ตอนที่ 21 ขอผมได้รัก
ครบระยะเวลาตามกำหนดที่ทั้งสองพ้นสภาพจากการเป็นพนักงานบริษัทโดยสมบูรณ์ วันสุดท้ายของการทำงาน พวกพี่ดลรวมถึงพนักงานที่แผนกต่างก็พาฆีนและท็อปไปเลี้ยงส่งอำลากันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
และแล้ว คืนแห่งการอำลาก็ผ่านไปได้ด้วยดี แต่สิ่งที่ท็อปโกรธตัวเอง คือ พี่ฆีนยังดีกับท็อปแม้นาทีสุดท้าย พี่ฆีนได้มอบของขวัญให้ท็อปก่อนจากกัน เมื่อท็อปกลับบ้านมาเปิดดู สิ่งที่เขาพบนั่นคือ นาฬิกาข้อมือแนวสปอร์ตมาพร้อมกระดาษที่เขียนข้อความสั้นๆว่า
'เหตุการณ์นี้คงทำให้ท็อปได้ข้อคิดหลายอย่าง จากนี้จะทำอะไรก็ตาม พี่ขอให้ท็อปดำเนินชีวิตด้วยสติ และมีชีวิตที่ดีขึ้นนะครับ...พี่ฆีน...'
ท็อปร้องไห้ทันทีที่ได้เห็น เพราะความรู้สึกที่ท็อปอยากบอกว่าชอบกับสิ่งของที่พี่ฆีนให้นั้น ท็อปยังไม่มีโอกาสได้พูดเลย
ส่วนการโดนเลิกจ้าง ครอบครัวของท็อปรู้เรื่องแล้วรวมถึงเหตุผลที่ท็อปชอบผู้ชายด้วย เด็กหนุ่มยอมสารภาพให้แม่และพี่ธัญฟังหมดทุกอย่าง แม่และพี่ธัญดูตกใจไม่น้อย แต่ไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวอะไร อาจเป็นเพราะโดยส่วนตัว แม่ชื่นชอบนิสัยพี่ฆีนบวกกับเป็นคนที่มีความคิดความอ่านฉลาดจากการที่ได้เจอกันคราวก่อน เลยไม่รู้สึกเกลียด หากลูกจะชอบผู้ชายคนนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าเพราะลูกชายตัวดีอีกนั่นแหละที่ดันทำเรื่องไม่ดี แก้ปัญหาผิดๆจนฆีนต้องจากไปซะได้
แม่จึงปลอบใจลูกชายว่ายินดีช่วยเหลือทุกอย่าง หากลูกต้องการ เพราะในชีวิตของคนเป็นแม่ก็เหลือเพียงแค่ลูกสองคนนี้เท่านั้น
บทเรียนครั้งนี้ ได้สอนให้ท็อปโตขึ้น และรู้ว่า ความกลัวไม่ช่วยอะไรเลย มีแต่ส่งผลแย่ เพราะในบางครั้งท็อปก็กลัวไปเอง เช่นเหตุการณ์ที่บอกครอบครัว ท็อปก็กลัวไปก่อนว่าจะไม่มีใครเข้าใจ แต่ผลสุดท้ายแล้วปรากฎว่า ทุกคนกลับยิ้มและให้กำลังใจ อีกทั้งยังพร้อมช่วยเหลือเต็มที่จนท็อปรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิม
ท็อปได้กำลังใจเต็มเปี่ยมจากคนรอบข้างอย่างนี้ ยิ่งเพิ่มแรงกายและแรงใจไม่คิดท้อที่จะขอคืนดีพี่ฆีนอีกครั้ง....
ผ่านไปสามวันที่ท็อปว่างงาน และจากที่กลับบ้านไปไม่กี่วัน ตอนนี้ ท็อปกลับมาพักอาศัยที่ห้องพี่ฆิตอีกหน โดยทุกคนยังอยู่กันครบถ้วน
"ทั้งวันแล้วนะที่มึงเอาแต่นั่งมองนาฬิกาเรือนนี้อยู่ได้" กราฟบอกเพื่อนขณะที่ท็อปยังนั่งอยู่ที่โซฟาตัวประจำ
"ก็มันเป็นสิ่งที่พี่ฆีนให้กูตอนจากกัน ทำไงดีกราฟ พี่ฆีนปิดโอกาสทุกทาง กูลองไปหาที่คอนโดก็ไม่เจอ กูนึกไม่ออกเลยว่าจะเจอเขาได้ทางไหน"
"เอาอย่างนี้ไหม? กูจะลองให้พี่ฆิตพาพี่ฆีนมาเจอมึงที่นี่ แต่มึงต้องรอหน่อยนะ พี่ฆิตบอกพี่ฆีนไปเชียงใหม่ กูว่าพี่ฆีนก็คงไปทำใจเรื่องมึงเหมือนกันแหละ กูคิดว่านะ""มึงต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งนะท็อป ว่ามึงเป็นฝ่ายผิดที่ทำเรื่องแบบนั้นกับพี่ฆีน แต่ถ้ามึงคิดได้แล้วว่า มึงจะทำตัวดีขึ้น มึงก็ต้องหนักแน่นกับการเดินหน้าง้อพี่ฆีน" พลพูดพร้อมตบไหล่หนักๆให้เพื่อนคิดได้ ฟากท็อปเม้มปากแน่นและเงียบ
ทำไม? เขาถึงเป็นคนนิสัยแย่แบบนี้นะ แย่ตรงที่ทำร้ายจิตใจพี่ฆีนได้ขนาดนั้น...
ตอนนี้ ท็อปปลดพันธนาการแห่งอดีตที่ฝังอยู่ในจิตใจท็อปได้แล้ว เขาจะไม่เอาความขี้ขลาดมาทำให้ความรักดีๆต้องหลุดลอยไปอีก ท็อปมองหน้าเพื่อนๆทั้งสองก่อนเอ่ย
"ขอบใจพวกมึงมากนะที่อยู่เป็นเพื่อนกัน กูรู้ตัวแล้วว่ากูเหี้ยเอง แต่กูพร้อมจะเป็นคนใหม่เพื่อพี่ฆีนแล้วจริงๆ คนดีๆอยู่ใกล้ตัวแท้ๆ กูดันละเลยจนทำให้พลาดไป"
"รู้ตัวแล้วก็ดี โอกาสมาเมื่อไหร่รีบคว้าไว้เลยนะมึง ไอ้ท็อป" พลบอก
........................
เจ็ดวันต่อมา...
หลังจากที่ฆีนกลับมาจากเชียงใหม่ เขาพักผ่อนได้ไม่กี่วัน ฆิตก็โทรหาโดยอ้างว่ามีปัญหากับกราฟอยากปรึกษา ฆีนจึงต้องเดินทางมาหาฆิตที่ในเวลาต่อมา
ไม่นานนัก ที่ฆีนเดินทางมาถึง เขาเคาะประตูส่งเสียงเรียก สักพัก ประตูเปิดออกกว้าง ฆีนยืนอึ้ง เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของฆีนตอนนี้ เป็นอดีตคนรัก โดยมีด้านหลังเป็นพล กราฟและฆิตยืนมองมาอย่างมีความหวัง
ฆีนตกใจและไม่ทันตั้งตัว ที่จู่ๆท็อปก็วิ่งเข้ามาโผกอดเขาแน่น
"ผมคิดถึงพี่ฆีนจังเลยครับ พี่ฆีนสบายดีไหม?"
กี่ครั้ง กี่หนที่ได้กอด ท็อปก็ยังได้รับไออุ่นจากพี่ฆีนเสมอ คราวนี้ก็เช่นกัน อ้อมกอดที่ทำให้ท็อปรู้สึกถึงความรักได้เป็นอย่างดี
ฟากฆีนยืนนิ่งอย่างไม่รู้จะพูดคำไหนออกไปก่อนดี เพราะเวลาที่ผ่านมา ฆีนอุตส่าห์ทิ้งระยะห่างและหลบหน้าเพื่อทำใจให้ลืมเด็กหนุ่ม แต่พอท็อปมากอดแบบนี้ ฆีนยอมรับว่าเขากลับต้องการมันเหมือนกัน
แต่เพราะฆีนตระหนักดีว่า เขาเองก็มีหัวใจ มีเลือดเนื้อ เจ็บได้และร้องไห้เป็น ดังนั้น เขาควรหยุดความรู้สึกนี้ และมองตามความเป็นจริงก่อน
ฆีนเหลือบมองน้องชายที่ยืนเยื้องอยู่ด้านหลังซึ่งไม่ไกลจากท็อปเท่าไหร่นัก
"นี่มันอะไรกัน ฆิต รวมหัวกันหลอกพี่หรือ?"
ท็อปไม่อยากให้ใครต้องมาโดนด่าเพราะเขาอีกแล้ว
"ไม่มีใครรวมหัวหรอกครับ เรื่องทั้งหมดคือแผนของผมเอง ถ้าพี่ฆีนจะด่า ด่าผมเลยครับ"
"โอเค พี่เข้าใจแล้วครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พี่ขอตัวกลับบ้านก่อนนะท็อป" ฆีนตัดบทพร้อมดันร่างเด็กหนุ่มออกห่างจากกัน เพื่อก้าวถอยหลังออกจากห้อง
ฟากท็อปรั้งมือพี่ฆีนไว้ก่อน
"เดี๋ยวครับ พี่ฆีน ผมขอโอกาสแก้ตัวได้ไหม?"
ฆีนหันขวับมามอง และตอบออกไปอย่างไม่ลังเลว่า...
"ไ...ม่..." เสี้ยววินาทีนั้น ท็อปทรุดฮวบลงไปนั่งที่พื้น ก้มหน้าเกาะขาพี่ฆีนแน่น
ฟึ่บ!!
"...ขอผมได้รัก...พี่ฆีนอีกครั้งนะครับ"
ท็อปยอมหมดแล้ว แม้กระทั่ง ยอมทิ้งศักดิ์ศรีลูกผู้ชายและสละอัตตาของตัวเอง ขอเพียงแค่ผู้ชายคนนี้ อย่าเดินหนีเขาไปไหนอีก...
ฆีนชะงักและใจวูบโหวงเพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าท็อปจะทำเช่นนี้
ส่วนคนอื่นๆต่างก็ยืนเบิกตาโพลง เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้าที่ปรากฎแก่สายตา เป็นผู้ชายที่ยอมก้มหัวลงเพื่อผู้ชายอีกคน กราฟ พลและฆิตถึงกับเบือนหน้าหนีเพราะรับสิ่งที่เห็นไม่ได้
ทุกคนยืนกลืนก้อนน้ำตาเอาไว้ ด้วยความหวังว่าไม่อยากให้บรรยากาศในห้องเศร้าไปมากกว่านี้
ฟากฆีนย่อตัวลงนั่งยองๆ พร้อมแกะมือท็อปที่เกาะขาเขาออก
"พอดีกว่านะท็อป อย่าทำให้พี่รู้สึกไม่ดีอีกเลย"
ท็อปกระโจนกอดพี่ฆีนแนบแน่นพลางเงยหน้ามองคนรักด้วยน้ำตานองหน้า
"ฮึกฮือๆ... ผมรักพี่ฆีนจริงๆนะ ได้โปรดเถอะครับ...พี่ฆีน ขอโอกาสอีกสักครั้งให้ผมได้แก้ไขเป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อพี่ฆีนนะ"
ฆีนใช้ข้อนิ้วเกลี่ยน้ำตาบนแก้มเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยนและค่อยๆลูบผมสีเข้ม
ฆีนจ้องมองเข้าไปยังแววตาคนที่เขารักก่อนจะผุดรอยยิ้มมุมปากพร้อมเอ่ยเสียงจริงจังว่า...
"พี่เคยบอกท็อปแล้วใช่ไหม? ว่าพี่เป็นคนจริงจังกับความรัก ถ้าพี่เลือกแล้วว่าจะคบใครสักคน พี่ต้องการคนที่คิดถึงอนาคตร่วมกัน มากกว่าคิดถึงแต่ตัวเอง...เรื่องของเรามันจบไปน่ะดีแล้ว ไม่นาน ท็อปต้องได้เจอคนที่เหมาะกว่าพี่นะ...พี่คงไม่เหมาะกับท็อปหรอก พี่ขอโทษนะครับ ไม่เอา ไม่ร้องไห้แล้วนะ เด็กดีของพี่..."
....เอ่ยปากไล่ให้เขาไปเจอคนที่คู่ควรกว่า แต่ทำไมหัวใจกลับรู้สึกเจ็บปวด....
ทำไม? ท็อปต้องมามีอิทธิพลต่อหัวใจของฆีนได้ถึงเพียงนี้ด้วย
ขืนอยู่นานกว่านี้ คงไม่ดีต่อหัวใจของฆีนเอง ทันใดนั้น ฆีนตัดสินใจดันตัวท็อปออก ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วไม่รีรอออกจากห้องของฆิต ด้านท็อปยังคงไม่หยุดตื้อ วิ่งตามไปสวมกอดฆีนจากด้านหลัง และพูดขึ้น
"พี่ฆีน ฮึกฮือออ...ท็อปไม่คิดมีใครแล้ว ท็อปต้องการแค่พี่ฆีนคนเดียว ที่ผ่านมาท็อปรู้ซึ้งแล้วครับว่าท็อปโง่เองที่คิดอะไรตื้นๆ ไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อน ท็อปรู้ว่าพี่ฆีนก็เจ็บไม่ต่างกัน ท็อปขอโทษ ขอโทษจริงๆ ท็อปรักพี่ฆีนนะ ท็อปขอโอกาสอีกครั้งนะครับพี่ฆีน...ได้โปรด"
ฆีนยืนฟังอีกคนระบายความรู้สึกออกมาเสียยืดยาว โดยที่เขาไม่พูดอะไรออกมาสักคำ เขาทำแค่แกะมือเด็กหนุ่มออกจากการสวมกอด แล้วเดินมุ่งตรงไปยังลิฟต์ ทิ้งให้ท็อปทรุดตัวลงนั่งฟุบหน้ากับพื้นตรงโถงทางเดินอยู่เพียงลำพัง
ถัดมาด้านในห้อง ทุกคนยืนมองหน้ากันไปมาอย่างเงียบๆ เพราะยังรู้สึกเศร้ากับภาพก่อนหน้าที่ยังติดตา ต่างฝ่าย ต่างก็สงสารและเห็นใจในความรักของทั้งคู่ แต่แล้วกราฟก็นึกอะไรขึ้นได้ เขาบอกพลให้ลากท็อปเข้ามาในห้องก่อนและเฝ้าดูเพื่อนไว้ จากนั้น กราฟจูงมือคนรักวิ่งตามพี่ฆีนไป
จนกระทั่ง ถึงส่วนล็อบบี้ กราฟรีบวิ่งไปจับแขนพี่ฆีนไว้ทัน
"พี่ฆีนผมขอเวลาสักครู่หนึ่งเพื่อคุยเรื่องท็อปได้ไหมครับ?"
"เรื่องอะไรอีกหรือ? กราฟ" ฆีนหันมองมาหน้าอย่างมีคำถาม
"ผมอยากให้พี่ฆีนได้ฟังเรื่องในอดีตของท็อปหน่อยน่ะครับ"
ฆีนถอนหายใจ แต่เพราะอดีตของคนรักก็เป็นสิ่งที่ฆีนอยากรู้เหมือนกัน ฆีนจึงให้โอกาสแก่กราฟได้เล่าอดีตท็อปให้ฟัง จากนั้น ทั้งสามเดินไปนั่งตรงที่รับรอง และกราฟเริ่มเล่าอดีตของท็อปตั้งแต่ต้นจนจบ
ฟากฆีนฟังจบยอมรับว่าอึ้งไปพอสมควร เพราะไม่เคยจนคนใกล้ตัวมีเรื่องราวรันทดขนาดนี้มาก่อน ฆีนสงสารท็อปไม่น้อย แต่เวลานี้ เขาก็ควรสงสารตัวเองเหมือนกัน
กราฟที่เห็นพี่ฆีนเงียบอยู่ เขาเอื้อมมือไปแตะแขนพี่ฆีนและเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
"พี่ฆีน ผมมีเรื่องหนึ่งจะเล่าให้ฟังครับ เผื่อช่วยประกอบการตัดสินใจของพี่ ผมเคยได้ยินจากท่านผู้รู้หลายคนเล่าขานต่อกันมาถึงเรื่องของพระพุทธเจ้าในสมัยพุทธกาลเกี่ยวกับการให้อภัย
มีชาติหนึ่งที่พระเทวทัตเป็นพ่อค้าแต่มีจิตใจคดโกง ในขณะที่พระพุทธองค์ก็เป็นพ่อค้าเหมือนกันแต่มีจิตใจสุจริตและดีงามกว่า
วันหนึ่ง มีหญิงชราเป็นผู้ดีตกยากต้องการขายถาดของต้นตระกูล พระเทวทัตผ่านมาเห็นและตรวจดูพอทราบว่าถาดนี้มีราคาสูง แต่เพราะจิตใจละโมบ คิดคดโกงจึงโกหกว่าเป็นถาดที่มีราคาเพียงเล็กน้อย ในเวลานั้นหญิงชราจึงไม่ยอมขายให้ เมื่อด้านพระพุทธองค์ซึ่งเสวยพระชาติเป็นพ่อค้าใจดีผ่านมา นางจึงนำไปขายอีกครั้งหนึ่ง พ่อค้าใจดีพิจารณาดูถาดนี้และสนใจจึงให้ราคาตามความเป็นจริงและเท่าที่พอมีอยู่ในตอนนั้น หญิงชราจึงยอมตกลงขายให้
ด้วยเหตุนี้ จึงสร้างความโกรธแค้นให้แก่พระเทวทัต เพราะถ้าไม่มีพ่อค้าอีกคนมาซื้อถาดทองคำใบนั้น ในไม่ช้าหญิงชราก็ต้องนำถาดทองคำมาขายแก่ตนเพราะทนต่อความยากจนไม่ได้อยู่ดี พระเทวทัตจึงผูกอาฆาต พยาบาทขอเป็นเจ้ากรรมนายเวรต่อพระพุทธองค์ด้วยการกอบเม็ดทรายขึ้นมา 1 กำมือหว่านลงกับพื้นดินแล้วประกาศว่า จะขอจองล้างจองผลาญท่านทุกชาติๆไป
นี่จึงคือต้นกำเนิดของการผูกใจเจ็บตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ไม่ว่าจะกี่ชาติที่พระเทวทัตได้พบเจอกับพระพุทธองค์ ก็จะมีเหตุให้ต้องคอยตามติดเพื่อจองเวร ชิงชังกับพระพุทธองค์มาโดยตลอด
เหตุการณ์ร้ายสุด เห็นจะเป็น ในชาติสุดท้ายที่พระพุทธองค์ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พระเทวทัตคิดชั่ว หวังปองร้าย พยายามลอบปลงพระชนม์พระพุทธเจ้าหลายครั้ง แต่ถึงกระนั้น พระพุทธองค์ก็ไม่คิดโกรธแค้น กลับเลือกเอาชนะด้วยการให้อภัย และมีเมตตามาโดยตลอด ทั้งๆที่โดนถึงขั้นจะเอาชีวิตก็ตาม...แต่แน่นอนว่า เพราะการกระทำที่ประสงค์ มุ่งร้ายต่อผู้มีบารมีสูงส่ง สุดท้าย พระเทวทัตก็สำนึกผิดช้าไปเพราะกรรมตามสนองด้วยการโดนธรณีสูบไปเสียก่อน...นี่ก็คือเรื่องเล่าที่ผมพอจะจำได้เลยเอามาบอกพี่ฆีนครับ ผมขอพูดในแง่มุมของการให้อภัย ยังไม่รวมถึงแง่ของการเป็นเจ้ากรรมนายเวรที่แตกประเด็นไปได้อีก"
"คิดว่าจะบวชสักกี่พรรษาดีล่ะ กราฟ" ฆีนอมยิ้มถาม ฟากกราฟยิ้มแห้งๆพลางถูจมูกแก้เก้อ ส่วนฆิตก็แอบขำเพราะไม่ค่อยเห็นคนรักมาแนวนี้
กราฟดีใจที่เห็นพี่ฆีนดูหยอกล้อและมีสีหน้าที่ผ่อนคลายขึ้น ในตอนแรก กราฟนึกว่าจะโดนด่าเสียอีก
"หือ....พี่ฆีนเป็นคนตลกเหมือนกันนะครับเนี่ย เอ่อ...ก็ผมเป็นเด็ก ผมพูดอะไรพี่อาจไม่เชื่อก็ได้ เลยต้องพึ่งเรื่องราวของพระพุทธองค์มากล่าวอ้างสักหน่อย เผื่อพี่ฆีนจะใจอ่อนดูบ้างครับ ผมขอโทษหากทำให้พี่ฆีนรู้สึกไม่ดี"
"ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ พี่รู้สึกดีนะ กราฟจะบอกให้พี่ให้อภัยท็อปใช่ไหม?"
"ใช่ครับ ผมรู้ว่าเพื่อนผมเลวอย่างไม่น่าให้อภัย แต่สิ่งที่ผมสัมผัสได้คือท็อปรักพี่ฆีน และตอนนี้ ท็อปสำนึกผิดแล้ว ซึ่งผมเองก็รู้ว่าพี่ฆีนเป็นคนดี ผมขอแค่ว่า ถ้าพี่ฆีนยังรักท็อปอยู่ ได้โปรดให้โอกาสเพื่อนผมสักครั้ง แต่ถ้าพี่ฆีนไม่รักท็อปแล้ว จากนี้ ผมจะไม่รั้งและไม่พูดบังคับขู่เข็ญอะไรพี่ฆีนอีกเลยครับ"
"ขอบใจนะกราฟ พี่ขอเวลาคิดอีกหน่อยแล้วกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พี่ขอตัวก่อนนะ" ฆีนร่ำลาเพื่อนของคนรักเก่าและลุกขึ้นเดินห่างไป
ส่วนฆิตตัดสินใจวิ่งตามไปดึงไหล่พี่ชายให้หยุดก่อน พอฆีนหันกลับมาหาน้องชายก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างงงๆว่า ฆิตเรียกให้เขาหยุดทำไม
"พี่ฆีน ขอผมกอดพี่หน่อยดิ"
"หืม...นึกยังไงอยากมากอด""เหอะน่า..." ฆิตไม่รีรอกอดพี่ฆีนทันที ไม่นาน ฆิตก็พูดขึ้น
"ผมไม่เคยบอกคำนี้กับพี่เลย ผมรักพี่ว่ะ พี่ฆีนเป็นพี่ชายที่ดีและทำเพื่อผมมาตลอด แต่ผมเนี่ยสิ ไม่เคยทำอะไรเพื่อพี่ได้เลย" ฆิตบอกขณะที่กอดพี่ชายอยู่
"ดูแลตัวเองได้ พี่ก็ดีใจแล้ว ปล่อยได้แล้วน่า ฆิต" ฆีนยืนตัวแข็งทื่อด้วยความรู้สึกแปลกๆเพราะไม่ค่อยเห็นน้องชายจะมีโมเมนต์นี้สักเท่าไหร่
"พี่เขินนี่หว่า?" ฆิตถามตอนผละออก
"เปล่า แค่อยากเก็บกอดไว้ให้คนที่พี่รักต่างหาก"
"ท็อปใช่ไหม?" ฆิตแซว แต่ฆีนยืนนิ่งไม่พูดอะไร จากนั้นฆิตก็พูดขึ้นเป็นประโยคทิ้งท้ายหลังจากที่จะแยกย้ายกันไป
"พี่ฆีน...ถ้าอยากให้โจรกลับใจ ลองให้โอกาสดีๆเขาดูสักครั้งนะ" ฆีนมองหน้าน้องชายพลางส่ายหน้าขำและเดินออกไปตามทางอย่างไม่มีจุดหมาย
ในค่ำคืนของวันเดียวกัน ฆีนออกมาหาที่นั่งดื่มเพียงลำพังเพราะอยากครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่กราฟบอกเล่ามาด้วย
เวลาผ่านพ้นไปไม่นาน ฆีนนั่งดื่มจนมีอาการกรึ่มเล็กน้อย ในจังหวะนั้นเอง...
"อุ้ย...ขอโทษครับ"
ฆีนก้มมองแขนตัวเองที่เปียกเป็นทางยาว ฟากคนต้นเรื่องที่ถือแก้วมาชนจนน้ำหกใส่นั้น รีบคว้ากระดาษทิชชูมาซับให้จนสะอาดเรียบร้อย
"ไม่เป็นไรครับ"
"เดี๋ยวผมขอชดใช้ด้วยการเลี้ยงเครื่องดื่มสักแก้วนะครับ"
"ไม่เป็นไรครับ" ฆีนย้ำอีกครั้ง
"นะครับ ไม่อย่างนั้น ผมคงรู้สึกไม่ดีจนนอนไม่หลับแน่ๆ"
จู่ๆ ผู้ชายคนนั้น ก็ทิ้งตัวลงนั่งข้างฆีนทันที ฆีนมองผู้มาใหม่ด้วยความรู้สึกแปลกๆ แต่เขาก็ไม่อยากเสียมารยาทจึงตอบตกลงไป
ความเงียบก่อตัวอยู่นาน จนชายหนุ่มผู้นั้นพูดขึ้น
"ผมชื่อจีน คุณชื่ออะไรครับ"
"ฆีนครับ"
"นั่งคนเดียวแบบนี้ อกหักมาเหรอครับ?"
ฆีนหันไปมองนัยน์ตาเฉี่ยวคู่นั้นที่ฉายชัดถึงความสนใจฆีนแบบที่ไม่ได้คิดไปเอง ฆีนยิ้มสุภาพ
"ไม่คิดว่าการมานั่งดื่มคนเดียว จะเป็นเหตุผลที่ผมเครียดจากงานแล้วอยากพักผ่อนบ้างหรือครับ" ฆีนย้อนถามจนอีกฝ่ายหัวเราะ
"ก็ผมแอบมองคุณตลอด แววตาคุณมันดูเหมือนคนผิดหวังมาน่ะสิครับ"
ฆีนหัวเราะในลำคอและไม่ได้ไขความกระจ่างให้อีกฝ่ายคลายข้อสงสัย ฆีนกลับเงียบแล้วยกแก้วขึ้นดื่มต่อ
จนกระทั่ง ห้าแก้วผ่านไป ที่ทั้งสองยังนั่งอยู่ด้วยกัน แต่กลับคุยนับคำได้ จีนรู้แค่ว่าทั้งสองอายุเท่ากันแค่นั้น เมื่อได้จังหวะที่จีนเห็นว่าฆีนดูผ่อนคลายขึ้น เขาถามต่อ
"ฆีนรู้ไหมครับ? แค่คุณนั่งเฉยๆผมยังรู้สึกว่าคุณมีเสน่ห์มาก"
"คำชมของคุณกำลังทำให้ผมเขินอยู่นะ" ฆีนตอบอย่างยิ้มๆ ฟากจีนถึงกับชะงักไปนิด รอยยิ้มมุมปากและแววตาที่ดูลุ่มลึก มุ่งมั่น จริงจังของคนตรงหน้าทำให้จีนรู้สึกหลงใหลอย่างบอกไม่ถูก จีนยิ้มก่อนตอบ
"ก็เขินไปสิครับ ใครว่าล่ะ"
ฆีนหลุดหัวเราะเบาๆออกมากับคำพูดซื่อๆ ในจังหวะนั้นเอง จีนวางมือทาบบนหลังมือของฆีนแล้วเอ่ยขึ้น
"ผมสนใจฆีนมากนะ"
ฆีนมองมือของจีนที่วางบนมือของเขาก่อนจะเงยหน้ามองจีนที่ดูจริงจังกว่าตอนแรก
"ขอโทษด้วย ผมไม่ได้อยากมีใครตอนนี้"
"ใครว่ากันเล่า ผมสนใจฆีน แต่ไม่ได้จะจีบเป็นแฟน ผมสนใจอย่างอื่นต่างหาก"
"คุณหมายความว่าอย่างไร"
ฆีนมองอีกฝ่ายที่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ จีนกระเถิบตัวไปใกล้ฆีนจนใบหน้าทั้งสองห่างกันไม่ถึงหนึ่งไม้บรรทัด พร้อมเอ่ยเสียงยั่วเย้าอย่างเบาหวิว
"ก็....สนุกกันคืนเดียวแบบไม่ผูกมัด เสร็จภารกิจก็แยกทางกัน ผมว่าข้อเสนอนี้ น่าสนใจดีออกนะครับ ว่าไหม?" จีนท้าวคางพลางจ้องมองฆีนอย่างรอคำตอบ
****1.1****
สำหรับสไตล์เราถ้าชื่อตอนโผล่นั่นหมายความว่าอีกไม่นานก็จะถึงปลายทางแล้วค่ะ
อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนนะ
ขอบคุณที่อ่านจ้า