{{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]  (อ่าน 165338 ครั้ง)

ออฟไลน์ Guill

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่อัพแล้ว ชอบเรื่องนี้มากนะ

ออฟไลน์ ben10

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
รอตอนต่อไปอยู่น้าา :hao5:

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
รออยู่นะคะ ><

ออฟไลน์ PIang-gel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รออยู่น้าา

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
มาตามอ่านครับชอบๆ

ขอเป็นกำลังใจคับ

ออฟไลน์ yochan

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-3
ตอนที่ 10







“ครั้งเดียวก็เลิกงั้นสิ”
   
แม้จะเอ่ยไปเช่นนั้น หากวายุกลับไม่ปฏิเสธใดๆ และการที่เขาเงียบ ก็ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
   
ผมเพิ่งจะคิดว่าไม่ควรตัดสินเขาอย่างที่ณพบอก เปิดใจมองเขาเสียใหม่ แต่ไม่ทันไรเขาก็ทำให้ผมอยากล้มเลิกความคิดนั้น และก่อนที่จะรู้สึกแย่มากไปกว่านี้ ผมก็กลับออกจากห้องของวา ปิดประตูทิ้งบทสนทนาที่รังแต่จะพาให้ผมมองหน้าเขาไม่ติด
   
ผมรู้ตัวเองดีว่าความรู้สึกของผมตอนนี้มันย้อนแย้ง หากเป็นคนอื่น อย่างเช่นณพ ต่อให้เป็นคนนอนกับใครไม่เลือก ผมก็คงไม่หัวเสีย ไม่ก้าวก่ายชีวิตส่วนตัว ไม่คิดจะไปบอกว่าอะไรผิดหรือถูก
   
ทว่าไม่รู้ว่าทำไม พอนึกถึงเรื่องของวายุไม่ว่าจะเรื่องของนิสัยที่นอนกับใครง่ายๆ หรือแม้แต่ข่าวคาวที่เคยได้ยินมา ผมถึงได้หงุดหงิดใจอย่างที่ไม่ควรจะเป็น ตัดสินเขาอย่างที่ไม่ควรจะทำ
   
พอมาเป็นรูมเมท ได้ใกล้ชิดกัน ได้สัมผัสกับตัวตนที่ออกจะตรงกับข่าวแย่ๆ ที่ว่า ผมก็ยิ่งหงุดหงิดมากกว่าเดิมเป็นเท่าทวี
   
ไม่รู้ว่าความหงุดหงิดจะทุเลาลงบ้างหรือไม่ ใจหนึ่งคิดว่าอาจจะดีถ้าความสับสนวุ่นวายนี้หายไป ส่วนอีกใจก็ต้องการ เกลียด หมอนั่นให้ได้ตลอดเสียเหลือเกิน
   

   




หลังจากวันที่ณพชวนวายุมาร่วมโต๊ะอาหาร ก็ไม่รู้ว่าติดใจอะไรฝ่ายนั้นนัก คะยั้นคะยอให้ชวนอีกฝ่ายมากินข้าวด้วยกันอีกให้ได้ และเมื่อผมทำเฉย ขณะที่กำลังจะติดรถณพไปลงรถไฟฟ้า เพื่อนตัวดีก็ถือวิสาสะฉวยเอาโทรศัพท์มือถือผมไปเสียอย่างนั้น
   
“เฮ้ย ไม่มีเบอร์วาในเครื่องเรอะ”
   
“ไม่มี”
   
ที่จริงผมลบเบอร์เขาออกจากเครื่องไปนานแล้ว เวลาประชุมก็ใช้วิธีส่งอีเมล ถ้าณพไม่ทะลึ่งเปิดอีเมลผมดูอีก ก็เค้นหาวิธีติดต่อวายุจากผมไม่ได้หรอก
   

“หึ แต่ฉันมีเบอร์เขาว่ะ มา เดี๋ยวเมมให้”
   
“.....”
   
แล้วณพก็กดเครื่องผมประหนึ่งเป็นเครื่องของตัวเอง จนผมอดขมวดคิ้วไม่ได้ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ณพยังใช้เครื่องผมโทรออกอีก
   
“ทำอะไรน่ะ!”
   
“เดี๋ยววาเขาตกใจถ้าใช้เบอร์ฉันโทรไปไง...” ณพรีบเบี่ยงตัวหลบไม่ให้ผมคว้าโทรศัพท์คืน “...ฮัลโหล วาใช่ไหม? ณพไง จำได้ปะ?”
   
ตอนนี้จะคว้าคืนก็ไม่ทันเสียแล้ว ได้แต่ต้องถอนหายใจและส่งสายตาไม่พอใจนักไปให้
   
“โทษทีที่ไม่ใช่เพลิง...อ๋อ ไม่มีอะไร ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้อยู่ไหนหรือ?...อยู่ที่ห้อง? กินอะไรหรือยัง ยังงั้นหรือ? ดีเลย งั้นเดี๋ยวฉันกับเพลิงแวะไปกินข้าวที่ห้องนาย...ไม่ต้องเกรงใจๆ คนกันเอง”
   
ใครต้องเกรงใจใครกันแน่
   
“มีอะไรที่ห้องบ้างล่ะ...หา? ไม่มีอะไรเลย? เอ่อ...ไม่เป็นไร ไข่เจียวก็อร่อยได้...หา ไข่ก็ไม่มี? งั้นเดี๋ยวให้เพลิงไปซื้อแล้วแวะไปห้องนายนะ แค่นี้แหละ เดี๋ยวเจอกัน!”
   
