บทที่ 54 มาแล้วครับ สดๆ ร้อนๆ เขียนเสร็จเมื่อครู่ ผมขอลงตอนนี้ เพราะตื่นนอนแล้ว คิวเดินทาง คุยงาน จะยุ่งมากจนไม่มีเวลาลงให้ครับ
บทที่ 54 จะเป็นเรื่องของต้าร์ รวมถึงเริ่มต้นเดิมพันการแข่งขันที่มีเดิมพันคือ "แทน" แล้วต่อเนื่องกับบทที่ 55 ที่บิ๊กกับต้าร์จะแข่งกันเพื่อเดิมพันที่วางไว้
มาชมกันต่อเลยครับ^^
************
Chapter 54สี่ทุ่มตรง Porsche ของต้าร์จอดอยู่หน้าประตูล็อบบี้ของคอนโดผม ต้าร์เปิดประตูให้ผมลง หลังจากได้ทานมื้อเย็นไปเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา
"อยู่คอนโดนี้เหรอครับ" ผมพยักหน้าให้กับคำถามของต้าร์
"เรามาหาได้ไหมครับ" ผมส่ายหน้าทันที
"ไม่สะดวกนะครับ" ต้าร์ทำหน้าเหมือนถึงบางอ้อว่าทำไมผมถึงไม่สะดวก
"คงหมายถึงแฟนของแทน..." ผมพยักหน้าใช่เลย ต้าร์ไม่ตอบอะไร ก่อนจะกลับไปเปิดประตูขึ้นรถ
“เราหวังว่า จะได้เจอแทนบ่อยๆ ละก็...ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” ต้าร์ขึ้นรถแล้วออกรถไปช้าๆ หลังจากรถต้าร์พ้นถนนไปแล้ว ผมรู้สึกเหมือนมีคนสะกิดจากข้างหลัง ผมหันไปกลับไปหาคนสะกิด
“เข้าใจละ ทำไมไปงานแล้วไม่เบื่อ” ประโยคแรกที่บิ๊กเอยปาก บิ๊กคงน้อยใจผมแน่นอน
“นั่นต้าร์ เป็นลูกชายทุนใหญ่ของพรรคคือ พ่อกับแม่เราเป็นนักการเมืองอะ” บิ๊กไม่มีสีหน้าโกรธหรือดูไม่พอใจอะไร แต่นั่นกลับทำให้ผมยิ่งกลัว
“แทนว่าต้าร์นั้น จีบแทนปะ” ผมพยักหน้า บิ๊กยื่นมือมาให้ผมจับ ก่อนจะเดินเข้าลิฟท์ไปด้วยกัน
“เราไม่กล้าคิดว่าจีบหรอก ดูเข้าข้างตัวเองเกินไป แต่ที่ต้าร์ทำ มันก็เหมือนจีบเรานั่นแหละ” บิ๊กผลักผมชนผนังลิฟท์ แล้วล็อคตัวผมพร้อมกับกดริมฝีปากกับลิ้นแบบแรงนิดๆ สัมผัสได้ถึงอารมณ์ดิบของบิ๊ก
“เราหวง” เสียงบอกแผ่วเบาของบิ๊ก ทำให้ผมพยักหน้าในขณะที่ผมยังหลับตารับการกดจูบของบิ๊ก
ประตูลิฟท์เปิดออก ผมวิ่งหนีออกไปหน้าประตูห้อง ในขณะที่บิ๊กวิ่งตามมา ก่อนจะผลักผมจนหลังชนประตูห้อง แล้วไขประตูห้องในขณะที่จมูกของเราทั้งคู่สัมผัสกัน พร้อมลมหายใจบิ๊กที่ถี่และเร็ว ทันทีที่ปิดประตู บิ๊กกดจูบทั้งริมฝีปากกับลิ้นอย่างรุนแรง และไล่ถอดเสื้อสูท เนคไท เชิ๊ต กางเกง รองเท้า นาฬิกา ทุกอย่างกองรวมกันไว้หน้าประตูห้อง ก่อนที่บิ๊กจะอุ้มผมที่เหลือแค่กางเกงในตัวเดียวโยนลงเตียง ก่อนที่เจ้าตัวจะถอดเสื้อผ้าทั้งหมด
“เราไม่รู้ว่ามันสัมผัสเมียเราแค่ไหน แต่รู้ไหม...แทนเป็นของเรา” บิ๊กเอยขณะที่ร่างของบิ๊กคร่อมอยู่บน ส่วนมือทั้งสองข้างของบิ๊กยกแขนผมทั้งสองข้างไว้เหนือหัว แล้วกดแขนผมติดกับเตียงไม่ให้ดิ้นไปไหน ในขณะที่ริมฝีปากของบิ๊กทั้งลากและดูดตามซอกคอผมอย่างช้าๆ เน้นๆ
“เรายอมแล้ว เอาเลยครับ” นาทีนี้ สิ่งที่บิ๊กกำลังทำกับผม ทำให้ผมเป็นทาสด้วยความเต็มใจ
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น บิ๊กไม่ผ่อนปรนอะไรทั้งสิ้น ผมรู้สึกเจ็บจนแทบร้องไห้ในบางจังหวะ แต่ผมกลับชอบ และโอกาสถัดไป ผมอยากให้บิ๊กรุนแรงกับผมแบบนี้อย่างบอกไม่ถูก...ยังไงก็ตาม ผมก็รักบิ๊กคนเดียวนะ
………………..
