ผมหอบของพรุงพรังเข้ามาในบ้าน
พ่อแม่พี่น้องทุกคนดูงงเป็นไก่ตาแตกว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายตัวเอง
หอบของยังกับคนบ้าหอบฟาง แถมตายังทั้งแดงและบวมอีก
“นี่ ที ไปโดยใครข่มขืมมารึป่าว”พี่สาวปากเสีย
“ที เป็นอะไรไปลูก”แม่รีบเดินเข้ามาหา
“ผมเหนื่อยขอขึ้นไปพักก่อนนะ”ผมบอกทุกคน พร้อมกับเดินขึ้นห้องตัวเอง
ล้มตัวลงนอน นึกทบทวนเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา
ระหว่างผมกับโออีกครั้ง
นี้มันเรื่องบ้าอะไร
ผมหลับมันไปทั้งอย่างนั้นแหละครับ นอนไม่ค่อยหลับมาหลายคืนแล้ว
เช้าวันนี้ผมไม่อยากไปที่คณะเลยครับ
แต่ยังงัยก็ต้องไป เพราะว่าช่วงบ่ายของวันนี้จะเป็นวัน present งาน
ในที่สุดผมก็พาร่างของผมมาถึงคณะจนได้
มาถึงผมก็ตรงเข้าห้องงที่ต้องpresent แล้วก็เดินไปนั่งร่วมกลุ่มกับเพื่อนๆ
ที่มีทั้งบอยแล้วไอ้โอนั่งอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
ไอ้โอมองหน้าผมสักพักแล้วก็หันหน้ากลับไป
บอยเองก็มองหน้าผมแปลกๆ
“มาแล้วหรอ”บอยถามแบบไม่มีสมอง ถามมาได้งัยว่ะ ก็เห็นๆอยู่ นี่ผมพาลใช่มั้ยเนี้ย
“อืม”ตอบไปเซ็งๆ วันนี้ไม่รู้ทำไม รู้สึกตะหงิดๆ กับบอย
“แล้วเมื่อคืนไปนอนไหนมา”บอยถามต่อ
“ก็บ้านงัย จะให้ไปนอนไหนล่ะ”ชักหงุดหงิด นี่ผมเป็นอะไรเนี้ย ทำไมไปหงุดหงิดใส่บอย บอยหันหน้าไปคุยกับคนอื่นต่อ เพราะคงเห็นว่าผมไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่
บรรยากาศการ present โคตรน่าเบื่อ
ไม่มีอะไรน่าเบื่อไปกว่านี้อีกแล้ว
กลุ่มผม ไอ้โอเป็นคนpresent ครับ
เพราะว่าเมื่อวานที่นัดทำรายงานมันไม่มา เพราะฉะนั้นมันรับผิดชอบไป
หลังจากที่ทุกกลุ่มpresent เสร็จ ห้องเรียนก็กลับมาวุ่นวายอีกครั้ง
ผมเลยเลี่ยงออกมาเข้าห้องน้ำ
แต่ก่อนจะเข้าห้องน้ำผมก็ได้ยินเสียงของคนสองคนคุยกัน
เสียงทั้งสองคนนั้นผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“เป็นงัย ซะใจมึงยัง”เสียงคนที่ผมเคยแอบชอบตั้งแต่แรกเห็นพูดขึ้น แน่นอนไอ้บอย
“อืม แต่กูสงสารมันว่ะตอนนี้”เสียงนึงที่ทำให้ผมเป็นบ้าตอนนี้ตอบไป คนนี้ก็ไอ้โอ
“แต่แผนมึงเนี้ย มันแรงไปว่ะ” กูสงสารมัน โอพูดต่อ
“อ้าว งัยมาด่ากูอย่างงี้ว่ะ ไหนบอกจะแก้แค้นมันไง ตอนนั้นก็เห็นชอบกับกู แล้วตอนนี้งัยมาสงสารมันว่ะ หรือว่ามึงชอบมันเหมือนกัน”บอยพูดต่อ
“แต่ แต่กูสงสารไอ้ทีมัน กูไม่คิดว่ามันจะชอบกูขึ้นมาจริงๆ”หลังจากคำพูดของโอ
ตอนนั้นใจของผมมันเหมือนถูกอะไรสักอย่างบีบ
มันทรมารมาก
ทั้งหมดเป็นแผน แผนที่สองคนนี้วางแผนแก้แค้นผม
เพราะอะไร?
“แล้วมึงจะเอายังงัยต่อไปว่ะ โอ”บอยพูดต่อ
“มึงจะให้กูทำไง ก็มึงเป็นคนคิดแผนขึ้นมา”ไอ้โอเฉลยหมด
บอย คนที่ผมคิดว่าเป็นสุภาพบุรุษ
บอยที่เป็นเพื่อนที่ดีกับผมมาตลอด
บอยคนที่แสดงความห่วงใยและเข้าใจผมมาตลอด
กลับเป็นคนที่วางแผนนี้ขึ้นมาทั้งหมด
เป็นคนที่คิดทำร้ายผม ทำไม?
“อ้าว ก็มึงบอกว่าอยากแก้แค้นมัน ไม่ใช่หรอ แก้แค้นที่มันสาดน้ำลำไย ใส่มึง”สาดน้ำลำไย ใส่ เรื่องแค่นี้จริงๆ เรื่องแค่นี้จริงๆที่ ทำให้มันแค้นผมจนต้องทำกับแบบนี้
“ก็ใช่ แต่ตอนนั้นกูโมโหนี่หว่า แต่ตอนนี้ ตอนนี้”
“ตอนนี้ทำไมว่ะ หรือว่ามึงก็ชอบมันแล้วจริงๆ เวรแล้วมั้ยเนี้ย”บอยโวยวาย
“ป่าว แค่กูสงสารมัน”โอตอบไป
พอแล้ว พอทุกอย่าง ตอนนี้ผมเข้าใจเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นหมดแล้ว
ทั้งหมดมันคือการหลอกลวง มันคือแผนที่สร้างขึ้นให้ผมชอบโอแล้ว
แล้วก็เฉลยว่าทุกอย่างคือการหลอกลวง โดยมีบอยเป็นคนวางแผนทั้งหมด
นี่หรอชีวิตคนที่เป็นเกย์ ไว้ใจใครไม่ได้
แม้กระทั้งความรัก ยังเจอคนหลอกลวง
ผมทำอะไรผิด ผมผิดอะไร
แค่สาดน้ำลำไย น้ำลำไย
ดี ถ้าในเมื่อน้ำลำไย เป็นเหตุทั้งหมด ผมก็จะหยุดทุกอย่างด้วยน้ำ เหมือนกัน
ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำ หาถังน้ำมา
เปิดน้ำใส่ลงไป พร้อมกับ น้ำที่มาจากตัวผม ฉี่ ฉี่นั้นเอง
ผมฉี่ลงไป ตอนนี้น้ำในถังทั้งสี และก็กลิ่นกำลังใช้ได้เลยครับ
ผมเดินตรงไปที่ที่สองคนนั้นยืนอยู่
“งัย”ผมทักทั้งสองคน ด้วยน้ำเสียงที่ใครก็เดายากว่าผมคิดอะไรอยู่
“ที”ทั้งสองคนพูดออกมาพร้อมกัน
“ใช่ กูเอง เพราะสาดน้ำใช่มั้ย ทำให้มึงสองคนทำกับกูแบบนี้”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะที”ไอ้เหี้ยบอยพยายามเดินเข้ามา อธิบายกับผม
“อย่าเดินเข้ามา แล้วก็หุบปากซะ ถึงคราวกูพูดบ้าง”ผมตะคอกออกไปสุดเสียง
ผมหันไปมองหน้าไอ้โอ มันหลบตาผมทันที
“งัย ซะใจพวกมึงมั้ย ที่หักหลังกูได้ขนาดนี้ แผนมึงทั้งนั้นเลยสินะบอย ทำไมว่ะ
แค่กูสาดน้ำใส่เพื่อนมึง มันทำให้มันต้องวางแผนเหี้ยๆอย่างงี้กับกูเลยหรอว่ะ”
“เด๋ยวก่อนสิที ฟังเราก่อน”ไอ้บอยพยายามจะพูดอีก
“กูบอกให้หุบปากงัยไอ้บอย แค่ฟังเข้าใจมั้ย”
“งัย โอ มึงทำเสร็จตามที่เพื่อนมึงวางแผนไว้ซะด้วยสินะ
ทำให้กูชอบมึงจนได้ กูไม่น่าไปหลงเชื่อกับสิ่งที่มึงทำกับกูเลย
คำพูด การกระทำที่แสดงว่าห่วงกู ทำเอากูหลงเชื่อจริงๆว่า มึงคงจะคิดอะไรกับกุบ้าง
แต่ก็นะ ทั้งหมดมันเป็นการแสดง เป็นแค่การหลอกลวง”
“ที กูไม่...”
“กูบอกว่าไม่ต้องพูดงัย แค่ฟัง”ผมตวาดใส่โอ ที่พยายามจะพูดอะไรบางอย่าง
“กูขอพูดอะไรเป็นสิ่งสุดท้ายนะ กูบอกได้คำเดียวว่า พวกมึงทำกูแสบมาก
พวกมึงเหี้ยกับกูมาก แต่ก็นั้นแหละ กูโง่เอง โง่ให้พวกมึงหลอกกู
และนี้เป็นสิ่งสุดท้ายนะ ที่กูจะตอบแทนกับพวกมึง
สิ่งที่พวกมึงคิดว่าเป็นสาเหตุที่พวกมึงทำเหี้ยๆแบบนี้กับกู”พูดเสร็จผมก็สาดน้ำที่มีฉี่ผมปนอยู่ใส่พวกมันทั้งสองคน
“ต่อจากนี้ กูไม่เคยรู้จักกับพวกมึงสองคน”แล้วผมก็เดินหนีออกมาจากมัน
แค่สาดน้ำใส่ใส่มัน มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นได้หรอกครับ
ตอนนี้น้ำตาผมมันใหลออกมากแค่ไหนผมไม่รู้หรอก
รู้แต่ว่าตอนนี้ความรู้สึกที่มีมันว่างเปล่า มันไม่มีอะไรจะพูด
ไม่มีอะไรจะคิด
ผมเดินผ่านเพื่อนๆที่กำลังมุงอยู่กับอาจารย์
“ที จะไปไหนว่ะ”เพื่อนสักคนถามผม
“ที ไปกินข้าวป่ะ”เพื่อนอีกคนถามผมระหว่างเดินผ่าน
“ที เป็นไรว่ะ ร้องไห้ทำไม”เพื่อนคนสุดท้ายที่ผมเดินผ่าน ถามผม
ผมเดินออกมาจากที่แห่งนั้น
เดินออกมาจากบรรยากาศอย่างนั้น
เดินออกมาจากไอ้เหี้ยทั้งสองคนนั้น
.
.
.
.น้ำตาหยุดใหลเมื่อไหร่ไม่รู้
ผมมาถึงบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
ผมนั่งอยูกับพื้นที่ห้องเมื่อไหร่ไม่รู้
และตอนนี้ผม คิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ที แม่ให้มาตามไปกินข้าว”เสียงพี่สาวแสนดีตะโกนอยู่หน้าห้อง พร้อมกับเคาะประตูอย่างบ้าคลั่ง
ผมเดินออกไปเปิดประตูห้อง พร้อมกับร่างกายและจิตใจที่บอบช้ำ
“ที เป็นอะไร ใครทำอะไรเรา”พี่สาวผมเดินเข้ามา พร้อมกับแววตาและน้ำเสียงที่แฝงความห่วงใย
“....”ผมตอบอะไรไม่ได้ รู้แต่ว่าน้ำตามันใหลออกมาอีกแล้ว
“ที ร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรน้องพี่ บอกพี่มา”พี่สาวผมพยายามจะเช็ดน้ำตาให้ผม
“ทีเป็นอะไรลูก”แม่ผม แม่ผมเดินตามพี่สาวผมขึ้นมา และมาเห็นภาพที่ผมร้องไห้กับพี่สาว
“...”เสียงของแม่ทำให้ผมร้องไห้หนักกว่าเดิม
คนที่รักผมมากสองคน กำลังตกใจและเป็นห่วงผม
“ใครทำลูก เกิดอะไรขึ้น ที”แม่ผมเดินเข้ามาหาผมทันที พร้อมกับเช็ดน้ำตาให้ผม และก็ดึงผมเข้าไปสวมกอด
สักพักผมก็ได้ยินเสียงวิ่งขึ้นมาจากด้านล่าง
“เป็นไรกัน”น้องชายตัวดี ตะโกนลั่นบ้านเมื่อเห็นแม่กอดผม เห็นพี่สาวนั่งเอามือตบบ่าผมข้าง
“พี่ทีร้องไห้ทำไม”ไอ้น้องชายถาม
“ใครแกล้งพี่ที บอกมาเด๋ยว ทิวไปจัดการเอง”น้องชายผมทำห้าว
“ทีเป็นอะไรลูก”เสียงทุ้มๆ และใจดีของพ่อ พร้อมเดินเข้ามากอดผมไว้
ตอนนี้ผม แม่ พ่อกอดกันอยู่
พี่สาวก็เข้ามากอดอีกคน
ไอ้ทิวก็พยายามจะเข้ามากอดแต่ก็ได้แต่เอามือแบะไว้เพราะมันเข้ามาไม่ได้ มันตัวเล็ก
ตอนนี้ความรู้สักที่หายไป
ความรู้สึกที่หายไป
ความว่างเปล่าที่หายไป มันกลับมาเติมเต็มอีกครั้ง
ความห่วงจากครอบครัวของผม
สี่คนที่รักผมมากที่สุดสี่คนที่ไม่เคยหักหลังผม
สี่คนที่ไม่ว่าจะยังงัยก็รักผม
แค่คนสองคนที่มาเหี้ยใส่ผม
มันจะมาทำร้ายชีวิตผมไม่ได้หรอก
ผมเอามือเช็ดน้ำตาตัวเองอีกครั้ง
แล้วก็พูดออกไปกับทุกคนว่า
“ผมอึดอัดอ่า ร้อนด้วย”ผมพูดออกไปกับทุกคน
“บ้า”พี่สาวตัวดี สบถออกมา
“แล้วนี้เป็นอะไร”แม่ถามมาอีกรอบ
“เรียกร้องความสนใจ”ผมตอบไปแบบขำๆ
“ยังจะมาตลกอีก ลูกคนนี้”
“หิวข้าวอ่ะ”ผมพูดไปอีกครั้ง
“ไปๆๆ ลงไปกินข้าวได้ล่ะ”พ่อผมพูดพร้อมเดินลงนำหน้าไปก่อน
“ขี้แย่”ไอ้ทิว น้องชายตัวแสบ เหน็บ พูดเสร็จผมเดินตามพ่อลงไป
“อย่าลืมนะ ว่ามีพวกเรา”พี่สาวพูดอีกรอบก่อนเดินลงไป
ผมหันไปหอมแม่ “ไปกินข้าวกันเถอะแม่”
แล้วพวกเราห้าคนก็กินข้าวด้วยกัน
.
.
.
.
.
ผมลาออกจากมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นไม่ถึงอาทิตย์ พร้อมไปข่นของที่ฝากที่ห้องย้ง
ผมบอกย้งถึงเรื่องที่จะย้ายไปเรียนต่อที่ต่างประเทศกับน้องชาย ผมโทรไปบอกกับพี่แมค
ว่าไม่ต้องรอผมหรอก ถ้าเรายังคู่กันจริงๆ เราคงได้เจอกันอีก
และขอบคุณที่อย่างน้อยพี่เค้าก็ไม่เคยคิดหลอกลวงผม
.
งัยล่ะครับ เรื่องความรักของผมมัน บัดซบมั้ยครับ
โดยหลอกให้รัก พอรัก ก็มารู้ว่าเป็นแผนแก้แค้นบ้าๆอีก
เรื่องของผมมันไม่ลงเอยด้วยดีเหมือนคนอื่นหรอกครับ
ผมแค่อยากจะแชร์ความรักในแบบของผม
ผมเคยอิจฉาทุกครั้งที่อ่านเรื่องของคนอื่นแล้วจบกันด้วยดี
เคยแต่ถามตัวเองว่าทำไม ทำไมว่ะ ทำไมต้องกุว่ะ
แต่ตอนนี้ผมเลิงถามตัวเองแล้วแหละครับ
ว่าทำไม
ผมว่าสักวัน ผมต้องเจอกับรักดีๆ
มันต้องมีคนของผมดิ
ใช่มั้ยครับ? (ไหนบอกเลิกถามแล้วงัย)
.
.
.ใช่สิ มันต้องใช่ มันต้องมีคนของเรา และก็รักดีๆ ผมเชื่อ
.
.
.
.
ตอนนี้ ผมยังอยู่ต่างประเทศ(ประเทศอะไรอย่างรู้เลย)
ปีหน้าผมจบแล้ว ไอ้เจ้าทิวก็จะจบม.ปลายที่นี้แล้ว
แล้วเจอกันเมืองไทย
จบครับ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านและเข้ามาเม้นให้นะครับ
ขอบคุณจริงๆ
ขอให้ทุกคนเจอรักดีๆ