แล้วณพก็ส่งโทรศัพท์คืนมาให้ผม ก่อนจะบอกให้ผมไปซื้อของกับเขาแล้วแวะไปที่คอนโด
   
แน่นอนว่าผมปฏิเสธ ใครอยากไปทำอะไรกินก็ไปเอง
   
“ไม่ว่าง”
   
“อย่าโกหกน่า ไหนๆ ก็ยังไม่ได้กินข้าว แวะไปห้องเพื่อนจะเป็นอะไรไปวะ”
   
“ไปสนิทกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่”
   
“ตั้งแต่กินสุกี้คราวก่อนไง...อย่าเล่นตัวน่าเพลิง ไปเถอะ”
   
แล้วณพลากคอผมไปทั้งอย่างนั้นโดยไม่ถามความสมัครใจ






   
สุดท้ายผมและณพก็มาอยู่ที่หน้าห้องวายุจนได้
   
เคาะประตูไม่นานเจ้าของห้องก็เปิดประตูรับด้วยสีหน้าประหลาดใจ คงเพราะวาเองก็ไม่น่าจะคิดว่าณพจะมาที่ห้องจริงๆ แล้วยังเอาอุปกรณ์ทำอาหารจากห้องตัวเองลงมาอีกด้วย
   
ที่จริงผมเป็นคนบอกเขาว่าถ้าอยากกินข้าวที่ห้องนั้นนัก ก็สั่งอาหารเข้ามาน่าจะง่ายกว่า เพราะเท่าที่ผมจำได้ ห้องวาไม่มีอุปกรณ์ทำอาหาร ครัวโล่งจนเหมือนห้องของโรงแรมมากกว่าจะเป็นห้องคน แน่นอนว่าเขาทำอาหารไม่เป็น มีดก็เหมือนไม่เคยจับมาก่อนจนกระทั่งวันนั้น น่าสงสัยจริงๆ ว่าโตมาด้วยอะไร อาหารสำเร็จรูปหรือ?
   
แม้วายุจะแสดงท่าทีประหลาดใจ แต่ก็เปิดประตูออกกว้างปล่อยให้ณพเดินเข้าไปแต่โดยดี ส่วนผมที่ถือหม้อหุงข้าวก็เดินตามด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับนัก
   
เจ้าเพื่อนตัวดีวางของไว้บนเคาน์เตอร์ครัวว่างๆ แล้วก็เดินไปนั่งแหมะยังโซฟาห้องนั่งเล่นของวายุอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ ก่อนจะหันมาตะโกนบอก
   
“มื้อนี้ก็ฝากด้วยนะครับพี่เพลิง”
   
“......”
   
ผมส่ายศีรษะอย่างระอา ส่วนวายุยืนนิ่งได้ครู่หนึ่งก็เดินมาทางผม เมื่อเขาก้าวเท้าเข้ามาอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน สีหน้าก็เคร่งเครียดขึ้น คงเพราะคราวก่อนเราจบบทสนทนาไม่ใคร่จะดีนัก
   
พยายามคิดว่าวายุก็คือคนคนหนึ่ง พฤติกรรมของเขาจะเป็นอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับผม เรื่องที่เกิดขึ้นคราวนั้น หากอีกฝ่ายลืมก็กลบฝังมันไปเสีย แม้ผมจะรู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างเขาก็ตาม
   
“นาย...จะทำอาหารหรือ” วายุเอ่ยขึ้น สายตามองมาทางผมที่ยื่นมือเท้ากับเคาน์เตอร์ครัว
   
“ก็ไม่อยากหรอก”
   
ตอบกลับพลางมองไปยังณพที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือหน้าตาเฉย ผมเองติดค้างณพมากก็จริง แต่บางทีก็ควรจะปฎิเสธความเอาแต่ใจของหมอนั่นบ้าง เพราะดูท่าวาเองก็ลำบากใจไม่น้อยที่ให้ผมและณพเข้ามายุ่มย่ามในห้อง
   
“เดี๋ยวฉันช่วย”
   
“......”
   
ผมมองคนที่เสนอตัวช่วยแล้ว ก็ไม่คิดว่าอย่างเขาจะมีประโยชน์ในครัวนัก
   
“หุงข้าวเป็นไหม”
   
พอถามไป วายุก็อ้ำอึ้งอย่างที่คิด ผมจึงต้องสอนเขาตั้งแต่การตวงข้าว ซาวข้าว ซึ่งเขามีท่าทีเงอะงะจนผมอดจะถามไปตรงๆ ไม่ได้
   
“ถามจริง ปกติกินข้าวยังไง”
   
“ก็...สั่งขึ้นมา หรือไม่ก็แวะกินที่ห้าง”
   
ว่าแล้วเชียว
   
ผมไม่เอ่ยอะไรต่อ มื้อนี้เนื่องจากผมไม่อยากเสียเวลามาก จึงทำแค่ทอดไข่เจียวกับยำปลากระป๋องง่ายๆ ให้สองคนผู้ไม่ถูกกับครัวทาน หากไม่นับว่าต้องรอข้าวหุงจนสุก เวลาที่ใช้ทำอาหารนั้นน้อยทีเดียว เวลากินยิ่งน้อยกว่า
   
ห้องของวาเป็นห้องขนาดหนึ่งห้องนอน ห้องนั่งเล่นจึงเล็กมาก โต๊ะทานอาหารจึงมีเพียงสองที่นั่ง ผมให้วากับณพทานอาหารที่โต๊ะ ส่วนตัวเองก็ยืนพิงทานกับเคาน์เตอร์ครัว บรรยากาศมื้ออาหารวันนี้จึงเงียบ ผิดจากคราวก่อน
   
ไม่ทันไรพวกผมก็จัดการอาหารจนหมด ณพเองก็คงรู้สึกเกร็งๆ ที่มานั่งอยู่ในห้องของวายุอยู่เหมือนกัน ถึงได้ดูเร่งรีบขนาดนั้น
   
“เฮ้อ แค่ไข่เจียวยังอร่อย ว่าไหม?”
   
