หลังจากเหตุการณ์ประหลาดหลายอย่างที่เกิดขึ้นในห้อง สิงหาไม่ได้นิ่งนอนใจ ถึงเขาจะไม่ได้กลัวมากมายแต่การพบว่าห้องของตัวเองมีบางอย่างไม่ปกติก็ยังให้ความรู้สึกไม่ปลอดภัยกับเขา ตั้งแต่วันที่พบว่าโทรศัพท์ของเขาถ่ายตอนนอนไว้หลายรูป เขาก็เริ่มสังเกตสิ่งรอบตัวมากขึ้น ก่อนนอนพยายามวางโทรศัพท์ไว้แนวขวางเฉียงสี่สิบห้าองศาทุกครั้ง บางครั้งหลังตื่นพบว่ามันไม่ได้อยู่ตำแหน่งเดิม และในเครื่องมีรูปปริศนาโผล่ขึ้นมา นอกจากนั้นยังมีตู้ในห้องนั่งเล่นที่เปิดค้างไว้ แรกๆ เขานึกว่าบานพับแม่เหล็กไม่ดีหรือเขาเปิดแล้วลืมปิด แต่มันไม่ใช่ ทุกอย่างทำให้เขาตัดสินใจซื้อกล้องวงจรปิดมาติดเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“หอมจังเลยครับ มีอะไรให้ปิงช่วยมั้ย” น่านนทีเดินตามเข้าห้องก็ได้กลิ่นหอมของอาหารจนท้องเริ่มร้องก่อนเวลา
“กินตอนไหนดี ปิงหิวหรือยัง”
“ตอนนี้ก็คงเร็วไป สักสี่ห้าโมงเย็นก็ได้ครับ คุณยังไม่หิวใช่มั้ย”
“ยังครับ งั้นหาอะไรรองท้องก่อนมั้ย มีลูกชุบเหลือในตู้เย็น เอามั้ยครับ”
“ดีครับ ลูกชุบที่สั่งวันนั้นใช่มั้ย” น่านนทีเดินตามสิงหาไปถึงครัว มองถาดใส่ลูกชุบที่ตัวเองเป็นคนสั่งให้ วันนั้นสิงหาบอกให้สั่งกระเช้าขนมไทย เขาก็ไม่คิดว่าหนึ่งในนั้นจะมีสำหรับครอบครัวเขาด้วย จากที่เขาหัวเน่าอยู่แล้ว ตอนนี้ทั้งแม่ทั้งพ่อรุมกันปลื้มความมีน้ำใจของชายหนุ่มจนลูกแท้ๆ อยากโกนหัวทิ้งเพราะเหม็นหัวตัวเอง
“อร่อยดีนะ ผมเอาไปไหว้ผู้ใหญ่มามีแต่คนชม เขาทำสวย ไม่หวานด้วย”
“พวงมาลัยบนกระเช้าวันนั้นก็กินได้ใช่มั้ยครับ สวยมาก เหมือนของจริงมาก ตอนแรกปิงเห็นในรูปนึกว่าดอกไม้จริงๆ พอร้านเอามาส่งถึงรู้ว่าไม่ใช่”
“ก็น่าจะกินได้นะ แต่คงไม่มีคนกินหรอก น้ำตาลล้วนๆ แต่สวยจริง มานั่งนี่ดีกว่า ดูหนังดีมั้ย” สิงหาเดินนำกลับมาห้องนั่งเล่น พยายามหากิจกรรมมาทำไม่ให้บรรยากาศเงียบเหงาเกินไป
“คุณสิงเตรียมอาหารเสร็จแล้วเหรอครับ ไม่เหลืออะไรให้ปิงช่วยเลยเหรอ”
“ก็เหลือย่างซี่โครงหมู แต่อีกสักครึ่งชั่วโมงค่อยทำก็ได้ ผมหมักไว้อยู่ สปาเก็ตตียังไม่ได้ลวกเส้นแต่ซอสทำไว้แล้ว อ้อ เหลือสลัดยังไม่ได้ทำอะไร ใช้น้ำสลัดงาสำเร็จรูปนะครับ”
“โห ทำหมดเลย เดี๋ยวปิงคอยช่วยจัดจานก็ได้ คุณสิงท่าทางจะทำอาหารเก่ง”
“ไม่เก่งหรอกครับ ว่างๆ ถึงจะทำให้ตัวเองกิน เวลาเครียดๆ เบื่อๆ เข้าครัวช่วยได้นะ”
“ดีจัง ถ้าเครียดแล้วทำอาหารเลี้ยงแบบนี้ปิงอยากให้เครียดบ่อยๆ เลย”
“ไม่เครียดก็ทำให้ได้ครับ มีเดลิเวอรี่ส่งถึงที่ด้วยนะ”
“นั่นก็เกินไปครับ แค่นี้ก็โดนแซวเยอะแล้ว”
“แซวว่าอะไรเหรอ”
“ก็...นั่นกล่องอะไรเหรอครับ กล้องเหรอ ซื้อมาเยอะจัง” น่านนทีรีบพูดเปลี่ยนเรื่องเมื่อรู้ตัวว่าหลุดพูดอะไรออกไป จะให้พูดได้ไงว่าโดนแซวว่ากำลังโดนคุณสิงจีบ ขนาดพี่โจยังเคยถามเลยว่าตกลงเป็นแฟนกันหรือยัง อะไรจะคิดไปไกลขนาดนั้น แค่คุณสิงผูกปิ่นโตกับแม่เขาก็เลยต้องหิ้วมาให้ทุกวัน ไม่ใช่ให้กินฟรีสักหน่อย ส่วนคุณสิงที่เอาของมาให้บ่อยๆ ก็ตอบแทนที่แม่ชอบแถมอาหารให้มากกว่าปกติ เขาก็แค่เกรงใจเลยเอานั่นนี่มาให้เท่านั้นเอง
“กล้องวงจรปิดน่ะครับ ว่าจะมาติดไว้ในห้อง”
“ติดทำไมล่ะครับ ปิงว่ามันดูแปลกๆ นอกห้องก็มีอยู่แล้ว ปิงเคยเห็นเขาติดไว้ดูลูกหรือไม่ก็พวกหมาแมว บางคนก็แอบจับผิดแฟน คุณสิงติดทำไมเหรอครับ”
“ก็...ถ้าผมเล่าปิงจะกลัวมั้ยเนี่ย”
“โหหหหห พูดแบบนี้ล่ะรู้เลย ตอนขึ้นมานี่ก็ว่าจะไม่คิดแล้วนะ โอ้โหหหห คุณสิงงงงง”
“ฮ่าๆๆ ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย แค่ถาม ไม่พูดหรอก เดี๋ยวมีเด็กขี้กลัวหนีกลับก่อน” สิงหากลั้นหัวเราะ น่านนทีจ้องตาสองมือกอดตัวเองไว้แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่เล่าอะไรหลอนๆ ก็ค่อยๆ ลดมือลง รอสักพักก็ยังไม่พูดอะไร ความอยากรู้ทำให้เริ่มหงุดหงิดขึ้นมา
“คุณสิงก็เล่าแบบไม่ต้องหลอนมากได้มั้ยล่ะ”
“ฮ่าๆๆๆ ปิงงงง กลัวแล้วจะฟังทำไมล่ะ พอๆ ไปเตรียมอาหารกันดีกว่า กินเร็วหน่อยเดี๋ยวผมไปส่งถึงบ้านเป็นบริการเสริม”
“ไม่ต้องหรอก ปิงกลับเองได้ นั่งรถไฟฟ้าแป๊บเดียวสองสถานีก็ถึง”
“เดี๋ยวผมจะออกไปข้างนอกด้วย แวะไปส่งได้ อยู่ไม่ไกลไม่ใช่เหรอครับ”
“ก็ไม่ไกล แต่ปิงเกรงใจ เดี๋ยวแม่บ่นด้วย”
“ผมว่าแม่ไม่น่าบ่นนะถ้าปิงพาผมตัวเป็นๆ เข้าบ้านน่ะ จริงมั้ย”
“อืม น่าจะจริง แม่ต้องกรี๊ดแน่ๆ เลย ถ้าเห็นพ่อหน้าบึ้งๆ ไม่ต้องกลัวนะ พ่อปิงไม่ดุแต่ขี้หวง ชอบหวงแม่” น่านนทีเล่าวีรกรรมความหึงหวงของพ่อกับแม่ให้สิงหาฟัง ระหว่างอีกคนเริ่มทำอาหาร ทั้งสองคนช่วยกันทำอย่างคล่องแคล่ว สิงหายืนอิงสะโพกหน้าเตาระหว่างรอเส้นสปาเก็ตตีสุก เสียงนุ่มพูดไปหัวเราะไปทำให้บรรยากาศดูสดใสขึ้นมา เป็นคนอารมณ์เปลี่ยนไปมาได้ไวดี แค่ชวนเปลี่ยนเรื่องนิดหน่อยก็ไหลตามได้เรื่อยๆ แต่ไหลไปไหลมาไหงกลับมาเรื่องเดิม
“จริงๆ คุณสิงเล่าให้ปิงฟังก็ได้นะ เรื่องกล้องน่ะ ปิงไม่กลัวหรอก แค่ทำท่าไปงั้นเอง”
“แน่ใจนะ” สิงหาเหล่มองคนไม่กลัวที่ม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากคำใหญ่ หลังจากช่วยกันทำอาหารไม่ทานทุกอย่างก็พร้อมทาน คนตัวเล็กกินเก่งช่างคุยทำเหมือนไม่มีอาการอะไร แต่ไหล่ที่ห่อลงเมื่อกลับมาคุยเรื่องเดิมทำให้รู้ว่าโกหก
“ก็...กลัวนิดหน่อยแต่ฟังได้ ปิงอยากรู้ความคืบหน้าเหมือนกัน”
“งั้นกินให้เสร็จก่อนเดี๋ยวค่อยเล่า” ถ้าเขาเล่าตอนนี้น่านนทีคงกินต่อไม่ลง เผลอๆ อาจร้องอยากกลับบ้านเลยก็ได้
หลังอาหารมื้อใหญ่จบลงและช่วยกันล้างจานเก็บกวาดเรียบร้อยทั้งคู่ก็กลับมานั่งที่ห้องนั่งเล่น สิงหาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอัลบั้มรูปที่เขาแยกรูปแปลกๆ มารวมไว้ให้อีกฝ่ายดู
“รูปตอนนอนเยอะจัง ทำไมคุณสิงชอบถ่ายตัวเองตอนหลับล่ะครับ แถมเคยส่งให้ปิงด้วย กลัวท่านอนไม่เท่ห์เหรอ”
“ใครจะไปทำอย่างนั้นกันเล่า แล้วผมเคยส่งให้ปิงเมื่อไร”
“ก็วันนั้นที่ทำสเต็กให้ปิงไง ที่ส่งรูปมาเยอะๆ ก็มีรูปตอนนอนบนโซฟาส่งมา ปิงยังขำอยู่เลยว่าสงสัยทำอาหารเหนื่อยจนอยากทิ้งตัวหรือเปล่า เดี๋ยวปิงเปิดให้ดู” เขาหยิบโทรศัพท์มาเปิดบทสนทนาย้อนหลังไปหาภาพวันนั้นแล้วยื่นให้สิงหาดู เป็นรูปสิงหากำลังนอนหลับบนโซฟาตัวที่ทั้งคู่กำลังนั่งอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่ห้องของชวินที่ไปทำอาหารกินวันนั้น
“รูปทั้งหมดถ่ายในห้องนี้และผมกำลังหลับทุกรูปเลย”
“ใช่ ปิงถึงถามว่าคุณสิงกลัวนอนไม่เท่ห์เหรอ”
“ผมนอนคนเดียวตลอด ยังไม่เคยมีเพื่อนคนไหนได้มาค้างเลย ถ้ามาก็ไปค้างห้องชวิน”
“อ๋อ ห้องคุณชวินเป็นเพนเฮาส์คงมีห้องรับแขกหลายห้องมากกว่าใช่มั้ยครับ”
“ปิงครับ ผมหมายความว่า รูปพวกนี้...ถ่ายตอนผมหลับและมีผมอยู่คนเดียวในห้อง”
“.....หลับจริงเหรอ”
“จริงสิครับ”
“มีรูปนอนบนโซฟาด้วยนะ”
“ใช่ ตัวที่เรานั่งอยู่นี่ไง”
“.....ฮือๆๆ คุณสิง ปิงอยากลุกแล้วอะ”
“โอเคๆ ไม่ต้องกลัว มันไม่มีอะไร ไปครับเดี๋ยวผมไปส่งบ้านนะ” สิงหาเห็นตากลมโตเริ่มมีน้ำคลอบางๆ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายกลัวมาก ยังไม่ถึงกับร้องไห้แต่เสียงฮือๆ ที่ทำก็เรียกความน่าสงสารได้มากพอแล้ว
“ฮือๆๆ ปิงลุกไม่ได้ ก้าวขาไม่ออก”
“....อ่า...งั้นเดี๋ยวผมช่วย กอดคอผมไว้ก็ได้ โอเคนะ” สิงหารีบกลั้นหัวเราะกับท่าทางของคนขี้กลัว เงยหน้าน้ำตาคลอแต่ตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับสักส่วนบนร่างกาย เขาค่อยๆ โน้มตัวลงจับเอวอีกฝ่ายที่พบกว่าบางกว่าที่คิด รวบเอวแล้วดึงขึ้นช้าๆ สองแขนกอดคอเขาแน่น พอยืนได้ก็เปลี่ยนมากอดแขนแนบหน้าซุกต้นแขน ขยับเท้าห่างจากโซฟาจนเหยียบขึ้นมาบนเท้าเขา กว่าจะพากันออกจากห้องมาเข้าลิฟต์ได้ก็ทุลักทุเลเอาการ คนขี้กลัวหลับตากอดแขนเบียดขาตลอดเวลา สิงหาแทบจะอุ้มอีกฝ่ายเข้าเอวให้รู้แล้วรู้รอด ขึ้นมาบนรถถึงได้หายกลัวไปบ้างแต่เหมือนจะงอนเขาแทน
“เป็นอะไรครับ ทำหน้าแบบนี้ทำไม ผมไม่ได้แกล้งอะไรเลยนะ”
“ก็คุณสิงอะ”
“ก็ปิงบอกจะฟังเอง”
“ทำไมคุณสิงไม่เตือนก่อนว่ามันน่ากลัวว่าผีโทรศัพท์ เกิดปิงนั่งทับอยู่จะทำไง ตกใจหมดเลย”
“คิดมากไปได้ ในรูปผมนอนอยู่นะ ถ้านั่งทับคือทับหัวผมแล้วล่ะ ไม่ใช่ผี”
“ไม่รู้ล่ะ เผื่อไงเผื่อ ผีห้องคุณสิงน่ากลัวจังเลย น้ำมนต์ก็เอาไม่อยู่เหรอ หรือคุณสิงไม่ได้ใช้”
“ใช้สิครับ ทั้งกินทั้งอาบ”
“เดี๋ยวให้พ่อไปเอามาใหม่อีกรอบ กล้องที่ซื้อมาคุณสิงจะเอาไว้ถ่ายผีเหรอ”
“ก็...ประมาณนั้นมั้ง ผมเล่าได้มั้ยหรือฟังแค่นี้ดี” เขาแกล้งแหย่แต่ไม่คิดจะเล่าเรื่องตู้ที่เปิดได้เองพวกนั้นหรอก เดี๋ยวจะไม่กล้าเข้าห้องเขาอีก
“มีมากกว่านี้อีกเหรอ โหหหห น้ำมนต์ก็ช่วยไม่ได้ ต้องนิมนต์หลวงพ่อตัวเป็นๆ มาแล้วล่ะ เอามั้ยครับ ปิงติดต่อให้”
“แหม ยังลืมหน้าที่อีก สุดยอดคอนเซียซจริงๆ”
“ปิงไม่ได้พูดเล่นนะครับ คุณสิงกลับมาอยู่ก็ไม่เคยทำบุญขึ้นบ้านใหม่เลยนี่ ทำสักนิดก็ดีนะ เป็นสิริมงคล”
“คนอื่นเขาทำกันมั้ย ผมว่ามันเป็นห้องเองไม่ต้องก็ได้มั้ย”
“บางคนก็ทำนะ แต่บางคนก็เอาของมาไหว้ทำพิธีตรงศาลของคอนโดฯ แค่นั้น แล้วแต่คน แต่ห้องคุณสิงไม่ปกติไง ต้องทำนะ”
“อืม เดี๋ยวผมขอคิดดูก่อน ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลย หรือถ้าทำแต่ปิงมาคอยดูให้ได้มั้ย”
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่เจ้าของน่าจะอยู่เองนะ เอาไว้วันไหนว่างบอกปิงล่วงหน้าเดี๋ยวปิงไปดีลกับพระให้”
“ดีลเลยเหรอ”
“เอ้อ นิมนต์ๆ กลัวผีจนเบลอ แฮ่” คนกลัวผีหัวเราะขำตัวเอง บอกเส้นทางกลับบ้านให้คนขับแล้วก็เริ่มเล่าถึงวัดที่น่าจะมีพระเก่งๆ ด้านนี้ ทำให้เขารู้ว่าน้ำมนต์คราวก่อนมาจากวัดดังเรื่องเลขเด็ด ไม่ใช่ของขลังอาคมใดที่ผียังออกมาอาจเพราะใช้น้ำมนต์ผิดประเภทก็ได้ น่านนทีบอกว่าจะหาน้ำมนต์มาให้ใหม่ คราวนี้ต้องเลือกวัดให้ถูกสถานการณ์
“โถพี่สิง คราวก่อนก็ฝากขนมมาให้กระเช้าใหญ่ คราวนี้ยังมาส่งเจ้าปิงอีก น้าเกรงใจจัง” น่านนทีหันขวับมองแม่ตัวเองทันที อะไรคือการเรียกคนอื่นเป็นพี่แต่แทนตัวเองว่าน้า
“ไม่เป็นไรหรอกครับ พอดีผมจะออกมาอยู่แล้ว มารู้จักบ้านไว้ก็ดี วันหน้าผมจะได้มาอุดหนุนถึงร้านไงครับ”
“น้าขายแต่ตอนเช้าน่ะสิ อยากกินอะไรให้ปิงเอาไปส่งดีกว่า”
“แม่ พ่อไปไหนล่ะ”
“อยู่บนห้อง พี่สิงเข้ามานั่งก่อนมา เดี๋ยวแม่หาอะไรให้กิน” แม่ตอบผ่านๆ แล้วหันมาสนใจดาราหนุ่มที่หล่อกว่าในรูปล้านเท่า รู้มาบ้างว่าเป็นลูกครึ่งแต่ไม่ได้ดูฝรั่งจ๋า มีเพียงตาสีน้ำตาลอ่อนที่พอจะบอกได้ว่าไม่ใช่ไทยแท้ ร่างกายสูงโปร่งหุ่นสมส่วนมองเห็นกล้ามแขนกล้ามอกกำลังพอดี เพียบกับลูกชายตัวแห้งของเธอแล้วสบายตากว่าเยอะ
“ไม่รบกวนดีกว่าครับ ผมมีธุระต่อ อีกอย่างหน้าบ้านน่าจะจอดนานไม่ได้” สิงหาหันไปมองรถตัวเองที่จอดถัดไปจากบ้านสองหลัง แม้จะมีรถจอดอยู่บ้างแต่ดูไม่ค่อยเหมาะถ้าจอดแช่นาน
“งั้นไว้คราวหน้าแวะมากินข้าวบ้านน้าได้นะคะ เดี๋ยวน้าโชว์ฝีมือทำชุดใหญ่ให้กิน”
“ได้เลยครับ ผมต้องหาเวลาว่างมาฝากท้องสักหลายๆ มื้อแน่นอน คุณน้าทำอาหารอร่อยมาก ตั้งแต่ผูกปิ่นโตผมก็ไม่ค่อยกินข้าวที่อื่นเลย หิ้วท้องกลับมากินที่ห้องตลอด ลิ้นผมไม่รับรสมือคนอื่นแล้ว คุณน้าต้องรับผิดชอบนะ”
“โถพี่สิงของน้า น้ารับค่ะ มาได้เลย นอกจากหล่อใจดียังปากหวานอีก น่ารักจังพ่อคุณ”
“แม่ๆ เกินไปๆ เดี๋ยวพ่อหึงนะ”
“น้าขอเซลฟี่ได้ไหมคะ”
“ได้สิครับ เอาเครื่องผมถ่ายนะ ผมจะได้มีรูปคุณน้าไว้ในเครื่องด้วย” สิงหารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก้าวเข้าไปใกล้ย่อตัวลงให้หน้าอยู่ระดับเดียวกัน ได้รูปมาหลายใบเขาก็ส่งให้น่านนทีแล้วให้ฝ่ายนั้นส่งต่อให้แม่ตัวเอง ก่อนนี้ก็คิดไว้แล้วว่าน่านนทีน่าจะเหมือนแม่ พอได้เจอตัวจริงแทบไม่ผิดจากที่คิด ผิวขาวเนียนสวย รูปร่างเล็ก มีเพียงดวงตาที่ไม่ได้กลมโตแบบลูกชาย ตาน่าจะได้พ่อมากกว่าแม่ เขายืนคุยอีกนิดหน่อยก็ขอตัวกลับโดยมีน่านนทีเดินมาส่งถึงรถ
“แม่ปิงน่ารักมากนะ ถ้าแม่ผมมาเมื่อไรต้องพามาเจอกันหน่อย รับรองต้องสนิทกันเร็วแน่ๆ”
“แม่คุยเก่งครับ คุยจนพ่อกับปิงหลับก็เคย”
“ผมว่าปิงไม่น่าหลับนะ ปิงก็คุยเก่งเหมือนแม่นั่นแหละ”
“คุณสิงงงง นี่ชมใช่มั้ย”
“ชมสิครับ คนคุยเก่งน่ารักนะ”
“เดี๋ยวปิงจะบอกแม่ให้ว่าคุณฝากชม”
“ปิงก็น่ารัก”
“....ไปได้แล้วมั้งครับ จอดนานเดี๋ยวเจ้าของร้านเขาออกมาว่า” ที่จอดรถตรงนี้เป็นหน้าร้านเสริมสวย จอดนานก็เกรงใจ อีกอย่างแดดเริ่มร้อน เขาคิดว่าตัวเองต้องรีบเข้าบ้านแล้วล่ะ
“เดี๋ยวคืนนี้ผมโทรหานะ”
“โทรทำไมครับ”
“อยากคุยเฉยๆ วันนี้ยังไม่ได้บอกฝันดีกันเลย”
“ก็ส่งไลน์มาเหมือนเดิมก็ได้”
“เจ็บนิ้ว ไม่อยากจิ้มโทรศัพท์”
“......”
“นะ ได้มั้ย”
“ก็...อย่าดึกนะครับ ปิงต้องตื่นเช้า”
“ครับ ปิงเข้าบ้านเถอะ ผมจะไปแล้ว” สิงหาเปิดประตูรถค้างไว้ รอจนอีกฝ่ายเดินไปถึงหน้าบ้านตัวเองค่อยเข้าไปในรถแล้วขับออกไป วันนี้ถือว่ามาฝากเนื้อฝากตัวอย่างไม่เป็นทางการไปก่อน วันหน้าค่อยมาฝากใจ สิงหาคิดขำๆ กับคำน้ำเน่าที่ผุดขึ้นมาในหัว ไม่รู้ว่าอีกคนจะรับฝากได้เมื่อไร รุกอ้อมๆ ก็ทำหน้าซื่อๆ ใส่ แต่พอรุกมากหน่อยก็ชอบหาเรื่องชิ่งหนีอีก บุกถึงบ้านแบบนี้จะหนีต่อไปอีกก็ให้รู้กัน
กล้องวงจรปิดสามตัวติดไว้ ห้องทำงานหนึ่ง ห้องรับแขกสอง ในห้องรับแขกกล้องตัวหนึ่งเห็นมุมกว้างเกือบทั้งหมดแต่ถ่ายไม่ถึงโถงหน้าประตูเลยต้องติดอีกตัว ทั้งสามจุดคือที่ๆ เขาเคยเห็นอะไรแปลกๆ บานตู้หนังสือเปิดค้างไว้ ประตูห้องที่เคยได้ยินเสียงคนเปิดแล้ววิ่งออกไป โทรศัพท์ที่ดังได้เอง ส่วนในห้องนอน โลเคชันรูปปริศนาที่เกิดขึ้นบ่อยเขาเลือกจะไม่ติดกล้องไว้ บางทีการไม่เห็นอะไรในห้องนี้น่าจะปลอดภัยมากกว่า ถึงจะไม่ได้กลัวแต่เพื่อความสงบในจิตใจเขาขอให้มันเป็นเซฟโซนไปก่อนแล้วกัน
วันถัดมาหลังจากตื่นน่านนทีก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำแต่งตัว เข้างานหกโมงครึ่งแต่ตอนนี้ตีห้ากว่าแล้ว เขาตื่นสายมาก วิ่งผูกไทด์ลงมาถึงชั้นล่าง พ่อรีบตะโกนบอกให้เดินช้าๆ เดี๋ยวตกบันได ส่วนแม่ตะโกนถามว่าพี่สิงของแม่จะกินอะไรวันนี้ ถือปิ่นโตเตรียมตักใส่ไม่ได้สนเลยว่าลูกชายวิ่งผมเปียกเสื้อยังไม่เอาเข้าในกางเกง
“ปิงกินข้าวไหมลูก ตื่นสายสิเรา พ่อเรียกตั้งนาน”
“หลับเพลินไปหน่อย พ่อตักใส่ปิ่นโตให้ปิงหน่อย เดี๋ยวไปกินที่โน่น แม่ของคุณสิงเอากุนเชียง แกงส้มกับกะเพรา พ่อของปิงเอากุนเชียงด้วยนะ” เขายืนแต่งตัวให้เรียบร้อยมองพ่อแม่แยกกันตักอาหารใส่ปิ่นโตคนละเถา แม่ตักให้ผู้ชายคนอื่น พ่อตักให้ลูกชายสุดที่รัก
“เอ้าเสร็จแล้ว เดี๋ยวพ่อไปส่งบีทีเอส ฝันดีเหรอลูก เห็นยิ้มตั้งแต่ลงมา” พ่อเอาปิ่นโตใส่ถุงผ้าใบใหญ่จะได้หิ้วง่าย
“เปล่ายิ้มสักหน่อย”
“ก็เห็นอยู่ว่ายิ้ม ฝันอะไรบอกมาแม่จะไปตีเลขเผื่องวดนี้ถูก”
“ไม่ได้ฝัน แค่หลับสนิทเฉยๆ ไปแล้วนะแม่ สวัสดีครับ” น่านนทียกมือไหว้แล้วรีบเดินหนี ใครยิ้มกัน แค่มุมปากมันยกขึ้นเฉยๆ ส่วนเรื่องฝันเขาก็ไม่ได้โกหก ถึงจะมีคนบอกให้ฝันดีแต่ไม่ได้ฝันอะไรเลยสักนิด แต่...มันก็ดี
น่านนทีมาถึงก่อนเวลาสิบนาทีเลยรีบไปนั่งกินข้าวในห้องพัก พ่อห่อข้าวใส่มาสองถุงเพราะต้องแยกไว้กินมื้อเที่ยงด้วย เขาตักข้าวเคี้ยวเร็วๆ แล้วรีบวิ่งไปสแกนบัตรเข้างานตรงเวลา ปล่อยพี่โจกลับบ้านไปพักผ่อน
“พี่สายสิบนาทีแน่ะ นึกว่าจะทัน รถไฟฟ้าเสียอีกแล้ว มาสายเลย เฮ้อ” พี่นิดนั่งซับเหงื่อเติมหน้านิดหน่อย เขากำลังเช็คทวิตเตอร์ก็เห็นมีคนบ่นบ้างแต่ไม่เยอะเพราะยังเช้าอยู่ ถ้าเสียช่วงแปดโมงรับรองเสียงด่ากระหึ่มโซเชียล
“ปิงก็เกือบสาย มาก่อนพี่แป๊บเดียวเอง นั่งยัดข้าวเมื่อกี้จุกเลย”
“ห่ออะไรมากิน วันนี้พี่ไม่ได้กินด้วยนะ จะแว้บไปกินกับแฟนแป๊บนึง”
“แล้วจะเสียดาย มีกุนเชียงกับคั่วกลิ้งหมูสับของโปรดพี่เลย”
“โอ๊ย อยากกินคั่วกลิ้ง บอกแม่เก็บให้พี่สักถุงได้มั้ย พรุ่งนี้ปิงค่อยเอามาให้พี่ก็ได้”
“พรุ่งนี้ทำอีกก็ได้ แม่เพิ่งได้เครื่องแกงใต้มาเต็มเลย คงทำบ่อยหรอก”
“เออๆ อย่าลืมนะ แกงเหลืองด้วยถ้าทำเอามาได้เลย เสียดายคั่วกลิ้งนะเนี่ย เฮ้อ”
“คุยอะไรกันครับ”
“คุณสิงสวัสดีค่ะ วันนี้ลงมาเช้าจัง”
“ตื่นมาฟิตเนสน่ะครับ เช้าๆ อากาศดี ไหนปิ่นโตผมครับปิง”
“เดี๋ยวปิงไปเอาให้” น่านนทีรีบวิ่งไปหยิบจากตู้เย็นในห้องพักมาให้ กลับมาเห็นสิงหายืนหัวเราะกับพี่นิด ไม่รู้คุยอะไรกัน แอบนินทาเขาหรือเปล่า
“ขำอะไรกันเหรอครับ เล่าให้ฟังมั่ง ไม่ได้นินทาปิงใช่มั้ย”
“นี่ปิง ก่อนออกจากบ้านได้ส่องกระจกมั้ย” นิดอมยิ้มขำกับความเปิ่นของน้อง จนป่านนี้ยังไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ
“หืม ทำไมเหรอครับ”
“ใส่รองเท้าอะไรมา” พอพี่นิดพูดเขารีบก้มมองรองเท้าตัวเอง ใส่ถุงเท้าเรียบร้อยแต่...รองเท้าแตะ
“มิน่า ปิงก็ว่าเท้ามันเบาๆ กว่าทุกวัน แฮ่ ทำไงดีล่ะ ถ้าต้องมีเดินไปไหนปิงไม่เดินนะวันนี้ เดี๋ยวโดนร้องเรียน”
“จ้ะ มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เดินตัวเบาเลยนะ ถ้าไม่ลุกไปเมื่อกี้คุณสิงคงไม่เห็นก่อนแล้วบอกพี่อีกทีหรอก ขายหน้ามั้ยเรา”
“ไม่ขาย คุณสิงไม่ใช่คนชอบล้อหรอก ใช่มั้ยครับ”
“ครับ” ไม่รู้ทำไมแค่คำว่าครับคำเดียวมันเหมือนมีความหมายอื่นนอกจากนี้ อยู่ดีๆ ก็ไม่กล้ามองหน้าอีกแล้ว ยิ่งนึกถึงเสียงนุ่มๆ ที่โทรมาชวนคุยเมื่อคืนยิ่งรู้สึกไม่อยากมองหน้า คำว่าฝันดีเหมือนตัวหนังสือที่พิมพ์ส่งให้ ทำไมพอได้ยินแล้วมันถึงเหมือนมีความหมายแบบอื่น แบบ...ที่ทำให้นอนยิ้มทั้งคืน
“อังคารหน้าผมจองหน้ามีตติ้งอีกนะครับ จัดคอฟฟี่เบรกให้ผมด้วยนะ ช่วงสิบโมงถึงเที่ยงจัดสามชุด บ่ายโมงถึงบ่ายสองอีกสักห้าชุด ผมจองยาวสิบโมงถึงบ่ายสองได้เลยใช่มั้ยครับ”
“คุณสิงมีแขกสองชุดใช่มั้ยคะ จองยาวได้เลยค่ะ คอฟฟี่เบรกรับเป็นอะไรดีคะ”
“ตอนเช้าขอกาแฟกับขนมอะไรก็ได้ครับ มีอะไรอร่อยแนะนำมั้ยครับปิง”
“ถ้าร้านที่สั่งประจำหน้าตึกเค้กมะพร้าวอร่อยครับ แต่อาจจะเลอะไปหรือเปล่า บราวนี่อาจจะเหมาะกว่า บราวนี่ดาร์กช็อคกับมัทฉะอร่อยครับ ผู้ชายน่าจะชอบมากกว่า”
“ตกลงบราวนี่ครับ ตอนบ่ายขอน้ำผลไม้กับชาเบาๆ นะครับ ขนมเป็นคุกกี้ก็ได้ คุยธุระไม่นาน”
“ได้ค่ะ นิดจองห้องเรียบร้อยแล้วค่ะ ราคาขนมสำหรับจัดเบรกจะแจ้งอีกทีนะคะ”
“ครับ ขอบคุณนะครับ ผมไปนะ ไปนะปิง”
“ครับ” น่านนทีมองตามเจ้าของปิ่นโตเดินห่างไป แขนถูกศอกผู้หญิงใจร้ายกระแทกไม่หยุด
“อะไรพี่นิด”
“มองตาละห้อยเลยนะ เก็บอาการหน่อย”
“ตาละห้อยอะไร เพ้อเจ้อ พี่อย่าไปฟังออมมันมาก มันพูดไปเรื่อย”
“จ้ะ พี่ไม่ฟังใครทั้งนั้นล่ะ แค่ที่มองด้วยตาก็รู้หมดแล้ว แหม รู้ด้วยนะว่าแขกรอบเช้าเขาเป็นผู้ชาย ผู้ชายน่าจะไม่ชอบเค้กหวานๆ รู้เรื่องนัดส่วนตัวเขาได้ยังไงกันนะ” นิดไม่ได้ตั้งใจจับผิดแต่ได้ยินแล้วอดสงสัยไม่ได้ น่านนทีงับปากตัวเองแน่น ที่พูดไปแบบนั้นเพราะอีกฝ่ายเคยเล่าให้ฟังว่าจะนัดสถาปนิกมาคุยเรื่องบ้านอังคารหน้า สถาปนิกเป็นผู้ชายลูกน้องคุณชวิน นัดส่งแปลนบ้านครั้งแรก เขาเห็นภาพร่างคร่าวๆ แล้วด้วย สวยมาก มันแค่เรื่องพื้นๆ ที่บังเอิญรู้มาแค่นั้นเอง แต่เขาจะไม่พูดออกมาให้พี่นิดฟังหรอก
คนกำลังทำหน้านิ่งงับปากแน่นกลบเกลื่อนสะดุ้งเมื่อเสียงโทรศัพท์ตัวเองดัง พอหยิบออกมาเห็นชื่อคนที่กำลังมีประเด็นยิ่งร้อนตัวไปกันใหญ่ พี่นิดทำท่าจะแอบดูชื่อเขาเลยกดรับสายแล้วหันหลังให้
“ครับคุณสิง” หลุดพูดชื่อคนโทรมาปุ๊บ เสียงคนข้างๆ ก็หัวเราะออกมาแบบไม่เกรงใจกันเลย
“ผมมีรองเท้าคัทชูอยู่ ไม่รู้ปิงจะใส่ได้มั้ย เท้าปิงเบอร์อะไรครับ”
“คัทชูใส่ 40 ครับ แต่ 41 ก็พอได้”
“โห ห่างกันเยอะเลย ผม 44 เสียดายจัง”
“นั่นสิ ไม่เป็นไรครับ ปกติก็ไม่ค่อยเดินไปไหนอยู่แล้ว”
“คุณนิดบอกว่าเที่ยงนี้ปิงกินข้าวคนเดียวเหรอ”
“ครับ พี่นิดไปกินกับแฟน”
“กินด้วยกันมั้ยครับ”
“....คือ”
“นะครับ ผมก็กินคนเดียวเหมือนกัน นะ”
“ก็...แค่วันนี้นะครับ”
“งั้นปิงพักตอนไหนโทรมานะ ผมรอ”
“ครับ แค่นี้นะปิงทำงานก่อน” น่านนทีรีบวางสายแล้วหันกลับมานั่งตัวตรง ก้มๆ เงยๆ มองหน้าจอคอมพิวเตอร์บ้าง มองกระดาษบันทึกใบแจ้งต่างๆ ตรงหน้าจนได้ยินเสียงหัวเราะแบบไม่กลั้นของอีกคนถึงได้หยุดมองเลิ่กลัก เฮ้อ...อาการมันชัดขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย อีกคนก็เหลือเกิน มาถูกจังหวะให้คนได้แซวเขาตลอด
“พอแล้วน่าพี่นิด เดี๋ยวก็หายใจไม่ทันพอดี ไม่เห็นมีอะไรน่าขำสักหน่อย”
“จ้าๆ ไม่น่าขำเลย น่าเขินมากกว่า คนอะไรทำหน้านิ่งแต่หูแดงแจ๋ เด็กเอ้ย” นิดบีบหูที่แดงฟ้องอาการของคนปากแข็งเล่นจนเจ้าของรีบก้มหน้านอนฟุบหนี แถมยังนกนิ้วโป้งใส่อีก เธอก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมพระเอกหล่อระดับนั้นถึงมาสนใจเด็กคนนี้ แต่คนแบบน่านนทีจะให้บอกว่าไม่น่ารักคงไม่ได้ หน้าตาอาจจะสู้ระดับดาราไม่ได้ แต่ใครได้คุยจะบอกว่าคนๆ นี้ไม่น่ารักเป็นไปแทบไม่ได้เลย หวังว่าสุดหล่อประจำคอนโดฯ คงมองเห็นเหมือนกัน อย่ามาหลอกเล่นๆ ให้ช้ำใจเลยนะ
—¤÷(`[ ♌ ♡ ▽ ]´)÷¤—
ช่วงนี้กำลังหัดเล่นทวิต ใครเล่นฝาก #ห้องลับห้องรัก หรือ #สิงปิง ด้วยนะคะ จะพยายามเข้าไปอ่านคอมเมนต์ทุกที่นะคะ