เวลาอยู่ในน้ำ ความดันใต้น้ำที่กำลังกระทบร่างผม ทำให้ผมรู้สึกอิสระอย่างยิ่ง แขนที่กำลังกวาดไปข้างหน้า ขาที่เตะน้ำให้ตัวลอยและเคลื่อนที่ไป ถูกเพิ่มความเร็วเรื่อยๆ ผมว่ายไปกลับแบบนี้น่าจะรอบที่หกได้แล้ว
“พ่อมีอะไรเปล่าครับ” ผมขึ้นมาจากขอบสระ ก่อนจะปล่อยลมหายใจอกในน้ำสองสามที
“เป็นไงไอ้เสือน้อย เมื่อคืนพาเค้าไปกินข้าวไกลเลยนะ” นึกว่าเรื่องอะไร ผมลุกขึ้นจากสระเดินไปนั่งข้างๆ เก้าอี้พลาสติกริมสระ
“ถามจริง ชอบมากเลยเหรอไอ้เสือของพ่อ” ผมพยักหน้าพร้อมกับเช็ดตัวไปด้วย
“พ่อเคยเห็นผมจีบใครไหมละครับ พ่อก็รู้ ผมเล่าทุกเรื่องให้พ่อกับแม่ฟังเสมอครับ” ผมเช็ดหัวให้แห้งที่สุด พ่อผมก้มมาหาผมใกล้ๆ
“ต้าร์...ผู้หญิงเยอะแยะ เปลี่ยนใจยังทันนะ” พ่อผมส่งเสียงแบบกระซิบมาหาผม แต่...
“ผมขอโทษพ่อกับแม่รอบที่....จำไม่ได้ละครับ แต่ขอโทษด้วย ที่ผมชอบ....” พ่อขยี้หัวผมด้วยความเอ็นดูแบบที่มีให้เสมอมา
“พ่อครับ ถามไรอย่างซิครับ” พ่อผมพยักหน้า
“คนที่ผมชอบ...เออ เค้าบอกว่ามีแฟนแล้ว คือ...พ่อก็รู้ว่าผมไม่เคยกลัวอะไร ทุกอย่าง ทุกเรื่อง ผมสู้หมด แพ้ผมก็ยอมรับ ผมอยากเอาชนะแฟนของแทน แต่...ผมกลัวแพ้อะพ่อ” พอพ่อฟังจบ พ่อผมหัวเราะตามด้วยลูบหัวผม
“ความรักนะ มันมีความหมายเยอะแยะไปหมด คนแก่ๆ รุ่นพ่อ คงไม่เข้าใจเด็กๆ ยุคนี้เท่าไหร่ แต่...ขออย่างเดียวละกัน ถ้าจะแข่งขันเรื่องความรัก เคารพกติกาความรักด้วยนะ” พ่อหมายถึง...อะไรครับ
“ทำหน้าแบบนี้ สงสัยละซิ พ่อแค่หมายถึง อย่าใช้วิธีสกปรก อย่าเล่นเล่ห์ เล่นเหลี่ยม หรือทำให้สิ่งต่างๆ รอบข้างแย่ลงและก็...ถ้าผลสุดท้าย ออกมาไม่เป็นตามใจหวังเรา ห้ามเกลียดหรือกล่าวโทษทุกสิ่งรวมถึงตัวเองด้วย ที่เหลือ พ่อกับแม่ได้แค่เป็นกำลังใจให้ละกันนะ...ไปละ เดี๋ยวไปตีกอลฟ์สาย” พ่อลุกขึ้นบิดขี้เกียจเล็กๆ ก่อนจะเดินไป
“ขอบคุณครับพ่อ” พ่อผมยกนิ้วโป้งให้ขณะเดินกลับเข้าบ้าน
ผมโดดลงน้ำแล้วว่ายต่อไป นึกถึงสิ่งที่พ่อพูดแล้ว ผมตัดสินใจแล้วว่า...ผมจะลองสักตั้ง ถึงจะแพ้ แต่ถ้าผมไม่ทำตามความรู้สึกที่ผมมี ผมคงเสียใจกว่าที่ยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
………………..
บ่ายวันอาทิตย์ที่กำลังจะผ่านไป บิ๊กหลับกลางวันตั้งแต่บ่ายสามที่ผ่านมา หลังจากทำการบ้านกับช่วยผมทำความสะอาดห้องเสร็จ คุณชายก็หลับคาโซฟาขณะดูทีวีไปโดยไม่รู้ตัว ผมเลยใช้จังหวะนี้เตรียมมื้อเย็นรอบิ๊กตื่นมาคงได้ทานพอดี
“สวัสดีครับ” ผมใส่หูฟังแล้วกดรับสาย เบอร์ใครไม่รู้ ไม่คุ้นเลย
“สวัสดีครับแทน ต้าร์เองนะครับ” ผมแอบสงสัยว่า...ได้เบอร์ผมมาได้ไง
“ขอโทษด้วยครับ ที่ถือวิสาสะโทรไปขอเบอร์จากคุณแม่ของแทนมาอะครับ” กะแล้วว่าต้องไปขอพ่อหรือแม่ผม
“ครับ แล้ว...ต้าร์มีอะไรให้เราช่วยเหรอ” ผมจะตัดบทวางเลยก็คงน่าเกลียดไปหน่อย
“วันพรุ่งนี้เราต้องไปถ่ายงานใกล้ๆ โรงเรียนแทน เลยกะว่า เสร็จแล้วจะไปหาที่โรงเรียนอะครับ” ผมตอบตามความคิดผมไปทันทีว่า
“เรามีซ้อมบาสฯ เวลาอาจไม่ตรงกันได้ กลัวต้าร์จะมารอนานเกินอะ” ผมได้ยินเสียงอืมของต้าร์ที่ปลายสาย
“งั้น...ห้าโมงเราจะไปหาที่โรงยิมนะครับ เราแค่อยากเจอแป็ปเดียวเองนะครับ” งั้น...เอางี้ละกัน
“เราไม่แน่ใจว่าจะมีเวลาให้ต้าร์ไหม หกโมงเย็น แฟนเรามารับนะครับ อาจไม่สะดวกกับต้าร์ก็ได้ ยังไงถ้ามาแล้วไม่ว่างเจอ ขอโทษไว้ก่อนนะ” ผมได้ยินคำตอบว่าครับจากปลายสาย
“ห้าโมงเย็นไปหานะครับ บายครับ” ผมวางสายไป ในขณะที่มือยังผัดเครื่องที่จะใช้ผัดกับเส้นเพนเน่ที่ต้มอยู่อีกหม้อหนึ่งอยู่
“กลิ่นอะไรหอมจังเลย” คุณชายผมตื่นแล้ว เสียงมาก่อนตัวเลย
“เพนเน่ผัดขี้เมากุ้งครับ” บิ๊กมาดูผมกำลังผัดอยู่ แล้วก็สำลักควันจนจาม
“ไปนั่งรอก่อน เดี๋ยวก็จามลงอาหารหมดหรอก” ผมตักเส้นที่กำลังได้ที่ลงกะทะที่ผัดเครื่องไว้อยู่ ก่อนจะผัดรวมกันให้เรียบร้อย
“เมื่อกี้เราได้ยินน๊าๆๆ มีใครบางคนจะมาแจกขนมจีบแฟนเรา” ผมผัดส่วนผสมกับเส้นใกล้เสร็จละ
“เสร็จแล้วครับ” ผมตักใส่จานแล้วเอามาเสริฟบิ๊กที่นั่งรอทาน แล้วตามด้วยจานของผม
“เราเลยบอกต้าร์ไปว่าไม่ว่างนั่นแหละ” ผมเห็นสีหน้าบิ๊กดูเฉยๆ อย่างน่าประหลาดใจ
“งั้น...เดี๋ยวเย็นพรุ่งนี้เราจะพาแทนไปนั่งรถเล่นนะครับ จะได้หาเรื่องหนีไอ้หน้าหล่อนั้น” ไม่เลวทีเดียว ซ้อมเสร็จ ผมชิ่งได้เลย
“พวกพี่ๆ ในก๊วน Ducati เค้ามิตติ้งเล็กๆ แถวราชพฤกษ์ แล้ว...อยากอวดแฟนอะ” ผมประหลาดใจเล็กน้อย
“พวกพี่ๆ ก็เพื่อนเฮียโบ้หลายคน เค้าเลยรู้ว่า...แฟนเรา หล่อ น่ารัก หวานด้วย” บิ๊กจิ้มเส้นในจานผมไปกินเส้นนึง แล้วยิ้มแป้นเล็กๆ ก่อนที่จะกินต่อไปสักพักจนเกือบหมด แล้วบิ๊กก็เอยขึ้นมาว่า
“ที่จริง เราอยากไปกระทืบไอ้หน้าหล่อนั่นเดี๋ยวนี้เลย แต่...เราคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะทำ...แบบ เราทั้งคู่ผ่านเรื่องที่ไม่คิดว่าจะได้ผ่านมาด้วยกันแล้ว เราเลย...เชื่อว่าแทนเลือกเรา” บิ๊กกวาดทุกสิ่งที่อยู่ในจานเป็นคำสุดท้ายใส่ปาก ก่อนจะยิ้มให้ผมแล้วบอกว่า
“อร่อย” คำชมที่ผมไม่เคยเบื่อ และดีใจทุกครั้งที่ได้ยินจากปากบิ๊ก
“แต่...ถ้าแทนเลือกเค้า เราก็คงห้ามไม่ได้เหมือนกัน” ประโยคที่บิ๊กเอยขึ้นมา ทำให้ผมรู้สึกไม่ดีกับการที่ผมรู้จักกับต้าร์เท่าไหร่นัก
“เราไม่สัญญานะ...แต่ที่สัญญาได้คือ เราจะซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง” บิ๊กเอื้อมมือมาลูบศีรษะผมช้าๆ สายตาของบิ๊กที่ผมเห็นตอนนี้ เป็นอารมณ์ที่ผมเท่านั้นที่จะได้เห็นบิ๊กส่งออกมาทางสายตาเช่นนี้
“รู้ไหม อะไรที่ทำให้แทนเป็นผู้ชายคนเดียวในชีวิตเรา” ผมไม่ตอบอะไร ในขณะที่บิ๊กยังคงลูบเส้นผมของผมช้าๆ ก่อนจะลากหลังมือถูกับแก้มผมช้าๆ
“เพราะแทนคือส่วนเติมเต็มชีวิตเรา และเราเชื่อว่าเราก็เติมเต็มชีวิตของแทนเช่นกัน” บิ๊กสัมผัสริมฝีปากที่หลังมือตัวเองช้าๆ สายตาที่หนักแน่นของบิ๊กแบบนี้ คือสายตาที่ทำให้ผมตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอนั่นแหละ
ผมปล่อยให้เวลาที่บิ๊กมองผมด้วยสายตาหนักแน่นแบบนี้ผ่านไปสักครู่ ก่อนจะเก็บจานไปล้าง โดยมีบิ๊กกอดไว้จากด้านหลัง แล้วฮัมเพลงในคอข้างๆ หูให้ผมฟัง
ผมดีใจที่บิ๊กมั่นใจในตัวผม และผมจะไม่ทรยศความมั่นใจที่บิ๊กมีให้ผมเช่นกัน
………………..
เสียงบดของรองเท้าที่ผสมกับลูกบาสฯ กระทบพื้น ขณะที่แบ่งซ้อมสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือการส่งบอลแบบ 1:1 โดยมีบุคคลที่สามเข้าแย่งในแบบต่างๆ และอีกกลุ่มคือการเข้าทำแต้มในพื้นที่ใต้แป้นแบบโดนรุมสาม
“สมาธิกันหน่อย อย่านิ่ง อย่าคิดนาน เวลาอยู่สนามจริงไม่มีให้คิดนานนะครับ” ผมตะโกนเตือนน้องๆ ที่รวมๆ ยังช้ากับจังหวะส่งบอล
“อย่าเคาะบอล พี่บอกแล้วไงว่ารับ แล้วส่ง เคาะบอลดึงให้คู่ต่อสู้ประกบแบบนั้นได้ไง” ผมเห็นอีกกลุ่มไม่ทำตามที่ผมแนะนำ จึงตะโกนสั่งไป
หลังจากเสียงนกหวีดของโค้ชดังขึ้น คือเวลาพัก 15 นาที ผมเดินกลับไปที่อัฒจันทร์ของสนามในโรงยิม ซึ่งทุกคนวางกระเป๋ารวมกันไว้ตรงนั้น
“รับน้ำไหมครับ” เสียงนี้ใช่เลย ผมหันกลับไปหาเจ้าของเสียง ที่ตอนนี้ยื่นขวดเกลือแร่ให้ผม
“ขอบคุณครับ ผมหยิบผ้าขนหนูสีขาวเช็ดเหงื่อที่หัวกับคอและรับเกลือแร่มาดื่ม
“ต้าร์มานานยังครับ” ต้าร์ถือผ้าขนหนูให้ผมอยู่
“เมื่อสักครู่นี้เอง เราอยากเจอนิดหน่อย ก็เลยแวะมาหลังเสร็จงานครับ” ผมดื่มเกลือแร่เกือบหมดขวดแล้ว
“มะรืนนี้ว่างไหมครับ เราจะชวนไปดูหนังรอบสื่อฯ ปกติเราได้บัตรมาสองใบ แต่ไปดูคนเดียวตลอด เลยจะชวนแทนไปดูด้วยกันครับ” ผมนึกอยู่สักครู่ ก่อนจะบอกว่า
“เรามีการบ้าน เยอะมากด้วย อีกอย่าง อาทิตย์นี้ต้องลงสมัครประธานนักเรียน” ต้าร์พยักหน้าก่อนจะบอกว่า
“งั้น วันนั้นเดี๋ยวทานข้าวเย็นกับแทนก่อนละกัน” ผมนึกอยู่สักครู่ ก่อนจะพยักหน้าโอเค
“ก็ได้ แต่...ต้าร์ไปรับมือแฟนคลับตรงนั้นก่อนดีกว่าไหม” สาวๆ โรงเรียนผม เค้าแห่กันมาถึงตรงนี้ ถึงอยู่ไกลๆ แต่รู้เลยว่าอยากเจอต้าร์แน่ๆ
“งั้น สักครู่นะ เดี๋ยวกลับมานั่งดูแทนซ้อมต่อ” ต้าร์หันหลังวิ่งกลับไปหาเหล่าสาวๆ โรงเรียนผม ที่คงเห็นต้าร์ เลยแห่กันมารอ ต้าร์เข้าไปแจกลายเซ็น ถ่ายรูป บางคนขอกอด ต้าร์ก็ไม่เขินหรือปฎิเสธ ยิ้มแย้มอย่างกันเอง
“นั่นต้าร์ พีรพัฒน์ปะ ที่คุยกับแทนเมื่อกี้” ขนาดไบรท์ยังรู้จักเลยอะ
“ใช่แล้ว วันก่อนไปเดินตัดหน้ามอไซค์เค้ามา เลยรู้จัก” ไบรท์ทำตาโตเมื่อรู้ว่าผมรู้จักกับต้าร์ได้ยังไง
“ถามจริง...หมอนี่มันเป็นเกย์เปล่าวะ” ผมสงสัยคำถามนี้จากไบรท์มาก
“ก็อีตานี่ไม่มีข่าวกับผู้หญิงเลย แถมสาวที่เคยใกล้กับอีตานี่ เคยให้ข่าวว่า ต้าร์ไม่สนใจผู้หญิงเลยสักนิด เฉยจนพวกผู้หญิงที่เคยใกล้กับอีตานี่ ฟันธงว่ามันเกย์ชัวร์” ผมเลยไม่แปลกใจละว่าทำไมต้าร์ถึงอยากใกล้ผมขนาดนี้
“ถามจริง...ต้าร์จีบแกเปล่าวะ” ผมไม่รู้จะตอบไงดี ก็...
“คงจีบแหละ ขนาดพ่อแม่เค้ายังรู้เลย” ผมเกาหัวบอกกับไบรท์ไป สีหน้าไบรท์ดูจะตะลึงเล็กๆ
“ไอ้บิ๊กไม่กระทืบตายเลยเหรอเนี่ย” ผมส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าไบรท์แบบ ก็ไม่รู้ซินะ...
ผมโยนผ้ากลับไปไว้ที่กระเป๋าเหมือนเดิม แล้วตบไหล่ไบรท์เบาๆ ก่อนจะกลับไปซ้อมต่อตามปกติ แล้วผมก็เห็นต้าร์นั่งอยู่ข้างสนามมองผมซ้อมอยู่ พร้อมกับรอยยิ้มบ้าง โบกมือหาผมบ้าง บอกตรงๆ ถึงผมไม่คิดอะไรกับต้าร์เกินกว่าเพื่อน
แต่เชื่อแล้วว่า สายตากับรอยยิ้มต้าร์เนี่ย ถ้าส่งให้ใครแล้ว หวั่นไหวได้อย่างบอกไม่ถูกจริงๆ
………………..
ริมสนามฟุตบอลโรงเรียนของแทน มักเป็นจุดจอดรถของผู้ปกครอง และเป็นที่จอดประจำของน้องถ่านผม แต่ว่า ตอนที่ผมขับเข้ามา ผมสวนกับ BMW S1000 RR สีฟ้าขาว ที่คนขับใส่หมวกกันน็อค arai สีดำด้าน คนขับใส่ชุดนักเรียนกางเกงน้ำเงิน ที่เเป็นโรงเรียนใกล้ๆ กับโรงเรียนผม แถมเป็นคู่อริกับผมด้วย ซึ่งผมทายว่าน่าจะเป็นต้าร์ คนที่จีบแฟนผมอยู่ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรแฟนผม จนรับกลับห้อง อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อไปมิตติ้งเล็กๆ กับพี่ๆ ในก๊วน Ducati ของผม
สองทุ่มนิดๆ ผมมาถึง McDonald’s ตรง The Circle ถนนราชพฤกษ์ และหน้าร้านก็มี Ducati ของพวกพี่ๆ ในกลุ่มจอดอยู่เจ็ดคันได้แล้ว
“สวัสดีครับพี่ๆ” ผมเอยปากทักพี่ๆ กลุ่มใหญ่ ที่ตอนนี้ต่อโต๊ะยาว เต็มไปด้วยอาหารที่สั่งมากินก่อนหน้า กับหมวกกันน็อคที่วางรวมที่โต๊ะตัวนึง
“นี่แฟนแกที่ไอ้เชี่ยโบ้มันเล่าให้ฟังใช่ปะ” พี่แวน เพื่อนสมัยเรียนของเฮียโบ้ทักขึ้นมาคนแรก แทนไหว้สวัสดีพี่ๆ ที่ทั้งก๊วน ซึ่งทุกคนก็ยิ้มแย้มให้กับแฟนผมด้วยดี
“สั่งไรกินได้เลยนะน้องเตรียมที่นั่งให้ละ” ผมวางหมวกกันน็อคของผมกับแทนรวมกับพี่ๆ และกลับมาพร้อมเบอร์เกอร์ปลาหนึ่งชุดกับนัตเก็ตไก่อีกชุดของแทน แน่นอนว่าแทนกลายเป็นศูนย์กลางของพวกพี่ๆ ที่ซักแฟนผมยังกับสอบปากคำผู้ต้องหา
“น้องแทนแมร่งเก่งวะ ไอ้ห่าบิ๊กนี่นะ อาร์ทตัวพ่อ เดี๋ยวคนโน่น เดี่ยวคนนี้ เลือกมากนัก สุดท้าย...ฮาๆๆ” ผมอยากเอาหมวกกันน็อคตบพี่นาย พี่ปีสองหมอจุฬาฯ โสดเรียกพ่อมาตลอด
“ถ้าพี่กลับไปอยู่มัธยม แล้วเจอแบบไอ้บิ๊ก พี่ก็คงไม่รอดวะ” พี่แวนหยิบเฟรนฟรายใส่ปากต่อ
นี่แค่ตัวอย่างนะครับ แต่แฟนผมแอบเขินจนอายม้วนยิ่งกว่าเดิม เพราะผมทั้งป้อน ทั้งมองตา ทั้งเอียงซบ จับมือ นั่งชิดๆ เปิดช่องให้พี่ๆ ทั้งแซว ทั้งแหวะ ทั้งเลี่ยน นั่นยิ่งทำให้ผมชอบ ไม่รู้ละ จะเขินแค่ไหน ผมก็จะหวานออกอากาศกับแฟนที่น่ารักคนนี้ต่อไป
“เอ้ยๆ ไปขับรถเล่นสักรอบกันดีกว่า อยากดูตุ๊กตาท้ายรถไอ้บิ๊กมันเกาะวะ ฮาๆ” ไอ้พี่แวนคงขี้เกียจนั่งแล้ว
“เอาจริงๆ เวลาเจอไอ้บิ๊กขับอยู่บนถนน ทักแมร่งไม่เคยทัน มีแฟนแล้วขับไวฉิบหาย” พี่เฉียง ลูกเจ้าของรับเหมาเจ้าใหญ่ที่พึ่งแต่งงานหมาดๆ ในวัย 23 ผู้ที่ผมเจอบ่อยบนถนนมากที่สุด ถึงกับบ่นว่าทักไม่ทันเลยเหรอ
ทันทีที่ทุกคนลุกขึ้น เก็บถาดอาหารไปทิ้ง แล้วคืนสภาพโต๊ะที่ลากมาต่อกันให้เรียบร้อย ถือหมวกกันน็อคกันออกไปที่ลาน แน่นอนว่าก่อนจะขับรถกัน แทนรับหน้าที่ถ่ายภาพกลุ่มด้วย iPhone ของพี่แวนให้หนึ่งภาพ
“เอ้ยไอ้น้อง สองคนนี้เคยมีภาพคู่ไหมเนี่ย” ผมกับแทนส่ายหน้าพร้อมกันให้กับคำถามพี่นาย
“ยืนข้างๆ น้องถ่านกันทั้งคู่นั่นแหละ แป็ปนะ” พี่นายหยิบกล้อง Sony A7II คู่ใจมาตั้งค่าสักครู่
“เข็นน้องถ่านออกมากลางลาน แล้วเอ็งกับแทนกอดเอวกันนะ” ผมปลดล็อคคอน้องถ่าน แล้วเข็นมาเล็กน้อยให้จอดอยู่โล่งๆ คันเดียว แล้วผมกับแทนก็ยืนข้างๆ รถ โดยที่ผมกอดเอวแทนให้ชิดคู่กัน โดยที่มืออีกข้างของเราทั้งคู่ กำลังถือหมวกกันน็อคกันอยู่ โดยมีพี่นายกำลังเล็งมุมถ่าย
“หัวเอียงชิดๆ กันเหมือนคู่รักหน่อย ดีๆๆ 1 2 3” ผมกับแทนเอ็นหัวชนกันเล็กน้อย ก่อนที่พี่นายจะกดชัตเตอร์แบบรัวกระหน่ำ แล้วดูผลงานตัวเอง ก่อนจะยกนิ้วโป้งให้ว่าเสร็จแล้ว
เป็นอันว่าผมกับแทนได้รูปคู่รูปแรกอย่างเป็นทางการกับเค้าซะที ขอบคุณครับพี่นาย
………………..
ผมกับแทนและก๊วน Ducati ของผมกำลังจะขึ้นคร่อมรถกัน ก็ได้ยินเสียงบิ๊กไบค์กลุ่มใหญ่เลี้ยวเข้ามาใน McDonald’s เช่นกัน ก๊วนนี้มากันสี่คัน และทุกคันเป็น BMW S1000 RR ทั้งหมด แต่มี S1000 RR สีฟ้า ขาว คันนึง ขับมาจอดขวางหน้าน้องถ่านผม ก่อนที่จะดับเครื่อง แล้วถอดหมวกออกมา
“สวัสดีครับแทน มากับแฟนเหรอครับ” นี่คือครั้งแรกที่ผมได้เห็นใบหน้าของต้าร์แบบชัดๆ เออ ยอมรับว่าหล่อ
“ใช่ครับ แฟนตัวจริงอยู่นี่ครับ นายคงเป็น ต้าร์ ซินะ” ผมเปิดฉากทักก่อน ในขณะที่ S1000 RR คันอื่นๆ ที่มาด้วย เข้าจอดเหมือนล้อมกลุ่มผมไว้อยู่
“Diavel สวยดีนะครับ แต่รถคงอุ้ยอ้ายน่าดู” กะแล้วว่าพวกขับ BMW ต้องพูดกับผมแบบนี้
“S1000 RR นายก็ ดีหมดนะ เว้นไฟหน้า เหล่ๆ แปลกๆ ดูไงก็ไม่ชินวะ หึๆ” ผมสวนกลับเบาๆ ต้าร์หัวเราะในลำคอเล็กๆ ก่อนจะขึ้นขาตั้งแล้วเดินมาหาผม
“เราทั้งคู่ก็ขับมอไซค์แรงเหมือนกัน เราแข่งมาหลายคนแล้ว ไม่เคยแพ้ซะด้วย สนใจลองสักตั้งไหมครับ” ต้าร์ท้ามา แต่แทนจับไหล่ผม แล้วผมหันกลับไปเห็นแทนส่ายหน้าช้าๆ
“บอกเหตุผลที่เราต้องแข่งกับนายหน่อยซิ” ผมคิดว่าการแข่งบนถนนแบบนี้ มันไร้สาระมาก
“แทน...ไงละ เราว่านายดีแต่มาดวะ เก่งจริงเปล่าก็ไม่รู้ โทษทีนะ เราพูดตรงไปหน่อยเอง” ผมรู้สึกได้ว่าต้าร์จะยั่วโมโหผม ผมขึ้นขาตั้ง แล้วลงมายืนประจันหน้ากับต้าร์
ในขณะที่ผมคุยกับต้าร์ได้สักครู่ พี่ๆ ในก๊วน Ducati ผมก็จอดรถ แล้วขึ้นขาตั้ง ถอดหมวกกันน็อค แล้วคุมเชิงให้ เพราะดูเหมือนกำลังจะมีเรื่อง ในขณะที่อีกฝ่ายก็คุมเชิงให้ต้าร์เช่นกัน ผมมองดูรอบๆ แล้ว อืม...ก็ได้
“อยากแข่งด้วย ใช่มะ...” ต้าร์พยักหน้า
“เราแค่อยากพิสูจน์ ว่าแฟนของแทน คู่ควรกับแทนจริงเปล่า เพราะถ้าอ่อนหัด เราจะดูแลแทนเอง” ผมกัดริมฝีปากนิดนึง แล้วพยักหน้าซ้ำๆ แบบคนเข้าใจแล้ว
“ถ้าเราชนะ เราจะเป็นคนพาแทนกลับคอนโดเอง และจากนี้ไป เราจะเป็นคนไปรับ ไปส่งแทน เอง” ผมแอบหลุดหัวเราะออกมา ก่อนจะตบไหล่ต้าร์อีกสองที
“เดิมพันเราบ้างนะ ถ้าเราชนะ นายต้องกราบเท้าเรา แล้วบอกว่า ผมผิดไปแล้ว ท่านบิ๊กเก่งที่สุด และต้องทำต่อหน้าแฟนกู พี่ๆ กู เสียงดังๆ ตรงนี้ด้วยนะ” ต้าร์พยักหน้าแบบไม่ลังเลทันที
“ทุกคนเป็นพยานตามนี้นะครับ” ผมหันไปบอกพี่ๆ ในก๊วนของผม
“บิ๊ก ต้าร์ ไม่เอาน๊า อย่าทำแบบนี้กันเลย จะแข่งกันเพื่ออะไร” ผมหันไปมองแทน ก่อนจะบอกกับแฟนผมว่า
“ไม่เกี่ยวกับผลแพ้ชนะหรอก เราแค่อยากทำให้แทนเห็น ถ้ามีใครท้าเรา เราก็ต้องปกป้องแทนได้ เชื่อเราซิ เราขนะกลับมาแน่นอน สัญญาครับ” ถึงสีหน้าแทนจะดูกังวลไม่อยากให้ผมรับคำท้าเกมนี้
คิดจะจีบแฟนผม ก็ต้องข้ามศพผมไปก่อนนั่นแหละ
************
บทที่ 55 จะเป็นการแข่งขันระหว่างต้าร์กับบิ๊ก ที่ตลอดเส้นทาง ถ้าเอาให้ตายได้ ก็ทำกันอย่างไม่ลังเล ตลอดเส้นทางจะมีแต่การชิงไหวพริบ และใครจะเข้าเส้นชัยได้ก่อนกัน
บทที่ 55 เจอกันวันพุธบ่ายๆ ครับ (หรืออาจจะพฤหัสฯ บ่าย ถ้าไม่ทันจะมาแจ้งนะครับ)
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ^^