก็พักสายตาคุณแย้ได้เกือบสามวิ แล้วเธอก็ก้มลงไปสนใจหน้าจอโทรศัพท์ตัวเองต่อ แบบไม่ให้ทันแซะกลับ
   

                  “คืนนี้มีไซส์คอนด้อมใส่หรือยังน้อง”
   

                  คำจัญไรแบบนี้คงต้องยกให้คุณเก่ง ผู้ชายคนเดียวที่ยังคงแมนเว่อร์ตลอดกาล ควงหญิงเป็นว่าเล่น สอยคนนั้นหามคนนี้เข้าห้อง เป็นข่าวมั่วเซ็กส์โด่งดังทั้งมอมีแต่คนรู้จัก
   

                  ป๊าบ
   

                  “แอบนินทากูในใจเดี๋ยวเถอะมึง”
   

                  ยังมาเสือกรู้มากอีกนะ
   
                  ส่วนคุณกะทิ ก็อีกตามเคย ใช้ชีวิตเข้าป่าเข้าเขา นี่ว่าถ้าเธอดำดินลงไปอยู่ได้เธอก็คงจะทำไปแล้ว ผิด ไม่ใช่แบบนั้น คุณกะทิยังคงชอบลงพื้นที่ตามกลุ่มจิตอาสาไปช่วยพัฒนาป่าเขา ดินแดนทุรกันดาร หรือช่วยเหลือคนยากไร้ให้มีสภาพชีวิตที่เจริญขึ้น เธอเคยบอกพวกเขาทั้งกลุ่มว่า เธอไม่น่ามาเรียนคณะมนุษยศาสตร์เลย อย่างเธอควรจะลงเรียนคณะที่เกี่ยวกับจิตอาสาพัฒนาชุมชนเสียมากกว่า ซึ่งทั้งกลุ่มก็เห็นเป็นอย่างนั้น
   
                  ทุกๆอย่างผ่านไปไวเหมือนโกหก จากแก๊งส่องเดือนสู่การเป็นแก๊งส่องผู้?
   
                  และพวกเขามองย้อนกลับไปวันนี้เมื่อปีที่แล้ว เด็กเฟรชชี่ปีหนึ่งหกคนที่แหกปากร้องเพลงเชียร์เสียงดัง ตะโกนกึกก้องให้ชื่อมอดังไปไกลเหนือไพศาล ประกาศให้โลกรู้ว่ามอเรายิ่งใหญ่เกรียงไกร
   
                  กลายมาเป็นสต๊าฟเชียร์ ที่ต้องคอยดูแล เฝ้ามองดูเด็กปีหนึ่งรุ่นต่อไป ได้แสดงศักยภาพทั้งหมดที่พวกเขาถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น
   
                  และวันตัดสินก็คือวันนี้
   

                  “เหนื่อยมั้ย”
   

                  เขาเข้าไปซับเหงื่อให้เดือนที่เพิ่งเดินขบวนเสร็จ ตอนนี้มหา’ลัยเขาตั้งแถวที่สนามเรียบร้อยแล้ว พวกเราเลือดสีXX ได้เข้ามาจับจองขอพื้นที่ชิงชัย ณ ที่นี้แล้ว
   

                  “น้องคนอื่นก็เหนื่อยป่าวว้า”
   

                  น้องรหัสเขานั่นเองที่บ่นอิดออดขึ้นมา เหตุเพราะอิจฉาเขากับเดือน
   

                  “ก็มึงน้อง ส่วนนี่ผัว”
                  “หืออออออ เต็มปากเต็มคำขนาดนี้แปลว่าจิ๊มิกันแล้ว”
   

                  เขาปาทิชชูเปียกใส่หน้าไอ้ไทน์น้องรหัส
   

                  “K”
                  “แอ๊ สกปรก”
   

                  มันทำหน้าทำตากวนตีน ก่อนจะหันหน้าไปแชะรูปกับกล้องฝ่ายมีเดียที่หันมาพอดี กับกล้องนี่ปฏิกิริยาไวเชียว
   