เพื่อนร่างสูงหันไปพยักเพยิดหน้ากับเจ้าของห้อง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แล้วหันมาเอ่ยกับผมต่อ
   
“เออ ยังไงก็ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะเพลิง ขอโทษทีที่วันนี้ต้องขอตัวก่อน ยังไงฝากล้างของหน่อย แล้วเอาขึ้นไปเก็บที่ห้องให้ที มีธุระจริงๆ ว่ะ”
   
ถ้ามีธุระขนาดนั้นจะมาที่นี่ทำไมตั้งแต่แรก?
   
ผมถึงกับเลิกคิ้วมองเพื่อน และไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยอะไร หมอนั่นก็ออกจากห้องไปอย่างเร่งรีบ ปล่อยให้ผมอยู่กับวายุสองคน
   
ได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วมองไปยังคนร่างเล็กกว่าอย่างไม่สบอารมณ์นัก
   
วายุได้แต่ยืนอยู่เงียบๆ ยืนนิ่งราวกับกำลังจมอยู่ในห้วงความคิดอยู่นาน ก่อนจะคิดได้ว่าควรจะรีบเก็บจานมาล้างแล้วไล่ผมออกจากห้องเสียที
   
“เดี๋ยวฉันล้างให้ นายนั่งรอเถอะ”
   
อีกฝ่ายเอ่ยขึ้น
   
ผมไม่อยากอยู่ที่นี่นานนัก จึงคิดจะรีบล้างของให้เสร็จๆ ไป ขณะที่เขาเข้ามายืนอยู่หน้าซิงก์ ผมก็ยืนล้างของไปด้วย ครัวแคบๆ จึงยิ่งแคบกว่าเดิม คนสองคนยืนเบียดแย่งกันล้างจานโดยไม่พูดอะไรกัน สร้างบรรยากาศให้รู้สึกประหลาดไม่น้อย และทันใดนั้นเอง วายุก็เอ่ยออกมาจนทำให้ผมต้องหยุดมือ
   
“ขอบคุณนะ...อาหารที่นายทำอร่อยมากเลย”
   
“......”
   
วายังคงขัดล้างจานใบเดิมที่ตอนนี้เรียกได้ว่าสะอาดมากแล้ว
   
“เพลิง...”
   
ไม่รู้ทำไม ทั้งๆ ที่มีเสียงน้ำไหลเอื่อยดังแว่ว แต่ผมกลับรู้สึกว่าเสียงเรียกชื่อผมมันเรียกความสนใจผมยิ่งกว่าอะไร
   
“วันนั้นที่ป้ายรถ...ขอบคุณนะ”
   
“......”
   
“แล้วก็ขอโทษ...สำหรับเรื่องวันนั้น...ฉันรู้ว่านายคงเกลียดฉันมาก”
   
ผมหันไปมองวาอย่างไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยินนัก มือเอื้อมปิดน้ำ แล้วดึงจานออกจากมืออีกฝ่ายให้เลิกก้มหน้าเสียที ถึงอย่างนั้นคนร่างเล็กกว่าก็หันมามองผมแค่ครู่เดียวเท่านั้น แล้วเขาก็หลุบสายตาลงเช่นเดิม
   
น่าแปลก...ก่อนหน้านี้วายุในสายตาผมเป็นคนหยิ่งยะโสชวนให้หงุดหงิด แต่ตอนนี้คนตรงหน้ากลับแสดงท่าทีไม่มั่นใจในตัวเองออกมา

“หมายความว่ายังไง”
   
ผมเอ่ยถามออกไป แม้จะพอจับได้ว่าเขาหมายถึงเรื่องใด
   
“ก็ที่นาย...ต้องนอนกับผู้ชาย ทั้งๆ ที่ไม่เต็มใจ”
   
“......”
   
“ฉันรับรองว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก”
   
“เลิกพูดเถอะ” น้ำเสียงห้วนทำให้อีกฝ่ายหันมามองผมด้วยสีหน้าที่คาดเดาอารมณ์ไม่ถูก
   
ผมไม่รู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกอย่างไรกันแน่ ผมรู้อย่างเดียวก็คือไม่ได้รู้สึกดีกับคำขอโทษ เขาคิดว่าผมเป็นอะไรหรือ ถึงได้เอ่ยออกมาอย่างนั้น?
   
“รู้ใช่ไหม ว่าฉันไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ใครมาขืนใจหรืออะไรทำนองนั้นได้”
   
“......”
   
“ถึงนายจะเมาจนจำอะไรไม่ได้ แต่ก็ไม่น่าจะลืมใช่ไหมว่าวันนั้นฉันไม่ได้เมา”
   
คนตรงหน้าเม้มริมฝีปาก แล้วก็ไม่พูดอะไรออกมาอีก
   
ผมถอนหายใจออกมา คำขอบคุณของเขาผมจะรับไว้ แต่คำขอโทษนั่น...บอกตามตรงว่าไม่ทำให้ผมพอใจอย่างที่เขาคิด ยิ่งเขาเงียบไม่ตอบอะไร ผมก็อดรู้สึกไม่ได้จริงๆ ว่าการมองวายุเสียใหม่มันทำได้ยากกว่าที่คิดไว้เหลือเกิน


.
.

