หลานคุณย่า แอบรัก(ครัวซองต์+มิน)ตอน22.P.9(07/06/59) The End.
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หลานคุณย่า แอบรัก(ครัวซองต์+มิน)ตอน22.P.9(07/06/59) The End.  (อ่าน 64896 ครั้ง)

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ haemin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
กดก่อนค่อยคุยค่ะเฮีย น้องเขยเฮียกล่าวไว้

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
รอตอนต่อไปนะคะ :L2:

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
รอหวาน  :katai5:

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
 :oo1: :oo1: อยากอ่าน 5555

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป~

ออฟไลน์ bluerose

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เอาจริงๆ นะ ตอนนี้ลุ้นคู่พี่ทิม 555

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
มินเก็บไปเสียใจเรื่องอื่นเถอะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ส่งเสริมกันดีจริงๆ พี่เขยน้องเขยเนี่ยยยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
รอกันต่อไป ..

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
มินเชื่อพี่ทิมเถอะแล้วจะดีเอง ให้โอกาสทั้งมินและพี่ซอง  ถ้าพี่ซองยังทำตัวแย่อีกก็ไม่ต้องไปสนใจอีกเลย อดีตก็ให้มันเป็นบทเรียน  ตอนนี้ถ้ามินให้โอกาสพี่ซอง ปัจจุบันและอนาคตที่จะมีความสุขรออยู่ข้างหน้า

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
แอบรัก ตอน18


 

(มิน)

 

ผมแต่งตัวเตรียมความพร้อมจะไปร้านเหมือนทุกวัน แต่วันนี้มันกลับต่างออกไป เพราะความรู้สึกในใจของผมมันยังค้างคาอยู่กับเรื่องเดิมๆ ผู้ชายคนเดิมที่ไม่ว่าจะผ่านมาสักกี่ปีผมก็ยังยึดติดกับคนนี้ไม่เปลี่ยนแปลง ผมทานอาหารเช้าด้วยความเร่งรีบ เพราะกลัวว่าจะไม่ทัน แม้แต่ชามที่ผมใส่ข้าวต้ม ผมยังเอาไปวางไว้ในซิงค์อย่างไม่ใยดี ก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้ใบโปรดสะพายไว้ข้างหลัง เดินตรงไปยังหน้าบ้านด้วยความมั่นคง ตลอดทางเดินใจของผมเต้นแรงจนแทบทะลุ เพราะการตัดสินใจที่จะทำแบบนี้มันเป็นเหมือนอนาคตของผมเลยก็ว่าได้ ต่อไปข้างหน้าผมจะมีความสุขหรือความทุกข์ก็ขึ้นอยู่กับการกระทำในวันนี้และวันต่อๆ ไปของผม

 

ผมเปิดประตูออกมาหน้าบ้านก่อนจะล็อคเอาไว้อย่างดี  ขาเรียวเล็กก้าวเดินออกมายืนรอหน้าบ้านด้วยความหวังว่าจะเจอใครอีกคน พอได้ได้ยินเสียงรั้วของบ้านหลังใหญ่เปิดออก ผมหัวใจแทบวายเพราะความรู้สึกตื่นเต้นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รถสปร์ตอตคันคุ้นเคยขับผ่านหน้าผมไปเพียงเสี้ยววินาที ทั้งๆ ที่ผมยืนรออยู่แทบตาย แต่อีกคนกลับขับผ่านไปเฉยเลย ผมได้แต่สบถอย่างหัวเสียกับการกระทำของคนที่ไม่รับรู้ว่ามีใครรออยู่ ผมได้แต่มองตามหลังรถคนเดิมที่ไกลออกไปเรื่อยๆ พร้อมกับถอนหายใจออกมาดังๆ ก้มหน้าก้มตาเดินต่อไปที่หน้าปากซอยด้วยความหงุดหงิดเพื่อไปรอรถเมล์สายประจำ

 

"ไอ้พี่บ้าๆ รอตั้งนาน -_-! รู้อย่างนี้ไม่ยืนรอให้เสียเวลาหรอก ร้อนๆ ก็ร้อน ฮึ่ย" ผมเดินบ่นไปตามทางคนเดียว จนหลายๆ คนหันมามอง เขาคงคิดว่าผมบ้าแน่ๆ เลย ยิ่งเห็นคนมองแล้วกระซิบกระซาบกันก็ยิ่งหงุดหงิด

 

"เพราะพี่คนเดียวเลย ไอ้คนบ้าเฮงซวย-_-///"  ผมบ่นกระปอดกระแปดไปตลอดทาง แต่คนที่ถูกผมด่าคงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว กว่าที่ผมจะหายหงุดหงิดก็ผ่านไปครึ่งวัน  ก้มหน้าก้มตาทำงานให้ลืมๆ เรื่องเมื่อเช้าไปก็เท่านั้น

 

วันต่อมาผมยังใช้วิธีเดิมคือมาดักรออีกคนที่หน้าบ้าน แต่คราวนี้พอได้ยินเสียงประตูรั้วเปิดออก ผมจึงรีบเดินจ้ำอ้าวเพื่อเจ้าของให้รถที่กำลังแล่นตามหลังมาได้เห็น  ผมค่อยเดินไปเรื่อยๆ รถสปอร์ตคันหรูก็ยังไม่มีท่าทีจะขับตามมาหรือแซงผ่านไปเหมือนอย่างที่ใจคิด  อยากจะหันไปดูเหลือเกินว่าอีกคนมัวทำอะไรอยู่ถึงไม่ตามมาสักที รถอะไรจะช้ากว่าคนเดินอีก

 

"ทำอะไรของเขาอยู่นะ" ผมแสร้งทำของหล่น ก่อนที่จะค่อยๆ ก้มลงเก็บ ตาตี่ๆ ของผมพยายามเพ่งมองไปข้างหลังว่ามีรถของเขารึเปล่า รถคันหรูยังคงจอดสนิทอยู่ด้านหลังของผมเพียงไม่กี่เมตร ผมได้แต่เก็บความสงสัยไว้คนเดียว ก่อนจะเดินต่อไปเรื่อยๆ จนเกือบถึงหน้าปากซอยเขาจึงขับรถแซงไปอย่างช้าๆ

 

เขากำลังทำอะไรของเขาอยู่ ทำไมทำเหมือนขับรถตามผม ทั้งๆ ที่บอกว่าจะเลิกตอแย แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากนั้น นี่จะเอายังไงกันแน่มันค้างคารู้รึเปล่า จะง้อหรืออะไรก็เข้ามาหาสิไม่ใช่ทำเหมือนไม่มีตัวตน คอยแอบตามอยู่แบบนี้  ผมโมโหมากขึ้นเป็นเท่าตัว วันที่สองแล้วนะสิ่งที่ผมทำยังไร้ประโยชน์ หรือว่าผมจะหาวิธีใหม่ ถ้าจะปรึกษาพี่ทิมอีกก็ดูจะรบกวนเกินไป ลองพยายามอีกสักสองสามวันก็แล้วกัน

 

จากที่ผมคิดว่าจะพยายามอีกสองสามวันก้กลับกลายมาเป็นสัปดาห์ ตลอดอาทิตย์ชีวิตของคนสองคนยังคงวนเวียนอยู่กับเรื่องเดิมๆ ผมออกมารอพี่ซองที่หน้าบ้าน ส่วนอีกคนก็ได้แต่ขับรถตามไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีความคืบหน้าอะไรเกิดขึ้น จนกลายเป็นผมซะเองที่เริ่มจะทนไม่ไหวกับพฤติกรรมบ้าๆ ของอีกคน ยังไงวันนี้ก็ต้องเข้าไปคุยให้รู้เรื่อง  ผมพยายามรวบรวมความกล้าอยู่นาน

 

ก่อนที่จะตัดสินใจทำแบบนี้ นอนคิดมาทั้งคืน ทบทวนคำพูดของพี่ทิมที่บอกที่สอนผมหลายๆ อย่าง ถ้าผมไม่สู้เพื่อความรู้สึกของตนเองมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา รังแต่จะทำให้ผมเป็นทุกข์ก็เท่านั้น ผมจะลองสู้สักตั้งถ้าไม่ดีก็ค่อนถอย ถึงเวลานั้นก็คงแค่เสียใจซึ่งมันคงไม่เจ็บไปกว่าที่ผ่านมาหรอก

 

ผมยังทำทุกอย่างให้เป็นเหมือนปกติ ออกมารออีกคนที่หน้าบ้าน พอประตูรั้วหลังใหญ่เปิดออก และรถที่แล่นออกมาเป็นของคนที่ผมรอคอย จึงเริ่มเดินไปข้างหน้าเหมือนไม่รับรู้ว่ามีคนตาม ผมลองเดินเร็วๆ เขาก็ขับเร็วขึ้น แต่เมื่อผมเดินช้าเขาก็ขับช้าลง หายใจเข้าลึกๆ จนเต็มปอด

 

 

คนในรถรีบแตะเบรกแทบจะทันที รถสปอร์ตคันหรูนิ่งสนิท ก่อนที่ผมจะค่อยๆ เดินกลับไปหาคนที่อยู่ในนั้นอย่างช้าๆ  ผมตัดสินใจเคาะกระจกรถฝั่งคนขับเบาๆ สองสามที  ก่อนที่กระจกรถจะค่อยๆ เลื่อนลงมาทำให้ผมเห็นหน้าเขาได้อย่างชัดเจน พี่ซองดูเหมือนจะซูบลงนิดหน่อย ขอบตาคล้ำราวกับคนไม่ได้นอน สีหน้าเขาตอนนี้บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าตกใจยิ่งนัก

 

"ขับตามผมทำไมทุกวัน ไหนบอกว่าจะเลิกยุ่งไง" ผมแสร้งตีหน้ายักษ์โมโหกับการกระทำของอีกคน จนพี่ซองหน้าเสียมากขึ้กว่าเดิม

 

"พี่ขอโทษที่สิ่งที่พี่ทำมันรบกวนมิน" น้ำเสียงอ่อยๆ เหมือนไม่ใช่พี่ซองคนเดิมทำให้ผมถึงกับใจหายวูบไปชั่วขณะ พี่ซองคนเดิมหายไปไหนแล้ว ทำไมเหลือแต่คนขี้ขลาดไม่กล้าแม้แต่จะเผชิญหน้ากับผมด้วยซ้ำ

 

"ใช่มันรบกวนผม แล้วก็ทำให้ผมหงิดหงิดเป็นบ้า ที่ตลอดสัปดาห์คุณเอาแต่ตามผมแบบนี้"

 

"พี่แค่เป็นห่วงมิน แต่ถ้ามินรำคาญพี่ขอโทษ ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว" สายตาแบบนี้มันคืออะไร ทำไมต้องทำท่าทางราวกับว่ารู้สึกผิดมากมายแบบนี้

 

"ใช่ครับรำคาญมาก ต่อไปห้ามทำแบบนี้อีก" ผมพยายามเก็บควาสงสารที่เกิดขึ้นในใจ เพราะไม่อยากจะกลับไปที่จุดเดิมอีกแล้ว ต่อไปนี้ผมจะเป็นผู้นำ พี่ซองมีหน้าที่เป็นผู้ตามเท่านั้น พี่จะได้รู้ว่ามินคนใหม่เป็นยังไง เตรียมรับมือให้ดีนะครับสุดที่รักของมิน

 

"พี่เข้าใจแล้ว ขอโทษอีกทีนะ" พี่ซองกำลังเลื่อนกระจกรถขึ้น ก่อนที่จะไม่ทันผมจึงรีบร้องเรียกในทันที

 

"ผมจะไปด้วย ไปส่งที่ร้านเดี๋ยวนี้" สมองอีกคนดูจะช้าไปร้อยล้านปีแสง  นั่งนิ่งมองผมตาปริบๆ เหมือนต้องการคำตอบที่มันชัดเจนกว่านี้

 

"ไปส่งผมที่ร้านหน่อย หรือว่าคุณจะไม่ไปก็ไม่เป็นไร" ผมตั้งท่าจะเดินไป แต่อีกคนรีบเรียกไว้ก่อน

 

"พี่ไปส่งเองครับ มินขึ้นรถมาเลย" น้ำเสียงที่ดูกระตือรือร้นของพี่ซองทำให้ผมอดหมั่นใส้ไม่ได้ แต่ก็ยอมขึ้นไปนั่งข้างคนขับแต่โดยดี

 

"รู้ไหมว่ามินโกรธ" ผมยังคงโชว์เหนือ เพราะยิ่งเห็นท่าทางเป็นหมาหงอยแบบนี้ผมก็ยิ่งอยากแกล้ง  ถ้าวันหนึ่งเราสองคนมีโอกาสคบกันจริงๆ ผมจะไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างเด็ดขาด

 

"มินโกรธพี่เรื่องอะไรเหรอ ถ้าเรื่องที่พี่แอบตามมิน ต่อไปพี่จะไม่ทำอีกแล้ว"

 

"นั่นมันก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่มินโกรธพี่ซองมากเพราะพี่ขี้ขลาด"

 

"พี่งงไปหมดแล้ว มินช่วยพูดให้คนอย่างพี่เข้าใจทีเถอะ" พี่ซองที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาขับรถ หันมาพูดกับผมด้วยสีหน้าที่ดูจะเก็บอาการไม่อยู่

 

"พี่มันซื่อบื้อ ทั้งๆ ที่มินมารอหน้าบ้านทุกวัน ทำไมไม่คิดจะชวนไปด้วยเลยสักครั้ง ไหนบอกว่ารักนักรักหนาทำไมใจดำแบบนี้" ผมโวยวายใส่สารถีรถหน้าโง่ที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาขับรถ แต่ก็พยายามหันมามองผมบ้างในบางครั้ง

 

"มินๆ หมายความว่ามินรอไปทำงานพร้อมพี่เหรอ"

 

"ก็เออนะสิไอ้พี่บ้า ทำไมโง่แบบนี้ แล้วต้องให้มินมานั่งอธิบายอะไรน่าอายแบบนี้ด้วยห๊ะ" ทั้งๆ ที่ผมอายแทบบ้า แต่ก็ต้องพูดเพราะอีกคนดูจะไม่เข้าใจเอาเสียเลย เหมือนต่อมความฉลาดที่เคยมีในตัวหยุดทำงานกระทันหัน มันคงตายไปพร้อมกับพี่ซองคนเดิม เหลือเพียงพี่ซองคนโง่สมองไม่ทำงาน

 

"พี่ขอโทษ พี่ไม่รู้" ผมเริ่มที่จะหงุดหงิดกับท่าทางหงอยๆ ของพี่ซองแล้ว จะพูดจะทำอะไรก็เอาแต่ขอโทษอยู่นั่นแหละ

 

"เมื่อไหร่จะเลิกขอโทษซะที มินโมโหแล้วนะ"

 

"พี่..ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงแล้ว" เออให้มันได้อย่างนี้สิไม่รู้ว่าจะทำอะไรแล้วงั้นเหรอ แล้วที่ผ่านๆ มาที่ทำเสียเยอะแยะน่ะคืออะไร พอคนจะให้โอกาสกลับทำหน้ามึนใส่ตลอดเวลา ตกลงจะให้ผมจัดการทุกอย่างเองเลยใช่ไหม เดี๋ยวผมก็จับปล้ำซะหรอก

 

"ต่อไปนี้พี่ต้องทำตามคำสั่งมิน ห้ามเถียง หน้าที่มีอย่างเดียวคือคอยทำตามเข้าใจไหมครับ"

 

"พี่ไม่เข้าใจ มินหมายความว่ายังไง" พี่ซองหันมาถามก่อนจะทำหน้างงหนักกว่าเดิม

 

"โอ้ย! พี่บ้า ไม่เข้าใจก็ไม่ต้องเข้าใจ ทำตามที่มินบอกก็พอ" ผมไม่อธิบายอะไรอีกต่อไปแล้ว แค่นี้ผมก็ดูหน้าด้านเกินจะทน ไม่รู้วว่าวันนี้ผมเอาปูนยี่ห้ออะไรมาฉาบหน้าไว้จึงหน้าด้าหน้าทนขนาดนี้ อายตัวเองจริงๆ เลยครับงานนี้



“พี่ห้ามพูด ขับรถไปเลย มินโมโหอยู่” ผมเอ่ยตัดบทคนที่กำลังอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง ก่อนที่เขาจะหันไปขับรถด้วยท่าทางผ่อนคลายอารมณ์ลงมาบ้าง

 
 ภายในรถเหลือเพียงความเงียบของทั้งผมแล้วก็พี่ซองไม่ได้พูดอะไรกันอีก ผมลอบมองเสี้ยวหน้าของอีกคนที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาขับรถไปอย่างใจเย็น

 

“ตอนเย็นอย่าลืมมารับมินนะครับ” หลังจากที่รถคันหรูจอดสนิทที่หน้าร้านผมจึงหันไปบอกสารถีรถหน้านิ่งทันที

 

“แล้วมินจะให้พี่รอที่ไหน”

 

“ถ้ามาเร็วก็ไปรอในร้านสิ ว่าแต่พี่มีธุระอะไรรึเปล่า” ผมลืมไปเลยว่าพี่ซองต้องไปทำงาน เป็นถึงระดับผู้บริหารอาจจะมีธุระ ไม่ว่างที่จะมารับผมก็ได้

 

“ไม่มีครับ แล้วจะให้บอกคนอื่นว่ายังไงถ้ามีคนถาม”

 

“แล้วแต่พี่สิ จะบอกว่าอะไรก็แล้วแต่” ผมอยากจะตะโกนดังๆ ใส่หูคนข้างๆ จริงเลยว่าทำไมโง่ขนาดนี้ ผมทำขนาดนี้แล้วยังจะถามอะไรมากมาย ที่มายืนอ่อยอยู่หน้าบ้านทุกวันนี่คืออะไร ยังไม่รู้หรือไงว่าผมคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

 

“บอกว่าเป็นแฟนได้ไหม”

 

“ไม่อายคนอื่นรึไงที่จะมาเป็นแฟนคนอย่างมิน” ผมลองใจพี่ซองอีกครั้ง รู้ว่าตอนความรู้สึกเดิมๆ ที่เขาเคยว่าผมก่อนหน้านี้มันคงไม่มีแล้ว เพราะหลังจากวันนั้น เขาก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน ดูเหมือนกับว่าจะเป็นคนที่เห็นอกเห็นใจคนอื่นมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ

 

“ไม่ๆ ไม่อายหรอก แค่มินยอมก็เท่านั้น” น้ำเสียงดูมีความหวังมากขึ้น ทำให้ผมแบจะใจอ่อนยอมยกโทษให้เขาหมดทุกอย่าง แต่ไม่ใช่ตอนนี้หรอก พี่ต้องได้บทเรียนจากผมก่อน แม้ว่าผมจะยอมให้เรียกแฟน แต่ก็แค่ในนามเท่านั้นแหละ

 

“แล้วแต่สิ” ผมพูดเหมือนมันเป็นเรื่องลมฟ้าอากาสแต่ในใจกลับเต้นโครมครามเพราะคำว่าแฟน ที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้รับมันจากผู้ชายตรงหน้า

 

“มินพูดจริงๆ ใช่ไหม”

 

“หน้าตามินเหมือคนพูดเล่นหรือไงครับ”

 

“พี่เป็นแฟนกับมินแล้วจริงๆ เหรอ”

 

“อย่าพึ่งดีใจไป มินแค่ให้โอกาสพี่ได้ทำหน้าที่แฟนดู แต่ถ้าไม่มีอะไรดีขึ้น มินก็จะถอยกลับไปอยู่ที่จุดเดิม”

 

“ได้ครับ แค่นี้ก็ดีที่สุดแล้ว” ท่าทางดีใจเหมือนกับเด็กได้ของเล่นที่ถูกใจ ทำให้ผมแทบจะกลั้นขำไม่อยู่ ทำไมตอนนี้พี่ซองถึงน่ารักขนาดนี้นะ

 

(ซอง)

สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมตอนนี้เหมือนฝันเลยครับ ผมกับมินเราเป็นแฟนกัน แต่ผมยังต้องพิสูจน์หลายๆ อย่างให้น้องเชื่อใจ ที่ผมยอมน้องไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ผมก็บื้อขึ้นมาแบบที่นักอ่านหลายๆ คนกล่าวหาหรอกนะครับ ที่ผมยอมอ่อนให้มินเพราะผมรักน้อง ไม่ว่าน้องจะพูดจะทำอะไรผมยอมหมดเพื่อชดเชยสิ่งที่ผมเคยทำไม่ดีในอดีตที่ผ่านมา และผมก็อยากทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น ที่น้องมายืนรอผมตลอดหลายๆ วันที่ผ่านมาใช่ว่าผมจะไม่รู้ เพราะผมก็รอที่จะออกจากบ้านพร้อมน้องเหมือนกัน แรกๆ ก็ไม่รู้หรอกว่าเขาตั้งใจที่จะรอผมอยู่หน้าบ้าน แต่พอสังเกตุหลายๆ วันเข้าพอได้ยินเสียงรถผมทีไรเขาก็มักจะเดินออกมาทุกที มันจึงทำให้ผมพอที่จะเข้าใจทั้งหมด ผมไม่กล้าที่จะเป็นฝ่ายเริ่มจึงได้แค่คอยตามน้องทุกวัน เพราะครั้งก่อนน้องปฏิเสธผมๆ จึงอยากให้น้องเริ่มต้น หลังจากนั้นเราจะได้สานสัมพันธ์กันใหม่อีกครั้ง

 

ในที่สุดความอดทนของผมตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้ผล เพราะน้องเป็นฝ่ายทนไม่ไหวแล้วเข้ามาหาผมซะเอง ผมได้แต่นั่งยิ้มกริ่มอยู่ในรถ ก่อนที่จะตีหน้าเศร้าเมื่อน้องเดินเข้ามาหา ผมไม่ได้เจ้าเล่ห์หรอกนะ แต่ผมแค่ต้องการพิสูจน์ว่าน้องยังรู้สึกเหมือนผมอยู่รึเปล่า แต่ทุกอย่างมันเร็วเกินกว่าที่ผมคิดไว้จริงๆ เลย

 

วันนี้ต้องเป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุดหลังจากที่ผมกลับมาอยู่เมืองไทย ผมกลับไปทำงานด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยม มันมีความสุขมากจนกลัวว่ามันจะอยู่กับผมได้ไม่นาน แต่ต่อไปนี้ผมจะไม่มีวันปล่อยน้องไปจากผมเด็ดขาด

 

ผมทำงานไม่รู้เรื่องเลย เอกสารที่รอเซนต์อนุมัติอยู่ตรงหน้าเป็นตั้ง แต่ผมยังไม่ได้จับมาดูเลยเลยสักนิด  เพราะมัวแต่นั่งคิดถึงใครอีกคนที่ทำให้หัวใจผมเต้นแทบจะระเบิด ผมอยากจะโดดงานไปหาน้องจริงๆ แต่ก็กลัวเขาจะโกรธที่ผมไม่มีความรับผิดชอบ

 

“ตั้งใจทำงานๆ จะได้รีบไปหามิน” ผมเตือนตัวเองรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ แต่พอเอางานมาวางตรงหน้ากับอ่านมันไม่รู้เรื่อง ถ้าเป็นอยู่อย่างนี้งานผมต้องไม่เสร็จแน่เลย อยากจะเห็น้องหน้าใจจะขาด ผมตัดสินใจโทรศัพท์หาอีกคนไม่รู้ว่าเขาจะโกรธหรือเปล่าแต่ก็ต้องลองเสี่ยง ดีกว่าผมจะมานั่งอยู่ห้องทำงานทั้งวันแล้วไม่ได้อะไรเลย

 

“สวัสดีครับ” เสียงใสๆ รับโทรศัพท์ทันทีหลังจากที่เสียงรอสายดังอยู่สองสามครั้ง

 

“มิน.....” ผมไม่รู้จะพูดอะไร พอได้ยินเสียงน้องแล้วมันพูดไม่ออก

 

“ใครครับ...ถ้าไม่พูดจะวางแล้วนะครับ” เสียงมินเริ่มจะแข็งขึ้นมานิดหนึ่งคงเพราะผมเรียกเขาแล้วแต่ไม่พูด

“พี่เองครับมิน”

 

“พี่ไหนผมไม่รู้จัก” ผมมั่นใจว่าน้องจำผมได้ ถึงแม้ว่าเขาอาจจะไม่ได้เมมเบอร์ผมไว้ก็ตาม

 

“พี่ซอง...”

 

“โทรมาทำไมครับ”

 

“พี่...คิดถึงมิน อยากได้ยินเสียง”

 

“บ้ารึเปล่าครับ พึ่งเจอกันมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี่เอง”

 

“รู้ครับ”

 

“ได้ยินเสียงแล้วก็วางได้แล้วครับ มินจะทำงาน”

 

“เจอกันตอนเย็นนะครับ” ผมไม่รู้จะพูดกบน้องยังไงจริงๆ เพราะคนที่ไม่เคยพูดดีๆ กันเลยสักครั้ง พอทุกอย่างเปลี่ยนไปผมกับทำตัวไม่ถูก อยากจะพูดเพราะๆ แต่ปากมันก็ไม่ขยับ

 

ผมก้มหน้าก้มตาทำงานอีกครั้งรอเวลาที่จะได้ไปหาน้อง รู้สึกคิดถึงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จะทำอะไรก็นึกถึงแต่อีกคน ในที่สุดผมก็เคลียร์งานเสร็จสักที ผมเดินออกไปสั่งงานเลขาอีกนิดหน่อยก่อนที่จะตรงไปที่ลานจอดรถ มุ่งหน้าไปหาอีกคนทันที

 

“พี่ซองมาทำไมอ่ะ” น้องชายคนเล็กของผมถามขึ้นทันทีที่เห็นผมเปิดประตูเข้าไปในร้าน

 

“พี่มาหามิน” ผมตอบน้องออกไปทันที ทำเอาน้องบราวอ้าปากค้างไปไม่เป็นส่วนน้องคนรองอย่างพายที่นั่งทำบัญชีอยู่รีบเดินมาหาผมทันที

 

“มาหามินทำไมฮะ พี่มีธุระอะไรกับมินรึเปล่า” คนที่ดูจะตั้งสติได้เร็วที่สุดก็คงจะเป็นน้องพาย ส่วนน้องบราวนี่แมลงวันบินเข้าปากไปหลายตัวแล้วมั้ง

 

“พี่นัดกับมินไว้”

 

“ห๊ะ..นัดกับหมูน้อยเหรอ”  พอเริ่มตั้งสติได้คราวนี้ตะโกนเสียงดังทันที ไม่เคยคิดจะอายใครเลยน้องชายผม

 

“ใช่ครับงงอะไร”

 

“พี่ซองบอกน้องบราวมาเดี๋ยวนี้นะมีอะไรปิดบังอยู่ใช่ไหม” น้องบราวคะยั้นคะยอให้ผมตอบเขาให้ได้ ไม่ต้องบังคับขนาดนั้นผมก็ตอบอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังแล้วนี่นา

 

“พี่กับมินเป็นแฟนกัน”

 

“ห๊ะ/ห๊ะ” น้องชายทั้งสองของมประสานเสียงกันดีเหลือเกิน มองผมอย่างอึ้งๆ ใครจะไปเชื่อใช่ไหมล่ะครับ คนที่ทะเลาะกันมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโตจะมาคบกันได้

 

“ตกใจอะไรนักหนาทั้งสองคน”

 

“พี่เล่ามาให้หมดเลยนะ ไม่อย่างนั้นน้องบราวไม่ยกหมูน้อยให้หรอก” ผมตัดสินใจเล่าทุกอย่างให้น้องทั้งสองคนฟังโดยละเอียด แต่เรื่องที่ร้ายแรงมากๆ ก็ไม่ได้เล่า เพราะกลัวว่ามันจะทำร้ายจิตใจทั้งสองคนมากเกินไป

 

“ทั้งสองคนห้ามเอาไปบอกคุณย่ากับน้าดาวนะ”

 

“ทำไมล่ะ หรือพี่ซองไม่จริงจังกับหมูน้อย” บราวนี่มองผมเคืองๆ คงจะโกรธแทนเพื่อนรัก เพราะขณะที่ผมเล่าเรื่องทั้งหมดยังด่าผมสารพัด

 

 “ไม่ใช่อย่างนั้น ช่วงนี้พี่กับมินพึ่งเริ่มต้น อยากจะพิสูจน์หลายๆ อย่าง แล้วให้มินเชื่อใจพี่มากกว่านี้แล้วพี่จะบอกคุณย่ากับน้าดาวเอง”

 

“พี่ซองห้ามทำเพื่อนบราวเสียใจอีกนะ ไม่งั้นน้องบราวจะเอาหมูน้อยคืน” คำขู่ของน้องชายตัวน้อยไม่ได้ทำให้ผมกลัวเลยสักนิด เพราะผมไม่มีทางที่จะเดินซ้ำรอยเดิมที่เคยผิดพลาดมาแล้วหรอก

 

“เชื่อใจพี่ได้เลยครับน้องชาย แล้วนี่มินไปไหน”

 

“ไปซื้อของเข้าร้านกับน้องที่ร้านเดี๋ยวก็คงกลับ” ผมนั่งรอมินอยู่สักพัก ร่างเล็กก็ถือของพะรุงพะรังเข้ามาเต็มมือทั้งสองข้าง จนผมต้องรีบดินไปรับทันที ตัวเล็กแค่นี้หิ้วอะไรเยอะแยะก็ไม่รู้

 

“ขอบคุณครับ มานานแล้วเหรอ”

 

“สักพักแล้ว” ผมตอบยิ้มๆ ก่อนที่จะเดินตามน้องเข้าไปในครัว

 

“เย็นนี้ไปทานข้าวกับพี่นะ”

 

“ตามใจสิครับ” คำตอบสั้นๆ ได้ใจความที่สุด หลังจากนั้นน้องก็ง่วนอยู่กับการจัดของเข้าตู้ไม่หันมาสนใจผมเลย

 

ผมได้แต่ยืนมองตาละห้อยเพราะท่าทางที่ดูจะเปลี่ยนเป็นคนละคนของน้อง คราวนี้ผมคงต้องเป็นผู้ตามแล้วล่ะครับ ปล่อยให้น้องได้เป็นผู้นำน่ะดีแล้ว เพื่อความสงบสุขของครอบครัวในอนาคต

 

“มินมีอะไรให้พี่ช่วยไหมครับ”

 

“ไม่มี พี่ซองออกไปรอข้างนอกเถอะครับ เดี๋ยวมินจัดของเสร็จจะได้กลับกันเลย”

 

“พี่รออยู่ตรงนี้ไม่ได้เหรอครับ” เสียงผมจะอ่อยไปไหนเนี่ย เริ่มจะเข้าใจความรู้สึกของไอ้คิณเวลาที่น้องผมดุมันแล้วล่ะครับ

 

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปนั่งรอตรงเก้าอี้นู่นครับ อย่ามายืนเกะกะตรงนี้” ดูน้องพูดกับผมสิครับ ไม่แคร์ความรู้สึกกันเลย กรรมมันติดจรวดจริงๆ เลย จะมีเมียกับเขาทั้งทีก็ต้องยอมตกเป็นเบี้ยล่างให้โขกสับตามอำเภอใจแล้วครับงานนี้ ตามรอยไอ้คิณไปติดๆเลยกู

 
*********************


จบตอนแล้วอีเฮียซองเปลี่ยนไป จะเข้าสมาคมเกลียมัวตามคุณคิณไปติดๆ งานนี้ไม่ว่าน้องมินจะสั่งอะไรก็ต้องยอมทำตามล่ะ  :a5:   :z6:


               TBC.

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 :-[ :-[ :-[  เจ้าเล่ห์ๆๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เป็นแฟนระยะทดลอง อิอิ
น้องมินแกล้งอีกๆ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
หมูน้อยกลายเป็นหมูโหดไปซะแล้ว :katai2-1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สมน้ำหน้าอีซอง

ออฟไลน์ haemin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
รักเมีย กลัวเมีย เกรงเมีย มีแต่จะเจริญค่ะ พี่ซอง

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ทำเป็นหงอนะพี่ซอง!!

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พี่ซองนี่รีบเข้าสมาคมเร็วมากกกก 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
เผลอรักไปแล้วนี่นา  :ling2:

ออฟไลน์ nuja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
 หมูน้อยอย่าพึ่งใจอ่อนนะเอาให้พี่ซองสำนึกนั้นนานเลย

 o13 :hao3: :katai2-1: o13

ออฟไลน์ มะลิลา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ยังไม่ทันไรก็เข้าชมรมแล้วนะพี่ซอง :laugh:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ระยะเวลาพิสูจน์ ..

ออฟไลน์ sunipum

  • ชีวิตต้องต่อสู้ ให้โลกรู้เราแน่แค่ไหน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
พี่ซองแบบนี้ก็น่ารักดี มินอย่าเพิ่งอ่อนให้อิพี่ซองน้าา  ขอบคุณนะค่ะ ^^

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
เคารพเมียแล้วจะเจริญนะจ๊ะ พี่ซอง  :mew1:

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
แอบรัก ตอน19



 

(มิน)

ถ้าผมจะลองใจใครสักคนจะผิดมากไหมนะ ผมนั่งคิดทบทวนอยู่นานว่าจะทำแบบนี้ดีหรือเปล่า จนในที่สุดความคิดฝ่ายอธรรมในตัวผมก็เป็นฝ่ายชนะ ผมแค่ต้องการพิสูจน์ใครอีกคนที่ผมให้โอกาสเขาก่อนหน้านี้ เพราะถ้าให้ผมรอให้ทุกอย่างดำเนินไปเองตามธรรมชาติ คงอีกนานกว่าที่ผมจะกลับมามั่นใจในตัวผู้ชายคนนั้น ผมหวังว่ามันจะป็นสิ่งที่ดีและผมคงตัดสินใจไม่ผิด

 

“พี่ทิมคืนนี้ไปพิสูจน์อะไรกับมินหน่อย” หลังจากพี่ทิมกดรับสายผมก็พูดขึ้นทันทีไม่ให้พี่ทิมได้มีโอกาสเอ่ยถามเลยสักนิด

 

“คิดจะทำอะไรแผลงๆ รึเปล่าเนี่ย” เหมือนพี่ทิมจะรู้ทันความคิดผมดีจริงๆ เลยนะครับ

 

“ไม่แผลงเท่าไหร่หรอกน่า ช่วยน้องชายหน่อยไม่ได้รึไงครับ” ผมอ้อนปลายสายเพราะรู้ดีว่าพี่ทิมแสนใจดีต้องยอมผมแน่ๆ

 

“จะให้พี่ช่วยอะไรล่ะคราวนี้ หวังว่าพี่จะอยู่รอดปลอดภัยจนแผนมินสำเร็จนะครับ” พี่ทิมเอ่ยน้ำเสียงประชดประชัน

 

“ไม่ยากเลยครับ พี่ทิมไปผับกับมินแค่นั้นแหละ”

 

“แค่นั้นจริงๆ เหรอ อย่ามาโกหกพี่ เอาความจริง” ผมจึงเล่าแผนการทั้งหมดให้พี่ทิมฟัง เพราะถึงยังไงพี่ทิมก็ต้องรู้และต้องคอยช่วยผมอยู่ดี

 

“พี่ว่าเรียกรถพยาบาลรอรับพี่ที่หน้าผับดีกว่านะ”

 

“ฮ่าๆๆ พี่ทิมก็เกินไป ใครจะยอมให้พี่ชายสุดหล่อโดนทำร้ายเล่า”

 

“ให้มันจริงเถอะ พี่ล่ะกลัวใจคุณซองจริงๆ เลย” ผมได้ยินเสียงถอนหายใจของพี่ทิมดังออกมาตามสายโทรศัพท์ สงสารจัง อิอิ

 

“ถ้าอย่างนั้นเจอกันตอนเย็นนะครับ”

 

“ให้พี่ไปรับหรือยังไง”

 

“ไม่ต้องครับ มินจะไปกับพี่ซอง” ผมวางสายจากพี่ทิมไปแล้ว หลังจากที่วางแผนอยู่นาน คราวนี้แหละผมจะดูสิว่าพี่ซองมีความอดทนมากน้อยขนาดไหน

 

ก่อนที่ผมจะโทรหาพี่ทิมผมนัดกับพี่ซองไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ทางนั้นก็เหมือนไม่อยากจะให้ผมไปเหมือนกัน เพราะผมเป็นคนที่ไม่ค่อยเที่ยวแบบนี้เท่าไหร่ แล้วเครื่องดื่มแอลกอฮอลผมก็ไม่แตะ จึงทำให้อีกคนถึงกับสงสัยว่าทำไมอยู่ดีๆ ผมถึงอยากจะไป แต่ผมก็หาทางเลี่ยงไม่ตอบ จนในที่สุดพี่ซองก็ยอมตกลง ทุกอย่างเป็นไปตามแผน

 

เมื่อถึงเวลานัดพี่ซองก็มารับผมถึงในบ้าน วันนี้พี่ซองไม่ได้มาในมาดนักธุรกิจเหมือนอย่างเช่นทุกวัน เสื้อเชิ๊ตสีฟ้าอมเทาถูกพับแขนขึ้นอย่างลวกๆ ชายเสื้อสอดเข้าไปไว้ด้านในกางเกงยีนแบรนด์หรู ตามด้วยเข็มขัดยี่ห้อดังราคาหลายหมื่นที่ใครเห็นคงต้องเหลียวหลัง ต่างจากผมที่ใส่เพียงเสื้อยืดโปโลสีฟ้า กางเกงยีนส์ตัวเก่งที่ใส่จนซีด ตามด้วยรองเท้าผ้าใบเน่าๆ คู่โปรดที่ใส่ทนทานมาหลายปี ช่างเป็นความเหมาะสมที่ไม่เหมือนใครเลยว่าไหมครับ  ผมได้แต่คิดในใจกับความต่างของเราทั้งสองคน แต่ผมก็ไม่ได้แคร์ว่าใครจะมองยังไงนะครับ ถึงแม้ว่าคนกี่ร้อยกี่พันคนจะดูถูกหรือมองว่าผมไม่เหมาะสมกับเขาก็ตาม ขอแค่พี่ซองไม่เป็นหนึ่งคนในนั้นก็พอ และนี่คือบทพิสูจน์ข้อแรกสำหรับคนตรงหน้า

 

ทันทีที่พี่ซองเห็นผม เขามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม ส่งยิ้มแปลกประหลาดแบบที่ผมไม่เคยได้เห็น ก่อนที่จะเอ่ยวาจาที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้ยินจากปากคนตัวโตเลยสักครั้ง

 

“มินแต่งตัวน่ารักจัง”

 

 

“ห๋า...กินอะไรผิดสำแดงมารึเปล่าครับ ผมก็แต่งแบบนี้ทุกวัน”

 
 

"ไม่รู้สิ แต่พี่ว่าวันนี้มินน่ารักมากเลย" เออคนเรานี่แปลกขึ้นทุกวัน อย่างนี้รึเปล่าที่เขาเรียกว่าความรักมักทำให้คนตาบอดและพี่ซองก็คงไม่ใช่ข้อยกเว้นสำหรับกฎข้อนี้

 

 

"ไปกันดีกว่าครับ มินไม่อยากฟังพี่เพ้อเจ้อ" ผมเดินนำออกไปหน้าบ้านเพราะกลัวว่าพี่ซองจะเห็นแก้มที่เริ่มเห่อแดงของตัวเอง ไอ้พี่บ้านี่ตั้งแต่ที่ยอมรับความรู้สึกตัวเอง นี่ชักจะพูดจาหวานเลี่ยนแปลกๆ

 

วันนี้เราไปที่ผับของเพื่อนคุณคิณซึ่งผมไม่รู้จักเขาหรอก บอกว่าชื่อชาร์ลอะไรประมาณนี้แหละมั้ง เห็นพี่ซองบอกว่าคุณชาร์ลน่ะรวยมาก เป็นพ่อม่ายลูกติดแถมหน้าตาดีอีกต่างหาก  ชักอยากจะเห็นแล้วสิ แต่ผมไม่ได้คิดอะไรหรอกนะแค่อยากเจอเท่านั้นเอง ที่พี่ซองพามาร้านนี้เพราะบอกว่าน่าจะปลอดภัยที่สุด เพราะเป็นร้านของคนรู้จักและค่อนข้างมีระดับ เราสองคนเดินเข้าไปในโซนวีไอพีเพราะพี่ซองโทรจองไว้เรียบร้อยแล้ว เห็นบอกว่าคุณคิณกับพี่พายก็จะมาด้วยไม่รู้ไปโทรนัดกันตั้งแต่ตอนไหน ผมไม่ได้บอกให้พี่ซองรู้ว่ายังมีอีกคนที่ผมนัดเอาไว้ เขาสั่งเครื่องดื่มให้ผมน่าจะเป็นน้ำพั้นซ์มั้งไม่แน่ใจ แต่ไม่มีแอลกอฮอลซึ่งนั่นมันผิดวัตถุประสงค์ของผมโดยสิ้นเชิง เพราะวันนี้ผมจะอ่อย ฟังไม่ผิดหรอกผมจะอ่อยพี่ซองให้หึงให้หวงผม และตัวช่วยของผมคือพี่ทิม พี่ชายนอกใส้ที่แสนดี นั่งได้ไม่นานเสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กผมก็แผดเสียงดังลั่น ทำให้คนที่นั่งดื่มอยู่ข้างๆ หันมามองทันที

 

"ครับพี่ทิม" ผมตะโกนรับโทรศัพท์เสียงดังให้คนที่นั่งข้างๆ ได้ยินอย่างจงใจ

 

"พี่อยู่ข้างนอกมินมารับหน่อยสิ"

 

"ทำไมล่ะครับ"

 

"มาเถอะน่าพี่ยังไม่อยากตายตั้งแต่เดินเข้าไป" ที่แท้ก็กลัวพี่ซองนี่เอง ผมทำปากขมุบขมิบบอกพี่ซองว่าขอออกไปรับพี่ทิมข้างนอก เขาทำท่าเหมือนจะห้ามแต่กลับลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนั่งลงตามเดิม ผมรีบเดินไปรับพี่ทิมทันที

 

"พี่ทิมทางนี้ครับ" ผมมองหาพี่ทิมไม่นานก็เจอเพราะความหล่อน่ารักของพี่ทิมมันสะดุดตาจนไม่ต้องเสียเวลาหานาน ผิวขาวๆ กับมุมปากที่เหมือนยิ้มตลอดเวลาทำให้ใครๆ เห็นแล้วอดที่จะมองนานๆ ไม่ได้ มันช่างดึงดูดใจทั้งชายและหญิงจริงๆ เลย

 

"ว่าไงเจ้าเด็กจอมวางแผน" คำแรกที่ทักหลังจากเจอกันนี่ช่างไพเราะเสนาะหูดีเหลือเกิน แต่ผมก็ได้แต่ส่งยิ้มให้กับคำชมของผู้มาใหม่

 

"ไม่เจอตั้งหลายวันหล่อขึ้นรึเปล่าเนี่ย"

 

"ไม่ต้องมาแสร้งปากหวานเวลาหลอกใช้งานพี่เลยนะ แล้วเรียกรถพยาบาลมาให้พี่ยัง"  คำพูดทีเล่นทีจริงของพี่ทิมทำให้ผมถึงกับหลุดขำออกมาเสียงดัง ส่วนอีกคนก็ยกมือขึ้นมายีหัวผมเล่นจนยุ่งเหยิงไปหมด

 

"กลัวขนาดนั้นเลยเหรอครับ ไม่ถึงกับตายหรอกน่า รับรองว่าได้กลับไปหาน้องเก้าสุดที่รักแน่นอน" แต่อาจไม่ครบสามสิบสองนะ อันนี้ผมแค่คิด

 

"คุณซองเหมือนชาวบ้านเขาซะที่ไหนล่ะ พี่กลัวจะโดนฆ่าหมกอยู่ที่ผับนี่จริงๆ เลย"

 

"เข้าไปข้างในดีกว่าพี่ซองรอนานแล้ว" เราทั้งสองคนเดินตรงเข้าไปโซนวีไอพีที่ถูกจองไว้ตั้งแต่ตอนแรก คุณคิณแล้วก็พี่พายยังไม่มาเลย ผมจึงชวนให้พี่ทิมนั่งข้างๆ ผมอีกฝั่ง ตอนนี้กลายเป็นว่าผมนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสองคน ผมไม่ได้ร้ายนะครับ พี่ซองอยากร้ายกับผมก่อนเอง

 

"สวัสดีครับคุณซอง"  รอยยิ้มที่เหมือนจริงใจถูกส่งให้อีกคนที่ทำท่าเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก  แต่ผมรู้ดีรอยยิ้มซื่อๆ ของพี่ทิมแฝงด้วยความร้ายกาจอยู่ด้วย

 

"สวัสดี" ผมสะกิดให้พี่ซองตอบรับทำทักทายของพี่ทิม ก่อนที่อีกคนจะยอมทำตามแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม ผมได้แต่แอบหัวเราะอยู่ในใจกับท่าทางเหมือนขัดใจของพี่ซองแต่กลับทำอะไรไม่ได้สักอย่าง

 

"เป็นอะไรครับ" ผมแสร้งทำเป็นถามพี่ซองทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าคนข้างๆ เป็นแบบนี้เพราะอะไร ส่วนพี่ทิมที่ตอนแรกทำเหมือนกลัวพี่ซองจะฆ่า ตอนนี้กลับยั่วโมโหเขาซะงั้น

 

"ทำไมมินถึงพามันมาด้วยล่ะ" พี่ซองเอ่ยถามผมเสียงไม่ดังมากนักพอให้ได้ยินกันสองคน แต่คนที่แอบฟังตลอดนี่กลับหูดีได้ยินมันชัดเจน

 

"ก็ผมเป็นคนสำคัญของน้องมินนี่ครับ ไม่อย่างนั้นน้องมินคงไม่โทรไปชวนด้วยตัวเองหรอก"  ผมหันไปมองพี่ทิมอึ้งๆ คำพูดนี่เจ็บแสบแทงใจคนฟังยิ่งนัก

 

"ผมไม่ได้ถามคุณ มินตอบพี่ได้ไหมว่าทำไม" พี่ซองเอ่ยกับพี่ทิมเสียงแข็ง ก่อนที่จะหันมาถามผมด้วยแววตาน่าสงสาร อันที่จริงผมก็เริ่มรู้สึกสงสารอยู่หรอกนะ แต่จะให้ทำไงได้ล่ะผมคิดดีแล้วนี่นา

 

"มินเคยบอกพี่ซองว่ายังไงครับ มินให้โอกาสพี่ซองแต่ไม่ได้หมายความว่ามินจะไม่มีสิทธิ์เปิดโอกาสให้คนอื่นด้วย ถ้าพี่ซองไม่พร้อมที่จะอยู่ข้างๆ มินแบบนี้ก็ไปเถอะครับ" ผมพูดเหมือนไม่ใส่ใจความรู้สึกของคนตรงข้าม แต่มันไม่ใช่เลย ผมสงสารจนอยากจะยกเลิกแผนการด้วยซ้ำ เพราะท่าทางที่นั่งหงอยๆ ของคนข้างๆกับสายตาตัดพ้อที่ส่งมาให้ผม แต่คราวนี้เป็นพี่ทิมเองที่สนุกกับแผนการในครั้งนี้

 

"คุณควรจะแฟร์กับความรู้สึกของทุกคนนะครับ ในเมื่อน้องมินให้โอกาสคุณได้ ทำไมจะให้โอกาสผมไม่ได้ล่ะจริงไหมครับ ผมยังให้โอกาสทั้งคุณแล้วก็น้องมินได้มีทางเลือกเลย" ผมหันไปมองพี่ทิมที่ลอยหน้าลอยตาต่อว่าพี่ซอง พี่ทิมคนก่อนหน้านี้หายไปไหนแล้ว บอกว่ากลัวนักกลัวหนาแต่ท่าทางตอนนี้นี่ไม่ใช่เลย น่าหมั่นใส้จริงๆ ถ้าผมเป็นพี่ซอง อาจจะลุกขึ้นมาต่อยไอ้คนยั่วประสาทไปสักทีสองที

 

สายตาวูบไหวของพี่ซองที่มองมายังผมเหมือนกับจะต่อว่าทางสายตา แต่เขากลับไม่พูดอะไรเหมือนจะยอมรับในการตัดสินใจครั้งนี้ของผม พี่ซองยกเหล้าขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมดแก้ว ผมจะรั้งไว้แต่ก็ไม่ทัน เขานั่งดื่มไม่พูดไม่จาสีหน้าดูเครียดขรึมขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

 

"พี่ซองอย่าดื่มเยอะ ถ้าเมาไม่รู้เรื่องมินจะกลับกับพี่ทิมนะครับ" คำพูดของผมทำให้พี่ซองชะงักในทันที มือที่กำลังจะยกแก้วเหล้าเข้าปากอีกรอบวางลงในทันที แต่คราวนี้กลับเอาแต่เงียบจนผมใจไม่ดี คนตัวโตนั่งมองผมอยู่อย่างนั้น ไม่พูดไม่จาสักคำ

 

พี่ทิมที่ตอนแรกตั้งหน้าตั้งตาแกล้งพี่ซองก็ดูเหมือนจะเงียบลงเหมือนกัน คงรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนไปของพี่ซอง จึงนั่งดื่มเงียบๆ ไปอีกคน ทิ้งให้ผมคว้างอยู่คนไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี

 

"พี่ซองขอมินดื่มมั่งสิครับ" ผมหันไปทำสายตาอ้อนหวังว่าพี่ซองจะเลิกทำหน้าเครียดลงบ้างสักนิดก็ยังดี

 

"เคยดื่มเหรอครับ" พี่ซองก้มลงมาพูดใกล้ๆ หูของผม

 

"ไม่เคย แต่อยากลองดื่มบ้าง อยากจะรู้ว่ามันอร่อยรึไงทำไมพี่ซองดื่มเอาๆ" ผมเกาะแขนอีกคนทำสายตาอ้อนหนักกว่าเดิม  กระพริบตาปริบๆ สองสามที ไม่รู้หรอกว่าการที่ตัวเองทำท่าทางแบบนี้มันน่าเกลียดมากขนาดไหน แต่ก็ไม่อยากให้พี่ซองเครียดเลยยอมทำท่าบ้าบอแบบนี้  ถ้าเป็นพี่พายหรือบราวนี่ทำคงน่ารักดีอยู่หรอก แต่นึกสภาพตัวเองทำคงน่าเกลียดพิลึก

 

"ทำไมต้องทำท่าแบบนี้ อย่าไปทำกับคนอื่นนะครับนอกจากพี่"

 

"มันน่าเกลียดมากเลยเหรอ"

 

"เปล่า..."

 

"แล้วทำไมล่ะ" ถ้าไม่น่าเกลียดแล้วมันเป็นยังไงล่ะ ทำไมไม่บอก

 

"ไม่มีอะไรหรอกครับ แต่ห้ามไปทำกับคนอื่น แม้แต่ไอ้ทิมก็ห้าม ทำได้กับพี่คนเดียว จะดื่มใช่ไหม" หลังจากที่ห้ามนู่นห้ามนี่เสียเยอะแยะ ก็กลับเปลี่ยนเรื่องซะงั้น

 

"อือๆ อยากลอง"

 

"หึๆ ชงไม่เข้มนะ ห้ามดื่มเยอะ" พี่ซองชงเหล้าให้ผม ผสมโซดาน้ำ ผมไม่รู้หรอกว่ามันต่างจากผสมอย่างอื่นยังไง แต่ก็อยากลอง ถ้าผมเมาเดี๋ยวพี่ซองก็พากลับเองแหละ

 

"คร้าบบคุณพ่อ" ผมยิ้มให้พี่ซองจนตาหยีทำให้อีกคนยิ้มตอบผมบ้างแม้ว่าจะแค่นิดเดียวก็ตาม

 

"ลืมพี่ไปซะแล้ว น่าน้อยใจจริงๆ เลย" เสียงพี่ทิมดังมาจากข้างๆ ทำใหผมต้องหันกลับไปมอง ลืมไปเลยว่าพี่ทิมก็อยู่ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะแกล้งพี่ซองซะหน่อย แต่กลับใจอ่อนง่ายๆ จนได้เรา

 

"อ่า..พี่ทิมมินขอโทษ" คราวนี้ผมหันไปสนใจพี่ทิมทันที ทั้งๆ ที่ผมเป็นคนชวนเขามาเองแท้ๆ แต่กลับปล่อยให้เขานั่งอยู่คนเดียวเหมือนเป็นส่วนเกิน จังหวะเดียวกันกับที่โทรศัพท์ของพี่ซองดังขึ้น เขาจึงลุกขึ้นเดินออกไปรับด้านนอกเพราะเสียงเพลงด้านในมันดังเกินไป

 

"ลืมพี่เลยนะครับเจ้าเด็กเจ้าเล่ห์"

 

"มินสงสารพี่ซองนี่นา"

 

"สรุปว่าแผนล่ม"

 

"คงงั้นแหละครับ" ผมได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ ให้พี่ทิมที่ตอนนี้เอาแต่ส่ายหัวกับการกระทำของผม วางแผนมาซะดิบดีสุดท้ายแพ้ท่าทางน่าสงสารของพี่ซองซะงั้น

 

"แฟนเรากลับมาแล้วนู่น ขอเล่นสนุกๆ ทิ้งทวนหน่อย" พี่ทิมดึงผมเข้าไปกอด ทั้งๆ ที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว จนผมเซไปนั่งบนตักของอีกคนทันที แต่ผมไม่ได้ขัดขืนเพราะเห็นท่าทางของพี่ทิมที่คงจะสนุกเต็มที ส่วนพี่ซองพอเดินกลับมาถึง ก็เอาแต่มองผมที่ตอนนี้นั่งซบอกพี่ทิมอยู่ เล่นกับเขาหน่อยแล้วกันถือเป็นการทิ้งทวนโดยสมบูรณ์แบบ

 

"มินครับนี่เหล้าที่ให้พี่ชงให้" พี่ซองยื่นแก้วเหล้าให้ผม ก่อนที่จะบอกผมว่าคุณคิณกับพี่พายมาไม่ได้แล้วเพราะเดม่อนไม่สบายต้องพาไปหาหมอ

 

"ขอบคุณครับ" ผมยกขึ้นจิบเบาๆ เพราะแค่กลิ่นที่ลอยเข้าจมูกก็ทำเอาผมต้องเบ้หน้าเพราะความเหม็น ผมกลั้นลมหายใจก่อนจะยกขึ้นกระดกรวดเดียวหมดแก้ว ทั้งพี่ซองและพี่ทิมร้องห้ามแต่ก็ไม่ทัน

 

"อื๋อ...ขมๆๆ" ผมหน้าเบ้ทันทีที่กลืนลงคอ รสชาติแปลกๆ บาดลึกเข้าไปในลำคอจนร้อนผ่าวไปทั่วทั้งหน้า

 

"ใครให้ดื่มทีเดียวหมดล่ะ" พี่ซองว่าผมเบาๆ ทั้งๆ ที่เขาดูจะเศร้าลงไปอีกครั้ง เพราะผมยังไม่ยอมลุกจากตักพี่ทิม ส่วนคนที่ถูกผมนั่งตักก็ดูเหมือนจะชอบอกชอบใจหัวเราะใหญ่เลย

 

"ไม่รู้อ่ะ ไม่เห็นอร่อยตรงไหนเลย  งั้นมินขอลองอีกแก้ว" ผมยื่นแก้วให้พี่ซองก่อนที่อีกคนจะชงให้ผม เอาแบบอ่อนที่สุด คราวนี้ผมยกขึ้นดื่ม ไม่ขมมากเหมือนครั้งแรกแต่ก็ไม่อร่อยนั่งจิบไปเรื่อยๆ จนหมดแก้ว หัวผมเริ่มมึนๆ หนักๆ ยังไงไม่รู้

 

"เอาอีกๆ มินนนยางม่ายยรู้รสชาติเลย" ผมยื่นแก้วส่งให้พี่ซอง แต่คราวนี้คนตัวโตห้ามผมเด็ดขาดว่าไม่ให้ดื่มอีกแล้ว ผมผละจากตักของพี่ทิมตรงเข้าไปหาอีกคนทันที ก่อนที่จะนั่งแหมะลงตักแกร่งของคนหน้านิ่ง มือสองข้างของผมโอบคอพี่ซองทันที

 

"พี่ซองงงคนดีของน้องงงมีน มีนนขอดื่มอีกน้าาาาคร้าบบ...อึก" ผมพูดอ้อนอีกคนโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่จะซบหน้ากับอกแกร่งทันที

 

"พอแล้วครับ มินเมาแล้ว" เสียงพี่ซองนี่น่ารำคาญหูจังเลยตอนนี้ ทำไมต้องห้ามผมด้วย

 

"ม่ายยยเมาๆ อย่ามาว่ามีนน้า" มือน้อยๆ ผมทุบอกแกร่งหลายทีเพราะขัดใจที่พี่ซองไม่ยอมทำตาม

 

"ครับๆ แก้วสุดท้ายแล้วพี่จะพากลับเลยนะ"

 

"พี่ซองน่าร้ากกที่สุดเลย มาจุ๊บๆ ที" ไม่พูดเปล่าผมรั้งใบหน้าพี่ซองลงมาหาก่อนที่จะฉกจูบไปที่ริมฝีปากรูปกระจับของคนตัวโตทันที ผมไม่ได้เมาจนไม่มีสติ ผมรู้ว่าตัวเองทำอะไร แต่ไม่สามารถห้ามจิตใจกับร่างกายที่เรียกร้องหาพี่ซองตลอดเวลา
*****************


       
          :-[ ต่อด้านล่าง  :impress2:

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0

ต่อ

 

(ซอง)

ตอนนี้มินเริ่มจะเมาจนพูดไม่ค่อยจะรู้เรื่อง แล้วยังโวยวายจะดื่มอีกแก้ว จนผมต้องยื่นคำขาดว่าให้ดื่มแก้วสุดท้ายแล้วจะพากลับ คนตัวเล็กที่ตอนนี้นั่งบนตักผมทั้งกอดทั้งหอมจนผมตั้งตัวแทบไม่ทัน เวลาเมาแล้วเปลี่ยนเป็นคนละคน อย่าหวังว่าจะมีครั้งหน้าเลยถ้าเมาแล้วเป็นแบบนี้

 

“พี่ซองง อิอิ..น่าร้ากก”  มินเริ่มจะไม่ใช่มินคนเดิม  มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุข มือข้างหนึ่งถือแก้าเหล้าเอาไว้ส่วนอีกข้างก็ลูบคลำไปตามใบหน้า ตา จมูกของผมไปทั่ว ปัดป่ายสะเปะสะปะ จนผมต้องยกมือขึ้นมาโอบคนตัวเล็กไว้เพราะกลัวตก

 

“กลับกันดีกว่านะ เมาแล้วเนี่ย”

 

“ม่ายยเมาแค่มึนนนหัวว”  ปากก็พูดมืออีกข้างก็ยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมด

 

“ผมจะพามินกลับ คุณจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายด้วย” ผมหันไปพูดกับไอ้ทิมที่นั่งมองการกระทำของมินด้วยท่าทีสบายๆ ไม่เห็นมันจะหึงอะไรเลย  มันรักมินจริงๆ รึเปล่าเนี่ย ถ้าเป็นผมเห็นคนที่รักคลอเคลียร์กับคนอื่นคงถึงขั้นลงแดง ผมพามินลุกออกมาทันทีหลังจากที่บอกไอ้ทิมเหมือนเป็นคำสั่งที่มันต้องทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

“อะไรเล่าคุณซอง ดื่มก็ดื่มด้วยกัน” เสียงมันโวยวายตามหลัง แต่ผมไม่สนใจหรอก อยากจะพามินกลับไปบ้านให้เร็วที่สุดดูท่าแล้วไม่น่าจะไหว

 

“เดินดีๆ ครับ” ผมพยุงคนที่ดูเหมือนจะแข้งขาพันกัน เดินแทบจะไม่ไหวแต่กลับพูดอะไรไปเรื่อยไม่หยุด จนผมยังอดขำไม่ได้ ทั้งน่ารักทั้งวุ่นวายเลยงานนี้

 

“พี่ซองงของมีนนคนเดียว”

 

“ครับๆ พี่ซองของมิน” ใจผมแทบจะระเบิดออกมาเต้นอยู่ด้านนอกเมื่อได้ยินคำพูดคนเมาที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่

 

“ขอมินจูบพี่ซองหน่อย มีนนอยากจูบ” ผมคาดเข็มขัดนิรภัยให้คนเมาทันทีที่ขึ้นมานั่งบนรถ ผมโน้มตัวไปดึงสายเข็มขัดนิรภัยเป็นจังหวะเดียวกันกับที่น้องดึงผมเข้าไปหา คนเมานี่ทำไมแรงเยอะขึ้นก็ไม่รู้ มือบางทั้งสองข้างรั้งใบหน้าผม ก่อนที่เรียวปากอิ่มจะประกบจูบผมทันที เลือดในกายผมไหลไปทั่วสรรพางค์กาย จูบตอบมินอย่างลืมตัว ความร้อนรุ่มเกิดขึ้นจนแก่นกายผมปวดหนึบ ความหอมหวานทำให้ผมขาดสติรับรู้ถึงความผิดชอบชั่วดี ตอบสนองจูบของน้องอย่างดูดดื่ม ลิ้นร้อนกอดกระหวัดลิ้นเล็กอย่างโหยหา

 

“อืออ..หายใจม่ายทัน” มินผลักผมออกก่อนที่จะพูดเสียงเหนื่อยหอบ

 

“พี่ขอโทษครับ กลับกันเถอะนะ” ผมหันไปบอกร่างเล็กทั้งๆ ที่ยังเสียดายรสจูบที่พึ่งได้ลิ้มลอง มันชั่งยั่วยวนหอมหวานมากกว่าทุกครั้งที่เคยผ่านมา ก่อนที่จะก้มลงมองริมฝีปากอิ่มที่ตอนนี้เริ่มจะบวมเจ่อขึ้นมาบ้างแล้ว

 

“ขอโทษทำไม หวานนดีมีนชอบ จูบอีกๆ” คนเมาส่งสายตาหวานฉ่ำน้ำมาให้ผม สายตาอ้อนวอนเรียกร้องหาจูบรสหวานปนขมของเหล้าที่ยังคงอบอวลอยู่ในปากของเราทั้งสองคน

 

 “ไม่ครับ นั่งดีๆ กลับบ้านกันนะ” ผมไม่หันไปสนใจคนเมาที่กำลังนั่งจ้องหน้าผมตลอดเวลา เหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่างแต่ผมก็ทำเหมือนไม่เห็นขับรถอย่างตั้งใจเพราะสติสัมปชัญญะของผมไม่ค่อยจะสมบรูณ์เท่าไหร่หวังจะให้ถึงบ้านเร็วที่สุด

 

“ลงนะครับถึงบ้านแล้ว” ประตูฝั่งตรงข้ามถูกเปิดออกพร้อมกับผมที่ปลดเข็มขัดนิรภัยให้ร่างเล็กที่ตอนนี้หลับไม่รู้เรื่อง จากที่ตอนแรกๆ นั่งจ้องผมราวกับจะกินเลือดกินเนื้อแต่เพราะความเมาจึงทำให้หลับไปในเวลาไม่นาน ผมอุ้มน้องเข้าบ้านอย่างทุลักทุเล เพราะอีกคนขยับยุกยิกไม่ยอมหยุด ไม่รู้ว่าเพราะไม่สบายตัวหรือเปล่า ผมยื่นมือฝั่งที่อยู่ตรงข้อพับขาของน้องหมุนลูกบิดเปิดประตูด้วยความระมัดระวัง ก่อนที่จะพาคนเมาตรงไปยังเตียงนอนหลังเล็ก วางน้องลงอย่างเบามือที่สุดเพราะกลัวว่าคนเมาจะตื่นมาอาละวาดกลางดึก

 

“เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้นะครับ” ผมลุกขึ้นเต็มความสูงหันมามองคนเมาที่หลับตาพริ้มอีกทีก่อนที่จะตัดใจเดินออกไปจากตรงนั้น ขายังไม่ทันที่จะก้าวไปไหนด้วยซ้ำกลับมีแรงกระชากข้อมือผมจนเต็มแรง เพราะไม่ได้ระวังตัวจึงล้มทับร่างเล็กทันที ดีที่ผมเอาศอกค้ำไว้ได้ทันไม่อยางนั้นคงได้เจ็บหนักแน่ๆ เพราะตัวผมกับมินมันคนละไซส์

 

“พี่ซองมินอยาก..” คนที่มีทีท่าเหมือนคนเมาในคราแรก ตอนนี้กลับตื่นมามองผมตาใสพร้อมๆ กับพูดจาอะไรแปลกๆ

 

“อยากอะไร? หิวข้าวเหรอครับ” ผมยันตัวลุกขึ้นนั่งดีๆ มองหน้าคนที่อยู่ใต้ร่างอย่างหาคำตอบ

 

“มินอยากกินพี่ซอง”

 

“มินรู้ตัวรึเปล่าพูดอะไรออกมา สงสัยยังไม่สร่างแน่เลย เดี๋ยวพี่หาผ้ามาเช็ดตัวให้นะครับ” ท่าทีกุลีกุจอของผม ทำเพื่อกลบเกลื่อนหัวใจที่เผลอเต้นโครมครามเพราะคำพูดห่ามๆ ของมิน

 

“มินพูดจริง อีกอย่างมินก็ไม่ได้เมาซะหน่อย” เสียงเล็กๆ แก้ตัวทันทีหน้ามุ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ส่งมาให้ผมทันที

 

“คนเมาไม่รู้หรอกครับว่าตัวเองเมา ตอนนี้น้องมินสติไม่เต็มร้อยพี่ว่าอย่าพึ่งพูดเรื่องนี้เลยดีกว่า”ผมกลัวว่าตัวเองจะทนไม่ไหวจึงได้แต่หาทางเลี่ยงน้องที่จ้องมองผมอย่างรอคอยคำตอบ

 

“ถ้าพี่ซองไม่ทำ มินทำพี่ซองเองก็ได้” ร่างเล็กมีท่าทีฮึดฮัดไม่พอใจ ก่อนที่จะดึงผมให้ลงมาทับตัวเขาอีกรอบ เขาผงกหัวขึ้นมาก่อนที่จะส่งริมฝีปากเล็กเข้าซุกไซส์ซอกคอผมดูดกลืนไล้เลียลิ้นเล็กอยู่อย่างนั้น

 

“มินพอแล้วครับ อย่าทำแบบนี้”  ผมพูดกับมินทั้งๆ ที่น้องยังแทะเล็มตามซอกคอผม ก่อนที่จะไล้มือบางผ่านเนื้อผ้าราคาแพงมาหยุดอยู่ที่ตุ่มไตเม็ดเล็กสีน้ำตาลของผม ไล้วนจนผมเริ่มหายใจติดขัดเพราะความต้องการเริ่มจะกลับมาพุ่งพล่านอีกครั้ง

 

“พะ..พอครับมิน มันไม่ดี อ่า” ผมเริ่มเสียวไปทั่วช่องท้องจนเผลอครางออกมาอย่างลืมตัว

 

 

มือหนาผลักร่างเล็กออกทั้งที่ยังโหยหา แต่เพราะผมไม่อยากทำผิดไปมากกว่านี้ ถ้าการที่เราสองคนต้องมีความสัมพันธ์ทางกาย มินต้องรับรู้และพร้อมใจที่จะให้มันเกิดขึ้น ไม่ใช่แค่สติเลือนลางรับรู้บ้างไม่รู้บ้างแบบนี้

 

"มินจะรักพี่ซอง อย่ามาทำแบบนี้นะ ฮึก"  อ้าว ร้องให้ซะแล้วยังไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมอยู่ดีๆ ก็ร้องให้อารมณ์แปรปรวนจนผมยังงงว่าตกลงนี่เขาเมาเหล้าหรือว่าเมาอะไร

 

"พี่เช็ดตัวให้มินก่อน รอหายเมาก่อนเราค่อยคุยเรื่องนี้อีกทีนะครับ" ทางที่ดีที่สุดต้องหาผ้ามาเช็ดตัวคนเมาให้มีสติจะได้คุยกันง่ายขึ้น

 

"พี่ซองไม่รักมินใช่ไหม ถึงไม่ยอมมีอะไรกับมิน" น้องตัดพ้อผมทั้งน้ำตา

 

"เพราะรักมากต่างหากถึงอยากให้ครั้งแรกของเราดีที่สุด"

 

"ตอนนี้ไงดี่ที่สุดแล้วนะครับ" ทำไมเมาแล้วดื้อแถมยั่วเก่งอีกต่างหาก  มือบางคว้าหมับเข้าตรงกลางกายของผมที่ตื่นตัวตั้งแต่มินเริ่มรุกครั้งแรกแล้ว 

 

"อย่าจับครับมิน อ่า อย่าลูบพะ..พี่เสียว" ผมถึงกับครางออกมาด้วยความเสียวที่มือน้อยบังอาจซุกซนกับวัตถุอันตรายชิ้นนี้

 

มินกระโดดขึ้นมานั่งคร่อมบนตักผมเราสองคนหันหน้าเข้าหากัน บั้นท้ายกลมกลึงถูไถกับความเป็นชายที่ชี้โด่ของผมจนปวดหนึบ เด็กซนเริ่มยกมือบังคับท้ายทอยผมให้เงยหน้าขึ้นมารับสัมผัสของตนเองอย่างที่ต้องการ  ทั้งท่าทีเงอะงะกับการที่เก็บซ่อนความเขินอายไว้ทำให้ผมอยากจะจับเด็กขี้อ่อยกดตอนนี้ซะเลยด้วยซ้ำ

 

จูบเน้นหนักร้อนแรงไปทุกอณู ยิ่งสัมผัสก็เหมือนกับร่างกายเรียกร้องมากขึ้น ส่วนคนที่ตกเป็นทาสกามารมณ์ในตอนนี้กลับจูบผมแบบลืมตาย แม้ผมอยากจะอดทนให้ถึงที่สุด แต่เพราะเลือดในกายพุ่งพล่านจนยากที่จะหักห้ามผมจึงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามอารมณ์ ใครจะทนไหวในเมื่อคนที่เรารักยั่วยวนออกปานนี้

 

ผมรั้งร่างเล็กให้นอนลงบนเตียงอีกครั้งก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายจัดการกับเด็กขี้ยั่วด้วยตนเอง

 

"พี่จะเอาจริงแล้วนะ ยั่วพี่ดีนัก ห้ามร้องเพราะถึงร้องพี่ก็ไม่หยุด"

 

"อือ...ไม่ได้ยั่ว มินเอาจริง" น้องเถียงผมหน้าเชิด มองเหวี่ยงผมอย่างหัวเสีย

 

"ต่อไปจะเริ่มของจริงแล้วนะครับที่รักของพี่" ผมเริ่มกดจูบริมฝีปากอิ่มสีสดอีกครั้ง ความหอมหวานยังไม่จางกระตุ้นความปารถนาของผมให้มีมากขึ้นเป็นเท่าตัว เสียงมินครางอู้อี้เพราะความทรมานจนมือผมขยับมาจับมินนี่น้อยให้ผ่อนคลายจากความปวดทรมาน ผมลูบไล้แก่นกายเล็กสมตัวผ่านกางเกงยีนส์ตัวหนาก่อนที่จะรู้สึกรำคาญ ลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าของตนเองจนหมด น้องตาลุกวาวมองจุดยุทธศาสตร์ของผมตาไม่กระพริบ

 

"เด็กทะลึ่ง"

 

"ใหญ่จัง"

 

ผมทั้งมีอารมณ์ทั้งขำกับท่าทางเหมือนไม่เคยเห็นเจ้ามังกรยักเวลามันอยากพ่นนำ้สีขาวขุ่นออกมาใส่ร่องรักสีสวยที่ยังไม่ผ่านมือใคร

 

"กลัวเหรอครับ" ผมถามทั้งๆ ทีี่มือยังสาละวนถอดเสื้อและกางเกงยีนส์ให้น้องจนเหลือแค่กางเกงในตัวจิ๋วสีขาวเป็นปราการด่านสุดท้าย

 

"ใครกลัว มินก็มีเหมือนกัน" เด็กน้อยยังปากดีไม่เลิกเดี๋ยวพ่อจะจัดหนักให้ร้องครางทั้งคืนเลยคอยดู

 

"เหมือนแต่ไม่เหมือน" ผมจับมินนี่น้อยจ่อที่ปากของผมก่อนจะเลียส่วนปลายแก่นกายเล็กที่เริ่มขยายสู้การรุกรานก่อนจะค่อยๆ ดูดกลืนอย่างกระหาย  เสียงครางของมินทำให้ผมทั้ดูดและเลียแก่นกายเล็กเร็วขึ้น เร่งจังหวะหนักเบาสลับกันจนมั่นใจว่าอีกคนกำลังจะถึงปลายทางจึงกระหนำ่รัวลิ้นทั้งเร็วและแรงเพื่อให้อีกคนสุขสม

 

"อ่า..มินจะไปแล้ว พี่ซองครับเร็วอีกๆ อ่าจะเสร็จแล้วๆ" น้ำสีขุ่นพุ่งใส่ปากผมก่อนที่ผมจะดูดกลืนกินจนหมดไม่ให้เหลือแม้แต่หยดเดียวเพราะความเสียดาย

 

"นี่แค่เริ่มต้นนะครับคนดี" ผมส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้คนที่นอนหอบเหนื่อยอยู่บนเตียง

 

"ไม่มีเจลเอาโลชั่นแทนแล้วกันนะครับเดี๋ยวมินเจ็บ"

 

"จะทำอะไรก็ทำเถอะน่าพูดมากอยู่ได้" เหวี่ยงผมอีกเดี๋ยวเจอดี

 

ผมบีบโลชั่นลงไปช่องที่ทางรักของน้องทันที ก่อนที่จะไล้วนรอบๆ เพื่อสร้างความผ่อนคลาย มืออีกข้างก็สร้างความสุขสมด้านหน้าให้กับคนที่ดิ้นพล่านราวกับหนูติดจั่น ก่อนที่จะสอดนิ้วแรกเข้าช่องทางรักอย่างง่ายดายขยับเข้าออกสองสามครั้งก่อนที่จะเพิ่มนิ้วที่สองเข้าไปช่องทางรักขมิบรัวใส่นิ้วผมจนอยากจะเอาแก่นกายตัวเองเข้าไปใส่แทนที่ ร่างเล็กสะดุ้งทันทีร้องครางไม่หยุด มืออีกข้างผมยังสาวแก่นกายเล็กขึ้นลงตาอารมณ์ใคร่ของเราสองคน นิ้วที่สามผมสอดใส่เข้าไปอีกครั้งจนมินร้องประท้วงเสียงดัง

 

"อ่า...มันแปลกๆ"

 

 

"เจ็บเหรอครับ"

 

"หึ...อ่า...อืม...แต่มันเสียวแปลกๆ อืมมม"

 

ขณะที่ถามน้องผมก็แทงเจ้ามังกรยักเข้าช่องทางรักที่กำลังขยายเพราะผมเปิดทางไว้แล้ว แต่เข้าได้แค่ส่วนหัว ร่างเล็กกับต่อต้านไม่ให้เข้าไปมากกว่านั้นจนผมก้มลงจูบตุ่มไตเม็ดเล็กสีสวยเพื่อระบายความเจ็บ

 

"หายใจเข้าลึกๆ คนดี ผ่อนคลายนะ" เหมือนน้องจะเริ่มทำตามที่ผมบอกผ่อนคลายลงบ้างจนผมค่อยๆ ขยับๆ เจ้ามังกรยักษ์เจ้าไปได้เกินครึ่งลำแล้ว

 

"อ่า...แน่นชิบหาย เสียวโคตร อืม" ผมกระแทกแก่นกายเข้าจนสุดลำ

 

"อึก..อ่า.มินเจ็บๆ" น้ำตาน้องไหลลงอาบสองแก้มทันที

 

"ขอโทษๆ พี่ไม่อยากให้มินทรมานนานๆ" ผมยกมือปาดน้ำตาให้น้องก่อนที่จะก้มลงจูบหน้าผากเกลี้ยงเกลาปลอบประโลมคนเสียน้ำตาให้คลายความเจ็บลงบ้าง

 

"เด็กหื่นคนก่อนหน้านี้หายไปไหนแล้วเนี่ย เหลือแต่เด็กขี้แยร้องให้น้ำตานองหน้าเลยทีนี้"

 

"ก็มันเจ็บนี่นา อึก.."

 

"ไหวไหมครับ ให้พี่ขยับได้รึยัง หรือจะให้หยุด" ผมก็ถามไปอย่างนั้นแหละเพราะถ้าน้องบอกให้หยุดจริงๆ ผมต้องตายแน่ๆ ตอนนี้ก็ทรมานแทบบ้าอยู่แล้ว

 

"หึ..ไม่เอาไม่หยุดนะ ห้ามหยุด" ผมเริ่มซอยสะโพกเบาๆ อีกครั้งก่อนที่จะเพิ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้เริ่มจะมั่นใจแล้วว่ามินน่าจะเริ่มรับมันได้แล้ว จึงขยับรัวสะโพกสอบเร็วขึ้นๆ

 

" อ่า..มินเสียว พี่ซอง"

 

"โคตรฟิตเลยคนดี อึก พี่ก็เสียว เอาโคตรมันเลย" ผมกระแทกสุดแรงจนร่างเล็กโยกคลอนตามจังหวะเข้าออกของเจ้ามังกรยักษ์

 

"ให้พี่..อ่า..เบาลงกว่านี้ไหมครับ อึก.." น้องไม่ตอบแต่กระแทกสวนขึ้นมาจนผมเสียวไปถึงปลายแก่นกาย ส่วนน้องก็ร้องครางลั่นฟังไม่เป็นภาษา

 

"อ่า..มินจะไปอีกแล้ว อ่ะๆ พี่ซองเร็วๆ อีก"

 

"รอพร้อมกันคนดี..อืม..." เสียงครางฮึมฮัมในลำคอของผมดังไม่หยุด พร้อมๆ กับการกระแทกรัวๆ และแรงขึ้นเพื่อให้ทั้งมินและผมถึงฝั่งฝันพร้อมกัน

 

"อ่า...จะเสร็จแล้วๆ"

 

"พี่ก็จะไปแล้ว อ่า..อึกกกก" ผมซอยสะโพกเข้าออกหนักๆ อีกสามสี่ทีน้ำสีขาวขุ่นทั้งของผมและของน้องพุ่งออกมาแทบจะพร้อมกัน ความสุขสมทางร่างกายหรือจะเท่าความสุขทางใจที่ตอนนี้ผมได้ครอบครองคนตัวเล็กของผมทั้งร่างกายและหัวใจถึงแม้ว่าจะไม่เต็มร้อยก็ตาม

 

ผมทิ้งตัวลงนอนเคียงข้างร่างเล็กที่นอนหอบหมดแรงอยู่บนเตียงนอน

 

"พี่มีความสุขจังคนดี พี่รักมินนะ"

 

"มินก็มีความสุข รัก..พี่เหมือนกัน" เราสองคนกอดก่ายกันอย่างมีความสุข ผมหอมหน้าผากมนหลายทีด้วยความรัก

 

"ขอบคุณที่ให้โอกาสพี่นะ"

 

"มินอยากอาบน้ำ เหนียวตัวจังเลย"

 

"ครับๆ เดี๋ยวพี่อาบให้" เราทั้งสองคนชำระล้างร่างกายอยู่นาน ร่างกายมินบอบช้ำอยู่มากเพราะความเอาแต่ใจของผม ผมใส่เพียงเสื้อเชิ๊ตตัวใหญ่ให้น้องก่อนจะอุ้มกลับมานอนบนเตียงอีกครั้ง งานนี้ผมบริการน้องทุกอย่างเองครับ ที่จริงอยากจะทำรักกับน้องหลายๆ ทีกว่านี้แต่อดสงสารไม่ได้ แค่นี้ก็ดีที่สุดแล้ว ผมมองคนที่หลับไหลสู่ห้วงนิทราทันทีที่หัวถึงหมอนก่อนที่จะล้มตัวลงนอนตามอีกคนไปทันที

*****************
จบตอนแล้ว nc มาได้ไง    :oo1:  :haun4:  :pighaun: น้องมินคนหื่น คนยั่ว คนอ่อย มาแล้วนะคะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :laugh:   นี่มันแผนเผด็จศึกของน้องมินนี่เอง
ต้อนรับผัวทาสคนใหม่
ครัวซองรสเหล้าสินะน้องมิน.  :katai2-1:  ปรบมือให้พี่ทิมขอให้สมหวังกับน้องเก้าไวๆค่ะ

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด