คดีรักนักดูดวง
บทที่ 8
พาลีเตือนตัวเองให้ละทิ้งเจ้าลางสังหรณ์ตัวยุ่งไว้ก่อน มันอาจเป็นเพราะเขาตื่นเต้นและคิดมากเกินไปเรื่องติณณ์ พาลีฝืนยิ้ม
และกล่าวทักทายติณณ์ด้วยน้ำเสียงนุ่มๆของเขา
“สวัสดีครับคุณติณณ์ ยินดีที่ได้รู้จัก”
ยังไม่ทันได้คุยกันมากไปกว่านั้นติณณ์ก็ต้องหันไปให้ความสนใจกับทีมงานที่เข้ามาหาเพื่อส่งชุดคำถามให้เขา พาลีลอบ
ถอนหายใจที่ไม่ได้เป็นจุดสนใจของติณณ์อีก น่าแปลกที่เมื่อถึงเวลานี้เขากลับกระวนกระวายใจและคิดถึงใบหน้าของสุดเขตเป็นอันดับ
แรก พาลีได้แต่เตือนตัวเองให้ใจเย็นและควบคุมตนเองให้ได้
“ต้องออกไปถ่ายรายการช่วงแรกแล้ว”
เสียงของติณณ์ดังขึ้นใกล้ๆจนพาลีสะดุ้ง เขาหันไปฝืนยิ้มให้ติณณ์
“เอ่อ ครับ”
“พาร์ทของคุณพาลีคือพาร์ทที่สามของรายการสินะฮะ เดี๋ยวเจอกันครับ”
น้ำเสียงนั่นดูสดใสร่วมกับใบหน้ายิ้มแย้มทำให้พาลีเดาไม่ออกเลยว่าคนอย่างติณณ์จะเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมได้อย่างไร
แต่พาลีก็ยังไม่ไว้วางใจเมื่อมองตามร่างสูงของติณณ์ที่กำลังเดินออกไปนอกห้องแต่งตัว พาลีทิ้งช่วงครู่หนึ่งจึงเดินตามออกไปด้านนอก
เขารีบเหลียวมองหาสุดเขตและพบว่าคนขับรถของเขายืนนิ่งอยู่ที่ฟากหนึ่งของสตูดิโอมึดสลัวสายตาของสุดเขตนั้นจับจ้องไปยังศิลปิน
ที่นั่งอยู่บนโซฟายาวบนเวทีท่ามกลางแสงไฟที่สาดส่องจนกลายเป็นจุดเด่น เบื้องหน้าของเวทีเต็มไปด้วยเหล่าบรรดาแฟนคลับคับคั่ง
พร้อมป้ายไฟลานตา
“เป็นไงบ้าง”
สุดเขตรีบเอ่ยถามทันทีเมื่อเห็นพาลีเดินเข้ามาหา การที่ต้องอยู่ห่างจากพาลีแม้จะเพียงเวลาสั้นๆสร้างความกังวลให้สุดเขต
จนตัวเขาเองยังแปลกใจ
“ไม่มีอะไรหรอก แค่ทักทาย”
พาลีเองก็รีบตอบออกไป เขามองเห็นแววความห่วงใยจากดวงตาคมคู่นั้น มันทำให้แก้มของเขาร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างหา
สาเหตุไม่ได้ พาลีเล่าข้อความที่ติณณ์พูดคุยกับเขาให้สุดเขตฟัง
“แปลกนะ การแสดงออกผิดกับตอนที่เจอบนโรงพักลิบลับ”
“เอ้า ก็เขาเป็นคนของประชาชน จะให้มาหน้าบึ้งหน้างอเหมือนตอนอยู่ต่อหน้าตำรวจได้ไงวะ”
ทั้งคู่เงียบเสียงลงเมื่อสัญญาณการถ่ายทำเริ่มต้น ดวงตาทุกคู่จับจ้องไปที่กลางเวทีขณะที่พิธีกรป้อนคำถามทั่วๆไปและเรื่อง
ส่วนตัวโดยมีแฟนคลับส่งเสียงกรี๊ดเป็นระยะตามที่ผู้กับเวทีส่งสัญญาณมือเมื่อการถ่ายทำช่วงแรกจบลง
“ไอ้หมอนี่ มันดูกะล่อนดีนะ”
สุดเขตเอ่ยขึ้นเบาๆพอให้พาลีได้ยินขณะเตรียมการถ่ายทำในช่วงที่สอง ติณณ์กำลังยืนพูดคุยกับแฟนคลับระหว่างพักเบรก
สุดเขตเห็นติณณ์สอดส่ายสายตามองหาอะไรบางอย่างก่อนที่สายตาของติณณ์จะมาหยุดอยู่ที่ผู้ชายข้างๆเขา
พาลีแน่ๆที่ติณณ์มองและแถมท้ายด้วยรอยยิ้มระยะไกลส่งมาให้ด้วย สุดเขตหันขวับไปทางพาลีที่มีเพียงยิ้มฝืดเฝื่อนส่งคืน
เพียงแค่นั้นสุดเขตก็รู้สึกว่าอุณหภูมิของร่างกายพุ่งปรี๊ดขึ้นมาทันที
“แหม แค่ทักทายกันในห้องแต่งตัวแต่เหมือนสนิทกันมาตั้งแต่ชาติก่อนเลยนะ”
ทำไมต้องพูดค่อนแคะสุดเขตก็ไม่เข้าใจตัวเอง แค่เห็นสายตาของติณณ์ยามมองพาลีแล้วสุดเขตนึกอยากจะตรงไปที่เวที
แล้วผลักใบหน้าของติณณ์ให้สายตาคู่นั้นพ้นไปจากชายหนุ่มที่ยืนข้างเขาในตอนนี้เสียเหลือเกิน ส่วนพาลีนั้นก็ได้แต่หันมามองสุดเขต
ด้วยความร้อนใจอย่างผิดวิสัยคนใจเย็นเช่นกัน
“สนิทเหี้ยอะไร กูบอกแล้วว่าแค่ทักทายเชื่อกันบ้างสิ”
ความจริงไม่ต้องอธิบายอะไรก็ได้แต่พาลีกลับรีบพูดออกไป เขาไม่อยากให้สุดเขตเข้าใจไปในทางผิดๆว่าติณณ์กับเขานั้น
พูดจาอะไรมากไปกว่าที่พาลีเล่าให้สุดเขตฟัง แต่ยังไม่ทันที่สุดเขตจะกล่าวอะไรต่อสัญญาณการถ่ายทำช่วงที่สองก็เริ่มต้นอีกครั้ง
ระหว่างการถ่ายทำทีมงานคนหนึ่งมาสะกิดพาลีให้ไปเตรียมตัวที่ข้างเวที เขาได้แต่ปรายตามองสุดเขตที่ยังมีทีท่ามึนตึงกับเขาก่อนจะ
เดินตามทีมงานไป
ไม่นานนักการถ่ายทำช่วงที่สองก็จบลง ติณณ์รีบลุกจากเก้าอี้ตรงมาหาพาลี
“รอนานไหมครับพาลี”
ติณณ์ถือโอกาสเรียกพาลีอย่างสนิทสนม พาลีทำได้แค่เพียงพูดคุยตามมารยาทในขณะที่จิตใจยังกังวลถึงแต่สุดเขตแต่เขาก็
พยายามวางเรื่องทั้งหมดลงเพราะการทำงานของเขาเริ่มต้นขึ้นแล้ว ผู้กำกับเวทีเข้ามานัดแนะคิวการถ่ายทำกอ่นจะให้พาลีไปนั่งบน
โซฟาตัวเดียวกับติณณ์ หัวใจของพาลีเต้นเร็วด้วยความตื่นเต้นที่จะต้องถ่ายทำรายการออกโทรทัศน์เป็นครั้งแรก
พิธีกรสาวกล่าวเปิดเข้าสู่ช่วงที่สามพร้อมกับเกริ่นถึงสาเหตุที่ต้องเชิญหมอดูมาออกรายการเพราะช่วงนี้ติณณ์มีข่าวฉาวทั้ง
เรื่องความรักกับนางเอกค่ายเดียวกันและแฟนคลับถูกฆาตกรรม
“พี่สมรเป็นแฟนคลับที่น่ารักมากครับ”
ติณณ์กล่าวด้วยสีหน้าสลด
“ไปทุกงานที่ผมออกอีเวนท์ ไม่นึกว่าจะมีคนใจร้ายทำกับผู้หญิงไม่มีทางสู้ได้ลงคอ ขอให้พี่สมรไปสู่สุขติ”
“มีข่าวมากมายอย่างนี้คงต้องให้คุณพาลีหมอดูชื่อดังช่วยวิเคราะห์ดวงของคุณติณณ์แล้วล่ะค่ะ”
พาลียิ้มรับ เขาดูดวงติณณ์ด้วยไพ่ยิปซี สำรับไพ่ถูกคลี่อยู่บนผ้ากำมะหยี่สีแดงอย่างชำนาญก่อนที่พาลีจะบอกให้ติณณ์เลือก
ไพ่มาทั้งหมดสิบใบ พาลีเรียงไพ่ตามตำแหน่งและกวาดตามองไพ่แต่ละใบที่หงายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ตำแหน่งเจ้าชะตา The nines of cups
ความไม่สมบูรณ์ เจ้าชะตาแสวงหาอะไรบางอย่างมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย ใครเปิดได้ใบนี้จะมีรักซ้อนและมักจะมีความรักผิด
ประเภทหมายถึงรักในเพศเดียวกัน
ตำแหน่งสถานการณ์ปัจจุบัน The moon
ความขัดแย้ง การปิดบังอะไรบางอย่าง เล่ห์เหลี่ยม การหักหลังและความแปรปรวน มักจะมีความรักกับคนมีเจ้าของแล้ว
ตำแหน่ง สิ่งที่มุ่งหวัง Wheel of fortune
ความทะเยอทะยาน ความเจริญของความก้าวหน้า การเริ่มต้นไปสู่สิ่งใหม่ๆอย่างที่ใจปรารถนา
ตำแหน่งอดีตที่ผ่านมา The threes of swards
เต็มไปด้วยความหงุดหงิดวุ่นวายใจอันเนื่องมาจากการทรยศหักหลังหรือความสัมพันธ์ที่แตกหัก
ตำแหน่งอิทธิพลในอดีตที่ส่งผลมาถึงปัจจุบัน The queens of pentacles
สตรีที่มีฐานะร่ำรวย มั่นคงด้านวัตถุ
ตำแหน่งอนาคต The Tower
ความหุนหันพลันแล่น ทะเลาะวิวาท อุบัติเหตุและการสูญเสีย
ตำแหน่งปัญหาและการแก้ไข The hanged man
ความสูญเสียล้มละลาย การตกอยู่ในสภาวะลำบากหาหนทางแก้ไขไม่ได้ การรอคอยและอดทนคือการแก้ไขที่ดีที่สุด หรือ
อาจจะต้องเสียสละอะไรบางอย่างเพื่อให้ได้ผลที่ดีกลับคืนมา
ตำแหน่งสถานการ์บุคคลที่เกี่ยวข้อง The kings of wands
ชายสูงวัยที่มีอำนาจหน้าที่ใหญ่โตหรือเป็นเจ้าของกิจการ
ตำแหน่งความคิดที่ซ่อนเร้น The devils
การเอารัดเอาเปรียบ ความลุ่มหลงในอบายมุขทั้งปวง หลงใหลในกามโลกีย์ ยึดติดกับวัตถุนิยม สามารถทำทุกอย่างเพื่อให้
ได้ดังใจปรารถนาแม้จะรู้ว่าผิดก็ตาม
ตำแหน่งบทสรุป The tens of swards
การหลั่งน้ำตาและชีวิตที่ขาดความสุข ความโชคร้ายเศร้าโศกเสียใจ ต้องออกจากงานหรืออาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหรืออาจ
เกิดการสูญเสีย
พาลีกลืนน้ำลายเมื่อเขาเปิดไพ่ใบสุดท้าย ภาพบนไพ่คือคนที่นอนคว่ำหน้าและมีดดาบคมกริบทั้งสิบปักลงไปบนร่างตั้งแต่
ศีรษะไล่เลียงเกือบตลอดตัว มันเป็นไพ่ที่พาลีคิดว่าเลวร้ายที่สุดในสำรับแต่ติณณ์กลับหยิบได้มันมา รวมถึงไพ่ใบอื่นก็ไม่มีใบไหนที่น่า
ชื่นชมทั้งสิ้น สมองของพาลีหมุนติ้วเมื่อคิดว่าเขาจะทำนายดวงของติณณ์ไปสู่สาธารณชนเช่นใดให้ดีที่สุด
“คุณติณณ์เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นมากๆครับ”
พาลีเอ่ยด้วยเสียงนุ่มของเขา เสียงนั้นกังวานไปทั่วสตูดิโอกดให้ผู้ชมหยุดทุกอย่างเพื่อฟังการทำนายจากพาลี
“อะไรที่คุณติณณ์ต้องการก็จะพยายามแสวงหามาจนได้ สิ่งที่มุ่งหวังของคุณติณณ์ก็คือหน้าที่การงานที่ดี อนาคตที่สดใส แต่
ก็ต้องระวังกับความใจร้อนเพราะจะทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกับคนอื่นได้ง่าย คุณติณณ์จะต้องใจเย็นลงและอดทนมากๆ อาจจะ
ต้องยอมแลกบางอย่างเพื่อไปให้ถึงความสำเร็จอย่างที่ต้องการ”
พาลีมองหน้าไพ่อีกรอบแล้วจึงเงยหน้ายิ้มให้พิธีกรและติณณ์ที่นิ่งฟังอย่างตั้งใจ
“ส่วนเรื่องความรัก เพราะความเพอร์เฟ็คของคุณติณณ์ทำให้มีสาวๆเข้ามาติดพันหลายคน ขอให้ระวังสับรางให้ดีไม่ใช่รถไฟ
ชนกันและสืบดีๆว่าผู้หญิงมีแฟนแล้วหรือเปล่า ระวังคนมีเจ้าของแล้วนะครับมันจะยุ่ง สุดท้ายผมก็ขอแนะนำอย่างหนึ่ง”
พาลีสบตาติณณ์อย่างจริงจัง
“หาเวลาไปทำบุญสะเดาะเคราะห์หน่อยนะครับ ที่ไหนก็ได้ สิ่งร้ายๆที่จะเข้ามามันจะได้ไม่เข้ามาข้องแวะในชีวิตของคุณ
ติณณ์”
พิธีกรสาวกล่าวสรุปให้เขา พาลีโล่งใจที่ติณณ์ไม่มีทีท่าจะตกใจหรือวิตกกังวล เสียงปรบมือดังลั่นสตูดิโอให้กับพาลีเมื่อ
พิธีกรกล่าวปิดช่วงที่สาม ทันทีที่เสียงผู้กำกับเวทีสั่งหยุดกล้องพาลีก็ถอนหายใจออกมา เขารีบลุกจากเก้าอี้ในขณะที่ติณณ์ยังวุ่นวายอยู่
กับคนจัดคิวและก้าวตรงมาหาสุดเขตอย่างรวดเร็ว
“เสร็จแล้ว”
พาลีเป่าปากอย่างโล่งอกที่การทำงานลุล่วงไปได้ด้วยดี น้ำทิพย์ที่ยืนชมการถ่ายทำอยู่ด้วยตรงดิ่งมาหาเขาและชื่นชมออก
หน้าออกตา
“ลีจ๋า ขึ้นกล้องมากรู้ไหม หล่อระเบิด”
น้ำทิพย์คล้องแขนพาลีไว้อย่างสนิทสนม
“รู้จักกันมาเป็นปีเพิ่งจะเห็นลีของพี่หล่อสุดๆวันนี้เอง ขนาดแฟนคลับของติณณ์ยังมองตาเป็นมัน แถมยังทำนายดวงติณณ์
ออกมาดีมากเลย ลีของพี่จะต้องดังเปรี้ยงๆและรายได้ก็จะเข้ามาเต็มกระเป๋า”
น้ำทิพย์ใส่เป็นฉากๆโดยไม่เปิดโอกาสในพาลีได้พูดแม้แต่คำเดียว พาลีเพียงยิ้มรับรอให้น้ำทิพย์หยุดพูดไปเอง
“เอ๊ะ แล้วนี่ใคร”
น้ำทิพย์เพิ่งจะสังเกตเห็นสุดเขตในสภาพซอมซ่อที่ยืนข้างๆพาลี หล่อนจึงเอ่ยถามอย่างแปลกใจเพราะไม่เคยพบหน้ามา
ก่อน
“คนขับรถของผมครับพี่ทิพย์ ชื่อ เอ่อ ชื่อนายไข่”
“ไข่”
น้ำทิพย์หัวเราะอย่างสุดกลั้น
“ชื่อดารามีเยอะแยะ ทำไมไม่เลือกไปใช้สักชื่อ คนอะไรชื่อไข่ ตลกจัง แล้วนี่ทำไมน้องลีถึงต้องมีคนขับรถด้วยล่ะ หรือว่า
เตรียมตัวขึ้นแท่นเป็นหมอดูแถวหน้า”
“ไม่ใช่หรอกครับพี่ทิพย์ รถผมเข้าอู่ก็เลยยืมรถญาติมาใช้ ผมขับรถรุ่นนี้ไม่คล่องก็เลยยืมตัวคนขับมาด้วย เอ่อ พี่ทิพย์ ผม
ขอตัวกลับก่อนนะครับ”
พาลีเอ่ยตัดบทเพราะหางตาเหลือบเห็นว่าบนเวทีนั้นการถ่ายทำเสร็จสิ้นลงแล้วและรายการก็เริ่มให้แฟนคลับทยอยออกไป
ด้านนอกสตูดิโอ พาลีรีบยกมือแตะที่แขนของสุดเขต
“ไข่ กลับกันเถอะ”
ยกมือไหว้น้ำทิพย์ที่ยังยืนงงแล้วเดินนำสุดเขตออกไปทางด้านหลังสำหรับพนักงานและแขกรับเชิญจนกระทั่งเกือบจะถึง
รถยนต์ที่จอดไว้ทั้งพาลีและสุดเขตก็ต้องชะงัก
“พาลีครับ”
เสียงติณณ์ตะโกนเรียกและรีบก้าวมาหาพาลี เขาโปรยยิ้มโดยไม่สนใจสุดเขตที่ยืนหน้าบึ้งมองอยู่
“ขอบคุณนะครับที่มาดูดวงให้ผมวันนี้ แม่นมากๆเลย”
พาลีฝืนยิ้มออกไป เขารู้สึกผิดอยู่บ้างที่ไม่ได้พูดออกไปทั้งหมดอย่างที่ไพ่ทำนายไว้
“ไม่เป็นไรครับ คุณติณณ์อย่าลืมหาเวลาไปทำบุญอย่างที่ผมบอกนะครับ”
“พาลีก็ช่วยพาผมไปทำบุญสิครับ”
“อะแฮ่ม”
สุดเขตกระแอมเสียงดัง เขานึกหมั่นไส้ติณณ์เต็มกำลังจนต้องรีบดัดเสียงเหน่อขัดคอ
“รีบกลับเถอะครับคุณพาลี ประเดี๋ยวรถติด”
“เสือกอะไรวะ ขี้ข้าก็อยู่ส่วนขี้ข้าไปสิ”
ติณณ์มองสุดเขตตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเหยียดหยามทำให้พาลีนึกเคืองการกระทำของติณณ์
“ขอโทษนะครับ ผมดูดวงอย่างด้วยไม่ได้รับเดินสายทำบุญหรือสะเดาะเคราะห์ ขอตัวล่ะครับคุณติณณ์”
พาลีหันหลังให้ติณณ์อย่างไม่นึกสนใจอีก สุดเขตเบ้ปากยักไหล่ใส่ติณณ์เป็นการเยาะเย้ยก่อนจะเดินตามพาลีไปที่รถยนต์
เขาเปิดประตูด้านหลังให้พาลีขึ้นไปนั่งจากนั้นก็ก้าวเข้าไปนั่งหน้าพวงมาลัยขับรถจากมา
ติณณ์มองตามท้ายรถคันนั้นไปด้วยนัยน์ตาวาววาม ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดพาลีถึงได้ถูกใจเขานักทั้งใบหน้ารูปร่างและกิริยา
ท่าทางมันทำให้ติณณ์อยากจะเอาชนะใบหน้าเคร่งขรึมนั้นเสียเหลือเกิน ติณณ์อยากจะรู้ว่าด้วยความช่ำชองของเขาหากมีพาลีอยู่ใต้ร่าง
ฝ่ายนั้นจะทนทำตัวนิ่งเฉยอยู่ได้หรือไม่
อีกเป้าหมายหนึ่งที่ติณณ์ต้องการพิชิตนั่นคือพาลี
มีต่ออีกนิด...