#ชอกะเชร์คู่กันต์
ตอนที่ 18
ผู้สนับสนุนหลัก (PART 1/2)
แม้จะเฉลยแล้วว่าเป็นการดักควาย แต่แหลมก็ยังไม่ไว้ใจเพราะเพิ่งนึกได้ว่าก่อนหน้านี้บอสก็โคตรร้ายเอาเรื่อง ซึ่งคนเราจะเป็นแบบนั้นได้ก็ต้องมีเชื้อแม่มาบ้างแหละน่า ป้าดูไม่น่าไว้ใจ แหลมหรี่ตาจับผิดอยู่เป็นระยะกลัวว่ารอยยิ้มตรงหน้าจะเป็นแผนซ้อนแผน อารมณ์เล่นละครแบบอินเซปชั่น ทำเป็นชอบ > แกล้งเป็นไม่ชอบ > เฉลยว่าจริง ๆ ชอบ > แต่จริง ๆ ไม่ได้ชอบโว้ย! อะไรแบบนี้
แต่สังเกตท่าทีจนฟ้ามืดถึงได้รู้ว่าป้าแกน่าจะของจริง เพราะถ้าจะโดนซ้อนคาดว่าป้าคงหลุดแบไต๋ออกมาบ้างสักนิดสองนิด วันนั้นทั้งคู่เข้าครัวทำอาหารคลีนด้วยกัน ซึ่งป้าแกก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นว่าเด็กคนนี้รู้วิธีทำอาหารมีประโยชน์จนบอสยกเลิกกฎไม่กินมื้อเย็นได้
ป้า ดูก่อนนี่ใคร บอกเลยว่าฝากปากฝากท้องลูกชายไว้กับบักแหลมได้ จะไม่มีใครอดตายแม้ว่าติดอยู่กลางเกาะร้าง แต่เกาะจะสะอาดไหมก็อีกเรื่องเพราะไม่ได้ดูว่าร้างสะอาดไหม ถุ้ย! นั่นมันล้าง!
แค่คิดในใจก็เอาถาดเหลืองตีหัวตัวเองได้ คนจริงต้องยิงเองตบเอง
“อย่าเอาแต่เล่นโทรศัพท์สิครับ กินข้าวก่อน” กันต์มองแฟนเด็กที่เอาแต่สนใจข่าวเกมในโทรศัพท์จนข้าวกระเด็นออกจากจาน คนที่รักความสะอาดยิ่งกว่าอะไรจึงดึงทิชชู่ออกมาเช็ดโต๊ะให้เพราะทนดูภาพตรงหน้าต่อไปไม่ไหว
“อืออีกแป๊บ” เด็กดื้อก็ยังคงเป็นเด็กดื้อ เชร์ตักข้าวเข้าปากคำใหญ่จนแก้มป่องแล้วก็อมไว้ทั้งอย่างนั้น เชื่อฟังเขาแค่ครึ่งเดียวแล้วก็หันไปจดจ่ออยู่กับจอโทรศัพท์อีกครั้ง
“เดี๋ยวก็ติดคอ จะเป็นแฟนหรือลูกพี่กันแน่หื้ม?” ยังจะยิ้มอีก กันต์ส่ายหน้าหน่าย ๆ พลางเอื้อมไปเช็ดปากให้ ซึ่งคนถูกเอาใจก็เลื่อนหน้าเข้ามาทั้งที่ไม่มองหน้ากันด้วยซ้ำ
“พี่ดูนี่ดิ ฆาตกรตัวใหม่จะมาอีกละ พี่ธีร์ต้องฝึกเล่นอย่างบ้าคลั่งแน่เลย มันเป็นคนขี้เอาชนะ ต้องแซงหน้าชาวบ้านเพราะอยากมีซีน” นินทาพี่ชายแล้วก้มลงไปจะคาบหลอด แต่เด็กดื้อก็ไม่ยอมหันไปมองอะไรนอกจากโทรศัพท์ในมือ เขาจึงเอื้อมไปจับหลอดให้
แต่ไม่ได้ช่วยหรอกนะ
เชร์ขมวดคิ้วพลางลดระดับสายตามองมือที่กำลังจับหลอดหนี เขามองลิ้นเล็กที่แลบออกมาระหว่างพยายามไล่ตามหลอดจนเกิดภาพอีโรติก ซึ่งเด็กแสบคงรู้ว่าผู้ชายคนนี้คิดอะไร ถึงได้จับข้อมือเขาไว้แล้วค่อย ๆ เลียหลอดทั้งที่ยังสบตากันอยู่
“รู้ว่าชอบ”
คนถูกรู้ทันอมยิ้มพลางเกลี่ยหลังนิ้วชี้กับริมฝีปากแฟนเด็ก โชคดีที่ตรงนี้เป็นมุมอับ ไม่อย่างนั้นคนในร้านอาหารอาจจะมองเห็นคู่รักบ้า ๆ เล่นพิเรนทร์กันในพื้นที่สาธารณะ
“อยากกัด”
“ก็มากัดดิ” ยิ่งโดนท้ายิ่งตื่นเต้น กันต์ก้มลงมองเป้ากางเกงที่ถูกคลึงโดยปลายเท้าของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนจะเงยหน้ามองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่เหมือนอยากบอกให้รู้ว่าผู้ชายคนนี้ได้ตกอยู่ในกำมือโดยสมบูรณ์แบบแล้ว
“ไปจำมาจากไหนครับ?”
“หนังโป๊...” เชร์พูดเบา ๆ พลางหันไปดูว่าพนักงานเสิร์ฟเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้หรือไม่
“ถ้ามันแข็งขึ้นมาเราจะรับผิดชอบไหวเหรอ?” เด็กลูกครึ่งกระตุกเล็กน้อยกับสัมผัสที่ถูกลูบไล้ตั้งแต่ปลายเท้าไล่มาเรื่อย ๆ จนถึงหน้าขา “พี่ไม่อยากทำในห้าง แต่ห้องลองเสื้อก็น่าสนใจอยู่”
“ไม่เอาอะ พี่ทำนานเกินไป คนสงสัยกันพอดี”
“ไม่ใช่เพราะกลัวตัวเองร้องเสียงดังหรอกเหรอครับ?”
“ก็เหมือนกันปะ?” เด็กแสบกดเสียงลงต่ำ พยายามจะดึงเท้ากลับและแน่นอนว่าเขาไม่ยอม “ปล่อยเร็ว ไม่เล่นแล้ว ผมยังกินข้าวไม่เสร็จเลยนะเว้ย...”
เชร์เริ่มงอแง ซึ่งเขาพอจะดูออกว่าอีกฝ่ายคงเริ่มมีอารมณ์แล้วเหมือนกัน พอไม่ได้ทำกันหลายวันลูกชายจะตื่นตัวง่ายก็ไม่แปลก แต่เรื่องนี้ถ้าจะมีคนผิดก็ต้องโทษซิมบ้าน้อยที่ซนไม่ดูสถานที่
“เชร์”
“อือ”
“วางมือถือแล้วกินข้าวครับ” คนถูกดุเบ้ปากพลางชำเลืองมองบอสที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม โห่ไรวะ อีกแค่นิดเดียวก็จะอ่านจบแล้วหยวนกันหน่อยไม่ได้ไง๊?
“ขอห้านาที”
“นานไปครับ”
“แป๊บเดียวเอง เนี่ย --”
“ถ้ายังไม่วางเราต้องเลือกแล้วนะว่าจะกินข้าวดี ๆ หรือจะให้พี่กินเราในลานจอดรถ”
“...”
“มันคงไม่ดีเท่าไหร่ถ้ารปภ.จะเอาไฟฉายส่องเข้ามาข้างในเพราะสงสัยว่าทำไมรถถึงสั่นแรงขนาดนั้น... ว่าไงครับที่รัก?”
ทั้งคู่สบตากันท่ามกลางเสียงเพลงคลาสสิกที่เปิดเพิ่มบรรยากาศในร้าน ซึ่งเพียงชั่วอึดใจเดียวเด็กดื้อก็ยอมวางโทรศัพท์ลงแล้วกินข้าวโดยไม่เถียงอะไรอีก แฟนควบตำแหน่งพ่อที่บังคับได้สำเร็จจึงนั่งเท้าคางอมยิ้มอย่างชอบใจพร้อมคลึงปลายนิ้ววนเท้าเล็ก แกล้งจนแฟนเด็กหน้าขึ้นสีระเรื่อเพราะความดื้อของตนเอง
*
“จะชนะกูอะยากหน่อยนะ วันนึงมียี่สิบชั่วโมง แต่กูเล่นไปแล้วสามสิบ”
คนขี้ขิงหัวเราะอัดไมค์ ส่วนนิ้วยังคงคอนโทรลให้ตัวละครวิ่งหนีไปหลังจากจู๊กหลบแทบตายแต่ก็โดนฟันไปแล้วหนหนึ่ง
( ซ่าจังนะสัด อย่าให้กูเห็นเงา เดี๋ยวขวานจะบินไปจามหัว )
“ขวานเป็นหวัดเหรอถึงได้ -- อุ่ ๆๆๆ บินมาจามใหญ่ ว่าวว่ะพี่มึ๊งงงงงง ติ๋มสัด 555555555555555” เด็กลูกครึ่งส่งเสียงหวีดร้องยิ่งกว่าควายโดนเชือดตอนเห็นว่าพี่ธีร์เปลี่ยนใจหันมาไล่ล่าเขาแทนที่จะจวกไส้พี่แจ็คกับจู๊กมาสเตอร์แฟนมันที่วิ่งป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้เหมือนกัน
( พี่แหลมก็ไม่น่าเล่นมุกนี้หรอกครับ เสี่ยงตายเกิน )
( ปล่อยมันไป เราปั่นไฟชิว ๆ กันดีกว่า )
“โซ่ ถ้ากูโดนจับไปแขวนมันก็ดีสำหรับมึงกับพี่แจ็คนะ จะได้ฝึกสกิลช่วยเพื่อนฝูงให้หนักกว่าทีมอื่น รบร้อยครั้ง --”
( ชนะศูนย์ครั้ง )
“ใจจ้าพี่แจ็ค”
( มานี่ลูกพ่อ มาให้กระซวกดากสักทีซิสองทีซิ ปากไหนที่มันเห่าหอนเมื่อกี้กูจะจับมาเย็บด้วยเข็มสานกระสอบให้ดู )
“โหดจัดอ่า มึงก็ใกล้บวชแล้วนะพี่ธีร์ ใจคอจะฆ่าน้องนุ่งได้ลงคอเหรอ?!!! -- เดี๋ยว ๆ อ๊าาาา!!!!!”
ทันทีที่โดนฟันรอบสองคนปากดีก็ล้มคว่ำลงไปจูบผืนหญ้า ท่ามกลางเสียงหัวเราะชั่วร้ายของพี่ชายผู้เป็นที่รักซึ่งกำลังอุ้มเขาขึ้นพาดบ่าเพื่อเอาไปแขวน โดยมีแฟน ๆ ในห้องแชตที่รัวเลขห้าไม่หยุดหย่อน เห็นไอ้แหลมชีวิตพังแล้วสะใจกันนัก พวกนี้ไม่ไหวเลยว่ะ
“ตกใจเลยครับ เปิดเข้ามาตอนเรากรี๊ดพอดี”
“ไม่ได้กรี๊ดปะ เขาเรียกโหยหวนเพราะร่างกายได้รับความเจ็บปวด” เดี๋ยวนี้เก็บอาการหน้ากล้องไม่เก่งแล้ว ใครจะสงสัยอะไรก็ไม่สนแต่ถามมาก็ไม่ตอบเว้ย แหลมหันกลับไปมองเจ้าของรอยยิ้มที่เพิ่งเข้ามาในห้องพร้อมขนมนมเนยหลายอย่างที่เคยบ่นไปว่าอยากกิน แต่บอสก็อุตส่าห์ไปหาซื้อมาให้จนได้
“สตรีมอยู่สินะครับ?”
“อือ มาทักติ่งพี่หน่อยดิ” เด็กหนุ่มถอยเก้าอี้ออกด้านข้างเพื่อให้ขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ในหมู่บ้านได้เข้ากล้องเสียหน่อย พวกในห้องแชตนี่ตายไปเลยดิ วันนี้บอสใส่สูทเซ็ทผมมาอย่างดีตามประสาผู้ชายทำงานเป็นเจ้าคนนายคน
“สวัสดีครับ วันนี้เชร์เล่นดีหรือเปล่า ถ้าเล่นไม่สนุกก็ไม่ต้องโดเนทให้หรอกนะครับ”
“อ้าว ๆ คือไร พูดงี้ถอยออกไปเลยนะเราอะ” เขาต่อยแขนอีกคนเบา ๆ แล้วเบียดเก้าอี้ขยับไปนั่งมุมเดิม ซึ่งบอสก็ยิ้มขำพลางยีผมเขาเบา ๆ แล้วเปิดเข้าแอป Twitch ในมือถือตนเอง
( แจ็ค บอกเจ้านายมึงเข้าเกมมาโดเนทให้กูสักห้าพันซิ กูจะสั่งหม้อกระเพาะปลามาเลี้ยงงานศพเด็กมันหน่อย )
“อ้าปากดิพี่ธีร์ เดี๋ยวเหรียญก็ไหลออกมาเองแหละ”
( โซ่กับพี่แจ็คขอออกประตูก่อนนะ โชคดีครับพี่แหลม )
“เฮ้ยเดี๋ยวดิ มาช่วยกูก่อน!!!”
( เดี๋ยว ๆ มีคนโดเนทมา 5,555฿ ว่ะ ใครเป็นเจ้าของเงินค่ากระเพาะปลาครับเนี่ย จัดจ้านนนนนนนนนนนน 555555555555555555555555 )
“เดอะฟัก ยูสเซอร์เนมไรวะเดี๋ยวกูตามไปบล็อกแม่ง!!!!”
( แอนโนนีมัสศูนย์แปด )
“...”
( โอ้โห ชื่อพี่กันต์นี่ครับ โซ่คุ้นมาก )
( บอสใจดีจังครับ ช่องผมยังเหงาอยู่นะเผื่อบอสอยากแวะเวียนเข้ามาปลดปล่อยตัวเลขออกจากบัญชี... ล้อเล่นนะครับเมื่อกี้น้องชายแย่งคอมเล่น )
แหลมหันไปทางคนที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง เขาถลึงตาอ้าปากหวอใส่แต่อีกฝ่ายกลับอมยิ้มแล้วขยิบตาให้อย่างเจ้าชู้
“ทำไมต้องกวนตีนอะ”
“พี่ไม่คุยกับเด็กพูดจาไม่น่ารักหรอกนะครับ”
“แล้วไง พี่ก็ไม่น่ารักกับผมเหมือนกัน พี่ธีร์มึงโอนเงินคืนมาเลย บัญชีกู”
( ไรอ่า ถ้าจะคืนก็ต้องคืนเจ้าของเงินปะ หรือว่าใช้กระเป๋าเดียวกัน ว๊ายยยยยยยยย )
( พี่ธีร์อย่าทำเสียงแบบนั้นได้ไหม โซ่ขนลุกเลยอะ )
( กูเห็นด้วยกับไอ้โซ่ )
“ไม่เว้ย โอนมาแล้วกูจะได้เอาไปคืนเค้าเองไง”
( สาระแน กูไม่คืน จะทำไม ก๊าก!!!! )
Anonymous บริจาค 50฿: ให้ค่าส้มตำนะครับ
“...!!!!” แหลมยังคงถลึงตาด่าบอสที่ยังแกล้งไม่เลิก เดี๋ยวนี้ปั่นเก่ง อีกนิดเดียวจะชวนเข้าทีมไว้ปั่นไฟละ!!!
F10EQ: ทำไมบรรยากาศมันแปลก ๆ วะ?
Yammy408: ชิปได้ปะ ถามก่อน
Lucyycul: ไอ้หมาเลิ่กลั่กเวอร์ กูขำ 5555555555555
Yooyeez บริจาค 100฿: พี่จ๋าขมวดคิ้วใหญ่แล้ว ยิ้มหน่อยนะคะ ><
ทั้งคู่สบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร คนหนึ่งก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ อีกคนก็หรี่ตามองหวังจะเอาคืน จนเกมจบลงที่เด็กลูกครึ่งโดนจับแขวนคนเดียว แหลมจึงปิดสตรีมแล้วพุ่งเข้าไปกระโดดทับคนกวนตีนเก่งเอาให้จุกท้อง!
“โอ๊ย!” กันต์มองเด็กตัวแสบที่เอาหัวมุดกับอกเขาอีกทั้งยังทำท่าจะงับทุกอย่างที่อยู่ใกล้ปาก เขาจึงยื่นนิ้วชี้ไปใกล้ ๆ ซึ่งก็ไม่ผิดอย่างที่คาดไว้ เมื่อซิมบ้าน้อยงับมันเข้าให้อย่างลูกสิงโตกำลังเข็ดฟัน
“เถียงเก่งมากใช่ปะ ไหนนิ้วที่กดโดเนทเข้าข้างพี่ธีร์เมื่อกี้ เอามานี่ซิ” ใบหน้าซนเงยขึ้นในระยะใกล้ และคนเห่อแฟนก็ก้มลงไปจุ๊บเบา ๆ ก่อนจะผละออกมาสบตากัน “นี่เรียกปากปะ ไม่ใช่นิ้ว”
“อยากจุ๊บเฉย ๆ ครับ ไม่ได้เหรอ?”
“ไม่ได้ จ่ายมาสองแสน”
“หน้าเลือดเหรอครับ ทีเราจุ๊บพี่ก่อนนอนวันละร้อยครั้งพี่ยังไม่เคยคิดตังค์เลยนะ” เขายิ้มขำพลางดันจมูกเด็กดื้อด้วยนิ้วชี้จนซิมบ้าน้อยกลายเป็นลูกหมู ซึ่งเจ้าตัวก็รับมุกด้วยการทำเสียงขึ้นจมูกอู้ด ๆ อย่างน่ารัก
“ไม่ถึงร้อยเหอะ เวอร์ว่ะ”
“งั้นก็ทำให้ถึงสิครับ” กันต์อมยิ้มพลางคลอเคลียปลายจมูกรั้นอย่างมันเขี้ยว ซึ่งคนอย่างเด็กคนนี้น่ะหรือจะยอมให้ถูกท้าเฉย ๆ
กันต์หัวเราะในลำคอตอนที่ถูกแฟนเด็กโจมตีด้วยการจุ๊บแก้มทั้งสองข้างสลับกันไม่หยุด อีกทั้งยังนับจำนวนแบบออกเสียง สักพักหนึ่งเลยทีเดียวกว่าเจ้าตัวจะยอมหยุดนิ่ง เขาจึงทบยอดไปที่แก้มฟอดใหญ่ ๆ จนน้องปากจู๋
“ผมยังไม่ได้เปลี่ยนผ้าปูเลย ได้กลิ่นเน่าปะ?” แหลมเขี่ยผ้าห่มออกให้พ้นระยะการได้กลิ่น
“บอกให้ส่งซักตั้งแต่วันจันทร์ก็ไม่ฟังกันเลยนี่ครับ”
“ลืมอะ แล้วก็ขี้เกียจด้วย”
“งั้นจ้างแม่บ้านไหม ไม่อยากทำอะไรก็ให้เค้าทำ เดี๋ยวพี่จัดการหาคนให้” เด็กถูกตามใจจะกลั้นยิ้มอย่างไรไหว แหลมรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ล้อเล่นถ้าเป็นเรื่องความสะดวกสบาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยกระดับชีวิตให้ดีขึ้นเพียงเพราะมีแฟนรวย
“ไม่เอา อยากทำเอง”
“งั้นก็เชื่อฟังทำตามที่พี่บอกบ้าง ตกลงไหมครับ?” พอเป็นเรื่องความสะอาดก็ไม่ตามใจเลยนะ แหลมพยักหน้าอย่างว่าง่ายแล้วก้มลงไปซบกับอกคนตัวหอม
“คืนนี้กลับด้วยดิ”
“ทำไมครับ วันนี้พี่ตั้งใจมาค้างกับเรานะ”
“ไม่เอาอะ ผ้าปูผ้าห่มมันเน่า ขอผมเอาไปซักก่อน คืนนี้ขอนอนด้วย” ไม่พูดอย่างเดียว แฟนเด็กมีความงอแงดิ้นยุกยิกอีกทั้งยังเอาศีรษะถูไม่หยุด
“โอเคครับ ไปก็ไป” เขาลูบศีรษะทุยอย่างเอ็นดู บทจะอ้อนก็เล่นเอาใจเขาพองโตไม่หยุดเลย “ว่าแต่เราไม่ซ้อมกับเพื่อนต่อเหรอครับ?”
“นัดซ้อมกันอีกทีก็พรุ่งนี้เลย คืนนี้พักชิว ๆ ไปก่อน เมื่อวานเพิ่งชนะไง”
“โอเค งั้นเราไปกันเลยดีไหม?” กันต์เลิกคิ้วถาม ซึ่งเด็กแสบก็พยักหน้าตกลงแล้วลุกไปหยิบมือถือ ส่วนชุดที่ต้องเปลี่ยนนั้นไม่จำเป็น เพราะตู้เสื้อผ้าครึ่งหนึ่งของเขาแบ่งให้เด็กคนนี้ไปแล้ว
*
“อ้อ เกมใกล้จะเปิดให้ซื้อแบบ Early Access แล้วนะครับ”
“เฮ้ยจริงปะ เดี๋ยวผมซื้อแล้วสตรีมให้คนดูตั้งแต่วันแรกเลย แล้วก็ไม่ต้องจ่ายให้นะ อยากอุดหนุนในฐานะลูกค้า เดี๋ยวถ้าเล่นแล้วเจอบั๊กตรงไหนจะสายตรงหาพี่แจ็คเป็นคนแรก”
บนโต๊ะมีขนมส่วนสองมือจับจอย ทั้งคู่กำลังเล่นเกมต่อสู้กันซึ่งคนที่นั่งให้กอดอยู่ระหว่างขาก็ดิ้นยุกยิกไปตามตัวละครที่ตวัดขาเตะจระเข้ฟาดหาง
“มันจะออกมาดีหรือเปล่านะ...”
เลือดตัวละครยังเหลือมากกว่าครึ่งหลอด แต่แหลมเลือกละสายตาจากจอแก้วเพื่อหันไปหาเจ้าของเสียงที่ไร้ความมั่นใจ เมื่อก่อน CEO อย่างกันต์กวินทร์อาจจะเป็นคนมีความมั่นใจสูง แต่นั่นก็มีหลายอย่างที่ยังเป็นเรื่องผิด ๆ ซึ่งเขาคิดว่าตอนนี้อีกฝ่ายคงลดความมั่นใจนั้นลงมาจนแทบติดลบแล้ว
“ไปได้ยินอะไรมาปะเนี่ย?”
บอสไม่ได้ตอบทันที เขาจึงเอาจอยในมืออีกคนวางไว้บนโต๊ะแก้วพร้อมขยับไปนั่งข้าง ๆ เพื่อให้มองหน้าได้ชัดขึ้น สีหน้าบอสดูเป็นกังวล ถ้าคนพูดฉะฉานเลือกจะคิดก่อนพูดแบบนี้แสดงว่าต้องมีอะไรแน่ ๆ
“จำเพื่อนเก่าที่เคยทำเกมกับพี่ได้ใช่ไหม?”
“อือ จำได้ เขาว่าอะไรเหรอ?”
“รายนั้นกำลังจะออกเกมใหม่เหมือนกัน เขาเพิ่งให้สัมภาษณ์กับเว็บเกมแล้วมีพูดถึงพี่นิดหน่อยน่ะ”
“เขาว่าไงบ้าง?”
“เขาบอกว่าจะทิ้งอะไรเก่า ๆ ไว้ข้างหลังแล้วเริ่มต้นใหม่ด้วยมือตัวเอง และมันต้องดีกว่าเดิม”
“โห หน้าสั่นเลยใช่ไหมตอนอ่านถึงบรรทัดนี้” เขาถาม ซึ่งบอสก็พยักหน้ารับ
“แถมเกมเมอร์ยังให้ความสนใจเกมเขามากกว่าเกมพี่ด้วย มันก็เลยอดเอามาเปรียบเทียบกับตัวเองไม่ได้น่ะ”
แหลมพึมพำ ‘โถ ๆๆ’ พลางรั้งท้ายทอยคนคิดมากมาซบกับบ่าแคบ ๆ ของตนเอง ซึ่งผู้ชายตัวใหญ่ก็ทำตามอย่างว่าง่าย
“มันรู้สึกว่าเรากาก แล้วเขาก็ได้ดีหลังจากทิ้งเราไปใช่ปะ?”
“ครับ”
“แล้วมันจะแปลกยังไงในเมื่อเพื่อนพี่เขาเรียนสายนี้มาโดยตรง เขารู้ดีว่าควรทำเกมแบบไหน สั่งงานคนยังไง อะไรเข้าท่า อะไรไม่ควรใส่เข้าไปในเกม แต่พี่ไม่มีความรู้ด้านนั้นเลยนะเว้ย เอาจริงถ้าให้เพื่อนพี่ไปบริหารโรงแรมเยอะ ๆ แบบพี่เขาก็ทำไม่ได้เหมือนกันอะ คนเรามันจะเก่งทุกเรื่องเป็นไปไม่ได้”
“นั่นก็หมายความว่าบริษัทเรามีผู้นำไม่ได้เรื่อง”
“ก่อนหน้านี้อาจจะใช่ แต่พอคนเอาแต่ใจเริ่มให้เกียรติไอเดียความคิดชาวบ้านชาวช่องทุกอย่างก็ดีขึ้นแล้วไม่ใช่เหรอ?” แหลมลูบผมนุ่มที่กลิ่นหอมจนต้องก้มไปดมให้ชื่นปอด เนี่ย พออยู่สภาพนี้แล้วก็ดูจะเป็นผัวขึ้นมาเลย คืนนี้ลองสลับกันตั้มดีไหมเผื่อจะพลิกสถานการณ์ได้
“ตลกดีนะครับ ก่อนหน้านี้พี่ไม่เคยห่วงเลยว่าใครจะรู้สึกแย่ยังไง แต่พอได้เอาตัวเองลงไปคลุกคลีกับงานมากกว่าครั้งก่อน ๆ พี่ก็รู้สึกว่าไม่อยากให้ใครผิดหวังในตัวพี่แล้ว ทั้งทีมพัฒนาทั้งผู้เล่น พี่อยากให้ทุกอย่างออกมาดีจริง ๆ”
“ชอบที่คิดแบบนี้นะ แต่ก็ไม่อยากให้รู้สึกแย่นาน ๆ อะ ถ้ามองในแง่ดีตอนนี้บริษัทที่พี่เคยทำให้ดิ่งลงมันกำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ คนก็เริ่มรีวิวหลังจากปล่อยตัวอย่างเกมออกไป”
“นี่ให้กำลังใจกันอยู่เหรอครับ?” เด็กลูกครึ่งกลั้นขำแล้วผงกศีรษะตอนอีกคนเงยหน้าขึ้นมาขมวดคิ้ว
“เอาน่า อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครเล้ย ตอนนี้คิดแค่ว่าพี่จะทำยังไงให้ฟีโนมีเกมเข้ม ๆ ออกมาให้คนชอบก็พอแล้ว ส่วนเรื่องจะโดนแซะยังไงเราไปแก้ต่างความจริงในอดีตไม่ได้ แต่พี่ทำให้บริษัทกลับมาผงาดได้นะเว้ย ไหนมาจุ๊บ ๆ ดิ๊” แหลมเชยคางคนหล่อขึ้นมาแล้วทำปากจู๋ใส่ บอสถึงยิ้มได้กับคำปลอบบ้า ๆ ของเขา
“พี่ว่าจะไปจ้างไดเรกเตอร์เก่ง ๆ มาช่วยล่ะครับ”
“เหย ดีเลยอะ แล้วเล็งไว้ยังว่าใคร?”
“ตอนนี้มีอยู่คนนึงที่เตะตา อายุมากกว่าพี่สามปี เป็นคนมีฝีมือแต่อีโก้สูงนิดหน่อย”
“อยู่ด้วยกันต้องมีคนตายอะจากสภาพ เพราะงั้นพี่ต้องเป็นคนลด เดี๋ยวชาวบ้านหนีอีก” แฟนเด็กก็ให้กำลังใจดีเหลือเกิน กันต์กุมขมับกับความจริงที่เริ่มหวั่นใจแล้วว่าเขาต้องเป็นคนยอมหักยอมงอ
“แล้วทีมเราเป็นไงบ้างครับช่วงนี้?”
“ใกล้ถึงรอบชิงเข้าไปทุกทีแล้ว แต่รอบหน้างานหินหน่อย นักกีฬาอีสปอร์ตบ้านเราเริ่มดุขึ้นทุกวัน”
“ซ้อมหนักอย่างนี้ไม่เครียดแย่เลยเหรอ?” กันต์ประคองอีกคนให้มานั่งตรงระหว่างขาเหมือนเดิม ซึ่งซิมบ้าน้อยก็ขดตัวเป็นก้อนในอ้อมกอดเขาอย่างเคยชิน
“เครียดดิ แต่มันสนุกนะ ไม่รู้ว่ะ ผมชอบอะไรแบบนี้ไปแล้วอะ”
“ถ้าแข่งรอบนี้ชนะแล้วจะมีแข่งอีกทีเมื่อไหร่นะ?”
“อาทิตย์ถัดไปเลย มีเวลาให้ซ้อมยาวอยู่ ช่วงนั้นทางเพจก็จะกระตุ้นคนดูให้เข้ามาร่วมกิจกรรมชิงรางวัลด้วย”
“อืม...” แหลมเงยหน้ามองอีกคนที่เหมือนว่ากำลังคิดอะไรบางอย่าง
“มีอะไรในใจอยู่ใช่ปะ?”
“ครับ พอดีพี่กำลังคิดว่าหนึ่งอาทิตย์ที่ต้องใช้เวลาไปกับการซ้อม เราสามารถแบ่งเวลาไปพักผ่อนที่รีสอร์ทสวย ๆ สักคืนสองคืนได้ไหม?”
“รีสอร์ทไหนอะ ที่เคยเล่าให้ฟังน่ะเหรอ?”
“ครับ ถ้าเราอยากไปก็ลองชวนพวกพี่ ๆ ดูนะ ถ้าเขาตกลงพี่จะได้โทรคุยกับเพื่อนให้” เขายิ้มขณะมองหน้าตื่น ๆ ของแฟนเด็ก
“ไปดิไป! แต่ค่าห้องคืนเท่าไหร่อะ แหกมากไหม พวกผมจะได้หารกันออกให้พี่ตั้บกับซ้อ” ตื่นเต้นเลย พวกเขาไม่ได้รวมตี้ไปเที่ยวกันทั้งทีมแบบนี้มานานแล้ว พวกพี่ ๆ ต้องตกลงแน่ สั่งพี่ตั้บปิดร้าน!
“ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอกครับ”
“เออ ลืมไปว่าขี้ซุยบราเทอร์มีเอทีเอ็มเคลื่อนที่ไปด้วยทั้งคน”
เขาเสยผมเด็กแสบขึ้นแล้วก้มลงไปจุ๊บหน้าผากเบา ๆ ก่อนจะผละออกมากระซิบข้างหูเพื่อให้รู้เจตนาอีกอย่างที่ยังไม่เคยบอก
“ในฐานะสปอนเซอร์อีกคนนะ...”
(จบครึ่งแรก)
พี่เขาอยากเป็นเครื่องดื่มดับกระหาย -- สปอนเซอร์
อ่อ ไม่ขำเนาะ