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-05-2016 23:13:34 โดย yochan »

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
เมื่อไหร่จะเข้าใจกันนนนน :ling3:

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เพลิง นอกจากจะปากจัดแล้วยังปากไม่ตรงกับใจอีก

ออฟไลน์ owlseason

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
มันขัดใจในความคิดเองเออเองของทั้งสองคนจริงๆ
แต่อีกใจก็ช๊อบบบชอบ

ชอบมากค่ะ
รอตอนต่อไปน้า
 :mew1:

ออฟไลน์ ben10

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
หวายๆๆ อิตาเพลิง ไม่พอใจคำขอโทษของวาที่ว่าจะไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้นอีก จริงๆแกก็อยากใช่ไหมล้าาาา อิอิ เพลิงนี่รู้ตัวหรือปล่าว ว่าคิดอะไรกับวาไปแล้วววว #ชอบเรื่องนี้มากกกกก คนเขียนมาต่อบ่อยๆนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ชอบเรื่องนี้คะ มาต่อบ่อยๆ นะคะ ^^

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
วายุจะเข้าใจเพลิงว่ายังไงอีกล่ะนี่
จะดัขึ้นหรือจะแย่ลงล่ะคราวนี้

ออฟไลน์ RindaP

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ลุ้นอะ มาต่อเร็วๆนะ

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
อ่านทันแล้วคับ

เรื่องสนุกดีคับ

เป็นกำลังใจให้คับผม

ออฟไลน์ nijikii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ความรู้สึกของพี่เพลิงวนอยู่กับที่ไม่ไปไหน
แล้วเมื่่อไหร่จะเข้าใจกันสักที
วาก็ไม่พูด แต่พอพูดแล้วเพลิงก็ไม่เชื่อ
เห้อออออ สงสารนายเอกจังค่ะ

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
มารอคับผม

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
บางทีพวกนายก็ซึนเกินไป. เมื่อไหร่จะเข้าใจกัน :hao4:

ออฟไลน์ AiiSoul

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
อ่านแล้วหน่วง
มันจะรักกันได้ยังไงงง

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
วาดูอ่อนแอจัง เพลิงอย่าร้ายนะสิ

ออฟไลน์ Loste

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ต่อด่วนคะ  พึ่งได้อ่านสนุกมากกกกกเลยจ๊ะ  สงสารวายุจัง :mew6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ben10

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
รอตอนต่อไปอยู่น่าาาาา o18

ออฟไลน์ SUPERMUAY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
“ถึงนายจะเมาจนจำอะไรไม่ได้ แต่ก็ไม่น่าจะลืมใช่ไหมว่าวันนั้นฉันไม่ได้เมา”
ประโยคบอกรักใช่มั้ยยยยย
เรารู้นะ เราไม่ได้ซึนเหมือนนายย
 :katai3: :katai3: :katai3:

ออฟไลน์ Guill

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
นานเลยมั้งเนี่ยกว่าจะรักกันได

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
แวะมาส่อง

อุ้ย....ยังไม่มา

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
เพลิงนี่กั๊กน่าดู เอาไงล่ะพ่อเอ๊ย คนอ่านนี่ลุ้น สงสารวา แพ้ทางคนเนี้ย

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ ben10

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
รออยู่น้าาาาาา :mew1:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
มาส่องทุกวันเลย

วันนีก็ยังไม่มา

รอๆๆ

ออฟไลน์ yochan

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-3
ตอนที่ 10.2



   
ระหว่างที่ล้างจานแต่ละใบจนสะอาด รวมถึงเครื่องครัวที่หยิบยืมมาจากห้องของณพ วายุก็เช็ดน้ำออกจากเหล่าภาชนะอย่างขะมักเขม้น เขาดูตั้งใจขนาดที่หัวคิ้วขมวดเข้าหากันระหว่างที่ซับผ้าลงกับจานและจัดวางซ้อนขึ้น ผมยืนมองอยู่เงียบๆ รอให้เขาจัดการเสร็จสิ้นแล้วค่อยนำของใช้กลับขึ้นไปคืนที่ห้องของเพื่อนสนิท
   
หลังจากเช็ดน้ำออกจากภาชนะทุกอย่างแล้ว เจ้าของห้องก็ยกข้าวของทั้งหมดขึ้นจากซิงค์ แต่ผมก็แย่งเอาข้าวของมาถือไว้เสียเอง แล้วส่งสายตาให้วายุเอาเครื่องครัวอย่างอื่นถือตามออกมา
   
พอเอาข้าวของของณพออก ครัวของห้องนี้ก็โล่งไปทันตา    โล่งจนอดเอ่ยถามไม่ได้

“ไม่คิดจะซื้อพวกเครื่องครัวมาไว้ในห้องบ้างเลยหรือ อย่างน้อยก็หม้อหุงข้าว”

วายุเหลือบมองผม ท่าทางของเขาราวกับไม่เข้าใจในคำพูดผมนัก ใช้เวลาครู่หนึ่งกว่าจะเอ่ยตอบออกมา

“ก็...ปกติซื้อกินข้างนอก”

“ไม่ชอบทำอาหารเอง?”

“ทำไม่เป็น...ทำเองแล้วไม่อร่อย”

“ไม่อร่อย? งั้นแสดงว่าเคยเข้าครัวมาก่อน”

“ครั้งสองครั้ง สมัยอยู่กับพี่สาวที่อเมริกา ตอนนั้นพอเข้าไปช่วยก็โดนไล่ตะเพิดออกมา” ขณะที่เอ่ย รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏบนใบหน้าสวย ทว่าแวบหนึ่ง แววตาของเขากลับทอประกายขมขื่นแปลกๆ

ผมไม่เคยเห็นวายุแสดงอารมณ์เช่นนี้มาก่อน ไม่แน่ใจว่าเพราะผมไม่เคยสังเกตเห็นมัน หรือเพราะเขาไม่เคยหลุดแสดงมันออกมากันแน่

เราเดินออกจากห้องของวายุ ระหว่างทางก็เอ่ยต่อไปด้วย

“นายมีพี่สาวด้วยหรือ นึกว่าลูกคนเดียวเสียอีก”

หลังจากเอ่ยไป บทสนทนาก็เงียบไปพักใหญ่ ซึ่งไม่น่าแปลกใจอะไร สิ่งที่ผมพูดออกไปไม่ได้เป็นคำถามที่ต้องการให้อีกฝ่ายตอบอยู่แล้ว และผมก็ชินกับการที่เราไม่ได้พูดอะไรกันด้วย ตอนที่เป็นรูมเมทกัน ผมกับวายุก็พูดกันนับคำได้ เรื่องที่จะเชื่อมโยงบทสนทนาระหว่างเราก็แทบไม่มี วาไม่เคยคิดจะเอ่ยชวนคุย ส่วนผมก็ไม่คิดจะเริ่มบทสนทนา

ความสัมพันธ์ในช่วงนั้น เรียกได้ว่าเหินห่างกันเหมือนอยู่คนละโลก มาคิดย้อนดูตอนนี้ ผมเองก็ยอมรับว่าอคติของตนเองนั้นมีส่วน

“แล้วนายมีพี่น้องไหม” น้ำเสียงของคนถามแผ่วเบา

“ฉันมีพี่ชายคนนึง น้องชายคนนึง เป็นลูกคนกลางน่ะ”

“คิดว่าเป็นพี่คนโต”

ผมหยุดเดินเมื่อมาถึงห้องของณพ และเพราะหยุดกะทันหัน วายุที่เดินตามมาติดๆ จึงชนเข้ากับไหล่ผมเล็กน้อย โชคดีที่ให้เขาถือหม้อหุงข้าวเดินตามมา ถ้าหากให้ถือถ้วยชาม เผลอๆ อาจจะซุ่มซ่ามทำตกพื้นก็ได้

“...ขอโทษที”

ครั้งที่สองของวันที่ได้ยินเขาเอ่ยคำว่าขอโทษ จนความคิดบางอย่างของผมเริ่มสั่นคลอน ผมพยายามมองข้ามความรู้สึกนั้นไป ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูด สองขาเดินนำเขาเข้าไปเก็บข้าวของให้ณพไปด้วย

“ที่ว่าพี่สาวนายไล่ออกจากครัวน่ะ ทำอาหารไม่อร่อยขนาดไหนหรือ”

วาใช้ความคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบ

“ถ้านายกิน คงจะปวดท้องเข้าโรงพยาบาลละมั้ง”

มือที่กำลังเก็บของชะงัก

“แย่ขนาดนั้น?”

คนร่างเล็กกว่าพยักหน้า

“ชักอยากรู้แล้วสิว่าเป็นยังไง”

วายุนิ่งไปนาน จนผมคิดว่าเขาจะไม่ตอบออกมาแล้ว ทว่าเขากลับเอ่ยออกมา

“ฉันไม่อยากทำให้ใครต้องเข้าโรงพยาบาล”

ผมอึ้งไปนิด แล้วอดหลุดหัวเราะไม่ได้ “ฮะๆๆ อย่างนั้นฉันยิ่งอยากรู้”

พออีกฝ่ายเห็นผมหัวเราะ ไม่รู้ว่าเพราะอายหรือเปล่า ใบหูถึงได้ขึ้นสีแดงเรื่อตัดกับผิวขาวซีด ผมรู้ตัวว่าอาจเสียมารยาท จึงระงับท่าที

“โทษที ฉันไม่ได้จะหัวเราะที่นายทำอาหารไม่เป็นหรอก”

วายุส่ายหน้า ดวงตาหลุบมองต่ำ

ไม่รู้ว่าเพราะผมคิดจะเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเขาหรือไม่ ตอนนี้ถึงได้เพิ่งรู้สึกว่าที่แท้แล้วคนตรงหน้าก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่อาจแสดงออกไม่เก่งเท่านั้น

คิดๆ ดูแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ถ้าวายุไม่แคร์อะไรเลยก็คงไม่มีทางเอ่ยขอโทษออกมา ถึงผมจะไม่พอใจแค่ไหน แต่การที่คนตรงหน้าไม่ทำเป็นเพิกเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ทำให้ผมไม่รู้สึกโมโหเท่ากับแต่ก่อน

“ที่ฉันบอกว่าอยากลองกินดูน่ะ ฉันพูดจริงนะ”

ผมเอ่ยย้ำ

ตอนนี้...ผมเริ่มอยากเห็นปฏิกิริยาของเขาหลายๆ อย่างที่ไม่เคยเห็น ผมอยากรู้ว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้เปลือกนอกอันสวยงาม แท้จริงแล้วจะเป็นเช่นไร อันไหนคือรอยยิ้มที่แท้จริง อันไหนคือรอยยิ้มลวงหลอก ก่อนหน้านี้ผมเคยปิดกั้นหรือแม้แต่ต่อต้านเขา แต่พอได้เห็นท่าทีที่ไม่เคยเห็น ได้เห็นการแสดงออกที่ไม่ได้จ้องแต่จะยั่วโมโห อาการต่อต้านก็ราวกับจะสั่นคลอนและทลายลงได้

“ถ้างั้นนายคงต้องสอนให้ฉันทำอะไรที่พอกินได้แล้วละ”

เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราวกับไม่คิดอะไรจริงจัง ทว่าผมกลับไม่คิดอย่างนั้น

“ไม่มีปัญหาหรอก”

เมื่อตอบออกไป คนที่เคยเอาแต่เสสายตามองไปทางอื่น ก็หันกลับมามองผมเต็มๆ ตาด้วยสีหน้าคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

.
.

(มีต่อ)

ออฟไลน์ yochan

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-3
.
.



หลังจากวันที่ยืนยันว่าผมอยากรู้ว่ารสชาติอาหารที่วาทำจะเป็นยังไง สุดท้ายผมก็มารอเจอเขาอย่างไม่ค่อยเข้าใจตัวเองนัก

วันเสาร์ เวลาสี่โมงกว่าๆ ผมเดินทางมาถึงโรงเรียนสอนดนตรีในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ตอนที่ผมเดินเข้าไป สายตาก็ประสานกับประชาสัมพันธ์สาวที่นั่งตรงหน้าเคาน์เตอร์พอดี

“มารับน้องอะไรคะ”

อาจเพราะไม่คุ้นหน้า เธอจึงเอ่ยทักเช่นนั้น

“ผมมารอวา...เอ่อ...ครูสอนเปียโนที่ชื่อวายุครับ”

“อ๋อ ครูวาหรือคะ สอนเสร็จห้าโมงค่ะ เชิญนั่งรอก่อนนะคะ”

“ครับ”

ภายในโรงเรียนมีผู้ปกครองและเด็กๆ มานั่งรอยังที่นั่งประปราย โชคดีที่บริเวณที่นั่งรอมีทีวีเปิดไว้ด้วย ทำให้ผมทอดสายตามองจอสี่เหลี่ยมระหว่างทีรอเวลาเลิกชั้นได้

บรรยากาศในโรงเรียนแห่งนี้ช่างแตกต่างจากที่มหาวิทยาลัย เสียงเด็กๆ คุยเล่นฟังเจื้อยแจ้วสดใส เสียงโน้ตจากเครื่องดนตรีประเภทต่างๆ ที่ดังลอดจากห้องซ้อมชวนให้ผ่อนคลาย เหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งที่ผมไม่ค่อยมีโอกาสได้เข้ามายุ่งเกี่ยวนัก

นั่งรอจนกระทั่งเวลาห้าโมง ก็เริ่มมีเด็กๆ วิ่งออกมาจากห้องเรียนเพื่อมาหาผู้ปกครอง ผมหันหน้าไปมองยังทางเดิน เผื่อว่าคนที่รออยู่จะเดินออกมาบ้าง และไม่นานนักวายุก็เดินออกมา เมื่อสบสายตากับผม เขาก็ชะงักไปหน่อย ก่อนจะหันไปเขียนอะไรบางอย่างบนเคาน์เตอร์ แล้วเดินมาทางผมที่นั่งอยู่

“โทษที รอนานไหม”

“ตั้งแต่สี่โมง”

อีกฝ่ายหน้าเจื่อน ทำให้ผมหัวเราะหึในลำคอ

วายุที่หยุดยืนอยู่ข้างผมอยู่ในชุดลำลองเรียบง่าย เชิ้ตแขนยาวสีเข้มตัดกับผิวซีด แขนเสื้อพับขึ้นถึงข้อศอกเผยให้เห็นท่อนแขนและมือเรียว เขาไม่ใส่เครื่องประดับใดแม้แต่นาฬิกา ข้อมือและเรียวนิ้วสวยจึงยิ่งโดดเด่น

“รอไม่นานหรอก พอดีว่าง เลยมานั่งรอข้างในก่อน” ผละสายตาจากผิวที่ราวกับโปร่งแสงจนเห็นเส้นเลือดบางๆ แล้วเอ่ยต่อ

“อืม...งั้นไปกันเลยไหม”

ผมพยักหน้า ลุกขึ้นเดินนำเขาไปเปิดประตู

ก่อนจะออกจากโรงเรียน มีเด็กๆ รวมถึงผู้ปกครองเข้ามาสวัสดีวาหลายต่อหลายคน ดูๆ แล้วเขาเป็นครูสอนเปียโนที่ป๊อบปูล่าร์อยู่เหมือนกัน หนำซ้ำผมยังเห็นเขายิ้มให้ลูกศิษย์อีกด้วย ถ้าอยู่ที่มหาวิทยาลัย คงไม่มีทางได้เห็นภาพแบบนี้แน่

ใช่ว่าผมจะไม่รู้ว่าวายุไม่ได้สนิทสนมกับใครที่มหาวิทยาลัย เวลาเรียนหรือทานข้าวก็ไปคนเดียว แม้จะมีคนเข้าหาเขา แต่วายุก็ออกจะเมินเฉยไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย สำหรับเจ้าตัว โรงเรียนสอนดนตรีแห่งนี้คงเป็นที่ที่เขาอยู่แล้วสบายใจมากกว่า

เขาบอกว่ารับงานสอนดนตรีอาทิตย์ละสามหรือสี่วัน หมายความว่าเขาใช้เวลาอยู่ที่นี่อาจจะมากกว่าอยู่ที่มหาวิทยาลัยเสียอีก บางวันก็รับเล่นเปียโนที่ห้องอาหารของโรงแรม มีชีวิตอีกด้านที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน

ในเพื่อนรุ่นเดียวกัน คนที่ทำงานและรับผิดชอบตัวเองแบบเขามีไม่เยอะ ผมค่อนข้างประหลาดใจด้วยซ้ำที่ได้รู้เรื่องนี้

ขณะที่ผมสาวเท้านำเขาไปยังทางออกของห้าง วายุก็เอ่ยขึ้น

“เพลิง...ในห้างนี้ก็มีแผนกเครื่องครัวไม่ใช่หรือ”

ผมหันกลับไปมองอีกฝ่ายที่หยุดยืน ความจริงเรานัดกันว่าจะซื้อของใช้ในครัวเข้าห้องของวายุ เขาอยากจะลองทำอาหารแต่ไม่มีอุปกรณ์สักอย่าง แรกเริ่มก็ไม่น่าจะรอดแล้ว ตอนไปที่ห้องของคนตรงหน้า ผมลองนับถ้วยชามในห้องแล้ว มีแก้วสองใบ จานสองใบ ชามเล็กหนึ่งใบ ชามใหญ่หนึ่งใบ ช้อนส้อมมีอยู่ไม่ครบคู่ มีอยู่อย่างละสองสามคัน ครึ่งหนึ่งในของเหล่านั้นเป็นของที่แถมมากับอาหารสำเร็จรูป