                  “อีกเดี๋ยวมีเดินออกสนาม ให้ไปฝั่งตรงโน้นเลยนะ”
   

                  เขาชีไม้ชีมือไปที่สแตนด์สีXX ที่พวกเราชาวมอXX ปักหลักเชียร์อย่างเข้มแข็ง เสียงกึกก้องที่แสดงว่าแม้จะเช้าแค่ไหนแต่ทุกคนก็พร้อมแล้วกับการโชว์สปิริตอันแรงกล้าให้ทุกคน ณ ที่นี้ได้เห็นแล้ว
   

                  “แล้วพี่จะไปไหน”
   

                  เขากำลังจะเดินไปเช็คความเรียบร้อยท้ายแถว แต่มือหนากลับคว้าหมับหยุดเขาไว้
   

                  “แหมมมมมมม ห่างกันไม่ได้เลย ห่างกันจะตายถูกมั้ย”
   

                  คุณนายในสภาพหมวกคลุมหน้า คือกันแดดจัดเต็ม กลัวหน้าเสียผิวเสีย แล้วก็กลัวจะไม่ได้แซวเขาแล้วตัวเองจะขาดใจตายก็มา
   

                  “เดือนได้เพื่อนพี่แล้วก็รับผิดชอบด้วยน้า”
   

                  มันปล่อยระเบิดลูกใหญ่แล้วทิ้งเขาไว้กับความเขินอาย
                  เขินอาย เพราะความจริงแล้วยังไม่ได้เดือน อิสัด ฮ่าๆ
   

                  “ไปแล้วนะ”
   

                  เขาไม่รู้จะพูดอะไร เพราะมือหนายังไม่ปล่อยข้อมือเขาเลย
                  มึงอย่าจ้องกูมาก เดี๋ยวจับปล้ำ
   

                  “ตกลงเราเป็นอะไรกันอ่ะ”
                  “ว่าไงนะ”
                  “เมื่อกี้พี่พูดว่าผมเป็น…”
   

                  อุ๊บ
                  เขารีบเอามืออุดปากมันก่อนจะพูดคำว่าผัว งื้อ ไม่เอา เขิน กูพูดได้คนเดียว มึงห้ามพูดตามกู
   

                  “ไม่เป็นอะไรทั้งนั้น ไปแล้ว สู้ๆ”
   

                  เขาบอกหูไหม้ไฟดับ แล้วจ้ำอ้าวเดินออกมาอย่างรวดเร็ว
                  ก่อนเสียงจากในสนามจะประกาศว่าขบวนพาเหรดของมหา’ลัยXXXได้เข้าสู่สนามแล้ว คนเริ่มทยอยมาเยอะเรื่อยๆ ในขณะที่เสียงรอบข้างเริ่มดังกลบกันไปหมด จนจับใจความไม่ได้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร
                  มันเริ่มแล้วสินะ
                  การแข่งขันที่แท้จริง
                  ที่มีศักดิ์ศรีและเกียรติยศในนามของมหา’ลัยเป็นตัวตัดสิน
                  เขาเองก็ได้แต่เฝ้ามอง และให้กำลังใจอยู่ห่างๆเท่านั้น
                  สู้ๆนะ ปีหนึ่งของพี่
                  สู้ๆนะ เดือนบริหาร

   





                  “มึง ผัวมึงนี่สุดๆ งานเพิ่งเริ่ม ดาวเดือนมออื่นคือถ่ายรูปคู่กับเดือนลงไอจีกันประปราย อิดอก”
   

                  คุณนายยื่นหลักฐานในมือถือให้เขาดู
                  ดูคนมีมนุษยสัมพันธ์ดีเลิศ หืม เก่งจริงๆเรื่องเข้ากับคนอื่นได้ดีเนี่ย ถ่ายกันเข้าไป ถ่ายให้ถึงล้านรูปนะวันนี้ เอาเลย จะไม่หึงว่ามันถ่ายรูปคู่กับใคร ไม่หึง ไม่หึงจริงๆ
                  เดินไปหาน้องแม่งเลย
   

