เรือนหลังที่ 12
หลังจากวันนั้นที่จอมขวัญหายตัวไปคินตาก็พยายามตามหาอีกฝ่ายทุกที่ไม่ว่าจะเป็นแถวรอบวัดหรือที่บ้านแต่ทว่าหาเท่าไหร่ก็หาไม่พบ
เจอเพียงสร้อยคอเส้นเดียวที่ตกบนพื้นหญ้าซึ่งตรงแถวนั้นไม่มีบึงน้ำอะไรทั้งสิ้น
ทำให้คินตากินไม่ได้นอนไม่หลับพยามตามหาอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้ จนต้องกลับไปหาหลวงพ่อที่วัดอีกครั้งด้วยท่าทางร้อนใจ
"จอมขวัญกลับมาที่วัดบ้างหรือไม่ครับหลวงพ่อ"
"ไม่ได้กลับมาเลยโยม"
หลวงพ่อถอนหายใจอย่างเวทนาอีกฝ่ายทำให้คินตาทำสีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด
"ที่วัดก็ไม่มีแถมไม่ได้กลับบ้านอีกต่างหาก แล้วจอมขวัญจะไปอยู่ที่ไหนกัน"
"บางทีอาจจะอยู่ในที่ไกลแสนไกล"
หลวงพ่อพึมพัมอย่างแผ่วเบาก่อนจะหยิบบางอย่างออกจากถุงย่ามมากำเอาไว้พร้อมพึมพัมคาถาบางอย่างทำให้คินตามองด้วยความประหลาดใจ
"ยื่นข้อมือซ้ายมาซิ"
"ครับ?"
แม้จะงุนงงแต่คินตาก็ยอมยื่นข้อมือซ้ายไปด้านหน้าแต่โดยดีซึ่งหลวงพ่อก็บรรจงผูกสายสิญจน์ตรงข้อมือซ้ายพร้อมทั้งพึมพัมคาถาไปด้วยจนจบก่อนจะเป่าอย่างแผ่วเบาแต่ทำให้คินตาขนลุกไปหมด
"หลวงพ่อสายสิญจน์เส้นนี้ทำไมหรือครับ"
"ทางข้างหน้าอาจยากลำบากนัก เองห้ามถอดสายสิญจน์เส้นนี้เด็ดขาด"
หลวงพ่อจ้องมองมาด้วยสายตาจริงจัง
"เข้าใจไหม"
"ครับ"
คินตาตอบรับแต่ยังทำสีหน้ากังวลไม่หาย
"แต่ผมต้องทำยังไงถึงจะได้เจอจอมขวัญอีกครั้งล่ะครับหลวงพ่อ หลวงพ่อช่วยชี้แนะให้หน่อยได้ไหมครับ"
"เฮ้อ~"
หลวงพ่อถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบาก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้อีกฝ่ายนั้นงุนงง
"ของที่ล้ำค่าจะนำพาเจ้าไปพบกับโชคชะตา"
"คืออะไรหรือครับหลวงพ่อ"
คินตาไม่เข้าใจแต่ยังไม่ทันที่จะได้ถามอะไรเพิ่มเติมหลวงพ่อก็เข้าสู่สมาธิไปเสียแล้ว ทำให้คินตาตัดสินใจกราบลาแล้วเดินออกมาจากโบสถ์ด้วยความงุนงง
"หลวงพ่อหมายถึงอะไรกันนะ??"
คืนวันนั้นเองคินตาตัดสินใจมานอนที่บ้านของจอมขวัญเผื่อว่าอีกฝ่ายจะกลับมาบ้าน แต่ทว่ารอไปจนเกือบถึงเที่ยงคืนก็ไม่พบแม้แต่เงาของอีกฝ่ายทำให้คินตาถอนหายใจออกมาอย่างหนักอกหนักใจ
"แล้วจะไปหาจอมขวัญได้ที่ไหนเนี่ย"
ระหว่างที่กำลังเครียดอยู่นั้นดวงตาคมก็เหลือบไปเห็นสร้อยคอของอีกฝ่ายที่วางอยู่บนหัวเตียงกำลังส่องแสงสว่างเรืองรอง ซึ่งเป็นสร้อยคออันเดียวกันกับที่ถูกทิ้งไว้บนพื้นหญ้าคู่กันกับกล้องถ่ายรูป พร้อมกับเสียงหลวงพ่อที่ดังก้องขึ้นมาเสียงดัง
'ของที่ล้ำค่าจะนำพาเจ้าไปพบกับโชคชะตา' "สร้อยเส้นนี้จะพาเราไปหาจอมขวัญได้ไหมนะ"
คินตาเริ่มคิดจริงจังก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบสร้อยคอเส้นนั้นกุมเอาไว้แน่นพร้อมนึกถึงใบหน้าของจอมขวัญที่คิดถึงมาตลอด
'อยากเจอจอมขวัญอีกครั้ง' คิดได้เท่านั้นก่อนที่สติสุดท้ายจะดับวูบไปและรู้สึกเหมือนมีแรงอะไรบางบางอย่างกำลังดึงตนเองเข้าไปในสร้อยเส้นนั้น
ก่อนที่แสงสว่างจะดับลงพร้อมกับสร้อยเส้นงามที่หล่นลงไปอยู่บนเตียงและไฟทั้งบ้านที่ดับลงพร้อมกันอย่างน่าประหลาดใจ
ซึ่งภาพที่เห็นในนิมิตนั้นทำให้หลวงพ่อลืมตาขึ้นมามองแสงเทียนตรงหน้าด้วยแววตาที่ลำบากใจไม่น้อย
"โชคชะตาของพวกเจ้าได้เริ่มขึ้นแล้ว"
'ช่วย...ด้วย' "อืมมม..."
คินตานั้นลืมตาขึ้นมามองรอบกายด้วยความงุนงงเพราะตนเองยืนอยู่กลางป่า ก่อนจะเหมือนได้ยินเสียงคนร้องเรียกขอความช่วยเหลือดังมาจากอีกทางหนึ่ง
ทำให้คินตารีบวิ่งวิ่งตามเสียงไปเพื่อจะช่วยเหลือก็พบผู้ชายคนหนึ่งกำลังรังแกผู้หญิงอยู่แต่ดูไปดูมาดันหน้าตาเหมือนเพื่อนของเขาที่หายตัวไปเมื่อหลายเดือนที่แล้ว
"จอมขวัญ!"
เมื่อคิดได้อย่างนั้นคินตาจึงรีบวิ่งเข้าไปกระชากแสงหล้าให้ผละออกจากจอมขวัญแล้วลากมาต่อยเข้าไปที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างแรงหลายต่อหลายทีจนอีกฝ่ายสลบไป
ก่อนที่คินตาจะง้างหมัดเพื่อต่อยอีกครั้งก็ต้องชะงักค้างได้ยินเสียงคุ้นเคยของคนที่ตามหาเรียกชื่อตัวเองอย่างแผ่วเบา
"คินตา"
"หืม?"
คินตาหันไปมองด้วยสายตาที่เบิกตากว้างเมื่อเห็นใบหน้าสวยหวานที่คุ้นเคยแถมยังไว้ผมยาวและแต่งตัวผู้หญิงอีกต่างหาก
"จ...จอมขวัญจริงด้วย!?"
"คินตา!"
จอมขวัญตะโกนเรียกอีกฝ่ายอย่างดีใจทำให้คินตาผละออกจากร่างที่นอนสลบของแสงหล้าและตรงเข้ามาหาก่อนที่จะโดนจอมขวัญดึงเข้าไปกอดแน่นแล้วร้องไห้เสียงดังลั่น
"ฮืออ ฮึก! จอมคิดว่าจะไม่ได้เจอคินอีกแล้วนะเนี่ย ฮึก! จอมคิดถึงคินนะ ฮืออ~"
"ในที่สุดคินก็หาจอมจนเจอซักทีนะ รู้ไหมว่าคินเป็นห่วงจอมมากแค่ไหน"
คินตาลูบผมอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงมากยิ่งขึ้นจนหน้าแดงไปหมด แถมยิ่งตอนนี้อีกฝ่ายยังไว้ผมยาวแถมอยู่ในชุดผู้หญิงแบบนี้อีกทำให้คินตาสงสัยหลายอย่างจนเผลอหลุดพูดออกไป
"เกิดอะไรขึ้นน่ะจอม ทำไมจอมถึงมาที่นี่ได้ ทำไมตอนที่จอมหายไปคินถึงหาจอมไม่เจอ แล้วทำไมจอมถึงแต่งตัวเป็นผู้หญิงแบบนี้ด้วยล่ะ"
"เรื่องมันยาวน่ะคิน"
จอมขวัญยิ้มแห้งไม่รู้ว่าควรจะเริ่มเรื่องไหนอธิบายให้อีกฝ่ายฟังก่อนดีนะ แต่ทว่าต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงที่เริ่มคุ้นเคยตะโกนเรียกมาดังลั่น
"พาขวัญ!"
"เดี๋ยวจอมเล่าให้คินฟังทีหลังนะ"
จอมขวัญยังไม่พร้อมจะเล่าให้ฟังตอนนี้เพราะต้องเตรียมรับมือกับแทนกานต์ที่เดินเข้ามาหาด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง
ฝ่ายแทนกานต์เองนั้นพอเห็นจอมขวัญนั่งอยู่บนพื้นก็รีบวิ่งมาหาด้วยความเป็นห่วงก่อนจะขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังกอดผู้ชายคนอื่นแน่น จึงเผลอพูดเสียงไม่พอใจออกไปอย่างลืมตัว
"เจ้าปลอดภัยหรือไม่พาขวัญ แล้วชายผู้นี้คือใครกันเหตุใดจึงต้องกอดกันแน่นขนาดนั้น"
"เขาเป็นคนมาช่วยข้าไว้น่ะเจ้าค่ะ"
จอมขวัญตอบคำถามนั้นก่อนจะเผลอปล่อยมือออกจากคินตาในจังหวะที่แทนกานต์ยกมือขึ้นมาจับบริเวณแผลบริเวณหัวนั้นอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับห้ามเลือดให้อย่างเบามือแถมคิ้วยังขมวดจนแทบจะติดกัน
"ไอ้แสงหล้ามันทำเจ้าบาดเจ็บขนาดนี้ด้วยอย่างนั้นหรือ เจ็บมากหรือไม่"
"ข้าไม่เป็นไร...อย่าขมวดคิ้วซิเจ้าคะ"
จอมขวัญยกมือขึ้นไปจิ้มตรงหว่างคิ้วของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาทำให้แทนกานต์ได้โอกาสกุมมือนุ่มนิ่มนั้นแน่น ก่อนจะประคองจอมขวัญให้ลุกขึ้นยืนแล้วปัดเศษใบไม้ออกไปจากตัวให้อย่างอ่อนโยน
"แล้วหวานล่ะ...เห็นหวานบ้างไหม"
"ไม่ต้องกังวลข้าให้แสงดูแลนางอยู่ทางด้านนู้นน่ะ"
แทนกานต์ตอบพร้อมกับเหลือบมองแสงหล้าที่นอนสลบอยู่บนพื้นด้วยความคับแค้นใจ
"ไอ้แสงหล้า ข้าน่าจะฆ่ามันให้ตายนัก"
"อย่าเลยเจ้าค่ะ เรารีบไปหาหวานกันดีกว่า"
จอมขวัญรั้งแขนอีกฝ่ายเอาไว้แล้วรีบลากออกไปจากตรงนั้นโดยมีคินตาเดินตามหลังปล่อยให้แสงหล้านอนสลบอยู่เพียงคนเดียว
เมื่อลากอีกฝ่ายออกมาได้แล้วจอมขวัญจึงรีบเดินย้อนกลับมาทางเดิมด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะโล่งใจเพราะเห็นแสงคนรับใช้ของแทนกานต์กำลังปลดเชือกตรงข้อมือให้หวานอยู่ตรงใต้ต้นไม้ใหญ่
พอหวานเห็นจอมขวัญก็รีบวิ่งเข้ามาเกาะแขนเจ้านายของตนทันทีด้วยความตื่นกลัวและเป็นห่วง
"คุณหนูพาขวัญเป็นอะไรมากหรือไม่เจ้าคะ หวานตกใจแทบแย่ตอนที่เห็นคุณหนูโดนพาตัวไป"
"ข้าไม่เป็นอะไร แล้วเจ้าล่ะเป็นอะไรหรือไม่"
จอมขวัญสำรวจคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงก่อนที่หวานจะส่ายหน้าปฏิเสธแต่แอบแก้มแดงเมื่อพูดถึงคนที่ช่วยตนเอง
"หวานไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะคุณหนู โชคดียิ่งนักที่พี่แสงมาช่วยไว้ทัน"
"ดีแล้วล่ะ"
จอมขวัญถอนหายใจก่อนหันไปมองแทนกานต์ที่ยื่นจับมือตนเองไม่ยอมปล่อยแม้จะพยายามดึงมือออกก็ตาม
"ปล่อยมือข้าได้รึยังเจ้าคะคุณหลวง"
"ยัง"
แทนกานต์ทำหน้าตาบึ้งตึงก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว
"จนกว่าเจ้าจะยอมบอกข้าว่าผู้ชายคนนี้คือใคร"
"เรากลับไปคุยกันที่เรือนดีหรือไม่เจ้าคะ ข้าจะได้ทำแผลด้วย"
จอมขวัญพยายามเลี่ยงคำตอบซึ่งแทนกานต์ก็ตามใจอีกฝ่ายโดยการเอามือนุ่มนิ่มนั้นมาจับไว้แถมแน่นขึ้นกว่าเดิมแล้วพาเดินไปพร้อมกับตนเอง
"ถ้าอย่างนั้นเรากลับเรือนกันเถิด"
"อ...อืม เจ้าค่ะ"
จอมขวัญหน้าแดงก่อนจะยอมเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างง่ายดายโดยไม่ลืมที่จะหันไปชวนคินตาให้เดินตามมา
"ไปกันเถอะ"
"เอ่อ...เออ"
คินตาตอบรับอย่างงุนงงและเดินตามหลังด้วยความหงุดหงิดที่จอมขวัญไปสนิทกับคนอื่นนอกจากตนเอง
เมื่อลากอีกฝ่ายออกมาได้แล้วจอมขวัญจึงรีบเดินย้อนกลับมาทางเดิมด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะโล่งใจเพราะเห็นแสงคนรับใช้ของแทนกานต์กำลังปลดเชือกตรงข้อมือให้หวานอยู่ตรงใต้ต้นไม้ใหญ่
พอหวานเห็นจอมขวัญก็รีบวิ่งเข้ามาเกาะแขนเจ้านายของตนทันทีด้วยความตื่นกลัวและเป็นห่วง
"คุณหนูพาขวัญเป็นอะไรมากหรือไม่เจ้าคะ หวานตกใจแทบแย่ตอนที่เห็นคุณหนูโดนพาตัวไป"
"ข้าไม่เป็นอะไร แล้วเจ้าล่ะเป็นอะไรหรือไม่"
จอมขวัญสำรวจคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงก่อนที่หวานจะส่ายหน้าปฏิเสธแต่แอบแก้มแดงเมื่อพูดถึงคนที่ช่วยตนเอง
"หวานไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะคุณหนู โชคดียิ่งนักที่พี่แสงมาช่วยไว้ทัน"
"ดีแล้วล่ะ"
จอมขวัญถอนหายใจก่อนหันไปมองแทนกานต์ที่ยื่นจับมือตนเองไม่ยอมปล่อยแม้จะพยายามดึงมือออกก็ตาม
"ปล่อยมือข้าได้รึยังเจ้าคะคุณหลวง"
"ยัง"
แทนกานต์ทำหน้าตาบึ้งตึงก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว
"จนกว่าเจ้าจะยอมบอกข้าว่าผู้ชายคนนี้คือใคร"
"เรากลับไปคุยกันที่เรือนดีหรือไม่เจ้าคะ ข้าจะได้ทำแผลด้วย"
จอมขวัญพยายามเลี่ยงคำตอบซึ่งแทนกานต์ก็ตามใจอีกฝ่ายโดยการเอามือนุ่มนิ่มนั้นมาจับไว้แถมแน่นขึ้นกว่าเดิมแล้วพาเดินไปพร้อมกับตนเอง
"ถ้าอย่างนั้นเรากลับเรือนกันเถิด"
"อ...อืม เจ้าค่ะ"
จอมขวัญหน้าแดงก่อนจะยอมเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างง่ายดายโดยไม่ลืมที่จะหันไปชวนคินตาให้เดินตามมา
"ไปกันเถอะ"
"เอ่อ...เออ"
คินตาตอบรับอย่างงุนงงและเดินตามหลังด้วยความหงุดหงิดที่จอมขวัญไปสนิทกับคนอื่นนอกจากตนเอง
ทางฝั่งคุณหญิงพัณณิตาและท่านเจ้าคุณจอมทัพยื่นรออยู่ด้านล่างของเรือนเพราะนี่ก็ยามเย็นมากแล้วด้วยแต่ทั้งสองคนก็ยังไม่กลับมาทำให้คุณหญิงพัณณิตาใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นกังวลมาก
"ทำอย่างไรดีล่ะเจ้าคะคุณพี่ หากพาขวัญหลงทางกับแทนกานต์หรือหายตัวไปไม่กลับมาอีกล่ะ"
"อย่าเพิ่งวิตกกังวลไปเลยแม่พัณ มีแทนกานต์ไปด้วยพาขวัญไม่เป็นอะไรหรอก"
จอมทัพปลอบใจอีกฝ่ายขัดกับภายในที่เป็นห่วงจอมขวัญมาก ก่อนที่เมืองจะวิ่งเข้ามารายงานด้วยใบหน้าและรอยยิ้มที่ยินดีมาก
"คุณหนูพาขวัญกับคุณหลวงแทนกานต์กลับมาแล้วขอครับ"
"จริงหรืออ้ายเมือง"
พัณณิตาดีใจรีบเดินออกไปก่อนอย่างรีบร้อนโดยที่มีจอมทัพเดินตามมาด้านหลังไม่ห่างด้วยความโล่งอก
พอถึงหน้าสะพานขึ้นเรือนพัณณิตาก็ตรงเข้าไปกอดจอมขวัญทั้นทีพร้อมกับร้องไห้ฟูมฟายทำให้แทนกานต์ต้องยอมปลอยมือออกมาอย่างเสียดาย
"ฮึก! พาขวัญหายไปไหนมานานสองนานล่ะลูก แม่เป็นห่วงเจ้าแทบแย่"
"ลูกกลับมาแล้ว อย่าร้องไห้ซิเจ้าคะคุณแม่"
จอมขวัญยกมือขึ้นมากอดเอวของอีกฝ่ายกลับอย่างออดอ้อนก่อนจะสะดุ้งเมื่อจอมทัพยื่นมือมาจับตรงแผลบนศีรษะของตนเองด้วยความกังวลใจ
"เลือดออกด้วย เกิดอะไรกันขึ้นหรือพาขวัญ"
"พาขวัญบาดเจ็บด้วยหรอลูก"
พัณณิตาถามด้วยน้ำเสียงแตกตื่นพร้อมกับจ้องมองมองบาดแผลตรงหน้าผากของลูกด้วยอาการเป็นกังวล
"ตายแล้ว!!! แผลใหญ่เชียวรีบขึ้นเรือนกันเถิดเดี๋ยวแม่พาไปทำแผล...นี่นังพริ้ม!!"
"เจ้าคะนายแม่"
พริ้มพรายสะดุ้งสุดตัวเมื่อพัณณิตาหันมาทำเสียงดังใส่ตนเองด้วยท่าทางรีบร้อนและเอาแต่ใจ
"นังพริ้มเองรีบให้บ่าวไพร่ตระเตรียมยาให้ลูกข้าเดี๋ยวนี้เลย!!!"
"เจ้าค่ะนายแม่"
พริ้มพรายรีบวิ่งขึ้นไปบนเรือนพร้อมบ่าวจำนวนหนึ่งด้วยความเร่งรีบเพื่อไปเตรียมยาสำหรับการทำแผล ส่วนพัณณิตาหันมาลูบผมอย่างอ่อนโยนแล้วรีบประคองลูกตัวเองขึ้นเรือนด้วยความเป็นห่วง
"ใกล้ค่ำแล้วอากาศเริ่มเย็นรีบขึ้นไปบนเรือนกันเถิดลูก"
พัณณิตาชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันไปชวนแทนกานต์ด้วยน้ำเสียงที่เอ็นดู
"พ่อแทนก็ขึ้นมาด้วยกันนะ ป้ามีหลายเรื่องที่ต้องถามเยอะเลย"
"ขอรับคุณป้า"
แทนกานต์ไม่ปฏิเสธพร้อมกับเดินตามหลังท่านเจ้าคุณขึ้นไปบนเรือนและปิดท้ายด้วยคินตาที่เดินขึ้นเรือนมาพร้อมกับบ่าวรับใช้
เมื่อขึ้นมาบนเรือนแล้วพัณณิตาก็รีบหาผ้าสะอาดมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวลูกสาวของตนที่มีแผลถลอกเต็มไปหมดทำให้อดที่จะบ่นออกมาไม่ได้
"เจ็บมาไหมพาขวัญ ดูซิมีแผลเต็มไปหมดเลย"
"ลูกไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะคุณแม่"
จอมขวัญส่ายหน้าพร้อมยิ้มหวานให้อย่างเอาใจแต่ไม่ได้ทำให้พัณณิตาหายกังวลเลยซักนิดเดียว
ยิ่งเมื่อท่านเจ้าคุณจอมทัพเห็นบาดแผลของจอมขวัญที่ไม่ได้มีแค่ตรงหัวแต่มีลอยถลอกไปทั่วหลายจุด ทำให้รีบหันไปถามแทนกานต์ด้วยสายตาที่คาดคั้นและเต็มไปด้วยความโมโห
"มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นหะพ่อแทน ทำไมแม่พาขวัญถึงบาดเจ็บกลับมาแบบนี้"
"พาขวัญ..."
แทนกานต์เว้นจังหวะเล็กน้อยก่อนจะเหลือบไปมองคนตัวเล็กที่ส่ายหน้าอย่างห้ามปราม แต่พอเห็นสายตาของผู้ใหญ่ทั้งสองที่มองอย่างคาดคั้นแล้วจึงตอบคำถามอย่างจำใจ
"โดนฉุดขอรับ"
"ตายแล้ว!"
พัณณิตายกมือขึ้นมาแทบหน้าอกลมแทบจับ
"แต่พาขวัญไปกับพ่อแทนไม่ใช่หรือแล้วไปโดนฉุดได้อย่างไรกัน"
"เราสองคนหลงทางกันที่ตลาดขอรับ ส่วนใครมาฉุดนั้นข้าเองก็ไม่อยากพูด"
แทนกานต์กำมือแน่นพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองไม่ให้โกรธไปมากกว่าเดิม
"ให้พาขวัญตอบเองเถิดขอครับ"
"เรื่องเป็นไงมาไงรีบบอกมาซิลูก"
พัณณิตาถามอย่างร้อนใจไม่ต่างกับจอมทัพที่เริ่มหงุดหงิด
"ตอบมาซิลูก"
"ลูก...คือลูก..."
จอมขวัญอึกอักอยู่อย่างนั้นจนพัณณิตาต้องหันไปถามหวานที่กำลังนั่งห่อลูกประคบอยู่ด้านหลังลูกของตนเองด้วยสายตาที่คาดคั้น
"นังหวาน! เองบอกข้ามาซิว่าใครเป็นคนฉุดลูกสาวข้า"
"คือ..."
หวานชะงักเมื่อจอมขวัญส่งสายตามาอย่างห้ามปรามทำให้จอมทัพขมวดคิ้วแล้วจ้องไปยังแสงที่หมอบอยู่ด้านหลังนายของตนเอง
"อ้ายแสง เองมานี้ซิ"
"ขอรับ"
แสงรับคำพร้อมคลานออกมาด้านหน้าด้วยท่าทางที่เงอะงะเล็กน้อยพร้อมก้มหน้าลงไปแทบจะติดพื้น
"เองเห็นคนร้ายที่ฉุดลูกสาวข้าไปหรือไม่"
"เห็นขอรับคุณหลวง"
คำถามนั้นทำให้แสงตอบไปตามความจริงตามประสาคนซื่อ
"ตอนที่กระผมเข้าไปช่วยแม่หวานนั้น กระผมเห็นเป็นคนรับใช้ของท่านหมื่นแสงหล้าขอครับ"
"คนของแสงหล้าอย่างนั้นหรือ?"
จอมทัพเริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจพร้อมกับจ้องมองไปทางจอมขวัญที่เริ่มหลบสายตาตนเองอย่างกลัวความผิด
"พาขวัญตอบพ่อมาตามตรง แสงหล้าเป็นคนทำร้ายและลักพาตัวลูกไปใช่หรือไม่"
"เจ้าค่ะคุณพ่อ"
จอมขวัญตอบรับอย่างจำใจทำให้จอมทัพโมโหอย่างหนักจนขนาดกระทืบเท้าอย่างแรงจนเสียงดังลั่นไปทั้งเรือน
"บังอาจนัก! นึกว่าเป็นลูกของเจ้าพระยาอาทิตย์ฝ่ายการทหารแล้วจักทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ พ่อมันก็ร้ายเหลือเกินมิรู้จักห้ามปรามลูกของมันบ้างซักเรื่องเดียว"
"ใจเย็นลงก่อนเถิดเจ้าค่ะคุณพี่"
พัณณิตายื่นมือไปจับตรงแขนของท่านเจ้าคุณก่อนจะหันไปรับน้ำเย็นจากพริ้มพรายมายื่นให้คนที่กำลังโมโหจัดอย่างเอาใจ
"ดื่มน้ำก่อนเถิดเจ้าค่ะจะได้ใจเย็นลง"
"ขอบใจนะแม่พัณ"
จอมทัพยอมดื่มน้ำเย็นในขันใบนั้นก่อนที่มองไปยังใบหน้าของจอมขวัญอย่างอ่อนใจ
"แต่ตอนนี้เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยก็ถือว่าดีมากแล้วล่ะพาขวัญ"
"เจ้าค่ะคุณพ่อ"
จอมขวัญยิ้มหวานให้อย่างเอาใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายหายโกรธลงมานิดหน่อย ก่อนที่แทนกานต์จะเหลือบมองไปยังคินตาที่นั่งอยู่ตรงพื้นข้างล่างตรงด้านหลังเมืองด้วยสายตาจับผิด
"พาขวัญยังไม่ได้บอกข้าเลยนะว่าไปรู้จักมักจี่กับผู้ชายคนนี้ตอนไหน"
"ผู้ชายคนนี้ชื่อ คินตา เขาเป็นคนช่วยข้าเอาไว้"
จอมขวัญตอบพร้อมกับหลับตาลงเมื่อหวานเอาลูกประคบมาประคบบริเวณแผลของตนเอง แต่แทนกานต์ยังขมวดคิ้วมากขึ้นเพราะตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความหึงหวง
"คนที่ช่วยชีวิตเอาไว้ต้องสนิทสนมขนาดรู้จักชื่อเสียงเรียงรามแล้วถึงขั้นต้องเดินจับมือกันด้วยหรือ"
"ข้ารู้จักคินตามาก่อนแล้ว"
จอมขวัญมองไปทางอื่นเล็กน้อยราวกับกำลังคิดคำตอบ
"คินตาคือ..."
"หลานชายของลุงเองแหละพ่อแทน"
จอมทัพพูดขึ้นมาทำให้ทั้งหมดต้องหันไปมองด้วยความแปลกใจ พัณณิตายกพัดขึ้นมาโบกด้วยพร้อมจ้องหน้าคินตาที่นั่งอยู่ตรงพื้นด้วยความสงสัย
"เรามีหลานชายตอนไหนกันหรือเจ้าคะคุณพี่ ญาติฝ่ายน้องรึก็ไม่มีชื่อนี้หรือจะเป็นญาติของคุณพี่กันเจ้าคะ"
"ลูกชายของแม่กิ่งแก้วน่ะ เจ้าจำแม่กิ่งแก้วได้หรือไม่แม่พัณ"
จอมทัพหันไปถามพัณณิตาที่ทำท่าทางคิดหนักแล้วหันไปยิ้มตรงมุมปากให้จอมขวัญที่ยิ้มหวานมาให้อย่างเอาใจ
"แม่กิ่งแก้ว? กิ่งแก้ว...อ๋อ! แม่กิ่งแก้วน้องสาวคนสุดท้ายของคุณพี่ที่อยู่ลพบุรีใช่หรือไม่เจ้าคะ โอ้! โตเป็นหนุ่มขนาดนี้เชียวรึ"
พิณณิตายิ้มหวานพร้อมกับกวักมือเรียกคินตาที่นั่งอยู่ด้านหลังของเมืองด้วยสายตาเอ็นดู
"ไหนมาหาป้าซิลูก"
"เอ่อ...ขอรับ"
คินตาลุกขึ้นเดินไปนั่งลงตรงหน้าของพัณณิตาด้วยความงุนงงพร้อมกับไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนตรงหน้าอย่างนอบน้อม
"สวัสดีขอรับคุณลุง คุณป้า"
"ชื่อคินตาใช่ไหม"
พัณณิตายิ้มหวานก่อนจะลูยผมคนตรงหน้าด้วยความเอ็นดู
"แล้วนี่แม่กิ่งแก้วสบายดี หรือไม่จ๊ะ"
"เอ่อ...สบายดีขอรับ คุณแม่ฝากความคิดถึงมาถึงคุณลุงคุณป้าด้วยนะขอรับ"
คินตาสวมรอยเป็นหลานชายท่านเจ้าคุณอย่างแนบเนียนสมกับที่เรียนการแสดงมาจนจอมขวัญแอบอมยิ้มพร้อมจ้องมองใบหน้าแทนกานต์ที่นิ่งไปด้วยสายตาขบขัน
"ไม่ทราบว่าคุณหลวงมีเรื่องอะไรสงสัยอะไรอีกหรือไม่เจ้าคะ"
"หากเป็นเช่นนั้นข้าเองก็สบายใจที่รู้ว่าคู่หมั้นคู่หมายของข้าไม่ได้มีใจไปให้ชายอื่น"
แทนกานต์กระตุกยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนอย่างนอบน้อม
"นี่ก็ดึกมากแล้วข้าขอลาก่อนขอรับคุณลุง คุณป้า"
"เดินทางกลับโดยปลอดภัยนะพ่อแทน"
จอมทัพพยักหน้าก่อนจะยกน้ำขึ้นมาดื่มแล้วต้องสำลักเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของพัณณิตาที่หันไปคะยั้นคะยอลูกตนเอง
"พาขวัญ เดินออกไปส่งพี่เขาซิลูก"
"เจ้าค่ะคุณแม่"
จอมขวัญยิ้มแห้งพร้อมจ้องไปยังแทนกานต์ที่เหยียดยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจจนอดที่จะหมั้นไส้ไม่ได้
"นั่งยิ้มทำไมเจ้าคะ คุณหลวงรีบกลับเรือนไม่ใช่หรือ"
"เสียมารยาทน่ะพาขวัญ"
พัณณิตาดุลูกตนเองแต่แทนกานต์ห้ามเอาไว้ซะก่อนพร้อมกับลุกชึ้นยืนแล้วไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองอีกครั้ง
"อย่าดุเลยครับคุณป้า ข้าลาขอครับ"
"เดี๋ยวลูกมานะเจ้าคะ"
จอมขวัญแกล้งยิ้มหวานแล้วเดินลงเรือนไปพร้อมกันกับแทนกานต์ที่ยกมือขึ้นมาโอบไหล่บอบบางนั่นพร้อมกับหันไปแสยะยิ้มเยาะเย้ยคินตาที่นั่งอยู่ข้างจอมทัพแล้วจึงหันกลับมายิ้มกว้างให้กับจอมขวัญที่ตอนนี้ทำตาโตจนแทบจะแยกเขี้ยวใส่ท่ามกลางพัณณิตาที่ยกพักขึ้นมาพัดอย่างปลื้มอกปลื้มใจ
"คุณพี่ว่าเด็กสองคนนี้ดูแปลกไปไหมเจ้า"
"ทำไมรึแม่พัณ" จอมทัพขมวดคิ้วแน่น "พี่ก็ไม่เห็นทั้งสองจะแปลกอะไรตรงไหนเลย"
"แปลกซิเจ้าคะเพราะยิ่งนานวันทั้งสองคนยิ่งเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยกเลยนะเจ้าคะคุณพี่ น้องล่ะอยากจะให้ถึงวันที่ลูกสาวของเราจะได้ออกเรือนซักที"
พัณณิตายิ้มกว้างก่อนจะหันไปสั่งคนรับใช้ที่อยู่ด้านหลังด้วยความกระตือรือร้น
"นังพริ้ม พรุ่งนี้เตรียมเรือให้ข้าที ข้าจะไปที่เรือนท่านเจ้าคุณแทนนิษฐ์ จะไปคุยกับแม่รินเรื่องฤกษ์แต่งงานอย่างจริงจังเสียที"
"เจ้าค่ะนายแม่"
พริ้มพรายรีบตอบรับทันทีก่อนจะเดินตามพัณณิตาที่รีบเข้าห้องนอนไม่อยู่ฟังเสียงบ่นของจอมทัพที่เริ่มเหนื่อยจะห้ามปราม
"แม่พัณนะแม่พัณ ทำไมถึงอยากเร่งรัดให้ลูกแต่งงานนักนะ"
"แต่งงานอะไรกันขอรับท่านเจ้าคุณ"
คินตากระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคนทำให้จอมทัพหันมามองด้วยสีหน้าท่าทางที่ลำบากใจ
"ไว้เจ้าไปถามกับจอมขวัญเองเถิด"
"ขอรับ"
คินตารับคำพร้อมกับมองไปยังแถวบันไดหน้าเรือนด้วยท่าทางที่เป็นห่วงหมายมั่นจะถามเรื่องที่เกิดขึ้นและต้องรู้เรื่องทุกอย่างให้ละเอียดเลย
พอลงมาด้านล่างพ้นจากสายตาของบ่าวรับใช้บนเรือนแล้วจอมขวัญก็รีบสะบัดตัวออกจากมือของแทนกานต์พร้อมกับทำหน้าตาไม่พอใจใส่คนที่ทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้
"โอบทำไมเจ้าคะ"
"ข้าโอบไม่ได้หรือ?"
แทนกานต์ขมวดคิ้วพร้อมกับจ้องตาอีกฝ่ายด้วยสายตาเริ่มกวนประสาท
"ข้าเป็นคู่หมั้นของเจ้านะ"
"คู่หมั้นของพาขวัญ ไม่ใช่คู่หมั้นของข้าซักหน่อย"
จอมขวัญขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับเชิดหน้าใส่อีกฝ่ายด้วยความแง่งอน ก่อนจะสะดุ้งเมื่อแทนกานต์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แบบไม่ทันตั้งตัว
"ไม่ว่าจะพาขวัญหรือจอมขวัญก็จะต้องหมั้นหมายและออกเรือนกับข้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกนะ"
"กลับเรือนไปเลยไป...ข้าจะพักผ่อน"
จอมขวัญพลักอีกฝ่ายให้ออกไปจากตนเองด้วยใบหน้าที่เริ่มแดงก่ำเพราะเขินกับคำพูดของอีกฝ่ายก่อนจะชะงักเมื่อแทนกานต์ยกมือขึ้นมาลูบบริเวณแผลของตนเองอย่างอ่อนโยนและเบามือมาก
"รักษาตัวเองด้วยนะจอมขวัญ ข้าคงจะทนไม่ได้ถ้าหากเห็นเจ้าต้องมาเจ็บตัวอย่างนี้อีก"
"เจ้าค่ะคุณหลวง"
จอมขวัญตอบรับด้วยท่าทางว่านอนสอนง่ายแถมแก้มนั้นเริ่มแดงทำให้แทนกานต์เหยียดยิ้มออกมาพร้อมกับแอบหอมแก้มนุ่มนิ่มน่าหมั่นเขี้ยวนั่นไปเต็มปอด
"ถ้าเช่นนั้นข้าขอกลับเรือนก่อนนะจอมขวัญ"
ฟอด!
"อ๊ะ! คนฉวยโอกาส"
จอมขวัญหันไปโวยวายใส่ด้วยความแง่งอน
"รีบกลับเรือนไปได้แล้วเจ้าค่ะ"
"แล้วพรุ่งนี้ข้าจะมาเยี่ยมเจ้า"
แทนกานต์อมยิ้มพร้อมมองอีกฝ่ายด้วยสายตากรุ่มกริ่ม
"รอข้าด้วยนะเข้าใจไหม"
"เจ้าค่ะ!"
จอมขวัญตอบรับด้วยความรำคาญ
"ไปซักทีซิเจ้าคะ"
"ข้าลาล่ะ อย่าลืมฝันถึงข้าด้วยนะแม่จอมขวัญ"
แทนกานต์หัวเราะในลำคอแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วปล่อยให้จอมขวัญยืนกุมแก้มข้างที่โดนหอมด้วยใบหน้าที่แดงก่ำพร้อมหัวใจที่เต้นแรงไม่หยุด ท่ามกลางสายตาของหวานที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ส่งสายตาให้คุณหนูของตนเองอย่างเอ็นดู
"คุณหนูหน้าแดงไปหมดเลยนะเจ้าคะ"
"อากาศมันร้อนน่ะหวาน"
จอมขวัญทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทำให้หวานอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
"แต่หวานว่าอากาศเย็นดีออกนะเจ้าคะไม่เห็นร้อนตรงไหนเลย"
"เอ่อ..."
จอมขวัญชะงักพร้อมกับทำหน้างอลงเล็กน้อยอย่างขัดใจ
"สงสัยข้าคงจะไม่สบาย"
"หวานรู้แล้วเจ้าค่ะว่าคุณหนูเป็นโรคอะไร"
หวานอมยิ้มพร้อมมองคนตรงหน้าด้วยสายตาพราวระยับเต็มไปด้วยความล้อเลียน
"โรคเขินอาย อาการเริ่มต้นของคนตกหลุมรักเจ้าค่ะ"
"หวาน!!!"
จอมขวัญหน้าแดงจัดพร้อมสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความแง่งอน
"ข้าจะขึ้นเรือนแล้ว"
"รอหวานด้วยซิเจ้าคะคุณหนู"
หวานรีบเร่งฝีเท้าตามเจ้านายตนเองที่เดินหนีขึ้นไปบนเรือนด้วยความแง่งอน
*************
มีต่อค่ะ
*************