ผมเข้าใจว่าเขาไม่น่าจะมีเวลาทำอาหาร ดังนั้นจึงคิดว่าการจะให้เขาซื้อของใช้เข้าห้องเพื่อลองทำอาหาร มันไม่สมเหตุสมผล และออกจะสิ้นเปลืองเปล่าๆ

“ทุกห้างก็ต้องมีแผนกเครื่องครัวอยู่แล้ว” เอ่ยกวนไปนิดหน่อย เห็นวายุหัวคิ้วชนกันก็อดยกยิ้มไม่ได้ “ไม่จำเป็นต้องซื้อของใหม่หรอก เดี๋ยวพาไปเอาของ”

“ที่ไหน”

“บ้าน”

“......”

วายุนิ่งเงียบไป ผมไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ก็ไม่คิดจะดึงดันหาคำตอบ สองขาก้าวเดินต่อจนกระทั่งมาอยู่หน้าห้างโดยมีอีกคนเดินตามมาเงียบๆ

ผมเรียกแท็กซี่ จุดหมายคือบ้านในแถบชานเมือง ครั้งสุดท้ายที่นั่งรถแท็กซี่กับวาก็คือคืนนั้น ผมยังจำได้ดีว่าอีกฝ่ายมีสภาพเมาจนไม่ได้สติ ศีรษะเอนพิงกับหัวไหล่ ใกล้ชิดจนได้กลิ่นหอมเจือกลิ่นแอลกอฮอล์ ถ้าผมไม่ตามไปในคืนนั้น ไม่แน่ว่าเขาอาจจะถูกซ้อมเอาของมีค่าแล้วถูกทิ้งไว้ข้างทางก็ได้ สถานที่แบบนั้นไว้ใจได้ที่ไหน ยิ่งเจ้าตัวเป็นประเภทดึงดูดคนแปลกๆ ให้เข้าใกล้ด้วย
ผมเคยคิดว่าถ้าหากคืนนั้นไม่เอาตัวเองไปยุ่งกับเขาจะเป็นยังไง จะเสียใจหรือโล่งใจกันแน่ แล้วผมก็ตอบตัวเองได้ในทันทีว่าผมไม่เสียใจที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น แม้จะโมโหแค่ไหนก็ไม่เคยเสียใจ ยิ่งในตอนนี้ พอเห็นแง่มุมของวาที่ไม่ค่อยจะสนใจรอบข้าง และออกจะเปิดโอกาสให้คนคิดมิดีมิร้าย ผมยิ่งรู้สึกว่าหากวันนั้นผมไม่ไป ผมจะยิ่งเสียใจที่ตัดสินใจเช่นนั้น

วันนี้ผมกับวานั่งห่างกันคนละฝั่งของรถ ต่างฝ่ายต่างมองออกไปนอกหน้าต่างคนละด้าน ทว่าความรู้สึกในขณะนี้กลับไม่น่าอึดอัด และไม่รู้สึกว่าเราเหมือนคนไม่รู้จักกันเหมือนเช่นวันนั้น

ที่รู้สึกอย่างนี้ อาจเพราะผมอยากเข้าใจเขาให้มากขึ้นก็เป็นได้






รถแท็กซี่มาถึงบ้านผมก่อนหกโมงนิดๆ ผมพาวายุเดินเข้าไปในบ้านเดี่ยวสองชั้น แค่ก้าวผ่านรั้วประตูบ้าน หมาบางแก้วสองตัวก็วิ่งออกมาเห่าทันที ผมดันให้วาไปอยู่ด้านหลัง แล้วส่งเสียงบอกให้เจ้าหมาหยุดอยู่กับที่

พอเห็นว่าแขกที่มาใหม่มากับผม เจ้าไมโลกับคุ้กกี้ก็กระดิกหางเหมือนเข้าใจ แต่สัตว์มีเขี้ยว อย่างไรก็ไว้ใจไม่ได้ ยิ่งกับคนแปลกหน้า เจ้าสองตัวนี้อาจจะพุ่งเข้ามากัดไม่ทันให้ตั้งตัว

เมื่อเข้ามาในบ้าน แม่และครอบครัวพี่ชายผมก็นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นอยู่ก่อนแล้ว พวกเขาหันมามองแขกนิดหน่อย ผมจึงกล่าวสวัสดี แล้วแนะนำวายุให้รู้จัก

“นี่วาครับ ที่ผมบอกแม่ไว้ จะขอของที่ไม่ใช้ไปหน่อย”

วาไหว้ครอบครัวของผมด้วยสีหน้าเกร็งอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเขาไม่สนิทสนมกับใครนัก โดยเฉพาะกับผม การแวะมาที่บ้านจึงน่าจะสร้างความลำบากใจให้ไม่น้อย แต่มันช่วยไม่ได้นี่ ในเมื่อหน้าตาของเขาตอนทำอะไรไม่ถูกมันน่าสนใจขนาดนั้น

ผมพาวายุเข้าไปในห้องครัวเพื่อเลือกเอาของใช้ส่งให้ แม่ผมชอบทำอาหาร แล้วยังเป็นครูสอนทำอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ในครัวทั้งที่ซื้อเองและที่มีคนให้มาจึงมีมากจนล้น ผมเปิดตู้เลือกเอาหม้อหุงข้าวขนาดเล็กที่ยังไม่เคยแกะกล่องออกมา ตามด้วยชุดอุปกรณ์ทำครัวที่ยังไม่แกะจากซีล

“เดี๋ยวฉันซื้อเอาก็ได้ บ้านนายเก็บไว้ใช้เถอะ” วารีบเอ่ยขัด และก่อนที่ผมจะตอบอะไร แม่ผมที่เดินเข้ามาในครัวก้ตอบแทน

“เอาไปเถอะจ้า แม่ไม่ได้ใช้หรอก ของบ้านนี้มีเยอะ ปีใหม่คงต้องขนไปบริจาคสักที”

เจ้าของใบหน้าขาวซีดไม่ตอบรับ เรียกได้ว่าแทบจะนิ่งจนไร้ปฏิสัมพันธ์ไม่ต่างจากรูปปั้นที่ตั้งโชว์ตามนิทรรศการ

“วันนี้ลูกค้างที่นี่ไหมเพลิง” แม่ผมเดินเข้ามาใกล้แล้วเอ่ยถาม

ผมส่ายหน้าให้ “ไม่ครับ เดี๋ยวกลับไปนอนหอ”

บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่พี่ชายผมปลูกไว้ให้ครอบครัว เดิมทีมีสี่ห้องนอน ลูกชายสามคนในบ้านต่างครองห้องคนละห้อง ส่วนแม่ของผมนอนห้องใหญ่ ทว่าตั้งแต่ที่พี่สะใภ้ย้ายมาอยู่ด้วย ห้องของผมจึงกลายเป็นห้องของน้องชาย ส่วนห้องของน้องชายก็กลายเป็นห้องที่ไว้ให้พี่ชายและพี่สะใภ้ใช้งาน ผมที่ย้ายออกไปอยู่หอตั้งแต่มัธยมปลายจึงไม่อะไรนัก เมื่อก่อนจะแวะกลับมาอยู่บ้านทุกเสาร์อาทิตย์และปิดเทอม แต่ปัจจุบันเมื่อพี่ชายผมมีลูก ผมจึงแวะมาทานอาหารหรือช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ มากกว่าจะนอนค้าง

“งั้นทานข้าวด้วยกันก่อนสิ ชวนเพื่อนลูกด้วย”

“ครับ” ผมวางของที่จะให้วาทั้งหมดไว้บนโต๊ะ แล้วหันไปทางมารดาของตน “วันนี้แม่จะทำอะไรครับ เดี๋ยวผมช่วย”

“ขอบใจลูก ไปคั้นน้ำส้มให้เพื่อนทานก่อนสิไป”

ผมรับคำแล้วเดินไปหยิบผลไม้ออกจากตู้เย็น ส่วนวายุเริ่มลนลานและเอ่ยกับผมที่กำลังเตรียมน้ำให้เขา

“ไม่ต้องลำบากหรอก แค่น้ำเปล่าก็พอ” อีกฝ่ายเอ่ยเสียงเบากับผม ราวกับไม่อยากให้แม่ผมได้ยิน

ผมหยิบส้มไปล้าง แล้วหยิบมาหนึ่งผลแกะเปลือกออก ส่วนวายังคงเดินตามผมมาไม่ห่าง

“เพลิง...ไม่...”

ไม่รอให้อีกฝ่ายเอ่ยจบ ผมก็แกะส้มออกมาเสี้ยวหนึ่ง และยื่นไปตรงหน้าริมฝีปากของวา

“ลองดูสิ”

กลีบส้มแตะกับเนื้อปากอิ่ม ทำให้อีกฝ่ายต้องอ้าปากรับไว้อย่างเสียไม่ได้ ขณะที่เคี้ยวผลไม้ วายุก็หันหน้าไปทางอื่นทั้งที่คิ้วขมวดมุ่น ผมมองท่าทีของเขาอย่างไม่วางตา รอให้เขากลืนเนื้อส้มลงคอ แล้วแบมือยื่นไปใกล้ๆ ปากเขาอีกครั้ง

วายุผงะเล็กน้อยอย่างตกใจ นัยน์ตาหวานโศกช้อนมองอย่างฉงน

“ไม่มีใครเขากินส้มแล้วกลืนเม็ดเข้าไปด้วยหรอกนะ”

คนตรงหน้ากัดปากตนเอง ดวงตาเสมองทางอื่นอย่างลังเล

“คายเม็ดออกมาสิ มือจะได้ไม่เลอะไง”

ผมเอ่ยย้ำ เวลาผ่านไปนานพอดู กว่าที่ริมฝีปากอิ่มก็เผยอออก และคายเม็ดส้มออกมาในที่สุด

“เดี๋ยวนายไปนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นกับพี่ฉันก่อน ตรงนี้ฉันจัดการเอง”

วายุรีบเดินกลับออกไป และผมคิดว่าเขาคงจะทำตัวเป็นแขกที่ดีไปอีกสักพัก เมื่อวาเดินออกจากครัวไปแล้ว แม่ผมที่ยืนอยู่ที่ครัวอีกฝั่งก็เอ่ยถามขึ้น

“สนิทกันหรือลูก”

ผมนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับ “เคยเป็นรูมเมทกันครับ”

แม่ผมไม่ได้ถามอะไรต่อ และให้ผมไปช่วยเป็นลูกมือท่านสำหรับอาหารมื้อนี้


.
.

TBC

___

ขอบคุณที่รอค่า
เคยแอบคิดนะ ว่าน้องวาก็ดีขนาดนี้ อิพี่เพลิงไม่เหมาะกับน้องเล้ย แต่ก็เกลียดเพลิงไม่ลงแหะ
 :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-05-2016 16:10:06 โดย yochan »

ออฟไลน์ owlseason

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตอนนี้น่ารักจัง  :ling1: :ling1:
รอมาต่ออยู่นะคะ

ถ้าเราปาด ขอโทษนะคะ เดี๋ยวเราจะมาลบให้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด