เช้าวันต่อมาคนแฮ้งค์กันแทบทั้งเหมือง มีแต่พวกผู้หญิงที่ออกมาเก็บศพพวกผู้ชายที่ปล่อยตากน้ำค้างกันไว้ในตอนเช้าตรู่ คนเฒ่าคนแก่ก็ออกมาทำกิจวัตประจำวันกันตามปกติ ส่วนพวกคนหนุ่มคนสาวส่วนมากกว่าจะฟื้นกันก็ปาไปช่วงบ่าย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือบัวกับนายเหมืองที่ฟื้นขึ้นมาในช่วงใกล้ๆกัน บัวอายหน้าแดงเมื่อเห็นสภาพไม่ค่อยเรียบร้อยของตัวเองกับนายเหมืองบนเตียงในห้องใหญ่ของนายเหมือง ซึ่งนี่เท่ากับว่าเมื่อคืนนี้แม่เขาคงจะต้องนอนคนเดียว และไม่ต้องเดาเลยว่าวันนี้บัวจะเข้าหน้าแม่ติดหรือไม่ที่แค่คืนที่สองเขาก็ปล่อยให้แม่ต้องนอนคนเดียวเสียแล้ว
“อ๋อ ไม่เป็นไรหรอกลูก บ่าวสาวเข้าห้องหอเขาก็ไม่ให้ออกจากห้องจนเช้าอยู่แล้วจ่ะ แต่นี่บ่ายแล้วนะ กินอาหารเช้าเลยมั้ยลูก”
โอ๊ยยยย บัวอยากจะเอาหน้ามุดดินหนี! ท่าทางแม่เขาจะอินกับงานเลี้ยงเมื่อคืนมากเกินไปแล้ว
“เอาน้ำขิงไปให้นายเหมืองหน่อยไปจะได้ตื่น เมื่อคืนเขาพาหนูไปนอนแล้วก็ยังลงมาช่วยเคลียร์งานต่ออีก คงกลับไปนอนดึกน่าดู” แม่เขาเอ่ยสำทับพร้อมทั้งยัดแก้วน้ำขิงอุ่นๆมาให้ในมือ
“เอายาแก้ปวดไปเผื่อด้วยเลยนะคะครูบัว เมื่อคืนนายเหมืองดื่มแทนคุณไปเสียเยอะน่าจะน็อคยาวล่ะค่ะ” ตามมาด้วยป้าพุดที่หยิบกระปุกยากับน้ำเปล่าที่ใส่ขวดเล็กมาให้แถม
“พี่พุดจ๊ะ เราไปดูเด็กๆกันเถอะ ป่านนี้เล่นแต่เกมส์ไม่ยอมอาบน้ำทีละมั้ง” แม่ฝ้ายชวนป้าพุดฤทัยไปดูสองแสบข้างบน มีการจับมือจับไม้สนิทสนม เมื่อวานตอนช่วยกันทำขนมบัวก็เห็นเข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย หยิบของทำงานกันด้วยเสียงหัวเราะทั้งวัน
“ไปค่ะ ปล่อยบ่าวสาวเขาพักไปเนอะ งานแต่งเมื่อวานจัดหนักจัดเต็มกันไปซะขนาดนั้น” พูดจบยังมีมายักคิ้วหลิ่วตาใส่บัว
นี่ว่าแค่แม่บัวก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดดินรูไหนแล้วนะ เจอป้าพุดฤทัยชงซ้ำเห็นทีเขาคงได้หนีไปเอาหน้าซุกเขาพระสุเมรุเสียแล้วล่ะ
บัวเดินเซๆกลับขึ้นห้องไปทั้งสภาพเสื้อนอนติดกระดุมไม่ตรงรังกับกางเกงขายาวย้วยๆ และเพิ่งจะตระหนักได้อีกอย่างว่าสภาพที่เขาสะโหล๋สะเหล๋ลงไปข้างล่างนั้นคือเขาอยู่ในชุดนอนนายเหมืองทั้งชุด สภาพผมเผ้าฟูฟ่อง และใบหน้าแดงเถือก
หนอย เจ้าทศกัณฑ์ พ่อจะเล่นให้กลับกรุงลงกาไม่ถูกเลยคอยดู!
“นายเหมือง! ตื่นเดี๋ยวนี้!!! ใครใช้ให้เอาบัวกลับมาห้องนี้เล่า แล้วมีสิทธิ์อะไรมาถอดเสื้อผ้าบัว นี่! นายเหมืองครับ! ตื่น!” ปากเรียกไปมือก็เขย่าร่างหนาหนักที่นอนหันหลังเข้าผนัง พอเจ้าตัวรำคาญเสียงบัวหนักเข้าก็เอาหมอนมาอุดหูแล้วยิ่งเขยิบไปใกล้ผนังขึ้นอีก
“หนวกหูน่าบัว พี่ขอนอนต่ออีกหน่อยเถอะ”
“ไม่ได้ พี่รู้มั้ยว่าทำบัวขายหน้าแม่แค่ไหนอ่ะ แม่เห็นบัวในชุดพี่ แล้วก็โดนป้าพุดแซวว่าเมื่อคืนเป็นงานแต่งของเราสองคนอีก โอ๊ยยยย นี่บัวทำตัวไม่ถูกแล้วเนี่ย ตื่นเลยนะ มาฟังบัวบ่นก่อน”
“อย่าง้องแง้งใส่พี่แต่เช้าน่าบัว คนยิ่งปวดหัวอยู่ เดี๋ยวพี่ปล้ำนะ”
“แล้วเมื่อคืนพี่ไม่ได้ทำหรือไงเล่า” บัวพูดเองก็หน้าแดงเอง เอาตัวไปนั่งคล่อมลงบนสะโพกของคนที่นอนคะแตงข้างหันหน้าเข้าผนังอย่างไม่เจียมตัว เขาจะต้องลากนายเหมืองมาสำนึกผิดด้วยกันให้ได้ เรื่องอะไรจะรู้สึกอายอยู่คนเดียว
“ก็ไม่ได้ทำน่ะสิ ไม่เห็นหรือไงว่ากางเกงในก็ยังอยู่ พี่แค่ถอดเสื้อกับกางเกงให้บัวเอง คนมึนขนาดนั้นจะเอาแรงที่ไหนไปปล้ำคนอื่นฮ๊ะ พี่ก็คนนะบัวไม่ใช่โคถึก”
“เอ้า ก็เหมือนนี่” บัวเอามือไปประกบสองข้างแก้มเย็นๆของคนที่ยังทำนอนหลับตาแต่พูดตอบโต้เขาได้เป็นฉากๆ “ภาพพจน์บัวเละหมดแล้วรู้บ้างมั้ย แม่กับป้าพุดคงคิดว่าบัวเป็นคนติดแฟนขนาดหนักแน่ๆ แล้วบัวจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเนี่ย โอ๊ยยย”
“ไว้ที่เดิมแหละครับ แต่ช่วยย้ายก้นลงไปไว้ที่อื่นก่อนได้มั้ย มันตั้งแล้วเนี่ยเห็นมั้ย บอกอยู่ว่าอย่ามาโวยวายอย่ามาใกล้คนเพิ่งตื่น เตือนแล้วไม่ฟัง”
“เฮ้ย เดี๋ยวๆ” บัวสะดุ้งโหยง โคหน้าด้านหน้าไม่อายพลิกตัวนอนหงายอย่างรวดเร็ว และถึงปากจะบอกให้บัวย้ายก้นไปที่อื่นแต่มือกลับคว้าจับข้อมือบัวแน่น ทำให้ตอนนี้โพสิชั่นร่างกายมันค่อนข้างจะน่าหวาดเสียวอยู่ซักหน่อย บัวไม่สามารถนั่งทับลงไปบนร่างกายนายเหมืองได้เต็มๆก้นเลย
“ไม่เดี๋ยวแล้ว อยากให้ตื่นก็จะตื่นให้ แต่เป็นอย่างน้องชายพี่นะที่ตื่น”
“หนะ...นายเหมือง มะ...ไม่เอาแล้ว อยากนอนก็นอน บัวไม่กวนแล้ว”
“ไม่ทันแล้วคนดี” ใบหน้าคนเพิ่งสร่างเมาและเพิ่งตื่นหรี่ตามองคนที่มาก่อกวนเขาด้วยแววตาระยิบระยับ พริบพราวด้วยความหื่นที่ไม่คิดปิดบัง จนขนาดนี้แล้วบัวยังทำเป็นหน้าบางกับแม่กับป้าพุดอยู่ได้ ถ้าได้รู้ว่าเมื่อคืนพอเมาแล้วตัวเองมาเลื้อยพันแข้งพันขาใส่เขาทั้งงาน มิกระโดดหน้าต่างเอาหัวโหม่งโลกไปเลยหรือไง
อย่างนี้มันต้องเล่นเสียหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าไม่แน่จริง
“อยากอยู่ข้างบนก็อยู่ข้างบนให้ตลอดนะบัว บอกเลยว่าถ้าพี่น้ำไม่แตกไม่ต้องลงมานะ”
“นายเหมือง! พูดจาลามก!” คนโดนสั่งห้ามลงมาตีเพี๊ยะเข้าที่กล้ามอกสีแทนสวย นายเหมืองไม่นิยมใส่เสื้อนอนมาแต่ไหนแต่ไร เป็นพวกมั่นอกมั่นใจในสรีระร่างกายของตัวเองอย่างแรงกล้าเลยทีเดียว
“ก็ลามกกับเมีย พี่พูดไม่ได้หรือไง” แน่ะ พูดแล้วมีลอยหน้าลอยตาใส่ อยากจะเอาสก็อตเทปมาปิดปากนัก แต่ติดที่มือของบัวตอนนี้มันไม่ว่างน่ะสิ มันถูกบังคับลากให้ไปทักทายเจ้าน้องชายตัวแสบของคนที่เพิ่งหายแฮ้งค์
ไม่น่าเลยจริงๆเจ้าบัว ไม่น่ามาวอแวกับนายเหมืองแบบนี้เลยจริงๆ
“อ๊ะ...นายเหมือง ไม่เอาท่านี้ได้มั้ย”
“ไม่ได้ ลงโทษที่มาก่อกวนผัวแต่เช้า ก็รับกรรมไปซะ”
“ฮื้อ...นายเหมือง อ๊ะ อืม...ไม่..เอา อ๊ะ...”
“ชู่ว... เบาๆหน่อยคนดี เดี๋ยวลูกได้ยินนะ” โอ่ย แค่จะปิดปากบัวทำไมไม่ใช้นิ้ว ใช้ปากตัวเองมาปิดทำไม
“ก็ปล่อยบัวสิ เดี๋ยวใช้มือทำให้ แต่ไม่เอาข้างบน” บัวพูดไปก็หอบไป คนข้างล่างเขาเด้งเอวใส่ขยับไม่หยุดเลย
รู้แล้วว่าเอวดียิ่งกว่ากระทิงปลอมตามงานวัดเสียอีก แต่ไม่ต้องโชว์กันแบบนี้ก็ได้ รอเวลาให้ค่ำกว่านี้หน่อยก็ไม่ได้
“ไม่เอา เสียชาติเกิดหมด เสร็จใส่มือเนี่ยนะ เสียดายลูกๆพี่หมด เอาล่ะไม่ต้องพูดแล้ว ถ้าอยากหลุดไปจากตรงนี้ก็จัดการซะ พี่ช่วยแล้ว ที่เหลือเป็นหน้าที่เราแล้วครูตาหวาน ขยับให้เต็มที่ไปเลย”
“อื๊อ นาย...ไม่เอา อย่า..ขยับ อ๊า...มันยัง...ฝืด”
“ไม่แล้วนะคนดี ขยับเอวดูก่อนสิครับ ค่อยบ่นนะ”
หนอย...ใช่สิ ตัวเองมีหน้าที่แค่นอนเฉยๆนี่นา ไม่ใช่คนมาขยับแบบบัวเสียหน่อย บัวนึกขบเขี้ยวเคี้ยวฟันไปก็พยายามขยับก้นไป พอเริ่มเข้าที่เข้าทางก็คิดแต่ว่าทำยังไงก็ได้ให้นายเหมืองเสร็จเร็วที่สุด เขาหลับหูหลับตาขยับไปตามที่ตัวเองพอจะทำเป็น ดีไม่ดีไม่รู้แต่อีกฝ่ายเกร็งใส่เขาเป็นพักๆเขาก็ถือว่ามันคงไม่เลวล่ะนะ
และแล้วรอบแรกก็ผ่านไป ทิ้งไว้แค่ความปวดเอวของคนที่ต้องยอมขยับอยู่ฝ่ายเดียว บัวคิดว่ามันจะจบแล้วเชียว แต่เขาก็ไม่เคยจำได้สักที ว่าไม่มีทางที่นายเหมืองจอมอึดจะยอมหยุดแค่ที่รอบเดียว ชายหนุ่มที่ยังมีแรงเหลือเฟือพลิกร่างกลับไปเป็นผู้นำเกมส์ แล้วก็จัดการโหมซัดพาคนรักตัวขาวไปแตะขอบสวรรค์ซ้ำแล้วซ้ำอีก สรุปว่าน้ำขิงแก้วนั้นก็กลายเป็นหม้ายไป เพราะนายเหมืองได้ยาคลายอาการแฮ้งค์ตัวใหม่ที่ได้ผลดีกว่าน้ำขิงแก้วนั้นเป็นร้อยเท่าเลยทีเดียว
------------------------------------------------------------------------------
หนึ่งปีผ่านไป...
ผลการสอบบรรจุออกมาเกินความคาดหมายมาก เพราะบัวสามารถคว้าคะแนนอันดับหนึ่งในสาขาวิชาที่ตัวเองสอบมาครองได้สำเร็จ มีสิทธิ์ได้เลือกโรงเรียนใหญ่ๆที่มีชื่อของจังหวัดเป็นคนแรก แต่ทุกคนกลับงงเป็นไก่ตาแตกเมื่ออันดับหนึ่งขอสละสิทธิ์อันแสนโชคดีนั้น ไปอยู่โรงเรียนประจำตำบลนอกเขตเมืองไปไกลแทน แต่เจ้าตัวก็ตอบคำถามเพื่อนๆและกรรมการบรรจุไปว่าเพราะมันใกล้บ้าน เขามีแม่ที่ต้องดูแล และเขาพอใจแล้วที่จะได้ไปบรรจุในโรงเรียนขนาดกลางแทนที่จะเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ตามที่เขาสมควรจะเลือก
ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านไปนั้น บัวอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าตัวคนเดียว ตอนแรกแม่เขาอยากจะขึ้นมาอยู่เป็นเพื่อน แต่บัวขอให้แม่อยู่ที่เหมืองรอเขากลับไปดีกว่า เขาไม่อยากให้แม่มาอยู่เหงาๆเฝ้าเขาในกรุงเทพฯ เพราะตอนกลางวันเขาก็ต้องไปสอนเด็ก กว่าจะได้กลับบ้านก็ห้าหกโมงเย็น ตอนกลางวันแม่ก็คงไม่ยอมอยู่เฉยหาทางทำงานทำเงินเองอีก แต่บัวอยากให้แม่ได้พักบ้าง เขาเห็นแล้วว่าตอนที่แม่อยู่บ้านนายเหมืองนั้นแม่มีความสุขมาก แม่มีป้าพุดเป็นเพื่อนคุย มีหลานวัยซนให้เลี้ยงสองคน แถมแม่กับป้าพุดยังชวนกันทำขนมเล็กๆน้อยๆส่งขายในตลาดแถวบ้าน หาเงินมาเป็นค่าขนมให้หลานๆกันอีก นายเหมืองก็พอได้เบาแรงเรื่องเลี้ยงลูก เพราะตอนนี้สองแสบติดคุณยายแจ อวดใครต่อใครไปทั่วว่าพวกเขามีคุณยายที่ทั้งสวย ทั้งใจดี ทำขนมก็อร่อย มีแต่เรื่องดีกับดี แม่ไม่ควรมาอยู่เหงาๆกับเขาที่กรุงเทพฯจริงๆ
แล้วพอถึงช่วงวันหยุดยาวหลายๆวันบัวก็จะจองตั๋วกลับบ้าน ใช้เวลาเก็บเกี่ยวเติมพลังงานกับครอบครัวที่เหมือง แล้วก็กลับมาสู้งานในเหมืองหลวงต่อ ส่วนนายเหมืองนั้นช่วงแรกๆก็นั่งเครื่องบินบินมาหาเขาแทบทุกอาทิตย์ จนสมัครสมาชิกสะสมไมล์ไปได้เพียบ มาช่วงหลังๆนี่แหละที่บัวบอกให้เพลาๆลงบ้าง
นอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องดีๆตามมาอีกอย่าง เมื่อตอนช่วงหยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมา ครอบครัวของบัวตกลงกันจะขึ้นเหนือไปกราบเจ้าย่ากัน เด็กๆออกอาการดีใจอย่างออกนอกหน้า ส่วนแม่ฝ้ายนั้นค่อนข้างเกร็งและไม่ค่อยมีรอยยิ้มสักเท่าไหร่ตอนขาไป ทว่าเมื่อไปถึง ทุกคนที่รู้เรื่องครอบครัวของบัวถึงกับตะลึง เมื่อเจ้าย่าเดินเข้ามาหาแม่ของบัว แล้วยกมือขึ้นสวมกอดแม่ของบัวต่อหน้าทุกคน
แม่ฝ้ายปล่อยโฮออกมายกใหญ่ ก้มตัวลงกราบเจ้าย่าแทบตัก ขอขมาลาโทษกับเรื่องต่างๆที่เคยทำให้ครอบครัวเจ้าย่าเสียใจ และบอกว่าพ่ออยากจะกลับมากราบขมาพวกท่านมาตลอด แต่ก็มาป่วยจนต้องจากไปเสียก่อน จนก่อนเสียพ่อของบัวก็ยังกอดรูปของเจ้าปู่เจ้าย่าเอาไว้แนบอก เฝ้าบอกเธอให้มาขอโทษแทนให้ได้ ลูกสะใภ้กับแม่ผัวที่เพิ่งได้ปรับความเข้าใจกันพากันกอดแล้วก็ร้องไห้ใส่กันไปยกใหญ่ พาลเอาบัวที่ยืนตื้นตันใจอยู่ใกล้ๆสะอื้นไห้ไปด้วย จนนายเหมืองต้องเอามือมาโอบเอาคนรักไปกอดแนบอก แล้วเอ่ยบอกบัวไปว่า สลักหัวใจความรู้สึกผิดสุดท้ายของบัวคงปลดออกได้แล้ว หลังจากนี้บัวก็คงจะมีความสุขได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องพะวกพะวนกับเรื่องของครอบครัวใดๆอีก
พวกเขาอยู่ฉลองปีใหม่กันที่สวนเจ้าย่าด้วยความชื่นมื่น ป้าพุด ลุงเกรียง นายเม่นที่ไม่เคยได้มารอบที่แล้วถึงกับตื่นตกใจมากที่ได้รับรู้ว่าครอบครัวฝั่งคุณย่าของครูบัวนั้นมีเชื้อสายเจ้าทางเหนือ มีอาณาเขตบ้านกว้างใหญ่ไพศาล แล้วไหนจะยังศักดิ์ฐานะของครูบัวที่สวนแห่งนี้ ที่ใครๆต่างก็พากันทำความเคารพครูบัวแล้วก็เรียก ‘เจ้าบัวสวรรค์’ กันอย่างพินอบพิเทา นายเม่นนั้นแทบจะก้มลงกราบเบญจางคประดิษฐ์ใส่ครูบัวเลยทีเดียวที่รู้เบื้องลึกของครอบครัวครูบัวแบบนี้
“บัว เก็บของเสร็จหรือยัง กระเป๋าสุดท้ายนี่พี่พาลงไปก่อนนะ”
วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่บัวจะอยู่อาศัยที่กรุงเทพ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เขาจะกลายเป็นคนย้ายถิ่นฐานไปตั้งรกรากใหม่อยู่ที่ใต้ อยู่กับครอบครัวที่เขารัก อยู่กับคนที่บัวรักทุกๆคน
“ขอบคุณนะครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลย” บัวหันไปยิ้มให้คนรัก เขาสะพายกระเป๋าผ้าที่มีเอกสารประกอบการสอนของเทอมที่ผ่านมาขึ้นบ่า มันเป็นของที่เขาแยกไว้แล้วว่าต้องใช้สอนเด็กอีกครั้งในเทอมหน้านี้
“พูดแปลกๆ บัวพูดขอบคุณพี่มาเป็นรอบที่ห้าแล้วนะ” นายเหมืองขมวดคิ้ว มองคนที่เข้ามาเกาะแขนเขาแล้วซบแก้มลงบนไหล่เขาเบาๆ
“ก็ไม่มีคำพูดอื่นที่มันดีกว่าคำว่าขอบคุณแล้วนี่” ครูบัวเอ่ยบอก วันนี้ถึงจะเสียใจที่ต้องจากลาเด็กๆที่เขาได้สอนมาหนึ่งปีเต็ม แต่อีกใจก็รู้สึกอบอุ่นที่เขาจะได้กลับบ้านเสียที
“ก็ถ้าไม่มีคำพูดจะเอ่ยแล้ว บอกเป็นการกระทำก็ได้นะ หอมแก้ม จูบ หรือจะปล้ำพี่เลยก็ได้ เวลายังพอมีอยู่”
“นายเหมืองนี่! หื่นจนวินาทีสุดท้ายเลยนะ”
“เอ้า แล้วผิดตรงไหนล่ะ พี่ก็หื่นกับเมียคนเดียวนี่แหละ”
“บ้า ไม่พูดด้วยแล้ว” จากที่เขินๆอยู่ตอนแรกก็โดนพูดจาลามกใส่จนเขินอายไปหมดแล้วเนี่ย
“เดี๋ยวสิ เดี๋ยวเรายังต้องเอากุญแจบ้านไปคืนแปะแกด้วยนะอย่าลืม อ้อ บิลค่าน้ำค่าไฟเดือนนี้เมื่อกี๊พี่ให้เม่นมันไปจ่ายให้ที่เซเว่นฯแล้วนะ เผื่อบัวจะยังหา...”
คนพูดหยุดพูดไปกะทันหัน เขากำลังหันกลับมาหลังจากชะโงกหน้าไปสำรวจห้องนอนที่ว่างเปล่าเหมือนตอนแรกเข้า แล้วจู่ๆก็มีคนตัวขาวๆเขย่งปลายเท้าขึ้นมาจุ๊บแก้มเขาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
นายเหมืองตะลึงมองคนทำที่หน้าแดงแจ๋ สาวเท้าเก้าลงบันไดไปถี่ๆ คนที่ปกติจะเรียบร้อย น่ารัก ขี้อาย แล้วก็ชอบคีพลุกตัวเองต่อหน้าคนอื่นอยู่แทบจะตลอดเวลา ...กล้ามาเป็นฝ่ายจุ๊บเขาก่อน
...ฟ้าจะถล่มดินจะทะลาย นายเหมืองจะตายวันนี้ก็ไม่เสียใจแล้วโว้ย!...
“บัว! บัว! เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งไป เมื่อกี๊พี่ไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย หน้าพี่ด้าน พี่ขออีกทีเน้นๆได้มั้ยบัว บัวครับ!”
ตะโกนไปเถอะนายเหมือง ตะโกนให้ตายยังไงก็อย่าหวังว่าวันนี้ครูบัวแกจะยอมให้อีก หมดโควตาความหวานสำหรับวันนี้แล้ว
เขาบอกว่าการจะฝึกสิงโตเจ้าป่าให้เชื่องได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก
แต่สำหรับบัวแล้ว เขาคิดว่ามันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นนะ
ก็เขาน่ะ ค้นพบวิธีการฝึกที่ได้ผลมากร้อยเปอร์เซ็นต์เข้าน่ะสิ
ก็แค่เอาน้ำผึ้งหย่อนให้กินวันละหยดสองหยด อารมณ์เหมือนเอาขนมแมวเลียให้แมวกินทุกเช้าจนติด
แค่นั้นเจ้ายักษ์ตัวใหญ่หน้าด้านแต่ใจบางก็ไปไหนไม่รอดแล้ว
แล้วคุณล่ะครับ มีวิธีการฝึกเจ้าตัวใหญ่ที่บ้านด้วยวิธียังไงบ้าง...ถ้ามันไม่ค่อยได้ผล ก็ลองใช้วิธีนี้ดูได้นะ
เติมความหวานให้กันวันละนิด ป้อนความใกล้ชิดให้กันวันละหน่อย
หมั่นซักรีดความรักให้มันบ่อยๆ เพื่อที่มันจะได้สดใสอยู่กับ
ครอบครัว ของคุณไปนานๆยังไงล่ะครับ
End------------------------------------------------------------
ขอบพระคุณนักอ่านทุกๆท่านเลยค่ะ แก้วปั้ณณ์