ตอนที่ 19 หนูอยากกิน...?
“โอมกับไอ้เตอร์นี่มันขยันสตรีมจนเพขเปิดรับโดเนตได้แล้วแฮะ” หลังจากผ่านการแฮงก์ในวันอังคารที่ผ่านไป นี่ก็ล่อมาวันศุกร์แล้ว แล้วโอมกับเตอร์ก็ลงแรงก์พร้อมสตรีมที่เพจไปด้วยทุกวันผ่านการคอลดิสคอร์ด
มอสนั่งดูกราฟของเพจที่พุ่งขึ้นสูงรวมถึงยอดดาวที่มีคนส่งมาให้คู่รักน่าหมั่นไส้นั่น ต้องยอมรับละนะว่าเวลาที่ทั้งคู่เล่นเกมอยู่ด้วยกันมันน่ารัก มีมุมหยอดกันอ้อนกัน เป็นโมเมนต์หวานๆ ที่ทำเอาสาวๆ พากันหวีด นี่เพจเกมเลยเต็มไปด้วยผู้หญิงมากมายที่เข้ามารอดูโอมกับเตอร์เปิดสตรีมตอนหกโมงเย็นของทุกวัน
“รายได้พวกนี้มึงก็เอาไปละกัน” วัตบอกพลางดูดกาแฟเย็นในแก้ว
“เห็นด้วยนะ ยังไงก็รายได้ของพวกมึง” มอสเห็นด้วยกับวัตอย่างแรง ทั้งมอส วัต หรือแจ็กเองไม่มีใครสตรีมแล้วก็ทำแค่หน้าที่แอดมินอยู่เบื้องหลัง
“กูว่าเอามากินเป็นกองกลางดีกว่า พวกมึงก็ทำหน้าที่นี่ ไม่ใช่กูกับหนูเตอร์สักหน่อย” แต่โอมกลับไม่เห็นด้วย ตนมองว่าเพจมันร่วมมือกันทำหลายคน ถ้าไม่ได้เหล่าแอดมินมาช่วยแชร์ให้มันก็อาจจะไม่มีคนดูขนาดนี้ก็ได้ เขาคิดว่าทุกคนที่ทำก็เหนื่อยเหมือนกัน ควรได้อะไรที่เท่าเทียมกันไป
“คุยอะไรกันหน้าเครียดแต่เช้าเลย” เตอร์เดินเข้ามาที่โต๊ะประจำของเหล่าหนุ่มๆ ผู้ติดเกมทั้งหลาย รวมถึงดรีมและโจ๊ก
“นั่นดิพี่ เป็นเมนกันอ่อ อิอิ” โจ๊กกวนประสาทรุ่นพี่ ก็เห็นเครียดกันเลยช่วยผ่อนคลายบรรยากาศ
แจ็กจากที่ตอนแรกนั่งพิมพ์แชตอยู่กับสาวๆ พอเห็นโจ๊กก็นิ่งไป ท่าทางลังเลว่าควรจะเก็บมือถือหรือเล่นมันต่อ โจ๊กนั้นกลับเฉยชา ไม่ได้มีอาการอะไร ทำเหมือนเรื่องระหว่างทั้งคู่ในคืนนั้นมันไม่มีอะไรจริงๆ โจ๊กเก่งมากเลยนะในสายตาแจ็ก เป็นรุ่นน้องคนเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป กลายเป็นแจ็กเสียมากกว่าที่ไม่สามารถทำตัวปกติได้เมื่อมีโจ๊กอยู่ในกลุ่มสนทนา
“คุยเรื่องเงินโดเนตครับหนูเตอร์” โอมหันไปดึงแขนเตอร์ให้นั่งข้างกัน
“อ่อ ทำไมอะ เงินนั่นควรเป็นของกองกลางหนิพี่ แล้วพวกพี่จะทำหน้าเครียดกันทำไม”
“ก็วัตอยากจะยกเงินนั้นให้พวกเราไง” โอมพูดไปก็ดันอาหารที่ตนซื้อมาเผื่อให้เตอร์ได้กินเป็นมื้อเช้า แซนวิชง่ายๆ กับนม
“ไม่เอาอะ เป็นกองกลางนี่แหละพี่ ไว้กินด้วยกัน หรือไม่ก็เก็บไว้เป็นทุนทำแข่งดีมั้ย” เตอร์เสนอความคิดเห็น
“แข่งก็ยังไม่เคยแข่ง แต่จะทำแข่งเองแล้วเนี่ยนะ” วัตว่าเสียงนิ่ง
“อ่าว มันก็ไม่เกี่ยวสักหน่อยพี่ การแข่งอะเตอร์ก็ดู ศึกษาเพิ่มเติมอีกสักหน่อย ทีมแอดมินเราจัดทัวร์กันเองได้อยู่แล้ว ยิ่งเราจัดใหญ่เท่าไหร่ เราก็จะยิ่งดังนะพี่ เตอร์ว่าดีออกน้า ตอนนี้แคลนเราก็อันดับต้นๆ ของเกมแล้วด้วย ต้องทำอะไรที่มันยิ่งใหญ่หน่อยซี่ เนอะๆ คุงโอม” อ่า...หันมายิ้มอ้อนแบบนี้ก็ต้องตามนั้นเลยล่ะคร้าบน้องเตอร์
“หนูว่าไงพี่ก็ว่างั้น”
“อ่าวๆ มึงจะเข้าข้างกันโดยไม่พูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้นะ” มอสแย้งเข้าให้ บอกแล้วว่าอีคู่นี้มันน่าหมั่นไส้
“ต้องได้ดิ”
“ไม่ได้”
“ได้”
“ไม่”
“ได้”
“ไม่”
“ได้”
“ไม่”
“ไม่ต้องเถียงกันแล้วไอ้ห่า” วัตทนไม่ไหวกับการต่อปากต่อคำของมอสกับโอม จะมาได้ไม่ได้อยู่เงี้ยวันนี้ก็ไม่จบ น่ารำคาญอีกต่าง
“ฮ่าๆ พวกพี่นี่ทำตัวเป็นเด็กเลย” เตอร์นั่งขำ อยู่กลุ่มนี้มีเรื่องให้เฮฮาได้ตลอดจริงๆ
“งั้นมึงสรุป” มอสหันไปหาวัต
“กูเห็นด้วยกันเตอร์ แต่ก็คงยังไม่ได้ทำแข่งเร็วๆ นี้หรอกนะ เราไปลองลงแข่งแล้วกวาดรางวัลเยอะๆ ก่อนดีกว่า จากนั้นค่อยทำแข่งกันเอง”
“อืม แบบพี่วัตก็ดีนะ พอเราแข่งบ่อยๆ คนก็จะเห็นเราเยอะขึ้น ยิ่งเราชนะ คนก็จะยิ่งรู้จักเรามากขึ้นไปอีก ผมว่าการที่เราแสดงให้คนอื่นรู้ว่าพวกเราเก่งจะทำให้เรามีฐานอำนาจมากขึ้นอีกด้วย เอางี้ไหมพี่ อาทิตย์หน้ามีการแข่งเล็กๆ เราไปลงกันไหม ทีมหนึ่งมีได้ทั้งหมดเจ็ดคน เนี่ยเราครบทีมเลยนะพี่” หนูเตอร์ตาวาวเป็นประกาย เพราะมันน่าตื่นเต้นสุดๆ ไปเลยกับการได้ลงแข่งขัน
“เอาดิ ได้นะ แล้วเราจะให้ใครไปสมัคล่ะ” มอสมองหน้าผู้ร่วมแย่งอากาศหายใจบนโต๊ะ
“ผมทำก็ได้พี่” ดรีมเป็นคนเสนอ หลังจากนั่งฟังเงียบๆ มาพักใหญ่
“โอเค งั้นพี่ฝากด้วย อืม...หลังจากนี้ก็แค่ต้องซ้อม สักสองทุ่มครึ่งเป็นไง” คราวนี้มอสต้องหันไปถามวัต
“ก็ดีนะ”
“แต่ไม่เอาวันนี้นะ” โอมรีบปฏิเสธที่จะซ้อมในวันนี้
“กูยังไม่ได้บอกเลยจะเอามึงเข้าทีมแข่ง” วัตสวนกลับ
“อ่าว...ใช่ซี่ กูมันอ่อนนี่ แม่งเสียใจนะ” โอมกระซิกๆ ใส่เพื่อน หนูเตอร์นี่ก็รักคุงโอมจัดเลยนั่งกลั้นขำใหญ่
“แหมทำเป็น กูไม่เอามึงก็ยัดเหยียดตัวเองเข้ามาอยู่ดีปะวะ”
“แต่การที่ต้องยัดเหยียดตัวเองเข้าไปก็ไม่ได้รู้สึกดีปะวะ” คราวนี้โอมพูดจริงจังขึ้นมาหน่อย ซึ่งคนอื่นๆ ก็รับรู้ได้แหละว่าโอมน้อยใจจริงๆ
“เออๆ กูขอโทษ กูพูดเล่น ยังไงก็เอามึงลงอยู่แล้ว เดี๋ยวนี้ไม่ไก่อ่อนแล้วหนิ” วัตก็ต้องยอมไป เพราะก็รู้แหละว่าเพื่อนคงมีนอยด์บ้างอะไรบ้าง
“แน่นอน แฟนกูเก่ง”
“น่าหมั่นไส้ให้น้อยๆ หน่อย” มอสส่ายหน้าระอาใจ ผิดกับหนูเตอร์ที่ยิ้มไม่หุบ ซ้ำยังหันไปส่งยิ้มให้โอมตรงๆ อีกด้วย
งื้อ...จะทานแล้วนะคร้าบบบบบบ
ได้แค่คิดนะ ไม่สามารถทำจริงได้ โอมยิ้มตอบเตอร์แล้วยีหัวหนูเตอร์เบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยวสุดๆ นี่ตั้งแต่วันที่จูบกันในห้องวันนั้น เขากับเตอร์ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองแบบที่เป็นตัวเป็นๆ เลย มีแต่คาสายในดิสคอร์ดเท่านั้น มันน่าน้อยจุย อยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่ไม่รู้จะทำยังไงให้มีโอกาศสวีทวี้ดวิ้ววว ได้
ขณะที่ทุกคนร่วมพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน โจ๊กเม้าท์ดรีมที่ไปแจกแต้มในแรงก์ ดรีมก็สวนโจ๊กเรื่องที่โจ๊กโยนเกม เถียงกันไป เถียงกันมา มอสก็เข้าไปร่วมวงด้วย ปล่อยวัตนั่งเล่นเกม โอมกับเตอร์งุ้งงิ้งกันอยู่สองคน คงมีแต่แจ็กที่ผิดแปลกไป ไม่สิ ต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้ถ้าโจ๊กอยู่ในโต๊ะแจ็กจะมองโจ๊กแล้วก็นิ่งๆ อยู่แบบนี้เลย บางทีก็ลุกหนีไปเสียดื้อๆ ครั้งนี้ก็เช่นกัน...
“กูไปก่อนนะ” แจ็กหยิบกระเป๋าขึ้นสะพาย
“ไปไหนอะ ไม่เข้าคลาสพร้อมกันวะ” มอสรีบหันไปถาม แต่แจ็กเดินลิ่วๆ หนีไปแล้ว
“มันเป็นบ้าอีกแล้วเหรอวะ” โอมพูดแบบงงๆ อาการมันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันอังคารได้ล่ะ ตอนที่รุ่นน้องไม่อยู่ก็ลั้นลาคุยเรื่องสาวได้ แต่พอรุ่นน้องมากลับหงอยเฉย
“ผมว่าจะพูดหลายทีแล้วว่าพี่แจ็กแกแปลกๆ นะ หรือผมคิดไปเอง เวลาพวกผมมาแกจะซึมๆ แล้วก็เดินหนีออกไปก่อนทุกรอบเลยอะ แกเป็นอะไรกันแน่พี่” เตอร์ถามสิ่งที่สงสัย สังเกตมาก็ตั้งนานแต่ไม่กล้าถามเนี่ยแหละ
“พวกพี่ก็ไม่รู้วะ ยังไม่เข้าใจเลยว่ามันเป็นบ้าอะไร” มอสจนปัญญาจะตอบ
จากที่นั่งเถียงกันเรื่องใครโยนมากกว่าก็กลายเป็นวิเคราะห์แจ็กแทน เตอร์เข้าร่วมบทสนทนานี้ ปล่อยให้โอมนั่งโอบเอวไป เล่นมือถือไป มันเป็นเรื่องที่น่าสนุกแล้วก็ตื่นเต้น เรียกว่าไงดี...เรียกว่าเหมือนได้ร่วมกันเป็นนักสืบละมั้ง แต่ขณะที่ทุกคนสนุกกับหัวข้อนี้มีคนหนึ่งค่อยๆ เฟดตัวเองออกจากบทสนทนาด้วยการเล่นมือถือเงียบๆ ซึ่งคนนั้นก็คือโจ๊ก
ตอนบ่ายสามโอมและผองเพื่อนเลิกคลาสกัน สภาพสะโหลสะเหลสุดๆ ยกเว้นโอมที่ตื่นเต้นกับการได้เลิกคลาส ไม่มีเหนื่อยไม่มีเพลียเลยแม้แต่นิด ดูสภาพมอส แจ็ก วัต ตาอย่างลอย ดูออกเลยสมองหายไปหมดแล้วเพราะโดนบทเรียนกัดกิน
เดินๆ กันอยู่สี่หนุ่มสี่มุม แจ็กก็ชวนเพื่อนไปดื่มอีก ตามประสาสายดื่มแหละ วันนี้วันศุกร์เหมาะแก่การดื่มสุราเคล้านารีสุดๆ มอสกับวัตโอเค แต่โอมไม่ พอถามโอมก็บอกว่าวันนี้อยากจะไปอยู่กับเตอร์ แค่นั้นแหละ สายตารู้ทันของเพื่อนทั้งสามก็ทิ่มแทงเข้ามาแบบพร้อมเพรียงกัน โอมเลิ่กลั่กเล็กน้อยแล้วรีบชิ่งทันที!
โอมกับเตอร์มักจะนัดกันไปทานข้าวเย็นด้วยกันทุกวัน แม้ว่าวันนั้นจะมีคนใครสักคนเลิกเร็วกว่า เลิกช้าว่า หรือแม้กระทั่งไม่มีเรียนก็ตาม วันนี้ทั้งคู่จะเลิกเวลาใกล้กัน ก็จะไปหากันตามสถานที่ที่ได้นัดไว้
แต่ว่า...วันนี้โอมจะทำมากกว่าการไปกินข้าวเย็น
โอมอยากกินเตอร์ครับ!
นี่โอมดูเป็นพวกของขาดหรือเปล่านะ? เอาเข้าจริงโอมก็แอบระอายใจนิดหน่อยที่แบบมาคิดอะไรอย่างนี้กับแฟนที่เพิ่งคบได้หมาดๆ แต่จะมานั่งปฏิอิเสธความคิดตัวเองมันก็ไม่ใช่ มันก็ต้องยอมรับว่าโอมหมายปองจะครอบครองเตอร์เหมือนคนที่เป็นแฟนกันทั่วไป โอมเดินไปคิดไป ว่าจะเอายังไงดี คือไม่อยากเป็นคนไม่ดีที่คิดแต่จะเอาแฟนของตัวเองอย่างเดียวอะ
ในหัวตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสน ตีกันวุ่นวายทั้งฝ่ายชั่วฝ่ายดี อยากถนอม แต่ก็อยากครอบครอง อยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหนูเตอร์ไว้แต่เพียงผู้เดียว แล้วรู้อะไรมั้ย ทุกวันนี้ที่คาสายอยู่กับหนูเตอร์เนี่ย หนูเตอร์ก็ชอบเปิดเพลงที่แบบ...ถอดออกทีละชิ้น ได้มั้ย อะไรเงี้ย เขาฟังเขาก็คิดไง เขาฟังเขาก็จิตนาการอะ บางทีเตอร์ก็ร้องมันออกมา แล้วทุกวันอะ นี่ยังไม่รวมบางทีที่หนูเตอร์ทำเสียงอ้อนๆ เสียงแหบอ้อนๆ เสียงพ่นลมหายใจที่ฟังแล้วขนลุก...ไอ้นั่นลุกอะ
แม่ง...ปกติก็อยากฟัดอยู่แล้ว เจอแบบนี้ทุกวันยิ่งเริ่มจะกลายเป็นคนชั่วเข้าทุกที ให้ตายเถอะ ควรเป็นคนดีที่ไม่ได้แดกไหมนะ อดทนต่อไป เป็นสุภาพบุรุษอะไรเงี้ย โอ้วเป็นเครียดแท้หนอชีวิต
“คุงโอมเป็นอะไรอะ?” โอมเดินเครียดจนมาถึงที่หมายไม่รู้ตัว สีหน้านี่ออกเลยว่าใช้สมองอย่างหนัก เรียกว่าหนักกว่าตอนเรียนก็ตอนนี้เนี่ยแหละ
“อะ...เอ่อเปล่าครับ วันนี้หนูอยากกินอะไร” โอมยื่นมือไปให้หนูเตอร์จับ แต่หนูเตอร์เลือกจะกอดแขนแล้วซบไหล่แทนซะอย่างนั้น เนี่ยยยย พ่อคุณแม่คุณ อยากฟัดคร้าบบบ
“อืมมมม กินอะไรดีอะ”
“ไม่รู้สิครับ” โอมก้มลงมองใบหน้าน่ารักของแฟนที่กำลังเงยหน้ามองเขาอยู่
“คุงโอมไม่มีอะไรที่อยากกินมั้งเหรอ ให้หนูคิดทุกวันเลยอะ เอาเปรียบหนูน้าแบบเนี่ย” ขอโทษได้มั้ยล่ะ ก็ไอ้ที่อยากกินมันเป็นหนูอะครับ จะให้พูดยังไงดี
“ฮ่าๆ อะไรกัน พี่ตามใจหนูมันไม่ดีเหรอครับ หนูอยากกินอะไรก็ได้กินงี้”
“ก็ดี แต่วันนี้หนูคิดไม่ออก”
“เอาที่หนูคิดขึ้นมาแว้บแรกเลยก็ได้”
“เบียร์”
“ฮะ???” โอมถึงกับชะงักแล้วมองหน้าเตอร์ เบียร์เนี่ยนะหนูเตอร์ ไม่นะไม่ หนูอย่าพูดจาว่าอยากกินอะไรเช่นนั้น เพราะนั่นคือสิ่งที่จะทำให้คุงโอมคนนี้คิดอะไรชั่วๆ อีก
“ฮ่าๆ ก็คุงโอมให้หนูคิดอะ แล้วที่แว้บเข้ามาก็เป็นเบียร์ เฉยเลยแฮะ...เอาไงดีล่ะ”
“มันก็กินได้ แต่กินข้าวดีกว่ามั้ย”
“งืม...” หนูเตอร์ทำหน้าคิดอีกแล้ว วันนี้มันคิดหนักขนาดนั้นเลยเหรอ
“งั้นกินไข่เจียวกุ้งสับ” หนูเตอร์เงยหน้ามายิ้มหวานตาปิดให้
“โอเค งั้นไปร้านป้ากัน”
“ไม่ๆ”
“อะไรอะ ไม่กินร้านป้าเหรอ” โอมงงอีกรอบ วันนี้หนูเตอร์งุ้งงิ้งนะรู้ตัวไหม แล้วมันก็...เออ...มันน่าฟัดแหละ
“หึ ไม่เอาอะ”
“แล้วกินร้านไหน”
“ร้านที่...มีเชฟชื่อคุงโอม” โอมมองหน้าที่ขึ้นสีของเตอร์หน่อยๆ ด้วยสายตาที่ไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน โอ้วก๊อด...น้องน่าแดกมาก แฮ่กๆ
“งั้นก็ต้องไปกินที่ห้องพี่แล้วล่ะ” เอาวะ ตอนแรกนี่คิดไปคิดมา คิดจนล้มเลิกแผนการล่อลวงน้องไปแล้ว แต่ตอนนี้ บอกเลยว่า...ล้มเลิกยาก
“คร้าบ พอดีเลย กินแล้วก็ค่อยสตรีม เนอะ”
“โอเค แล้วจะเอาเบียร์ไหม ถ้ากินที่ห้องพี่ก็ได้นะ”
“ได้เหรอ”
“ได้ครับ” พอโอมอนุญาต หนูเตอร์ก็พยักหน้าหงึกหงักด้วยรอยยิ้ม
ทั้งสองพากันไปซื้อของที่จะทำกิน ระหว่างนี้ก็คุยกันว่าคุงโอมทำอาหารเป็นมั้ย ทำอะไรเป็นบ้าง แน่นอนว่าลูกแม่ค้าร้านข้าวแกงไฮโซอย่างโอมทำอาหารเป็นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ดูแม่ทำมาเยอะ ช่วยแม่ทำมาก็เยอะ หนูเตอร์ดูจะตื่นเต้นมากๆ เพราะว่าถ้าทำอร่อยตนก็จะมีให้อ้อนเวลาอยากให้ทำอะไรให้กินแล้ว
ไข่หกฟอง กุ้งครึ่งโลและเบียร์สามขวดถูกวางลงที่เคาน์เตอร์ครัว เตอร์ช่วยเอาเบียร์ไปเก็บและหุงข้าว ส่วนโอมนั้นหยิบถ้วยออกมาตอกไข่ สับกุ้ง ตั้งกระทะ เทน้ำมัน รอมันเดือด ระหว่างรอก็ปรุงรส หนูเตอร์ที่ทำหน้าที่ตัวเองเสร็จแล้วก็นั่งอีกฝั่งของเคาน์เตอร์ครัวดูคุงโอม
เวลาเห็นผู้ชายตัวใหญ่ๆ อยู่ในครัวทำอาหารสนี่มันมีเสน่ห์จริงๆ ต่อให้ทำคล่องหรือไม่คล่องก็ยังน่ามอง แล้วเตอร์ก็เผลอมองแบบจับจ้องไม่ละสายตา เล่นเอาคุงโอมตะกุกตะกักไปนิดหนึ่ง เพราะมันเกร็งที่โดนแฟนจ้องซะขนาดนั้น
“คิดยังไงอยากกินไข่เจียว” เพื่อไม่ให้ตัวเองเกร็งไปมากกว่านี้ โอมจึงเปิดบทสนทนาขึ้นมา
“อยากกินอาหารฝีมือคุงโอมแหละ แต่ไม่รู้ว่าคุงโอมทำอะไรเป็นบ้าง ก็เลย...เอาไข่เจียว ง่ายๆ ทำได้แน่นอน” สีหน้าเตอร์ตอนพูดเต็มไปด้วยความสุข รอยยิ้มน่ารักๆ เต็มแก้มขาวผ่อง
“แล้วหนูทำอาหารได้มั้ย” โอมเอากุ้งใส่เข้าไปในไข่ จากนั้นตีมันแรงๆ ให้ขึ้นฟูประมาณหนึ่ง เวลาทอดจะได้ฟูๆ กรอบๆ
“ก็พื้นฐานมั้ง ไข่ดาว ไข่เจียว ต้มมาม่า”
“แหม มาม่าไม่ต้องนับก็ได้มั้ง อันนั้นมันแค่ต้มน้ำเอง”
“เอ้า ต้มน้ำก็ถือว่าทำแล้วน้า ใส่ไข่ด้วย อร่อยสุดๆ” น่าตาน่าเอ็นดู พี่อยากพาหนูไปดูเอ....ช่างมัน
“คร้าบ ทำก็ทำ หนูว่าไงพี่ก็ว่างั้นอะ”
“พี่ขัดหนูบ้างก็ได้เหอะ ตามน้ำตลอด”
“ไม่ได้หรอก เดี๋ยวแฟนไม่รัก” โอมยิ้มทะเล้นใส่ เห็นแก้มนั้นขึ้นสีนิดๆ แล้วชื่นใจจริงๆ
“ถ้าสมเหตุสมผลก็ไม่เห็นต้องกลัวเลย รักอยู่ดีแหละ” เตอร์ไม่ได้มองหน้าโอม แต่มองที่อื่น
“เช่น...เรื่องเติมเกมเป็นไง”
“ง่า...เรื่องนั้นตามใจก็ได้ครับ” รีบหน้าทำหน้าแบ๊วอ้อนเลยน้า
“เรื่องนั้นอะน่าขัดที่สุดแล้วครับ หึหึ” โอมขำเบาๆ ก่อนจะเทไข่ใส่กระทะที่ร้อนจัด
ไข่เจียวกุ้งหอมๆ สีทองเหลืองกรอบถูกตักขึ้นมาใส่จานใบสวย ตอนนี้ในสายตาเตอร์ไม่ได้อยู่ที่หน้าคุงโอมอีกแล้ว มันอยู่ที่ไข่เจียวในจาน น้ำลายเหมือนจะไหลยังไงบอกไม่ถูก แต่ก็ต้องมานั่งรอข้าวสุกก่อนไม่งั้นก็อดกิน เตอร์เอื้อมมือไปหมายจะดึงตรงขอบมากินเล่น แต่ก็โดนตีมือเสียก่อน
“รอข้าวก่อนครับ”
“แค่ชิมเองงงงง”
“โนวๆ”
“คุงโอมใจร้าย”
“อ่าว ไหนว่าให้ขัดบ้างไง พอขัดก็งอน แก้มพองจนตาหายแล้ว” โอมอดไม่ได้ที่จะจิ้มแก้มเตอร์เล่น
“อันนี้ไม่ต้องก็ได้ เตอร์อยากชิม ขอชิมคำหนึ่ง”
“คำหนึ่ง?”
“ใช่ คำหนึ่ง” มีชูนิ้วขึ้นบอกจำนวนคำที่ต้องการตรงหน้าด้วย
“ได้ครับ” โอมจับมือที่ชูเลขออกจากหน้าเตอร์ จากนั้นเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ๆ ประทับริมฝีปากของตัวเองไปที่ปากนุ่มนิ่มของเตอร์ สัมผัสเบาๆ ค่อยๆ คลึงปากด้วยปากก่อนจะใช้ลิ้นเลียริมฝีปากของหนูเตอร์ สอดเข้าไปในนั้นนิดหนึ่งแล้วก็ถอยออก...
คำหนึ่งของเตอร์หมายถึงไข่เจียว แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นจูบนุ่มนวลของคุงโอมเสียอย่างนั้น หนูเตอร์หลุบตาลง เบี่ยงหน้าหลบนิดหน่อยเพราะไม่อยากให้คุงโอมเห็นว่าตอนนี้หน้าของเตอร์แดงขนาดไหน มันไม่พ้นหรอกเพราะหูหนูเตอร์ก็แดงจนเห็นได้ชัด
“อร่อยไหมครับ” โอมใช้โอกาสที่หนูเตอร์เขินขยับเข้ากระซิบเสียงเบาที่ใบหูแดงๆ
“...อื้อ...อะอร่อยครับ” หนูเตอร์ถึงกับเอาสองมือปิดหน้าก่อนจะพยักหน้าแล้วตอบเสียงอู้อี้
….100%….
____ช่วง~ Gukak ขายของค่า____
Rre-Order เกมเมอร์มือวางอันดับกาก #โอมกินเตอร์ (แนวมหาลัยน่ารักกรุบกริบ)
สั่งซื้อได้ที่
เทพช๊อป />
https://bit.ly/2OUrk08inbox เพจ />
https://bit.ly/37av9Jlทดลองอ่าน />
https://bit.ly/35bG6KCEbook #ฟ้องป๊าแน่ (แนวรับซินรับพอร์น)
ลิงก์/>
https://bit.ly/3xmyEIw~ฝากอุดหนุนผลงานด้วยนะคะ สมทบทุนค่าขนมและค่าคอมมิชชั่นค่า~