                  “เหงื่อออกเยอะเลย”
   

                  แต่พอเข้าไปหาปุ๊บ มือหนาก็เอื้อมมาแตะหน้าผาก เช็ดเหงื่อเขาออกด้วยมือเปล่าๆของมัน ทำให้ฤทธิ์ร้ายอารมณ์หึงหายไป เหลือไว้แต่ความเขินอายอย่างสาวแรกรุ่น เท่ากับว่าเคียงกายถูกเด็กมันตบบหัวแล้วลูบหลังถูกมั้ย
   

                  “กินไรบ้างยัง”
   

                  จากที่จะมาด่าเพราะลมหึง เปลี่ยนมาถามมันด้วยความเป็นห่วง เพราะเห็นยืนเก๊กหน้าให้คนเขาถ่ายรูปตั้งแต่เช้าแล้ว กลัวเป็นลมเป็นแล้ง เดี๋ยวงานจะกร่อยเอา เพราะใครๆก็เอาแต่เรียกหาเดือนบริหารมอนี้
   

                  “ยังเลยพี่ ข้าวกล่องวางอยู่หลังเนี่ย ไม่มีมือ”
   

                  เขาสังเกตเห็นมันต้องถือพร็อบถืออะไรของมันเยอะแยะก็ถึงบางอ้อ นี่แหละนะคนหน้างาน มีหน้าไว้เป็นชื่อเสียงของมอ ข้าวปลาอาหารอดอยากได้เสมอ เพื่อมอเราชาวสีXX
                  เขาเลยถือวิสาสะหยิบถุงข้าวมันออกมาเปิด เป็นข้าวกะเพราไข่ดาว
                  ตักมาหนึ่งช้อน แล้วก็
   

                  “กินดิ มองไม”
   

                  เอาไปจ่อปากมัน เจ้าตัวที่ตอนแรกยืนนิ่งเผยรอยยิ้มขี้เล่น พลางอ้าปากกว้าง
   

                  “เว่อร์ไป ไม่ต้องกิน”
                  “เฮ้ย คนเรา”
   

                  มันรีบจับมือเขาที่ถือช้อนอีกที แล้วดึงดันยัดเข้าปากจนได้ แต่…
   

                  แชะ
   

                  “คู่ข้าวใหม่ปลามัน คู่สร้างคู่สม”
   

                  อยากเตะสต๊าฟฝ่ายมีเดียก็วันนี้แหละ ทำให้รู้ว่า ฝ่ายมีเดียไม่ใช่แค่ถ่ายรูปเก่ง แต่ยังแซวเก่งที่หนึ่ง
                  แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ทำหน้าที่ป้อนข้าวเดือนจนมันอิ่ม แถมใช้ให้ไปซื้อน้ำมาบริการอีก
   

                  “เดี๋ยวดิ ไปไหน”
   

                  เขากำลังจะแยกตัวไปดูอีกฝั่ง แต่มันกลับรั้งไว้ พร้อมส่งพร็อบในมือมาให้เขาถือ ส่วนมือตัวเองก็ล้วงหยิบไอโฟนขึ้นมา
   

                  “ถ่ายรูปคู่ก่อน ยังไม่มีรูปคู่เลย”
   

                  เหมือนมีเวลาว่างมากเนอะ
                  แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธ อยู่ถ่ายรูปกับมันเกือบประมาณสามร้อยล้านรูปในหนึ่งวินาที
                  สุดท้ายเพิ่งมารู้ว่ามีรูปคู่ตัวเองกับเดือนเยอะมากในเพจของฝ่ายมีเดีย บวกไปอีกประมาณแปดร้อยล้านรูปเป็นหนึ่งพันล้านรูปพอดี
                  เยอะกว่ารูปชาวบ้านชาวช่องเขาแบบนำโด่งจนไม่มีหน้าจะเอาไปโผล่ที่ไหนแล้ว
   
   





                  “น้องๆคะ ฟังพี่น้า พี่มีเวลาพักให้สามชั่วโมง ต่อจากนี้จะเป็นไคลแมกซ์ ให้น้องๆรีบกลับมาที่สแตนด์ก่อนห้าโมงเย็นนะคะ มาช่วยกันขับร้องเพลงเชียร์ ให้ดังก้องเป็นท่วงทำนองของชัยชนะกันนะคะ”
   
                  หลังจากคำพูดปลุกใจของสต๊าฟเชียร์ น้องๆก็เริ่มทยอยลงสแตนด์มา เขามองหาเดือนที่หายไปเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างหลังสแตนด์
   

                  หมับ
   

                  มือใครบางคนแปะลงบนหัวเขา
   

                  “ป่ะ ไปพักกัน”
   

                  เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้เขารู้ทันทีว่าคือมัน เลยแอ๊บคว้ามือมันมาจับ แล้วให้เจ้าของฝ่ามือหนาลากพาตัวเองเดินไปเรื่อยๆ
                  จนเราทั้งคู่ออกมาห่างจากสแตนด์พอสมควร
   

                  “กินไรดี ต้องกินข้าวก่อนนะเดี๋ยวหิว มึงมีขึ้นไปพบปะประชาชนบนเวทีนี่”
   

                  เขากำลังพูดถึงอีเว้นท์ใหญ่ที่กำลังจะมีขึ้นในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ อีเว้นท์ที่ใหญ่พอๆกับการแสดงสปิริตไคลแมกซ์โชว์ นั่นก็คือเฟรชเมนโชว์ ที่จะจัดขึ้นหลังจากการแสดงไคลแมกซ์ของแต่ละมอสิ้นสุดลง
   

                  “หาไรกินแถวนี้ หรือจะเอารถออก”
   

                  มันถามความเห็นเขา
   

                  “แถวนี้ก็ได้ เหนื่อยขับรถอีก”
   

                  มันพยักหน้า แล้วออกแรงนิดหน่อยลากเขาไปตามทางที่มันเดิน ท่ามกลางผู้คนที่จับจ้องมัน ขึ้นชื่อว่าคนของประชาชน ไปที่ไหนก็ถูกจับตามอง ยิ่งมาเดินจับมือกับผู้ชายยิ่งแล้วใหญ่ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาขัด ยกเว้น…
   

                  “เดือน”
   

                  มีคนเรียกมันจากด้านหลัง พวกเราหันไปมอง
                  ถ้าเขาจำไม่ผิด น้องคนนี้คือตัวแทนดาวจากมออื่น เธอมากับเพื่อนของเธอออีกสามคน
   

                  “ชื่อเดือนจริงๆด้วย เดือนมอXX ใช่ป่ะ”
                  “ครับ”
                  “เดี๋ยวมีจัดงานเฟรชเมนโชว์ใช่มั้ย อีกนานเลย ไปเดินเล่นด้วยกันมั้ย”
   

                  เธอเอ่ยชวน
                  แต่…
   

                  “เรามากับพี่เคียงกายครับ”
                  “อ่อ มากับพี่ชายเหรอ”
                  “ไม่ใช่”
   

                  เสียงทุ้มแทบจะเอ่ยออกมาในทันทีที่เธอคนนั้นพูดจบ
   

                  “เป็นแฟนกัน”
   

                  เขาเหมือนหูฝาด แต่สีหน้าตกใจของดาวมอกลับตอกย้ำว่าเขาได้ยินคำประโยคนี้จริงๆ
                  แล้วเดือนก็ลากเขาที่ยืนแข็งทื่อออกมา
   

                  “ไปพูดแบบนั้นได้ไงวะ”
   

                  พอได้สติเขาก็ตีแขนมัน
   

                  “อ่อ ไม่ใช่สินะ ความจริงคือพี่เป็น…”
                  มันไม่พูดออกเสียง แต่ขยับปากให้เขาอ่านได้ชัดเจน
                  กล้ามาก กล้ามาบอกว่ากูเป็น…
                  เมีย
   
   





                  เขากลับมาที่สแตนด์และแยกกับเดือนที่ต้องไปเตรียมตัวขึ้นโชว์ บรรยากาศตอนนี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด อีกไม่กี่วินาที ศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่างแต่ละมอก็กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว…
   
                  ขอเพียงเสียงนี้…
   

                  “แล้วก็ถึงเวลา ประชันการแสดงโชว์สปิริต ที่ทุกมหา’ลัยเตรียมตัวมาไฝว้กันอย่างหนักหน่วง ขอเชิญทุกท่าน ณ ที่แห่งนี้ ร่วมเป็นสักขีพยานแห่งชัยชนะในค่ำคืนนี้ด้วยนะคะ”
   

                  มีเสียงโห่ร้อง เสียงฮือฮา เสียงกรี๊ด ปะปนกันไป แล้วทั้งสนามก็เงียบ เมื่อการแสดงของมหา’ลัยเขาเริ่มขึ้น
                  ปีที่แล้วเขานั่งอยู่บนสแตนด์เชียร์ เปล่งเสียงดังสุดพลังแรงกล้า ร่วมกับเพื่อนพ้องปีหนึ่งที่สู้ฝ่าฟันมาด้วยกัน
                  ปีนี้เขาก็รู้สึกไม่ต่างกัน เพราะเหมือนยืนมองตัวเองที่ทำเต็มสุดความสามารถ เหมือนน้องๆปีหนึ่งที่กำลังเปล่งเสียงร้องออกมาอย่างทรงพลัง สวยงาม และหาญกล้า
                  สุดท้ายแล้วสิ่งที่ได้รับกลับมา และรางวัลอันยิ่งใหญ่ก็คือรอยยิ้ม และเสียงปรบมือเกรียวกราวสนั่นปฐพี
                  ณ ที่นี้ ข้ามอXXได้ประกาศชัย
   

                  “ขอบคุณน้องๆ พี่ๆ และเพื่อนๆทุกคน ที่ร่วมต่อสู้ฝ่าฟันกันมาจนถึงวันนี้ วันที่เราได้ประกาศศักดา ให้ทั่วอาณาได้รู้ว่า เชียร์XXX ได้ปักธงชิงชัย ปลิวไสวด้วยความสง่างามกลางสนามแห่งนี้แล้ว”
   

                  เสียงปรบมือยิ่งดังก้อง
                  เสียงโห่ร้องมากมายจากผองเพื่อนและครอบครัวชาวสีXXของเราดังสะท้อนทั่วสนาม
                  เขาน้ำตาไหลไม่รู้ตัว
                  ถึงคืนนี้พวกเราจะไม่ได้ชัย แต่พวกเราก็ได้ทำเต็มที่ที่สุดแล้วจริงๆ ขอบคุณ ขอบคุณมาก ขอบคุณมากๆ
                  ขอบคุณทุกๆคน

   





                  “มึงงงงง มาเร็ววววววว”
   

                  คุณนายกึ่งลากกึ่งจูงเขากับผองเพื่อน ยิ่งกว่ามาดูโชว์การแสดงของผัวตัวเอง แต่ติดตรงที่เดือนคือผัวเขาไม่ใช่ผัวมัน อุ๊บ
   

                  “เร็วสิ พิธีกรขึ้นมาแล้ว”
   

                  พวกเรารีบพากันมาจับจองหาที่นั่งที่แทบไม่มีเหลือแล้ว แต่โชคดีหน่อย แม้จะอยู่ไกลแต่ได้ทำเลดี มองเห็นบนเวทีชัดแจ๋ว
   

                  “เอาล่ะค่ะ มาถึงช่วงเวลาสำคัญของงานอีกช่วงหนึ่ง นั่นก็คือ เฟรชเมนโชว์นะคะ”
   

                  กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด
   

                  เสียงโห่ร้อง กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ เมื่อเหล่าเดือนของแต่ละมหา’ลัย ค่อยๆทยอยกันขึ้นเวทีมา
                  และแน่นอนว่า คนที่ได้รับเสียงกรี๊ดมากที่สุดคงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก เดือนของเขาเอง
   

                  “น้องๆไม่ต้องกลัวพี่ลูก พี่ไม่กัด เข้ามาใกล้ๆกันหน่อย”
   

                  เสียงหัวเราะดังขึ้น เมื่อพิธีกรเล่นมุกเอ่ยแซวเหล่าดาวเดือนที่ค่อนไปฝั่งขวา ราวกับกลัวพิธีกรทั้งสองคนยังไงยังงั้น
   

                  “วันนี้รูปแบบงานของเราจะเป็นแบบทอร์คโชว์ค่ะ โดยเราจะมีธีมในการพูดนะคะ เช่น พี่จับใบสลากในกล่องนี้ขึ้นมา แล้วเขียนคำว่า พี่กุ๊กกิ๊กสวยที่สุด”
   

                  โห่หหหหหหหหห มีเสียงโห่ร้องตลกขำขันดังขึ้น เนื่องจากพิธีกรชื่อกุ๊กกิ๊ก
   

                  “อย่ามาโห่ย่ะ เข้าเรื่องนะคะ เมื่อได้หัวข้อนี้ น้องๆเดือนที่น่ารักของพี่กิ๊ก ก็ต้องพูดเรื่องพี่กิ๊กสวยที่สุด อาจจะเป็น เฟิร์สอิมเพรสชั่น แบบ ผมเจอพี่กิ๊กแล้วรู้เลยว่าความสวยงามบนโลกทั้งหมด รวมอยู่ในตัวพี่เขาแล้ว อะไรประมาณนี้”
   

                  โห่หหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห
   

                  “ค่ะ แหม แค่แซมเปิ้ลอ่ะเข้าใจป้ะ”
                  “…”
                  “ถ้าพี่ให้น้องเดือนพูดถึงความสวยของพี่”
   

                  เดือนถึงกับอึ้ง ฮ่าๆ
   

                  “สวยครับ”
   

                  555555555555555555555555555555555555555555
                  ทั่วทั้งสนามหลุดขำกับความไปไม่ถูกของนาง พูดออกมาได้แค่คำว่าสวย
   

                  “อ่ะ ไม่เสียเวลาแล้วเนอะ เขินอ่ะ น้องเดือนชมนี่ ไปๆ เรามาเริ่มจับสลากใบแรกกันดีกว่าค่ะ”
                  “…”
                  “ให้เกียรติคุณนุกนะคะ เป็นพิธีกรคู่กับดิฉัน แต่ไม่มีบทพูด”
   

                  เราต้องหลุดขำไปกับมุกพวกนางจริงๆนะ


                  “คุณนุกบอกดิฉันดังๆค่ะว่าได้ธีม…”
                  “ความรัก”
                  “งื้อออออออ ไหนวันนี้ใครอยากฟังน้องๆเดือนมอนิยามความรักในรูปแบบของตัวเองบ้างคะ ขอเสียงหน่อย!!!”
   

                  กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
   

                  “โอเค เรามาเริ่มกันที่คนซ้ายสุด น้องตี๋ ตำแหน่งเดือนมหา’ลัยXXX กันนะคะ”
   

                  เขาไม่รู้ว่าน้องตี๋พูดอะไร
                  เพราะที่รับรู้อยู่ตอนนี้คือหน้าจอไอโฟนที่เขาถืออยู่ในมือเตรียมถ่ายรูปเก็บความทรงจำ ปรากฏชื่อใครบางคนที่อยู่บนเวที
                  
                  เดือน
   

                  “ว่า”
   

                  เพราะเสียงในสนามที่เงียบฟังนิยามความรักจากเหล่าเดือนมอ ทำให้เขาพอจะคุยโทรศัพท์รู้เรื่องบ้าง อย่างน้อย ก็ได้ยินชัดในระดับหนึ่ง
   

                  {ถือสายไว้นะ}
                  “ทำไม”
                  {มีอะไรจะบอก}
   

                  เขามองไปบนเวที เดือนรับไมค์มาจากพิธีกร
   

                  “ถึงตาน้องเดือนแล้วนะคะ คนนี้เสียงกรี๊ดเยอะเหลือเกิน เชื่อว่านิยามรักของน้องเดือนต้องแซ่บแสบว้าวแน่นอนเลยค่ะ”
   

                  กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
   

                  เขารีบเอาโทรศัพท์แนบหู ทั้งที่รู้ว่ายังไงก็ได้ยินเสียงน้องมันอยู่แล้ว
                  แหงล่ะ ไมค์จ่อปากขนาดนั้น
   

                  “นิยามรักของผมคือใครคนหนึ่ง…”
   

                  เขามองไปบนเวที แม้จะรู้สึกว่าหูตัวเองเริ่มร้อนจากการเอาไอโฟนแนบไว้นาน แต่ตอนนี้สิ่งที่ดึงความสนใจของเขาทั้งหมดคือคนบนเวที และเสียงทุ้มนุ้มที่อยู่ไกลแต่ดังอยู่ข้างหูไม่ห่าง
   

                  “ผมไม่รู้ว่าเขาเข้ามาในหัวใจตอนไหน แต่รู้ตัวอีกทีเขาก็เอาใจผมไปทั้งดวงแล้ว…”
   

                  กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
   

                  ตึกตัก ตึกตัก
   

                  ในหูเขาไม่ได้อื้ออึงด้วยเสียงกรี๊ดข้างนอก แต่เป็นเสียงดังจากข้างในที่เต้นโครมคราม
   

                  “คือคุณหรือเปล่าที่ลืมประเป๋าตังค์ไว้ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว
                  คือคุณหรือเปล่า ที่ออกตามหาบูบู้จนลืมนึกห่วงตัวเอง
                  คือคุณหรือเปล่าที่ซ้อนท้ายบิ๊กไบค์ผมในวันวาน
                  คือคุณหรือเปล่าที่ผมพร้อมจะฝากทุกๆอย่างเอาไว้
                  คือคุณหรือเปล่าที่ไม่เคยทิ้งผมไปไหน…”
   

                  ทั้งสนามเงียบมาก มันเงียบจนได้ยินเสียงลมพัดผ่าน และเสียงลมหายใจ
   

                  “คุณ คุณใช่มั้ยที่คอยเป็นห่วงผมตลอด”
                  “…”
                  “คุณ คุณใช่มั้ยที่อยากอยู่เคียงคู่กัน”
                  “…”
                  “คุณ คุณใช่มั้ยที่อยากจับมือผมตลอดไป”
                  “…”
                  “คุณ คุณครับ คุณใช่มั้ย…”
                  “…”
   


                  “ที่เป็นแฟนกัน”
   

                  กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
                  กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
                  กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

   


                  {เป็นแฟนกันนะ}
   


                  ประโยคนี้คนบนเวทีเบนไมค์ออกจากปาก พูดให้เขาได้ยินคนเดียว
                  เขาเองก็บอกให้มันได้ยินคนเดียวเช่นกันว่า…
                  “ตกลง”





THE END......................................

ปาดเหงื่อและขอกราบแทบเท้าคนอ่านทุกท่านที่ทำให้ค้างเติ่งมานาน
จบได้แล้วซะที

พาร์ทความรู้สึกของเราจะตามมาเร็วๆนี้เน้อ
พร้อม facts about #เคียงเดือน
เร็วๆนี้.

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ fahsida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ฮือเป็นแฟนกันแล้ว ดีใจ แต่เสียใจที่จบ ขอบคุณนะคะที่แต่งมาให้ได้อ่าน ให้ได้รู้ตักเดือนกับเคียงกาย

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
โอ้ยยยยยย​ จบแล้วอ่ะ​ ยังอยากรู้จากนี้ต่อไปอยู่เลยค่ะว่าเค้าจะหวานขนาดไหนกัน​ รักเคียงกายผองเพื่อนและเดือนก็น่ารักค่ะ​ ขอบคุณ​สำห​รับ​นิยายอมยิ้มเรื่องนี้ด้วยนะคะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
แงงงงง จบแล้วหรอ อยากให้มีต่ออีกนิดจังเลย

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เดือนเอาความโรเมนติกมาไว้ในตอนจบนี่เอง

ออฟไลน์ Zalalalanla

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อยากให้ต่ออีกๆๆๆๆ :ling1:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เจร้าาาาา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไชโยๆๆๆๆ............ ฮือๆ........... บรรลุแล้ว  :hao5: :sad4: :heaven
ไรท์ จบได้สวยงามมากกกกกกกก   :o8: :-[  :impress2:

คนที่ไม่ชัดเจน ก็ประกาศรักผ่านไมค์ออกลำโพง ต่อหน้าสาธารณชน  :z3:
ยอดเยี่ยมมาก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ขอตอนพิเศษที่เดือนจู๋จี๋กับเคียงกายนะ นะ นะ   :z3:

เดือน เคียงกาย   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
จบแล้ววว สนุกมากครับ,,,

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
เค้าเป็นแฟนกันแล้ววว..... o13

ออฟไลน์ MewSN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +234/-4
Facts About #เคียงเดือน




                  1. เคียงเดือนเปิดเรื่องเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2559 และปิดเรื่องเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 รวมระยะเวลาแบบประมาณคือใช้เวลาแต่งทั้งหมด 3 ปี
                  
                  2. เคียงเดือนเคยลงห่างกันมากที่สุดครึ่งปี
                  
                  3. เป็นเรื่องที่พระเอกโดนด่าเยอะที่สุด #555
   
                  4. ช่วงดราม่าในนิยายเรื่องนี้ ตรงกับช่วงที่เราเครียดที่สุดในชีวิตมหา’ลัย นิยายจากแนวฟีลกู๊ดเลยหันเหทิศทางแบบกู่ไม่กลับทันที
   
                  5. ความจริงเคยคิดจะโละเรื่องนี้ทิ้ง แต่พอเปิดใน Recycle Bin แล้วตัดใจทิ้งไม่ลง
   
                  6. ระหว่างเขียนเคียงเดือนเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากมัธยมปลายสู่มหา’ลัยปีหนึ่ง ทำให้เนื้อหาอาจไม่ต่อกันในด้านความคิด เพราะช่วงนั้นหนักหน่วงจริงๆค่ะ ทั้งรับน้อง ทั้งงานเมเจอร์ ไหนจะต้องแบ่งมาเวลาเรียน โอ้โหชีวิตนางซินมากๆค่ะ
   
                  7. เคียงเดือนจะมีหนังสือเร็วๆนี้ค่ะ (แต่ไม่รู้เมื่อไหร่) รอติดตามกันนะคะ
   
                  8. บางทีมีช่วงที่เราน้อยใจเพราะคอมเม้นต์น้อยลงบ้าง คนอ่านหายไปบ้าง ไม่มีกำลังใจเขียนบ้าง ทำให้ต้องใช้เวลาเขียนจนจบนานขนาดนี้ ขอโทษด้วยนะคะ
   
                  9. พี่ของเคียงกาย ชื่อว่าเคียงคู่ ซึ่งเป็นตัวละครเอกในเรื่องลองรักนะคะ เป็นเรื่องสั้นที่มิวตีพิมพ์กับ 2U Publishing เมื่อปีที่แล้ว (ช่วงขายของ 555)
   
                  10. เราคิดว่าตัวร้ายที่โผล่มาในเรื่องนี้เป็นเพียงสีสันของชีวิต ที่เราต้องเจอแต่ไม่ได้เป็นเหมือนในละคร ที่ต้องแก้ปม
   
                  11. สุดท้ายนี้อยากถามความรู้สึกของคนอ่าน ที่รู้สึกยังไง กว่ามหากาพย์เรื่องนี้ที่ใช้เวลาสามปีจะจบลงจนได้ 555

   
                  ด้วยรัก MewSN



***แล้วพบกันในหนังสือนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด